การบรรยายฝ่าที่นิวยอร์ก

หลี่ หงจื้อ  

5  กันยายน ค.ศ. 2010  แมนฮัตตัน

 

(ทั่วทั้งหอประชุมปรบมือกึกก้อง)

              สวัสดีทุกท่าน     ( เหล่าศิษย์ต้าฝ่า- สวัสดีท่านอาจารย์  ปรบมือเสียงกึกก้อง ) ทุกท่านลำบากกันแล้ว ( เหล่าศิษย์-ท่านอาจารย์ลำบากแล้ว) นี่เป็นการประชุมขนาดใหญ่ครั้งหนึ่งที่ยากจะมีได้   ครั้งนี้ผู้ฝึกที่มากันก็ค่อนข้างมาก  ข้าพเจ้าได้ยินว่ามีผู้ฝึกเต็มทั้งสองห้องประชุม   พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบปีแล้ว  ไม่ว่าจะประทุษร้ายอย่างไร ก็เป็นเพียงการฝึกฝนศิษย์ต้าฝ่าให้สุกงอมแล้วเท่านั้น    ศิษย์ต้าฝ่าประสบกับการทดสอบที่ชั่วร้าย โหดเหี้ยม และก้าวผ่านมาได้แล้ว  ไม่ว่าการประทุษร้ายจะชั่วร้ายเพียงไร    พวกท่านยังคงแจ่มชัดมากในเรื่องที่ตนเองทำ ในระหว่างการอธิบายความจริง  ช่วยเหลือสรรพชีวิต  ยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ศิษย์ต้าฝ่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของคนธรรมดาสามัญ  พวกเราไม่สนใจอำนาจการเมือง   นี่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งเท่านั้น   แต่เพื่อที่จะประทุษร้ายฝ่าหลุนกง  ประทุษร้าย ประชาชนกลุ่มนี้ที่ดีงามซึ่งบำเพ็ญ “เจิน ซั่น เหริ่น”ผู้ประทุษร้ายไม่ใส่ใจว่าจะทำลายศีลธรรมของมนุษย์   ทำการเผยแพร่สิ่งที่เลวที่สุดเหล่านั้นของสังคมมนุษย์ คือความเท็จ  ความชั่วร้าย ความรุนแรง  กามารมณ์ มาต่อต้านฝ่าหลุนกง  หรือพูดได้ว่า แม้ว่าเราไม่สนใจการเมือง   เราไม่ต้องการอำนาจในมือคน   เพียงต้องการสภาพแวดล้อมที่สามารถบำเพ็ญ  มีเสรีภาพในการเชื่อถือต้าฝ่า  ก็เพียงพอแล้ว  แต่ผู้ประทุษร้ายก็ใช่ว่าจะประทุษร้ายอย่างไร้สติเสียทั้งหมด  มันรู้ชัดมากว่าคนกลุ่มนี้ต้องการเป็นคนดี    อำนาจรัฐพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนไม่สอนให้คนเป็นคนดี   นับตั้งแต่วันนั้นที่มันเริ่มต้นทางการเมืองก็เป็นการก่อตั้งประเทศของอันธพาล   ตลอดทางล้วนแต่ใช้คำลวง ใช้เรื่องเท็จมาหลอกลวงประชาชน  ใช้ความรุนแรงมาเผด็จการ  เป็นอำนาจรัฐที่ก่อตั้งขึ้นมาอย่างนี้  ตลอดทางที่ผ่านมาล้วนแต่อาศัยการสร้างเรื่องเท็จกับความรุนแรงปราบปราม  แทบจะทุกเรื่องที่โฆษณาชวนเชื่อและปราบปรามล้วนเป็นเรื่องเท็จ    ความสำเร็จทางการเมืองของมันล้วนเป็นเท็จ   วีรบุรุษที่มันโฆษณาชวนเชื่อล้วนจอมปลอม  คนเลวที่มันโจมตีล้วนเป็นเรื่องเท็จ   อิทธิพลที่เป็นปฏิปักษ์ที่มันโฆษณาชวนเชื่อเป็นเรื่องเท็จ    วีรบุรุษที่มันตั้งขึ้นมาเป็นของปลอม   เปลือกนอกของการแสดงออกที่ดูโอ่อ่าสง่างามก็เป็นของปลอม  ชาวโลก  โดยเฉพาะชาวจีน ยิ่งมองเห็นโฉมหน้ามันได้ชัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว

   เช่นนั้นจึงพูดได้ว่า  ในระหว่างการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง  เพื่อที่จะประทุษร้ายคนกลุ่มนี้  และสามารถทำให้ฝ่าหลุนกงถูกตีล้มคว่ำไป มันจึงยุยงพวกชั่วร้ายเหล่านั้น แสดงพฤติกรรมที่เลวทรามต่อต้าน “เจิน ซั่น เหริ่น”  คุณค่าสากลนี้  ทำให้สิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ในสังคมกำเริบเสิบสานอย่างเหลือล้น  ยิ่งนานยิ่งไม่อาจจะหยุดได้ สิ่งชั่วร้ายเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปหมด  ในทางกลับกันก็คุกคามต่ออำนาจการเมืองของมันเอง    เวลานี้มันคิดจะจัดการก็ทำไม่ไหวแล้ว  หรือพูดได้ว่า   การประทุษร้ายฝ่าหลุนกงทำให้ตัวมันถูกประทุษร้ายล้มคว่ำลงไปแล้ว  ขณะนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของขั้นตอนนี้    เมื่อแรกเริ่มข้าพเจ้าเคยพูดไว้ว่า  สุดท้ายการจบสิ้นอย่างไร้เกียรติของพรรคมารนี้ไม่ใช่ถูกคนตีคว่ำลง   แต่เป็นกรรมสนองของการทำชั่ว  เป็นผลกรรมของมันเอง   ศิษย์ต้าฝ่า เมื่อพูดจากตรงนี้ของพวกท่าน  ตนเองก็ต้องชัดเจนมาก แจ่มแจ้งมาก ว่าตนเองกำลังทำอะไร   เดินผ่านมาแล้วเส้นทางหนึ่ง  แต่ไหนแต่ไรมาข้าพเจ้าไม่เคยแก้ไขหลักการของพวกท่านที่เป็นผู้บำเพ็ญ   ดังนั้นพวกเราผู้ฝึกบางคนก็อย่าได้เลอะเลือน อย่าใช้ใจคนคิดเพ้อเจ้อ

     การประกอบขึ้นของสามภพทั้งหมดนั้น  เมื่อตอนเริ่มต้นสร้างโลกขึ้นมา  สุดท้ายล้วนแต่เพื่อเรื่องนี้    ปรากฎการณ์นี้ในมนุษย์คือคนดีกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยเหลือชาวโลก  ชักนำสังคมให้หันไปสู่ด้านที่ดี  กำลังกอบกู้โลกนี้ กอบกู้มนุษยชาติ  แต่ในจักรวาลคือการเจิ้งฝ่า  เกี่ยวพันกับสรรพชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน กับจักรวาลอันมหึมา กับร่างนภานับไม่ถ้วน ดังนั้นกับเรื่องเล็กๆอย่างผลประโยชน์เอย  การเมืองของมนุษย์เอย  สิ่งเล็กๆแค่นั้นจึงไม่อาจจะเปรียบกันได้  แต่ศิษย์ต้าฝ่ามาอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญทำเรื่องนี้  ก็ได้แต่อาศัยต้าฝ่ามาแยกแยะถูกผิด พอเข้าสู่โลกียโลกก็อยู่ในวังวนแล้ว  ดังนั้นใครๆก็ไม่อาจมองเห็นภาพที่แท้จริง  ได้แต่อาศัยฝ่าชุดนี้มาชี้นำทุกท่านว่าควรทำอย่างไร    ดังนั้นหลายปีนี้ของการปฏิบัติที่เป็นจริง ก็ได้พิสูจน์ชัดแล้วว่าศิษย์ต้าฝ่าที่ศึกษาฝ่าได้ดีก็จะไม่หลงทิศทาง   ไม่ว่าสังคมนี้จะซับซ้อนอย่างไร  สถานการณ์ที่ปรากฏออกมาจะผันแปรไปร้อยแปดพันอย่าง  จิตใจคนนานาชนิด  วิธีคิดของคนนานาชนิด  สิ่งต่างๆนานาที่มีผลกระทบต่อจิตยึดติดของคนและสิ่งยั่วยวน  ทุกสิ่งที่ปรากฏในใจล้วนกำลังรบกวนผู้บำเพ็ญ   แต่หากสามารถปฏิบัติตามฝ่าชุดนี้ได้จริงๆ   ท่านก็จะไม่ถูกมายาภาพเหล่านี้ทำให้งุนงง

   ศิษย์ต้าฝ่าใช่ไหม   หลายปีมานี้ทางที่พวกเราเดินผ่านมา  ควรต้องหันกลับไปดูด้วยใจสงบ  เรื่องมากมายนั้นดูๆไปคล้ายไม่มีลำดับ  แต่ที่จริงล้วนมีลำดับ   ประวัติศาสตร์ในช่วงสุดท้ายที่เหลือไว้ให้กับการเจิ้งฝ่า แต่ละก้าวละก้าวนั้นยืดยาวออกไปเพื่อพวกท่าน   ข้าพเจ้าจำได้ว่าก่อนที่ศิษย์ต้าฝ่าจะถูกประทุษร้ายก็อยู่ที่นี่เปิดฝ่าฮุ่ยที่ใหญ่   ในเวลานั้นผู้ฝึกที่มานั้นมากเหลือเกิน  ขณะนี้ทุกท่านมิใช่ก็มากันแล้วหรือ   สิ่งชั่วร้ายยิ่งถูกคนมองเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ   ที่แท้ศิษย์ต้าฝ่าเป็นอย่างไร      ฝ่าหลุนกงเป็นอย่างไรนั้น ก็จะถูกชาวโลกมองเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ   ใครที่เที่ยงธรรม ใครที่ชั่วร้าย ใครดีใครเลว   คำกล่าวโทษที่ไม่มีมูลเหล่านั้น   การใส่ร้ายป้ายสีเหล่านั้น  ล้วนจะถูกชาวโลกมองเห็นได้ชัดเจน อำนาจการเมืองอันธพาลที่ชั่วร้ายนั้น เพื่อที่จะตีใครให้คว่ำลง ก็จะสร้างคำกล่าวโทษให้ผู้นั้น  นี่คือวิธีการหนึ่งที่เคยชินของมัน  ขณะนี้กำลังถูกเปิดโปงออกมาทีละอย่างๆ  การรณรงค์ที่ทำกันในประวัติศาสตร์ของคอมมิวนิสต์จีนนั้น ล้วนแต่ใช้วิธีการอันธพาลอย่างเดียวกันนี้  ก่อนอื่นจะสร้างข่าวลือชุดหนึ่งขึ้นมาให้กับผู้ที่ถูกประทุษร้าย สื่อมวลชนทำการวิพากษ์วิจารณ์พร้อมๆกันช่วงหนึ่ง  ปลุกปั่นอารมณ์ของประชาชน  จับมัดประชาชนให้เข้าร่วมกับเรื่องนี้   จากนั้นก็ตีเขาให้คว่ำลงไป  นี่ก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า การเคลื่อนไหวมวลชน    แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผลเสียแล้ว  ใช่ละ  จักรวาลกำลังเจิ้งฝ่า  ปวงเทพในจักรวาลกำลังเฝ้ามองอยู่  บรรดาพระพุทธ เต๋า เทพก็กำลังเข้าร่วม  จะยอมให้คนชั่วกลุ่มหนึ่งทำตามอำเภอใจได้หรือ  เพียงแต่อาศัยพรรคมารที่บ้าระห่ำนี้มาทดสอบศิษย์ต้าฝ่า ขจัดจิตยึดติดของศิษย์ต้าฝ่าเมื่ออยู่ต่อหน้าความเป็นตาย  จากนั้นทำให้ศิษย์ต้าฝ่าหยวนหมั่นเท่านั้นเอง   ร่อนคนเหล่านั้นที่ไม่อาจเป็นศิษย์ต้าฝ่าออกไป  ก็เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเช่นนี้  แต่ในระหว่างขั้นตอนนี้  ก็ยากที่จะเห็นได้ชัดว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร  เช่นนั้นใครที่อยู่ในวังวน  ใครที่อยู่ในขั้นตอนนี้ผู้นั้นจึงจะรู้ว่ายาก   ที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดไปนั้นก็เป็นการบอกทุกท่านว่า  ศิษย์ต้าฝ่านั้นยอดเยี่ยม   ในระหว่างการประทุษร้าย พวกท่านได้ก้าวข้ามมาแล้ว  แต่มีบางคนอย่าได้หลงทิศทางไปเสีย   ต้องแจ่มแจ้งว่าตนเองทำอะไร

มีอีกเรื่องหนึ่ง   ข้าพเจ้าจะขอพูดสักหน่อย  ก็คือศิษย์ต้าฝ่าของเราถูกประทุษร้ายอยู่ตั้งหลายปี และกำลังเปิดโปงการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่อง  ให้ชาวโลกมองเห็นคำใส่ร้ายป้ายสีที่ยัดเยียดให้ในระหว่างการประทุษร้าย   ที่จริงนี้เป็นการช่วยเหลือชาวโลก  เพราะผู้ที่ถูกประทุษร้ายอย่างแท้จริงไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า หากแต่เป็นชาวโลก   ข้าพเจ้าได้พูดคำนี้ไว้ตั้งนานแล้ว  ศิษย์ต้าฝ่าเพียงแต่อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักชนิดนี้   เป็นขั้นตอนของการก้าวสู่หยวนหมั่นท่ามกลางการทดสอบความเป็นตายอย่างแท้จริง   ในอดีตการประทุษร้ายศาสนาที่ถูกต้อง ล้วนมิใช่เป็นวิธีการอย่างนี้หรือ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดไว้  ข้าพเจ้าว่ามนุษยชาติมักไม่จดจำบทเรียนด้านบวก  มักจะจดจำบทเรียนด้านลบ  ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดไม่ว่าจะทุกข์ยากอย่างไรก็กำลังช่วยเหลือคนอยู่ ในแต่ละโครงการทุกท่านก็ล้วนกำลังทำเรื่องนี้กันอยู่  เพื่อให้การช่วยเหลือสรรพชีวิตและเปิดโปงการประทุษร้ายที่ชั่วร้ายบังเกิดผล  ศิษย์ต้าฝ่าจึงก่อตั้งโครงการอธิบายความจริงมากมาย  โครงการช่วยเหลือคน  มีทั้งที่ใหญ่หน่อย  มีทั้งที่เล็กหน่อย  มีสื่อ และมีที่ทะลวงการปิดกั้นทางอินเตอร์เนต  และมีที่อยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ  ในสังคมระดับต่างๆโดยอาศัยรูปแบบนานาชนิด ยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ช่วยเหลือสรรพชีวิต  ที่ทุกท่านทำล้วนยอดเยี่ยม  เพื่อให้สามารถจะเกิดประโยชน์ยิ่งขึ้นได้ผลอย่างพร้อมมูล  นี่ล้วนเป็นการจัดตั้งขึ้นมาเองของศิษย์ต้าฝ่า   ก่อตั้งโครงการช่วยเหลือคนที่ได้ผลมากหลายโครงการ   ณ ที่นี้  อาจารย์ขอรับรองกับทุกท่าน  ขอเพียงอาจารย์ไม่ได้พูดว่าที่ท่านทำไม่ดีหรือไม่จำเป็น  เช่นนั้นท่านก็ไปทำ  ทำมันให้ดี  ขอเพียงสามารถช่วยเหลือคน  ท่านก็ไปทำ  ไม่ต้องให้อาจารย์ยืนยันกับพวกท่านทีละอย่างๆ

   ผู้บำเพ็ญในอดีตนั้น  ทุกท่านทราบว่ามีเป้าหมายที่การหยวนหมั่นส่วนบุคคลเป็นสำคัญ เรื่องใหญ่อย่างนี้ที่ปรากฏออกมาของการถ่ายทอดต้าฝ่าในประวัติศาสตร์ จะเป็นเรื่องเล็กได้หรือ  ฝ่าของจักรวาล  นำออกมาถ่ายทอดให้กับคน  นั่นจะเป็นผู้บำเพ็ญทั่วๆไปละหรือ  เมื่อยังทรงอยู่ในโลก สิ่งที่องค์ศากยมุนีถ่ายทอดนั้นคืออรหันต์ฝ่า ศาสนาพุทธนิกายมหายานเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาหลังจากองค์ศากยมุนีไม่ทรงอยู่ในโลกแล้ว  หากพูดอย่างเข้มงวด ก็คือสิ่งที่เบี่ยงเบน  หรือพูดได้ว่า  นั่นเพียงสามารถบำเพ็ญเป็นอรหันต์  แต่ศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่เป็นราชาที่ลงมาจากสวรรค์ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า เพราะจักรวาลจะเจิ้งฝ่าจึงมีสาเหตุมูลฐานที่ศิษย์ต้าฝ่ามีเกินจีใหญ่อย่างนี้ สรรพชีวิตบนโลกที่จะได้รับการช่วยเหลือก็ไม่ธรรมดา  ชีวิตโดยทั่วไปก็ไม่คู่ควรที่ต้าฝ่าของจักรวาลกับศิษย์ต้าฝ่าจะช่วยเหลือ   ชาวโลกในปัจจุบันมีจำนวนมากนั้น คือชีวิตบนสวรรค์ลงมาเกิดเป็นคน เบื้องหลังนั้นเชื่อมโยงกับสรรพชีวิตกลุ่มมหึมา   เช่นนั้นเรื่องหนึ่งที่ใหญ่อย่างนี้  นี่ย่อมไม่ใช่สิ่งที่คนบำเพ็ญทั่วๆไปจะสามารถทำได้   มรรคผลของการบำเพ็ญก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญทั่วไปสามารถบรรลุถึง  เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างนั้นที่ผู้คนในอดีตรู้จักกัน

   ข้าพเจ้าเคยพูดว่า  ศาสนาในอดีตก็ดี  ความเชื่อต่างๆนานาก็ดี  ยังมีวิธีการบำเพ็ญนานาชนิด   มันเป็นเพียงการวางรากฐานของการบำเพ็ญให้กับมนุษยชาติกับวัฒนธรรมของการรับรู้ต่อเทพนานาชนิด    ถ้าไม่มีคนเหล่านี้   วัฒนธรรมนี้  ที่เหล่าผู้รู้แจ้งเหล่านี้วางรากฐานไว้  คนปัจจุบันก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือการบำเพ็ญ  บนสวรรค์มีเทพ  เทพชนิดไหนกัน  มีพระพุทธ  มีเต๋า  และมีพระเยซู  พระยะโฮวา  เทพอย่างนี้ที่ผู้คนรู้จักกัน แน่ละยังมีเทพชนิดต่างๆมากมาย  พวกเขาได้วางรากฐานวัฒนธรรมให้คนรู้จักเทพ   ทำให้คนที่อยู่ในขั้นตอนของประวัติศาสตร์รับรู้ได้ว่าเทพเป็นอย่างไร  เทพปรากฏออกมาอย่างไร  อะไรคือการบำเพ็ญ  การบำเพ็ญมีรูปแบบใดบ้าง  จะบำเพ็ญได้อย่างไร หลังจากวางรากฐานวัฒนธรรมนี้แล้ว   วันนี้ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่าจึงง่ายขึ้นมากแล้ว  ข้าพเจ้าไม่ต้องไปพูดอีกว่า อะไรคือเทพ  อะไรคือการบำเพ็ญ  ทำอย่างไรจึงจะสามารถบรรลุถึงเขตแดนของเทพ   สิ่งที่ผิวเผินที่สุดจำนวนมากมาย   ข้าพเจ้าไม่ต้องพูดทั้งหมดแล้ว   หรือพูดได้ว่าพวกเราล้วนเข้าใจกันแล้ว  ล้วนรู้จักกันแล้ว  วัฒนธรรมนี้ได้วางรากฐานเอาไว้แล้ว  นี่ก็คือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เทพเหล่านั้นลงมาสู่โลก   แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว  ศิษย์ต้าฝ่าของวันนี้ตามทันการเจิ้งฝ่าของจักรวาล  หรือก็คือได้มาถึงจุดที่ว่า  ไม่ว่าที่ใครพูดก็ดี   คำพยากรณ์ก็ดี  หรือปรากฎการณ์บางอย่างที่คนที่มีความสามารถพิเศษล่วงรู้กัน   สภาพการณ์บางอย่างที่เข้าใจกันก็ดี  ก็คือมาถึงก้าวนี้แล้ว  ศิษย์ต้าฝ่าก็กำลังทำเรื่องสุดท้ายนี้อยู่

ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนล้วนยอดเยี่ยม  ระดับชั้นที่พวกเขามาล้วนไม่ธรรมดา ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ได้สร้างวัฒนธรรมของมนุษย์    คนที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์หลายคนล้วนอยู่ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า   ไม่ว่าเขาจะปรากฏออกมาในฐานะผู้รู้แจ้ง  หรือว่าปรากฏออกมาในฐานะผู้มีชื่อเสียงทางวัฒนธรรมหรือแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์กับราชาของชนชาติ   ขอเพียงในประวัติศาสตร์มีชื่อของเขาสืบทอดลงมา  คนๆนี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว    มีหลายอย่างเมื่อมองดูก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมแต่กลับไม่สามารถมีชื่อหรือเรื่องราวสืบทอดลงมา   นั่นคือสิ่งที่เทพไม่ให้สืบทอด  คนทั่วๆไปไม่มีคุณสมบัติพอจะเหลือสืบทอดไว้    เพราะประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โดยตัวมันเองนั้นก็สร้างขึ้นมาเพื่อการเจิ้งฝ่าและการยืนยันความถูกต้องของฝ่า   วัฒนธรรมกับปรัชญาอะไรของคนที่สืบทอดลงมาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ  ประวัติศาสตร์ที่เป็นจริงของมนุษย์กับเป้าหมายนั้นไม่ใช่เรื่องพื้นๆอย่างนั้น   การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่ากับการช่วยเหลือคนเรื่องนี้โดยตัวมันเอง กับเรื่องการเจิ้งฝ่าของจักรวาลนี้เชื่อมโยงกันอยู่

   ทุกท่านทราบ ตั้งแต่เริ่มต้นวันที่ 20 กรกฎาคม ปี 1999 เรื่อยมาจนปัจจุบัน  แต่ละก้าว ละก้าวนี้พวกเราเห็นแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงของสังคมนี้  การเปลี่ยนแปลงของใจคน  ขณะเดียวกันก็มองเห็นการรับรู้และท่าทีของผู้คนต่อศิษย์ต้าฝ่าและพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน  ในเวลาที่เผชิญกับสถานการณ์ที่ชั่วร้ายชนิดนั้น   หากศิษย์ต้าฝ่าไม่ไปทำ  จะไม่มีใครทำแทนพวกท่าน   เพราะคนล้วนรอให้พวกท่านช่วยเหลือ  ผู้ที่ถูกประทุษร้ายอย่างแท้จริงไม่ใช่พวกท่าน ทว่าเป็นชาวโลก ผู้คนล้วนมองเห็นว่าฝ่าหลุนกงถูกประทุษร้าย   ศิษย์ต้าฝ่ากำลังคัดค้านการประทุษร้าย  ที่จริงการคัดค้านการประทุษร้ายเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั้นผิว การช่วยเหลือคนจึงจะเป็นภาพจริง   การเปิดโปงสิ่งชั่วร้ายนั้นก็เพื่อช่วยคน   เพราะพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนนั้นต่อต้านเทพ  และไม่ให้คนเชื่อเทพ อเทวนิยมโดยตัวมันเองนั้นก็เป็นความผิดบาปล้นฟ้า  เทพสร้างท่านขึ้นมาแล้ว ท่านไม่ยอมรับเทพ  นั่นก็ได้แต่ถูกเทพกวาดทิ้งไป   ในระหว่างขั้นตอนของการช่วยคนของศิษย์ต้าฝ่านั้น  เพื่อให้บังเกิดผลมากยิ่งขึ้น   กำลังที่ทุ่มเทไปในแต่ละโครงการก็ใหญ่มาก  ดังนั้นในจุดนี้ ข้าพเจ้ามองเห็นแล้ว ช่างน่ายินดีมากจริงๆ   เช่นนั้นจึงพูดได้ว่า  ในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ทุกท่านล้วนกำลังสถาปนาธรรมานุภาพของผู้รู้แจ้ง   ผู้ประทุษร้ายแสดงออกมาอย่างชั่วร้ายในระหว่างขั้นตอนของการหยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่า  แต่ผู้ที่ถูกประทุษร้ายอย่างแท้จริงคือชาวโลก

   ชาวโลกถูกประทุษร้ายอย่างไรละ   แต่ละคนไม่ใช่ใช้ชีวิตกันอย่างแสนสบายอยู่หรือ  ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีเหลือเกินในสังคมที่ศีลธรรมกำลังตกต่ำลงหรือ    ทุกท่านทราบ คนบนโลกจำนวนมากนั้นมาจากสวรรค์   และจำนวนมากเป็นตัวแทนที่สวรรค์จัดให้ลงมา  เป็นตัวแทนร่างนภาฝั่งนั้น  สรรพชีวิตของจักรวาลฝั่งนั้น  จุดประสงค์คือ สามารถได้รับการช่วยเหลือในที่สุด  จะสามารถได้รับการช่วยเหลือหรือไม่ ก็ดูการแสดงออกของคนๆนี้หลังจากต้าฝ่าถ่ายทอดออกมาในโลก เพราะการแสดงออกของคนก็คือปรากฎการณ์ที่อยู่เบื้องหลังของชีวิตของจักรวาลที่เป็นตัวแทนนั้นในระหว่างการเจิ้งฝ่า  คนไม่อาจแสดงออกมาเหมือนกับเทพอย่างนั้น  พอถึงเขตแดนนี้ของคนแล้ว  ระดับชั้นต่ำลงแล้ว  เขาได้แต่แสดงออกมาโดยใช้รูปแบบการแสดงออกของคน   วันนี้อาจารย์กำลังถ่ายทอดฝ่าก็ไม่อาจจะเหมือนกับเทพอย่างนั้น  ได้แต่ใช้ภาษาของคนมาบรรยาย  ใช้การแสดงออกของคนอยู่ด้วยกันกับพวกท่าน  ดังนั้นคนมากมายนั้นเขามองเห็นไม่ชัดเจน   ผู้คนเข้าใจว่าฝ่าหลุนกงกำลังถูกประทุษร้าย  ที่จริงคือชาวโลกกำลังถูกประทุษร้าย   เพราะอะไรหรือ  เพราะเขาอยู่ในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้เชื่อฟังคำลวงของสิ่งชั่วร้าย  เกิดความชิงชังฝ่าหลุนกงแล้ว   แต่ฝ่าหลุนกงเป็นวิธีเรียกบนโลกของต้าฝ่าของจักรวาล   ศิษย์ต้าฝ่านั้นกำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่า  คือศิษย์ของฝ่าที่กำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต และ มีภารกิจที่หนักมาก หรือพูดได้ว่า  คือทูตของเทพ   หากในใจชาวโลกมีความคิดที่ไม่ดีต่อต้าฝ่าหรือศิษย์ต้าฝ่า หรือไม่ยอมรับหรือประณาม “เจิน ซั่น เหริ่น” ที่เป็นหลักการที่แท้จริงของจักรวาล  โดยเฉพาะคือเข้าร่วมการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าโดยตรง  พูดคำพูดที่ไม่ดีต่อศิษย์ต้าฝ่า ทำเรื่องไม่ดีต่อต้าฝ่า  ก็จะถูกเทพกวาดทิ้ง ทำลายทิ้ง   ต่อให้ศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้ายหนักยิ่งขึ้นอีก   แต่พวกเขาล้วนกำลังอยู่บนเส้นทางแห่งเทพ  ไม่ว่าจะจากไปเร็วหรือช้า ก็ล้วนแต่สามารถหยวนหมั่นและกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิม  แต่ผู้ที่ถูกประทุษร้ายอย่างแท้จริงมิใช่คนหรอกหรือ

   จักรวาลมีสรรพชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน  เทพจำนวนนับไม่ถ้วน   จักรวาลอันกว้างใหญ่และศักดิ์สิทธิ์อย่างไร้ที่เปรียบ  เทพที่เหมือนองค์ศากยมุนีระดับชั้นนี้บนสวรรค์นั้น มีมากจนนับไม่ถ้วน  องค์ศากยมุนีเคยนำจำนวนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคามาอธิบายจำนวนที่มหาศาลนี้  ที่จริงจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ของเม็ดทรายบนโลก ก็ไม่อาจเปรียบกับจำนวนที่มากมายมหาศาลของเทพกับพระพุทธในเขตแดนชนิดนี้ และนี้ยังเป็นเพียงการเปรียบเทียบความมากมายของเทพกับพระพุทธในเขตแดนหนึ่งเท่านั้น    เมื่อจะพูดเปรียบเทียบกันแล้ว  คนนั้นจะนับเป็นอะไรได้ละ   เล็กมากจนไม่มีนัยสำคัญเลย  แต่แม้ว่าคนจะอยู่ในฐานะที่ต่ำ   ทว่าเบื้องหลังของเขากลับขยายขึ้นไปถึงชีวิตระดับชั้นสูง  ชาวโลกจำนวนมากกลับเป็นตัวแทนด้านหนึ่งของชีวิต   เรื่องเหล่านี้ คนที่อยู่ในวังวนนั้น ตัวเขาเองไม่อาจรู้   ยิ่งไม่รู้ว่าตัวเขาเองที่แท้จริงคือใคร  แต่ชาวโลกมากมายนั้น เบื้องหลังของเขากลับเป็นตัวแทนสรรพชีวิตชั้นสูงจำนวนนับไม่ถ้วน   ดังนั้นฝ่าที่ใหญ่อย่างนี้  ศิษย์ต้าฝ่าที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ จะมาช่วยคนธรรมดาสามัญทั่วไปคนหนึ่งหรือ   จะเป็นไปได้อย่างไรกัน  ขณะนี้คนจำนวนมากบนโลกนี้ มีมูลเหตุภายในอยู่   ถ้าหากคนๆหนึ่งคือตัวแทนที่ถูกจัดมาโดยร่างนภาอันมหึมา  สิ่งที่เขาเป็นตัวแทนนั้น คือโลกใบหนึ่งหรือจักรวาลระดับชั้นหนึ่ง  ร่างนภาระดับชั้นหนึ่ง  เพราะร่างนภาเป็นระบบที่หมุนเวียน ระบบจักรวาลมากมายมหาศาลนั้นไม่ว่าจะใหญ่เพียงไร มันก็มีระบบหนึ่งของตนเอง ในระดับที่สูงยิ่งขึ้นไปยังมีระบบของมันอีก  สูงขึ้นไปยังมีระบบของมัน  สูงขึ้นไปยังมีระบบของมัน  ยิ่งสูงก็ยิ่งใหญ่ขึ้น  สรรพชีวิตยิ่งมีนับไม่ถ้วน  เทพก็ใหญ่โตยิ่งขึ้น สรรพชีวิตมีมากจนนับไม่ถ้วนยิ่งขึ้นไปอีก โดยรวมนั้นจักรวาลใหญ่จนไม่มีประมาณ   ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าช่วยคนๆหนึ่งนั้น  จึงไม่ใช่แค่คนๆหนึ่งตามแนวคิดเกี่ยวกับคน  ทว่าจะทำให้กลุ่มสรรพชีวิตมหึมาได้รับการช่วยเหลือไปด้วย  พูดในทางกลับกัน  คนๆหนึ่งที่แสดงออกต่อต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่าจึงไม่ใช่การแสดงออกอย่างพื้นๆของคน แน่ละหากชั้นผิวของคนนั้นไม่มีสติ จึงกลายเป็นอุปสรรคในการได้รับการช่วยเหลือของเขา กับสรรพชีวิตที่เขาเป็นตัวแทน  ดังนั้นจึงต้องอธิบายความจริง

   เรื่องที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดนี้ใหญ่มาก  คนที่ฟังฝ่าวันนี้มีมากนัก   ศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่มีปัญหาแล้ว  ผู้ฝึกใหม่กับผู้สนับสนุนฝ่าหลุนกงบางคน และยังมีคนในครอบครัว  คงจะฟังไม่ค่อยเข้าใจ  เพราะเป็นฝ่าฮุ่ยใช่ไหม   ข้าพเจ้าจึงพูดฝ่าให้กับศิษย์ต้าฝ่า  ได้แต่บรรยายอย่างนี้   นี่ก็คือเหตุใดต้าฝ่าของจักรวาลถ่ายทอดอยู่ในโลกของคน   คนที่ศิษย์ต้าฝ่าช่วยเหลือคือคนอย่างไร  มีแต่คนอย่างนี้จึงคู่ควรให้ศิษย์ต้าฝ่ามาช่วย   จึงคู่ควรให้ต้าฝ่าของจักรวาลมาถ่ายทอดในโลกนี้   ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ใหญ่อย่างนี้  ดังนั้นกล่าวสำหรับคนโดยตัวมันเอง  คนอยู่ในระดับชั้นต่ำ แต่เบื้องหลังกลับมีกลุ่มชีวิตอันมหึมา  แต่ท่านอยู่บนโลกกลับเป็นเขตแดนนี้  เป็นคนธรรมดาๆในระดับชั้นนี้  ก็เป็นความสัมพันธ์หนึ่งอย่างนี้  แม้ว่าท่านเป็นสิ่งที่อยู่ระดับชั้นต่ำ  ถ้าหากทำผิดต่อฝ่าของจักรวาล  หรือว่าท่านไม่เห็นด้วยกับฝ่าชุดนี้ที่สร้างจักรวาลและสรรพชีวิตนับไม่ถ้วน   ท่านต่อต้านเขา แล้วท่านจะอยู่ที่ไหนได้ละ ความตายที่คนพูดกันนั้นก็มีที่ไป   ทุกสิ่งในจักรวาลล้วนสร้างขึ้นโดยฝ่าชุดนี้   ท่านจะไปไหนได้ละ  สสารที่ตายไปอย่างสมบูรณ์ในจักรวาลนี้ก็สร้างขึ้นโดยฝ่านี้   เมื่อท่านต่อต้านเขาท่านจะไปที่ไหนได้ละ อาทิเช่นในคัมภีร์ไบเบิ้ล พระยะโฮวา  พระเยซูก็เคยพูดว่า  คนที่ประทุษร้ายสาวกศักดิ์สิทธิ์  ชีวิตนั้นจะตกอยู่ในท่ามกลางการลงโทษอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีการหยุดพัก รวมทั้งตลอดไปจนสร้างจักรวาลใหม่  ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน  ผู้ทำบาปล้วนอยู่ในท่ามกลางการแบกรับโทษทัณฑ์  ว้า นี่ช่างน่ากลัวยิ่งนัก  นั่นเป็นความเจ็บปวดทรมานไม่มีที่สิ้นสุด  เมื่อทำบาปต่อต้าฝ่าของจักรวาล  โทษทัณฑ์นั้นจึงใหญ่หลวงอย่างนั้น   คนแม้ว่าจะเป็นเพียงคน  แต่คนกลับเป็นตัวแทนของสรรพชีวิตของโลกเบื้องบน   ฉะนั้นเมื่อคนทำบาปต่อต้าฝ่าดังว่า  กลุ่มชีวิตที่อยู่เบื้องหลังซึ่งเขาเป็นตัวแทน  ร่างนภาตั้งแต่ข้างบนถึงข้างล่าง ในนั้นมีเทพนับไม่ถ้วนกับสรรพชีวิตชนิดต่างๆล้วนจะถูกทำลายไปพร้อมกันทั้งหมด   เพราะเป็นการเจิ้งฝ่าของจักรวาล  ความเมตตานั้นเป็นปรากฏการณ์ที่มีอยู่ก่อนภัยพิบัติใหญ่  การเจิ้งฝ่านั้นเข้มงวดไร้ซึ่งความรู้สึกผูกพัน

   ฝ่านี้ของข้าพเจ้าไม่ได้พูดให้กับคนธรรมดาสามัญ  หากพูดให้กับศิษย์ต้าฝ่า  ศิษย์ต้าฝ่าล้วนทราบว่าเป็นเรื่องราวอย่างไร   ฉะนั้นจึงพูดได้อีกอย่างว่า  ผู้ที่ถูกประทุษร้ายอย่างแท้จริงคือคน   ผู้ที่จะถูกกวาดทิ้งอย่างแท้จริงที่สุดคือคน  ที่จริงเป้าหมายของการเกิดการประทุษร้ายนั้น ประการหนึ่งคือการทดสอบศิษย์ต้าฝ่า  อีกประการหนึ่งคือการกวาดล้างชีวิตเก่าของจักรวาล   ในนั้นรวมถึงคนด้วย  อิทธิพลเก่านั้นไม่ยอมให้คนได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่แท้ เพราะอิทธิพลเก่าในจักรวาลเข้าใจว่าจักรวาลใช้ไม่ได้แล้ว  สรรพชีวิตล้วนใช้ไม่ได้แล้ว  จึงควรทำลายทิ้งทั้งหมด  ส่วนผู้บำเพ็ญต้องถูกทดสอบอย่างหนักหน่วงเข้มงวด  ศิษย์ต้าฝ่าที่บำเพ็ญไม่ดีก็กวาดทิ้งไป  ไม่อาจเหลือชาวโลกกับสรรพชีวิตอื่นไว้ พวกท่านมองเห็นคำพยากรณ์มากมายล้วนพูดกันอย่างนี้   บ้างพูดว่าเหลือรอดหนึ่งในหมื่น  เหลือรอดหนึ่งในพัน   ในหนึ่งพันเหลือไว้เพียงหนึ่งนะ   และบ้างก็พูดว่าในสิบครอบครัวเหลือแค่หนึ่งครอบครัวนะ   ไม่ว่าจะพูดไว้อย่างไร   คือพวกมันนั้นจะทำลายสรรพชีวิตจำนวนมหาศาล  แต่ในฐานะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงที่ต้าฝ่าเผยแพร่อยู่ในโลกและการช่วยเหลือสรรพชีวิต คือการกอบกู้ทุกสิ่งนี้  สามารถทำให้สรรพชีวิตที่ให้การช่วยเหลือได้รับการช่วยเหลือเป็นเป้าหมายที่แท้จริง  ดังนั้นจึงพยายามทำ พยายามช่วยให้มาก

   อิทธิพลเก่าของจักรวาลที่เข้าร่วมการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ โดยตัวมันเองก็เป็นมารต่อการเจิ้งฝ่าของต้าฝ่า   ทุกท่านทราบ ที่นี่ของคน เรื่องอะไรๆนั้น ล้วนแต่มีการเสริมและต้านซึ่งกันและกันอยู่มีหนึ่งบวกหนึ่งลบ (เป็นเรื่องที่มีทั้งบวกและลบ)  สังคมมนุษย์จึงเป็นอย่างนี้  คนโดยตัวเองก็ดำรงอยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้ที่มีทั้งดีและชั่ว สสารที่ประกอบขึ้นเป็นคนโดยตัวเองก็มีองค์ประกอบของสสารที่ดีและชั่วสองด้านอยู่  ดังนั้นเมื่อคนแสดงความโกรธ  ไร้สติ  โหดเหี้ยม ชั่ว  ชิงชัง ดีใจอย่างคลุ้มคลั่ง  นี่ล้วนเป็นจิตมาร      เมื่อมีสติ  เมตตา  ดีงาม  นี่ล้วนเป็นจิตพุทธ  จิตที่ดีงาม บนโลกนี้มีคนดี  มีคนชั่ว  มีเมตตา  มีชั่วร้าย  บนสวรรค์มีพระพุทธ พระพุทธก็คือราชาแห่งธรรมและมีราชาแห่งมาร   แน่ละล้วนเป็นการสอดคล้องกันอย่างนี้   ตลอดจนถึงระดับชั้นที่สูงมากก็ล้วนแต่สอดคล้องกัน  หนึ่งบวกหนึ่งลบ  หนึ่งบวกหนึ่งลบ สร้างสมดุลทั้งหมดของจักรวาลเก่า  อิทธิพลเก่าในจักรวาลมองเห็นการเผยแพร่ของต้าฝ่า  ซึ่งล้วนแต่ดีงาม  มันจึงสร้างมารขึ้นมาจำนวนหนึ่ง   มันจึงสร้างทุกข์ภัยออกมาจำนวนหนึ่ง   เช่นนี้พวกมันเองจึงพอดีกลายเป็นมารต่อการเจิ้งฝ่า  เป็นมารต่อต้าฝ่าของจักรวาล  ก็เป็นความสัมพันธ์หนึ่งอย่างนี้

   เช่นนั้นจึงพูดได้ว่า  ในหลายปีนี้ที่ศิษย์ต้าฝ่าทำเรื่องเหล่านี้ ล้วนกำลังช่วยคนอยู่  อธิบายความจริง  อย่าเห็นว่าศิษย์ต้าฝ่ามากมายถูกประทุษร้ายอย่างร้ายแรงเช่นนี้   นั่นล้วนแต่อยู่บนเส้นทางแห่งเทพ  ไม่ว่าจะจากไปก่อนหรือจากไปทีหลัง ล้วนแต่หยวนหมั่น   แต่กล่าวสำหรับคนธรรมดาสามัญ เขาไม่มีโอกาสนี้ ทำไมชีวิตของศิษย์ต้าฝ่าจึงพิเศษอย่างนี้นะ เพราะได้วางรากฐานนี้ไว้แล้วตั้งแต่ในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก  ตลอดทางศิษย์ต้าฝ่าล้วนผ่านมาอย่างนี้ ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่ามีเหล่าสาวกของพระเยซูในปีนั้น  และมีศิษย์พุทธขององค์ศากยมุนี  แน่ละยังมีเทพกับศิษย์ของเทพเหล่านั้นที่พวกท่านไม่รู้จัก  แต่ท่านไม่ใช่ศิษย์ที่แท้จริงของเขา  ท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่า  เป้าหมายคือต้องรอจนถึงวันนี้   หรือพูดได้ว่า  ในเวลานั้นเป็นการติดตามผู้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ บุกเบิกวัฒนธรรมของมนุษยชาติมาก่อน   วันนี้ก็ใช้วัฒนธรรมนี้ช่วยเหลือคน

   หลังจากฝ่าฮุ่ยครั้งก่อนในวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของอเมริกา  ผู้ฝึกหลายคนได้ยินว่าอาจารย์จะไปพบกับทุกท่านในโครงการต่างๆ   จึงมากันทีเดียวมากมาย (ที่ประชุมหัวเราะ) แต่ละโครงการส่งบัตรเชิญมากมายมาให้ข้าพเจ้า  โครงการใหญ่น้อยต่างๆล้วนจะหาอาจารย์ไปเปิดประชุมร่วมกับพวกเขา(ที่ประชุมหัวเราะ) ดังนั้นอาจารย์จึงทำไม่ไหวแล้ว  คำพูดเมื่อครู่ของข้าพเจ้า  ที่จริงคือจะบอกทุกท่านว่า  ที่พวกท่านทำนั้นดีมาก  ไม่จำเป็นต้องให้อาจารย์ไปรับรองกับพวกท่านทีละอย่างๆ  หรือยืนยันกับแต่ละคน  ท่านสามารถเดินมาถึงวันนี้ได้  สามารถทำเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตเรื่องนี้  ท่านก็กำลังบุกเบิกทางของตนเอง   สถาปนาธรรมานุภาพของตน  ท่านก็กำลังสร้างความสำเร็จให้กับภารกิจทางประวัติศาสตร์ของท่าน  เรื่องมากมายล้วนอยู่ในวังวน  แม้ว่าอาจารย์จะไปบรรยาย ก็จะไม่อาจบรรยายให้ท่านจนกระจ่างได้ (อาจารย์หัวเราะ)  ดังนั้นจึงขอบอกทุกท่าน  ล้วนต้องการให้ข้าพเจ้าไป แต่ข้าพเจ้าก็ไปไม่ได้จริงๆ  (ที่ประชุมหัวเราะ)แต่วันนี้ข้าพเจ้ามาแล้ว จึงไม่อยากจะทำให้ความปรารถนาของพวกท่านผิดหวัง  ทุกท่านมักจะอยากพูดอะไรกับข้าพเจ้า(ศิษย์ปรบมือ)คนมากเหลือเกิน  พวกท่านสามารถส่งคำถามขึ้นมา  ข้าพเจ้าจะตอบให้พวกท่าน  แต่ว่า  หากเป็นปัญหาเฉพาะคน  หรือไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือสรรพชีวิตและเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าจะต้องทำ  ก็อย่าถาม  เพราะคำถามมากเกินไป  แต่ละคนๆละคำถาม  จนถึงพรุ่งนี้ในเวลานี้เราก็จบไม่ลง  (ที่ประชุมหัวเราะ)  อีกห้องประชุมหนึ่งพวกท่านก็สามารถส่งคำถามข้ามมาได้

ส่งข้ามมาเถอะ  ส่งข้ามมาก่อน

ศิษย์        ใน“หงอิ๋น สอง”  “สี่ธาตุใหญ่เสื่อมสลายไป” หมายความว่าอย่างไร

อาจารย์      ข้าพเจ้าสามารถตอบให้ท่านได้  แต่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าคำถามกับเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตเหล่านี้ ในขณะนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันนัก  ดิน น้ำ  ไฟ ลม ก็คือสี่ธาตุใหญ่ที่องค์ศากยมุนีพุทธตรัสถึง  คือมูลเหตุพื้นฐานของการเกิดขึ้นของจักรวาล ณ เขตแดนหนึ่งของร่างนภา  ข้าพเจ้าพูดชัดเจนแล้วนะ   ในเขตแดนหนึ่งของการเกิดขึ้นของจักรวาลนั้น มูลเหตุพื้นฐานก็คือสี่ธาตุใหญ่  แต่มันไม่ใช่มูลเหตุพื้นฐานสุดท้าย  พร้อมๆ กับที่ร่างนภาซึ่งอยู่ในคุณสมบัติพิเศษ ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป    ในช่วงเวลาที่ยาวนานจนถึงระดับที่เสื่อมไป ดูไปก็คืออยู่ในระหว่างการเสื่อมสลายดับสูญไป

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่าแผ่นดินใหญ่ในประเทศเกาหลีคิดถึงท่านอาจารย์

อาจารย์        ขอบใจทุกท่าน  คำพูดนี้ก็ไม่ต้องเขียนขึ้นมาอีกแล้วนะ  ข้าพเจ้าทราบว่าทุกท่านล้วนคิดถึงอาจารย์  อาจารย์ก็คิดถึงพวกท่าน (เหล่าศิษย์ปรบมืออย่างกึกก้อง)

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่าเป่ยจิง  ยิ่งใกล้จุดสุดท้ายยิ่งคิดถึงท่านเป็นพิเศษ

อาจารย์        อันนี้ข้าพเจ้าคิดว่าไม่อ่านละ  ข้าพเจ้าจะเลือกคำถามอ่านละนะ

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่ามหาวิทยาลัยเกษตรเป่ยจิง  มหาวิทยาลัยธรณีวิทยา  มหาวิทยาลัยการบินและอวกาศ  มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมป่าไม้ ................สวัสดีท่านอาจารย์

อาจารย์       ไม่ต้องสวัสดีแล้วนะ  เพราะมันต้องใช้เวลาอ่าน ขอบใจทุกท่าน (ศิษย์ปรบมือ)

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดแห่งเมืองหนานชาง  กว่างตง  หูหนาน  ซีหนิง ขอสวัสดีท่านอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่

อาจารย์        ข้าพเจ้าไม่อ่านคำสวัสดีแล้ว  ข้าพเจ้าขอตอบคำถามก่อน  ขออ่านคำถามก่อน ตอบคำถามให้

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่าประเทศไทยทั้งหมดขอสวัสดีท่านอาจารย์

อาจารย์       ยังคงกล่าวคำสวัสดี  ขอบใจทุกท่าน

ศิษย์        เมืองจือหยางมณฑลเสฉวน  เมืองเฉิงตู.......(ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์       ยังคงเป็นคำสวัสดี

ศิษย์        จะทำอย่างไรจึงจะสามารถขจัดทัศนคติกับจิตยึดติดที่ก่อเกิดในหมู่คนได้เร็ว

อาจารย์   (หัวเราะ)ในความยากลำบาก  ในเรื่องที่ยังแก้ไขไม่ได้ มักจะคิดว่ามีวิธีการอะไร ที่จริงก็คือไปบำเพ็ญตามต้าฝ่าอย่างจริงจัง  ไม่มีทางลัด  คนๆหนึ่งจะเดินสู่ความเป็นเทพ  หากพูดว่าเราลองหาเคล็ดลับดู (หัวเราะ)  นั่นจะเป็นการบำเพ็ญขึ้นไปอย่างจริงๆจังๆได้หรือ  ใช้ไม่ได้  ต้องบำเพ็ญอย่างจริงๆจังๆจึงจะสามารถขึ้นไปได้

ศิษย์        หลังจากฝ่าฮุ่ยที่เมืองหลวงอเมริกาครั้งก่อน  ผู้ฝึกแผ่นดินใหญ่จำนวนมากเข้าใจว่าแผ่นดินใหญ่ก็ควรร่วมมือกับผู้ประสานงานอย่างไม่มีเงื่อนไข  ยังค้นหาผู้รับผิดชอบ ผู้ช่วยฝึกสอนของเมื่อก่อนหลายคนออกมาทำหน้าที่ผู้ประสานงานหลัก  แต่ผู้รับผิดชอบ ผู้ช่วยฝึกสอนเหล่านี้ของเมื่อก่อน  จำนวนมากตลอดมาไม่ได้ก้าวออกมาจริงๆ

อาจารย์       ที่ผ่านมาศิษย์ต้าฝ่าเหล่านั้นที่เป็นผู้รับผิดชอบของสนามฝึกในแผ่นดินใหญ่  ที่จริงในเวลานั้นมิใช่ว่าพวกเขาบำเพ็ญได้ดีจึงได้เป็นผู้รับผิดชอบ หากเพราะพวกเขามีความสามารถทำหน้าที่นั้นและมีความปรารถนาที่จะทำ จึงบอกให้พวกเขาไปทำ   เรื่องของผู้บำเพ็ญต้องให้ผู้บำเพ็ญทำกัน   จะมองแต่ความสามารถในการทำหน้าที่ยังไม่พอ  ยังต้องดูว่าคนๆนี้สามารถจะบำเพ็ญได้หรือไม่  นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดกาล

เมื่อข้าพเจ้าบรรยายฝ่าในครั้งก่อน ได้พูดเสริมไว้คำหนึ่งเป็นพิเศษคือ “ศิษย์ต้าฝ่านานาประเทศนอกแผ่นดินใหญ่”  จีนแผ่นดินใหญ่ไม่ใช่สภาพการณ์นี้  ดังนั้นข้าพเจ้าไม่ได้พูดเจาะจงต่อพวกเขา

ศิษย์        ผู้ฝึกแผ่นดินใหญ่ที่ก้าวหน้ายุ่งอยู่กับการอธิบายความจริงช่วยเหลือคน  ไม่มีเวลาพอที่จะศึกษาฝ่าฝึกพลังจึงถูกประทุษร้าย  แต่มีผู้ฝึกบางคนใช้เวลาจำนวนมากในการศึกษาฝ่าฝึกพลัง  แต่อธิบายความจริงน้อยมาก  ผู้ฝึกอย่างนี้มีมาก  สภาพการณ์เช่นนี้  เมื่อไรจึงจะสามารถช่วยเหลือคนได้พอ

อาจารย์       พูดว่าบางคนนั้นอธิบายความจริงไม่ศึกษาฝ่า  บางคนศึกษาฝ่าไม่อธิบายความจริง (ที่ประชุมหัวเราะ) นี่ก็เป็นข้ออ้างที่อิทธิพลเก่าใช้ในการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า   ท่านไม่จัดวางเรื่องนี้ให้ถูกต้องจริงๆ  เรื่องการช่วยคนของต้าฝ่านั้นคนธรรมดาสามัญทำไม่ได้   จะต้องเป็นผู้บำเพ็ญ  ดังนั้นท่านต้องศึกษาฝ่า บำเพ็ญ ให้กลายเป็นผู้บำเพ็ญ  คนธรรมดาสามัญทำก็ไม่นับ   เขาก็ไม่มีธรรมานุภาพนี้  เช่นนั้นผู้บำเพ็ญ  หากท่านไม่ไปทำ  ท่านศึกษาแต่ฝ่า  คิดแต่จะได้ประโยชน์จากต้าฝ่า  พูดกลับกันคือ  ศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้าย  ต้าฝ่าล้วนถูกทำให้ด่างพร้อย  ท่านก็ไม่ก้าวออกมาพูดสักคำ  ท่านยังคู่ควรได้ฝ่านั้นไหม  ก็คือความหมายนี้

ศิษย์        ผู้ฝึกชาวตะวันตกของยุโรปเหนือบางคนขอให้ใช้วิธีกำหนดวันเวลาตามแต่โอกาสแบบหนึ่ง  อ่าน “จ้วนฝ่าหลุน”

อาจารย์      ไม่มีการทำหรือพูดอย่างนี้ ดีที่สุด ทุกท่านควรมีเวลาที่แน่นอนหนึ่งในการศึกษาฝ่า  การศึกษาฝ่าพร้อมกัน นี่เป็นรูปแบบที่ข้าพเจ้าเหลือไว้ให้กับทุกท่าน แต่การศึกษาต้องก้าวหน้าใช่ไหม ท่านต้องศึกษาอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นท่านจึงจะไม่หลงทิศทาง  จึงจะสามารถเดินได้เที่ยงตรงบนทางของท่าน  จึงจะสามารถทำในสิ่งที่ท่านควรทำได้ดี  อย่าเปลี่ยนแปลงสภาพการอ่านฝ่า ก็คือให้อ่านโดยตลอด  อย่าแสวงหาความแปลกใหม่  ทำเรื่องแปลกใหม่  เวลาศึกษาฝ่าก็เลือกศึกษา  ทำเป็นรูปแบบอะไรเพื่อศึกษา  ข้าพเจ้าว่าเป็นการใช้ใจคนแล้ว

ศิษย์        ในเขตของเรามีผู้ประสานงานของเสินยวิ่นคนหนึ่ง เนื่องจากสาเหตุต่างๆ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ออกมาแล้ว  ค่อนข้างท้อแท้ใจ    ท่านอาจารย์จะพูดสักหน่อยได้หรือไม่

อาจารย์        ข้าพเจ้าไม่อาจด่วนสรุปให้กับเขา (ที่ประชุมหัวเราะ) เพียงเรื่องนี้ยังไม่จบสิ้น  ศิษย์ต้าฝ่าก็กำลังอยู่ในระหว่างการบำเพ็ญ   อยู่ในระหว่างการข้ามด่าน ก็ดูว่าเขาจะไหวหรือไม่  ข้าพเจ้าไม่อาจปิดกั้นทางของเขา  แต่ละคนต่างกำลังรับรู้อยู่(อู้)  แต่ละคนกำลังบำเพ็ญอยู่  ท่านเห็นเขาไม่ออกมา  เขาเองกำลังลำบากใจ  และกำลังข้ามด่านอยู่  ในระหว่างที่ข้ามด่านทุกๆคนล้วนจะเป็นเช่นนี้  ตนเองจะยึดกุมตัวเองได้อย่างไรจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ศิษย์        มีเพื่อนผู้บำเพ็ญพูดว่า ไม่เชื่อฟังผู้รับผิดชอบอันดับแรกก็เท่ากับไม่เชื่อฟังอาจารย์  ถูกหรือไม่

อาจารย์        เรื่องนี้ข้าพเจ้ายังต้องพูดกับทุกท่านใหม่อีกครั้ง ที่ข้าพเจ้าพูดคือผู้รับผิดชอบหลักของแต่ละโครงการ หรือผู้รับผิดชอบหลักของฝอเสวียฮุ่ยพื้นที่หนึ่ง นี่สำคัญมาก พูดถึงว่าผู้ที่อยู่ในระดับต่ำลงไปของโครงการนี้  ผู้รับผิดชอบของพื้นที่อื่น หรือของแต่ละหน่วยงาน  พวกนี้ไม่สำคัญมากเช่นนั้น  แต่ในฐานะที่พวกเราเป็นศิษย์ต้าฝ่า ในเมื่ออาจารย์กำหนดให้พวกท่านเปลี่ยนแปลงท่าที  ก็ควรจะทำอย่างนี้ ปฏิบัติตามการบริหารจัดการ ก็ควรฟังการชี้นำ เพราะเรื่องที่แต่ละหน่วยงานทำคือ ผู้รับผิดชอบหลักที่สุดสั่งการบอกให้ทำ   ความสัมพันธ์นี้ข้าพเจ้าจะขอพูดซ้ำอีกรอบนะ  ที่ข้าพเจ้าพูดคือผู้รับผิดชอบหลักเหล่านั้น ผู้รับผิดชอบโครงการใหญ่  กับผู้รับผิดชอบลำดับที่หนึ่งของฝอเสวียฮุ่ย ในหน่วยงานต่างๆที่ต่ำลงไป   กลุ่มศึกษาฝ่าของสนามฝึกในแต่ละพื้นที่  ที่อยู่ต่ำลงไปจากฝอเสวียฮุ่ย  นี่ไม่ใช่  ที่ข้าพเจ้าหมายถึงไม่ใช่พวกนี้  เขาไม่ได้แบกความรับผิดชอบต่อทั้งโครงการ  แต่ว่านะ  ผู้รับผิดชอบในหลายพื้นที่  ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานของแต่ละโครงการที่ต่ำลงมา    เป็นเพราะผู้รับผิดชอบอันดับหนึ่งของโครงการบอกให้เขาทำเช่นนั้น  ก็ต้องปฎิบัติตามด้วย  ไปทำให้ดี  หากมีปัญหาที่ร้ายแรงจริงๆท่านก็สามารถสะท้อนขึ้นมาได้ตามปกติ  แต่ว่าความเคยชินอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในหลายปีอย่างนี้   คือจิตใจที่มักจะมองใครไม่ขึ้น ซึ่งยากจะเก็บขึ้น  เคยชินที่จะค้นหาจากภายนอก  สภาวะนี้ข้าพเจ้าต้องขจัดทิ้งไปให้ท่าน ข้าพเจ้าต้องขจัดสิ่งนี้ทิ้งไปให้กับพวกท่าน  ไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้อีกแล้ว  เวลานี้ได้ผ่านไปแล้ว

เมื่อก่อนทำไมจึงไม่พูดละ หากพอเริ่มต้นก็ทำอย่างนี้ จะเกิดสภาพการณ์อะไรหรือ ผู้รับผิดชอบพูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น   พวกท่านก็จะเดินบนเส้นทางของตนเองออกมาไม่ได้   ขณะเดียวกัน  ผู้รับผิดชอบคนนั้นนำพาพวกท่านเบี่ยงเบนไป     พวกท่านก็ไม่ทราบและผู้รับผิดชอบโดยตัวเองไม่มีด่านจะข้าม เขาก็จะบำเพ็ญไม่ได้   เข้าใจความหมายนี้ที่ข้าพเจ้าพูดใช่ไหม  นี่คือเหตุใดที่ข้าพเจ้าบอกให้พวกท่านทำอย่างนี้เมื่อหลายปีก่อน   ข้าพเจ้าไม่ยกปัญหานี้ขึ้นมา  ขณะนี้ผู้รับผิดชอบในสิบปีนี้  อยู่ในขั้นตอนของการฝึกฝน การบำเพ็ญ  เขาได้ผ่านด่านไปมากมายแล้ว  เดินเส้นทางของตนออกมาแล้ว   ส่วนมากล้วนรับรู้ได้แล้วว่าควรไปทำอย่างไร   ขณะนี้เราจะแก้ไขสภาพการณ์นี้ใหม่  ขณะเดียวกันก็จะเอาความเคยชินที่พอมีปัญหาก็มองออกข้างนอก  ค้นหาจากข้างนอก  มองไปที่ผู้รับผิดชอบ  เอาจิตใจชนิดนี้ทิ้งไป   เมื่อก่อนเคยชินกับการมองไปข้างนอกมักจะดูผู้รับผิดชอบขัดหูขัดตา   จนถึงขณะนี้ยังไม่หายขัดหูขัดตา (ที่ประชุมหัวเราะ)  ไม่ได้  ต้องปรับ(จิตใจ)ข้ามมา    แต่กล่าวสำหรับผู้รับผิดชอบ  มีบ้างที่ทำได้แย่มาก  แย่มากจริงๆ  แต่กระแสหลักนั้นยังคงดีอยู่  ดังนั้นอาจารย์ยังคงตรวจสอบอยู่

ศิษย์        มีผู้ฝึกบางคนชี้ว่า  ผมไปเข้าร่วมงานสื่อชนิดหนึ่ง  และยังตอบรับทำรายการให้งานสื่ออีกงานหนึ่งของเพื่อนผู้บำเพ็ญ ใช่หรือไม่ว่าไม่ตั้งใจทำงานหนึ่งๆให้ดี

อาจารย์        ศิษย์ต้าฝ่าของเราควบงานหลายหน้าที่ไว้กับตัว    หากบอกว่าฉันสามารถทำเรื่องนี้ได้ดีและสามารถทำเรื่องนั้นได้ดีด้วย  เช่นนั้นท่านก็ไปทำ   แต่หากบอกว่าฉันทำเรื่องนี้ไม่เสร็จ  ฉันก็รับงานอย่างอื่นอีก   เช่นนั้นเรื่องไหนท่านก็ทำได้ไม่ดี   ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ตนเองต้องจัดวางให้ดี  ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนมีคำพูดหนึ่งว่า “หมีตาบอดเด็ดฝักข้าวโพด” (ที่ประชุมหัวเราะ) หมีตาบอดก็คือหมีใช่ไหม  มันเด็ดข้าวโพด มันหักฉีกอย่างไรหรือ  เด็ดฝักหนึ่งหนีบไว้ใต้รักแร้ เด็ดอีกฝักหนึ่ง และยังคงหนีบไว้ใต้รักแร้นี้   เด็ดอีกฝักหนึ่งยังคงหนีบไว้ใต้รักแร้นี้  สุดท้ายยังคงได้แค่ฝักเดียว (ที่ประชุมหัวเราะ)

    ศิษย์      ในระยะนี้เพื่อนผู้บำเพ็ญในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานที่ดีมากคนหนึ่ง จากโลกไปอย่างกระทันหันในลักษณะของกรรมแห่งโรค  ทำให้คนปวดร้าวใจมาก  เพื่อนผู้บำเพ็ญรอบข้างต่างก็กำลังคิดทบทวนความรับผิดชอบของตนเองอยู่  แต่ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือไม่

อาจารย์      ผ่านการประทุษร้ายมากมายอย่างนี้แล้ว  ก้าวผ่านหนทางมามากมายอย่างนั้นแล้ว   ทุกท่านต่างก็ทราบว่าทำไมจึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น  ลองถามเพื่อนผู้บำเพ็ญคนอื่นดู  ก็จะเข้าใจ

   เรื่องมากมายนั้นอิทธิพลเก่าก็จัดวางไว้อย่างนี้   แน่ละในเวลาที่จัดวางเรื่องนี้ ผู้ฝึกเองไม่แน่ว่าจะรู้ว่ามันเป็นอิทธิพลเก่า  ในเวลานั้นอาจารย์ยังไม่ได้พูดว่ามันเป็นอิทธิพลเก่า  เขาก็ยอมรับการจัดวางอย่างนี้  จึงกำหนดไว้แน่นอนอย่างนี้แล้ว   ในเวลานั้นบางคนเข้าใจว่าควรทำอย่างนี้  จึงเซ็นชื่อตกลงเรื่องบางอย่างเอาไว้   ถึงเวลานั้นจึงเป็นจุดอ่อนในการประทุษร้ายของพวกมัน   แต่ยังมีสภาพการณ์อย่างอื่นอยู่บ้าง   อาทิเช่นมีคนมากมายล้วนกำลังมองว่าคนอื่นบำเพ็ญอย่างไร   ทุกท่านก็ศึกษาตาม  หาได้เดินบนทางของตนเอง อิทธิพลเก่าจึงให้เขาจากไปก่อน   จากนั้นดูว่าใจของพวกท่านเป็นอย่างไร  ยังจะบำเพ็ญหรือไม่บำเพ็ญ   เพราะการบำเพ็ญนั้นต้องเกิดจากใจข้างในริเริ่มไปบำเพ็ญ   ถ้าในเวลาที่ท่านอยู่ต่อหน้าผลประโยชน์  อยู่ในท่ามกลางชื่อเสียงกับฉิง ความเจ็บปวดรวดร้าวชนิดคว้านเข้าไปถึงกระดูก สิ่งที่จับขึ้นมา แล้วสามารถปล่อยวางลงได้ จึงจะใช้ได้   พวกที่ดูว่าคนอื่นทำได้ท่านจึงจะทำ  พอเห็นคนอื่นทำไม่ไหวท่านก็ไม่ไหวแล้ว  ทุกท่านล้วนเป็นอย่างนี้กันแล้ว  ก็เท่ากับผลักคนๆนั้นไปสู่อันตราย  ใจคนจึงเร่งให้เขาจากไป อิทธิพลเก่าจึงยึดกุมเหตุผลนี้ไม่ให้เขามีชีวิตต่อไป  เพราะพวกมันเข้าใจว่า เขาส่งผลกระทบต่อคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังดูว่าเขาทำอย่างไร แต่ไม่บำเพ็ญจริง   คนเหล่านี้ที่แท้แล้ว ใช้ได้หรือไม่  สามารถจะบำเพ็ญได้หรือไม่  บำเพ็ญจริงหรือปลอม    ต้องบำเพ็ญเองจึงจะใช้ได้   พวกมันยึดกุมข้ออ้างนี้ไว้ได้จริงๆ  อาจารย์ก็ทำอะไรไม่ได้   เพราะพวกมันยึดกุมหลักการไว้แล้ว   พวกมันพูดว่า  ท่านดูคนกลุ่มใหญ่นั้น  คนไหนที่บำเพ็ญจริงละ  ต้องให้เขาจากไปเสีย   ดังนั้นในการบำเพ็ญต้องเดินบนทางของตนเอง  ต้องบำเพ็ญตนเอง  

แน่ละไม่ใช่เพียงแค่สองสภาพการณ์นี้เท่านั้น  บางคนยึดติดกับโรคเป็นเวลานาน ก็อันตราย  เพราะบางคนพูดว่าเมื่อบำเพ็ญต้าฝ่าแล้วโรคก็หายแล้ว  ก็มีร่มนี้คุ้มครองแล้ว   ฉันเพียงเข้ามาในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าได้แล้ว   ฉันก็จะไม่เป็นโรคแล้ว  อะไรๆฉันก็ไม่กลัวแล้ว   นี่เป็นใจคนที่แรงเพียงไร   มาเพื่อการบำเพ็ญจริงๆหรือไม่ละ  เป็นการถือเอาต้าฝ่าเป็นร่มคุ้มกัน  แม้ว่าตอนเริ่มต้นไม่ได้คิดอย่างนี้  ก็เป็นจิตยึดติดอันหนึ่ง

เวลาที่เราหยวนหมั่นนั้นมิใช่บำเพ็ญกันจนไม่มีจุดรั่วแล้วหรือ   ในใจคนไม่มีจุดรั่วใดๆ  ใจคนแต่ละดวงล้วนใช้ไม่ได้  ล้วนต้องทิ้งไป  นี่ล้วนสามารถก่อให้เกิดเรื่องที่คาดไม่ถึง   ได้ผ่านทุกข์ภัยมากมายอย่างนี้แล้ว  ข้าพเจ้าคิดว่าผู้ฝึกจำนวนมากล้วนทราบว่าเป็นเรื่องอะไรแล้ว   เรื่องนี้ไม่ขออธิบายแล้ว   ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นหนทางที่พวกท่านเคยผ่านมาแล้ว

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่าบางคนในประเทศจีน หลังจากได้รับการประทุษร้ายก็ไม่ก้าวออกมา   แต่ศิษย์ที่ตกหล่นอยู่ข้างหลังจะทำให้จังหวะก้าวของการเจิ้งฝ่าลากยาวออกไป  จะขอให้ท่านอาจารย์ให้ความกระจ่างได้หรือไม่

อาจารย์       เขาลากยาวออกไปไม่ได้  เพราะเวลาก็ไม่รอคน  อาจารย์เพียงแต่ให้โอกาสอีกครั้ง  ขั้นตอนตรงกลางนั้นสามารถรอได้  แต่เวลาที่ใหญ่ตอนสุดท้ายจริงๆนั้นไม่อาจจะลากยาวออกไป

ศิษย์        ในจังหวะก้าวของการเจิ้งฝ่าในขณะนี้ ศิษย์ต้าฝ่าแผ่นดินใหญ่ควรทำอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น  พวกเขาให้ผมสวัสดีท่านอาจารย์แทน 

อาจารย์       ช่วยเหลือสรรพชีวิต  อธิบายความจริง  ทำสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ  บำเพ็ญตนเองให้ดี  อย่าสร้างสิ่งแปลกใหม่ อย่าทำเรื่องของทางสายเล็กเหล่านั้น   ให้ทำสามเรื่องให้ดีอย่างสง่าผ่าเผย  ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

ศิษย์        เกี่ยวกับหลักการของฝ่าเรื่องการรวบรวมเงินทุน  เรียนท่านอาจารย์ให้ความกระจ่างสักหน่อย  อย่างเช่นมีโครงการในต่างประเทศที่ต้องทำ  ดังนั้นผู้ฝึกบางคนจึงออกเงิน  บางคนออกแรง นี่นับเป็นการรวบรวมเงินทุนหรือไม่

อาจารย์           ที่จริงการรวบรวมเงินทุนเรื่องนี้  โดยหลักคือข้าพเจ้าพูดเจาะจงต่อสถานการณ์ในจีนแผ่นดินใหญ่   ในต่างประเทศพบได้น้อย  ในไต้หวันมีเฉพาะรายที่กำลังเจาะช่องว่างของศิษย์ต้าฝ่าอยู่    แต่ในจีนแผ่นดินใหญ่คนเลวอย่างนี้มีมาก    ดังนั้นโดยหลักข้าพเจ้าจึงพูดเจาะจงต่อสถานการณ์ของจีนแผ่นดินใหญ่   ฉะนั้นในพื้นที่อื่นจึงพบได้ค่อนข้างน้อย   มีศิษย์ต้าฝ่าบางคนร่วมกันลงขันเพื่อจัดทำโครงการอะไรอย่างหนึ่ง  นี่ไม่นับเป็นการรวบรวมเงินทุน  ไม่ได้ยื่นมือขอเงินจากคนอื่น  นี่ล้วนไม่นับ  แน่ละมีบางคนที่ทำการค้าหรือว่าศิษย์ต้าฝ่าที่มีสภาพทางเศรษฐกิจดีมาก นำเงินบางส่วนมาสนับสนุนโครงการ  นั่นเป็นคนละเรื่องกับการรวบรวมเงินทุน     นี่ล้วนเป็นการริเริ่มทำออกมาจากใจของตนเอง  และไม่ได้กระทบกับอะไร เศรษฐกิจของเขาเองก็ค่อนข้างดี นี่ไม่นับ  ไม่ได้ทำเป็นระบบสมาชิก และไม่ได้ยื่นมือมาบอกให้ผู้ฝึกเที่ยวรวบรวมเงินทุนไปตามที่ต่างๆ   ใครที่ทำอย่างนี้ คนนั้นก็ผิด

ศิษย์        ระยะนี้ในหมู่ผู้ฝึกบางพื้นที่นั้น กรรมแห่งโรคสะท้อนออกมาค่อนข้างโดดเด่น  ผู้ฝึกบางคนจึงเสนอว่าให้ทุกคนฟาเจิ้งเนี่ยนพร้อมกัน และทำให้ชีวิตที่ก่อให้เกิดกรรมแห่งโรคได้รับการแก้ไขด้วยดี(ด้วยความเมตตา)  ความเข้าใจและวิธีการชนิดนี้ที่ทำถูกต้องหรือไม่

อาจารย์          ศิษย์ต้าฝ่านั้นเมตตา  ฝ่าเซินของอาจารย์ก็กำลังแก้ไขวาสนาที่ดีกับร้ายนานาชนิดของพวกท่านด้วยความเมตตา  วิธีคิดนั้นไม่ผิด  แต่ต้องดูว่าเป็นสภาพการณ์นั้นหรือไม่  หรือเป็นเพราะเจิ้งเนี่ยนไม่พอ ทำอย่างจำใจ

   มีบางคนที่มีโรค  พอบำเพ็ญต้าฝ่าก็หายแล้ว  หายแล้วจริงๆ  แต่ เมื่ออิทธิพลเก่า เพื่อจะให้ท่านทิ้งใจของท่าน   เพื่อจะทดสอบว่าท่านใช้ได้หรือไม่  มันยังจะให้ท่านรู้สึกเจ็บปวดตรงส่วนนั้นที่เดิมเคยมีอาการของโรค หรือมีโรคสะท้อนออกมา  แม้กระทั่งอาการก็เหมือนกับเป็นโรค   ดูว่าท่านเชื่อต้าฝ่าหรือไม่   ในเวลานั้นจะทำอย่างไร  ความคิดของคนกับเทพหนา   ถ้าที่ท่านคิดคือเจิ้งเนี่ยน  ท่านพูดว่านี่ล้วนเป็นของปลอม  อิทธิพลเก่ากำลังรบกวน  ฉันบำเพ็ญต้าฝ่ามานานหลายปีอย่างนี้  ไม่อาจจะเกิดสภาพการณ์อย่างนี้  หากท่านคิดออกมาจากในใจจริงๆ  ในฉับพลันอะไรก็จะไม่มี แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่คนพูดๆกันก็จะทำได้   เจิ้งเนี่ยนที่แน่วแน่อย่างนั้นที่ออกมาจากใจข้างในของท่าน  ไม่ใช่แค่รูปแบบ  และไม่ใช่พูดแต่ปาก    อย่างเช่นมีคนพูดว่า อ้อ  อาจารย์สอนพวกเราให้พูดอย่างนี้  เช่นนั้นฉันก็พูดอย่างนี้  แต่ในใจท่านไม่มั่นคง   หรือทำให้อาจารย์ดู  แต่หาได้บรรลุถึงเขตแดนนั้นแต่อย่างใด     หากความคิดนั้นออกมาจริงๆก็ไม่อาจสั่นสะเทือนมันได้  ไม่สามารถตีเรื่องที่อิทธิพลเก่าทำ ให้แตกไปได้  นั่นใช้ไม่ได้   นั่นต้องเป็นเจิ้งเนี่ยนที่เกิดจากการบำเพ็ญจึงจะใช้ได้

   เพื่อให้ทุกท่านสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้ดี  ข้าพเจ้าจึงบอกให้ทุกท่านศึกษาฝ่าอย่างจริงจัง  บำเพ็ญจริง พอเจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งจริงๆมีพลังเหมือนกับเทพที่สามารถผ่าภูเขาได้ หนึ่งความคิดก็ผ่าภูเขาได้            เช่นนั้นท่านลองดูว่าอิทธิพลเก่าจะยังกล้าหรือไม่กล้าทำอะไร พอเจิ้งเนี่ยนออกมาอะไรก็ขวางไม่อยู่  ดังนั้นที่ถูกรบกวนมากที่สุด ถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงที่สุด ส่วนมากคือผู้ฝึกเหล่านั้นที่ไม่ค่อยก้าวหน้า  หรือไม่ศึกษาฝ่าอย่างสม่ำเสมอ  ขณะศึกษาฝ่าความคิดกำลังทำเรื่องอื่นอยู่  ล้วนจะเป็นอย่างนี้   แต่ศิษย์ต้าฝ่าที่บำเพ็ญได้ดีเหล่านั้น ก็รบกวนไม่ได้จริงๆ รบกวนไม่ได้แม้แต่น้อย และเจิ้งเนี่ยนเพียงพอมาก  ขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือคนอื่น  ช่วยเหลืออาจารย์เจิ้งฝ่าอยู่จริงๆ

ศิษย์        ผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่หลายคนถือเอา ยันต์คุ้มครอง ที่เขียนว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” เป็นของจำเป็นต้องมี  ในการอธิบายความจริง  พอเจอคนก็แจกให้  แต่ไม่ได้อธิบายความจริงให้ลึกซึ้ง

อาจารย์  นี่ไม่ถูกต้องแน่ และไม่รู้ว่าทำอะไรกัน  “ ให้คุณแผ่นหนึ่ง  (ที่ประชุมหัวเราะ) เขาเพิ่งประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าในค่ายแรงงานเสร็จ  ท่านให้เขาแผ่นหนึ่งเพื่ออะไร  ท่านคุ้มครองเขาเพื่ออะไร    คุ้มครองไม่ให้เขาเกิดปัญหา  แล้วประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าต่อไปหรือ     ท่านต้องอธิบายความจริงให้เขาฟัง  ให้เขาเข้าใจ  อย่าทำเรื่องชั่ว  เมื่อช่วยเหลือเขาได้จริงๆแล้วท่านค่อยให้ยันต์แผ่นหนึ่งกับเขา  ต้องทำอย่างจริงๆจังๆ  การช่วยคนไม่ใช่การแจกเอกสารนะ  ให้แผ่นหนึ่งก็คือแผ่นหนึ่ง

ศิษย์        ผู้ฝึกแผ่นดินใหญ่พบกับญาติหรือเพื่อนที่ป่วยหนัก  จึงบอกให้ท่อง “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี”  และพูดรับรองว่าโรคจะต้องหายแน่

อาจารย์               กล่าวสำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ในจีนแผ่นดินใหญ่  หากคนๆนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชั่วร้ายนั้น กล้าท่องจริงๆ  กระทั่งท่องออกเสียงมา  เขาก็จะหายได้ (ที่ประชุมปรบมือ)  แต่หากท่องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย  ไม่แน่ว่าจะได้ผล  เพราะอะไรละ  เป็นเพราะที่นั่นมีแรงกดดันของสิ่งชั่วร้าย  ท่านกล้าออกมาพูดว่าต้าฝ่าดี  กับพูดตามสบายอยู่ในสภาพแวดล้อมของอเมริกาจะไม่เหมือนกัน   ไปที่ถนนใหญ่ร้องตะโกนว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี”  ตำรวจก็จะโบกมือตาม (ที่ประชุมหัวเราะ) ไม่มีแรงกดดัน  แต่หากท่องต้าฝ่าดีจากข้างในใจจริงๆ  นั่นก็จะเกิดประโยชน์  ดังนั้นผลจะเป็นอย่างไร  นั่นต้องดูความตั้งใจในสภาพการณ์กับสภาพแวดล้อมนั้น   หากสภาพแวดล้อมดีมาก  ผ่อนคลายมาก ไม่มีแรงกดดัน  นั่นก็ต้องดูสภาพการณ์  นี่คือการดูที่ใจคน

ศิษย์        บางคนอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ไม่เคยฝึกฝ่าหลุนกง  แล้วไปต่างประเทศเพื่อจะจัดการเรื่องสถานภาพ  มาที่สนามฝึกของเราเรียนท่าฝึกพลังห้าชุด  ถ่ายรูปสถานที่ทำกิจกรรมชนิดต่างๆ  โกหกรัฐบาล ยื่นขอการคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัย หรือศิษย์ต้าฝ่าเราบางคนออกหนังสือรับรองให้กับคนในครอบครัว  การทำเช่นนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดของฝ่าหรือไม่ 

อาจารย์       เมื่อการประทุษร้ายเพิ่งเริ่มต้น ศิษย์ต้าฝ่าล้วนเคยถกเถียงเรื่องเหล่านี้กัน  ว่าจะทำอย่างไร   ข้าพเจ้ามองอย่างนี้  ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม  เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของรัฐบาล  ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ไม่ได้สนใจอำนาจการบริหารปกครองเรื่องนี้  เช่นนั้นเมื่อเขาคิดจะเรียน  เขาคิดจะฝึกพลัง  เช่นนั้นท่านบอกว่าท่านไม่อาจสอนเขาได้หรือ  ก็ต้องสอนเขา  ที่สำคัญคือในระหว่างขั้นตอนนี้ ทุกท่านจะต้องอธิบายความจริงกับเขา  ให้เขาเข้าใจ จึงจะเป็นสิ่งสำคัญ

   ปกติศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่จิตใจดีงามมาก  เขาจะถ่ายรูปก็ให้ถ่ายไปเถอะ  จะเรียนก็เรียนเถอะ  ใช่ละ  ในสถานการณ์อย่างนี้  เมื่อเขาใช้ฝ่าหลุนกงในการยื่นขอลี้ภัยทางการเมือง  เช่นนั้นคนๆนี้ก็ติดค้างหนี้บัญชีหนึ่งต่อฝ่าหลุนกงแล้ว  จากวันนี้ไปเขาไม่อาจทำเรื่องที่ไม่ดีต่อฝ่าหลุนกง   หากทำไปแล้ว  เขาจะได้รับกรรมสนองทันที  หนี้บัญชีนี้เขาต้องชดใช้   ต้องชดใช้จนถึงระดับนั้น   จากประเทศจีน สามารถมาถึงอเมริกาได้  เป็นการอาศัยฝ่าหลุนกงจึงสามารถมาได้  ท่านต้องชดใช้หนี้ที่มีน้ำหนักมากอย่างนี้   ไม่แน่ว่าจะทำผิดกฎหมายอะไรก็จะถูกส่งตัวกลับประเทศไปแล้ว   หรือได้รับกรรมสนองทางอื่นที่พอๆกัน  ขณะนี้มีทนายความบางคนติดค้างฝ่าหลุนกงมากแล้ว   แต่พูดจากอีกด้านหนึ่ง  การบอกให้คนได้เข้าใจต้าฝ่าก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี   ถึงแม้ว่าคนออกนอกประเทศล้วนเพื่อมาหาเงิน  ทำมาหากิน  วางผลประโยชน์ไว้เป็นอันดับแรก  แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม  ในระหว่างขั้นตอนนี้ย่อมได้ทำความเข้าใจฝ่าหลุนกงในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน   ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ปกติเราจะไม่ค่อยใส่ใจ  เพราะจะสนใจหรือไม่  เป็นเรื่องของรัฐบาล  ไม่ใช่เรื่องของเรา   ดังนั้นทุกท่านพยายามอย่าไปผูกวาสนาที่ไม่ดีนั้นเลย

ศิษย์        ขอเรียนถามท่านอาจารย์   ในระหว่างการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การส่งเสริมเสินยวิ่นให้กว้างขวางนั้น ควรที่จะเชื่อมการยกระดับซินซิ่งเข้าไว้ด้วยหรือไม่ ไม่ใช่พูดแต่การทำงาน

อาจารย์       ใช่ละ  ศิษย์ต้าฝ่าทำเรื่องอะไรนั้น ล้วนต้องมีเจิ้งเนี่ยนเพียงพอสักหน่อย  จึงจะสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น  แน่ละและไม่อาจพูดว่าการทำงานเร่งรัด ก็ไม่สนใจ   สนใจแต่จะศึกษาฝ่า  พอศึกษาฝ่าเสร็จคนที่จะหาก็ไปแล้ว   เรื่องก็ทำไม่สำเร็จ  นั่นก็ใช้ไม่ได้  เรื่องอะไรก็ตามพวกท่านไม่อาจยึดแต่หลักการจนเกินไป  ฝ่านั้นต้องศึกษาแน่  แต่ต้องรู้จักแยกแยะสถานการณ์ จัดแบ่งเวลา  พวกท่านต้องจัดวางมันให้ดี  

ศิษย์        ความนึกคิดและอุปนิสัยที่เกิดมานาน เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้หรือไม่  มันรบกวนการศึกษาฝ่าอย่างมาก จะหลุดพ้นการรบกวนชนิดนี้ได้อย่างไร

อาจารย์      ความนึกคิด  วิธีคิด  ทัศนคติต่างๆที่เกิดขึ้นในสมองของคน  ล้วนเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนที่ท่านสัมผัสติดต่อกับเรื่องราวต่างๆในสังคมมาเป็นเวลานาน  อายุยิ่งมากยิ่งสะสมไว้มาก  ปรากฏการณ์ที่ไม่ดีในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นปัจจุบันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ  ที่ท่านได้เห็นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ  ผู้คนพูดว่าเด็กของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่กับต่างประเทศไม่เหมือนกัน   เด็กที่ออกมาจากแผ่นดินใหญ่อะไรก็รู้และฉลาดแกมโกง  ใช่ละ  สังคมนั้นเรื่องเลวอะไรๆก็ปรากฏออกมา  หนังสือพิมพ์  สื่อมวลชน  พฤติกรรมของคน  สิ่งที่พูดกันล้วนไม่มีขอบเขตจำกัด  สิ่งที่ไม่ควรมี ที่กรอกเข้าไปในสมองเด็กจึงมีมาก  จึงมีมากกว่าเด็กในต่างประเทศ  เขาจึงแก่แดดมาก

ของอะไรที่กรอกใส่เข้าไปในความคิดก็จะเก็บสิ่งนั้นไว้   คนนั้นมีความจำ  พูดว่าเป็นความจำ  นี่พูดขึ้นมาดูคล้ายเป็นเพียงทัศนคติ   ที่จริงมันเป็นสสารที่คงอยู่อย่างแท้จริง  เวลาคนสนทนา  เวลาที่พูดเหตุผลอะไรให้กับท่าน  หรือว่าเมื่อจะเกลี้ยกล่อมท่าน  “บลาๆๆๆ” กรอกใส่เข้าไปในสมองท่านรวดเดียว ก็เหมือนกับโยนของใส่ท่านอย่างนั้น  บางคนโกรธมาก ต่อต้านไม่หยุด  ก็คือไม่หยุดที่จะผลักไสไป   แน่ละศิษย์ต้าฝ่านั้นเป็นประโยชน์ต่อคน  พวกเรานั้นพูดตามเจิ้งเนี่ยน   สิ่งที่พุ่งออกมาตามคำพูดคือเหลียนฮวา(ดอกบัว)     แต่คนธรรมดาสามัญสิ่งที่ก่อเกิดขึ้นในสังคม  ไม่มีของดีอะไรนัก  พอเข้าไปในร่างกายคนมันก็จะควบคุมคน  คนพูดกันว่าตามองเห็นอะไรก็ไม่เป็นไร   ถ้าไม่อยากมอง ก็ไม่มองมันก็หมดเรื่องแล้ว  ไม่ใช่  เมื่อท่านเห็นแล้วก็เข้าไปแล้ว  เพราะสิ่งใดๆในอีกมิตินั้น มันสามารถแยกร่างออกได้  เวลาที่ดูยิ่งนานมันก็ยิ่งเข้าไปมาก  ดูทีวี  ดูคอมพิวเตอร์  ไม่ว่าสิ่งของอะไรพอท่านดูมันก็เข้าไป  ในสมองและร่างกายคนเมื่อบรรจุสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้มากเข้า  พฤติกรรมของท่านก็ถูกมันควบคุม  การพูดจาของท่าน  วิธีคิดของท่าน  สภาวะการรับรู้เรื่องราวของท่าน ล้วนจะได้รับผลกระทบจากมัน

สภาพแวดล้อมอะไรก็จะสร้างคนอะไรขึ้นมา  นี่เป็นสิ่งตายตัว  ไม่เพียงในวงการบำเพ็ญ  ในหมู่คนธรรมดาสามัญ คนเฒ่าคนแก่ในอดีตล้วนเข้าใจดี   สิ่งเหล่านี้จะถูกขจัดไปในระหว่างการบำเพ็ญ  แต่ท่านบอกว่าวันนี้ฉันบำเพ็ญแล้ว  ฉันจะทิ้งไปให้หมดเลย  ในสภาพการณ์ทั่วไปนั้นทำไม่ได้   เพราะอะไรหรือ  น้ำแข็งหนาสามฟุตใช่ว่าจะเกิดขึ้นจากความหนาวเย็นในหนึ่งวัน  สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นยากมากที่จะขจัดทิ้งไปได้ในครั้งเดียว  ท่านไม่มีพลังความร้อนที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นก็ยังไม่อาจบรรลุถึงระดับการหลอมละลายมันทิ้งไปได้   ท่านต้องทำหลายครั้งจึงจะสามารถละลายมันทิ้งไปได้   วันนี้ท่านบำเพ็ญดีหน่อยก็ละลายทิ้งไปได้หน่อยหนึ่ง  พรุ่งนี้บำเพ็ญได้ดี ละลายได้อีกหน่อย   วันมะรืนบำเพ็ญได้ดี ละลายได้อีกหน่อย  อย่างค่อยเป็นค่อยไป  หากท่านมีเจิ้งเนี่ยนเต็มเปี่ยม  พลังความร้อนนั้นก็จะสูงขึ้นมา  ก็จะละลายมันได้ทั้งหมด 

   ทำไมจึงมีคนพูดว่า สิ่งที่ไม่ดีในความคิดนั้นฉันทิ้งได้หมดแล้ว  แล้วทำไมยังมีอีกละ และฉันฟาเจิ้งเนี่ยนขจัดไปทุกวัน  ทำไมยังสะท้อนออกมาได้ละ   ทำไมทิ้งไปไม่ได้สักทีนะ   ใช่ละ  สิ่งนั้นของท่านก็ไม่ใช่เข้าไปในวันเดียว  (อาจารย์หัวเราะ) และไม่ใช่เกิดขึ้นในคราวเดียว    ก็เป็นความสัมพันธ์กันเช่นนี้    พูดว่า งั้นขอให้อาจารย์ช่วย ก็จะเอาออกไปให้ฉันได้หมดแล้วใช่หรือไม่   เช่นนั้นท่านว่า นี่มิใช่อาจารย์บำเพ็ญแทนท่านแล้วหรือ  เช่นนั้นสุดท้ายก็ไม่ใช่ท่านที่บำเพ็ญนะ  ไม่นับว่าเป็นสิ่งที่ท่านบำเพ็ญนั่นคือไม่ได้บำเพ็ญ  ก็คือการบำเพ็ญมีจุดรั่ว  หลังจากกลับสวรรค์ไป พอเหล่าเทพเห็นท่าน  ท่านบำเพ็ญอย่างไรละ  สิ่งต่างๆมากมายไม่ใช่ท่านบำเพ็ญเอง   ไม่มีธรรมานุภาพ  ไม่เคยทนทุกข์ทางด้านนี้  ตลอดทางล้วนแต่เป็นอาจารย์ที่เอาทิ้งไปให้  สวรรค์นั้นก็จะไม่รับท่าน    ท่านยังมีหนี้ที่ไม่ได้ชดใช้  ไม่ได้  ติดค้างอะไรก็ต้องชดใช้อะไร  นี่เป็นหลักการของจักรวาล  อาจารย์สามารถช่วยท่านชดใช้ส่วนหนึ่ง   แบกรับสิ่งที่ท่านควรแบกรับเล็กน้อยนั้น  กล่าวสำหรับท่านแล้ว ก็ไม่มีอันตรายอะไร   แต่ท่านต้องรับรู้ได้ว่าอะไรคือการบำเพ็ญ  บำเพ็ญกันอย่างไร  ในการบำเพ็ญมีการรู้แจ้ง  มีการยกระดับ  นั่นจึงเป็นการบำเพ็ญ

ศิษย์        สามารถจะขอให้ท่านอาจารย์พูดถึงความสำคัญของ “นิทรรศการศิลปะ  เจิน ซั่น เหริ่น”ได้หรือไม่

อาจารย์       พูดถึงความสำคัญ  นิทรรศการศิลปะก็เหมือนกับโครงการอื่น  ล้วนเป็นโครงการอธิบายความจริงที่ศิษย์ต้าฝ่าทำในระหว่างช่วยคน  ก็เป็นเช่นนี้  เหมือนกับโครงการอื่นทั้งนั้น

ศิษย์        ท่านอาจารย์ที่เคารพ  ศิษย์ทำงานวางระบบสื่อมวลชน  ในด้านการวางแผนงาน   อย่างเช่นการออกแบบรับเหมางานของทีวี  มีสิ่งต่างๆมากมายล้วนไม่ใช่แบบดั้งเดิม  มีความเป็นการค้ามาก  ในอดีตไม่มี  หากจะเดินเส้นทางหนึ่งของศิษย์ต้าฝ่า  และยังต้องสอดคล้องกับความเป็นมืออาชีพ  จะยึดกุมอย่างไรดี

อาจารย์       งานของคนธรรมดาสามัญ ท่านเพียงตั้งใจไปทำ   การดำเนินงานของสังคมนี้ก็เป็นสิ่งของ ของยุคนี้  เช่นนั้นท่านว่าสมัยโบราณไม่มีสภาพการณ์ของสังคมยุคนี้  หากท่านจะทำของที่เป็นของยุคโบราณ ก็ไม่มีคนซื้อนะ (ที่ประชุมหัวเราะ) มันก็ไม่มีสภาพแวดล้อมนั้นละนะ สังคมในปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้แล้ว ท่านก็ไปทำตามปกติ ไม่นับเป็นความผิดของท่าน ศิษย์ต้าฝ่าไม่ไปผลักดันมัน พยายามทำให้เกิดผลในด้านบวกให้มากก็พอแล้ว แต่ท่านอยู่ในสภาพแวดล้อมใดก็ต้องบำเพ็ญ บำเพ็ญตัวเอง ต่อหน้าผลประโยชน์ ต่อหน้าความดีความเลว ต่อหน้าความผิดถูก ต่อหน้าสิ่งที่ควรและไม่ควร ท่านจะจัดวางตัวเองอย่างไร ท่านก็ไปปฏิบัติและบำเพ็ญ หนังสือก็อ่านแล้ว ฝ่าก็ดูแล้ว บำเพ็ญโดยไม่หยุด อ่านฝ่าอย่างต่อเนื่อง เช่นนั้นอยู่ในสังคมดูซิว่าท่านจะยึดกุมตัวเองให้ดีได้อย่างไร

 โรงเรียนในยุคปัจจุบัน สิ่งที่เรียนกัน ล้วนเป็นสิ่งเหล่านี้   เมื่อไปทำในสภาพแวดล้อมของการทำงานก็เป็นเรื่องเหล่านี้  นี่ไม่เป็นไร  สังคมนี้ก็เป็นอย่างนี้แล้ว  เป็นได้แต่เพียงว่าตัวท่านเองพยายามทำ ก็น่าจะทำได้ดี   ท่านไม่ทำงานก็ยากจะเลี้ยงดูครอบครัวได้ แล้วจะทำอย่างไรละ    ความอยู่รอดของตนเองก็เป็นปัญหาแล้ว  จะทำอย่างไรละ  หากเดี๋ยวนี้บอกให้ทุกท่านใส่ชุดสมัยโบราณ   จากนี้ไปก็ทำแต่เรื่องเหล่านั้นที่คนสมัยโบราณทำกัน (ที่ประชุมหัวเราะ)  ไม่ใช่บอกให้ทุกท่านทำอย่างนี้  ยุคสมัยก็เป็นยุคสมัยหนึ่งอย่างนี้แล้ว  มนุษยชาติในอนาคตจะหวนกลับสู่วัฒนธรรมดั้งเดิมของมนุษยชาติ  จะต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน  จะเป็นได้แน่ทีเดียว  แต่ขณะนี้ยังไม่ได้  โดยเฉพาะในระหว่างการช่วยเหลือคน   พวกท่านต้องไปช่วยคนโดยสอดคล้องกับสภาพสังคมของคนธรรมดาสามัญ  หาไม่แล้วท่านก็ช่วยคนไม่ได้  หากท่านทำอะไรที่เป็นพิเศษ  ผู้คนจะเห็นท่านแปลกๆ  ท่านพูดอะไรคนอื่นไม่เข้าใจ  เช่นนั้นจะช่วยคนได้อย่างไรกัน

ศิษย์        จะเผยแพร่เสินยวิ่นให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในสังคมกระแสหลักได้อย่างไร  ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

อาจารย์        ในทางปฏิบัติที่เป็นจริงพวกท่านไปลองทำกันเอง  สภาพการณ์ของแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน  สภาพการณ์ของแต่ละชนชาติก็ต่างกัน  บ้างเคยผ่านสังคมคอมมิวนิสต์มา  บ้างอยู่ในสังคมปกติตลอดมา บ้างเป็นพื้นที่ที่เศรษฐกิจก้าวหน้า  และบ้างเป็นพื้นที่ที่เศรษฐกิจไม่ดี   ทัศนคติด้านวัฒนธรรมที่ก่อเกิดในสังคมของคนแต่ละกลุ่มก็ต่างกัน ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าของแต่ละพื้นที่ พวกท่านต้องไปทำกันเอง   เรื่องการแสดงของเสินยวิ่นนี้  ข้าพเจ้าไม่ใช่จะให้ทุกท่านต้องทำให้ได้  เพราะมันก็เป็นโครงการหนึ่งในการช่วยคน  แต่เงินทุนของศิษย์ต้าฝ่านั้นมีจำกัด  หากพวกท่านจะทำก็ต้องทำมันให้ดี  หาไม่ ท่านก็อย่าทำ  ข้าพเจ้าไม่ได้บอกให้แต่ละเมืองทั่วโลกต้องแสดงเสินยวิ่น  ข้าพเจ้าบอกว่าหากท่านจะทำจริงๆ ท่านต้องทำให้ดี  หาไม่ก็อย่าทำ  

   บางคนรู้สึกว่า  เสินยวิ่นของเราปีนี้ดีเหลือเกิน  ไม่ขาดทุน  เขาดีใจ  แต่เสินยวิ่นขาดทุนแล้ว    ท่านทราบไหมปีหนึ่งเสินยวิ่นมีค่าใช้จ่ายหลายล้าน   เช่นนั้นเงินนี้ออกมาจากไหนละ  ศิษย์ต้าฝ่าต่างก็รู้ว่าเชิญเสินยวิ่นมาได้ จะสามารถช่วยคนได้   หากสามารถทำเรื่องนี้  เช่นนั้นถ้าท่านไม่รับผิดชอบต่อเสินยวิ่นก็ใช้ไม่ได้นะ   เสินยวิ่นช่วยบุกเบิกเงื่อนไขให้กับศิษย์ต้าฝ่าในพื้นที่ต่างๆ  ทำเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิต  แต่พวกท่านก็ต้องสร้างสรรค์เงื่อนไขหนึ่งให้กับเสินยวิ่นนะ  ถ้าจะทำพวกท่านก็ต้องทำให้ดีอย่างจริงๆจังๆ   โดยเฉพาะเรื่องนี้คือเรื่องที่อาจารย์กำลังนำเสินยวิ่นทำโดยตรงแล้ว  ดังนั้นพวกท่านในพื้นที่ไหนทำได้เป็นอย่างไรบ้าง  ปัญหาจะสะท้อนกลับมาที่ข้าพเจ้านี้เร็วมาก 

ศิษย์        ปัจจุบันลูกๆของศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมาก ล้วนถูกของของคนธรรมดาสามัญมอมเมาแล้ว  ควรทำอย่างไรดี

อาจารย์        ใช่ละ  สังคมนี้ก็คืออ่างย้อมใบใหญ่  ขณะนี้สังคมนี้กำลังแย่งยื้อคนกับศิษย์ต้าฝ่า   กระทั่งลูกๆของศิษย์ต้าฝ่าก็อยู่ในสภาพแวดล้อมนี้   สิ่งที่ไม่ดีกำลังลากคนลงไป   ถ้าเด็กไม่สามารถบำเพ็ญหรือไม่มีสภาพแวดล้อมที่ดี  ก็จะขวางไว้ไม่อยู่จริงๆ  แต่ความรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่าก็มากอย่างนี้   พวกเราไม่เพียงช่วยเหลือสรรพชีวิต  คนข้างตัวก็ต้องช่วยนะ

ศิษย์        ขอเชิญท่านอาจารย์พูดเกี่ยวกับรายการวิทยุ“เสียงแห่งความหวัง”(ซีวั่งจือเซิง)และความสัมพันธ์กับโครงการสื่ออื่นๆ

อาจารย์         เรื่องนี้ไม่มีความสัมพันธ์ที่เป็นพิเศษอะไร  ล้วนแต่เป็นโครงการที่ศิษย์ต้าฝ่าทำกันเอง  ตามเป้าหมายโดยรวมคือการช่วยสรรพชีวิต  ไปทำอย่างเต็มกำลัง  เมื่อจะทำก็ต้องทำมันให้ดี  หาไม่แล้วก็ไม่ต้องทำ  หากท่านทำไม่ดี  สิ่งชั่วร้ายนั้นยังจะหัวเราะเยาะท่าน  ยังจะสร้างรอยด่างพร้อยให้กับศิษย์ต้าฝ่า  นำมาซึ่งผลกระทบที่ไม่ดี  ดังนั้นไม่ว่าทุกท่านจะทำอะไร ต้องทำอย่างจริงจัง

    ทางที่พวกท่านเดินผ่านมาในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ทุกสิ่งล้วนมีการบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์  สิ่งที่ท่านทำสำเร็จ เทพกำลังให้ข้อสรุปแก่ท่าน  ฝ่าเซินของอาจารย์ให้ข้อสรุปแก่ท่าน   เมื่อนำสิ่งสุดยอดออกมาก็เป็นเส้นทางของท่าน  ก็เป็นธรรมานุภาพของท่าน  ก็คือท่านได้สถาปนาสิ่งที่เป็นของโลกนั้น  สิ่งที่องค์ศากยมุนีประจักษ์แจ้งคืออะไรหรือ  คือ “ศีล สมาธิ  ปัญญา”  ทุกท่านล้วนทราบ  นี่คือการบำเพ็ญของพระองค์  รวมทั้งสิ่งที่ได้รับในการถ่ายทอดหลักธรรม ๔๙ ปีในโลกมนุษย์   ฉะนั้นเทพแต่ละองค์ต่างมีสิ่งที่ตนเองประจักษ์แจ้ง   นั่นคือสิ่งที่เขาประจักษ์แจ้งได้โดยอยู่ในต้าฝ่าของจักรวาล  ในระหว่างการประจักษ์แจ้งก็ทำให้ตนเองสำเร็จผล  และเป็นการบุกเบิกโลกของเขาเอง ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนทุกสิ่งที่ท่านทำนั้นล้วนมีเทพคอยดูแลอยู่  ล้วนมีเทพที่กำลังให้ข้อสรุป      

ศิษย์        เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโฆษณาของสำนักงานใหญ่ซินถังเหริน กำหนดให้นักข่าวถ่ายทำข่าวอุตสาหกรรมและการค้าให้บางบริษัทแบบให้เปล่า

อาจารย์   ถ่ายทำข่าวแบบให้เปล่า  ถ้าหากเพื่อจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีหรือมีการแลกเปลี่ยนทางการค้าอะไรกัน  นี่ก็ทำได้  ถ้าไม่ใช่เช่นนี้  ไปทำโดยไม่มีค่าตอบแทน ก็ไม่มีความหมายอะไร  หากอาศัยเรื่องนี้ไปอธิบายความจริงช่วยเหลือคน  ข้าพเจ้าก็ไม่คัดค้าน  ถ้าไม่มีอะไร  เช่นนั้นจะไปทำทำไม  คำถามนั้นถามอย่างนี้  ข้าพเจ้าก็ต้องตอบอย่างนี้

ศิษย์        ศิษย์รับรู้ได้ไม่ดี   เรื่องนี้กระทบต่อยี่ห้อของซินถังเหริน  หรือว่านักข่าวควรพยายามร่วมมือกัน  ช่วยเจ้าหน้าที่การตลาด ใช้วิธีการชนิดนี้ไปสัมผัสติดต่อกับลูกค้าในความคาดหวัง  เจ้าหน้าที่การตลาดควรจะยกระดับมาตรฐานความเชี่ยวชาญโดยเร็วหรือไม่  ไปทำการขายโฆษณาอย่างเดียว

อาจารย์       ซินถังเหรินมีเรื่องหลายอย่างที่ควรทำให้ดีสักหน่อยจริงๆ  พวกท่านดูเสินยวิ่นทำกันอย่างไร  ไม่ใช่ใครจะทำอย่างไรก็ทำอย่างไร   การเปิดประชุมถ้าไม่แก้ไขปัญหาที่แท้จริงไม่ได้นะ   ที่จริงเรื่องที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้ข้าพเจ้าไม่คิดจะยุ่งเกี่ยว   ในการบำเพ็ญ นั่นเป็นทางที่พวกท่านต้องเดินให้ดี   ถ้าท่านทำไม่ดี จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากจริงๆต่อการช่วยเหลือสรรพชีวิตของศิษย์ต้าฝ่า  เกิดผลกระทบที่ไม่ดี

ศิษย์     โครงการที่พวกเราทำ ไม่เคยถามท่านอาจารย์มาก่อนเลย  โครงการกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญ   แต่ความคิดเห็นในระหว่างผู้ประสานงานไม่เป็นเอกภาพ  ความขัดแย้งใหญ่มาก  ทำให้โครงการถูกขัดขวาง

อาจารย์         เช่นนั้นก็ทำตามความคิดของผู้รับผิดชอบอันดับแรกเถิด   เมื่อก่อนเรื่องมากมาย ที่ข้าพเจ้าเห็นล้วนมีปัญหานี้อยู่   พวกท่านก็เป็นกันเช่นนี้เดินโซซัดโซเซไปข้างหน้า   ล้มลุกคลุกคลาน   แต่ข้าพเจ้าหวังว่าหลังจากล้มแล้วต้องซึมซับบทเรียนด้านบวก  อย่าซึมซับบทเรียนด้านลบ   การซึมซับบทเรียนด้านลบก็คือการใช้ใจคนคิดปัญหา   ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนปลิ้นปล้อน กลิ้งกลอก  นั่นก็จะเปลี่ยนเป็นคนเลวแล้ว   อะไรคือคนเลว  ข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านกระมัง  คนที่ปลิ้นปล้อนคือคนเลว    ส่วนคนที่จิตใจดีงาม  ความคิดไม่ซับซ้อนอย่างนั้น นั่นคือคนดี   ต้องคิดปัญหาในทางที่ดี  เมื่อล้มลงต้องค้นหาสาเหตุจากมุมมองของผู้บำเพ็ญ    ฉันทำตรงไหนไม่ถูก   ใช้ฝ่าไปประเมิน  ท่านจึงจะสามารถซึมซับบทเรียนด้านบวกได้   หากสามารถไปทำได้อย่างนี้จริงๆ จะต้องดีแน่   หากทุกท่านล้วนทำกันอย่างนี้แล้ว  ข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อว่าโครงการนั้นจะทำได้ไม่ดี  ก็คือไม่ได้มองเข้าข้างใน   ไม่ซึมซับบทเรียนด้านบวก  ก็คือไม่ได้ถกปัญหาเหมือนกับศิษย์ต้าฝ่า

ศิษย์        เวลาเลือกโครงการของต้าฝ่า คำนึงว่าจะสามารถแสดงความชำนาญที่ตนเองเรียนมาได้มากที่สุด  และเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการยกระดับของตนเองมากที่สุด  ไม่ใช่ฟังการพูดชักชวนของผู้รับผิดชอบแต่ละโครงการ ถือว่าผิดหรือไม่  เพราะพวกเขาล้วนต้องการศิษย์ที่มีความสามารถไปทำงานเต็มเวลา  แต่ผมคิดว่า ทำงานของคนธรรมดาสามัญสามารถจะติดต่อสัมผัสถึงสังคมกระแสหลักที่มีผลกระทบต่อคนธรรมดาสามัญได้มากที่สุด ขอเชิญท่านอาจารย์ให้ความกระจ่าง

อาจารย์      “เวลาเลือกโครงการของต้าฝ่า คำนึงว่าจะสามารถแสดงความชำนาญที่ตนเองเรียนมา”  หากใคร่ครวญจากสถานการณ์ที่แท้จริงของการช่วยเหลือคน ไม่มีปัญหา   หากท่านบอกว่าฉันเป็นผู้ชำนาญคอมพิวเตอร์   ฉันไปขายโฆษณา   แน่ละหากท่านว่า ขายโฆษณาฉันก็มีความสามารถนี้ด้วย  นั่นก็ใช้ได้  ก็คือว่าสิ่งที่เราเรียน เราได้ใช้ ถ้าในระหว่างการช่วยเหลือคนสามารถเกิดประโยชน์ได้มากนั่นก็ดี    ตัวเองพิจารณาว่าในระหว่างที่ทำงานของคนธรรมดาสามัญสามารถเกิดประโยชน์ดียิ่งขึ้นในการช่วยคน นั่นไม่ผิดแน่   เรื่องเหล่านี้ง่ายมาก  ตัดสินใจจะทำอย่างไรก็ทำอย่างไร   ผู้รับผิดชอบโครงการบางคน  เนื่องจากขาดคนอย่างมากจึงพยายามลากคนมา  ไม่สนใจว่าท่านทำอะไรได้  ขอเพียงมาอยู่กับฉันที่นี่ได้ก็พอ (ที่ประชุมหัวเราะ)  ทางนั้นพวกท่านเดินเอง  เมื่อล้มลงข้าพเจ้าก็จะไม่พูด  เมื่อตัวเองทราบว่าจะทำอย่างไรก็ดีแล้ว

ศิษย์        เนื่องจากขาดกำลังคน  โครงการต่างๆจึงกำลังแข่งกัน  แย่งบุคลากรที่มีจำกัด  แต่ไม่ได้ร่วมมือกันให้ดียิ่งขึ้น

อาจารย์        ร้อนใจที่จะหาคนที่เหมาะสมก็หาไม่พบในทันที   จึงเร่งรีบลากใครสักคนมาทำก่อน  ข้าพเจ้าทราบ นี่เป็นความยากลำบากที่พวกท่านประสบในขณะนี้  ความขัดแย้งเหล่านี้ข้าพเจ้าก็เฝ้าติดตามอยู่

ศิษย์        เรียนถามท่านอาจารย์   ขณะนี้ในสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเวียดนาม  ก็ต้องอธิบายความจริงกับแผ่นดินใหญ่ไหม

อาจารย์          ถ้าศิษย์ต้าฝ่าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่เป็นพิเศษ  ท่านสามารถทำเรื่องข้างตัวให้ดีได้  ก็ใช้ได้  หากไม่มีสภาพแวดล้อมกับเงื่อนไขนั้น  ก็อย่าฝืนทำ  แน่ละข้าพเจ้าพูดแล้วว่า  คนจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากล้วนไม่ธรรมดา  เพราะแต่ละประเทศในประวัติศาสตร์ ราชาของยุคสมัยที่ต่างกัน   กับพวกที่มีระดับชั้นสูงเหล่านั้นที่ลงมาผูกวาสนา ล้วนกลับชาติไปเกิดที่นั่นแล้ว   ท่านอย่าเห็นว่าคนจีนปัจจุบัน  ล้วนถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนเหยียบย่ำจนไม่เป็นสารรูปแล้ว  พฤติกรรมของคน ความนึกคิด  การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย  ล้วนไม่ได้เรื่องได้ราว  แต่ความเป็นมานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ   เป็นไปได้มากว่าจะมีราชาของชนชาติต่างๆของพวกท่านอยู่ในนั้น   เรื่องเหล่านี้ศิษย์ต้าฝ่าแผ่นดินใหญ่ก็กำลังทำอย่างเต็มที่  ท่านว่าท่านมีเงื่อนไขเอื้ออำนวย ก็สามารถทำได้  ถ้าไม่มีเงื่อนไขก็ไม่เป็นไร  ศิษย์ต้าฝ่าทั่วโลก รวมทั้งศิษย์ต้าฝ่าของจีนแผ่นดินใหญ่แต่ละพื้นที่  ล้วนกำลังทำอยู่  

ศิษย์        เพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตของทวีปแอฟริกา  ขณะนี้โครงการไหนจึงเหมาะสมที่สุด  เสิน ยวิ่น  ซินถังเหริน  ต้าจี้หยวน

อาจารย์   (หัวเราะ)  อันไหนมีความพร้อมแล้วก็ทำอันนั้น    ท่านว่าเราทำซินถังเหริน มีความพร้อมแล้ว  เช่นนั้นท่านก็ไปทำ  ถ้าไม่มีเงื่อนไขก็ยังทำไม่ได้  ถ้าต้าจี้หยวนสุกงอมแล้วก็ทำต้าจี้หยวน  ไม่ใช่โครงการอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม  ข้อหนึ่งคือดูว่าเงื่อนไขพร้อมหรือยัง  ข้อสอง ศิษย์ต้าฝ่าใคร่ครวญเพื่อสรรพชีวิตจริงๆ

ศิษย์        ทรัพยากรของต้าฝ่ามีค่ามาก  ทำอย่างไรให้ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดเห็นค่าทรัพยากรของต้าฝ่า

อาจารย์        ใช่ละ  ผู้ฝึกหลายๆคน  ท่านบอกให้เขาหาเงินเขาทำไม่ได้  แต่ถ้าใช้เงินละก็คล่องมือมาก (ที่ประชุมหัวเราะ) เงินเท่าไรก็กล้าจ่าย  จ่ายคล่องมาก  ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ภายหลัง  ไม่ใคร่ครวญว่าเงินนี้มาจากไหน  และไม่สนใจว่าต่อไปท่านจะเป็นอย่างไร   ไม่มีใจรับผิดชอบ   วิธีทำงานอย่างนี้   เทพล้วนแต่มองคนแบบนี้อย่างขุ่นเคือง  เหยียบย่ำทรัพยากรของศิษย์ต้าฝ่าก็เท่ากับรบกวน ทำลายต้าฝ่า  ทรัพยากรก็แค่นี้เอง  ท่านใช้สอยหมดแล้ว  แต่ที่สามารถช่วยคนได้จริงๆกลับไม่มี

ศิษย์        เจิ้งฝ่าผ่านมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว  ประเทศในเขตเอเชียอาคเนย์ยังไม่สามารถทำเสินยวิ่น    ในใจร้อนรุ่มมาก      ขอเชิญท่านอาจารย์ที่เคารพเสริมพลังให้พวกเรา      ไม่ละทิ้งความหวัง

อาจารย์       นี่ไม่ใช่ว่าต้องให้เสินยวิ่นไปให้ได้  สื่ออย่าง ต้าจี้หยวน  ซินถังเหริน เป็นต้นที่ทำได้ดี การอธิบายความจริงก็มีพลังเหมือนกัน  และพลังของโครงการอื่นก็ใหญ่มาก   ศิษย์ต้าฝ่าสามารถแสดงบทบาทที่ควรมีได้ทั้งนั้น  ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องของพวกท่านทำกันได้ดี    ไม่ใช่ว่าเสินยวิ่นไปแล้วจึงนับว่าช่วยเหลือสรรพชีวิต   เสินยวิ่นเป็นเพียงโครงการหนึ่ง  เพราะมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก  คณะศิลปินแบบนานาชาติอย่างนี้ถ้าบรรลุไม่ถึงมาตรฐานศิลปะระดับนานาชาติย่อมใช้ไม่ได้  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงดูแลอยู่  

ศิษย์        คนแผ่นดินใหญ่ชั้นสูงกับชั้นล่าง มีความเข้าใจระดับหนึ่งต่อฝ่าหลุนกง  แต่ชนชั้นกลางมักจะหลีกเลี่ยง และแสร้งทำเป็นไม่เห็น ควรปฏิบัติต่อคนส่วนนี้อย่างไร

อาจารย์       ปัจจุบันชนชั้นกลางที่ว่าของจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ใช่กระแสหลักของสังคมอย่างแน่นอน  มันเป็นเพียงชนชั้นผลประโยชน์  แรกเริ่มก่อนการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง  คนกระแสหลักของสังคมระดับชนชั้นกลางบนที่แท้จริง กว่าครึ่งนั้นอยู่ข้างฝ่าหลุนกง   แต่เป็นพรรคมารผลักคนกระแสหลักนี้ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม   เดี๋ยวนี้ได้สร้างพวกฟอนเฟะกลุ่มหนึ่งขึ้นมาเป็นแกนกลางของสังคม  ดังนั้นสังคมนั้นจึงฟอนเฟะจนกอบกู้ไม่ได้แล้ว  แน่ละคนเหล่านี้เองสามารถช่วยได้  ที่สำคัญคือพวกเขากล้าฟังความจริงหรือไม่

ศิษย์    สภาพแวดล้อมของไต้หวันในปัจจุบันเกิดจากใจของศิษย์ต้าฝ่า หรือการจัดวางของอิทธิพลเก่า

อาจารย์               พูดอย่างนี้ละกัน  อิทธิพลเก่ามีการจัดวางของมันแน่นอน  แต่หากศิษย์ต้าฝ่าทำได้ไม่ดี  สำหรับตัวท่านก็คือปัญหาการบำเพ็ญ   หากศิษย์ต้าฝ่าในพื้นที่หนึ่งทำได้ไม่ดี  พื้นที่นี้ก็จะเกิดความยุ่งยากที่ใจคนนำมา   ปัญหาที่นำมาโดยใจคนในหมู่ผู้ฝึก   เช่นนั้นถ้าศิษย์ต้าฝ่ามากยิ่งขึ้นในพื้นที่ของไต้หวันทำได้ไม่ดีในเรื่องไหน  นั่นก็จะกระทบสภาพแวดล้อมของพื้นที่นั้น   แน่ละข้าพเจ้าไม่ได้พูดว่าศิษย์ต้าฝ่าไต้หวันทำไม่ดีนะ   บางเรื่องอิทธิพลเก่ากำลังรบกวน   อย่างเช่นเดิมทีศิษย์ต้าฝ่าไม่มีการแบ่งแยกของใจคนเป็นน้ำเงินกับเขียว*  สถานการณ์วันนี้จะดียิ่งกว่า   เมื่อเริ่มต้นข้าพเจ้าก็พูดปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง  ข้าพเจ้าก็เห็นผลลัพธ์ของปัญหานี้  แต่ว่าผู้ฝึกบางคน มีใจคนที่นิยมพรรคการเมืองยิ่งเสียกว่าการบำเพ็ญ  ใจคนนั้นขจัดทิ้งไปยาก  (*น้ำเงินคือสีแทนพรรคก๊กมิ๋นตั่ง   สีเขียวแทนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า)

ศิษย์        เรียนท่านอาจารย์ให้ความกระจ่าง  ขณะนี้กิจกรรมของต้าฝ่ามากมายในประเทศมาเลเซียล้วนถูกรบกวนจากด้านต่างๆ  เป็นเพราะการบำเพ็ญของเรามีจุดรั่ว  ไม่ประสานกันให้ดีหรือว่าเป็นปัญหาอื่น

อาจารย์       มีสาเหตุภายนอก  การรบกวนของอันธพาลคอมมิวนิสต์จีน  นี่แน่นอน   อย่างเช่นการแสดงของเสินยวิ่นในพื้นที่ของอเมริกาเหนือมันก็รบกวนไม่ได้แล้ว   เพราะในระหว่างโรงละครแต่ละแห่งด้วยกัน พวกเขาเองก็มีการสื่อสารกัน  เมื่อมันรบกวน  ผู้ฝึกเราก็ไปอธิบายความจริง  โรงละครนั้นก็สามารถโทรศัพท์ ไปที่โรงละครที่เคยมีการแสดง  ถามว่าพวกเขาแสดงเป็นอย่างไรบ้าง   เรื่องที่แสดงเป็นอย่างไรบ้าง  โรงละครนั้นก็บอกเขาว่าแสดงได้ดีมาก  พูดว่าเป็นรายการแสดงอะไรบ้าง  เขาก็ถามว่าทำไมสถานกงสุลจีนโทรศัพท์มาแทรกแซง   ทำไมมีคนปลอมแปลงชื่อส่งอีเมล์  มีคนโทรศัพท์มาโดยปกปิดชื่อ   เขียนจดหมายมา ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้    โรงละครนั้นก็บอกว่าพวกเราก็ได้รับสิ่งเหล่านี้    โรงละครนี้กับโรงละครในปัจจุบันต่างรู้ว่า  เรื่องเหล่านี้กระทำโดยสายลับเหล่านี้ของคอมมิวนิสต์จีน   และสถานกงสุลจีน

   ข้าพเจ้าคิดว่าพื้นที่อื่น  ศิษย์ต้าฝ่าท่านที่เป็นตัวหลักในการทำเรื่องเสินยวิ่นนี้    ท่านได้มุมานะไปทำแล้วหรือ  โดยเฉพาะยุโรป  พวกท่านขาดทุนทุกๆปีอยู่อย่างนี้   ข้าพเจ้ากำลังพิจารณาว่าจะไปหรือไม่ไป   พวกท่านไม่อาจเป็นอย่างนี้ต่อไป  พวกท่านต้องปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างจริงจัง  สิ้นเปลืองกำลังคน  กำลังวัสดุสิ่งของ  กำลังทรัพย์ไปมาก  เช่นนั้นเหตุใดพวกท่านไม่ทำมันให้ดีละ  หาไม่ก็อย่าทำเลย  โครงการอื่นยังจะทำได้สบายหน่อย

ศิษย์        หลังจากการแสดงเสินยวิ่น  มีคนธรรมดาสามัญมากยิ่งขึ้นจะมาศึกษาฝ่าหลุนกง  พวกเราควรต้องจัดการฝึกพลังและหงฝ่านอกสถานที่มากยิ่งขึ้นหรือไม่

อาจารย์         ถ้ามีคนจะเรียนเราก็จัดตั้งซิ     ศิษย์ต้าฝ่าเรามิใช่ต้องการช่วยคนหรือ

ศิษย์        ในพื้นที่ของเรามีอยู่ครั้งหนึ่ง หลังจากฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับความจริง   ผู้รับผิดชอบคนหนึ่งนำกล่องรับบริจาคเงินบอกให้ผู้ฝึกทีละคนบริจาค

อาจารย์      “ผู้รับผิดชอบในพื้นที่  นำกล่องมาเรียกผู้ฝึกทีละคนไปรับบริจาค” ใครที่ทำ คนนั้นก็คืนเงินกลับไปเสีย

ศิษย์        ผู้ฝึกบางคนรู้สึกว่า       วิธีการนี้ฝ่าฝืนการบรรยายฝ่าของอาจารย์เกี่ยวกับการรับบริจาค  จึงปฏิเสธที่จะให้เงิน  แต่มีผู้ฝึกไม่น้อยให้เงินไปแล้ว  พูดกันว่ารับเงินไปแล้วสี่พันกว่าหยวน  แต่หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ผู้ฝึกต่างถกเถียงกันมาก  ยากจะมีข้อสรุป  ขอเรียนท่านอาจารย์ตอบข้อสงสัย

อาจารย์       ข้าพเจ้าได้ตอบให้พวกท่านแล้ว  ใครที่รับไว้ให้ส่งคืนกลับไป

ศิษย์        ในการผลักดันเสินยวิ่น  ในที่ประชุมศึกษาฝ่าทางเว็บไซต์ของออสเตรเลีย ฝอเสวียฮุ่ยซิดนี่ย์ ให้ทุกคนออกเงินเพื่อเป็นค่าเดินทางให้ผู้ฝึกไต้หวันมาออสเตรเลียจัดฝึกอบรม  จะเหมาะสมหรือไม่

อาจารย์       เรื่องเหล่านี้นะ  อาจารย์ไม่ได้ทำ พวกท่านก็อย่าทำ  เรื่องต่างๆมากมาย  พวกท่านต้องคิดดูให้ดี

ศิษย์        ผู้พิพากษาต่างประเทศให้คำตัดสินที่เที่ยงธรรม  แต่กลับถูกสิ่งชั่วร้ายประทุษร้าย  ส่งผลกระทบที่ไม่ดี  นี่เกี่ยวข้องกับจิตอะไรของศิษย์หรือ  จะทำให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไร  

อาจารย์       ศิษย์ต้าฝ่าทำในสิ่งที่สมควรทำแล้ว  พออิทธิพลเก่ามองเห็นว่ามีผลกระทบใหญ่มาก  คุกคามต่อสิ่งชั่วร้าย เกินไปจากความสมดุลแล้ว  มันจึงต้องการสร้างความวุ่นวาย   แต่เรื่องมากมายหาได้ง่ายๆอย่างนั้นไม่   หากศิษย์ต้าฝ่ามีเจิ้งเนี่ยนพอ   หรือพวกเราควรต้องทำอย่างนี้จริงๆแล้ว  เทพก็กำลังเฝ้าดูอยู่  ช่วยเหลืออยู่  มีสาเหตุทั้งสองด้าน

ศิษย์        ฉากกั้น(ช่องว่าง)ระหว่างเพื่อนผู้บำเพ็ญด้วยกันเกิดขึ้นได้อย่างไร จะขจัดไปได้อย่างไร

อาจารย์      ใจคนปะทะกัน  ไม่ค้นหาจากภายใน  ล้วนแต่ใช้ใจคนในการคิดปัญหา  ท่านมองเขาไม่ขึ้น  เขามองเขาไม่ขึ้น  นานๆไปจึงเกิดฉากกั้นขึ้น   จึงเข้ากันไม่ได้แล้ว   เหมือนกับคนธรรมดาสามัญ    ให้ใช้เจิ้งเนี่ยนไปมองปัญหา  มองตนเองว่าทำตรงไหนได้ไม่ดี  หากตนเองทำได้ดีจริงแล้ว   ฝ่ายตรงข้ามก็จะมองเห็นการเปลี่ยนแปลง  เขาก็จะคิดพิจารณาตัวเอง ว่าตรงไหนที่ทำไม่ดี  หากสามารถเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่เกิดฉากกั้นการขจัดฉากกั้นทิ้งไปก็เช่นเดียวกัน  บำเพ็ญฝ่าชุดเดียวกัน  มีวาสนาอย่างเดียวกัน  มีอะไรที่วางไม่ลง ควรแลกเปลี่ยนความเห็นกับคู่กรณีอย่างตรงไปตรงมา  ยอมรับความบกพร่องที่คนอื่นชี้ให้   ปัญหานั้นก็จะแก้ไขได้แล้วมิใช่หรือ

ศิษย์        เรียนถามท่านอาจารย์  ระหว่างการผลักดันสื่อซินถังเหริน ต้าจี้หยวนเป็นต้น กับการอธิบายความจริงเรื่องฝ่าหลุนกง  จะยึดกุมให้ค่อนข้างดีได้อย่างไร 

อาจารย์       การผลักดันต้าจี้หยวน  ซินถังเหริน โดยตัวมันเองก็เป็นการอธิบายความจริง คนที่ติดต่อด้วยในขณะทำงานผลักดันสื่อคือบุคคลที่จะอธิบายความจริง   ก็คือในเวลาที่ท่านติดต่อกับคนก็สามารถอธิบายความจริง  สภาพการณ์รูปธรรมจะยึดกุมอย่างไร  ในขั้นตอนของการทำงานสะสมประสบการณ์  คนที่ติดต่อด้วยเป็นอย่างไร ก็ไปพูดอย่างนั้นเถิด

ศิษย์        ในพื้นที่มีผู้ฝึกเพียงสองสามคน  เรียนถามว่าในขั้นตอนที่ในพื้นที่พิจารณาว่าควรจะทำเสินยวิ่นหรือไม่ รู้สึกมีความกังวลว่ากำลังคนไม่พออย่างมาก  ถือว่าเจิ้งเนี่ยนไม่พอใช่หรือไม่

อาจารย์      มีผู้ฝึกเพียงสองสามคนแน่ละกำลังคนย่อมไม่พอ  เพียงแต่งานจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับความพยายามของคน  คนน้อยไม่จัดเป็นปัญหาของเจิ้งเนี่ยน  แต่มีบางพื้นที่มีผู้ฝึกเพียงสองคน  ยังจัดได้สองรอบๆละสองพันกว่าคน  เต็มโรง   เรื่องอย่างนี้มีไม่น้อยในหลายปีมานี้  บางสภาพการณ์คือจะดูว่าท่านจะไปทำอย่างไร  หากท่านคิดจะทำจริงๆ  หากคิดจะทำก็ทำอย่างจริงๆจังๆ  และมีบางคนพูดว่าบุคลากรของฉันไม่พอ  ไปหาคนธรรมดาสามัญมาช่วยทำ หรือหาบริษัทของคนธรรมดาสามัญเป็นตัวแทนทำ  ไม่ได้ พอทำก็จะล้มเหลว  ก็ขาดทุน เพราะอะไรละ  การยืนยันความถูกต้องของฝ่า  อธิบายความจริงคือสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ ไม่ใช่ให้คนธรรมดาสามัญทำ  เขาไม่มีธรรมานุภาพนั้น  ต่อให้บริษัทใหญ่แค่ไหนก็ไม่ไหว  ท่านไม่เข้าใจ ถ้าให้พวกเขาเสนอความเห็นทางธุรกิจหรือทำโฆษณาบางอย่าง  นี่ไม่มีปัญหาทั้งนั้น  พวกท่านเองริเริ่มจึงจะใช้ได้ 

ศิษย์        ในเวลาที่พวกเราสัมผัสกับเพื่อนผู้บำเพ็ญที่ฟาเจิ้งเนี่ยนน้อยหรือกำลังข้ามด่าน จะรู้สึกว่าร่างกายไม่สบาย บางครั้งสภาวะของตนเองก็ไม่ดีด้วย

อาจารย์        ความรู้สึกบางอย่างไม่แน่ว่าจะเป็นของจริง    อย่างเช่นว่าศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่งที่บำเพ็ญดีมาก แต่ต่อให้บำเพ็ญดีกว่านี้เขาก็ยังเป็นคนที่กำลังบำเพ็ญ   เพียงแต่คนๆนี้หากยังไม่หยวนหมั่น  เขาก็จะมีสิ่งของในร่างกายคน  มีกรรมในร่างกายคนคงอยู่  ไม่ว่าชั้นไหน(ของร่างกายคน)ก็มีทั้งนั้น   พอดีท่านพบกับเขาในระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนของการยกระดับ  กำลังสลายกรรม  กำลังสลายสิ่งเหล่านี้อยู่  ในเวลานั้นท่านได้พบกับเขา  ท่านบอกว่าไอ้หย๋า มีไอเย็นหรือชี่ดำทั่วตัว คนนี้บำเพ็ญแย่เหลือเกินแล้ว     ไม่ใช่  ผู้บำเพ็ญ ในเวลาที่สลายกรรม คือการผันแปรกรรม  คนอื่นเพียงแต่รู้สึกถึงสนามนั้น  ไม่มีอะไรเป็นโทษต่อคนอื่น แต่ผู้ที่กำลังสลายกรรมนั้นอยู่ในขั้นตอนของการยกระดับ  แต่เขากลับบำเพ็ญได้ดีมาก

ขณะนี้บางคนสามารถมองเห็นสภาพการณ์บางอย่าง  สิ่งที่เห็นล้วนเป็นสภาพการณ์ในระดับชั้นที่ต่ำมาก  ล้วนมองไม่เห็นภาพที่แท้จริง  มองไม่เห็นสภาวะที่บำเพ็ญได้ดี  เพียงแต่เห็นด้านที่ปรับฝ่ายังไม่เสร็จ บำเพ็ญยังไม่เสร็จ   ก็เหมือนกับที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดไป  รูปลักษณ์ของจักรวาลที่สูงที่สุดซึ่งองค์ศากยมุนีมองเห็นคือสี่ธาตุใหญ่  ดิน น้ำ ไฟ ลม  สิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นสี่ธาตุใหญ่คืออะไร   พื้นฐานที่สุดของดิน น้ำ ไฟ ลม คืออะไรละ   เนื่องจากจักรวาลล้วนใช้ไม่ได้แล้ว  เริ่มเสื่อมสลายแล้ว   แต่มันกลับไม่ใช่พื้นฐานที่สุดของจักรวาลที่ใหญ่กว่า  นี่เป็นเพียงพื้นฐานของระบบจักรวาลน้อยอันหนึ่ง หนึ่งเดียวของระดับชั้นหนึ่งที่เล็กๆเท่านั้น  จักรวาลใหญ่มหึมาไร้ที่เปรียบ  ระบบที่ใหญ่อย่างนี้มีจำนวนนับไม่ถ้วน  ใครที่ทราบว่าจักรวาลที่ใหญ่ที่สุด ท้ายที่สุดคืออะไรละ   ใครที่รู้ถึงสิ่งสุดท้ายที่ศิษย์ต้าฝ่าทำทั้งหมดนี้ละ   ใครจะทราบถึงสภาพการณ์ที่แท้จริงเหล่านั้นหลังจากที่ศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญสำเร็จแล้ว ซึ่งไม่อนุญาตให้เห็นได้ละ   แม้แต่ในเวลาที่อาจารย์สลายกรรมแทนสรรพชีวิตก็อยู่ในความทุกข์ทรมาน  ร่างกายของข้าพเจ้าก็ถูกทำจนย่ำแย่มาก ผู้ที่ระดับชั้นมีจำกัด จะมองไม่เห็นสภาพการณ์ที่แท้จริง  ในเวลานั้นเมื่อมองเห็นข้าพเจ้า  ใช่ไหมว่าจะรู้สึกว่าตอนนั้นอาจารย์แย่มาก  แต่ข้าพเจ้ากำลังแบกรับบาปกรรมแทนสรรพชีวิต  รวมทั้งคนที่ได้เห็น  แต่ไม่เห็นภาพที่แท้จริง

    บางคนตาทิพย์เปิดแล้วกลับไม่ง่ายที่จะบำเพ็ญ  อิทธิพลเก่าจัดวางทุกข์ภัย  จัดวางด่านให้กับผู้ที่อยู่ในสภาวะที่ตาทิพย์เปิด   โดยเฉพาะคือถูกเต๋าเล็กรบกวน  รู้สึกว่าตนเองเป็นอย่างไรแล้ว    อะไรก็ไม่ใช่ทั้งนั้น  ตัวเองเสียเวลาอยู่ในนั้นไม่ยอมออกมา  สติเลอะเลือน   แต่สภาพการณ์ที่แท้จริง จะไม่ให้ผู้บำเพ็ญเห็นอย่างแน่นอน   โดยเฉพาะคือผู้ที่บำเพ็ญโดยมีตาทิพย์เปิด    ก็จะให้ท่านเห็นสิ่งเหล่านั้นที่จัดวางให้ ซึ่งท่านควรเห็นได้   และไม่ให้ท่านเห็นสิ่งเหล่านั้นที่ท่านไม่ควรเห็น   เพราะท่านยังคงบำเพ็ญอยู่   ถ้าท่านไม่บำเพ็ญแล้วจริงๆ  นั่นก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

   ข้าพเจ้าก็จะพูดอีกครั้ง  ว่าสภาพการณ์ที่แท้จริง ใครก็มองไม่เห็น   เพราะมันไม่เหมือนจักรวาลเก่านี้ที่ยังคงปรากฏออกมาในสภาวะขั้นตอนของประวัติศาสตร์  ปัจจุบันไม่มีแล้ว   ทุกท่านทราบ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา  จักรวาลไม่ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่เขตแดนไหน  เมื่อใช้ไม่ได้แล้วก็กวาดทิ้งไป  จึงมีภัยพิบัติใหญ่  ภัยพิบัติน้อย  นั่นล้วนเป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนของจักรวาลเก่า   เพราะในเวลาที่สร้างจักรวาลนี้ เป็นการสร้างพร้อมกันจากต้นจนถึงปลาย  มีอยู่ทั้งหมดแล้วในเวลาเดียวกัน   เพียงแต่สรรพชีวิตปรากฏออกมาในนั้น   ชีวิตกำลังเดินอยู่บนทางที่มีอยู่แล้วตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย  เหมือนบทละครที่มีอยู่แล้ว  คนเพียงแต่เล่นไปจากต้นจนถึงปลาย   เพียงแต่ในร่างนภาอันมหึมามีกาลเวลาที่ต่างกัน   มีมิติที่ต่างกัน  ร่างกายที่อยู่ในมิติที่ช้าสามารถมองเห็นหนึ่งชาติ หนึ่งภพของชีวิตที่อยู่ในมิติที่เร็วกว่า  ผ่านไปเพียงพริบตาเดียว  กระทั่งเห็นขั้นตอนทั้งหมดของจักรวาลนั้น  เพราะมันอยู่ตรงนั้นทั้งหมดแล้วในเวลาเดียวกัน มันล้วนคงอยู่ในเวลาเดียวกัน  เป็นเพราะเวลาได้ขั้นกาลมิติที่ต่างกัน   สภาพแวดล้อมของเวลาที่ต่างกัน  แต่ปัจจุบันไม่เหมือนกันแล้ว  เพราะจักรวาลต้องเจิ้งฝ่า  จักรวาลบรรดามีทั้งหมดทั้งปวงล้วนใช้ไม่ได้แล้ว  จบสิ้นหมดแล้ว   แต่ส่วนที่ดีในอดีตได้กลืนกลายและประกอบขึ้นใหม่  ส่วนที่ไม่ดีล้วนสลายไปแล้ว   แต่ทุกสิ่งที่เป็นของใหม่ทั้งหมดนั้นกล่าวสำหรับชีวิตและจักรวาลเก่า ก็ไม่มีความเชื่อมโยงกันอย่างเด็ดขาด  ชีวิตของจักรวาลเก่าไม่อาจกลายเป็นชีวิตของจักรวาลใหม่ จึงไม่อาจรู้ว่าจักรวาลใหม่หน้าตาเป็นอย่างไรตลอดไป  หรือพูดว่าหากเพียงจักรวาลเก่ามีท่านอยู่   จักรวาลใหม่เป็นอย่างไรท่านจะไม่รู้ตลอดไป  บนโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าเทพชั้นสูงเพียงใด  หากเพียงยังปรับฝ่าไม่เสร็จ  ก็ไม่อาจจะรู้ได้ ยกเว้นผู้ทำการเจิ้งฝ่า  ผู้อื่นไม่ว่าใครก็ไม่คู่ควรที่จะรู้  เนื่องจากต่อให้เป็นเทพที่สูงยิ่งขึ้นก็กำลังเผชิญกับการเจิ้งฝ่า  ล้วนกำลังถูกทดสอบอยู่ในช่วงเวลาก่อนการเจิ้งฝ่าว่า จะใช้ได้หรือไม่  จะเหลือรอดหรือไม่  โดยเฉพาะพวกที่บำเพ็ญโดยมีตาทิพย์เปิดในระดับต่ำ   เมื่อเปรียบกับสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ใช่อะไรเลย   พอใจคนเกิด(พอคนเกิดจิตยึดติด)ก็จะเลอะๆเลือนๆ(บ้าๆบอๆ)  จิตยึดติดรุนแรงก็จะฟั่นเฟือน ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร  

ศิษย์      ขอเรียนถามว่าเทียนกั๋วเย่วถวน(วงดุริยางค์แดนสวรรค์)ในยุโรปสำคัญหรือไม่

อาจารย์          หากเพียงมีความจำเป็นต้องใช้ในการช่วยคนก็สำคัญ   หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ไม่สำคัญ   หากจำเป็นต้องใช้วงดุริยางค์แดนสวรรค์แสดงบทบาทในการช่วยเหลือคนก็สำคัญ   อย่าไปเข้าใจอย่างสุดขั้วว่า อาจารย์พูดแล้วว่า วงดุริยางค์แดนสวรรค์สำคัญในการช่วยคน   วันๆท่านก็ไม่ทำอะไรแล้วเอาแต่ฝึกซ้อมเครื่องดนตรี  นั่นใช้ไม่ได้  ศิษย์ต้าฝ่าเอย  เมื่อจำเป็นท่านก็ไปทำ  เมื่อไม่จำเป็น  ยุ่งกับโครงการอื่นอยู่  ท่านก็ไปทำโครงการอื่น  ก็สัมพันธ์กันอย่างนี้

ศิษย์        วงดุริยางค์แดนสวรรค์ควรจะไปบรรเลงที่เมืองนั้นๆก่อนการแสดงของเสินยวิ่น ให้ประชาชนที่นั่นรู้จักฝ่าหลุนกงหรือไม่

อาจารย์            ในสังคมตะวันตกไม่จำเป็น   ข้าพเจ้าจะจัดทำเสินยวิ่นให้เป็นเอกเทศ  ผลักดันออกมาให้เป็นคณะศิลปินอันดับหนึ่งของโลก  อย่าได้ทำเหมือนกับทำการตลาด   ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้พวกท่านไปโหมโรง  เรื่องในอีกมิติหนึ่งข้าพเจ้าได้ทำแล้วตามลำพัง(เสียงปรบมือ) 

   แน่ละ  ความคิดที่จะให้ประชาชนที่นั่นรู้จักฝ่าหลุนกง  เป็นวิธีคิดที่ดี  แต่อย่าทำอย่างนี้   ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาแต่บอกผู้คนว่าคณะศิลปินเสินยวิ่นคือฝ่าหลุนกง  ตีฆ้องร้องเป่าไปทำอย่างนั้น   ข้าพเจ้าไม่หลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ชนิดนี้   แต่ข้าพเจ้าก็ไม่จงใจไปทำเช่นนี้  ทุกท่านทราบ   ย้อนกลับไปสามสิบ ห้าสิบปี  คนบนโลกเชื่อในศาสนาเกือบจะร้อยละแปดสิบขึ้นไป  กระทั่งคนของคณะศิลปินบางคณะล้วนเชื่อศาสนาโรมันคาทอลิกหรือศาสนาคริสต์   แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่า เขาไปแสดงที่ไหน ล้วนพูดก่อนว่า “พวกเราเป็นคริสต์ชนมาแสดง”    “พวกเราเป็นชาวโรมันคาทอลิกมาแสดง” มีการพูดอย่างนี้ไหม   แม้แต่คณะแสดงที่อยู่ในอำนาจการเมืองของพรรคมารที่ถูกชาวโลกเห็นพ้องว่าเป็นปีศาจ  ก็ไม่พูดก่อนว่าตนเองเป็นการแสดงของพรรคนั้น   ทำไมเราจะต้องพูดละ  นี่ไม่ใช่เป็นการดูถูกหรอกหรือ  ใช่  ขณะนี้มีปัญหาการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง  แต่ข้าพเจ้าไม่หลีกเลี่ยงปัญหานี้  ข้าพเจ้าก็ไม่คิดริเริ่มที่จะพูดติดปาก   อย่าถูกคนที่อิทธิพลเก่าควบคุมมาชักนำ    ข้าพเจ้าทำงานไม่เหมือนกับพวกท่าน  ที่หวั่นไหวง่ายอย่างนั้น

ศิษย์        จะวางความสัมพันธ์ระหว่างสามสื่อใหญ่กับฝอเสวียฮุ่ยอย่างไรดี  ในการทำงานจะจัดการให้ราบรื่นอย่างไร

อาจารย์      สามสื่อใหญ่  รวมทั้งโครงการอื่น  หากเพียงท่านเป็นผู้ฝึกในพื้นที่  ก็ต้องมีความสัมพันธ์ที่ประสานกันกับฝอเสวียฮุ่ย  หากฝอเสวียฮุ่ยมีกิจกรรมอะไร  เรียกหาท่าน ท่านต้องไปเข้าร่วม  เช่นการศึกษาฝ่ารวมหมู่และหลายๆเรื่อง  ในสภาพการณ์ที่งานไม่ยุ่ง ท่านต้องไปเข้าร่วม  แต่ท่านว่าฉันงานยุ่งจริงๆ  นั่นก็เข้าใจได้แน่นอน  และไม่มีปัญหา   กล่าวในฐานะผู้ฝึก  อย่างไรเสียท่านก็เป็นผู้ฝึกในพื้นที่   สื่อเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกทำขึ้นมาเอง  ข้าพเจ้าก็ไม่อาจบอกท่านว่าต้องให้ฝอเสวียฮุ่ยดูแล     เพราะฝอเสวียฮุ่ยดูแลแต่การบำเพ็ญ  กล่าวสำหรับท่านแต่ละคน  ท่านเป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง   ท่านต้องอยู่ภายใต้การประสานงานของ ฝอเสวียฮุ่ยในพื้นที่  ก็เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับพวกท่าน   ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนล้วนมีโครงการหนึ่งที่ทำ    พูดว่าท่านก็เป็นคนของโครงการนั้น  ไม่ต้องให้ข้าพเจ้าในฐานะอาจารย์คนนี้ดูแลแล้ว  ไม่ใช่   ท่านยังจะบำเพ็ญไหม  อาจารย์ยังต้องดูแลท่านนะ  ก็คือความสัมพันธ์นี้

ศิษย์        ผู้ฝึกไต้หวันที่มีอยู่ล้วนถือการศึกษาฝ่าร่วมกันเป็น “การประชุมอ่านหนังสือ” เหมาะสมหรือไม่

อาจารย์        ไม่ค่อยเหมาะสม  พวกท่านต้องปฏิบัติต่อการบำเพ็ญอย่างเข้มงวด   อย่าตั้งคำศัพท์แปลกใหม่เหล่านั้น  คำศัพท์ที่ข้าพเจ้าไม่ได้พูดออกมา  พวกท่านอย่าได้ใช้ในฝ่าตามอำเภอใจ   โดยเฉพาะคือสิ่งเหล่านั้นของศาสนาเก่าและของอย่างอื่นของคนธรรมดาสามัญ  หรือรูปแบบการบำเพ็ญอย่างอื่น ก็อย่าเอามาใช้ในการบำเพ็ญต้าฝ่าตามอำเภอใจ   ของบางสิ่งยังคงมีสัญญาณ   จึงง่ายที่จะถูกสิ่งที่ไม่ดีเจาะช่องว่างได้

ศิษย์        ท่านอาจารย์บอกว่าต้องร่วมมือกับผู้ประสานงาน  ผู้ฝึกบางคนคิดว่าคือการทำไปตามที่ผู้ประสานงานจัดให้ ก็รอผู้ประสานงานจัดให้พอแล้ว   เวลาที่ไม่ได้จัดเรื่องให้ไปทำ   ตนเองก็ไม่ริเริ่มหาอะไรทำ   ไม่เป็นฝ่ายกระทำในการช่วยเหลือสรรพชีวิต

อาจารย์       เรื่องที่ผู้ประสานงานจัดให้นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นจึงจะจัดให้   เขาไม่อาจจะเอาแต่จัดเรื่องให้ท่านทำได้ทุกวัน    เวลาที่ไม่มีกิจกรรมร่วมกัน   เรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตของศิษย์ต้าฝ่า ตนเองต้องริเริ่มไปทำนะ  เรื่องเหล่านี้ไม่อาจรอให้ผู้ประสานงานจัดให้ ข้าพเจ้าเพียงพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประสานงานกับผู้ฝึก

ศิษย์        ผมเป็นผู้ฝึกที่อธิบายความจริงที่ไชน่าทาวน์ของเมืองชิคาโก  ขอเรียนถามท่านอาจารย์  ขณะที่พวกเรากำลังอธิบายความจริง  แนะให้ลาออกจากสามองค์กรพรรค  จะแจกหนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนไปด้วยที่จุดนั้นจะเหมาะหรือไม่

อาจารย์        บางสื่อเขาคิดอะไรไม่ได้ เอาชื่อฝ่าหลุนกงไว้ข้างหน้า   ฝ่าหลุนกงต้าจี้หยวน  ฝ่าหลุนกงซินถังเหริน   ฝ่าหลุนกงอะไรอะไร   ผู้ฝึกบางคนเอาแต่จะทำอย่างนี้ให้ได้     ท่านไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้  ที่จริงท่านไม่พูด  คนเขาต่างก็รู้   คนจำนวนมากต่างรู้ว่าต้าจี้หยวนเป็นสื่อที่ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงทำกัน   แต่พวกท่านทราบไหม  บางคนที่ว่า บอกว่าไม่เอาชื่อฝ่าหลุนกงไว้ข้างหน้าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้   นี่เป็นคำที่สายลับพรรคมารกำลังปลุกระดมอยู่   ทำไมจึงเอาแต่ไปพูดต่อ  พวกท่านเคยคิดหรือไม่   ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน  สื่อหลายสื่อ รวมทั้งเจ้าของจนถึงคนงาน  ล้วนเป็นชาวคริสต์   ไม่มีใครพอทำอะไรก็พูดก่อนว่าฉันเป็นชาวคริสต์ เป็นอย่างไรอย่างไร  พวกเราเป็นชาวโรมันคาทอลิก....  หนังสือพิมพ์อะไรอะไร (ที่ประชุมหัวเราะ) พวกเขาจะทำอย่างนี้ไหม  ไม่ประหลาดหรือ  ทำไมไม่รู้สึกว่าประหลาดละ

แน่ละข้าพเจ้าไม่ได้พูดถึงผู้ฝึกคนนี้นะ   ก็คือว่าปัจจุบันกำลังคนของเรามีจำกัด  แม้จะแจกหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ก็ยังแจกหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น  ในขณะเดียวกันก็จะแนะให้ลาออกจากสามองค์กรพรรค   อธิบายความจริง   นี่เป็นปัญหาหนึ่ง   ข้าพเจ้าก็ไม่อาจบอกว่าทำได้หรือไม่  ท่านเองก็ทำมันให้ดีหน่อยเถอะ   หนังสือพิมพ์โดยทั่วไปท่านวางมันไว้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต   ท่านถือแต่เอกสารอธิบายความจริง ไปแนะให้ลาออกจากสามองค์กรฯก็พอแล้ว  นี่จะค่อนข้างเหมาะสม    ผู้ฝึกที่ทำงานสื่อเป็นหลัก คิดจะทำให้สื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำตั้งมั่นอยู่ในสังคมได้ทั้งหมด   กลายเป็นสื่อปกติของสังคมคนธรรมดาสามัญจึงจะดี    ศิษย์ต้าฝ่าทำสื่อ  หากความน่าเชื่อถือสูง น้ำหนักในการอธิบายความจริงก็จะมาก   หากเอาแต่ทำด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม   อาจจะทำให้คนรู้สึกว่าไม่ได้มาตรฐาน   หนังสือพิมพ์โดยตัวมันเองนั้นอธิบายความจริงอยู่บนแง่มุมที่ต่างกัน   ไม่ใช่แง่มุมเดียวกับการอธิบายความจริงโดยตรง  ดังนั้นต้องยึดกุมให้ดี

ศิษย์        เพื่อนคนธรรมดาสามัญของผมพูดกับผมว่า  หลังจากพวกเขามาถึงอเมริกา  อยู่บนถนนพบกับศิษย์ต้าฝ่าที่อธิบายความจริงกับเขา  พอเริ่มต้นก็พูดว่า “ฟ้าดับสลายคอมมิวนิสต์จีน”  พวกเขารับไม่ได้  กลับรู้สึกต่อต้าน  ก่อให้เกิดอุปสรรคในการรับฟังความจริงในภายหลัง  ผมคิดว่าสามารถจะเปลี่ยนวิธีการได้หรือไม่    ให้ค่อยๆทำไปตามลำดับ  ไม่ทำอย่างลวกๆง่ายๆ

อาจารย์       เป็นเช่นนี้   ศิษย์ต้าฝ่าเราที่อธิบายความจริงนั้นต้องระวังวิธีการ  เพราะคนต่างมีเขตแดนความคิดต่างๆนานา โดยเฉพาะคือคนจีน   ถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนกรอกวิธีคิดแบบวัฒนธรรมพรรค  คำที่ใช้  รูปแบบพฤติกรรมของคน  มันล้วนอยู่ในกรอบของวัฒนธรรมนั้นแล้ว     กระทั่งคนจีนบางคนที่ด่าพรรคมารก็ด่าโดยอยู่ในพรรคมาร  เข้าไม่ได้รู้จักพรรคมารจริงๆ   ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่าทุกท่านต้องไปทำอย่างมีสติ  อย่าทำแต่เปลือกนอก เมื่อท่านคิดจะช่วยคนก็ควรตั้งใจหน่อย   อย่าทำแบบตื้นๆเกินไป  “ฟ้าดับสลายคอมมิวนิสต์จีน” คือผลลัพธ์สุดท้ายที่ผู้บำเพ็ญมองเห็น   ท่านอย่าถือมันเป็นคำพูดเปิดฉากในการอธิบายความจริง   หากบอกคนเขาว่าเป็นเรื่องอะไรได้จริงแล้ว   ท่านพูดต่อว่าพรรคมารทำชั่วไว้มากมาย  ฟ้าจะดับสลายมัน  นี่ล้วนทำได้    หากท่านยังไม่ได้อธิบายความจริงกับคนเขา ท่านก็พูดว่า “ฟ้าดับสลายคอมมิวนิสต์จีน”  เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าเป็นเรื่องอะไร  เข้าใจว่าท่านกำลัง “เล่นการเมือง”

ศิษย์        โรงเรียนศิลปะเฟยเทียนตั้งโรงเรียนสาขาอยู่ในไต้หวัน  ผู้ฝึกบางคนคิดว่าเป็นการรับสมัครเด็กที่เป็นลูกของศิษย์ต้าฝ่าเข้าเรียนโดยเฉพาะ   ขอเรียนถามท่านอาจารย์  โรงเรียนศิลปะเฟยเทียนตั้งโรงเรียนสาขาอยู่ในไต้หวัน  เป้าหมายคืออะไร

อาจารย์       สำหรับศิษย์ต้าฝ่าโดยเฉพาะ มีที่อเมริกาโรงเรียนเดียวก็พอแล้ว   ไม่จำเป็นต้องจัดตั้งโรงเรียนสำหรับศิษย์ต้าฝ่าโดยเฉพาะหลายแห่งอย่างนั้น  ที่จริงนะ  ท่านจะไม่เรียกเฟยเทียนก็ได้   ล้วนแต่เป็นศิษย์ต้าฝ่าที่ทำกันอยู่   ทำไมไม่มุ่งทำต่อสังคม  รับสมัครลูกหลานของคนธรรมดาสามัญเข้ามาอธิบายความจริงกับพวกเขา   ช่วยพวกเขา  เปิดเพิ่มอีกสักกี่แห่ง   เช่นนี้จึงจะไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรของต้าฝ่า    ดังนั้นข้าพเจ้าหวังว่าแต่ละแห่งที่ทำโรงเรียน  พวกท่านล้วนต้องทำให้เป็นโรงเรียนที่ตั้งมั่นได้ในสังคมคนธรรมดาสามัญ   สัมผัสติดต่อกับสังคมคนธรรมดาสามัญให้มากยิ่งขึ้น  ช่วยเหลือสรรพชีวิตให้มากยิ่งขึ้น  อย่าทำเป็นของศิษย์ต้าฝ่า

ศิษย์        ในระหว่างเพื่อนผู้บำเพ็ญในพื้นที่  เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการทำเสินยวิ่นให้เป็นมืออาชีพกับการเน้นเจิ้งเนี่ยน   มีความคิดเห็นที่ขัดกันไม่หยุดหย่อน  ท่านอาจารย์จะให้ความกระจ่างกับความสัมพันธ์ทั้งสองอย่างนี้ได้หรือไม่

อาจารย์      ไม่ขัดกัน  คือผู้บำเพ็ญต้องมีความเป็นมืออาชีพ  ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญทำเรื่องของศิษย์ต้าฝ่า  ที่สำคัญคือท่าทีในการทำงาน  เหตุใดจึงทำ  เวลาที่อภิปรายเรื่องต่างๆ ใครที่อยู่ข้างในแล้วเอาแต่พูดวกวนไปมา  ใครที่ถ่วงให้เสียงาน  คนนั้นก็มีปัญหา   อาจารย์ไม่ได้พูดแต่เรื่องเสินยวิ่นนี้  เรื่องอื่นก็เป็นอย่างนี้   มีอะไรอย่าพูดวกวน  ให้ไปทำเถิด  ไปทำอย่างจริงจัง  ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า เมื่อมองเห็นว่าด้านไหนที่ทำไม่ดี  ตนเองริเริ่มไปทำมันให้ดี  ในเวลาที่อภิปรายในที่ประชุมใครที่อยู่ข้างในนั้นขัดคอกัน  ความคิดเห็นไม่น่าเชื่อถือ   พิจารณาไม่รอบด้านขัดคอกันจนทำให้เรื่องหยุดชะงัก  คนนั้นก็มีปัญหา   มีหลายเรื่องไม่จำเป็นต้องอภิปรายจนดีพร้อมทุกด้าน  ขอเพียงพวกท่านไปทำ  ในระหว่างที่ทำ ทำให้ดี  หากท่านว่าความเห็นของท่านดีมาก  จะช่วยคนร้อยคน  แต่ท่านไม่ไปทำก็ไม่มีประโยชน์  หากสามารถช่วยคนได้คนหนึ่ง  ใครที่ไปทำได้แล้ว นั่นก็คือธรรมานุภาพ 

ศิษย์        ขอเรียนถามท่านอาจารย์  ในขณะนี้สื่อต้องการเงินทุน  สามารถจะไปขอรับเงินบริจาคจำนวนเล็กๆน้อยๆจากคนธรรมดาสามัญได้ไหม  เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของบริษัท

อาจารย์   สื่อรับบริจาคนี่ไม่เป็นไร   เพราะมันไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่าหรือฝอเสวียฮุ่ยรับบริจาค    และไม่ได้ใช้ในการบำเพ็ญ  การบำเพ็ญนั้นพวกท่านทราบ  ไม่ต้องใช้เงิน  ในฐานะที่เป็นสื่อ  เดิมทีก็เป็นบริษัทที่ก่อตั้งอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ เป็นสื่อที่พวกท่านทำ  ไม่ใช่สื่อที่ต้าฝ่าทำ  เรื่องนี้ข้าพเจ้าได้พูดกับพวกท่านนานแล้ว  คือสื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ  ตั้งอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ  ต้าฝ่าไม่มีสื่อ   ต้าฝ่าก็คือการบำเพ็ญ   ฉะนั้นแม้จะเป็นสื่อของสังคมคนธรรมดาสามัญ  มีรูปแบบเหมือนบริษัทของสังคมคนธรรมดาสามัญ  นั่นจะมีปัญหาอะไรละ  ไม่มีปัญหา  ให้พยายามไปทำ  คนธรรมดาสามัญก็ต้องการสนับสนุน  เช่นนั้นท่านก็ไปทำเถิด  เรื่องนี้ไม่มีปัญหาคงอยู่   แต่ไม่อาจขอการสนับสนุนจากในหมู่ผู้ฝึก

ศิษย์        เสินยวิ่นแสดงอยู่ในสามเมืองของเขตอ่าวซานฟรานซิสโก   มีเพียงที่ซานฟรานซิสโกที่เกิดการขาดทุนค่อนข้างมาก  การแสดงสัญจรครั้งต่อไปในซานฟรานซิสโก  เกิดแรงกดดันค่อนข้างมากในด้านทุนทรัพย์   พวกเราเข้าใจกันว่าก่อนอื่นต้องทำซานฟรานซิสโกให้ดี   ปล่อยวางเมืองข้างเคียงไว้ชั่วคราว  เรียนถามท่านอาจารย์ว่าความเข้าใจนี้ถูกหรือไม่

อาจารย์        เรื่องรูปธรรมเหล่านี้จะทำกันอย่างไรพวกท่านพิจารณากันเองเถอะ   จะแสดงที่ไหนอาจารย์ไม่คัดค้านทั้งสิ้น  ก็คือไม่อาจขาดทุน  บางคนพูดว่า  พวกเราทำกับกระแสหลักแล้ว  จึงใช้เงินทำโฆษณามาก  ไม่ใช่ว่าราคาตั๋วสูงแล้วค่าโฆษณาของท่านก็ต้องสูงตาม   ต้องใช้สัดส่วนที่ใหญ่ขนาดนั้น  ไม่ใช่แนวคิดนั้น  อย่าใช้เงินหนักมือตามอัตราส่วนร้อยละของราคาตั๋วและรายรับรวม  ก็ทำอย่างที่เคยทำเช่นนั้นก็พอ    การเปรียบเทียบอัตราส่วนร้อยละของคนธรรมดาสามัญนั้นจะไม่มีผลในที่นี้ของเรา   นี่คือการช่วยคน  เทพล้วนกำลังทำอยู่   สภาพการณ์ของศิษย์ต้าฝ่านั้นสำคัญมาก  การจัดการแสดงก็เป็นการบำเพ็ญ  ร่วมมือกันให้ดี  คนที่สัมผัสติดต่อด้วยต้องอธิบายความจริงให้ฟัง  สรรพชีวิตกำลังรอคอยการช่วยเหลือ

ศิษย์        วงดุริยางค์แดนสวรรค์นิวยอร์กปัจจุบันมีวิชาทฤษฎีดนตรีที่จะเรียนมาก  ยังต้องสอบ  เป็นการเสียเวลาหรือไม่

อาจารย์        ต้องเรียนวิชาทฤษฏีดนตรีมากมาย  ไม่ใช่เช่นนี้กระมัง   ขณะนี้ไม่อาจเป็นมืออาชีพได้  เรื่องที่ต้องทำในการยืนยันความถูกต้องของฝ่ามีมาก  เข้าใจได้ก็พอแล้ว   และไม่จำเป็นให้ท่านกลายเป็นนักดนตรีมืออาชีพของวงดุริยางค์แดนสวรรค์  ศิษย์ต้าฝ่ามีหน้าที่หลายอย่างบนตัว  เมื่อทำแต่ละเรื่อง  ทุกท่านต่างคิดจะทำมันให้ดีหน่อย  ซึ่งเข้าใจได้   แต่ต้องพิจารณาความหนักเบา   พิจารณาความหนักเบา

ศิษย์        ฝ่าฮุ่ยกับที่ประชุมเล็กไม่อาจบันทึกเสียง  แต่ผู้ฝึกซิดนีย์ของโครงการเสินยวิ่นยังคงบันทึกเสียง  และเผยแพร่ให้กับผู้ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีก

อาจารย์   การประชุมที่ข้าพเจ้านำพวกท่านเปิดนั้นไม่ได้กำหนดให้ใครบันทึกเสียง  ใครที่บันทึกเสียงท่านก็กำลังทำเรื่องที่ก่อกวนฝ่า   ท่านทำอย่างนี้ได้อย่างไรกันนะ  ไม่ใช่เคยพูดเรื่องเหล่านี้ตั้งนานแล้วหรือ  ใครทำเช่นนี้  ให้ส่งข้อมูลที่ส่วนตัวบันทึกภาพหรือเสียงไว้ให้กับฝอ   เสวียฮุ่ยในพื้นที่เถอะ 

ศิษย์        ศิษย์ต้าฝ่าอินโดนีเซียร่วมมือกันไม่ดี  เชิญท่านอาจารย์ชี้แนะ

อาจารย์      ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีเรื่องมากมายที่ทำได้ดีมาก  บางอย่างที่ร่วมมือไม่ดี  ข้าพเจ้าก็คิดว่าในระหว่างการบำเพ็ญพวกท่านจะค่อยๆร่วมมือกันได้ดี

ศิษย์        เรียนถามท่านอาจารย์   ทำข่าวของคนธรรมดาสามัญก็ปนเปื้อนทุกวัน  ใช่ไหมว่าแต่ละวันต้องใช้ความคิดผลักไสสิ่งปนเปื้อน   จะสามารถลดการปนเปื้อนให้น้อยที่สุดได้ไหม

อาจารย์       ไม่ต้องเลย  อะไรที่พวกท่านเห็นล้วนแต่ปนเปื้อน  เพียงศึกษาฝ่าให้มากก็พอ   บวกกับเวลาแต่ละวันฝึกพลังตามปกติ   เวลาศึกษาฝ่าจะต้องรวบรวมความคิด  บำเพ็ญจริง ปัญหาอะไรก็จะแก้ไขได้

ศิษย์        บางคน  ออกปากตอบรับ “ลาออกจากสามองค์กร” กับศิษย์ต้าฝ่า เพราะรักษาหน้าตา  แต่ไม่ได้รับรู้ธาตุแท้ของพรรคมารจริงๆ  คนชนิดนี้ก็ได้รับการช่วยเหลือแล้วหรือ

อาจารย์          ความคิดหนึ่งที่ออกมาจากในใจของคนเอง  คนๆนี้ก็สามารถได้รับการช่วยเหลือ   พวกที่พูดๆเพื่อรักษาหน้า  สภาพการณ์นี้ต้องพิจารณา  กล้าพูดก็คือไม่มีจิตที่ชั่วร้ายต่อต้าฝ่า   กล้าลาออกก็คือไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อพรรคมาร แน่ละคนที่ปากพูดแต่ในใจมีความคิดคัดค้านนั่นก็เป็นกรณีต่างหาก  เทพล้วนมองเห็น   ที่จริงกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  หนึ่งคือ พวกท่านทำอะไรต้องจริงจังหน่อย   อย่าทำเรื่องผิวเผิน   ทำจนคนเขาลำบากใจจึงพูด วิธีนี้ใช้ไม่ได้  แต่ข้าพเจ้าทราบ  ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทำเพื่อรักษาหน้า และขณะนี้มองจากสถานการณ์ของการเจิ้งฝ่ากับการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ  มีการเปลี่ยนแปลงมากแล้ว  คนจีนแผ่นดินใหญ่ยังเปลี่ยนแปลงมากกว่าคนจีนแผ่นดินใหญ่นอกประเทศ   ชาวจีนนอกประเทศกลับกลัวสถานกงสุล   ถูกสายลับตัวเล็กๆข่มขวัญจนกลัว  คนในประเทศล้วนกำลังด่าพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนดังลั่นโดยไม่เกรงกลัว  เมื่ออยู่ในประเทศถูกพรรคมารควบคุมอยู่ ท่านจึงกลัว   ตัวอยู่นอกการควบคุมของพรรคมาร ท่านยังจะกลัวมันหรือ  ทำไมความกล้าสักนิดก็ไม่มีหรือ   คนชนิดนี้สภาพจิตใจไม่ใช่แปลกประหลาดหรือ

ศิษย์        เมื่อเร็วๆนี้        ท่านอาจารย์เรียกร้องให้ทุกคน         ศึกษาการบริหารจัดการและประสบการณ์ทางธุรกิจของคนธรรมดาสามัญตลอดมา    ขณะนี้ระดับบริหารก็คิดจะดำเนินการตามวิธีการบริหารบางอย่าง      แต่เพื่อนผู้บำเพ็ญบางคนยังคงไม่ค่อยเต็มใจ  กลับพูดว่า “จัดการโดยไร้ความหมายมั่น เป็นเขตแดนที่สูงสุด” (ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์        ข้ออ้างอะไรก็สามารถพูดออกมาได้  (ที่ประชุมหัวเราะ) บริษัทไหนบ้างที่จัดการโดยไร้ความหมายมั่นละ    หากท่านบอกว่าบริษัทที่ศิษย์ต้าฝ่าทำไม่เหมือนกับของคนอื่น  จึงสามารถจัดการได้โดยไร้ความหมายมั่น  ข้าพเจ้าไม่เชื่อ   หากท่านไม่มีใจคนแล้ว ท่านก็คือเทพ  ท่านมิใช่คนที่กำลังบำเพ็ญอยู่หรือ  ฉะนั้นคนที่กำลังบำเพ็ญ ส่วนของคนที่ท่านบำเพ็ญยังไม่สำเร็จ มิใช่ยังเหมือนกับคนธรรมดาสามัญหรือ  ท่านยังมีจิตที่ยังไม่ได้ทิ้งไป  เพียงแต่ว่าผู้บำเพ็ญ  เป็นคนดี  เขตแดนสูง   หากท่านไม่ขัดแย้งกับการบริหาร  ไม่มีจิตต่อสู้ชิงดีชิงเด่น  ไม่ประสานซึ่งกันและกัน  สามารถมองเข้าสู่ภายในได้ทั้งหมดจริงๆ  ค้นหาจากภายใน  ก็จะบริหารได้ง่ายกว่าสื่อของคนธรรมดาสามัญ   และประสิทธิภาพจะสูงมาก  แต่ปัจจุบันทำไม่ถึงจุดนี้  ก็คือใจคนเหล่านี้ที่กระทำ   ประสิทธิภาพกลับไม่สูง

ศิษย์       ศิษย์ต้าฝ่าจีนแผ่นดินใหญ่  และพื้นที่ต่างๆนอกประเทศ   ศิษย์ต้าฝ่านอกประเทศจีนของโครงการต่างๆที่อธิบายความจริง  ทะยอยกันใช้โอกาสของฝ่าฮุ่ยนี้  กล่าวสวัสดีท่านอาจารย์ผู้เปี่ยมเมตตายิ่งใหญ่

อาจารย์       ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)  เมื่อครู่คำกล่าวสวัสดีต่ออาจารย์มากมาย   ที่ ข้าพเจ้าไม่ได้อ่าน  คำถามที่ทีมงานจัดการประชุมส่งขึ้นมา  ได้เอาคำกล่าวสวัสดีทิ้งไปแล้ว   ไม่ว่าจะอย่างไร  อาจารย์ทราบจิตใจของทุกท่าน   อาจารย์ก็คิดถึงศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่กับศิษย์ต้าฝ่าพื้นที่ต่างๆทั่วโลกมาก  (เหล่าศิษย์ปรบมือ)  เจิ้งฝ่าจะต้องสำเร็จ  นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว  (เหล่าศิษย์ปรบมือ)   เมื่อแรกเริ่มที่ข้าพเจ้าทำเรื่องนี้  เทพเหล่านั้นก็พูดกับข้าพเจ้าว่า  เรื่องที่ท่านทำ ในอนาคตคนจะมองเห็นได้ทั้งหมด   ข้าพเจ้าถามว่า มองเห็นอย่างไรละ   พวกเขาตอบว่าคนจะมองเห็นการดับสลายของดวงดาว  การเปลี่ยนแปลงของร่างนภา  คนจะมองเห็นเรื่องเหล่านี้ว่าเกี่ยวข้องกับท่าน  แต่ละก้าวละก้าวนี้จะเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น  เดิมทีร่างนภาไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากอย่างนี้   ปัจจุบันยิ่งใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ใช้กล้องส่องทางไกลธรรมดาก็สามารถตรวจสอบพบการเปลี่ยนแปลงของร่างนภาได้แล้ว   สถานการณ์ของมนุษยชาติก็กำลังเปลี่ยนแปลง     การรับรู้ต่อต้าฝ่า  ก็เหมือนกับปัญญาเริ่มเปิดออก(จากการเรียนรู้)  ค่อยๆเกิดขึ้น  ก็คล้ายน้ำแข็งที่กำลังละลาย กำลังเปลี่ยนแปลง   อนาคตอีกไม่นาน   ผู้คนล้วนจะมองฝ่าหลุนกงกับศิษย์ต้าฝ่าด้วยสายตาที่ทึ่ง  ภาพที่แท้จริงก็จะปรากฏอยู่ต่อหน้าผู้คน   ในเวลานั้นผู้คนจะมองเห็นว่าศิษย์ต้าฝ่าเป็นความหวังหนึ่งเดียวในการช่วยเหลือพวกเขา   ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าต้องทำให้ดี   พวกท่านแบกภารกิจอยู่บนตัวจริงๆ   พวกท่านมีความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้จริงๆ  ดังนั้นต้องทำให้ดี

ทุกท่านทราบ  ทำไมหลังการประทุษร้ายเป็นต้นมา  ผู้ที่เข้ามาเป็นศิษย์ต้าฝ่าจึงมีน้อยมาก   เพราะอิทธิพลเก่าได้สกัดกั้นไว้แล้ว    หากไม่มีสภาพการณ์ที่พิเศษ  ข้าพเจ้าไม่มีความต้องการเป็นพิเศษ ล้วนแต่เข้ามาไม่ได้   เพราะหลักการของอิทธิพลเก่าคือการทดสอบนั้นได้ผ่านมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว  ช่วงที่รุนแรงที่สุดได้ผ่านไปแล้ว  มาถึงช่วงท้ายของการประทุษร้ายแล้ว   สภาพแวดล้อมของการทดสอบที่ชั่วร้ายและอันตรายที่สุดได้ผ่านไปแล้ว  คนเลวที่จัดวางไว้มากมายก็ตายไปแล้ว  ไม่มีสภาพแวดล้อมชนิดนั้นอีกแล้ว   ผู้ที่เข้ามาอีกจึงยากมากที่จะสถาปนาธรรมานุภาพที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรมีแล้ว   ดังนั้นพวกมันจึงพยายามเต็มที่ที่จะควบคุมไว้   ทุกท่านทราบ ช่วงก่อนนี้เมื่อการประทุษร้ายรุนแรงมาก  ผู้คนกลัวการประทุษร้ายหรือไม่เข้าใจต้าฝ่า  จึงเข้ามาไม่ได้  ขณะนี้การเปิดโปงความจริงของการประทุษร้ายมีทั่วไปหมด   สภาพแวดล้อมก็ผ่อนคลายแล้ว   แต่ทำไมยังยากจะก้าวเข้ามา  ก็คือสาเหตุนี้

เรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตจึงต้องให้พวกท่านทำ   ไม่เพียงต้องทำ  แต่ทุกท่านจะต้องทำให้ดีด้วย   ไม่ใช่ทำให้อาจารย์   พูดว่าเป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิต  แต่ก็ไม่ใช่ทำเพื่อพวกเขาทั้งหมด   หากแต่ทำเพื่อตัวพวกท่านเอง  เพราะสรรพชีวิตเหล่านั้นที่พวกท่านช่วยเหลือ   รวมทั้งคนเหล่านั้นที่ท่านอธิบายความจริงให้  เป็นไปได้มากว่า ต่อไปชีวิตเหล่านั้นล้วนจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสรรพชีวิตของจักรวาลอันมหึมาของท่าน   ท่านกำลังหยวนหมั่นตัวท่านเอง   ท่านกำลังสร้างความสำเร็จของตัวท่านเอง    หากท่านไม่มีสิ่งเหล่านี้  ท่านก็เป็นราชานั้นไม่ได้   ท่านก็ทำให้ภารกิจของท่านประสพความสำเร็จไม่ได้   ท่านก็สถาปนาธรรมานุภาพที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นไม่ได้  ก็คือความสัมพันธ์อย่างนี้   ดังนั้นพวกท่านต้องทำให้ดี  อย่าได้ติดอยู่ในสภาวะที่โต้เถียงกันไปมา    ให้ลงมือทำงานโดยสอดคล้องกับความเป็นจริง ทำอย่างจริงๆจังๆ  เหมือนกับศิษย์ต้าฝ่าที่ควรทำเรื่องของตนเองให้สำเร็จบริบูรณ์ ไม่ว่าจะทำโครงการอะไรหรือเรื่องอะไร  ถ้าไม่ทำท่านก็อย่าทำ  ถ้าจะทำ ต้องทำให้ดี  มีหัวมีท้าย  หาไม่แล้วจะบันทึกลงในประวัติศาสตร์ให้กับเวลาที่ท่านเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์เหล่านี้ได้อย่างไร  เรื่องไหนที่ทำไม่สำเร็จ  เรื่องนั้นก็คือความล้มเหลว    ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จะต้องทำตามความคิดของท่านเท่านั้น   เมื่อสำเร็จแล้วท่านจึงสามารถสถาปนาธรรมานุภาพได้  หากแต่คือในความร่วมมือกันนั้นโดยตัวมันเองท่านคิดอย่างไร   ในขณะร่วมมือกันทำงานนั้นทำกันอย่างไร   นี่จึงจะเป็นขั้นตอนของการบำเพ็ญ   ในระหว่างที่ทำงานจิตเที่ยงตรงมาก  ไม่ลืมว่าตนเองเป็นผู้บำเพ็ญ  ไม่ลืมภารกิจกับความรับผิดชอบของตนเอง    บรรลุความสำเร็จในส่วนที่ตนเองสมควรทำ   นั่นจึงจะเป็นขั้นตอนของการสถาปนาธรรมานุภาพของท่าน   นั่นจึงจะเป็นขั้นตอนของการบำเพ็ญของท่าน   นั่นจึงจะเป็นท่าน--ศิษย์ต้าฝ่าในระหว่างขั้นตอนของการบรรลุภารกิจทางประวัติศาสตร์ของท่านให้เสร็จสิ้น  เรื่องมากมายที่บรรลุความสำเร็จนั้นเป็นการร่วมมือกันของศิษย์ต้าฝ่า   มีเรื่องมากมายที่ศิษย์ต้าฝ่าบรรลุความสำเร็จตามลำพัง   แต่ละเรื่องที่พวกท่านประสบ ล้วนไม่ใช่ความบังเอิญ    เป็นไปได้มากว่าแต่ละเรื่องล้วนจัดวางไว้แล้วในประวัติศาสตร์ จึงได้เป็นเช่นนั้น   ดังนั้นอย่าดูเบาเรื่องที่พวกท่านทำ     แต่ละเรื่องดูไปเหมือนกับเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  ที่ไม่มีนัยสำคัญ  แต่ในอีกมิติหนึ่งกลับก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล

   ก็เพราะอยู่ในวังวน  จึงไม่ให้พวกท่านมองเห็นภาพที่แท้จริง  พวกท่านมองไม่เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของเรื่องที่ทำผ่านไป   พวกท่านมีด้านหนึ่งของคน  จึงยากที่จะก่อเกิดเจิ้งเนี่ยนนั้น    ด้วยเหตุนี้พวกท่านจึงไม่ยินดีปรีดา  ยังต้องทำให้ดีในความทุกข์ยากลำบาก    หากสามารถเดินข้ามมาจึงจะยอดเยี่ยม   หากใครก็รู้หมดว่าเรื่องที่ตัวเองทำนั้นยิ่งใหญ่  ยอดเยี่ยม  ใครๆก็จะไปทำทั้งหมด   ใครๆก็มองเห็นเทพองค์เป็นๆอยู่ตรงหน้าท่าน  เขาก็จะไม่เอาอะไรแล้ว   เทพปรากฏออกมาแล้ว พูดอย่างไรก็จะทำอย่างนั้น  ใครๆก็จะไปทำอย่างนี้กันทั้งหมด   นี่จะไม่มีธรรมานุภาพ  นี่ไม่ใช่การบำเพ็ญ   วังวนก็ทลายแล้ว  อะไรก็ไม่นับแล้ว   ก็คืออยู่ในสภาพแวดล้อมของวังวนนั้น  มองไม่เห็นความจริง  ดูซิว่าท่านยังจะบำเพ็ญได้หรือไม่   สามารถเดินไปถึงที่สุด  สามารถบำเพ็ญสำเร็จหรือไม่  คนๆหนึ่งบนโลก จะกลายเป็นเทพจึงยากอย่างนั้น  คนๆหนึ่งบนโลกจะขึ้นสวรรค์จึงยากอย่างนั้น

ในประวัติศาสตร์แม้ว่ามีคนมากมายที่บำเพ็ญ   ที่จริงแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่มีใครบำเพ็ญสำเร็จ  ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่าน   ว่านั่นล้วนเป็นจิตรอง  จิตหลักที่แท้จริงยังคงเวียนว่ายตายเกิดในโลก   รวมทั้งร่างคนขององค์ศากยมุนีเอง  เหลาจื่อ  พระเยซูเอง   ล้วนอยู่ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า   ในประวัติศาสตร์ธรรมานุภาพที่สะสมไว้นั้น เพียงพอให้พวกเขาหยวนหมั่น   ศิษย์ต้าฝ่าคนอื่นก็เหมือนกัน  เพียงพอที่จะทำให้พวกท่านหยวนหมั่น   ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกว่าการหยวนหมั่นของพวกท่านนั้นไม่ใช่ปัญหา   การช่วยเหลือสรรพชีวิต  ภารกิจที่สำคัญมากอันนี้จึงจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด   สามารถจะบรรลุภารกิจนี้หรือไม่ จึงจะสำคัญ  การสร้างความสำเร็จให้ตนเองไม่ใช่เป้าหมาย  ที่ผ่านมาได้สถาปนาธรรมานุภาพนั้นไว้แล้ว  ท่านจึงคู่ควรเป็นศิษย์ต้าฝ่า

อาจารย์ไม่อยากพูดมากแล้ว   เวลาที่ตอบปัญหาน้ำเสียงของอาจารย์แข็งไปสักหน่อย  มักคิดแต่จะให้ทุกท่านสามารถรับรู้ได้นะ   น้ำเสียงแม้จะหนักไปหน่อย   แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ที่จริงทุกท่านหาได้เพิ่งจะก้าวเข้ามาในต้าฝ่า ที่เข้าใจอะไรพื้นๆอย่างนั้น   ดังนั้นการพูดหนักไปหน่อย อาจจะเป็นประโยชน์ที่ช่วยให้พวกท่านแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้   แน่ละมีหลายๆปัญหาทุกท่านคงยังส่งขึ้นมาไม่ถึง  คนมากมายอย่างนั้นก็ไม่ง่ายที่จะส่งคำถามขึ้นมาได้มากมายอย่างนั้น  วันหลังเมื่อมีโอกาสอาจารย์ค่อยพูดอีก  ก็พูดเพียงเท่านี้ละ (เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้อง)  

วันนี้พูดเพียงเท่านี้  ไม่ทราบว่าทุกท่านเข้าใจซึมซับได้เป็นอย่างไร   มีเรื่องมากมายก็อาจจะพูดได้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นนั้น   ผู้ที่เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของศิษย์ต้าฝ่ามีหลายคนบำเพ็ญได้ไม่เลว  ทุกท่านยิ่งต้องไปดูอย่างเหมาะสมกับความเป็นจริงว่า คนอื่นบำเพ็ญอย่างไร ตนเองจะสามารถค้นหาข้อบกพร่องออกมาได้อย่างไร     สามารถที่จะอาศัยการประชุมใหญ่ครั้งนี้กระตุ้นให้ตนเองสามารถยกระดับได้   ถือมันเป็นแรงกระตุ้นอันหนึ่ง  ฝ่าฮุ่ยของเราก็ไม่อาจเปิดโดยเปล่าประโยชน์   ทุกท่านทราบ  ศิษย์ต้าฝ่ามากมายเช่นนี้ จากที่ต่างๆทั่วโลกมาถึงที่นี่  ค่าตั๋วเครื่องบินก็ร่วมสิบล้าน  พวกเราไม่มีทุนทรัพย์มากอย่างนี้ที่จะสิ้นเปลืองตามชอบใจ    เราจึงต้องเก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆจากฝ่าฮุ่ยครั้งนี้   ทุกท่านกำลังมุมานะบำเพ็ญอย่างจริงๆจังๆ  อย่ามีแต่เปลือกนอก  อย่าให้มีใจคนมากมายอย่างนั้น   ในสายตาของอาจารย์   แต่ละความนึกคิดของพวกท่าน  แต่ละการกระทำของพวกท่าน  ข้าพเจ้าล้วนมองออกว่าท่านมีจิตใจอย่างไร  ข้าพเจ้าไม่ชอบที่สุดคือพวกที่ดีแต่พูด  ไม่ไปทำ   ข้าพเจ้าก็ไม่ชอบพวกที่กลิ้งกลอก  ข้าพเจ้าชอบพวกที่ซื่อๆ ทำงานสอดคล้องตามความเป็นจริง   และหวังว่าในหลายปีของการบำเพ็ญนี้      ทุกท่าน  จะเพิ่มพูนปัญญาจากด้านที่เที่ยงตรง  ในการปฏิบัติตัวต่อสังคม ในการปฏิบัติตน อย่าได้กอบโกยมากเกินไป

 ขอบใจทุกท่าน  ก็ขอพูดเพียงเท่านี้  (เหล่าศิษย์ปรบมือกึกก้อง)