บรรยายธรรม ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยนานาชาติ เมืองแมนฮัตตัน ค.ศ. 2005

หลี่ หงจื้อ

24 เมษายน ค.ศ. 2005

 

(เสียงปรบมือดังกึกก้อง)

สวัสดีทุกท่าน  (เสียงปรบมือดังกึกก้อง) (ที่ประชุม  สวัสดีท่านอาจารย์ )

            ทุกท่านต่างลำบากกันแล้ว  (เสียงปรบมือ)  กล่าวในฐานะศิษย์ต้าฝ่า  ทุกท่านได้ฝึกฝนจนสุกงอมแล้ว ในท่ามกลางมรสุม  ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ ศิษย์ต้าฝ่านอกจีนแผ่นดินใหญ่  ล้วนเหมือนกัน  ยิ่งมีสติสัมปชัญญะยิ่งขึ้น  มีสติแจ่มชัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ   รู้ดียิ่งขึ้นว่าควรเดินอย่างไรบนเส้นทางของตนเอง   เวลาที่เผชิญกับการประทุษร้าย    การตำหนิติเตียนต่างๆนานา  ทุกท่านต่างสามารถปฏิบัติต่อมันได้อย่างสมเหตุสมผล   เมื่อกำลังอธิบายความจริงอยู่  ทุกท่านต่างทำไปด้วยความปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิต  ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงดีมาก

            เมื่อมองจากสถานการณ์ปัจจุบัน  โดยเฉพาะ หลังจาก “จิ่วผิง” ออกมา ทำให้ชาวโลกจำนวนมากได้สติขึ้นมาแล้ว  โดยเฉพาะคือชาวจีน ถูกมายาภาพของวัฒนธรรมพรรคที่ความคิดแบบคอมมิวนิสต์ที่ชั่วร้ายสร้างขึ้นมา ปิดกั้นเอาไว้ยาวนานเหลือเกิน   ผู้คนค่อยๆมีสติขึ้นมา  ธาตุแท้ของตนเองกำลังฟื้นคืนกลับมา  หลังจาก“ จิ่วผิง” ถูกตีพิมพ์ออกมา จนถึงช่วงเวลานี้   ทุกท่านได้พบกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งทางบวกและลบ หลังจากตีพิมพ์ “จิ่วผิง” ออกมาแล้ว  โดยเฉพาะคือการลาออกจากพรรคฯของคนนับพันนับหมื่น   ทำให้วิญญาณร้ายของพรรคชั่วกับพวกคนเลว หวาดกลัวมาก   ก่อนที่สิ่งชั่วร้ายจะดับสลาย มันก็กำลังปลุกระดม  ปลุกปั่น  กุเรื่องเท็จ บอกว่าพวกเรากำลังเล่นการเมือง  ที่จริงเดิมทีท่านไม่ได้เล่นการเมือง มันก็จะพูดว่าท่านเล่นการเมือง  พวกมัน ประทุษร้ายคน  โจมตีคนไปพลาง ก็ยังหลอกลวง  ปลุกระดมชาวโลกไปพร้อมกันโดยตลอด  และหาเหตุผลในการประทุษร้าย    แต่ไหนแต่ไรมา เมื่อเวลาที่พวกมันโจมตีใคร  มันจะพูดว่าใครเป็นอะไรก็ได้ตามที่มันต้องการจะพูด   ศิษย์ต้าฝ่า ทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ  มีความแจ่มชัดอย่างยิ่ง  มีสติรู้ได้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่   คำหลอกลวงใดๆของพวกชั่วร้าย  คำกล่าวโทษทั้งหลายของวัฒนธรรมพรรค ล้วนรบกวนไม่ได้  ซัดสาดไม่ได้ 

            ในฐานะเป็นผู้บำเพ็ญ  เดิมทีการใช้วิธีการใดๆของคนธรรมดาสามัญ  เล่ห์เหลี่ยมเอย  การประทุษร้ายเอย  ปลุกระดม  ปลุกปั่น ล้วนสั่นคลอนผู้บำเพ็ญไม่ได้  โดยเฉพาะคือ สำหรับศิษย์ต้าฝ่านั้นย่อมจะใช้ไม่ได้ผล  การประทุษร้ายยาวนานเพียงนี้แล้ว  มีสิ่งที่น่าขันคือ เหล่าสมุนอันธพาลที่เข้าร่วมการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า   พวกสายลับอันธพาล  เหล่าหัวหน้าแก๊งอันธพาล นั้นยังคงไม่สามารถรู้จักศิษย์ต้าฝ่า  ยังไม่สามารถรู้ได้ว่า ผู้บำเพ็ญเหล่านี้ ที่แท้คืออย่างไร  ยังคงปฏิบัติต่อ ด้วยทัศนะของคนธรรมดาสามัญ  นี่ไม่ใช่เรื่องน่าขันมากหรอกหรือ ใช่ละ คนธรรมดาสามัญนั้นมองจากผิวนอก  มองโดยใช้ความนึกคิดของคนธรรมดาสามัญ โดยเฉพาะคือมองโดยใช้ความคิดที่บิดเบือนของวัฒนธรรมพรรค  นั้นย่อมไม่อาจเข้าใจเขตแดนและ สภาพความนึกคิด ของผู้บำเพ็ญ   การใช้จิตใจของคนธรรมดาสามัญ นั้นล้วนแต่ไม่คู่ควร  วิธีการใดๆที่คนชั่วใช้ในระหว่างการประทุษร้ายนั้น ไม่บังเกิดผลทั้งสิ้น  ดังนั้นมนุษย์ในระดับชั้นนี้คิดจะสั่นคลอน มนุษย์ในระดับชั้นและเขตแดนที่สูงกว่านั้น  ย่อมไม่อาจทำได้เลยชั่วนิรันดร์     

            หลังจากที่ “จิ่วผิง” ถูกตีพิมพ์ออกมา  มีคนธรรมดาสามัญหลายคนที่เคยถูกวิญญาณร้ายของพรรคชั่วหลอกลวง ชักนำให้พูดว่า พวกเราเล่นการเมือง  แต่ทุกท่านล้วนทราบว่า  พวกเราไม่ได้เล่นการเมือง  ในหมู่ผู้ที่ถูกประทุษร้ายแม้จะเล่นการเมือง ก็ไม่มีอะไรที่จะมองหน้าคนไม่ได้  และแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่มีเหตุผลอยู่  แต่พวกเราไม่ได้เล่นการเมือง พวกเราก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง  ผู้บำเพ็ญที่แท้จริงจะเข้าร่วมกับการเมืองของชาวโลกได้อย่างไรกัน จักรวาลกำลังอยู่ในระหว่างการเจิ้งฝ่า  ในขณะนี้ผู้บำเพ็ญฝ่านั้น กำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ด้วยเป้าหมายในการช่วยเหลือสรรพชีวิต   เพื่อการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า  สามารถอาศัยรูปแบบใดๆของสังคมคนธรรมดาสามัญ  ใช้ เพื่อความสะดวกให้กับการเจิ้งฝ่า   นี่ก็เป็นเพียงการเลือกใช้ตามความจำเป็นในการช่วยเหลือสรรพชีวิตเท่านั้น    เพราะทุกสิ่งในตรีภูมินั้น เกิดขึ้นมาเพื่อการเจิ้งฝ่าทั้งสิ้น   สิ่งที่เผชิญอยู่คือ การช่วยเหลือสรรพชีวิต จะทำอย่างไรให้ชีวิตได้รับการช่วยเหลือ จึงเป็นเรื่องสำคัญ   เวลาที่พลิกแพลงใช้สิ่งเหล่านี้ในโลก  ก็พิจารณาทบทวนเสมอว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้สรรพชีวิตเข้าใจ และสามารถทำให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือ จึงนำมาพลิกแพลงใช้    ตรีภูมินั้น ประกอบขึ้นเพื่อการเจิ้งฝ่าในวันนี้   สรรพสิ่งและสรรพชีวิตในตรีภูมินั้นล้วนมาเพื่อการเจิ้งฝ่า  สร้างขึ้นมาเพื่อการเจิ้งฝ่า  เกิดขึ้นเพื่อการเจิ้งฝ่า   หรือพูดว่า สรรพชีวิตของที่นี่กับสรรพสิ่งล้วนมาเพื่อเรื่องนี้   เรื่องใดๆในนี้ก็ล้วนแต่สร้างสรรค์  ก่อตั้ง  เกิดขึ้นเพื่อเรื่องการเจิ้งฝ่านี้  ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าที่อยู่ในยุคของการเจิ้งฝ่านั้น  ขอเพียงชาวโลกสามารถเข้าใจ แล้วได้รับการช่วยเหลือ  พวกเราก็สามารถพลิกแพลงใช้วิธีการที่สะดวกต่อการช่วยเหลือสรรพชีวิต ได้ตามความปรารถนา  แต่พวกเราก็ใช้อย่างคัดสรร  อย่างมีเมตตา  อย่างถูกต้อง

            ก็จะขอเอาเรื่อง “จิ่วผิง”นี้มาพูดกัน  เป้าหมายเริ่มแรกในการพิมพ์ “ จิ่วผิง”  ก็คือต้องการเปิดโปงธาตุแท้ของคอมมิวนิสต์จีน ทำให้ชาวโลกกลุ่มหนึ่งที่ถูกคอมมิวนิสต์จีนปิดกั้น ได้มองเห็นคอมมิวนิสต์จีนอย่างกระจ่างชัด แจ่มแจ้งในความชั่วร้ายของคอมมิวนิสต์จีน  จากนี้จึงได้รับการช่วยเหลือ   เนื่องจากเวลาที่ศิษย์ต้าฝ่าอธิบายความจริงนั้น  มีชาวโลกมากมายที่ได้รับผลกระทบจากการโฆษณาชวนเชื่อ  ของพวกคอมมิวนิสต์จีนชั่วบนโลก กับวิญญาณชั่วของพรรคมาร  โดยอาศัยวัฒนธรรมพรรค จนไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น หลายคนพอเอ่ยปาก ก็พูดว่า พรรคบอกว่าท่านไม่ดี ท่านก็ต้องไม่ดี  และมีหลายคนที่ถูกวัฒนธรรมพรรคบิดเบือนไป เมื่อพูดถึงการปราบปรามของคอมมิวนิสต์จีน นั้น ก็จะว่า ถ้าเป็นฉัน ก็จะปราบเหมือนกัน และมีหลายคนยังคงถูกปิดกั้น และเชื่อถือเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้ที่คอมมิวนิสต์จีนควบคุมเป็นอย่างมาก จนถึงกับยังคงเชื่อฟังอำนาจอันธพาลทางการเมืองของคอมมิวนิสต์จีน  ยังคงถือว่าคำพูดชั่วร้ายของมันเป็นสัจธรรม   ต่อสถานการณ์เช่นนี้ จะทำอย่างไรดี    พวกเราก็ไม่ต้องเมตตาแล้วหรือ  ไม่ช่วยเหลือคนเหล่านี้แล้วหรือ   ต้องช่วยแน่นอน  ที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านตลอดมาว่า  ชาวจีนทุกวันนี้ ล้วนแต่ไม่ธรรมดา  อย่าเห็นว่าหนังผืนนี้ยังคงเป็นเช่นนั้น   ที่จริงผู้ที่ควบคุมคนๆนั้น  ไม่ใช่คนในอดีตที่ผ่านมา   มีจำนวนมากล้วนเป็นชีวิตในระดับชั้นสูง ที่ลงมาควบคุมอยู่   ยังมีจำนวนมากที่เป็นราชาของชนชาติต่างๆในประวัติศาสตร์  กลับชาติมาเกิดในประเทศจีน   ดังนั้นคนกลุ่มนี้ในประเทศจีนทุกวันนี้  ไม่ธรรมดา  เพียงแต่ในเวลาที่คนกลับชาติมาเกิดนั้น  เทพพอลงมาสู่โลก  ล้วนต้องเข้าสู่วังวน  คนที่อยู่ในวังวนจึงง่ายที่จะถูกหลอกใช้  แต่พวกเขาล้วนสมควรได้ฝ่า  สมควรได้รับการช่วยเหลือทั้งหมด  และมีวาสนาที่ใหญ่มาก

            ชีวิตจำนวนมากมายที่คิดมาสู่ตรีภูมิ  ก็จะไม่มีทางกลับไปได้อีก   ในประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะมีชีวิตสักเท่าไรมาเกิดเป็นคนแล้ว   ล้วนไม่มีสักคนที่สามารถกลับไปได้    ในประวัติศาสตร์ไม่ว่าในการบำพ็ญ  จะมีสักกี่คนที่บำเพ็ญสำเร็จเป็นเทพ หรือพระพุทธ  ก็หาใช่คนๆนั้นที่แท้จริง ที่บำเพ็ญสำเร็จ   ล้วนเป็นจิตรองของคนที่ยืมร่างหลักของคนในการบำเพ็ญ   และจิตหลักของคนนี้ ที่แท้จริงนั้น ก็ไม่เคยบำเพ็ญสำเร็จ   ร้อยปีหลังจากบำเพ็ญ   ผู้ที่บำเพ็ญสำเร็จคือ คนๆหนึ่งที่มีรูปลักษณ์ของคนๆนี้   แต่ว่านั่นคือจิตรอง   แต่ในฐานะที่เป็นจิตหลัก   กล่าวสำหรับคนๆนี้แล้ว  ยังต้องกลับไปเวียนว่ายตายเกิดหกทาง  ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่า  ชีวิตของระดับชั้นสูงมากมายนั้น ที่กล้าลงมาสู่ตรีภูมิซึ่งอันตรายมากอย่างนี้   เพื่ออะไรกัน  พวกเขาเป็นเทพ  พวกเราไม่ช่วยเหลือพวกเขาได้หรือ   พวกเขามิใช่มาเพื่อรับฝ่าหรือ  พูดจากอีกมุมหนึ่ง  ที่พวกเขากล้ามากันนั้น ไม่ใช่เป็นการยืนยันความถูกต้องของการเจิ้งฝ่า และฝากความหวังไว้กับการเจิ้งฝ่าครั้งนี้หรือ   ดังนั้นข้าพเจ้าว่า  พวกเราไม่อาจทำให้พวกเขาตกหล่นไป   พวกเราต้องช่วยเหลือพวกเขาให้ได้   คิดหาวิธีช่วยเหลือพวกเขา   แม้พวกเขาจะเลอะเลือนไปในบางครั้ง  หรือว่าถูกวัฒนธรรมพรรคชนิดนี้  ทำให้เกิดทัศนคติที่บิดเบือนไปเป็นเวลานาน   ไม่สามารถรับรู้สัจธรรม  ไม่สามารถรับรู้ความจริง   พวกเราก็ต้องคิดหาวิธีช่วยเหลือพวกเขา

            ในขณะนี้อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด คือ วัฒนธรรมพรรคชนิดนี้ ที่สร้างขึ้นมา กับผลของมันที่ทำให้สรรพชีวิต มองไม่เห็นความจริง   กระทั่งไม่คิดจะฟัง   ในสถานการณ์อย่างนี้  “ จิ่วผิง” ก็จะเป็นประโยชน์   ทำให้คนเห็นธาตุแท้ของคอมมิวนิสต์จีนได้ชัดเจน   เห็นธาตุแท้ของสิ่งชั่วร้ายอย่างชัดเจน   รู้จักวัฒนธรรมที่บิดเบือน ของพรรคชั่ว   มีคนจำนวนมากที่ไม่พูดอีกต่อไปแล้วว่า เขาเชื่อฟังพรรค   มีคนมากมายไม่เชื่อฟังรัฐบาลอันธพาลนี้อีกแล้ว   พวกเราไม่มีเป้าหมาย  หรือจุดประสงค์ทางการเมือง   พวกเราก็ไม่อยากได้อำนาจทางการเมืองนั้นของคนธรรมดาสามัญ พวกเรากำลังช่วยคน   ถ้าหากคอมมิวนิสต์จีนยังคงดิ้นรนไม่ยอมเลิกรา ใช้เล่นเล่ห์กล รบกวนการช่วยเหลือสรรพชีวิต  เช่นนั้นเรายังมีวิธีอื่น  พุทธธรรมนั้นไร้ขอบเขต (เสียงปรบมือยาวนาน)

            เดิมทีการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิตทั้งหมด  ไม่ว่าชีวิตนี้จะดีหรือเลว  เคยทำผิดไว้มากมายแค่ไหนในประวัติศาสตร์   ก็จะไม่ดูสิ่งเหล่านี้เลย   เพราะทั่วทั้งจักรวาลล้วนใช้ไม่ได้แล้ว  ผู้ที่รู้มีความผิด ผู้ที่ไม่รู้ก็มีความผิด  ยังจะดูว่าใครดี ใครไม่ดี  ใครใช้ได้ ใครใช้ไม่ได้ ไปทำไมอีกละ   จะไม่ดูสิ่งเหล่านี้แล้ว  จะช่วยเหลือทั้งหมดเลย   แต่มีอยู่จุดหนึ่ง  ที่สำคัญที่สุด  คือในระหว่างการเจิ้งฝ่า นั้น  ไม่อาจจะถูกรบกวน   เช่นนั้นชีวิตทั่วทั้งจักรวาล  รวมทั้งชีวิตและชาวโลกภายในตรีภูมินั้น  สิ่งสำคัญที่สุดคือ ท่าทีต่อการเจิ้งฝ่า  ก็คือมาตรฐานนี้   คือดูว่าชีวิตในวันนี้ มีท่าทีอย่างไรต่อต้าฝ่า  ฉะนั้นจึงพูดได้อีกอย่างว่า   กล่าวสำหรับพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนนั้น  ในตอนแรกไม่ได้คิดจะกำจัดมันไป  แม้มันจะทำแต่เรื่องเลวราย  สร้างวัฒนธรรมพรรคที่ชั่วร้ายขึ้นมา  เข่นฆ่าคน และชีวิตอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน   เพราะในระหว่างการเจิ้งฝ่า สามารถปรับแก้สิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ทั้งหมด   กระทั่งไม่จำเป็นต้องให้ผู้บำเพ็ญเผชิญกับปัญหานี้   และไม่จำเป็นต้องให้ผู้บำเพ็ญไปแก้ไขมัน   ในระหว่างการเจิ้งฝ่า  สิ่งเหล่านี้สามารถหวนคืนสู่ความถูกต้องได้อย่างแท้จริง  หรือพูดว่า จะไม่แตะต้องท่านแม้แต่ผิวนอกเลย  รวมทั้งวิญญาณชั่วเหล่านั้นของพรรคมาร   ก็สามารถหวนคืนสู่ความถูกต้องได้ทั้งหมด   ทำให้มันเปลี่ยนเป็นชีวิตที่ดีได้  แต่ในระหว่างการเจิ้งฝ่าครั้งนี้  เมื่อพูดจากระดับชั้นของคนธรรมดาสามัญนั้น  เดิมที ก็เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย ในช่วงหลายปีที่ฝ่าหลุนกงเผยแพร่อยู่ในสังคมประเทศจีน ทำให้จิตใจของคนจำนวนมากมายในสังคมจีน เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง ยกระดับศีลธรรมให้สูงขึ้น  ร่างกายคนแข็งแรง  คอมมิวนิสต์จีนรู้ดีว่าอำนาจทางการเมืองของตนไม่สอดคล้องกับกฎหมาย   จึงป่าวประกาศครั้งแล้วครั้งเล่า ถึง “ความมั่นคง”  และการรักษาอำนาจของมันเอาไว้   แน่ละนี่ก็เป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญทั้งนั้น  พวกเรานั้นไม่สนใจท่าน   แต่ต้าฝ่าถ่ายทอดอยู่ในประเทศจีน  ก็เป็นประโยชน์ต่อคนในสังคมนั้นใช่หรือไม่  มีพลังที่ช่วยให้สังคมนี้มั่นคงแล้วใช่หรือไม่ ใจคนมุ่งสู่ความดีงาม แต่ละคนต่างทำหน้าที่การงานของตนอย่างดี   แต่ละคนล้วนปฏิบัติตนเป็นคนดีในสภาพแวดล้อมต่างๆ  พลังด้านจิตใจชนิดนี้  ได้กลายเป็นพลังทางวัตถุ  สามารถทำให้ประเทศนี้  ชนชาตินี้ได้รับประโยชน์ ทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง  เกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวง  ทำให้ศีลธรรมของพลเมืองฟื้นคืนกลับมา   สังคมนี้มีความมั่นคงเพียงไรแล้ว   สังคมนี้ใครกุมอำนาจอยู่ละ  ใครที่ได้รับประโยชน์ละ   นี่ไม่ใช่แบให้เห็นกันอย่างชัดแจ้งหรือ แต่ว่าวิญญาณชั่วพรรคมารกับคนชั่วแก๊งหนึ่งของมันที่เคยชินกับการใช้อำนาจบาตรใหญ่ ยังคงเลือกที่จะประทุษร้าย เอาละ ในเมื่อท่านเลือกที่จะประทุษร้าย เหล่าเทพจึงกำหนดที่จะกวาดล้างท่านนับตั้งแต่วันที่ท่านเลือกที่จะประทุษร้าย ในระหว่างการประทุษร้าย ทุกสิ่งที่ทำไว้กับศิษย์ต้าฝ่า  การวางยาพิษต่อชาวโลกล้วนต้องชดใช้  ที่จริงบาปที่หนักยิ่งกว่า ก็คือการรบกวนต่อการเจิ้งฝ่า

            ทุกท่านทราบแล้วว่าในระหว่างการเจิ้งฝา ชีวิตมากมายในอีกมิติ  ล้วนอยู่ภายในพลังอันยิ่งใหญ่ของการเจิ้งฝ่า  เมื่อพลังนี้ผ่านไปแล้ว ก็จะถูกขจัดทิ้งไป  อย่างรวดเร็วมาก การเจิ้งฝ่าโดยรวมได้ก้าวรุดหน้าไป  ไม่ว่าความเร็วนี้ จะรวดเร็วเพียงใด  ก็จะต้องมีขั้นตอนหนึ่งอยู่ เพราะมิติของจักรวาลนั้นเกิดขึ้นจากกาลเวลาที่แตกต่างกัน โลกแต่ละใบต่างมีกาลเวลาของตนเอง อณูแต่ละอณู ต่างมีกาลเวลาของตนเอง   ขอบเขตที่ประกอบขึ้นมาจากอณูกับอณูด้วยกันเองก็มีเวลาของตนเอง   ขอบเขตที่ประกอบขึ้นมาจากดวงดาว กับดวงดาวด้วยกัน  ก็มีกาลเวลาของตนเอง   อย่างเช่น ขอบเขตของดาวนพเคราะห์ ทางช้างเผือก ระบบดวงดาวอื่นๆ ระบบดวงดาวทั้งหมด  จักรวาลนี้  จักรวาลที่อยู่นอกจักรวาลนี้   จักรวาลในขอบเขตที่ใหญ่ยิ่งกว่า ทั้งหมดต่างมีกาลเวลาของตนเอง แต่ละจักรวาล  ร่างนภาแบบนี้  กาลเวลาของพวกมัน ล้วนไม่เหมือนกัน  ชั่วโบกมือทีเดียวก็เสร็จสิ้น   แต่ว่าในช่วงระยะเวลาของโบกมือนี้   ในบางมิติ นั้น  เนื่องจากเวลาของมิตินั้นเร็วมาก  มันเร็วจนถึงกับ เพียงโบกมือครั้งเดียว ก็ผ่านไปหลายหมื่นปีแล้ว  ส่วนบางมิติ  ชั่วโบกมือหนึ่ง เวลาในมิตินั้นก็เกือบจะผ่านไปพร้อมกับการโบกมือนี้   บ้างต้องใช้เวลาหลายร้อยปี  หลายพันปี  มนุษยชาติที่นี่ ยังนับว่าไม่เลว   นับแต่เริ่มการเจิ้งฝ่าจนถึงวันนี้  ก็เพียงแค่ผ่านไปสิบกว่าปี  แน่ละก่อนที่อาจารย์จะถ่ายทอดฝ่าก็ได้ทำเรื่องนี้แล้ว   ที่จริงก็เร็วมากแล้ว   คนชั่วกับวิญญาณร้ายที่ทำชั่วต่อศิษย์ต้าฝ่านั้น  มันก็เพียงทำชั่วอยู่ในช่วงก่อนที่การเจิ้งฝ่ายังมาไม่ถึง   ที่จริงเวลานั้นสั้นอย่างยิ่ง   สมมติว่านำเวลาของมนุษย์ จัดวางพร้อมไปกับการเจิ้งฝ่า   พอโบกมือก็จะจบแล้ว   ที่มนุษย์ตรงนี้ กาลเวลาแสดงออกมายาวนานมาก   แต่ที่จริงเร็วมาก   เนื่องจากความเร็วของการเจิ้งฝ่านั้นต้องเร็วมาก  ดังนั้นความเร็วของการรุดหน้าไปนั้น  จึงอยู่เหนือกาลเวลาทั้งหมดของจักรวาล  เพื่อการรบกวนต่อการเจิ้งฝ่า  พลังของจักรวาลเก่า ก็หมุนเปลี่ยนไปเร็วมาก  ตรีภูมิก็หมุนเปลี่ยนเร็วตามไปด้วย

            ที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดกับพวกท่านว่า  เวลาของมนุษย์นั้น  เดี๋ยวนี้เร็วมากแล้ว  ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านหลายครั้งว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายครั้ง  ข้าพเจ้าเคยพูดว่า เวลาหนึ่งวัน คือ หนึ่งวินาทีในอดีต  ต่อมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านว่า  หนึ่งปีของปัจจุบัน คือ หนึ่งนาทีในอดีต  ก็เร็วถึงเพียงนี้  แต่ชีวิตภายในนี้กลับไม่รู้สึก เพราะวัตถุข้างในของมัน  องค์ประกอบทั้งหมดของมันก็เร็วตามกันไป  เวลา และ มิติได้สร้างสภาพแวดล้อมของจักรวาลที่ต่างกัน  รูปแบบมิติที่ต่างกัน  ชีวิตในนี้ ทั้งหมดล้วนเร็วขึ้นพร้อมกันไปในกาลเวลา  ดังนั้นท่านจึงไม่อาจรู้สึกว่ามันกำลังเร็วยิ่งขึ้น   สถานการณ์ของการเจิ้งฝ่าไม่เพียงแต่ความเร็วที่ผลักดันนั้นเร็วขึ้น    สถานการณ์เก่าก็หมุนเปลี่ยนไป เร็วขึ้น  ก็เป็นเช่นนี้   ปัจจุบัน เวลานี้ได้สั้นลงมากแล้ว  เนื่องจากสสารที่ประกอบขึ้นมาเป็นคนนั้น มีขีดจำกัด  เวลาที่เร็วเกินไปนั้น สรรพชีวิตในตรีภูมิจะรับไม่ไหว   ปัจจุบันได้มาถึงจุดที่มนุษย์ ปรับตัวเข้ากับเวลาอย่างถึงที่สุดแล้ว การเปรียบเทียบเพียงหนึ่งเดียวที่มนุษย์จะสามารถรู้สึกได้ถึงกาลเวลาที่เร็วขึ้น  ก็คือความรู้สึกที่ประทับใจของผู้คน  โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากสักหน่อยจะทราบว่า  ในอดีต ในหนึ่งวันสามารถทำอะไรต่างๆได้หลายเรื่อง  คล้ายกับว่าหนึ่งวันนั้นยาวนานมาก  ฟ้าไม่มืดสักที  แต่พบว่าเดี๋ยวนี้จากเช้าจนค่ำ ยังไม่ทันได้ทำอะไรฟ้าก็มืดแล้ว และความเข้าใจของคนก็ตามไม่ทัน สสารในแต่ละระดับชั้นนั้นมีขีดจำกัดของระดับชั้นนั้น  องค์ประกอบสสารนี้ตามไม่ทัน  ที่จริงความเร็วของการเจิ้งฝ่านั้นเร็วมากจริงๆ  อย่าเห็นว่าพวกสิ่งชั่วร้ายมัน แสดงออกมาร้ายกาจอย่างไร   การลงเอยอย่างน่ากลัวที่จะต้องเผชิญในอนาคตนั้น ก็กำลังอยู่ตรงหน้านี่  (เสียงปรบมือกึกก้อง)

            ดังนั้นหลังจากตีพิมพ์ “ จิ่วผิง” ออกมาแล้ว  ศิษย์ต้าฝ่าขณะที่อธิบายความจริงอยู่  ช่วยเหลือสรรพชีวิตอยู่ ได้ทำให้คนมากมายเข้าใจความจริงแล้วจริงๆ โดยเฉพาะมีคนมากมายพูดเรื่องการลาออกจากพรรคขึ้นมา   ออกห่างจากสิ่งชั่วร้ายนี้   ต่อปัญหานี้  ทุกท่านคิดดู  บางคนพูดว่าฉันไม่ต้องลาออกจากพรรค  ฉันก็รู้ว่ามันไม่ดี  ไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกพรรคมาตั้งนานแล้ว   นั่นไม่ใช่ ว่าท่านคิดอยู่ในใจก็จะจบกัน   ตอนแรกในเวลาที่ท่านชูกำปั้นขึ้น ปฏิญาณต่อธงสีเลือดนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ  ท่านพูดว่าท่านขอมอบชีวิตอุทิศให้กับมัน  ท่านอุทิศชั่วชีวิตนี้ให้กับมัน วันนี้หากท่านไม่แสดงออกมาอย่างเปิดเผย  ไม่ลาออก  นั่นจะนับว่าใช้ได้หรือ   ท่านคิดอยู่ในใจก็จบกันแล้วหรือ   ความคิดของคนนั้นไม่มั่นคง  สมองใหญ่ของคนนั้นเป็นเพียงโรงงานแปรรูปอย่างหนึ่ง ข้อมูลนานาชนิดล้วนจะแสดงออกมา สะท้อนออกมา  โดยผ่านสมองใหญ่ของคน รบกวนคนๆนี้   ที่มาของความคิดคนนั้นสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง   คิดจะตัดสินท่าทีอะไรของคนๆนี้  ทำอะไร  เป็นคนอย่างไร  ก็จำเป็นต้องอาศัยพฤติกรรมของเขาเป็นบรรทัดฐาน  แค่คิดไม่พอ   เหตุใด ในเรื่องราวต่างๆจึงอาศัยพฤติกรรมของคนเป็นบรรทัดฐานละ  บางคนคิดจะทำเรื่องเลวร้าย  ก่อนที่จะลงมือทำนั้น  ท่านไม่อาจลงโทษเขาได้  เมื่อเขาทำไปแล้วท่านจึงจะลงโทษเขาได้   ก็เพราะที่มาของความคิดคน กับความคิดโดยตัวมันเองนั้นไม่มั่นคงอย่างยิ่ง  คนมีจิตหลัก  จิตรอง  ยังมีทัศนคตินานาชนิดที่ก่อเกิดหลังกำเนิด  ดี เลว สองคุณสมบัติ  ยังมีองค์ประกอบภายนอก ซึ่งล้วนมีบทบาท  การแสดงออกทางพฤติกรรมของคน จึงจะเป็นการปรากฏออกมาที่แท้จริงของคนๆนี้   ดังนั้นในสายตาของเทพ มองว่าการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า  การรบกวนการเจิ้งฝ่านั้น ได้มีการกำหนดโทษบาปเอาไว้แล้ว  มันเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด ซึ่งต้องกำจัดทิ้งไป   เช่นนั้นจะกำจัดอย่างไร  ในระหว่างการกำจัดทิ้ง ครอบคลุมใครไว้บ้างละ  เพียงแต่กำจัดวิญญาณร้ายของพรรคชั่วก็พอแล้วหรือ   พรรค และสันนิบาตที่ร่วมมือกับวิญญาณร้ายของพรรคชั่วทำเรื่องชั่ว  ก็คือพวกของมันที่ทำชั่วอยู่ในโลก  นั่นคือท่านบอกว่าท่านไม่ได้ทำเรื่องชั่วอะไร  ท่านเป็นแค่สมาชิกของมัน  ก็คือเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมมันให้ใหญ่  เป็นอณูหนึ่งของสิ่งชั่วร้าย  ก็คือเป้าหมายที่จะถูกกำจัด  ไม่ใช่เพียงเท่านี้  เนื่องจากมันล้วนกำลังแสดงบทบาทอยู่ในมิติต่างๆของตรีภูมิ  โดยเฉพาะคือโลกมนุษย์  มีคนจำนวนมากหาได้ถูกกระทำไม่  แต่เป็นฝ่ายกระทำในการถูกมันหลอกใช้  กระทั่งร่วมมือกับมัน  ฉะนั้นหากเป็นสภาพการณ์เช่นนี้ เช่นนั้นจะว่าไปแล้วสิ่งที่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์เหล่านี้เผชิญอยู่นั้น ไม่น่ากลัวหรือ

            นานมาแล้วที่วิญญาณชั่วของพรรคมารนี้  มีเป้าหมายที่จะดึง ผู้ที่ประสบความสำเร็จในสังคม  ผู้ที่มีความสามารถ  ผู้ที่โดดเด่นในสังคม เข้าไปในพรรค  อาศัยพวกเขาเสริมความแข็งแกร่งให้มัน  แสดงให้เห็นว่าพรรคมารนี้ยอดเยี่ยม   ดูเหมือนว่าประกอบขึ้นมาจากส่วนที่ดีเลิศจริงๆ  ที่จริงสิ่งชั่วร้ายก็รู้ว่า คนเหล่านี้ไม่แน่ว่าจะจริงใจ ดังนั้นพอเคลื่อนไหวอะไรขึ้นมา ก็ถือเป็นเป้าหมายอันดับแรกที่จะถูกโจมตี   แต่ในเวลาที่คิดบัญชีกับพรรคมาร ในเวลาที่ฝ่าจะปรับโลกมนุษย์จริงๆ อาจจะไม่พิจารณาสิ่งเหล่านี้   ท่านเพียงแต่เป็นหน่วยหนึ่งของมัน  พอพลังเจิ้งฝ่าก้าวผ่านไปก็จะกวาดทิ้งทั้งหมด  เพราะในระหว่างที่ศิษย์ต้าฝ่า ให้การช่วยเหลือสรรพชีวิตนั้น และอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงนั้น  ก็ได้ใช้โอกาสทั้งหมดอย่างเต็มที่แล้ว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตน ในระหว่างการช่วยเหลือสรรพชีวิต ได้อธิบายความจริงให้กับผู้คนแล้ว ได้นำเรื่องเหล่านี้บอกให้กับชาวโลกแล้ว  กำลังช่วยเหลือพวกท่าน  บางคนไม่รับฟัง  ไม่ฟังก็คือการแสดงท่าทีออกมาแล้ว    บางคนได้อ่านแล้ว   กลับไม่ลาออกจากพรรค  ไม่ลาออกก็คือการแสดงท่าทีแล้ว

            ศิษย์ต้าฝ่าเพียงแต่ทำไปโดยมุ่งหวังจะให้การช่วยเหลือด้วยความเมตตา ทำอย่างเต็มกำลัง  ช่วยเหลืออย่างเต็มที่  ดังนั้นไม่ว่า ตั้งแต่เริ่มต้น ตลอดมาจนถึงวันนี้  พวกเราล้วนแต่กำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต   พวกเราล้วนไม่ได้ทำเพื่อการเมืองอะไรของคนธรรมดาสามัญเป็นการเฉพาะ  พวกเราก็ไม่สนใจอำนาจทางการเมืองนั้น   ผู้บำเพ็ญนั้นอาศัยการหลีกห่างจากโลก สร้างความสำเร็จในการหยวนหมั่นของชีวิต เป็นเป้าหมาย  การยึดติดกับการได้-เสีย หรือผลประโยชน์ ทางโลกจะหยวนหมั่นไม่ได้เลย  เพราะว่าผู้บำเพ็ญ นั้น บำเพ็ญอยู่ในโลก จึงต้องละทิ้งจิตยึดติดนานาชนิดจึงจะสามารถสำเร็จเป็นเทพได้  หาไม่แล้ว จิตชนิดใดๆบนโลก  องค์ประกอบของความผูกพันใดๆ  ล้วนเป็นกุญแจที่จะขังคนไว้ไม่ให้จากไป  ดังนั้นในการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่า  พร้อมกับที่ทุกท่านกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิตนั้น คือการบำเพ็ญตนเองทั้งสิ้น  จุดนี้ทุกท่านจะต้องแจ่มชัดให้มาก   หรือพูดได้ว่า  พวกเราไม่แสวงหาสิ่งเหล่านั้นของคนธรรมดาสามัญอย่างแน่แท้

            ในฐานะคนธรรมดาสามัญ  ผู้ที่ไม่ได้รับฝ่า  ผู้ที่ไม่เข้าใจศิษย์ต้าฝ่า  ผู้ที่ไม่ได้บำเพ็ญ  เขาย่อมไม่อาจเข้าใจต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่า  ในใจของคนธรรมดาสามัญทุกวันนี้ ถือผลประโยชน์เป็นใหญ่   มีผู้นำมวลชนหลายคน  ผู้ที่อยู่ในองค์กรการเมืองต่างๆในหมู่มวลชน ก็คัดค้านพรรคคอมมิวนิสต์   แต่ข้าพเจ้าดูพวกเขาแล้วเห็นว่า ยากจะประสพผลสำเร็จ  มีพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่ดี  ทำให้คนเป็นกังวล  ถ้ามอบอำนาจทางการเมืองนั้นให้ท่านจริงๆ จะได้หรือ  จิตยึดติดต่อผลประโยชน์ส่วนตัวรุนแรงออกอย่างนั้น  ตอนนี้ยังไม่ทำอะไร  แต่พอเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ซึ่งกันและกันเข้า  พอกระทบกัน ตนเองก็ก่อเรื่องขึ้นมาระหว่างกัน เสียก่อนแล้ว  เทพจะมอบภาระที่ยิ่งใหญ่ของชนชาติหนึ่ง ให้พวกท่านได้อย่างไรกัน  (เสียงปรบมือ)  ดังนั้นกล่าวสำหรับคน  วันนี้ เมื่อมาถึงก้าวนี้แล้ว  ข้าพเจ้าไม่ใช่พูดว่าคนใดคนหนึ่งเป็นอย่างนี้  ที่จริงเป็นสภาพการณ์ของทั้งสังคม  ศีลธรรมของมนุษย์ล้วนกำลังลื่นไถลอย่างใหญ่หลวง  ลื่นไถลโดยไม่รู้ตัว   ตัวเองก็เปลี่ยนกลายเป็นคนใจคับแคบไปโดยไม่รู้ตัวแล้ว   การยึดติดต่อผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นอยู่เหนือความมุ่งมาดปรารถนาทางการเมืองของท่านไปแล้ว  อยู่เหนือข้อเรียกร้องทางการเมือง   เหนือปณิธานในการต่อสู้เพื่อความมุ่งมาดปรารถนาไปแล้ว   ก็คือว่า  กล่าวสำหรับคนธรรมดาสามัญ  ทัศนคติด้านศีลธรรมก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน    คนๆหนึ่งหากมีทัศนคติด้านศีลธรรมที่ไม่ดี  เทพก็จะมองไม่ขึ้นจริงๆ   ไม่ว่าจะเป็นคนไหนๆ  ชีวิตใดๆ  ต้องมีปณิธาน มีคุณธรรมจึงจะเป็นคนที่มีความสามารถ  นี่เป็นสิ่งที่แน่นอน   ในอนาคตเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์  หรือก่อนหน้านี้  พรรคชั่วคอมมิวนิสต์ล่มสลายแล้ว  ใครจะไปยึดอำนาจ  พวกเราศิษย์ต้าฝ่าจะไม่ไปยึดอำนาจ  พวกเราเป็นผู้บำเพ็ญ  คนอยู่ในท่ามกลางโลกียะ  คนที่คิดนอกลู่นอกทาง  พวกเราก็ไม่อิจฉาอำนาจทางการเมืองนั้นของมัน    (เสียงปรบมือ)  เช่นนั้นแล้วใครละที่ใช้ได้  เทพก็จะหาผู้ที่มีปณิธานยิ่งใหญ่  มีความสามารถ  มีคุณธรรมสูงส่ง  ต้องเป็นเช่นนี้แน่   ดังนั้นข้าพเจ้าหวังว่า  คนธรรมดาสามัญที่สามารถยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่า  คนที่สามารถหลุดพ้นจากพรรคมารคอมมิวนิสต์  ที่ข้าพเจ้าเจาะจงนี้ไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า  ซึ่งล้วนยอดเยี่ยม   หากพวกท่านมีความปรารถนาทำเรื่องอะไรในสังคมคนธรรมดาสามัญ พวกท่านก็ต้องเห็นความสำคัญของการบำเพ็ญเพื่อตนเอง  จึงจะไม่ผิดต่อภาระที่ใหญ่หลวงเช่นนั้นที่ได้รับมอบหมาย 

            ที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ นั้น นอกเรื่องออกไปแล้ว  ที่จริงกล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องเหล่านี้กัน   เพราะข้าพเจ้าทราบว่า ผู้ที่นั่งอยู่ในวันนี้ มีผู้ฝึกใหม่หลายคน  และมีหลายคนที่ยังไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม  ข้าพเจ้านั้นหวังดีต่อคนเสมอ  ข้าพเจ้าหลี่ หงจื้อ  ในชาติภพนี้มาเกิดอยู่ในประเทศจีน   มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อชนชาตินี้  ข้าพเจ้าก็หวังอยากจะให้มันดี  (เสียงปรบมือ)   เนื่องจากเวลามีจำกัด  พวกท่านยังต้องพูดคุยกัน  ข้าพเจ้าจะไม่พูดมากแล้ว (เสียงปรบมือเรียกร้องให้อยู่ต่อ)    ถ้าวันนี้ข้าพเจ้าพูดมากเกินไปจะรบกวนต่อ สภาพการณ์การยืนยันความถูกต้องของฝ่าของพวกท่านในขณะนี้   เพราะว่ามี ผู้ฝึกหลายคนจะถามคำถามหลายคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับ สภาพการณ์การยืนยันความถูกต้องของฝ่าในขณะนี้ขึ้นมา  ถ้าวันนี้ข้าพเจ้าพูดมากแล้ว  จะทำให้เรื่องที่พวกท่านจะทำกันในวันนี้ จืดจางได้   ดังนั้นต้องถือ เอาสถานการณ์ในขณะนี้เป็นสำคัญ  ไม่อาจจะทำให้เรื่องที่จะทำในขณะนี้ ให้จืดจางลง   ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้โดยพื้นฐาน  หากมีเรื่องใหม่ที่จะทำกัน  ศิษย์ต้าฝ่าก็จะทราบได้เอง

ข้าพเจ้าอยากจะใช้โอกาสนี้บอกทุกท่าน  เวลาที่พวกท่านกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิตอยู่นั้น  อย่าลืมบำเพ็ญตนเองด้วย(เสียงปรบมือ)  สามเรื่องนั้นต้องทำทั้งหมด   ในเวลาปกติทุกท่านก็คงเจิ้งเนี่ยนไว้   เมื่อเผชิญกับสิ่งชั่วร้ายบ่อยๆ หรือเมื่อเผชิญกับสถานการณ์บางอย่าง ต้องฟาเจิ้งเนี่ยน  ต้องอธิบายฯ  ต้องช่วยเหลือสรรพชีวิต   ยิ่งต้องบำเพ็ญตนเองให้ดี   ถ้าทุกท่านบำเพ็ญตนเองได้ไม่ดี ก็จะไม่มีธรรมานุภาพ  สิ่งที่พูดจะไม่อยู่ในฝ่า  ก็จะพูดถึงเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิต ไม่ขึ้น  สิ่งที่พูดจะไม่มีธรรมานุภาพ   ไม่มีพลัง  ก็จะไม่เกิดผล   สิ่งชั่วร้ายก็จะเจาะช่องว่างได้   กระทั่งหากไม่บำเพ็ญตนเองให้ดี   เจิ้งเนี่ยนก็ไม่พอ  เมื่อจัดการปัญหาต่างๆก็จะ ทำไปตามความคิดชนิดนั้นของคนธรรมดาสามัญ  นั่นก็จะไม่เกิดผลในการช่วยเหลือสรรพชีวิตแล้ว คนธรรมดาสามัญหลายคน  ที่จริงพวกเขาก็กำลังช่วยศิษย์ต้าฝ่าทำงาน   แต่พวกเขาคือคนธรรมดาสามัญที่กำลังช่วยศิษย์ต้าฝ่าทำงาน   พวกท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่า  พวกท่านทำในสิ่งที่พวกท่านควรทำ   และกำลังสถาปนาธรรมานุภาพของตนอยู่    กำลังเดินบนหนทางแห่งเทพสู่การหยวนหมั่น   ดังนั้นหากทุกท่านไม่บำเพ็ญตนเองย่อมไม่ถูก   ในด้านนี้ข้าพเจ้าก็จะไม่พูดมาก   จะไม่ทำให้สิ้นเปลืองเวลาแล้ว  ทุกท่านศึกษาฝ่าให้มาก  อ่านหนังสือให้มาก

ไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าจะลำบากยากเย็นเพียงไร  ทางนั้นจะเดินลำบากเพียงไร  ทางข้างหน้าของพวกท่านนั้นล้วนสว่างไสว   ทุกท่านก็เห็นได้ถึงความสว่างไสวของทางข้างหน้ายิ่งๆขึ้นแล้ว   และยิ่งแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆว่าทางที่ตนเองเดินนี้คืออะไร   อาจารย์ได้เตรียมทุกสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว   แต่พวกท่านต้องเดินไปให้ถึงที่นั่น (เสียงปรบมือกึกก้อง)

ศิษย์ต้าฝ่าเดินมาถึงก้าวนี้ในวันนี้   ตั้งแต่ข้างบนจนถึงข้างล่าง ไม่มีใครที่ไม่เลื่อมใส   แม้แต่สิ่งชั่วร้ายต่างก็สั่นสะท้าน  หวาดกลัวทั้งนั้น ขณะนี้พวกชั่วร้ายเหล่านั้น โดยพื้นฐาน ก็ไม่มีสติสัมปชัญญะ และกำลังถูกหลอกใช้ให้รบกวนการเจิ้งฝ่า ตามที่องค์ประกอบของอิทธิพลเก่าจัดวางไว้แต่เดิม  ชีวิตชั่วร้ายเหล่านั้นพอเข้าไปใกล้  ศิษย์ต้าฝ่า ก็เริ่มวิ่งหนี  บ้างก็กำลังหวาดกลัวสั่นสะท้าน ทำเรื่องชั่วโดยมีความเชื่อในใจไม่เพียงพอ  ดังนั้นกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  ทุกท่านอย่ากลัว  ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้ององอาจสง่าผ่าเผย  พวกชั่วร้ายต่างหากที่กำลังหวาดกลัว    ในช่วงแรกที่ศิษย์ต้าฝ่ากำลังถูกประทุษร้ายนั้น คล้ายกับอยู่โดดเดี่ยวมาก  เพราะในเวลานั้นองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายมีมากเหลือเกิน  ที่จริงในเวลานั้น ก็หาใช่จะโดดเดี่ยว มีเทพอยู่  มีฝ่าเซินของอาจารย์อยู่ มีพลังอยู่  และยังมีด้านที่บำเพ็ญสำเร็จแล้วอยู่ด้วย   วันนี้สถานการณ์ยิ่งไม่เหมือนกันแล้ว องค์ประกอบมากมายของสิ่งชั่วร้ายไม่มีแล้ว  วิญญาณชั่วของพรรคมารมีน้อยแล้ว  สนามที่ต้าฝ่าสร้างขึ้นในโลกนั้นใหญ่มากๆแล้ว   ความเข้มก็มากอย่างยิ่งแล้ว   ในขณะนี้ ที่สำคัญคือสนามนี้ กำลังช่วยศิษย์ต้าฝ่าในการช่วยเหลือสรรพชีวิต   ยับยั้งสิ่งชั่วร้าย  ยับยั้งสิ่งชั่วร้ายที่สำคัญเหล่านั้น ดังนั้นสำหรับเรื่องของคนธรรมดาสามัญของชาวโลกโดยทั่วไป นั้น  โดยพื้นฐานแล้วจะไม่ไปแตะต้องพวกมัน  ถ้าสนามนี้จะแสดงบทบาทอย่างกว้างขวาง  นั่นก็จะมองเห็นกันได้ แล้ว   ซึ่งย่อมจะเหนือกว่าสนามที่ชั่วร้ายของพรรคชั่วคอมมิวนิสต์  และสนามของวิญญาณร้ายพรรคชั่วก็กำลังสลายตัวอย่างรวดเร็ว  ลดน้อยลง  ดังนั้นพวกชั่วร้ายจึงหวาดผวา

ที่จริงสนามนี้ไม่เพียงเกิดประโยชน์ต่อศิษย์ต้าฝ่า  แต่กำลังช่วยปลุกเร้าใจชาวโลก  และกำลังเสริมความกล้าให้กับคนจีนทั้งในและนอกประเทศจีนด้วย และกำลังช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากการควบคุมขององค์ประกอบที่ชั่วร้ายนั้น  และกำลังเป็นประโยชน์ทางด้านบวกอย่างทั่วด้าน   ดังนั้นข้าพเจ้าหวังว่าทุกท่านจะเดินให้ดียิ่งขึ้น บนเส้นทางข้างหน้า  อย่างสง่าผ่าเผย  มีเจิ้งเนี่ยนเข้มแข็งหน่อย  ทำให้ดียิ่งขึ้นสักหน่อย  ไม่ว่าจะประสบกับสถานการณ์อะไร  อยู่ในสถานการณ์อะไร  ก็ต้องเป็นเหมือนศิษย์ต้าฝ่า  ไม่หุนหันพลันแล่น ต้องมีเจิ้งเนี่ยนพอ (เสียงปรบมือ)

รูปแบบ และสภาพการณ์ของการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้   แตกต่างจากรูปแบบและแนวทางการบำเพ็ญเมื่อก่อน  พวกท่านนั้นจึงจะเป็นผู้ช่วยเหลือสรรพชีวิตอย่างกว้างขวางโดยแท้จริง  พวกท่านจึงเป็นผู้ที่มีภารกิจที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ อย่างแท้จริง  ดังนั้นสภาพการณ์บำเพ็ญที่ปรากฏออกมาจึงไม่เหมือนกับการบำเพ็ญในอดีตโดยสิ้นเชิง   ก็เพราะเป็นอย่างนี้  จึงยิ่งไม่ควรมองข้ามการบำเพ็ญตนเองเพราะเหตุนี้  และไม่อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ ก็แก้ไขความบกพร่องของตนเองอย่างขอไปที   ดังนั้นข้าพเจ้าหวังว่าทุกท่านจะเดินให้ดีบนทางข้างหน้า  ไม่ขอพูดแล้วนะ  จะพูดเพียงเท่านี้ (เสียงปรบมือกึกก้องยาวนาน)