บรรยายฝ่าวันเทศกาลประดับโคม ค.ศ. 2003

 

หลี่ หงจื้อ

15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003

ณ ฝ่าฮุ่ยภาคพื้นตะวันตก ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

 

(เสียงปรบมือยาวนาน) ทุกท่านนั่งลง

เป็นเวลานานที่ไม่ได้พบกัน ดูเหมือนฝ่าฮุ่ยครั้งนี้หลายๆท่านรู้ว่าข้าพเจ้าจะมา ทุกคนรับรู้ข่าวได้รวดเร็วมาก พวกท่านมีอานุภาพมากขึ้นนับวันในการบำเพ็ญ (เสียงปรบมือ) วันนี้ข้าพเจ้าจะพูดกับทุกท่านเรื่องสภาวะของการเจิ้งฝ่าก่อน ยังมีเรื่องของข้าพเจ้า และจะพูดถึงปัญหาบางประการซึ่งเกิดขึ้นในหมู่ผู้ฝึก ในระหว่างขั้นตอนของการเจิ้งฝ่าและขั้นตอนการบำเพ็ญ

            ณ โอกาสต่างๆ และจากมุมที่ต่างกัน ข้าพเจ้าได้พูดถึงพลังมหาศาลของการเจิ้งฝ่าทั่วทั้งจักรวาล วันนี้ข้าพเจ้าจะอธิบายให้ทุกท่านฟังถึงรูปแบบของการเจิ้งฝ่าจากอีกมุมหนึ่ง ทุกท่านทราบ จักรวาลนี้ใหญ่โตมหึมา ใหญ่โตเสียจนไม่สามารถจะวัด ไม่ใช่วัดด้วยวิธีของมนุษย์ แต่ด้วยวิธีของเทพ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดว่า (ในหมู่)สรรพชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วน ไม่มีใครค้นหาได้ชัดเจนว่าโลกประกอบขึ้นด้วยโมเลกุลเป็นจำนวนมากเท่าใด และอณูทุกเม็ดก็คือชีวิต เช่นนั้นในจักรวาลยังมีดาวเคราะห์เป็นจำนวนเท่าใด มากเสียจนไม่อาจที่จะคำนวณได้ เทียนถี่(ร่างนภา)ใหญ่เพียงใด ต่อให้เปิดจินตนาการของพวกท่านให้เป็นอิสระก็เป็นเพียงขอบเขตอณูของเทียนถี่ที่เล็กๆ อันหนึ่ง ความใหญ่โตมหึมาของจักรวาล ไม่เพียงแต่ชีวิตเท่านั้นที่ไม่อาจจะคำนวณได้ ระดับชั้นของมันก็ไม่สามารถที่จะคำนวณ สำหรับเทพก็ไม่สามารถจะคำนวณ ด้วยทัศนะความคิดของราชา จ้าวในระดับที่สูงมากๆ ต่างก็เข้าใจเช่นนี้ ฉะนั้นการบรรยายฝ่าในระยะหลังๆ ข้าพเจ้าจึงไม่พูดว่าจักรวาลใหญ่เพียงใด เพราะหมดปัญญาที่จะพูดด้วยภาษามนุษย์โดยสิ้นเชิง แต่เมื่อขึ้นสู่ระดับชั้นสูงมากขึ้นมากขึ้น ชีวิตที่ใหญ่โตมหึมาเหล่านั้นและมิติที่ใหญ่โตมหึมาเหล่านั้น ก็ใหญ่โตมหึมาเสียจนหมดปัญญาจะพรรณนา ปริมาตรของหนึ่งชีวิตข้างบนใหญ่ล้ำจักรวาลทั้งหมดที่อยู่ข้างใต้ของมัน ใหญ่โตขนาดนี้ การเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ ชีวิตของจักรวาลเก่าร้อยละยี่สิบ ได้เข้ามาวุ่นวายและจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างตามที่พวกมันต้องการในระหว่างการเจิ้งฝ่า ณ ระดับชั้นต่างๆ ก็มีชีวิตหนึ่งชุดที่เข้ามายุ่งเกี่ยวโดยตรงกับการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ พวกมันคิดไม่ถึงเลยว่าการยุ่งเกี่ยวของพวกมัน เป็นมารผจญโดยแท้ของการเจิ้งฝ่าครั้งนี้อย่างประจวบเหมาะ การยุ่งเกี่ยวของพวกมันได้สร้างอุปสรรคใหญ่หลวงให้กับการเจิ้งฝ่าโดยรวมทั้งหมด และนำไปสู่การทำลายสรรพชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วน “อาจารย์ไม่ใช่เมตตากรุณาหรอกหรือ ให้อภัยแก่พวกมันก็แล้วกัน” อิทธิพลเก่ากำลังเล่นสนุกกับความเมตตากรุณาอันมากล้นของข้าพเจ้า ฝ่ามีความเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็มีอานุภาพและน่าเกรงขาม ฝ่ายังมีมาตรฐาน ต่อสรรพชีวิต (ฝ่า)จะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่อาจถูกทำลาย ไม่สามารถจะถูกควบคุมอย่างง่ายๆ ข้าพเจ้าสามารถจะเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต แต่เมื่อชีวิตใดทำผิดถึงขั้นนั้นจริงๆ จะมีฝ่ามาตัดสิน   หากยังคงเมตตากรุณาต่อไปอีกก็จะไม่มีที่สิ้นสุด เท่ากับทำลายตัวเอง ฉะนั้นชีวิตประเภทนี้ก็จะถูกกำหนดให้ถูกคัดออกไป

            ท่ามกลางการเจิ้งฝ่า สรรพชีวิตซึ่งถูกคัดออก อันเนื่องมาจากการยุ่งเกี่ยวของอิทธิพลเก่ามีจำนวนนับไม่ถ้วน เช่นนั้นวิธีการที่เป็นรูปธรรมในการยุ่งเกี่ยวของพวกมัน ใช้วิธีที่พวกมันเห็นว่าจะสามารถทำให้พวกมันถึงเป้าหมายได้มากที่สุด และเป็นวิธีการที่พวกมันใช้เป็นประจำ ก็คือ เทียนถี่ที่ใหญ่มหึมา ใหญ่หลวงมากมายยื่นขาข้างหนึ่งเข้ามายังระดับชั้นที่ต่ำสุดในจักรวาล – สามภพ นี่เป็นการเปรียบเทียบ จึงพูดว่าพวกมันต่างได้กดส่วนหนึ่งเข้ามาในสามภพ ทุกท่านลองคิดดู เทียนถี่ที่ใหญ่มหึมาขนาดนั้น ชีวิตที่ใหญ่หลวงขนาดนั้น ถ้าเข้ามาในสามภพจะทำให้สามภพมีสภาพเป็นเช่นไร มนุษย์ทุกวันนี้เปลี่ยนสภาพเสียจนไม่สามารถจะเปรียบเทียบกับในอดีต แม้กระทั่งเทพและเซียนบนพื้นโลกต่างรู้สึกถึงแรงกดอันใหญ่หลวง ข้าพเจ้าเคยถามพวกเขาถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ พวกเขาบอกว่า พวกเราเข้าใจว่าเกิดจากสภาวะการบำเพ็ญของพวกเรา เทพบนพื้นโลกต่างก็ไม่สามารถสำแดงอานุภาพ เพราะชีวิตที่ใหญ่หลวงเหล่านี้ ล้วนเป็นการสะกดยับยั้งแบบหนึ่งต่อทุกสิ่งทุกอย่างในระดับชั้นที่ต่ำสุดนี้ของจักรวาล ฉะนั้นหลังจากลงมาแล้ว พวกมันได้สร้างความเสียหายชนิดที่ไม่อาจจะคาดคิดต่อการเปลี่ยนสภาพของชีวิต การเปลี่ยนสภาพของสสาร(วัตถุ)ในสามภพ หากไม่ใช่ฝ่าปรับโลกมนุษย์ที่สุดท้ายปรับมันให้ถูกต้องอย่างถึงที่สุด ก็หมดปัญญาที่จะจัดการกับที่ตรงนี้แล้ว ใครก็ไม่มีปัญญาจะจัดการ ไม่สามารถจะช่วยเหลือเยียวยาแล้ว

            วิธีที่พวกมันใช้อยู่เสมอ ก็คือเทียนถี่ที่ใหญ่มหึมา ท้องนภาใหญ่นับจำนวนไม่ถ้วน พวกมันกดอัดเข้าด้วยกัน เบียดเข้ามาในสามภพ ชีวิตที่ใหญ่มหึมา ระดับชั้นยิ่งสูง ปริมาตรของมันยิ่งใหญ่ แต่เม็ดของมัน องค์ประกอบซึ่งประกอบมันขึ้นมา จะยิ่งละเอียด ก็คือยิ่งเป็นจุลภาค เช่นนั้นชีวิตที่ใหญ่มหึมาเช่นนี้ พวกมันต่างเบียดอัดเข้าด้วยกัน ทุกท่านลองคิดดู ในระดับชั้นที่ต่ำสุดของจักรวาลนี้จะเป็นเช่นไร ก่อเกิดเป็นฉาก(เกราะ)ที่แข็งแกร่งขึ้นมา แท้ที่จริงการเจิ้งฝ่าของจักรวาลเป็นเรื่องเพียงชั่วโบกมือเดียว เพียงแต่ว่าในขั้นตอนของโบกมือเดียวนี้ ชีวิตในมิติเวลาอันมากมายของจักรวาล รู้สึกถึงความแตกต่างอย่างมาก ข้างในมิติที่วัดไม่ได้ คำนวณไม่ได้ล้วนมีเวลาของตัวเอง ความแตกต่างมากมายของเวลาหลากหลาย ความมากของเวลาก็ไม่สามารถจะวัดและคำนวณ ฉะนั้นจึงก่อเกิดเป็นความแตกต่างที่ใหญ่หลวงของเวลาในมิติต่างๆ ในชั่วโบกมือเดียวนี้ บางพื้นที่แทบจะก้าวพร้อมกันไป บางพื้นที่(เวลา)ผ่านไปแล้วหลายสิบปี หลายร้อยปี นับพันปี หลายหมื่นปี บางพื้นที่(เวลา)ผ่านไปแล้วหลายร้อยล้านปี กระทั่งนับล้านล้านปี เวลาที่วัดไม่ได้คำนวณไม่ได้เป็นจำนวนมากมายผ่านไป ณ ที่มนุษย์ตรงนี้ล่ะ ยังนับว่าใช้ได้ เป็นเวลาเพียงสิบกว่าปี จึงพูดว่าเวลาก่อให้เกิดความแตกต่างแบบนี้

            ทุกท่านลองคิดดู เนื่องจากมีความแตกต่างของมิติและกาลเวลาที่ต่างกันคงอยู่ ฉะนั้นเทียนถี่ใหญ่มหึมาเหล่านั้นที่อัดเข้ามาในสามภพ แม้ว่าพวกมันจะเข้ามาในที่มนุษย์ตรงนี้แล้ว แต่พวกมันกดอัดเข้าด้วยกัน เข้าใจด้วยมโนทัศน์ตามแนวคิดของมนุษย์ ปริมาตรโดยรวมหดเล็กลง แต่ไม่ได้หมายความว่าโครงสร้างข้างในของมันจะเปลี่ยนแปลงไป ถ้าโครงสร้างข้างในของมันไม่เปลี่ยนแปลง ทุกท่านลองคิดดู เมื่อเข้าไปข้างในนั้นจะพบว่ามันยังคงเป็นมิติที่ใหญ่หลวงเช่นนั้น ในการเจิ้งฝ่าข้าพเจ้าเริ่มทำจากข้างนอกสามภพ วนอ้อมข้ามสามภพ เหตุใดจึงวนอ้อม ถ้าหากข้าพเจ้าทำจากข้างในสามภพ ใช้คำพูดของมนุษย์ สามภพจะกลายเป็นจุดศูนย์รวมของการเจิ้งฝ่าในจักรวาล เป็นที่ที่อณูระดับจุลภาคมากๆ รวมตัวและแตกตัว สมรภูมิหลักของการเจิ้งฝ่า การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของชีวิตและเทียนถี่อันใหญ่โตทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่นี่ ทุกท่านลองคิดดูสามภพจะถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ อะไรก็ไม่มี นี่คือเหตุใดต้องหลีกเลี่ยงข้ามสามภพไปก่อน

            เริ่มทำการเจิ้งฝ่าอยู่ข้างนอกสามภพ ขึ้นไปข้างบนตลอดทาง ไม่ใช่เป็นเส้นเดียว แต่เป็นสี่ด้านแปดทิศทาง ระดับจุลภาคและมหภาคแผ่กระจายออกข้างนอกพร้อมกัน ทำทั้งข้างบนทำทั้งข้างล่าง เพราะยิ่งจุลภาคก็ยิ่งมหภาค มันเป็นมโนทัศน์เดียวกัน ทุกๆที่ๆไปถึงล้วนกำลังกระทำด้วยรูปแบบที่เหนือกว่าเวลาทั้งหมด ดูจากข้างบน ความเร็วของการแผ่ขยายอันใหญ่มหึมาและการซัดกระแทกอันใหญ่หลวงแบบนี้ เทพเห็นแล้วก็อกสั่นขวัญหายอย่างไม่เคยประสบมาก่อน ที่ที่ไปถึง เทียนถี่ทั้งหมดล้วนกำลังพังทลายและก่อตัวใหม่ จำนวนส่วนใหญ่กำลังได้รับการแก้ไขด้วยความเมตตา บ้างถูกคัดทิ้งไป เมื่อเร็วๆ นี้พวกท่านได้เห็นแล้วถึงการค้นพบทางดาราศาสตร์ในอเมริกา ปรากฏการณ์การก่อตัวใหม่ของระบบทางช้างเผือกและดาวเคราะห์ต่าง ๆ ก็คือทัศนียภาพของการก่อตัวในขอบเขตที่มนุษย์สามารถสังเกตได้ ปัจจุบันนี้มนุษย์ยังไม่รู้ แม้ว่ามิติในระยะต่างๆ เวลาจะแตกต่างกันมาก อันที่จริงมันอยู่ข้างในเวลาที่ใหญ่ชิ้นเดียวกัน เพียงแต่แบ่งแยกโดยช่องว่างของมิติเป็นเขตของเวลาที่ต่างกันเท่านั้น แท้จริงแล้วมันเกิดขึ้นพร้อมกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกำลังเกิดขึ้นในลักษณะอกสั่นขวัญหายเช่นนี้      การระเบิดของพลังงานอันใหญ่หลวง การก่อตัวใหม่ ขั้นตอนการก่อตัวใหม่ดำเนินไปจาก มหภาคที่สุดไปจนถึงจุลภาคที่สุด ละเอียดอย่างอัศจรรย์ เล็กอย่างประณีต ความซับซ้อนอย่างใหญ่หลวง ความใหญ่โตของท้องนภา แม้แต่องค์ที่ใหญ่โตก็อุทานด้วยความตื่นตะลึง ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ พลังแห่งเจิ้งฝ่าสำเร็จเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วมาก ในชั่วพริบตาทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอันเสร็จสิ้น และดีที่สุดสวยงามที่สุด แต่ส่วนนี้ที่ถูกกดลงมาในสามภพเชื่อมโยงกับข้างบนเป็นร่างเดียวกัน เชื่อมต่อด้วยกัน ข้างในปริมาตรอันใหญ่หลวงของพวกมันเป็นมิติที่กว้างใหญ่มาก ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูด ชีวิตที่ใหญ่มหึมาจากสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นชั้นพื้นผิวของมันไปจนถึงจุลภาคที่สุดของมัน แม้แต่ระยะทางนี้ภายในตัวของมันเอง เป็นสิ่งที่เทพองค์ที่ใหญ่มหึมาไม่สามารถจะทะลวงได้ตลอดในชั่วชีวิต หนึ่งชั่วชีวิตของเทพยาวนานเพียงใด มันใหญ่โตขนาดนี้ แต่ระหว่างการเจิ้งฝ่ามันเสร็จเรียบร้อยในชั่วพริบตา รวดเร็วอย่างยิ่ง เช่นนั้นภายในสามภพ ดูด้วยความเข้าใจของมนุษย์ พวกมันกดอัดเข้าด้วยกันจนแคบและเล็กอย่างไม่สามารถจะบรรยาย แต่เวลาของมัน มิติ โครงสร้างเหมือนกับข้างบนทุกประการ เมื่อข้างบนทะลวงตลอดชั้นที่ใหญ่หลวงหนึ่งชั้น อย่างสอดคล้องกันข้างล่างก็ทะลวงตลอดหนึ่งชั้นที่เล็กๆ บางๆด้วยเวลาเดียวกัน ท้องนภาใหญ่และเทียนถี่ที่กดอัดเข้ามาในสามภพนั้นมากมายเหลือเกิน ในจำนวนนั้นชีวิตที่ติดตามเข้าก็มีจำนวนนับไม่ถ้วน ฉะนั้นในระหว่างการเจิ้งฝ่า จะเห็นได้ว่าส่วนบนของจักรวาลและระดับจุลภาคดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก เปรียบเทียบกับความเข้าใจในชั้นนั้นๆ มีความเร็วยิ่งกว่าการระเบิดของแสงเลเซอร์ในระดับชั้นนั้นๆ นี่ข้าพเจ้าก็ใช้คำพูดซึ่งมนุษย์สามารถเข้าใจได้เร็วที่สุดมาบรรยายให้ฟัง ข้างบนเทียนถี่อันใหญ่มหึมาอย่างที่เปรียบมิได้ถูกฝ่าปรับให้ถูกต้องแล้ว แต่ ณ ที่นี้ของมนุษย์ กลับเสมือนได้ลอกผิวบางๆ ออกไปหนึ่งชั้น ทุกท่านฟังเข้าใจความหมายที่ข้าพเจ้าพูดไหม

            ภายในสามภพในระหว่างการเจิ้งฝ่า เหตุใดการทะลวงขึ้นสู่ชั้นพื้นผิวจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้าเช่นนี้ นี่ก็คือเหตุผล เมื่อการเจิ้งฝ่ากลับคืนสู่โลกมนุษย์ จักรวาลข้างบน องค์ประกอบและชีวิตทั้งหมดของจักรวาลเป็นอันทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือก้าวไปพร้อมกัน คือทำเสร็จเรียบร้อยในเวลาเดียวกัน เมื่อข้างบนเจิ้งฝ่าเสร็จเรียบร้อย พวกเรา สามภพตรงนี้ก็ทะลวงเสร็จ นี่ข้าพเจ้าก็พูดจากอีกมุมหนึ่ง คืออธิบายให้ทุกท่านเข้าใจแจ่มแจ้งว่าเมื่อเริ่มการเจิ้งฝ่า เหตุใดข้าพเจ้าไม่ทำจากข้างในสามภพ ผู้ฝึกบางคนกำลังคิด อาจารย์ไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า เช่นนั้นเหตุใดอาจารย์ไม่ทำลายอิทธิพลเก่าทิ้งไปในชั่วพริบตา อาจารย์สามารถทำได้ ใหญ่ยิ่งกว่านี้ก็ยังสามารถทำได้ แต่พวกท่านเคยคิดหรือไม่ หากข้าพเจ้าดึงพลังงานอันใหญ่มหึมา อันใหญ่หลวงในการเจิ้งฝ่ากลับมาทำในสามภพตรงนี้ ก็จะเหมือนใช้ระเบิดปรมาณูตียุง ไม่คู่ควรกับการใช้กำลัง ถ้าหากข้าพเจ้าดึงพลังงานอันใหญ่มหึมากลับมา ก็เสมือนหนึ่งเปิดสมรภูมิขึ้น ณ ที่ตรงนี้ในสามภพ ถึงแม้พวกมันเข้ามาในสามภพนี้แล้วก็ตาม แต่ปริมาตรอันใหญ่หลวงของพวกมันยังอยู่ข้างบน กดอัดเข้ามาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในเวลาที่ข้าพเจ้าแยกสลายและก่อพวกมันขึ้นใหม่ปริมาตรที่ใหญ่มากกว่าข้างบนซึ่งมันเชื่อมโยงด้วยก็จะชดเชยเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อแยกสลายพวกมันต่อไปอีก พวกมันก็จะกดอัดเข้ามาที่อย่างไม่หยุด เทียนถี่อื่นก็จะทำเช่นนี้ เทียนถี่ที่กดอัดเข้ามาจะเหมือนการต่อแรง(ผลัดแรง)เข้ามาในนี้อย่างไม่หยุดยั้ง เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู เมื่อเทียนถี่และชีวิตอันใหญ่หลวงนับจำนวนไม่ถ้วนเข้ามาในนี้อย่างต่อเนื่อง ที่ตรงนี้ก็จะกลายเป็นที่ที่อณูทั้งหมดแตกตัว กลายเป็นจุดศูนย์รวมที่ใหญ่สุดของจักรวาล พลังของข้าพเจ้าก็เป็นปริมาตรอันใหญ่มหึมา พลังที่ใหญ่ขนาดนี้ มาใช้กับจุดตรงนี้ มีแรงก็ใช้ไม่สะดวก แล้วเวลายังจะถูกลากออกไปยาวนานมาก สุดท้ายถึงแม้จะสามารถทะลวงพวกมันได้หมด เมื่อทำทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทุกท่านลองคิดดู มนุษยชาติที่ตรงนี้ สามภพที่ตรงนี้ อะไรก็จะไม่เหลือ ท่ามกลางการซัดกระแทกอันใหญ่หลวงแบบนี้ ไม่มีสิ่งใดคงเหลืออยู่อีกต่อไป นี้คือเหตุผลหนึ่งเหตุใดข้าพเจ้าจึงไม่ทำจากที่ตรงนี้โดยตรง แล้วทำไมข้าพเจ้าไม่จัดการกับเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในสามภพโดยตรงทันทีด้วยวิธีพิเศษเฉพาะล่ะ เพราะเวลาที่ข้าพเจ้าจะทำลายพวกมัน พวกมันก็จะเข้ามาขัดขวางอย่างต่อเนื่อง ก็จะปรากฏสภาพเหมือนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ฉะนั้นหากภายในสามภพไม่เกิดปัญหาที่ใหญ่จริงๆ ก็ไม่สามารถทำ ณ ที่ตรงนี้ การเจิ้งฝ่ากำลังดำเนินไปในร่างโดยรวมอย่างครอบคลุมทุกด้าน ไม่สามารถเน้นที่มนุษย์เท่านั้น ถ้าหากด้วยเหตุนี้ทำให้การช่วยเหลือองค์ประกอบสุดท้ายทั้งหมดของร่างท้องนภาอันใหญ่ล้นต้องล่าช้าออกไป นั่นจะเป็นสิ่งที่ยิ่งน่ากลัว

            แต่ที่ผ่านมาพวกท่านเคยได้ยินมา อาจารย์ก็เคยพูดกับพวกท่าน การเจิ้งฝ่าโดยรวมในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้เหลือพลังกงเป็นปริมาณมากไว้ในฝั่งนี้ของคนธรรมดาสามัญ เพื่อคุ้มครองให้ผู้ฝึกบำเพ็ญและอธิบายความจริง นี่ไม่มีปัญหา สามารถจัดการได้ทั้งหมด แต่ยังมีปัญหาอีกข้อหนึ่ง เช่นนั้นทำไมอิทธิพลเก่าสามารถควบคุมสิ่งต่างๆได้ล่ะ เพราะชีวิตทั้งหมดที่กดอัดเข้ามาในสามภพเป็นอิทธิพลเก่าทั้งหมด พวกมันก่อตัวขึ้นเป็นฉาก(เกราะ กำแพง) เวลาข้าพเจ้าจะทำเรื่องอะไรเป็นพิเศษ พวกมันก็จะรวมตัวขึ้นมาต่อต้าน หากข้าพเจ้าจะทำให้ได้ พวกมันก็จะรวบรวมกำลังทั้งหมดปิดกั้นอยู่ตรงนั้น

            ที่ผ่านมาตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ที่งานนิทรรศการสุขภาพตะวันออก เพื่อให้ผู้คนรู้จักต้าฝ่ามากขึ้น ข้าพเจ้าเคยลงมือรักษาโรคให้คน บางคนมีกรรมหนักมาก เวลาที่ข้าพเจ้ารักษาโรคให้พวกเขา อิทธิพลเก่าไม่ยอมให้ข้าพเจ้ารักษาพวกเขาให้หาย วิธีซึ่งอิทธิพลเก่าใช้ขัดขวางคือจัดเทพนับจำนวนไม่ถ้วน จำนวนมากมาย มาปิดกั้นจุดที่เป็นต้นตอของโรคของคนๆนั้นในทันที พวกมันเปลี่ยนเป็นเล็กมาก บางครั้งศิษย์ต้าฝ่ามักจะเห็นคล้ายกลับมีดาวสีทองวิ่งผ่านสายตา ก็คือสิ่งนั้น พวกมันเปลี่ยนเป็นเล็กมาก แต่มันกลับมีความหนาแน่นสูงมากๆ พวกมันยุบๆ ยิบๆ รวมตัวอยู่ด้วยกัน ปิดกั้นส่วนที่เป็นต้นตอของโรค อันที่จริงพวกมันไม่สามารถต้านทานข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสามารถรวบจับมันลงมาในหนึ่งกำมือ ข้าพเจ้าก็สามารถตีมันตกลงไป ในการเจิ้งฝ่า มีหลักการอยู่ข้อหนึ่ง – ไม่ว่าข้าพเจ้าจะจัดการอย่างไรล้วนถูกต้อง พวกท่านจดจำคำพูดนี้ของอาจารย์ที่ว่า: ไม่ว่าข้าพเจ้าจะจัดการอย่างไรล้วนถูกต้อง สิ่งที่ถูกจัดการล้วนผิด (เสียงปรบมือ) เพราะนั่นคือการเลือกของจักรวาล (สิ่งที่จักรวาลเลือก) คือการเลือกของอนาคต แต่เพียงเพื่อจะรักษาโรคให้คนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง ข้าพเจ้าตีเทพเหล่านี้ตกลงไป เมื่อตีตกลงไปด้วยมือของข้าพเจ้าแล้ว ในทันทีกั่วเว่ย(มรรคผล)ก็จะถูกตัดทอน ก็ถูกตีตกลงไป แต่พวกมันเพียงเพื่อที่จะปกป้องหลักการอันนั้นของจักรวาล หลักการของจักรวาลใหม่พวกมันมองไม่เห็น พวกมันจึงปิดกั้นอยู่ตรงนั้นไม่ยอมเลิกรา กำจัดทิ้งไปหนึ่งกองก็มาอีกหนึ่งกอง ชดเชยหนุนขึ้นมาอย่างไม่ลดละ อาจารย์ใจไม่แข็งพอ ข้าพเจ้าไม่สามารถเพียงเพราะเมตตากรุณากับคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง ก็ทำลายเทพเป็นจำนวนมากขนาดนั้น แม้ว่าพวกมันจะไม่เข้าใจการเจิ้งฝ่าในเรื่องนี้

            ข้าพเจ้าพูดถึงเรื่องนี้เพื่อจะบอกกับทุกท่านว่า ในการเจิ้งฝ่า หลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นไปตามความตั้งใจของคน เป็นเพราะอิทธิพลเก่าในระดับต่ำและสูงร่วมกันเข้ามาก้าวก่าย เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ข้าพเจ้าสามารถบุกทะลวงมัน เมื่อข้าพเจ้าจะทะลวงทะลุมัน ก็ต้องดึงพลังงานอันใหญ่หลวงกลับมากำจัดพวกมันให้สิ้นซาก แต่พวกมันก็จะนำเอาสสารอันใหญ่หลวงทั้งหมดในจักรวาลมารวบรวมไว้ที่ตรงนี้ ก็จะกลายเป็นปัญหาซึ่งยากอย่างยิ่งที่จะแก้ไขได้ในทันที แน่นอนในการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ถ้าเหล่าผู้ฝึกทำได้ถูกต้องก็จะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ เวลาที่พลังกง พลังงานซึ่งข้าพเจ้าเหลือทิ้งไว้ในจักรวาลฝั่งนี้ เหลือทิ้งไว้ภายในสามภพทำสิ่งต่างๆ ถ้าผู้ฝึกทำไม่ถูกต้อง อิทธิพลเก่าก็จะต่อต้าน ก็จะปรากฏสภาวะของอุปสรรค ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงบอกให้ผู้ฝึกปฏิบัติให้ถูกต้อง อย่าปล่อยให้พวกมันจับได้หลักการข้ออ้างใดๆ ทันทีที่พวกมันจับได้ข้ออ้างอะไรที่ใหญ่ก็จะทำลายพวกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาถึงวาระสุดท้ายแล้ว พวกมันกำลังดิ้นรนอย่างสุดกำลัง เวลาที่พวกมันจับหลักการอะไรไม่ได้ พวกมันก็ไม่กล้าประทุษร้าย เพราะถ้าเช่นนั้นก็เป็นการฝ่าฝืนหลักการ พวกมันก็เข้าใจดี จึงไม่ต้องให้ข้าพเจ้าไปกำจัดพวกมัน หลักการของจักรวาลเก่าก็จะทำการกำจัดพวกมัน เพราะพวกมันคือชีวิตเก่าซึ่งยึดการปกป้องหลักการเดิมอย่างถึงที่สุดเป็นมูลฐาน

            เช่นนั้นพูดมาถึงตรงนี้ ข้าพเจ้าจะพูดอีกเรื่องหนึ่ง อาจารย์มีสภาพอย่างไร เมื่อครู่ข้าพเจ้าบอกพวกท่านแล้วว่า องค์ประกอบสุดท้ายเหล่านั้นของเทียนถี่ในจักรวาล เมื่อข้าพเจ้าวนอ้อมสามภพ พวกมันจึงฉกฉวยโอกาสและเข้ามา ฉะนั้นแม้แต่กายเนื้อชั้นพื้นผิวของข้าพเจ้า ร่างเทพและพลังกงอันใหญ่มหึมาของข้าพเจ้าฝั่งนั้น ก็ถูกพวกมันชีวิตอันใหญ่หลวงและมากมายเหล่านี้ ซึ่งยังไม่ได้รับการปรับให้ถูกต้องโดยฝ่า ก่อเป็นกำแพงแบบหนึ่ง กำแพงแบบนี้ไม่เหมือนในความคิดที่ว่า พวกเราเอาของสิ่งหนึ่งมาวางคั่นสิ่งของต่างๆออกจากกัน ไม่ใช่อย่างนี้ มันขึ้นมาจากจุลภาคทั้งหมด ดูราวกับบรรจุเข้าไปในช่องว่างทั้งหมด แต่พวกมันมีระดับชั้นและอาณาจักรเขตแดนของพวกมัน และไม่ปะปนกับอณูของระดับชั้นที่ต่ำกว่าพวกมัน แต่เพราะระยะระหว่างอณูด้วยกันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการคงอยู่ของมิติและเวลา เมื่อเทียนถี่อันใหญ่มหึมาจำนวนมากมายในระดับชั้นสูงสุดเหล่านั้นเข้าไปในช่องว่างระหว่างอณูทั้งหมดในสามภพ ก็จะเปลี่ยนแปลงระยะระหว่างมิติและความสั้นยาวของเวลาที่มีอยู่เดิม เวลาและมิติถูกเพิ่มใหญ่ขึ้นเป็นจำนวนเท่าที่นับไม่ถ้วน ฉะนั้นพวกมันก่อตัวเป็นฉาก(กำแพง เกราะ)โดยอาศัยระยะห่างอันใหญ่หลวงของมิติอันไกลโพ้น และกาลเวลาที่ยืดยาวออกไปมากมาย  จึงทำให้อิทธิพลเก่าซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเกราะของระยะห่างแบบนี้ สามารถทำในสิ่งที่พวกมันต้องการทำ

            ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน พวกมันก่อกวนคน ก่อกวนความนึกคิดของคน ไม่เพียงเฉพาะภายนอก พวกมันสามารถทะลวงผ่านร่างกายมนุษย์ เวลาที่องค์ประกอบชั้นสูงยับยั้งชั้นพื้นผิวของร่างกายมนุษย์ เทพอิทธิพลเก่าเหล่านั้นจึงสามารถทะลวงผ่านร่างกายของคนธรรมดาสามัญโดยได้รับการคุ้มครอง พูดจากอีกด้านหนึ่ง ร่างกายชั้นพื้นผิวของมนุษย์เราดูด้วยตาเนื้อ รูปลักษณ์และโครงสร้างเนื้อหนังมังสาของคนมีความละเอียดมาก แต่เมื่อดูร่างกายมนุษย์ผ่านกล้องขยายที่ใหญ่และมีกำลังขยายสูงหลายๆเท่า จะพบว่าอณูของคนและอณูซึ่งประกอบขึ้นเป็นร่างกายคนนั้นหยาบเหมือนเม็ดทราย มีช่องว่างมากมาย ถ้าคนมีวิทยาการที่สามารถจะขยายให้ใหญ่ขึ้นไปอีก ช่องว่างก็จะใหญ่อย่างน่าตกใจ มโนทัศน์ในระดับที่จุลภาคลงไปอีกช่องว่างระหว่างอณูเหล่านี้จะใหญ่เท่าๆ กับระยะห่างระหว่างโมเลกุลและดาวดวงต่างๆ ในระยะที่ห่างขนาดนี้ การที่ชีวิตและสสารซึ่งประกอบขึ้นจากอณูที่จุลภาคมากๆ จะทะลวงผ่าน เป็นสิ่งที่ทำได้อย่างสะดวกสบายไม่ใช่หรือ ฉะนั้นในบางเวลามันจะเจาะทะลวงขึ้นมาถึงชั้นพื้นผิวของคน ดูภายในคือคนๆนี้ แต่ตรงกลางมีอีกชีวิตหนึ่งแทรกอยู่

            พูดมาถึงตรงนี้ขอบอกทุกท่าน ปัญหานี้ไม่เกิดกับทุกท่าน ส่วนที่บำเพ็ญเสร็จสมบูรณ์ข้าพเจ้าปิดให้กับพวกท่านทั้งหมดแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าหากกระทำถูกต้อง ชั้นพื้นผิวส่วนที่ยังบำเพ็ญไม่เสร็จไม่มีสิ่งใดกล้าเข้ามา ประการแรกเพราะอิทธิพลเก่าก็ไม่กล้าบ่อนทำลายหลักธรรมของจักรวาลเก่า ประการที่สองเพราะพวกท่านมีอาจารย์ มีเทพพิทักษ์ฝ่า หากชั้นพื้นผิวด้านที่เป็นมนุษย์ของพวกท่านไม่ขจัดจิตยึดติดทิ้งไป อาจารย์และเทพพิทักษ์ฝ่าก็หมดปัญญา ถ้าหากมีเจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่ง อะไรอาจารย์และเทพพิทักษ์ฝ่าก็สามารถทำให้กับพวกท่านได้

            สภาพของข้าพเจ้าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถจินตนาการ ระหว่างการเจิ้งฝ่าอาจารย์ได้เก็บรวบรวมชีวิตของสรรพชีวิต และชีวิตขององค์ประกอบทั้งหมดในจักรวาลเข้ามาไว้ในร่างกาย ประการแรกเพื่อความปลอดภัยของการเจิ้งฝ่า ชีวิตของสรรพชีวิตทั้งหมดอยู่กับข้าพเจ้าที่นี่ ไม่มีใครสามารถทำสิ่งเป็นภัยคุมคามต่อจักรวาล ประการที่สองเพื่อไม่ให้ชีวิตใดๆ และองค์ประกอบจักรวาลทุกชนิดรอดพ้นจากการเจิ้งฝ่า ประการที่สามเพื่อปกป้องชีวิตพวกมันในระหว่างการเจิ้งฝ่า ฉะนั้นทั่วทั้งตัวของอาจารย์ล้วนเป็นชีวิตของจักรวาล ณ ระดับชั้นต่างๆ มีขนาดทั้งใหญ่และเล็ก หลากหลายประเภทและรูปลักษณ์ของเต๋า เทพและพุทธะรวมทั้งคนด้วย มีทั้งใหญ่และเล็ก แต่พวกเขาไม่สามารถก่อกวนอาจารย์ ไม่สามารถส่งผลกระทบใดๆ เพราะข้าพเจ้าได้เก็บรวบรวมชีวิตของสรรพชีวิตเอาไว้ บางคนสามารถมองเห็นด้วยตาของคนธรรมดาสามัญ เที่ยนมู่ของผู้ฝึกก็สามารถมองเห็น ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้ายังไม่เคยพูดถึง ผู้ฝึกบางคนถ้าหากมีปัญหาด้านซินซิ่งเมื่อเห็นแล้วก็จะคาดเดาอย่างผิดๆ

            ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า สภาวะการบำเพ็ญที่ต่างกัน จะก่อเกิดสภาพการบำเพ็ญในระดับชั้นที่ต่างกันและสภาวะที่ต่างกัน เทียนมู่ไม่เปิดจะอู้(รับรู้)ในหลักการของฝ่า คนที่เทียนมู่เปิดก็จะมีการรบกวนจากภาพลวง เพื่อทดสอบผู้ฝึกที่สามารถมองเห็น อิทธิพลเก่าสุดท้าย ณ ระดับสูงสุดซึ่งยังไม่ถูกฝ่าปรับให้ถูกต้องที่ผ่านมาก็จะใช้อิทธิพลเก่า ณ ระดับต่ำ ทำสิ่งไม่ดีในมิติและเวลาที่ถูกขยายใหญ่ขึ้น   การทำเช่นนี้ของพวกมันในระหว่างการเจิ้งฝ่าเป็นการก่อบาป เป็นการสั่นคลอนเจิ้งซิ่น(ความเชื่อถูกต้อง) เจิ้งเนี่ยน(ความคิดถูกต้อง)ของศิษย์ต้าฝ่าอย่างร้ายแรง

            แต่ให้พวกท่านจดจำข้อหนึ่งตลอดไป : ไม่ว่าใครกำลังก่อกวน ล้วนเป็นการชั่วขณะ ล้วนเป็นภาพลวง ล้วนไม่ใช่องค์ร่างหลัก ล้วนเป็นเหมือนอากาศธาตุไหลผ่านไปมา ท่ามกลางอวกาศองค์ประกอบสสารและชีวิตประเภทต่างมีอยู่ทั่วไป มากเสียจนไม่สามารถคำนวณ ทั้งมีรูปลักษณ์และไม่มีรูปลักษณ์พวกมันล้วนคงอยู่ พวกมันก็คือชีวิตในมิติจุลภาคและชีวิตในมิติอื่นๆ ก่อนที่จะการเจิ้งฝ่าจะสำเร็จสมบูรณ์ เทพระดับจุลภาคในจักรวาลล้วนคงอยู่ในแต่ละมิติของตน ณ เวลาเดียวกัน ณ ที่เดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่ตรงนี้หรือไม่หยุดอยู่ตรงนี้ เป็นเพียงความเข้าใจแบบหนึ่ง องค์ประกอบเหล่านั้นซึ่งคงอยู่ตรงนั้นตามธรรมชาติ จะมีรูปหรือไม่มีรูป ก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อพวกท่าน ศิษย์ต้าฝ่าที่มีเจิ้งเนี่ยนเจิ้งสิง(ความคิดถูกต้อง การกระทำถูกต้อง)ไม่มีใครสามารถควบคุม

            ข้าพเจ้ายังจะบอกทุกท่าน ชีวิตชั้นสูงอันใหญ่มหึมาและองค์ประกอบของอิทธิพลเก่า ดูเหมือนทำให้ชั้นพื้นผิวของข้าพเจ้าแยกจากกัน แต่ ตราบชั่วนิรันดร์พวกมันจะไม่สามารถแยกในระดับยิ่งจุลภาคของข้าพเจ้าได้เพราะไม่มีชีวิตใดเหนือกว่าข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ) นั่นเป็นสิ่งที่พวกมันไม่สามารถจะเห็นตลอดไป นั่นเป็นสิ่งที่สรรพชีวิตในจักรวาลไม่สามารถจะเห็นตลอดไปเช่นกัน - มีเพียงตัวข้าพเจ้าเองที่สามารถควบคุม จึงพูดว่า ปรากฏการณ์อย่างที่กล่าวไปข้างต้นได้สร้างภาพลวงตาแบบหนึ่งให้แก่ผู้คน ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ผิดบางอย่าง วันนี้ข้าพเจ้าจะบอกทุกท่านว่าเรื่องเป็นอย่างไร

            จะขอบอกพวกท่าน     ขณะนี้พวกท่านมองดูข้าพเจ้าด้วยตาเนื้อ ชั้นพื้นผิวที่สุดของข้าพเจ้าก็คือข้าพเจ้าหลี่หงจื้ออย่างแท้จริง ฝั่งนั้นที่พวกท่านเห็นคือร่างพุทธะของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าชั้นพื้นผิวที่สุดที่พวกท่านมองเห็นในขณะนี้ ก็คือองค์หลักที่สุดของข้าพเจ้าหลี่หงจื้อ (เสียงปรบมือ) เพราะอะไรหรือ เพราะข้าพเจ้า… เพื่อจะทำเรื่องนี้ เพื่อให้สรรพชีวิตได้รับการช่วยเหลือทั้งหมด ข้าพเจ้าจึงมาถึงชั้นที่ต่ำสุด (เสียงปรบมือ) ฉะนั้นพวกท่านไม่ต้องสนใจว่าพวกท่านมองเห็นอะไร ถึงแม้จะมองเห็นฝ่าเซินของข้าพเจ้า มองเห็นกงเซิน(ร่างพลังกง)ของข้าพเจ้า เห็นร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใดของข้าพเจ้าในระดับชั้นสูงก็ตาม พวกท่านอย่าได้เกิดจิตยึดติดอะไร นั่นล้วนคงอยู่โดยมีข้าพเจ้าชั้นพื้นผิวนี้เป็นองค์หลัก ข้าพเจ้า ณ ชั้นผิวนอกสุดของมนุษย์ตรงนี้ คือองค์หลักที่สุด (เสียงปรบมือ) แต่เนื่องจากอาจารย์อยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ ยังจำเป็นต้องทำตัวให้สอดคล้องกับหลักการของมนุษย์ในโลก ไม่เช่นนั้นผู้คนจะรู้สึกว่าข้าพเจ้าดูแปลกประหลาด อิทธิพลเก่าคิดจะใช้เล่ห์เพทุบายกับข้าพเจ้า ทำเรื่องไม่ดีอย่างไม่เลิกรา เพื่อจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจิ้งเนี่ยนของศิษย์ต้าฝ่า นอกจากชีวิตของสรรพชีวิตของจักรวาลซึ่งเก็บรวบรวมอยู่กับข้าพเจ้าตรงนี่แล้ว ข้าพเจ้าไม่ใช้องค์ประกอบจากภายนอก ในจักรวาลตัวปลอมของข้าพเจ้าทั้งหมดล้วนถูกอิทธิพลเก่าจงใจสร้างขึ้นมา การทำเช่นนี้มีบาปไม่ว่ามันจะบังเกิดผลทางด้านบวกหรือด้านลบ ข้าพเจ้าคิดว่าประเด็นนี้ข้าพเจ้าได้อธิบายให้พวกท่านฟังอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว

            แม้ข้าพเจ้าได้มาถึงที่นี่ ไม่มีใครสามารถจะมองเห็นว่าสุดท้ายข้าพเจ้ามีความจุลภาคเพียงใด พวกมันสามารถมองเห็นเพียงอณูชั้นผิวบนที่สุดของร่างกายคนส่วนนี้ วัตถุทุกชิ้น สิ่งของทุกชิ้นในจักรวาลล้วนแต่ประกอบขึ้นจากอณูในระดับจุลภาคต่างๆ ทีละชั้นทีละชั้นจนถึงชั้นพื้นผิว สิ่งเหล่านี้เทพสามารถมองเห็น ค้นไปถึงรากของมัน ค้นไปถึงต้นกำหนดของมัน เหมือนเช่นทางสายหนึ่ง ยื่นขยายออกไปทีละนิดทีละนิด มาจากที่ใด ข้าพเจ้ามาจากข้างใน และมาจากข้างนอก ข้าพเจ้ามาจากความไม่มีและก่อเกิดเป็นมี ปรากฏขึ้น ณ ยอดแห่งท้องนภาสวรรค์ และจากที่ตรงนั้นลงมาทีละขั้นๆ  จนถึงชั้นพื้นผิวของสามภพ ไม่มีชีวิตใดรู้ว่าข้าพเจ้าคือใคร

            ที่ผ่านมายังมีสภาพการณ์แบบหนึ่ง งานการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ของข้าพเจ้า พวกมันอิทธิพลเก่า ได้ใช้กลอุบายทำเรื่องต่างๆ มากมาย พวกมันไม่เพียงจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ พวกมันยังต้องการให้เหล่าชีวิตในจักรวาลอันใหญ่หลวงที่ไม่เกี่ยวข้องเห็นสิ่งที่พวกมันทำ ฉะนั้นพวกมันจึงพยายามทำให้แนบเนียน พวกมันจึงใช้สสารของข้าพเจ้าบางส่วน หรือพลังกงบางส่วน และภายใต้อิทธิพลของพวกมัน สร้างเป็นภาพลักษณ์ของอาจารย์ เป็นภาพลักษณ์ของพุทธะ ข้าพเจ้าใม่บอกให้พวกท่านรู้ก่อนหน้านี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ทำให้พวกท่านสับสน ยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่ง คือจุดประสงค์ของพวกมันไม่ใช่เพื่อจะบ่อนทำลาย ใช้คำพูดของพวกมันคือช่วยข้าพเจ้าด้วยการแสดงออกในด้านบวก นี่คือสองส่วนซึ่งอิทธิพลเก่าจัดเตรียม ส่วนที่หนึ่งคือแสดงออกในด้านลบ อีกส่วนหนึ่งคือแสดงออกในด้านบวก พวกมันบางส่วนเข้าไปในร่างกายผู้ฝึกเพื่อทำบางสิ่งบางอย่าง เคยมีสภาพเช่นนี้ปรากฏเป็นเฉพาะราย ฉะนั้นบางคนที่สามารถเห็นสภาพแบบนี้จะพูดว่าโอ้ ท่านคืออาจารย์ แล้วก็นับถือเขาเป็นอาจารย์ แต่ว่ามันไม่ใช่(สิ่งที่)ข้าพเจ้าจัดเตรียม พูดอย่างเข้มงวดนั่นไม่ใช่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไม่ยอมรับพวกมัน เพราะพวกมันจัดเตรียมโดยอิทธิพลเก่า โดยตัวของมัน นี่คือปรากฏการณ์ของจักรวาลที่มีการเสื่อมแล้ว ครั้นเมื่อคนเห็นก็จะทำให้ความคิดที่ถูกต้องของผู้ฝึกบิดเบือนไป บ่อนทำลายอย่างร้ายแรง  ต่อความคิดและความเชื่อที่ถูกต้องของผู้ฝึก มาถึงเวลานี้ก็จะต้องกำจัดพวกมันทิ้งไป เวลานี้พวกมันก็ถูกตีตกนรกไปแล้ว ข้าพเจ้ายกเรื่องนี้ขึ้นมาในวันนี้คือจะบอกทุกท่าน ผู้ฝึกของพวกเราบางคน ท่านอย่าได้ตกลงไปด้วยเหตุนี้อย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น บางคนขาข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนความว่างเปล่าแล้ว ไม่ค่อยมีสติสัมปชัญญะ เป็นเฉพาะบางราย พวกท่านต้องระวัง

            เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดสภาพของข้าพเจ้าไปบ้างเล็กน้อย ยังมีอีกปัญหาหนึ่งคือ ในระยะหลังๆ นี้มีสภาวะอันไม่ถูกต้องบางประการได้ปรากฏขึ้นในหมู่ผู้ฝึกเฉพาะรายบางคน และเป็นปัญหาร้ายแรงมาก เกิดจากสาเหตุหลายประการด้วยกัน สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือทุกคนมีระดับชั้นสูงขึ้นแล้ว อาจารย์ได้พูดถึงกั่วเว่ย(มรรคผล)ที่พวกท่านจะบรรลุ จึงมีจิตใจฮึกเหิม รู้สึกว่าตัวเองแกร่งกล้าแล้ว นี่ข้าพเจ้าได้แต่พูดเปรียบเทียบด้วยคำพูดในระดับต่ำของมนุษย์ เพราะไม่มีคำพูดที่เหมาะสมจะเปรียบเทียบ ฉะนั้นบางคนจึงเสนอแนะว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องเคารพอาจารย์แล้ว พวกเราปฏิบัติตามฝ่าก็เพียงพอแล้ว ให้ยึดฝ่าเป็นอาจารย์

แน่นอน ข้าพเจ้าบอกให้พวกท่านยึดฝ่าเป็นอาจารย์ สิ่งนี้ไม่ผิด แต่จุดประสงค์ของการที่ข้าพเจ้าบอกให้พวกท่านยึดฝ่าเป็นอาจารย์ไม่ใช่เป็นเช่นนี้ แล้วเป็นอย่างไร ทุกท่านทราบ ข้าพเจ้ามีศิษย์ต้าฝ่า 100 ล้านคน ถ้าศิษย์ต้าฝ่าทุกท่านล้วนต้องให้ข้าพเจ้าองค์หลักคอยบอกให้พวกท่านบำเพ็ญอย่างไร คอยดูแลพวกท่าน เวลาประสบกับปัญหาพวกท่านแต่ละคนต่างต้องมาถามข้าพเจ้าโดยตรง การแปรผันพลังกงของพวกท่านแต่ละคน การหยวนหมั่นโลกของพวกท่าน การชำระกรรมของพวกท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกท่านล้วนต้องให้ข้าพเจ้า องค์หลักตรงนี้ทำให้ ทุกท่านลองคิดดู นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะก่อนที่ฝ่าจะปรับโลกมนุษย์ให้ถูกต้องและกำจัดอุปสรรคสุดท้ายทิ้งไป นี่เป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้ เช่นนั้นผู้ฝึกมากมายที่ไม่ได้พบกับข้าพเจ้าจะบำเพ็ญอย่างไร มีฝ่าอยู่ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกให้พวกท่านต้องยึดฝ่าเป็นอาจารย์ นี่คือจุดประสงค์มูลฐาน ข้าพเจ้ายังบอกพวกท่านว่าฝ่าชุดนี้ เขามีอานุภาพเพียงใด ข้าพเจ้าได้หลอม(บรรจุ)ความสามารถอันใหญ่หลวงของข้าพเจ้าเข้าไว้ในฝ่าชุดนี้ ฉะนั้นฝ่าชุดนี้สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พวกท่าน (หยุดชั่วขณะ เสียงปรบมือ) ยังมีผู้ฝึกบางคน… เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่เกี่ยวกับสภาพของข้าพเจ้า มีผู้ฝึกเฉพาะรายบางคนเข้าใจไม่แจ่มแจ้ง และไม่เคารพอาจารย์ด้วยเหตุนี้ เริ่มกล้าที่จะวิจารณ์ว่าฝ่าสูงเพียงใด ว่าข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์เป็นอย่างไรอย่างไร ฝ่าชุดนั้นได้สร้างราชา จ้าวนับจำนวนไม่ถ้วนของท้องนภาอันใหญ่ล้นทั้งหมด และเป็นหลักประกันสำหรับการคงอยู่ของชีวิตทั้งหมด และองค์ประกอบต่างๆในจักรวาล ข้างในนั้นรวมทั้งท่านซึ่งเล็กกระจิดริด แน่นอนการเป็นผู้ฝึก ข้าพเจ้าไม่ใช่บอกว่าไม่ให้พวกท่านพูด (แต่)ในคำพูดของท่านเหล่านี้ ข้าพเจ้ามองเห็นจิตยึดติดของท่าน และทิศทางอันน่ากลัวที่พวกท่านกำลังมุ่งไป ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่พวกท่านเห็นนั้นต่ำเหลือเกิน บางสิ่งบางอย่างโดยแท้จริงไม่เป็นไปอย่างที่ท่านเข้าใจ หลายๆ สิ่งล้วนเป็นภาพลวงซึ่งเกิดจากความคิดที่ไม่ถูกต้องเที่ยงตรง

เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดประโยคหนึ่งว่า ระดับชั้นในจักรวาลซึ่งไม่อาจจะวัดและไร้ขอบเขต แต่ภายใต้อิทธิพลของระดับชั้นสูงสุด จากระดับชั้นที่ไม่อาจจะวัดและไร้ขอบเขตทั้งหมด ซึ่งอยู่ข้างใต้พวกมันจนถึงระดับมนุษย์ตรงนี้ ล้วนมีปรากฏการณ์ ณ ระดับชั้นต่างๆ ทุกท่านลองคิดดู ปรากฏการณ์นี้จะมีความซับซ้อนเพียงใด ใหญ่มหึมาเพียงใด ปรากฏการณ์ ณ ระดับชั้นใดล้วนเป็นหลักการในระดับชั้นนั้น ล้วนเป็นการแสดงออกของหลักความจริงในระดับชั้นนั้น แต่ทัศนียภาพซึ่งพวกท่านเห็นในระดับชั้นใดล้วนไม่ใช่มูลฐานที่สุด

            ข้าพเจ้าให้ผู้ฝึกหลายๆ คนได้เห็นถึงปรากฏการณ์บางอย่าง ณ ระดับชั้นต่างๆ ในระหว่างการเจิ้งฝ่า เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเจิ้งฝ่าให้กับของทุกท่าน  เพื่อให้พวกท่านศึกษาฝ่าได้ดี  เพิ่มความมั่นใจให้การบำเพ็ญก้าวรุดหน้ามากยิ่งขึ้น  เพิ่มความมั่นใจในการอธิบายความจริง  และความมั่นใจในการฟาเจิ้งเนี่ยน ท่านต้องไม่นำปรากฏการณ์ที่ท่านเห็นในระดับชั้นต่ำมาก อันเป็นเพียงไม่กี่ระดับชั้นที่ต่ำสุดในจำนวนระดับซึ่งวัดไม่ได้และไร้ขอบเขต มาตั้งเป็นสภาพการณ์มูลฐานของการเจิ้งฝ่าของจักรวาลเป็นอันขาด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในระหว่างการเจิ้งฝ่า ณ ระดับชั้นใดล้วนมีเนื้อแท้ของปรากฏการณ์ที่ต่างกันในทุกๆระดับชั้น

พวกท่านทราบไหม การบำเพ็ญเพียงประเด็นเดียว เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากในจักรวาลระดับต่ำ เมื่อขึ้นถึงระดับชั้นสูงก็จะเรียบง่าย ไม่มีมโนทัศน์ของการบำเพ็ญอีกต่อไป มีแต่ความคิดในเรื่องการชำระกรรม พูดในระดับสูงขึ้นไปอีกคือ เรื่องยุ่งยากทั้งหมดเป็นเพียงการปูทางไปสู่สวรรค์    ระดับสูงขึ้นไปอีก การชำระกรรม การอดทนต่อทุกข์ การบำเพ็ญ สิ่งเหล่านี้   ไม่มีในมโนทัศน์อีกต่อไป มีแต่การเลือก ณ ระดับชั้นสูงในจักรวาลมีแต่เพียงหลักการข้อนี้ เห็นว่าคนไหนใช้ได้ก็เลือกเขา นี้คือหลักการ   บำเพ็ญหรือ พวกเราไม่ได้จัดเตรียมให้บำเพ็ญ การบำเพ็ญคืออะไร พวกเราต้องการแต่จะล้างมัน(เขา)ให้สะอาด ล้างให้สะอาดขึ้นไปทีละขั้นทีละขั้น ก็คือล้างให้สะอาด! แต่เมื่อปรากฏการณ์ ณ ระดับชั้นต่างๆ จึงกลายเป็นการปูทาง ความยุ่งยาก การอดทนต่อทุกข์ การชำระกรรม การบำเพ็ญเป็นต้น บำเพ็ญกันอย่างนี้ ฝึกกันอย่างนั้น

            ข้าพเจ้าพูดมาถึงประเด็นนี้ ข้าพเจ้าก็ได้เปิดเผยหลักการใหญ่ออกมาข้อหนึ่ง โดยแท้จริง ในจักรวาลนี้ สรรพชีวิตจะรู้ว่าข้าพเจ้าเป็นใครหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่มีจุดหนึ่งต้องเข้าใจโดยแจ่มแจ้ง นั่นคือข้าพเจ้ากำลังทำการเจิ้งฝ่า ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเป็นใคร ข้าพเจ้ากำลังทำการเจิ้งฝ่า ข้าพเจ้าเคยพูดกับอิทธิพลเก่าว่า ท่านไม่รู้ว่าข้าพเจ้าเป็นใครก็ไม่เป็นไร ท่านไม่เชื่อว่าข้าพเจ้าเป็นใครก็ไม่เป็นไร ก็ไม่ใช่เป็นความผิดของพวกท่าน แต่ข้าพเจ้าจะบรรลุจุดใด พูดตามความคิดของพวกท่าน ข้าพเจ้าก็กำลังบำเพ็ญ เช่นนั้นข้าพเจ้าบรรลุผลสำเร็จอะไร พวกท่านก็รู้อยู่ หันกลับไปดูสิ่งที่พวกท่านทำ พวกท่านกำลังทำบาปใช่หรือไม่ นอกจากนี้ พูดในระดับชั้นสูงขึ้นไปอีก การบรรลุผลสำเร็จอะไร ก็ไม่มีมโนทัศน์นี้ นั่นคือการเลือกของจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้ากระทำระหว่างการเจิ้งฝ่าในวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้าต้องการ พูดให้ชัดก็คือการเลือกของจักรวาลในอนาคต ก็คือความต้องการของจักรวาลในอนาคต (เสียงปรบมือ) การเป็นชีวิตของจักรวาลเก่า รวมทั้งองค์ประกอบของชีวิตทั้งหมด การเจิ้งฝ่าในเรื่องนี้ การเลือกของข้าพเจ้า ให้ชีวิตทั้งหมดประสานกลมกลืนเข้าด้วยกันตามที่ข้าพเจ้าเลือก โดยนำเอาวิธีที่ดีที่สุดของพวกท่านออกมา ไม่ใช่เปลี่ยนเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการ แต่ให้ประสานกลมกลืนเข้าด้วยกันตามที่ข้าพเจ้าบอก นี่เป็นความคิดที่ดีงามที่สุดซึ่งชีวิตในจักรวาลจะมีได้ (เสียงปรบมือ) แต่อิทธิพลเก่าไม่ทำเช่นนี้ พวกมันนำเอาสิ่งที่พวกมันเลือกไปตั้งเป็นสิ่งที่มูลฐานที่สุด และนำเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้าทำ เพื่อให้ประสานกลมกลืนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันต้องการ ตรงกันข้ามกันทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่อยากจะกำหนดความผิดที่รุนแรงมากนักกับพวกมัน ณ เวลานี้ ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูดว่าเป็นความผิดอะไร แต่เป็นความผิดอย่างแน่นอน ทำอย่างนั้นไม่ได้โดยเด็ดขาด

            ฝ่าเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ก็เป็นการพูดถึงปัญหาข้อหนึ่ง การเป็นอาจารย์ พูดจากใจ พวกท่านจะเคารพข้าพเจ้าหรือไม่ โดยแท้จริงข้าพเจ้าไม่ใส่ใจ เมื่อระยะแรกที่ข้าพเจ้าช่วยพวกท่าน หลายต่อหลายคนยังด่าว่าข้าพเจ้าอยู่ ระหว่างที่ฟังข้าพเจ้าบรรยายบางคนก็ยังด่าว่าข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าไม่ใส่ใจ ข้าพเจ้าต้องการแต่จะช่วยท่านให้สำเร็จ (เสียงปรบมือ) จึงพูดว่าไม่ว่าพวกท่านจะปฏิบัติต่ออาจารย์อย่างไร อาจารย์ไม่นำมาใส่ใจเลยจริงๆ องค์ประกอบ ณ ระดับชั้นใดๆ ในจักรวาลไม่สามารถจะทำให้ข้าพเจ้าหวั่นไหวได้ เช่นนั้น มีปัญหาข้อหนึ่ง ก็คือถ้าหากพวกท่านไม่เคารพอาจารย์ พูดตามหลักการของจักรวาล นั้นเป็นความผิด ฉะนั้นอิทธิพลเก่าก็จะเจาะช่องว่างและทำลายพวกท่านด้วยเหตุนี้ พวกมันจับได้ข้ออ้างที่ใหญ่ที่สุดในการทำลายพวกท่าน เพราะพวกมันมองเห็นตลอดขั้นตอนของการที่ข้าพเจ้าช่วยเหลือพวกท่าน

            มนุษยชาติในวันนี้ อันที่จริงหากไม่ใช่เนื่องจากการเจิ้งฝ่า ก็ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้นานแล้ว มาตรฐานความนึกคิดของมนุษย์อยู่ ณ ระดับต่ำกว่านรกแล้ว เป็นเพราะการเจิ้งฝ่า ข้าพเจ้าไถ่ถอนบาปกรรมของสรรพชีวิตทั้งหมดในสามภพ (เสียงปรบมือ) เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู พูดเฉพาะพวกเราผู้ฝึกก็พอ ในระยะแรกเปรียบเสมือนข้าพเจ้าตักช้อนพวกท่านขึ้นมานรก (เสียงปรบมือ) ข้าพเจ้าได้แบกรับแทนพวกท่านจริงๆ บาปกรรมต่างๆ ที่พวกท่านก่อไว้นับแสนปี(นับพันร้อยปี) ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้ายังจะช่วยให้พวกท่านสำเร็จเป็นเทพ ในระหว่างขั้นตอนนี้ ข้าพเจ้าได้ทุ่มเทความตั้งใจทั้งหมดให้กับพวกท่าน ในเวลาเดียวกัน เพราะพวกท่านจะสำเร็จเป็นเทพระดับสูงเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็ต้องให้เกียรติยศ ซึ่งเทพระดับสูงเช่นนั้นพึงมีให้แก่พวกท่าน และบุญวาสนาทุกอย่างซึ่งพวกท่านพึงมี ณ ระดับสูงเช่นนั้น (เสียงปรบมือ) ตั้งแต่บุพกาลมายังไม่มีเทพองค์ใดกล้าทำเช่นนี้ ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้มาก่อน

            ถึงแม้พวกอิทธิพลเก่าจะเข้ามาวุ่นวายในเรื่องนี้ คิดจะทำให้เป็นไปตามที่พวกมันต้องการก็ตาม พวกท่านรู้ไหม ชีวิตทั้งหมดของอิทธิพลเก่านับถือข้าพเจ้าอย่างศิโรราบ (เสียงปรบมือ) ถึงแม้พวกมันจะก่ออุปสรรคบางประการให้กับการเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้า แต่ตลอดมาพวกมันไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับข้าพเจ้าโดยตรง เพราะพวกมันเคารพข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ ปรบมืออีก) ฉะนั้นต่อพวกเรามีผู้ฝึกบางคนสับสนไปชั่วขณะ มีสภาวะจิตไม่ถูกต้อง พวกท่านลองคิดดู ครั้นพวกท่านไม่เคารพข้าพเจ้า อิทธิพลเก่าก็จะลงมืออย่างโหดเหี้ยม พวกมันเห็นว่าคนๆนี้เลวมาก แน่นอนพวกมันจะไม่ทำลายท่านในทันที พวกมันจะชักนำพวกท่าน ทำให้พวกท่านเห็นภาพลวงมากขึ้นมากขึ้น ทำให้จิตใจของท่านไม่ถูกต้องมากขึ้นมากขึ้น แปรจิตใจของท่านที่มีต่ออาจารย์ให้เลวลง นำพวกท่านไปสู่ทางมาร และทำให้พวกท่านทำบาปอย่างมหันต์

            พวกท่านรู้ไหมว่า ในระหว่างเจิ้งฝ่าข้าพเจ้าดำเนินการโดยตั้งอยู่บนหลักการอะไร ข้าพเจ้าไม่ถือบาปกรรมทั้งหมดชึ่งสรรพชีวิตได้ก่อไว้ในประวัติศาสตร์ (เสียงปรบมือ) ดูเพียงทัศนคติที่สรรพชีวิตมีต่อการเจิ้งฝ่าในระหว่างการเจิ้งฝ่าในครั้งนี้! (เสียงปรบมือ) ข้าพเจ้าเปิดประตูไว้กว้างมากแล้ว ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านว่า หากว่าข้าพเจ้าไม่ดูทัศนคติต่อการเจิ้งฝ่า ฝ่าใหม่ จักรวาลใหม่ก็คงไม่มีอยู่ ฉะนั้นทัศนคติต่อการเจิ้งฝ่าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อพวกท่านทำผิดในจุดนี้ ในยามที่อิทธิพลเก่าจะทำลายพวกท่าน ข้าพเจ้าก็ไม่มีอะไรจะพูด

            เวลาพวกท่านไม่เคารพอาจารย์ พวกท่านรู้ไหมว่าข้าพเจ้าคิดอย่างไร โดยแท้จริงข้าพเจ้าไม่ใส่ใจ ณ ขณะนี้พวกท่านรู้ไหมว่าข้าพเจ้าเป็นใคร พวกท่านรู้แต่เพียงรูปลักษณ์ชั้นพื้นผิวที่เป็นมนุษย์ของข้าพเจ้า ที่ปรากฏแก่พวกท่านก็คือภาพลักษณ์ในจักรวาล ในอนาคตพวกท่านจะไม่รู้โดยมูลฐานว่าข้าพเจ้าเป็นใคร ชีวิตใดๆ ในจักรวาลก็ไม่รู้โดยมูลฐานว่าข้าพเจ้าเป็นใคร ท่านปฏิบัติดีหรือไม่ดีกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ใจใส่จริงๆ แต่อิทธิพลเก่าพวกมันจะทำลายพวกท่านในทุกข์ภัยครั้งนี้ พึงระวังให้ดี

            พูดมาถึงตรงนี้ ข้าพเจ้าจะพูดต่ออีกหน่อย ในสิ่งที่ข้าพเจ้าบอกให้ทุกท่านทำในระหว่างการเจิ้งฝ่า ทุกท่านได้เห็นแล้ว การที่พวกท่านอธิบายความจริง ฟาเจิ้งเนี่ยน และการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่าน สามสิ่งนี้คือสิ่งสำคัญที่สุดสามประการซึ่งศิษย์ต้าฝ่าทำในขณะนี้ การอธิบายความจริง พูดตามหลักการของชั้นพื้นผิวของมนุษย์ชั้นนี้ เป็นการเปิดโปงการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายในครั้งนี้ ฟาเจิ้งเนี่ยน เป็นการกำจัดพวกที่ไม่อาจจะเยียวยารักษา ชีวิตสกปรกที่สุดที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า เช่นนั้นพิจารณาตามหลักการที่สูงขึ้นไปอีก จุดประสงค์แท้จริงของการอธิบายความจริง คือเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต ให้มนุษยชาติรอดพ้นจากการถูกคัดทิ้งไป อิทธิพลเก่าใช้ชีวิตชั่วร้ายทำชั่วกับศิษย์ต้าฝ่า หนึ่งเพื่อเป็นการทดสอบ สองเพื่อให้ข้าพเจ้ากำจัดขยะเหล่านี้ออกไปจากจักรวาล การฟาเจิ้งเนี่ยนของศิษย์ต้าฝ่าโดยมูลฐาน เป็นการปฏิเสธการจัดเตรียมของสิ่งชั่วร้าย กำจัดการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านทำ แท้จริงล้วนแต่ทำให้ตัวท่านเอง ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้กับข้าพเจ้าแม้แต่อย่างเดียว พร้อมกันนี้ข้าพเจ้ายังจะบอกพวกท่าน ตั้งแต่วันที่พวกท่านเริ่มต้นบำเพ็ญและดำเนินมาถึงทุกวันนี้ ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าบอกพวกท่าน ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าบอกให้พวกท่านทำ ไม่มีสิ่งใดที่ทำเพื่อผู้อื่น การบำเพ็ญของพวกท่าน สามารถทำประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติและสังคมมนุษย์ ในระหว่างบำเพ็ญสามารถทำให้ศิษย์ต้าฝ่าต่างช่วยซึ่งกันและกัน ให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น สามารถทำให้ศิษย์ต้าฝ่าลดแรงกดดัน และการสูญเสียในระหว่างถูกประทุษร้ายจากสิ่งชั่วร้าย เหล่านี้ล้วนเป็นผลพลอยได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านทำ จุดประสงค์แท้จริงคือเพื่อความสำเร็จของพวกท่าน ในอนาคตเมื่อพวกท่านหันกลับมาดู ณ ขณะนี้พวกท่านคนใดก็ไม่ต้องบอกว่าข้าพเจ้ายิ่งใหญ่ ข้าพเจ้า - อาจารย์คนนี้เป็นอย่างไรอย่างไร ในอนาคตเมื่อพวกท่านหันกลับมาดู ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้าทำล้วนเป็นการก่อตั้งให้แก่พวกท่าน (เสียงปรบมือ)

            ทำสิ่งที่พวกท่านต้องทำให้ดี ยากนักที่จะประสบโอกาสวาสนา จงทะนุถนอมสิ่งเหล่านี้เถิด ครั้งที่สองจะไม่มีอีกแล้ว การเกิดจิตยึดติดใดๆ ล้วนจะทำลายท่านกลางทาง จิตมนุษย์อะไรๆ ก็อย่าไปคิด อย่าไปยึดติด ให้ท่านทำแต่สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีงาม ยิ่งใหญ่ที่สุด โชติช่วงชัชวาลที่สุด กำลังรอคอยพวกท่านอยู่ (เสียงปรบมือ)

            ข้าพเจ้าก็พูดเพียงเท่านี้ในช่วงเช้าวันนี้ หากข้าพเจ้ายังไม่ไป ข้าพเจ้าคิดจะตอบคำถามบางประเด็นให้กับพวกท่านในช่วงบ่าย (เสียงปรบมือยาวนาน)

            ข้าพเจ้าขอพูดเพียงเท่านี้ ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

นึกขึ้นมา มานั่งตอบคำถามให้ทุกท่านในที่ประชุมฝ่าฮุ่ย ดูเหมือนหลังจากเกิดเหตุการณ์ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 ก็ไม่ได้ทำอีกเลย ใช่ไหม (เสียงปรบมือกึกก้อง) (ตอบ: ใช่) เช่นนั้นวันนี้ข้าพเจ้าจะตอบคำถามให้ทุกท่านเป็นการเฉพาะ (เสียงปรบมือ) ตลอดมานี้ในการบำเพ็ญส่วนบุคคล หรือในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของพวกท่าน หรือปัญหาอะไร ที่พวกท่านประสบและแก้ไม่ตก สามารถหยิบยกขึ้นมาถาม เวลายังคงมีจำกัด อาจจะไม่สามารถตอบคำถามให้ทุกคน แต่อาจารย์จะพยายามตอบคำถามให้พวกท่าน (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                สวัสดีท่านอาจารย์ พวกเราขอเป็นตัวแทนศิษย์ต้าฝ่าในเซิ่นหยางทั้งหมด กล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์           

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ) สถานการณ์ของผู้ฝึกในประเทศจีน ข้าพเจ้าทราบดี

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าจากเฉินตูขอกล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าจากเป่ยจิง(ปักกิ่ง)ขอกล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์ (เสียงปรบมือ) พวกเราขออนุญาตเป็นตัวแทนศิษย์ต้าฝ่าในเซี่ยงไฮ้ กล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ) สำหรับคำทักทาย พวกเราก็หยุดไว้เพียงเท่านี้ เพราะคำทักทายเหล่านั้นที่มีมาถึงอาจารย์บนหมิงฮุ่ย ข้าพเจ้าอ่านหมดแล้ว (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                งานของพวกเราต้องติดต่อกับข้าราชการชั้นสูงของรัฐบาลจีนอยู่เป็นประจำ จะอธิบายความจริงให้กับพวกเขาให้ดียิ่งขึ้นอย่างไร

อาจารย์:           อันที่จริง โดยรูปธรรมทำกันอย่างไร พวกท่านก็ได้ทำแล้ว ในการดำเนินการพวกท่านก็ปฏิบัติได้ดีมาก ปฏิบัติได้ดีหรือปฏิบัติได้ไม่ดี นั่นเป็นเรื่องของศิษย์ต้าฝ่า ชาวโลกเขาคิดจะเลือกอะไร นั่นเป็นเรื่องของเขา แต่ในการช่วยเหลือสรรพชีวิต ไม่ว่าพวกท่านจะทำอย่างไร แท้จริงแล้วจะมีชีวิตพวกหนึ่งที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้ ในระหว่างที่พวกท่านอธิบายความจริง โทรศัพท์ไปยังประเทศจีน เข้าไปในอินเตอร์เน็ต จะพบกับคนที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้จริงๆ แต่อย่าได้เกิดความถ้อแท้ด้วยเหตุนี้ พยายามช่วยเหลือคนพวกที่ที่สามารถจะช่วยเหลือได้

ในการอธิบายความจริงไม่ต้องสนใจในเรื่องฐานะ ต้องไม่เกิดจิตใดๆ ก่อนอื่นพวกเขาคือคน พวกเขาล้วนแต่มีโอกาสที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะมีหน้าที่การงานอะไร ก่อนอื่นเขาต้องสามารถจะเลือกอนาคต นี้คือความสำคัญอันดับหนึ่ง ในการอธิบายความจริงเมื่อจี้ถูกจุดปัญหาที่เป็นมูลฐานของเขา พร้อมกันนั้นเมื่อรู้สึกว่าศิษย์ต้าฝ่ากำลังช่วยเหลือเขาจริงๆ ข้าพเจ้าคิดว่าด้านที่เข้าใจแจ่มแจ้งของเขาก็จะเผยออกมา

            คนจีนที่อยู่นอกประเทศกับคนจีนในแผ่นดินใหญ่นั้น มีความสัมพันธ์โยงใยกันอย่างแนบแน่น ต่างมีญาติสนิทมิตรสหายอยู่ในประเทศจีน มีคนจำนวนมากที่เดินทางไปมาอยู่เป็นประจำ สถานการณ์ของต้าฝ่าในต่างประเทศพวกเขาเห็นแล้วก็จะกลับไปพูดในประเทศจีน ไปพูดกับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของพวกเขา พวกเขาก็คือสื่อเผยแพร่ข่าวสารที่มีชีวิต ไม่ว่าพวกเขาจะรับรู้เข้าใจต้าฝ่ามากน้อยเพียงใด เข้าใจหรือไม่ก็ตาม พวกเขาก็จะนำสถานการณ์กลับไปเล่า โดยเฉพาะกับข้าราชการเหล่านั้น ท่านไม่ต้องสนใจว่าเขามีตำแหน่งหน้าที่อะไร เมื่อครั้งที่อาจารย์ถ่ายทอดต้าฝ่าชุดนี้ก็ดูแต่เพียงคนเท่านั้น ไม่ดูว่าตำแหน่งของเขาในสังคม ไม่ดูว่าเป็นกลุ่มหรือองค์กรใดๆ และไม่แบ่งว่ามีการงานสูงหรือต่ำ ไม่ดูอะไรทั้งสิ้น ดูแต่จิตใจคน ท่านอย่าปฏิบัติเหมือนเขาเป็นข้าราชการชั้นสูง ท่านกำลังช่วยชีวิตของเขา นั่นล้วนเป็นการงานของคนธรรมดาสามัญตรงนี้เท่านั้น วันนี้พวกเขาให้เขาเป็นข้าราชการ พรุ่งนี้พวกเขาไม่ให้เป็น เขาก็ไม่ใช่อะไรเลย ฉะนั้นการช่วยเหลือคนให้พ้นทุกข์ ช่วยเหลือคนจะไม่ดูสิ่งเหล่านี้

ศิษย์                 เหตุใดอิทธิพลเก่าในจักรวาลจึงจัดเตรียมระบบสังคมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงไว้ในโลก

อาจารย์:           ปัญหานี้พูดขึ้นมาเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ข้าพเจ้าสามารถจะบอกพวกท่านจากแง่มุมที่ธรรมดาพื้นๆ ทุกท่านทราบ เมื่อสองพันปีก่อนจักรวรรดิโรมันใหญ่มาก อันที่จริงมนุษยชาติ หรือ ชนชาติใดที่สามารถจะได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษในโลกนั้นเป็นเกียรติยศที่เทพมอบให้แก่พวกเขา แต่หากเขาประทุษร้ายเทพด้วยเหตุนี้   เช่นนั้นเทพก็จะเอาเกียรติยศและชื่อเสียงกลับคืนไปพร้อมกับลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง ฉะนั้นอิทธิพลเก่าในประวัติศาสตร์   เพื่อเหลือไว้เป็นประจักษ์พยานให้กับเจิ้งฝ่า (ฝ่าที่ถูกต้อง)  ในอนาคต และเพื่อให้ชาวคริสต์สามารถชำระบาปกรรมท่ามกลางมารผจญ      สามารถก่อตั้งเว่ยเต๋อ(อานุภาพแห่งคุณธรรม)แห่งเทพ ทิ้งวัฒนธรรมนี้ไว้เพื่อสืบสานต่อ พวกมันจึงเลือกคนที่ชื่อเนโรเป็นกษัตริย์ของชาวโรมัน เขาได้บ่อนทำลายศีลธรรมของมนุษย์ ทำสิ่งที่โง่เขลาและเรื่องเลวร้ายต่างๆ ไว้มากมาย และสิ่งชั่วร้ายใหญ่หลวงที่สุดในการประทุษร้ายชาวคริสต์ ด้วยเหตุนี้จักรวรรดิโรมันที่แข็งแกร่งและรุ่งเรืองจึงล่มสลายต่อจากนั้นมา

            เช่นนั้นสำหรับศิษย์ต้าฝ่าท่ามกลางการเจิ้งฝ่าในวันนี้ อิทธิพลเก่าเห็นว่าเจ้าเนโรคนนั้นใช้ไม่ได้แล้ว จึงต้องหาลูกสมุนที่โง่เขลาชั่วร้ายและไร้ยางอายยิ่งกว่านั้น ในเวลาเดียวกันก่อนที่จะทำการถ่ายทอดต้าฝ่าอย่างกว้างไกลในโลก ต้องจัดสร้างสิ่งหนึ่งออกมาเพื่อให้ต้าฝ่าใช้ในอนาคต และของสิ่งนี้ยังต้องบรรลุระดับที่จะสามารถนำไปใช้ได้ นั่นก็คือพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีน พวกมันจัดสร้างมันขึ้นมา ต้องให้มันผ่านขั้นตอนประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่ง เพื่อให้มันได้สะสมประสบการณ์การปกครองแบบเผด็จการ ให้มันยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤติตลอดเวลาเพื่อพัฒนาวิธีเผด็จการทุกรูปแบบ เพราะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่มีความเชื่อในเทพจะบรรลุถึงระดับที่จะไม่กลัวสววรค์ไม่กลัวปฐพี ถึงระดับที่จะสู้กับสวรรค์ สู้กับปฐพีและมนุษย์ด้วยกัน ให้มันล้มล้างความเชื่อต่อเทพ มีพื้นฐานอยู่บนทฤษฎีอเทวนิยม ขั้นตอนนี้ดำเนินไปเป็นเวลากว่า 100 ปี เพราะในช่วง เวลาที่ทำเรื่องนี้ได้คำนึงแล้วว่าสุดท้ายจะจัดการกันมันอย่างไร ฉะนั้นไม่สามารถให้มันมีจุดเริ่มต้นอย่างมีเกียรติอย่างแน่นอน อันที่จริงพวกเราต่างก็รู้ สหคาม(คอมมูน)ปารีส (ปี 1871) เป็นแก็งอันธพาลสังคมที่ก่อการกบฏ

            ตรงนี้ข้าพเจ้าไม่ใช่กำลังประณามพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีน เพราะพวกมันเองก็บอกว่าพวกมันคือกลุ่มอันธพาลไร้ทรัพย์สิน(กลุ่มอันธพาลชนกรรมาชีพ) ข้าพเจ้าจำได้เมื่อครั้งที่เรียนทฤษฎี “การปฏิวัติใหญ่ทางวัฒนธรรม” ยังมีการกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า กรณีพิพาทกับอันธพาลของสังคมกลุ่มนี้เป็นความขัดแย้งกับคนที่เป็นศัตรูข้าฯ หรือเป็นความขัดแย้งในหมู่ประชาชนด้วยกัน ระหว่างที่กำลังอภิปรายประเด็นนี้กันอยู่นั้น บางคนจึงพูดว่ากรณีพิพาทในหมู่อันธพาลด้วยกันสามารถเลื่อนระดับเป็นความขัดแย้งกับศัตรูได้ บางคนไม่เห็นด้วย เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยคือสหคามปารีสเป็นก่อการกบฏโดยกลุ่มอันธพาล พวกนั้นเป็นบรรพบุรุษของพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนของเรา ไม่ใช่กำลังพูดเรื่องขำขัน เพราะพวกมันบอกว่า “อันธพาลไร้ทรัพย์สิน (อันธพาลชนกรรมาชีพ)” ปัจจุบันนี้รู้สึกว่ามันไม่น่าฟัง จึงตัดคำว่า “อันธพาล” ทิ้งไปเรียกเป็น”ผู้ไร้ทรัพย์สิน(ชนกรรมาชีพ)”

            เพราะมันเป็นปฏิปักษ์กับจักรวาล พูดอีกนัยหนึ่ง องค์ประกอบสองชนิดในจักรวาล – บวกและลบล้วนเป็นปฏิปักษ์กับมัน โดยแท้จริงจักรวาลนี้ประกอบขึ้นจากองค์ประกอบของชีวิตสองชนิด – บวกและลบ หมายความว่าแม้แต่จักรวาลก็เป็นปฏิปักษ์กับมัน ฉะนั้น พระพุทธ เต๋า เทพและมารทั้งหมดในจักรวาลต่างอยากจะขจัดมันทิ้งไป ดังนั้นมันจึงเผชิญอยู่กับการอาจถูกโอบล้อมทำลายทิ้งเป็นชั้นๆได้ทุกเมื่อ แต่การที่มันสามารถปรากฏออกมาก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาพื้นๆ สามารถทำให้มันยืนหยัดมาเป็นเวลากว่า 100 ปีก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาพื้นๆ เป็นเพราะอิทธิพลเก่าในจักรวาลหลังจากที่ฝึกฝนมันจนสุกงอมแล้วให้ต้าฝ่าใช้(มัน)ในวันนี้ และเป็นเพราะอำนาจการเมืองใดๆ ของมนุษย์ในโลกต่างก็ไม่สามารถจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ แต่เหตุใดต้องใช้เวลายาวนานเช่นนี้ล่ะ ข้าพเจ้าบอกแล้วว่า มันต้องฝึกฝนจนสามารถบรรลุถึงระดับนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้มันจึงต้องมีขั้นตอนช่วงหนึ่ง ดังนั้นการตกอยู่ในขั้นตอนช่วงนี้ กล่าวสำหรับมันถือว่าอันตรายมาก เพราะทั่วทั้งจักรวาลเป็นปฏิปักษ์กับมัน ชีวิตบนพื้นโลกนั้นสอดคล้องกับชีวิตในเทียนถี่ ฉะนั้นจากพื้นโลกไปถึงบนสวรรค์ ชีวิตทั่วทั้งจักรวาลล้วนเป็นการคุกคามต่อมัน อิทธิพลเก่าจึงต้องคิดหาวิธีค้ำจุนมันเอาไว้ ปรากฏการณ์ ณ ที่ของคนธรรมดาสามัญตรงนี้ก็สามารถสะท้อนปรากฏการณ์บนสวรรค์ อิทธิพลเก่าบนสวรรค์ควบคุมโดยตรง มนุษย์บนพื้นโลกก็ค่อนข้างสำคัญ ไม่สามารถทำลายทิ้งจากชั้นพื้นผิว ดังนั้นจึงให้มันสามารถบรรลุ ศักยภาพทางการทหารในการต่อต้าน พร้อมกับก่อเกิดเป็นค่ายพันธมิตรที่ใหญ่กลุ่มหนึ่ง

            ในสังคมปกติ รูปแบบการดำรงชีวิตของประชาชนและอำนาจรัฐบาลที่ปกติ   เป็นสภาวะที่เทพในจักรวาลนำมาให้แก่คน เพื่อจะขจัดองค์ประกอบนี้ของพรรคดังกล่าว เหล่าเทพในจักรวาลก็ทำให้การทหารของชนชาติที่ปกติ  แข็งแกร่งขึ้นมา แต่ความแข็งแกร่งนี้ก็เป็นการคุกคามต่อมัน ฉะนั้นอิทธิพลเก่าก็ให้มันแข็งแกร่งขึ้นมาด้วย จึงปรากฏการแข่งขันทางการทหารในทศวรรษ 1960 มนุษยชาติเข้าสู่วิกฤติของสงครามเย็น ต่างแข่งขันต่อสู้ซึ่งกันและกันทางการทหาร พัฒนาอุตสาหกรรมด้านการทหารอย่างขนานใหญ่ ค้นคว้าวิจัย ผลิตอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง เป้าหมายของอิทธิพลเก่าคือไม่ให้มันพังทลายหรือให้มันสูญสิ้นกำลังความสามารถ  ก่อนถึงเวลาที่มันจะถูกใช้ ฉะนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องให้มันยืนหยัดเอาไว้ จะต้องให้ดำเนินผ่านประวัติศาสตร์ของขั้นตอนนั้น ในเวลาเดียวกันยังให้มันเปลี่ยนแปลง เป็นเผด็จการมากยิ่งขึ้นท่ามกลางวิกฤติ ดำเนินมาถึงทุกวันนี้ กล่าวสำหรับมันแล้ว นับว่ายืนหยัดมาได้อย่างยากลำบากจริงๆ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะใช้ ก็ไม่สามารถจะปล่อยให้มันแข็งแกร่งมากเกินไป เพราะในเวลานั้นกลุ่มพันธมิตร(ของมัน)ใหญ่มาก    ณ ที่นี้ข้าพเจ้าไม่ใช่คิดจะวิจารณ์พรรคดังกล่าว ข้าพเจ้ากำลังอธิบายว่าจักรวาลโดยแท้จริงมีการจัดเตรียมอย่างไร พวกเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่อะไรๆข้าพเจ้าก็รู้ แน่นอนเพราะเจ้าประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าจึงอธิบายสาเหตุของมัน ปัญหาที่พูดเมื่อครู่ เรามาพูดกันต่อ เมื่อถึงเวลาที่จะใช้มันก็ไม่สามารถให้มันใหญ่ขนาดนั้น เพราะเป็นการช่วยเหลือคนทั้งโลก หากมีประเทศมากมายขนาดนั้นมีระบอบเป็นแบบนี้ จะช่วยเหลือคนที่นั่นอย่างไร อิทธิพลเก่าจึงทำให้เศรษฐกิจของสังคมปกติถดถอยถึงจุดต่ำ ในเวลาเดียวกันก็ทำให้ระบอบอันใหญ่โตซึ่งยืนหยัดมาหนึ่งศตวรรษด้วยความยากลำบากนี้แตกสลาย ในการแตกสลายไม่ถึงกับทำให้เกิดการตอบโต้ ความขัดแย้ง เป็นการแตกสลายอย่างราบรื่น คงเหลือเพียงประเทศจีนที่แห่งนั้นเอาไว้ เพราะต้าฝ่าจะถ่ายทอด ณ ที่ตรงนั้น (พรรคนั้น)ก็ฝึกฝนเสร็จแล้ว และเพื่อจะใช้ ณ ที่ตรงนั้น จึงคงเหลือที่ตรงนั้นเอาไว้เท่านั้น ที่อื่นๆ ต่างแตกสลายไปหมดแล้ว นี่คือเหตุใดการแตกสลายจึงปรากฏออกมา 100 ปีให้หลังในวันนี้อย่างกะทันหัน เป็นสิ่งที่คนในโลกคาดคิดไม่ถึง เทพควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างของมนุษยชาติ มนุษย์ก็ไม่เคยสามารถควบคุมสิ่งใดของตัวเอง ล้วนแต่ถูกควบคุมโดยเบื้องบน เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศจีนจึงดูค่อนข้างจะโดดเดี่ยว ดังนั้นจึงเหลือประเทศเล็กๆ บางประเทศเอาไว้ เช่นเกาหลีเหนือ เป็นต้น แต่จากกำลังความสามารถด้านเศรษฐกิจ กำลังความสามารถทางการทหาร พวกมันไม่สามารถทำเรื่องใหญ่ แต่ก็เป็นสมัครพรรคพวก ให้มันมีความหวังเล็กๆ น้อยๆ ของการไม่ดับสลาย

            พวกเราได้เห็นแล้ว หลายสิบปีมานี้สหรัฐอเมริกา มีความแข็งแกร่งมากทางด้านการทหาร ด้านเศรษฐกิจก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน สหรัฐอเมริกา ชอบที่จะเข้าไปจัดการเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ เช่นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การลิดรอนเสรีภาพทางความเชื่อ ผดุงความยุติธรรมต่างๆ ในประชาคมโลก เหล่านี้เป็นสิ่งที่คนไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน กลุ่มอันธพาลที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าบอกว่าสหรัฐอเมริกา เป็นตำรวจโลก แท้จริงแล้ว สหรัฐก็คือตำรวจโลกที่อิทธิพลเก่าจัดเตรียมไว้จริงๆ ประเทศจีนเป็นเวทีการแสดงสำหรับละครประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกเป็นทั้งผู้ชมและตัวละคร แต่ระเบียบของสังคมนี้ต้องมีคนคอยค้ำจุน จะปล่อยให้ยุ่งเหยิงไม่ได้ ในอดีตหลักการของที่มนุษย์ตรงนี้เรียกว่า ผู้เป็นจ้าวครองแผ่นดิน กองทัพยึดครองใต้ฟ้า ผู้แข็งแกร่งคือวีรบุรุษ เป็นหลักการที่ตรงกันข้ามกับจักรวาล แต่การที่เจ้าทำได้เพราะเทพให้เจ้าทำ (หาก)เจ้าทำได้ดี เทพก็จะให้เกียรติยศแก่เจ้า ให้เจ้ามั่งมีแข็งแกร่ง นี่ก็คือหลักการในอดีตของมนุษย์ หากมนุษยชาติมีสันติทั้งหมดแล้ว สหรัฐอเมริกา ก็จะถอยออกจากบทบาทแห่งประวัติศาสตร์  โดยอัตโนมัติ สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดคือการจัดเตรียมในเรื่องนี้ของอิทธิพลเก่า ความเป็นมาเป็นเช่นนี้ (เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 ระยะหลังนี้ ประสบกับความลำบากและสับสนกับความสัมพันธ์ (ที่ประชุมหัวเราะ) ศิษย์รู้สึกทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มาก

อาจารย์:           ข้าพเจ้าสามารถจะตอบพวกท่านอย่างนี้ ถ้าแม้น(ท่าน)มีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมของสังคมคนธรรมดาสามัญ ไม่ว่าท่านจะเป็นคน เป็นก้อนหิน เป็นพืช เป็นสัตว์ ล้วนแต่ถูกละลายและจมอยู่ในฉิง(ความรัก ความผูกพัน) ช่องว่างระหว่างอนุภาคก็จมอยู่ในฉิง ฉะนั้น มันเป็นไม่ได้ที่คนสามัญธรรมดาคนหนึ่งจะหนีรอดจากฉิง การบำเพ็ญเท่านั้นที่ทำได้ สำหรับรูปแบบการบำเพ็ญของเราในวันนี้ ข้าพเจ้าได้อธิบายกับทุกท่านแล้วว่ามีรูปแบบการบำเพ็ญเป็นอย่างไร เช่นนั้นสิ่งเล็กน้อยของคนธรรมดาสามัญที่เหลือไว้นั้น พวกท่านจึงสามารถยืนยันความถูกต้องของฝ่าในวันนี้ ปราศจากสิ่งเล็กน้อยนี้ของคนธรรมดาสามัญ ข้าพเจ้าขอบอกท่าน ท่านจะไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของฝ่าอยู่ตรงนี้ วันนี้ให้เทพมายืนยันความถูกต้องของฝ่าอยู่ตรงนี้   ให้เทพมาช่วยเหลือสรรพชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้   เพราะมีช่องว่างห่างกันมาก โดยมูลฐานมันเป็นไปไม่ได้ที่เทพจะเห็นความสำคัญของมนุษย์ มีพวกท่านที่อยู่ในท่ามกลางมนุษย์เท่านั้นจึงเห็นว่าชีวิตตรงนี้สำคัญ เพราะ ณ ชั้นพื้นผิวพวกท่านยังมีสิ่งเล็กน้อยของคนธรรมดาสามัญนั้นเหลืออยู่บ้างจึงสามารถทำได้

            ทุกท่านทราบ มนุษย์เป็นระดับชั้นหนึ่งของจักรวาล เป็นระดับชั้นหนึ่งซึ่งจะขาดไม่ได้ จึงจำเป็นต้องช่วยเหลือ และฝ่าต้องถูกต้องเที่ยงตรง ดังนั้นเมื่อมีสิ่งเล็กน้อยนี้ของมนุษย์  จึงสามารถทำงานของต้าฝ่า และสามารถบำเพ็ญ แต่หากท่านไม่ระวังก็จะถูกมันรบกวน มันมีความเป็นมาเช่นนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ข้าพเจ้าได้อ่านบทความบางฉบับที่ผู้ฝึกเขียน (เป็นบทความของ)คนที่ร่อนเร่ไร้ที่พักพิง เขาเล่าว่าภรรยาของเขาเป็นศิษย์ต้าฝ่า บอกว่าดีอย่างไรๆ แต่ในคำพูดข้าพเจ้ามองเห็นฉิงของเขา ไม่ใช่ว่าพวกท่านทำอะไรผิด บทความเหล่านี้คนธรรมดาสามัญก็อ่าน ในระหว่างการเจิ้งฝ่ามันมีประโยชน์เมื่อคนธรรมดาสามัญได้อ่าน ข้าพเจ้าก็ไม่อาจจะบอกว่ามันไม่ดี แท้จริงแล้ว มันเกิดขึ้นเพราะพวกท่านยังมีสิ่งเล็กน้อยนั้นของคนธรรมดาสามัญหลงเหลืออยู่

            แต่ข้าพเจ้าคิดว่า การเป็นผู้บำเพ็ญ พวกท่านไม่สามารถจะปล่อยให้ฉิงครอบงำ แต่ท่านอาจคิด ฉันบำเพ็ญด้านนี้ได้ดีแล้ว ฉิงไม่สามารถทำให้ฉันหวั่นไหวแล้วจริงๆ ฉันก็จะเป็นเหมือนกับแผ่นเหล็กชิ้นหนึ่ง ไม่ใช่เช่นนี้ ผู้บำเพ็ญมีความเมตตากรุณา เวลาท่านมองดูสรรพชีวิตภายใต้สภาพการณ์ที่ท่านมีเจิ้งเนี่ยนเต็มเปี่ยม ท่านลองคิดดู ยังจะเกิดเรื่องแบบนั้นไหม แน่นอนบางครั้งพวกท่านบอกว่า ฉันก็พยายามแล้วแต่ยังคงทำไม่ได้ เช่นนั้นความพยายามที่ท่านทำไป  เพียงเพื่อจะแก้ไขปัญหานั้นเท่านั้นหรือไม่ สภาวะการบำเพ็ญของท่านบรรลุถึงตรงนั้นแล้วจริงหรือ แน่นอนข้าพเจ้าเพียงแต่พูดถึงผู้ฝึกที่ส่งคำถามนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะอย่างไร การเป็นผู้บำเพ็ญพวกท่านต้องปฏิบัติกับมันให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอิทธิพลเก่าก็จะสร้างความวุ่นวายให้แก่ท่านด้วยเหตุนี้ นอกจากผู้ฝึกใหม่ หลังจาก 20 กรกฎาคม ปี 1999 เป็นต้นมา อาจารย์ก็ไม่ได้จัดด่านใดๆสำหรับการบำเพ็ญส่วนบุคคลให้แก่พวกท่าน เพราะการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่านในทุกด้านได้เปลี่ยนไปสู่การช่วยเหลือสรรพชีวิต การยืนยันความถูกต้องของฝ่าแล้ว (เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 คนที่พวกเราพบในระหว่างอธิบายความจริง ล้วนเป็นคนที่มีดวงสัมพันธ์กับเราแต่ชาติปางก่อนหรือไม่ เป็นสรรพชีวิตในโลกของเราหรือไม่

อาจารย์:           ฝ่าเซินของข้าพเจ้าจะจัดให้เช่นนี้ อิทธิพลเก่าก็จะจัดให้เช่นนี้ แน่นอน ในระหว่างอธิบายความจริง บางทีท่านอาจจะทำได้ดีมาก การอธิบายของท่านสามารถกระตุ้นจิตใจคนเป็นจำนวนมาก บางทีก็ให้ท่านมาช่วยเหลือสรรพชีวิตที่ไม่มีความสัมพันธ์กับท่านโดยตรง เพราะมีความเมตตากรุณา ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้ อาจจะพบกับสถานการณ์เช่นนี้ หมายความว่า การช่วยเหลือสรรพชีวิตเรื่องนี้ พวกเราไม่สามารถแบ่งแยกว่าฉันควรจะทำหรือฉันไม่ควรทำ ท่านแบ่งแยกไม่ออก นั่นคือมีจิตใจแบ่งแยก นั่นไม่ใช่ความเมตตากรุณาของผู้สำเร็จธรรมชั้นสูง มันไม่เหมือนอย่างคนธรรมดาสามัญ  เป็นคนในครอบครัวฉัน ฉันก็ปฏิบัติกับเขาดีเป็นพิเศษ ไม่ใช่คนในครอบครัว  ฉันก็ไม่ทำ ทำอย่างนั้นได้หรือ ความเมตตากรุณา ความเมตตากรุณา ไม่ใช่ฉิงของคนหรอกนะ

ศิษย์                 ศิษย์ต้าฝ่าซื่อชวน(เสฉวน)และครอบครัวขอกล่าวคำๆ สวัสดีต่อท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 ศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกประทุษร้ายในคุก สถานกักกันแรงงาน สถานกักกัน โรงพยาบาลประสาท ในซื่อชวนทุกแห่งขอกล่าวคำสวัสดีต่อท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ) สถานการณ์ในซื่อชวนข้าพเจ้าเข้าใจ อาจารย์เข้าใจอย่างยิ่ง

ศิษย์                 การเผชิญหน้ากับการประทุษร้าย การผนึกกำลังของศิษย์ต้าฝ่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ทำอย่างไรจึงจะสามารถยกระดับสูงขึ้นในภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว

อาจารย์:           ทุกท่านทราบตลอดมาข้าพเจ้าไม่พูดถึง “เอกภาพ” อักษร 2 ตัวนี้ เพราะนั่นเป็นการบังคับของคนธรรมดาสามัญ เป็นรูปแบบ ผู้บำเพ็ญจะเน้นการยกระดับสูงขึ้นของซินซิ่ง การยกระดับสูงขึ้นจากมูลฐาน ผู้บำเพ็ญคนหนึ่งสมควรจะทำอย่างไร ต่างก็รู้ ทำได้ไม่ดีข้าพเจ้าว่าก็คือศึกษาฝ่าได้ไม่ดี ใช่หรือไม่ ควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ตัวเราเองไม่แจ่มแจ้งหรอกหรือ แท้จริงแล้วสมควรต้องแจ่มแจ้ง แต่ทุกที่ต่างมีผู้ติดต่อประสานงาน มีสมาคมศึกษาต้าฝ่า ศูนย์ช่วยฝึกสอน เช่นนั้นหมายความว่าโดยภาพรวมต้องมีการประสานงาน พอมีใครสักคนคิดว่าพวกเราควรทำอะไรเวลานี้ ควรต้องทำอะไรพรุ่งนี้ ทุกคนต่างก็รู้แล้ว เวลานี้ยังบรรลุไม่ถึงสภาพเช่นนั้น ดังนั้นจึงต้องมีคนออกมาประสานงาน ติดต่อสื่อสาร ทำในสิ่งเหล่านี้ ศิษย์ต้าฝ่าในขณะนี้ไม่ว่าจะยืนยันความถูกต้องของฝ่าเป็นกลุ่ม หรือท่านอธิบายความจริงเป็นรายบุคคลก็ตาม ล้วนเป็นความต้องการของต้าฝ่า สิ่งที่การเจิ้งฝ่าต้องการท่านก็สมควรทำมันให้ดี  ไม่มีอะไรต้องอธิบาย และต้องไม่คำนึงถึงสถานะของตนเอง และต้องไม่คิดว่าตนเองแตกต่างจากคนอื่น พวกท่านต่างก็เป็นหนึ่งอนุภาค ในสายตาของข้าพเจ้า ไม่มีใครเก่งกว่าใคร เพราะข้าพเจ้าตักพวกท่านขึ้นมาพร้อมกัน (เสียงปรบมือ) บางคนอาจมีความสามารถทางด้านนี้มากกว่าสักหน่อย บางคนอาจมีความสามารถทางด้านนั้นมากกว่าสักหน่อย ท่านก็อย่าได้คิดจนเลยเถิด ท่านบอกว่าฉันมีความสามารถมากขนาดนี้ อย่างนี้อย่างนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ต้าฝ่ามอบให้แก่ท่าน! หากท่านไม่มีความสามารถระดับนั้นก็จะทำไม่ได้ ความต้องการของการเจิ้งฝ่าทำให้ท่านมีสติปัญญาระดับนั้น ฉะนั้นท่านต้องไม่คิดว่าตัวท่านมีความเก่งกาจอย่างไร ผู้ฝึกบางคนอยากให้ข้าพเจ้าเห็นถึงความสามารถของเขา ที่จริงข้าพเจ้าคิดว่า ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ามอบให้ ไม่ต้องดูหรอก

ศิษย์                 มีบางเวลาศิษย์รู้สึกสับสนวุ่นวายจริงๆ ระหว่างการบำเพ็ญ ฉิงช่างปล่อยวางยากจริงๆ และดูเหมือนตั้งแต่ตัวเองเริ่มบำเพ็ญ ด่านทดสอบทุกด่านล้วนแต่เป็นการผ่านด่านของฉิง ดูเหมือนฉิงก็คือด่านความเป็นความตายในชีวิต

อาจารย์:           พวกท่านทุกคนคงฟังกันชัดแจ้งแล้วซินะ ท่านนี่ เอาฉิงเป็นด่าน เพราะท่านไม่ปล่อยวาง ฉะนั้นท่านจึงต้องข้ามอยู่ร่ำไป (ที่ประชุมหัวเราะ) แต่ข้าพเจ้าไม่ใช่จะบังคับให้พวกท่านปล่อยวางในวันนี้ ข้าพเจ้ากำลังชี้ให้พวกท่านเข้าใจ ไม่ใช่ว่าเพียงชั่วประเดี๋ยวพวกท่านก็สามารถจะทำได้ ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน เวลาที่เป็นเช่นนี้ พวกท่านก็ศึกษาฝ่าให้มากๆ เมื่อเจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เมื่อท่านฉือเป่ย(เมตตากรุณา)ต่อสรรพชีวิต ฉิงก็จะไม่ทำให้ท่านสับสนวุ่นวาย และคนในครอบครัวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฉิงก็จะไม่บอกว่า ท่านไร้น้ำใจกับพวกเขาอีก และจะไม่เกิดความขัดแย้งเนื่องจากปัญหาความสัมพันธ์อีก พูดไปพูดมายังคงเป็นปัญหาที่ตัวเองต้องยกระดับ

            ข้าพเจ้าสามารถสัมผัสรับรู้สภาวะในความคิดของพวกท่าน มันยาก ยากจริงๆ แต่ท่านรอคอยมานับร้อยนับพันปี มิใช่เพื่อวันนี้หรอกหรือ การหยวนหมั่นของท่านในอนาคตจะนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งเล็กน้อยที่ท่านแบกรับในวันนี้ได้หรือ  (เสียงปรบมือ) ฮื่อ บางครั้งข้าพเจ้าคิด วันนี้หากข้าพเจ้าไม่ช่วยเหลือพวกท่าน และข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งในจำนวนพวกท่าน โอ้ บอกให้ข้าพเจ้าปล่อยวางสิ่งเล็กน้อยนี้ มันง่ายดายเหลือเกิน! (เสียงปรบมือ) บางทีอาจเป็นเพราะอาจารย์เห็นทุกสิ่งทะลุปรุโปร่งแล้วจึงพูดเช่นนี้ ฮึ ฮึ (เสียงอาจารย์หัวเราะ)

ศิษย์:                เนื่องจากจิตยึดติด ดิฉันตกอยู่ในสภาวะที่ไม่ดีมาเป็นเวลานาน อยากจะทำงานของต้าฝ่าให้ดี แต่ก็กลัวว่าสภาวะที่ไม่ดี(ของตัวเอง)จะส่งผลกระทบถึงผู้ฝึกคนอื่นๆ ดิฉันควรจะละวางงานและบำเพ็ญให้จริงๆ จังๆ สักระยะหนึ่งหรือไม่

อาจารย์:           ศึกษาฝ่าไปพลาง ทำงานของต้าฝ่าไปพลาง ไม่มีผลกระทบ อาจารย์ไม่มีความเห็น นอกจากนี้พวกเราที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ ไม่ว่าท่านจะเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือมีหน้าที่การงาน พวกท่านก็ไม่สามารถละทิ้งบทบาทที่ท่านแสดงในสังคมคนธรรมดาสามัญ พวกท่านต้องทำทุกสิ่งที่พวกท่านสมควรทำให้ดี ในเวลาเดียวกัน (มัน)สามารถจะเอื้ออำนวยให้ท่านทำงานยืนยันความถูกต้องของฝ่า อธิบายความจริงได้สะดวกและง่าย ไม่เช่นนั้น หากพวกท่านมีปัญหาด้านการเงินทุกวันกังวลแต่ว่าจะอยู่อย่างไร  กินอะไร แม้แต่ปัจจัยการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานที่สุดก็ไม่มีหลักประกันแล้ว พวกท่านยังจะมีกำลังเหลือที่จะไปยืนยันความถูกต้องของฝ่าหรือ นี่ไม่ใช่การรบกวนหรอกหรือ ต้องไม่สร้างความยุ่งยากให้แก่ตนเอง ต้องไม่คิดว่าเป็นเรื่องแน่นอนสำหรับตัวเอง หากท่านมีการเงินมั่นคงมากขึ้น ท่านจะเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่ อันนั้นข้าพเจ้าไม่ว่า แต่ข้าพเจ้าว่าหากพวกท่านทุกคนต่างก็ไม่ทำงานกันแล้ว ให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด

            พวกท่านทราบไหม รูปแบบการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้มีความสำคัญอย่างไร ในอนาคต ณ ที่มนุษย์ตรงนี้ คนสำเร็จเป็นเทพจะไม่ใช่เรื่องเทพนิยายอีกต่อไปแล้ว ในอดีต ณ ที่มนุษย์ตรงนี้ เมื่อพูดถึงการบำเพ็ญ การบำเพ็ญล้วนเป็นการบำเพ็ญจิตสำนึกรอง(ฟู่หยวนเสิน) โดยมูลฐานคนไม่ได้บำเพ็ญ ในอนาคต ก็คืออนาคตที่พวกท่านก่อตั้ง ก็ได้ปูหนทางให้คนสำเร็จเป็นเทพไว้ที่นี่! ทุกสิ่งที่พวกท่านทำในวันนี้เป็นการปฏิบัติสำหรับการอ้างอิงในอนาคต ทั้งทำงานของคนธรรมดาสามัญและยังสามารถบำเพ็ญ หากพวกท่านเดินสุดขั้ว พวกท่านก็จะทำลายทางเส้นนี้ จึงไม่อาจเดินสุดขั้ว ให้ท่านมุ่งทำสิ่งที่ท่านควรทำให้ดีในสังคมอย่างสง่าผ่าเผย และเมื่อไปบำเพ็ญ ก็สามารถจะบรรลุมาตรฐานที่ผู้บำเพ็ญควรจะบรรลุ มาตรฐานที่สามารถจะหยวนหมั่น เพราะสำหรับคนในอนาคตก็คือหนทางเช่นนี้

            สังคมมนุษย์ในอนาคตไม่มีศาสนา คนล้วนแต่เป็นหน่วยหนึ่งในสังคม ผู้คนจะร่วมกิจกรรมทั้งหมดในสังคมนี้ บางทีในหนังสือเรียนของนักเรียนก็อาจจะสอดแทรกด้วยหลักการความจริงของฝ่าของฝ่าชั้นนี้ของมนุษย์และความหมายในระดับสูง ฉะนั้นการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ทำให้คนสามารถสำเร็จเป็นเทพ นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงในระดับชั้นนี้ของมนุษย์ มันเกี่ยวพันไปถึงการประสานกลมกลืนอย่างเป็นระบบของระบบจักรวาลทั้งหมด การประสานกลมกลืนของฝ่า คนประทุษร้ายเทพที่ช่วยเหลือคน เรื่องประเภทนี้จะไม่มีอีกแล้ว เหมือนพระเซยูถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขน กรณีแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด เช่นนั้นพวกเราอยู่ ณ ที่ผืนนี้ของคนธรรมดาสามัญจะเดินหนทางการบำเพ็ญให้ดีอย่างไรจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าจะปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นภาพรวมในระหว่างการเจิ้งฝ่าได้อย่างไร

อาจารย์:           การประสานงานซึ่งกันและกัน เวลาทำงานเป็นกลุ่มและทำงานคนเดียว หรือทำด้วยกันหลายคน ก็ต้องประสานงานกันให้ดี มีฝ่าอยู่ พวกท่านจะไม่ทำอะไรผิด เพราะทุกท่านล้วนแต่ฝึกฝนจนสุกงอมแล้ว สมควรรู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นช่วงเวลาหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ไม่สนใจเรื่องของพวกท่านเลย พวกท่านกลับสะท้อนเรื่องนั้นเรื่องนี้มาถึงข้าพเจ้าตรงนี้ ข้าพเจ้าก็เฝ้าสังเกตอยู่ เพราะข้าพเจ้าไม่สามารถจะปล่อยให้พวกท่านแยกจากข้าพเจ้าไม่ได้ตลอดไป ข้าพเจ้าไม่สามารถลิดรอนโอกาสให้พวกท่านได้ก่อตั้งอานุภาพแห่งคุณธรรมของตนเอง พวกท่านต้องเดินหนทางของตนเอง หกคะเมนล้มลงก็ไม่เป็นไร ท่านรู้ว่าจะลุกขึ้นมาอย่างไร ท่านรู้ว่าจะทะนุถนอมทุกสิ่งที่ท่านทำอย่างไร หลังจากที่ทำทุกสิ่งดียิ่งขึ้นแล้ว ฉะนั้นข้าพเจ้าก็จะไม่จูงมือพวกท่านอีก พยายามบอกพวกท่านตรึกตรองให้มาก กล่าวก็คือให้โอกาสแก่พวกท่าน ให้โอกาสพวกท่านเดินหนทางของตนเอง เมื่อเกิดปัญหาในภาพรวมข้าพเจ้าจะบอก สิ่งที่เฉพาะเจาะจงต่างๆ ภายใต้สภาพการณ์ทั่วไป ข้าพเจ้าไม่พูดอีกแล้ว

ศิษย์:                เวลาฟาเจิ้งเนี่ยนลักษณะท่าทางของมือจะมีผลต่อประสิทธิผลหรือไม่                                                                                                                                                                                                                                     

อาจารย์:           พูดกันตามหลักการ เพียงแต่ท่านมีสติแจ่มชัด ท่านจะมีท่าเคลื่อนไหวหรือไม่ก็ไม่ส่งผลกระทบ แต่จากท่าการเคลื่อนไหวของท่านสามารถดูออกว่าท่านเข้าสู่ความสงบหรือไม่ หรือท่านอยู่ในอาการสะลึมสะลือ (อาจารย์ตัวเราะ) ฉะนั้นเวลาฟาเจิ้งเนี่ยนทุกท่านจะต้องมีสติแจ่มชัด สภาวะนั้นมีสภาวะเป็นอย่างไร มีความสบายอย่างมาก ราวกับทุกสิ่งล้วนหยุดนิ่ง ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานโดยสิ้นเชิง

ศิษย์:    ในช่วงเวลาที่พิเศษของการเจิ้งฝ่านี้ ศิษย์ในสหรัฐอเมริกา บางคนตกงานเนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ......

อาจารย์:           นี่เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าทำ ให้พวกท่านจดจำข้อหนึ่งเอาไว้ตลอดไป การรบกวนทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้ ข้าพเจ้าไม่ยอมรับทั้งหมด สิ่งที่ไม่สมควรมีล้วนแต่เป็นการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า พวกมันเห็นการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่านเป็นอันดับหนึ่ง แน่นอน การหยวนหมั่นของส่วนบุคคลนั้นเป็นอันดับหนึ่ง หากท่านไม่สามารถหยวนหมั่นอะไรก็ไม่ต้องพูด แต่ศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้ต่างกับการบำเพ็ญของยุคใดๆ ในประวัติศาสตร์ เป็นเพราะตัวพวกท่านมีภารกิจที่ใหญ่กว่าและสูงเลยการหยวนหมั่นของตัวพวกท่าน การช่วยเหลือสรรพชีวิต การยืนยันความถูกต้องของฝ่า สิ่งนี้สูงเลยการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่านไปไกลมากๆ นี้เป็นสิ่งที่ใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีก นี้เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าไม่สามารถจัดวางได้ถูกต้อง   กำลังก่อกวนพวกท่าน ปฏิเสธพวกมัน    ปฏิบัติทุกสิ่งด้วยความคิดถูกต้อง(เจิ้งเนี่ยน) !

ศิษย์:                ในช่วงระยะหนึ่งของการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ได้เผชิญกับมารผจญและการทดสอบต่างๆ มากมาย แต่ก็สามารถยืนหยัดเดินผ่านมา หลังจากออกจากประเทศจีนมา โดยเฉพาะหลายเดือนมานี้ กรรมแห่งความคิดรุนแรงมาก ยิ่งกว่านั้นข้างในนั้นยังมีการไม่เคารพอาจารย์ ให้ดิฉันละทิ้งการบำเพ็ญเป็นต้น

อาจารย์:           ข้าพเจ้าคิดว่า เพียงแต่ศึกษาฝ่าให้มาก ความคิดถูกต้อง(เจิ้งเนี่ยน)ก็จะแข็งแกร่ง ยังมีผู้ฝึกบางคน พวกท่านบางครั้งก็ยุ่งกับงานอธิบายความจริง จนละเลยการศึกษาฝ่าจริงๆ เรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าอยู่เหนือเลยการบำเพ็ญส่วนบุคคล ก็คือการการยืนยันความถูกต้องของฝ่า การอธิบายความจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิตในวันนี้ แต่สิ่งเหล่านี้มีการหยวนหมั่นของส่วนบุคคลเป็นพื้นฐาน หากตัวท่านไม่สามารถหยวนหมั่น ก็ไม่มีอะไรต้องพูด การยืนยันความถูกต้องของฝ่าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญทำ ศิษย์ต้าฝ่าเท่านั้นจึงคู่ควรที่จะทำ ฉะนั้นศึกษาฝ่าให้มากๆ ศึกษาฝ่าให้มาก นอกจากนี้ ไม่ว่าเรื่องอะไร พวกเราก็ต้องทำให้ถูกต้อง และทำจริงๆ ให้เหมือนกับผู้บำเพ็ญทำ อย่าปล่อยให้อิทธิพลเก่าเจาะช่องว่าง เมื่อเจาะช่องว่างได้มันก็จะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้

            พวกท่านทราบไหม อิทธิพลเก่าชั้นสูงซึ่งจัดเตรียมมารผจญครั้งนี้ มูลเหตุแท้จริงคือในขณะดำเนินการในสิ่งที่เรียกว่าฝึกฝนศิษย์ต้าฝ่า ในเวลาเดียวกันก็เพื่อจะกำจัดชีวิตที่ไม่ดีเหล่านั้นในจักรวาลทิ้งไปพร้อมกันในช่วงเวลานี้ และเป็นการทำความสะอาดจักรวาล อิทธิพลเก่าจัดเตรียมที่จะทำเช่นนี้ พวกมันจัดสิ่งที่พวกมันต้องการเป็นอันดับแรก ไม่ใช่จัดจุดประสงค์ของการเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้า  เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรก ฉะนั้นเมื่อพบกับความยุ่งยากเหล่านี้ ให้ค้นหาจากด้านของตัวเองให้มาก ทำให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น อย่าปล่อยให้อิทธิพลเก่าเจาะช่องว่าง ชีวิตชั่วร้ายเหล่านั้นที่ถูกอิทธิพลเก่าควบคุมได้มองเห็นจุดจบของการดับสูญที่กำลังจะมาถึง พวกมันแตกกระจายเหมือนเกิดจลาจล ก็คือพลุ่งพล่านเหมือนสุนัขจนตรอก ความชั่วอะไรก็ทำ ทุกท่านต้องระวังสิ่งเหล่านี้ อย่าปล่อยให้พวกมันเจาะช่องว่าง

ศิษย์:    ศิษย์จากเมืองเวยฝาง มณฑลซันตงขอกล่าวคำสวัสดีต่อท่านอาจารย์ !

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรมมือ)

ศิษย์:                ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ผ่านการล้างสมองโดยการบังคับ ยังคงอยากจะบำเพ็ญ เขาบอกว่าเวลานี้ท่านอาจารย์ไม่ดูแลเขาแล้ว ท่านอาจารย์ ท่านยังจะดูแลเขาไหม

อาจารย์:           เป็นตัวเขาที่รู้สึกว่าทำผิดต่ออาจารย์(ทำให้อาจารย์ผิดหวัง) ทำผิดต่อต้าฝ่า ในใจจึงก่อเกิดเป็นจิตยึดติดแบบใหม่จึงคิดเช่นนั้น เป็นเช่นนี้แล้วยังคงคิดด้วยความคิดของมนุษย์อยู่อีก สติยังคงไม่แจ่มชัดจึงพูดเช่นนี้ เรื่องนี้ยังไม่ยุติ ก่อนที่จะยุติ   ท่านทำได้ดีหรือทำได้ไม่ดี นั่นไม่ใช่เป็นเรื่องราวในขั้นตอนของการบำเพ็ญหรอกหรือ    ใช่  ทุกท่านทราบไหม ในอดีตการบำเพ็ญเต๋า(บำเพ็ญธรรม)นั้นลำบากมาก คนๆ หนึ่งอยู่ท่ามกลางการทดสอบ ความคิดขยับนิดเดียวก็ไม่ได้แล้ว เขาก็จะสูญเสียโอกาสของการบำเพ็ญเต๋าแล้ว เป็นเช่นนั้นแน่นอน อิทธิพลเก่าคิดว่าข้าพเจ้าก็เห็นเป็นเช่นนั้นด้วย เอาล่ะ ทีนี้ก็บังคับให้เขาเขียนหนังสือสักฉบับ ท่าน หลี่ หงจื้อก็ไม่สามารถจะเก็บเขาเอาไว้แล้ว เพราะเขาทรยศต่อท่าน ท่านทุ่มเทมากมายเพียงใดที่จะช่วยเหลือเขา เขากลับทรยศต่อท่าน ท่านไม่สามารถจะเก็บเขาเอาไว้อย่างแน่นอน เมื่อเก็บเอาไว้ไม่ได้จะทำอย่างไรล่ะ กำจัดทิ้งไป

            อิทธิพลเก่าคิดเช่นนี้ และพวกมันก็จัดเตรียมเช่นนั้น แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำเช่นนั้น ข้าพเจ้าต้องการจะช่วยเขาให้สำเร็จ วันนี้เขาทำได้ไม่ดี ท่าน อิทธิพลเก่าไม่ใช่ยังคงประทุษร้ายอยู่หรอกหรือ ข้าพเจ้าจะบอกเขาให้ทำใหม่พรุ่งนี้ บอกพวกเขา(พวกเธอ)ทำให้ดีอย่างแน่นอน! (เสียงปรบมือ) การปฏิบัติเป็นสิ่งยืนยัน ศิษย์ต้าฝ่าไม่ใช่มีสติสัมปชัญญะมากขึ้นเรื่อยๆ มีสติแจ่มชัดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทำได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้วหรอกหรือ มีความแน่วแน่ยิ่งขึ้นแล้วหรอกหรือ! (เสียงปรบมือ) สุดท้ายหากท่านมีความแน่วแน่จริงๆ ทุกสิ่งที่ท่านทำไว้เมื่อก่อน นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่แสดงออกมาในขั้นตอนของการบำเพ็ญเท่านั้น ความจริงก็เป็นเช่นนั้น อาจารย์จัดการกับเรื่องนี้ด้วยความเมตตากรุณาอย่างใหญ่หลวงที่สุด(ต้าฉือเปย) (เสียงปรบมือ)

            แต่บางคนใจไม่สู้เสียจริงๆ อันที่จริงล้วนเป็นเพราะจิตใจดวงนั้น ทุกท่านก็ได้อ่านข่าวในหมิงฮุ่ยเน็ตที่ส่งออกมาจากประเทศจีน บางคนทำได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เขาก็ไม่ถูกประทุษร้าย ถูกส่งเข้าไปในค่ายกักกันแรงงาน สิ่งชั่วร้ายในมิติอื่นทนไม่ได้ ต้องปล่อยออกมา บางคนกลัวอย่างนี้อย่างนั้น มีจิตของมนุษย์มากมาย จึงถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรง ถูกประทุษร้ายเสียจนเกือบจะแย่แล้ว ก็ยังติดอยู่กับจิตยึดติดของมนุษย์ทะลวงออกมาไม่ได้ เทพผู้พิทักษ์ฝ่ากระวนกระวายไม่รู้จะทำอย่างไร พวกที่จากไปพร้อมกับจิตหวาดกลัว ข้าพเจ้าจะให้เขาหยวนหมั่นหรือไม่ล่ะ อันที่จริงล้วนแต่เป็นการแสดงออกของจิตมนุษย์ แน่นอน เวลานี้ อยู่ ณ ที่นี้ พูดขึ้นมาเป็นเรื่องง่าย หากตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ชั่วร้ายอย่างนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย นั่นเป็นหนทางของการเดินสู่ความเป็นเทพของมนุษย์ ดังนั้นจึงลำบากนัก !

ศิษย์:                ผมเป็นผู้ฝึกจากประเทศเกาหลี ในการดำเนินกิจกรรมการเจิ้งฝ่า ในการร่วมมือกับเพื่อนผู้บำเพ็ญ มักจะเกิดการปะทะคารมและความขัดแย้งอยู่เสมอๆ แน่นอนเป็นเพราะตัวเองมีจิตยึดติด ไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไร

อาจารย์:           ไม่เพียงเป็นที่ประเทศเกาหลี เพราะในพื้นที่อื่นๆ ก็ปรากฏความขัดแย้ง ในครั้งนั้นในหมู่ผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่ ก็มีปัญหาเหล่านี้ หากทุกๆ คน พวกเขาต่างรู้สึกว่าตัวเองมีฝีมือ พวกเขาต่างรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถสูง พวกเขาต่างรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นถูกต้อง ต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันและกัน อันที่จริงในเวลานั้น คนที่ไม่ยอมอ่อนข้อเป็นคนที่มีปัญหา สิ่งที่เขาคิดคือ วิธีของฉันนี้สามารถจะเป็นผลดีกับฝ่ามากกว่า เขาจะไม่คิดอย่างแน่นอนว่า ฉันกำลังโอ้อวดตัวเอง แต่อิทธิพลเก่าก็จับจุดนี้ที่เขาไม่ลดราวาศอก และเสริมให้มันแรงกล้ายิ่งขึ้นเรื่อยๆ --- ของท่านถูก ของท่านถูก ท่านทำได้ถูกต้อง! ดังนั้นในเวลานั้นจึงมีสติไม่แจ่มชัด ลองพิจารณาตัวเองอย่างมีสติสัมปชัญญะอย่างแท้จริง แล้วพิจารณาความเห็นของคนอื่นดู ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องราวก็จะทำได้ดี ในเวลานั้นเหตุใดต่างก็ไม่พิจารณาตัวเองนะ อย่ากลัวว่าจะสูญเสียโอกาสใช้วิธีของตัวเอง ยิ่งไม่สมควรมีจิตใจที่ไม่ยอม

            เทพ เขาไม่ดูหรอกว่าจะใช้หรือไม่ใช้วิธีของท่าน ณ เวลานั้นเขาจะดูว่าท่านปล่อยวางจิตใจได้หรือไม่ ปล่อยวางลงแล้ว ไม่ได้ใช้วิธีของท่าน กับเรื่องนี้ท่านสามารถปล่อยวาง(จิตใจ)ลงได้ อีกทั้งสามารถประสานและช่วยทำให้งานดียิ่งขึ้น สำหรับท่านก็เป็นการยกระดับ ท่านก็สามารถยกระดับชั้น การบำเพ็ญคืออะไร นี่ก็คือการบำเพ็ญ ฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องนี้ ฉันยืนยันจะใช้วิธีของฉันให้จงได้ ดูเหมือนจะทำเพื่อฝ่า แท้จริงแล้วเป็นความไม่มีสติสัมปชัญญะ ตัวเองไม่ได้ไตร่ตรองทุกแง่ทุกมุมให้ดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริง หากแต่ มีปัญหาการไตร่ตรองไม่รอบด้านซึ่งทำให้ต้าฝ่าสูญเสียจริงๆ แน่นอนให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ ยิ่งให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้หากพบเห็นจิตยึดติดและจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์ ฉะนั้นต้องสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ในฝ่า

            ข้าพเจ้าได้พูดถึงปัญหานี้ตอนที่บรรยายฝ่าที่ฟิลาเดลเฟีย เมื่อพบกับเรื่องแบบนี้ ผู้ฝึกสามารถกลับไปอ่านอีกครั้ง ในเมื่อนี่เป็นปัญหาที่เด่นชัดอย่างนี้ เช่นนั้นเมื่อมันมาถึงก็ต้องมีความตื่นตัว แน่นอน เวลาถกเถียงกัน ต่างมีเหตุผลมากมาย สภาพแวดล้อม สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้นก็ต่างกัน สถานการณ์โดยรูปธรรมล้วนแต่ไม่เหมือนกัน โดยรูปธรรมจะจัดการอย่างไร ยังคงเป็นเรื่องที่พวกท่านจะต้องทำให้ดีในการบำเพ็ญ

ศิษย์:                อิทธิพลเก่าควบคุมยุโรปรุนแรงเป็นพิเศษ ใช่หรือไม่

อาจารย์:           ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นประเทศจีนที่มันควบคุมอย่างรุนแรง (ที่ประชุมหัวเราะ) เหมือนในเวลานั้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎคม ปี 1999 ที่ฟ้าถล่มลงมา ทุกๆ ชั้นเต็มไปด้วยพวกมารร้าย เพียงแต่คนมองไม่เห็น ข้างในมิติแต่ละชั้น กรอกเต็มไปด้วยพวกมารร้ายทั้งหลายที่อิทธิพลเก่าจัดเตรียมไว้ให้ต้าฝ่า ข้าพเจ้าเคยบอกพวกท่านแล้วว่า การเจิ้งฝ่าและฝ่าปรับโลกมนุษย์นั้นแยกทำเป็นสองขั้นตอน หากข้าพเจ้านำมารวมทำเป็นขั้นตอนเดียว เช่นนั้นทั่วทั้งโลกก็จะก่อทุกข์ภัยให้แก่ศิษย์ต้าฝ่า แน่นอนทำกันครั้งเดียวก็จะมีศิษย์ต้าฝ่ามาก จะมีศิษย์ต้าฝ่าสามพันห้าร้อยล้านคน ข้าพเจ้าแยกทำเป็นสองขั้นตอน กลุ่มที่หนึ่งคือศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่า กลุ่มที่สองคือพวกที่อยู่ในช่วงเวลาที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์ ในระยะแรกทันทีที่พวกมารร้ายลงมา มันมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน แต่นอกประเทศจีนมันไม่มีที่ที่จะแสดงอำนาจ   ดังนั้นมันจึงต้องระดมพวกมารร้ายเหล่านี้โดยพุ่งเป้ามายังศิษย์ต้าฝ่าที่มีอยู่ทั้งหมด ณ เวลานั้นกล่าวสำหรับพวกท่านมันน่ากลัวมาก เพื่อลดแรงกดดันและการประทุษร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าแยกศิษย์ต้าฝ่าและสิ่งเหล่านี้ออกจากกัน ให้พวกมารร้ายเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่ข้าพเจ้า พร้อมกับกำจัดพวกมันอย่างรวดเร็วเป็นพื้นที่กว้างในเวลาเดียวกัน ดังนั้นในเวลานั้นมีการทำอันตรายกับกายเนื้อชั้นพื้นผิวของข้าพเจ้าอย่างมาก ต่อมาภายหลังข้าพเจ้าก็ขจัดสิ่งเหล่านี้ทิ้งไปเกือบจะทั้งหมด ใช้เวลาไปหนึ่งปี ไม่เช่นนั้นศิษย์ต้าฝ่าของข้าพเจ้ารับไม่ไหวจริงๆ ข้าพเจ้าสกัดกั้นพวกมันเอาไว้   ในความจริงสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าแบกรับในเวลานั้น ไม่อาจจะเปรียบเทียบกับจำนวนอันมหึมาและระดับความชั่วร้ายของพวกมัน (เสียงปรบมือ) นอสตราดามุสมิใช่กล่าวไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อนหรอกหรือว่า ในปี 1999 เดือน กรกฎาคม มหาราชาแห่งมารของความน่าสะพรึงกลัวจะลงมาจากสวรรค์  หากทำเรื่องนี้ในครั้งเดียว ก็จะเป็นมหันตภัยครั้งใหญ่ระดับโลก ทุกๆ คนก็จะรู้ว่ามันมาแล้ว เมื่อข้าพเจ้าแบ่งทำเป็นสองครั้ง กลับจะทำให้อิทธิพลเก่าดีใจ เพราะคนที่อยู่นอกประเทศจีนจะสังเกตไม่เห็น ฉะนั้นท่ามกลางการประทุษร้าย สิ่งชั่วร้ายจึงกุเรื่องโกหกลวงโลก ชาวโลกกลับเฉยชาไร้ความรู้สึก

ศิษย์:                สหรัฐอเมริกา ที่ตรงนี้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษในขั้นตอนของการถ่ายทอดฝ่าและการเจิ้งฝ่า

อาจารย์:           ข้าพเจ้าไม่เคยพูดถึงการมีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ข้าพเจ้าสามารถเลือกที่จะไปที่ใดก็ได้ และข้าพเจ้าเลือกมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นอิทธิพลเก่าจัดให้ข้าพเจ้าไปฝรั่งเศส พวกมันได้กล่าวไว้ในคำพยากรณ์ ด้วยเหตุผลต่างๆ ข้าพเจ้ามาที่สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าชอบสหรัฐอเมริกา เป็นพิเศษ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน คนทั่วทั้งโลกล้วนแต่เคยเป็นญาติสนิทของข้าพเจ้ามาก่อน (เสียงปรบมือ) รวมทั้งพวกที่ไม่ดีที่สุดเหล่านั้น ไม่เช่นนั้นเวลานี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีโอกาสเป็นคน ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่พวกเขาเดินผ่านมา เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกเอง ที่ชั่วร้ายที่สุดคืออิทธิพลเก่า พวกมันกล้าที่จะใช้พวกมารร้ายเข่นฆ่าคนของข้าพเจ้าตามชอบใจ เพราะไม่ใช่เป็นคนของพวกมัน สิ่งที่บรรจุอยู่ในใจของอาจารย์เป็นคนทั้งหมด (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า มีผู้มีบุญวาสนาใหญ่หลวงบางคนยังไม่ได้รับฝ่า ใคร่ขอถามท่านอาจารย์ที่เคารพว่า สภาพการณ์ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร

อาจารย์:           สภาพการณ์ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่พูดลำบาก เหตุใดข้าพเจ้าบอกให้พวกท่านช่วยเหลือพวกเขา พวกท่านอยู่ในโลก ไม่รู้ว่าพวกท่านมีญาติพี่น้องสักเท่าใดในอดีต พยายามช่วยให้มากที่สุดเถิด!

ศิษย์:                ยังมีคนที่มีบุญวาสนาอีกสักเท่าใด

อาจารย์:           ข้าพเจ้าขอบอกท่าน หากไม่มีบุญวาสนา ก็ไม่สามารถจะเป็นคนในโลกในวันนี้แล้ว ใครก็ตามที่ไม่มีบุญวาสนาไม่สามารถจะอยู่ในโลก (เสียงปรบมือ) เพียงแต่ว่าในขั้นตอนของประวัติศาสตร์ พวกเขาจัดวางบทบาทต่างๆ ให้แก่ตัวเอง พวกท่านสามารถเป็นศิษย์ต้าฝ่า ก็เป็นสิ่งที่พวกท่านเลือกเองในประวัติศาสตร์ พวกที่ประทุษร้ายต้าฝ่าและถูกขจัดทิ้งไป ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกเองในประวัติศาสตร์ เมื่อชีวิตหนึ่งได้เบี่ยงเบนไป ทำแต่สิ่งไม่ดี เปลี่ยนจนไม่ดีไปแล้ว ค่อยๆ เดินไปถึงขั้นนั้น นั่นก็คือการเลือก

ศิษย์:                ปฏิเสธการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่าและกำจัดจิตยึดติดทิ้งไป บำเพ็ญและยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยให้อิทธิพลเก่าเจาะช่องว่าง สิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างไร

อาจารย์:           ท่านสามารถเดินได้ถูกต้องเที่ยงตรง ก็คือท่านมีเจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งมาก ท่านปฏิบัติตามข้อกำหนดของต้าฝ่า ปฏิบัติตามข้อกำหนดของอาจารย์ ท่านก็กำลังปฏิเสธอิทธิพลเก่า และท่านก็กำลังเดินหนทางของท่านอย่างถูกต้อง ผีเน่าเปื่อยเหล่านั้นที่บ่อนทำลายฝ่า พวกมันชอบให้พวกท่านเกิดความวุ่นวาย อิทธิพลเก่าอยากจะให้ทั้งหมดนี้เป็นไปตามจุดประสงค์ที่พวกมันจัดเตรียม ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน สิ่งที่พวกท่านทำในวันนี้ล้วนแต่เป็นไปตามสิ่งที่ข้าพเจ้าสอนให้พวกท่านทำ เพียงแต่อย่าปล่อยให้พวกมันเจาะช่องว่าง อย่าให้พวกมันมีข้ออ้างในการประทุษร้าย การประทุษร้ายครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเวลานี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ยอมรับ กับเรื่องนี้อิทธิพลเก่าหวาดผวามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันรู้ว่าข้าพเจ้าไม่สามารถยอมรับมันอย่างเด็ดขาด พวกมันเผชิญกับเรื่องนี้อย่างขวัญหนีดีฝ่อ ชีวิตชั้นสูงของอิทธิพลเก่าได้ถูกทำลายทิ้งไปแล้วท่ามกลางการเจิ้งฝ่า พวกมันที่ถูกแยกมาอยู่ข้างในสามภพในช่วงแรกนั้น พวกมันในขณะนี้ยังมองไม่เห็นสภาพการณ์แท้จริงที่ชั้นสูงที่สุดของพวกมันถูกทำลาย เรื่องเป็นอย่างนี้

ศิษย์:                ตั้งแต่การเจิ้งฝ่าเป็นต้นมา มีสภาวะดีบ้างไม่ดีบ้าง ไม่สามารถปล่อยวางจิตที่แสวงหาความสุขสบายมาโดยตลอด รู้สึกกลัดกลุ้มมาก

อาจารย์:           อาจารย์ช่วยท่านได้ แต่ท่านต้องรู้จักแสวงหาความก้าวหน้าจึงจะทำได้

ศิษย์:                เมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ ศิษย์ต้าฝ่าจำนวนส่วนใหญ่จะหยวนหมั่นกลับสู่ตำแหน่ง สิบปีหลังใครจะช่วยท่านอาจารย์ทำการเจิ้งฝ่า

อาจารย์:           เรื่องนี้ (หัวเราะ) ท่านยังคงใช้ความคิดของคนคิด ในระหว่างที่ท่านทำการเผยแพร่ฝ่า มีคนจำนวนมากก็ได้รับฝ่าแล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจรับรู้ฝ่าอย่างลึกซึ้ง เพราะครั้นเมื่อสามารถเข้าใจรับรู้ฝ่า ก็จะกลายเป็นศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่า ข้างในนี้มีขีดแบ่งเอาไว้ ฉะนั้นพวกมันอิทธิพลเก่าจึงไม่กล้าให้พวกเขาได้รับฝ่า ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ผลักดันเรื่องนี้ให้มากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง เพราะข้าพเจ้าต้องยุ่งกับงานเจิ้งฝ่าในภาพรวมและจัดการสิ่งต่างๆ ในระหว่างการเจิ้งฝ่า สำหรับพวกเขาอนาคตยังมีโอกาส แต่สิ่งเหล่านี้ที่พวกท่านทำจะไม่สูญเปล่า ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่  ยอดเยี่ยมทั้งสิ้น เพราะพวกท่านได้วางรากฐานให้แก่ผู้บำเพ็ญในอนาคต พวกท่านได้คัดสรรผู้บำเพ็ญในอนาคต ดังนั้นเรื่องนี้ทำได้ดีมาก

            ในระหว่างอธิบายความจริง พวกท่านค้นพบปัญหาหนึ่งหรือไม่ เมื่อพูดถึงการประทุษร้ายคน พวกเขาล้วนสามารถยอมรับ กับการย่ำยีเสรีภาพทางความเชื่อ กับการคุมคามสิทธิมนุษยชน พวกเขาล้วนสามารถยอมรับ พอท่านพูดถึงหลักการของฝ่า พวกเขาก็ถูกสกัดกั้นเอาไว้ พวกท่านทั้งหมดอาจรู้สภาพการณ์นี้ เป็นเพราะพร้อมๆ กับที่คนสามารถเข้าใจรับรู้ในหลักการของฝ่าจากท่าน เขาก็ได้รับฝ่าแล้ว กำลังจะบำเพ็ญแล้ว ฉะนั้นเขาสามารถจะได้รับฝ่าหรือไม่ อิทธิพลเก่าจะต้องสกัดกั้น เป็นการทดสอบเขา หากเขาต้องการจะได้รับจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องการได้รับ เขาก็จะสามารถได้รับ กล่าวก็คือ ในปัจจุบันนี้สามารถจะก้าวเข้ามาในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า สำหรับพวกเขามีอุปสรรคที่ใหญ่จริงๆ รายที่เป็นกรณีพิเศษสามารถจะเดินเข้ามาได้ อะไรก็ทะลวงออกมาได้ เขาก็สามารถเข้ามาได้ ไม่เช่นนั้นปัจจุบันนี้ไม่อาจเดินเข้ามาได้ แต่ในช่วงเวลาที่ต้าฝ่าถูกประทุษร้าย เขามาเรียนฝึกพลังกง ถึงแม้จะไม่รวมอยู่ในกลุ่มศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเวลาแห่งการเจิ้งฝ่า แต่เขาก็ได้วางรากฐานการบำเพ็ญให้แก่ตัวเองในภายหน้าแล้ว  เรื่องเป็นเช่นนี้ (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                หากเทพ พระพุทธปรากฏออกมาแล้ว ผู้คนต่างมองเห็นความจริงแล้วไปบำเพ็ญ นั่นยังจะนับว่าบำเพ็ญไหม

อาจารย์:           พวกท่านอธิบายความจริง  ก็เป็นการกำลังคัดสรรผู้บำเพ็ญในอนาคต ฉะนั้นเวลานี้สามารถจะศึกษได้หรือไม่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง กล่าวสำหรับคนที่เหลือ เมื่อไม่สามารถบำเพ็ญก็ขจัดทิ้งไป ยังไม่ใช่เช่นนั้น เพราะมนุษยชาติได้กลายเป็นระดับชั้นหนึ่งที่สำคัญในจักรวาล เป็นส่วนหนึ่งของการประสานกลมกลืนของต้าฝ่า ฉะนั้นในอนาคตบนโลกยังจะต้องมีคน แน่นอนพวกที่ไม่ดี พวกที่ไม่ไหวแล้วโดยสิ้นเชิงจึงจะถูกคัดทิ้งไป

ศิษย์:                ศิษย์จากสือเจียจวงและเป่ยจิง(ปักกิ่ง)ขอกล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน !

ศิษย์:                “หัวเราะดูเหล่าเทพเขลา” มีความหมายว่าอย่างไร

อาจารย์:           พวกท่านรู้เรื่องของอิทธิพลเก่าไหม เริ่มแรกพวกมันหัวเราะข้าพเจ้า โดยเฉพาะพวกที่มีระดับชั้นต่ำเหล่านั้น เวลานี้พวกมันไม่กล้าหัวเราะข้าพเจ้าแล้ว เวลานี้พวกมันมองเห็นความจริงทั้งหมดแล้ว พวกมันอะไรก็แจ่มแจ้งแล้ว เช่นนั้นข้าพเจ้าจึงหัวเราะที่พวกมันโง่เขลา (ที่ประชุมหัวเราะ)

ศิษย์:                “จ้วนฝ่าหลุน” เป็นหนังสือที่จะเหลือไว้สำหรับคนรุ่นหลัง และบทบรรยายฝ่าอื่นๆ ล้วนเป็นการอธิบาย “จ้วนฝ่าหลุน”  ต้องบำเพ็ญโดยยึดตาม “จ้วนฝ่าหลุน” นั้น จะเข้าใจอย่างไร

อาจารย์:           ใช่ ต้องบำเพ็ญโดยยึดตาม “จ้วนฝ่าหลุน” หนังสืออื่นๆ สามารถอ่านเพื่อการอ้างอิง ล้วนแต่เป็นฝ่า อานุภาพแห่งคุณธรรม(เวยเต๋อ)ของคนในอนาคต จะไม่ใหญ่เท่าศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่าในวันนี้ เพราะพวกเขาจะไม่มีมารผจญอย่างที่ศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่าประสบในวันนี้ แน่นอนยังมีมูลเหตุทางประวัติศาสตร์ ฉะนั้นปรากฏการณ์ของฝ่าอาจจะไม่ใหญ่เท่าในวันนี้ ด้านหลังทุกตัวอักษรของ “จ้วนฝ่าหลุน”  คือพุทธ เต๋า เทพ เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน  ในอนาคตอาจจะปรากฏให้เห็นไม่ชัดเท่าใดนัก ไม่ใช่บอกว่าฝ่าไม่ไหวแล้ว คือไม่ปรากฏให้เห็นมากมายเช่นนั้นอีกแล้ว ศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านกำลังสถาปนาอานุภาพแห่งคุณธรรม(เวยเต๋อ) ข้าพเจ้าไม่กำหนดเพดานของพวกท่านไว้ (อาจารย์หัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ไม่ยอมรับอิทธิพลเก่า นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ขอให้ท่านอาจารย์อธิบายจุดนี้สักหน่อยว่าควรจะทำอย่างไรดี จะได้ไหมคะ ขอบพระคุณ

อาจารย์:           ข้าพเจ้าคิดว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งเหล่านี้แล้ว ไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ปฏิเสธการประทุษร้ายในครั้งนี้ทั้งหมดที่พวกมันจัดเตรียม พวกมันคิดจะอาศัยการประทุษร้ายในครั้งนี้เพื่อทำให้ศิษย์ต้าฝ่าสุกงอมขึ้นมา นี่คือด้านที่ปรากฏออกมาให้เห็น ด้านที่ไม่ปรากฏออกมาให้เป็นคือ ถ้าทุกสิ่งที่พวกมันทำประสบความสำเร็จแล้วละก็ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะยอมรับได้ในอนาคต แสดงออกธรรมดามากๆ ในคนธรรมดาสามัญฝั่งนี้ ด้านที่พวกท่านบำเพ็ญสำเร็จแล้วต่างรู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าไม่ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่อิทธิพลเก่าจัดเตรียม และการประทุษร้ายในขณะนี้

            กล่าวได้ว่า ชีวิตหนึ่งที่จุลภาคมากๆ มโหฬารมากๆ ในจักรวาล ไม่มีเทพองค์ใดจะสามารถรู้ว่ามันเป็นใคร มันมองเห็นจักรวาล เทียนถี่จะเดินสู่การแตกสลายในช่วงเวลาที่กำหนดแน่นอน เนื่องจากหนึ่งความคิด ซึ่งเป็นสัญชาติญาณของชีวิต ที่ไม่อยากจะเดินสู่การดับสลาย กระตุ้นให้นภาใหญ่ทุกๆ ชั้นข้างใต้ของมัน และเทียนถี่ทุกๆ ชั้นข้างในนภาใหญ่ทุกๆ ชั้น ไปจนถึงจักรวาลทุกๆ ชั้นข้างในเทียนถี่ทั้งผอง และชีวิตทุกๆ ชั้นข้างในจักรวาลทั้งปวง ตลอดจนทำให้เทพที่ใหญ่โตข้างในของแต่ละนภาใหญ่ จัดเตรียมวิธีในการช่วยเหลือตัวเอง จากบนลงล่างก็มีเทพเป็นชั้นๆ ที่เข้าร่วมได้จัดเตรียมไว้ละเอียดยิ่ง ไปจนถึงสามภพ เนื่องจากหนึ่งความคิดนั้นมาจากระดับชั้นที่สูงมากๆ สรรพชีวิตในจักรวาลต่างเข้าใจว่านี่เป็นเจตนารมณ์ของสวรรค์ จะต้องประสบสำเร็จอย่างแน่นอน เพื่อกอบกู้นภามหึมา เทียนถี่นี้ให้รอดพ้นจากการดับสลาย เนื่องจากเทพในเทียนถี่ทุกๆ ชั้นจัดเตรียมไว้อย่างละเอียดถี่ยิบ จึงทำให้การจัดเตรียมแบบนี้ดูไปแล้วสมบูรณ์แบบจนทำให้เหล่าเทพยินดีปรีดา และมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น เข้าใจว่ามีทางรอดแล้ว ในเวลานั้นชีวิตในทุกๆ ชั้น มีเทพจำนวนร้อยละยี่สิบเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นี่ก็คือความเป็นมาของอิทธิพลเก่า

            สรรพชีวิตไม่อยากจะดับสลาย นี่เป็นธรรมชาติ แต่ชีวิตทุกๆ ชั้นข้างในร่างนภาใหญ่มหึมา ท่างกลางขั้นตอนของประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทุกสิ่งดำเนินไปสู่จุดสุดท้ายตามหลักการของฝ่าแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป ดับสลาย ไม่มีชีวิตใด ไม่มีองค์ประกอบใดๆ สามารถหนีพ้นมาก่อน กล่าวสำหรับสรรพชีวิตแล้ว (เมื่อ)ทุกสิ่งแยกสลายหมดแล้ว ไม่มีปัจจัยสำหรับการคงอยู่ของชีวิต ก็จะไม่มีสิ่งใดที่จะคงเหลือแล้ว นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าการประกอบขึ้นมาใหม่ของจักรวาลเทียนถี่ หลักการของฝ่าแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป ดับสลายสร้างสรรค์องค์ประกอบ สสาร ชีวิตทั้งหมดในจักรวาลเก่า ในเวลาเดียวกันก็ได้กำหนดหลักการของฝ่าที่จะให้ทุกสิ่งเดินสู่ความเสื่อม นั่นรวมถึงการเสื่อมและดับขององค์ประกอบทั้งหมดซึ่งประกอบขึ้นเป็นจักรวาล แสดงออกมาท่ามกลางชีวิตก็คือการเสื่อมถอยของมาตรฐานความคิดและพฤติกรรม เมื่อเสื่อมถึงระดับหนึ่งที่แน่นอนก็ไม่อาจจะช่วยเหลือและเก็บเอาไว้แล้ว จากนั้นเดินสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการดับสลาย อิทธิพลเก่าทุ่มเทพลังและปัญญาแห่งเทพอย่างสุดความสามารถ และจัดเตรียมสิ่งที่พวกมันคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุด ความยินดีปรีดาทำให้พวกมันลืมจุดที่สำคัญโดยสิ้นเชิง นั่นก็คือ เมื่อจักรวาลเดินไปถึงขั้นตอนเสื่อมถอย สรรพชีวิตทั้งหมดและองค์ประกอบทั้งหมดในจักรวาล ล้วนตกอยู่ในความเสื่อมโดยไม่มีสิ่งใดไม่ครอบคลุม ไม่มีสิ่งใดตกหล่น ชีวิต ความคิด องค์ประกอบ มาตรฐานล้วนไม่บริสุทธิ์แล้ว และมาตรฐานและชีวิตทั้งหมดที่ไม่ดีแล้วแบบนี้ เป็นการเดินสู่ขั้นนี้อย่างช้าๆ ในขั้นตอนของประวัติศาสตร์อันใหญ่หลวง หลักการของฝ่าและมาตรฐานล้วนแต่สูญเสียความสมบูรณ์แบบและความบริสุทธิ์ดั้งเดิมท่ามกลางประวัติศาสตร์อันยาวนาน สรรพชีวิตก็ยิ่งสังเกตไม่ออกถึงการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ เนื่องจากเทพระดับชั้นที่สูงมากเหล่านั้น ตลอดมาพวกมันไม่เคยเห็นชีวิตข้างล่างอยู่ในสายตา ยิ่งฟังไม่เข้าหูคำเตือนของข้าพเจ้าในระหว่างการเจิ้งฝ่า กล่าวก็คือจักรวาลเดินถึงขั้นนี้แล้ว สรรพชีวิตข้างใน ไม่ว่าวิธีช่วยตัวเองที่คิดออกมาต่อให้ดีอย่างไร ก็ยังคงเป็นชีวิตในยุคเสื่อมและดับสลาย ไม่สามารถบรรลุมาตรฐานของจักรวาลในยุคแรก ยุคกลางของ การ“เกิดขึ้น ตั้งอยู่” เช่นนั้นก็ยิ่งบรรลุไม่ถึงมาตรฐานของจักรวาลใหม่  ซึ่งสูงกว่าจักรวาลเก่าเป็นจำนวนเท่าที่นับไม่ถ้วน ฉะนั้นทุกสิ่งที่เหล่าเทพทำไม่อาจเป็นที่ยอมรับของทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกจักรวาล ระหว่างการเจิ้งฝ่าข้าพเจ้าได้เดินผ่านนภาใหญ่ทั้งหมด ได้เห็นพื้นฐานของการจัดเตรียมเหล่านั้นของพวกมัน ซึ่งล้วนแต่มีจุดรั่ว ไม่ประสานกลมกลืน ระหว่างการเจิ้งฝ่าก็ได้เดินผ่านจุดสุดท้ายของทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลเก่า กลับพบว่าชีวิตใหญ่มหึมาที่มีหนึ่งความคิดซึ่งก่อให้เกิดการบ่อนทำลายต่อการเจิ้งฝ่าอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่ชีวิตสุดท้าย และองค์ประกอบที่สูงกว่ามันยังมีอีกมากมาย ณ ที่นั้นทุกสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดเตรียมนั้นไม่มีเลยในทันที ทุกสิ่งที่พวกมันจัดเตรียมล้วนแต่ไม่มีฐานราก อะไรก็แก้ไขไม่ได้ ปล่อยคาไว้อย่างนั้น แล้วก็หายไป แต่ทว่าการจัดเตรียมทั้งหมดนี้ของอิทธิพลเก่ากลายเป็นการบ่อนทำลายอย่างแท้จริง เป็นอุปสรรคมากอย่างแท้จริงต่อการเจิ้งฝ่า กลายเป็นมหันตภัยในระหว่างการเจิ้งฝ่า ในระหว่างการเจิ้งฝ่ามันทำให้จ้าวผู้ครอง ราชา สรรพชีวิตทั้งหมดสับสนและหลงทาง และแรงกดดันต่อการเจิ้งฝ่าก็มาจากการก่อกวนโดยตรงของสรรพชีวิตทั้งหมดและอิทธิพลเก่า เมื่อเดินผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาทั้งหมด เมื่อสรรพชีวิตมองเห็นทั้งหมด ในทันทีทันใดก็เหมือนไร้ซึ่งความคิด พวกมันมองเห็นที่แท้สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดไว้ ทั้งหมดที่ข้าพเจ้ากล่าวเตือนในระหว่างการเจิ้งฝ่าล้วนแต่เป็นความจริง พวกมันตกใจจนตาค้างและพูดไม่ออก  ต่างรู้ในทันใดแล้วว่าสรรพชีวิตล้วนได้ก่อบาป(ทำผิด)ต่อการเจิ้งฝ่าแล้ว ตลอดมาพวกมันถือว่าข้าพเจ้ากำลังบำเพ็ญ ยิ่งกว่านั้นเป็นพวกมันที่กำลังสร้างสรรค์ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่าเวลานี้พวกมันไม่กล้าคิดเช่นนี้อีกแล้ว

            อิทธิพลเก่าจัดวางมารผจญบนโลกมนุษย์ครั้งนี้ ดูไปแล้วเพื่อจะรับผิดชอบต่อผู้บำเพ็ญ รับผิดชอบต่อการเจิ้งฝ่าและต่อข้าพเจ้า แต่ในความจริงจุดประสงค์ของการจัดวางของพวกมันคือเพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกมันต้องการทำ และทุกสิ่งที่พวกมันจัดวางก็ไม่ใช่สิ่งที่จักรวาลใหม่ในอนาคตต้องการโดยสิ้นเชิง ในเวลาเดียวกันได้ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่การเจิ้งฝ่าอย่างแท้จริง สิ่งต่างๆ มากมายที่ข้าพเจ้าต้องการ  ถูกพวกมันทำลายทิ้งโดยใช้กำลัง ประวัติศาสตร์ผ่านไปแล้ว สิ่งที่สูญเสียไปแล้วยากที่จะหากลับคืนมาได้อีกแล้ว พวกมันจะรับผิดชอบต่อทั้งหมดนี้อย่างไร ?!

                        เช่นนั้น กล่าวสำหรับผู้ฝึก ซึ่งตกอยู่ท่ามกลางมารผจญในครั้งนี้ สามารถปฏิบัติได้โดยไม่ยอมรับการจัดวางของอิทธิพลเก่า ท่านก็สามารถเดินข้ามมา พวกที่ทำได้ไม่ดี ในความจริงท่านไม่ใช่กำลังยอมรับการจัดวางของอิทธิพลเก่าหรอกหรือ เมื่อยอมรับแล้วท่านมิเหมือนเป็นพวกเดียวกับพวกมันหรอกหรือ ระหว่างการประทุษร้าย เนื่องจากท่านทำได้ไม่ดี ก็ทำให้ในหมู่ผู้ฝึกเกิดความไม่มั่นคงและทำให้การประทุษร้ายเลวร้ายลงไปอีก ท่านมิกำลังผสมโรงไปตามกระแส ช่วยเหลือสิ่งชั่วร้ายหรอกหรือ จงปฏิเสธพวกมัน ปฏิเสธอิทธิพลเก่าทั้งหมดโดยสิ้นเชิง !

ศิษย์:                เหตุใดอิทธิพลเก่าจึงกล้าทำร้ายศิษย์ต้าฝ่าจนถึงแก่ความตาย

อาจารย์:           ตรงนี้มีสภาพการณ์สองแบบ หนึ่งคือที่ผ่านมาอิทธิพลเก่ารู้สึกว่าศิษย์ต้าฝ่ามีความคิดแบบหนึ่ง คือครั้นเมื่อบำเพ็ญต้าฝ่าแล้วก็เหมือนได้รับการประกันภัยแล้ว อะไรก็ไม่กลัว ก็จะไม่ตายแล้ว ก็จะไม่เจ็บป่วยแล้ว ก็จะไม่อย่างนี้อย่างนั้นแล้ว และล้วนแต่มีโชคลาภ แต่พอมีจิตใจนี้ขึ้นมาก็ยุ่งแล้ว อิทธิพลเก่าพวกมันก็จะทำในสิ่งที่พวกมันต้องการทำ ยอมรับการจัดเตรียมของพวกมันโดยไม่รู้ตัว พวกมันก็จะมีข้ออ้างควบคุมท่าน ก็จะจัดทำอันตรายในแบบต่างๆ ให้แก่ท่าน แน่นอนศิษย์ต้าฝ่าจะไม่ตายไปเหมือนอย่างคนธรรมดาสามัญ แม้แต่คนที่ไปก่อน สิ่งที่รอคอยเขาอยู่ล้วนแต่สวยงามที่สุด นี่เป็นสิ่งที่แน่นอน (เสียงปรบมือ) ดังนั้นในช่วงเวลานี้ พวกมันจึงทำให้สักคนสองคนไปก่อน แน่นอนในจำนวนที่ตายไป ก็มีที่พวกมันจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วในชีวิตที่แล้ว จุดประสงค์ของพวกมันคืออะไรหรือ ให้พวกท่านเห็นว่าศึกษาต้าฝ่าแล้วก็ไม่ใช่ได้รับการประกันภัย ท่านยังต้องทำให้ดี ไม่ทำให้ดีไม่ได้ พวกมันจึงทำสิ่งนี้  ก็คือพวกมันเห็นการบำเพ็ญส่วนบุคคลสำคัญยิ่งกว่าการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ยิ่งกว่านั้นพวกมันทำสิ่งเหล่านี้ในช่วงเวลานี้ของการเจิ้งฝ่าซึ่งศิษย์ต้าฝ่ามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องช่วยเหลือสรรพชีวิต มันไม่ใช่บ่อนทำลายหรอกหรือ ศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่งอยู่ในโลกสามารถช่วยชีวิตได้มากเท่าใด! นี่ไม่ใช่ทำเรื่องไม่ดีหรอกหรือ  

            อิทธิพลเก่าจะก่อกวนผู้ฝึกเป็นพักๆ แต่การช่วยเหลือสรรพชีวิตเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพียงใด! ยังจะก่อกวนให้จงได้  จงปฏิเสธมัน! เพราะพวกมันไม่มีใครคู่ควรจะยุ่งเกี่ยว สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการคือ สรรพชีวิตทั้งหมดไม่มาก่อกวน ทั้งหมดให้รออยู่ตรงนั้น (ข้าพเจ้า)ทำการปรับให้ถูกต้องไปตลอดทาง ชีวิตที่ไม่ดีที่สุด ต่อให้ชีวิตไม่ดีอย่างไร ชีวิตที่ทำความผิดเพียงใดในประวัติศาสตร์ ล้วนแต่สามารถหยวนหมั่น ณ ที่เดิม อย่างนี้ไม่ดีหรือ?! (เสียงปรบมือ) แน่นอนไม่ใช่ไร้หลักการ  ทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าติดค้าง ข้าพเจ้าจะแปรเปลี่ยนมันเป็นการสนองกรรมดีให้แก่สรรพชีวิต ล้วนต้องชดเชยสิ่งที่ดีที่สุดให้ เขาทำไม่ได้อาจารย์จะช่วยทำให้เขา (เมื่อ)จักรวาลไม่ไหวแล้วเป็นเพราะสรรพชีวิตต่างไม่ไหวแล้ว สรรพชีวิตทั้งหมดข้าพเจ้าก็ช่วยทำให้แล้ว ข้าพเจ้าช่วยทำให้ท่านและช่วยทำให้เขา มิเป็นการแก้ไขด้วยความเมตตาหรอกหรือ (เสียงปรบมือ) (เมื่อ)ชีวิตทั้งหมดไม่ไหวแล้ว ล้วนแต่ไม่สะอาดแล้ว ข้าพเจ้าช่วยทำให้พวกท่านทั้งหมด นี่ไม่ใช่มีความยุติธรรมหรอกหรือ มีเหตุผลหรือไม่ แต่พวกมันจะต้องทำเช่นนี้ให้จงได้ แน่นอนถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ระหว่างการเจิ้งฝ่าชีวิตที่พัวพันไปถึงย่อมต้องมีปฏิกิริยา และแล้วมีปรากฏความยุ่งยาก การรบกวน นั่นเป็นไปตามธรรมชาติ จากนั้นย่อมทำให้เกิดทุกข์ภัย ความยุ่งยากบางประการให้แก่ข้าพเจ้าในระหว่างการเจิ้งฝ่า นี่ก็เป็นไปตามธรรมชาติ อันนี้ข้าพเจ้าสามารถยอมรับและแบกรับ แต่การทำสิ่งเหล่านี้ออกมาอย่างเป็นระบบ รบกวนการเจิ้งฝ่าอย่างรุนแรง เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ายอมรับไม่ได้ ความสัมพันธ์ก็เป็นเช่นนี้

            พูดจากอีกด้านหนึ่ง การที่อิทธิพลเก่าสามารถทำในสิ่งที่พวกมันต้องการทำ ศิษย์ทั้งหลายเอย นั่นไม่ใช่เพราะพวกเรายอมรับโดยปริยายต่อสิ่งที่พวกมันต้องการทำหรอกหรือ บอกให้ท่านไปท่านก็ไป บอกให้ท่านเขียนท่านก็เขียน บอกให้ท่านทำอะไรท่านก็ทำอย่างนั้น จับท่าน  พิพากษาท่าน ท่านก็ยอมรับโดยปริยายอย่างจำยอม แน่นอน มันเกิดขึ้นเพราะในใจมีสิ่งยึดติดที่ไม่ปล่อยวาง แต่ยิ่งปล่อยวางไม่ได้ก็ถูกประทุษร้ายยิ่งรุนแรง เพราะชีวิตชั่วร้ายที่ควบคุมการทำลายผู้ฝึกต้าฝ่ามองเห็นจิตยึดติดของท่านและสิ่งที่ท่านยึดติด ศิษย์ที่สามารถปล่อยวางความเป็นความตายเหล่านั้น อะไรก็ไม่กลัว มารร้ายก็กลัว แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาบำเพ็ญได้ดีจึงปล่อยวางได้

ศิษย์:                ดิฉันอยากจะให้เพื่อนสนิทมิตรสหายบำเพ็ญต้าฝ่า แต่การเจิ้งฝ่าได้มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ท่านจะจัดให้พวกเขา กลับสวรรค์ไปกับดิฉันในอนาคตไหมคะ หรือให้พวกเขาบำเพ็ญต้าฝ่าในช่วงเวลาที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์

อาจารย์:           ข้าพเจ้าไม่สามารถบอกอะไรท่าน ประการแรกนี่เป็นสิ่งที่พูดไม่ได้ ประการที่สองคือท่านมีจิตยึดติด บางคนบอกข้าพเจ้าว่าฉันหยวนหมั่นแล้ว ฉันยังมีเรื่องนี้เรื่องนั้น  จะทำอย่างไร พวกท่านทราบไหม เมื่อคำพูดนั้นออกจากปาก เทพเหล่านั้นมองผู้ฝึกอย่างไร (ที่ประชุมหัวเราะ) ยังคิดจะหยวนหมั่นอีกหรือ พวกท่านทราบไหม คนที่ในใจคิดแต่จะหยวนหมั่นนั้นจะไม่สามารถหยวนหมั่น กับคนที่ปล่อยวางฉิง(ความรัก ความผูกพัน) เงินทองไม่ได้ยังคิดจะหยวนหมั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่แสวงหาแล้วจะได้เอง! ทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำในวันนี้คือภาระหน้าที่ซึ่งประวัติศาสตร์มอบหมายแก่พวกท่าน ให้ท่านทำในสิ่งที่ท่านสมควรทำให้ดี ทุกสิ่งก็จะอยู่ในนั้น (เสียงปรบมือ) เพียงแต่ท่านคิดว่าท่านจะต้องหยวนหมั่น ท่านก็ไม่สามารถจะหยวนหมั่น แล้วยังจะบอกว่าฉันยังจัดการเรื่องนี้ไม่เสร็จ จัดการเรื่องนั้นไม่เสร็จจะไปได้อย่างไรล่ะ ในความหมายนั้นท่านยังไม่อยากไป คำพูดประโยคนี้มีจิตยึดติดของคนบรรจุอยู่มากเท่าใด

ศิษย์:                โคลงกลอนเป็นวัฒนธรรมประเภทหนึ่งของมนุษยชาติ เหตุใดท่านอาจารย์จึงเลือกโคลงกลอน --- วิธีที่พิเศษแบบนี้มาสอนพวกเราและนำมาเป็นส่วนหนึ่งของฝ่า

อาจารย์:           สิ่งเหล่านี้ของวัฒนธรรมจีน เช่นเดียวกับวัฒนธรรมอื่นๆ ของโลกล้วนเป็นเช่นนี้ คือเก็บรักษาไว้เพื่อให้คนได้ฝ่าได้ใช้ ในวัฒนธรรมนี้ข้าพเจ้าใช้ส่วนใด นั่นก็แล้วแต่ข้าพเจ้าจะเลือก ไม่มีความคิดอะไรเป็นพิเศษ คือใช้ตามแต่ใจนึก บางครั้งข้าพเจ้าใช้ภาษาโบราณเขียนบ้าง  บางครั้งก็ใช้บทกลอนบ้าง ประโยคสัมผัสเสียงบ้าง เขียนกลอนคู่บ้าง และบางครั้งก็ใช้ภาษาพื้นๆ ก็คือภาษาปัจจุบันแบบนี้เขียนบ้าง อันที่จริงข้าพเจ้าอยากใช้คำโบราณเขียนมากที่สุด สามารถสื่อความได้ชัดเจน ถ่องแท้อย่างยิ่ง แต่สิ่งที่เหล่าผู้ฝึกเรียนในปัจจุบันล้วนแต่เป็นภาษาพื้นๆ จะอ่านไม่เข้าใจ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ใช้ ใช้น้อยแล้ว อิทธิพลเก่าผลักดันมนุษย์จนมาถึงขั้นนี้ แท้จริงได้ก่อให้เกิดความยากลำบากอย่างมากให้แก่การเจิ้งฝ่าในจักรวาล และให้กับอนาคต ฝ่าที่ข้าพเจ้าพูดในเวลานี้ พูดให้แก่พวกท่านโดยผนวกเข้ากับวิทยาศาสตร์ (หาก)สิ่งนี้ไม่ใช่วัฒนธรรมของมนุษย์ เหลือทิ้งไว้ในอนาคตจะทำอย่างไร พวกท่านทราบไหม เหตุใดข้าพเจ้าคิดอยากจะใช้ภาษา(จีน)โบราณสอนอยู่เสมอ เพราะมันไม่มีสิ่งเหล่านั้นอยู่ข้างใน แต่ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้แล้ว คนสามารถเข้าใจหลักการเหล่านี้จากวัฒนธรรมอย่างนี้เท่านั้น ข้าพเจ้าได้แต่สอนอย่างนี้ เรื่องภายหน้าค่อยพูดกันภายหน้า

ศิษย์:                ท่านเคยพูดว่า ทุกสิ่งในสังคมคนธรรมดาสามัญทุกวันนี้ ล้วนแต่เกิดขึ้นจากความคิด(จิต)ของศิษย์ต้าฝ่า ดิฉันค้นพบอยู่เสมอว่า เนื่องจากจิตยึดติดของตัวเองส่งผลให้เรื่องต่างๆ ยิ่งเลวร้าย ขอถามท่านอาจารย์ว่า จะสลัดทิ้งอย่างไร

อาจารย์:           ทำได้ไม่ดีไม่เป็นไร ทำมันให้ดีในครั้งต่อไป หาดูว่ามูลเหตุอยู่ตรงไหน ในการบำเพ็ญพวกท่านมีปรากฏการณ์ที่เด่นชัดอย่างหนึ่ง คือหลังจากทำอะไรได้ไม่ดี ก็มัวแต่นึกเสียใจอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จักที่จะเริ่มต้นทำใหม่ ท่านเสียใจมากเกินไปก็เป็นการยึดติด ทำผิดแล้ว ดูว่าผิดที่ตรงไหน ครั้งต่อไปทำให้ดี ทำใหม่ เดินสะดุดหกล้มกองอยู่ตรงนั้น (ที่ประชุมหัวเราะ) ไม่ลุกขึ้นมาไม่ได้

ศิษย์:                ฟังท่านอาจารย์บรรยายฝ่าในช่วงเช้า ในใจรู้สึกเสียใจมาก ใคร่ขอถามท่านอาจารย์ เป็นการอธิบายหลักการของฝ่าเหล่านั้นให้แก่พวกเราฟังล่วงหน้าใช่ไหม

อาจารย์:           ไม่ใช่ มีสิ่งต่างๆ มากมายในปัจจุบันนี้ที่ข้าพเจ้าไม่ดูแลแล้ว เพราะพวกท่านต้องเดินหนทางของตนเองให้ดี ทุกๆ คนก็เป็นเช่นนี้ นั่นเป็นสิ่งท่านทิ้งเอาไว้ในอนาคตเมื่อหยวนหมั่นแล้ว และเป็นโอกาสให้ท่านสถาปนาอานุภาพแห่งคุณธรรม ที่ทำได้ดีก็จะเป็นทุกสิ่งที่ท่านประจักษ์รับรู้ จัดมันออกมา ขจัดส่วนที่เป็นกากทิ้งไป สิ่งสุดยอดที่เหลือก็คือหนทางความสำเร็จของท่าน ฝ่าที่ข้าพเจ้าพูดในช่วงเช้า โดยแท้คือเมื่อในภาพรวมกำลังจะเกิดการเบี่ยงเบนข้าพเจ้าจึงพูด ปรากฏการณ์กรณีเฉพาะที่ส่งผลกระทบไม่มาก ข้าพเจ้าจะไม่พูด ผู้ฝึกก็จะทำมันให้ดีได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่เรื่องที่ข้าพเจ้าพูดถึงในช่วงเช้า ข้าพเจ้าทราบ สุดท้ายพวกท่านก็จะเข้าใจได้ดี แต่ในกรณีเมื่อจะเกิดความสูญเสียหนักและเลวร้าย ข้าพเจ้าจะสูญเสียศิษย์ต้าฝ่าหลายคน ฉะนั้นข้าพเจ้าต้องพูด (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ท่านอาจารย์ที่เคารพ ผู้ฝึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันบนเว็บ รูปแบบอย่างนี้ดีหรือไม่

อาจารย์:           ข้าพเจ้าคิดว่าอยู่นอกประเทศจีนไม่มีปัญหา แต่อย่าพูดในรายละเอียด สภาพการณ์ต่างๆ การยืนยันความถูกต้องของฝ่าที่พวกท่านทำ หากอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ความปลอดภัยของท่านยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด อย่าปล่อยให้อิทธิพลเก่าเจาะช่องว่าง นี่ไม่ใช่เรื่องกลัวหรือไม่กลัว อย่าปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายเจาะช่องว่าง

ศิษย์:                ถ้าหากความคิดของเราบริสุทธิ์มากๆ ถูกต้องมากๆ อิทธิพลเก่าก็ไม่มีทางจะรบกวน หากมีการรบกวน เป็นการสะท้อนจากสภาวะบำเพ็ญของเราหรือไม่

อาจารย์:           การรบกวนปรากฏ โดยมากล้วนเป็นผลจากอิทธิพลเก่านี้ เช่นนั้น เรื่องของเราล้วนแต่ทำถูกต้องแล้วก็จะไม่มีการรบกวนใดๆ ใช่หรือไม่  เพียงแต่สามารถจะลดความสูญเสียต่างๆ ให้น้อยลง เพราะทุกคนตัวเองยังคงมีเหตุปัจจัยที่สำนึกไม่ได้คงอยู่จริงๆ จึงถูกเจาะช่องว่าง อิทธิพลเก่าคือต้องการยัดเยียดสิ่งที่พวกมันต้องการทำเข้ามา ในเวลาเดียวกัน มีผู้ฝึกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ฝึกส่วนที่สามยังมีกรรมในระดับหนึ่ง ฉะนั้นพวกมันจะใช้สิ่งเหล่านี้เจาะช่องว่าง แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร อาจารย์ไม่ยอมรับพวกมัน พวกท่านก็อย่ายอมรับมัน ทำให้ดีอย่างสง่าผ่าเผย ปฏิเสธมัน ให้มีความคิดถูกต้องแข็งแกร่งสักหน่อย ฉันเป็นศิษย์ของหลี่ หงจื้อ การจัดเตรียมอื่นใด ไม่ต้องการทั้งหมด ไม่ยอมรับทั้งหมด พวกมันก็จะไม่กล้าทำ ก็สามารถแก้ไขทั้งหมด ท่านต้องทำได้จริงๆ ไม่ใช่พูดแต่ปาก แต่การกระทำต้องทำได้ อาจารย์จะรับผิดชอบให้ท่านอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นรอบๆ ตัวอาจารย์ก็มีผู้พิทักษ์ฝ่าอยู่มากมาย มีพระพุทธ เต๋า เทพอยู่มากมาย ยังมีชีวิตที่ใหญ่ขึ้นไปอีก พวกเขาก็จะเข้าร่วม เพราะการประทุษร้ายที่ไม่เป็นที่ยอมรับและถูกยัดเยียดให้นั้นเป็นการทำผิดต่อฝ่า หลักการความจริงเก่าของจักรวาลก็ไม่อนุญาต การประทุษร้ายอย่างไร้เหตุผลเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เด็ดขาด เมื่อเป็นเช่นนั้นอิทธิพลเก่าก็ไม่กล้าทำ ก็คือทุกคนต้องพยายามเดินให้ถูกต้อง

            บอกว่าฉันเดินถูกต้องแล้ว ฉันก็ทำดีแล้ว จากนี้เป็นต้นไปมารผจญก็ไม่อาจจะมีแม้แต่น้อย เป็นไปได้ว่าจิตใจนี้ของท่านก็จะทำให้พวกมันจัดสร้างมารผจญให้แก่ท่าน เพราะ อิทธิพลเก่าเห็นว่านี่ก็เป็นการยอมรับพวกมันแบบหนึ่ง --- อ้อ เขาคิดว่าไม่มี เขาคิดจะสบาย ให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ ต้องขจัดจิตยึดติดนี้ของเขาทิ้ง นั่นมิถูกมันเจาะช่องว่างอีกแล้วหรือ ที่จริงในยามปกติทุกคนรักษาสภาวะจิตให้ถูกต้องมากๆ โดยหลักก็จะสามารถทำได้

ศิษย์:                ภายหลังการเจิ้งฝ่า พวกเรายังจะรู้จักท่านอาจารย์ไหม

อาจารย์:           อาจารย์มีระบบหนึ่งที่เป็นเอกเทศ พวกท่านล้วนแต่เป็นชีวิตในจักรวาล จักรวาลอันใหญ่มหึมาไม่ว่าจะใหญ่เพียงใด แต่อาจารย์ไม่อยู่ข้างในนั้น ข้าพเจ้าไม่อยู่ท่ามกลางทุกสิ่งนี้ แล้วตัวข้าพเจ้าเองก็มีระบบหนึ่งที่เป็นเอกเทศ ข้าพเจ้าไม่ต้องการสิ่งใดๆ ของจักรวาลนี้ และไม่จำเป็นต้องใส่สิ่งใดๆเข้าไป ตัวข้าพเจ้าเองมีระบบการดำรงชีวิตของข้าพเจ้าเองระบบหนึ่ง เช่นนั้นจึงกล่าวได้ว่า ในจักรวาลชีวิตใดๆ ก็ไม่อาจมองเห็นข้าพเจ้า และก็ไม่มีชีวิตสามารถรู้จักข้าพเจ้า อันที่จริงข้าพเจ้าก็คือไร้รูป สำหรับองค์ประกอบใดๆ ทั้งภายในภายนอก กล่าวได้ว่าข้าพเจ้าล้วนไม่คงอยู่ ก็คือไม่มีนั่นเอง แต่ข้าพเจ้าก็สามารถปรากฏรูปลักษณ์ของข้าพเจ้าออกมาในระดับชั้นใดๆ ในจักรวาล ก็คือการเลื่อนระดับในระดับชั้นต่างๆ ของรูปลักษณ์นี้ที่พวกท่านมองเห็นในวันนี้ ณ มนุษย์ตรงนี้ก็เป็นเช่นนี้ แน่นอน ในอนาคตอาจจะดูอ่อนวัยมาก เปิ๋นถี่(ร่างแท้)ของข้าพเจ้าอ่อนวัยทีเดียว พูดด้วยภาษามนุษย์ ทุกๆ ชั้นล้วนคือรูปลักษณ์ที่เลื่อนระดับขึ้นจากพื้นฐานนี้ มองดูล้วนเป็นข้าพเจ้า เพียงแต่ยิ่งนานยิ่งรู้สึกว่าองค์ประกอบของโครงสร้างยิ่งจุลทรรศน์ปริมาตรจะยิ่งใหญ่ แน่นอนข้าพเจ้าก็สามารถรวมทุกๆ ชั้นขึ้นเป็นร่างเดียวและแปลงกายให้ใหญ่หรือเล็กในเวลาเดียวกัน และยังสามารถแบ่งร่างอย่างไร้จำกัด ก็คือความหมายนั้น (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                หลังจากการเจิ้งฝ่า ศิษย์หยวนหมั่นแล้ว ในอนาคตยังจะมีโอกาสยกระดับสูงขึ้นหรือไม่

อาจารย์:           หลังจากการเจิ้งฝ่า ศิษย์ทั้งหลายหยวนหมั่นแล้ว ในอนาคตยังจะมีโอกาสยกระดับสูงขึ้นหรือไม่ ที่จริงข้าพเจ้าเคยพูดไปหมดแล้ว กั่วเว่ย(มรรคผล)เป็นสิ่งที่ประจักษ์รับรู้ได้ในระหว่างการบำเพ็ญ หมายความว่าท่านสามารถจะสำเร็จกั่วเว่ยอะไรนั้น จะได้ในขั้นตอนระหว่างการบำเพ็ญ ท่านบอกว่าฉันอยู่บนสวรรค์แล้ว ฉันจะสามารถบำเพ็ญต่อไปและยกระดับสูงขึ้นอีกหรือไม่ มีองค์ประกอบและกลไกสำหรับสิ่งนี้ แต่คิดจะยกระดับสูงขึ้นสักเล็กน้อย นั่นจะเป็นโครงการที่ยาวนานและใหญ่มากโครงการหนึ่ง คือจะไม่ง่ายเหมือนอย่างอยู่ในโลกแล้ว แต่ใครก็ไม่กล้ามาโลก หลังจากมาแล้วก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะได้พบกับเทพ พระพุทธที่ลงมาช่วยเหลือมนุษย์ ลงมาแล้วพอสมอง(ความจำ)ถูกล้างออกไป อะไรก็ไม่รู้แล้ว ไม่แน่ยังอาจจะคัดค้านการบำเพ็ญอีก ฉะนั้นใครก็ไม่กล้ามา

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่า การเป็นร่างเดียวกัน ด้านที่พื้นฐานที่สุดและข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุงนั้น มีอะไรบ้าง

อาจารย์:           ศิษย์ต้าฝ่า การเป็นร่างเดียวกัน ระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ร่วมมือประสานงานให้พร้อมเพียงกัน พลังฝ่าจะใหญ่มาก ไม่ว่าจะทำงานด้วยกันเป็นกลุ่ม หรือตัวเองทำคนเดียว ทุกคนต่างก็ทำในสิ่งเดียวกัน นี่ก็คือร่างเดียวกัน ต่างกำลังอธิบายความจริง ฟาเจิ้งเนี่ยน ศึกษาฝ่า โดยรูปธรรมทำในเรื่องที่ไม่เหมือนกัน แบ่งงานกันทำอย่างมีระเบียบ รวมกันเป็นรูปร่าง แยกกันเป็นอณู ในเวลาที่พวกท่านปรากฏปัญหาอะไรในภาพรวม อาจารย์จะออกมาพูดอย่างแน่นอน ในเวลาที่ไม่มีปัญหาที่เด่นชัดอาจารย์ก็จะไม่พูด ในเวลาที่ไม่มีผลกระทบต่อสภาพของภาพรวมก็จะไม่พูด

ศิษย์:                ท่านอาจารย์ที่เคารพรัก โปรดช่วยดิฉัน ดิฉันมีบาปหนัก ดังนั้นจึงมีลูกที่ปัญญาอ่อน

อาจารย์:           อาจารย์จะต้องช่วยเหลือสรรพชีวิตในโลกทั้งหมดอย่างแน่นอน (เสียงปรบมือ) ณ ช่วงเวลาที่ต่างกันข้าพเจ้าจะใช้วิธีที่ต่างกันทำการช่วยเหลือในรูปแบบที่ต่างกัน

ศิษย์:                ผมมีความคิดที่ไม่ถูกต้องในความฝัน เกรงว่าได้ทำร้ายชีวิตหนึ่ง

อาจารย์:           ไม่เป็นไร ความฝันก็คือความฝัน ความฝันไม่ใช่การบำเพ็ญ และไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นไปอย่างที่ท่านจิตนาการ เพียงแต่ท่านสามารถบำเพ็ญสำเร็จ ความผิดทั้งหมดที่ท่านทำ อาจารย์ก็จะคิดหาวิธีให้ท่านหยวนหมั่น (เสียงปรบมือ) เรื่องเหล่านี้อย่าคิด คิดมากแล้วก็จะกลายเป็นยึดติด ก็จะไม่สามารถบำเพ็ญ

ศิษย์:                เรียนถามท่านอาจารย์ ในการเจิ้งฝ่า เรื่องทั้งหมดที่พวกเราทำมีเบาหนักช้าและเร่งด่วนหรือไม่ จะควบคุมอย่างไร

อาจารย์:           อืม นั่นเป็นเรื่องที่เป็นรูปธรรมแล้ว เรื่องที่เป็นรูปธรรม นั่นเป็นสิ่งที่พวกท่านตัวเองกำลังก่อตั้งเวยเต๋อ หนทางที่ตัวเองต้องเดิน เป็นสิ่งที่ตัวท่านเองต้องไปทำ แน่นอน(เรื่อง)เบาหนักช้าและเร่งด่วนนั้นจำเป็นที่ตัวท่านเองไปจัดวาง ท่านบอกว่าฉันสละเรื่องที่หนัก ขอทำแต่เรื่องที่เบา เช่นนั้นก็อาจจะส่งผลกระทบกับเรื่องที่ท่านจะทำ เพราะข้าพเจ้าจะบอกท่าน ทุกสิ่งที่ท่านทำล้วนแต่ทำให้กับตัวเอง จัดวางให้ดีโดยตัวมันเองก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม ก็จะทำให้เดินหนทางได้ถูกต้อง นั่นก็คือเวยเต๋อ เรื่องที่เป็นรูปธรรมข้าพเจ้าไม่อาจจะบอกแก่พวกท่าน อาจารย์ไม่อาจเพิกถอนโอกาสที่พวกท่านจะหยวนหมั่นหนทางตัวเอง

ศิษย์:                ดิฉันโทษตัวเองอยู่เสมอที่ไม่อาจบำเพ็ญให้เกิดจิตเมตตากรุณา โดยเฉพาะกับเพื่อนและคนรู้จักรอบตัว(ดิฉัน)ที่ปฏิเสธเอกสารต้าฝ่า ดิฉันรู้สึกหมดกำลังใจ

อาจารย์:           ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน พวกเราซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญ ต้องพยายามปฏิบัติต่อสรรพชีวิตทั้งหมดรอบตัวท่านด้วยความเมตตากรุณา บางคนโอกาสแห่งวาสนาอาจจะยังไม่ถึง บางคนอาจจะต้องพิษร้ายแรงมากแต่ยังสามารถจะช่วยเหลือได้ แน่นอนก็มีคนบางพวกที่ไม่อาจจะช่วยเหลือได้ แต่คนส่วนใหญ่ล้วนแต่ช่วยเหลือได้  เวลานี้ท่านยังไม่อาจแบ่งได้ชัดเจน ข้าพเจ้าคิดว่าท่านอย่าได้หมดกำลังใจเป็นอันขาด ไม่ว่ากับใครก็ปฏิบัติอย่างมีเมตตากรุณาเช่นนี้ มีความเมตตากรุณาที่สามารถหลอมละลายเหล็กกล้า ก็สามารถจะทำได้ดี (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                เวลานี้ หลายๆ ประเทศหลงอยู่ในภาพลวงของเศรษฐกิจจีน นี้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับพวกเราในการอธิบายความจริงต่อรัฐบาลของแต่ละประเทศ และต่อวงการธุรกิจ ใครขอท่านอาจารย์ให้ความกระจ่างทางด้านนี้ได้หรือไม่

อาจารย์:           ใช่ รัฐบาลจีนได้ใช้เศษหนึ่งส่วนสี่ของทุนทรัพย์ของประเทศและประชาชนเพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ถ้ามันไม่มีกำลังทางเศรษฐกิจมันจะสามารถประทุษร้ายฝ่าหลุนกงหรือ คนในสังคมเวลานี้ฟังคำสั่งของมันไหม ท่านสั่งให้ฉันทำเรื่องที่ขาดคุณธรรมประเภทนี้ฉันจะทำไหม เนื่องจากมันต้องใช้เงินค้ำจุน เหตุใดประชาคมสังคมโลก สื่อมวลชนมากมาย รัฐบาลต่างๆ จึงซื่ออย่างนี้ สามารถแสร้งหูหนวกเป็นใบ้ต่อภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้  ล้วนแต่มีผลประโยชน์ต่างๆ มากมายอยู่ข้างในนั่นเอง

            ระหว่างการประทุษร้ายอันชั่วร้ายครั้งนี้ ในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นผลงานของรัฐบาลหรือผลการดำเนินงานของธุรกิจ ทั้งหมดล้วนผูกติดกับฝ่าหลุนกง รวมทั้งการสอบเข้าเรียนของนักเรียน ผลการเรียนของนักเรียนที่จบการศึกษา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนผูกติดกับฝ่าหลุนกง เพื่อประทุษร้ายฝ่าหลุนกง มีการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากให้กับหน่วยงานสันติบาล การเมืองและกฎหมาย ศาลสถิตยุติธรรม การต่างประเทศ สำนักงาน 610 ที่ชั่วร้าย และหน่วยข่าวกรองความมั่นคง เพื่อกุเรื่องเท็จ มีการใช้เงินจำนวนมากในกลไกโฆษณาชวนเชื่อทุกประเภท สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ศิลปะวรรณกรรม วัฒนธรรม แม้กระทั่งมีการปิดกั้นสถานีวิทยุ สถานโทรทัศน์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีการส่งสายลับออกมาประทุษร้ายฝ่าหลุนกงในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่คนเหล่านี้ออกมาพร้อมกับเงินทอง พอนำเงินเข้าบัญชีธนาคารตัวเองเสร็จแล้วก็ยื่นขอเป็นผู้ลี้ภัยทันที ปกติอยากจะออกมายังออกมาไม่ได้ นี่ยังให้เงินออกมาอีก ดีอะไรอย่างนี้หนอ นี่เป็นสังคมอะไร จะให้มาทำความผิด(ก่อคดี)ที่นี่หรือ เห็นทีต้องหาทางถอยละ กลเม็ดที่ใช้ประทุษร้ายล้วนแต่โง่เขลาเบาปัญญาที่สุด เงินทองของประชาชนซึ่งได้มาด้วยเลือดและหยาดเหงื่อ กลับนำมาถลุงเพื่อประทุษร้ายประชาชนอย่างไม่มีความละอาย ถลุงเงินทองไปเป็นจำนวนมากทีเดียว

            เห็นทีหากเรื่องของฝ่าหลุนกงไม่ได้รับการแก้ไข สังคมนั้นอย่าหวังที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้จริงๆ และไม่มีความมั่นคงใดๆ เพราะมันกดอัดทุกสิ่งทุกอย่างมาอยู่ที่ฝ่าหลุนกงตรงนี้ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดล้วนแต่คงอยู่เพื่อฝ่าหลุนกง เพื่อฝ่าหลุนกงเครื่องยนต์ชำรุดชุดนั้นจึงเดินเครื่องอยู่ได้ มันยังจะทำอะไรอื่นได้อีกละ

            ทั้งหมดล้วนเป็นเงินลงทุนจากต่างประเทศ สิ่งที่อิทธิพลเก่าทำ มันก็ใช้เงินค้ำจุนสิ่งชั่วร้าย ในช่วงเวลานี้ของการประทุษร้ายต้าฝ่า ท่านนำเงินไปลงทุนที่นั่น ก็เป็นคนที่มีเงินทองเหล่านั้น พวกเขากำลังเลือกอนาคต ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นการโยนเงินทองเข้าไปเสียเปล่า การโยนเงินในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ก็คือท่านสนับสนุนการประทุษร้ายของพวกชั่วร้าย ท่านก็ได้ก่อกรรมทำผิด หากประเทศจีนตรงนั้นไม่ประทุษร้ายต้าฝ่า ท่านลงทุนมากเท่าใดก็ไม่เป็นไร คน ณ ชั้นพื้นผิวไม่รู้ แต่คนล้วนมีด้านที่แจ่มแจ้ง ท่านไม่อาจจะบอกว่าท่านไม่รู้

ศิษย์:                ถ้าหากผู้รับผิดชอบของศูนย์ช่วยฝึกสอน หรือสมาคมศึกษาฯ ตามไม่ทันพัฒนาการของเจิ้งฝ่า และไม่สามารถรับฟังคำวิจารณ์ ความคิดเห็น....

อาจารย์:           ศูนย์ฝึก สมาคมศึกษาฯ สภาพการณ์ของพวกเราเป็นเช่นนี้หรือไม่ สำรวจตรวจสอบจิตสำนึกตัวเองดู ต้องฟังความคิดเห็นของผู้ฝึกในด้านบวก แต่หันกลับมาพูดอีกด้านหนึ่ง พวกเราผู้ฝึก วิธีการดูปัญหามีอะไรขาดตกบกพร่องบ้างไหม ถ้าท่านในบทบาทตรงนั้น ท่านจะแสดง(ทำ)อย่างไร ข้าพเจ้าไม่ใช่กำลังวิจารณ์นะ พวกเราตัวเองลองจัดวางดูบ้าง พวกเขามีปัญหาจริงหรือไม่ หรือเป็นพวกเราเองที่ไตร่ตรองปัญหาไม่ครบถ้วน หรือพวกเขามีปัญหาใหญ่จริงๆ เช่นนั้นการเป็นผู้รับผิดชอบของศูนย์ช่วยฝึกสอน ก็เป็นปัญหาที่ต้องไตร่ตรองแล้ว ท่านก็มีความรับผิดชอบที่ใหญ่มากขึ้นอีก ถ้าหากความผิดของท่านทำให้ศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่งต้องถูกคัดทิ้งไป ข้าพเจ้าคิดว่าบาปอันนี้ใหญ่หลวงนัก แน่นอนมันไม่รุนแรงขนาดนั้น ยังมีอาจารย์คอยดูแลอยู่ แต่ทุกท่านล้วนแต่กำลังบำเพ็ญ อย่างไรเสียก็ไม่สามารถนำความผิด ความยึดติดของตัวเอง นำสิ่งที่ตัวเองปล่อยวางไม่ได้ติดตัวไปหยวนหมั่นหรอกนะ ฉะนั้นไม่ว่าพวกท่านจะทำอะไร ก่อนอื่นก็ต้องคำนึงถึงต้าฝ่า ต้องไม่เห็นเรื่องของตัวเองสำคัญ

            ข้าพเจ้าถือโอกาสพูดอีกสักหน่อย อันที่จริงพวกเขาผู้รับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ก็เป็นผู้บำเพ็ญด้วย พวกท่านต้องไม่ถือว่าพวกเขาเป็นอาจารย์ คาดหวังต่อพวกเขาไว้สูงขนาดนั้น เป็นการยากที่จะไม่มีข้อผิดพลาดตรงไหนเลย เช่นนั้นก็ให้ปรึกษาหารือซึ่งกันและกันสักหน่อย พูดคุยกันบ้าง หากสามารถดูปัญหาจากมุมของการรับผิดชอบต่อฝ่าอย่างแท้จริง มีจิตใจที่สามารถหลอมเหล็กกล้าได้อย่างแท้งจริงแล้ว ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่าจะทำเรื่องนั้นได้ไม่ดี และต้องไม่ยึดติดอยู่กับอคติที่มีต่อผู้ฝึก เห็นว่าเขาใช้ไม่ได้ ข้าพเจ้าอาจารย์คนนี้เห็นว่าใช้ได้ และต้องไม่คิดว่ามันยากที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กัน ในการปฏิบัติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังทำไม่บรรลุถึงความเมตตากรุณาใหญ่หลวง(ต้าฉือต้าเปย) ท่านสามารถบรรลุถึงความเมตตากรุณาใหญ่หลวงได้จริงๆ ข้าพเจ้าคิดว่าจุดไหนที่ไม่ถูกต้องย่อมแก้ไขให้ถูกต้องได้อย่างแน่นอน

ศิษย์:                พวกเราอธิบายความจริงให้กับชาวจีนโพ้นทะเล ยังทำได้ไม่เพียงพอใช่หรือไม่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มีกลุ่มองค์กรของชาวจีนมากมาย เป็นชาวจีนที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นจำนวนมาก พวกเขาสามารถมาอยู่ต่างประเทศเพราะวาสนาของพวกเขาใช่หรือไม่

อาจารย์:           วาสนา สามารถพูดเช่นนี้ได้ แต่มีทั้งคนที่ก่อผลด้านบวกและลบ มีทั้งสองด้าน แต่นั่นเป็นการจัดวางของอิทธิพลเก่า ข้าพเจ้าไม่ยอมรับทั้งหมด เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า คนในโลกทั้งหมดล้วนเป็นญาติของข้าพเจ้า ไม่ยอมรับการจัดวางของอิทธิพลเก่า ในระหว่างอธิบายความจริง พยายามทำให้ดี ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ฝั่งตะวันตกก็ดี สหรัฐอเมริกา ฝั่งตะวันออกก็ดี ให้พวกเราพยายามทำ แต่ว่าอาจารย์มิใช่บอกให้ท่านไม่คำนึงถึงทุกสิ่ง อะไรก็ไม่สนใจดูแลแล้วไม่ได้ หมายความว่าให้จัดสรรเวลาของพวกท่านให้เหมาะสม และพยายามช่วยเหลือคน ยังมีอีกจุดหนึ่ง คนจีนคนนั้นที่ท่านช่วย ตัวเขาก็จะไปพูด ก็เป็นการให้โอกาสเขาทำความดีด้วย เพราะท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้คนต่างก็ได้ก่อบาป ล้วนแต่คอยผสมโรงไปตามกระแสท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ ส่งเสริมมาดโอหังของคนชั่วตนนั้น ฉะนั้นจะเป็นการให้โอกาสเขาชดใช้ความผิด เมื่อพวกเขารู้ความจริงแล้วก็จะพูดไปทั่วทุกแห่ง นั่นก็เป็นการกำลังชดใช้ความผิด ฉะนั้นทุกคนต้องพยายามไปทำ

ศิษย์:                เมื่อตอนที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาในเขตพื้นที่ของเรา มีคนบางคนไปช่วยผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง บางคนที่สนับสนุนต้าฝ่า มีบางคนเห็นว่าพวกเราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และพวกเราก็ไม่พึ่งพาคนธรรมดาสามัญทำอะไรให้ต้าฝ่า เข้าใจเช่นนี้ถูกต้องไหม

อาจารย์:           ในหลักการถูกต้อง แต่โดยรูปธรรมต้องดูกันอย่างนี้ ศิษย์ต้าฝ่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของสังคมมนุษย์ ข้าพเจ้ายังไม่อาจจะพูดอย่างนี้โดยสิ้นเชิง ข้าพเจ้าพูดว่าพวกเราต้าฝ่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ในขณะที่พวกเราศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากทำงานเกี่ยวกับการเมือง นั่นเป็นการงานของเขา เช่นนั้นท่านบอกว่ารัฐบาลจะจัดการเลือกตั้ง ท่านจะไปเลือกตั้งหรือไม่ ท่านไปเลือก ท่านไปหย่อนบัตร ท่านก็ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว การเป็นศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่งที่บำเพ็ญอยู่ในสังคมมนุษย์ ก็คืออยู่ในสังคมมนุษย์หนา พยายามบำเพ็ญให้สอดคล้องกับสังคมมนุษย์นั้น ไม่มีปัญหา ท่านก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคมมนุษย์ สังคมมนุษย์ การคงอยู่ของมันก็จำเป็นสำหรับต้าฝ่า ก็จำเป็นสำหรับจักรวาล จำเป็นสำหรับสรรพชีวิต พวกเราเพียงแต่ปกปักษ์รักษา ไม่อาจจะไปทำลาย สมควรให้ท่านต้องไปหย่อนบัตร ท่านก็ไปหย่อนบัตร ไม่มีปัญหา ท่านบอกว่าสมาชิกสภาคนนี้กับฉันเป็นเพื่อนกัน ฉันไปช่วยงานเขาบ้าง แน่นอนมีการยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ก็เป็นงานอาสาสมัคร มันไม่เป็นไร แต่พวกเราต้าฝ่าโดยภาพรวมไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พวกเราไม่อาจจะไปทำเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการเมืองในนามของต้าฝ่า แต่โดยหลักศิษย์ต้าฝ่ายังคงเน้นเรื่องการยืนยันความจริงให้ฝ่าเป็นสำคัญ

            เมื่อตอนการเลือกตั้งของไต้หวันครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าบอกให้ผู้ฝึกเก่าโทรศัพท์ไปให้ผู้รับผิดชอบของสมาคมศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า ไต้หวัน แจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าสมาคมศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่าของต้าฝ่าไม่มีความเห็นใดๆ กับการเลือกตั้งพรรคการเมือง ผู้ฝึกแต่ละคนคิดจะสนับสนุนใคร นั่นเป็นเรื่องของส่วนบุคคล ไม่ใช่เป็นตัวแทนต้าฝ่า มีศิษย์ต้าฝ่าสนับสนุนทั้งสองพรรค สมาคมศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่มีความเห็นใดๆ ด้านการเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่ละพรรค และไม่ยุ่งเกี่ยว สำหรับผู้ฝึกแต่ละคนอยากจะสนับสนุนใครก็สนับสนุนคนนั้น เป็นสภาพการณ์เช่นนี้

ศิษย์:                ในช่วงระยะหลังๆนี้ เวลาทำงานการเจิ้งฝ่ามีแรงกดดันมาก ดูเหมือนเป็นแรงกดดันที่ไร้รูปลักษณ์แบบหนึ่ง ไม่ทราบว่าความรู้สึกอย่างนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของการเจิ้งฝ่าในภาพรวมหรือไม่

อาจารย์:           ข้าพเจ้ารู้สึกว่าอิทธิพลเก่าที่ถูกฝ่าปรับยังไม่เสร็จนั้นจะรู้สึกถึงแรงกดดันที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อมาถึงช่วงสุดท้าย ด้านที่ถูกสัมผัส แรงกดดันจะมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นบางครั้งก็อาจจะทำให้เกิดเป็นสภาพการณ์ที่สลับซับซ้อนแบบหนึ่งให้แก่พวกเรา ก็เป็นเพียงเท่านี้ ฟาเจิ้งเนี่ยนให้มากสักหน่อยเพื่อขจัดการรบกวน อย่าเห็นมันเป็นเรื่องสำคัญ อันที่จริงปัจจุบันข้าพเจ้ามองเห็นได้ชัดเจนมาก พวกท่านก็มองเห็นได้ชัดเจนแล้ว ต้าฝ่าใครก็ไม่อาจบ่อนทำลาย การบ่อนทำลายใดๆ ล้วนเป็นความคิดเพ้อเจ้อ วันนี้ข้าพเจ้า หลี่หงจื้อจะอยู่หรือไม่ ใครก็ไม่อาจแตะต้องเขาแล้ว แต่ละคนล้วนเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ละคนล้วนเป็นอนุภาคหนึ่งของต้าฝ่า แต่ละคนล้วนกำลังหลอมเหลาอยู่ในฝ่า แต่ละคนล้วนรู้ว่าจะทำอย่างไร ศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนในทางปฏิบัติได้ยืนยันความจริงว่าต้าฝ่าแข็งแกร่งไม่อาจจะทำลาย ในสภาพการณ์ที่อาจารย์ไม่อยู่ ให้ปฏิบัติไปตามที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ อะไรก็แก้ไขได้

ศิษย์:                ท่านอาจารย์บอกว่าพวกเราต้องมีความอดกลั้นการให้อภัยที่มากล้น แต่บางครั้งยังคงเจาะสู่โพรงเขาควาย (มุ่งสู่ทางตัน)

อาจารย์:           เช่นนั้นก็แก้ไขซิ เมตตากรุณา อดกลั้นให้อภัย คำนึงถึงคนอื่นให้มากสักหน่อย ณ ที่ของคนตรงนี้ก็สามารถทำให้เกิดเป็นความเคยชิน ข้าพเจ้าไม่ชอบที่พวกท่านโทษตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย ข้าพเจ้ายังคงจะพูดประโยคนั้น ล้มลงไปแล้วก็อย่าฟุบอยู่อย่างนั้น รีบลุกขึ้นมา

ศิษย์:                บางคนยอมรับ เจิน ซั่น เหยิ่น แต่ไม่ยอมรับฝ่าหลุนกง ผลลัพธ์สุดท้ายของเขาจะเป็นเช่นไร

อาจารย์:           อันที่จริงข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ท่านไม่ต้องให้ความสำคัญมากเกินไปนักกับสิ่งที่คนธรรมดาสามัญพูด คนธรรมดาสามัญจำนวนมากไม่มีสติสัมปชัญญะ มนุษย์เอย อยู่ท่ามกลางสังคมคนธรรมดาสามัญ ได้รับผลกระทบจากทัศนคติต่างๆ แล้วยังก่อเกิดทัศนคตินานาชนิด ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อ กมลสันดานและความคิดที่แท้จริงของคนๆ นี้ ดังนั้นคำพูดที่บางคนพูดออกมานั้นคล้ายกับว่าถูกต้องแต่ความจริงไม่ถูกต้อง ไม่พูดจากใจจริง พูดออกมาโดยไม่ใคร่ครวญให้ดีก่อน พวกท่านอย่าได้ถือเอาว่าคนธรรมดาสามัญจะมีสติสัมปชัญญะขนาดนั้นเหมือนพวกท่าน ปัจจุบันมีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่มีสติสัมปชัญญะอย่างมาก แท้จริงแล้วพวกท่านในระยะแรกก็เป็นเช่นนั้น (ที่ประชุมหัวเราะ) เพราะสุกงอมเป็นผู้ใหญ่แล้ว สิ่งที่ไม่ดีขจัดทิ้งไปแล้วจึงเปลี่ยนแปลงจนมีสติสัมปชัญญะขึ้นมาแล้ว คนธรรมดาสามัญเวลาเข้าใจเรื่องราว หรือตัดสินเรื่องราวว่าดีหรือไม่ดีนั้น ก็(พิจารณา) อย่างผิวเผิน แม้กระทั่งกับคนในครอบครัว ผู้มีบุญคุณของเขา สิ่งที่พูดล้วนแต่คล้ายกับว่าถูกต้องแต่ความจริงไม่ถูกต้อง ไม่พูดจากใจจริง ไม่รักษาคำมั่นสัญญา ไม่รับผิดชอบต่อผลที่จะตามมา ฉะนั้นท่านอย่าถือมันเป็นเรื่องสำคัญ จะช่วยเขาก็ต้องช่วยเขาให้มีสติสัมปชัญญะขึ้นมา

ศิษย์:                เวลาอธิบายความจริงกับทางประเทศจีน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพของคนธรรมดาสามัญ จึงนำเอกสารความจริงมารวมกับเนื้อหาเกี่ยวกับจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญเพื่อใช้    มาตรฐานตรงนี้จะควบคุมอย่างไร บางเนื้อหาที่ไม่ดีถึงแม้จะสอดคล้องกับจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญ แต่ก็ไม่สมควรใช้

อาจารย์:           ข้าพเจ้ากลับได้ยินผู้ฝึกบางคนสะท้อนปัญหาเช่นนี้ พูดถึงผู้ฝึกของเราที่ไม่ก้าวออกมาช่วงก่อนหน้านี้ หรือผู้ฝึกที่ทำได้ไม่ดี ทันทีที่ก้าวออกมาก็อยากจะช่วยทำประโยชน์ให้มากสักหน่อย เพื่อชดเชยความผิดด้วยความดีละ แต่เพราะตนเองตกระดับชั้นไปแล้วช่วงก่อนหน้านี้ ดังนั้นเทียบกับผู้ฝึกที่ทำการเจิ้งฝ่าตลอดมาจนถึงปัจจุบันนั้นย่อมมีความแตกต่าง แต่ความแตกต่างนี้ตัวคนเองจะมองไม่เห็น ศิษย์คนอื่นๆ สามารถมองเห็น โดยเฉพาะในงานที่เป็นรูปธรรมของการเจิ้งฝ่า และจะแสดงออกมาทางความเข้าใจ ดังนั้น(เขา)ทำงานการเจิ้งฝ่าบางอย่าง คำพูดบางอย่างที่พูดออกมา ศิษย์ต้าฝ่าอื่นๆ สามารถฟังออก ตรงนี้ข้าพเจ้าไม่ใช่บอกว่าผู้ฝึกเหล่านี้ใช้ไม่ได้ ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า คนที่หกล้มให้ลุกขึ้นมาแล้วเดินต่อไป อาจารย์ไม่ทิ้งท่าน ท่านก็ไม่อาจจะสูญเสียความมั่นใจ โอกาสยังคงมี ถึงอย่างไรข้าพเจ้าก็จะช่วยท่านให้สำเร็จ ท่านยังไม่มีความมั่นใจหรือ (เสียงปรบมือ) เช่นนั้น พวกเราในเวลานี้สำหรับผู้ฝึกที่ทำได้ดีตลอดมา พวกท่านต้องช่วยเหลือพวกเขาด้วยเจตนาที่ดี อย่าเหมือนผู้ฝึกคนอื่นๆ ที่ใช้ภาษาที่รุนแรงเกินไป บางคำพูด(ท่าน)พูดโดยไม่เจตนา แต่เขาอาจจะตั้งใจฟัง ฉะนั้นท่านต้องพูดด้วยเจตนาที่ดี บอกเขาให้ทำอย่างไร แน่นอนท่านต้องไม่ให้เขาสังเกตได้ หากสังเกตเห็น เขาจะรู้สึกว่าท่านปฏิบัติต่อเขาเป็นอีกแบบ เขาก็จะเกิดอุปสรรคขึ้นในใจ และจะกลายเป็นความขัดแย้งในจิตใจ พวกเราผู้ฝึกบางคนที่เพิ่งออกมาก็ต้องระวังสักหน่อย ฟังๆ ความเห็นของคนอื่นบ้างจะมีประโยชน์ การบำเพ็ญหนา คำเตือนที่ซื่อสัตย์สุจริตแต่ฟังแล้วขัดหู

ศิษย์:                นอกจากจัดทำภาพยนตร์อธิบายความจริงเป็นปริมาณมากแล้ว สามารถจะจัดทำภาพยนตร์ด้านตรงในปริมาณที่น้อยเพื่อให้คนธรรมดาสามัญที่มีความต้องการแตกต่างกันได้ใช้    ได้หรือไม่

อาจารย์:           สิ่งนี้ข้าพเจ้าต้องขอบอกท่านนะ พวกเราในปัจจุบันไม่มีเวลาจริงๆ ศิษย์ต้าฝ่าทุ่มกำลังทั้งหมดอยู่กับการยืนยันความถูกต้องของฝ่า สิ่งเหล่านั้นทำออกมาจะมีประโยชน์ต่อคนธรรมดาสามัญ วัฒนธรรมของคนปกติทั่วไปกำลังเลื่อนไหลตกต่ำ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านจะต้องทำในวันนี้ นั่นคือสิ่งที่จะต้องทำในขั้นต่อไปในอนาคต ฉะนั้นศิษย์ต้าฝ่าในปัจจุบันคือทุ่มเท ทำเกี่ยวกับการอธิบายความจริงทางด้านนี้ให้มากสักหน่อย

ศิษย์:                ควรจัดทำภาพยนตร์อธิบายความจริงเป็นปริมาณมากเอาไว้บนเว็บ เพื่อให้ศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนจัดทำแผ่น VCD หรือไม่

อาจารย์:           ดีแน่นอน ไม่เพียงแต่ต้องทำ หากมีกำลังความสามารถต้องทำเป็นปริมาณมาก คนจีนได้รับพิษรุนแรงมากมายอย่างนั้น จึงต้องให้พวกเขารู้ความจริง ให้พวกเขารู้ว่าพวกเราไม่ใช่ทำเพื่อเป้าหมายทางการเมือง พวกเราถูกประทุษร้ายอย่างไร้ความผิด พูดจากแง่มุมของคนธรรมดาสามัญ พวกเราก็คือบอกให้ชาวโลกว่าเรื่องราวของพวกเรานั้นเป็นอย่างไร เช่นนั้นดูจากแง่มุมของฝ่า พวกเราก็กำลังช่วยเขาไม่ให้เดินสู่จุดจบของการถูกคัดทิ้งไปด้วยเหตุนี้

ศิษย์:                ศิษย์ในช่วงการเจิ้งฝ่ายืนยันความถูกต้องของฝ่า นอกจากเพื่อหยวนหมั่นตัวเองแล้ว ยังยืนยันความจริงให้แก่ชีวิตอื่นๆ อีก ใช่หรือไม่

อาจารย์:           ชีวิตอื่นๆ อันนั้นยังไม่ต้องไปสนใจ (อาจารย์หัวเราะ) แต่ว่าข้าพเจ้าจะบอกพวกเรา อันที่จริงในปีนั้น เมื่อ 20 กรกฎาคม 1999 เมื่อตอนพวกชั่วร้ายกดอัดลงแบบมืดฟ้ามัวดินนั้น ได้ควบคุมคนชั่วร้ายทั้งหมดในโลก คนธรรมดาสามัญทั้งหมดก็ถูกควบคุมเอาไว้แล้ว ไม่เพียงแต่คน แม้แต่สัตว์ พืชก็ถูกควบคุมไว้แล้ว ท่านดูแม้แต่ต้นหญ้า ต้นไม้ดูเหมือนก็ประสงค์ร้ายกับพวกเราอย่างมาก พอพ้นปีไป ปีที่สองก็ดีขึ้นแล้ว เพราะสิ่งชั่วร้ายที่กดอัดลงมาก็ถูกกำจัดไปแล้ว ในเวลานั้นก็เหลือในประเทศจีนส่วนนั้น ก็กำลังค่อยๆ กำจัดทิ้งไปอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือคนในโลก เพราะคนในโลกทุกวันนี้ล้วนแต่มีที่มา

ศิษย์:                ดิฉันมีสองคำถาม เป็นระยะๆ จะรู้สึกว่ามีงานยุ่งทุกวัน  ทำงานยุ่งทุกวัน ทว่าผลลัพธ์กลับไม่ดี บางครั้งรู้สึกเย็นชากับงานบางอย่างของต้าฝ่า งานช่วยเหลือผู้ฝึก ควรจะแก้ไขสภาวะแบบนี้อย่างไร

อาจารย์:           บอกได้แต่ว่า จัดสรรเวลาของท่านให้เหมาะสมสักหน่อย แต่ละคนมีเวลาจำกัด อาจารย์รู้ แต่จะจัดสรรให้มันดีได้อย่างไร เพื่อนผู้บำเพ็ญของพวกท่าน ศิษย์ต้าฝ่าจะต้องช่วย ไม่สามารถปล่อยให้พวกชั่วร้ายประทุษร้ายอย่างกำเริบเสิบสาน อันที่จริงข้าพเจ้าจะบอกพวกเรา การประทุษร้าย วิธีทั้งหมดที่ทำล้วนแต่โง่เขลาที่สุด พวกท่านลองหวนคิดๆ ดู ล้วนเป็นอย่างนี้ เพราะอิทธิพลเก่าได้จัดวางไว้อย่างนั้น ทำไมมันจึงสามารถจับประชาชนของต่างประเทศนะหรือ พวกท่านรู้ไหม ในเวลาที่พวกท่านอธิบายความจริง ทำให้คนอเมริกันรู้แล้ว ในจิตใจของประชาชนชาวอเมริการู้สึกโกรธแค้นมาก ประเทศจีนคอมมูนนิสต์นับตั้งแต่การปฏิวัติทางวัฒนธรรมเป็นต้นมา มันก็คิดหาทุกวิถีทางที่จะแสดงออกไปทั่วโลกว่ามันดีอย่างไร ให้ผู้คนทั้งหลายสามารถยินยอมให้รัฐบาลของพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนคงอยู่ ใช่ไหม แต่ทางสังคมตะวันตก โดยเฉพาะประชาชนชาวอเมริกัน พวกเขามีจิตใจสะอิดสะเอียนต่อพรรคชั่วคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ต้น พวกมันกล้าทำเช่นนี้ เรื่องเหล่านี้ที่พวกมันทำกลับทำให้คนอเมริกาในใจรู้สึกต่อต้านมากยิ่งขึ้น และทำให้ชนชาติอื่นๆ ทั่วทั้งโลกในใจรู้สึกต่อต้านอย่างมาก สูญเสียใจของประชาชน สูญเสียไปถึงต่างประเทศแล้ว ทำแต่เรื่องโง่เขลาเบาปัญญาเหล่านี้

ศิษย์:                พลังในภาพรวม พวกเรายังทำได้ไม่ดี บางครั้งรู้สึกว่าผู้ประสานงานหลัก หรือผู้รับผิดชอบของฝอเซี๊ยฮุ่ย(สมาคมศึกษาฯ) ไม่อยู่ในฝ่า และไม่ยอมวางมือให้ผู้อื่นทำ และยากที่จะพูดคุยหารือให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันได้ อีกทั้งได้ยินว่าพวกเขาเป็นคนที่ท่านอาจารย์เลือกด้วยตัวเอง ดังนั้นบางครั้งทั้งๆ ที่รู้ว่าพวกเขาไม่ถูกต้อง แต่ก็ต้องสนับสนุน (ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์:           ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ข้าพเจ้าก็ได้บอกผู้ฝึกของฝอเซี๊ยฮุ่ย(สมาคมศึกษาฯ)แต่ละพื้นที่แล้วว่า ให้วางมือในเรื่องที่แต่ละคนยืนยันความจริงให้ฝ่า ทุกๆ คนล้วนต้องเดินหนทางการยืนยันความจริงให้ฝ่า ผู้ฝึกของเราไม่อาจพูดได้ว่าทำถูกต้องร้อยทั้งร้อย แต่สำหรับผู้รับผิดชอบของเรา พวกท่านได้ยินไหม เหล่าผู้ฝึกมีความคิดเช่นนี้ พวกท่านทั้งหมดได้ยินไหม แน่นอนพวกท่านก็เป็นผู้บำเพ็ญ อาจารย์ไม่อาจจะบอกให้ท่านทำให้สมบูรณ์แบบไร้ข้อบกพร่องแม้แต่น้อย แต่ว่าเหล่าผู้ฝึกมีความคิดเช่นนี้ ก็อย่าได้ถือโทษโกรธผู้ฝึก เพราะพวกเขาทำเพื่อฝ่า ข้าพเจ้ามองเห็นในตัวอักษร ระหว่างบรรทัดล้วนแต่มีสัญญาณข้อมูลของพวกเขา ไม่ใช่เพื่อตัวพวกเขาเอง แต่เพื่อฝ่า (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ลงทุนทำการค้าสามารถทำกำไร มีศิษย์คิดว่าเงินทองที่จะได้ใน 2-3 ปีข้างหน้าอาจไม่ได้ใช้ เวลานี้มีเงินทองอยู่บ้างให้นำไปใช้เพื่อช่วยคน

อาจารย์:           ณ ชั้นพื้นผิวมองดูมีเหตุผล ในความจริงยังคงเดินสุดขั้ว ข้าพเจ้าคิดว่า ท่านไม่อาจจะไม่สนใจการดำรงชีพของท่าน ไม่สนใจดูแลอะไรทั้งสิ้น ข้าพเจ้าจะบอกพวกเรา สิ่งที่พวกท่านจะเหลือทิ้งไว้ในปัจจุบันนี้คือหนทางการบำเพ็ญของคนในอนาคต บอกว่าคนในอนาคตล้วนแต่เป็นแบบนี้เดินไปยังสุดขั้ว การงาน การค้าก็ไม่เอาแล้ว จนกระทั่งฉันต้องขอทานไปพลาง ยืนยันความจริงให้ต้าฝ่าไปพลาง ให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด

            ท่านต้องจัดการการดำรงชีพของตัวท่านเองให้ดี ทำการงานของท่านให้ดี ข้าพเจ้าจะบอกพวกเรา พวกท่านเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ พวกท่านไม่ว่าจะทำการงานอะไรในสังคม พวกท่านล้วนแต่ควรต้องพยายามทำทุกสิ่งที่พวกท่านสมควรทำให้ดีที่สุด จะอยู่ที่ไหนพวกท่านก็ควรจะเป็นคนดีคนหนึ่ง สังคมก็ต้องบอกว่าท่านเป็นคนดี (เสียงปรบมือ) เวลาพวกเราทำเรื่องอะไรต้องไม่เดินสุดขั้ว ต้องเดินให้ถูกต้องเที่ยงตรงในทุกๆ ด้าน

            มีคนบอกว่า ฉันวางแผนทำให้ได้กำไรมากๆ เพื่อใช้สำหรับงานของฝ่าในอนาคต น้ำที่อยู่ไกลยังไม่อาจจะแก้ความกระหายที่อยู่ตรงหน้าได้เสมอไป แต่พวกท่านวางแผนจะทำสิ่งใดในหมู่คนธรรมดาสามัญ อันนี้ก็ไม่นับว่าผิด ท่านต้องไม่คิดที่จะบอกว่า ฉันจะหาเงินทองเป็นจำนวนเท่าใดเพื่อใช้สำหรับงานต้าฝ่า ท่านไม่ต้องคิดที่จะใช้สำหรับงานต้าฝ่า ท่านบอกว่าฉันจะทำการค้าใหญ่ ฉันทำการค้าใหญ่จะทำกำไรให้มากสักหน่อย ท่านพูดเท่านี้ก็พอแล้ว (ที่ประชุมหัวเราะ) ท่านไม่ต้องเอาต้าฝ่าไปแขวนเอาไว้ (ท่านไม่ต้องระบุถึงต้าฝ่า) ข้าพเจ้ารู้สึกว่าประโยคหลังฝืนความจริงอยู่เสมอ (ที่ประชุมหัวเราะ) เพราะข้าพเจ้าบอกท่านแล้วว่า การเป็นศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านสามารถจะหาเงินทองให้มากๆ พวกท่านสามารถทำงานประเภทนี้ ทำงานประเภทนั้น นี่ไม่มีปัญหา เพียงแต่ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ท่านก็ต้องไม่รู้สึกผิดต่อจิตสำนึก  ท่านก็ต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง

ศิษย์:                เวลาที่พลังงานไม่ดีเข้ามา ดิฉันสามารถรู้สึกได้ ดิฉันพยายามสกัดกั้นพลังงานชั่วร้ายด้วยการฟาเจิ้งเนี่ยน(ส่งความคิดที่ถูกต้อง) แต่ดิฉันกลับรู้สึกสติเลอะเลือนอยากนอน อาการป่วยปรากฏ ดิฉันจะหยุดพลังงานไม่ดีได้อย่างไร

อาจารย์:           ท่านหวาดกลัวพลังงานไม่ดีนั้นมากเกินไปแล้ว เมื่อมันมาแล้วท่านก็สามารถสลายมัน แปลงให้เป็นชี่ดั้งเดิมไว้ใช้เอง ข้าพเจ้าจะบอกพวกเรานะ ก่อนที่ข้าพเจ้าจะถ่ายทอดฝ่า ก่อนที่องค์ประกอบชั้นสูงเหล่านั้นจะมา และก่อนที่จะมีอิทธิพลเก่า ในเวลานั้นข้าพเจ้ามีอีกวิธีหนึ่งที่จะจัดการกับความหนาว ข้าพเจ้าก็จะคิดเช่นนี้ เจ้าหนาว เจ้าทำให้ข้าฯ หนาว เจ้าจะทำให้ข้าฯ หนาวจนแข็งหรือ ข้าฯ ยังหนาวกว่าเจ้า ข้าฯ จะทำให้เจ้าหนาวจนแข็ง (ที่ประชุมหัวเราะ เสียงปรบมือ) บอกว่าเจ้าจะทำให้ข้าฯ ร้อน ข้าฯ จะหันกลับมาทำให้เจ้าร้อน ข้าฯ จะทำให้เจ้าร้อนจนทนไม่ไหว ข้าพเจ้าก็พูดในความหมายนี้ละ ไม่แน่ว่าพวกท่านจะทำได้ แต่คือให้จัดการกับมันด้วยความคิดที่ถูกต้อง คือท่านไม่กลัวมัน ข้าพเจ้าเพียงแต่พูดให้ฟัง ไม่อาจจะนำไปทำจนวุ่นวายหรอกนะ ผู้ฝึกใหม่บางคน หากมีใครส่งสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างเข้ามาหาท่านจริงๆ ท่านก็ไม่ต้องกลัว ท่านคือศิษย์ต้าฝ่า มีอาจารย์อยู่ มีฝ่าอยู่ บางทีท่านอาจจะติดค้างมันไว้ในประวัติศาสตร์ เช่นนั้นก็ชำระคืนมันแล้วละ แต่ท่านเป็นผู้บำเพ็ญ ใจท่านสามารถปล่อยวางได้ อาจารย์ก็จะดูแลท่านอย่างแน่นอน ถึงแม้มันจะส่งเข้ามาแล้ว ชั่วเวลาไม่นานอาจารย์ก็จะเปลี่ยนมันเป็นของที่ดีให้แก่ท่าน (เสียงปรบมือ) เพราะท่านเป็นผู้บำเพ็ญ อาจารย์จะดูแลท่าน แต่ถ้าท่านยึดติด และมีใจเกิดขึ้นมาอีกแล้ว ทีนี้ฉันไม่กลัวแล้ว ฉันมีอาจารย์คอยดูแล มาเถิด (ประชุมหัวเราะ) เช่นนี้ใจที่คอยพึ่งพิงโดยสิ้นเชิงแบบนี้ของท่านก็เป็นการยึดติดอีก อาจารย์มองเห็นว่ามีใจนี้อยู่ก็จะไม่สนใจดูแลท่าน รอให้ท่านปล่อยวางจิตใจนี้ลงแล้วค่อยว่ากัน ก็พูดในความหมายนี้ละ บำเพ็ญ บำเพ็ญ ก็คือใจของคน ใช่หรือไม่ ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ดี ปฏิบัติกับทุกสิ่งด้วยความคิดที่ถูกต้อง อะไรก็ไม่กลัว ฉันบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง ฉันจะกลัวอะไร !

            ผู้ฝึกที่ถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงในสถานกักกันแรงงาน หลายๆ คนเกิดขึ้นเนื่องจากมีจิตหวาดกลัว พูดขึ้นมาฟังดูธรรมดาง่ายๆ อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ชั่วร้าย ภายใต้แรงกดดันแบบนั้น มันไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ท่านคือคนที่กำลังเดินสู่ความเป็นเทพ ท่านสมควรจะทำอย่างไร?! แน่นอนละ คนที่ตายไปก็มีกรณีอิทธิพลเก่าจัดวางไว้ในประวัติศาสตร์ เป็นต้นว่าในชาติที่แล้วอิทธิพลเก่าบอกไว้ว่า ในอนาคตเมื่อถ่ายทอดต้าฝ่า ถ้าท่านต้องการอยากจะได้ฝ่าท่านต้องเดินเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ให้ท่านเข้ามา ผู้ฝึกย่อมตกลงอย่างแน่นอน พวกเขายอมตกลงให้ถูกตีจนตายเมื่อถึงเวลา แน่นอนที่ข้าพเจ้าพูดเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ในประวัติศาสตร์พวกเขาได้เจาะช่องว่างอย่างนี้เอาไว้มากมายจริงๆ จัดวางสิ่งต่างๆ เอาไว้มากมาย

            ยังมีสาเหตุอีกประการหนึ่ง คือประวัติศาสตร์ช่างยาวนานเหลือเกิน  ท่านเห็นแล้วว่าตำรวจชั่วในสถานกักกันที่ประทุษร้ายผู้ฝึกของเรามากมาย ถ้าหากเรื่องนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเจิ้งฝ่า ที่ถูกประทุษร้ายคือคนธรรมดาสามัญ เช่นนั้นเมื่อตำรวจชั่วคนนี้ตายไปแล้ว ไปเกิดใหม่ มาทันกับช่วงเวลานี้ ได้ฝ่าเป็นศิษย์ต้าฝ่า เช่นนั้นคนที่ถูกตีตายไปในเวลานั้นจะไม่ปล่อยให้เขาชดใช้คืนหรือ สมมติว่าชีวิตนั้นบอกว่า ฉันไม่ต้องการสิ่งที่ดีใดๆ ฉันต้องการให้เขาชดใช้ชีวิตฉัน นี่ก็จะเป็นเรื่องที่จัดการยาก ข้าพเจ้าจะบอกพวกเรา อาจารย์สามารถแก้ไขทุกสิ่งให้ด้วยความเมตตาแล้ว ผู้ฝึกติดค้างอะไรไว้กับเขา ข้าพเจ้าก็ช่วยผู้ฝึกชดเชยสิ่งที่ดีที่สุดแก่เขา ผู้ฝึกไม่มีอะไร ข้าพเจ้า อาจารย์คนนี้จัดให้ ข้าพเจ้าให้ท่านได้ความสุขโชคลาภ เพราะความตายของท่าน ท่านจึงได้ขึ้นสวรรค์เป็นรางวัลตอบแทน นี่ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงให้เป็นเรื่องที่ดียิ่งขึ้นหรอกหรือ แต่ว่าละนะ ชีวิตนั้นมีความโกรธแค้นอย่างมาก เขาจึงไม่ยอมปล่อย ---- ท่านจะให้ฉันขึ้นสวรรค์หรือ ท่านให้ฉันเป็นเทพฉันก็ไม่เอา ฉันต้องการจะแก้แค้น เรื่องนั้นก็จัดการยากแล้ว ไม่ใช่ธรรมดาง่ายๆ อย่างที่พวกท่านคิดหรอกนะ ! จะทำอย่างไรพวกท่านลองพูดดูซิ ในหมู่ผู้ฝึก คนที่ติดค้างชีวิตเอาไว้ในประวัติศาสตร์ก็มีไม่น้อยเลย อาจารย์ก็ช่วยพวกท่านแก้ไขด้วยความเมตตาทั้งหมดแล้วละ

            แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คนที่ไปก่อนแล้ว สิ่งที่รอคอยท่านก็คือหยวนหมั่น ! (เสียงปรบมือ) นี่เป็นการพูดจากแง่มุมอย่างนี้ พูดก็พูดกันเช่นนี้ เพียงแต่พวกท่านเดินให้ตรง อันที่จริงข้าพเจ้าล้วนสามารถแก้ไขด้วยความเมตตาทั้งหมดแล้ว ข้าพเจ้าสามารถทำให้ใจที่คิดสุดขั้วนั้นเปลี่ยนเป็นดีได้อย่างแน่นอน ข้าพเจ้าก็สามารถทำให้เขาไม่ต้องการชีวิตของเขาอีก เพราะข้าพเจ้าแก้ปมในใจของเขาด้วยฝ่า อะไรข้าพเจ้าก็ทำได้ พอพวกท่านมีจิตยึดติดที่ปล่อยวางไม่ได้ ก็แก้ไม่ออก อาจารย์จึงจัดการได้ยาก

ศิษย์:                มีปรากฏการณ์แบบหนึ่ง พื้นที่บางแห่งเวลารวมกลุ่มศึกษาฝ่า จะอ่านบทความที่ท่านอาจารย์ออกใหม่กันมากและหลายๆ รอบ แต่อ่านทบทวน “จ้วนฝ่าหลุน” กันน้อย เวลาศึกษาฝ่าเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้รับผิดชอบบางคนจะเล่ารายละเอียดของฝ่าที่ท่านอาจารย์พูดในกลุ่มเล็ก เล่ารายละเอียดของกลุ่มเล็ก

อาจารย์:           นี่เป็นสองประเด็น ประเด็นที่หนึ่ง สิ่งต่างๆ ที่ข้าพเจ้าพูด  ในระยะหลัง   โอกาสต่างๆ  นั้นเป็นการเสริม “จ้วนฝ่าหลุน” หากพวกท่านรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ก็พอแล้ว สิ่งที่ต้องศึกษาบ่อยๆ คือ  “จ้วนฝ่าหลุน” เช่นนั้นประเด็นที่สองคือ ผู้ฝึกบางคนเมื่อได้ฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าพูด ณ โอกาสพิเศษเฉพาะแล้วก็นำความไปเล่าต่อ ข้าพเจ้าเคยพูดถึงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว สิ่งที่ข้าพเจ้าพูด ณ โอกาสพิเศษเฉพาะนั้นไม่ใช่เป็นกรณีทั่วไป และบางทีอาจเป็นประเด็นที่มุ่งตรงต่อพวกท่านโดยเฉพาะ ท่านกลับไปแล้วไปพูดให้คนอื่นฟัง เมื่อพูดออกจากปากของท่านก็ไม่มีความหมายเหล่านั้นที่ข้าพเจ้าพูดอยู่ข้างในนั้นแล้ว ในเวลาเดียวกันก็ไม่ใช่ประเด็นสำหรับคนอื่น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็สูญเสียประสิทธิผลของเขา(ฝ่า) คนอื่นฟังแล้วจะรู้สึกไม่สบายใจ ในเวลาเดียวกันท่านพูดออกมายังมีใจของท่านติดอยู่ข้างใน โดยมากจะมีความโอ้อวดติดอยู่ลึกๆ ในใต้จิตสำนึกแบบหนึ่ง ข้าพเจ้าคิดว่าจากวันนี้ไปท่านอย่าได้ถ่ายทอดเรื่องอย่างนี้อีก ข้าพเจ้าพูดท่านฟังแล้วก็แล้วกัน พวกท่านรู้ไหมคนที่บำเพ็ญเต๋านับพันปีนั้น พอพวกเขาได้สัจธรรมอะไรสักเล็กน้อย จะเก็บเอาไว้กับตัว เก็บเอาไว้นับพันปีก็ไม่บอกให้ใครรู้เลย (ที่ประชุมหัวเราะ) ใครที่อยากจะรู้สิ่งเล็กน้อยนี้ของฉันยังต้องมีการแลกเปลี่ยนเลยนะ แล้วพวกท่านละ อย่างนั้น อย่างนี้ อย่างนี้ อย่างนั้น พูดออกมาจนหมด (อาจารย์หัวเราะ) เก็บอะไรไม่ได้เลย (ที่ประชุมหัวเราะ)

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนจะหยวนหมั่นในรูปแบบอย่างไร

อาจารย์:           เหมือนกัน รูปแบบโดยรวมจะเหมือนกัน แต่มีอยู่จุดหนึ่ง ที่ไม่ใช่ข้าพเจ้าเป็นผู้รับ ข้าพเจ้าส่ง ทำไม่ได้ทั้งหมด คนที่ล่วงหน้าไปก่อน ถึงแม้ข้าพเจ้ากำหนดให้เขาหยวนหมั่นแล้ว อันที่จริงก็รอคอยอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง ต้องให้ข้าพเจ้าเป็นผู้รับ คนที่ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นผู้รับ จะไม่เป็นที่ยอมรับทั้งหมด ฉะนั้นพวกเขาต่างกำลังรอคอยการปิดของฉากสุดท้าย แน่นอนละ พวกที่รอคอยอยู่นั้นไม่มีทุกข์แล้ว นั่นล้วนแต่แจ่มแจ้งอยู่ในสภาพของเทพ เป็นเพียงประเด็นของการคืนสู่ตำแหน่งเท่านั้น

ศิษย์:                ณ ช่วงเวลาวิกฤติของการเจิ้งฝ่านี้ ผู้ฝึกเก่าบางคน ทยอยกันประสบความทุกข์ทรมานในระดับต่างๆ จะปฏิบัติและช่วยเหลือผู้ฝึกเหล่านี้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ทรมานได้อย่างไร

อาจารย์:           การบำเพ็ญไม่อยู่ที่(ใครเริ่มต้น)ก่อนหรือหลัง บำเพ็ญได้ดีหรือไม่ดีก็ไม่อยู่ที่(ใครเริ่มต้น)ก่อนหรือหลัง คนที่สามารถมีความคิดที่ถูกต้อง การกระทำที่ถูกต้อง (เจิ้งเนี่ยนเจิ้งสิง) สามารถปล่อยวางความยึดติดได้ก็จะไม่เหมือนกัน กลุ่มอันธพาลชั่วร้ายในประเทศจีนที่ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าก็คิดอย่างนี้: อ้อ เขาเป็นผู้ฝึกเก่า ถ้าให้เขาเขียนอะไร คนอื่นๆ ก็ต้องทำตาม นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?! คนธรรมดาสามัญประทุษร้ายผู้บำเพ็ญ พวกเขาไม่อาจจะเข้าใจผู้บำเพ็ญได้ตลอดไป ทุกๆ คนล้วนแต่กำลังบำเพ็ญตัวเอง เดินหนทางของตัวเอง ไม่มองดูคนอื่นใด ไม่ดูว่าใครอายุมากอายุน้อย ไม่ดูว่าใครเข้ามาบำเพ็ญก่อนหรือหลัง ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์คนนี้นำพาลูกศิษย์เหมือนกันหมด เช่นนั้นพูดถึงว่าจะช่วยเหลือเขาอย่างไร สิ่งที่พวกท่านสามารถทำได้ หนึ่งคือช่วยเขาให้รับรู้เข้าใจ ยกระดับสูงขึ้นจากในฝ่า อีกหนึ่งคือทุกคนฟาเจิ้งเนี่ยน

อยู่ด้วยกัน ทำในเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำให้มาก --- ช่วยเหลือสรรพชีวิต สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ช่วยได้

ศิษย์:                ทุกครั้งที่สถานการณ์การเจิ้งฝ่าของเรามีความก้าวหน้าไปมาก มักจะมีคนธรรมดาสามัญก่อเหตุการณ์รบกวนแบบกะทันหัน อย่างเช่น เหตุการณ์ “9-11” อุบัติเหตุของยานอวกาศ เรื่องประเทศอิรัก เกาหลีเป็นต้น พวกเราจะดูการรบกวนเหล่านี้อย่างไร

อาจารย์:           นั่นซิ ทำไมรัฐบาลจีนประทุษร้ายมวลชนกลุ่มใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งเป็นกระแสหลักที่พื้นฐานของสังคม ประเทศที่เชิดชูความเป็นธรรมเหล่านั้นจึงแสร้งเป็นมองไม่เห็นละ ทำไมไม่พูดอะไรเลยละ มีเหตุผลของพวกเขาเอง แต่ก็มีการรบกวนซึ่งอิทธิพลเก่าจัดวางไว้ด้วย ให้พวกเขายุ่งอยู่กับเรื่องของผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น จึงมีเรื่องก่อการร้ายปะทุออกมาเป็นพักๆ มาหันเหความสนใจของพวกเขาเป็นพักๆ ไม่ให้พวกเขาพุ่งความสนใจไปที่จุดประสงค์แท้จริงของการดำรงอยู่ของพวกเขา

ศิษย์:                ศิษย์จากประเทศอังกฤษขอกล่าวคำสวัสดีต่อท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน

ศิษย์:                เพื่อจะช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวที่ถูกคุมขังในประเทศจีน พวกเราแต่งบทละครสั้นและจัดแสดงตามหัวมุมถนน ในนี้มีบทแสดงของคนชั่วร้าย ให้ศิษย์ต้าฝ่าแสดงบทอย่างนี้ เรียนถามท่านอาจารย์ว่าเหมาะสมหรือไม่

อาจารย์:           ไม่เป็นไร การแสดงก็คือการแสดง แต่ว่านะ เวลาที่ข้าพเจ้าเห็นศิษย์ต้าฝ่าแสดงบทเป็นคนไม่ดี ข้าพเจ้ารู้สึกไม่สบายใจ หากมีความจำเป็นก็ทำเถอะ ไม่เป็นไร โดยแท้จริงไม่มีผลกระทบใดๆ เช่นนั้นจะทำอย่างไร การยืนยันความถูกต้องของฝ่านั้น ต้องให้ศิษย์ต้าฝ่าเป็นคนแสดง ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าเคยเสนอความคิดให้แก่พวกเขา ข้าพเจ้าว่าเวลาพวกเราถ่ายทำละครโทรทัศน์ บทละครของตัวร้ายสามารถจะให้เพื่อนๆ ของเราแสดงได้หรือไม่ (ที่ประชุมหัวเราะ) มาเป็นนักแสดง แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีเงิน ต่อไปเมื่อมีกำไรแล้ว มีเงินแล้วค่อยจ่ายให้ (ที่ประชุมหัวเราะ) นี่พูดเล่นหรอกนะ แต่โดยแท้จริงไม่เป็นไร

ศิษย์:                มนุษยชาติในอนาคตกับชีวิตอื่นๆ ยังจะคงอยู่ในเวลาเดียวกันหรือไม่ ศิษย์ทั้งหลายควรจะปฏิบัติอย่างไร

อาจารย์:           มนุษยชาติในอนาคตกับชีวิตอื่นๆ ยังจะคงอยู่ในเวลาเดียวกันหรือไม่ หลังจากฝ่าปรับโลกมนุษย์ยังจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขนาดนั้น พูดถึงว่าในอนาคตบนโลกจะมีอะไรนั้น ต้องดูความต้องการของมนุษยชาติ บนสวรรค์ทุกสิ่งล้วนแต่ดีงามยิ่งนัก ดีเสียจนไม่อาจจะบรรยายได้ด้วยคำพูด เทพเหล่านั้น แม้แต่เทพเหล่านั้นที่ได้รับการแก้ไขด้วยความเมตตาและเข้าสู่จักรวาลใหม่ก็ตกตะลึงจนตาค้าง (เสียงปรบมือ) มนุษย์รู้สึกว่าเทพก็คือความดีงาม โลกของเทพก็คือดีงาม แต่เมื่อถึงที่ตรงนั้นแล้วดู สถานที่เดิมนั้นก็ไม่ดีงามขนาดนั้นแล้ว มีความแตกต่างขนาดนั้น กล่าวสำหรับมารเหล่านั้น พวกมันก็เป็นสมาชิกหนึ่งของจักรวาล ในจักรวาลไม่อาจจะไม่มีความสอดคล้องของชีวิตด้านบวกและลบ

            เวลาเท่าไรแล้ว (เสียงปรบมือ) จบ(การตอบคำถาม)กันดีไหม ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้ (เสียงปรบมือยาวนานขอให้อาจารย์อยู่ต่อ) เช่นนั้นข้าพเจ้าก็จะตอบคำถามต่ออีกสักหน่อย (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ขอท่านอาจารย์พูดอะไรสักหน่อยว่า ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการยื่นฟ้องหัวหน้ามารโฉดทรามตนนั้นในประเทศจีน

อาจารย์:           ทั่วทั้งประเทศจีน เป็นไปไม่ได้ที่ทุกๆ คนจะรู้ความจริงกันทั้งหมด และเข้าใจฝ่าหลุนกงในด้านบวก แต่ทุกๆ คนกลับกำลังด่าคนโฉดทรามตนนั้นกันทั้งหมด ก็ดำเนินมาถึงถึงขั้นนี้แล้ว (เสียงปรบมือ) เช่นนั้นยังไม่สมควรส่งขึ้นศาลหรือ (เสียงปรบมือ) (อาจารย์หัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ขอให้ท่านอาจารย์ที่เคารพยิ่งให้ความกระจ่าง การร้องเรียนที่ข้างหน้ากงสุลจีน พวกชั่วร้ายสั่งให้ตำรวจหาเรื่องกับพวกเรา ผมอยากทำสามสิ่งที่อาจารย์สอนสั่งให้ดี ก่อนอื่นคืออธิบายความจริง เมื่อประสบกับปัญหาต้องไม่หลีกเลี่ยง ต้องเผชิญหน้ากับมัน

อาจารย์:           เป็นเช่นนั้น เมื่อพวกเราพบกับสภาพการณ์เช่นนี้ ก็ต้องจัดการกับมัน ขอให้พวกท่านจดจำเอาไว้ ตรงไหนมีปัญหา ตรงนั้นมีความจำเป็นต้องไปอธิบายความจริงแล้ว (เสียงปรบมือ) ผลลัพธ์จะดีหรือไม่ดี พวกท่านไม่ต้องดูฝ่ายตรงข้าม คือเกิดจากใจของพวกท่านเอง ท่านให้มันดีมันก็จะดี ท่านไม่ประสงค์จะให้มันดี หรือในจิตใจไม่มั่นคง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับข้ามมาให้ถูกต้อง  หมายความว่าต้องมีเจิ้งเนี่ยนต้องแข็งแกร่ง ฉันกำลังช่วยเหลือพวกท่านจริงๆ ฉันพูดความจริงกับท่านจริงๆ ผลลัพธ์ก็จะดี สำหรับคนที่อยู่นอกประเทศจีน ยังคงต้องพยายามไปปฏิบัติด้วยจิตเมตตา(ซั่นเนี่ยน) แน่นอน คนที่ไม่อาจจะช่วยเหลือ อยู่นอกประเทศจีนก็มี บางทีอาจจะพบ บางทีอาจจะไม่พบ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราตัวเองก็ต้องทำให้ถูกต้อง อย่างน้อยที่สุด พวกเราต้องไม่ทำผิดต่อเขา ไม่ทำผิดต่อสรรพชีวิต สิ่งต่างๆ มากมายก็เป็นเรื่องที่คนกระทำ ให้พยายามไปทำ อย่าทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ศิษย์:                ภรรยาสูญเสียอิสรภาพจากการยืนยันความถูกต้องของฝ่า เนื่องจากตัวเองมีลูกที่อายุไม่กี่ขวบคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ผมจะไม่ยืนยันความถูกต้องของฝ่าเหมือนอย่างที่ภรรยา(ทำ) แต่จะใช้วิธีที่จะช่วยป้องกันตัวเองมากขึ้น ทำอย่างนี้ถูกต้องไหม ณ ที่นี้ผมขอเป็นตัวแทนศิษย์ต้าฝ่าจากเจิ้นโจวส่งความระลึกถึงต่อท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน การเป็นศิษย์ต้าฝ่า ท่านรู้สึกว่า(สิ่งที่)ท่านทำถูกต้องท่านก็ทำ ในขั้นตอนของการบำเพ็ญต่างก็มีความเข้าใจที่ต่างกัน สภาวะที่ต่างกัน ล้วนแต่ไม่ใช่ปัญหา พวกท่านในระหว่างการบำเพ็ญสามารถรับรู้ได้สูงเพียงใด พวกท่านสามารถทำได้ถึงระดับใด นั่นล้วนเป็นปรากฏการณ์ของอาณาจักรเขตแดนของการบำเพ็ญ พูดอีกนัยหนึ่ง (หาก)พวกท่านทำได้ดีเป็นพิเศษ นั่นย่อมดีกว่าแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่เป็นการฝืนบังคับ ข้าพเจ้าไม่มีข้อกำหนดอื่นใดสำหรับพวกท่าน ตลอดมาก็ไม่เคยพูดว่าพวกท่านต้องทำให้ดีเพียงไรให้ได้ ล้วนแต่พวกท่านทำกันเองทั้งสิ้น รับรู้ในหลักการของฝ่าได้สูงเพียงใด พวกท่านก็จะสามารถทำได้ถึงระดับนั้น ทุกสิ่งที่พวกท่านทำล้วนแต่ทำให้ตัวพวกท่านเองทั้งหมด ไม่ใช่ทำให้ข้าพเจ้าอย่างแน่นอน (อาจารย์หัวเราะ) พูดกันอย่างนี้นะ มีแต่อาจารย์ช่วยพวกท่าน ไม่ใช่พวกท่านช่วยอาจารย์ (เสียงปรบมือ) ในอนาคตเมื่อพวกท่านมองเห็นความจริง (ท่านจะพูดว่า) “อ้อ ความจริงเป็นอย่างนี้นี่เอง”

ศิษย์:                วันนี้เป็นวันเทศกาลประดับโคม พวกเราขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เคารพยิ่งสำหรับการบรรยายฝ่าและช่วยเหลือ และร่วมฉลองเทศกาลประดับโคมกับพวกเรา ผู้ฝึกเหล่านี้ไม่อยากให้ท่านอาจารย์ไปจากที่นี่ (เสียงปรบมือ)

อาจารย์:           อ้าว ข้าพเจ้าไม่ได้นึกถึง ข้าพเจ้านี่นะ วันเทศกาล วันตรุษ ถ้าท่านไม่บอกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ลืมไปแล้ว วันนี้เป็นวันเทศกาลประดับโคม เช่นนั้น พวกเราที่นี่ไม่ใช่เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่หรอกหรือ (เสียงปรบมือยาวนาน)

ศิษย์:                เวลาที่ส่งเอกสารอธิบายความจริงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ สามารถจะส่งโคลงกลอน บทความจิงเหวิน หนังสือต้าฝ่าให้พวกเขาได้หรือไม่

อาจารย์:           เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา คนธรรมดาสามัญก็ให้ได้ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพียงแต่เขายินดีที่จะอ่าน การประทุษร้ายดำเนินมาเป็นเวลายาวนานขนาดนี้แล้ว คนจำนวนมากที่อยากจะรู้ความจริงเกี่ยวกับฝ่าหลุนกงจริงๆ แต่ก็หาหนังสือไม่ได้ ในปีนั้นเมื่ออิทธิพลเก่าบอกให้พวกชั่วร้ายเผาหนังสือนั้น พวกท่านทราบไหม อิทธิเก่าพวกมันใช้ข้ออ้างอะไร เหตุใดต้องเผาหนังสือละ ในเวลานั้น หนังสือ “จ้วนฝ่าหลุน” ในจีนแผ่นดินใหญ่มีมากจนมีทั่วไปทุกที่ ผู้ฝึกจำนวนมากไม่ให้ความเคารพ คนธรรมดาสามัญก็ยิ่งไม่เห็นความสำคัญ เทพทนดูต่อไปไม่ไหว เพราะนั่นเป็นฝ่าแห่งสวรรค์ที่สร้างสรรค์จักรวาล ! ดังนั้นพวกมันอิทธิพลจึงคิดอยากให้หนังสือขาดแคลนเป็นพิเศษ จากนี้ไปให้คนต้องค้นหาฝ่า เคารพนับถือเขา รู้คุณค่าของฝ่านี้ ในระยะแรกพวกมันทำเรื่องนี้โดยใช้ข้ออ้างเช่นนี้

ศิษย์:                ในพื้นที่ของพวกเรายังมีเพื่อนผู้ฝึกที่ไม่เข้าใจการเจิ้งฝ่า ความเข้าใจในด้านอื่นๆ ก็ไม่ค่อยดี ดิฉันจะช่วยพวกเขายกระดับสูงขึ้นได้อย่างไร

อาจารย์:           ไม่มีการบีบบังคับ คนเขาคิดจะบำเพ็ญหรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับตัวเอง พวกเราได้แต่บอกให้ใฝ่ดี ได้แต่พยายามเตือนสติพวกเขา บอกกล่าวพวกเขา อธิบายหลักการ/เหตุผลให้เข้าใจ ไม่อาจจะใช้วิธีบังคับ อธิบายให้ฟังแล้วบางทีอาจจะดีขึ้น บางทีเขาอาจจะมีจิตยึดติด

ศิษย์:                ในงานของต้าฝ่า เพื่อจะทำงานให้ดีมีผู้รับผิดชอบบางคนไม่พูดความจริง ใช้วิธีการของคนไปทำ เป็นเพราะศึกษาฝ่าไม่ดี มีจิตเห็นแก่ตัว หรือมีจุดประสงค์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

อาจารย์:           จุดประสงค์ ? ไม่สามารถจะพูดเช่นนั้น พวกเราที่นั่งอยู่นะ มีอยู่คนสองคนที่ค่อนข้างจะพิเศษสักหน่อย ขอบอกพวกท่าน อาจารย์ก็ไม่อยากละทิ้งพวกท่าน จะไปไหวหรือไม่ไหว ข้าพเจ้ายังจะต้องพิจารณาดู (เสียงปรบมือ) ไปไหวข้าพเจ้าก็จะดูแลท่าน ขึ้นอยู่กับพวกท่านเองเถอะ สำหรับคนอื่นๆ บอกว่าพวกเราที่นั่งอยู่คนไหนจะบ่อนทำลายฝ่า หรือคนไหนจะทำอะไร อะไรอื่นๆ นั้น นี่ล้วนเป็นไปไม่ได้ ผู้รับผิดชอบเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญ เขาก็มีจิตมนุษย์แสดงออกมา นี่เป็นเรื่องแน่นอน ข้าพเจ้าว่าอย่าคาดหวังในพวกเขาไว้สูงเกินไป แต่ว่าเขาก็เป็นผู้รับผิดชอบ เรื่องที่เขาทำย่อมส่งผลกระทบในระดับหนึ่งที่แน่นอน ฉะนั้นเมื่อทุกท่านมองเห็นปัญหาก็ต้องชี้ให้เขาเห็น ถ้าเขาไม่ยอมฟัง เช่นนั้นพวกท่านก็แจ้งให้ฝอเซี๊ยฮุ่ยทราบ

ศิษย์:                ศิษย์ประสบความทุกข์ทรมานจากหนี้สิน สามารถจะใช้รูปแบบการเจิ้งฝ่าสะสาง(บัญชี)ให้สมดุลหรือไม่

อาจารย์:           การใช้ต้าฝ่าในเรื่องส่วนตัวของท่าน ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ค่อยถูกต้องนะที่จะคิดเช่นนี้ การเป็นศิษย์ต้าฝ่า เมื่อท่านทำได้ดี ข้าพเจ้าคิดว่า เรื่องที่ยุ่งยากนั้นก็จะไม่เป็นเรื่องที่เด็ดขาดแน่นอนอย่างที่ท่านเห็น(มัน)  เป็นเพราะท่านไม่สามารถรับรู้เข้าใจจากแง่มุมของฝ่า เรื่องยุ่งยากของคนธรรมดาสามัญจึงเป็นเรื่องยุ่งยากของคนธรรมดาสามัญ ในสายตามนุษย์สิ่งที่มองเห็นล้วนแต่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่มองในสายของเทพ ทั้งหมดนี้เปลี่ยนแปลง ความทุกข์ร้อนของพวกท่าน อาจารย์ก็พลอยทุกข์ร้อนไปกับพวกท่านด้วย ทุกข์ร้อนที่พวกท่านไม่ขจัดจิตยึดติดทิ้งไป ไม่สามารถรับรู้(อู้)ฝ่าให้สูง ทุกข์ร้อนที่พอพวกท่านจัดการกับปัญหาหนึ่งแล้ว พวกท่านก็สร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก เฮ้อ! ไม่ใช่วิจารณ์ สิ่งที่อาจารย์พูดล้วนแต่เป็นฝ่า

ศิษย์:                รู้สึกสับสนตลอดมา ใช่หรือไม่ว่า ไม่สมควรจะทุ่มกำลังคนและทรัพยากรปริมาณมากมายมหาศาล ในการค้นคว้าวิจัยอุปกรณ์ชนิดหนึ่งเพื่อทะลวงอินเตอร์เน็ต(ทะลวงการสกัดกั้นทางอินเตอร์เน็ต)  ใช่หรือไม่ว่า ควรไปทำในเรื่องที่ใช้เวลาน้อย แต่มีประสิทธิผลสูง

อาจารย์:           เรื่องนี้คือมีความเข้าใจแตกต่างกัน พูดได้แต่ว่ามีความเข้าใจแตกต่างกันแล้ว เรื่องที่มีประสิทธิผลสูงแน่นอนสมควรต้องทำ ไม่มีอะไรต้องอธิบาย แต่เรื่องทะลวงอินเตอร์เน็ตนะ ทุกท่านลองคิดดู พวกชั่วร้ายประทุษร้ายพวกเรา กุเรื่องโกหกหลอกลวงไปทั่วโลก ไม่เปิดโปงมันทำได้หรือ พวกเราต้องการจะบอกให้ชาวโลกมองเห็นธาตุแท้ของของมัน พวกชั่วร้าย มองเห็นพฤติกรรมของพวกชั่วร้าย มองเห็นความจริง ! พวกเราจะต้องทะลวงมัน (ใน)ศิษย์ต้าฝ่า มีคนกลุ่มใหญ่เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก พวกเรามีความสามารถจะทะลวงมัน เว็บไซต์หมิงฮุ่ย ตลอดมาพวกเขาไม่เคยสามารถจะสกัดกั้นได้ (เสียงปรบมือยาวนาน) แต่ไม่ใช้กำลังคนมากเกินไปก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ดูเหมือนไม่มีคนเข้าร่วมมากเกินไปกระมัง

ศิษย์:                เมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ก็จะไม่มีการสกัดกั้นแล้ว ใช่หรือไม่ว่า ทั้งหมดนี้ต้องให้ศิษย์บรรลุให้เป็นจริงด้วยวิธีที่ปรากฏอยู่ในโลก

อาจารย์:           เมื่อพวกเราทะลวงการสกัดกั้นนี้ก็คือการปฏิเสธการจัดวางของอิทธิพลเก่า ก็คือไม่ยอมรับการประทุษร้ายแบบนี้ รวมทั้งการสกัดกั้น เมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ เทพ พุทธะจะปรากฏให้เห็นอย่างมโหฬาร คนจะไม่ฟังก็ไม่ได้แล้วละ จะเป็นอีกสภาพหนึ่ง

ศิษย์:                เมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ ณ ชั่วเวลานั้น ศิษย์จะรู้ก่อนหรือไม่ (ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์:           ระดับการบำเพ็ญของพวกท่านแตกต่างกัน สภาวะการบำเพ็ญแตกต่างกัน ผู้ฝึกบางคนสามารถจะรู้ล่วงหน้า ผู้ฝึกบางคนไม่สามารถจะรู้ล่วงหน้า จะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ไม่ส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าและระดับชั้นของการหยวนหมั่น ไม่ส่งผลกระทบแม้แต่น้อย คิดมากมายไปทำไมนะ เรื่องของฝ่าปรับโลกมนุษย์    พูดให้ชัดเจน ที่จริงก็เกี่ยวข้องกับพวกท่านไม่มากนัก  พวกท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า ! (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ปัจจุบัน ศิษย์ต้าฝ่าปรากฏอาการป่วย รุนแรงมากจนแทบจะไม่สามารถจะอ่านหนังสือ ฝึกพลังกง และฟาเจิ้งเนี่ยน

อาจารย์:           ข้าพเจ้าว่านี่เป็นปัญหาจริงๆ เกี่ยวกับจิตยึดติด ผู้ฝึกบางคนแสดงออกมา บางคนไม่แสดงออกมา เก็บกดเอาไว้ในใจยึดติดอย่างมาก จนในที่สุดเขาคลาย(ปม)ไม่ออกแล้ว สิ่งชั่วร้ายก็จะทำให้ท่านยิ่งนานวันก็ยิ่งผิดปกติ ให้ท่านหกล้มหัวคะมำสักที ให้ท่านหกล้มชนิดที่ลืมมันไม่ลงตลอดชีวิต พวกมันทำเช่นนี้ ฉะนั้นอย่าได้ยึดติดจนถึงระดับนั้น เกิดปัญหาขึ้นมาแล้วจะให้อาจารย์ทำอย่างไร อันที่จริงก็คือเกิดจากจิตยึดติดของพวกท่าน อาจารย์จะดูแลให้

            ยังมีผู้ฝึกบางคนได้ยินเสียงลวง ได้แต่บอกว่าท่านได้ยินเสียงลวง ที่จริงท่านได้ยินจริงๆ แต่เสียงที่ท่านได้ยินไม่ใช่เสียงของอาจารย์ พวกมันแปลงเป็นเสียงอาจารย์ แม้กระทั่งรูปลักษณ์ก็ปลอมแปลง ใช้จิตยึดติตของท่านหลอกลวงท่าน ศิษย์ต้าฝ่าท่านต้องรับรู้(อู้)จากในฝ่า ท่านคือศิษย์ต้าฝ่าที่สง่าผ่าเผย ต้องตรึกตรองอย่างมีสติสัมปชัญญะว่าสอดคล้องกับฝ่าหรือไม่ ยังมีผู้ฝึกบางคนใจจดใจจ่ออยู่กับกงเหนิง(ความสามารถ)อยู่เสมอ มีผู้ฝึกบางคนข้าพเจ้าให้พวกเขามองเห็นสภาพการณ์เจิ้งฝ่าที่แตกต่างกันในบางมิติ จุดประสงค์ก็เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าให้แก่ผู้ฝึก แต่ทว่ายังมีผู้ฝึกบางคนยังคงไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง  ไม่บำเพ็ญอยู่ในฝ่า   กระทั่งเมื่อเกิดเรื่องก็จะหาผู้ฝึกที่มี      กงเหนิง(ความสามารถ)มาดู นำสิ่งที่เห็นมาเป็นแนวทางการทำงานของต้าฝ่าและชี้นำการบำเพ็ญ  นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมากแล้ว ใครจะสามารถมองเห็นมูลฐานของการเจิ้งฝ่าละ?! ใครจะสามารถอธิบายการบำเพ็ญต้าฝ่าได้ชัดเจนละ?! ปรากฏการณ์ของระดับชั้นที่ต่ำมากๆ ไม่ใช่มูลฐานของความจริง ไม่บำเพ็ญอยู่ในฝ่า ไม่ปฏิบัติตามที่ฝ่า(กำหนด) เช่นนั้นท่านยังเป็นศิษย์ต้าฝ่าหรือ?! พอมีเรื่องอะไรก็บอกให้เขาดูว่าเรื่องเป็นเช่นนั้นหรือไม่ จะดูอะไรล่ะ ใครจะสามารถมองเห็นต้นตอของท่าน ลูกของท่านก็ให้ดูไม่ได้นะ ข้าพเจ้าเคยบอกไปแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าในวงในก็ให้ดูไม่ได้ ถ้าหากมองได้เห็นสภาพแท้จริงของการบำเพ็ญของพวกท่านแล้ว เช่นนั้นยังจะบำเพ็ญอะไรล่ะ บอกท่าน(ปริศนา)ก็ไขแล้ว มองไม่เห็นหรอก ! เพราะในระดับชั้นที่ต่างกันมีปรากฏการณ์ที่แตกต่างกัน ปรากฏการณ์ของระดับชั้นใด กล่าวสำหรับชีวิตในระดับชั้นนั้นก็คือสัจธรรม ล้วนเป็นสัจธรรมทุกๆ ชั้น แต่มันเป็นเรื่องๆ หนึ่งที่ปรากฏออกมา ณ ระดับชั้นที่ต่างกัน ขณะที่ปรากฏการณ์มูลฐานที่สุดอยู่ข้างบน เมื่อถึงสุดท้ายจึงจะเป็นมูลฐานสุดท้าย ท่านอยู่ในระดับชั้นไหน ก็จะมองเห็นภาพจริงของศิษย์ต้าฝ่า ภาพจริงของการเจิ้งฝ่า ภาพจริงของอาจารย์ วันนี้ท่านก็คือจ้าวแห่งจักรวาลนี้ที่ไม่อาจจะประเมิน ! ท่านต่างมองเห็นแล้วหรือ ทุกสิ่งล้วนอยู่ในสายตาแล้วหรือ ทำไมจึงโง่อย่างนี้หนา ?! ข้าพเจ้าเคยพูดในฝ่าฮุ่ยหลายต่อหลายครั้ง เหตุใดพวกท่านจึงไม่พ้นต้องถูกรบกวนล่ะ

ศิษย์:                หากศิษย์ อธิบาย เจิน ซั่น เหยิ่น หลักการของฝ่า อาศัยหน้าที่การงาน ส่งต่อให้ผู้คนจำนวนมากยิ่งขึ้นด้วยวิธีที่ไม่โจ่งแจ้ง....

อาจารย์:           ข้าพเจ้าคิดว่าไม่มีปัญหา สามารถทำได้

ศิษย์:                ไม่สามารถทุ่มเทให้กับต้าฝ่าโดยตรงเหมือนอย่างที่ทำช่วงก่อนหน้านี้ ใคร่ขอถาม คนๆ นี้ยังคงสอดคล้องกับคำจัดกัดความของศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเวลาเจิ้งฝ่าไหม

อาจารย์:           ท่านทำทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำได้ดีในทุกๆ ด้านไหม ถ้าเป็นเช่นนั้นท่านก็ทำได้ถูกต้องแล้ว (อาจารย์หัวเราะ) ไม่ต้องกังวลหรอกนะ รวมทั้งคนที่หกล้มหัวคะมำ ท่านก็รีบลุกขึ้นก็แล้วกัน

ศิษย์:                การเป็นนักศึกษาปริญญาเอก การทำงานวิจัยค้นคว้าให้ดีจำเป็นต้องทุ่มเททั้งกายและใจ แต่ก็ต้องการจะศึกษาฝ่า อธิบายความจริง ฝึกพลังกงด้วย มักจะรู้สึกว่าเวลาไม่พอ

อาจารย์:           ยังมีคำถามประเภทนี้อีก อาจารย์ได้ตอบ(คำถามประเภทนี้)ไปหลายครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า การเป็นผู้บำเพ็ญ พวกท่านควรจะจัดวางต้าฝ่าไว้เป็นอันดับแรก แต่ว่าท่านก็ต้องทำงานของท่านให้ดี ท่านพยายามทำให้ดี พูดถึงว่าจะจัดวางอย่างไร สิ่งที่เป็นรูปธรรมตัวท่านเองต้องไปจัด หากท่านบอกว่า “งานฉันยุ่งเหลือเกิน จึงไม่ได้อ่านหนังสือ” เช่นนั้นก็เท่ากับไม่บำเพ็ญแล้ว “ฉันทุ่มเทกำลังทั้งหมดกับการงาน” เช่นนั้นท่านก็เป็นคนธรรมดาสามัญแล้ว ถ้าเพียงแต่จัดระดับความสัมพันธ์ของสิ่งเหล่านี้ไม่ดี เช่นนั้นท่านก็จัดมันให้ดีเสีย นี่เป็นเรื่องพื้นๆ ไม่ยุ่งยาก อันที่จริงใน “จ้วนฝ่าหลุน” ข้าพเจ้าได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนแล้ว ศึกษาฝ่าได้ดี ในการบำเพ็ญจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับท่านอย่างแน่นอน ในทางตรงข้าม การทำงาน การศึกษา จะได้ผลเป็นสองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว

            วิทยาศาสตร์หนา ก็ได้เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว มนุษย์ก็ไม่อาจจะแยกออกจากมัน สังคมก็ยังพยายามหาทุกวิถีทางที่จะผลักมันให้ขึ้นหน้าไป แต่ในสังคมมนุษย์ในอนาคต(มัน)จะไม่คงอยู่ ในอนาคตจะไม่มีวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร วิทยาศาสตร์นั้นเป็นผลิตผลหนึ่งของจักรวาล ดังนั้นตลอดมาข้าพเจ้าจึงไม่ปฏิเสธมัน ข้าพเจ้าเพียงแต่บอกว่ามันไม่สอดคล้องกับมนุษย์ ไม่อาจจะมอบให้แก่มนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในอนาคตจะเดินหนทางของคนสู่การเป็นเทพ ฉะนั้นวิทยาศาสตร์ ของสิ่งนี้จึงยิ่งให้คนไม่ได้ วิทยาศาสตร์ที่จริงสบประมาทเทพ  และมันยังส่งผลให้สสารเปลี่ยนสภาพและทำลายสภาพแวดล้อมในลักษณะหนึ่ง มันไม่เพียงแต่เปลี่ยนสภาพสสาร ยังทำให้ทัศนคติของคนเบี่ยงเบน และยังทำให้องค์ประกอบที่สำคัญของสสารต่างๆ มากมายในโลกเกิดการเปลี่ยนสภาพ และทำความเสียหายต่อจักรวาลในระดับหนึ่งที่แน่นอน ฉะนั้นในอนาคตที่ตรงนี้จะไม่มี(วิทยาศาสตร์) ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้แล้ว เพราะก่อนที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์จะมาถึง มนุษย์อยากจะยุ่งเหยิ่งสับสนอย่างไรก็ปล่อยให้ยิ่งเหยิ่งสับสน ท่านไม่ทำ ก็ไม่อาจจะทำให้มันเปลี่ยนแปลงดีขึ้นเพียงเพราะท่านไม่ทำ ท่านทำก็ทำไปเถิด ทำแล้วก็ไม่ถือว่าไม่ดี เพราะโดยภาพรวมก็เป็นเช่นนี้ มันสัมพันธ์กันอย่างนี้

ศิษย์:                ศิษย์ยุ่งกับงานของต้าฝ่ามาก ฝึกพลังกงแทบจะน้อยมาก การศึกษาฝ่าก็ไม่อาจทำได้อย่างแน่นอน ในใจทุกข์ทรมานมาก

อาจารย์:           ข้าพเจ้าคิดว่ายังจะต้องหาเวลาศึกษาฝ่า เว้นแต่ว่าท่านกำลังแปลต้าฝ่า (ที่ประชุมหัวเราะ) ข้าพเจ้าคิดว่านั่นเป็นการกำลังศึกษาฝ่าอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นยังคงจะต้องศึกษาฝ่า

ศิษย์:                ดิฉันเข้าใจว่าฝ่าปรับโลกมนุษย์ได้ดำเนินการอย่างเงียบๆ แล้ว ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ส่งผลให้เศรษฐกิจในปัจจุบันถดถอย เป็นการโหมโรงให้กับเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ใช่หรือไม่ ศิษย์ต้าฝ่าเปิดบริษัท (กิจการ)จะเจริญหรือไม่

อาจารย์:           ไม่ใช่เป็นอย่างที่ท่านคิด ฝ่าปรับโลกมนุษย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด ทางด้านปรากฏการณ์ก็จะไม่ขัดแย้งหรือกระตุ้นให้มันเจริญเติบโต พูดถึงการเปิดบริษัท นั่นเป็นเรื่องของตัวเอง คนที่มีเงื่อนไขเอื้ออำนวยก็ไปทำ

ศิษย์:                ดิฉันรับรู้(อู้)ได้ว่า ดิฉันไม่มีประเด็นที่จะถูกรบกวน มีแต่ปัญหาที่ตัวเองทำได้ไม่ดี ความเข้าใจแบบนี้ถูกต้องไหม

อาจารย์:           ความคิด(อย่างนั้น)ไม่มีปัญหา ไม่มีการรบกวนนั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก สามารถสำนึกได้ว่าตัวเองทำได้ไม่ดี ทำได้ไม่เพียงพอ นั่นก็คือการบำเพ็ญ

ศิษย์:                ท่านอาจารย์ การบรรยายฝ่าในช่วงเช้าของท่าน มีเนื้อหาเข้มงวดมาก สิ่งที่ศิษย์ไม่เข้าใจคือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว หรืออาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

อาจารย์:           ข้าพเจ้าเห็นสัญญาณที่ไม่ดีมากๆ มีศิษย์กำลังจะถูกทำลาย (เป็นเรื่อง)รุนแรงขนาดนี้ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูด บอกว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เวลานี้ต้นกล้าของมันได้งอกขึ้นมาแล้ว เรื่องเป็นเช่นนี้

ศิษย์:                ศิษย์รับรู้(อู้)ได้ว่า อาจารย์คือปรากฏการณ์ของฝ่าในโลกมนุษย์ ฉะนั้นท่านอาจารย์ก็คือฝ่า นี่คือความนัยชั้นหนึ่งของการยึดฝ่าเป็นอาจารย์

อาจารย์:           ข้าพเจ้าจะใช้คำพูดของมนุษย์อธิบายให้ชัดเจนก็แล้วกัน ฝ่าเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าจัดสร้างขึ้น (เสียงปรบมือกึกก้อง) ท่ามกลางร่างนภาอันใหญ่มหึมา เพียงแต่ท่านเป็นของสิ่งหนึ่งในจักรวาล ก็ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าท่านจะมีหรือไม่มี ความว่างเปล่าเอย ความไม่มีเอย เพียงแต่ท่านเป็นสิ่งของ ท่านก็ดำรงอยู่ในอาณาจักรเขตแดนที่ฝ่านี้สร้างสรรค์ขึ้นมา กล่าวสำหรับชีวิตแล้ว ฝ่านั้นมีมาตรฐาน ฝ่าได้จัดสร้างสรรพชีวิต และท่ามกลางการผลัดเปลี่ยนใหม่ ฝ่าก็หล่อหลอมสรรพชีวิตให้กลมกลืน ช่วยเหลือสรรพชีวิต เนื่องจากศิษย์ต้าฝ่ากำลังศึกษาฝ่า กำลังหล่อหลอมให้กลมกลืนเข้ากับฝ่าด้วยตนเอง ในเทียนถี่ทุกสิ่งไม่ไหวแล้ว ที่ยังรักษามันเอาไว้ในเวลานี้คือเพื่อจะหล่อหลอมสรรพชีวิตในจักรวาล ทำให้สรรพชีวิตได้รับการช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรเหลือก่อนหน้านี้นานแล้ว การจัดสร้างนภาใหญ่ขึ้นมาใหม่ การจัดสร้างทุกๆ ระดับชั้นและสรรพชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยฝ่า ข้าพเจ้าไม่ได้ใช้วิธีนี้ ข้าพเจ้าให้สรรพชีวิตในเทียนถี่ทั้งหมดได้รับรู้เข้าใจฝ่า หล่อหลอมเข้ากับฝ่าท่ามกลางเจิ้งเนี่ยน(ความคิดที่ถูกต้อง) นี่เป็นการแก้ไขด้วยความเมตตาที่ดีที่สุด วิธีที่ใช้ได้แสดงออกซึ่งความเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต ชีวิตทั้งหมดก่อนประวัติศาสตร์ล้วนแต่จัดสร้างขึ้นโดยฝ่าทั้งสิ้น ไม่มีใครที่อยู่นอกกรณี ทุกคนล้วนอยู่ข้างใน หากใครบอกว่า “จ้วนฝ่าหลุน” นี้มีระดับชั้นสูงเพียงใด ก็คือเขากำลังพูดคำพูดของมารแล้ว ในนภาใหญ่ที่วัดและคำนวณไม่ได้ ในมิติเทียนถี่ที่วัดและคำนวณไม่ได้ ในทุกๆ มิติล้วนมีชีวิตเป็นจำนวนที่วัดและประมาณมิได้! ทั้งหมดจัดสร้างขึ้นโดยฝ่า ชีวิตใดๆ ก็ไม่สามารถจะวิพากษ์วิจารณ์ฝ่า (เสียงปรบมือ)   แต่ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างของฝ่าล้วนแต่ปรากฏอยู่ใน “จ้วนฝ่าหลุน” เล่มนั้น ! ก็เป็นฝ่าที่ใหญ่เช่นนี้

ศิษย์:                ท่านอาจารย์กล่าวถึงในช่วงเช้าว่า เวลานี้อิทธิพลเก่ากำลังวางแผนใช้สสารประกอบเป็นภาพลักษณ์ปลอมของท่านอาจารย์ มาสั่นคลอนเจิ้งซิ่น เจิ้งเนี่ยน(ความเชี่อที่ถูกต้อง ความคิดที่ถูกต้อง) ของศิษย์ต้าฝ่าที่มีต่อฝ่า ใคร่ขอถามว่าจะแยกแยะอย่างไร

อาจารย์:           ไม่ต้องตั้งใจไปแยกแยะ เวลานี้สิ่งที่ผู้ฝึกมองเห็นได้ รับรู้ได้คือมีการจำกัดของระดับชั้น อิทธิพลเก่าก็เป็นเทพ ในเวลานี้กล่าวสำหรับพวกท่าน มันสามารถแปลงรูปลักษณ์นับหมื่นนับแสน หากผู้ฝึกไม่ยึดฝ่าเป็นอาจารย์ มุ่งเน้นจิตใจความคิดไปกับสิ่งเหล่านี้ มันก็จะสร้างภาพลักษณ์ปลอมแก่ท่านสมความตั้งใจ วันนี้ข้าพเจ้าจะบอกพวกท่านให้ชัดเจน ที่พวกท่านมองเห็น ที่มองเห็นได้ด้วยดวงตามนุษย์ นี่ก็คือองค์หลักของอาจารย์ ก็คือที่นี่ ก็คือข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ) ตัวข้าพเจ้าที่ไม่ว่าจะมีระดับชั้นสูงเพียงใด เขาล้วนแต่เป็นร่างกายของข้าพเจ้า ณ ระดับชั้นที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ ณ ที่ต่ำที่สุด คือข้าพเจ้ามาอยู่ ณ ที่ต่ำที่สุด ร่างกายของข้าพเจ้าเหล่านั้น ณ ระดับชั้นต่างๆ แม้จะอยู่ ณ ที่สูง นั่นเพราะข้าพเจ้าให้เขาอยู่ ณ ที่สูง ข้าพเจ้ายังสามารถรวบรวมตัวข้าพเจ้าทุกๆ ชั้นทั้งหมดกลับมารวมเป็นร่างเดียวกัน มาอยู่พร้อมกับข้าพเจ้าที่นี่ ข้าพเจ้าสามารถให้ตัวข้าพเจ้าปรากฏออกมาทั่วทั้งจักรวาล ทุกๆ ชั้นล้วนเป็นข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ) แต่บางเวลาเมื่ออิทธิพลเก่ารบกวน เมื่อมันเห็นว่าผู้ฝึกเข้าผิดประตูจริงๆ แล้วละก็ พวกมันก็จะปรากฏภาพลักษณ์ปลอมแก่ท่าน ปิดกั้นสายตาของท่าน ไม่ให้ท่านมองเห็นอาจารย์ในฝั่งนั้น ทางด้านความคิดก็ไม่ให้ท่านมีความเชื่อที่ถูกต้องต่ออาจารย์ในฝั่งนี้ มันจัดตัวปลอมสักตัวหนึ่งให้เทียวไปเทียวมาอยู่ในมิตินั้น หรือให้อยู่ที่นี่ ก็จะทำให้ท่านสับสน ฉะนั้นท่านอย่าไปดูสิ่งเหล่านี้ ท่านไม่ต้องไปสนใจมัน มีฝ่าอยู่ มีอาจารย์อยู่ ยังไม่พออีกหรือ (เสียงปรบมือ)

            ฝ่า มิใช่ข้าพเจ้าที่ตรงนี้ที่บรรยายแก่พวกท่านหรอกหรือ ก็คือปากนี้ (อาจารย์ชี้ที่ปาก) มองเห็นกันแล้วนะ (ที่ประชุมหัวเราะ เสียงปรบมือ) ข้าพเจ้าพูดออกมาทั้งสิ้น ใครก็ไม่สามารถจะควบคุมข้าพเจ้า พวกท่านวางใจ ฝ่าที่ข้าพเจ้าบรรยายไหลออกมาจากแหล่งกำเนิดที่ใด อิทธิเก่ามองไม่เห็นอย่างแน่นอน ไม่มีชีวิตใดมองเห็นว่าฝ่าที่ข้าพเจ้าบรรยายนั้นมีบ่อเกิดอยู่ ณ ที่ใด ให้ทะลวงผ่านสสาร ชีวิตทุกๆ ชั้น ก็ค้นหาบ่อเกิดไม่พบ ข้าพเจ้าบอกพวกท่านให้ยึดฝ่าเป็นอาจารย์ จุดหนึ่งข้างในนี้ก็คือกลัวว่าพวกท่านจะมีการรบกวนชนิดนี้ บอกพวกท่านให้ยึดฝ่าเป็นอาจารย์ ฝ่านี้อยู่ตรงไหน ท่านก็ปฏิบัติตามฝ่าก็แล้วกัน บำเพ็ญอย่างสง่าผ่าเผย หากไม่มีฝ่าชุดนี้ พวกท่านลองคิดดู อาศัยเพียงสิ่งน้อยนิดนั้นที่ท่านมองเห็น ท่านก็สามารถบำเพ็ญแล้วหรือ ไม่ได้หรอก! เช่นนั้นเหตุใดไม่ปฏิบัติไปตามข้อกำหนดของฝ่าละ อันที่จริงในเวลานี้ สิ่งปลอมแปลงเหล่านั้นทั้งหมดล้วนอยู่ระหว่างการถูกทำลายแล้ว

ศิษย์:                มีผู้ฝึกต่างประเทศบางคนไปประเทศจีนแผ่นดินใหญ่แล้วถูกจับ ใช่หรือไม่ว่าไม่ได้ปฏิบัติตามที่ท่านอาจารย์กำหนด

อาจารย์:           ไม่อาจจะพูดเช่นนี้ ศิษย์ต้าฝ่าต่างกำลังคิดหาวิธีทำเพื่อต้าฝ่าอย่างสุดกำลัง ไม่อาจจะบอกว่าผู้ฝึกทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ทำอย่างนั้นไม่ถูกต้อง แต่ละคนต่างกำลังเดินหาทางของตนเอง พวกเราไม่สามารถจะเอาทัศนคติของของตนเองไปใช้กับคนอื่น มีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็อย่าไปพูดว่าใครถูกหรือใครผิด ปัญหาปรากฏออกมาแล้ว ทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คิดหาหนทางแก้ไข

ศิษย์:                ดิฉันคิดว่าความเมตตาไม่เพียงแต่ปรากฏออกมา ณ โฉมภายนอกและใบหน้าที่ยิ้มแย้มอ่อนโยน ดิฉันรู้สึกว่าการยับยั้งมารร้ายก็เป็นการแสดงออกซึ่งความเมตตาแบบหนึ่ง เช่น พวกเราไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไร้มรรยาทของตำรวจฮ่องกงและตำรวจเยอรมันนั้นเป็นความเมตตาแบบหนึ่ง เป็นปรากฏการณ์ของอานุภาพแห่งคุณธรรมของต้าฝ่า

อาจารย์:           สำหรับคนต้องเมตตา สำหรับชีวิตชั่วร้ายก็ต้องกำจัดทิ้ง กล่าวสำหรับตำรวจเหล่านั้น เขาไม่มีความแจ่มแจ้ง เขาถูกควบคุม หากจัดการได้ไม่ดี เขาปฏิบัติกับท่านอย่างเลวร้าย ณ เวลานั้นเขาก็ไม่มีสติสัมปชัญญะ ระหว่างขั้นตอนที่ความขัดแย้งทวีความรุนแรง พวกท่านกลับจะได้รับความสูญเสีย ดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงความสูญเสียอันนี้ ต้องพยายามเมตตากับคน กับฝั่งนั้นจะต้องจัดการอย่างจริงจัง หากเรื่องนี้ส่งผลกระทบหรือเกิดความเสียหาย พวกท่านก็ต้องใช้กฎหมายของคนธรรมดาสามัญแก้ไขอย่างจริงจัง มารร้ายได้กรอกสิ่งไม่ดีมากมายให้กับตำรวจเยอรมัน ปฏิบัติกับพวกเราอย่างแย่มากในตอนนั้น ต่อความชั่วร้ายกับคุณธรรมที่อยู่ตรงหน้า ชนชาติหนึ่งปฏิบัติต่อต้าฝ่าด้วยท่าทีอย่างไร ข้าพเจ้าจะจัดการกับอนาคตของพวกเขาอย่างไร?! แต่หลังจากที่เกิดเรื่องนี้แล้ว ควรต้องจัดการกับมันให้ทันกาล ให้ฟ้องร้องไปตามกฎหมาย ท่านเป็นประเทศประชาธิปไตย ประธานาธิบดีทำผิดก็ต้องยื่นฟ้องท่านต่อศาล เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกท่าน แน่นอนเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ไม่อาจจะพูดอะไรแล้ว

ศิษย์:                บางครั้งดิฉันรู้สึกว่าไม่คู่ควรที่ท่านอาจารย์ช่วยเหลือ ดิฉันจะเอาชนะจิตของความเห็นแก่ตัว และบรรลุมาตรฐานได้อย่างไร

อาจารย์:           อย่าท้อแท้หมดอาลัยขนาดนั้น แต่ละคนมีอุปนิสัยแตกต่างกัน แต่ละชนชาติมีขนบธรรมเนียม ความเคยชินแตกต่างกัน การดำรงชีวิตในพื้นที่ที่ต่างกัน มนุษย์มีภูมิหลังของวัฒนธรรมแตกต่างกัน ก่อเกิดเป็นขนบธรรมเนียม ความเคยชินที่ต่างกัน ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ด้านที่เป็นลบก็จะส่งผลกระทบไปถึงผู้ฝึกของชนชาติที่แตกต่างกัน แต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหา อาจารย์ไม่ดูสิ่งเหล่านี้ เพียงแต่ท่านบำเพ็ญก็สามารถจะรับรู้เข้าใจได้ อย่างค่อยเป็นค่อยไปก็จะทำสิ่งต่างๆ ได้ดี อะไรก็ทำได้ในทันทีนั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง พร้อมกับที่ท่านศึกษาฝ่าลึกซึ้งอย่างต่อเนื่อง เมื่อรับรู้เข้าใจได้ดีมากขึ้นมากขึ้น ท่านก็จะทำได้ดี

ศิษย์:                พวกเราจะอธิบายความจริงต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไร

อาจารย์:           เรื่องเหล่านี้พวกท่านก็ทำกันตลอดมา ก่อนหน้านี้พวกท่านก็ทำได้ดีมาก หากจะทำให้ดียิ่งขึ้น ก็ต้องทำอย่างเจาะลึกมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมพื้นที่ให้กว้างมากขึ้นสักหน่อย

ศิษย์:                ดิฉันเขียนอีเมล์ฉบับหนึ่งถึงเพื่อนผู้ฝึกจำนวนมาก สิ่งที่ดิฉันต้องการจะบอกนั้นเป็นสิ่งดี แต่วิธีการค่อนข้างจะเป็นเชิงลบ ต่อมาเพื่อนผู้ฝึกก็ไม่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับดิฉันอีกเลย ดิฉันทำผิดหรือ

อาจารย์:           แต่วิธีการค่อนข้างจะเป็นเชิงลบ ท่านก็รับรู้ได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมรับ ไม่ยอมรับเป็นเพราะเขาก็มีจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญ บางทีการเป็นศิษย์ต้าฝ่า ทั้งสองฝ่ายสมควรต้องรับรู้เข้าใจให้ถูกต้อง ศิษย์ต้าฝ่าปฏิบัติสิ่งใด ล้วนต้องปฏิบัติในเชิงบวก อย่ามองด้านที่ไม่ดีของคนอื่น ต้องมองด้านที่ดีของคนอื่นเสมอ อันที่จริงพวกท่านรู้ไหม ในปีนั้นเมื่อข้าพเจ้าถ่ายทอดต้าฝ่าให้แก่พวกท่าน ในระหว่างการบรรยาย มีความคิดของคนธรรมดาสามัญมากมายสะท้อนและส่งออกมาจากคนฟังข้างล่าง ความคิดของบางคนสะท้อนออกมานั้นไม่ดีมากๆ แต่ข้าพเจ้าล้วนไม่ดู ข้าพเจ้าก็ดูแต่ด้านที่ดีของพวกท่าน ข้าพเจ้าจึงสามารถช่วยเหลือพวกท่านได้ หากข้าพเจ้าดูแต่ด้านที่ไม่ดีของพวกท่าน ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือพวกท่านได้อย่างไรล่ะ ยิ่งดูยิ่งโมโห ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือพวกท่านได้อย่างไรเล่า (เสียงปรบมือ) ฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สภาพการณ์ใดๆ อย่าปล่อยให้พฤติกรรมของคนธรรมดาสามัญมีอิทธิพล อย่าปล่อยให้จิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญมีอิทธิพล และอย่างปล่อยให้ฉิง (อารมณ์ ความรัก ความผูกพัน)ในโลกนี้มีอิทธิพล มองด้านดีของคนอื่นให้มาก มองด้านไม่ดีของคนอื่นให้น้อย

ศิษย์:                เวลาที่พวกเราศึกษาฝ่าเป็นกลุ่มและแลกเปลี่ยนความเข้าใจกัน ดิฉันไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีความคิดเห็น เช่นนี้ถูกต้องไหม       

อาจารย์:           บางทีอาจจะเกิดจากสภาวะ ท่านไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ท่านบอกว่าท่านเห็นคนอื่นพูด ตัวเองไม่มีอะไรจะพูด รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ท่านไม่สามารถพูดก็ไม่ต้องพูด ไม่เป็นไร ถ้าท่านอยากจะพูด นั่นก็จะเป็นไปตามธรรมชาติ ท่านก็ค่อยพูด แต่อย่าปล่อยให้อุปนิสัยที่ไม่ชอบพูดเป็นอุปสรรคขัดขวางท่าน     

ศิษย์:                ท่านอาจารย์กล่าวว่า คนในอนาคตจะมีบทบาทอย่างมากในจักรวาลชั้นนี้ โดยแท้จริงมีบทบาทสำคัญอะไร ท่านอาจารย์จะอธิบายได้ไหม

อาจารย์            ในอนาคตที่ตรงนี้ของมนุษย์จะเป็นสถานที่ที่พิเศษอย่างยิ่งที่หนึ่ง เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น ไม่ว่าประวัติศาสตร์ของมนุษย์จะยาวนานเพียงไร เพื่อจะช่วยเหลือสรรพชีวิต เพื่อเรื่องของการเจิ้งฝ่า จึงจัดสร้างมนุษย์ จัดสร้างมนุษย์ชั้นนี้ ในอดีตนั้นไม่มีมนุษย์ ณ ตำแหน่งของโลกตรงนี้ในอดีตเคยมีดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์ดวงนั้นกับโลกใบปัจจุบันนี้มีโครงสร้างไม่เหมือนกัน เพื่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงได้จัดสร้างน้ำ พืช สัตว์ ต่างๆ มากมายขนาดนี้ไว้บนโลกใบนี้ ในอดีต สิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมบนดาวเคราะห์ตรงนี้นั้นเลวร้ายยิ่งกว่า   สิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่สุดตรงนั้นล้วนแต่เหมือนกับมนุษย์ต่างดาวอย่างนั้น หมายความว่าไม่มีมนุษย์อยู่ ณ ที่ตรงนี้ ไม่ว่าดาวเคราะห์ ณ ที่ตรงนี้จะถูกทำลายไปแล้วกี่ครั้ง ถูกจัดสร้างขึ้นมากี่ครั้ง ก็ไม่เคยมีมนุษย์ ประวัติศาสตร์ของการมีมนุษย์ มีเพียงดาวเคราะห์สองดวง โลกใบก่อนหน้านี้กับโลกใบนี้ โลกใบก่อนนี้เป็นขั้นตอนของการทดสอบซึ่งอิทธิพลเก่าจัดทำขึ้นสำหรับการถ่ายทอดฝ่าครั้งนี้ ครั้งนี้เป็นของจริง การเจิ้งฝ่าเริ่มต้นแล้ว ขั้นตอนนี้เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดทำขึ้นมา

            ก่อนที่ข้าพเจ้าจะมา ข้าพเจ้าก็ทราบแล้วว่าอิทธิเก่าจัดเตรียมทั้งหมดนี้ ระหว่างการจัดเตรียม ข้าพเจ้าเลือกสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการ แต่มีสิ่งที่เป็นมูลฐานมากมายที่อิทธิพลเก่าไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ถึงแม้จะกำหนดไว้เช่นนี้ หลังจากที่การเจิ้งฝ่าครั้งนี้ได้เริ่มขึ้น อิทธิพลเก่ายังคงเปลี่ยนแปลงกว่าร้อยละแปดสิบของสิ่งที่กำหนดไว้ก่อนปะวัติศาสตร์ ข้าพเจ้าไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ที่ใช้ข้าพเจ้าเพื่อสนองความเห็นแก่ตัวของพวกมัน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและอันตรายของสรรพชีวิตและร่างนภา นี่ก็คือเหตุผลประการหนึ่ง ทำไมข้าพเจ้าต้องกำจัดพวกมัน เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ ข้าพเจ้ารู้ว่าทั้งหมดนี้ไม่ไหวแล้วจึงทำการเจิ้งฝ่า ชีวิตข้างในนี้ต่อให้มีสติปัญญามากเพียงใดก็ไม่อาจแก้ไขชะตากรรมของการแตกสลาย มีเพียงการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากมูลฐานเท่านั้นจึงจะมีประสิทธิผล แต่ทำเช่นนี้ทุกสิ่งที่เก่าก็ไม่เข้าใจ แต่ข้าพเจ้าสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ การช่วยเหลือเป็นเรื่องสำคัญ (จึง)ทลายอุปสรรคทั้งหมด ออกแรงแก้ไขความยากลำบากนานับประการ ในระหว่างขั้นตอน สรรพชีวิตของระดับชั้นต่างๆ ล้วนมองเห็นแล้วว่า ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าทำนั้นเป็นความหวังที่จะแก้ไขและช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างแท้จริง ทำมาถึง ณ เวลานี้ สรรพชีวิตก็ได้เห็นแล้วว่า ทุกสิ่งที่อิทธิพลเก่าต้องการทำล้วนไม่อาจจะแก้ไข คือมันไม่มีรากเหง้า

            เมื่อการเจิ้งฝ่าดำเนินสูงขึ้นไป อิทธิพลเก่าก็ไม่มีแล้ว ก็จะไม่มีองค์ประกอบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ไม่มีสิ่งใดเหลือ อิทธิพลเก่านี้ก็เหมือนเดินเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนใหม่ และการช่วยเหลือสรรพชีวิต อันเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ผลักออกยากที่สุด สามารถทำให้หลงทิศทางที่สุด จริงหรือปลอมแยกแยะลำบาก ไม่อาจจะทะลวงที่สุด กุญแจของความเป็นความตาย ในชั่วพริบตาของการกำเนิดของร่างนภาใหม่ ด่านใหญ่ของการผลัดเปลี่ยนใหม่ แต่ข้าพเจ้าเลือกที่แห่งนี้ตั้งแต่ต้น เพราะข้าพเจ้าต้องการให้ชีวิตในจักรวาลที่ตกลงมามีโอกาสกลับไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลไกในจักรวาล ที่สามารถทำให้ชีวิตสามารถเดินเข้าสู่ความประสานกลมกลืนไม่ดับสลาย  ดังนั้นหนทางแห่งการเป็นเทพของคนในอนาคตเปิดแล้วจริงๆ ในอดีตพูดกันว่า โอย ฉันตายแล้วจะไปพบพระเจ้า ปาก(ท่าน)บอกว่าจะไปพบพระเจ้า แต่พระเจ้าจะพบท่านไหมนะ ที่จริงใน ”คัมภีร์ไบเบิล” ก็กล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง ก็คือวันพิพากษา จ้าวจึงจะรับคนที่ได้มาตรฐานอย่างแท้จริงกลับไปสวรรค์ ปัจจุบันสรรพชีวิตล้วนแต่รอคอยอยู่ท่ามกลางการเวียนว่ายตายเกิดชาติแล้วชาติเล่า   ในขั้นตอนนี้ผู้ที่มีบาปจะตกนรก ตกนรกไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายทิ้งไป ต้องชำระบาปของเขา รับความทุกข์เจ็บปวดอยู่ที่นั่น  ชำระบาปของเขาทิ้งไปแล้วค่อยกลับมาใหม่ กลับมาเกิดใหม่ ผู้ที่บาปหนักเป็นพิเศษนะ หลังจากตกลงนรกแล้วจะถูกทำลายโดยตรงจนถึงนรกไร้ขีดขั้นอันนั้น (หาก)เข้าสู่ประตูแห่งการไร้ชีวิตก็ไม่สามารถจะเกิดอีกต่อไปแล้ว ในอดีตเป็นอย่างนั้น

            หลังจากสร้างมนุษยชาติแล้ว บนเวทีละครของมนุษย์ก็มีเทพปรากฏ จากนั้นจึงมีการบำเพ็ญและความเชื่อที่ถูกต้องปรากฏ แต่ตลอดมาล้วนไม่ใช่ตัวของคนเองที่บำเพ็ญ เป็นฟู่หยวนเสิน(จิตรอง)ที่บำเพ็ญ ฟู่หยวนเสิน(จิตรอง)สามารถจะบำเพ็ญ เพราะเขาเข้ามาในอาณาบริเวณที่สมมตินี้ของสามภพ แต่ไม่ได้เข้ามาข้างในจริงๆ เพราะเหตุใด ยกตัวอย่าง ก็เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้ากล่าวไปเมื่อครู่ มีชีวิตเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ แต่ไม่ได้เข้ามาในร่างกายมนุษย์จริงๆ เพราะนั่นเป็นแต่เพียงมิติหนึ่งเท่านั้น ด้านนั้นของศิษย์ต้าฝ่าที่บำเพ็ญเสร็จแล้ว มิติทั้งหมดของพวกท่านข้าพเจ้าได้ปิดไว้หมดแล้ว ไม่มีใครจะเข้าไปได้ ด้านที่บำเพ็ญยังไม่แล้วเสร็จ ใครก็สามารถทะลวงเข้าไปได้ แต่มีผู้พิทักษ์ฝ่าและอาจารย์คอยดูอยู่ ก็ไม่อนุญาตให้ทะลวง แน่นอน ฝั่งนั้นของข้าพเจ้าไม่มีองค์ประกอบใดๆ สามารถจะทะลวงได้ สภาพของอาจารย์คือ ณ ชั้นพื้นผิวที่สุดของร่างกาย ข้าพเจ้าได้ควบคุม(ยึดกุม)ชีวิตของสรรพเทพ สรรพชีวิต องค์ประกอบทั้งหมดในร่างนภาอันใหญ่โตของจักรวาล ก่อนที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์จะมาถึง ก็เป็นสภาพการณ์เช่นนี้ แต่องค์ประกอบในมิติต่างๆที่ค้ำจุนการดำรงอยู่ของชีวิตก็เป็นเทพ ณ ช่วงเวลานี้มันสามารถทะลวงร่างกายของคนธรรมดาสามัญ และชีวิตก็เหมือนแช่อยู่ในนั้น เหมือนกับท่านหายใจ ท่านสูดลมหายใจ มันก็เข้าไปแล้ว ในช่องห่างระหว่างอนุภาคกับอนุภาค ชีวิต ณ จุลภาคทะลวงร่างกายของคนธรรมดาสามัญได้ตามอำเภอใจ นั่นไม่ใช่ฟู่ถี่(ตัวแฝง ตัวสิง) จักรวาลมันเป็นอย่างนั้น มีหลายๆ คนบอกว่ามองเห็นสิ่งนี้แล้ว มองเห็นสิ่งนั้นแล้ว ที่จริงส่วนมากเป็นมายาภาพที่เกิดจากการซ้อนรวมกันของมิติต่างๆ แต่มันไม่ได้เข้าไปข้างในนั้นจริงๆ และไม่ได้หล่อหลอมอยู่ในอนุภาคของคนอย่างจริงๆ ฉะนั้นในอดีตฟู่หยวนเสิน(จิตรอง)ที่บำเพ็ญปฏิบัตินั้น มันอยู่ในอาณาจักรเขตแดนของจุลภาคตามเดิม ในอาณาเขตที่สมมติ แต่มันไม่ได้หล่อหลอมอยู่ในอนุภาคอย่างแท้จริงในร่างกายของท่าน หากหล่อหลอมเข้าไป มันก็ตกลงมาแล้ว มันก็ไม่อาจจะกลับไปได้ตลอดกาล ชีวิตที่ตกลงมาจากสวรรค์ ในอดีตไม่มีใครกลับไปได้สักคน มนุษย์ในสมัยกรีกโบราณ นักปราชญ์โซคราติส ก็เคยกล่าวว่า ผู้ที่ตกลงมาจากสวรรค์ ไม่มีใครสามารถกลับไปได้สักคน เดิมทีเขาเป็นนักพยากรณ์ คนกลับเห็นเขาเป็นนักปรัชญา

ศิษย์:                ในพื้นที่ของเรา มีผู้ฝึกปรากฏอาการป่วยหนัก มีผู้ฝึกเสนอให้รวมกลุ่มฟาเจิ้งเนี่ยนให้แก่เขา แต่ผู้ฝึกบางคนกล่าวว่าอาจารย์ไม่ได้กำหนดเช่นนี้ นี่เป็นการบ่อนทำลายต้าฝ่าไหม

อาจารย์:           พวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่ไม่ใช่การบ่อนทำลายฝ่า   พวกท่านอ่านหนังสือ อ่านต้าฝ่าให้แก่เขาบ้าง ฟาเจิ้งเนี่ยนให้แก่เขาบ้าง นั่งล้อมเขาเป็นกลุ่ม จะเกิดประสิทธิผลเพราะมันสัมพันธ์กับการอยู่ในระยะใกล้ เหตุใดจึงบอกว่ามันสัมพันธ์กับการอยู่ในระยะใกล้นะหรือ เพราะมิตินี้ถูกองค์ประกอบสุดท้ายชั้นสูงตัดเป็นท่อนๆมิตินี้ยังมีการคงอยู่ของความแตกต่าง แต่ถ้าเจิ้งเนี่ยน แข็งแกร่งก็สามารถขจัดความแตกต่างอันนี้ ท่านทำได้ถูกต้องมากๆ มันก็ไม่อาจจะสกัดกั้นได้ ถ้ามันสกัดกั้นมันก็ทำผิดต่อฝ่า เป็นความสัมพันธ์อย่างนี้

ศิษย์:                ท่านอาจารย์เคยกล่าวถึงฝ่าที่ว่า สรรพชีวิตจากนภาใหญ่ในจักรวาลเดินเข้าสู่สามภพทีละขั้น ทีละขั้น ก่อนหน้านี้ท่านอาจารย์ก็เคยกล่าวว่า องค์ศากยมุนีพุทธจุติลงมาถึงสามภพจากจักรวาลชั้นที่ 6 โดยตรง สองประการนี้สัมพันธ์อย่างไร

อาจารย์:           อาจารย์ก็เคยบอกว่า พลังฝ่าไร้ขอบเขต จากจักรวาลชั้นที่ 6 จุติลงมาถึงสามภพโดยตรงนั้นมีขั้นตอน ขั้นตอนนี้คือเขาต้องทะลวงผ่านจักรวาล 6 ชั้นที่อยู่ข้างล่างลงมาถึงสามภพ จักรวาลทั้งหมดที่คั่นกลาง ตลอดจนมิติต่างๆ ข้างในนั้น ล้วนต้องถาถมลงบนตัวเขาหนึ่งชั้น หมายความว่าทุกๆ ชั้นที่ลงมา อนุภาคชั้นพื้นผิวก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งชั้น การถูกตีตกลงมาจากสวรรค์ มิใช่ลงมาเช่นนี้เหมือนกันหรอกหรือ กับการลงมาทีละขั้น ทีละขั้น นี่เพียงแต่บรรยายการหยุด และการทะลวงผ่านในพริบตาเท่านั้นเอง แน่นอนเทพจุติลงมาทีละชั้น ทีละชั้น ความหมายและเป้าหมายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง ลงมาจุติก็ต้องผูกวาสนาดวงสัมพันธ์ ไม่เพียงแต่มีพ่อแม่พี่น้องในชั้นนั้น เหล่าญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายก็คือวาสนาดวงสัมพันธ์

ศิษย์:                เวลาที่ทำงานเจิ้งฝ่าและประสบกับความไม่ราบรื่น แยกไม่ออกว่าเป็นการรบกวนของอิทธิพลเก่า หรืออาจารย์แนะเป็นนัยไม่ให้ทำ จะแบ่งแยกได้ดียิ่งขึ้นอย่างไร

อาจารย์:           ให้ท่านใช้ฝ่าประเมิน ข้าพเจ้าจึงบอกพวกท่านต้องศึกษาฝ่า เรื่องใดๆ ล้วนต้องใช้ฝ่าเป็นมาตรฐานในการประเมิน ท่านไม่จำเป็นต้องเอาหนังสือไปอ้างอิงตลอดเวลากับสิ่งที่จะทำในทุกขั้นตอน ท่านศึกษาฝ่าแล้ว ให้ท่านใช้ความคิดตัดสินอย่างมีสติสัมปชัญญะ ฉันเป็นศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำหรือไม่ ท่านรู้สึกว่าสมควรท่านก็ทำไป ก็จะไม่มีปัญหา ถึงแม้ผิดไปแล้ว ท่านก็เพียงแต่เข้าใจไม่ลึกซึ้งขนาดนั้น ก็ไม่อาจจะนับเป็นความผิดใหญ่โตของท่าน เพราะท่านคิดอยู่ว่าจะปฏิบัติตามฝ่า เป็นหลักการนั้นหรือไม่ แต่อย่าใช้เป็นข้ออ้างด้วยเหตุนี้ การรับผิดชอบต่อฝ่าก็คือการรับผิดชอบต่อตัวเอง

ศิษย์:                เวลานี้ในหมู่ศิษย์ หลายๆ คนมีความคิดแบบหนึ่ง หากผู้ฝึกคนหนึ่งถูกอิทธิพลเก่ารบกวน ประสบมารผจญ ผู้ฝึกอื่นเห็นว่า ถึงแม้เขาจะมีจิตยึดติด ก็ไม่อนุญาตให้ประทุษร้ายผู้ฝึก ให้ทุกคนฟาเจิ้งเนี่ยน คำถามของดิฉันคือ ถ้าผู้ฝึกคนนั้นไม่ยกระดับ อย่างนี้จะมีประโยชน์ไหม

อาจารย์:           นั่นก็จะเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรง แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่มีสติสัมปชัญญะ สิ่งที่พวกเราทำเท่ากับทำเสียเปล่า ฟาเจิ้งเนี่ยนกำจัดสิ่งที่อยู่ภายนอก แต่ไม่อาจจะกำจัดสิ่งที่อยู่ในใจเขาได้ คนคิดจะทำอะไรนั้น ออกมาจากหนึ่งความคิดของตัวเขาเอง อยู่ที่เขาต้องการหรือไม่ สภาพการณ์แบบนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าต้องมีปมที่ยึดติดในจิตอย่างแน่นอน หากเขาไม่สามารถทำได้จริงๆ ท่านสามารถไปช่วย นี่ไม่มีปัญหา คิดหาวิธีให้เขาเข้าใจจากในฝ่า ศึกษาฝ่าให้มาก

ศิษย์:                มีความคิดแบบหนึ่งเห็นว่าพวกเราต้องปฏิเสธการจัดวางของอิทธิพลเก่า ต้องจัดสร้างช่วงเวลาแห่งสันติภาพก่อนที่ฝ่าปรับโลกจะมาถึง ให้คนจีนเข้าใจความจริง

อาจารย์:           หยุดการประทุษร้าย ความคิดอันนี้ไม่ผิด ให้คนจีนเข้าใจความจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ ช่วงเวลาแห่งสันติภาพ ไม่มีแนวคิดอันนี้ แต่พวกชั่วร้ายจะลดน้อยลงเรื่อยๆ ยิ่งนานวันก็จะยิ่งไม่มีเวที และกรรมสนองจะปรากฏออกมาเป็นปริมาณมาก

ศิษย์:                ถ้าศิษย์ต้าฝ่าที่อยู่ในคุก ยินยอมที่จะสละชีวิต ก็จะไม่ยอมละทิ้งต้าฝ่า การฆ่าตัวตายเป็นการฝ่าฝืนต้าฝ่าไหม

อาจารย์:           การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถ้าท่านเข้มแข็งจริงๆ ท่านสามารถยืนหยัดแน่วแน่ถึงขนาดไม่กลัวตาย ท่านฆ่าตัวตายเพื่ออะไร ต้องพิจารณาด้านที่แน่วแน่ของท่าน แต่การฆ่าตัวตายจะให้พิจารณาให้แก่ท่านอย่างไรล่ะ แน่นอน สำหรับศิษย์ต้าฝ่าข้าพเจ้าประเมินทั่วทุกด้าน ไม่อาจจะดูเพียงเรื่องเดียว ต้องดูจากประวัติศาสตร์ แต่ถึงแม้จะไม่ส่งผลให้เป็นเช่นไรด้วยเหตุนี้ นั่นไม่ใช่จุดด่างพร้อยหรอกหรือ เพราะอาจารย์ได้กล่าวไว้ในฝ่าว่า การฆ่าตัวตายเป็นบาป ท่านทำไมไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของฝ่าล่ะ?! ไม่ใช่ปัญหาของจิตรับรู้(อู้ซิ่ง)ทั่วๆ ไป ใช่หรือไม่ ข้าพเจ้าว่า ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ชั่วร้ายมีแรงกดดันมากมาย แต่หันกลับมาพูดอีกด้านหนึ่ง พวกท่านมาเพื่ออะไร พวกท่านมาเพื่อแบกรับมารผจญของคนธรรมดาสามัญหรือ และสิ่งที่รอคอยพวกท่านคืออะไร

ศิษย์:                ท่านเคยกล่าวว่าท่านไม่มีฟู่หยวนเสิน(จิตรอง) ก่อนหน้านี้ท่านมีฟู่หยวนเสิน(จิตรอง)ไหม ถ้ามี เช่นนั้นปัจจุบันมีสภาพเป็นอย่างไร

อาจารย์:           (อาจารย์หัวเราะ) ปัจจุบันข้าพเจ้าไม่มีฟู่หยวนเสิน(จิตรอง) เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าเกิดมา ข้าพเจ้าก็เหมือนกับพวกท่าน ก็ต้องมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คนธรรมดาสามัญมี ต่อมาภายหลังระหว่างการบำเพ็ญจึงค่อยๆ เอาออกไป ข้าพเจ้าจัดให้พวกเขาทั้งหมดหยวนหมั่นแล้ว ถ้าพวกท่านบำเพ็ญสำเร็จและหยวนหมั่นแล้ว ถ้าบำเพ็ญได้สูงมากๆ ฟู่หยวนเสิน(จิตรอง)ทั้งหลายของพวกท่านก็เป็นเทพ และยังมีบางองค์เป็นเทพที่สูงมากๆ ดังนั้นพวกเขาล้วนแต่ต้องหยวนหมั่น

ศิษย์:                อาจารย์ที่เคารพท่านกล่าวว่า “อิทธิพลเก่าต้องการจะบรรลุเป้าหมายที่พวกมันต้องการ” แท้จริงแล้วเรื่องเป็นเช่นไร

อาจารย์:           สิ่งที่พวกมันต้องการคือ ในระหว่างการเจิ้งฝ่าพวกมันต้องการให้จักรวาลหวนกลับคืนสู่(สภาพ)เหมือนกับไม่มีการเจิ้งฝ่าอย่างนั้น ยังคงเป็นระบบของพวกมัน ยังคงเป็นภูเขาของพวกมัน ยังคงเป็นน้ำของพวกมัน ยังคงเป็นเทพของพวกมัน ยังคงเป็นสภาพของพวกมัน เพราะพวกมันจัดสร้างขึ้นมาอย่างนั้น พวกมันไม่อยากเปลี่ยนแปลง ที่พวกมันต้องการเปลี่ยนคือเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ชั้นพื้นผิวให้ดีขึ้น เหมือนซักเสื้อผ้าที่สกปรกให้สะอาด แต่ยังคงเป็นเสื้อผ้าตัวเดิมนั้น ความหมายเป็นเช่นนี้ แต่การเปรียบเทียบนี้ไม่ถูกต้องชัดเจน ได้แต่อธิบายอย่างนี้ มันเพียงแต่ต้องการอาศัยการจัดวางที่ละเอียดและชาญฉลาด หลบเลี่ยงภัยพิบัติครั้งนี้ไปบนพื้นฐานของการไม่สูญเสียสิ่งที่มีอยู่เดิม นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะทำได้ นี่คือสิ่งที่พวกมันต้องการ ข้าพเจ้าปฏิเสธพวกมันตั้งแต่ต้น ไม่เช่นนั้น แม้ว่าพวกมันไม่คิดจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างนี้  แต่กลับจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างนี้

ศิษย์:                รู้สึกได้ชัดเจนมากว่าเวลาเร็วขึ้นอีกแล้ว เรื่องการอธิบายความจริงกับชาวโลกด้านนี้…….

อาจารย์:           ใช่ ดูเหมือนข้าพเจ้าอธิบายได้ไม่กี่คำถาม ฟ้าก็มืดอีกแล้ว

ศิษย์:                เรื่องการศึกษาฝ่าและการเจิ้งฝ่าด้านนี้ รู้สึกว่าเวลากระชั้นมากขึ้น กรุณาอธิบายให้เฉพาะเจาะจงอีกสักหน่อย

อาจารย์:           ณ ปัจจุบัน เวลาจะเร็วขึ้นต่อไปเรื่อยๆ  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ข้าพเจ้าทำได้เร็วขึ้นเพียงไร เวลาจะเร็วมากขึ้นเพียงนั้น เพราะองค์ประกอบ ณ ที่สูงที่สุดในจักรวาลได้เชื่อมการเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้าเข้ากับเวลา เพราะเวลา(อันนั้น)ก็เป็นเทพของจักรวาลเก่า พวกมันได้เชื่อมทุกสิ่งของการเจิ้งฝ่าเข้าด้วยกัน ข้าพเจ้าเร็ว พวกมันก็เร็ว ข้าพเจ้าช้า พวกมันก็ช้า   ฉะนั้นข้าพเจ้าทำเร็วมากขึ้นเท่าใด เวลา(อันนั้น)ก็จะเร็วขึ้นเท่านั้น แต่อาจารย์ไม่อาจที่จะไม่เร็วได้ ถ้าเร่งไม่ทันกับเวลา สุดท้ายการช่วยเหลือก็จะไม่ทันการ ทุกท่านทราบ จักรวาลกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มนุษย์ก็มองเห็นแล้วว่า ขณะนี้ในขอบเขตของจักรวาลนี้ก็กำลังขยายตัว นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันรู้แล้วมิใช่หรือ ความเร็วของการขยายตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ การขยายตัวถึงที่สุดจะเป็นเช่นไร ทุกท่านดูลูกบอลลูนใบนั้น เป่าๆๆๆ เมื่อเป่าจนถึงจุดสูงสุด “ปัง” ก็ระเบิดเลย ฉะนั้นนักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ถึงจุดนี้แล้ว พวกเขาก็รู้ว่าการขยายตัวนี้น่ากลัวมาก หากข้าพเจ้าตามมันไม่ทัน ทั้งหมดนี้ อย่างน้อยที่สุดพื้นที่ที่ฝ่ายังปรับไม่เสร็จเรียบร้อยก็จะถูกทำลายไป

            ข้าพเจ้าจำเป็นต้องเร็ว เดิมทีระยะห่างที่ใหญ่มาก ไกลอย่างสุดที่จะคาดคิด เวลานี้ทันทีที่สิ่งหนึ่งปรากฏออกมา ข้าพเจ้าสามารถจะจับส่วนหนึ่งของมันไว้ได้ในทันที ยกตัวอย่าง สิ่งนี้มี 100 ส่วน ทันทีที่ปรากฏออกมา ข้าพเจ้าก็สามารถจับมันเอาไว้แล้วจัดการกับมันในชั่วพริบตา ทำถึงขั้นนั้น ทุกสิ่งล้วนอยู่ในขั้นสุดท้ายของสุดท้ายแล้ว (ไม่ว่า)ข้าพเจ้าจะเจิ้งฝ่าเสร็จเรียบร้อยกับไม่ได้เจิ้งฝ่าก็เหมือนกัน เพราะทุกสิ่งสูงเลยพวกมันไปแล้ว ระหว่างการเจิ้งฝ่าเวลาเดิม มิติเดิม สำหรับข้าพเจ้าโดยความหมายแท้จริงล้วนไม่ใช่อุปสรรค

ศิษย์:                ท่านอาจารย์ได้บรรยาย(ธรรม)มา 3 ชั่วโมงติดต่อกันแล้ว...... (อาจารย์หัวเราะ) (ที่ประชุมปรบมือ)

อาจารย์:           ข้าพเจ้าจะเลือกตอบคำถามที่สั้น

ศิษย์:                หลี่ไป๋เป็นกวีผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นผู้บำเพ็ญเต๋าด้วย เขากับต้าฝ่ามีความสัมพันธ์แต่ชาติบางก่อนอย่างไร

อาจารย์:           บุคคลในประวัติศาสตร์ พวกท่านก็อย่าคิดให้มากเกินไป มีหลายๆ คนคือพวกท่าน และมีหลายๆ คนคือข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ) แต่อย่าได้รู้สึกกระหยิ่มใจด้วยเหตุนี้เลยนะ! บ่อเกิดของความสามารถของท่านไม่ได้มาจากตรงนั้น ความสามารถของท่านฝ่าครั้งนี้เป็นผู้ให้(แก่ท่าน) (เสียงปรบมือ) ไม่เกี่ยวข้องกับอันนั้น

ศิษย์:                ในสังคมคนธรรมดาสามัญ โดยเฉพาะคนที่มีสถานะทางสังคมค่อนข้างสูงบางคน เดิมทีพวกเขาไม่เพียงแต่ไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อต้าฝ่าและเจิน ซั่น เหยิ่น กลับมีความรู้สึกดีเสียอีก แต่รู้สึกไม่ชอบวิธีการทำงานของศิษย์ต้าฝ่าหลายๆ คน เห็นว่าทำเลยเถิดมากเกินไป ดูจะขาดจิตเมตตา

อาจารย์:           พวกเราศิษย์ต้าฝ่าพึงต้องระวัง พึงต้องระวังในเรื่องนี้ อีกประการหนึ่ง ใช่หรือไม่ว่าเกิดจากทัศนคติทางความคิดที่เรียกว่า สุภาพเรียบร้อย มีสภาพจิตราบเรียบมั่นคง ไม่เร่งรีบไม่ชักช้าที่คนเหล่านั้นได้บ่มเพาะขึ้นมาในหมู่คนธรรมดาสามัญ      หรือไม่เห็นด้วยกับการทำงานอย่างรีบด่วนละ มารร้ายกำลังทำการประทุษร้าย คนกำลังตาย พวกเราไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมามัวประดิษฐ์ประดอย แต่ให้ทุกท่านพยายามระวังในเรื่องมรรยาททางสังคมสักหน่อย พวกเราศิษย์ต้าฝ่ามีงานยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือสรรพชีวิต พวกเขายังจะวิจารณ์อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร ให้ศิษย์ต้าฝ่าพยายามปฏิบัติให้สอดคล้องกับพวกเขาอีกสักหน่อยเถอะนะ! คนกำลังลื่นไหลตกต่ำ พวกเรากำลังเลื่อนสูงขึ้น ดังนั้นจะช่วยเหลือพวกเขาก็ต้องทำเช่นนี้

ศิษย์:                สวัสดี ท่านอาจารย์ที่เคารพ ในการบรรยายฝ่าเมื่อเช้านี้ ท่านอาจารย์พูดว่า อิทธิพลเก่าใช้ผู้ฝึกส่วนน้อยที่มีอาการบางอย่าง(เป็นประโยชน์)นั้น เป็นอย่างที่กล่าวไว้ในบทที่ 6 ของ “จ้วนฝ่าหลุน” ใจตัวเองเกิดมารหรือไม่

อาจารย์:           อันที่จริงพวกมันทำการรบกวนหลายๆ ด้านด้วยกัน เรื่องที่ข้าพเจ้ากล่าวในช่วงเช้า เป็นการพูดโดยสอดประสานกับ “จ้วนฝ่าหลุน”     “จ้วนฝ่าหลุน” กล่าวในลักษณะครอบคลุม แต่ความหมายภายในลึกซึ้งมาก ถ้าไม่สามารถศึกษาฝ่าอยู่เป็นประจำ ก็จะเข้าใจฝ่าที่ข้าพเจ้ากล่าวในเวลานี้ได้ยากมาก ความล้ำลึกของหลักการความจริงของฝ่าในต้าฝ่าของจักรวาล ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถรับรู้และเข้าใจโดยสิ้นเชิง ณ ระดับชั้นต่ำ ฝ่าสามารถสำแดงให้ปรากฏ ณ ระดับชั้นที่ต่างกัน และสามารถปรากฏให้เปิดกว้าง ให้เฉพาะเจาะจง ณ ระดับชั้นเดียวกัน ล้วนสอดประสานกันทั้งหมด

ศิษย์:                เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ดูเหมือนเป็นหลักการที่ถูกต้องในโลกมนุษย์ นี่ก็เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดวางเพื่อการเจิ้งฝ่าในวันนี้หรือ

อาจารย์:           ประโยคหลังกล่าวได้ถูกต้อง ประโยคหน้ากล่าวได้ไม่ถูกต้อง นั่นไม่ใช่หลักการความจริงของมนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดวางออกมา หลักการของมนุษย์เป็นสิ่งที่พื้นๆ ธรรมดามาก หลักการของมนุษย์โดยแท้จริงไม่ใช่ประชาธิปไตย ในประวัติศาสตร์นับพันล้านปีในอดีต มนุษย์ล้วนแต่ปกครองโดยพระราชา ในยุคที่มากที่สุด มีเป็นหมื่นประเทศบนโลก มีพระราชา เจ้าชาย เจ้าหญิง พระราชินีเป็นจำนวนนับหมื่นองค์ นี่ก็เป็นอารยธรรมในอดีต ดังนั้นจึงเรียกว่า พระราชาครองประเทศ กองทัพกรีฑาทัพใต้ฟ้า ผู้แกร่งกล้าคือวีรบุรุษ แต่ผู้แกร่งกล้าคนนั้น ในสายตาของเทพแล้ว เขาคือจอมโจร ไม่ว่ามนุษย์จะเห็นว่าเขาถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เทพดูเขาเป็นจอมโจรทั้งหมด แต่เหตุใดเทพให้เขาไปทำสงคราม ให้เขาเป็นวีรบุรุษ เพราะเทพต้องการบรรลุสิ่งหนึ่งบนโลก เทพต้องการให้สภาวการณ์บางอย่างอุบัติขึ้นในหมู่มนุษยชาติ ก็ต้องเลือกคนไปดำเนินการ คนที่ถูกเลือกก็ดำเนินไปตามที่เทพกำหนด ถึงแม้จะดำเนินการด้วยการใช้กำลัง แต่เพราะเป็นความประสงค์ของเทพ เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อย เทพก็จะให้เกียรติภูมิแก่เขา เกียรติภูมิอะไรล่ะ ให้เขาเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ผู้คนชื่นชมยกย่อง เสวยเกียรติภูมิได้ปกครองแผ่นดินกว้างใหญ่ คือสิ่งนี้ (หัวเราะ) ดูจากข้างนอกสามภพ หลักการของมนุษย์ไม่ถูกต้อง ดูจากที่ตรงนี้ของมนุษย์เป็นหลักการที่ถูกต้อง หลักการของมนุษย์ในอดีตก็เป็นเช่นนี้

            ในระยะหลังๆ นี้เพราะต้องทำการเจิ้งฝ่า มีพระราชามากมายต่างพากันไปเกิดใหม่ในประเทศจีน ไม่มีใครสามารถตั้งตนขึ้นเป็นพระราชาแล้ว เช่นนั้นยังมีอีกปัญหาหนึ่ง ชีวิตของระดับชั้นต่างๆ ณ ระดับชั้นที่สูงมากๆ ต่างพากันมาเกิดใหม่ยังที่ของมนุษย์ตรงนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้เปลี่ยนแปลงสัดส่วนของชนชาติต่างๆ แล้วจะตั้งใครเป็นพระราชาล่ะ นี่เป็นเรื่องที่จัดการยาก ดังนั้นอิทธิพลเก่าจึงให้มนุษย์เลือกกันเองเสียเลย ก็คือประชาธิปไตย  ประชาธิปไตยเมื่อดูจากสวรรค์ โดยเนื้อแท้จึงเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยสองชนิดนี้

            พูดถึงสิทธิมนุษยชน ไม่เพียงแต่สิทธิมนุษยชน ยังมีการอนุรักษ์สัตว์ เพราะหนังมนุษย์มีไม่พอให้มาเกิด ยังมีมากมายที่มาเกิดเป็นสัตว์ ยังอีกมากมายที่มาเกิดเป็นต้นไม้ เป็นพืช ! สิ่งเหล่านี้ล้วนปรากฏในช่วงหลังๆ นี้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจิ้งฝ่า สิ่งเหล่านี้ จะทำการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งล้วนแต่มาเพื่อต้าฝ่า มาเกิดเพื่อต้าฝ่า จัดสร้างเพื่อต้าฝ่าทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดใช่ว่าจะก่อบทบาทในด้านบวกเสมอไป เรื่องเป็นเช่นนี้

ศิษย์:                ท่านอาจารย์กล่าวว่า ด้านที่บำเพ็ญเสร็จของเรา ในระหว่างที่คนบำเพ็ญจะถูกแยกออกไป เวลานี้ได้มาถึงช่วงหลังของการเจิ้งฝ่าแล้ว จะทะลวงช่องห่างแบบนี้อย่างไร

อาจารย์:           เพราะองค์ประกอบสุดท้ายก็ล้วนแต่เป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุด ช่องห่างของมันใหญ่มาก นั่นต้องรอให้ถึงเวลาฝ่าปรับโลกมนุษย์ เมื่อพลังแห่งการเจิ้งฝ่าอันแข็งแกร่งของอาจารย์มาถึง จึงจะสามารถกำจัดทิ้งไปทั้งหมด เมื่อพลังอันยิ่งใหญ่แบบนั้นมาถึง จึงจะสามารถแก้ไขทั้งหมดนี้ ทันทีที่มาถึง ทันทีที่ทะลวง นั่นก็คือการเริ่มต้นของฝ่าปรับโลกมนุษย์ พวกเราเปลี่ยนไปพูดจากอีกมุมหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ที่พวกท่านทำในขณะนี้สามารถทำให้พวกท่าน ในหมู่เพื่อนผู้บำเพ็ญ ศิษย์ต้าฝ่าด้วยกันประสบความสูญเสียน้อยลง (แม้)ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากมูลฐาน แต่ในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า พวกท่านจะสามารถนำมาซึ่งสภาวการณ์แบบหนึ่ง พลโลกส่วนหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นดี สามารถจะช่วยเหลือพลโลกได้มากยิ่งขึ้น ยับยั้งมารร้ายทำความชั่ว แต่นั่นยังไม่ใช่จุดจบ

ศิษย์:                ท่านอาจารย์ จะเล่าเรื่องของเทพบุพกาลให้พวกเราฟังได้เมื่อใด ในระหว่างการเจิ้งฝ่า พวกเขา.....

อาจารย์:           อิทธิพลเก่าที่ข้าพเจ้าพูดถึงก็เป็นเทพบุพกาล เทพเหล่านั้นที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงล้วนแต่เป็นเทพบุพกาล แต่อิทธิพลเก่า ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน พวกมันล้วนเป็นชีวิตที่โดดเด่นที่สุดในแต่ละระดับชั้นซึ่งถูกทำลายไปแล้ว พวกมันมีความสามารถมากที่สุดซึ่งถูกทำลายไปโดยการจัดวางของอิทธิพลเก่าสุดท้ายนั้น จุดประสงค์ของมันก็คือทำลายส่วนนี้เพื่อจะบรรลุวัตถุประสงค์ จักรวาลนี้ ใหญ่โตเสียจนไร้ขอบเขต ไร้ขีดจำกัด เราสมมติโดยเรียกมันว่าไร้ขอบเขตไร้ขีดจำกัด เมื่อถึงเวลาที่มันต้องเผชิญกับการแตกสลาย มันจะช่วยตัวเอง (เพราะ)มันเป็นเทพ อันที่จริงการจัดวางของอิทธิพลเก่าก็คือวิธีช่วยตัวเองที่มันคิดออกมา จัดวางไว้อย่างละเอียดรอบครอบ แต่มันคาดไม่ถึง การช่วยตัวเองของมันแบบนี้กลับเป็นการทำลายพวกมัน ถ้าหากมันไม่ทำเช่นนี้ ครั้งนี้จะช่วยมันได้จริงๆ เมื่อมันทำเช่นนี้ และได้ทำลายสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการอย่างมากมาย บาปกรรมของมันจึงใหญ่ เพราะสรรพชีวิตเหล่านั้นถูกมันทำลายไป

ศิษย์:                ท่านอาจารย์เคยกล่าวว่าสหรัฐอเมริกาเป็นราชวงศ์หมิง ในอดีต คนในราชวงศ์หมิงส่วนใหญ่บำเพ็ญเต๋า ใคร่ขอให้ท่านอาจารย์ชี้แนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ศิษย์ในสหรัฐอเมริกา อธิบายความจริงให้กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในเวลานี้จะได้หรือไม่ ศิษย์ในสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนยุ่งเสียจนเกิดความรู้สึกเฉยชา ควรจะกระตุ้นอย่างไรให้เกิดความเมตตากรุณาชนิดที่จะสะเทือนไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี....

อาจารย์:           ไม่อาจจะพูดอย่างนั้นได้ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน พวกท่านต้องทำอย่างมีสติสัมปชัญญะ ในเวลาที่ท่านอธิบายความจริง หากท่านพูดสิ่งที่สูงเกินหลักการของมนุษย์สักเล็กน้อย คนก็รับไม่ได้แล้ว ฉะนั้นในเวลาที่พวกท่านอธิบายความจริง ต้องไม่พูดสิ่งที่อยู่ในระดับสูง สิ่งที่ท่านรู้ล้วนเป็นสิ่งที่เทพสมควรรู้ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิบายให้แก่พวกท่าน ไม่ใช่อธิบายให้แก่ชาวโลก ฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นไม่อาจจะบอกให้แก่คนธรรมดาสามัญ พวกท่านพูดได้แต่ว่าพวกเราถูกประทุษร้าย เรื่องราวที่เป็นจริงของพวกเรา พวกเราเป็นคนดีที่ถูกประทุษร้ายโดยปราศจากความผิด เสรีภาพทางความเชื่อถูกลิดรอน สิทธิมนุษยชนถูกย่ำยี อันนี้พวกเขารับได้ และจะสนับสนุนท่าน รู้สึกเห็นใจท่านทันที นั่นยังไม่เพียงพอหรือ ท่านต้องการให้เขารู้หลักการความจริงที่สูงขนาดนั้นให้จงได้เพื่ออะไร รู้ข้อเท็จจริงเหล่านั้น ชาวโลกก็จะบอกว่าฝ่าหลุนกงนั้นถูกประทุษร้าย และผู้ประทุษร้ายช่างโหดร้ายขนาดนั้น เขาก็จะไปพูด นี่มิเพียงพอแล้วหรือ แน่นอนท่านอยากให้เขามาเป็นศิษย์ต้าฝ่า แต่เวลานี้ทำได้ยากมาก เพราะอิทธิเก่ากำลังขัดขวาง ในรายที่เป็นกรณีพิเศษอาจารย์ก็จะดูแล  แต่เขาไม่มีจิตใจเช่นนั้น(ไม่มีความต้องการ) และอิทธิเก่าก็กำลังขัดขวาง ภารกิจอันดับแรกของเราในเวลานี้ก็คือให้เขาเข้าใจความจริง คนที่ดีเป็นพิเศษที่ท่านได้พบ ท่านอธิบายในระดับสูงเพียงใดให้แก่เขา ถ้าเขาสามารถรับได้ เช่นนั้นท่านก็อธิบายให้แก่เขา อย่างนั้นไม่เป็นไร อย่างนั้นไม่มีปัญหา โดยเฉพาะข้าราชการบางคน ท่านไปอธิบายสิ่งเหล่านี้ เพราะเขาเล่นการเมือง ในสมองของเขาเต็มไปด้วยเรื่องการเมือง ก็จะไม่เชื่อเลย นั่นมิเท่ากับท่านไม่เพียงแต่ไม่ได้ช่วยเขา ยังผลักเขาลงไปอีก ใช่หรือไม่

ศิษย์:                ปัจจุบันนี้ มีบางคนทำงานในเรื่องอธิบายความจริงกันมาก แต่ศึกษาฝ่าและฝึกพลังกงน้อย

อาจารย์:           โอ้ นี่เป็นเรื่องร้ายแรงมาก พวกเราศิษย์ต้าฝ่าไม่อาจจะละเลยการยกระดับของตนนะ การช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่สง่างามของศิษย์ต้าฝ่า เนื่องจากท่านไม่ศึกษาฝ่า คุณภาพของงานการอธิบายความจริงของท่านก็จะได้รับผลกระทบ ตัวเองก็จะถูกจำกัด ให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้

ศิษย์:                ผู้ที่ได้รับฝ่าภายในปี ค.ศ. 2002 จึงจะถือว่าเป็นศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่า ใช่หรือไม่

อาจารย์:           ข้าพเจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้ คนที่ดีไม่ใช่มีเข้ามา ณ ทุกๆ ช่วงเวลาหรอกหรือ อันที่จริงยังมีพวกที่อยากเข้ามา แต่ไม่ได้เข้า แน่นอนก็มีบางคนที่ตกลงไป

ศิษย์:                การอธิบายความจริงให้กับคนจีน แต่พ่อแม่ในประเทศจีนไม่ยอมให้ดิฉันอธิบายความจริงของต้าฝ่าทางโทรศัพท์ ดิฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยจะถูกต้อง แต่กลับไม่อาจจะทะลวงมันตลอดมา

อาจารย์:           ให้ทำด้วยความฉลาด บางทีถึงแม้ท่านทำได้จริงๆ ก็อาจจะไม่เกิดผล อาจเป็นได้ว่าศิษย์ต้าฝ่า ในประเทศจีนจะไปทำ สิ่งที่พวกท่านทำไม่ได้ พวกเขาก็จะทำ ศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนทำได้อย่างครอบคลุมดั่งดอกไม้บานสะพรั่งไปทั่วทุกที่ องค์รวมของศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่าอยู่ในประเทศจีน ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ที่ข้าพเจ้าบอกว่า 100 ล้านคน ไม่ใช่ 100 ล้านคนทั้งในและนอกประเทศจีนตามที่พวกท่านพูดในวันนี้    ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ในเวลานั้น   คนที่มี  “จ้วนฝ่าหลุน” อยู่ในมือและอ่านกันอยู่ก็มีจำนวน 100 ล้านคน เขาได้รับฝ่าแล้ว ข้าพเจ้าดูแลเขาอยู่แล้ว ท่านไม่อาจพูดว่าเขาไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า คนที่บำเพ็ญอย่างจริงจังมี 70 ล้านคน ในเวลานั้นศิษย์ต้าฝ่ามีจำนวน 100 ล้านคนจริงๆ

ศิษย์:                ดิฉันให้จิงเหวินใหม่เธอก็รับ แต่ไม่ยอมออกมาหงฝ่า ผู้ฝึกอย่างนี้ยังมีความหวังไหม

อาจารย์:           เธออาจจะหลงอยู่ ณ ที่ใดกระมัง เธอรับก็แสดงว่าเธอยังมีเจิ้งเนี่ยน ท่านก็ลองดูซิว่าเธอหลงอยู่ตรงที่ใด บกพร่องตรงส่วนใด ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ท่านก็ลองไปวิเคราะห์ วิเคราะห์ดู ช่วยเหลือเธอสักหน่อย

ศิษย์:                ความคิดเห็นส่วนตัวของสมาชิกของฝอเสวียฮุ่ย(สมาคมศึกษาพุทธ) เป็นต้นว่าความเห็น ข้อสรุปต่อเพื่อนผู้ฝึก เป็นตัวแทนฝอเสวียฮุ่ย ตลอดจนเป็นตัวแทนของท่านอาจารย์หรือไม่ ขอท่านอาจารย์ที่เคารพช่วยชี้แนะ

อาจารย์:           ใครก็ไม่อาจจะเป็นตัวแทนข้าพเจ้า เรื่องนี้ไม่ต้องถาม และระหว่างพวกท่านด้วยกัน ใครก็ไม่อาจเป็นตัวแทนของใคร สำหรับฝอเสวียฮุ่ย ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า การประสานงานเป็นเรื่องสำคัญมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาไม่สามารถจะพูดจากมุมมองที่ต่างกัน (แต่)จำเป็นต้องพูด ย่อมมีด้านที่ทำได้ไม่ดี อาจารย์ก็ทราบ แต่หลายสิ่งหลายอย่างพวกเราต้องพิจารณาตัวเองว่า แท้จริงแล้วเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร เทพองค์หนึ่ง  ใครก็ไม่อาจจะทำให้จิตใจของเขาหวั่นไหว สมควรทำสิ่งใดก็ให้ทำไปอย่างสง่าผ่าเผย

ศิษย์:                คนในครอบครัวของศิษย์ต้าฝ่าเคยให้ร้ายทำลายต้าฝ่า ถึงเวลาที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์ พวกเขาจะเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง หรือมันเกี่ยวโยงกับพฤติกรรมของศิษย์

อาจารย์:           นั่นต้องขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาเลือกเอง บอกว่าเขาบ่อนทำลายฝ่า ซึ่งก็ชั่วร้ายมากแล้ว ท่านยังจะบอกว่าให้พวกเขาหยวนหมั่นไปยังโลกของพระพุทธ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้จริงๆ คนที่มีบาปกรรมใหญ่หลวงจริงๆ ก็ไม่อาจจะปล่อยเอาไว้ เพราะท่านบำเพ็ญต้าฝ่าแล้ว เขาย่อมมีบุญวาสนา จะให้โอกาส ให้โอกาส ให้โอกาสแก่เขาอีก ท่านก็ต้องคิดหาวิธีไปอธิบายความจริงให้ชัดเจน ช่วยเหลือพวกเขา นั่นก็เป็นการให้บุญวาสนาแก่พวกเขา

ศิษย์:                ดิฉันขอกล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์ ในนามของศิษย์ต้าฝ่าผู้บำเพ็ญจริงจากเมืองเหอเจ๋อ มณฑลซันตง

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าในเมืองเหอเจ๋อถูกจับถูกทุบตีเป็นจำนวนมาก คนที่ถูกจับที่เมืองเหอเจ๋อล้วนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง(การล้างสมองไม่ได้ผล) จึงถูกส่งไปค่ายกักกันใช้แรงงานที่เมือจี้หนาน นี่เป็นการจัดวางของอิทธิพลเก่าไหม

อาจารย์:           ข้าพเจ้าก็ไม่ยอมรับสิ่งที่ว่าเปลี่ยนแปลง หรือไม่เปลี่ยนแปลง ท่านต้องดูที่ใจของเขา ข้าพเจ้าคิดอย่างนี้ ท่านทราบไหม เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงเขา อิทธิพลเก่าได้ประทุษร้ายทางจิตใจของเขาอย่างรุนแรง มันรู้ว่าข้าพเจ้าไม่ยอมรับสิ่งนี้ แล้วใช้วิธีอะไรล่ะ มันแยกด้านที่เขามีเจิ้งเนี่ยน ก็คือด้านที่บำเพ็ญเสร็จแล้วออกไป ไม่ให้ติดต่อกับความคิดของเขา แล้วถามชั้นพื้นผิวที่เป็นมนุษย์ของเขา แต่ทว่าชั้นพื้นผิวที่เป็นมนุษย์บรรจุ สิ่งที่เป็นของมนุษย์ และสำนึกภายหลังกำเนิดเอาไว้มากมายเหลือเกิน ด้านที่บำเพ็ญเสร็จแล้วก็ไม่สำแดงบทบาท ภายใต้สภาพการณ์อย่างนี้ ท่านประทุษร้ายเขา ท่านบอกให้เขาเขียนอะไร ข้าพเจ้าไม่ยอมรับทั้งหมด อิทธิพลเก่ารู้ว่าข้าพเจ้าไม่ยอมรับ แล้วเหตุใดมันยังกระทำการเช่นนี้ล่ะ มันสามารถก่อผลแบบหนึ่ง ก็คืออยากจะบ่อนทำลายปณิธานของผู้ฝึก ผู้ฝึกที่ทำผิดก็จะคิด อุย ฉันเขียนสิ่งนี้แล้ว ฉันจบสิ้นแล้ว อาจารย์ไม่อาจดูแลฉันแล้ว ฉันทำผิดต่อต้าฝ่าแล้ว จากนั้นเขาก็รู้สึกสลดหดหู่ นี่คือวิธีการของพวกมัน ข้าพเจ้าไม่ยอมรับ หกล้มไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลย ! ให้รีบลุกขึ้น! (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าจากฮาร์ปิน ขอกล่าวคำสวัสดี ท่านอาจารย์ !

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียบปรบมือ) !

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกกักขังอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ณ ค่ายกักกันแรงงานแห่งหนึ่ง ขอกล่าวคำสวัสดีต่อท่านอาจารย์ !

อาจารย์:           ถ้ำมืดแห่งนี้ชั่วร้ายมาก ข้าพเจ้ารู้ ใช่ ผู้ฝึกทั้งหลายดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ มีสติสัมปชัญญะมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องในประเทศจีนจะไม่พูดในเวลานี้ (เสียงปรบมือ) หากพูดขึ้นมาเป็นเรื่องยาวมาก ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งที่รอคอยพวกมารร้ายเหล่านั้น คือบาปกรรมที่ไม่มีวันจะชดใช้ได้หมดสิ้นตลอดกาล สิ่งที่รอคอยศิษย์ต้าฝ่าคือการหยวนหมั่นที่ยิ่งใหญ่สง่างาม และอลังการ (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                เพิ่งจะรับรู้(อู้)ได้เมื่อเร็วๆ นี้ ในเวลาที่ศิษย์ต้าฝ่ามีความขัดแย้งเนื่องจากงานต้าฝ่า ก่อนอื่นให้ฟาเจิ้งเนี่ยนขจัดอิทธิพลชั่วร้ายเหล่านั้นที่ใช้จิตยึดติดของผู้ฝึก ตลอดจนทัศนคติที่ไม่ดีมาประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าโดยรวม หลังจากนั้นค่อยปรึกษาหารือปัญหาเรื่องงานให้เป็นรูปธรรม ทำเช่นนี้ถูกต้องไหม

อาจารย์:           ข้าพเจ้าคิดว่า เวลาที่ศิษย์ต้าฝ่าพบกับความขัดแย้ง หาใช่สิ่งที่มารจะสามารถควบคุมได้เสมอไป พวกมันรบกวน สามารถจะฟาเจิ้งเนี่ยน แต่ควรจะศึกษาฝ่าให้มากๆ ถ้าพูดว่าฟาเจิ้งเนี่ยนก่อนจะทำเรื่องอะไร นั่นก็จะสามารถขจัดการรบกวนได้บ้าง

ศิษย์:                ดิฉันเป็นศิษย์ที่ได้ฝ่าภายหลัง 20 กรกฎาคม ปี 1999 ในระหว่างการบำเพ็ญ ประสบกับการรบวนอย่างมากจากมิติอื่น    ยิ่งกว่านั้นอิทธิพลชั่วร้ายยังประทุษร้ายอย่างไร้เหตุผล  เหตุใดขณะ    ฟาเจิ้งเนี่ยนขจัดการประทุษร้าย มักไม่สามารถยืนหยัดจนถึงที่สุดอยู่ร่ำไป ดูเหมือนจะมีเหลือช่องว่าง

อาจารย์:           จะพูดอย่างไรดีนะ เพราะศิษย์ต้าฝ่าที่ได้ฝ่าภายหลัง 20 กรกฎาคม ปี 1999 ขั้นตอนของการบำเพ็ญกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของพวกท่านนั้นรวมอยู่ด้วยกัน เพราะคนที่ได้ฝ่าก่อนหน้านั้น ช่วงเวลาการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกเขาผ่านไปแล้ว ปัจจุบันเรื่องหลักของพวกเขาคือการช่วยเหลือสรรพชีวิต หันสู่การยืนยันความถูกต้องของฝ่า และคนที่เข้ามาภายหลังซึ่งตามมาทันการยืนยันความถูกต้องของฝ่าพอดี ท่านก็ต้องทำ ในเวลาเดียวกันก็มีการบำเพ็ญส่วนบุคคลรวมอยู่ข้างใน ดังนั้นท่านจะรู้สึกว่ามีปัญหายุ่งยากสักหน่อย แต่ไม่เป็นไร อาจารย์มองเห็นเป็นระเบียบ มีเจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งสักหน่อยก็จะไม่มีปัญหา

ศิษย์:                การฟาเจิ้งเนี่ยน ณ ขั้นตอนปัจจุบันสามารถจะทดแทนการฝึกพลังกงได้หรือไม่

อาจารย์:           นี่เป็นคนละเรื่องกันนะ (หัวเราะ) การฝึกพลังกง คือการฝึกพลัง การฝึกพลังกงเป็นการเสริมระบบกลไกให้แข็งแกร่ง และให้ร่างกายแท้แปรเปลี่ยนสู่ร่างกายเทพ ฟาเจิ้งเนี่ยนเป็นสำแดงอิทธิฤทธิ์ พูดให้ชัดคือการใช้กงเหนิง(ความสามารถ) มีจุดประสงค์เพื่อกำจัดผีเน่าเปื่อยชั่วร้าย

ศิษย์:                สวัสดีท่านอาจารย์ที่เคารพ ! มีผู้ฝึกจำนวนมากมีอะไรนิดอะไรหน่อยก็ฟาเจิ้งเนี่ยนกำจัด แม้กระทั่งการเจ็บป่วยเล็กน้อยก็ต้องฟาเจิ้งเนี่ยน

อาจารย์:           เป็นเพราะพวกเราศึกษาฝ่าไม่มากพอหรือไม่ ถ้าเป็นเพราะทำอะไรผิดจริงๆ และเกิดปัญหา พวกเราไปฟาเจิ้งเนี่ยน เช่นนั้นก็จะให้ความรู้สึกที่ไม่ถูกต้องแก่คน อิทธิพลเก่าก็จะก่อกวน เห็นว่าท่านไม่เพียงแต่ไม่ทำให้ดี ท่านยังจะกำจัดพวกมัน ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ ใช่หรือไม่ ดังนั้นพวกเราต้องพยายามพิจารณาดูว่าตัวเองทำได้ดีหรือไม่ ที่ทำไม่ดีพวกเราก็ทำให้ดี แต่ในคำถามเขียนว่า “แม้กระทั่งการเจ็บป่วยเล็กน้อยก็ต้องฟาเจิ้งเนี่ยน” “การเจ็บป่วยเล็กน้อย” อันนี้หมายถึงอะไรนะ คือปรากฏการณ์ของการชำระกรรมกระมัง

ศิษย์:                ในเดือนแรกที่ดิฉันเริ่มฟาเจิ้งเนี่ยน มีครั้งหนึ่งเมื่อฟาเจิ้งเนี่ยน ตาทิพย์ของดิฉันมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในชั่วเวลาเพียง 5 นาที ลำแสงสีม่วงแดงอันแข็งแกร่งหนึ่งลำ ภายในชั่วพริบตาทำลายทุกสิ่งที่เหมือนมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์ของจอมมารตนนั้นในประเทศจีนจนหมดสิ้นไป พลังของมันแข็งแกร่งสุดจะบรรยาย ที่ทำลายไปคือตัวแทนในมิติของเราเท่านั้นหรือไม่ ในแต่ละมิติมีตัวแทนของมันไหม

อาจารย์:           มันสลับซับซ้อนมาก บางเวลาพวกท่านสามารถทำลายผีเน่าเปื่อยในร่างของจอมมารได้โดยตรงจริงๆ ณ เวลานั้นมันก็เหมือนกำลังจะตาย ก็เริ่มช่วยมันฟื้นขึ้นมา แต่ผีเน่าเปื่อยอีกกลุ่มก็จะขึ้นไปเสริมกำลัง มันก็กลับมาอีก และเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากนี้ เพื่อให้มันสามารถควบคุมผีเน่าเปื่อยทั้งหมด ในเวลานั้นอิทธิพลเก่าจึงขยายอนุภาคของเซลล์ทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นร่างคนซึ่งอยู่ข้างล่างชั้นพื้นของมัน ให้กว้างใหญ่เท่ากับสามภพ ทุกสิ่งที่เป็นของมนุษย์ทั้งหมดข้างในเซลล์ล้วนถูกอิทธิพลเก่านำออกไปทิ้งในนรก แล้วใส่ผีเน่าเปื่อยเหล่านั้นเข้าไปจนเต็ม เพราะอนุภาคของคนล้วนเป็นรูปลักษณ์ของตัวคนเอง ฉะนั้นในมิติเหล่านั้นของสามภพ จึงมีเซลล์ของจอมมารหนึ่งเซลล์ และข้างในเซลล์ทั้งหมดก็มีผีเน่าเปื่อยเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นเมื่อพวกท่านฟาเจิ้งเนี่ยน ณ เวลานั้น จึงสามารถกำจัดอนุภาคของจอมมารและผีเน่าเปื่อยเหล่านั้นในสามภพทิ้งไปเป็นจำนวนมาก ในชั่วขณะที่พวกท่านกำลังทำลายมัน ระเบิดมันทิ้งไป ท่านเห็นว่าทำลายมันทิ้งหมดแล้ว นั่นเป็นเรื่องจริง เวลานี้พวกท่านจัดการกับมันถึงระดับใดนะหรือ ทำลายหมดสิ้นไปแล้วยกเว้นอนุภาคที่ประกอบขึ้นเป็นชั้นพื้นผิวของคน มันกลวงแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เหลือแต่เพียงหนังมนุษย์ผืนนี้ซึ่งประกอบขึ้นจากเซลล์ชั้นพื้นผิวหนึ่งชั้น ซึ่งรวมถึงอวัยวะภายใน เนื่องจากอนุภาคของเซลล์ทั้งหมดของจอมมารที่ถูกขยายในสามภพ ถูกทำลายไปจนหมดแล้ว ไม่มีมันทั้งข้างบนและข้างล่าง ถูกกำจัดทิ้งไปทั้งหมดแล้ว เวลานี้หนังชั้นนี้จึงถูกค้ำยันโดยพวกมารสุดท้ายที่เลวที่สุดของอิทธิพลเก่า ฉะนั้นปัจจุบันมันไม่มีสติสัมปชัญญะปกติของคน ทั้งหมดเป็นเพราะผีเน่าเปื่อยเหล่านั้นควบคุมหนังมนุษย์เอาไว้ เป็นผืนหนังที่วาดลวดลายเอาไว้จริงๆ ทัศนคติของคนเลวและกรรมที่หนังมนุษย์ชั้นพื้นผิวของมันก่อขึ้นมาชั่วชีวิตแสดงออกมาอย่างหวาดกลัวมาก สะท้อนความหวาดกลัวออกมา กลัวผลลัพธ์ของการสูญเสียอำนาจ กลัวชื่อเสียงของฝ่าหลุนกงจะได้รับการพลิกกลับคืนมา มันกลัวจะถูกประหารชีวิต กลัวว่าเงินทอง ทรัพย์สินจำนวนมหาศาล ที่สมาชิกในครอบครัวของพวกมันทำการทุจริตยักยอกจะถูกรื้อค้นและตรวจสอบ อะไรก็กลัวไปหมด ในขณะที่มารร้าย ณ ฝั่งนั้นตนนั้นของมันมีแต่ความเคียดแค้น สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ถึงจะเคียดแค้นก็ไม่อาจจะรวบรวมพลังขึ้นมาได้ มันรู้ว่ามันจบสิ้นแล้ว ทั้งเคียดแค้นและหวาดกลัว ยังต้องแสร้งแสดงให้คนดูว่ามีพลัง ฝืนแสดงละครแบบดันทุรัง นี่ก็คือสภาพของมันในปัจจุบัน ตอนที่อนุภาคของเซลล์ของมันถูกขยายจนใหญ่ขนาดนั้น ข้างในบรรจุเต็มไปด้วยผีเน่าเปื่อยนั้น พลังชี่ชั่วร้ายสูงมากจริงๆ ร่างกายถูกยืดขยายจนพองโต บวมเป่ง มันรู้สึกว่าตัวเองร่างกายกำยำ มีพลังแข็งแกร่ง ใจจึงกล้าขึ้นมา เผยโฉมดุดัน ทำให้คนรอบข้างในเวลานั้นตกใจจริงๆ ปัจจุบันกลายเป็นมะเขือที่โดนเกร็ดหิมะจนห่อเหี่ยวไปแล้ว ข้างในถูกทำลายไปหมดแล้ว ศิษย์ต้าฝ่ายิ่งฟาเจิ้งเนี่ยน ผีเน่าเปื่อยในร่างกายมันก็ยิ่งลดน้อยลง มันก็ยิ่งหดลง หดลง ร่างกายจะเล็กลงเรื่อยๆ เพราะนอกจากหนังมนุษย์แล้ว ในอนุภาค ณ ระดับจุลทรรศน์ของมันไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าจากมหาวิทยาลัยกรมทหารที่ 2 จากโตรอนโต ผิงเซียงมณฑลเจียงซี ฉงชิ่ง เปรู มาเก๊า ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ฮาร์ปิน ซันตง จี้หนาน คุนหมิง ออสเตรเลีย ต้าเหลียน ศิษย์ที่ได้รับการปล่อยตัวจากคุกเจียมู่ซือ เยอรมันนี ศิษย์จากสถานกักกันXXX เมืองสือเจียจ้วง จากซันตง เฮ่อเจ๋อ เทียนจิน ซินเจียง เหงหยาง ฉางชุน ศิษย์จากที่กล่าวมาทั้งหมดขอกล่าวคำสวัสดีต่อท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

ศิษย์:                ในระยะหลังนี้เวลาศึกษา “จ้วนฝ่าหลุน” ไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นที่มีการรับรู้เข้าใจในสิ่งใหม่ๆ มีการพัฒนาใหม่ๆ ในแต่ละเที่ยวเมื่ออ่านจบ

อาจารย์:           ระดับซินซิ่งสูงเพียงใด พลังกงจะสูงเพียงนั้น มันมีสาเหตุ จิตใจไม่สงบใช่หรือไม่ ข้าพเจ้าคิดว่ามันต้องมีสาเหตุนะ เมื่อถึงระดับชั้นสูงย่อมมีข้อกำหนดที่สูง

ศิษย์:                ขอท่านอาจารย์ให้ความกระจ่าง ขั้นตอนพื้นฐานระหว่างช่วงเวลาของเจิ้งฝ่าสู่ช่วงเวลาของฝ่าปรับโลกมนุษย์จะเป็นเช่นไร

อาจารย์:           ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ไม่มีขั้นตอนอย่างที่ท่านจินตนาการ ไม่มีโดยแท้จริง ข้าพเจ้าขอบอกท่าน พลังอันมากล้นของฝ่าปรับโลกมนุษย์นั้น ในอดีตอิทธิพลเก่าเหล่านั้นจะมองไม่เห็น เวลานี้มันมองเห็นแล้ว ตกใจเสียแทบแย่ ฉะนั้นเหล่าเทพที่อิทธิพลเก่าจัดวาง ต่างไม่กล้าทำอีกแล้ว ปัจจุบันสิ่งที่สะท้อนออกมาเหล่านี้คือ ผีเน่าเปื่อยเหล่านั้นยังคงทำสิ่งที่ไม่ดีกันอยู่ เรื่องฝ่าปรับโลกมนุษย์นะหรือ ในทันทีที่มาถึง สิ่งเหล่านี้ก็จะผ่านไป ไม่มีขั้นตอน  เวลาของการเจิ้งฝ่า เวลาที่พลังมาถึงจะมีปรากฏการณ์แบบหนึ่ง ปรากฏการณ์อะไรนะหรือ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยบอกกับพวกท่าน ทุกสิ่งที่ดวงตาของคนมองเห็นล้วนแต่ประกอบขึ้นมาจากโมเลกุลทั้งสิ้น เมื่อระนาบของชั้นโมเลกุลนี้ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใดก็ตาม ถูกเจาะเป็นรูโหว่หรือถูกฉีกเป็นรอยเปิด ท่านจะมองเห็นทัศนียภาพอะไรละ จะมองเห็นสวรรค์ มันเหมือนกับม่านบนเวทีถูกฉีกให้เปิดออก มีความรู้สึกเป็นอย่างนั้น หรือถูกเจาะเป็นรูเปิด เพราะเรื่องฝ่าปรับโลกมนุษย์ยังจะต้องทำต่อไป มิตินี้ไม่อาจที่จะทำลาย หรือให้ซึมเข้ามาจากระดับจุลทรรศน์ทั้งหมด

ศิษย์:                อิทธิพลเก่านอกจากยึดติดกับการจัดวางของมันแล้ว ยังมีข้อบกพร่องอะไร

อาจารย์:           นอกจากมันจะยึดติดกับทุกสิ่งที่มันต้องการจะทำแล้ว มันก็ไม่มีอะไรอื่นใดแล้ว เพราะพวกมันต้องการจะเก็บรักษาทุกสิ่งที่พวกมันมีมาแต่เดิม ก็คือเป้าหมายนี้

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่าจะมีเหลืออยู่(ในโลก)หรือไม่

อาจารย์:           ไม่มี (เสียงปรบมือยาวนาน) หากข้าพเจ้าทิ้งท่านไว้(ในโลก)ก็เป็นการทำลายท่าน ทำลายท่านจริงๆ เพราะถ้าไม่ก้าวไปข้างหน้าก็เป็นการถอยหลัง ในทันทีที่ท่านบรรลุสภาพแบบนั้นในสภาพแวดล้อมนี้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมนี้ เพียงท่านอยู่ท่ามกลางมนุษย์ ทำสิ่งต่างๆ โดยคละเคล้าอยู่ในหมู่มนุษย์ ก็คือท่านตกระดับชั้น ท่านก็จะค่อยๆ ถูกมนุษย์ทำให้แปดเปื้อน ข้าพเจ้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าพระพุทธบนสวรรค์ พระพุทธ เต๋า เทพ เหล่านั้น ณ มิติที่แน่นอน ณ ช่วงเวลาที่กำหนดแน่นอนนั้นต้องมีการเปลี่ยน นั่นเพราะมันง่ายที่พวกเขาจะถูกสามภพทำให้แปดเปื้อน ฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยน

ศิษย์:                ขอท่านอาจารย์ที่เคารพ กรุณาชี้แนะเกี่ยวกับทิศทางของโรงเรียนอนุบาลหมิงฮุ่ย

อาจารย์:           (พวกท่าน)ทำได้ดีมาก! พวกท่านทราบไหม จอมมารตนนั้นมอมเมาเด็กอนุบาลในประเทศจีนด้วยยาพิษ ช่างชั่วร้ายนัก มันคิดจะทำลายมนุษยชาติจริงๆ ! เมื่อมันเห็นพวกเราทำเช่นนี้ มันโกรธแค้นมาก อันที่จริงรัฐบาลจีนที่ผ่านมา ในจำนวนกรรมการ 7 คนของ คณะกรรมการกลาง มีกรรมการถึง 6 คนที่ไม่สนับสนุนการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ข้าพเจ้าก็รู้ ซึ่งรวมถึงหัวหน้าสำนักงาน 610 คนนั้นที่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ในตอนนั้นก็คัดค้านเช่นกัน หน่วยงานของคณะกรรมการกลางเกือบจะทั้งหมด กระทรวงต่างๆ ของรัฐ ทั้งหมดล้วนไม่เห็นด้วยกับการปราบปรามฝ่าหลุนกง

ศิษย์:                การเข้ามายุ่งกับการเจิ้งฝ่าในเรื่องนี้ของอิทธิพลเก่า เมื่อครั้งที่ได้จัดเตรียมโลกขึ้นมา 2 ใบ เหตุใดต้องมีการทดลองบนโลกใบที่สอง – คนขนาดโต คนขนาดกลาง คนแคระ ขอถามว่าพวกมันจัดเตรียมคนขนาดใดไว้บนโลกใบที่หนึ่ง

อาจารย์:           เมื่อทำการทดลองอยู่ ณ ที่ๆ ตรงนี้ของพวกเรานั้น มีการจัดคนไว้สามประเภท บนโลกใบที่หนึ่งจัดคนไว้ห้าประเภท สุดท้ายเมื่อโลกใบนั้นสิ้นสุดลงเหลือคนอยู่สามประเภท มาครั้งนี้พอเริ่มต้นก็มีสามประเภท ก็คือพวกมันไม่หยุดยั้งที่จะค้นหาวิธีตามที่พวกมันต้องการ สุดท้ายค่อยกำหนดลงมาก่อนหน้าการเจิ้งฝ่า

ศิษย์:                คำถามของดิฉันคือ ขณะที่พวกเราฟาเจิ้งเนี่ยน ชีวิตชั้นต่ำเหล่านั้นที่ถูกกำจัดทิ้งไปก็เสริมเพิ่มเติมเข้าไปอย่างต่อเนื่องพร้อมๆ กับที่ถูกกำจัดทิ้งไป ใช่หรือไม่

อาจารย์:           มิติถูกเทียนถี่จากภายนอกทำจนสลับซับซ้อนยิ่งนัก พวกมันแบ่งแยกอนุภาคเหล่านั้นออกเป็นส่วนๆ ท่านกำจัดพวกมันทิ้งไปแล้วจริงๆ แต่ที่กำจัดไปเป็นส่วนที่ถูกแยกออกไป ระหว่างการเจิ้งฝ่า เมื่อข้าพเจ้ากำจัดชีวิตใหญ่มหึมาทิ้งไปหนึ่งชั้น ผีเน่าเปื่อยก็จะออกมาอีกหนึ่งส่วน ดังนั้นจึงกำจัดไม่หมดอยู่ร่ำไป ความจริงพวกเราก็กำจัดเป็นพื้นที่กว้างและด้วยความเร็ว และยอดรวมที่กำจัดไปก็เป็นปริมาณมาก พวกเราสามารถเห็นได้จากสถานการณ์การเจิ้งฝ่า ที่ผ่านมาแม้แต่หญ้าสักเส้น ต้นไม้สักต้นก็ถูกชีวิตชั่วร้ายนั้นครอบงำเอาไว้ กระทั่งอนุภาคของอากาศธาตุก็เกือบจะถูกพวกมันควบคุมเอาไว้ ท่านรู้สึกหายใจด้วยความยากลำบาก ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว และผู้คนต่างพากันตื่นขึ้นมา ไม่มีผีเน่าเปื่อยมากขนาดนั้นที่ควบคุมคนแล้ว นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่

ศิษย์:                เมื่อวันที่ 22 มกราคม ศิษย์สหรัฐอเมริกา ถูกจับที่สนามบินกว่างโจว......

อาจารย์:           การเป็นศิษย์ต้าฝ่า เมื่อเกิดปัญหาอะไร ทุกคนก็ต้องร่วมแรงร่วมใจกันไปจัดการ พวกมันไม่กลัวขายหน้า พวกเราก็เปิดโปงเรื่องเลวทรามของมันให้รู้กันทั่วโลก ให้รู้กันทั่วสหรัฐอเมริกา ว่าประชาชนสหรัฐอเมริกา ถูกจับ มันไม่กลัวขายหน้า พวกเราก็ทำ ถ้าแม้นวันใดที่มันไม่ปล่อย พวกเราก็จะเปิดโปงถึงมันวันนั้น (เสียงปรบมือกึกก้อง)

ศิษย์:                อิทธิพลเก่าคืออะไร บางครั้งศิษย์เข้าใจแจ่มแจ้ง บางครั้งรู้สึกสับสน

อาจารย์:           มีชีวิตร้อยละยี่สิบในจักรวาล พวกมันถูกจัดวางให้เข้ามายุ่งกับงานของข้าพเจ้า ในประวัติศาสตร์ พวกมันได้จัดวางสิ่งต่างๆ มากมายอย่างเป็นระบบ มีการจัดวางต่างๆ มากมายในประวัติศาสตร์ ข้าพเจ้าก็ได้เข้าร่วม ในตอนนั้น(หาก)ข้าพเจ้าไม่เข้าร่วม  มันก็จะเลือกคนอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อถึงเวลาเจิ้งฝ่าก็จะยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ถ้ามันเลือกคนอื่นมาเจิ้งฝ่า เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาเจิ้งฝ่า พอข้าพเจ้าทำ มันก็จะเทชีวิตในจักรวาลทั้งหมดมายังที่ข้าพเจ้า หากข้าพเจ้ากำจัดพวกมัน แล้วข้าพเจ้าจะช่วยเหลือพวกมันอย่างไรล่ะ การเจิ้งฝ่าแท้ที่จริงคืออะไร ไม่มีชีวิตใดรู้ ใครรู้ใครก็หนี นั่นคือสิ่งที่จักรวาลไม่อนุญาต ยิ่งไม่อาจจะอนุญาตให้ชีวิตในจักรวาลเลือกให้การเจิ้งฝ่าเป็นเช่นไร

ศิษย์:                เมื่อเร็วๆ นี้ เด็กที่เกิดจากสามีภรรยาที่เป็นศิษย์ต้าฝ่า มีรูปลักษณ์ที่ทุกข์ทรมานอย่างมาก ไม่สมประกอบ จะปฏิบัติกับปรากฏการณ์ในลักษณะนี้อย่างไร

อาจารย์:           ปัจจุบันมีความสลับซับซ้อนมาก เมื่อเป็นลูกของตัวเอง ก็ต้องรักและปกป้อง ดูแลให้ดีที่สุด แต่ขอให้พวกท่านวางใจ ขอเพียงแต่ท่านสามารถหยวนหมั่น ทุกสิ่งทุกล้วนแต่ดีที่สุด (เสียงปรบมือ) นี่เป็นการจัดสร้างสำหรับศิษย์ต้าฝ่า ถ้าท่านไม่สามารถหยวนหมั่น ทุกสิ่งก็เป็นศูนย์

ศิษย์:                ท่านอาจารย์บอกพวกเราว่า ร่างหลักของต้าฝ่าอยู่ที่ประเทศจีน ในประเทศจีนมีศิษย์ต้าฝ่าอยู่ในหลายๆ พื้นที่ พวกเราจะยกระดับให้สูงยิ่งขึ้นพร้อมๆ กันได้อย่างไร

อาจารย์:           เรื่องนี้ขอให้วางใจ  พวกเขาต่างก็รู้จักเว็บไซต์หมิงฮุ่ย  ในพื้นที่ที่ห่างไกล   ศิษย์ต้าฝ่าก็มีการติดต่อซึ่งกันและกัน ก็มีการส่งข้อมูลข่าวสารให้แก่กันและกัน

ศิษย์:                ท่านอาจารย์ที่เคารพกล่าวเมื่อสักครู่ว่า คนเหล่านั้นที่เขียนหนังสือรับรองโดยมีภาวะจิตไม่แจ่มแจ้งในระหว่างการประทุษร้ายว่ายังมีโอกาส แต่จะอย่างไรดิฉันก็ไม่สามารถจะให้อภัยแก่คนเหล่านั้นที่ทรยศต่อท่านอาจารย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ พวกเขาไม่ใช่ทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำเพราะทนแบกรับการประทุษร้ายไม่ไหว แต่ยืนอยู่ข้างเดียวกับมารร้ายและทวีการประทุษร้ายให้รุนแรงมากขึ้น

อาจารย์:           ใช่ มันพูดยากเมื่อดำเนินไปถึงขั้นนั้นแล้ว ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า จะต้องช่วยเหลือคนทั้งหมด แต่ท่านก่อบาปถึงขั้นนั้นแล้ว ก็ต้องให้ฝ่าตัดสิน ไม่มีวิธีอื่น ความเมตตากรุณาและความน่าเกรงขามอยู่คู่กันเพื่อพิทักษ์ฝ่า แต่ก็มีบางคนที่อิทธิพลเก่าจัดวางให้เข้ามาทำเช่นนี้โดยเฉพาะ มันสลับซับซ้อนมาก ก่อนเหตุการณ์ 20 กรกฎาคม 1999 มีท่าทีกระตือรือร้นมากพอถึงวันที่เกิดการประทุษร้าย พวกมันก็เข้าร่วมอย่างแข็งขันมากกว่าใครต่อใคร จึงก่อเกิดเป็นสถานการณ์ที่สลับซับซ้อนให้แก่ผู้ฝึกเช่นนี้

ศิษย์:                กราบเรียนถามท่านอาจารย์ จะมีกรณีที่รูปธรรมะ(ฝ่าเซี้ยง)ของท่านอาจารย์ถูกทะลวงผ่าน เกิดขึ้นด้วยหรือไม่

อาจารย์:           ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน พวกมันไม่ได้ต้องการจะทำอะไรข้าพเจ้า พวกมันพุ่งเป้ามาที่จิตใจของผู้ฝึก ถ้าท่านปฏิบัติได้ถูกต้องอย่างยิ่ง พวกมันไม่กล้าทำสิ่งต่างๆอย่างง่ายๆเช่นนี้อย่างแน่นอน ข้างบนนั้นมีฝ่าเซิน(ธรรมกาย)ของข้าพเจ้า โดยเฉพาะคืออิทธิพลเก่า ท่านทราบไหม การเจิ้งฝ่าของพวกมัน ทั้งหมดนั้นต้องอาศัยข้าพเจ้า พวกมันเคารพนับถือข้าพเจ้า ทุกข์ภัยนั้นทำให้แก่พวกท่าน ไม่ใช่ทำให้แก่ข้าพเจ้า แต่ถ้าทุกท่านสามารถจัดการกับสิ่งเหล่านี้ด้วยเจิ้งเนี่ยน(ความคิดที่ถูกต้อง) ก็จะไม่ถูกรบกวน แท้จริงแล้วบ่อยครั้งล้วนเป็นผลอันเนื่องมาจากจิตยึดติดของพวกท่าน

            อิทธิพลเก่า เมื่อครู่ ข้าพเจ้ากล่าวไปแล้วว่า มันไม่ได้ต้องการจะทำลายจักรวาล มันต้องการจะรักษาทุกสิ่งให้คงอยู่ในสภาพเดิมของมัน ฉะนั้นกล่าวสำหรับฝ่าเซินของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลเก่าก็ดี หรือเทพที่ถูกต้อง ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็เฝ้าดูอยู่ มีแต่เวลาที่พวกท่านศิษย์ต้าฝ่าปฏิบัติได้ไม่ดี มันจึงกล้าก่อกวน ในเวลานั้นพวกมันจับประเด็นที่จะเล่นงานท่านได้ ในเวลาปกติมันไม่กล้าทำ เมื่อครู่ข้าพเจ้ากล่าวไปแล้วว่า ถึงแม้จะมีสภาพการณ์เช่นนี้ แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่พิเศษ เป็นปรากฏการณ์ที่พิเศษมากๆ มีปรากฏการณ์เช่นนี้สักหนึ่งหรือสองกรณีก็จะส่งผลกระทบอย่างมาก เหตุใดข้าพเจ้าจึงพูดว่า ทันทีที่เห็นพวกมัน ก็ต้องทำลายมันทิ้ง ไม่ว่ามันจะมีจุดประสงค์หรือไม่ เมื่อเห็นมันก็ต้องทำลายมันทิ้ง เพราะมันได้ก่อบาปในการประทุษร้ายเจิ้งเนี่ยนเจิ้งสิง (ความคิดที่ถูกต้อง การกระทำที่ถูกต้อง)ของศิษย์ต้าฝ่า ฉะนั้นถึงแม้พวกมันทำไปตามหลักการ ใจของมันก็หวาดกลัวมาก  อันที่จริง ข้าพเจ้าก็กำลังกำจัดและยับยั้งสิ่งเหล่านี้อยู่

            ผู้ฝึกบางคนยังมองเห็น อิทธิพลเก่าได้ทำสิ่งที่ไม่ดี และนำสิ่งที่ไม่ดีมาใส่ที่ตัวข้าพเจ้า ผู้ฝึกบางคนมองเห็น สิ่งที่ข้าพเจ้ากังวลกว่าคือ มันอาจจะส่งผลกระทบถึงท่าน ! เพราะท่านอาจเห็นว่า ดูเหมือนมีสิ่งที่ไม่ดีอยู่บนตัวอาจารย์ พวกท่านทราบไหมสิ่งเหล่านั้นเป็นของพวกท่าน (เสียงปรบมือกึกก้อง) ไม่เช่นนั้นใครกล้าโยนสิ่งนั้นมาที่ข้าพเจ้าล่ะ เป็นเพราะข้าพเจ้ากำลังปกป้องพวกท่าน ย่อมต้องมีคนสลายมันทิ้ง 

ศิษย์:                จะอธิบายความจริงให้ได้ผล ครอบคลุมพื้นที่ในระดับกว้าง และช่วยเหลือสรรพชีวิตมากยิ่งขึ้นได้อย่างไร จะให้หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ของเรามีบทบาทมากยิ่งขึ้นได้อย่างไร

อาจารย์:           สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องรูปธรรม อันที่จริงพวกท่านก็ทำได้ดีมาก ก็ให้ดำเนินการต่อไป หาวิธีทำให้ดียิ่งขึ้น นี่ก็เป็นการเดินบนหนทางของศิษย์ต้าฝ่า เป็นการสถาปนาเวยเต๋อ(อานุภาพแห่งคุณธรรม)ของพวกท่านในการช่วยเหลือสรรพชีวิต

ศิษย์:                เวลาฟาเจิ้งเนี่ยนกำจัดปัญหาที่อยู่ภายในของตัวเอง เป็นการกำจัดอิทธิพลเก่าที่ทะลวงผ่านในร่างกายของศิษย์ด้วยหรือไม่

อาจารย์:           เวลาที่ท่านฟาเจิ้งเนี่ยน อย่าว่าแต่ในร่างกาย ทุกสิ่งที่อยู่ข้างในอาณาเขตของท่านต่างก็ตกใจเผ่นหนีแล้ว ถ้าถามว่าเพื่อไม่ให้มันมา วันๆ ฉันก็เอาแต่ฟาเจิ้งเนี่ยนไม่ทำอะไร คือปกติมันก็ไม่กล้ามาแล้ว คิดมากเกินไปก็เป็นการยึดติด มิติอื่นคงอยู่พร้อมกัน ชีวิตในมิติอื่นเดินประจันหน้ากับท่านและผ่าทะลวง ผ่านตัวท่านโดยที่ไม่รู้สึกแต่อย่างใด มิติมันคงอยู่กันเช่นนี้ จักรวาลก็มีโครงสร้างเป็นเช่นนี้ มันไม่ส่งผลกระทบต่อท่าน พูดมาถึงโครงสร้าง ข้าพเจ้าจะพูดเรื่องที่พวกท่านอยากฟังกันสักหน่อย (เสียงปรบมือกึกก้อง)

            ทุกท่านทราบบนโลกมีพืช สัตว์ วัตถุสิ่งของต่างๆ มากมายนัก พูดให้เป็นรูปธรรม เช่นแอปเปิล กล้วย ส้ม องุ่น ที่พวกท่านรู้จัก เช่นเสือ สิงโต กระต่าย แพะเอย แกะเอยที่พวกท่านก็รู้จัก และเช่น ต้นไม้ พืช ดอกไม้ชนิดต่างๆ มากมายที่พวกท่านก็รู้จัก ในมิติอื่นก็มี ในเทียนถี่ที่ไกลโพ้น ณ ระดับชั้นเดียวกัน บนดาวเคราะห์ที่คล้ายโลกก็มี เช่นนั้นอนุภาค ณ ระดับชั้นที่ต่ำประกอบขึ้นเป็นอนุภาคที่สูงขึ้นไปหนึ่งชั้น บนอนุภาคที่ใหญ่ขึ้นไปอีกก็มี พืช สัตว์ วัตถุสิ่งของเหล่านี้ แอปเปิลบนสวรรค์ผลนั้นใหญ่โตเสียจนอาจจะใหญ่กว่าดาวเคราะห์ ผลแอปเปิลบนดาวเคราะห์ชั้นต่ำเหล่านั้นเป็นอนุภาคหนึ่งข้างในผลแอปเปิลของอนุภาคชั้นสูงใช่หรือไม่ ใช่ บนโลกมีสิงโต บนสวรรค์มีสิงโต สูงขึ้นไปอีกก็มีสิงโต บนโลกมีคน บนสวรรค์มีคน สูงขึ้นไปอีกก็มีคน ใหญ่โตจนไม่อาจจะเปรียบเทียบ ชีวิตนั้นมีราชา หมายความว่าทุกชีวิตล้วนมีราชา ราชาของชีวิตหนึ่งก็คือชั้นที่ใหญ่ที่สุดของอนุภาคนั้น ทุกสิ่งที่อยู่ข้างล่างของมันกระจัดกระจายอยู่บนอนุภาคซึ่งมีขนาดต่างๆ ทั้งใหญ่และเล็ก สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ของชั้นอนุภาคที่ใหญ่ที่สุด ก็คือราชาของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล อนุภาคของมันจะปรากฏอยู่ในแต่ละระดับชั้นที่อยู่ข้างล่างของมัน

            ฉะนั้นจักรวาลนี้เป็นองค์ประกอบเช่นไรล่ะ เป็นองค์ประกอบซึ่งสรรพสิ่งสลับโยงใย ผสมผสานกันไปมา บนโลกมีชีวิตมากมายก่ายกอง แต่ชีวิตเหล่านี้ไม่จัดอยู่ภายใต้ราชาองค์เดียว ไม่จัดอยู่ในระบบชีวิตเดียวกัน พวกมันต่างดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ ต่างผสมผสานอยู่ด้วยกัน แต่ชีวิตจะติดต่อเชื่อมโยงกับราชาของชีวิตตัวเอง และไม่ติดต่อเชื่อมโยงกับชีวิตอื่น เช่นนั้นจึงหมายความว่า แม้ว่าพวกมันจะสลับโยงใยไปมาอยู่ท่ามกลางมิติของทั่วทั้งจักรวาล แต่พวกมันต่างมีระบบที่เป็นเอกเทศของตนและดูแลโดยราชาของตน ฉะนั้นผลแอปเปิลมีราชา กล้วยก็มีราชา ต้นไม้ก็มีราชา ต้นพืช หญ้า ดอกไม้ อะไรก็มีราชา ชีวิตทั้งมวล ณ มิติในระดับเดียวกันต่างก็ดำรงอยู่และสลับโยงใยกันเช่นนี้ มนุษย์จะผ่าทะลวงจากชีวิตที่ใหญ่มหึมา ทุกเวลานาทีก็มีองค์ประกอบชีวิตระดับจุลภาคมากๆ ไหลอยู่ในร่างกายของคนธรรมดาสามัญ ชั้นพื้นผิวของพวกท่านมีฝ่าเซินของข้าพเจ้าและเทพพิทักษ์ฝ่าคอยปกป้อง ด้านที่บำเพ็ญเสร็จแล้วของพวกท่านนั้นถูกปิดเอาไว้ บำเพ็ญเสร็จแล้วหนึ่งชั้นก็ปิดไว้หนึ่งชั้น บำเพ็ญเสร็จแล้วหนึ่งชั้นก็ปิดไว้หนึ่งชั้น ใครก็ไม่อาจจะฝ่าทะลวง ฉะนั้นจักรวาลนี้สลับซับซ้อนอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าก็ได้อธิบายรูปลักษณ์ของโครงสร้างของจักรวาลแบบหนึ่ง

ศิษย์:                ดิฉันเห็นว่าท่านอาจารย์สูงกว่าอะไรทั้งหมดและได้จัดวางหนทางของพวกเรา ดังนั้นมองดูแล้วการจัดวางของอิทธิพลเก่าถูกท่านอาจารย์นำมาใช้เพื่อการยกระดับของพวกเรา เช่นนั้นดูเหมือนว่าการจัดวางของอิทธิพลเก่านั้นไม่ค่อยจะเป็นจริงนัก เข้าใจเช่นนี้ถูกต้องไหม

อาจารย์:           ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะข้าพเจ้าไม่ยอมรับพวกมัน แต่ข้าพเจ้าก็รู้ว่าพวกมันจะต้องทำ ดังนั้นจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยแล้วใช้สิ่งที่พวกมันทำให้เป็นประโยชน์ เป็นเช่นนี้

ศิษย์:                ศิษย์ต้าฝ่าจากเหลียวหนิง โรงเรียนหมิงฮุ่ยไต้หวัน สวนเซ็นทรัลพาร์ค ประเทศสวีเดน เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ขอกล่าวคำสวัสดีกับท่านอาจารย์

อาจารย์:           ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)            

ศิษย์:                เวลาฟาเจิ้งเนี่ยนกำจัดปัญหาในร่างกายเรา เป็นการกำจัดอิทธิพลเก่าซึ่งทะลวงผ่านกายเนื้อของศิษย์หรือไม่ สามารถจะเลียนแบบความเมตตาของท่านอาจารย์ อธิบายความจริงกับพวกมันด้วยอี้เนี่ยน(ความนึกคิด)ไหม

อาจารย์:           พวกท่านมีความฝังใจมากเกินไปแล้ว ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เป็นโครงสร้างมิติไม่ต้องไปสนใจมัน ท่านไม่อยากให้มันทะลวงผ่าน วันนี้ท่านก็ปิดปาก อย่าหายใจ (ที่ประชุมหัวเราะ) เพราะอากาศก็มีชีวิต พวกมันก็เป็นชีวิตที่ยังไม่ได้รับการปรับโดยฝ่า ฉะนั้นไม่ต้องไปสนใจสิ่งเหล่านี้ มนุษย์ก็มีชีวิตอยู่กันอย่างนี้มาเป็นเวลานับสิบล้านปี ทำไมมนุษย์จึงบำเพ็ญ ทำไมมนุษย์จึงสำเร็จเป็นเทพยากนักหนา เป็นเพราะจักรวาลเก่าไม่มีสติปัญญานี้ ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ถ้าคิดจะแก้ไขจะต้องสร้างจักรวาลให้สมบูรณ์แบบจากมูลฐาน ตั้งแต่ข้างบนถึงข้างล่าง ฉะนั้นหนทางการสำเร็จเป็นเทพของคนในอนาคตได้เปิดออกแล้ว เป็นเพราะเรื่องนี้ได้ดำเนินการจากที่นี่ขึ้นไปจนถึงข้างบนสุด (เสียงปรบมือกึกก้อง) ฉะนั้นมนุษย์เอย ทัศนคติซึ่งก่อเกิดหลังกำเนิด บวกกับการรบกวนขององค์ประกอบประเภทนี้ มันจึงสลับซับซ้อนมาก การช่วยเหลือคนเป็นเรื่องที่ยากมาก! ในสายตาของเทพเซียนในอดีต การช่วยเหลือมนุษย์เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน เพราะพวกเขามองเห็นปรากฏการณ์นี้ ศิษย์ต้าฝ่ายังจะกลัวสิ่งนี้หรือ ให้เผชิญกับทุกสิ่งด้วยเจิ้งเนี่ยน(ความคิดที่ถูกต้อง)! ข้าพเจ้าเพียงแต่บอกทุกท่านว่ามีปรากฏการณ์เช่นนี้ มีเรื่องเช่นนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างจักรวาล เป็นสภาพการณ์อย่างนี้

ศิษย์:                ในระยะหลังนี้เวลาที่ดิฉันฟาเจิ้งเนี่ยน มีความรู้สึกว่าร่างกายร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว

อาจารย์:           เป็นเรื่องดี ความรู้สึกร้อนเกิดจากมีพลังงานปริมาณมาก บางคนรู้สึกรับรู้ได้ บางคนรู้สึกรับรู้ไม่ได้

ศิษย์:                รู้สึกถึงแรงดันเป็นระลอกๆ ในศีรษะ เป็นเรื่องปกติหรือเป็นการรบกวนของมาร

อาจารย์:           โดยทั่วไปเป็นเรื่องปกติ การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การสะท้อนของพลังกง การยกระดับชั้นล้วนจะสะท้อนออกมาในลักษณะนี้   

ศิษย์:                ที่นิวเจอร์ซี มีสตรีคนหนึ่งมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ มือเท้าทั้งสี่ต้องถูกตัดทิ้งเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ยังมีสภาพจิตใจแจ่มชัดอย่างยิ่ง     บริเวณที่เธออยู่มีศิษย์ต้าฝ่าอาศัยอยู่ที่เชิงเขา ศิษย์ต้าฝ่าควรจะช่วยเหลือเธออย่างไร

อาจารย์:           ศิษย์ต้าฝ่านะ เรื่องสำคัญที่สุดที่พวกท่านต้องทำให้วันนี้ คือเรื่องการอธิบายความจริง ช่วยเหลือชาวโลก ดูว่าเธอต้องพิษร้าย(ทางความคิด)หรือไม่ ถ้าต้องพิษท่านก็ไปอธิบายกับเธอ ไม่ต้องพิษท่านสมควรทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น สำหรับคนพิการทุพลภาพ รัฐบาลให้การดูแล ท่านก็อย่าคิดมากจนเกินไป เมื่อท่านยึดติดในสิ่งเหล่านี้มากเกินไป ข้าพเจ้าขอบอกท่าน ท่านก็ไม่ต้องคิดบำเพ็ญแล้ว ความไม่เป็นธรรมในโชคชะตาในโลกมนุษย์นั้นโหดร้ายนัก ความไม่ยุติธรรมในหมู่มนุษย์มีมากมายเหลือคณา ท่านจะยึดติดกับมันทั้งหมดไหวหรือ จะช่วยเหลือคนต้องช่วยเหลือจากมูลฐาน จึงจะสามารถช่วยเขาได้ (เสียงปรบมือ)  

 

ศิษย์:                มีคนบอกว่า ศิษย์ต้าฝ่าไม่จำเป็นต้องเก็บเงิน

อาจารย์:           เดินไปทางสุดขั้วอีกแล้ว (ที่ประชุมหัวเราะ) ท่านคิดว่าสมควรทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ท่านบอกว่าฉันอยากเก็บเงินก่อตั้งธุรกิจ ท่านก็ทำไป เพราะการบำเพ็ญในอนาคตจะเป็นเช่นนี้ ท่านบอกว่า อะไรฉันก็ไม่ทำทั้งนั้น จะรอ (ที่ประชุมหัวเราะ) เช่นนั้นก็ไม่สามารถจะหยวนหมั่น จิตยึดติดรุนแรงอะไรเช่นนั้น แต่ถึงเวลาที่หยวนหมั่นจริงๆ ท่านจะสามารถสละสิ่งเหล่านี้ทิ้งไหม สามารถสละทิ้งจริงๆ มันไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น ความคิดในเวลานั้นเป็นความคิดของเทพ เช่นนั้นท่านคิดมันเพื่ออะไรล่ะ ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น อันที่จริงข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ณ นาทีสุดท้ายเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ ในชั่วพริบตา ทุกสิ่งก็แยกสลาย เงินทองเอย แม้แต่กระดาษก็ไม่เหลือ (เสียงปรบมือกึกก้อง) แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกท่าน

ศิษย์:                เก็บเงินทอง วางแผนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในอนาคตไว้ให้บุตรธิดา ในอนาคตเมื่อหยวนหมั่นก็ไม่ต้องดูแล (ที่ประชุมหัวเราะ) ก็มีศิษย์ต้าฝ่าบางคนบอกว่า ไม่ต้องดูแลพ่อแม่ตัวเองแล้ว บางทีพวกเขาอาจจะเป็นศัตรูในอดีต (ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์:           นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่คำพูดของศิษย์ต้าฝ่ากระมัง ! ยึดติดถึงขนาดนั้นแล้ว ?! ท่านทราบไหม การหยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สง่างามเช่นไร ทุกสิ่งรอบตัวท่าน อาจารย์ล้วนต้องดูแลให้ท่านทั้งหมด มีเรื่องอะไรที่ท่านจะต้องกังวลอีกล่ะ เป็นห่วงแล้ว ท่านจะทำอะไรได้หรือ ท่านจะดำเนินการได้หรือ จะเป็นไปตามที่ท่านต้องการหรือ หลักการนี้ข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านแล้วมิใช่หรือ เขาไม่มีบุญวาสนา ท่านจัดการอะไรก็ไร้ประโยชน์ แต่อาจารย์สามารถจัดการให้ท่านได้ จะมี(บุญวาสนา)หรือไม่มี ข้าพเจ้าก็จัดการให้ได้ แล้วท่านยังจะกังวลอะไรอีกละ เพียงแต่ท่านบำเพ็ญ อะไรข้าพเจ้าก็จัดการให้ท่าน ข้าพเจ้าเคยพูดไปแล้วมิใช่หรือ แต่ถ้าพวกท่านบำเพ็ญได้ไม่ดี อะไรข้าพเจ้าก็จัดการให้ไม่ได้ ดูเหมือนจะไม่ใช่คำพูดของศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าคิดว่าเช่นนั้น

ศิษย์:                ท่านอาจารย์กล่าวเมื่อเช้านี้ว่า ท่านเริ่มจากความไม่มีเป็นมี ในอนาคตจะไม่มีใครรู้จักท่าน ดิฉันอยากทราบว่าในอนาคตหลังจากหยวนหมั่นแล้ว พวกเรายังจะมีโอกาสได้ฟังท่านบรรยายฝ่าไหม หากดิฉันยังมีปัญหาจะถาม ยังจะมีโอกาสที่ท่านอาจารย์จะตอบปัญหาให้แก่พวกเราไหม (ที่ประชุมหัวเราะ)

อาจารย์:           ท่านไม่อาจจะบำเพ็ญตลอดไปหรอกนะ (ที่ประชุมหัวเราะ) เวลานี้ท่านกำลังคิดโดยใช้ความคิดของมนุษย์ เทพจะไม่คิดในเรื่องอย่างนี้ เมื่อท่านต้องดูแลสรรพชีวิตมากมาย(ท่าน)คงจะยุ่งวุ่นวายไม่น้อย ถึงเวลานั้นท่านคงไม่คิดถึงอาจารย์มากมายอะไรนักกระมัง (อาจารย์หัวเราะ) พูดเล่นหรอกนะ แน่นอนบางทีข้าพเจ้าอาจจะบรรยายฝ่าในระดับที่กว้างใหญ่ยิ่งขึ้นในอนาคต หรืออาจจะไม่เลย นั่นล้วนเป็นเรื่องในอนาคต อันที่จริงการที่พวกท่านคิดในเวลานี้ว่า ในอนาคตจะสามารถได้พบอาจารย์ไหมนะ นี่ยังคงกำลังคิดโดยใช้ความคิดของมนุษย์ในเวลานี้ รอให้พวกท่านถึงเวลานั้น ก็จะเป็นสภาวะอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อพวกท่านต้องการจะพบข้าพเจ้าจริงๆ พวกท่านจะเห็นด้านที่เป็นพุทธะโอฬารพันลึก (เสียงปรบมือกึกก้อง) เพราะพวกท่านมีความพิเศษ พวกท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่า! (เสียงปรบมือกึกก้อง) พวกท่านเคยอยู่คู่กับการเจิ้งฝ่า (เสียงปรบมือกึกก้อง)

            ต้องทะนุถนอมโอกาสแห่งวาสนาครั้งนี้ จะไม่มีครั้งที่สองอีกจริงๆ ทัศนียภาพอันน่ากลัวของการเจิ้งฝ่า ในอนาคตพวกท่านจะได้เห็นท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ผ่านไป แต่ทว่าศิษย์ต้าฝ่าบางคนปฏิบัติได้แย่มาก ประเดี๋ยวทำได้ดี ประเดี๋ยวทำได้ไม่ดี แท้ที่จริง เมื่อชีวิตอันใหญ่โตมโหฬารของจักรวาลมองเห็นพลังแห่งการเจิ้งฝ่าต่างก็อกสั่นขวัญผวา

นับตั้งแต่ 20 กรกฎาคม ปี 1999 จนถึงวันนี้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ตอบคำถามศิษย์ต้าฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยในระดับใหญ่อย่างนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมงขนาดนี้ (เสียงปรบมือยาวนาน)

ดูจากคำถามที่ทุกท่านหยิบยกขึ้นมาถามในวันนี้ แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างมาก ตัวอักษรดูเหมือนจะมีจำนวนใกล้เคียงกัน แต่ข้าพเจ้ามองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นแตกต่างกันแล้ว ในเวลาเดียวกัน ข้อที่แตกต่างกันมากที่สุดคือจิตใจที่อยากรู้อย่างเห็น และจิตใจที่ตื่นเต้นดีใจถูกทดแทนด้วยเจิ้งเนี่ยนแล้ว มีสติสัมปชัญญะ ไม่หลงติดอยู่กับการค้นหาความรู้อย่างผิวเผินแล้ว แน่นอนเวลาข้าพเจ้าบรรยายถึงโครงสร้างของจักรวาล ทุกท่านต่างก็สนใจ อย่าว่าแต่พวกท่าน แม้แต่เทพก็ฟังอย่างใจจดใจจ่อ พวกเขาต่างก็ไม่รู้ (เสียงปรบมือ) ฉะนั้นในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ แม้ว่าพวกเราต้องประสบกับความสูญเสียอย่างมาก ศิษย์ต้าฝ่าต้องถูกประทุษร้ายโดยปราศจากความผิด แต่ว่านะ ข้าพเจ้ามองเห็นจริงๆ แล้วว่า พวกท่านมีความสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ มีความสุขุม มีสติสัมปชัญญะ ท่ามกลางการประทุษร้าย คำพูดไม่ตรงกับใจและความไม่ใส่ใจต่อฝ่าเหมือนเมื่อก่อนนี้ไม่มีแล้ว ในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ทุกๆ คนต่างเคยไตร่ตรองอย่างจริงจัง หนทางใดที่ตัวเองควรเดิน และควรทำอย่างไร อันที่จริงหลายๆ คนที่อิทธิพลเก่าจัดให้มาก่อบทบาทในด้านลบนั้น พวกเขาบางคนต่างก็เลิกราไปแล้ว ก่อนเกิดการประทุษร้ายบ้าง ระหว่างการประทุษร้ายบ้าง เพราะชีวิตของพวกเขา ด้านที่เข้าใจนั้นรู้ ฉะนั้นหลายๆ คนที่รับบทบาทมาก่อผลลบต่างก็ไม่ทำแล้ว ต่างกำลังบำเพ็ญอย่างสง่าผ่าเผย เพราะข้าพเจ้าไม่ยอมรับคนพวกนั้นที่มาก่อบทบาทในด้านลบอย่างเด็ดขาด อิทธิพลเก่าก็คิดไม่ถึงว่าการจัดวางของมัน การจัดวางที่แยบยลอย่างนี้ดูเหมือนทั้งหมดเป็นการทำเพื่อข้าพเจ้า แท้ที่จริงเป็นการทำเพื่อพวกมัน ทุกสิ่งที่พวกมันทำทั้งหมดกลับกลายเป็นอุปสรรคต่อการเจิ้งฝ่าอย่างแท้จริง ตัวพวกเขาเองก็กลายเป็นอุปสรรคให้กับการเจิ้งฝ่าอย่างแท้จริง

            พูดถึงมาร ไม่ใช่หมายถึงมารปกติทั่วไปในจักรวาล อันที่จริงราชาแห่งมาร มันเป็นปรากฏการณ์อีกด้านหนึ่งของชีวิต มันก็เป็นผู้พิทักษ์จักรวาล เพียงแต่ว่ามันใช้วิธีที่ชั่วร้าย ข้าพเจ้าไม่ใช่กำลังพูดถึงพวกมัน ข้าพเจ้าพูดถึงชีวิตที่บ่อนทำลายการเจิ้งฝ่า พวกมันจึงเป็นมารที่บ่อนทำลายต้าฝ่าอย่างแท้จริง พวกเราผ่านประสบการณ์มามากมาย บ่อยครั้งที่กำลังจะเอ่ยปากพูดก็ต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไป เพราะถ้าแม้นเปิดเผยออกมาแล้ว สิ่งที่จะต้องพูดนั้นมีมากมายจริงๆ พวกเราผ่านประสบการณ์มาโชกโชนเช่นนี้ ทุกคนต่างก็สุกงอมเป็นผู้ใหญ่แล้ว สมควรต้องเผชิญกับหนทางข้างหน้าที่ตัวเองต้องเดินอย่างมีสติสัมปชัญญะยิ่งขึ้น จัดการกับสิ่งที่พวกท่านทำในวันนี้อย่างมีสติสัมปชัญญะมากยิ่งขึ้น อย่า(ปล่อยตัวเอง)ให้ตกอยู่ในฉิง(อารมณ์ความผูกพัน)อีก อย่า(ปล่อยตัวเอง)ให้ตกในความเป็นตัวฉันอันรุนแรงของพวกท่าน พวกท่านต่างมีความสามารถ อาจารย์ยืนยันแก่พวกท่านแล้ว พวกท่านก็อย่าได้แสดงสิ่งเหล่านี้ของพวกท่านให้แก่อาจารย์อีกเลย (เสียงปรบมือ)

            จะสามารถเหมือนอย่างที่ผู้ฝึกที่เขียนคำถามเมื่อครู่ได้อย่างไร ระหว่างพวกเราจะสามารถร่วมมือให้ดี ประสานงานให้ดีได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ต้าฝ่าต้องการจากศิษย์ต้าฝ่ามากที่สุด พวกเราไม่ให้ความสำคัญกับรูปแบบภายนอกเหล่านี้ เพียงแต่ท่านศึกษาฝ่าให้ดีท่านก็สามารถทำได้ ทุกท่านทราบ ในครั้งนั้นก่อนที่ศิษย์ต้าฝ่าจะฝึกพลังกงเป็นกลุ่มพร้อมกัน ทุกคนต่างก็พูดคุยกัน ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ดูไม่เป็นระเบียบ ทันทีที่เสียงดนตรีดังขึ้นมา “ซวบ” ยืนเรียงเป็นแถวเป็นระเบียบยิ่งกว่ากองทหาร ไม่มีใครให้การฝึกอบรม และไม่มีใครบอกกล่าวพวกท่าน แต่มันออกมาจากใจของตัวเอง นี่เรียกว่าความร่วมมือกัน นี่เรียกว่าความประสานกลมกลืนของศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านไม่ควรเพียงแต่แสดงออกมาทางด้านนี้เท่านั้น พวกท่านแสดงความประสานกลมเกลียวอย่างนี้ในทุกๆ ด้านของการเจิ้งฝ่า

            แน่นอนละ ยังมีปัญหาบางประการซึ่งข้าพเจ้าจะไม่พูด ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจะเน้นย้ำ คำพูดที่ออกจากปากข้าพเจ้านั้นมีน้ำหนักมาก เพราะหลายๆ ปัญหาเป็นสิ่งที่พวกท่านต้องเผชิญ ต้องไปล้มลุกคลุกคลานและฟันฝ่าเพื่อให้พวกท่านสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ ให้พวกท่านตระหนักในความสำคัญ รับรู้และเข้าใจ เพื่อให้พวกท่านสามารถเดินหนทางข้างหน้าได้ดี

            และอย่าคิดว่า การเจิ้งฝ่าดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ดูเหมือนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เห็นทีพวกเราต้องจัดการ วางแผนสำหรับอนาคตแล้วละ ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน จิตยึดติดใดๆ ล้วนนำไปสู่การผจญทุกข์ภัย อย่าได้มีจิตยึดติดใดๆ เป็นอันขาด! ให้ท่านบำเพ็ญอย่างสง่าผ่าเผย ทำทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่ท่านสมควรทำให้ดี หากพรุ่งนี้ท่านหยวนหมั่น วันนี้ท่านยังคงต้องทำในสิ่งที่ท่านสมควรทำให้ดีและอย่างเป็นระเบียบ เพราะทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำในวันนี้ล้วนแต่เหลือทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง นั่นคือหนทางการบำเพ็ญของคนรุ่นหลัง นี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง พวกท่านไม่อาจจะเดินจนทางบิดเบี้ยวไป ต้าฝ่าดีที่สุดไม่ว่าอยู่ ณ ระดับชั้นใด ณ ระดับชั้นนี้ของมนุษย์ ศิษย์ต้าฝ่าสามารถทำให้มันประสานกลมกลืนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่อาจนำความสูญเสียมาสู่มันได้

            ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้แล้ว หวังว่าทุกท่านจะทำในสิ่งที่พวกท่านสมควรทำให้ดี สามสิ่งนี้ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า หนึ่งคือเรื่องศึกษาฝ่า หนึ่งคือเรื่องอธิบายความจริง อีกหนึ่งคือให้ความสำคัญกับการฟาเจิ้งเนี่ยน ร้อยเรียงขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ล้วนแต่เป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิต ล้วนแต่เป็นการทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ หมายความว่า การหยวนหมั่นของพวกท่าน อนาคตของพวกท่าน เวยเต๋อ(อานุภาพแห่งคุณธรรม)ทั้งหมดของพวกท่านล้วนสถาปนาอยู่ข้างในนั้น แสดงบทบาทของตัวพวกท่านเองตามกำลังความสามารถของแต่ละคน ตามความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ ของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น ในการอธิบายความจริง บ้างผลิตรายการทางโทรทัศน์ บ้างทำข่าวหนังสือพิมพ์ บ้างก็ใช้วิธีการต่างๆ และบ้างก็แจกเอกสารอธิบายความจริงอยู่บนถนนโดยตรง และบ้างก็ไปสถานกงสุล บ้างก็ทำงานทางด้านหน่วยงานรัฐบาล ทุกๆ ด้านล้วนไม่อาจจะขาดไม่ว่าจะด้านใด ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน การที่วันนี้ต้าฝ่าสามารถฟันฝ่าและทลายการประทุษร้ายอันชั่วร้ายอยู่ในโลก สามารถบอกให้ชาวโลกรับรู้และเข้าใจต้าฝ่านั้น ไม่อาจจะแยกจากสิ่งเหล่านี้ที่พวกท่านทำในวันนี้ได้ สถานการณ์โดยรวมในวันนี้เป็นสิ่งที่พวกท่านแผ้วถางออกมา (เสียงปรบมือกึกก้อง) คนที่ยังทำได้ไม่ดี ท่านต้องเร่งมือทำ ไม่ต้องให้ใครมายืนยันให้ท่าน และไม่ต้องแสดงให้ใครดู วันใดท่านไม่รู้สึกผิดต่อจิตสำนึกของท่าน เมื่อนั้นอาจารย์ก็จะมองเห็น

            ข้าพเจ้าว่า วันนี้ข้าพเจ้าได้พูดมามากมายทีเดียว ก็จะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว รู้สึกไม่อยากไปจากที่นี่ ข้าพเจ้าชอบที่จะอยู่กับพวกท่าน (เสียงปรบมือยาวนาน)