การบรรยายธรรมปีที่ 20

หลี่ หงจื้อ

13 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ที่นครนิวยอร์ก อเมริกา

                                                                                                                                                           

(ทั่วทั้งหอประชุมปรบมือต้อนรับเสียงดังกึกก้อง     อาจารย์โบกมือบอกให้ทุกคนนั่งลง)

สวัสดีทุกท่าน ( เหล่าศิษย์ กล่าว สวัสดีท่านอาจารย์)  ทุกท่านลำบากกันแล้ว (เหล่าศิษย์ กล่าวตอบ  ท่านอาจารย์ลำบากแล้ว   ปรบมือ)  ข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้ายืนพูดจะดีกว่า ทุกท่านจะได้เห็นชัดๆ ( เหล่าศิษย์ปรบมือ)  ไม่ได้พบหน้าทุกท่านมานานแล้ว  ทุกท่านก็อยากจะเห็นข้าพเจ้าให้ชัดเจน  เช่นนั้นข้าพเจ้ายืนขึ้นมาดีกว่า (เหล่าศิษย์หัวเราะ  ปรบมือ  อาจารย์พนมมือตอบรับ)

แต่ละปีมีนิวยอร์กฝ่าฮุ่ยครั้งหนึ่ง  ล้วนมีคนมามากมายเหลือเกิน  หอประชุมมีจำกัด  ดังนั้นจึงไม่อาจบรรจุคนมากมายอย่างนี้ได้  ข้าพเจ้าได้บอกพวกเขาแล้ว  ต่อไปหากเปิดประชุมอีก  พวกเราหาสนามกีฬาเถอะ (เหล่าศิษย์หัวเราะ   ปรบมือ)

พูดว่าลำบาก  ทุกท่านก็ลำบากจริงๆ  การเจิ้งฝ่าใช่ไหม  เรื่องที่ใหญ่อย่างนี้  เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน  ที่จริงในประวัติศาสตร์  เรื่องราวเหล่านั้นที่โดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมครั้งใดๆ และยังมีสภาพการณ์ที่แสดงออกมาของผู้บำเพ็ญ หรือผู้รู้แจ้งของยุคสมัยต่างๆ    ล้วนแต่ให้ศิษย์ต้าฝ่าใช้ศึกษาอ้างอิง และใช้วางรากฐานให้กับการถ่ายทอดต้าฝ่าอย่างกว้างไกล   หรือพูดได้อีกว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบัน  ล้วนเพื่อเรื่องนี้   หากพูดให้ชัดเจนขึ้นอีก  ที่แท้อารยธรรมจีนห้าพันปีนี้  ก็คือการวางรากฐานโดยตรงให้กับเรื่องสุดท้ายนี้  เช่นนั้นเรื่องที่ใหญ่อย่างนี้  ทุกท่านลองคิดดู  มันเกี่ยวพันถึงสรรพชีวิตทั่วจักรวาลว่าจะได้รับการช่วยเหลือหรือไม่  เมื่อทุกสิ่งใช้ไม่ได้หมดแล้ว จะสามารถกอบกู้ทุกสิ่งนี้ได้หรือไม่ ก่อนการเจิ้งฝ่าของจักรวาลจะเริ่มขึ้น  ใครก็ไม่กล้ายืนยันว่าเรื่องนี้จะสำเร็จได้หรือไม่  เมื่อข้าพเจ้าเริ่มทำเรื่องนี้  เทพจำนวนมากก็คิดกันเช่นนี้  พวกมันมักจะพูดกับข้าพเจ้าว่า “ขอให้ท่านประสบความสำเร็จ”  ในคำพูดก็มีความหมายแฝงอยู่   และมีเทพได้พูดกับข้าพเจ้าว่า  แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีเรื่องอย่างนี้มาก่อน  พวกมันก็มองเห็นแล้วว่า เรื่องนี้มีความยากลำบากถึงระดับไหน

           ที่แท้ สถานการณ์ของการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าในระหว่างการบำเพ็ญนั้น คือปรากฏการณ์ของชีวิตด้านบวกกับด้านลบที่สะท้อนออกมาอย่างรุนแรงในสังคมของคนธรรมดาสามัญในระหว่างการก่อตั้งจักรวาลขึ้นมาใหม่ หรือพูดได้ว่า คือความน่ากลัวของการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าของสิ่งชั่วร้าย  ศิษย์ต้าฝ่ายืนหยัดในความเชื่อที่ถูกต้องช่วยเหลือสรรพชีวิตในขณะที่คัดค้านการประทุษร้าย  นี้เป็นเพียงปรากฏการณ์เพียงเล็กน้อยในโลก ในขั้นตอนการเจิ้งฝ่าในจักรวาลที่ใหญ่มหึมา  ที่จริงเรื่องนี้ใหญ่โตมาก  เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่สง่างามจนไม่มีภาษาที่จะบรรยายได้  จักรวาลกำลังก่อตั้งขึ้นใหม่  กำลังทำอยู่ในแต่ละมิติ   แต่ละมิติล้วนมีรูปแบบที่ปรากฏออกมาไม่เหมือนกัน การปะทะกันระหว่างของใหม่กับของเก่า  การปะทะกันระหว่างความดีกับความชั่ว  ท่าทีที่ต่างกันของสรรพชีวิตที่แสดงออกมา  โลกมนุษย์เป็นเพียงปรากฏการณ์ของมิตินี้ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับทุกท่านว่า การบำเพ็ญได้ดีหรือไม่ดีของศิษย์ต้าฝ่านั้น จะกำหนดพลังของการช่วยเหลือสรรพชีวิต และกำหนดความสำเร็จหรือล้มเหลวของการร่วมมือกับการเจิ้งฝ่าในโลก ที่จริงมิติต่างๆกำลังร่วมมือกับการเจิ้งฝ่าอยู่  และกำลังทำอยู่พร้อมกันไป  ช่วงวิถีของการเจิ้งฝ่าเป็นเอกภาพ  คนมองเห็นเพียงสถานการณ์ของศิษย์ต้าฝ่าที่ปรากฏออกมาบนโลก  แต่ในมิติอื่น สภาพการณ์ที่สะท้อนออกมานั้นต่างกัน  นั้นเป็นการเผชิญหน้าโดยตรงกับการดับสลายของชีวิต  ความเป็นตายของชีวิต กับขั้นตอนของการปรับเปลี่ยนใหม่ของจักรวาลและร่างนภา  นั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง    เนื่องจากเป็นคนจึงสามารถจะบำเพ็ญได้ใช่ไหม   ศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่ว่าจะแบกรับภารกิจใหญ่เพียงไรแต่ก็เป็นคนที่บำเพ็ญอยู่   เพราะคนกำลังทำอยู่  ดังนั้นส่วนมากจึงมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้  บางคนก็เพียงมองเห็นเฉพาะส่วนที่เล็กมากๆ อยู่ท่ามกลางในสภาพการณ์นั้น ในสภาพการณ์ที่กำหนดไว้เป็นพิเศษของคนนี้  และรู้สึกรับรู้ถึงแรงกดดันของสิ่งชั่วร้าย อยู่ในท่ามกลางทุกข์ภัยทำสิ่งที่ท่านควรทำ

             ฉะนั้นเมื่อมองจากประวัติศาสตร์  หากเป็นเรื่องที่ใหญ่อย่างนี้  ทุกท่านลองคิดดูว่าควรเตรียมการไว้อย่างไร  ที่จริงได้จัดวางไว้อย่างละเอียดมากแล้ว  กระทั่งว่าศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนจะเดินไปอย่างไรบนทางของเขา  จะประสบกับสถานการณ์ที่ต่างๆกัน  จะก้าวไปอย่างไร  จะถอยอย่างไร  จากนั้นเมื่อเกิดสภาพการณ์ที่ไม่ควรมีจะทำอย่างไร  ซึ่งล้วนจัดวางไว้อย่างละเอียดมาก  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  ในฐานะชีวิตหนึ่ง  ตัวเองต้องตัดสินเอาเอง  ท่านคิดจะบำเพ็ญ  ท่านคิดจะเอา  ท่านคิดจะทำ  ท่านไม่คิดจะทำ  ท่านไม่คิดจะเอา  นั้นล้วนตัดสินด้วยตัวเอง  ดังนั้นนี้จึงยากมาก ศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่งๆจะบำเพ็ญได้ดีหรือไม่ดี  ท่านจะสามารถบรรลุคำมั่นสัญญาก่อนประวัติศาสตร์ของท่านได้หรือไม่นั้นก็เหมือนกัน กล่าวในฐานะคนธรรมดาสามัญ  เมื่อเผชิญกับการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าครั้งนี้  หรือเผชิญกับการใช้เครื่องมือของรัฐอย่างเต็มกำลังในการปราบปราม ใช้สื่อมวลชนทั้งหมดในการสร้างเรื่องเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีต้าฝ่ากับศิษย์ต้าฝ่า  ภายใต้สถานการณ์ชนิดนี้  ในฐานะที่เป็นคนนั้น  เขารู้สึกว่าควรจะเชื่อรัฐบาล  โดยเฉพาะคือพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนใช้คำลวงปกปิดเรื่องชั่วอัปลักษณ์  ใช้ภาพลวงตามาชู “สถานการณ์ที่ดีเยี่ยม” กับวีรบุรุษจอมปลอมของอำนาจการเมืองชั่วให้โดดเด่น ในระหว่างการกุเรื่องเท็จหลอกคนมาเป็นเวลานาน   ชาวจีนจึงยากมากจริงๆที่จะแยกแยะจริงเท็จ  พูดจากอีกด้านหนึ่ง  อิทธิพลเก่าเห็นว่า จักรวาลไม่ไหวแล้ว  คนก็ไม่ไหวแล้ว  คนมีบาปกรรมหนักแล้วจึงต้องก้าวออกมาจากวังวนและจากท่ามกลางคำลวงนี้จึงจะใช้ได้  ผู้คนล้วนร่วมผสมโรงไปกับพรรคชั่ว  ดังนั้นคนจึงต้องแบกรับทั้งหมดนั้น  ทนต่อทุกสิ่งนั้น  หากเดินออกมาได้ท่านก็เดินออกมา  หากเดินออกมาไม่ได้ก็จะกวาดท่านทิ้งไป  ที่จริงทั้งหมดนี้  ท่านอย่าเห็นว่าที่ปรากฏออกมาบนโลกนั้นชั่วร้ายและน่ากลัวเช่นนี้ คนล้วนรู้สึกว่าเรื่องนี้ใหญ่มาก  ที่จริงมันเป็นเพียงปรากฏการณ์ของมิติเล็กๆมิติหนึ่งในการเจิ้งฝ่าของจักรวาล  เป็นเรื่องที่เล็กๆจุดหนึ่งในร่างนภาที่ใหญ่มหึมาที่กำลังก่อตั้งใหม่ นี้เป็นเพียงการเปิดตาข่ายด้านหนึ่งของการเจิ้งฝ่าที่เข้มงวดและเคร่งขรึม ในการช่วยเหลือคน คนที่ใช้ได้ก็ใช้ได้ คนที่ใช้ไม่ได้ก็ไม่เอาไว้แล้ว

             ดังนั้นกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  ทุกท่านได้เห็นแล้วว่า   ปัจจุบันสถานการณ์นี้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่ง นี้ยังเป็นสถานการณ์การเจิ้งฝ่าของจักรวาลที่สะท้อนออกมาในโลก   วันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 เมื่อการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าเริ่มขึ้น  สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นที่กดลงมาจากมิติที่ต่างกันเบื้องบน และสิ่งที่ต้องคัดทิ้งไปของพวกมันเหล่านั้นในมิติต่างๆ ในแต่ละจักรวาลล้วนแต่กดอัดลงมา บอกให้ท่านชำระทิ้ง  นี้จึงก่อให้เกิดแรงกดดันอย่างมหาศาลต่อศิษย์ต้าฝ่า   มันช่างชั่วร้ายและน่ากลัวเหลือเกิน แต่พวกท่านล้วนก้าวข้ามมาได้แล้ว  เรื่องได้ผ่านไปแล้ว พวกท่านก็ทราบกันหมดแล้ว  อาจารย์ก็ไม่ต้องไปอธิบายมันอีก บวกกับพิษร้ายของพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีน  พอประสานกันขึ้นมา  แรงกดดันนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ แต่มาตรฐานของการบำเพ็ญในการเจิ้งฝ่า  หลังจากที่ปรับใหม่แล้ว สำหรับเทพเหล่านั้นที่จะบรรลุถึงมาตรฐานก็เป็นสิ่งที่เข้มงวด  ทั้งหมดนี้เป็นข้อกำหนดของมาตรฐานของจักรวาลใหม่   แต่ชีวิตที่ไม่ได้ผ่านการเจิ้งฝ่า พวกมันจะใช้หลักการของจักรวาลที่ผ่านมาในการทำสิ่งต่างๆ  ใช้มันมาประเมินศิษย์ต้าฝ่า  พวกมันรู้สึกว่าถ้าท่านสามารถบรรลุถึงมาตรฐานที่พวกมันยอมรับ  ในใจของชีวิตเหล่านั้นจึงจะสมดุล   จึงจะยอมให้ท่านก้าวขึ้นมาได้โดยไม่ถูกรบกวน  จึงจะถือว่าท่านมีคุณวุฒิที่จะช่วยมันได้ ที่จริงราชาแห่งจักรวาลเหล่านั้นที่ควบคุมระดับชั้นที่ต่างกัน ก็กำลังใช้มาตรฐานเก่าขัดขวางการเจิ้งฝ่าอยู่   รู้สึกว่าเมื่อใจตัวเองสมดุลแล้ว และเมื่อบรรลุถึงมาตรฐานที่มันตั้งเอาไว้จึงจะยอมให้ท่านผ่านไปได้ พวกมันบ้างก็รู้ว่าตัวเองก็กำลังอยู่ในระหว่างการถูกปรับฝ่าให้ถูกต้อง  และพวกมัน    บ้างก็คิดว่าตนเองเป็นผู้ควบคุมที่สูงที่สุด    พวกมัน     บ้างก็ไม่ยอมรับข้อกำหนดของการเจิ้งฝ่า ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ  พวกมันล้วนไม่รู้ว่าหลังการเจิ้งฝ่าจะเป็นอย่างไร  เหล่าเทพแต่ละชั้น แต่ละชั้นก็ล้วนอยู่ในสภาพการณ์ชนิดนี้   แต่ละชั้น แต่ละชั้นล้วนคิดกันอย่างนี้   ถ้าหากมันรู้สึกว่า “ใช้ไม่ได้  ไม่ได้มาตรฐาน”  มันก็จะใช้ความสามารถโดยตรงของมันทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของมัน ซึ่งไม่อยู่ในมาตรฐานของมัน  รวมทั้งสถานการณ์ของการเจิ้งฝ่า  อันที่จริงแม้ว่าพวกมันไม่มีความสามารถรบกวนการเจิ้งฝ่าได้จริงๆ  แต่มันจะก่อให้เกิดอุปสรรค  ไม่ว่ามันสามารถจะทำอะไรได้หรือไม่ได้  แต่มันก็จะไปทำลาย  ที่จริงได้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน  แต่ไม่สามารถทำลายการเจิ้งฝ่ากับศิษย์ต้าฝ่า   และไม่สามารถทำลายมนุษย์  ไม่สามารถขัดขวางการเจิ้งฝ่า  แต่กลับนำมาซึ่งความยุ่งยากมากมาย   ความยุ่งยากเหล่านี้สามารถสะท้อนมาถึงโลก  กลายเป็นการรบกวน  เรื่องเหล่านี้มีอยู่ตลอดมา 

          หากศิษย์ต้าฝ่าไม่ทำให้ดี  วางมาตรฐานการบำเพ็ญของตนไว้ต่ำแล้ว   พวกมัน ชีวิตชั้นสูงที่เก่าเหล่านั้น  เทพเหล่านั้น  ราชาเหล่านั้น จำนวนนับไม่ถ้วนของแต่ละระดับชั้น แต่ละระดับชั้น  แต่ละระดับชั้น ล้วนทำกันอย่างนี้ดังว่า  ทุกท่านคิดดู  นั้นจะก่อให้เกิดความยากลำบากต่อการเจิ้งฝ่ามากถึงระดับไหน  ในระหว่างการขจัดทิ้ง ในเวลาเดียวกับที่เทพ  ราชาเหล่านั้นถูกดับสลายไป สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนในขอบเขตที่พวกมันควบคุมอยู่ก็ล้วนไม่อาจจะได้รับการช่วยเหลือ  ถ้าหากทั่วทั้งร่างนภาล้วนเป็นอย่างนี้กันหมด  เช่นนั้นทั้งหมดก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย  นี้จึงเป็นความยากลำบากที่การเจิ้งฝ่ากับศิษย์ต้าฝ่าประสบอยู่  เมื่อสะท้อนมาที่โลกก็เป็นความยุ่งยากนานาชนิด ทุกท่านคิดอาจารย์ของเรามีความ สามารถที่เด็ดขาด  ในระหว่างการเจิ้งฝ่าพูดว่าจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น  แต่พวกท่านเคยคิดหรือไม่ว่า  การจะกอบกู้ทุกสิ่งนี้  แต่ผู้ที่รับการช่วยเหลือไม่สมัครใจก็ไม่นับ  หากฝืนทำไป ธาตุแท้ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลง  การฝืนเปลี่ยนแปลงก็เท่ากับสร้างชีวิตหนึ่งขึ้นมาใหม่  การสร้างขึ้นมาใหม่นั้นง่ายดายนัก   การช่วยเหลือชีวิตหนึ่งจึงจะลำบากที่สุด  แต่การสร้างขึ้นใหม่นั้นง่ายเหลือเกิน

ทุกท่านทราบ  องค์ศากยมุนีพุทธมิใช่พูดหรือว่า  หนึ่งความคิดของพระพุทธ สามารถสร้างโลกใบหนึ่งได้ ซึ่งในนั้นมีสรรพชีวิตนับไม่ถ้วน เพราะภายในขอบเขตของเขานั้นเขาก็มีพลังมากเช่นนั้น   ระดับชั้นทั้งหมดที่เขาอยู่จากระดับที่จุลทรรศน์ที่สุดจนถึงเม็ดอณูที่ใหญ่ที่สุด ล้วนมีพลังงานอยู่  และมีความหนาแน่นมากอย่างนั้น  จากเล็กจนถึงใหญ่ ทุกๆระดับชั้น จะทำไปพร้อมกัน  ล้วนมีความสามารถทั้งหมดที่จะประกอบขึ้นเป็นโลกของเขา จะสร้างอะไร รวมทั้งชีวิตแค่หนึ่งความคิดก็สำเร็จได้ในทันที  เช่นนั้นหากในระหว่างการเจิ้งฝ่าก็ทำเช่นนี้ดังว่า  ก็เท่ากับสร้างทุกสิ่งขึ้นมาใหม่  สิ่งที่มีอยู่เดิมก็ไม่คงอยู่อีกแล้ว  ซึ่งไม่ใช่การเจิ้งฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิตแล้ว  ท่านคิดจะช่วยกอบกู้มัน  เช่นนั้นอะไรที่เรียกว่าการกอบกู้ละ  ท่านก็ต้องให้ตัวมันเองสมัครใจที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงจึงจะใช้ได้ จักรวาลกับโลก ทั้งหมดนี้ล้วนใช้ไม่ได้แล้ว  หากจะช่วยทั้งหมดนี้  นี้มีความยากลำบากเพียงไรละ  ดังนั้นบางครั้งเวลาที่พวกท่านประสบกับทุกข์ภัย  บางคนจึงคิดว่า  ทำไมทุกข์ภัยจึงใหญ่อย่างนี้นะ  อาจารย์นำทุกข์ภัยนี้ทิ้งไปไม่ได้หรือ ข้าพเจ้าก็เคยคิดเช่นนี้ เมื่อข้าพเจ้าเห็นสภาพการณ์ที่ศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงมาก แต่เจิ้งเนี่ยนก็ไม่พอ  คิดจะนำทุกข์ภัยนี้ทิ้งไปให้กับทุกท่านจริงๆ   แต่เมื่อทิ้งไปแล้ว ก็ไม่ได้ข้ามด่าน  สิ่งที่ควรแบกรับก็ไม่ได้ทำ  การบำเพ็ญก็ไม่ได้เลื่อนขึ้นมา  อะไรๆก็เอาทิ้งไปให้หมด นั้นก็นับเป็นอะไรไม่ได้แล้ว   และก็ไม่ใช่อะไรเลย  และไม่นับว่าเป็นผู้บำเพ็ญและไม่นับเป็นศิษย์ต้าฝ่าแล้ว และแต่ละคนต่างก็นำกรรมที่ติดตัวมาจากชาติภพต่างๆเต็มไปทั้งตัวเวียนไปเกิด แม้ว่าทุกๆชาติภพอาจารย์ก็ดูแลอยู่ แต่ว่ากรรมนั้นก็ไม่น้อย หากในประวัติศาสตร์ตนเองยังเคยมีปณิธานอะไรหรือเคยติดค้างสิ่งใดไว้  หรือเคยมีความยุ่งยากอะไร  นี้ล้วนแต่ยากจะแก้ไขได้  แต่ก็ต้องแก้ไขทั้งหมด  ล้วนต้องไปทำ  เช่นนั้นเรื่องเหล่านี้เมื่อทำขึ้นมาจึงยากลำบากมาก   ความทุกข์มากมายในระหว่างการบำเพ็ญล้วนเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ การช่วย ชีวิตๆหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆตามที่คิด

แต่ว่า ไม่ว่าจะลำบากอย่างไร  ชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือนั้น  ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ ไม่ว่ามีการรบกวนกับการจัดวางความลำบากไว้อย่างไร   แต่ศิษย์ต้าฝ่านั้นมีเส้นทางของตนเอง  กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่ง เมื่อก่อนข้าพเจ้าพูดมาโดยตลอดว่าศิษย์ต้าฝ่ามีภารกิจทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่อย่างนี้  ต้องแบกรับภาระการช่วยเหลือสรรพชีวิต  แน่นอนว่าย่อมมีเส้นทางที่พวกท่านเองสามารถเดินผ่านไปได้  เส้นทางนี้ต้องเป็นเส้นทางที่สามารถบรรลุถึงมาตรฐานได้  เช่นนี้สรรพชีวิตของจักรวาลจึงจะเคารพยกย่อง  จึงไม่สามารถจะรบกวน  บนเส้นทางนี้ท่านจึงจะไม่มีความยุ่งยาก  จึงจะสามารถเดินได้อย่างราบรื่น  หาไม่แล้ว  หากมีจิตยึดติดนานาชนิด หรือ ใจคน  เช่นนั้นบนเส้นทางนี้จึงพบกับความยุ่งยากมากมาย  ความยุ่งยากขัดขวางตนเองให้ข้ามไปไม่ได้  ที่จริงการเดินไม่ตรงบนเส้นทางนั้น  ประการหนึ่งคือมีเหตุมาจากกรรม  ในนั้นรวมทั้งความยุ่งยากที่มีอยู่เบื้องหลังของชีวิต  บุญคุณความแค้นชนิดต่างๆ  คำสัญญา  กับการเชื่อมโยงกับชีวิตนานาชนิด  เป็นต้น  อีกประการหนึ่งคือ การยึดติดใจคนของตนเอง โดยเฉพาะคือทัศนคติที่ก่อเกิดขึ้นมา  ก่อเกิดรูปแบบวิธีคิด  นั้นจึงทำให้ตนเองยากจะรับรู้ได้ถึงการแสดงออกเหล่านั้นของใจคนโดยไม่รู้ตัว รับรู้ไม่ได้ว่าจะปล่อยวางมันลงได้อย่างไร โดย เฉพาะในสภาพแวดล้อมนั้นในประเทศจีน พรรคชั่วได้ทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศจีน  สร้างของชุดหนึ่งขึ้นมาล้วนเป็นของพรรคชั่ว  ตาม  ที่เรียกกันว่าวัฒนธรรมพรรค  ใช้มันสร้างรูปแบบวิธีคิดขึ้นมา  การรับรู้สัจธรรมของจักรวาลจึงมีความยากลำบาก  กระทั่งรับรู้ไม่ได้ถึงพฤติกรรม ความนึกคิดที่ไม่ดีต่างๆซึ่งขัดกับค่านิยมสากลของโลก รับรู้ความนึกคิดที่ไม่ดีมากมายนั้นไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรละ  มีแต่ปฏิบัติตามต้าฝ่า

           เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยพูดกับทุกท่านแล้ว   ชาวจีนยุคนี้ล้วนเป็นราชาของชนชาติต่างๆในประวัติศาสตร์ กับราชาของยุคต่างๆ  หรือราชาเหล่านั้นที่ลงมาจากระดับชั้นสูงมากของสวรรค์ในจักรวาล  ล้วนกลับชาติไปเกิดในประเทศจีนแล้ว  การที่เขาได้รับการช่วยเหลือจะทำให้สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนเหล่านั้นซึ่งเขาเป็นตัวแทน และอยู่เบื้องหลังเขาได้รับการช่วยเหลือ  นั้นก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว  เขาคนเดียวได้รับการช่วยเหลือ  ก็จะช่วยเหลือได้มากมายอย่างนั้น  กรรมนี้ใครเป็นผู้จะมาชำระละ  ด่านนี้เขาจะข้ามได้อย่างไร  เขาต้องทำอย่างไร จึงจะทำให้อิทธิพลเก่าเหล่านั้นเจาะช่องโหว่ได้น้อย จะทำอย่างไรจึงสามารถทำให้หลักการเก่าของจักรวาลระดับชั้นที่ต่างกัน  และสรรพชีวิตกับเหล่าเทพที่มีทัศนคติเก่า เลื่อมใสด้วยความจริงใจ  จะทำอย่างไรจึงจะทำให้จิตใจของชีวิตเหล่านั้นที่ถูกกระทบสมดุลได้  ยอมให้ท่านก้าวข้ามไป   นี้จึงยากมาก  อาจารย์เคยพูดว่า “ ศิษย์มีเจิ้งเนี่ยนพอ  อาจารย์ก็มีพลังส่งกลับสวรรค์ได้”  เจิ้งเนี่ยนของท่านมีพอแล้ว ใครจะกล้าทำอะไร  เราอยู่ในหลักการ อะไรๆอาจารย์ก็สามารถจะแก้ไขให้ได้  หากตัวท่านทำได้ไม่เที่ยงตรง  เช่นนั้นอาจารย์จะทำอย่างไรได้ละ  ท่านว่าตัวท่านเองทำไม่ถูก  ให้อาจารย์ขจัดพวกมันทิ้งไป  นี้จะใช้ได้หรือ   ท่านไม่ทำให้ดี  พอมีทุกข์ภัยก็ขจัดทิ้งไป  เช่นนั้นพวกเรายังจะช่วยใครได้   ใช้ไม่ได้หรอก

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  ข้าพเจ้าเพิ่งพูดว่า แม้ว่ามันเป็นหลักการเก่า   แม้ว่าอะไรของมันล้วนเสื่อมไปหมดแล้ว  ใช้ไม่ได้แล้ว  แต่มันยังมีหลักการทั่วไปอยู่   คนบนโลกเรียกว่าค่านิยมสากล   บนสวรรค์  ทั่วทั้งจักรวาลมันมีมาตรฐานทั่วไปที่ใช้ตัดสิน   พวกมันล้วนไม่ยอมรับ  อาจารย์ก็ขจัดพวกมันไปทั้งหมด  เช่นนั้นแล้วเราจะช่วยใครได้ละ   ยากจึงยากอยู่ที่จุดนี้  ข้าพเจ้าสามารถทำไปตามข้อกำหนดมาตรฐานของข้าพเจ้าเอง  สนใจอะไรกับสิ่งเก่าของท่าน  หากตลอดทางทำผ่านมาอย่างนี้ ก็อาจจะช่วยชีวิตใดๆไม่ได้เลย  เพราะล้วนขจัดทิ้งไป ล้วนระเบิดทิ้งไป  ก็เพราะเพื่อที่จะช่วยเหลือพวกมัน   บรรดาสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทนรับ   เส้นทางที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินจึงยากอย่างนี้  ทุกข์ภัยเหล่านี้ที่พวกเราประสบ  ล้วนแต่เพื่อทำให้สรรพชีวิตเหล่านั้นได้รับการช่วยเหลือ  เมื่อให้พวกมันรู้สึกพอใจ  ศิษย์ต้าฝ่าจึงสามารถก้าวผ่านไปได้และยังสามารถช่วยพวกมัน   ไม่ว่าท่านจะเข้าใจว่าอย่างไร ชีวิตของจักรวาลทุกๆชั้น ล้วนคิดอย่างนี้ ทุกๆชั้นล้วนมีราชา  ทุกๆชั้นยังมีจ้าว  ชีวิตของจักรวาลที่ใหญ่มหึมาไร้ที่เปรียบ จำนวนนับไม่ถ้วน  พวกท่านคาดคิดไม่ได้ว่ามันใหญ่เพียงไร  ทุกๆชั้นล้วนแต่ก่อให้เกิดผลเช่นนี้  ชีวิตในทุกๆชั้นล้วนมองปัญหากันอย่างนี้  ทุกท่านคิดดูท่านยังต้องช่วยมัน  แล้วท่านจะทำอย่างไร   อาจารย์สามารถขจัดมันทิ้งไป พอขจัดทิ้งไปแล้ว อะไรก็ไม่มีอีกแล้ว  ก้าวผ่านไปแล้ว  แต่ชีวิตหนึ่งก็ไม่ได้ช่วยเอาไว้  พอไปถึงที่ถัดไปยังคงทำอย่างนี้  ใครคัดค้าน ก็ขจัดทิ้งไป  ก้าวข้ามไป  ชีวิตหนึ่งก็ไม่มีแล้ว  หากตลอดทางก็เดินผ่านมาอย่างนี้   พวกเรามิใช่ทำลายทุกสิ่งจนหมดสิ้นแล้วหรือ   ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าที่เดินเส้นทางของตนเองได้เที่ยงตรง ท่านจึงจะสามารถช่วยเหลือสรรพชีวิตได้   จึงจะเดินข้ามไปได้ท่ามกลางการช่วยเหลือสรรพชีวิต  จึงยากอย่างนี้   ความยากลำบากของการช่วยเหลือสรรพชีวิตจึงเกิดขึ้นอย่างนี้  บางคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางพูดว่าจะช่วยเหลือสรรพชีวิต  ที่จริงอะไรที่เรียกว่าช่วยเหลือสรรพชีวิตก็ไม่รู้เลย

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ศิษย์ต้าฝ่าสามารถช่วยเหลือสรรพชีวิตได้แล้ว  ท่านจึงจะยอดเยี่ยม ใช่ละ ศิษย์ต้าฝ่าเดินข้ามมาตลอดทาง ในระหว่างการเจิ้งฝ่าช่วยเหลือชาวโลกได้นับร้อยล้านคน  ดีมาก  อาจารย์รู้สึกพอใจมาก  สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่ามากมายทนรับนั้นใหญ่มหึมามาก  ธรรมานุภาพก็ใหญ่  แต่ทำไมพวกท่านต้องทนรับมากอย่างนั้น  ก็มีคนถามข้าพเจ้า  เหตุใดเขาจึงถูกประทุษร้ายรุนแรงอย่างนี้ อาจเป็นว่ากำลังทนรับเพื่อชีวิตที่อยู่เบื้องหลังเขาที่เขาต้องคุ้มครอง  ชีวิตที่เขาจะช่วยนั้นมากมายเหลือเกิน  บางทีอาจเป็นเพราะองค์ประกอบของตนกับองค์ประกอบของชีวิตที่เขาจะช่วยเหลือก่อให้เกิดขึ้น กรรมหรือองค์ประกอบในประวัติศาสตร์ที่ต้องแบกรับนั้นมากเหลือเกิน บางทียังมีความแค้นที่สะสมไว้ซึ่งยังแก้ไขไม่ได้  ยังมีเงื่อนตายที่ไม่อาจจะแก้ออกได้เลย บางคนได้แต่ใช้ชีวิตของคนมาแลกเปลี่ยน   ดังนั้นจึงก่อให้เกิดรูปการที่สลับซับซ้อนชนิดนี้ในระหว่างที่ถูกประทุษร้าย   บางอย่างเป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าทำ  ในขณะที่ถูกรบกวนอาจารย์ก็กำลังซ้อนกลมันอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอาจารย์มีมาตรฐานของอาจารย์  สิ่งที่อิทธิพลเก่าทำไว้ต้องชดใช้ทั้งหมด

เมื่อก่อนข้าพเจ้าบอกพวกท่านแล้วว่า   ทุกสิ่งในสามภพล้วนคงอยู่เพื่อการเจิ้งฝ่า  ก็รวมทั้งพวกนั้นที่ยอมรับต้าฝ่าก็ดี  ไม่ยอมรับต้าฝ่าก็ดี  สรรพชีวิตล้วนทราบว่ากำลังเจิ้งฝ่า  แต่ใครก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีความใหญ่โตแค่ไหน   โดยเฉพาะพวกราชาเหล่านั้นเอย  จ้าวเหล่านั้นเอย  ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองยิ่งใหญ่มาก  พวกมันล้วนคิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังพวกมันยังมีจักรวาลนับไม่ถ้วนอยู่  พวกมันล้วนรู้สึกว่าการรับรู้ของตนเองนั้นยิ่งใหญ่  ดังนั้นพวกมันจึงกล้าทำ  เช่นนี้จึงก่อให้เกิดความยากลำบากอย่างมาก  ไม่ว่าอย่างไรก็ตามที  ศิษย์ต้าฝ่าได้ช่วยเหลือสรรพชีวิตไว้มากมาย  เจิ้งฝ่าผ่านมาถึงท้ายที่สุด  เมื่อก้าวต่อไปอีก  ทุกท่านก็มองเห็น  พลังของสิ่งชั่วร้ายมีไม่พอแล้ว  สภาพแวดล้อมที่อิทธิพลเก่าอาศัยมาทดสอบศิษย์ต้าฝ่า  กับสภาพแวดล้อมของการช่วยเหลือสรรพชีวิตภายใต้แรงกดดันของสิ่งชั่วร้าย  ก็จะค่อยๆสูญเสียไปแล้ว  เพราะสิ่งชั่วร้ายมีไม่พอใช้แล้ว อิทธิพลเก่าคิดว่าพลังที่ทดสอบศิษย์ต้าฝ่ากับชาวโลกนั้นบรรลุไม่ถึงแล้ว  นั่นก็ไม่อาจจะนับได้แล้ว  อาจารย์อาศัยการรบกวนของอิทธิพลเก่าบอกให้ศิษย์ต้าฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิตก็จะสิ้นสุดลง  ผู้ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ  ในระหว่างนี้ที่ศิษย์ต้าฝ่าอธิบายความจริงไม่ยอมรับฟังหรืออธิบายความจริงให้แล้วแต่ไม่สามารถเข้าใจได้  เช่นนั้นก็ไม่มีโอกาสแห่งวาสนาแล้ว  เมื่อผ่านไปแล้ว  ก็จะผ่านไปเลย  ก้าวต่อไปนั้นก็จะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว

ประวัติศาสตร์จะจบสิ้นลงในวันหนึ่ง  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่อาจถูกยืดออกไป  มีแต่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องรูปธรรมหรือในขั้นตอน   เรื่องที่ไม่ได้ทำให้ดีจะกระทบต่อเรื่องในภายหลัง เวลาโดยรวมนั้นยืดออกไปไม่ได้แล้ว  นี้ไม่ใช่ว่าอาจารย์เมตตาหรือไม่เมตตา   ที่จริงพอถึงสุดท้ายทั้งหมดที่ช่วยเหลือ  ทุกสิ่งที่ก่อตั้งขึ้นใหม่หากไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการหรือบรรลุไม่ถึงมาตรฐาน  ทำเสร็จแล้วก็เปล่าประโยชน์  ก็ต้องทำลายทั้งหมด ไม่สามารถจะล้ำเกินเวลานั้นไปได้  สำหรับชีวิตที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ  นั่นก็ได้แต่เป็นเช่นนั้นแล้ว

แน่ละเมื่อพูดถึงตรงนี้  ศิษย์ต้าฝ่าอาจรู้สึกว่าเมื่อก่อนมีเรื่องหลายอย่างไม่ได้ทำให้ดี  เหลือความรู้สึกสำนึกเสียดายบางเรื่อง  ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน  ที่จริงเมื่อเริ่มต้นทำเรื่องนี้ข้าพเจ้าก็ทราบดี   มนุษย์มาถึงระดับนี้แล้ว บวกกับการรบกวนหนักอย่างนี้ของสิ่งชั่วร้าย เมื่อตอนเริ่มประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า คำลวงที่กุขึ้นทำให้ชาวโลกงงงัน   การอธิบายความจริงลำบากมาก  ในเวลานั้นข้าพเจ้าก็มองเห็นแล้ว  คิดจะช่วยเหลือคนทั้งหมดไว้  ที่แท้ก็ไม่อาจเป็นไปได้แล้ว  จะช่วยสรรพชีวิตของจักรวาลไว้ทั้งหมด ยิ่งเป็นไปไม่ได้แล้ว  แต่พวกเราก็พยายามช่วยให้มาก  รีบเร่งช่วย  เร่งรุดไปข้างหน้าก่อนถึงเวลาเหล่านี้ สามารถจะช่วยชีวิตได้มากยิ่งขึ้น

               เช่นนั้นพอพูดถึงตรงนี้  ข้าพเจ้าขอพูดเรื่องการบำเพ็ญสักเล็กน้อย   เรื่องเหล่านี้ที่ศิษย์ต้าฝ่าจะทำที่จริงล้วนมีจังหวะก้าว เมื่อผ่านเวลานี้ไปแล้วก็ผ่านไปเลย  เมื่อหันกลับมามอง  เรื่องไหนที่ทำได้ไม่ดี  ไม่มีโอกาสที่จะไปชดเชยอีกแล้ว   แน่ละการบำเพ็ญยังไม่สิ้นสุด  ท่านยังสามารถไปทำสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ  ทำเรื่องในภายหลังให้ดี   เช่นนั้นกล่าวสำหรับท่านยังคงมีโอกาสอีกมาก  มีเวลาไปทำ  แต่ถ้ามีเรื่องมากมายที่ทำได้ไม่ดี  นั่นก็จะเหลือความรู้สึกเสียดายในภายหลังไว้มากมาย  อย่างเช่นว่า เมื่อครู่ที่พวกท่านพูดกันยังอยู่ในเรื่องเสินยวิ่น  ที่จริงข้าพเจ้าขอพูดกับทุกท่านให้ชัดอีกหน่อย  เสินยวิ่นเป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิต  นี่ล้วนทราบกัน  แต่พวกท่านเคยคิดไหม   นั้นคือโอกาสหนึ่งที่อาจารย์เปิดให้พวกท่านประสานร่วมมือซึ่งกันและกัน  ให้คนที่ไม่ได้ก้าวออกมาได้ก้าวออกมา  เสินยวิ่น  ตามผลกระทบที่กว้างขวางยิ่งขึ้นของมัน  ทุกท่านล้วนทราบว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุด   การแสดงของมนุษย์ในปัจจุบันไม่อาจเทียบได้  แน่ละย่อมจะเทียบไม่ได้  ทุกท่านทราบ  บนเวทีนั้นเทพล้วนกำลังช่วยแสดงอยู่  สามารถทำให้คนได้รับการช่วยเหลือ  ใครจะเทียบได้ละ  เทียบไม่ได้ เสริมเข้ากับศิษย์ต้าฝ่าที่กำลังแสดง  และเทคนิกความสามารถของนักแสดงที่เป็นอันดับหนึ่งของนานาชาติ  นั้นใครก็เทียบไม่ได้  แต่ในระหว่างขั้นตอนที่ผู้ฝึกแต่ละแห่งร่วมมือกันเผยแพร่เสินยวิ่น  เมื่อพบกับเรื่องอะไร  ไม่ใช่พูดว่าทุกท่านไม่คิดจะไปทำ  ถ้าไม่ทำทุกท่านก็ไม่จำเป็นต้องถกเถียงกัน  แต่เพราะล้วนแต่คิดจะทำ  เพียงแต่เขาพูดว่าให้ทำอย่างนี้  เขาพูดว่าให้ทำอย่างนั้น  เขาพูดว่าให้ทำเดี๋ยวนี้  เขาพูดว่ารออีกหน่อยค่อยทำ  ต่างไม่ยอมให้แก่กัน จิตมนุษย์ที่รุนแรงเหล่านี้ทำให้ประสานร่วมมือกันไม่ได้  ในระหว่างการถกเถียงบางคนมีใจคนที่แรงมาก  บางคนในขณะที่ถูกใจคนชักนำก็โต้เถียง  แม้ว่าจะฝืนไปทำแต่ก็มีความท้อแท้ใจอย่างมาก

               ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน หลายปีมานี้ ข้าพเจ้าพูดมาตลอดว่าความสามารถของศิษย์ต้าฝ่านั้นมีมาก  หลายๆ คนไม่เชื่อ   เพราะไม่ให้ท่านมองเห็น   ภายใต้เจิ้งเนี่ยนของท่าน  ทุกสิ่งข้างกายท่านกับตัวท่านเอง ล้วนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง  แต่ไหนแต่ไรมาท่านไม่คิดจะไปลองสักครั้ง  การรบกวนของอิทธิพลเก่ากับองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น  ก็เจาะช่องโหว่ของความคิดพวกท่าน หลายปีมานี้ก็ทำเรื่องนี้มาโดยตลอด  อิทธิพลเก่าควบคุมผีเน่าเปื่อยกับองค์ประกอบของพรรคชั่วทำอย่างนี้เรื่อยมา ไม่ให้พวกท่านทำเรื่องช่วยคนได้สำเร็จ   เพราะมันจะต่อสู้กับท่านตัวต่อตัวก็สู้ท่านไม่ได้  พอท่านฟาเจิ้งเนี่ยน  ไม่ว่าจะเป็นทหารม้าหรือทหารเดินเท้ากี่กองพัน สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นก็จะกลายเป็นธุลีหมด   ดับสลายสิ้น  ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ถ้าสู้กันอย่างนี้ต่อไป  ผีเน่าเปื่อยกับองค์ประกอบของพรรคชั่วที่รบกวนก็จะดับสลายจนสิ้น   หากศิษย์ต้าฝ่ารวมศูนย์ความคิดได้มาก  ฟาเจิ้งเนี่ยนด้วยเจิ้งเนี่ยนที่เต็มเปี่ยม  พวกท่านลองทำดู  หากวันนี้สามารถทำได้  ครึ่งหนึ่งของสิ่งชั่วร้ายที่มีอยู่ในขณะนี้ก็จะหมดสิ้น   ก็เพราะท่านมีใจคนต่างๆนานา  ร่วมมือกันได้ไม่ดี  มันจึงเจาะช่องโหว่นี้ของพวกท่าน  ทำให้พวกท่านทำเรื่องที่ควรทำไม่สำเร็จ   ลดทอนพลังในระหว่างที่ช่วยเหลือสรรพชีวิตของท่าน สิ่งชั่วร้ายไม่มีวิธีการอะไรอย่างอื่น   คนเลวเหล่านั้นบนโลกที่แสดงออกมาชั่วร้ายมากนั้น   คนๆนั้นดุร้ายอย่างนั้น  เพราะสิ่งชั่วร้ายที่อยู่เบื้องหลังกำลังชักใยเขาอยู่  พอท่านดับสลายสิ่งชั่วร้ายนั้นแล้ว  คนๆนั้นก็ดุร้ายขึ้นมาไม่ได้แล้ว   หากศิษย์ต้าฝ่าล้วนร้อยรัดเป็นหนึ่งเดียว  ไปทำด้วยเจิ้งเนี่ยน อย่างเพียงพอมาก  ทุกท่านคิดดู  นั้นจึงจะเป็นเทพที่อยู่ในโลก  นี้กล่าวสำหรับสิ่งชั่วร้ายช่างน่ากลัวเหลือเกิน  

การแสดงออกของคนชั่ว  นั้นคือสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ข้างหลังชักใยอยู่  พวกท่านมักจะถือเปลือกนอกที่ตาเห็นว่าคนๆนี้เลวอย่างไร อย่างไร   คนๆนี้ทำไมชั่วร้ายอย่างนี้นะ   ตำรวจชั่วคนนี้เป็นอย่างไร อย่างไร   คนๆนี้ทำไมแสดงออกไม่มีเหตุผลอย่างนี้  มักจะจับจ้องอยู่ที่เปลือกนอกนี้  ข้าพเจ้าบอกพวกท่านตลอดมาว่า  หนังผืนนี้ของคน  ก็เหมือนกับเสื้อผ้าชุดหนึ่ง  สิ่งที่ควบคุมร่างคนคือจิต  จิตหลักก็ดี  จิตรองก็ดี   และสิ่งที่สามารถควบคุมคนยังไม่เพียงแค่จิต สิ่งต่างๆ ที่มี  หลิงชี่(พลังจิต)ล้วนสามารถควบคุมคนได้    ผู้ที่ทำชั่วต่อศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่อยู่ที่ชั้นผิว   หากท่านจัดการองค์ประกอบเหล่านั้นที่อยู่เบื้องหลัง  ท่านลองดูว่าชั้นผิวนั้นจะเป็นอะไร  เมื่อคนไม่มีองค์ประกอบที่อยู่เบื้องหลัง  ท่านบอกให้เขาทำอะไรเขาก็จะทำอะไร  ท่านเป็นผู้บำเพ็ญ  ท่านมีพลังความสามารถ  ท่านคือชีวิตที่เดินอยู่บนทางแห่งเทพ   ส่วนเขาเป็นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง  เขาไม่มีพลังงาน  ดังนั้นตาของท่านอย่าได้เอาแต่จับจ้องที่ชั้นผิวของคน   เมื่อจัดการองค์ประกอบที่อยู่เบื้องหลังแล้ว จึงจะจัดการปัญหาได้อย่างแท้จริง   จึงจะสามารถทำให้สถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง  จึงจะสามารถทำให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลง

             เมื่อก่อนที่พวกท่านขายตั๋ว  ทุกท่านทราบว่ายากมาก  ยากก็มีหนทางที่พวกท่านจะเดิน  ดูว่าท่านจะไปหาหรือไม่ บางคนพูดว่า    พวกเราฟาเจิ้งเนี่ยนก็พอแล้ว  ท่านก็เอาแต่อยู่ที่นั่นฟาเจิ้งเนี่ยน  แต่ไม่ไปทำ  นั้นเรียกว่าบำเพ็ญได้ไหม  ก็เหมือนกับที่บางคนอ่านหนังสือ  เอาแต่อ่านหนังสือ  ไม่ทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ   เช่นนั้นท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าหรือไม่ละ   นั่นไม่ใช่การบำเพ็ญต้าฝ่า  ถ้าหากฟาเจิ้งเนี่ยนก็ใช้ได้ทั้งหมดแล้ว   อย่างนั้นก็ไม่ต้องให้ท่านฟาเจิ้งเนี่ยน     ข้าพเจ้าจัดศิษย์ต้าฝ่าในนิวยอร์กฟาเจิ้งเนี่ยนก็พอแล้ว  ก็จัดการได้ทั้งหมด ต้องให้ท่านเองไปทำ ไปบำเพ็ญ  ไปปฏิบัติจริงด้วยตัวเอง  ความทุกข์ยากเป็นส่วนหนึ่งของการบำเพ็ญของท่าน  ท่านต้องคิดหาวิธีค้นหาคนที่ท่านควรช่วยเหลือ  นี้ล้วนเป็นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ  ระหว่างกันและกัน ร่วมมือกันให้ดี  เมื่อพบว่าคนอื่นทำได้ไม่ดี  หรือเมื่อพวกท่านเปิดประชุมค้นคว้าวิจัยมีบางเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ดี  ความเห็นของท่านก็ไม่ได้รับเลือก เช่นนั้นเมื่อท่านรู้สึกว่าที่แท้แล้วควรไปทำอย่างไร  แม้ว่าไม่ได้รับการคัดเลือก เช่นนั้นท่านก็ไปทำมันให้ดีอย่างเงียบๆ  นี่จึงจะเป็นผู้บำเพ็ญนะ

               ทุกท่านทราบ  เสินยวิ่นนั้นยิ่งแสดงยิ่งดี   ส่งผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ  ตั๋วของปีนี้ ช่วงหลังของการแสดงในอเมริกาแสดงหนึ่งรอบก็เต็มหนึ่งรอบ  ปีหน้าขายตั๋วก็จะง่ายมากแล้ว  ถ้าหากออกโฆษณาชิ้นหนึ่งไปแล้วคนก็มากันหมดจริงๆ  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ข้าพเจ้าก็จะไม่บอกให้พวกท่านมาขายตั๋วอีกแล้ว   อ้อ  บางคนรู้สึกว่า เอ้อ ทีนี้ดีละ เรื่องน้อยลงไปเรื่องหนึ่งแล้ว ถ้าอะไรก็ไม่ทำ นั่นจะนับเป็นการบำเพ็ญได้ไหม   อาจารย์บอกให้พวกท่านไปเดินเส้นทางนี้  ให้โอกาสอย่างนี้  ท่านทำแล้วหรือ  แน่ละ ท่านว่า ฉันไม่ทำเสิน ยวิ่น  ฉันทำโครงการอื่น  นั่นไม่มีปัญหา เช่นนั้นดีมาก บอกว่าอยู่ในโครงการอื่นทำได้อย่างจริงๆจัง  ทำได้ดีมาก  นั่นไม่มีปัญหา  ท่านไม่ทำเสินยวิ่นข้าพเจ้าก็ดีใจ  แต่มีคนบางส่วน  เขาไม่มีเรื่องที่ทำมากอย่างนั้น  และตัวเองยังไม่ทำให้ดี สรุปแล้ว ท่านก็ไม่อยากยุ่งยาก  ท่านคิดจะสงบและสบาย  พูดอีกอย่างว่า  ท่านไม่อยากปฏิบัติเรื่องที่ตัวท่านสมควรทำให้เป็นจริงตามคำสัญญา  นั่นใช้ไม่ได้นะ  นั่นอันตรายมาก   ศิษย์ต้าฝ่ามีมาตรฐานของศิษย์ต้าฝ่า  ท่านอย่าเห็นว่าท่านเป็นผู้บำเพ็ญ  บางครั้งเมื่อเจิ้งเนี่ยนเข้มแข็ง หนึ่งคำพูดก็สามารถช่วยคนได้   นั้นคือคนธรรมดาสามัญ  เขามีมาตรฐานของการได้รับการช่วยเหลือของเขา เขามีที่ของเขาที่จะถูกช่วยให้ไป ท่านมีมาตรฐานของท่าน 

             ยังมี เมื่อถึงช่วงท้าย  มีผู้ฝึกบางคนสามารถสัมผัสได้  มองเห็นอีกมิติได้ กระทั่งเห็นทัศนียภาพของเรื่องที่ตัวเองทำในระหว่างการเจิ้งฝ่า   พูดตามหลักการ นี้ล้วนเป็นเรื่องปกติ เงื่อนไขของแต่ละคนต่างกัน  ระหว่างการเจิ้งฝ่าสภาพการณ์ของแต่ละคนที่แสดงออกมาก็ไม่เหมือนกัน  ดังนั้นจึงมีบางคนที่สามารถมองเห็น  สิ่งที่ข้าพเจ้าจะเตือนพวกท่านคือ  เมื่อก่อนก็มีผู้ฝึกอย่างนี้ที่ยึดกุมตนเองได้ไม่ดีและถูกทำลายไป เมื่อมอง เห็นแล้ว  อย่าใช้ใจคนก่อให้เกิดจิตยึดติดกับจิตยินดีต่างๆนานา  ซึ่งกลับจะทำให้ตนเองถูกทำลายไป  นี้ก็มีความล้มเหลวของคนรุ่นก่อนๆเป็นกระจกสะท้อนให้แล้ว  ด้านนี้ทุกท่านก็สมควรระวัง

            ข้าพเจ้าพูดตลอดมาว่า  ขอบเขตของจักรวาลที่ศิษย์ต้าฝ่าแบกรับนั้นใหญ่มาก บางทีท่านอาจเป็นราชาของจักรวาลไหน  หรือกระทั่งผู้รู้แจ้งที่สูงยิ่งขึ้น  เช่นนั้นท่านคิดดูนะ  จักรวาลนี้ควรจะใหญ่เพียงใด  องค์ศากยมุนีตรัสว่าหนึ่งเม็ดทรายแฝงไว้ด้วยโลกใหญ่สามพันใบ  ในเม็ดทรายของทรายเม็ดนั้น ใช่หรือไม่ว่ายังมีโลกใหญ่สามพันใบ  ใช่หรือไม่ว่าโลกนั้นยังมีเม็ดทราย  เม็ดทรายเม็ดนั้นของเม็ดทรายในโลกใหญ่พันใบยังมีเม็ดทราย  ใช่ไหมว่าในนั้นยังมีแม่น้ำ ลำธาร และทะเลสาบ   ในทรายเม็ดนั้นยังมีโลกใหญ่สามพันใบใช่ไหม โลกสามพันใบในเม็ดทรายเม็ดนี้ใช่หรือไม่ว่ายังมีทะเล  ยังมีเม็ดทราย  ใช่หรือไม่ว่าในเม็ดทรายเม็ดนี้ยังมีโลกใหญ่สามพันใบ  รูปลักษณ์ของคนในจักรวาลนับว่าใหญ่มาก  เพราะร่างคนจัดเป็นเม็ดอณูที่หยาบ  แน่ละที่ใหญ่กว่าคนยังมีอีกมาก   ถ้าหากเป็นเช่นนี้ จากจักรวาลที่ใหญ่ที่สุดจนถึงเล็กที่สุด ในหนึ่งเม็ดทรายก็มีโลกมากอย่างนี้  ที่จริงอากาศก็ประกอบขึ้นมาจากอณู   อณูเหล่านั้นของมันก็ประกอบขึ้นจากสสารที่จุลทรรศน์ยิ่งกว่า แน่นอนว่าสสารระดับจุลทรรศน์เหล่านั้นไม่อาจจะเหมือนที่ตาคนมองเห็นดินนี้เอย หินนี้   แน่นอนว่าเป็นสภาวะของสสารของมิตินั้น เช่นนั้นอากาศนี้ก็ประกอบ ด้วยอณูของโมเลกุล   โมเลกุลก็ประกอบขึ้นจากอะตอม   อะตอมประกอบขึ้นจากอณูที่จุลทรรศน์ยิ่งกว่า  เมื่อมองสู่ระดับจุลทรรศน์เรื่อยๆไป  กล่าวสำหรับเทพที่สูงมาก ก็ไม่มีที่สิ้นสุด   ในอากาศมีอณูจำนวนเท่าไร   ในอากาศยังมีส่วนประกอบของตัวอากาศต่างๆกันมากมาย ที่จริงสภาพการณ์ที่คนมองไม่เห็น  ในนั้นยังมีองค์ประกอบมากมายที่ต่างกัน   ปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์รับรู้ได้นั้นช่างตื้นเขินมาก  ใช่ไหม

ในแนวคิดของคน รู้สึกว่า ที่ๆคนสามารถเหยียบอยู่บนโลกนี้คือพื้นดิน  ที่ว่างที่เหยียบไม่ได้ก็ไม่ใช่พื้นดิน  ในสายตาของเทพไม่มองอย่างนี้  สิ่งที่ประกอบขึ้นจากโมเลกุล ล้วนเป็นพื้นดิน  ล้วนเป็นดิน   หากเทพชั้นบนนั้นประกอบขึ้นจากอะตอมหรือนิวเคลียสอะตอม  อณูชั้นนั้นก็มีอยู่เต็มไปทั่วขอบเขตของจักรวาลทั้งปวงซึ่งล้วนมีกัน   เทพกับคนมองสิ่งของ นั้นต่างกัน  แนวคิดต่างกัน  ตาของคนประกอบขึ้นจากโมเลกุล  เห็นได้เพียงสิ่งเล็กน้อยนี้เท่านั้น แต่เทพไม่ใช่  ในขอบเขตของเขาไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้  อะไรๆก็มองเห็นได้หมด  จักรวาลนี้ใหญ่ถึงอย่างนี้   จากมหทรรศน์ถึงจุลทรรศน์  มีชีวิตอยู่มากเท่าไร   แต่ละชีวิตประกอบขึ้นจากอณูมากเท่าไร  ในแต่ละอณูล้วนมีโลกอยู่   ระดับชั้นนั้นล้วนประกอบขึ้นจากจักรวาลนับไม่ถ้วน  ในนั้นมีโลกของเทพสักเท่าไร  ในโลกของเทพแต่ละองค์มีประวัติศาสตร์ยาวนานเท่าไร  ในนั้นมีเรื่องราวของชีวิตมากเท่าไร  ข้าพเจ้าเห็นแต่ละชีวิตล้วนเหมือนกับชีวประวัติเล่มหนึ่ง  หรือนิทานประวัติศาสตร์  ล้วนอยู่ในทุกๆชาติภพ  และล้วนแต่อนุมานไว้อย่างมีชีวิตชีวา  ทั่วทั้งจักรวาลมีชีวิตอยู่เท่าไร  ทั้งใหญ่น้อย  นับไม่ถ้วน  แต่ละคน  แต่ละองค์  แต่ละชีวิต ล้วนมีประวัติศาสตร์ของตน ล้วนเหมือนนิยาย ขั้นตอนของชีวิต  แต่ละคนล้วนเหมือนประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งของหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนึ่ง  ทุกท่านคิดดู  จักรวาลนี้มีความสลับซับซ้อนเพียงไร  สิ่งที่พวกท่านเห็นได้ สัมผัสได้ในระหว่างที่บำเพ็ญ  บอกไม่ได้แน่ว่าเป็นตรงไหน  แต่เมื่อปรากฏออกมาต่อหน้าท่าน  เมื่อท่านสามารถสัมผัสได้ ไม่ว่ามันจะจุลทรรศน์แค่ไหน  ล้วนเป็นสภาพการณ์ของจักรวาลที่มหึมา  เพราะว่าท่านจะเข้าไปในนั้น  ท่านจะเข้าไปอยู่ในเขตแดนนั้น  ท่านก็จะมีขนาดใหญ่เล็กเท่ากับชีวิตในนั้น  ท่านก็จะพบว่าโลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลไร้ที่เปรียบ   สภาพจิตใจท่านก็จะพิจารณาปัญหาไปตามโลกนั้น  เมื่อท่านเข้าไปในสภาพแวดล้อมใดๆ  ท่านก็จะไปมองโลกนั้นตามสภาพของมิตินั้น กระทั่งมีคนมองเห็นโลกจุลทรรศน์ที่แทบจะไม่อาจเล็กลงไปอีกได้แล้ว   เมื่อใช้แนวคิดของคนที่มองของเล็กหรือใหญ่มาเปรียบกับสถานที่ที่เล็กอย่างนั้น  การแสดงออกของเทพในนั้น  การแสดงออกของสรรพชีวิต  ความมหัศจรรย์ที่ปรากฏ ไม่ต่างอะไรจากมิติที่ใหญ่ กับชีวิตที่มีร่างใหญ่โต  สรรพชีวิตนั้นเสมอภาคกัน  ไม่ได้อยู่ที่ร่างกายใหญ่หรือเล็ก  ล้วนสามารถชักนำจิตยินดีของท่านได้เหมือนกัน  ท่านล้วนจะรู้สึกว่า โอ้  ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน   ที่จริงในร่างนภาของจักรวาลอันมหึมา มันเล็กจนไม่มีความหมายอะไร    ความหมายที่ข้าพเจ้าพูด  พวกท่านเข้าใจหรือไม่ว่าข้าพเจ้ากำลังพูดอะไร (เสียงปรบมือ) 

             ก็พูดว่าจักรวาลนี้ช่างใหญ่เหลือเกิน  ชีวิตช่างมากมายเหลือเกิน  นับไม่ถ้วน  ทั้งใหญ่และเล็ก  หากท่านเข้าไปในสภาพการณ์ไหน  ท่านล้วนแต่จะมองปัญหาตามสภาวะนั้น   ในการตรวจดูชีวิต  กระทั่งเนื่องด้วยสาเหตุของการบำเพ็ญ ท่านก็เป็นเทพขึ้นมาแล้ว  ยังมีความสามารถมากกว่าพวกมัน   แต่ท่านมีร่างมนุษย์อยู่  ถ้าไม่ระวัง ใจของท่านก็จะพองโตได้ โอ้  ช่างยอดเยี่ยมแล้ว  เมื่อท่านกลับไปอยู่ในความเป็นจริงของคน  ท่านก็จะรู้สึกว่า  โอ้ ตัวเองช่างยอดเยี่ยมนัก  ที่จริงมีคนมากมายมองเห็นจุดหนึ่งจุดใดหรือส่วนหนึ่งส่วนใด  หรือเรื่องหนึ่งเรื่องใดของจักรวาลได้แล้ว ใจนั้นก็จะไม่มั่นคงแล้ว ในปีนั้นที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่า   มีบางคนก็มองเห็นสื่อสัญญาณบางอย่างก่อนกำเนิด   ฉันก็เหมือนพระพุทธ  เขาจึงถือว่าตนเองเป็นพระพุทธแล้ว  จากนั้นเขาก็ฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว  เขาก็ไม่มาฟังการบรรยายแล้ว  ในช่วงแรก  เขาพูดไปทั่วว่าฉันเป็นพระพุทธ  ไม่ต้องบำเพ็ญ  และไม่อาจบำเพ็ญได้แล้ว  ใจดวงนั้นพองโตขึ้นมาแล้ว  ในการบำเพ็ญไม่ทิ้งใจคนไป  สิ่งใดๆล้วนสามารถชักนำจิตยึดติดของคนได้  สิ่งใดๆล้วนสามารถทำให้กลายเป็นอุปสรรคในการบำเพ็ญของคนได้ อย่าได้เกิดจิตใดๆขึ้นมา   อาจารย์เคยบอกแล้วว่า   ท่านไม่อาจมองเห็นภาพจริงทั้งหมดของจักรวาลได้อย่างเด็ดขาด  เพราะเทพระดับต่ำเหล่านั้นก็มองไม่เห็น   อย่าว่าแต่ท่านที่มีร่างคนอยู่   ต่อให้ชีวิตในโลกเหล่านั้นจะพูดว่าท่านยอดเยี่ยมอย่างไร   เมื่อยังไม่หยวนหมั่น อะไรก็ไม่ใช่ทั้งนั้น   บางทีท่านเคยเป็นชีวิตของที่นั่น  หรือเคยเป็นราชาของพวกมัน  ก็เพียงเท่านี้  เพราะขณะนี้ท่านคือคน  และกลับไปไม่ได้  ขั้นตอนทั้งหมดของการบำเพ็ญยังเดินไม่จบหรือการบำเพ็ญล้มเหลวก็กลับไปไม่ได้  ดังนั้นอย่าได้มีจิตอะไร ผู้ที่มีเจิ้งเนี่ยนพอ ให้ทำเรื่องที่ตนเองควรทำอย่างสง่าผ่าเผย จักรวาลนี้ใหญ่โตเหลือเกิน

              บางคำพูดพอมาถึงปาก ข้าพเจ้าก็ไม่คิดจะพูด   เกรงว่าจะชักนำความคิดเชื่อมโยงมากมายของพวกท่าน  และจะถามเพราะอะไร เพราะอะไร  และจะค้นหาสืบเสาะ  จะชักนำจิตยึดติดบางอย่างได้   ที่จริงอาจารย์ขอบอกพวกท่าน  จักรวาลของพวกเรา  ข้าพเจ้าพูดถึงจักรวาลที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเรา  จักรวาลที่ใหญ่มหึมาไร้ที่เปรียบนี้ ที่จริงข้าพเจ้าทำเสร็จตั้งนานแล้ว   อาจารย์ ณ ที่สูงนั้นหวนคืนสู่ตำแหน่งตั้งนานแล้ว   จักรวาลของพวกเรางดงามอย่างไร้ที่เปรียบแล้ว  เมื่อข้าพเจ้าทำทุกสิ่งนี้เสร็จหมดแล้ว    ข้าพเจ้าคิดจะดำเนินการก้าวต่อไป      แต่กลับพบว่าโลกชั้นผิวยังสลัดออกมาไม่ได้ เพราะอะไรละ  จักรวาลของเรานี้  ใหญ่มหึมาจนไม่มีทางที่จะจินตนาการได้  ชีวิตในขอบเขตเล็กๆอันหนึ่งมีมากจนนับไม่ถ้วน  ร่างนภาที่ใหญ่มโหฬารไม่มีทางที่จะพรรณนาได้  ดังนั้นช่วงหลังเมื่อบรรยายฝ่า  ข้าพเจ้าจึงไม่บอกพวกท่านว่าจักรวาลใหญ่แค่ไหน   ยิ่งทำช่วงหลังยิ่งใหญ่ขึ้น  ความคิดภาษาของคนไม่มีทางไปอธิบายมันได้เลย  เมื่อเจิ้งฝ่าถึงจุดสุดท้ายข้าพเจ้าพบว่า  สิ่งเหล่านั้นที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับจักรวาลของเรา  ชีวิตในร่างนภาอื่นพบว่าจักรวาลของเราถูกสร้างไว้ดีอย่างนี้   เหมือนกับอัญมณี  หรือร่างวัชระที่เปล่งแสงแวววาวในจักรวาล  ใครก็เห็นว่างาม  ล้วนอยากได้ฝ่านี้  ล้วนต้องการได้รับฝ่านี้ (เสียงปรบมือ) 

เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยพูดถึงแนวคิดของจักรวาลให้กับพวกท่าน  มีกี่ทางช้างเผือกประกอบขึ้นเป็นขอบเขตหนึ่ง ขอบเขตนี้ก็คือ จักรวาลน้อยที่เราพูดกัน   จักรวาลเหล่านี้กี่ร้อยล้านจึงประกอบขึ้นเป็นจักรวาลชั้นที่สอง  สุดท้ายระบบจักรวาลของเราใหญ่เพียงไร   หนึ่งกัลป์ของจักรวาลที่มหึมาเรียกเป็นขอบเขตหนึ่ง   เมื่อนำหนึ่งกัลป์เรียงรายจนถึงหนึ่งกัลป์ของกัลป์   นำหนึ่งกัลป์ของกัลป์มาอธิบายเป็นโมเลกุลหนึ่งของอากาศ   เต็มไปหมดทั้งหอประชุมล้วนเป็นอณูอย่างนี้  จักรวาลที่มากมายเช่นนั้น  ก็เป็นเพียงหนึ่งอณูเล็กๆที่มองไม่สะดุดตาของมิติหนึ่งของจักรวาล  ในการเจิ้งฝ่าเมื่อข้าพเจ้าทำไปจนถึงสุดท้าย  มองเห็นรูปแบบของชีวิตก็ไม่เหมือนอย่างที่ชีวิตข้างล่างสามารถรับรู้ได้เช่นนั้น  หลักการที่เลื่อนสูงขึ้นนั้น เทพระดับชั้นต่ำก็ไม่มีทางจะเข้าใจได้เลย   พอถึงเขตแดนนั้น  สภาพการณ์นั้นแล้ว  สุดท้ายพบว่า นี้ยังเป็นเพียงฝุ่นละอองเม็ดหนึ่งของจักรวาล

             ข้าพเจ้าทราบอย่างลึกซึ้งว่า  กล่าวสำหรับชีวิตหนึ่ง  ไม่ว่าจะอยู่ในเขตแดนไหนก็เหมือนกันทั้งนั้น  คือล้วนรู้สึกถึงความงดงามของชีวิต แน่ละยกเว้นสามภพ  กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  การบรรลุภารกิจของท่านเอง  ในการบำเพ็ญของท่านช่วยเหลือชีวิตที่ท่านควรช่วยเหลือในเขตแดนที่ท่านอยู่  จากในหมู่คน ช่วยเหลือชีวิตที่ตัวท่านต้องช่วยเหลือให้หลุดพ้น บรรลุความรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่า  หลังจากหวนคืนกลับไป ท่านจะรู้สึกถึงความมีเกียรติและโชคดีอย่างหาที่เปรียบมิได้  และจะรู้สึกว่าขอบเขตของจักรวาลของท่านใหญ่โตมโหฬารอย่างเหลือหลาย ทุกสิ่งนี้ในฐานะเทพองค์หนึ่ง   จะไม่มีความอยากของความไม่พอใจชนิดนั้นของคน  ไม่ใช่สภาวะของคนแล้ว   เทพองค์หนึ่งไม่ว่าจะอยู่ในเขตแดนไหน  ท่านเปลี่ยนเขตแดนหนึ่งที่สูงขึ้นให้เขา เขากลับจะไม่ดีใจนะ  เขารู้สึกว่าที่นั่นไม่เกี่ยวข้องกับฉัน  จะไม่เป็นความคิดของคน  ร่างนภาจักรวาลอันมหึมานั้น  ใหญ่จนไม่อาจจะจินตนาการได้   ข้าพเจ้าเพียงแต่พูดกับพวกท่านถึงแนวคิดของความมหึมานี้    อย่าได้คิดเพ้อเจ้อไป  ซึ่งไม่มีประโยชน์  เพราะมันนั้นใหญ่เหลือเกินแล้ว 

บางครั้งข้าพเจ้าคิดว่า  กล่าวในฐานะชีวิตหนึ่ง  ดูไปช่างกระจิดริดนัก   แต่กลับมีเรื่องราวของชีวิตของตนเองด้วยกันทั้งนั้น  บ้างก็อาดูร  ยอกย้อน  สบายอกสบายใจ  ปวดร้าว  เมตตา  ดีงาม  และล้วนแต่มีจุดเด่นที่ต่างกันของชีวิต  ข้าพเจ้าเห็นค่าของพวกมันมาก  แต่สำหรับราชาของจักรวาลในระดับชั้นที่ต่างกันนั้น  กล่าวสำหรับเทพที่ใหญ่ยิ่งขึ้นของระดับชั้นที่ต่างกัน  พวกมันไม่เห็นความสำคัญของชีวิตระดับต่ำ  นั่นกำหนดโดยสภาพการณ์   พวกมันเห็นความสำคัญเฉพาะมาตรฐานโดยรวม  กล่าวสำหรับชีวิตหนึ่งๆหรือกลุ่มชีวิตในขอบเขตที่ใหญ่นั้น ล้วนไม่ใส่ใจ  เพราะมันนั้นใหญ่โตเหลือเกิน  ขณะนี้ข้าพเจ้าได้ทำทุกสิ่งในระหว่างการเจิ้งฝ่าเสร็จหมดแล้ว   ทุกสิ่งล้วนแต่สำเร็จรูป  ในร่างนภาอื่นพวกมันก็ไปทำตาม  แต่ว่าเวลาทั้งหมดของการเจิ้งฝ่าไม่อาจจะเลื่อนออกไปได้  ถึงเวลาที่ควรสิ้นสุดก็จะสิ้นสุดแล้ว    

             ช่วงก่อนหน้าเนื่องจากมีศิษย์ต้าฝ่าบางคนยังไม่ได้ก้าวออกมา  จำเป็นต้องรอคอย  พยายามเรียกให้พวกเขาก้าวออกมา  เวลายิ่งน้อยลงเรื่อยๆแล้ว   เมื่อข้าพเจ้ามองเห็นผู้ฝึกที่ออกมาจากจีนแผ่นดินใหญ่   จึงกำชับพวกเขาให้เรียกผู้ฝึกเหล่านั้นที่ไม่ได้ก้าวออกมาให้รีบก้าวออกมา  ผู้ฝึกเหล่านั้นที่หลงทาง  รีบไปหาพวกเขาอธิบายความจริงให้ฟัง  หาไม่แล้วพวกเขาจะเผชิญกับจุดจบที่น่าเวทนาที่สุด  การบำเพ็ญใช่ไหม  ไม่ใช่การละเล่น  โดยเฉพาะคือศิษย์ต้าฝ่า  ที่แบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่อย่างนั้น  ในภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของชีวิตนับไม่ถ้วน  ท่านว่าเรื่องนี้ไม่ใหญ่หรือ   ใหญ่มาก   ที่ปรากฏออกมาในโลก ก็คือการอธิบายความจริงเอย  ยับยั้งการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายเอย  เวลาที่ทำได้ไม่ดียังจะใช้ใจคนไปประเมิน  โลกนี้ก็คืออยู่ในวังวน  สภาวะของผู้บำเพ็ญก็คือบำเพ็ญอยู่ท่ามกลางความเชื่อกับไม่เชื่อ  ถ้าสามารถถือว่าตนเองเป็นผู้บำเพ็ญได้จริง  ทำเรื่องของตนให้ดีอย่างจริงๆจังๆ และมีเจิ้งเนี่ยนเพียงพอมาก  นั้นช่างยอดเยี่ยมเหลือเกินแล้ว  เพราะนี้กำหนดโดยสภาพการณ์ของโลกมนุษย์  ถ้าอยู่ที่นี่ทำอะไรๆเหมือนกับเทพไม่มีผิด  นั่นก็ไม่นับแล้ว  เช่นนั้นบอกให้เทพเซียนบนโลกเหล่านั้นที่อยู่บนเขาออกมาทำก็จบเรื่องแล้ว  หรือพอเริ่มต้นก็ให้ศิษย์ต้าฝ่าเปิดพลังกงมาทำก็เสร็จเรื่องแล้ว  นั่นใช้ไม่ได้  ทำอย่างนั้นก็ไม่นับแล้ว   ต้องช่วยคนท่ามกลางวังวน  สังคมมนุษย์นั้นอยู่ในวังวน  ก็ต้องไปช่วยคนตามรูปแบบสภาวะของสังคมมนุษย์  นี้คือเมื่อตอนที่สร้างโลกก็สร้างโดยมีเป้าหมายอยู่

   อาจารย์พูดมากมายอย่างนี้  ไม่รู้ว่าพวกท่านฟังเข้าใจมากน้อยแค่ไหน (เสียงปรบมือกึกก้อง)  มีบางเรื่องไม่เหมือนกับที่คนคิดกันจริงๆ   ในระหว่างที่กุเรื่องเท็จสิ่งชั่วร้ายพูดว่า  อาจารย์ของพวกคุณมีความสามารถมากนะ  ทำไมไม่ทำอย่างนี้ ไม่ทำอย่างนั้นละ  ข้าพเจ้าทำได้  แต่ว่า ข้าพเจ้าก็ทำไม่ได้  ข้าพเจ้ามาช่วยสรรพชีวิต  สรรพชีวิตที่ไม่ดียิ่งกว่านี้ ข้าพเจ้าก็จะให้โอกาสแห่งวาสนากับท่านได้  ท่านเปลี่ยนเป็นไม่ดีไปแล้ว  ท่านกล้าพูดคำพูดอย่างนี้  ก็เพราะว่าสังคมเสื่อมถอย  องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายที่อยู่เบื้องหลังทำให้ท่านพูดอย่างนี้   กล่าวสำหรับชีวิตหนึ่ง  ข้าพเจ้าเวทนาท่าน เมตตาต่อท่าน  ข้าพเจ้าต้องให้โอกาสแห่งวาสนาแก่ท่าน  ข้าพเจ้าไม่อาจทำอย่างนั้น  แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น  ข้าพเจ้าก็จะต้องทำอย่างนั้นแน่นอน  ที่จริงเทพเหล่านั้นก็จะไปทำกันแล้ว  พวกมันมองเห็นสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นแล้วก็รอไม่ไหวอีกแล้ว  และไม่ต้องให้ข้าพเจ้าไปทำ

              หลายปีมานี้ เส้นทางที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินผ่านมา  อาจารย์พอใจอย่างมากจริงๆ   แน่ละ  ผู้ที่ไม่ได้เดินให้ดี  หรือไม่ได้ออกมานั้น  ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าเขาเป็นศิษย์ต้าฝ่า  พูดว่าปัจจุบันคนที่สามารถก้าวข้ามมา  สามารถทำได้นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ นั่นคือการปฏิเสธการรบกวนของอิทธิพลเก่า  ไม่ศิโรราบในท่ามกลางความชั่วร้าย  ไม่ได้ล้มคว่ำไประหว่างการประทุษร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่าอย่างโหดร้ายชนิดนี้ตามที่เรียกว่าเป็นการทดสอบ ซึ่งไม่เคยมีแบบอย่างมาก่อนในประวัติศาสตร์ครั้งนี้  ในขณะเดียวกันก็ฝึกฝนศิษย์ต้าฝ่า   จะเป็นทุกข์ภัยก็ดี  การประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายก็ดี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรพวกท่านได้ก้าวข้ามมาแล้ว   ก้าวข้ามมาได้จริงๆ  ส่วนที่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดการทำลายร่างรวมของศิษย์ต้าฝ่าได้แล้ว  เพียงแต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินให้ดี  มีบางพื้นที่ยังคงมีการทดสอบต่อพวกเขา  เมื่อสิ่งชั่วร้ายเห็นว่ามีใจคนอยู่มันก็จะอาศัยในการทำเรื่องไม่ดี  อิทธิพลเก่ารู้สึกว่าสมควรจะทำเช่นนี้   ขณะช่วยเหลือสรรพชีวิต ยังต้องปฏิเสธการรบกวนชุดนั้นของอิทธิพลเก่าด้วย   ตลอดทางก็ผ่านกันมาอย่างนี้  ในระหว่างการคัดค้านการประทุษร้าย ช่วยเหลือสรรพชีวิต สร้างความสำเร็จให้ศิษย์ต้าฝ่า    จงเดินเส้นทางช่วงสุดท้ายของตนให้ดีเถิด

ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน จงเห็นค่าสิ่งที่พวกท่านก้าวผ่านมา  เคยทำมา  วันเวลาเหล่านั้นของการยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ประวัติศาสตร์ได้ผ่านไปแล้ว  พอผ่านไปแล้วก็ไม่หวนคืน   ถ้าจะคิดสร้างสภาพแวดล้อมที่น่ากลัวอย่างนั้นขึ้นมาฝึกฝนศิษย์ต้าฝ่าอีก  ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว  เพราะไม่มีสิ่งชั่วร้ายมากอย่างนั้นแล้ว  ในระหว่างการเจิ้งฝ่านั้น ขั้นตอนของจังหวะก้าวที่มุ่งไปข้างหน้าทีละชั้น ทีละชั้น ไม่หยุดหย่อนในการทำลายองค์ประกอบเหล่านี้จำนวนมากของสิ่งชั่วร้าย จักรวาลใหม่กำลังประกอบขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง   ศิษย์ต้าฝ่าหนา  คนที่ทำได้ดี  ในขอบเขตกับพื้นที่ที่แบกรับ  ก็กำลังดับสลายสิ่งชั่วร้ายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นองค์ประกอบเหล่านี้ของสิ่งชั่วร้าย คิดที่จะก่อให้เกิดผลกระทบที่มากมายอะไรอีก  ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

           ทุกท่านทราบ  ในสังคมนั้นของประเทศจีน  ผู้คนกำลังด่าพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนอยู่ พวกท่านทราบไหมเพราะอะไร พวกเราที่มีอายุมากล้วนทราบดี ในอดีตใครกล้าด่าพรรคชั่วละ  ปัจจุบันผู้คนต่างกล้าด่า  เพราะองค์ประกอบที่ชั่วร้ายของพรรคชั่วน้อยลงจนเกือบจะหมดไปแล้ว เมื่อตอนเริ่มต้นประทุษร้ายนั้น  ความหนาแน่นที่ครอบคลุมนั้นสูงมาก มันเฝ้าดูคนอยู่ กระทั่งแทนที่คน  ใครกล้าพูดว่าพรรคชั่วไม่ดีหรือ  ท่านอยู่ในห้องน้ำปิดประตูไว้ก็ไม่กล้าพูดเบาๆว่าพรรคชั่วไม่ดี  ท่านต่างรู้สึกว่าน่ากลัว ก็เพราะองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายกำลังมีบทบาทอยู่ องค์ประกอบที่ชั่วร้ายเหล่านี้ถูกทำลายเป็นปริมาณมากจนถึงที่สุดแล้ว  คนที่ยังมีสำนึกที่ถูกต้องก็กล้ายืนขึ้นมาพูดแล้ว  ผู้คนพอเห็นพรรคชั่วประทุษร้ายคนก็กล้าด่ามันแล้ว   เพราะไม่มีองค์ประกอบที่ชั่วร้ายมากมายอย่างนั้นแล้ว  หรือพูดได้ว่าสภาพแวดล้อมที่น่ากลัวนั้นหมดไปแล้ว สภาพแวดล้อมนี้ที่อิทธิพลเก่าสร้างขึ้นประทุษร้ายผู้บำเพ็ญ  สภาพแวดล้อมของการฝึกฝนศิษย์ต้าฝ่าหมดไปเรื่อยๆแล้ว   ไม่พอที่จะทดสอบศิษย์ต้าฝ่าได้แล้ว   เมื่อไม่พอที่จะก่อให้เกิดแรงกดดันในระหว่างการช่วยเหลือสรรพชีวิต เรื่องนี้ก็จะจบสิ้นลงแล้ว ไม่ต้องให้อาจารย์พูด พวกท่านก็มองเห็นได้แล้ว   สถาน การณ์นี้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่ง   ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเถอะ   ผู้บำเพ็ญก็คือผู้บำเพ็ญ  เรื่องเหล่านั้นทางการเมืองของคนธรรมดาสามัญ ไม่ต้องไปเข้าร่วม   ใครทำเรื่องที่ดีต่อต้าฝ่า  เทพก็จะรับรองเขา   แน่ละศิษย์ต้าฝ่าก็สามารถมองเห็นได้  นั้นคือเขากำลังบุกเบิกอนาคตให้ตนเอง  

              ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้  ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือกึกก้องยาวนาน)

              อาจารย์จะเพิ่มเติมอีกสักหน่อย   รูปลักษณ์ของอาจารย์ที่พวกท่านมองเห็นก็คือคน เป็นรูปกายคนทั้งหมด เป็นอวัยวะของคนทั้งหมด   เหมือนกับคนทุกประการ  แต่ว่านะ   ร่างกายของอาจารย์ที่อยู่ในจักรวาลแต่ละชั้น ล้วนสอดคล้องกับรูปลักษณ์ของชีวิตในจักรวาลของแต่ละระดับชั้น   อยู่ที่นี่ก็เป็นอย่างนี้   ข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านว่า  แม้ว่าที่นี่ คือที่ของคน  แต่ส่วนที่เป็นหลักที่สุดของอาจารย์อยู่ที่นี่  ดังนั้นที่นี่จึงกลายเป็นศูนย์กลางของการเจิ้งฝ่าทั่วทั้งจักรวาล  อิทธิพลเก่าเหล่านั้นก็ดี  ชีวิตนั้นที่เราจะช่วยเหลือก็ดี  ร่างนภาเหล่านั้นที่ใหญ่มหึมาในจักรวาล ซึ่งคิดจะได้รับการช่วยเหลือ ต่างคิดจะแทรกเข้ามา   เพื่อความปลอดภัย ชีวิตจริงของชีวิตที่ยังไม่ถูกฝ่าปรับจนเสร็จล้วนเก็บไว้กับข้าพเจ้าที่นี่  อณูทุกๆชั้นของข้าพเจ้าจนถึงเซลล์ชั้นผิวกำลังห่อหุ้มชีวิตพวกมันไว้ แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  อาจารย์จะปรากฏออกมาเหมือนกับคน  ไม่ว่ากับใครก็จะไม่เป็นเหมือนเทพ  นอกเสียจากก่อนการเจิ้งฝ่าจะสิ้นสุดลง  ถ้าหากขณะนี้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนเทพ  ก็จะทำลายสภาพแวดล้อมของพวกท่าน ก็จะทำลายวังวนที่พวกท่านต้องรับรู้ในระหว่างการบำเพ็ญ  บรรดาสิ่งที่พวกท่านทำ  การบำเพ็ญของพวกท่านในภายหน้าก็ไม่นับแล้ว  ก็จะทำลายทุกสิ่งนี้   สรรพชีวิตก็ไม่อาจจะได้รับการช่วยเหลือ   ดังนั้นพวกท่านอย่าใช้ใจคนไปประเมินฝ่า  อย่าใช้ความคิดของคนมองอาจารย์   ฝ่าชุดนี้ที่อาจารย์ถ่ายทอด  สามารถทำให้พวกท่านสามารถบำเพ็ญ  พวกท่านก็จงบำเพ็ญอยู่ในฝ่าชุดนี้  ใช้ฝ่าชุดนี้มาเปรียบเทียบปฏิบัติตาม   ฝ่านั้นไม่มีอะไรผิด   ฝ่ามีชั้นผิวนอกสุดที่เป็นตัวอักษรของคน  เป็นโครงสร้างตัวอักษรของคน  แต่จะไม่จำกัดอยู่ที่ชั้นผิวนี้แน่นอน  ทุกๆชั้น ทุกๆชั้น มีความนัยของฝ่าอยู่

               ขอบใจทุกท่าน (ทั่วหอประชุมปรบมือกึกก้องยาวนาน)