การบรรยายฝ่าที่แมนฮัตตัน

 หลี่ หงจื้อ

26 มีนาคม ค.ศ. 2006

ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

 

ล้วนทราบกันว่าอาจารย์มักจะอยู่ฝั่งนิวยอร์กนี้  ดังนั้นพอเปิดฝ่าฮุ่ยที่นิวยอร์ก คนที่มาจึงค่อนข้างมาก  ศิษย์ต้าฝ่าบนเส้นทางของการยืนยันความถูกต้องของฝ่านี้   แต่ละคนต่างทำเรื่องที่สมควรทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ  เนื่องจากเรื่องที่พวกท่านทำกันอยู่ในขณะนี้กับการบำเพ็ญของพวกท่านนั้นสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น  นี่ก็คือกำลังบำเพ็ญอยู่  รูปแบบการบำเพ็ญของพวกท่านก็คือบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ในระดับชั้นที่ต่างกัน  ในอาชีพที่ต่างกัน ล้วนสามารถบำเพ็ญได้  และร่างกายก็อยู่ในสังคมที่ต่างกัน  อาศัยอาชีพที่ต่างกันยืนยันความถูกต้องของฝ่าอยู่ในแต่ละมุมโลกช่วยเหลือสรรพชีวิต  ล้วนกำลังอาศัยรูปแบบสังคมชนิดนี้ในปัจจุบันบำเพ็ญอยู่

 

ที่จริงรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้  มันไม่ใช่เป็นเพียงการบำเพ็ญอย่างกระจัดกระจายและเรียบง่ายอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ  อาจารย์ก็เคยบอกพวกท่านว่า เป็นเต๋าใหญ่ไร้รูปแบบ  ซึ่งจากรูปแบบก็ต่างจากการบำเพ็ญในอดีต  ที่จริงในจุดนี้ทุกท่านล้วนเข้าใจกันแล้ว  โลกกลายเป็นจุดโฟกัส(จุดศูนย์รวม)ของการเจิ้งฝ่าของจักรวาล  หากเป็นเช่นนี้  ชีวิตที่นี่ กระทั่งเรื่องราวมากมายที่มีอยู่ในโลกนี้   ล้วนไม่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปแล้ว  ที่จริงการช่วยเหลือสรรพชีวิตก็ดี  ยืนยันความถูกต้องของฝ่าก็ดี  รวมทั้งการบำเพ็ญของท่านแต่ละคน ความหมายนั้นก็จะใหญ่มาก  ชีวิตแท้จริงแล้วไม่ใช่คนธรรมดาๆบนโลกแต่ดั้งเดิมแล้ว  มีจำนวนมากมายที่มาจากระดับชั้นที่สูง   ฉะนั้นเรื่องราวมากมายในสังคมคนธรรมดาสามัญ   ก็รวมทั้งรูปแบบที่ปรากฏออกมามากมายในสังคมคนธรรมดาสามัญ  ที่จริงก็ล้วนไม่ธรรมดาแล้ว  หากเป็นเช่นว่านี้  ทุกท่านคิดดู   พวกท่านที่บำเพ็ญอยู่ในแต่ละอาชีพการงาน  แต่ละมุมของสังคม  แต่ละชนชั้นในสังคม  ก็ล้วนแฝงไว้ด้วยความนัยที่ยิ่งใหญ่อยู่ข้างใน   ดังนั้นการบำเพ็ญของแต่ละคนจึงเป็นเพียงรากฐานหนึ่งที่จำเป็นต้องมีของศิษย์ต้าฝ่า  ช่วยอาจารย์และช่วยเหลือสรรพชีวิต  ยืนยันความถูกต้องของฝ่าจึงจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงในฐานะที่ได้ชื่อว่าศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่ง จึงสามารถพูดได้ว่าเป็นการทำให้คำปฏิญาณก่อนประวัติศาสตร์เป็นจริง   การบรรยายฝ่าครั้งก่อนที่ลอสแองเจลลิส ข้าพเจ้าก็พูดเกี่ยวกับเรื่องทางด้านนี้ไปแล้ว  ทุกท่านสามารถเข้าไปในเว็บไซต์อ่านได้

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  ในฐานะผู้บำเพ็ญ แม้พวกท่านจะทราบทุกสิ่งนี้ที่ตนเองทำอยู่ในสังคมปัจจุบัน  ยิ่งกว่านั้นยังรวมถึงการดำรงชีพของตัวท่านเอง  ซึ่งล้วนอยู่ในขอบเขตของการบำเพ็ญ  เช่นนั้นทุกท่านจึงยิ่งสมควรปฏิบัติต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นข้างกายพวกท่านอย่างเข้มงวด   และเข้มงวดยิ่งขึ้นในการปฏิบัติต่อรูปแบบชนิดนี้ของการบำเพ็ญชนิดนี้ที่ไม่มีรูปแบบ  ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยบอกพวกท่านว่า ต้องทำสามเรื่องให้ดีคือ ฟาเจิ้งเนี่ยน  ศึกษาฝ่าให้ดี  อธิบายความจริงช่วยเหลือสรรพชีวิต   การอธิบายความจริงนั้นทุกท่านกำลังทำกันอย่างรีบเร่ง ขยันขันแข็ง   แน่ละก็มีผู้ฝึกส่วนหนึ่งแสดงออกมาค่อนข้างย่อหย่อน  ค่อนข้างไม่ก้าวหน้านัก  มักจะรู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่  ที่จริงไม่ใช่  นี่เป็นรูปแบบการบำเพ็ญที่ไม่เหมือนกัน   แม้ว่าเส้นทางการบำเพ็ญจะเดินกันอย่างนี้แล้ว   นี่ยังเป็นเส้นทางที่คนสามารถบำเพ็ญกลับสู่สวรรค์ได้อย่างแท้จริงหลังจากสร้างโลกขึ้นมาแล้ว   ในอดีตไม่ว่าการบำเพ็ญอะไรล้วนเป็นการบำเพ็ญของจิตรอง  ส่วนจิตหลักนั้น  ร้อยปีให้หลังยังคงหมุนเวียนกลับชาติมาเกิดอยู่ในโลกมนุษย์  และการบำเพ็ญกับความเชื่อแต่ละชนิดเป็นเพียงวัฒนธรรมที่เทพเพิ่มเติมให้กับมนุษย์ในการรับรู้ต่อเทพและพฤติกรรมของการบำเพ็ญ   นี่เป็นโอกาสครั้งแรกของคน  และเป็นเป้าหมายของการสร้างโลก  โดยเฉพาะคือสรรพชีวิตมากมายจำนวนนับไม่ถ้วน  ท่านสามารถเป็นผู้ที่มีชื่อว่าศิษย์คนหนึ่งของต้าฝ่านี้  ทำไมไม่เดินให้ดี  ปฏิบัติตามข้อกำหนดของต้าฝ่า  ทำให้คำปฏิญาณก่อนประวัติศาสตร์ของตนสำเร็จลุล่วง  ในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ช่วยเหลือสรรพชีวิตนั้น  เมื่อมองกันอย่างนี้ก็คล้ายกับเรื่องในสังคมคนธรรมดาสามัญ  แต่ท่านกลับกำลังบำเพ็ญอยู่อย่างแท้จริง  ไม่เหมือนกับเป้าหมายการทำงานของคนธรรมดาสามัญ  สิ่งที่คนธรรมดาสามัญจะเก็บเกี่ยวกับของท่านนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง   ผู้บำเพ็ญต้องการบรรลุการยกระดับเขตแดนของตน  ทำให้คำปฏิญาณเป็นจริง  สุดท้ายบรรลุการหยวนหมั่น  เป้าหมายนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ข้าพเจ้าก็เคยพูดว่า  รูปแบบสังคมชนิดใด ที่จริงล้วนสามารถนำมาบำเพ็ญได้ทั้งสิ้น   หากเมื่อเริ่มต้นข้าพเจ้าไม่ได้วางรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้ไว้ในแต่ละอาชีพของทั้งสังคม  ในสภาพสังคมนานาชนิด  เพียงแต่อาศัยรูปแบบชนิดหนึ่งหรือรูปแบบของศาสนาในอดีตมาบำเพ็ญ   นั่นก็คือเดินบนเส้นทางหนึ่งเพียงอย่างเดียว  ได้แต่ออกบวช  ในการบำเพ็ญก็มีรูปแบบขึ้นมาแล้ว  นี่ก็หล่อหลอมเข้ากับต้าฝ่าและข้อกำหนดที่ยิ่งใหญ่ของการเจิ้งฝ่าของจักรวาลไม่ได้แล้ว  ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ที่จริงทุกท่านลองคิดดู   สรรพชีวิตในมุมต่างๆทั่วโลกจะช่วยเหลือได้อย่างไร  ต้าฝ่าก็ไม่สามารถเผยแพร่ไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว  การเจิ้งฝ่านั้นมีเวลาจำกัด ศิษย์ต้าฝ่าจะอาศัยรูปแบบนี้ให้ดีได้อย่างไร   นี่ก็คือปัญหาการเดินให้ดีบนเส้นทางของการบำเพ็ญ   เต๋าใหญ่ไร้รูป  แต่ละสภาพแวดล้อมล้วนเสนอสถานที่ให้แก่การบำเพ็ญให้กับศิษย์ต้าฝ่า  ล้วนสามารถจะบำเพ็ญได้  การบำเพ็ญของพวกท่านในวันนี้ไม่ใช่วัฒนธรรมที่เทพองค์ใดในอดีตเหลือไว้ให้คน -การบำเพ็ญเต๋าเล็กชนิดนั้น   แต่เป็นการนำสังคมมนุษย์ทั้งหมดวางแผ่ออกทั้งหมดให้ท่านแต่ละคนเลือกรูปแบบที่เหมาะกับตนเองในการบำเพ็ญ   แม้ว่าจะสะดวก แต่ว่านอกจากการก้าวหน้า แต่ละคนกระทั่งระหว่างกันและกัน ก็ยากที่จะทำตามกันได้  นี่คือสิ่งที่ต้าฝ่าบุกเบิกให้พวกท่าน  และเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน  เส้นทางนี้พวกท่านต้องเดินออกมาเอง  ความรับผิดชอบที่แบกไว้ใหญ่โตมาก  แต่รูปแบบที่แสดงออกมากลับธรรมดาที่สุด  ผู้บำเพ็ญในอดีตมักจะมีรูปแบบการบำเพ็ญอย่างหนึ่ง  เข้าไปบำเพ็ญในภูเขา  ออกบวช  โกนหัวเป็นพระ   เข้าไปในศาสนาคริสต์ ศาสนาโรมันคาทอลิกเป็นบาทหลวงกับแม่ชี  เป็นนักพรตเต๋า  ศาสนาทั้งหมดของประชาชนทั่วประเทศก็มีรูปแบบการควบคุมที่เข้มงวด   สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่อาจเป็นรูปแบบการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่า  รูปแบบการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่านั้นไร้รูป  ทุกสิ่งในสังคมคนธรรมดาสามัญล้วนกลายเป็นรูปแบบการบำเพ็ญของท่าน  เส้นทางของแต่ละคนยังต่างกันอีก  การงานของพวกท่านต่างกัน  สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตของพวกท่านต่างกัน  ครอบครัวของพวกท่านแต่ละคนต่างกัน  ชนชั้นในสังคมที่พวกท่านสังกัดอยู่และเรื่องที่ประสบล้วนต่างกัน  ที่จริงหาใช่เพียงสิ่งเหล่านี้เท่านั้น  หากความนัยที่แฝงความ หมายออกไปอีกซึ่งอยู่เบื้องหลังนั้นใหญ่มาก  ดังนั้นความรับผิดชอบที่แบกไว้ก็จะใหญ่มากด้วย ที่จริงศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนล้วนแบกรับความรับผิดชอบของระบบจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ไว้อันหนึ่ง  ต้องช่วยเหลือสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนของระบบที่ใหญ่อย่างนี้  ไม่เพียงแต่ความรับผิดชอบที่ใหญ่และสำคัญ  การเดินให้เที่ยงตรงบนเส้นทางก็สำคัญมาก  ชีวิตที่สามารถได้รับการช่วยเหลือในระหว่างเจิ้งฝ่าจะได้รับการแก้ไขให้ดีงาม  ถูกทำให้บริสุทธิ์  คืนสู่ความถูกต้อง  สภาพนานาชนิดของวัตถุที่สามารถเหลือไว้นั้น ในระหว่างการชำระล้างจะทิ้งกากของมันไป เหลือไว้แต่สิ่งที่บริสุทธิ์ถูกต้อง  นี่คือข้อกำหนดทั้งหมดของการเจิ้งฝ่าของจักรวาล ที่จริงในการบำเพ็ญของพวกท่านก็ได้ริเริ่มทำอย่างนี้    นี่ต่างจากรูปแบบการบำเพ็ญและความรับผิดชอบตามปกติ   ฝ่าที่ใหญ่มหึมานี้กับการเจิ้งฝ่าของจักรวาล  กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าแล้วนี่หมายถึงอะไร   นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เพียงไร  นี่ก็เป็นวาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านได้ผูกเอาไว้ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์   นี่คือการสร้างความสำเร็จให้กับธรรมานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตของชีวิตหนึ่งที่ยิ่งใหญ่   ไม่ทำให้ดีจะใช้ได้หรือ  ที่จริงในอนาคตเมื่อพวกท่านบำเพ็ญหยวนหมั่นแล้ว  ระดับชั้นของมรรคผลนั้นก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจแล้ว  ดังนั้นข้อกำหนดในขั้นตอนของการบำเพ็ญจึงสูงและข้อกำหนดที่สูงอย่างนี้  ก็ไม่มีรูปแบบการควบคุมใดๆจากภายนอก  และการดูแลก็เป็นแบบหลวมๆอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ  มีเพียงฝ่า 

เป็นแบบหลวมๆอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ  ทุกท่านลองคิดดู   นี่ดูไปคือเป็นไปอย่างผ่อนคลาย  ที่จริง มาตรฐานข้อกำหนดที่มีต่อความคิดที่ถูกต้อง การกระทำที่ถูกต้องในการบำเพ็ญจริงนั้นเข้มงวดมาก  ก็จะดูปณิธานที่แท้จริงของท่านต่อฝ่า  ในโลกียโลกนี้ล้วนแต่อาศัยการเดินให้เที่ยงตรงด้วยตัวท่านเอง  ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนนี้ จะสามารถเดินออกมาจากในหมู่คนธรรมดาสามัญได้อย่างไร บรรดาสิ่งที่คนธรรมดาสามัญแสวงหากัน  สิ่งที่คนธรรมดาสามัญอยากจะได้  บรรดาสิ่งที่คนธรรมดาสามัญทำกัน พูดกัน  ประพฤติกัน  กล่าวสำหรับท่าน  นั่นล้วนต้องบำเพ็ญทิ้งไปให้หมด  เนื่องจากยังต้องบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญจนกระทั่งหยวนหมั่น  ดังนั้นจึงต้องทำได้ถึงขั้น “มีแต่ไม่ใส่ใจ”  “ทำโดยไม่ยึดติด” พูดในทางกลับกัน ทุกสิ่งนี้ที่คนธรรมดาสามัญทำกันก็ล้วนเป็นการเสนอสภาพแวดล้อมแก่การบำเพ็ญให้กับท่าน  ทางที่พวกท่านเดินนั้นก็คือเส้นทางหนึ่งอย่างนี้   บนเส้นทางนี้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดก็คือการย่อหย่อนต่อตนเอง  ผสมปนเปเข้าไปในหมู่คนธรรมดาสามัญโดยเฉพาะในช่วงการยืนยันความถูกต้องของฝ่า   และเมื่ออยู่ต่อหน้าแรงกดดัน  ความยากลำบากนานาชนิดก็ง่ายที่จะท้อแท้หมดกำลังใจ  แน่ละพวกท่านนั้นโดยแก่นแท้ เป็นศิษย์ต้าฝ่าที่มีการปฏิญาณไว้ก่อน   ชีวิตของพวกท่านอยู่พร้อมกันกับต้าฝ่าโดยแก่นแท้    มีฝ่าที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อยู่  ในขณะที่มีเจิ้งเนี่ยน ต้าฝ่าก็จะอยู่ด้วยกันกับพวกท่าน  นี่เป็นหลักประกันที่ใหญ่อย่างยิ่ง    แต่ในเวลาที่เจิ้งเนี่ยนไม่พอ ไม่สอดคล้องกับฝ่าก็จะห่างออกไปจากพลังของฝ่า  จึงปรากฏออกมาแบบโดดเดี่ยวไร้คนช่วย แม้ว่าจะทำงานเรื่องของต้าฝ่า ก็ต้องสอดคล้องกับฝ่า   มิฉะนั้นก็จะไม่มีพลังของฝ่า  ขณะนี้โดยรวมนั้นทุกท่านทำได้ดีมาก แน่ละการบำเพ็ญนั้นเป็นขั้นตอนหนึ่งของการร่อนทรายในคลื่นใหญ่  หากใช้ไม่ได้ก็ต้องร่อนทิ้งไปในระหว่างขั้นตอนนี้  นี่ก็เป็นเรื่องปกติ   ศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมนั้นดีมาก  ทุกท่านล้วนกำลังก้าวไปข้างหน้า  มีจำนวนมากล้วนก้าวข้ามมาแล้ว  แน่ละก็มีที่ตกอยู่ข้างหลัง  ที่ตามขึ้นมาใหม่จนทันก็มี  นี่ก็เป็นปกติ  นี่ก็คือการแสดงออกในขั้นตอนนี้ของการบำเพ็ญ   ขอเพียงเรื่องนี้ยังไม่ได้ทำจนถึงก้าวสุดท้าย  สำหรับคนที่บำเพ็ญ สำหรับสรรพชีวิต  นั่นล้วนเป็นโอกาส

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่า  อย่าเห็นว่ารูปแบบการบำเพ็ญที่หลวมๆชนิดนี้ ดูไปไม่มีระเบียบข้อบังคับไม่มีข้อห้าม  ไม่มีระบบกฎเกณฑ์  ไม่มีใครควบคุมท่าน  แต่ข้อกำหนดนั้นกลับสูงมาก   เพราะท่านต้องควบคุมตัวท่านเอง  ท่านต้องบรรลุมาตรฐานด้วยตัวเอง   และเพราะความรับผิดชอบใหญ่มาก  บำเพ็ญได้สูง และสังคมมนุษย์ก็ไม่อาจจะเกิดมารที่ใหญ่อย่างนั้นมาสร้างความยุ่งยากอะไรให้ท่านโดยตรงดังนั้นอิทธิพลเก่าจึงสร้างพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนขึ้นมาพรรคหนึ่ง  ในระหว่างการประทุษร้ายก็ดูว่าท่านยังจะบำเพ็ญหรือไม่   ถ้ากระโดดข้ามไปได้จึงจะยอมรับท่าน  ถ้ากระโดดข้ามไปไม่ได้นั่นคือท่านใช้ไม่ได้  แน่ละข้าพเจ้าไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้  แต่พวกมันนั้นก็ทำอย่างนี้  และทำให้หลายคนไม่มีเจิ้งเนี่ยนแล้วจริงๆ  ตกหลุมพรางไปแล้ว

ยังมีอีกคือความยากลำบากที่ปรากฏออกมาในสภาพความเป็นจริงของการดำรงชีวิตของพวกท่านในสภาพสังคมที่เป็นจริง ใจคนที่อยู่ในความยั่วยวนและกระทบกับผลประโยชน์   สร้างและเสนอโอกาสของการบำเพ็ญให้ท่าน   สิ่งนี้ยากที่สุดจริงๆ   ในอดีตไม่มีใครกล้าบำเพ็ญอย่างนี้   ก็เพราะปัญหานี้   เมื่อคิดจะบำเพ็ญก็ออกบวช  หลบหลีกจากโลกียโลก  ไม่มีการรบกวนจากโลกียโลก  เขาก็สงบเงียบได้แล้ว  ไม่พบกับเรื่องยุ่งยากเหล่านั้น   และไม่พบกับเรื่องผลประโยชน์ของสภาพสังคมที่เป็นจริงซึ่งสัมผัสถูกใจคน   เช่นนั้นกล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญ  ไม่ว่าผู้ที่บำเพ็ญนั้นจะเป็นใคร  กล่าวโดยรวมแล้ว เขาจึงมีข้อจำกัดในด้านระดับชั้น  บำเพ็ญไม่สูง  เพราะเขามีเงื่อนไข  หลีกหนีจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย  หลีกหนีจากความขัดแย้ง   แต่พวกท่านเผชิญกับความขัดแย้งเหล่านี้โดยตรง  เผชิญโดยตรงกับสภาพสังคมที่เป็นจริงซึ่งสัมผัสถูกใจคน  เผชิญโดยตรงกับผลประโยชน์ส่วนตัวและปัญหาชนิดต่างๆที่ใจคนยึดติด   บำเพ็ญอยู่ในโลกของคน  จึงสามารถพูดได้ว่าเป็นความยากลำบากที่สุด  ไม่มีรูปแบบของการบำเพ็ญที่ยากไปกว่านี้แล้ว

ทุกท่านฟังให้ดี  ในอดีตคนพูดว่าบำเพ็ญยากอย่างนี้  บำเพ็ญยากอย่างนั้น  บำเพ็ญหลายสิบปีแล้ว  ชั่วชีวิต  บำเพ็ญกี่ภพ   ที่จริงเวลาของเขาที่ลากยาวนั้นเป็นเพราะเขาไม่มีสิ่งยั่วยวนโดยตรง  ไม่มีความทุกข์ที่ใหญ่อย่างนั้น  การบำเพ็ญชนิดนี้ของพวกท่านในปัจจุบัน  มองไม่เห็นข้อกำหนดควบคุมของรูปแบบการบำเพ็ญ  แต่การบำเพ็ญในสภาพสังคมที่เป็นจริง  กล่าวสำหรับคนแล้วล้วนมีสิ่งยั่วยวนอยู่รอบด้านจริงๆ  ในทุกเรื่องทุกเวลาล้วนมีการคงอยู่ของการตัดสินว่าท่านใช้ได้หรือไม่ได้  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่า ถ้าสามารถเดินข้ามมาจึงจะยอดเยี่ยม  ในประวัติศาสตร์ยังไม่เคยมีการบำเพ็ญอย่างนี้มาก่อน  และไม่มีคนกล้าเดินบนเส้นทางนี้   และไม่มีเทพที่กล้าบอกให้คนเดินบนเส้นทางนี้  และยังอยู่ท่ามกลางโลกที่ยุ่งเหยิงวุ่นวาย  ทั้งยังเพิ่มการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายกับแรงกดดันของสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวอีก

เหตุใดข้าพเจ้าจึงพูดว่าข้อกำหนดต่อการหยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่านั้นสูงละ ความรับผิดชอบที่แบกรับนั้นใหญ่ละ  ที่จริงก็เป็นเช่นนี้   บวกกับการบำเพ็ญอยู่ในสภาพแวดล้อมชนิดนี้เข้าไปอีก   ผู้ฝึกจำนวนมากตกอยู่ในสภาพที่อยู่ในวังวนโดยสิ้นเชิง ผู้ฝึกบางคนตกอยู่ในระดับ(ชั้น)หนึ่งที่แน่นอน ในสภาพการณ์ที่ต่างกันหรือในจักษุสัมผัสสามารถสัมผัสกับสภาพการณ์บางอย่างของอีกมิติได้  เส้นทางของผู้ฝึกแต่ละคนไม่เหมือนกัน  สภาพการณ์ก็ไม่เหมือนกัน  ที่จริงท่านจะรู้มากแค่ไหนก็นับว่าน้อยมากเหลือเกิน   ทัศนียภาพอันโอ่อ่าสง่างามของจักรวาลที่อยู่ในระหว่างการเจิ้งฝ่า กับภาพอันโอ่อ่าสง่างามชนิดนั้นของการเปลี่ยนแปลงร่างกายของศิษย์ต้าฝ่าในระหว่างการบำเพ็ญในช่วงเวลาของการเจิ้งฝ่า  สิ่งเหล่านี้ยังยากที่จะมองเห็นได้  วังวนนี้โดยตัวของมันเองนั้นประกอบขึ้นเป็นความยากลำบากที่ใหญ่มากแล้วต่อผู้ฝึก   ถ้าท่านบำเพ็ญอยู่ในศาสนา  ถ้าท่านอยู่ในการบำเพ็ญชนิดนั้นที่หลีกหนีจากโลกียโลก  มันก็ไม่เหมือนรูปแบบการบำเพ็ญชนิดนี้ของศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้  พวกเขา(เทพ)ล้วนสามารถเปิดความ สามารถบางอย่างให้กับพวกเขา(ผู้บำเพ็ญ)ได้ในระดับที่ต่างกัน  ล้วนสามารถใช้อิทธิฤทธิ์โดยตัวมันเองกระตุ้นคนให้ก้าวหน้า แต่เนื่องจากการรบกวนที่ชั่วร้ายของอิทธิพลเก่าทำให้ศิษย์ต้าฝ่าในด้านนี้จัดอยู่ในสภาพที่เข้มงวดที่สุด  ผู้ฝึกจำนวนมากมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตนเอง  มองไม่เห็นความสำเร็จทั้งหมดนี้ที่ตนทำ  ในสภาพการณ์อย่างนี้  ยังต้องกำหนดต่อตนเองอย่างเข้มงวด   ยังต้องเดินให้ดีบนทางเส้นนี้  โดยเฉพาะคืออยู่ในท่ามกลางการประทุษร้ายของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนครั้งนี้   พวกท่านสามารถก้าวออกมายืนยันความถูกต้องของฝ่า  เผชิญกับแรงกดดัน  และสถานการณ์ที่ความปลอดภัยทั้งหมดของชีวิตถูกคุกคาม  ในสภาพที่ชาวโลกมากมายไม่เข้าใจความจริง  ถูกปิดบัง  เผชิญกับแรงกดดันจากการพูดต่างๆนานาของชาวโลก  ยังสามารถก้าวหน้าได้  คนๆนี้ยอดเยี่ยมไหมละ  ยอดเยี่ยมจริงๆแล้ว   ใครที่สามารถบำเพ็ญอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ได้เขาจึงสมควรหยวนหมั่น  ก็คือสมควรมีมรรคผลที่ใหญ่   เพราะในประวัติศาสตร์นี้ล้วนไม่เคยมีภัยพิบัติที่ใหญ่หลวง  ไม่เคยมีใครที่กล้าเดินบนทางเส้นนี้ (เสียงปรบมือ)

เรื่องสำคัญใดๆที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ล้วนไม่ใช่ความบังเอิญ  คนคิดจะทำอะไร  ดูไปที่ชั้นผิว คนๆนี้ทำอะไรไปแล้ว  ที่จริงล้วนไม่ใช่เขาที่ทำทั้งสิ้น  ถ้าไม่มีองค์ประกอบของเทพอยู่เบื้องหลัง  คนนั้นอะไร  ก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น  ก็รวมทั้งเรื่องราวใดๆที่ดำรงอยู่ในสังคมทุกวันนี้    อย่างเช่นบริษัทใหญ่แต่ละแห่งบนโลกที่สามารถทำการใหญ่  ในวงการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์สามารถสร้างสิ่งของอะไรออกมาได้   รูปแบบการคงอยู่ของสังคม  สภาพการณ์ดำรงชีวิตของคน  นี่ล้วนไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ  โดยเฉพาะคือเรื่องที่สามารถควบคุมรูปแบบสังคมหนึ่งๆได้  เบื้องหลังล้วนมีองค์ประกอบของเทพอยู่ทั้งสิ้น  แน่ละที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านแล้วว่า  เรื่องราวมากมายในสังคมมนุษย์ที่มันเกิดขึ้นนั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจิ้งฝ่า ทุกท่านลองคิดดูด้วยความสุขุม  การเกิดขึ้นของแต่ละชนชาติ  การเกิดขึ้นของแต่ละเรื่องราวทั่วโลก  ยิ่งกว่านั้นความสมดุลของพลังทางการเมืองของมนุษย์ในวันนี้   ความยุ่งเหยิงของเรื่องราวนานาชนิด   ล้วนมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจิ้งฝ่า  ล้วนมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า   ในการอธิบายความจริงของศิษย์ต้าฝ่าเปิดโปงการประทุษร้ายที่ชั่วร้ายของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนกลับมีคนที่ไม่อยากฟังยิ่งกว่านั้นยังมีการใช้สิ่งที่พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนกรอกให้เขามาเป็นข้ออ้าง  ที่จริงนี่ล้วนไม่ใช่ความบังเอิญ  ทุกท่านลองคิดดู  สิ่งที่ชั่วร้ายเหล่านั้น  มันไม่ใช่เป็นเพราะมีอิทธิพลเก่าเหล่านั้นในจักรวาลควบคุมอยู่หรือ  อิทธิพลที่เก่าเหล่านั้นมิใช่คิดจะใช้หลักคิดของพวกมันกับการรับรู้ของพวกมันควบคุมการเจิ้งฝ่ากับการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าหรือ เพราะในการเจิ้งฝ่านั้นเกี่ยวพันถึงแต่ละชีวิตของจักรวาลรวมทั้งอิทธิพลเก่าด้วย  พวกที่ไม่บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์พอจะสามารถเข้าใจได้หรือ  หนึ่งความคิดของชีวิตระดับชั้นสูงก็จะเกิดผลต่อโลกข้างล่าง  คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งมีความคิดหนึ่งต่อคนอื่นนั้นไม่เป็นไร  แต่กลับจะเกิดผลต่อตนเอง   เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง  ความคิดหนึ่งของชีวิตในระดับชั้นสูงจะเกิดผลต่อสรรพชีวิตในขอบเขตของจักรวาลที่เขาอยู่  ชีวิตระดับชั้นสูงที่ใหญ่ยิ่งขึ้นนั้น หนึ่งความคิดของมันก็จะทำให้เกิดผลต่อขอบเขตหนึ่งของจักรวาลที่ใหญ่มาก  แน่ละพวกมันจะไม่ทำเรื่องเลวต่อสรรพชีวิตในโลกเบื้องล่าง  แต่ความคิดของมันพอดีสอดคล้องกับความต้องการของผีเน่าเปื่อยในโลกเบื้องล่าง   พวกผีเน่าเปื่อยมีพลังสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจึงกล้าประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าอย่างชั่วร้ายเช่นนี้   เช่นนั้นในการเจิ้งฝ่า พวกมันคิดจะคงสถานการณ์การประทุษร้ายครั้งนี้ไว้  คิดจะทำให้ชาวโลกมึนชา  ไม่ให้คนไปสนใจฝ่าหลุนกงที่ถูกประทุษร้ายนั้นง่ายมาก  คิดจะให้คนไม่ไปสัมผัสความจริงที่ฝ่าหลุนกงถูกประทุษร้าย  พวกมันคงการประทุษร้ายครั้งนี้ไว้ด้วยเป้าหมายที่จะทดสอบศิษย์ต้าฝ่า  จึงจำเป็นต้องคงบรรยากาศที่ชั่วร้ายอันน่าสะพรึงกลัวนี้ต่อไป  เนื่องจากในหมู่ศิษย์ต้าฝ่ายังมีส่วนหนึ่งไม่มุมานะ  บำเพ็ญได้ไม่ดีพอ  ยังมีส่วนหนึ่งที่กำลังทยอยก้าวออกมา  ยังมีสรรพชีวิตอีกส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ  ก็เป็นเพราะความบกพร่องเหล่านี้ของผู้ฝึกจึงถูกพวกมันจับจุดอ่อนได้ จึงทำให้พวกมันกล้ากระทำอย่างบุ่มบ่าม   หากใช้ภาษาของพวกมันพูด  พวกมันไม่เสียดายที่จะสละชีพของพวกมันเพื่อการเจิ้งฝ่า  ที่จริงคือเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายของพวกมันโดยไม่เสียดายทุกสิ่ง  ดังนั้นจึงก่อให้เกิดความยากลำบากอย่างมากต่อการเจิ้งฝ่า กระทั่งควบคุมการเจิ้งฝ่า

เช่นนั้นก็พูดได้อีกว่า ในขณะที่พวกท่านช่วยเหลือสรรพชีวิต  ยืนยันความถูกต้องของฝ่านั้น ทุกสิ่งที่ประสบล้วนไม่ใช่ความบังเอิญ  ไหนเลยจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเรื่องหนึ่ง  ความคิดหนึ่งของคนๆหนึ่ง  ในเวลาที่ท่านกำลังอธิบายความจริงอยู่ได้พบกับคนและเรื่องนานาชนิดที่ต่างกัน  จึงล้วนไม่ใช่ธรรมดาๆ  แต่ขอให้พวกท่านมีจิตเมตตาไปทำจึงจะใช้ได้   อย่าคิดหยุมหยิมกับท่าทีที่เข้าใจผิดของคนธรรมดาสามัญ  เพียงเพื่อช่วยคน  ช่วยสรรพชีวิต  ข้าพเจ้าคิดว่าผลลัพธ์นั้นก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้  ในระหว่างการอธิบายความจริงหากใจของท่านถูกใจคนชักนำแล้ว  ก็จะทำอะไรไม่ได้เลย  ในการอธิบายความจริง คนธรรมดาสามัญที่ฟังและเชื่อตามการกุข่าวลือโฆษณาชวนเชื่อของสื่อพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนในช่วงแรก  มีความเข้าใจผิดต่อศิษย์ต้าฝ่า  ปฏิบัติต่อท่านอย่างดุร้าย  หรือไม่อยากฟังท่านพูด  ในเวลานี้ถ้าฉิงของท่านถูกเขาชักนำ  โกรธเคือง ไม่พอใจ  กระทั่งไม่ค่อยมีเหตุผล  เช่นนั้นความจริงนี้ ท่านก็พูดไม่ได้แล้ว   คนก็จะช่วยไว้ไม่ได้แล้ว  ที่จริงสิ่งชั่วร้ายก็อาศัยความเข้าใจผิดต่อศิษย์ต้าฝ่าของคนธรรมดาสามัญเพิ่มการต่อต้านในความคิดอย่างไม่หยุดหย่อน  ถ้าเจิ้งเนี่ยนของท่านเข้มแข็งมาก  สิ่งชั่วร้ายก็จะถูกดับสลาย  พลังแห่งความเมตตาที่แท้จริงสามารถดับสลายองค์ประกอบที่ไม่ถูกต้องทั้งปวง  ในเวลาที่ท่านอธิบายกับเขาก็คือกำลังส่งพลังงานออกไปข้างนอก  ก็จะสามารถดับสลายของเหล่านั้นของสิ่งชั่วร้าย    สิ่งชั่วร้ายในอีกมิติก็จะไม่กล้าเข้าใกล้หรือควบคุมคนอีก    เช่นนั้นในเวลานี้เมื่ออธิบายเหตุผลกับคน เขาก็จะฟัง  ท่านก็สามารถทำลายคำหลอกลวงเหล่านั้นที่เขาถูกพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนกรอกใส่  ก็จะสามารถคลายปมในใจเขาออกได้

เนื่องจากเพิ่งบรรยายฝ่าเสร็จที่ลอสแองเจิลลิส  วันนี้ก็เพิ่งประกาศลงในเว็บไซต์  ดังนั้นวันนี้ข้าพเจ้าจะไม่พูดมาก  แต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าพเจ้าจะพูดกับทุกท่าน  มีเทพมากมายพูดอยู่ข้างหูข้าพเจ้าว่าศิษย์ต้าฝ่าของพวกท่านไม่อาจถูกตำหนิ  พอตำหนิก็ระเบิด  พูดก็พูดไม่ได้จะไหวหรือ  ไม่อาจถูกคนตำหนิแล้วจะบำเพ็ญอย่างไร  นี่เรียกว่าผู้บำเพ็ญอะไรได้ละ  เป็นต้น  เมื่อก่อนข้าพเจ้าทราบว่ามีการรบกวนชนิดต่างๆมากมาย  ในการเผชิญกับการประทุษร้ายเรื่องที่ต้องทำยังไม่สุกงอม  เพื่อให้พวกท่านทำเรื่องยืนยันความถูกต้องของฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิตได้ดี  ข้าพเจ้าจึงไม่พูดฝ่าทางด้านนี้มาโดยตลอดข้าพเจ้าก็ไม่พูดเน้นสถานการณ์ด้านนี้กับพวกท่าน   ขณะนี้ปรากฏการณ์ด้านนี้โดดเด่นมากแล้ว  ด้านนี้ต้องระวังแล้ว  กล่าวในฐานะผู้บำเพ็ญ  ทุกท่านทราบ ถูกตีไม่ตีตอบ ถูกด่าไม่ด่าตอบ  ในเวลาที่ได้รับความสูญเสียจริงๆผู้บำเพ็ญล้วนได้แต่หัวเราะกัน  นี่คือสภาพการณ์ที่พวกท่านควรมีและต้องทำให้ได้  เพราะท่านไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ  ท่านจะเดินออกจากความเป็นคนธรรมดาสามัญ  ท่านไม่อาจใช้หลักการของคนธรรมดาสามัญมากำหนดตนเอง  ท่านต้องใช้มาตรฐานที่สูงมากำหนดตัวท่าน  ดังนั้นพวกท่านจำเป็นต้องทำให้ได้อย่างนี้

         ในหลายปีมานี้ ทุกท่านได้ทำเรื่องที่ยอดเยี่ยมไว้มากมาย  คุณูปการและคุณธรรมหาที่สุดมิได้  แต่ก็มีผู้ฝึกหลายคนบ่มเพาะความเคยชินหนึ่งอย่างนี้จริงๆ  คือ แต่ละวันแม้ว่าจะดูฝ่า  อ่านฝ่า  แต่ในด้านนี้มีคนมากมายไม่เพียงไม่ได้ปรับปรุงมากนัก  ข้าพเจ้าพบว่ามีหลายคนสิ่งนั้นยังขยายใหญ่ขึ้น  เฉพาะบางคนได้ไปถึงขั้นที่ไม่อาจแตะถูกได้แล้ว  พอได้ยินเรื่องที่ฟังไม่ถูกใจสักหน่อยก็ทนไม่ได้ขึ้นมาในทันทีแล้ว  พอแตะถูกจิตยึดติดส่วนตัวก็ระเบิดแล้ว  สิ่งนั้นดื้อรั้นเหลือเกิน  ใหญ่มากแล้ว  ไม่อาจถูกคนว่า  ไม่อาจถูกคนวิจารณ์  ไหนเลยจะทำผิดไปแล้ว ก็ไม่อาจถูกคนตำหนิ  นี่จะใช้ได้หรือ  นี่ไหนเลยจะเป็นผู้บำเพ็ญได้ละ  แม้ท่านกำลังทำเรื่องของต้าฝ่า เรื่องช่วยคนก็ต้องเป็นผู้บำเพ็ญที่ทำ  ไม่อาจเป็นคนธรรมดาสามัญที่ทำ ยิ่งกว่านั้นบางคนพอทำผิดแล้ว  คนอื่นไหนเลยจะเกรงว่าพูดออกมาด้วยความปรารถนาดี  เขาก็จะหลบเลี่ยง  พอมีความผิดก็แก้ตัว  พูดปดแบบไม่กระพริบตา  กระทั่งผิดก็แก้ตัว  หาเหตุจากด้านภววิสัย  สภาพการณ์ชนิดนี้ที่แย่กว่าคนธรรมดาสามัญเสียอีก  ยังเป็นพฤติกรรมของศิษย์ต้าฝ่าไหม  ผู้บำเพ็ญต้องยอมรับการวิจารณ์ของคนอื่น   ในหนังสือก็เคยพูดไว้  ยังมีผู้ฝึกบางคนปัดความรับผิดชอบโดยพูดอ้อมค้อมไปมา  พอมีปัญหาแล้ว  ไม่ใช่สาเหตุด้านนี้  ก็เป็นสาเหตุด้านนั้น  ถ้าหาสาเหตุไม่ได้ก็สร้างขึ้นมาอย่างหนึ่ง (ที่ประชุมหัวเราะ) “พวกคุณไม่รู้หรือ  ในเวลานั้นสถานการณ์เป็นอย่างไร”  อย่างนั้นอย่างนี้  (ที่ประชุมหัวเราะ) นี่ยังนับว่าดีหน่อย  ส่วนที่เป็นอย่างรุนแรงนั้นแตะถูกนิดเดียวก็ไม่ได้แล้ว  พอมีเรื่องนี้พวกท่านทราบไหมว่าเทพมองพวกท่านอย่างไร  อิทธิพลเก่าก็จะรีบจดจำท่านไว้แล้ว  การแสดงออกของท่านในครั้งนี้ถูกพวกมันจับจุดอ่อนไว้ได้แล้ว  เช่นนั้นท่านก็รอเรื่องยุ่งยากเถิด  เนื่องด้วยในด้านนี้ซินซิ่งไม่ได้มาตรฐาน  จะก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยากที่ใหญ่มาก ระวังเถิด   

ครั้งก่อนในการบรรยายฝ่า  แม้ว่าอาจารย์ได้พูดเรื่องนี้ไปแล้ว  พวกท่านพอกลับไปก็จะพบได้  บางคนพอออกจากประตูที่ประชุมนี้ก็พบแล้ว  เวลาที่ความขัดแย้งมาถึงนั้นไม่อาจจะให้เวลาท่านเตรียมตัวล้วนมาในสภาพที่ท่านไม่มีการเตรียมพร้อมทางความคิดใดๆ   ไม่อาจจะมีคนบอกท่านว่าฉันมาทดสอบท่าน  ฉันวิจารณ์คุณเพื่อให้คุณยกระดับซินซิ่ง  ที่จริงคู่กรณีในความขัดแย้งก็ไม่ชัดเจนเช่นกัน  คือต่างกำลังข้ามด่านซินซิ่ง  ขณะนี้อาจารย์บรรยายฝ่าจบลง ดูว่าพวกท่านจะสามารถทำได้หรือไม่ ไม่มีการเตรียมพร้อมทางความคิด  ไม่มีการโหมโรง  ไม่มีการเตือนล่วงหน้า  ล้วนเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในฉับพลัน  เหมือนกับความขัดแย้งกับคนธรรมดาสามัญอย่างไรก็อย่างนั้น  แน่ละ วันนี้ข้าพเจ้ายกปัญหานี้ขึ้นมาพูด  ข้าพเจ้าว่าเรื่องนี้  หวังว่าทุกท่านกลับไปจะแก้ไขในด้านนี้  เรื่องใดๆที่กลายเป็นความเคยชินก็คือมีสสารเกิดขึ้นมา  ในอีกมิติมีสสารชนิดนั้นอยู่  ในมิตินี้จึงสามารถเกิดสภาพการณ์นี้ขึ้น  สิ่งนั้นก็เหมือนกับการฝังกับระเบิด  พอท่านแตะมัน มันก็ระเบิด  ดังนั้นกับระเบิดนั้นไม่เอาออกไปก็ไม่ได้   นับจากนี้ไป  ไม่ว่าในพื้นที่ไหน  ไม่ว่าใคร  เพียงท่านบำเพ็ญต้าฝ่า  สิ่งที่เป็นธาตุแท้นี้ข้าพเจ้าล้วนจะเก็บทิ้งให้(เสียงปรบมือ)  

สิ่งที่เป็นธาตุแท้จะเก็บทิ้งไป  แต่ความเคยชินที่ปลูกฝังขึ้นนั้นพวกท่านต้องทิ้งไปเอง  ความเคยชินที่ปลูกฝังมาอย่างเนิ่นนาน  ความเคยชินชนิดนี้มาจากจิตยึดติดที่ต่างกัน  บ้างก็ยึดติดต่อหน้าตา  ให้คนพูดแล้วก็จะรู้สึกไม่สบายใจ  ก็จะเกิดกระทบจิตใจทางด้านนี้ที่ไม่อาจถูกตำหนิได้  และมีบางคนรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้รับผิดชอบโครงการไม่อาจถูกคนตำหนิ  และมีบางคนที่มีความชำนาญทางด้านไหนก็ไม่อาจถูกคนตำหนิ   และบางคนมีอคติต่อคนอื่น ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจถูกตำหนิ  เป็นต้นในทุกๆ ด้าน การที่ไม่ยอมให้คนตำหนินั้นมีที่มาจากจิตยึดติดที่ต่างกัน  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  ทุกท่านล้วนเป็นศิษย์ต้าฝ่า  ไม่ว่าท่านจะแบกความรับผิดชอบอะไรไว้  ท่านล้วนเป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง  อาจารย์จะรับผิดชอบต่อการบำเพ็ญของท่าน  ท่านกับบรรดาผู้บำเพ็ญทั้งหมดล้วนแต่เหมือนกัน  กำลังบำเพ็ญตนเองอยู่  สุดท้ายจะก้าวไปสู่การหยวนหมั่น   จึงต้องรับผิดชอบต่อการบำเพ็ญของท่าน   บางทีวันนี้พอออกประตูไป ก็จะมีบางคนประสบกับการปะทะทางวาจา  ในเวลานั้นลองดูว่าใครที่พอแตะถูกก็ระเบิด (หัวเราะ) (ที่ประชุมหัวเราะ)

พวกท่านเริ่มจากนี้ไปก็จะเป็นอย่างนี้  ไม่ว่าท่านจะถูกหรือผิด  ปัญหานี้กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญนั้นไม่สำคัญแม้แต่น้อยเลย   อย่าโต้เถียงไปมา  อย่าเน้นว่าใครผิดใครถูก  บางคนมักจะเน้นว่าตนเองถูก คุณถูกแล้ว คุณไม่ผิด  แล้วเป็นอย่างไรละ   ได้ยกระดับในฝ่าแล้วหรือ  ใช้ใจคนเน้นเรื่องถูกผิด  นี่โดยตัวมันเองก็คือผิด  เพราะท่านใช้หลักการนั้นของคนธรรมดาสามัญมาประเมินตัวท่านเอง    ท่านใช้หลักการนั้นของคนธรรมดาสามัญในการเรียกร้องคนอื่น  ในสายตาของเทพ  คนๆหนึ่งที่อยู่ในโลกความถูกผิดของท่านนั้นไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย  ละทิ้งใจคนที่ยึดติดอยู่กลับเป็นสิ่งสำคัญ  ในระหว่างการบำเพ็ญท่านละทิ้งการยึดติดต่อใจคนจึงจะสำคัญ (เสียงปรบมือ)    เมื่อเผชิญกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมที่มากขึ้นไปอีก ยังสามารถปฏิบัติต่อโดยไม่สะทกสะท้าน  ใจไม่หวั่นไหวเลย  ไม่หาข้ออ้างให้กับตนเองเลย  มีเรื่องมากมายที่ท่านไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง  เพราะบนเส้นทางการบำเพ็ญนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญใดๆ  บางทีในขณะที่พูดคุยกันเกิดกระทบใจท่าน  บางทีผู้ที่เกิดความขัดแย้งกับท่าน ซึ่งมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์และความเสียหายนั้น ก็คือสิ่งที่อาจารย์ทำขึ้นมา  บางทีคำพูดนั้นที่เขาพูดเสียดแทงใจท่านมาก  แตะถูกจุดที่ท่านเจ็บปวด  ท่านจึงรู้สึกเสียดแทงใจ  บางทีเป็นการใส่ร้ายท่านจริงๆ  แต่คำพูดนั้นหาใช่เขาพูดไม่  บางทีคือข้าพเจ้าพูด (ที่ประชุมหัวเราะ)ในเวลานั้นข้าพเจ้าก็จะดูว่าท่านจะปฏิบัติต่อเรื่องเหล่านี้อย่างไร ในเวลานั้นที่ท่านชนกับเขาที่จริงเท่ากับท่านกำลังชนกับข้าพเจ้า (หัวเราะ)  (ที่ประชุมหัวเราะ ปรบมือวันนี้เราก็พูดกันถึงตรงนี้ละกัน  ของนั้นข้าพเจ้าสามารถเอาออกไปให้ท่านทั้งหมด  แต่ความเคยชินที่ปลูกฝังขึ้นมาพวกท่านต้องทิ้งไปให้ได้  ต้องทิ้งให้ได้  ต้องทิ้งให้ได้ (เสียงปรบมือ

ในระยะแรกข้าพเจ้าก็รู้สึกถึงปัญหานี้แล้ว  แต่ไม่ได้พูดตลอดมา  เพราะอะไรจึงไม่พูดละ  เพราะศิษย์ต้าฝ่าอยู่ในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่านั้น ต้องเผชิญกับการรบกวนนานาชนิดของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีน   ที่อาศัยเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมดของประเทศ  หนังสือพิมพ์กี่พันชนิด  กี่ร้อยสถานีวิทยุ ทีวีนับร้อยๆช่องที่พรรคมารคอมมิวนิสต์จีนควบคุมอยู่ โจมตีฝ่าหลุนกงอย่างมืดฟ้ามัวดินพร้อมกัน  อาศัยสายลับชักใยอยู่ข้างใน  แผนการชั่วนานาชนิดล้วนแสดงออกมาหมดแล้ว  ข่าวที่รายงานทั้งหมดเป็นข่าวลือที่กุขึ้นและคำหลอกลวง   และประชาชนทั่วโลกล้วนอยู่ในสภาพที่ถูกพิษร้ายศิษย์ต้าฝ่าจึงต้องไปอธิบายความจริงกับคน  ๗๐๐๐ ล้านคน  ถ้าไม่มีเจตจำนงที่แน่วแน่ ยืนหยัดในเจิ้งเนี่ยนอย่างไม่ย่อท้อ   การช่วยเหลือสรรพชีวิตกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่านั้นก็จะทำไม่ได้แล้วดังนั้นหลายปีมานี้ ไม่ว่าเทพเหล่านั้นจะพูดอย่างไร  ข้าพเจ้าก็ไม่บรรยายฝ่านี้  ศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่ดีงาม  พอคนพูดอะไร ตัวเองก็ไม่พูดตอบเลย  สิ่งชั่วร้ายใส่ร้ายตนเองก็ไม่พูด  เช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อการอธิบายความจริงช่วยเหลือคน  ยิ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อการเปิดโปงสิ่งชั่วร้าย  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่บรรยายฝ่านี้  ก็เพราะปัญหานี้ข้าพเจ้าจึงไม่พูดเน้นในด้านนี้มาโดยตลอด  เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าพูด เพราะจะไม่กระทบต่อการทำงานของพวกท่านแล้ว  ขณะนี้ศิษย์ต้าฝ่าสุกงอมกับการเผชิญกับสิ่งชั่วร้ายแล้ว  การอธิบายความจริงก็จะไม่ได้รับผลกระทบ  ทุกท่านล้วนมีสติสัมปชัญญะแล้ว  มีสติขึ้นมาแล้ว  ผ่านมาหลายปีนี้  ทุกท่านต่างก็ทราบว่าจะทำอย่างไรแล้ว  เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าพูดจึงไม่ก่อให้เกิดองค์ประกอบที่ไม่เป็นผลดีต่อการอธิบายความจริงของทุกท่าน  ดังนั้นจากนี้เป็นต้นไป  ในด้านนี้ทุกท่านจะต้องบำเพ็ญอย่างระมัดระวังแล้ว

หลังฝ่าฮุ่ยที่ลอสแองเจิลลิส ข้าพเจ้าก็ได้บอกทุกท่านว่า  เมื่อท่านกลับไปก็จะพบได้  ที่ข้าพเจ้าเห็นด้วยตัวเองก็หลายกรณี (ที่ประชุมหัวเราะนั่นเกิดขึ้นมาอย่างดุดันมาก  แต่แม้ว่าดูไปดุดันมาก  ที่จริงก็ไม่ได้พูดอะไร  ผู้ฝึกหลายคนก็ระเบิดขึ้นมาในทันที  ก็ไม่ยอมกันแล้ว   ทะเลาะวิวาทกับคนเขาขึ้นมาในทันที  ไม่ใช่สภาพของผู้บำเพ็ญแม้แต่น้อย   แน่ละไม่ได้พูดว่าทุกท่านบำเพ็ญไม่ดี  เมื่อครู่ข้าพเจ้าได้พูดแล้ว  ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพวกท่าน  เป็นเพราะอาจารย์ให้พวกท่านอธิบายความจริง จึงไม่ได้แตะต้องมันทางด้านนี้  ในเวลานั้นหากไปแตะเข้า  ถ้าในการอธิบายความจริงแสดงออกมาอย่างอ่อนแอมาก  น้ำหนักก็จะน้อย  แต่ขณะนี้ดูแล้วความเคยชินที่ปลูกฝังนั้นยากที่จะทิ้งไปได้  สิ่งที่เป็นธาตุแท้นั้น แม้ว่าไม่มีแล้ว  แต่พอแตะถูกก็ยังไม่ได้   ข้าพเจ้าพบหลายกรณี  ข้าพเจ้าจึงพูดกับพวกเขาว่า ท่านไปฝ่าฮุ่ยที่ลอสแองเจิลลิสหรือเปล่า  ข้าพเจ้ายังไม่ได้พูดประโยคที่สอง พวกเขาก็เข้าใจแล้ว  อ้อ  ผิดไปแล้ว  อาจารย์ ผมผิดไปแล้ว (ที่ประชุมหัวเราะนั่นใช่แล้ว  อย่างไรเสียก็เป็นผู้บำเพ็ญ  เมื่อรับรู้ได้แล้วเขาก็แก้ไขได้  ใครก็อยากจะทำดี  เพียงแต่ในเวลาที่ความขัดแย้งมาถึงนั้นมันเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน   ไหนเลยจะบอกว่า ความขัดแย้งมาแล้ว  คุณเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง  ไม่มีเรื่องอย่างนี้  ก็คือเกิดขึ้นในฉับพลัน  แน่ละ น้ำแข็งหนาสามฟุตใช่จะเกิดได้ในความหนาวเพียงวันเดียว  แม้ว่าไม่มีสิ่งที่เป็นธาตุแท้แล้ว แต่ความเคยชินที่ปลูกฝังมา บางอย่างทำให้พออ้าปากก็ออกมา  กลายเป็นความเคยชินแล้ว  จะทิ้งไปก็ไม่ง่าย  แต่ต้องทิ้งให้ได้

ข้าพเจ้าทราบ ในขั้นตอนนี้  บางที บางคนพอออกประตูไปก็ทำไม่ดี  แต่อย่าท้อแท้ใจ  อาจารย์ทราบขั้นตอนการบำเพ็ญของท่าน  สุดท้ายย่อมจะทำได้ดีในที่สุด  นี่เป็นเรื่องของขั้นตอนการบำเพ็ญ  แต่ท่านเองไม่อาจย่อหย่อน  ท่านบอกว่าฉันค่อยๆไป  นั่นใช้ไม่ได้  กล่าวในฐานะผู้บำเพ็ญท่านต้องก้าวหน้า  ถ้าท่านทำได้ดีในครั้งแรกจะดีที่สุด  ยิ่งทำยิ่งดีจึงจะใช้ได้  จากนี้ไป  โดยเฉพาะในเวลาที่ประสานงานทำเรื่องอะไรอยู่ระหว่างศิษย์ต้าฝ่าด้วยกัน  พวกท่านจะต้องระวังเป็นพิเศษ  ในระหว่างการบำเพ็ญสิ่งที่ไม่ควรมีข้าพเจ้าล้วนไม่เหลือไว้ให้พวกท่าน  ก็เหลือแต่สิ่งเล็กน้อยนี้   ในเวลานั้นเนื่องจากไม่อาจให้กระทบต่อการอธิบายความจริง  จึงไม่ได้แตะต้องให้กับพวกท่าน ที่จริงในการบรรยายฝ่าในระยะแรก  ก่อนวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ปี๙๙  คำพูดเหล่านี้ข้าพเจ้าก็พูดซ้ำหลายครั้ง   เพราะในเวลานั้นข้าพเจ้าคิดอยู่ว่า  ถ้าหากองค์ประกอบเก่าสร้างเรื่องอะไรขึ้นมา   หากพวกมันใช้กลอุบายเดิมกับศิษย์ต้าฝ่าจริงๆ ละก็  ถ้าไม่วางรากฐานนี้ให้ดี  ผู้ฝึกมากมายก็จะไม่สามารถก้าวข้ามมาได้  คงจะไม่บำเพ็ญแล้ว  คงจะไม่ไหวแล้ว  ตกลงไปแล้ว  ดังนั้นในเวลานั้นข้าพเจ้าจึงเน้นค่อนข้างมาก  พูดค่อนข้างมาก  การบำเพ็ญซินซิ่งด้านนี้ข้าพเจ้าพูดไว้มากทีเดียว  พอหลังจากวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ปี๙๙ ข้าพเจ้าก็ไม่พูดอีก  โดยเฉพาะปัญหานี้ตลอดมาข้าพเจ้าไม่พูดเลย  สาเหตุนั้นข้าพเจ้าก็ได้บอกทุกท่านแล้ว  ดังนั้นจากนี้ไป  ทุกท่านจะต้องทำให้ดี  ข้าพเจ้าก็มองเห็นว่ามีบางคนทำได้ดีมาก  และบ้างก็ข้ามไปได้โดยเปลือกนอก  แต่ในใจยังข้ามไม่ได้  ในใจยังติดขัดอยู่  (หัวเราะ) (ที่ประชุมหัวเราะปากก็ไม่พูดแล้ว  แสดงออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน  แต่ในใจยังอัดอั้น  (หัวเราะ) แต่ว่า ยังนับว่าสามารถสงบเยือกเย็นได้   นั่นเป็นก้าวแรกแล้ว  เพราะศิษย์ต้าฝ่าที่อยู่ต่อหน้านั้นมีระดับชั้นต่างกัน  ข้อกำหนดต่อผู้ฝึกพลังที่ต่างกันนั้น ไม่เหมือนกัน  ดังนั้นผู้ที่ทำได้ดีจึงมีข้อกำหนดต่อท่านยิ่งสูงสักหน่อย  ยกระดับเร็วหน่อย  การบำเพ็ญใช่ไหม  ก็คืออย่างนี้  ถ้าด่านนั้นจัดไว้เล็ก  ท่านก็ก้าวไปได้น้อย  ถ้าด่านนั้นจัดไว้ใหญ่ ท่านก็เป็นการก้าวกระโดด

จะพูดอีกจุดหนึ่ง  ก็คือศิษย์ต้าฝ่าต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิต   ทุกท่านมองเห็นแล้ว ความสัมพันธ์ชู้สาวที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรมระหว่างผู้ที่ไม่ใช่สามีภรรยานั้นเป็นบาปชั่วของมนุษย์ทำลายครอบครัว  ทำลายความสัมพันธ์ตามหลักศีลธรรมจรรยาของมนุษย์ให้เสื่อมเสีย  ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเห็นปัญหานี้ตั้งนานแล้ว  การบำเพ็ญอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ  ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือในยุคที่ยุ่งเหยิงจะเผชิญกับความยั่วยวนทางเพศของสังคมคนธรรมดาสามัญ   ปัญหานี้ กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญนั้น  ในอดีตมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมาก  ไม่ว่าจะเป็นแนวทางบำเพ็ญชนิดไหน ล้วนมองว่าสำคัญมาก   ในอดีตหากเป็นผู้ออกบวชทำผิดศีลด้านนี้เข้า  ท่านก็อย่าได้บำเพ็ญอีกเลย  หากเทพเซียนองค์ใดนำศิษย์เข้าไปบำเพ็ญในเขา   ใครที่ทำความผิดนี้แล้ว  เช่นนั้นท่านก็จบสิ้นชั่วนิรันดร์แล้ว เรื่องที่เข้มงวดอย่างนี้  ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า  ท่านบำเพ็ญอยู่ในต้าฝ่าก็ยิ่งศักดิ์สิทธิ์  แต่ผู้ฝึกบางคนกลับไม่ระวัง  ไม่ว่าหลักการของคนในสังคมเป็นอย่างไร  คนจะมองปัญหานี้อย่างไร  ในฐานะผู้บำเพ็ญนั้นมีมาตรฐานที่สูง  มองปัญหานี้โดยอยู่เหนือหลักการของคน  ปฏิบัติตามข้อกำหนดของเทพ  ความสัมพันธ์ชู้สาวที่ผิดทำนองคลองธรรมในคนก็เป็นการผิดบาป  เทพจะไม่ทำเรื่องที่สกปรกเช่นนี้  แต่พวกเราผู้บำเพ็ญมิใช่มุ่งสู่ความเป็นเทพหรือ  ไม่ใช่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางของเทพอยู่หรือ  เช่นนั้นทำไมไม่สามารถมองอย่างเดียวกับเทพละ  ทำไมไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของเทพ  โดยเฉพาะบางคนยังทำผิดซ้ำซาก  นี่จะใช้ได้หรือ

ทุกท่านทราบ  พวกเราล้วนทราบว่า  คำทำนายสุดท้ายของประวัติศาสตร์นั้นล้วนพูดให้กับคนทุกวันนี้ฟังกัน  มีคำทำนายมากมายที่เคยกล่าวไว้ “ สุดท้ายคนที่เหลือรอดอยู่ล้วนแต่บริสุทธิ์  ร่างกายล้วนบริสุทธิ์ ”   พวกเขาคิดว่าเรื่องการรักษาความบริสุทธิ์ของคนไว้ได้นี้สำคัญที่สุด  อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับมัน  ดังนั้นที่เหลือรอดอยู่จะต้องเป็นคนอย่างนี้  ผู้ที่บำเพ็ญสำเร็จจะต้องเป็นเช่นนี้   คนที่เหลือรอดอยู่บนโลกก็จะต้องเป็นเช่นนี้  ทุกท่านคิดดู  ในเวลาที่เทพในจักรวาลมองเห็นศิษย์ต้าฝ่าทำเรื่องนี้พวกเขาจะปฏิบัติต่อท่านอย่างไร  ใช้มาตรฐานข้อกำหนดของพวกเขาต่อคนที่จะกลายเป็นเทพ  พอท่านทำเรื่องชนิดนี้จะน่ากลัวแค่ไหน   พอใครทำผิดทางด้านนี้แล้ว  เทพทั่วสวรรค์ล้วนคิดว่าจะต้องตีท่านตกลงไปอย่างแน่นอน  ไม่อาจยินยอมให้ได้อย่างเด็ดขาด ไม่อาจยอมรับท่านได้อย่างเด็ดขาด  ดังนั้นทุกข์ภัยที่ท่านประสบจากนี้ไป มีองค์ประกอบมากมายที่เทพเหล่านั้นมันกำลังทำให้ท่านต่ำลงอย่างแท้จริง  ท่านว่านี่จะก่อให้เกิดความยากมากแค่ไหนต่อการบำเพ็ญ  ดังนั้นมันจึงให้ท่านทำผิดแล้วผิดอีก  ทำผิดซ้ำซากไม่แก้ไข  สุดท้ายภายใต้การปะทะด้านซินซิ่งท่านจะรับรู้ผิดๆ   เพื่อให้ตนหลุดพ้น  ดิ้นให้หลุดพ้นอย่างไม่หยุดหย่อนจึงทำให้รับรู้ผิดๆ  สุดท้ายกระทั่งไม่เห็นด้วยกับหลักการของต้าฝ่า  สุดท้ายเดินไปสู่ฝ่ายตรงข้าม    คนจำนวนมากที่รับรู้ผิดๆ ท่านคิดว่าเขาอยากจะรับรู้ผิดๆจริงหรือ  หลายคนเป็นเพราะทำไม่ดีในด้านไหนนั้น เกิดจากการถูกสิ่งชั่วร้ายเจาะช่องว่าง  ดังนั้นสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นจึงเจาะจงจับจุดอ่อนเหล่านี้ของท่าน   ยึดกุมสิ่งเหล่านี้ของท่านไม่ยอมปล่อย

พอมันเข้าใจว่านี่ไม่ไหวแล้วอย่างแท้จริง  หากใช้มาตรฐานของพวกมัน นั่นก็ไม่อาจบำเพ็ญอีกอย่างแท้จริงแล้ว มันก็จะต้องคิดหาวิธีทำให้ท่านตกลงไป  คิดหาวิธีทำลายท่าน  แน่ละมันก็รู้ว่า หลี่ หงจื้อ จะไม่ละทิ้งศิษย์ของเขา  จะช่วยเหลือเขาต่อไป  แต่พวกท่านทราบไหม  มันจะทำให้เขาไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม  ทำเรื่องที่ผิดต่อต้าฝ่ากับศิษย์ต้าฝ่า  กลายเป็นเครื่องมือที่ถูกสิ่งชั่วร้ายอาศัยใช้สอย  ในเวลาที่ทำบาปต่อต้าฝ่าจนอภัยให้ไม่ได้นั่นจะช่วยได้อย่างไร   มันจึงคิดจะทำให้ผู้ที่ทำผิดอย่างนี้เลยเถิดไปจนถึงก้าวนั้น   ถ้าไปถึงก้าวนั้นจริงๆก็ไม่อาจช่วยได้แล้วจริงๆ  เพราะท่านไม่มีทางชดเชยได้แล้ว  นั่นจะช่วยได้อย่างไร  เจิ้งฝ่านั้นมีมาตรฐานอยู่   การบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าก็มีมาตรฐาน  ในด้านนี้ทำไมไม่ระวัง  ทำให้อาจารย์ด่างพร้อย  ทำให้ศิษย์ต้าฝ่าด่างพร้อย  สร้างผลกระทบที่เลวร้ายอย่างนั้น   

ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง  คือ พวกท่านนั้นบำเพ็ญอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญใช่ไหม   การเผชิญกับคนในครอบครัวที่ไม่บำเพ็ญ สำหรับปัญหานี้ ตลอดมานั้นจัดการได้ไม่ดี  แน่ละยังคงเป็นคำพูดนั้น  คือน้ำแข็งหนาสามฟุตไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ในความหนาวเพียงวันเดียว  เริ่มต้นไม่ได้แก้ไขให้ดี  สะสมความคับแค้นใจไว้ลึกเกินไป  นานเข้าจึงก่อให้เกิดช่องว่างที่ขวางกั้นชนิดหนึ่ง  ดูคล้ายจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้วจริงๆ  ปัญหาเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดความยากลำบากในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า  ใครก็ตามที่เกิดปัญหาเหล่านี้  ยังคงผิดที่ศิษย์ต้าฝ่า   คือเริ่มต้นไม่ได้ทำให้ดีจึงทำให้เขาเปลี่ยนเป็นอย่างนี้  ที่จริงเรื่องมากมายท่านสามารถประสานให้ดีได้  จัดวางให้ดีดังว่าได้  จะไม่หน่วงเหนี่ยวจนเสียการในเรื่องของต้าฝ่า  ก็เพราะตนเองไม่ได้ทำให้ดี  ละเลยจุดนี้ไป

ทุกท่านทราบการเจิ้งฝ่า  การบำเพ็ญนั้นเข้มงวด  ใครบำเพ็ญคนนั้นได้มรรคผล  ญาติสนิทจะได้รับโชคลาภตอบสนองเพราะท่านบำเพ็ญสำเร็จ   แต่ไม่อาจเป็นไปได้ว่าญาติสนิท เพื่อน  พ่อแม่บุตรธิดาที่ไม่ได้บำเพ็ญก็หยวนหมั่นตามไปด้วย  ในฐานะที่เป็นร่างชีวิตหนึ่ง  ถ้าไม่บำเพ็ญเขาควรเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น  ท่านแทนที่เขาไม่ได้  ท่านก็แบกรับเขาไว้ไม่ได้  ถ้าเขาไม่ทำลายฝ่า  ทว่าเขาไม่บำเพ็ญ  พวกเขาจะมีโชคลาภเพราะการหยวนหมั่นของท่าน   บ้างกระทั่งสามารถไปโลกของท่านเป็นสรรพชีวิตในโลกของท่าน  และอาจได้รับโชคลาภบนโลกในอนาคต  นั่นก็ดูว่าเป็นวาสนาอะไร  เพราะท่านบำเพ็ญออกมาจากสภาพแวดล้อมนี้  ญาติสนิทเอยหรือกระทั่งบรรพบุรุษล้วนจะได้รับประโยชน์ตรงกันข้าม  คนเหล่านั้นที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า  รบกวนการเจิ้งฝ่า  เนื่องจากตัวเขา  บรรพบุรุษล้วนจะมีบาป ด้วยเหตุนี้จะลงนรก  คนในครอบครัว  ถ้าท่านสามารถบอกให้เขาบำเพ็ญได้  นั่นก็ดีที่สุด  ถ้าเขาไม่สามารถบำเพ็ญท่านก็ต้องให้เขาเป็นชีวิตที่จะได้รับการช่วยเหลือ  อย่างน้อยที่สุดคือเป็นคนดี   เขาจึงสามารถได้โชคลาภ   ผู้ฝึกหลายคนเริ่มต้นไม่ได้ทำให้ดี  ละเลยเรื่องนี้  สาเหตุที่ใหญ่ที่สุดคือคิดว่า  เขาเป็นญาติสนิทของฉัน เขาเป็นพ่อแม่ฉัน เขาเป็นบุตรธิดาฉัน  การบำเพ็ญต้าฝ่านี่เป็นเรื่องดี เรื่องใหญ่  ฉันกำหนดได้  พอฉันบอก พวกเขาก็ต้องบำเพ็ญ  ดังนั้นคำพูดจึงมีลักษณะบังคับ  หรือพวกคุณต้องฟังฉันเท่านั้น  ช่วงสำคัญของชีวิตนั้น คนอื่นไม่อาจทำแทนได้   ท่านไม่สามารถกำหนด   เรื่องการดำเนินชีวิตในโลกมนุษย์ ท่านสามารถทำแทนพวกเขา  เรื่องของเขาท่านสามารถกำหนดได้   แต่ในช่วงเวลาสำคัญที่เกี่ยวพันกับชีวิตนี้จริงๆ  ชีวิตเลือกอะไร  ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างนั้นแล้ว  คนไม่ใช่มีชาติเดียว  ชาตินี้เป็นคนในครอบครัวเดียวกับท่าน  ชาติก่อนเขาเป็นคนในครอบครัวอื่น   ชาติถัดไปไม่รู้ว่าจะกลับชาติไปเกิดที่ไหนแล้ว  เพียงแต่เป็นวาสนาในชาติเดียวเท่านั้น  การเลือกอย่างชั่วนิรันดร์ของชีวิตเขา ท่านจะทำแทนได้อย่างไร  ท่านทำได้แต่  มีความปรารถนาที่จะช่วยเขาจริงๆ  ถือว่าเขาเป็นชีวิตที่ต้องให้การช่วยเหลือ  ท่านดูซิเรื่องนี้ก็จะไม่เหมือนกัน  ก็คือพูดว่าเรื่องมากมายนั้นมีรูปแบบในการปฏิบัติต่อต่างกัน  ผลที่ได้รับก็ไม่เหมือนกัน

แน่ละ ยังมีศิษย์ต้าฝ่าวัยหนุ่มสาวบางคน  แต่งงานกับคนธรรมดาสามัญ  บ้างก็ถูกฉิงลากลงไปแล้วจริงๆ  เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาสามัญ  และยังแย่กว่าคนธรรมดาสามัญ   ยังมีบางคนถูกรบกวนหนักมาก  ตนเองรู้สึกว่าใจอยากช่วยแต่กำลังไม่พอ  และกลัวจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองคน  ส่วนเรื่องของต้าฝ่าก็กลัวจะทำได้ไม่ดี  และทราบว่าจะกระทบต่อการบำเพ็ญของตน  ทำจนสุดท้ายความคิดและกำลังกายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า   ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  ที่จริงหากสงบใจลงมาคิดดู   เรื่องเหล่านี้ล้วนสามารถแก้ไขได้   ในเมื่อฝ่าชุดนี้ถ่ายทอดอย่างนี้อยู่ในโลกแล้ว  ในสังคมคนธรรมดาสามัญกำหนดรูปแบบการบำเพ็ญไว้อย่างนี้แน่นอนแล้ว    จึงแน่นอนว่าทุกสิ่งที่ประสบในสังคมคนธรรมดาสามัญนั้นล้วนจะสามารถแก้ไขได้   ก็ดูว่าท่านจะปฏิบัติต่อคนในครอบครัวอย่างไร  สามารถใช้เจิ้งเนี่ยนไปปฏิบัติต่อมันหรือไม่  สามารถใช้เจิ้งเนี่ยนของผู้บำเพ็ญพูดให้กระจ่างได้หรือไม่  ถ้าจัดการได้ดี  นั่นก็จะดี  จัดการได้ไม่ดี ก็จะตรงกันข้าม

ที่จริงการอธิบายความจริงอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญก็เป็นเช่นนี้  ไม่ว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไร  พวกท่านล้วนต้องมีจิตเมตตาต่อเขา  ส่วนลึกในจิตใจเขา  ด้านที่เข้าใจได้ของชีวิตเขาล้วนจะเข้าใจ   ถ้าท่านทำอย่างขอไปที หรือกระทั่งถูกจิตของคนธรรมดาสามัญชักนำแล้ว  นั่นย่อมจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน   เรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น  เรื่องที่ตัดสินอนาคตของชีวิตหนึ่ง  จะทำตามใจชอบอย่างนั้นได้อย่างไรกัน   ทำอย่างขอไปทีอย่างนั้นหรือ   ถูกใจของคนธรรมดาสามัญชักนำได้อย่างไรกัน  ที่จริงพูดว่าอธิบายความจริง  ท่านมิใช่กำลังช่วยเหลือเขาหรือ  ท่านมิใช่กำลังช่วยคนอยู่หรือ  ท่านไม่ได้ช่วยเขา  ยังถูกเขาลากลงไปแล้ว  จิตดวงนั้นถูกดึงไว้แล้ว เพราะมีจิตยึดติด  ถ้าไม่มีจิตยึดติด  ท่านก็ชักนำฉันไม่ได้  ฉันมีสติสัมปชัญญะ มีเจิ้งเนี่ยนมากในการอธิบายความจริง  ผลลัพธ์ก็จะต่างกัน 

ศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากเดินทางมาไกลนับหมื่นลี้เพื่อเข้าร่วมฝ่าฮุ่ยครั้งนี้  มาไม่ง่ายเลย  เพราะแต่ละคนต่างมีการงาน  ล้วนอาศัยเวลาพักผ่อนปลายสัปดาห์บินไปบินมา  หลังจากมาแล้วคงจะมีคำพูดมากมายอยากจะพูดกับอาจารย์  และอาจจะมีข้อสงสัยบางอย่างอยากจะถาม   เนื่องจากฝ่าฮุ่ยที่ลอสแองเจิลลิสเพิ่งจบไป  และจะจัดทำเป็นหนังสือ  ดังนั้นถ้ามากเกินไปแล้วก็ไม่สามารถจะรับเอาไว้ทั้งหมดได้จริงๆ (อุปมาย่อยความรู้วันนี้จึงไม่พูดมาก  เพราะฤดูร้อนมีฝ่าฮุ่ยค่อนข้างมาก  คราวต่อไปข้าพเจ้าค่อยพูด (เสียงปรบมือ)  

ขอถือโอกาสพูดอีกหน่อย  เรื่องการอธิบายความจริงนี้ต้องให้มีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ  ไม่อาจย่อหย่อน  ไม่อาจย่อหย่อนเด็ดขาด  ถ้ามนุษยชาติเกิดเรื่องอย่างนั้นตามคำทำนายแล้ว  ในอนาคตสำนึกเสียใจภายหลังก็จะไม่ทันแล้ว  ไม่อาจทำผิดต่อสรรพชีวิต  ไม่อาจทำผิดต่อคำปฏิญาณของตนที่ให้ไว้ก่อนประวัติศาสตร์  และการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายครั้งนี้ยังไม่จบ  พวกเราไม่มีเหตุผลใดๆที่จะย่อหย่อน  กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  ที่จริงท่านไม่ได้ทำให้คนอื่น  และไม่ได้ทำให้ต้าฝ่า  แน่ละยิ่งไม่ใช่ทำเพื่อข้าพเจ้าอาจารย์คนนี้   ทุกสิ่งที่ท่านมีคือการบำเพ็ญของท่านทั้งสิ้น  เพราะการบำเพ็ญนี้ก็คือรูปแบบอย่างนี้  รูปลักษณ์ที่ไร้รูปลักษณ์ ทุกสิ่งที่ท่านประสบในสังคมเป็นเรื่องในขอบเขตของการบำเพ็ญของท่าน  ก็ดูว่าท่านจะปฏิบัติต่อมันอย่างไร  เมื่อเผชิญกับการประทุษร้ายครั้งนี้   แน่ละก็เป็นเรื่องในขอบเขตของการบำเพ็ญของท่าน  ดังนั้นต่อไปทุกท่านจะเดินให้ดีบนทางของตนเองได้อย่างไร   และก็คือจะบำเพ็ญตนเองให้ดีได้อย่างไร  ต่อปัญหาส่วนตัวบางอย่างที่เกิดขึ้น   ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูดมากเพราะทุกท่านล้วนสงบใจได้แล้ว  ทราบได้ว่าไม่ใช่ความบังเอิญ  ล้วนมีมูลเหตุ   ข้าพเจ้าจึงหวังว่าทุกท่านจะมีเจิ้งเนี่ยนพอสักหน่อย  ก้าวหน้าสักหน่อยในการบำเพ็ญ  ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเจาะช่องว่างได้  เช่นนี้ศิษย์ต้าฝ่าก็จะประสบกับการสูญเสียแต่น้อย  โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้การอธิบายความจริงต้องการคน   ถ้ามีคนยิ่งมากเข้าร่วมการอธิบายความจริงช่วยสรรพชีวิต  มีคนมากขึ้นมาร่วมโครงการต่างๆเพื่อกำจัดการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย  เช่นนั้นหากน้อยไปคนหนึ่งก็จะมีพลังน้อยลงมาก  หากมากขึ้นคนหนึ่งก็จะมีพลังมาก   ดังนั้นข้าพเจ้าไม่อยากตกหล่นใครสักคน  และไม่อยากสูญเสีย  ให้พวกเขาจากไปเร็วเกินไป  การหยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่านั้นไม่มีปัญหาแล้ว  แต่ถ้าท่านจากไปเร็ว   ก็ทำให้เกิดการสูญเสียต่อเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ  และก็ถูกอิทธิพลเก่าเจาะช่องว่าง  ขณะนี้กำลังต้องการคน  อย่าก่อให้เกิดการสูญเสีย  ข้าพเจ้าคิดว่าทุกท่านก็พยายามทำให้ดี  เจิ้งเนี่ยนพอสักหน่อย  หลีกเลี่ยงการสูญเสีย

         ก็พูดเพียงเท่านี้  ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือดังทั่วที่ประชุม)