การบรรยายฝ่าในที่ประชุมต้าจี้หยวน
หลี่ หงจื้อ
17 ตุลาคม ค.ศ. 2009
(เสียงปรบมือ)
ทุกท่านลำบากกันแล้ว ลำบากมากจริงๆ
นับตั้งแต่หนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนก่อตั้งขึ้น ก็ได้เดินผ่านเส้นทางที่ขุรขระมากมาย
จากที่ทำกันไม่เป็นจนทำเป็น ขั้นตอนนี้ลำบากลำบนมากจริงๆ จากการทดสอบซินซิ่งของผู้บำเพ็ญแต่ละคนกับการรบกวนที่เกิดจากภายนอก
การก้าวผ่านมาแต่ละก้าวล้วนไม่ง่าย ต้าจี้หยวนมีความสำเร็จอย่างนี้ได้ในวันนี้
ข้าพเจ้าคิดว่าแต่ละคนที่นั่งอยู่
ยังมีผู้ฝึกเหล่านั้นที่เข้าร่วมแต่ไม่ได้มาในครั้งนี้ร่วมกันมุมานะทำจนได้
ต้าจี้หยวนส่งผลกระทบอย่างมากจริงๆในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า จุดนี้ทุกท่านล้วนมองเห็นกันแล้ว
ความคิดของคนนั้นค่อนข้างเรียบง่าย คนจำนวนมากนั้นจะเชื่อเรื่องที่สื่อมวลชนพูด
แหล่งข้อมูลข่าวสารตามปกติของคนจำนวนมากก็ล้วนได้จากสื่อ
ฉะนั้นเครื่องมือสื่อสารชนิดนี้จึงมีประโยชน์มากต่อการช่วยเหลือชาวโลกและการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ของพวกท่าน
ที่จริงในการอธิบายความจริงก็ได้ผลที่ดีมาก จุดนี้นะ
ข้าพเจ้าจึงขอขอบคุณทุกท่านแทนชาวโลก (เสียงปรบมือ)
หนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อยมาจนทำมาถึงเวลานี้
มีแรงสะท้อนที่ใหญ่มากแล้ว นี่เห็นได้ชัดว่าในขั้นตอนของการทำหนังสือพิมพ์
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร แม้ว่าจะมีสภาพการบำเพ็ญบางจุดที่ไม่เป็นดั่งใจปรารถนา
แต่กระแสหลักนั้นดี เป็นผลสำเร็จที่จะไม่ดับสูญไป นี่ดีมาก
มองดูอนาคตก็ควรพูดได้ว่ายิ่งทำยิ่งดี และคนธรรมดาสามัญนับวันยิ่งเห็นความสำคัญของต้าจี้หยวนมากขึ้นเรื่อยๆ
สื่อภาษาจีนมากมายยากมากที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยในขณะนี้
บ้างก็เลิกกิจการไปแล้ว หากทุกท่านทำให้ดียิ่งขึ้นอีกหน่อย ก็จะพัฒนาเร็วยิ่งขึ้น
เรื่องอะไรล้วนแต่ไม่บังเอิญ ทุกท่านทำได้ดี ในระหว่างการช่วยเหลือสรรพชีวิต ทางที่จะเปิดให้กับพวกท่านก็อาจจะยิ่งกว้างขึ้น
ตลาดก็อาจจะกว้างขวางยิ่งขึ้น เช่นนี้หนังสือพิมพ์ที่ทำได้ดีฉบับนี้
ก็จะสร้างสรรค์สภาพที่ดียิ่งขึ้นได้ แต่พวกท่านเองต้องรู้จักที่จะไปใช้โอกาสนี้
คิดหาวิธีทำให้มันมั่นคงยิ่งขึ้นเหมือนบริษัททำสื่อตามปกติของสังคม ตอนเริ่มแรกทุกท่านต่างถือว่ามันเป็นเครื่องมือหนึ่งในการอธิบายความจริง
ไม่ได้คิดมากมายอะไรนัก ยิ่งกว่านั้นบางคนยังไปทำเหมือนกับเป็นใบปลิวแผ่นหนึ่ง
แน่ละขณะนี้ไม่เหมือนกันแล้ว
ทุกท่านก็ค่อยๆรับรู้ได้แล้วว่าไม่อาจยึดถือความคิดในลักษณะชั่วคราวได้แล้ว
ต้องทำหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ให้ดี และต้องเดินบนทางที่เป็นมาตรฐานได้ด้วย
ไม่ว่าในแง่การบริหารจัดการ หรือแง่ธุรกิจ
ข้าพเจ้าคิดว่าควรที่จะถือประสบการณ์ของบริษัทคนธรรมดาสามัญเป็นกระจกสะท้อนให้มากสักหน่อยจะดี
แต่พอทำขึ้นมาก็มักจะค่อนข้างยาก ยากที่ตรงไหนละ ก็คือการร่วมมือระหว่างกัน(หัวเราะ) ศิษย์ต้าฝ่าเอย
ล้วนยอดเยี่ยม ในประวัติศาสตร์พวกท่านต่างเคยเป็นพระราชา (หัวเราะ)
แต่ประเทศจีนมีอยู่คำพูดหนึ่งเรียกว่า
ภูเขาลูกหนึ่งไม่อาจมีเสือสองตัวอาศัย (ที่ประชุมหัวเราะ)
พระราชาองค์หนึ่งตัดสินใจก็จะง่าย โอ้
พระราชามากมายอย่างนี้อยู่รวมกัน ข้อคิดเห็นจึงมาก ความคิดจึงมีมาก
และล้วนมีการดำเนินการโดยพลการที่แรงมาก
นี่คือความยากลำบากที่สุดที่พบในการร่วมมือระหว่างศิษย์ต้าฝ่าด้วยกัน
อุปสรรคชนิดนี้มาจากตัวพวกท่านเอง แต่ละคนที่นี่ล้วนมีความสามารถ
ยิ่งกว่านั้นยังมีความสามารถมาก พอทำงานขึ้นมาคนหนึ่งทำได้เท่ากับคนธรรมดาสามัญหลายคนทำ
แต่เมื่อพูดในทางกลับกัน ในการร่วมมือกันก็เป็นเรื่องยุ่งยาก
นานแล้วที่มีปัญหานี้อยู่ พวกท่านจะร่วมมือกันให้ดีได้อย่างไร
ให้ความคิดเป็นเอกภาพ ทุกคนร่วมกันไปทำอย่างพร้อมเพรียงและเต็มกำลัง
เมื่อบวกกับความสามารถของพวกท่าน นั่นจะเป็นพลังที่ไม่อาจต้านทานได้
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงคิดอยู่ว่า ใช่หรือไม่ว่ารอจนพวกท่านบำเพ็ญได้ดียิ่งขึ้น
พวกท่านก็จะยิ่งเข้าใกล้ด้านนี้เข้าไปอีก พลังจะยิ่งมาก(หัวเราะ)
หากทุกท่านสามารถทำอย่างนี้ได้ในภาวะที่ลำบากที่สุด
นั่นจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ จึงจะสามารถทำในสิ่งที่พวกท่านควรทำได้ดี
แต่เวลาไม่รอคน สถานการณ์ไม่รอคน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ขณะนี้ศิษย์ต้าฝ่าล้วนต้องร่วมมือซึ่งกันและกันให้ดี
สถานการณ์ในขณะนี้ต้องการความร่วมมือที่ดีของพวกท่าน
มีแต่ร่วมมือกันให้ดีจึงจะสามารถทำให้ปณิธานที่พวกท่านต้องทำให้สำเร็จ
สามารถทำสำเร็จได้ด้วยดี จึงจะสามารถทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีพลังยิ่งขึ้น
ในสังคมคนธรรมดาสามัญ หนังสือพิมพ์ใหญ่เหล่านั้น ไม่ว่าจะมองในแง่การบริหารจัดการ
หรือในแง่ธุรกิจ นั่นคู่ควรให้พวกท่านใช้อ้างอิง
พวกเขาอาศัยหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวเลี้ยงคนหลายพันคน พวกเขาทำอย่างไรหรือ
และคนที่ทำงานในสื่อของสังคมคนธรรมดาสามัญ ไม่ว่าบรรณาธิการเอย นักข่าวเอย
รวมทั้งพนักงานพิมพ์ เป็นต้น เงินเดือนของพวกเขาล้วนแต่เท่าเทียมกับของสังคม
เงินเดือนไม่ต่ำเลย ข้าพเจ้าจึงคิดว่า แม้ว่าทุกท่านลำบากลำบนกัน
จากที่ทำไม่เป็นจนทำเป็น ก้าวผ่านขั้นตอนอย่างนี้มาแล้ว
เช่นนั้นในระหว่างขั้นตอนที่ทำก็ควรที่จะสามารถคิดได้ว่า
ทำอย่างไรจึงจะทำมันให้ดียิ่งขึ้นในเชิงธุรกิจ หยั่งรากในสังคมได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทำให้มันไม่ต้องกังวลใจกับปัญหาค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์และความร่วมมือของคนทำงานอีก
ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนก็จะมีการแบ่งงานกันทำในการบริหารจัดการตามปรกติ
การแบ่งงานกันทำไม่เท่ากับว่าระดับชั้นของการบำเพ็ญสูงหรือต่ำ ไม่ใช่ว่าใครที่เป็นบรรณาธิการแล้ว
ใครที่เป็นนักข่าวแล้ว หรือใครที่ทำงานทั่วๆไปแล้ว คนนั้นก็บำเพ็ญได้สูง
คนนั้นก็บำเพ็ญได้ไม่ดี ไม่มีการเปรียบเทียบชนิดนี้ ทุกท่านทราบ
ในวงการบำเพ็ญในอดีต มักจะยากลำบากที่สุด
คนที่อยู่ต่ำที่สุดนั่นจึงจะบำเพ็ญได้ดีที่สุด
การแบ่งงานกันทำนั้นเป็นแค่งานที่ต่างกัน มันไม่เป็นสัดส่วนกับการบำเพ็ญ
ไม่เหมือนกัน การบำเพ็ญคือบำเพ็ญใจคน ในสภาพแวดล้อมต่างๆ
ระดับชั้นชนต่างๆล้วนสามารถบำเพ็ญ แต่
ไม่ใช่ระดับชั้นไหนในสังคมที่สามารถบำเพ็ญได้สูง ระดับชั้นไหนบำเพ็ญได้ไม่สูง
ไม่มีการพูดเช่นนี้
การบำเพ็ญมุ่งที่เขตแดนของซินซิ่งกับความรับผิดชอบและท่าทีของศิษย์ต้าฝ่าต่อการช่วยเหลือสรรพชีวิต
การทำงานต้าจี้หยวนนี้ก็เหมือนกัน
ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน แบกรับงานอะไรอยู่ที่นี่
ล้วนไม่ได้แสดงถึงการบำเพ็ญสูงต่ำของท่าน ดูแต่ว่าท่านจะก้าวหน้าหรือไม่
การบำเพ็ญใช่ไหม เทพ พระพุทธดูแต่ใจคน
ดูแต่ว่าท่านก้าวหน้าหรือไม่ในการบำเพ็ญของท่าน
ในหมู่คนธรรมดาสามัญไม่ว่าท่านจะทำงานอะไร ในสภาพแวดล้อมอะไร มันเพียงแต่เสนอสภาพแวดล้อมหนึ่งสำหรับการบำเพ็ญของท่าน
เสนอรูปแบบที่ต่างกันที่สามารถจะบำเพ็ญได้ ในจุดนี้ทุกท่านจะต้องแจ่มชัด ยึดกุมตัวเองให้ดี
ทิ้งใจคนที่ไม่สมดุลไป การแบ่งงานทำย่อมจะมีผู้ที่ดูแลคนกับคนที่ถูกดูแล
ที่ว่าคุณดูแลฉันแล้วฉันก็ไม่พอใจแล้ว คุณชี้นำฉัน ฉันก็ไม่พอใจ (หัวเราะ)ที่จริงนะ
หากทุกท่านล้วนคิดเพื่อให้หนังสือพิมพ์นี้ดีจากข้างในใจได้
ไม่ว่าจะพูดเบาหรือหนักไป ใครชี้นำใคร ใครเกลี้ยกล่อมใคร นั่นล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เวลาศิษย์ต้าฝ่าอยู่ด้วยกันนั้น
พวกท่านมักจะไม่ต้องการให้ใครชี้นำใคร แต่หากท่านจะทำงานในสังคมคนธรรมดาสามัญ
เจ้านายของบริษัทคนนั้นพูดว่าอย่างไรท่านก็เชื่อฟัง
คนธรรมดาสามัญนั้นชี้นำอย่างไรท่านก็เชื่อฟังหมด
แต่เรื่องของพวกเราเองทำไมทำไม่ได้ละ(หัวเราะ) พอข้าพเจ้าพูดออกมาทุกท่านก็เข้าใจหมด
แต่พอพบกับสภาพการณ์รูปธรรม โดยเฉพาะเมื่อความขัดแย้งมาแล้วก็ข้ามไปไม่ได้ง่ายๆ
แน่ละข้าพเจ้าคิดว่า อันนี้ยังมีสภาพการณ์ที่ต่างกันกับบริษัทของคนธรรมดาสามัญ
บริษัทของคนธรรมดาสามัญนั้นพอเริ่มต้นก็มีค่าตอบแทน การยังชีพต้องพึ่งพามัน
ดังนั้นจึงต้องเชื่อฟังคนเขา ต้องรับเงินเดือนของคนเขา จะไม่เชื่อฟังก็ไม่ได้
ก่อนอื่นเราจะไม่พูดถึงความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ของการยืนยันความถูกต้องของฝ่า
ของศิษย์ต้าฝ่า หรือความล้ำค่าของการบำเพ็ญ หากผู้ฝึกใหม่บางคน
ซึ่งเป็นผู้ฝึกที่ไม่ก้าวหน้ามาก มีปัญหาทางด้านนี้จริง นั่นก็พอเข้าใจ
อย่างไรเสียก็เป็นคนที่กำลังบำเพ็ญ พวกเขาก็ไม่อาจมองข้ามปัจจัยของการยังชีพที่เป็นจริงในสังคม
เช่นนั้นพวกท่านจึงควรทำธุรกิจหนังสือพิมพ์ให้ดี
ให้มันสามารถมีคุณประโยชน์ด้านเศรษฐกิจขึ้นมา
พวกท่านล้วนจะกลายเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการ มีผลตอบแทนตามปรกติ
ที่จริงในขณะนี้พวกท่านก็มีพื้นฐานที่ดีมากแล้ว
หนังสือพิมพ์ที่มีผลสะท้อนมากอย่างนี้ ความสามารถของศิษย์ต้าฝ่าก็มากมาย
ทุ่มเทใจกายทั้งหมดในการทำเรื่องนี้ เมื่อมีตลาดที่ใหญ่ก็จะแก้ไขปัญหาที่ว่าได้
ตั้งใจทางด้านนี้ทำมันให้ดีจริงๆ หากล้วนคิดและทำอย่างนี้ได้
แต่คนส่วนน้อยคิดอย่างนี้ยังไม่พอ ทุกคนต้องร่วมมือกัน
หากสามารถทำให้กลายเป็นบริษัทที่เข้าท่าได้ เป็นอย่างนี้ได้จริงๆแล้ว
ก็จะไม่มีเรื่องพอใจให้คนอื่นดูแลหรือไม่แล้ว และจะไม่มีปัญหาการยังชีพแล้ว
เมื่อทำหนังสือพิมพ์ได้ดีแล้ว การช่วยเหลือสรรพชีวิตและการยืนยันความถูกต้องให้ฝ่าก็จะยิ่งมีพลัง
ขณะนี้มีบางพื้นที่สามารถทำได้เท่าทุนในเชิงธุรกิจ บางแห่งมีกำไรเล็กน้อย
นี่ล้วนแต่น่ายินดี แต่พวกท่านไม่อาจหยุดเพียงแค่นี้ ผู้รับผิดชอบมากมายเข้าใจว่า เราเอาแค่เท่าทุนก็ใช้ได้แล้ว
นี่ก็คือมาตรฐานแล้ว ไม่ถูกนะ ทุกท่านลองคิดดู
หากพวกท่านมากมายอย่างนี้ไม่ต้องไปทำงานบริษัทของคนธรรมดาสามัญเพื่อแก้ไขปัญหาการยังชีพ
หนังสือพิมพ์ของตัวเองก็สามารถแก้ไข(เรื่องการยังชีพ)ได้แล้ว
ทุ่มเทพลังทั้งหมดอยู่ที่นี่
ถ้าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้สามารถกลายเป็นการงานปรกติในสังคมคนธรรมดาสามัญ
มีเงินเดือนให้ตามปรกติ
เช่นนั้นพวกท่านไม่เพียงแต่ทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำแล้ว การยังชีพยังมีหลักประกันด้วยใช่ไหม
นี่จะดีแค่ไหนละ
ที่จริงเมื่อพวกท่านเริ่มต้นทำเรื่องนี้ข้าพเจ้าก็คิดอย่างนี้แล้ว
หากสามารถทำได้ถึงจุดนี้ นั่นเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าจะดีใจที่สุด
ข้าพเจ้าไม่กลัวว่าศิษย์ต้าฝ่าจะร่ำรวย งานที่พวกท่านทำยิ่งใหญ่โต
พวกท่านยิ่งมีเงิน ข้าพเจ้าจึงจะดีใจ กลัวแต่ว่าพวกท่านจะทำไม่ถึง
หากพวกท่านล้วนมีความสามารถมากทางเศรษฐกิจ
เช่นนั้นท่านจะมีพลังมากเพียงไรในการทำเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่าละ
นั่นมิใช่ดีเหลือเกินแล้วหรือ
แต่ไหนแต่ไรมาข้าพเจ้าไม่เคยบอกให้พวกท่านทำเหมือนกับผู้บำเพ็ญเต๋าเหล่านั้นในภูเขา
เงินสักแดงเดียวก็ไม่เอา
เพราะการบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญก็ไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้
ข้าพเจ้าไม่เคยบอกให้พวกท่านทำเช่นนี้ ข้าพเจ้าพูดมาโดยตลอดว่า การบำเพ็ญต้าฝ่า
เป็นรูปแบบการบำเพ็ญโดยสอดคล้องกับสังคมคนธรรมดาสามัญมากที่สุด
แต่พอข้าพเจ้าพูดอย่างนี้พวกท่านอย่าได้เดินสุดขั้วกัน ไม่ใช่บอกพวกท่านว่า
นับแต่นี้ไปก็ตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน (หัวเราะ) ไม่ทำเรื่องของต้าฝ่าแล้ว นั่นใช้ไม่ได้
เรื่องของต้าฝ่าต้องทำ ที่สำคัญคือขณะนี้พวกท่านมีเงื่อนไขนี้
ต้องรีบเร่งทำหนังสือพิมพ์ให้ดี ที่จริงตลอดมามีคนคิดอยู่ ฉันทำการค้าเล็กน้อยมาหล่อเลี้ยงต้าจี้หยวน
ฉันลงทุนอะไรหน่อยช่วยต้าจี้หยวนแก้ไขภาระทางเศรษฐกิจ ความคิดนี้ไม่ผิด
ข้าพเจ้าว่าเช่นนั้นทำไมพวกท่านจึงไม่ตั้งใจสักหน่อย ทำต้าจี้หยวนเองให้ดีละ
หากสามารถทำได้ถึงระดับนั้น มิใช่อะไรก็จะมีแล้วหรือ ที่จริงสามารถทำได้
มองดูอนาคตของต้าจี้หยวนและสถานการณ์เศรษฐกิจของสังคมปัจจุบัน
เป็นการกำลังสร้างเงื่อนไขเอื้ออำนวยให้กับพวกท่านจริงๆ
หากพวกท่านสามารถร่วมมือกันให้ดีในการบริหารจัดการ
ทุ่มเทกำลังมากสักหน่อยในด้านการตลาด คว้าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจขึ้นมา
นั่นก็จะสามารถรับประกันว่าคนส่วนหนึ่งจะมีเงินเดือน จากนั้น
เมื่อทำธุรกิจดีขึ้นเรื่อยๆได้แล้ว นั่นก็จะกลายเป็นธุรกิจที่ดำเนินการได้ตามปรกติ
เป็นหนังสือพิมพ์ที่เลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงคนที่เกี่ยวข้องได้
นี่เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทั้งสิ้น หลายปีก่อนข้าพเจ้าว่า นั่นเป็นเป้าหมาย
แต่เดี๋ยวนี้พูดได้ว่า นี่ย่อมจะเป็นไปได้
ขณะนี้บางพื้นที่ยังบกพร่องไปบ้าง
ข้าพเจ้าคิดว่านั่นเป็นปัญหาของระดับความสำคัญที่พวกท่านดู
บางพื้นที่ผู้ฝึกทำได้ดีหน่อย แต่รู้สึกพอใจได้ง่าย
ต้าจี้หยวนเพียงแค่เท่าทุนนั้นไม่พอแล้ว ไม่ได้คิดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ไม่ได้คิดว่าจะทำให้เป็นธุรกิจที่ปกติ
จากนั้นจะสามารถแสดงบทบาทได้มากยิ่งขึ้นในการช่วยเหลือสรรพชีวิตและอธิบายความจริง
ข้าพเจ้ากำลังคิดเช่นนี้ รวมทั้งสถานีทีวีซินถังเหริน
ระยะก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าบอกพวกเขาว่า พวกท่านต้องกำหนดคนที่ทำโฆษณา
ทำการตลาดให้แน่นอนและให้เงินเดือน ถึงจะต่ำสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
จะต้องทำให้การยังชีพของผู้ฝึกส่วนนี้มั่นคง สามารถตั้งใจทำได้เต็มที่
ขณะนี้พวกเขากำลังทำกันอย่างนี้แล้ว ได้ยินว่าผลลัพธ์ดีมาก
หากพวกท่านคิดจะทำมันให้ดียิ่งขึ้นจริงๆ มีพลังยิ่งขึ้น
พวกท่านที่มีเงื่อนไขเอื้ออำนวยลองทำอย่างนี้ดู
เนื่องจากพวกท่านมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ
ต้องทำงานของคนธรรมดาสามัญให้ดี ต้องดูแลเรื่องในครอบครัว
ศิษย์ต้าฝ่ายังต้องมีเวลาไปศึกษาฝ่า ฝึกพลัง ยังต้องอธิบายความจริง
ยังต้องร่วมโครงการต่างๆของต้าฝ่า รวมทั้งเรื่องของต้าจี้หยวน
หากรวมการอธิบายความจริงกับสื่อของศิษย์ต้าฝ่าเอาไว้ด้วยกันได้
นั่นมิใช่จะลดเวลาที่ต้องแบ่งกันรับผิดชอบได้ด้วยหรือ
และยังจะช่วยแก้ไขปัญหาการยังชีพได้ด้วย แก้ไขปัญหาการทำงานในสังคมคนธรรมดาสามัญ
นี่ไม่น่าทำหรือ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าแนวโน้มจะต้องสำเร็จ(หัวเราะ) พวกท่านก็ไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น
เนื่องจากซินถังเหรินกำลังทำเช่นนี้แล้ว ยังมีอีกนะ
อาจารย์เหล่านั้นของโรงเรียนศิลปะเฟยเทียนที่สอนวิชาเฉพาะทาง
ก็ล้วนมีปัญหาการยังชีพ ขณะนี้พวกเขาล้วนมีเงินเดือนกันแล้ว เพียงแต่ค่อนข้างต่ำ
เมื่อเงื่อนไขค่อยๆดีขึ้นสักหน่อย เมื่อการแสดงของเสินยวิ่นค่อยๆมีผลกระทบกว้างขวางขึ้น
รายได้ดีสักหน่อย เงินเดือนของพวกเขาก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้น
พอพูดถึงตรงนี้ จะขอพูดนอกเรื่องสักหน่อย
ผู้ฝึกในพื้นที่ต่างๆขายตั๋วอย่างลำบากกันมาก
ดังนั้นในด้านนี้ข้าพเจ้าก็กำลังคิดว่าใช่หรือไม่ว่าผู้ฝึกที่ขายตั๋วขาดทุนกันแล้ว
แต่ดีที่ทุกท่านล้วนแจ่มชัดว่าเป็นเรื่องเพื่อการช่วยเหลือคน ขายตั๋วได้หนึ่งใบก็เท่ากับช่วยคนได้หนึ่งคน
ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ทุกท่านล้วนสามารถจัดความสัมพันธ์นี้ได้ดี
และไม่ได้บอกให้พวกท่านทำเช่นนี้นานนัก
หากคณะศิลปินเสินยวิ่นมีเสียงสะท้อนทั่วโลกมากแล้วจริงๆ พอเสินยวิ่นมา
เพียงแต่โฆษณาบ้าง คนก็มาดูกันแล้ว พอถึงเวลานั้นศิษย์ต้าฝ่าก็ถอยออกมาทั้งหมด
ไม่ต้องกังวลใจกับการขายตั๋วแล้ว ปัจจุบันให้มุมานะในด้านนี้
เมื่อข้าพเจ้าคิดจะทำเรื่องอะไรข้าพเจ้าก็ต้องทำให้ดีอย่างแน่นอน
หนังสือพิมพ์ต้าจี้หยวนก็ควรทำเช่นนี้ จะต้องพุ่งไปสู่เป้าหมายนั้น
สายลับของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนก่อความวุ่นวายอยู่ในต่างประเทศ
ทุกท่านล้วนทราบกันดี เมื่อพวกท่านลงโฆษณามันก็โทรศัพท์ให้ร้าย
อันธพาลเหล่านี้พอมันทำครั้งหนึ่งก็จะถูกกรรมสนองครั้งหนึ่ง
เมื่อกรรมหนักแล้วก็จะได้รับกรรมชั่วตอบสนอง ชาวโลกนั้นมาเพื่อฝ่า
หากพวกท่านทำกันอย่างจริงๆจังๆ พวกมันก็จะหวาดกลัว ที่สำคัญคือต้องไปทำอย่างขยันขันแข็ง
อย่าทำแบบสุกเอาเผากิน โดยเฉพาะเวลาที่พวกท่านพบกับปัญหา ต้องไปอธิบายความจริง
ให้คนมองเห็นหน้าตาของคอมมิวนิสต์จีนอย่างชัดเจน
หากเพียงอันธพาลคอมมิวนิสต์จีนยังคงก่อความวุ่นวาย
พวกท่านก็ต้องทำเรื่องนี้ให้จริงจังยิ่งขึ้นจึงจะใช้ได้
ที่จริงสายลับของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น
เบื้องหลังของพวกมันคือฟู่ถี่ผีเน่าเปื่อยที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้
เป้าหมายคือเพื่อทดสอบชาวโลกว่าจะสามารถได้รับการช่วยเหลือได้หรือไม่
เมื่อคนจัดวางใจคนได้ถูกต้องแล้วจริงๆ เพียงคำพูดหนึ่งประโยค หนึ่งความคิด
คนก็จะไม่อยู่ในความดูแลของปัจจุบัน แต่จะจัดเป็นคนของอนาคตแล้ว
สายลับอันธพาลก็ไม่มีกลเม็ดแล้ว
เพียงพวกท่านติดต่อสัมผัสกับคนก็เป็นการช่วยคนอยู่
รวมทั้งการทำโฆษณา คนจะยืนอยู่ฝั่งไหน จะใช้ได้หรือไม่ได้
ล้วนจัดวางอยู่ในเรื่องการติดต่อสัมผัสกับคนธรรมดาสามัญของศิษย์ต้าฝ่า
อย่ามองเรื่องราวให้หนักหนาเกินไป พวกท่านยิ่งมองว่าอุปสรรคหนักหนา
เรื่องก็ยิ่งยากจะทำได้ จะคล้อยตามสภาพจิตใจ เรื่องนั้นก็จะยิ่งยุ่งยาก
การคล้อยตามสภาพจิตใจยังมีความหมายอีกชั้นหนึ่ง คือ เพราะว่าท่านวางมันไว้สูงแล้ว
วางตนเองไว้ต่ำแล้ว หากมองเรื่องนั้นว่าไม่มีอะไรหนักหนา
มองเรื่องการช่วยคนที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ ทำสิ่งที่พวกท่านควรทำ
จิตใจจริงจังหนักแน่นหน่อย เมื่อพบหรือได้ยินอะไรที่ไม่ถูกใจ
ไม่ค่อยได้ดังใจก็อย่าเอามาใส่ใจ ให้ทำเรื่องที่พวกท่านควรทำอย่างสง่าผ่าเผย
ไม่ถูกสิ่งชั่วร้ายรบกวน ไม่ถูกมันชักนำ
ปัจจัยที่ไม่ดีเหล่านั้นก็จะไม่เกิดที่ตนเอง สิ่งชั่วร้ายนั้นก็จะหดเล็กลง
พวกท่านเองก็จะใหญ่โต เจิ้งเนี่ยนจึงจะมีพอ เป็นเช่นนี้จริงๆทั้งนั้น
วัฒนธรรมกึ่งเทพนั้นมีความนัยอยู่
การคล้อยตามสภาพจิตใจก็มีความหมายในชั้นนี้ เพราะคนอยู่ในสภาพแวดล้อมสังคมก็มีขอบเขตของตนเอง
อารมณ์ความรู้สึกของตนเองสามารถกระทบเรื่องของตนเองได้
ศิษย์ต้าฝ่าก็ยิ่งเป็นเช่นนี้ เพราะมีการแบกรับภารกิจในการช่วยเหลือสรรพชีวิต
จึงมีขอบเขตที่ใหญ่ยิ่งกว่ามาก ศิษย์ต้าฝ่าทั่วโลกครอบคลุมทั้งโลกไว้
แต่ละคนมีขอบเขตอันหนึ่ง สิ่งที่ท่านประสบ สัมผัส
ล้วนเป็นองค์ประกอบในขอบเขตนี้ของท่าน หากท่านสามารถจะมีเจิ้งเนี่ยนเพียงพอ
ท่านก็จะสูงใหญ่อยู่ในขอบเขตนี้ของท่านได้
กดสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นในขอบเขตของท่านลงไป
หากศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนล้วนสามารถทำได้ถึงจุดนี้ทั่วทั้งโลกก็จะเปลี่ยนแล้ว
เพราะพวกท่านแต่ละคนที่อยู่ในโลกนี้ แบกรับขอบเขตที่ใหญ่มากอันหนึ่งไว้แล้ว
เป็นตัวแทนของสรรพชีวิตในพื้นที่หนึ่ง
ข้าพเจ้ามักบอกให้พวกท่านค้นหาจากภายในอยู่เสมอ เมื่อมีปัญหาให้ค้นหาที่ตัวเอง
เวลาที่พวกท่านกำลังฟาเจิ้งเนี่ยน ชำระล้างภายในตนเอง
นั่นเป็นการทำให้ความคิดของตนบริสุทธิ์เที่ยงธรรม
พร้อมกับชำระส่วนที่อยู่ข้างในของท่าน กับสภาพแวดล้อมที่ตนแบกรับอยู่ หากศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนล้วนสามารถปฏิบัติต่อการฟาเจิ้งเนี่ยน
ได้อย่างถูกต้องดังว่าแล้ว ในเวลาปกติมีเจิ้งเนี่ยนมากพอ
ก็จะดับสลายวิญญาณชั่วทั้งหมดทั่วทั้งโลกได้ หากศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดต่างเข้าใจแล้ว
ต่างสามารถทำได้จริง จนมีเจิ้งเนี่ยนร้อยเปอร์เซนต์ ก็จะแก้ไขปัญหาได้ในวันเดียว
หากทุกคนล้วนดับสลายองค์ประกอบที่ไม่ดี ที่อยู่ภายในขอบเขตที่ตนแบกไว้ได้หมดแล้ว
เช่นนั้นทั่วทั้งโลกจะไม่เปลี่ยนหมดแล้วหรือ ที่จริงชาวโลกก็มีขอบเขตหนึ่งของตนเอง
เพียงแต่เป็นสนามที่เล็กมากเท่านั้น และไม่ครอบคลุมถึงผู้อื่น
อารมณ์ความรู้สึกของคนเองก็สามารถชักนำให้เกิดผลลัพธ์บางอย่างได้เช่นกัน
คนธรรมดาสามัญไม่รู้จักความหมายชั้นนี้ของ การคล้อยตามสภาพจิตใจ
ที่จริงก็คือองค์ประกอบของตนเองที่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของตนเอง บำเพ็ญตนเอง
ค้นหาจากภายใน คำพูดเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าพูด ล้วนเข้าใจได้ชัดเจนเป็นพิเศษแล้ว (หัวเราะ)แต่มีไม่กี่คนที่สามารถเห็นความสำคัญของเรื่องนี้
ก็รวมทั้งเวลาที่ศิษย์ต้าฝ่าทำงานก็ล้วนเป็นสภาพการณ์นี้
รวมทั้งการทำเรื่องโฆษณาของต้าจี้หยวน การจัดการธุรกิจ
หาสปอนเซอร์เป็นต้น
ทุกๆด้านล้วนมีปัญหาว่าจะสามารถปฏิบัติต่อปัญหานี้ด้วยเจิ้งเนี่ยนได้หรือไม่ แน่ละ
สถานการณ์โดยรวม ยังคงมีสภาพการณ์ขององค์ประกอบหนึ่งของอิทธิพลเก่าที่กำลังควบคุมเรื่องนี้อยู่
มันมิใช่กำลังเจาะช่องว่างอยู่หรือ หากพวกท่านต่างทำได้เที่ยงตรงมันก็จะเจาะช่องว่างไม่ได้แล้ว
บางครั้งรู้สึกว่าชำระล้างสิ่งชั่วร้ายได้ไม่หมดจรด ทำไมยังมีอยู่อีกละ ใช่
หากพวกท่านบำเพ็ญในวันเดียวก็สามารถหยวนหมั่นได้ เป็นพระพุทธในทันที
ก็ไม่เรียกว่าการบำเพ็ญแล้ว
ทัศนคติที่ไม่ดีกับสิ่งเหล่านั้นที่ไม่ดีซึ่งบ่มเพาะในระหว่างการดำเนินชีวิตที่เป็นจริงของคน
ย่อมยากจะทิ้งไปได้หมดเกลี้ยงในทันที สิ่งที่เคยชินก็ต้องเปลี่ยนทิ้งไป
รูปแบบความนึกคิดได้กลายเป็นเช่นนี้แล้ว
เช่นนั้นจากรูปแบบความนึกคิดก็ยังต้องไปปรับมันให้ถูกต้อง จึงจะไม่เกิดปัญหาอีก
ท่านบอกว่าฉันไม่ใช่ชำระจนหมดเกลี้ยงแล้วหรือ ใช่ ฟาเจิ้งเนี่ยน
สนามนี้ก็สว่างแล้ว แต่ พอลุกขึ้นมาในสมองก็เป็นความนึกคิดของคนธรรมดาสามัญ
ปัญหาที่คิด เรื่องที่ทำก็กลับไปสู่จุดเดิมอีก มันก็เกิดขึ้นอีกแล้ว
ยิ่งกว่านั้นในขณะฟาเจิ้งเนี่ยน หากความคิดของท่านยังไม่อาจจะมั่นคงได้
ฟาเจิ้งเนี่ยนชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีไปพลางก็เกิดขึ้นใหม่ไปพลาง
บำเพ็ญก็คือบำเพ็ญตนเอง ที่จริงก็คือเรื่องอย่างนี้
ยังมีอีก ก็คือพวกท่าน ผู้รับผิดชอบเหล่านี้
ตลอดมาได้พูดกับข้าพเจ้าว่า สำนักงานใหญ่ต้าจี้หยวนด้านนี้ยากลำบากมาก
แต่ละพื้นที่ไม่เห็นความสำคัญของสภาพการณ์ของสำนักงานใหญ่ เนื่องจากงานเรียบเรียงจำนวนมากล้วนออกมาจากสำนักงานใหญ่
ใช้กำลังคนค่อนข้างมาก กำลังที่ทุ่มเทไปค่อนข้างมาก
แต่ละแห่งเพียงแต่นำหนังสือพิมพ์เพิ่มเติมเข้าไปในข่าวสารของพื้นที่นั้นๆ
ทำขึ้นมาอย่างค่อนข้างเบาสบาย เพียงแต่คิดว่าที่นี่ของตนไม่ขาดทุนก็ใช้ได้แล้ว
ไม่สนใจว่าสำนักงานใหญ่ของท่านจะเป็นอย่างไร แม้ว่าจะเป็นร่างเดียวกัน
แต่ต้าจี้หยวนเป็นบริษัทรวมกลุ่ม เช่นนั้นท่านจึงต้องคำนึงถึงปัญหาของสำนักงานใหญ่
ปัญหาเหล่านี้ต้องประสานงานกัน
คือต้องฟังฝ่ายจัดการส่วนกลางจากสำนักงานใหญ่ฝั่งนี้
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าทำเช่นนี้จึงจะดี โดยเฉพาะคือการพึ่งพาอาศัยสำนักงานใหญ่ในด้านต่างๆค่อนข้างมาก
ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงกดดันที่มากยิ่งขึ้นต่อพวกเขา จะจัดการให้ดีได้อย่างไร
ทำให้มันตั้งมั่นอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญได้จริงๆ มีการหมุนเวียนที่ดี
ข้าพเจ้าคิดว่าในด้านนี้พวกท่านก็อาศัยการประชุมครั้งนี้วิจัยค้นคว้าให้ดีๆ
ทำให้มันเป็นองค์กรที่มั่นคง สามารถทำธุรกิจได้ดี
และศิษย์ต้าฝ่าที่เข้าร่วมสามารถอยู่ที่นี่แก้ไขปัญหาการยังชีพได้
และสามารถทุ่มเทหมดทั้งกายใจอยู่ในนี้ ทำให้มันมีพลังยิ่งขึ้นในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า
กับช่วยเหลือสรรพชีวิต นี่จึงจะเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการ
ผู้ที่เข้าร่วมสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องรายได้
นี่คือสิ่งที่พวกท่านจะต้องทำในขั้นต่อไป ไม่อาจพอใจเพียงแค่เท่าทุน
แน่ละพวกนั้นที่ยังขาดทุนอยู่ ข้าพเจ้าคิดว่าพวกท่านต้องทุ่มเทพยายามกันได้แล้ว
ไม่อาจรั้งท้ายอยู่ข้างหลังเรื่อยไป ศิษย์ต้าฝ่าเอย พวกท่านล้วนพูดว่าจะทำสิ่งที่ควรทำให้ดี
หากสามารถบังเกิดผลได้จริงในการเจิ้งฝ่าแล้ว ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า
พวกท่านต้องตั้งใจ จึงจะสามารถทำได้ หากไม่ตั้งใจก็จะกลายเป็นภาระ ถ้าทำไม่ได้
ยังจะเกิดการรบกวนและไม่อาจทำให้คำปฏิญาณเป็นจริง
ต้องเห็นความสำคัญขึ้นมาจึงจะใช้ได้
ขอถือโอกาสพูดถึงต้าจี้หยวนภาษาอังกฤษและภาษาอื่น
ข้าพเจ้าทราบว่าขณะนี้มีความยากลำบากค่อนข้างมาก ที่สำคัญคือกำลังคนไม่พอ
นี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ข้าพเจ้าคิดว่า
ถ้าพวกท่านสามารถทำต้าจี้หยวนภาษาจีนได้ดี
ในขณะเดียวกันก็ช่วยหนังสือภาษาอังกฤษเปิดตลาด สร้างเสียงสะท้อน เพราะต้าจี้หยวนภาษาจีนมีเสียงสะท้อนมากอย่างนั้นในสังคม
คนล้วนรู้จักกันแล้ว แต่อ่านไม่เข้าใจ เช่นนั้นจะทำอย่างไร อ้อ มีภาษาอังกฤษ
มีภาษาฝรั่งเศส มีภาษาเยอรมัน มีภาษาอื่นๆ
หากทำได้ดีก็จะสามารถสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยได้ ขณะนี้มองเห็นแต่ความยากลำบาก
เพราะสถานการณ์ที่หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษกำลังประสบเหมือนกับสถานการณ์ที่หนังสือพิมพ์ภาษาจีนเคยประสบ
กำลังคนไม่พออย่างเด่นชัด ถ้าพวกท่านสามารถยืนหยัดไม่ถอย ทำสิ่งที่ควรทำให้ดีได้
ปัญหาด้านต่างๆก็จะค่อยๆแก้ไขได้ทั้งสิ้น เนื่องจากผู้ฝึกใหม่นั้น
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็กำลังก้าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็จะค่อยๆสุกงอมขึ้นมา
พอสุกงอมแล้ว นั่นก็สามารถเข้ามาร่วมได้ พวกท่านก็ก้าวผ่านมาอย่างนี้ตลอดทาง
หากพวกท่านเดินได้ถูกต้องในด้านใด เดินได้เที่ยงตรงแล้ว
ประตูที่ปิดอยู่ก็จะเปิดออก ทางก็จะกว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการไหน ตลอดทางก็ผ่านกันมาอย่างนี้
สถานการณ์ที่เปิดไม่ออกเป็นเพราะร่วมมือกันไม่ดี เกิดจากการที่ไม่เห็นความสำคัญพอ
ใจคนขัดขวางทางของพวกท่านเอง
ดังนั้นตลอดทางที่เดินมาจึงมักจะล้มลุกคลุกคลานเดินได้ไม่ดี มีความยุ่งยากไม่หยุดหย่อน
ก็คือใจคนมีม เวลาที่เกิดปัญหาก็ปกป้องตนเองไม่ใช่ปกป้องฝ่า
ข้าพเจ้าคิดว่าทุกท่านจงพยายามต่อไปเถิด ถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วย่อมจะทำได้ดีทั้งหมต้าจี้หยวนภาษาอื่นก็สำคัญมาก
เพราะศิษย์ต้าฝ่าก็คือความหวังเพียงหนึ่งเดียวของชาวโลกไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็ตาม
ที่จะได้รับการช่วยเหลือ ที่ว่าข้าพเจ้าหลี่ หงจื้อ ที่เป็นอาจารย์ของศิษย์ต้าฝ่าคนนี้ไปทำเรื่องนี้อีก
นั่นก็เป็นไปไม่ได้ นี่คือเรื่องพวกท่านต้องทำ
ที่ข้าพเจ้าจะทำอีกนั่นเป็นเรื่องหลังจากฝ่าปรับโลกมนุษย์แล้ว
ก่อนที่ฝ่าจะปรับโลกมนุษย์พวกท่านต้องช่วยคนให้มาก ให้คนเหลือรอดมากสักหน่อย
ก็คือในขณะที่พวกท่านอธิบายความจริง ยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต
ในระหว่างขั้นตอนของเรื่องเหล่านี้
ช่วยให้คนที่อยู่ท่ามกลางภัยพิบัติใหญ่เหลือรอดได้
ในอนาคตคนส่วนนี้จึงจะคู่ควรได้เห็นภาพจริงของเรื่องราวทั้งหมดของจักรวาลกับเรื่องตั้งแต่สร้างโลกเป็นต้นมา
ในเวลาที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์ จากนั้นข้าพเจ้าจึงจะมาทำเรื่องฝ่าปรับโลกมนุษย์
เพราะเรื่องของคนยังไม่ใช่ง่ายๆอย่างนั้น มิติชั้นนี้จะต้องเหลือไว้ต่อไป
ดังนั้นจึงยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำนะ
เรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิตต้องเป็นพวกท่านทำ
ในช่วงนี้เป็นการให้พวกท่านสถาปนาธรรมานุภาพ เดินสู่การหยวนหมั่นท่ามกลางความคิดและการกระทำที่ถูกต้อง(เจิ้งเนี่ยน เจิ้งสิง) หากข้าพเจ้าไปทำอีกก็จะรบกวนพวกท่านได้
ผู้ฝึกหลายคนทั้งเรื่องใหญ่น้อยก็จะหาข้าพเจ้าให้ช่วยแก้ไข
นี่เท่ากับไม่เดินสู่การหยวนหมั่น เพราะพวกท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า
เรื่องนี้ได้กำหนดไว้แล้ว เรื่องได้แบ่งทำเป็นสองขั้นตอน
คือฝ่าปรับโลกมนุษย์กับการบำเพ็ญยุคเจิ้งฝ่า การบำเพ็ญยุคเจิ้งฝ่า
เรื่องนี้ได้เดินมาถึงช่วงท้ายแล้ว ชีวิตที่ชั่วร้ายที่สุดไม่มีอยู่แล้ว
ช่วงที่น่ากลัวที่สุดได้ผ่านไปแล้ว
ศิษย์ต้าฝ่ากลุ่มนี้มีภาระหน้าที่กับภาระความรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่ากลุ่มนี้
ก็คือพวกท่านต้องช่วยเหลือชาวโลก และหยวนหมั่นตัวเองจากในนั้น
และเรื่องนี้ได้ทำจนถึงระดับนี้แล้ว ก็เป็นอย่างนี้แล้ว
หากคิดจะช่วยคนทั้งโลกให้มากขึ้นก็ต้องเป็นศิษย์ต้าฝ่าทำ ก็ต้องเป็นพวกท่านทำ
แน่ละในนี้ยังมีองค์ประกอบอีกอย่างหนึ่ง
แม้ว่าชาวโลกในจีนแผ่นดินใหญ่เปลี่ยนเป็นคนที่ไม่ดีมากไปแล้ว
ทัศนคติของคนถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนทำจนเสียไปแล้ว ศีลธรรมต่ำทรามมาก
สังคมนั้นแม้ว่าจะไม่ได้เรื่องได้ราวแล้ว แต่ในนั้นที่แท้เป็นราชาของชนชาติต่างๆ
ในยุคต่างๆ มากมายที่กลับชาติไปเกิดที่นั่น ไม่ว่าชนชาติไหน
กระทั่งราชาบนสวรรค์มากมายก็กลับชาติไปเกิดที่นั่นแล้ว
สภาพแวดล้อมนั้นถูกทำจนวุ่นวายถึงเพียงนั้น
อิทธิพลเก่าของจักรวาลคิดว่าในสภาพการณ์ที่วุ่นวายอย่างนี้
ดูว่าใครที่สามารถก้าวออกมาได้ จากอันตรายที่ชั่วร้าย จากแรงกดดันสามารถได้ฝ่า
พวกมันจึงจะยอมรับ พวกมันรู้ว่าพอคนๆหนึ่งครั้นได้รับการช่วยเหลือก็ยังจะเกี่ยวพันกับสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาได้รับการช่วยเหลือ
และจะเกี่ยวพันกับการได้รับการช่วยเหลือของสรรพชีวิตของชนชาติอื่นในเวลาที่เขาเคยเป็นราชาอยู่บนโลก
การได้รับการช่วยเหลือของชาวจีน จะทำให้สรรพชีวิตมากมายของชนชาติต่างๆบนโลกนี้ได้รับการช่วยเหลือ
สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าที่อยู่ในสังคมนานาชาติทำนั้นจะเกิดเสียงสะท้อนในจีนแผ่นดินใหญ่
ศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนทำได้ดีมาก ทั่วแผ่นดินล้วนเป็นความจริง
สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าในสังคมนานาชาติกับศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ทำล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน
ดังนั้นระดับการอธิบายความจริงของพวกท่านต่อจีนแผ่นดินใหญ่จึงต้องมาก
รวมทั้งเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นจากการอธิบายความจริงในสังคมนานาชาติของต้าจี้หยวนภาษาอื่นๆ
ในโลกตะวันตก ล้วนจะเกิดเสียงสะท้อนต่อคนจีนและสังคมจีน ล้วนเป็นการช่วยเหลือที่นั่นอยู่
ไม่ต้องสนใจว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาไหน การประทุษร้ายจะจบสิ้นเมื่อไร
ก็สนใจแต่ไปทำก็พอ หากจบสิ้นลงจริงๆแล้วทุกท่านล้วนจะรู้สึกเสียใจภายหลัง
ก่อนที่จะทำให้จบสิ้น ก่อนที่ฝ่าจะปรับโลกมนุษย์ ให้ทุกท่านสนใจแต่ไปทำ
ในระหว่างการช่วยเหลือคน ควรทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น พยายามทำให้ดียิ่งขึ้น
ยิ่งขึ้น ผลสำเร็จเป็นของพวกท่าน ศิษย์ต้าฝ่า