บรรยายฝ่าสัญจร ณ อเมริกาเหนือ

 

หลี่ หงจื้อ

มีนาคม ค.ศ. 2002

 

สวัสดีทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

ไม่ได้พบกับทุกท่านเป็นเวลานาน มีสอง-สามเรื่องจะพูดกับทุกท่าน หลังจากข้าพเจ้าพูดจบแล้วหากพวกท่านมีปัญหาอะไร สามารถยกขึ้นมาถามได้ ข้าพเจ้าจะถือโอกาสตอบพวกท่าน

โดยหลักมีเรื่องที่จะพูดสามเรื่อง เรื่องที่หนึ่งคือทุกท่านต้องให้ความสำคัญของการศึกษาฝ่า ปัญหานี้ข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านเสมอ แต่สิ่งที่จะพูดในวันนี้ไม่เหมือนกัน ข้าพเจ้าจะบอกมูลเหตุที่ใหญ่ยิ่งขึ้นให้กับทุกท่าน การศึกษาฝ่าให้ดีเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับศิษย์ต้าฝ่า เพราะพวกท่านแตกต่างอย่างมากกับรูปแบบการบำเพ็ญใดๆ ในอดีต กับผู้บำเพ็ญในอดีต เพราะพวกท่านมีภารกิจที่ใหญ่มาก ฝ่าของจักรวาลถ่ายทอดอยู่ที่นี่ ใครมาฟังฝ่า ชีวิตที่ฟังฝ่าจะทำในสิ่งใดบ้าง ทั้งหมดนี้ล้วนมีความหมายที่สำคัญกว่ามาก ที่ผ่านมาข้าพเจ้าบอกว่าศิษย์ต้าฝ่ายิ่งใหญ่สง่างาม แท้จริงแล้วภาระหน้าที่ที่พวกท่านแบกรับไว้นั้นใหญ่มาก พวกท่านรู้แต่ว่าผู้ฝึกบางคนมีสัญญาไว้กับข้าพเจ้า แท้ที่จริงยังมีผู้ฝึกจำนวนมากมาจากร่างนภาจักรวาลใหญ่(เทียนถี่ต้าโฉวง)อื่นๆ อันใหญ่มหึมามากๆ ไกลโพ้นมากๆ จุดประสงค์คือมาผูกวาสนากันที่นี้ ยังมีส่วนหนึ่งเข้ามาในยามที่ต้าฝ่าถ่ายทอดครั้งนี้ เพราะประตูเปิดไว้กว้าง คนที่เกินจีดี(ไม่เลว)ก็พากันเข้ามาเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นศิษย์ต้าฝ่าโดยหลักประกอบด้วยคนสามส่วนเช่นนี้

ทุกท่านลองคิดดู ชีวิตที่มาจากร่างนภา(เทียนถี่)อันไกลโพ้น มาทำอะไรกันที่นี่ คือจักรวาลจะทำการเจิ้งฝ่า พวกเขาคือตัวแทนกลุ่มชีวิตที่ใหญ่โตมากๆ ในร่างนภาจักรวาล(เทียนถี่ต้าโฉวง)อันไกลโพ้น มาที่นี่เพื่อผูกวาสนากับอาจารย์ จะได้ไม่ตกหล่นท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ในระหว่างที่ทั้งจักรวาลดำเนินการประกอบขึ้นใหม่ จุดประสงค์คือเพื่อให้สรรพชีวิตที่นั่นสามารถได้รับการช่วยเหลือ ที่นั่นมีกลุ่มชีวิตใหญ่โตนับจำนวนไม่ถ้วน ฉะนั้นคนเหล่านั้นซึ่งสามารถมาเพื่อเซ็นสัญญากับข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ธรรมดา ก็มาจากร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่มาก ถ้ามีระดับชั้นสูงมาก ทุกท่านลองคิดดู เช่นนั้นไม่ใช่เป็นตัวแทนของร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตมากๆหรอกหรือ ยังมีบางคนเป็นผู้ฝึกซึ่งเข้ามาในการถ่ายทอดฝ่าครั้งนี้ ส่วนมากก็มีระดับชั้นสูงมากด้วยเช่นกัน

ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ว่าใครที่มาฟังฝ่า ถ้าหากคนที่มาฟังฝ่าเป็นคนเช่นนี้ ทุกท่านลองคิดดู ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนเป็นตัวแทนซึ่งมาจากร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตต่างๆ ใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ฉะนั้นใช่หรือไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าซึ่งตัวเองบำเพ็ญได้ดีหรือไม่ดี นั่นจะเป็นตัวตัดสินปัญหาว่า ชีวิตร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตเหล่านั้นจะสามารถได้รับการช่วยเหลือได้หรือไม่ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน นั่นเป็นสิ่งที่แน่นอน

เพราะร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตนั้นอยู่ข้างล่างของท่าน แทบจะเหมือนร่างกายของท่าน เพราะท่านก็คือใหญ่โตเช่นนั้น ในนั้นมีสรรพชีวิตจำนวนมากมาย ร่างนภาจักรวาลนับไม่ถ้วน การบำเพ็ญของพวกท่าน จะเป็นการกำหนดกลุ่มชีวิตอันใหญ่โตเหล่านั้นว่าดีหรือเลว จะคงเหลือไว้หรือไม่คงเหลือไว้ ร่างมนุษย์ซึ่งปรากฏอยู่บนโลกมนุษย์ของตัวพวกท่านเอง อันที่จริงดูจากระดับจุลทรรศน์ก็เป็นระบบที่ใหญ่มหึมา พร้อมกับการบำเพ็ญของพวกท่าน ร่างกายส่วนนี้จะเริ่มขจัดโรคภัยเสริมสร้างสุขภาพ อย่างช้าๆ ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงสู่สสารพลังงานสูง การเปลี่ยนแปลงชั้นผิว(ภายนอก)ไม่แน่ว่าจะต้องมากเสมอไป ท่ามกลางการเจิ้งฝ่า จักรวาลจะทะลวงจากระดับจุลทรรศน์ขึ้นสู่ชั้นผิว ศิษย์ต้าฝ่าในระหว่างการบำเพ็ญ พวกท่านก็เปลี่ยนแปลงจากระดับจุลทรรศน์ขึ้นสู่ชั้นผิวเช่นกัน ร่างกาย ณ ระดับจุลทรรศน์ พร้อมกับการบำเพ็ญของพวกท่าน ระดับชั้นจะทะลวงอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่านั้นผู้ฝึกส่วนใหญ่ในระหว่างบำเพ็ญ ร่างกายชั้นผิวก็เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ระดับชั้นยิ่งสูงภาระหน้าที่ของท่านจะยิ่งใหญ่ ยิ่งสูงก็เป็นตัวแทนร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่โตมากยิ่งขึ้น ชีวิตที่มากมายยิ่งขึ้น ท่านจะรับผิดชอบต่อที่นั่น จึงพูดว่าร่างกายมนุษย์ของพวกท่าน พร้อมกับที่พวกท่านบำเพ็ญต่อไป (พวกท่าน)ก็จะเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เปลี่ยนแปลงดีขึ้นดีขึ้น พร้อมกับเปลี่ยนแปลงสู่ร่างกายของเทพ ถ้าหากพวกท่านบำเพ็ญได้ไม่ดี ทุกท่านก็เห็นแล้ว การเปลี่ยนแปลงของร่างกายชั้นผิวเปรียบเทียบกันแล้วพูดได้ว่าน้อย จึงพูดว่าร่างนภา(เทียนถี่)ใหญ่โตซึ่งพวกท่านเป็นตัวแทนนั้นจะเหมือนกับร่างกายของท่าน คือสอดประสานกัน ฉะนั้นเป็นไปได้ว่าจะมีชีวิตมากมาย เพราะท่านบำเพ็ญได้ไม่ดี พวกเขาจึงไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือ เพราะท่านบำเพ็ญได้ไม่ดี พวกเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้ดี ท่านมีจิตยึดติดมากมายที่ยังไม่ได้ขจัดทิ้ง รบกวนพวกเขา หันกลับมาพวกเขาก็รบกวนท่าน

            ข้าพเจ้าพูดเสมอว่าให้ศึกษาฝ่าให้ดี ข้าพเจ้าพูดทุกครั้งในฝ่าฮุ่ย หรือเวลาที่พบกับผู้ฝึกในสภาพแวดล้อมอื่นๆ ข้าพเจ้าบอกว่า ทุกท่านจะต้องเห็นการศึกษาฝ่าเป็นเรื่องสำคัญ ต่อให้งานยุ่งอย่างไรก็ต้องศึกษาฝ่า ในเวลานั้นข้าพเจ้าไม่สามารถพูดให้สูงและลึกขนาดนี้กับพวกท่าน และไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ ผ่านมารผจญในครั้งนี้ พวกท่านสามารถเข้าใจฝ่าได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น สุกงอมมากขึ้นแล้ว ท่ามกลางการบำเพ็ญและยืนยันความถูกต้องของฝ่า วันนี้สามารถบอกพวกท่านได้แล้ว การบำเพ็ญของพวกท่าน ไม่ใช่หยวนหมั่นของคนเท่านั้น การบำเพ็ญของพวกท่านกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิตในร่างนภา(เทียนถี่)นับจำนวนไม่ถ้วน ซึ่งสอดประสานกับพวกท่าน และฝากความหวังอันไร้ขีดจำกัดไว้กับพวกท่าน การบำเพ็ญของพวกท่านเป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิตใน ทุกๆร่างนภาจักรวาล(เทียนถี่ต้าโฉวง)

            ทำไมข้าพเจ้าจึงพูดว่า ศิษย์ต้าฝ่ากับการบำเพ็ญในอดีตนั้นไม่เหมือนกัน ข้าพเจ้าบอกว่าศิษย์ต้าฝ่ายิ่งใหญ่สง่างาม ถ้าหากพวกท่านบำเพ็ญได้ดีมากๆ นั่นจึงเป็นการหยวนหมั่นที่ยิ่งใหญ่สง่างามอย่างแท้จริง การหยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่า ไม่ใช่ชีวิตธรรมดาทั่วไปชีวิตหนึ่ง กระโดดออกสามภพก็จบเรื่อง ทุกท่านคิดดู ถ้าท่านบำเพ็ญได้ดีแล้ว ชีวิตของจักรวาลอันใหญ่โตนั้น ที่เปลี่ยนไม่ดีก็จะน้อย ที่ถูกกำจัดไปก็จะน้อย เมื่อท่านกลับไป พวกเขาก็จะเห็นท่านเป็นจ้าวของพวกเขา กษัตริย์ของพวกเขา จะเลื่อมใสศรัทธาอย่างไร้ขีดจำกัด เพราะท่านได้ช่วยเหลือพวกเขา ท่านได้ทุ่มเทเพื่อพวกเขา ท่านได้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่พวกเขา ถ้าหากพวกท่านบำเพ็ญได้ไม่ดี เช่นนั้นก็จะมีชีวิตมากมาย จะถูกกำจัดทิ้งไป เพราะชีวิตที่ไม่อาจเยียวยาได้ ไม่กำจัดทิ้งก็ไม่ได้ เพราะอะไรหรือ ท่ามกลางการประทุษร้ายในครั้งนี้ ชีวิตของมิติต่างๆ ดีหรือเลวต่างก็มีบทบาท ชีวิตที่ไม่ดีก็กำลังรบกวนเรื่องของการเจิ้งฝ่า กำลังประทุษร้ายผู้ฝึก ในเวลาเดียวกันก็รบกวนท่านอยู่ ฉะนั้นจะต้องกำจัดทิ้งอย่างเข้มงวดจริงจัง บำเพ็ญได้ไม่ดีก็จะกำจัดชีวิตออกไปมากมาย เช่นนั้นรอจนถึงเวลาท่านหยวนหมั่น รอเวลาที่ท่านกลับถึงตำแหน่ง ท่านจะพบว่า ชีวิตเหล่านั้นซึ่งฝากความหวังมากมายไว้กับท่าน ถูกกำจัดไปอย่างมากมาย เช่นนั้นในจักรวาลท้องนภาใหญ่นี้ ร่างนภา(เทียนถี่)ที่ท่านเป็นตัวแทน เป็นไปได้ว่าก็จะไม่สมประกอบ สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนถูกกำจัดทิ้งไปแล้ว

            ทุกท่านทราบ ท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ มีผู้ฝึกจำนวนมากเข้าใจไม่แจ่มแจ้ง ปฏิบัติต่อมัน เหมือนเป็นการประทุษร้ายของคนธรรมดาสามัญต่อคนแบบหนึ่ง แท้จริงแล้วการประทุษร้ายครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ล้วนแต่เป็นการทดสอบอันชั่วร้ายแบบไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอิทธิพลเก่าจัดเตรียมไว้ให้กับศิษย์ต้าฝ่า และชีวิตชั่วร้ายที่ถูกมันใช้ ก็ไม่ให้มันรู้ความเป็นจริง พวกมันกำลังบ่อนทำลายจริงๆ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ยอมรับการจัดเตรียมทั้งหมดนี้ อย่างไรเสียพวกมันก็ทำแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันจัดเตรียมไว้ในประวัติศาสตร์ ข้าพเจ้าไม่ยอมรับทั้งหมด ก็ปฏิเสธพวกมันอย่างถึงที่สุดท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ฉะนั้นในการประทุษร้ายต่อสรรพชีวิตในครั้งนี้ พวกเราก็ต้องอธิบายความเป็นจริงให้กับผู้คน พร้อมกับบำเพ็ญตัวเองให้ดี ชำระสิ่งชั่วร้ายด้วยเจิ้งเนี่ยน แม้ว่าพวกเราไม่ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างนี้ของพวกมัน แต่พวกมันได้ทำร้ายสรรพชีวิตจำนวนไม่ถ้วน แต่พิษร้ายของการประทุษร้ายของพวกมันในครั้งนี้ ได้ทำร้ายสรรพชีวิตนับไม่ถ้วน

            ถ้าคนในโลกทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ล้วนมาจากระดับชั้นสูง ส่วนใหญ่ล้วนมาจากชั้นสูงเพื่อมาได้ฝ่าจริงๆ ทุกท่านลองคิดดู พวกเขาก็คงไม่ใช่ชีวิตธรรมดาๆชีวิตหนึ่ง พระยูไลองค์หนึ่งก็เป็นตัวแทนกลุ่มชีวิตที่ใหญ่มหึมากลุ่มหนึ่ง ไม่เพียงแต่ยูไล ผู้ที่มาถึงโลกมนุษย์ล้วนมีความสามารถมากๆ มีราชา จ้าวของร่างนภา(เทียนถี่)มากมาย ต่างก็มา พวกเขาเป็นตัวแทนร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โต แต่เมื่อเข้าสู่สังคมมนุษย์ พวกเขาก็หลงอยู่ในนี้ แม้กระทั่งร่วมกันประทุษร้ายต่อต้าฝ่า ในการประทุษร้ายครั้งนี้ ฉะนั้น ถ้าหากคนเช่นนี้ถูกทำลายไป ทุกท่านคิดดู นั่นไม่เพียงแต่ตัวเขาที่ถูกทำลาย ที่ถูกทำลายไปจะเป็นร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตอันหนึ่ง

            ข้าพเจ้าบอกว่าศิษย์ต้าฝ่ายอดเยี่ยม ท่ามกลางการประทุษร้ายอันรุนแรงเช่นนี้ในครั้งนี้ พวกท่านยังอธิบายความเป็นจริงให้กับพลโลกกันอยู่ ช่วยเหลือสรรพชีวิตกันอยู่ ชีวิตเหล่านั้นที่พวกท่านช่วยเหลือทุกท่านลองคิดดู นั่นเป็นคนธรรมดาๆ ทั่วๆไปคนหนึ่งหรือ ถ้าหากเขาสอดประสานกับร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตจริงๆ เวลาที่ท่านอธิบายความเป็นจริงให้กับเขา ที่ท่านช่วยก็คือร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โตอันหนึ่ง กลุ่มชีวิตใหญ่โต ที่ช่วยก็คือจ้าวองค์หนึ่ง ราชาองค์หนึ่ง ข้าพเจ้าถามว่า ศิษย์ต้าฝ่าไม่ยิ่งใหญ่สง่างามหรือ สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าพบนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ในอดีตบอกกันว่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต ที่ช่วยเป็นเพียงคนเล็กๆคนหนึ่ง คนธรรมดาสามัญทั่วไป นั่นไม่คู่ควรที่ศิษย์ต้าฝ่าจะไปทำ ไม่ต้องให้ศิษย์ต้าฝ่าของข้าพเจ้ามาทำ สิ่งที่พวกท่านทำล้วนแต่เป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ ท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ในวันนี้ คนธรรมดาสามัญทั่วๆไป ถ้าสามารถบอกกับอีกคนหนึ่งว่า ท่านอย่าประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ฝ่าหลุนกงเป็นสิ่งดี ด้วยเหตุนี้ คนๆนี้ก็ไม่ทำร้ายศิษย์ต้าฝ่า ยิ่งกว่านั้นในอนาคตจะมีโอกาสคงเหลือ(เขา)ไว้เพื่อได้ฝ่า ถ้าหากก่อนหน้านี้ เขามาจากระดับชั้นสูงเพื่อมาได้ฝ่า การบำเพ็ญก็จะเร็ว เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู การหยวนหมั่นของเขา เป็นการหยวนหมั่นของกลุ่มชีวิตที่ใหญ่มหึมาอันหนึ่ง การหยวนหมั่นของราชาองค์หนึ่ง จ้าวองค์หนึ่ง และการหยวนหมั่นของเขา กลับเป็นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง ที่ทำให้เขามีโอกาสหยวนหมั่น คนธรรมดาสามัญคนนี้ คนธรรมดาสามัญทั่วไปคนหนึ่ง ก็จะกลายเป็นเทพที่ใหญ่องค์หนึ่ง แล้วพวกเราศิษย์ต้าฝ่า ได้ทำในเรื่องที่ยิ่งใหญ่สง่างาม ที่ใหญ่เช่นนี้ ที่ช่วยเหลือไม่เพียงเป็นหนึ่งคน หรือไม่กี่คน ยิ่งกว่านั้นยังดำเนินการอธิบายความเป็นจริงให้กับพลโลกอย่างต่อเนื่อง ทำเรื่องเช่นนี้กันอยู่โดยไม่หยุดยั้งที่จะช่วยเหลือชีวิตให้มากขึ้น ไม่ยิ่งใหญ่สง่างามหรือ

            ก่อนนี้ข้าพเจ้าพูดว่า หยวนหมั่นสำหรับการบำเพ็ญส่วนบุคคล สำหรับศิษย์ต้าฝ่านับเป็นอะไรไม่ได้ นั่นเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของการบำเพ็ญ ซึ่งศิษย์ต้าฝ่ากำลังสร้างรากฐานของตัวท่านเองให้มั่นคง เตรียมที่จะทำในเรื่องที่ใหญ่กว่า ถ้าหากนำเอาการหยวนหมั่นของแต่ละบุคคลมาตั้งเป็นสิ่งที่สูงสุด ข้าพเจ้าว่านั่นก็ไม่คู่ควรเป็นศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเวลาเจิ้งฝ่า อะไรเรียกว่าศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเวลาเจิ้งฝ่า ทั่วทั้งโลกข้าพเจ้ารู้ว่า ที่จริงมีอยู่ 7,000 ล้านคน พวกเราผู้ฝึกต้าฝ่ารวมเข้าด้วยกันทั้งหมด ในตอนเริ่มต้นก็มีเพียง 100 ล้านคน นี่นับเป็นอัตราส่วนอะไร คนพวกนั้นก็ไม่สามารถได้ฝ่าหรือ ขั้นต่อไปคนยังต้องบำเพ็ญ ยังจะมีคนหยวนหมั่น แต่นั่นเป็นเพียงการบำเพ็ญส่วนบุคคลเท่านั้น เพราะคนที่ได้ฝ่าในขั้นแรกเรียกว่า “ศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเวลาเจิ้งฝ่า” พวกท่านอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับการเจิ้งฝ่า ต้าฝ่ามอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ และภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับพวกท่าน แต่คนที่จะได้ฝ่าในอนาคต พวกเขาเป็นเพียงการบำเพ็ญส่วนบุคคลเท่านั้น พวกเขาจึงไม่มีเกียรติอันสูงส่งเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถรับภาระที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ พวกท่านช่วยเหลือสรรพชีวิต เรื่องนี้มิใช่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมหรอกหรือ ยิ่งใหญ่มากหรอกหรือ    อันที่จริงก็เป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก

            เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ถ้าพวกเราบำเพ็ญได้ไม่ดี การหยวนหมั่นในอนาคต สำหรับพวกเราศิษย์ต้าฝ่า พูดได้ว่ามันไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องที่เจ็บปวดเท่านั้น คนที่เขาบำเพ็ญได้ดี กลับไปแล้วก็เป็นการหยวนหมั่นที่ใหญ่ครั้งหนึ่ง สรรพชีวิตมากมายที่ฝากความหวังไว้กับเขา ล้วนได้รับการช่วยเหลือจากเขา แต่คนที่บำเพ็ญได้ไม่ดี กลับไปแล้วจักรวาลของเขาจะไม่สมประกอบ ไม่ครบถ้วน คนที่เดินไปด้านตรงข้ามท่ามกลางการประทุษร้ายในครั้งนี้ ถึงกับทำเรื่องที่ไม่ดีต่างๆ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน อาจารย์ก็ไม่คิดที่จะทิ้งพวกเขา (เสียงปรบมือ) ทุกสิ่งทุกอย่าง ชั้นผิวของเขาทั้งหมดนำกลับไปไม่ได้แล้ว เนื่องจากเขาบำเพ็ญได้ไม่ดี ทำได้ไม่ดี ชีวิตที่ทั้งมากมายและใหญ่มหึมาเหล่านั้นไม่ไหวแล้วทั้งหมด เพราะข้าพเจ้าไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ไม่ยอมรับการประทุษร้ายในครั้งนี้ ชั้นผิวและธาตุแท้ของศิษย์ต้าฝ่าถูกอิทธิพลเก่าแยกออกจากกัน ดังนั้นมีเรื่องต่างๆมากมายที่ศิษย์ต้าฝ่าไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ และชั้นผิวถูกชีวิตชั่วร้ายควบคุมกระตุ้นให้ทำสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เพราะมีจิตยึดติด จึงถูกชีวิตชั่วร้ายใช้เป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าก็จะดึงธาตุแท้ของศิษย์ต้าฝ่าออกมา และอิทธิพลเก่าที่จัดเตรียม และควบคุมชั้นผิวของศิษย์ต้าฝ่าให้ทำเรื่องไม่ดี กับชีวิตชั่วร้ายซึ่งถูกอิทธิพลเก่าใช้ประทุษร้ายต้าฝ่าโดยตรง มรรคผลก็จะถูกตัดออก ตัดความสามารถทิ้งทั้งหมด แล้วตีเข้าไปในส่วนของร่างกายนั้นของศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกเขาประทุษร้าย ซึ่งประกอบขึ้นจากกรรมและทัศนะความคิดแบบต่างๆ ที่ก่อเกิดภายหลังกำเนิด ร่างกายคนส่วนนี้ก็จะถูกกำจัดทิ้งไปในระหว่างการขับถ่ายของเก่าออกไปแล้วเสริมสร้างของใหม่ขึ้นมาแทน ก็คือส่วนนั้นที่ถูกพวกมันใช้ หลังจากใส่เข้าไปแล้วก็ลงนรกไปพร้อมกัน เพราะสิ่งที่ไม่ดีจริงๆคือ อิทธิพลเก่าใช้ชีวิตชั่วร้ายควบคุมกรรมและทัศนะความคิดของคนให้ทำ ทำให้ศิษย์ของข้าพเจ้าซึ่งจะมาอย่างไรก็จะกลับไปอย่างนั้นในตอนแรก แต่อะไรก็ไม่ได้นำกลับไป ในเวลาเดียวกัน หลังจากกลับไปแล้ว ร่างนภา(เทียนถี่)ใหญ่โตที่เขาเป็นตัวแทนก็ว่างเปล่าทั้งหมด ไม่มีชีวิตทั้งมวลของแต่ก่อนแล้ว เพราะเขาบำเพ็ญได้ไม่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลายเป็นไม่ดีไป ล้วนจะต้องถูกกำจัดทิ้งไป ได้แต่สร้างใหม่ จึงพูดว่า ในระหว่างบำเพ็ญ พวกท่านยืนหยัดศึกษาฝ่าอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก พวกท่านศึกษาฝ่าได้ไม่ดี เวลาทำงานของต้าฝ่าหลายๆเรื่องก็ยากที่จะจัดให้ถูกต้อง ยากที่จะทำให้ดี ถ้าพวกท่านศึกษาฝ่า ศึกษาได้ดี เวลาทำก็จะง่ายขึ้นบ้าง ในเวลาเดียวกันก็จะไม่ค่อยมีปัญหา จึงพูดว่าต่อให้งานยุ่งอย่างไรก็ต้องศึกษาฝ่า

            ที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ คือเรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สองก็คือ พวกเราต้องให้ความสำคัญกับการอธิบายความเป็นจริง ทุกท่านต้องอธิบายความเป็นจริงให้ชัดเจน สำหรับศิษย์ต้าฝ่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ท่านไม่ใช่เป็นเรื่องของการบำเพ็ญส่วนบุคคลเท่านั้น การบำเพ็ญตัวท่านเอง เป็นการช่วยเหลือชีวิตในร่างนภา(เทียนถี่)ใหญ่โต ซึ่งตัวท่านเองเป็นตัวแทน ในระหว่างที่ท่านอธิบายความเป็นจริง ท่านกำลังช่วยเหลือชีวิตในร่างนภา(เทียนถี่)นั้น และร่างนภา(เทียนถี่)ใหญ่โตอื่นๆ ที่มากขึ้นอีก กระทั่งใหญ่ยิ่งขึ้น เพราะนี่คือภาระหน้าที่ ซึ่งต้าฝ่าและประวัติศาสตร์มอบหมายให้แก่พวกท่าน เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ชีวิตมากมายบนโลกนี้ล้วนมีที่มา พวกเขาคือองค์ราชา จ้าว เทพ ของร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่มาก ฉะนั้น พวกเขาจึงเป็นตัวแทนร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่มาก และกลุ่มชีวิตมากมาย ท่านช่วยเหลือเขา ทุกท่านลองคิดดู ท่านได้ช่วยเหลือเทพองค์หนึ่งใช่หรือไม่ อาจเป็นเทพที่สูงมากๆองค์หนึ่ง และเขาสอดประสานกับร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่โตมากยิ่งขึ้น และสรรพชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วน นั่นเป็นธรรมานุภาพอย่างไร นี่เป็นเรื่องธรรมดาหรือ มีแต่ศิษย์ต้าฝ่าจึงจะได้รับมอบหมายภารกิจ ที่สำคัญและใหญ่เช่นนี้

            ดังนั้น การหยวนหมั่นส่วนบุคคลสำหรับพวกท่าน นับเป็นอะไรไม่ได้ ในประวัติศาสตร์ พวกท่านผ่านการบำเพ็ญมาหลายครั้ง เดินผ่านหนทางเช่นนี้มาหลายยุคสมัย เวลานี้การทดสอบมาตรฐานหยวนหมั่นส่วนบุคคลของพวกท่าน โดยแท้จริงนับเป็นอะไรไม่ได้ นั่นเป็นมาตรฐานการวัดความเข้าใจในฝ่าต่อศิษย์ต้าฝ่า ขั้นตอนหยวนหมั่นของการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่าน โดยแท้จริงก็คือ ปกป้องฝ่าให้กับอนาคต ยืนยันความถูกต้องของฝ่า สร้างรากฐานให้มั่นคง เพราะพวกท่านต้องมีคุณสมบัติดั้งเดิมในระดับหนึ่ง มีความเข้าใจและยึดกุมที่ลึกซึ้งต่อฝ่าในเวลาเดียวกัน ในขั้นตอนของการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่าน ต้องหยวนหมั่น บรรลุมาตรฐาน ที่พวกท่านแต่ละคนสามารถบรรลุถึงให้สำเร็จ ในยามวิกฤตจึงจะยืนยันให้ฝ่าได้อย่างแท้จริง ทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ ฉะนั้นภาระหน้าที่ของศิษย์ต้าฝ่า ไม่ใช่เพื่อการหยวนหมั่นส่วนบุคคล แต่เป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิต ในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า นั่นจึงจะเป็นภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ของศิษย์ต้าฝ่า นั่นจึงจะเป็นการคงอยู่ของความยิ่งใหญ่สง่างามของศิษย์ต้าฝ่าอย่างแท้จริง

ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน แท้ที่จริงคนบนโลก ในตอนแรกที่เทพสร้างมนุษย์ จิตหลักของคนนั้นที่อยู่ข้างในหนังของมนุษย์ ในยุคหลังต่างทยอยถูกทิ้งไว้ในมิติอื่นแล้ว ไม่ให้พวกเขากลับมาเกิดใหม่ หนังมนุษย์ผืนนี้ของ(คน)ส่วนใหญ่ถูกชีวิตชั้นสูงยึดครองไว้แล้ว จึงพูดว่าพวกเขาต้องการมาได้ฝ่า ต้องใช้หนังมนุษย์ผืนนี้ ในจำนวนนี้รวมทั้งศิษย์ต้าฝ่า ฉะนั้นการอธิบายความเป็นจริงของพวกท่าน เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง

แน่นอน ผู้ฝึกจำนวนมากกำลังทำงานอธิบายความเป็นจริงเป็นปริมาณมากกันอยู่อย่างเงียบๆ แจกใบปลิวเอย โทรศัพท์ ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์(internet) ไปสถานกงสุลเอย ยังมีบางคนทำการอธิบายความเป็นจริงของต้าฝ่า เปิดโปงการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย ให้กับพลโลกผ่านรูปแบบของสื่อมวลชนต่างๆ ผู้ฝึกในประเทศจีนยิ่งยอดเยี่ยม ยืนยันความถูกต้องของฝ่าท่ามกลางแรงกดดันที่ชั่วร้ายที่ใหญ่มาก ช่วยเหลือสรรพชีวิต ล้วนแต่ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น ยิ่งกว่านั้นทุกคนล้วนแต่ริเริ่มกระทำกันเอง ไม่ว่าอากาศจะหนาวเหน็บหรือร้อนอบอ้าว หิมะและน้ำแข็งแผ่ปกคลุมไปทั่วและฝนเทลงมาปานฟ้ารั่ว ไม่ว่าพลโลกจะมีท่าทีอย่างไร ต่อให้ลำบากยากเข็ญเพียงใด ทุกคนล้วนยืนหยัดกันอยู่ สิ่งเหล่านี้อาจารย์รู้ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าเห็นแล้ว ข้าพเจ้าดีใจ ข้าพเจ้ารู้ว่าพวกท่านกำลังทำในสิ่งที่พวกท่านควรทำด้วยจิตสำนึก ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดโดยรวมต่างทำเช่นนี้กันอยู่ แน่นอนมีบางคนไม่แข็งขัน มีบางคนเข้าใจไม่มากพอ ไม่สามารถเป็นตัวแทนกระแสหลักนี้ได้ แกนหลัก(ของกลุ่ม)ทั้งหมดดีอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นคนที่ไม่เดินออกมาก็กำลังทยอยเดินกันออกมา ข้าพเจ้าได้ยืนยันหลายครั้งกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านกระทำ จึงพูดว่าศิษย์ต้าฝ่าโดยมูลฐานต่างปฏิบัติตามข้อกำหนดของการเจิ้งฝ่า ทั้งหมดนี้ไม่มีปัญหา และดีมากๆ

เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดไปแล้วสองเรื่อง เรื่องที่สามคือเรื่องการฟาเจิ้งเนี่ยนของพวกท่าน นี้คือสามเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าต้องทำในขณะนี้ เรื่องการฟาเจิ้งเนี่ยนนี้สำหรับศิษย์ต้าฝ่าพูดขึ้นมาแล้วเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากๆ เรื่องหนึ่ง หลังจาก 20 กรกฎาคม ปี 1999 การประทุษร้ายต่อต้าฝ่า การประทุษร้ายต่อผู้ฝึกต้าฝ่า การประทุษร้ายต่อพลโลก ในลักษณะมืดฟ้ามัวดินแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ในประวัติศาสตร์ การประทุษร้ายต่อศาสนาคริสต์ ศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ ล้วนไม่ชั่วร้ายขนาดนี้ ในเวลานั้นยังไม่มีระบบสื่อสารมวลชนที่ใหญ่โตเช่นนี้ การคมนาคมยังไม่เจริญ การประทุษร้ายจำกัดอยู่เพียงเฉพาะพื้นที่เล็กๆ ทุกวันนี้ พื้นที่ประเทศจีนใหญ่มาก สรรพชีวิตมากมายถูกทำร้าย ในประเทศจีนแห่งเดียวมีคนถูกทำร้ายนับเป็นจำนวนหลายพันล้านคน แต่การประทุษร้ายครั้งนี้ ไม่เพียงจำกัดอยู่แต่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ อันที่จริงการประทุษร้ายครั้งนี้เป็นในลักษณะทั่วทั้งโลก(ครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก) การสร้างเรื่องเท็จต่างๆ ได้ทำร้ายคนทั่วทั้งโลก ในเวลาเดียวกันการปั้นเรื่องของสื่อมวลชนแบบมืดฟ้ามัวดิน ก่อเกิดเป็นแรงกดดันอันใหญ่มหึมาให้กับศิษย์ต้าฝ่า สิ่งที่รุนแรงมากกว่าคือการสร้างเรื่องเท็จ การใส่ร้ายป้ายสีเหล่านี้ได้ทำร้ายคนทั่วทั้งโลก นี้คือฝ่าแห่งจักรวาล คือฝ่าซึ่งสร้างมวลชีวิต ในสมองของชีวิตใด หากบรรจุไว้ซึ่งความคิดที่ไม่ดีต่อต้าฝ่า ทุกท่านลองคิดดู เวลานี้อยู่ในระหว่างการเจิ้งฝ่า ชีวิตทั้งมวล การตัดสินให้ชีวิตคงเหลือไว้หรือกำจัดทิ้งไปนั้นขึ้นอยู่กับท่าทีที่ชีวิตนั้นมีต่อต้าฝ่า ชีวิตนี้เมื่อถึงเวลาฝ่าปรับโลกมนุษย์ยังจะสามารถเก็บไว้ได้หรือ ฝ่าปรับโลกมนุษย์ทันทีเมื่อเริ่มต้น ก็ต้องกำจัดทิ้ง ฉะนั้นนี่ไม่ใช่เป็นการประทุษร้ายต่อมนุษยชาติทั้งโลกหรอกหรือ

ศิษย์ต้าฝ่ายอดเยี่ยมมาก ในระยะแรกของการประทุษร้าย ทุกคนต่างไม่เคยพบกับเรื่องเช่นนี้ ไม่ได้เตรียมใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร หลังจากนั้นค่อยๆ สงบจิตใจให้เย็นลง ทุกคนก็ทยอยออกมายืนยันความถูกต้องของฝ่า ปัจจุบันนี้ทุกคนกำลังเปิดโปงความชั่วร้ายครั้งนี้ ช่วยเหลือสรรพชีวิตกันอยู่อย่างมีสติสัมปชัญญะมากยิ่งขึ้น เวลานี้พวกเราโดยพื้นฐานสามารถบอกให้รัฐบาลทั่วโลก ให้คนส่วนใหญ่ทั่วโลกต่างรับรู้ว่าฝ่าหลุนกงของเราดี ต่างรับรู้ว่าถูกประทุษร้ายอย่างไร้ความผิด ต่างรับรู้ถึงความอัปลักษณ์และโฉมหน้าอันธพาลวิปริตของหัวหน้าอันธพาลชั่วร้ายของประเทศจีน ได้เห็นชัดถึงความชั่วร้ายของกลุ่มนักการเมืองอันธพาล สิ่งที่พวกเราประสบคือ การโฆษณาชวนเชื่อของประเทศอันใหญ่โต ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้ปกครองนักการเมืองอันธพาลชั่วร้ายอย่างยิ่งคนหนึ่ง พวกเราสามารถทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างเข้าใจความเป็นจริงของการประทุษร้าย ช่วยพลโลกให้พ้นจากพิษร้ายของการใส่ร้ายป้ายสี และปลุกปั่นข่าวลือ   ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ ศิษย์ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรง ก็ทำเช่นนี้กันอยู่ ทำให้คนจีนรู้สึกตัว ทำให้คนทั่วโลกต่างรู้สึกตัว ต่างรู้ถึงความชั่วร้ายของการประทุษร้ายครั้งนี้ ใครก็ไม่ปฏิบัติตามมัน ต่างสกัดกั้นมันอยู่ สิ่งชั่วร้ายนั้นยังจะสามารถค้ำยันต่อไปอีกหรือ อันที่จริงองค์ประกอบชั่วร้าย ซึ่งควบคุมการประทุษร้ายเวลานี้ลดน้อยลงไปมากแล้ว อิทธิพลเก่าเห็นว่าไม่พอใช้สำหรับการทดสอบต้าฝ่าแล้ว สิ่งชั่วร้ายก็มองเห็นแล้ว สถานการณ์ผ่านไปแล้ว ต้าฝ่าจะไม่ถูกทำลายตลอดไป

ทุกท่านคงยังจำได้ ในตอนที่พวกท่านเพิ่งจะเริ่มการฟาเจิ้งเนี่ยน ชีวิตชั่วร้ายเหล่านั้นซึ่งประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าตั้งแถวกันทันที จัดวางกองกำลังสู้รบ ลั่นกลองดาหน้ามากันเลย จากการที่ทุกคนฟาเจิ้งเนี่ยนผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ได้ชำระสะสางองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ทิ้งไปเป็นปริมาณมาก เวลานี้ในเจิ้งเนี่ยนของพวกท่าน พลังกงที่ส่งออกไปล้วนต้องเที่ยวตามหาสิ่งของของสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นไปทุกที่ พอศิษย์ต้าฝ่าตั้งฝ่ามือมันก็หนี  หากศิษย์ต้าฝ่ากล้าจ้องมองคนชั่วด้วยสายตาตรงๆ คนชั่วจะหลบสายตาในทันที เพราะเจิ้งเนี่ยนทำให้ชีวิตชั่วร้ายซึ่งควบคุมคนชั่วตกใจจนหนีไป เพราะพวกมันรู้ว่าถ้าหนีช้าอีกสักหน่อย จะถูกเจิ้งเนี่ยนของศิษย์ต้าฝ่ากำจัดทิ้งไปในชั่วพริบตา ฉะนั้นเวลานี้สิ่งชั่วร้ายพากันหดตัว ยังศูนย์กลางของสิ่งชั่วร้ายในประเทศจีนอย่างไม่หยุดยั้ง ในพื้นที่อื่นๆทั่วโลก องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายซึ่งความคุมความคิดของคน กำลังอยู่ในขั้นสุดท้ายของการกวาดล้างให้หมดไป

จำได้ว่าเมื่อตอน 20 กรกฎาคม ปี 1999 เพิ่งจะเริ่มต้น หลายๆพื้นที่ทั่วโลกไม่มีคนรู้ว่าเรื่องของต้าฝ่านั้นเป็นอย่างไร การปราบปรามขนานใหญ่เช่นนี้ปรากฏออกมาอย่างกะทันหันในประเทศจีน ที่จริงเรื่องมันเป็นอย่างไรนะ สื่อมวลชนทั่วทั้งโลกพากันตีพิมพ์บทความ โฆษณาชวนเชื่อ ปลุกปั่น ข่าวลือ ของสื่อมวลชนประเทศจีน แรงกดดันในเวลานั้นใหญ่หลวงนัก แน่นอนนี่เป็นแรงกดดันที่เป็นรูปแบบ ยังมีแรงกดดันที่เป็นธาตุแท้ แรงกดดันที่เป็นรูปแบบก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ทุกท่านต้านทานกับแรงกดดันเช่นนี้ ปรับทุกสิ่งทุกอย่างให้ถูกต้องมาจนถึงระดับนี้ในเวลานี้      ยอดเยี่ยมจริงๆ

ในเวลานั้น ในจักรวาลองค์ประกอบชั่วร้ายซึ่งถูกกำหนดให้กำจัดทิ้ง เวลากดลงมาจากข้างบนมันใหญ่มากๆ ทำให้ทั่วทั้งสามภพ มิติซึ่งประกอบขึ้นด้วยอณูเป็นชั้นๆ เบียดเสียดจนเต็มไปหมด สิ่งชั่วร้ายของทั้งจักรวาลกดลงมาทั้งหมด สิ่งที่ใหญ่โตเช่นนี้ กดลงสู่มนุษยชาติ กดลงสู่สามภพ พวกท่านได้เห็นแล้ว ในเวลานั้นภาพถ่ายลูกโลกที่สื่อมวลชนรายงานเหมือนใบหน้าของปีศาจร้าย นั่นเป็นเพียงปรากฏการณ์ของมิติชั้นพื้นผิวชั้นหนึ่งของลูกโลก ถ้าหากไม่ใช่การเจิ้งฝ่า ชีวิตภายในสามภพก็ไม่มีเหลืออยู่แม้แต่ชีวิตเดียวแล้ว เพราะสิ่งนั้นเพียงพอที่จะทำลายร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่โตมากๆ เมื่อพลังแห่งเจิ้งฝ่าทำลายสิ่งที่กดลงมาทั้งหมด องค์ประกอบซึ่งยับยั้งความคิดของผู้คนโดยรวมทั้งหมด ก็ถูกกวาดล้างทิ้งไปแล้ว เวลานี้สถานการณ์จึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ที่ผ่านมาเวลาอธิบายความเป็นจริง คนจำนวนมากจะไม่ฟังโดยสิ้นเชิง และแสดงออกมาอย่างชั่วร้าย เมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกทำลายทิ้งไปแล้ว เวลาพวกท่านไปอธิบายความเป็นจริงอีกครั้ง คนก็ยอมที่จะรับ และยอมฟังกัน แต่ยังมีสติสัมปชัญญะไม่พอ เพราะชีวิตชั่วร้ายเหล่านั้นที่เจาะเข้ามาในสามภพยังคงควบคุมคนอยู่ ยังคงควบคุมคนที่มีความคิด จิตสำนึกที่ไม่ดีต่อต้าฝ่าอยู่ เนื่องจากอิทธิพลของการโฆษณาชวนเชื่อปลุกปั่นข่าวลือของสื่อมวลชน คนแบบนี้มีเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นยังคงสร้างแรงกดดันให้แก่พวกเราอย่างมากในเวลานั้น ยิ่งกว่านั้นชีวิตชั่วร้ายจำนวนมากมีระดับต่ำมาก ภายใต้สภาพการณ์แบบนี้ ข้าพเจ้าบอกให้พวกเราฟาเจิ้งเนี่ยน หลังจากกวาดล้างองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายซึ่งควบคุมคนอยู่ไปแล้ว จึงทำให้พลโลกมีสติแจ่มชัดจากมูลฐาน

            ในขั้นตอนทั้งหมดของการเจิ้งฝ่า พลังกงข้าพเจ้าจะขึ้นจากระดับจุลทรรศน์สู่ชั้นพื้นผิวโดยแท้จริง ด้วยระดับความเร็วที่เร็วมากๆ อีกสักครู่ข้าพเจ้าจะพูดถึงเรื่องความเร็วของการเจิ้งฝ่าอันนี้ ก่อนที่พลังแห่งการเจิ้งฝ่าจะทำมาถึงชั้นผิวของคน ก็คือการเจิ้งฝ่าจะขึ้นมาสู่ชั้นพื้นผิวอย่างไม่หยุดยั้ง และช่องว่าง ณ ชั้นพื้นผิวจุดนี้ก่อนที่จะถูกปรับโดยฝ่า ในเวลาของช่องว่างอันนี้ ที่ซึ่งสิ่งชั่วร้ายของอิทธิพลเก่าสำแดงทุกสิ่งทุกอย่างของมัน ใช้ชีวิตที่พิกลพิการ ยุ่งเหยิงเหล่านั้นซึ่งมีระดับชั้นต่ำที่สุด ชั่วร้ายที่สุดมาประทุษร้ายต้าฝ่า ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ในขณะที่ศิษย์ต้าฝ่าก็อยู่ในช่วงเวลานี้ ก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึง ยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแสดงออกมากันในช่วงเวลานี้

            ก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะเสร็จสิ้นอย่างถึงที่สุด มิติส่วนที่เหลืออยู่นี้พลังแห่งการเจิ้งฝ่ายังคงจะทะลวงต่อไป แต่ก่อนที่พลังแห่งการเจิ้งฝ่าจะดำเนินถึงมิติชั้นพื้นผิว ข้างในมิติชั้นพื้นผิวยังมีฝ่าที่เก่าของจักรวาล ฝ่าที่เสื่อมถอยแล้ว ฉะนั้นฝ่าที่เก่าอันนี้บังคับชีวิตทั้งมวลในมิติเก่าอยู่ ก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะไปถึง ถ้าหากฝ่าที่เก่าอันนี้ถูกทำลายทิ้งเร็วเกินไป พูดอีกนัยหนึ่งคือ ทำลายฝ่าที่เก่าทิ้งไปก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึง ทุกท่านลองคิดดู นั่นจะเกิดปัญหารุนแรง : จักรวาลบนและล่าง มิติแนวนอน มิติแนวดิ่ง มิติทั้งหมดจะถูกทำให้ยุ่งเหยิง เวลาทั้งหมดข้างในจักรวาลก็จะไม่คงอยู่ กลายเป็นหนึ่งมิติที่ใหญ่ที่สุด กลายเป็นหนึ่งเวลาที่เร็วที่สุด ชีวิตทั้งมวลข้างในมิติเก่าทั้งหมด ทั้งหมดจะเปื่อยยุ่ยภายในหนึ่งเวลาที่เร็วที่สุด ด้วยระดับความเร็วที่เร็วที่สุด สสารทั้งหมดจะเสียไปในทันที ชั้นพื้นผิวของจักรวาลเก่าที่เหลืออยู่ทั้งหมดซึ่งยังไม่ได้ผ่านการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอันจบเห่ สลายตัวในทันที ชั้นพื้นผิวจุดนี้ของจักรวาลเก่าซึ่งยังไม่ได้ผ่านการเจิ้งฝ่า ก็เป็นมิติที่ใหญ่โตนับไม่ถ้วน สรรพชีวิตนับไม่ถ้วน ประกอบขึ้นโดยเทพนับไม่ถ้วน ฉะนั้นก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะดำเนินเสร็จสิ้นยังไม่สามารถทำลายมันทิ้ง ไม่เช่นนั้นสรรพชีวิตของที่นั่นก็จะสลายตัวก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึง ก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจารย์ไม่เพียงแต่กำลังช่วยเหลือพวกท่านและพลโลกเท่านั้น ก็กำลังช่วยเหลือชีวิตชั้นสูงเหล่านั้นอยู่ ชีวิตที่เก่ามองไม่เห็นจักรวาลใหม่ว่าเป็นอย่างไร และไม่อนุญาตให้มันเห็น เช่นนั้นพวกมันจึงปฏิบัติตามหลักการของฝ่าที่เก่าอันนี้ ปกปักษ์รักษาทุกสิ่งทุกอย่างของจักรวาลเก่าอันนี้ ฉะนั้นเมื่อข้าพเจ้ากำหนดให้พวกมันปฏิบัติตามจักรวาลใหม่ พวกมันไม่ยอม พวกมันมองไม่เห็น เช่นนั้นท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ในความเป็นจริงของฝ่าที่เก่าจึงก่อให้เกิดการรบกวนต่อข้าพเจ้าและศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าสามารถทำลายมันทิ้งไปได้ เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า เพื่อจะช่วยเหลือสรรพชีวิตไม่สามารถทำลาย ครั้นเมื่อทำลายไปแล้ว ชีวิตเหล่านี้ทั้งหมดจะไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือ สรรพชีวิตในร่างนภา(เทียนถี่)ส่วนนี้ทั้งหมดเป็นอันจบสิ้น และแกนสำคัญของพวกเราศิษย์ต้าฝ่ายังอยู่ที่นี่ การช่วยเหลือจะมีความยากลำบากยิ่งขึ้น

            ฉะนั้นหลายๆเรื่องไม่สามารถดูกันอย่างง่ายๆ ไม่กำจัดฝ่าที่เก่านี้ทิ้งไป ก็จะทำความยากลำบากให้กับการเจิ้งฝ่า กำจัดฝ่าอันนี้ทิ้งไป ก็จะส่งผลร้ายแรงให้กับการช่วยเหลือสรรพชีวิต ศิษย์ต้าฝ่าฟาเจิ้งเนี่ยน(ส่งความคิดถูกต้อง) ชำระสะสางสิ่งชั่วร้ายซึ่งประทุษร้ายต่อพวกท่าน เจิ้งเนี่ยนที่บริสุทธิ์ถูกต้องสามารถทำได้ หลักการของฝ่าที่เก่าก็เป็นหลักการเช่นนี้ นี้กับการปฏิบัติต่อการบำเพ็ญด้วยเจิ้งเนี่ยน ช่วยเหลือสรรพชีวิตด้วยเจิ้งเนี่ยนคือหลักการ(เหตุผล)เดียวกัน ฉะนั้นพวกเราสามารถทำเรื่องนี้ หากอาจารย์ทำแทนให้กับพวกท่าน เช่นนั้นหลักการของฝ่าที่เก่าอันนี้และเทพที่เก่าก็จะไม่ยอม เนื่องจากมีเรื่องมากมายข้าพเจ้าทำให้พวกท่านแล้ว ถ้าทำเกินกว่ากฎเกณฑ์อีก หรือเหมาทำทั้งหมด เช่นนั้นหลักการของฝ่าที่เก่าและชีวิตของจักรวาลเก่าเห็นแล้ว พวกมันจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด พวกมันเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างของพวกท่าน ข้าพเจ้าเหมาเอาไว้ทั้งหมด ศิษย์ต้าฝ่าตัวเองไม่ได้บำเพ็ญ ดังนั้นพวกมันก็จะขึ้นมาขัดขวาง

            แน่นอนว่าหากขัดขวาง ข้าพเจ้าก็สามารถชำระสะสางพวกมันทิ้งไป ทำเช่นนี้ได้หรือไม่ มีเรื่องมากมายที่ไม่ใช่ง่ายๆ ธรรมดาๆ เช่นนั้น เป็นต้นว่าข้าพเจ้าจะยกตัวอย่าง ในประเทศจีนผู้ฝึกบางคนบางครั้งทำได้ไม่ค่อยดีนัก เวลาที่พวกเขาถูกจับไปประทุษร้าย เวลาที่ตำรวจชั่วทุบตีพวกเขา ทุบตีอย่างรุนแรง แต่ ณ เวลานั้นผู้ฝึกบางคน เจิ้งเนี่ยนไม่มากพอ ดังนั้นจึงประสบกับการประทุษร้ายรุนแรงมากยิ่งขึ้น เวลาที่สิ่งชั่วร้ายทุบตีเขา เขาก็ลืมไปว่าตัวเองคือศิษย์ต้าฝ่า และคิดไม่ถึง ฉันจะร้องขอให้อาจารย์ช่วย บางคนเวลาที่ร้องขออาจารย์ให้ช่วยก็เกิดจิตหวาดกลัวอย่างรุนแรง หลายคนเมื่อถูกทุบตีจนเจ็บปวดมากกลับร้องเรียก “แม่… แม่…” อยู่ในคอหอย เห็นการประทุษร้ายนี้เป็นการประทุษร้ายของคนธรรมดาสามัญต่อคนโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นเมื่อข้าพเจ้าไปปกป้องเขาในเวลานี้ อิทธิพลเก่าเหล่านี้จึงไม่ยอม เพราะมันกำลังปกป้องหลักการของจักรวาลเก่า มันเข้าใจว่านั่นคือหลักการหนึ่งเดียวของจักรวาล จักรวาลใหม่มันมองไม่เห็น มันจึงพูดว่า “นี่คือศิษย์ของท่านหรือ ท่านดูเขาเห็นท่านเป็นอาจารย์หรือเปล่า เขาปฏิบัติตนเป็นผู้บำเพ็ญแล้วหรือ เขามีเจิ้งเนี่ยนไหม เขาปล่อยวางความเป็นความตายแล้วหรือ เขาบรรลุถึงร่างวัชระที่ไม่หวั่นไหวแล้วหรือ ในเวลานี้อาจารย์ถูกพวกมันประณามจนพูดไม่ออกจริงๆ การแสดงออกในชั่วขณะหนึ่งในชาติหนึ่ง ไม่สามารถบอกว่าเขาไม่ใช่ศิษย์ของข้าพเจ้าแล้ว พวกมันก็เข้าใจ พวกมันจึงพูดว่า “จุดประสงค์ที่พวกเราทุบตีเขา ก็คือต้องการจะตีให้เจิ้งเนี่ยนของเขาออกมา ท่านดู แม้แต่ท่านเขาก็ยังไม่รับ เขาก็ไม่ปฏิบัติตนเป็นศิษย์ต้าฝ่า”

            ดังนั้นบางครั้งจึงทำให้อาจารย์พูดไม่ออกจริงๆ แต่เพราะจักรวาลกำลังเจิ้งฝ่า(ปรับฝ่า) ข้าพเจ้าไม่ยอมรับการประทุษร้ายครั้งนี้จากมูลฐาน ข้าพเจ้าสามารถที่จะชำระสะสางเทพที่ควบคุมและใช้ชีวิตชั่วร้าย และชีวิตชั่วร้ายทิ้งไปอย่างถึงที่สุดพร้อมกันทีเดียว ไม่ว่าจะมีระดับชั้นสูงเพียงใด ไม่ว่าใครเป็นผู้ตี ใครเป็นผู้ควบคุม ใครเป็นผู้ใช้ ใครเป็นผู้จัดเตรียม ข้าพเจ้าก็สามารถทำลายทิ้งในหนึ่งกำมือ อาจารย์นั่งอยู่ตรงนี้ก็คือคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง ให้ท่านถือว่าข้าพเจ้าเป็นคนธรรมดาสามัญ แต่ร่างกายของอาจารย์ในมิติอื่นทั้งหมด ใหญ่มหึมาไม่มีอะไรเปรียบเทียบ องค์หนึ่งใหญ่กว่าอีกองค์หนึ่ง ต่อให้จักรวาลใหญ่เพียงใด ก็ไม่ใหญ่กว่าข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ) แต่ทุกท่านลองคิดดู ถ้าข้าพเจ้าทำลายชีวิตเหล่านี้ทิ้งไป และหลักการที่เก่า ชีวิตในมิติจักรวาลชั้นพื้นผิวอันใหญ่โตนั้นซึ่งยังไม่ผ่านการเจิ้งฝ่า ก็ต้องมองเห็น ก็จะพูดว่า “ท่านทำอะไร” ฉะนั้นพวกมันก็จะรวมเป็นกลุ่มขึ้นมาโจมตี ก่อเกิดเป็นปฏิปักษ์แบบหนึ่งกับข้าพเจ้า   ถึงแม้เป็นเช่นนี้ข้าพเจ้ายังสามารถกำจัดพวกมันให้สูญสิ้นไป ไม่ว่าพวกมันจะมีจำนวนมากน้อยเท่าใด ข้าพเจ้าก็สามารถชำระสะสางพวกมันทิ้งไป ตัดกั่วเว่ย(มรรคผล)ทิ้งแล้วตีลงนรก ทุกท่านลองคิดดู ข้าพเจ้ามาเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต เทพเหล่านั้นไม่ใช่ชีวิตแล้วหรือ เป็นชีวิตในระดับชั้นที่สูงขึ้นไปอีก เป็นชีวิตที่มีค่าควรแก่การช่วยเหลือมากยิ่งขึ้น ขณะที่ศิษย์ต้าฝ่าคนนี้ซึ่งแสดงไม่เหมือนกับเป็นศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่ง เพื่อเขาแล้วข้าพเจ้ากลับกำจัดเทพมากมายนับจำนวนไม่ถ้วนให้ดับสูญไป ทุกท่านลองคิดดูทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เรื่องบางเรื่องอาจารย์จัดการลำบาก ไม่ใช่อาจารย์ไม่มีความสามารถ เป็นเพราะสรรพชีวิตทั้งหมดต้องได้รับการช่วยเหลือ เวลาที่พวกท่านปฏิบัติตนได้ถูกต้อง อะไรอาจารย์ก็สามารถทำให้พวกท่าน ถ้าหากพวกท่านมีเจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งจริงๆ สามารถปล่อยวางความเป็นความตาย จินกังไม่หวั่นไหว สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นก็ไม่กล้าแตะต้องพวกท่าน เพราะพวกมันรู้ คนๆนี้ถ้าไม่ทำให้เขาตาย จะประทุษร้ายเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งชั่วร้ายก็ได้แต่เลิกยุ่งกับเขา ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ถ้าสิ่งชั่วร้ายยังจะประทุษร้าย เช่นนั้นอาจารย์ก็ไม่เกรงใจ อาจารย์มีฝ่าเซินนับจำนวนไม่ถ้วน และยังมีเทพถูกต้องนับจำนวนไม่ถ้วนซึ่งช่วยทำงานให้ข้าพเจ้า ก็จะชำระสะสางสิ่งชั่วร้ายให้โดยตรง ก่อนนี้ข้าพเจ้าบอกพวกท่านแล้วไม่ใช่หรือว่า พวกท่านศิษย์ต้าฝ่าทุกคนล้วนมีมังกรสวรรค์  แปดกองกำลังทหารคอยปกป้องฝ่า ล้วนแต่เป็นเพราะพวกท่านปฏิบัติได้ไม่ดีพอ เหล่าเทพล้วนถูกหลักการของฝ่าของจักรวาลเก่าจำกัด ทำจนกระวนกระวายหมดปัญญา

            เช่นนั้นโดยแท้จริงแล้วอิทธิพลเก่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะพูดถึงเรื่องนี้สักหน่อย อันที่จริง อิทธิพลเก่าเหล่านี้ พูดอย่างเคร่งคัด พวกมันไม่ใช่จะทำลายการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ พวกมันก็ไม่กล้าทำลาย จุดประสงค์ของพวกมัน แม้จะไม่บริสุทธิ์ พวกมันก็อยากให้การเจิ้งฝ่าเรื่องนี้สามารถสำเร็จ เพียงแต่พวกมันต้องการให้ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ดำเนินไปตามที่พวกมันกำหนด การเจิ้งฝ่าเป็นไปตามที่พวกเขากำหนด  นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด เพราะชีวิตข้างในจักรวาลทั้งหมดล้วนเสื่อมถอยหมดแล้ว องค์ประกอบต้นกำเนิดซึ่งประกอบขึ้นเป็นชีวิตของมันล้วนไม่บริสุทธิ์แล้ว องค์ประกอบขององค์ประกอบล้วนไม่บริสุทธิ์แล้ว สิ่งเหล่านี้ตัวพวกมันเองล้วนแต่ไม่รู้สึก จะใช้วิธีอะไรก็ไม่มีทางที่ทำให้ตัวเองบริสุทธิ์ถูกต้องอย่างแท้จริงแล้ว ตัวพวกมันเองก็ไม่มีทางที่จะสอดคล้องกับข้อกำหนดของเจิ้งฝ่า(ฝ่าถูกต้อง) และมาตรฐานของจักรวาลใหม่ พวกมันจะสามารถปรับฝ่าให้ถูกต้องได้อย่างไร การเจิ้งฝ่าจะให้ทำ(ดำเนิน)ตามข้อกำหนดของพวกมันได้อย่างไรเล่า หลังการเจิ้งฝ่าการกำเนิดของจักรวาลใหม่ ถ้าแม้นก่อสร้างตามมาตรฐานของชีวิต และข้อกำหนดของจักรวาลเก่า เช่นนั้นมิยังคงเป็นจักรวาลเก่าหรอกหรือ มิกลายเป็นการเปลี่ยนน้ำไม่เปลี่ยนยาหรอกหรือ สรรพชีวิตทั้งมวลของจักรวาลเก่าโดยแท้จริงก็ไม่รู้ว่า จักรวาลก่อนกำเนิด ณ เวลาที่บริสุทธิ์ถูกต้องที่สุดนั้นเป็นอย่างไร แล้วจะสามารถทำ(ดำเนิน)ตามข้อกำหนดของพวกมันได้อย่างไร ฉะนั้นจึงไม่สามารถยอมรับพวกมัน แต่เนื่องด้วยพวกมันไม่อยากที่จะสลายตัวในหลักการของฝ่าที่เก่า แห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมโทรม ดับสูญ โดยสัญชาติญาณต้องการช่วยชีวิตตัวเอง เวลาที่พวกมันทำเรื่องนี้ จากจักรวาลชีวิตชั้นที่สูงสุดจนถึงชีวิตที่ต่ำสุดต่างก็เข้าร่วม ทั้งหมดเป็นหนึ่งระบบลงมา ทุกๆระดับชั้นล้วนมีร้อยละยี่สิบของชีวิตเข้าร่วม ทุกๆระดับชั้นต่างยังจัดเตรียมอย่างเป็นรูปธรรมว่าจะช่วยการมาเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้าอย่างไร แต่ชีวิตทุกๆ ชั้นล้วนไม่บริสุทธิ์แล้ว แม้แต่ชีวิตสุดท้ายนั้นๆ ก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว ในเวลาเดียวกับที่ช่วยข้าพเจ้าอยู่นั้น พวกมันก็เก็บซ่อนจิตเห็นแก่ตัวของการปกป้องตัวพวกมันเอง ล้วนแต่คิดจะเปลี่ยนแปลงผู้อื่น โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ใครก็ไม่คิดที่จะแตะต้องตัวเอง กระทั่งพยายามพิทักษ์สิ่งที่ตัวเองยึดติดไม่ปล่อยวางทั้งหมดไว้ในขอบเขตที่มากที่สุด ตลอดขั้นตอนมีเรื่องมากมายที่พวกมันทำไม่ดีอย่างยิ่ง มีบางเรื่องพวกมันทำอย่างเจตนา แต่มีบางเรื่องตัวพวกมันเองก็คิด(สำนึก)ไม่ถึงว่ามันเป็นเรื่องที่เลวมาก ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันทำล้วนแต่บรรลุไม่ถึงมาตรฐานของจักรวาลใหม่ แม้แต่มาตรฐานระยะแรกของจักรวาลเก่าก็บรรลุไม่ถึง เช่นนั้นห่างไกลจากมาตรฐานที่จักรวาลใหม่กำหนดก็ยิ่งเป็นคนละเรื่อง   จักรวาลใหม่โดยแท้จริงแล้วเรื่องมันเป็นอย่างไร พวกมันไม่มีทางจะรู้ ในยามหัวเลี้ยวหัวต่ออันสำคัญนี้การแสดงออกของสรรพชีวิตต่อเจิ้งฝ่าล้วนกำลังกำหนดสรรพชีวิตของอนาคต ก็คือกำลังทดสอบสรรพชีวิตทั้งหมดท่ามกลางการเจิ้งฝ่า จัดวางตำแหน่งของพวกมันเสียใหม่ ในนี้รวมถึงการถูกกำจัดทิ้ง ฉะนั้นจักรวาลใหม่นั้นเป็นอย่างไรโดยมูลฐานก็ไม่อนุญาตให้พวกมันรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งผ่านการเจิ้งฝ่า กับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันจัดเตรียมโดยมูลฐานจึงเป็นคนละเรื่อง

            พูดถึงตรงนี้ ข้าพเจ้าจะพูดเรื่องของเวลาสักหน่อยก่อน อันที่จริงเวลาของการเจิ้งฝ่านั้นรวดเร็วมาก กำลังก่อสร้างทุกสิ่งทุกอย่างของจักรวาลใหม่นี้อยู่ ณ ภายนอกร่างนภา(เทียนถี่) นั่นเป็นเรื่องของเวลาเพียงชั่วโบกมือ มันรวดเร็วเช่นนั้น นี่แม้จะเป็นการบรรยายแบบหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วก็เหมือนกับเสร็จเรียบร้อยในเวลาเพียงชั่วโบกมือ มันรวดเร็วเช่นนี้ เช่นนั้นเหตุใดข้าพเจ้าทำเรื่องนี้มาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วล่ะ อันที่จริงข้างในจักรวาล มีมิติที่ต่างๆ กัน และในทุกๆ มิติยังมีเวลาที่ต่างๆ กัน ในจักรวาลตั้งแต่ใหญ่จนถึงเล็ก จากระดับจุลทรรศน์ที่เล็กมากๆ จนถึงระดับมหภาคที่ใหญ่มากๆ มีอณูนับจำนวนไม่นับ และบนทุกๆอณู ล้วนมีเวลาที่เป็นเอกเทศอันหนึ่ง ซึ่งล้วนมีความยาวและสั้น แตกต่างกัน และโลกใหญ่และเล็กต่างๆ ซึ่งประกอบขึ้นจากอณู และอณูข้างในของมันมีเวลา และข้างในร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่โตขึ้นไปอีกซึ่งประกอบขึ้นจากอณู และอณูนับจำนวนไม่ถ้วนยังมีเวลา อณูของระดับชั้นเดียวกัน การคงอยู่ทั้งหมดของกลุ่มอณูใหญ่โตมันยังมีเวลาที่ใหญ่โตขึ้นไปอีก เวลาในจักรวาลมีมากเหมือนกับชีวิตของจักรวาล ไม่สามารถคำนวณได้ ยิ่งกว่านั้นจักรวาลทั้งมวลยังมียอดรวมของเวลาอันหนึ่ง ข้างในมีเวลาที่เป็นรูปธรรมนับจำนวนไม่ถ้วน นับจำนวนไม่ถ้วน ทำหน้าที่อยู่ในแต่ละมิติ ทั้งหมดนี้ล้วนสร้างขึ้นเพื่อรูปแบบการคงอยู่ของสรรพชีวิตในมิติต่างๆ ฉะนั้นบางมิติเวลาจะเร็วมาก บางมิติเวลาก็ช้ามาก รวมทั้งคำพูดที่ข้าพเจ้าพูดถึงเมื่อสักครู่ เกี่ยวกับความเร็วความช้าของมิติอันนี้ ตั้งแต่ข้าพเจ้าเริ่มพูดจนถึงบัดนี้ เวลาในบางมิติก้าวไปพร้อมกับข้าพเจ้า บางมิติก็ผ่านไปแล้วหลายวัน บางมิติก็ผ่านไปแล้วหลายหมื่นปี บางมิติก็ผ่านไปแล้วหลายร้อยล้านปี นับล้านๆปี(1012)แล้ว มันรวดเร็วเช่นนี้ เพราะจักรวาลใหญ่โตเหลือเกิน อณูที่อยู่ข้างในเล็กอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กับใหญ่จนหาที่เปรียบไม่ได้ พวกมันล้วนมีเวลาของตัวเอง ทุกท่านลองคิดดู ทั้งจักรวาล ไม่ว่ามันจะใหญ่เพียงใด ไม่ได้ทำด้วยความคิดแห่งเวลาใดๆของจักรวาล การปรับฝ่านี้ทำอยู่ข้างนอกทุกสิ่งทุกอย่างนี้ ทำอยู่รอบนอกเวลาของจักรวาล ไม่จำกัดอยู่ข้างในเวลาใดเวลาหนึ่ง ต่อให้จักรวาลใหญ่อย่างไร ต่อให้เวลามากเท่าใด อยู่ข้างนอกร่างนภา(เทียนถี่) เพียงชั่วโบกมือก็เสร็จเรียบร้อย ความเร็วเร็วกว่าเวลาที่เร็วใดๆในจักรวาล แต่ท่านเคยคิดหรือไม่ ในเวลาชั่วโบกมือ ที่บางแห่งผ่านไปแล้วหลายร้อยล้านปี

            มิตินี้ของมนุษย์ก็ยังนับว่าใช้ได้ ตั้งแต่การเจิ้งฝ่าเริ่มต้นเพิ่งจะสิบกว่าปี จาก 20 กรกฎาคม 1999 ถึงบัดนี้เพิ่งจะผ่านไปแล้วสองปีกว่า ก็สี่ศักราชแล้ว ข้าพเจ้าปรับฝ่าเป็นเวลาเพียงสิบกว่าปี ท่านลองคิดดูนั่นยังไม่เร็วหรือ แท้ที่จริงเร็วมากๆ เพียงโบกมือทีเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็เสร็จเรียบร้อย เวลาในมิติของคนแสดงออกมา ความแตกต่างก็คือสิบกว่าปี ยิ่งกว่านั้นหลังจากการเจิ้งฝ่า เวลาทั้งมวลของจักรวาลล้วนถูกเร่งให้เร็วขึ้น ก่อนกรกฎาคม 1999 หนึ่งวันผ่านไปคือหนึ่งวินาที นี่ยังเป็นตัวเลขโดยเฉลี่ยและยังเร่งให้เร็วขึ้นอีก

            ทุกท่านลองคิดดู ความเร็วที่เร็วเช่นนี้ ในประวัติศาสตร์ของทั้งชีวิตของท่าน ในชีวิตอันเป็นนิรันดรของท่าน นับเป็นอะไรไม่ได้ ในอนาคตท่านหันกลับไปมองดูช่วงเวลานี้ ก็คือ ชั่วพริบตา ไม่ใช่อะไรเลย ในระยะแรกของการประทุษร้ายครั้งนี้ พวกท่านล้วนรู้สึกว่า เวลาผ่านไปหนึ่งวันเหมือนหนึ่งปี รวมทั้งช่วงเวลานี้ก็มีผู้ฝึกหลายคนคิด: จะสี้นสุดเมื่อใด การประทุษร้ายครั้งนี้จะจบสิ้นเมื่อใด ดังนั้นจึงมีคนคิด ในบทกลอนอาจารย์เคยเขียนว่า ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะถึงแล้ว (ทุกคนหัวเราะ) จึงคิด: อ้อ จะสิ้นสุดในฤดูใบไม้ผลิใช่ไหมหนอ ก่อนนี้ข้าพเจ้ายังได้เขียนถึงฤดูใบไม้ร่วงไว้ในบทกลอน (ทุกคนหัวเราะ) ผู้ฝึกบางคนจึงพูดว่า: จะต้องสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงอย่างแน่นอน ฤดูใบไม้ร่วงผ่านไปแล้ว ก็ยังไม่สิ้นสุด ดูเหมือนมีความรู้สึกผิดหวัง ท่านลองคิดดู นี่ไม่ใช่การปฏิบัติต่อทุกสิ่งทุกอย่างนี้ ด้วยจิตใจของคนธรรมดาสามัญหรอกหรือ

            หนึ่งคนคิด สองคนคิด สามคนคิด นั่นไม่เป็นไร ถ้าหากศิษย์ต้าฝ่าโดยรวม คนเป็นจำนวนมากทุกคนต่างคิดกันเช่นนี้ นั่นเป็นจิตใจที่แข็งแกร่งมากดวงหนึ่ง (เป็น)อุปสรรคที่แข็งแกร่งมากใช่หรือไม่ ท่านไม่ได้ใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์ให้ดีอย่างแท้จริง ท่านหวังให้มันจบสิ้นโดยเร็ว ทุกท่านคิด ถ้าพวกเราสิ้นสุดวันนี้ เช่นนั้นประเทศจีนจะมีคนตายไปมากเท่าใด คนจำนวนมากสอดประสานกับชีวิตมากมายของร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่ขึ้นไปอีก สิ้นสุดทันที จะต้องมีชีวิตมากเท่าใดจะต้องถูกกำจัดทิ้งไป พวกเราไม่สามารถชำระสะสางความคิดชั่วร้ายในสมอง(จิตใจ)ของพวกเขา ซึ่งเห็นต้าฝ่าแห่งจักรวาลเป็นศัตรู ยิ่งกว่านั้นพวกเขาจำนวนมากยังเป็นตัวแทนของร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โต เนื่องจากการชำระพวกเขาทิ้งไป จักรวาลที่พวกเขาสอดประสานด้วย ชีวิตจะต้องตายไปมากเท่าใด ชำระชีวิตทิ้งไปมากเท่าใด ทุกท่านเคยคิดถึงปัญหาเช่นนี้หรือไม่ พวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า ประวัติศาสตร์มอบหมายภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้แก่พวกท่าน พวกเราสมควรใช้เวลานี้ให้ดีๆ (เมื่อ)ยังไม่สิ้นสุด นี่ก็คือโอกาสที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิต เวลาสั้นมากแล้ว ครั้นเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์เริ่มต้น การจัดวางคนในตำแหน่งต่างๆก็จะเป็นที่แน่นอนกันแล้ว แม้พวกเราไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า พวกท่านก็ได้ฝึกฝนตัวเองท่ามกลางช่วงเวลานี้ ก่อตั้งธรรมานุภาพ(เวยเต๋อ)ศิษย์ต้าฝ่า ในยามที่ต้าฝ่าประสบกับการถูกประทุษร้าย ก่อนอื่นสิ่งที่ทุกคนสมควรคิดถึงคือ การช่วยเหลือสรรพชีวิต สิ่งที่คิดถึงคือจะสามารถยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าได้อย่างไร นี้ไม่ยิ่งใหญ่หรือ การจัดเตรียมของสิ่งชั่วร้ายครั้งนี้ โดยมูลฐานพวกเราไม่ยอมรับมัน แต่อย่างไรก็ตามการประทุษร้ายเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งชั่วร้ายได้ประทุษร้ายสรรพชีวิตมากมายเช่นนี้ ก่อนอื่นพวกเราไม่สมควรคิดจะฉกฉวยเวลาช่วยเหลือพวกเขาหรือ เห็นมันเป็นการประทุษร้ายของคนธรรมดาสามัญต่อคนแบบหนึ่ง ขบคิดปัญหาด้วยจิตใจดวงหนึ่งของคนธรรมดาสามัญ: เมื่อไรสถานการณ์จะพลิกกลับคืนความถูกต้องให้พวกเรา จะสิ้นสุดเมื่อไร ทุกท่านลองคิดดู ความคิดนี้เป็นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรคิดหรือ

            อย่ากลัวเรื่องเวลาจะยาวนาน ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน หลังจากศาสนาคริสต์ถูกประทุษร้าย 300 ปีแล้วจึงลุกขึ้นมา ศิษย์ต้าฝ่าซึ่งมีภารกิจอันสำคัญยิ่ง ยังเปรียบไม่ได้กับผู้บำเพ็ญธรรมดาๆคนหนึ่งหรือ  สิ่งสำคัญคือพวกเราเข้าใจปัญหาอย่างไร ข้าพเจ้าของถามทุกท่าน ช่วยเหลือสรรพชีวิตมีอีกสิบปี พวกท่านยังจะทำหรือไม่ (ผู้ฝึกตอบพร้อมกัน “ทำ”) (เสียงปรบมือ) นี่จึงจะใช่ศิษย์ต้าฝ่า (เสียงปรบมือ) แน่นอนจะไม่มีอีกสิบปี และไม่อนุญาตให้เวลายาวนานเช่นนั้น อายุขัยของพวกมัน เวลาก็ไม่ยาวนานเช่นนั้น

            แต่สิ่งที่สำคัญคือ ศิษย์ต้าฝ่าพิจารณาปัญหาอย่างไร หนึ่งคนคิดอย่างนี้ สองคนคิดอย่างนี้ ไม่ใช่ปัญหา ถ้าศิษย์ต้าฝ่าล้วนคิดอย่างนี้ก็คือปัญหา พวกท่านยังจำได้ไหม ก่อน 25 เมษายน 1999 นายกรัฐมนตรีประเทศจีนคนนั้น ไม่ใช่เคยยอมรับต้าฝ่าหรอกหรือ 25 เมษายน เมื่อตอนผู้ฝึกไปร้องเรียน เขาก็ให้ศิษย์ต้าฝ่าเข้าพบ และยังพูดอย่างดีมาก หลังการเริ่มต้นของการบ่อนทำลายครั้งนี้ ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกบางคนเกิดมีจิตใจต่างๆนานาของคนธรรมดาสามัญ    จึงคิด: หัวหน้าสิ่งชั่วร้ายคนนั้นในประเทศแผ่นดินใหญ่ ให้มันตายเร็วๆ ให้มันล้มลงไป จะได้เปลี่ยนเป็นนายกรัฐมนตรีคนนั้น เปลี่ยนเป็นนายกรัฐมนตรีพวกเราก็สามารถพลิกสถานการณ์ไม่ใช่หรือ   พวกท่านเคยคิดหรือไม่ นี่คือฝ่าของจักรวาล คนบอกให้ดีก็ดีหรือ คนบอกให้กลับคำตัดสินก็กลับคำตัดสินหรือ  คนไม่คู่ควร จะสามารถฝากความหวังไว้กับตัวของคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งได้อย่างไร พวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านศิษย์ต้าฝ่าหนึ่งคนก็เป็นตัวแทนมิติที่ใหญ่โตมากๆ มนุษยชาติจะนับเป็นอะไรได้ อิทธิพลเก่าเพียงแต่ใช้มันเป็นประโยชน์ ความสามารถที่ใหญ่ขึ้นไปอีกของพวกท่าน เพียงแต่ถูกปิดเอาไว้เท่านั้นเอง คิดปัญหาอย่างนี้ได้อย่างไร ถ้าหากพวกท่านล้วนคิดอย่างนี้ เช่นนั้นอิทธิพลเก่ามองเห็นแล้ว: ทำไมล้วนแต่มีจิตใจเช่นนี้ล่ะ จิตใจนี้ต้องขจัดออกไปสิ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ให้นายกรัฐมนตรีคนนั้นกลายเป็นชั่ว ยอมให้เขากลายเป็นชั่วไป ก็ต้องขจัดจิตใจคนธรรมดาสามัญของพวกท่านทิ้งไป อย่างนี้ใช่หรือไม่ อิทธิพลเก่าไม่เห็นความสำคัญของคน บอกให้ฆ่าก็ฆ่า ท่ามกลางการเจิ้งฝ่า พวกมันเพียงแต่ยึดติดกับการจัดเตรียมของพวกมัน

            การเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ถ้าถูกบ่อนทำลายไปจริงๆ ก็จะไม่มีจักรวาลแล้วจริงๆ อิทธิพลเก่านั้นก็จะไม่มีด้วย ชีวิตอะไรทั้งหมดก็จะไม่มีแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างต่างสลายตัวไป อิทธิพลเก่าแม้คิดจะเปลี่ยนจักรวาลใหม่ โดยแก่นแท้ไม่สามารถทำได้ ฉะนั้นเมื่อพวกมันยึดติดกับสิ่งที่พวกมันต้องการทำ ผลสะท้อนจากการวางแผนอย่างบ้าคลั่งเพื่อควบคุมการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ ร้อยทั้งร้อยคือความชั่วช้า เพราะท่ามกลางการเจิ้งฝ่าการรบกวนทั้งหมดล้วนจัดเตรียมโดยพวกมันทั้งสิ้น เวลาที่ไม่ทำตามความต้องการตามที่พวกมันจัดเตรียม พวกมันก็จะทำเรื่องชั่วช้า ในการเจิ้งฝ่าเมื่อพูดถึงชีวิตเหล่านี้ก็คือต้องกำจัดทิ้งไป ในระหว่างการอธิบายความเป็นจริง พวกท่านเห็นแล้วว่าบางคนยากที่จะช่วยเหลือแล้วจริงๆ อันที่จริงข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน บนโลกมีคนจำนวนมากมายโดยมูลฐานไม่สามารถช่วยเหลือแล้ว พวกท่านยังจำประโยคนั้นที่ข้าพเจ้าเขียนได้ไหม – “ความเมตตากรุณาช่วยเหลือ รู้ไหมว่ามากมายเพียงไร” ศิษย์ต้าฝ่าเอย ในการอธิบายความเป็นจริง ต่อให้พวกท่านทุ่มเทมากขึ้นไปอีก ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน สุดท้ายยังคงมีชีวิตมากมายที่ไม่สามารถได้รับช่วยเหลือ พวกเขาถูกลิขิตไว้ว่า ต้องถูกกำจัดทิ้ง ข้าพเจ้ารู้ว่าประเทศจีนแผ่นดินใหญ่จะมีคนถูกกำจัดทิ้งมากเท่าใด มันน่ากลัวยิ่งนัก เป็นจำนวนใหญ่มหึมายิ่งนัก

            ข้าพเจ้าจะหันหัวข้อกลับมาพูดอีกที เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดถึงความสัมพันธ์ของข้าพเจ้ากับอิทธิพลเก่า อิทธิพลเก่านี้ พวกมันมองเห็นแล้วว่า จักรวาลกำลังเดินสู่ก้าวสุดท้ายท่ามกลางหลักการของฝ่าแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมโทรม ดับสูญ เพื่อกอบกู้ตัวเองให้พ้นอันตราย จึงเริ่มการจัดเตรียมเรื่องนี้ในยุคสมัยอันไกลโพ้นมากๆ ไม่มีใครรู้ว่าข้าพเจ้าคือใคร ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าข้าพเจ้าคือใคร ไม่มีชีวิตเคยเห็นข้าพเจ้า ไม่มีชีวิตเคยเรียกข้าพเจ้าว่าอะไร ข้าพเจ้าก็ไม่มีรูปลักษณ์และไม่มีชื่อ แตกต่างกับสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตทั้งหมดในจักรวาล พูดถึงสรรพชีวิตในจักรวาล อะไรข้าพเจ้าก็ไม่มี บางทีเมื่อจักรวาลทั้งหมดไม่มีแล้ว เมื่อนั้นก็คือข้าพเจ้า อะไรข้าพเจ้าก็ไม่มี ไม่มีชีวิตรู้ว่าข้าพเจ้าคือใคร แต่(ถ้า)ไม่มีข้าพเจ้าก็จะไม่มีการคงอยู่ของจักรวาล ข้าพเจ้ามาถึงที่นี่ ก็เพื่อจะช่วยเหลือสรรพชีวิตท่ามกลางการเจิ้งฝ่าใหม่อีกครั้ง ณ เวลาที่จักรวาลแห่งท้องนภาใหญ่สลายตัว

            อันที่จริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อิทธิพลเก่ากระทำ เป็นการช่วยตัวเองโดยสัญชาติญาณของชีวิตในจักรวาล แต่ไร้ประโยชน์ แต่ละครั้งก่อนที่น้องนภาใหญ่จะสิ้นสุด สรรพชีวิตในเวลานั้นต่างก็ทำกันเช่นนี้ ผลลัพธ์กลับเร่งให้สลายตัวเร็วยิ่งขึ้น จึงพูดว่าท่ามกลางการเจิ้งฝ่า การแสดงออกของสรรพชีวิต เป็นได้เพียงท่าทีของพวกเขาต่อการเจิ้งฝ่า และการกำหนดให้คงเหลือหรือไม่คงเหลือไว้ ทำได้แต่ใช้ระดับของการแสดงออกในท่าทีต่อการเจิ้งฝ่าวัด และจัดวางตำแหน่งใหม่ของพวกเขา พูดอีกนัยหนึ่ง นี้ก็คือการแสดงออกของสรรพชีวิต ณ ขั้นตอนสุดท้ายของสรรพชีวิตของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมโทรม ดับสูญเท่านั้นเอง

            เมื่อข้าพเจ้าปรากฏตัวออกมาโดยตรง ในระดับชั้นกลางล่างของท้องนภาใหญ่ ชีวิตชั้นสูงในท้องนภาใหญ่พวกมันก็มองเห็นแล้ว ข้าพเจ้าก่อตัวขึ้นมาจากท่ามกลางความไม่มีอะไร เป็นมี ไม่ใช่การรวมตัวของอณู เพราะข้าพเจ้าไม่มีอณู ทุกท่านทราบข้าพเจ้าไม่สามารถก้าวเดียวมาถึงที่มนุษย์ตรงนี้ ถ้าหากเป็นร่างกายซึ่งประกอบขึ้นจากจุลทรรศน์มากๆ จะส่งผลกระทบกับทุกสิ่งทุกอย่างของจักรวาล ก็คือไม่ว่าจะเป็นชีวิตชั้นใดๆ เมื่อเขาเข้าสู่จักรวาลชั้นที่ต่ำลงมา เช่นนั้นจักรวาลชั้นที่ต่ำลงมาก็จะถูกทำลาย เพราะสสารที่จุลทรรศน์มากยิ่งขึ้น พลังงานจะยิ่งแรงกล้า ถึงแม้พลังงานของเทพจะมีจิตสำนึก(ความคิด) มีความเมตตากรุณา แต่ก็จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง ฉะนั้นจึงต้องลงมาเกิดทีละชั้นทีละชั้น ต่อเมื่อมีชั้นพื้นผิวของอณูชั้นนั้นแล้ว จึงจะสามารถหยุดอยู่ในระดับชั้นนั้นได้ แต่ทุกท่านลองคิดดู เมื่อเป็นอย่างนี้ กาลเวลาจึงยาวนานเหลือเกิน ข้าพเจ้าจึงเดินเข้ามาทีละก้าวทีละก้าวเช่นนี้

            ไม่ใช่เพียงแต่ข้าพเจ้า มีเทพภายในท้องนภาใหญ่มากมายได้ลงมายังโลกมนุษย์ ก็ลงมาทีละก้าวทีละก้าวเช่นนี้ ในร่างนภา(เทียนถี่)เทพมากมายของระดับชั้นต่างๆที่มา จุดประสงค์คือมากอบกู้ท้องนภาใหญ่ให้พ้นจากอันตราย สำหรับมนุษย์พูดได้ว่า พวกเขาล้วนคือชีวิตของระดับชั้นสูงมากๆ ซึ่งตั้งปณิธานจะกอบกู้ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ให้พ้นอันตราย ในเวลานั้นได้มากันมากมายจริงๆ ปณิธานดั้งเดิมนั้นดี แต่พวกเขาทำไม่ได้ ไม่เพียงแต่ทำไม่ได้ ก็กลับไปไม่ได้แล้ว อันที่จริงไม่ว่าใคร เมื่อเข้ามาในสามภพก็ไม่สามารถจะกลับไปได้อีกตลอดไป แต่ไม่ว่าจะมากันมากมายเท่าใด ชีวิตเหล่านั้น ณ ที่สูงสุดในท้องนภาใหญ่นี้พวกมันเห็นแล้ว พวกมันรู้ว่าใครก็ไม่สามารถทำเรื่องนี้ และพวกมันก็เฝ้ามองดูข้าพเจ้าอยู่โดยตลอด พวกมันอยู่ข้างบนมองเห็นได้อย่างชัดเจน : โอ้ คนนี้ทำได้ พวกมันรู้สึกว่าสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นข้าพเจ้ากับชีวิตอื่นๆ ในจักรวาลนั้นไม่เหมือนกันเลย สิ่งใดๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงธาตุแท้ ฉะนั้นพวกมันจึงตัดสินใจเลือกข้าพเจ้า อันที่จริงมีเทพมากมายที่มายังโลก

            แม้พวกมันจะเลือกข้าพเจ้า แต่พวกมันก็ไม่รู้ว่าที่แท้ข้าพเจ้าคือใคร เช่นนั้นเหตุใดข้าพเจ้ายังยินยอมให้พวกมันจัดเตรียมอะไรต่างๆ ในประวัติศาสตร์ล่ะ เพราะในนี้เกี่ยวโยงไปถึงปัญหาหนึ่งที่สำคัญมาก ทุกท่านทราบ เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่าศิษย์ต้าฝ่ามีคนอยู่ 3 ส่วน ในนั้นมีส่วนหนึ่งมาเพื่อผูกวาสนา ศิษย์ต้าฝ่าส่วนนี้เป็นจำนวนที่ใหญ่มาก จากร่างนภา(เทียนถี่)อันไกลโพ้นมาที่นี่เพื่อผูกวาสนา เป็นตัวแทนของสรรพชีวิตมากมายของร่างนภา(เทียนถี่)ใหญ่โตอันไกลโพ้นมากๆ นั่นคือตัวแทนสรรพชีวิตที่ส่งมายังโลก ณ ที่ตรงนี้เพื่อผูกวาสนา เพราะการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้จะทำกัน ณ ที่ตรงนี้ ถ้าข้าพเจ้าไม่เข้าร่วม ทุกท่านลองคิดดู เช่นนั้นชีวิตเหล่านั้น ณ ที่สูงสุดของจักรวาล พวกมันก็จะเลือกคนอื่นและผูกวาสนากับคนอื่น บรรดาเทพที่มาจากร่างนภา(เทียนถี่)อันไกลโพ้นเหล่านั้นเลือกผูกวาสนากับคนอื่น นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กๆ ถ้าหากอิทธิพลเก่านำเรื่องการเปลี่ยนท้องนภาใหญ่แต่ละชั้นแต่ละชั้น จัดเตรียมให้กับอีกชีวิตหนึ่งอย่างละเอียดล่ะก็ นั่นก็แย่แล้ว นี่มิผูกวาสนาผิดหรอกหรือ แน่นอนถึงเป็นเช่นนี้พวกมันก็ไม่สามารถขัดขวางข้าพเจ้า แต่ก็จะเกิดปัญหาร้ายแรงปัญหาหนึ่ง ครั้นถึงเวลาเริ่มต้นการช่วยเหลือ คนที่พวกมันเลือกก็เริ่มทำ แม้เขาจะทำไม่ได้ แต่ข้าพเจ้าก็ต้องเริ่มการเจิ้งฝ่าอย่างจริงๆ แล้ว เช่นนั้นพวกมันจะต้องเข้าใจว่าข้าพเจ้ากำลังรบกวนพวกมัน แล้วพวกมันจะใช้กำลังชีวิตที่มีอยู่ทั้งหมดทั่วทั้งจักรวาลเก่านี้มากำจัดข้าพเจ้าให้ดับสูญ พวกมันจะต้องกำจัดข้าพเจ้าโดยกล่าวหาว่า ข้าพเจ้าบ่อนทำลายงานของพวกมัน แต่ใครก็ไม่สามารถกำจัดข้าพเจ้าได้ ใครก็ไม่สามารถขัดขวางข้าพเจ้าเจิ้งฝ่า(ปรับฝ่า) เช่นนั้นทุกท่านคิดดูจะเกิดสภาพการณ์อย่างไร ความเร็วของการเจิ้งฝ่าจะถูกกระทบไม่ได้โดยเด็ดขาด ถ้าพวกมันขัดขวาง เช่นนั้นข้าพเจ้าก็จะชำระสะสางพวกมันทิ้งไป ทำลายทิ้งภายในชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเข้าร่วมกันมากเพียงใดก็จะถูกทำลายทิ้งทั้งหมด ทุกท่านลองคิดดู ข้าพเจ้าไม่ใช่มาเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตหรอกหรือ   ฉะนั้นถ้าทำลายทิ้งไปทั้งหมด ยังจะช่วยเหลือใครเล่า ดังนั้นในประวัติศาสตร์ เมื่อพวกมันเลือกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าตรึกตรองแล้วเพื่อช่วยเหลือพวกมันจึงไม่คัดค้าน แต่ก็ไม่สามารถให้พวกมันรู้ว่าข้าพเจ้าคือใคร เป็นเช่นนี้พวกมันจึงจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างในท้องนภาใหญ่ รวมถึงเรื่องราวทั้งหมดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเมื่อตอนเริ่มต้นการเจิ้งฝ่า สำหรับพวกมันนี้ก็เป็นการทดสอบ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันกระทำล้วนบรรลุไม่ถึงมาตรฐานของจักรวาลใหม่ ข้าพเจ้าจึงถือเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันกระทำเป็นการละเล่นไปเสียเลย พวกท่านอยากจะเล่นข้าพเจ้าก็จะเล่นเป็นเพื่อนพวกท่าน เป็นเพียงเช่นนี้ การเจิ้งฝ่าอย่างแท้จริงเป็นอย่างไร นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะอนุญาตให้พวกมันรู้ว่าจักรวาลใหม่เป็นอย่างไรไม่ได้เด็ดขาด ท่ามกลางการเจิ้งฝ่า จะปล่อยให้ชีวิตทั้งหมดตกหล่นไม่ได้ พวกมันรู้สึกว่าพวกมันจัดเตรียมให้ข้าพเจ้า เท่ากับกำลังช่วยเหลือข้าพเจ้า พวกเขามีพลังกง หลังการเจิ้งฝ่าจักรวาลจะเป็นอย่างไร ตัวพวกมันเองเป็นอย่างไร พวกมันต้องการได้ในสิ่งที่พวกมันอยากได้ คงเหลือในสิ่งที่พวกมันอยากจะคงเหลือไว้ ทุกท่านลองคิดดู เป็นต้นว่าจักรวาลเป็นทองคำบริสุทธิ์ ชีวิตที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไปหนึ่งชีวิต มันมิใช่ไม่บริสุทธิ์แล้วหรือ จะอนุญาตได้อย่างไร ชีวิตใดๆ ก็หนีไม่พ้นการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ ใครก็หนีไม่พ้น ทุกสิ่งทุกอย่างในร่างนภาจักรวาล(เทียนถี่ต้าโฉวง)ล้วนอยู่ในนั้น ฉะนั้นจึงพูดว่า อิทธิพลเก่าไม่ว่าพวกมันจะจัดเตรียมอย่างไร ปล่อยให้พวกมันจัดเตรียมไป แต่สุดท้ายเวลาทำเรื่องนี้จะทำตามที่พวกมันต้องการไม่ได้โดยเด็ดขาด ฉะนั้นจึงปรากฏออกมาเป็นแรงต้านทั้งหมดในทุกวันนี้ อันเกิดจากการที่อิทธิพลเก่า จักต้องให้พวกเราทำตามที่พวกมันจัดเตรียมให้จงได้ ไม่ว่าแรงต้านนี้จะใหญ่เพียงใด อันที่จริงล้วนไม่กระทบต่อแก่นแท้ของการเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้า ยิ่งกว่านั้นอัตราความเร็วยังเหมือนเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามที่ข้าพเจ้ากำหนดเหมือนเดิม จักรวาลกำลังสร้างทุกสิ่งทุกอย่างตามมาตรฐานของต้าฝ่าโดยสิ้นเชิง แท้ที่จริงอิทธิพลเก่าจึงกำลังแสดงอยู่ท่ามกลางช่องของเหลื่อมเวลาอันนี้ ก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึง ศิษย์ต้าฝ่าก็กำลังปกป้องพิทักษ์ฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้ด้วย ชีวิตชั้นต่ำชั่วร้ายซึ่งถูกอิทธิพลเก่าใช้เป็นประโยชน์ ก็ทำสิ่งที่ประทุษร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่าและสรรพชีวิตอยู่ตรงนี้ด้วย  คนชั่วซึ่งถูกชีวิตที่ทั้งชั้นต่ำและชั่วร้ายควบคุมอยู่นั้น ก็ก่อกรรมทำชั่วอยู่ในช่วงเวลานี้

            เรื่องราวต่างๆ ที่อิทธิพลเก่านี้จัดเตรียม ณ ที่ตรงนี้ของมนุษย์มีเวลายาวนานเท่าใดแล้ว เป็นเวลาของโลกสองใบ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูด ข้าพเจ้าพูดว่า ต้าฝ่าเคยถ่ายทอดอยู่บนโลกมนุษย์ ผู้ฝึกหลายๆคนจึงถามข้าพเจ้าว่าเคยถ่ายทอดเมื่อใด ก็คือเคยถ่ายทอดในโลกใบก่อน เพราะเหตุใด โลกใบก่อนเป็นการทดลองเพื่อโลกใบนี้ เพื่อให้การจัดเตรียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพวกมัน ไม่ให้เกิดปัญหาในท้ายที่สุด เพื่อการนี้อิทธิพลเก่าได้ทำการทดลองมาหนึ่งครั้งแล้วในโลกใบก่อน เพื่อไม่ให้มันเกิดปัญหา ไม่ให้มันเดินผิดเพี้ยนไป แล้วทำไมต้องทำการทดลองเป็นเวลายาวนานเช่นนี้ล่ะ เพราะในอดีตบนโลก พื้นที่แห่งนี้ ไม่มีมนุษย์ชีวิตแบบนี้ ทำไมข้าพเจ้าจึงพูดถึงมนุษย์ต่างดาวอยู่เสมอ? ก็เพราะชีวิตบนโลกผืนดินแห่งนี้ ในอดีตไม่ว่าโลกจะถูกเปลี่ยนใหม่ไปแล้วกี่ใบ ชีวิตส่วนใหญ่ในที่นี้ล้วนคือมนุษย์ต่างดาวสิ่งมีชีวิตประเภทนั้น ที่ไม่เหมือนกันทุกยุคทุกสมัย แต่ล้วนไม่มีรูปลักษณ์ของมนุษย์

            ในประวัติศาสตร์ ทำไมเทพจึงสร้างมนุษย์โดยเอาตัวเองเป็นแบบอย่างล่ะ นี่ก็เป็นปริศนาในวงการบำเพ็ญ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ก็เพราะฝ่าจะถ่ายทอดอยู่ ณ ที่ตรงนี้ สรรพชีวิตที่ฟังฝ่าจำเป็นจะต้องมีรูปลักษณ์คู่ควรที่จะฟังฝ่า การนำสัตว์กลุ่มหนึ่งมาฟังฝ่ากันที่นี่ เป็นการเหยียดหยามต่อต้าฝ่า เป็นสิ่งที่ไม่อนุญาต ถ้าหากไม่ใช่เพื่อจะถ่ายทอดต้าฝ่า เทพองค์ใดสร้างสิ่งมีชีวิตให้เป็นรูปลักษณ์ของมนุษย์ เช่นนั้นเทพทั้งหมดก็จะกำจัดเขาทิ้ง นี้เท่ากับเป็นการเหยียดหยามเทพ เป็นเพราะเพื่อการเจิ้งฝ่า ดังนั้นเทพจึงสร้างมนุษย์โดยเอาตัวเองเป็นแบบอย่าง คนทางตะวันออกนั้นสร้างขึ้นโดยเทพซึ่งมีรูปลักษณ์แบบคนตะวันออก คนตะวันตกนั้นสร้างขึ้นโดยเทพซึ่งมีรูปลักษณ์แบบตะวันตก ยังมีเทพซึ่งมีรูปลักษณ์ของคนดำได้สร้างคนดำ คนประเภทอื่นๆ ก็สร้างขึ้นโดยเทพอื่นๆ ในเวลานั้นผู้คนต่างเรียกเทพผู้สร้างตัวเองเหล่านั้นเป็นพระเจ้า แต่ปัจจุบันคนร้อยละ 90 ล้วนเป็นชีวิตที่มาจากชั้นสูง และส่วนใหญ่มีระดับชั้นสูงมาก เพียงแต่ใช้หนังมนุษย์ซึ่งเทพสร้างขึ้นในระยะแรก พวกเขาโดยตัวเองไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเทพผู้สร้างชีวิตมนุษย์ เวลานั้นเมื่อข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่าในโลกใบที่หนึ่ง ไม่ได้บรรยายฝ่าที่ใหญ่เช่นนี้ เพราะนั่นเป็นเพียงการทดลอง ฝ่าที่บรรยายเพียงเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตไปสู่โลกฝ่าหลุน ฉะนั้นสรรพชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือในยุคนั้นล้วนอยู่ในโลกฝ่าหลุน โลกใบนั้นก็ปล่อยให้มันคงอยู่ไปตลอดจนถึงขั้นสุดท้าย วิทยาการเจริญก้าวหน้าอย่างมาก พระจันทร์ก็ส่งขึ้นไปในเวลานั้น แต่เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของอุตสาหกรรม ทำให้อากาศ น้ำ พื้นดิน พืชและอาหารของคน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเปลี่ยนสภาพไป สุดท้ายคนก็มีรูปร่างพิกลพิการ แหล่งพลังงานบนโลกใช้หมดไปแล้ว คนยุคนี้จึงสิ้นสุดลง

            ฉะนั้นโลกยุคนี้เริ่มต้นเมื่อ 100 ล้านปีก่อน ที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้บางคนอาจรู้สึกว่า เอ๋ ฉันเรียนจากตำรามัน 3,500 ล้านปีนี่ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน แต่ละยุคของโลกล้วนแต่ 100 ล้านปี โลกใบก่อนก็ 100 ล้านปี แต่ข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านแล้วใน “จ้วนฝ่าหลุน” ข้าพเจ้าพูดว่า วัตถุทางวัฒนธรรมเหล่านั้นในโลกนี้มีอายุหลายร้อยล้านปี มีกระทั่งของ 2,000 ปีก่อน ข้าพเจ้าเพียงแต่บอกว่า มนุษย์มีอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์รู้ได้เพียงเท่านั้น ก็คือในประวัติศาสตร์ 100 ล้านปีนี้ มนุษย์ได้สร้างวัฒนธรรมก่อนประวัติศาสตร์กันหลายๆครั้งแล้ว โลก ณ ตำแหน่งนี้ ดาวเคราะห์เหล่านั้นในอดีต ได้ผ่านการสลายตัวและสร้างขึ้นใหม่หลายต่อหลายครั้งแล้ว ฉะนั้นในจักรวาลหลังจากดาวเคราะห์ต่างๆ สลายตัว ล่องลอยอยู่ท่ามกลางอวกาศก่อเกิดเป็นฝุ่นละอองและดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ ท่ามกลางร่างนภา(เทียนถี่)อันใหญ่โต ดาวเคราะห์ยังคงสลายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมตัวขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง การสลายตัวของมันก็คือการระเบิด โลกก็เช่นกัน ก่อเกิดขึ้นจากการระเบิดอย่างต่อเนื่องของโลกใบก่อน แล้วรวมตัวเป็นโลกใบใหม่อีกหนึ่งใบ ระเบิดหนึ่งใบรวมตัวขึ้นหนึ่งใบ ในอวกาศมีฝุ่นละอองมากมาย ฝุ่นบางเม็ดมีขนาดใหญ่โตมาก บ้างเหมือนก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง บ้างมีขนาดหลายตารางกิโลเมตร กระทั่งมีขนาดกว่าร้อยตารางกิโลเมตร บนดาวเคราะห์แต่ละดวงล้วนมีอารยธรรม บนโลกใบก่อนก็มีอารยธรรม ฉะนั้น บนร่างวัตถุขนาดใหญ่ๆมากมาย ซึ่งระเบิดไม่หมด ก็จะมีอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตในอดีตหลงเหลืออยู่ เวลาสร้างโลกขึ้นมาใหม่ เอาฝุ่นละอองในจักรวาลรวมเข้าด้วยกัน โลกที่สร้างขึ้นใหม่ บนนั้นก็จะมีวัตถุทางวัฒนธรรม อารยธรรมของโลกใบก่อนหรือของดาวเคราะห์ต่างดวงหลงเหลืออยู่ ดังนั้นสำหรับนักธรณีวิทยาและนักประวัติศาสตร์ พูดขึ้นมาแล้ว… ข้าพเจ้าจะไม่พูดวันนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร พวกเขาก็ค้นคว้าวิจัยไม่ออกว่า จริงๆแล้วสสาร(วัตถุ)ในโลกใบนี้เป็นของยุคใด โลกใบนี้ เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่ามีประวัติ 100 ล้านปี มาถึงเวลานี้ก็ 100 ล้านปีพอดี มีอายุเท่ากับโลกใบเมื่อก่อนซึ่งอยู่ตรงนี้แล้ว แน่นอนใน 100 ล้านปี มนุษย์ผ่านมาหลายอารยธรรม เนื่องจากศีลธรรมเสื่อมทรามและถูกเทพทำลายไปหลายครั้ง ที่เรียกว่าอารยธรรมของมนุษยชาติ เป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่าตั้งใจจัดเตรียมออกมา ไม่ใช่วัฒนธรรมของมนุษยชาติอย่างแท้จริง

            เช่นนั้น ทำไมไม่สร้างหนังมนุษย์กันโดยตรง เมื่อถ่ายทอดฝ่าก็ให้เทพลงมาฟังฝ่าข้างล่าง ทำไมต้องสร้างมนุษย์ยาวนานก่อนประวัติศาสตร์เช่นนี้ล่ะ ทุกท่านต้องเข้าใจ เวลาเทพสร้างมนุษย์ ไม่สามารถสร้างความคิด จิตสำนึกไว้ข้างในนั้น เพราะนั่นจะเป็นเทพองค์หนึ่งขึ้นมาโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่มนุษย์แล้ว ทำไม่ได้ แม้มนุษย์จะมีรูปลักษณ์ของเทพ เทพก็ไม่สามารถถือมนุษย์เป็นพวกเดียวกัน เพราะพฤติกรรมของมนุษย์กับพฤติกรรมของเทพ โดยมูลฐานเป็นคนละเรื่องกัน เช่นนั้นมนุษย์ในระยะแรกเป็นอย่างไร โครงสร้างร่างกายของมนุษย์นี้สร้างขึ้นโดยเทพ ดังนั้นในมิตินี้จึงเป็นระบบร่างกายคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด ชีวิตต่างดาวเหล่านั้นเห็นแล้วยังทอดถอนใจด้วยความชื่นชม! แน่นอนรวมวิญญาณทั้งสามดวงเจ็ดดวง ประกอบขึ้นเป็นหนึ่งร่างกายคนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ความคิดเกี่ยวกับหนังมนุษย์และผิวหนังตามความเข้าใจของคนนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เทพเห็นว่า อณูโมเลกุลซึ่งรวมตัวขึ้นเป็นร่างกายคนชั้นพื้วผิวที่สุดทั้งหมดนั้นรวมถึงกระดูก เลือด อวัยวะภายในทั้งหมด โครงสร้างร่างกายคนชั้นพื้นผิวทั้งหมด ก็คือดูจากระดับจุลทรรศน์ โมเลกุลเซลล์ชั้นพื้นผิวซึ่งรวมตัวขึ้นเป็นคน ในกายวิภาค ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดวงตาคนมองเห็น เทพเรียกโครงสร้างชั้นพื้นผิวทั้งหมดนี้ว่าหนังมนุษย์ ไม่ใช่ผิวหนังตามที่คนหมายถึง

            แต่ถ้าคนไม่มีความสามารถเข้าใจต่อจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมนุษย์และการแสดงออกทั้งหมดของชีวิต ไม่มีความสามารถรับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงของโลกใหญ่พันใบ และไม่มีการก่อเกิดของความคิดใดๆ ไม่มีความเข้าใจต่อโลกแห่งธรรมชาติของโลกและจักรวาล และความสามารถตอบสนอง เขาจะแสดงออกมาอย่างไร  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เวลาที่เขาพบกับเรื่องดีใจ เขาจะวิ่งขึ้นต้นไม้ หัวเราะเสียงดังอย่างไม่หยุด หัวเราะขึ้นมาน่ากลัวมากๆ ไม่มีการควบคุม เมื่อพบกับความเจ็บปวดเขาจะมุดลงไปในดิน ไม่สามารถจะถอนตัวจากความเจ็บปวดเป็นหลายๆวัน เวลาโกรธ เขาจะระบายความโกรธโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา เขาจะยอมตายเพื่อความยินดี ความโกรธ ความเศร้า และความสุข ทุกท่านลองคิดดู คนเช่นนี้สามารถจะฟังฝ่าได้ไหม  แต่มนุษย์ที่สร้างขึ้นมาในระยะแรกก็คือเช่นนี้ ไม่มีความสุขุมเยือกเย็น ไม่มีความสามารถรับผิดชอบ ไม่มีกรอบความคิดที่สมบูรณ์ครบถ้วนที่จะเข้าใจต่อสรรพสิ่งใดๆในมิตินี้ ฉะนั้นมนุษย์จึงต้องผ่านกาลเวลาอันยาวนาน เพื่อให้ความคิดของมนุษย์ค่อยๆเพิ่มพูน(อุดมสมบูรณ์)ขึ้นมา มีความสุขุมเยือกเย็นและความสามารถรับผิดชอบ นี้ไม่ใช่จะสามารถทำได้ในเวลาอันสั้น ฉะนั้นใน 100 ล้านปีนี้จึงทำเรื่องนี้กันอยู่ วันนี้การแสดงออกของคน ไม่ตกใจเมื่อประสบกับเรื่องราว สงบจิตสงบใจสุขุมเยือกเย็น ตรึกตรองอย่างมีสติสัมปชัญญะ จนกระทั่งมีความสามารถในการจัดสร้าง คนสามารถมีความคิดเช่นนี้ สภาวะความคิดที่ปรกติ ท่ามกลางกาลเวลาอันยาวนาน นี้เป็นสิ่งที่เทพตั้งใจจัดสร้างให้กับคน ในขั้นตอนนี้ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน มันยืดยาวต่อเนื่องมาถึง 50 ล้านปีก่อน

            มาถึง 5,000 ปีหลังในช่วงเวลาแห่งวัฒนธรรมกึ่งเทพของจีน จึงเริ่มทำให้เป็นมาตรฐานอย่างเป็นระบบให้คนสามารถรับความคิดเกี่ยวกับฝ่า หลักการในมิติของคนแม้ว่าจะกลับกัน แต่ต้าฝ่าแห่งจักรวาลนั้นถูกต้อง เวลาที่ข้าพเจ้าบรรยายฝ่า เหนือสามภพขึ้นไป ในระดับชั้นต่างๆ หลักการของฝ่าที่ได้ฟัง ความหมายที่ครอบคลุม ตัวอักษร รูปแบบการถ่ายทอดออกมาจะไม่เหมือนกัน แต่หลักการของฝ่าจะเชื่อมโยงกัน การเลื่อนขึ้นของระดับทำให้มันต่างกัน แต่ไม่ใช่ผิดที่ ถ้าหากข้าพเจ้าพูดแบบหนึ่ง ณ ที่ของคน อยู่บนสวรรค์ก็พูดอีกแบบหนึ่ง ทุกท่านลองคิดดู ฝ่านี้ก็จะไม่ประสานกลมกลืน เป็นเช่นนั้นไม่ได้ เพราะท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ฝ่าที่พูด ณ ที่นี้ของคนจำเป็นจะต้องสอดประสานกับทั่วทั้งจักรวาล เวลาข้าพเจ้าบรรยายฝ่า ในทุกๆชั้น ข้าพเจ้าก็กำลังบรรยายฝ่า สรรพชีวิตทุกๆ ชั้นต่างกำลังฟังฝ่ากันอยู่

            เช่นนั้นจะจัดสร้าง จัดความคิดของคนให้เป็นมาตรฐาน ให้สามารถฟังฝ่าได้เข้าใจเวลาฟังฝ่าอย่างไรล่ะ เพราะจะบรรยายฝ่าอย่างไร ก็ต้องจัดสร้างวัฒนธรรมของมนุษยชาติและความคิดของคน คนทั่วทั้งโลกต่างก็รู้ว่าอะไรเรียกว่ากุศล อะไรเรียกว่าความดี(ความเมตตา) อะไรเรียกว่าความชั่วร้าย ดีและเลว นี้คือสิ่งที่พื้นฐานที่สุด ประเทศจีน ณ ที่ตรงนั้น แสดงออกเป็นรูปธรรมมากสักหน่อย ความหมายครอบคลุมลึกซึ้งมากกว่า เพราะฝ่าจะถ่ายทอด ณ ที่ตรงนั้น งานจะต้องทำ ณ ที่ตรงนั้น ฉะนั้นที่นั่นจะต้องจัดสร้างวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ สามารถรู้จักและเข้าใจฝ่าได้อย่างแท้จริง ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านว่า ในประวัติศาสตร์ ข้าพเจ้าได้ผูกวาสนาไว้กับศิษย์ต้าฝ่ามาโดยตลอด ผูกวาสนาเป็นเพียงจุดประสงค์ชั้นพื้นผิว หลังจากผูกวาสนาแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าและข้าพเจ้ายังต้องรับผิดชอบ จัดสร้างอารยธรรมของมนุษยชาติ และวัฒนธรรมซึ่งต้าฝ่าต้องการด้วยกัน เพราะในประวัติศาสตร์ เพื่อจะถ่ายทอดต้าฝ่า คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งคิดจะจัดสร้างอารยธรรม ซากวัตถุ ทฤษฎีให้คงเหลือไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด ฉะนั้นวัฒนธรรมทั้งหมดที่คงเหลือไว้ในประวัติศาสตร์ ล้วนกระทำโดยพวกเราศิษย์ต้าฝ่า แน่นอนยังมีอาจารย์นำพาพวกท่าน ประวัติศาสตร์มนุษยชาติก็เหมือนละครฉากหนึ่ง พวกท่านจากพระเจ้าแผ่นดินจนถึงประชาชน จากวีรบุรุษจนถึงโจรร้าย (หัวเราะ) จากปัญญาชน ผู้มีชื่อเสียงจนถึงวีรบุรุษ ล้วนเป็นสิ่งที่พวกท่านกระทำ ทุกท่านอย่าหัวเราะ ถ้าไม่มีคนแสดงเป็นโจรร้าย วันนี้เวลาข้าพเจ้าบรรยายฝ่าคนก็ไม่รู้ว่าอะไรคือโจรร้าย อะไรคือพฤติกรรมของโจรร้าย ความคิดความรู้สึกเป็นอย่างไร โจรร้ายรูปลักษณ์เป็นอย่างไร ในฝ่าจะให้มีความว่างเปล่าไม่ได้

            ทุกท่านคงรู้เกี่ยวกับ “พงศาวดารสามก๊ก” ใน “พงศาวดารสามก๊ก” กล่าวถึงคำว่า “อี้” (คุณธรรม) ผ่านหนึ่งรัชสมัย ความหมายที่ครอบคลุมของ “อี้” ได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างเต็มที่ ในการประลองฝีมือต่อสู้ระหว่างกันของอิทธิพล 3 ฝ่าย ยิ่งกว่านั้นยังได้แสดงวัฒนธรรมชั้นลึกของ”อี้” ออกมาให้เห็นผ่านระยะเวลาอันยาวนานของหนึ่งรัชสมัยเช่นนี้ เมื่อถ่ายทอดฝ่าวันนี้ คนจึงมีความเข้าใจต่อ “อี้” อย่างลุ่มลึก รู้ว่า “อี้” คืออะไร ชั้นพื้นผิวของมันบ่งบอก และความหมายที่ครอบคลุมของมันบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อะไร และการสะท้อนในชั้นลึก จะให้คนรู้แต่เพียงตัวอักษรชั้นพื้นผิวไม่ได้ ต้องเข้าใจความหมายที่ครอบคลุมให้แจ่มแจ้ง แน่นอนใน “พงศาวดารสามก๊ก” ยังได้แสดงออกซึ่งความหมายที่ครอบคลุมของสติปัญญา กลอุบายต่างๆ ของคน

            เยว่เฟย (งักฮุย) แห่งซ้องใต้ได้แสดงออกซึ่งความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ว่าอะไรคือความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ท่านอธิบายแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้  ต้องผ่านขั้นตอนหนึ่งรัชสมัย คนจึงเข้าใจอย่างแท้จริง ถึงความหมายที่ครอบคลุมและความสัมพันธ์ในชั้นลึก ตลอดจนการแสดงออกของพฤติกรรม

            ในประวัติศาสตร์ยังมีนักปราชญ์นักคิดสำนักต่างๆ ในความคิดหลักการสายกลางของขงจื่อยังมีการเน้น เหยิ๋น อี้ หลี่ จื้อ ซิ่น (กรุณา คุณธรรม มรรยาท สติปัญญา ความเชื่อฟัง) ฯลฯ การปรากฏขององค์ศากยมุนี เหล่าจื่อและพระเยซู จึงสามารถทำให้คนในวันนี้เข้าใจได้อย่างแท้จริงว่า อะไรคือความเชื่อถูกต้องและการบำเพ็ญ อะไรคือพุทธ เต๋า เทพ ทั้งหมดนี้ การเสริมสร้างความคิดของมนุษย์ให้อุดมสมบูรณ์ในประวัติศาสตร์ ทำให้คนรู้จักและเข้าใจฝ่า สามารถได้ฝ่า ขั้นตอนประวัติศาสตร์ทั้งหมดของมนุษยชาติ ล้วนเป็นการสร้างรากฐานอย่างมั่นคงเช่นนี้ จึงพูดว่าเพื่อจะถ่ายทอดต้าฝ่าจึงจัดสร้างมนุษย์ และวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ไม่ใช่บรรยายฝ่าให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ยิ่งไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของวัฒนธรรมมนุษยชาติ นี้จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทำใน 5,000 ปีนี้

            พูดมาถึงตรงนี้ พูดให้เห็นภาพอย่างที่สุด สังคมมนุษย์ก็เหมือนละครเวทีเรื่องหนึ่ง หนึ่งรัชสมัยหนึ่งยุค เหมือนเช่นม่านเวทีเปิดออกแล้ว รัชสมัยหนึ่งเริ่มการแสดง รัชสมัยหนึ่งจบลงแล้ว ม่านเวทีก็ปิด เปิดออกใหม่ เปลี่ยนรัชสมัยเปลี่ยนยุค หนึ่งรัชสมัยหนึ่งยุค หนึ่งรัชสมัยหนึ่งยุคเดินผ่านเวทีไป ผูกวาสนา ทิ้งประวัติศาสตร์เอาไว้ จัดสร้างวัฒนธรรมซึ่งมนุษยชาติต้องการ แสดงกันเป็นฉากๆ ทำไมประเทศจีน ณ ที่แห่งนี้เรียกเป็นรัชสมัย ขณะที่พื้นที่อื่นๆ นอกประเทศจีนต่างเรียกเป็นประเทศล่ะ ทำไมจึงเรียกผู้นำของพวกเขาเป็นกษัตริย์ และประเทศจีนเรียกเป็นฮ่องเต้ (จักรพรรดิ) ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน นี้ไม่ใช่ความแตกต่างของคำนามและวัฒนธรรม เพราะมนุษยชาตินั้นจัดสร้างขึ้นเพื่อต้าฝ่า ต้าฝ่าคือสายหลักของละครเวทีนี้ การคงอยู่ของสรรพชีวิตทั้งมวลต่างวนรอบสายหลักนี้ เพียงแต่ผู้คนหลงอยู่กับความขัดแย้ง การปะทะกันในข้อปลีกย่อยต่างๆ ซึ่งแสดงออกมาในละคร จนลืมเนื้อหาสำคัญของละครไป ลืมจุดประสงค์ของชีวิตคนคืออะไรไปแล้ว เวทีของละครเวทีเรื่องนี้ก็คือประเทศจีน

            หนึ่งรัชสมัยหนึ่งยุค มนุษย์ทุกๆรอบ ล้วนคือหนึ่งสมัยของคนสวรรค์ เป็นตัวแทนซึ่งมาจากร่างนภา(เทียนถี่)อันไกลโพ้น เป็นตัวแทนของสรรพชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วนของที่นั่นซึ่งมาที่นี่เพื่อผูกวาสนา ไม่ให้สรรพชีวิตเหล่านั้นถูกทิ้งในระหว่างการเจิ้งฝ่า ในระหว่างที่ผูกวาสนาในรัชสมัยนั้นๆ ได้ทิ้งวัฒนธรรมที่พวกเขานำมาเอาไว้ หลังจากผูกวาสนาแล้วไปเกิดในพื้นที่อื่นๆ ในชาติต่อไป รอคอยวันที่ต้าฝ่าเริ่มถ่ายทอด ทุกๆรัชสมัยก็เป็นเช่นนี้ ชนชาติที่มีอยู่ทั่วทั้งโลก ล้วนเคยเกิดในประเทศจีน รวมถึงคนของแต่ละประเทศ นอกจากชีวิตภพข้างบนซึ่งมากันอีกในระยะหลังเป็นจำนวนมาก หลังจากต้าฝ่าเริ่มถ่ายทอด ในประวัติศาสตร์คนทุกประเทศล้วนเคยเกิดในประเทศจีน ไม่ว่าท่านจะเป็นคนของประเทศใด ก่อนอื่นท่านมาเป็นคนจีนก่อนบนโลกนี้ เพราะพวกท่านลงมาเกิดครั้งแรกคือที่นั่น ฉะนั้นพูดมาถึงตรงนี้ ข้าพเจ้าจะบอกทุกท่าน โดยแท้จริงการเป็นรูปแบบของประเทศ และความหมายที่ครอบคลุมของประเทศจีนล้วนไม่คงอยู่ พวกท่านรู้สึกว่าพูดออกมาแล้วทำให้คนตกใจไหม อันที่จริงวัฒนธรรมจีนเป็นสิ่งที่คนทั่วทั้งโลกทิ้งเอาไว้ในแต่ละรัชสมัยแต่ละยุค เมื่อผูกวาสนาแล้วก็ไปเกิดในพื้นที่อื่น ตัวอย่างเช่น คนอเมริกันคือคนสมัยต้าหมิง ปัจจุบันคนอเมริกันชอบเต๋ากันมากๆ ยังมีทัศนะความคิดของเวลานั้นหลงเหลือปรากฏอยู่ คนสมัยหมิงในช่วงที่นิยมเต๋าสูงสุด บางเมือง แทบทุกบ้านจะก่อเตาไว้ในบ้าน ประเทศอังกฤษคือต้าถัง ประเทศฝรั่งเศสคือต้าชิง อิตาลีคือหยวน ออสเตรเลียคือเซี่ย รัสเซียคือโจว สวีเดนล่ะคือซ้องเหนือ ไต้หวันคือซ้องใต้ ญี่ปุ่นคือสุย เวลานั้นที่ที่คนแต่ละรัชสมัยไปเกิดใหม่เมื่อจากประเทศจีนไป ยังไม่มีประเทศในปัจจุบันนี้ ยังจัดว่าเป็นดินแดนรกร้างป่าเถื่อน ฉะนั้นส่วนใหญ่ต่างกระจายไปเกิดใหม่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก รอจนยุคหลังจึงกลับคืนสู่ที่ ท่านเป็นคนรัชสมัยนี้ไปที่นี่ ท่านเป็นคนรัชสมัยนั้นไปที่นั่น จึงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นพูดกันอย่างเข้มงวด ที่ไหนคือประเทศจีนล่ะ ใครคือคนจีนเล่า ความหมายแท้จริงของประเทศจีนนั้นไม่คงอยู่

            เช่นนั้น ปัจจุบันนี้คงอยู่แล้วซิ เพราะมันเรียกเป็นประเทศแล้ว ปัจจุบันนี้ก็ไม่มีรัชสมัยแล้วนี่ อันที่จริงปัจจุบันนี้ก็ไม่คงอยู่ เพราะเมื่อจะร้องฉากสุดท้าย เมื่อจะถ่ายทอดฝ่า สรรพชีวิตทั่วโลกซึ่งเคยผูกวาสนากับข้าพเจ้า หรือคนมีความเป็นไปได้ที่จะได้ฝ่ามากที่สุดเหล่านั้น และคนที่ออกมาก่อด้านลบเวลาต้าฝ่าถ่ายทอดกว้างไกล ทั้งหมดหวนกลับไปประเทศจีนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ได้ฝ่า พวกที่บ่อนทำลายฝ่า ล้วนมาเพื่อฝ่านี้ กำเนิดเพื่อฝ่านี้ สำเร็จขึ้นเพื่อฝ่านี้ ล้วนมากันพร้อมหน้าแล้ว ฉะนั้นปัจจุบันนี้คนจีนนั้นผสมปนเปกันมากที่สุด นั่นคือศูนย์รวมชีวิตด้านบวกและลบของคนทั้งโลก ซึ่งมาเพื่อช่วงเวลาแห่งการเจิ้งฝ่า แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ก่อด้านบวกหรือก่อด้านลบ เนื่องจากการเจิ้งฝ่าไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ถ้าเพียงสรรพชีวิตสามารถปฏิบัติต่อการเจิ้งฝ่าอย่างถูกต้อง ก็มีหวังที่จะไม่ถูกทำลายทิ้งไป ถ้าสามารถได้ฝ่า ข้าพเจ้าก็จะช่วยเหลือ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยบอกกับพวกท่าน ข้าพเจ้าพูดว่า ทำไมประชาธิปไตยจึงปรากฏออกมาในโลก อันที่จริงมูลเหตุที่แท้จริง เป็นเพราะชนชาตินั้น กษัตริย์ของร่างนภา(เทียนถี่)นั้นไปเกิดในประเทศจีนแล้ว ใครจะสามารถเป็นกษัตริย์ได้อีกล่ะ สุดท้ายชีวิตชั้นสูงเหล่านั้นในหมู่อิทธิพลเก่าจึงกำหนด: พวกเราให้คนของพวกเขาเลือกกันเองเถิด เลือกได้แล้ว เรียกเป็นกษัตริย์ไม่ได้ ก็เรียกเขาเป็นประธานาธิบดี อย่างไรเสียได้เป็นแล้วก็ไม่สามารถปฏิบัติให้เหมือนกับกษัตริย์ ไม่ดียังด่าว่าเขาได้ ไม่ไหวแล้วยังสามารถกล่าวโทษประจาน เลือกกันใหม่ นี้คือบ่อเกิดของมูลเหตุแท้จริงของประชาธิปไตยซึ่งจัดเตรียมโดยข้างบน ยังมีมูลเหตุอื่นๆ การแสดงออกในที่นี้ของคนก็มีการแสดงออกของหลักการระดับของคน คนไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ฉะนั้นคนของประเทศจีนที่ตรงนั้น ท่านอย่าเห็นว่าเขาดูไม่สะดุดตา เนื่องจากกรรมเก่าในยุคหลังๆ ทำให้เป็นอย่างนั้น แม้หนังผืนนั้นจะดูไม่ค่อยสวยงามนัก แต่ข้างในความหมายที่ครอบคลุมใหญ่มากๆ ทุกท่านลองคิดดู ถ้าสรรพชีวิตของที่นั่นถูกทำลายไป มันช่างน่ากลัวนัก ไม่ว่ามิติและสรรพชีวิตที่พวกเขาเป็นตัวแทน และตัวพวกเขาเองสอดประสานด้วยทั้งหมด คือกลุ่มชีวิตที่ใหญ่และสำคัญทั้งสิ้น

            พูดมาถึงตรงนี้จะพูดอีกสักหน่อย เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดถึงว่าโลกใบนี้มีประวัติศาสตร์เพียง 100 ล้านปี โดยหลักใหญ่ 100 ล้านปีของโลกใบนี้ แบ่งออกเป็นสองช่วงเวลาใหญ่ เป็นช่วงเวลาละ 50 ล้านปี ห้าสิบล้านปีแรกเป็นช่วงเวลาของการคงอยู่พร้อมกันของคนขนาดใหญ่ คนขนาดเล็ก คนขนาดกลาง คนขนาดใหญ่โดยเฉลี่ยสูง 5 เมตร คนขนาดกลางก็คือพวกเราเวลานี้ มนุษยชาติวันนี้ โดยเฉลี่ยสูงไม่ถึง 2 เมตร คนขนาดเล็กล่ะสูงเพียงไม่กี่นิ้ว ในเวลานั้นเมื่อเทพสร้างมนุษย์ ทำไมสร้างมนุษย์ 3 แบบออกมาพร้อมกันเล่า เพราะต้องการทดลองมนุษย์สามแบบนี้ว่า มนุษย์แบบใดเหมาะที่จะดำรงชีวิตอยู่บนโลกจนถึงขั้นสุดท้าย เหมาะที่จะได้ฝ่า ในขั้นตอนของห้าสิบล้านปีนี้ ขณะที่ดำเนินการจัดสร้างให้มนุษย์มีความสามารถเข้าใจโลก เวลาเดียวกันก็กำหนดคนแบบที่จะคงเหลือเอาไว้ สุดท้ายพบว่า คนขนาดใหญ่ยังคงไม่เหมาะสม เนื่องจากร่างกายของเขาใหญ่ เปรียบเทียบกับโลกพูดขึ้นมาแล้ว ระยะทาง(ความห่าง)กลายเป็นสั้น เปรียบเทียบกับเวลาพูดขึ้นมาก็กลายเป็นสั้น เพราะคนขนาดใหญ่ การใช้สสารวัตถุ แหล่งทรัพยากร กับโลกมีอัตราส่วนไม่สอดคล้องกัน ต่อมาภายหลังพบว่า คนขนาดเล็กก็ไม่สอดคล้อง ทั้งโลกเป็นป่าไม้ทั้งหมด เขาทำการบุกเบิกได้ลำบากอย่างยิ่ง เวลานั้นไม่มีพื้นดินสักแปลง ถ้าจะให้เขาสร้างอารยธรรมอย่างวันนี้ สำหรับพวกเขาพูดได้ว่าลำบากอย่างยิ่ง ในเวลาเดียวกันพูดถึงเวลาบนโลก สำหรับคนขนาดเล็กปรากฏว่ายาวเกินไป ระยะทางยาวเกินไป คนขนาดเล็กจะข้ามมหาสมุทร นั่นเป็นเรื่องที่ยากเกินไปจริงๆ ฉะนั้นจึงไม่เหมาะสม คนขนาดใหญ่และคนขนาดเล็กจึงถูกคัดทิ้งไปอย่างนี้ ไม่ใช่คัดทิ้งในครั้งเดียว คือหลังจาก 50 ล้านปี เริ่มค่อยๆคัดทิ้งไปในประวัติศาสตร์ สุดท้ายคนขนาดใหญ่หายไปจากสายตาพวกเราคือ สองศตวรรษก่อน ก็คือสองร้อยกว่าปีก่อน สุดท้ายคนขนาดใหญ่จึงไม่เห็นแล้ว แต่คนขนาดเล็กเมื่อ 70-80 ปีก่อน ยังมีคนเคยเห็น หลังจากนั้นจนมาถึงยุคปัจจุบันจึงหายสาบสูญไปหมด ก็ไม่ใช่หายไปทั้งหมด บางส่วนไปยังมิติอื่น บางส่วนลงไปใต้ดิน พวกเขารู้ว่าจัดเป็นคนที่ถูกคัดทิ้ง ฉะนั้นจึงไม่ติดต่อกับคนปัจจุบัน

            ฉะนั้นพูดมาถึงตรงนี้ ข้าพเจ้าได้เปิดเผยปริศนาสองข้อของประวัติศาสตร์ มนุษยชาติไขปริศนาไม่ออกว่าปิระมิดนั้นสร้างขึ้นมาอย่างไร ก้อนหินที่ใหญ่โตขนาดนั้นคนลำเลียงกันอย่างไร คนที่สูงห้าเมตรสองสามคนช่วยกันลำเลียง เหมือนกับคนในวันนี้เคลื่อนย้ายก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง การสร้างปิระมิด คนที่สูงห้าเมตรก็เหมือนกับพวกเราสร้างตึกสูง ปริศนาอีกข้อหนึ่งคือ ทำไมจึงมีไดโนเสาร์สัตว์ที่ใหญ่โตเช่นนั้น อันที่จริงนั้นคือจัดเตรียมไว้สำหรับคนขนาดใหญ่ คนที่สูงห้าเมตรดูสัตว์ใหญ่เช่นไดโนเสาร์ เหมือนกับพวกเราคนปัจจุบันดูวัวดูควาย ไม่มีอะไรต่างกัน คนที่แตกต่างกันก็ต้องจัดเตรียมสิ่งของประเภทที่ต่างกันให้เขา ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนจัดสร้างเพื่อคน จัดทำสำเร็จขึ้นมาเพื่อคน ข้าพเจ้าถือโอกาสบอกทุกท่าน จะให้สัตว์เสมอภาคทัดเทียมกับคนไม่ได้โดยเด็ดขาด จะปฏิบัติเท่าเทียมกันไม่ได้โดยเด็ดขาด ท่านสามารถให้ความเมตตากรุณาต่อมัน ท่านสามารถรักและปกป้องมัน แต่จะทำเหมือนปฏิบัติต่อคนไม่ได้โดยเด็ดขาด คนนั้นสร้างขึ้นโดยเทพ การเอาสัตว์มาเทียบเคียงกับคนเท่ากับเหยียดหยามคน สบประมาทต่อเทพ ความเป็นจริงของประวัติศาสตร์ จะคลี่คลายให้คนได้เห็นในไม่ช้า เมื่อนั้นจะมีความคิดเห็นถูกต้อง เกี่ยวกับความเข้าใจของมนุษยชาติต่อจักรวาล ชีวิต สสารและวัตถุอย่างแท้จริง ปัจจุบันในการศึกษาโบราณคดีมีคนเอากระดูกมนุษย์ไปใส่ไว้กับของไดโนเสาร์ เกี่ยวกับการสร้างปิระมิดก็อนุมานวินิจฉัยด้วยความเข้าใจอันคับแคบ อันที่จริงความเข้าใจต่อโลกสสารและวัตถุที่มีอยู่ในปัจจุบันของวิทยาศาสตร์ หลายสิ่งหลายอย่างล้วนแต่ผิด จุดฐานก็กำหนดไว้ผิดที่ แม้แต่ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงก็ผิด สิ่งเหล่านี้ เมื่อมีโอกาสข้าพเจ้าจะพูดให้คนฟัง

            เมื่อครู่ข้าพเจ้าได้เปิดฝาครอบของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ (เสียงปรบมือ) ไม่ใช่เพื่อจะพูดเรื่องของประวัติศาสตร์ เนื่องจากมนุษยชาตินั้นจัดสร้าง จัดทำสำเร็จขึ้นมาเพื่อต้าฝ่า เพราะฉะนั้นขณะที่ข้าพเจ้าพูดเรื่องของประวัติศาสตร์ ก็บรรยายฝ่าให้กับพวกท่าน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องซึ่งเกี่ยวข้องกับต้าฝ่า เรื่องราวต่างๆ สำหรับศิษย์ต้าฝ่า พูดขึ้นมาแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งเหล่านี้ และทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านทำอยู่ในขณะนี้ ข้างในนั้นล้วนเชื่อมโยงกับภาระหน้าที่ต่อต้าฝ่าของพวกท่าน มีองค์ประกอบที่ใหญ่และสำคัญชั้นลึกของตัวศิษย์ต้าฝ่าเองอยู่ข้างใน จุดประสงค์คือหวังว่า ต่อแต่นี้ไปทุกท่านจะทำได้ดียิ่งขึ้นท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ต้องทุ่มเทพยายาม ต้องทำให้ดี เพราะสิ่งที่พวกท่านต้องการคือหยวนหมั่นทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านมีภาระหน้าที่ ท่านมาพร้อมกับภารกิจและภาระหน้าที่ของการช่วยเหลือสรรพชีวิต ในประวัติศาสตร์ต่างเรียกร้องให้ช่วยเหลือสรรพชีวิต ใครรู้ว่าช่วยเหลือสรรพชีวิตความหมายแท้จริงคืออะไร พวกท่านก็คือกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิตอย่างแท้จริง พวกท่านจึงคู่ควรทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ อย่าได้พลาดโอกาสอย่างเด็ดขาด

            ข้าพเจ้าคิดว่าจะไม่พูดมากไปกว่านี้แล้ว จากนี้ไปหากพวกท่านคนไหนยังมีปัญหาจำเป็นต้องถาม เรื่องที่พวกท่านเห็นว่าสำคัญ สามารถหยิบยกขึ้นมาได้ ข้าพเจ้าจะใช้เวลาต่อจากนี้ตอบปัญหาให้กับพวกท่าน สำหรับเรื่องที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวข้องกับการงาน ชีวิต การบำเพ็ญของแต่ละบุคคลนั้น เป็นองค์ประกอบและเงื่อนไข ซึ่งพวกท่านแต่ละคนจะต้องยกระดับในระหว่างบำเพ็ญ นั้นคือสิ่งที่ตัวท่านต้องรับรู้(อู้)เอง เป็นด่านที่จะต้องข้าม ข้าพเจ้าคิดว่าธรรมานุภาพ(เวยเต๋อ)ที่ตัวเองรับรู้(อู้)แจ่มแจ้งแล้วนั้น ยังคงเหลือไว้ให้กับพวกท่านเองจะดีกว่า ถ้าให้ข้าพเจ้าตอบให้ นั่นก็ไม่ใช่ของท่านแล้ว

ศิษย์           เวลาฟาเจิ้งเนี่ยน เคล็ดที่ท่องต้องสอดคล้องคงที่แน่นอนกับท่าตั้งมือ ใช่หรือไม่

อาจารย์      ไม่ใช่ เคล็ดทั้งสองชุดสามารถสอดคล้องกับท่าตั้งมือทั้งสองแบบ

ศิษย์           ในการเจิ้งฝ่า เชื่อตามคำบอกเล่าของผู้ฝึกซึ่งตาทิพย์มองเห็น โดยไม่ต้องวัดทุกสิ่งทุกอย่างด้วยต้าฝ่า

อาจารย์      ไม่ว่าเมื่อใด จะทำงานเป็นกลุ่มก็ดี จะยืนยันความเป็นจริงคนเดียวก็ดี ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องยึดต้าฝ่าเป็นสำคัญ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องวัดด้วยต้าฝ่า ไม่สามารถยึดสิ่งที่ตาทิพย์ของใครเห็น เป็นบรรทัดฐานโดยเด็ดขาด เพราะสิ่งที่ศิษย์ทั้งหลายเห็น หลายสิ่งหลายอย่างแม้จะเป็นความจริง แต่ก็เป็นเพียงเฉพาะส่วน ในเวลาเดียวกันก็มีขีดจำกัด ของบางคนยังเป็นภาพลวงซึ่งเกิดจากความยึดติด ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ในจักรวาลนี้ เทพที่มีระดับสูงเพียงใด สำหรับเขาจักรวาลก็เป็นปริศนา เขาก็คือเป้าหมายซึ่งต้องช่วยเหลือท่ามกลางการเจิ้งฝ่าในจักรวาล สิ่งที่พวกเขาเห็นและสามารถรู้ เป็นแต่เพียงสิ่งเหล่านั้นในระดับชั้นที่พวกเขาอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความเป็นจริงของจักรวาลทั้งหมด ยิ่งไม่ใช่ความเป็นจริงสุดท้าย ซึ่งศิษย์ต้าฝ่าจะต้องทำอย่างแท้จริงท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ไม่ว่าพวกท่านจะมองเห็นเทพเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ ได้ยินพวกเขาพูดว่าอะไร ก็อย่าไปเชื่อมัน ให้ทำตามที่ต้าฝ่าและอาจารย์กำหนด เรื่องราวทุกอย่างล้วนต้องเดินให้ตรง(ถูกต้อง) เป็นเรื่องที่ใหญ่และสำคัญอย่างหาที่เปรียบมิได้ ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้ ไม่ใช่นำสิ่งที่ใครสามารถมองเห็นมาเป็นเครื่องชี้นำ

            ในหมู่พวกเราศิษย์ต้าฝ่า ทุกครั้งเวลาทำอะไร การโต้เถียงซึ่งกันและกันย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความเห็นไม่ตรงกันย่อมต้องมีอย่างแน่นอน เพราะเหตุใด จะต้องให้จิตยึดติดของท่านแสดงออกมา เพื่อขจัดมันทิ้งไป แต่ถ้าการโต้เถียงยืดเยื้อไม่ยอมอ่อนข้อให้กันและกัน นั่นคือมีปัญหา เพราะพวกท่านต่างไม่ได้ค้นหาจากภายใน ไม่ดูปัญหาของตัวเอง ทุกคนต่างต้องการรับผิดชอบเพื่อต้าฝ่า มีจุดเริ่มที่ดีทั้งสิ้น แต่โดยมากพวกท่านมักไม่ระวังตัว เป็นไปได้ว่าตัวเองยังมีจิตใจอะไรของคนธรรมดาสามัญอยู่ ขอให้ระวังเรื่องเหล่านี้ไว้ให้ดี

            ท่ามกลางการเจิ้งฝ่า วันนี้เดินมาถึงขั้นนี้ ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหลาย อาจารย์ให้การยืนยันในทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านได้กระทำในระหว่างการเจิ้งฝ่า    เมื่อ 20 กรกฎาคม ปี 1999 ข้าพเจ้าได้ผลักผู้ฝึกก่อน 20 กรกฎาคมทั้งหมดสู่ตำแหน่งแล้ว ผลักสู่ตำแหน่งสูงสุดของพวกท่าน ก่อนนี้ข้าพเจ้าเคยบอกกับพวกท่าน การเปลี่ยนแปลงของพวกท่านเริ่มจากระดับจุลทรรศน์ที่สุด จากธาตุแท้ที่สุด ผู้ฝึกบางคนรู้สึกว่า : ฉันบำเพ็ญได้รวดเร็วนัก ในเวลานั้นทุกคนต่างรู้สึกกันเช่นนี้ ขั้นตอนหยวนหมั่นของพวกท่าน การบำเพ็ญยกระดับในท้ายที่สุดของพวกท่าน ล้วนแต่เพื่อจะให้พวกท่านยืนยันความถูกต้องของฝ่า ฉะนั้นในขั้นตอนของการบำเพ็ญแต่ละคน หากศึกษาฝ่าได้ดี การยืนยันความถูกต้องของฝ่า และการช่วยเหลือสรรพชีวิตท่ามกลางการประทุษร้ายก็จะทำได้ดี ร่างกายชั้นพื้นผิวก็จะกลืนกลาย สู่ระดับชั้นสูงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ชั้นพื้นผิวของคนที่เหลือก็จะน้อยลงน้อยลง สำหรับพวกที่ทำได้ไม่ดี เดินไปทางด้านตรงข้าม ไม่ออกมา ก็จะเห็นร่างกายด้านที่เป็นเทพของพวกเขาเปลี่ยนแปลง(ละลายหมดไป) สู่ชั้นที่ต่ำลงทีละชั้นทีละชั้น แน่นอนเรื่องราวยังไม่จบ ตราบใดการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด สำหรับทุกคนก็ยังมีโอกาสทำให้ดีได้ ใช่ ตราบใดที่การประทุษร้ายยังไม่ยุติแม้แต่วันเดียว วันนั้นก็คือโอกาส ใช้เป็นประโยชน์ให้ดี ทำให้ดียิ่งขึ้น รีบกลับมาใหม่อีกครั้งแต่โดยเร็ว อย่าแบกความกังวล ทำผิดแล้วท่านก็ทำให้ดีอีกครั้ง เรื่องในอดีตไม่ต้องไปคิด ให้คิดว่าจากนี้ไปจะทำให้ดีได้อย่างไร รับผิดชอบให้กับตัวท่านเองและต่อสรรพชีวิตอย่างแท้จริง

            นอกจากนี้ ข้าพเจ้าถือโอกาสนี้ขอพูด ผู้ฝึกพวกเราบางคนเวลาทำงานมีความไม่ลงรอยกัน มักชอบที่จะโทรศัพท์ไปหาคนในครอบครัวข้าพเจ้าให้แสดงท่าที ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน คนในครอบครัวของข้าพเจ้าก็เป็นผู้บำเพ็ญ หลายสิ่งหลายอย่างพวกเขาก็ไม่มั่นใจ ยิ่งกว่านั้นยังอาจทำผิดได้ พูดผิดได้ คำพูดของพวกเขาไม่ใช่ฝ่า ทุกท่านจากนี้ไปอย่าได้ทำเรื่องอย่างนี้อีก พวกท่านอย่าได้ผลักไสโอกาสก่อตั้งธรรมานุภาพ(เวยเต๋อ)ของตัวเอง โอกาสของการบำเพ็ญยกระดับของตัวเองออกไป ท่ามกลางการเจิ้งฝ่าทุกคนต่างกำลังเดินไปบนหนทางของตัวเอง นั่นก็คือประวัติศาสตร์ที่ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนเดินผ่าน

            ก็จะพูดเพียงเท่านี้ จากนี้ใครมีคำถามยกขึ้นมาได้

ศิษย์           อาจารย์ทำไมชอบใช้ศิษย์เด็กเล็กทำงานบนสวรรค์

อาจารย์      เพราะพวกเขาไม่มีทัศนะความคิด ซึ่งก่อเกิดหลังกำเนิดของผู้ใหญ่ นิสัยโดยธรรมชาติค่อนข้างบริสุทธิ์ พลังงานที่ส่งออกไปไม่ถูกกระทบจากความคิดของคนธรรมดาสามัญ พูดจากอีกด้านหนึ่ง ความสามารถมากหรือน้อยไม่ถูกจำกัดด้วยอายุของคนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           ในสภาพแวดล้อมของชีวิตที่มัวเมาตั๋วกระดาษ และลุ่มหลงเงินทองของคนฮ่องกง จะช่วยให้พลโลกได้ฝ่าได้อย่างไร

อาจารย์      พวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ซึ่งต้องพิษร้ายจากคำโกหกของสิ่งชั่วร้าย เพียงแต่ไม่คัดค้านต้าฝ่า ก็จะสามารถเดินผ่านอันตรายของการถูกกำจัดทิ้งเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ แต่พวกที่ไม่บ่อนทำลายฝ่า แต่ก็เป็นชีวิตที่ไม่ดีหรือไม่ค่อยดีนัก ณ เวลานี้ไม่ต้องไปสนใจทั้งหมด เพราะขั้นต่อไปยังจะมีผู้บำเพ็ญ สรรพชีวิตขั้นต่อไปยังจะต้องจัดวางตำแหน่งของพวกเขาท่ามกลางฝ่าปรับโลกมนุษย์ ปัจจุบันนี้จุดสำคัญของการช่วยหลืออยู่ที่พวกที่ต้องพิษร้ายจากคำโกหกของสิ่งชั่วร้าย ในการช่วยเหลือสรรพชีวิต ชีวิตชั่วร้ายมากๆเหล่านั้นที่กำจัด ก็เพียงแต่มุ่งต่อชีวิตซึ่งบ่อนทำลายฝ่า ยังมีชีวิตอีกมากมายซึ่งมีมาตรฐานเดียวกับพวกมัน แต่ไม่ได้บ่อนทำลายฝ่า ไม่ได้เข้าร่วมในเรื่องนี้ ทั้งหมดไม่ต้องไปสนใจ เพราะเหตุใดหรือ พวกที่ไม่ได้บ่อนทำลายฝ่า ในการเจิ้งฝ่าขั้นต่อไป สำหรับพวกเขาพูดขึ้นมาก็คือกำลังให้โอกาส ในเวลาเดียวกันขั้นต่อไปคนยังจะต้องบำเพ็ญ นั่นจัดเป็นเรื่องในขั้นต่อไป

            วันนี้สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำก็คือพุ่งเป้าไปที่การรับผิดชอบต่อต้าฝ่า เรื่องของสังคมมนุษย์ไม่ต้องไปแตะต้อง ในการอธิบายความเป็นจริงไม่ต้องพูดสูงจนเกินไป โดยหลักไม่ใช่จะบอกให้คนเข้าใจว่าฝ่าอันลึกซึ้งคืออะไร ยกเว้นคนที่ดีเป็นพิเศษก็สามารถบอกกับเขาได้ กับคนทั่วๆไป ในการอธิบายความเป็นจริง ท่านก็บอกเขาว่าพวกเราถูกประทุษร้าย พวกเราเพียงแต่ฝึกพลังกงปฏิบัติตนเป็นคนดี คนก็สามารถจะเข้าใจแล้ว คนหลังจากเข้าใจความเป็นจริงแล้ว เห็นการโฆษณาชวนเชื่อเป็นการปลุกปั่นข่าวลือทั้งสิ้น ผู้คนก็จะเห็นความต่ำทรามและความชั่วร้ายของมันโดยอัตโนมัติ ผู้คนเมื่อรู้แล้วก็จะเกิดความโกรธแค้น : รัฐบาลอะไรสามารถทำการอันเป็นอันธพาลได้ถึงระดับนี้ ยิ่งกว่านั้นสาเหตุของการถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงเช่นนี้ ต้องประสบกับการประทุษร้าย เพียงเพราะการปฏิบัติตนเป็นคนดี ให้อธิบายเหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ ที่สุดให้คนธรรมดาฟัง พวกเขาไม่เพียงแต่สามารถรับได้ เข้าใจได้ ยังจะไม่ทำให้พวกเขาเข้าใจผิดได้โดยง่ายอีกด้วย พวกท่านบำเพ็ญมานานเช่นนี้ ความเข้าใจต่อฝ่าของพวกท่านลึกซึ้งอย่างมากแล้ว ถ้าท่านจะพูดความเข้าใจต่อฝ่าในระดับชั้นสูง คนธรรมดาสามัญก็จะเข้าใจได้ยาก ยิ่งกว่านั้นยังเข้าใจผิดได้ง่าย พวกท่านผ่านขั้นตอนการบำเพ็ญมาเป็นเวลายาวนาน จึงมีความเข้าใจที่สูงในวันนี้ ท่านอยากจะให้คนเข้าใจสูงเช่นนี้ในทันที เขาไม่สามารถจะเข้าใจ ฉะนั้นอย่าพูดให้สูงนัก แม้แต่เวลาอธิบายความเป็นจริงต่อคนในศาสนาอื่นก็อย่าพูดให้สูง ให้พูดถึงการประทุษร้ายที่พวกเราประสบ ยิ่งกว่านั้นพวกเขาก็ไม่อยากฟังเรื่องความเชื่อถือศรัทธาอื่นๆ พวกเราก็ไม่ต้องพูดเรื่องความเชื่อถือศรัทธากับเขา พวกเราก็คือฝึกพลังกง ปัจจุบันนี้ช่วยเหลือคนยากลำบากอย่างยิ่ง ท่านต้องอธิบายโดยโอนอ่อนตามไปกับความยึดติดของพวกเขา เพื่อจะช่วยพวกเขาอย่าได้สร้างอุปสรรคใดๆ ให้เกิดขึ้นในความคิดของพวกเขา

ศิษย์           ผมเป็นศิษย์ใหม่เพิ่งจะได้ฝ่าไม่กี่เดือน ผมกับศิษย์ซึ่งได้ฝ่าก่อน 20 กรกฎาคม ปี 1999 มีความแตกต่างกันอย่างไร

อาจารย์      อิทธิพลเก่าก็ได้จัดเตรียมให้ศิษย์ต้าฝ่า เข้ามาในต้าฝ่าในช่วงเวลาของการประทุษร้ายด้วย พวกมันรู้สึกว่าการเข้ามาในสภาพการณ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้ จะมีธรรมานุภาพ(เวยเต๋อ)ทันที แต่บางคนจัดอยู่ในพวกที่จะหยวนหมั่นในกลุ่มต่อไป ไม่อยู่ในขอบข่ายนี้ ดังนั้นเวลานี้จึงไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่า คนไหนสภาพการณ์เป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ได้ต้าฝ่าก็คือมหาโชคแห่งมหาโชค จึงต้องใช้เวลาช่วงนี้เป็นประโยชน์ให้ดี ให้ตัวเองสามารถบำเพ็ญได้ฝ่าอย่างแท้จริง บำเพ็ญขึ้นมา ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถได้ฝ่า ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเดินเข้ามาในนี้ เพราะนี่คือต้าฝ่าแห่งจักรวาล ในปีนั้นเมื่อถ่ายทอดฝ่า ทำไมอิทธิพลเก่าจึงกำหนดจำนวนคนที่จะได้ฝ่าครั้งแรก จำกัดตายตัวไว้ที่ 100 ล้านคน 100 ล้านคนนี้ยังเป็นตัวเลขที่ข้าพเจ้าต้องการอย่างแน่นอน ในเวลานั้นพวกมันจำกัดตัวเลขไว้ที่ 70 ล้านคน ในเวลานั้นข้าพเจ้าต้องการ 200 ล้านคน พวกมันรู้ว่าถ้าคนที่ได้ฝ่าครั้งแรกเป็น 200 ล้านคน การทดสอบอันชั่วร้ายตามที่เรียกกันก็จะทำไม่สำเร็จ ดังนั้นพวกมันจึงจำกัดตายตัวไว้ที่ 100 ล้านคน ในจำนวนนั้นมีคนกลุ่มใหญ่ซึ่งเพิ่งจะได้ฝ่า พวกมันจึงร้อนรน รอไม่ไหวที่จะเริ่มมารผจญตามที่เรียกกัน สำหรับคนเหล่านี้พูดได้ว่าไม่ยุติธรรม คนที่ได้ฝ่าในระยะหลัง ข้าพเจ้าไม่ได้บอกว่าท่านอยู่ในประเภทไหน พวกท่านอย่าได้คิดในสิ่งเหล่านี้ ให้ทำในสิ่งที่ท่านสมควรทำ

ศิษย์           สวัสดีท่านอาจารย์ ผมมีคำถามหนึ่งข้ออยากถาม ในจิงเหวินใหม่ ท่านพูดถึง “ซินซันฉาย” (สามอาณาจักรใหม่) ศิษย์ไม่เข้าใจ ขอให้ท่านอาจารย์ช่วยอธิบายให้เข้าใจ

อาจารย์      อันที่จริงคนที่มีอายุเช่นท่านควรจะเข้าใจ ในอดีตคนที่เล่าเรียนในโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเอง หรือเข้าเรียนก่อนปี 1950 ต่างเคยเรียนคัมภีร์สามตัวอักษรในโรงเรียน มันมีอยู่ในคัมภีร์สามตัวอักษร ในวัฒนธรรมจีนตลอดมาล้วนมีการพูดถึง “ซันฉาย”(สามอาณาจักร) ในวัฒนธรรมสามเต๋าก็มีเอ่ยถึงบ่อยๆ “ซันฉาย” อันที่จริงหมายถึง สวรรค์ ปฐพี มนุษย์ “ซินซันฉาย” ก็คือ สวรรค์ใหม่ ปฐพีใหม่ มนุษย์ใหม่

ศิษย์           สวัสดีท่านอาจารย์ ผมมีคำถามหนึ่งข้ออยากถาม ความคิดสายหยู๋(ขงจื้อ)เชื่อมโยงถึงทุกยุคทุกสมัยของจีน เช่นนั้นอยากทราบว่า ความคิดสายหยู๋เกี่ยวข้องอย่างไรกับการถ่ายทอดต้าฝ่าอย่างกว้างไกลในประเทศจีน?

อาจารย์      สายหยู๋ เมื่อครู่ข้าพเจ้าได้พูดไปแล้วว่า เป็นเพียงการสร้างรากฐานความคิดแบบหนึ่งของคนให้มั่นคงเท่านั้น บอกให้คนเข้าใจว่าอะไรคือสายกลาง และสิ่งที่คนสมควรรักษาคำมั่นสัญญา สิ่งที่เป็นรูปธรรมของความกรุณา คุณธรรม มรรยาท สติปัญญา การเชื่อฟัง เหล่านี้เป็นต้น ก็เพียงเท่านี้ วัฒนธรรมของแต่ละยุคสมัยของมนุษยชาติ ล้วนเป็นการกำลังสร้างรากฐานของความคิดซึ่งคนสมควรต้องมีเวลาได้ฝ่า สุดท้ายสามารถเข้าใจฝ่าเมื่อได้ฝ่า สามารถฟังฝ่าได้เข้าใจ

ศิษย์           ปัจจุบันนี้พวกเราทำงานของต้าฝ่ามากจนเวลารัดตัวมากๆ การฝึกพลังกงวันละ 2 ชั่วโมง จึงยากที่ตัวเองจะปฏิบัติได้ ไม่ทราบว่าตัวเองฝึกพลังกงน้อย ทำได้หรือไม่

อาจารย์      ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหลาย อาจารย์ขอพูดว่า ลำบากพวกท่านแล้ว ลำบากจริงๆ ข้าพเจ้าใจไม่แข็งพอที่จะบอกให้พวกท่านทำอะไรที่เป็นรูปธรรมอีก ข้าพเจ้ารู้ หลายๆคนต่างอาสาเข้ามาแบ่งเบาภาระช่วยกันรับผิดชอบทำงานต่างๆ จนกระทั่งมีเวลานอนน้อยกันทุกวัน ยังจะต้องไปทำงาน ลำบากจริงๆ แต่ไม่ว่าจะยากลำบากกันอย่างไร ข้าพเจ้าคิดว่ายังคงต้องเจียดเวลาศึกษาฝ่าและฝึกพลังกง ข้าพเจ้าคิดว่า คนที่บำเพ็ญไม่ฝึกพลังกงไม่ได้ การฝึกพลังกงแม้จะเป็นส่วนเสริมของการยกระดับ แต่ก็คือส่วนหนึ่งของฝ่า มันยังเชื่อมโยงไปถึงการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งร่างกาย แน่นอนถ้ามีงานมากจริงๆ มีงานยุ่งมากจนมีเวลาน้อยสำหรับฝึกพลังกง หรือไม่ได้ฝึกหลายวัน ผ่านไปสักระยะหนึ่งค่อยฝึกเพิ่มเติมก็ได้ ถ้าหากท่านมีงานยุ่งมาก มีเวลาฝึกน้อยจริงๆ อาจารย์ก็มีวิธีที่จะทำให้ท่าน แต่ข้าพเจ้ายังคงรู้สึกว่า พวกท่านมีงานยุ่งมากขึ้นอีกนิด ลำบากมากขึ้นอีกหน่อย นั่นคือธรรมานุภาพของศิษย์ต้าฝ่า ต่อไปภายหน้าหันกลับไปดู จะเห็นว่ามันช่างยอดเยี่ยมวิเศษจริงๆ

ศิษย์           ชีวิตสูงสุดของจักรวาลสร้างออกมาอย่างไร

อาจารย์      ในอนาคตข้าพเจ้าจะบรรยายฝ่าสูงสุดให้กับพวกท่าน ข้าพเจ้าจะบอกว่าจักรวาลก่อเกิดอย่างไร จะพูดถึงปัญหานี้ ให้พูดในเวลานี้ดูจะเร็วไปสักหน่อย

ศิษย์           ในการศึกษาฝ่า อ่านถึงตรงที่ว่า คนบนสวรรค์ 500 ปี เวียนกลับมาเกิดหนึ่งรอบ และคนบนโลก 100 ปี เวียนกลับมาเกิดหนึ่งรอบ เรื่องเป็นอย่างไร

อาจารย์      ในจักรวาล สามภพนี้เป็นระดับที่ต่ำสุด ข้างในสามภพแบ่งเป็น 3 ระดับชั้นใหญ่ จึงเรียกว่าสามภพ ข้างในทุกๆ ระดับชั้นมีสวรรค์ชั้นใหญ่ 3 ชั้น ฉะนั้นรวมทั้งหมดมีสวรรค์ 9 ชั้น และข้างในสวรรค์ 9 ชั้นยังแบ่งเป็นสวรรค์ชั้นเล็กอีกมากมาย ดังนั้นจึงมีคนเรียกว่าสวรรค์ 33 ชั้น อันที่จริงยังมีอีกมาก ภายในขอบเขตนี้ชีวิตทั้งหมดล้วนอยู่ท่ามกลางของการเวียนกลับมาเกิด  ในขณะที่ชีวิตข้างนอกสามภพจะไม่เข้าสู่การวนกลับมาเกิด ชีวิตภายในสามภพ ในแต่ละชาติระยะเวลาของการมีชีวิตค่อนข้างจะสั้น คนบนโลกมีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่สิบปี สูงขึ้นไปหนึ่งชั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 1-2 ร้อยปี สูงขึ้นไปอีกหนึ่งชั้นมีชีวิตอยู่ได้ 2-3 ร้อยปี สูงขึ้นไปอีกหนึ่งชั้นมีชีวิตอยู่ได้ 3-4 ร้อยปี ชั้นที่สูงที่สุดสามารถมีชีวิตอยู่ได้พันปีขึ้นไป แต่ไม่จะยาวนานกี่ปี สุดท้ายเขายังจะต้องตกลงมา เวียนกลับมาเกิดใหม่ ออกนอกสามภพไปแล้วจึงไม่ต้องเวียนกลับมาเกิดอีก

ศิษย์           หนังสือของต้าฝ่าที่ผ่านการแก้ไข จะให้ยึดฉบับใดเป็นบรรทัดฐาน

อาจารย์      เมื่อพบว่ามีตัวอักษรผิด การแก้ไขเป็นสิ่งจำเป็น อาจารย์อยู่ ฝ่าจะไม่สับสน ฉบับภาษาจีนให้ยึดฉบับที่ตีพิมพ์จากไต้หวันเป็นบรรทัดฐาน

ศิษย์           ผมรู้สึกว่าระบบการศึกษาในโรงเรียนในปัจจุบันนับวันจะเบี่ยงเบนออกจาก “เจิน ซั่น        เหยิ่น” มากขึ้นมากขึ้น ดูเหมือนพวกเขาจะสอนเด็กให้กลายเป็นมนุษย์จักรกล ปล่อยปละละเลยไม่สอนให้เป็นคนคิดด้วยเหตุผล ไม่ให้ความสำคัญในเรื่องกุศล(คุณธรรม) ไม่มีความเมตตา ไม่มีความอดทน ฉะนั้นผมจึงไม่อยากลูกไปเข้าโรงเรียน อยากสอนเองที่บ้าน ทำอย่างนี้ผมยึดติดเอนเอียงไปหรือไม่   ผมหวังว่าต่อไปจะมีโรงเรียนของต้าฝ่า

อาจารย์      ปัจจุบันข้าพเจ้าบรรยายฝ่าโดยประมวลเข้ากับวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน มนุษยชาติกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ปัจจุบันถึงแม้ว่าการศึกษาในโรงเรียนไม่สามารถจะสอนให้เด็กใฝ่ความดี ปล่อยปละละเลยความคิดของเด็ก แต่ความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังสามารถเป็นประโยชน์ให้พวกเขารู้จักฝ่าในอนาคต แน่นอนมีโรงเรียนของศิษย์ต้าฝ่าจะยิ่งดีกว่า แต่ก่อนที่จะมี ข้าพเจ้าคิดว่า ให้เขามีความรู้บ้างจะดีกว่า กลับมาบ้าน ตัวเองค่อยสอนให้อ่าน “จ้วนฝ่าหลุน” ค่อยสั่งสอนให้เขาเป็นคนอย่างไร ปัจจุบันนี้ทำได้แต่เพียงเช่นนี้ ขั้นตอนระหว่างกาลนั้นสั้นมาก

ศิษย์           เกี่ยวกับจิงเหวินซึ่งตีพิมพ์ออกมาหลังสุด เพราะเหตุใดจึงมีการแก้ไขหลายจุด

อาจารย์      จิงเหวิน 6 ฉบับซึ่งตีพิมพ์ออกมาหลังสุดนี้ ข้าพเจ้าติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ทั้งสิ้น บอกให้หมิงฮุ่ยเน็ตจดบันทึกด้วยวาจา ดังนั้นจึงมีผิดพลาดคลาดเคลื่อน เมื่อมีคนอ่านพบแล้ว มาถามข้าพเจ้าจึงค่อยไปดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีงานยุ่งจึงไม่มีเวลาดู เกิดขึ้นเพราะเหตุนี้

ศิษย์           ผมมาจากเกาหลี ตามที่ผมเข้าใจ ภายใต้ต้าฝ่าทุกๆ คนควรจะเท่าเทียมกัน แต่ผู้ฝึกใหม่หลายๆ คน พวกเขายังมีความแตกต่างทางด้านวิชาความรู้ ขอให้ท่านอธิบายด้านนี้สักหน่อย

อาจารย์      อันที่จริง เมื่อมีการแปล “จ้วนฝ่าหลุน” เป็นภาษาต่างๆ ความเข้าใจต่อฝ่า ณ ชั้นพื้นผิวไม่มีผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างบำเพ็ญ ความหมายที่ครอบคลุมของฝ่าไม่ปรากฏอยู่ ณ ชั้นพื้นผิวของตัวอักษร ท่านอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง ท่านจะพบว่าท่านจะมีความเข้าใจใหม่ๆ ในหลักการของฝ่า จะเห็นหลักการของฝ่ามากขึ้น อันที่จริงฝ่ากำลังเปิดสติปัญญาของท่าน ฉะนั้นการยกระดับจะไม่ถูกกระทบ ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้แก่ผู้เฒ่าซึ่งไม่รู้หนังสือมากมาย อาศัยการศึกษาฝ่าจนรู้หนังสือ ยิ่งกว่านั้นการยกระดับก็ไม่มีผลกระทบใดๆ

ศิษย์           ผู้ฝึกใหม่มีอุปสรรคทางด้าน ไม่สามารถเข้าใจฝ่า

อาจารย์      ให้ผู้ฝึกใหม่เข้าใจทีละเล็กละน้อย ท่านก็ไม่ต้องพูดให้สูงจนเกินไปนัก พูดแต่เพียงชั้นพื้นผิว ยกระดับซินซิ่งให้สูงขึ้นอย่างไร ขจัดโรคภัยเสริมสร้างร่างกายอย่างไร ต่อไปภายหน้าเวลายาวนานขึ้น เมื่อเขาอ่านหนังสือได้มากแล้ว เขาก็จะรู้เอง

ศิษย์           มีคนตะวันตกมาฝึกพลังกงกับพวกเรามากมาย ทุกระดับอายุ พวกเราสามารถจะจัดทำดนตรีสำหรับฝึกพลังกงขึ้นมาหนึ่งชุด เหมือนเทปบันทึกเสียงบรรยายฝ่าโดยคงรักษาเสียงออกคำสั่งของอาจารย์เอาไว้ พร้อมกับเสริมด้วยคำแปลภาษาอังกฤษ ได้หรือไม่

อาจารย์      ทำได้ แต่คำเคล็ดไม่ต้องแปล คำเคล็ดก็คือคาถาที่คนธรรมดาสามัญท่อง การออกเสียงของอักษรทุกตัวและการแสดงออกจะก่อเกิดความสัมพันธ์ ณ ร่างนภา(เทียนถี่)ที่กำหนด เมื่อแปลก็ทำให้การออกเสียงไม่ถูกต้องและองค์ประกอบข้างในสูญเสียไป

ศิษย์           ดิฉันจะขอถาม ดิฉันรู้สึกนี่เป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างจะทั่วไป คือดิฉันมีความรู้สึกว่า ศิษย์ต้าฝ่าออกไปหงฝ่าเป็นจำนวนมาก ต่างรู้สึกว่าดีมาก และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนได้ง่าย แต่อยู่ที่บ้านดูเหมือนด่านจะค่อนข้างใหญ่ เป็นต้นว่าคู่ครองของบางคนไม่ค่อยเข้าใจ เหมือนเช่นพ่อแม่ดิฉัน อยู่ในประเทศจีนก็มีฐานะในระดับหนึ่ง เขาจึงรู้สึกว่ามีแรงกดดันใหญ่มาก ดิฉันรู้สึกว่าครอบครัวของศิษย์ต้าฝ่าเป็นจำนวนมากที่อยู่ในประเทศจีนต่างรู้สึกว่าฝ่าหลุนกงดี แต่พวกเขากลัวว่าพวกเราอยู่ข้างนอกจะมีอันตราย แต่ดิฉันก็รู้สึกว่าครอบครัวของศิษย์ต้าฝ่าเหล่านี้ ในเวลาเดียวกันก็ได้แบกรับเรื่องต่างๆ ด้วย ดิฉันไม่ทราบว่าเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ ที่ไปของพวกเขาจะเป็นอย่างไร

อาจารย์      จิตใจเช่นนี้ต้องปล่อยวาง ฝ่ากำลังวัดการแสดงออกของสรรพชีวิตอยู่ในเวลานี้ ถ้าหากไม่ได้บ่อนทำลายฝ่า เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา ถ้าหากมีความคิดที่ไม่ดีต่อฝ่า เช่นนั้นพูดถึงการช่วยเหลือสรรพชีวิต ก่อนอื่นพวกท่านต้องอธิบายให้กับคนในครอบครัวให้เข้าใจ ต้องพยายามอธิบายให้พวกเขาเข้าใจให้มากที่สุด ช่วยพวกเขาขจัดความคิดเหล่านี้ทิ้งไป

ศิษย์           การแสดงทางศิลปะหลังจากปิดฝ่าฮุ่ยครั้งนี้แล้ว มีคนธรรมดาสามัญมา ในสังคมมนุษย์สำหรับบทเพลงที่ค่อนข้างถูกต้อง สามารถร้องได้หรือไม่

อาจารย์      การแสดงทางศิลปะของพวกเรา คนธรรมดาสามัญมาฟังได้ เป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิตนี่ ฝ่าฮุ่ยของพวกเราก็อนุญาตให้คนธรรมดาสามัญมาฟัง บทความที่ผู้ฝึกพูด ณ ฝ่าฮุ่ยมีประโยชน์สำหรับพวกเขา ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สำหรับเรื่องที่ว่าบทเพลงของคนธรรมดาสามัญ สามารถนำมาร้องในหอประชุมใหญ่ต้าฝ่าของเราได้หรือไม่ ไม่ได้ (เสียงปรบมือ) เพราะเหตุใด ถ้าหากเป็นการแสดงในสังคมมนุษย์ ท่านไปร่วม ศิษย์ต้าฝ่าไปร่วมแสดงกับคนธรรมดาสามัญ ถ้าไม่ใช่บทเพลงระดับต่ำ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง นั้นไม่เป็นไร ถ้าหากเป็นงานแสดงดนตรีต้าฝ่าล้วนๆ ของพวกเรา ข้าพเจ้าคิดว่า ก็ให้มันคงความบริสุทธิ์เอาไว้สักหน่อย ไม่ใช่จัดโดยพวกเราต้าฝ่าก็ไม่เป็นไร จะต้องแยกแยะปัญหานี้ ท่านถามว่าบทเพลงที่ถูกต้องได้หรือไม่ ปัจจุบันนี้มันยากที่จะรู้ว่าผู้ประพันธ์บทเพลงเคยประทุษร้ายหรือไม่ ท่านรู้ไหมว่าเขาเคยเขียนบทเพลงประทุษร้ายหรือไม่ในประเทศจีน เวลานี้พวกท่านก็ไม่สามารถจะวัดได้ ถ้าหากผู้ประพันธ์เป็นศิษย์ต้าฝ่า ตัวบทเพลงไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองก็ทำได้ แต่ปัจจุบันนี้สิ่งเหล่านี้มันยากที่จะควบคุม

ศิษย์           ผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่ออกมาหงฝ่า จะต้องถูกจับอย่างแน่นอน ถ้าหากไม่หงฝ่า ก็กลัวจะกระทบถึงระดับชั้นของตัวเองในขั้นตอนการเจิ้งฝ่า ศิษย์จีนแผ่นดินใหญ่จะปฏิบัติอย่างไร

อาจารย์      เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องทั้งสองแบบ ไม่ออกมาหงฝ่าก็กลัวจะกระทบกับระดับชั้น กลัวจะกระทบกับการยกระดับ กลัวจะกระทบกับการหยวนหมั่น กลัวจะกระทบกับสิ่งนี้ กลัวจะกระทบกับสิ่งนั้น โดยไม่ใช่ดูปัญหาจากมุมของศิษย์ต้าฝ่าอย่างแท้จริง ศิษย์ต้าฝ่าสมควรต้องยืนยันความถูกต้องของฝ่า สมควรต้องไปช่วยเหลือสรรพชีวิต เพราะจิตใจเหล่านี้ของคนธรรมดาสามัญ จึงเกิดปัญหาได้ง่าย จึงมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย

            สถานการณ์ในประเทศจีนข้าพเจ้ารู้ดี เข้าใจชัดเจนอย่างยิ่ง ไม่ยืนยันความถูกต้องของฝ่า เช่นนั้นการเป็นศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าคิดว่าไม่สมควร ข้าพเจ้าไม่สามารถพูดให้เป็นรูปธรรมนัก หลายสิ่งหลายอย่างล้วนเป็นการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ยิ่งกว่านั้นยังจัดเตรียมอย่างเป็นรูปธรรม ปรากฏออกมาซับซ้อนอย่างยิ่ง   แต่แท้จริงแล้วเป็นระเบียบยิ่งนัก

            ศิษย์ต้าฝ่าภายใต้สถานการณ์สองแบบซึ่งพวกมันไม่อาจจะทำอะไรได้ หนึ่งคือแข็งแกร่งประดุจก้อนหินที่หนักและใหญ่ พวกมันไม่กล้าจะทำอะไร เพราะในเวลานั้นพวกเขารู้ ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลเก่าก็ดี หลักการเก่าก็ดี ถ้าศิษย์คนนี้เดินได้ถูกต้อง(ตรง) ทำได้ดี ถ้าใครยังกล้าประทุษร้าย ข้าพเจ้าจะไม่อภัยให้มันอย่างเด็ดขาด ร่างกายข้าพเจ้ายังมีเทพถูกต้องนับจำนวนไม่ถ้วน ข้าพเจ้ายังมีฝ่าเซินนับจำนวนไม่ถ้วนก็จะทำการเจิ้งฝ่า กลัวแต่ตัวศิษย์เองจิตใจไม่มั่นคง ยึดติดกับสิ่งนี้ หวาดกลัวสิ่งนั้น อิทธิพลเก่าเห็นแล้วก็จะจับจิตใจที่มีจุดรั่วและประทุษร้าย และท่ามกลางการถูกประทุษร้ายมีเจิ้งเนี่ยนไม่พอ จึงประสบกับการประทุษร้ายมากขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นสภาพการเช่นนี้ และผู้ฝึกส่วนใหญ่ของส่วนนี้ จัดอยู่ในพวกที่ไม่เคยผูกวาสนาโดยตรงกับข้าพเจ้าในประวัติศาสตร์ การถ่ายทอดฝ่าครั้งนี้ ประตูเปิด ไม่ได้สกัดกั้นอิทธิพลเก่า พวกเขาเข้ามา แต่ผู้ฝึกเหล่านี้ส่วนใหญ่ต่างแสดงออกมาได้ดีมาก ขณะที่คนที่เคยผูกวาสนาด้วยในประวัติศาสตร์ พวกมันไม่กล้าประทุษร้ายมากนัก เพราะพวกเขาเคยรับโทษเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ การเป็นศิษย์ต้าฝ่า ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหน ถ้าหากสามารถทำได้ดีอย่างนั้น การประทุษร้ายครั้งนี้ก็สิ้นสุดไปก่อนหน้านี้นานแล้ว จะพูดว่าสามารถทำได้ดี นี่ไม่ใช่เพียงแต่พูดก็จะสามารถทำได้ นั่นคือการวางรากฐานอันแข็งแกร่งและมั่นคง คือการศึกษาฝ่าตลอดเป็นระยะเวลายาวนาน อันที่จริงคนส่วนใหญ่ต่างทำได้ดีอย่างยิ่ง พวกที่ทำได้ไม่ดีคือจะปรากฏออกมาในผู้ฝึกส่วนที่สาม เนื่องจากทำได้ไม่ดี การประทุษร้ายจึงยิ่งรุนแรง จึงทำให้สถานการณ์ของต้าฝ่า ถูกประทุษร้ายจนดูน่าหวาดกลัวและอันตรายอย่างยิ่ง อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นคนส่วนไหน อาจารย์จะปฏิบัติเสมือนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานเหมือนกันหมด พวกเราอยู่นอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ พูดถึงการปล่อยวางความเป็นความตาย และผู้ฝึกทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนั้น เผชิญกับแรงกดดันแบบนั้น อยู่ภายใต้สถานการณ์อย่างนั้น พูดถึงการปล่อยวางความเป็นความตาย ไม่ใช่ประเด็นโดยสิ้นเชิง ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูดในสิ่งเหล่านี้มากเกินไป แต่ถ้าอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมนั้น พวกเขาปล่อยวางความเป็นความตายได้จริงๆ สภาพการณ์ก็จะไม่เหมือนกัน ถ้ามีศิษย์ต้าฝ่าถูกจับ ไม่รู้สึกสะทกสะท้านหวั่นไหว ไม่มีจิตหวาดกลัวแต่อย่างใด ท่านดูอิทธิพลเก่ามันก็ไม่กล้าประทุษร้ายเขา เพราะพวกมันรู้ว่า คนๆนี้ถ้าท่านไม่ตีเขาให้ตาย จะประทุษร้ายอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงไม่แตะต้องเขา มีผู้ฝึกสักกี่คนสามารถทำได้ ความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ต่อฝ่าของพวกเขาทำให้สิ่งชั่วร้ายหวาดผวา แต่คนที่มีความยึดติดของคนธรรมดาสามัญรุนแรงเกินไป ศึกษาฝ่าไม่ลึกซึ้ง ก็ทำให้ตัวเองประสบความเจ็บปวดทุกข์ทรมานต่างๆ ที่ไม่สมควรต้องประสบ บางคนเคยเขียน ”หนังสือสำนึกผิด” อะไรเอย หรือเคยเซ็นหนังสืออะไรเอย เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ยอมรับการประทุษร้ายครั้งนี้ เพราะฉะนั้นก่อนที่เรื่องนี้จะสิ้นสุด ข้าพเจ้ายังจะให้โอกาสพวกเขาอีก ในทางปฏิบัติข้าพเจ้าเห็นแล้ว ผู้ฝึกส่วนใหญ่หลังจากถูกประทุษร้ายแล้ว สามารถมีความเยือกเย็นสุขุมมากขึ้น สามารถเข้าใจต้าฝ่าอย่างมีสติสัมปชัญญะ และมีความเข็มงวดในการบำเพ็ญมากขึ้น ในเวลาเดียวกันก็เห็นความรุนแรงของการประทุษร้ายครั้งนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อครั้งที่ทำอะไรโดยที่ยังมีจิตใจของคนธรรมดาสามัญอยู่มากมาย จิตใจเหล่านี้ค่อยๆ ปล่อยวางลงแล้ว ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาทำ นับวันจึงบริสุทธิ์ถูกต้องมากขึ้นมากขึ้น นับวันจึงดีมากขึ้นมากขึ้น นับวันจึงเด็ดเดี่ยวแน่วแน่มากขึ้นมากขึ้น ยิ่งมีสติสัมปชัญญะมากขึ้น อย่าดูที่ชั้นพื้นผิวของการประทุษร้ายนั้น เมื่อฝ่ามาถึงโลกมนุษย์ความเป็นจริงทั้งหมดก็จะปรากฏออกมาให้เห็น ศิษย์ต้าฝ่าในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่นั้นยอดเยี่ยม

ศิษย์           มีสองคำถามใคร่ขอถาม คำถามที่หนึ่ง เพื่อนสนิทมิตรสหายของศิษย์ต้าฝ่าบางคนซึ่งอยู่นอกประเทศจีน ล้วนเคยฝึกพลังกงมาก่อน แต่ต่อมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ประทุษร้ายก็ค่อยๆ เลิกราไป พวกเขาอยากทราบว่า เวลานี้ควรจะทำอย่างไร คำถามอีกข้อหนึ่ง ศิษย์ซึ่งมุมานะมากๆ บางคน ดูเหมือนบางครั้งกรรมแห่งโรคยังปรากฏออกมาค่อนข้างรุนแรง พวกเขาอยากทราบว่า นี้คือกรรมของตัวเอง หรือเป็นการบ่อนทำลายของสิ่งชั่วร้าย พวกเขาควรปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างไร

อาจารย์      คำถามที่หนึ่ง พวกเขาคิดจะทำอย่างไร ให้พวกเขาตัดสินใจเอาเอง ต้องดูที่ตัวพวกเขาเอง คำถามที่สอง เมื่อพบกับเรื่องอะไรก่อนอื่นให้ดูที่ตัวเอง นี้คือเอกลักษณ์เด่นชัดที่สุดของความแตกต่าง ระหว่างศิษย์ต้าฝ่ากับคนธรรมดาสามัญ ถ้าหากตัวพวกเราเองไม่มีปัญหาจริงๆ นั่นย่อมเป็นการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ ช่วงเวลาของการเจิ้งฝ่าในปัจจุบัน กรรมของศิษย์ต้าฝ่าไม่ใช่ปัญหาแล้ว ต้องเข้าใจอย่างมีสติถึงการประทุษร้ายของชีวิตชั่วร้าย พวกมันกำลังทำเรื่องเลวทรามอยู่อย่างแท้จริง ดีที่สุดคือศิษย์ต้าฝ่าเดินหนทางของตัวเองให้ถูกต้อง(ตรง) อย่าให้สิ่งชั่วร้ายจับเป็นข้ออ้างเพื่อประทุษร้าย

ศิษย์           ผมสามารถจะคาดคะเนว่าจักรวาลใหม่เป็นอย่างไร ได้หรือไม่

อาจารย์      มนุษยชาติจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจักรวาลจนถึงมนุษยชาติก็กำลังเปลี่ยนแปลง จักรวาลใหม่ได้ทำให้องค์ประกอบต่างๆ อันไม่สมบูรณ์แบบของจักรวาลเก่าสมบูรณ์แบบแล้ว จักรวาลใหม่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ในเวลาที่ไม่ใช้รูปแบบการเจิ้งฝ่าแบบนี้ในอดีต โดยมูลฐานนี้คือสิ่งที่ไม่สามารถจะแก้ไขได้ ในอดีตทุกช่วงเวลาเมื่อจักรวาลไม่ไหวแล้วก็จะสลายตัวแล้วจัดสร้างใหม่ พัฒนากันใหม่ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงใช้การเจิ้งฝ่าครั้งนี้แก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆมากมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สามารถพูด แต่ข้าพเจ้าบอกทุกท่านได้ เพราะมนุษยชาติเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล เนื่องจากต้าฝ่าเคยถ่ายทอดอยู่ ณ ที่ตรงนี้ ในอดีตที่ตรงนี้ไม่มีมนุษยชาติ ในอดีตไม่ว่าจะสลายตัวและจัดสร้างโลกขึ้นมาใหม่อีกกี่ใบ ชีวิตที่เป็นองค์ประกอบสำคัญล้วนมีรูปลักษณ์ของมนุษย์ต่างดาว แต่ละครั้งมีรูปโฉมภายนอกแตกต่างกันอย่างมาก ล้วนแต่ไม่มีรูปโฉมภายนอกและระบบภายในของคน ยิ่งไม่มีความคิดของคน ขณะที่คนในปัจจุบันนั้นจัดสร้างขึ้นสำหรับการถ่ายทอดต้าฝ่า ฉะนั้นหลังจากขจัดคนที่ทำบาปต่อต้าฝ่าทิ้งไปแล้ว คนที่เหลือก็จะโชคดีมีสุข ดังนั้นในอนาคตคนบนโลกจะมีรูปลักษณ์ของคนอย่างแท้จริง พูดอีกนัยหนึ่งมนุษยชาติรุ่นต่อไปในอนาคตได้เริ่มต้นขึ้นแล้วจริงๆ ตรงนี้เป็นรูปแบบชีวิตซึ่งจัดสร้างขึ้นสำหรับการถ่ายทอดต้าฝ่า ในอนาคตยังจะมีพุทธะ เต๋า เทพ ลงมายังโลกเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ สรรพชีวิตยังจะได้รับฟังฝ่า สรรพชีวิตยังจะได้รับการช่วยเหลือ แต่จะไม่มีเรื่องซึ่งเทพที่ลงมาช่วยเหลือมนุษย์ ถูกตรึงไว้บนไม้กางเขนอีกแล้ว

ศิษย์           ดิฉันใคร่ขอถาม เวลาพวกเราอธิบายความเป็นจริงจะมีการพูดถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากพวกเราไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเหตุ ไม่ทราบว่าจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้หรือไม่

อาจารย์      ในการเจิ้งฝ่า ให้พวกท่านใช้ภาษาของมนุษย์ซึ่งมนุษยชาติสามารถเข้าใจ อธิบายความเป็นจริงของฝ่าด้วยเหตุผลธรรมดาทั่วไป ให้อธิบายตามที่มนุษยชาติปัจจุบันสามารถเข้าใจระหว่างดีและเลว ถูกและผิดก็เพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะเกี่ยวโยงไปถึงใครในประวัติศาสตร์ก็ไม่มีปัญหา

ศิษย์           ดิฉันเพียงแต่อยากจะยกตัวอย่างตามที่ท่านอาจารย์กล่าวไปเมื่อครู่ว่า ในสถานการณ์ของผู้ฝึกจีนทำได้ดี ตามที่ดิฉันติดต่อด้วย เพื่อนสนิทมิตรสหายที่ดิฉันติดต่อด้วย แทบทุกคนมีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ พวกเขาบางคนไปเทียนอันเหมิน ไปอย่างเปิดเผย เช้าไปเย็นกลับ ตอนเช้าขึ้นเครื่องบินไป ตอนค่ำขึ้นเครื่องบินกลับ ทั้งร้องตะโกนว่า “ฝ่าหลุนต้าฝ่าดี” แล้วยังแขวนป้ายคำขวัญ ไม่เกิดเรื่องอะไรเลย นอกจากนี้คนแก่อายุเก้าสิบกว่าปียังออกไปหงฝ่าทุกวัน ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรเลย เด็ดเดี่ยวแน่วแน่อย่างยิ่ง ดิฉันทราบมาว่ามีถูกจับเพียงคนเดียว แต่ก็ปฏิบัติได้ดีมาก คุยกับพวกเขาแล้วดิฉันรู้สึกว่าสถานการณ์ดีมาก พวกเขาบอกว่า “สบายดี พวกฉันสบายดี” ฟังแล้วรู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง

อาจารย์      เวลานี้สภาพการณ์ก็เป็นเช่นนี้ เพราะชีวิตชั่วร้ายเหล่านั้นซึ่งอิทธิพลเก่าสามารถใช้เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ยิ่งกว่านั้นพอเห็นศิษย์ต้าฝ่าฟาเจิ้งเนี่ยนก็หนีไปแล้ว พวกท่านไปร้องเรียนที่สถานกงสุล ดูเหมือนสถานกงสุลจะหวาดกลัวมาก ที่หวาดกลัวไม่ใช่คนจริงๆ เป็นสิ่งชั่วร้ายพวกนั้นที่ควบคุมคนอยู่ แสดงออกมา ณ ที่นี้ของคน พวกเขาแสดงออกมาอย่างหวาดกลัวมาก อันที่จริงเป็นองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายที่หวาดกลัว สิ่งชั่วร้ายถูกกำจัดหมดไปแล้ว ในเวลานั้นถ้าคนในสถานกงสุลออกมาฝึกฝ่าหลุนกงกับพวกเรา นั่นคงจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว สำหรับหัวหน้าอันธพาลการเมืองของประเทศจีนคนนั้น เพราะฉะนั้นชีวิตชั่วร้าย พวกมันจึงพยายามควบคุมคนในสถานกงสุล ให้ปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างที่สิ่งชั่วร้ายกระทำ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ปกป้องไม่อยู่แล้ว ในประเทศจีนนอกจากเมืองที่หัวหน้าสิ่งชั่วร้ายอยู่ เขตอื่นๆ สิ่งชั่วร้ายไม่สามารถจะควบคุมพื้นที่ไว้ทั้งหมดแล้ว ชีวิตชั่วร้ายได้ถูกกำจัดทิ้งไปจนเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ภูมิภาคในวงกว้าง สถานการณ์ล้วนกำลังเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ถ้าหากพวกท่านฟาเจิ้งเนี่ยนในระยะกระชั้นชิดต่อหัวหน้าสิ่งชั่วร้าย ถ้าการปกป้องสิ่งชั่วร้ายเพิ่มเติม(พลัง)ให้ไม่ทัน มันก็จะขาดใจ เพราะมันไม่มีสิ่งที่เป็นของคนเหลืออยู่อีกแล้ว หนังผืนนั้นถูกชีวิตชั่วร้ายนั้นค้ำยันเอาไว้โดยสิ้นเชิง การฟาเจิ้งเนี่ยนจึงเป็นการกำจัดพวกมันทิ้งไป ถ้าหากสิ่งนั้นเพิ่มเติม(พลัง)ให้ไม่ทัน มันก็จะต้องตาย ครั้งที่แล้วที่มาร์ธาผู้ฝึกฟาเจิ้งเนี่ยนในระยะกระชั้นชิด มันเกือบจะต้องถูกแบกขึ้นหลังไป เรื่องจึงเป็นเช่นนี้ มันไม่มีสิ่งที่เป็นของคนแล้ว เวลานี้มันไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่มีความคิดที่ปกติของคน มันมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเรา ความคิดด้วยเหตุผลนับวันจะยิ่งไม่มีสติสัมปชัญญะ อันที่จริงสถานกงสุลในบางพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้เริ่มออกมาติดต่อกับพวกเราผู้ฝึก บางคนยังได้มาขอเอกสารข้อมูลไปอย่างเงียบๆ บางคนบอกพวกเราอย่างเงียบๆว่า “ทำได้ดี” (เสียงปรบมือ) ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ หลังจากกำจัดสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นซึ่งควบคุมคนเอาไว้ทิ้งไปแล้ว คนก็เริ่มสงบจิตใจลงมาตรึกตรอง คนกำลังตรึกตรองด้วยตัวเองว่าเรื่องฝ่าหลุนกงที่แท้เป็นอย่างไร ทำไมจึงประทุษร้ายฝ่าหลุนกงเช่นนี้ ยิ่งกว่านั้นยังได้เห็นการประทุษร้ายอันชั่วร้ายเหล่านี้ และคำโกหกทั้งหลาย ความจริงได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกตกใจ เวลานี้ผู้คนต่างกำลังทำความเข้าใจกับความเป็นจริงด้วยตัวเอง

ศิษย์           ผมมีสองคำถาม พวกเราจัดทำรายการโทรทัศน์ “ฟ่างกวงหมิง” (ปล่อยแสงสว่าง) ก่อนหน้านี้พวกเราได้รับคำติชมจากผู้ชมบ้าง บอกว่าการทำข่าวของเราแข็งกร้าวเกินไป

อาจารย์      อันที่จริงสำนวน(ข่าว)ของท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกว่าดีทีเดียว (เสียงปรบมือ) ไม่มีความรู้สึกของการต่อสู้ทางชนชั้นแบบนั้น ค่อนข้างมีความเป็นกลาง สำนวน(ข่าว)อ่อนเกินไปก็ไม่ดี อันที่จริงข้าพเจ้าก็เคยพูดกับสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุในหลายๆพื้นที่ ข้าพเจ้าพูดว่าสำนวนการออกกระจายข่าวของผู้ฝึกลอสแอนเจอลิสเหมาะสมที่สุด ไม่แข็งกร้าวเกินไปและก็ไม่อ่อนเกินไป นุ่มนวลมาก แน่นอนไม่ใช่ชมท่าน ต้องไม่หยิ่งผยอง จึงพูดว่าให้พวกเราพยายามทำให้นุ่มนวลสักหน่อยจะดีกว่า คนธรรมดาสามัญพูดอะไรก็มีทั้งนั้น มันยากที่จะทำให้ครบทั้งห้ารส บางคนชอบรสเผ็ด บางคนชอบรสเปรี้ยว บางคนชอบรสหวาน ให้พวกเราบอกให้คนรับรู้ด้วยโฉมหน้าที่นุ่มนวล ก็เป็นเช่นนี้ แน่นอนให้เป็นธรรมชาติอีกหน่อย ผ่อนคลายอีกหน่อย พอขึ้นหน้ากล้องก็คือนักแสดง ปรุงแต่งรูปลักษณ์อีกสักหน่อย

ศิษย์           ผมยังมีอีกหนึ่งคำถาม คือปัจจุบันนี้นอกจากรายการของต้าฝ่าแล้ว พวกเรายังจัดทำรายการของคนธรรมดาสามัญ บางรายการไม่ได้บรรจุเนื้อหาของต้าฝ่า พวกเราควรจะจัดอัตราส่วนของเวลาอย่างไร จัดเวลามากเท่าใดสำหรับรายการต้าฝ่า เวลาเท่าใดสำหรับรายการที่ไม่ใช่ต้าฝ่า

อาจารย์      อันนี้ขึ้นอยู่กับท่านจะจัดการ รูปธรรมก็ต้องขึ้นอยู่กับท่านไปจัดทำ พวกท่านรู้สึกว่าทำอย่างไรจึงจะเหมาะสม หลังจากวิเคราะห์แล้วก็ทำอย่างนั้น อันที่จริงในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของพวกท่านในวันนี้ ในการอธิบายความเป็นจริงของศิษย์ต้าฝ่า รูปแบบและวิธีการต่างๆ นานา ทุกแง่ทุกมุมที่พวกท่านใช้ล้วนแต่ทำได้ดีมาก พวกท่านอย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย การส่งเอกสารแนะนำสักใบ ข้อมูลสักเล่ม โทรศัพท์สักครั้ง ส่งโทรสารสักใบไปยังประเทศจีน ข้อมูลสื่อสารทุกประเภท มันได้ผลอย่างมาก บังเกิดผลในการสยบและกำจัดสิ่งชั่วร้ายได้อย่างใหญ่หลวง ได้ผลอย่างใหญ่หลวงจริงๆ การที่คนยังมีความคิดไม่ดีอยู่ในหัว เป็นเพราะการปลุกปั่นโฆษณาชวนเชื่อของสิ่งชั่วร้ายนั้น เมื่อคนมีสติแจ่มแจ้งแล้วก็คือเวลาที่สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นถูกกำจัดจนสลายตัวไป ถ้าคนเป็นตัวแทนของร่างนภา(เทียนถี่)ที่ใหญ่โตจริงๆ การเปลี่ยนแปลงของคน นั่นคือชีวิตมากมายจะได้รับการช่วยเหลือ มันบังเกิดผลที่ใหญ่เพียงใด! อันที่จริงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำกันได้ดีอย่างยิ่ง อย่าประเมินสิ่งเหล่านี้ต่ำเกินไป แน่นอนจะทำอย่างไรในทางรูปธรรม ระดับของการทำให้พวกท่านจัดทำกันเอง ทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้คนยอมรับ จัดทำสื่อมวลชนในรูปแบบของสื่อมวลชนของสังคมมนุษย์ นั่นก็ต้องทำให้คนสามารถยอมรับ เป็นบทความเปิดโปงการประทุษร้ายเสียทั้งหมด กลับจะไม่สามารถบรรลุผลดีที่สุด ในการเปิดโปงสิ่งชั่วร้ายและช่วยเหลือสรรพชีวิต เพราะอย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ ฉะนั้นให้พวกเราจัดทำรายการนี้ให้มีเนื้อหาสาระหลากหลายสักหน่อย ให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับคนมากขึ้น ทำให้คนอยากดู พร้อมกับสอดแทรกเนื้อหาของต้าฝ่าไว้ข้างใน ถ้าเป็นเช่นนี้จะได้ผลมากขึ้นกับคนธรรมดาสามัญ เรื่องของคนธรรมดาสามัญไม่มีเลยก็ไม่ได้ เพราะท่านต้องการจัดทำในรูปแบบสื่อมวลชนของคนธรรมดาสามัญ ในอัตราส่วนอย่างไร อันนี้ให้พวกท่านจัดทำในระดับที่เหมาะสมด้วยตัวเอง

ศิษย์           ศิษย์ที่บ้านเกิดฉางชุนส่งความระลึกถึงมายังท่านอาจารย์! เมื่อใดท่านอาจารย์จะสามารถกลับไปพบพวกเขาได้

อาจารย์      ข้าพเจ้าคิดว่าเวลาคงจะไม่ยาวนานแล้ว ประเทศจีนแต่ละรัชสมัยแต่ละยุคล้วนผ่านกันมาเช่นนี้ ฮ่องเต้ของรัชสมัยใดๆ ล้วนแต่เรียกกันหมื่นปี องค์ไหนก็ไม่สามารถ(อยู่)หมื่นปี รัชสมัยใดๆ ต่างก็อยากครองแผ่นดินให้อยู่ยงคงกะพันดั่งทำด้วยเหล็กไหล แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ทำด้วยเหล็กไหล พวกเราไม่มีความคิดที่จะโค่นล้มอำนาจการเมืองของประเทศจีน พวกเราก็ไม่เคยพูดและแสวงหาการเมืองเช่นนี้ พวกเราถูกประทุษร้ายอย่างไม่มีความผิด พวกเราเพียงแต่เปิดโปงแก็งค์การเมืองอันธพาลของสิ่งชั่วร้ายรายนั้นที่ประทุษร้ายพวกเรา การประทุษร้ายครั้งนี้ในความเป็นจริง มีคนในรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์หลายๆ คนคัดค้าน เพียงแต่อยู่ภายใต้แรงกดดันสูง พวกเขาไม่กล้าพูดเท่านั้นเอง แต่การแสดงออกของคนจะกำหนดอนาคตของคน ต้าฝ่ากำลังวัดคนทั้งมวล ข้าพเจ้าจะพูดอีกครั้ง สังคมของมนุษยชาติจัดสร้างขึ้นเพื่อต้าฝ่า ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติจะไม่มีสิ่งใดปรากฏออกมา โดยไม่เกี่ยวข้องกับต้าฝ่าอย่างแน่นอน ทว่าเป็นหัวหน้าสิ่งชั่วร้ายที่พูดออกมาว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จะต้องรบชนะฝ่าหลุนกง” ทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จะต้องรบชนะฝ่าหลุนกงล่ะ คนทั่วทั้งโลกต่างรู้สึกประหลาดใจ พรรคคอมมิวนิสต์ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง กองทัพประเทศจีน ตำรวจและรัฐบาล จะต้องรบชนะกลุ่มคนซึ่งอยู่ภายใต้การนำของเขา กลุ่มคนซึ่งในมือไม่มีแม้แต่ท่อนเหล็กสักนิ้ว เป็นเพียงฝูงชนซึ่งต้องการจะเป็นคนดี ทำไปเพื่ออะไร ช่างไม่มีความฉลาด! อันที่จริงเมื่อต้าฝ่าถ่ายทอดอย่างกว้างไกล จิตใจคนใฝ่หาความดี สังคมมั่นคง ใครจะได้ประโยชน์ ใครเป็นรัฐบาล นี่ไม่ใช่ขาดสติสัมปชัญญะหรอกหรือ พวกเราไม่สนใจต่ออำนาจทางการเมือง อันที่จริงก่อนหน้าการประทุษร้าย สมาชิกในครอบครัวของกรรมการ 7 ท่านในคณะกรรมการศูนย์การปกครองของประเทศจีนคอมมิวนิสต์ต่างก็ฝึกฝ่าหลุนกงอยู่ กรรมการทั้ง 7 ท่านต่างก็ได้อ่านหนังสือแล้ว เรื่องของฝ่าหลุนกงเป็นอย่างไร พวกเขาเข้าใจดีทั้งหมด จิตอิจฉาริษยาซึ่งบ่มเพาะขึ้นมาท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมือง สิ่งนี้ที่บ่มเพาะให้คนกลั่นแกล้งซึ่งและกัน ทำให้เขาขาดสติสัมปชัญญะ ไม่สามารถอดกลั้นต่อสิ่งใด ๆ จิตใจแคบยิ่งนัก ตัณหามากอย่างยิ่ง ขี้ขลาดยิ่งนัก จิตอิจฉาริษยารุนแรงยิ่งนัก ไม่ประสากับเรื่องการปกครองประเทศแม้แต่น้อย ความสามารถในการจัดการเรื่องให้ถูกต้อง ยังสู้หัวหน้าหน่วยงานเล็กๆ ในระดับท้องถิ่นไม่ได้ เวลาขาดสติสัมปชัญญะไม่แตกต่างกับผีปีศาจ หยวนเสินก็เป็นคางคก คนเช่นนี้หาได้ยากนัก! ละครฉากหนึ่งบนโลกมนุษย์ จะไปหานักแสดงคนนี้ได้ที่ใด ในประวัติศาสตร์ใช้เวลาเลือกเฟ้นอยู่เป็นเวลานานกว่าจะค้นพบ! (เสียงปรบมือ) อิทธิพลเก่าไม่ยอมปล่อยให้เขาลงนรกไปในทันที พวกเขาบอกว่า เพราะหาคนแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว