ฝ่าหลุนต้าฝ่า

บรรยายธรรม ณ พื้นที่ต่างๆ (๒)

 

 

หลี่ หงจื้อ


สารบัญ

 

บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ย เมืองฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ปี 2001. 3

บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยเมืองบอสตัน ปี 2002. 15

บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยกรุงวอชิงตัน ดีซี ปี 2002. 25

บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยเมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ปี 2002. 32

บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา. 45

 

 

 

 

 

 

 

 


บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ย เมืองฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ปี 2001

หลี่ หงจื้อ

29 ธันวาคม ค.ศ. 2001

 

สวัสดีทุกท่าน

            นานแล้วที่ไม่ได้พบกัน เนื่องจากทุกท่านจะพูดเรื่องประสบการณ์การบำเพ็ญ ณ ที่ประชุมฝ่าฮุ่ยในครั้งนี้ เวลานี้ความคืบหน้าของต้าฝ่าโดยรวมดำเนินไปได้ค่อนข้างดี อีกทั้งทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยจังหวะก้าวที่มั่นคงในระหว่างการเจิ้งฝ่า ดังนั้นจึงไม่คิดจะพูดอะไรกับทุกท่านเป็นพิเศษ ยิ่งไม่คิดจะบรรยายฝ่าที่ไกลจากสิ่งที่พวกเราทำกันอยู่มากจนเกินไป เพราะเวลาที่ข้าพเจ้ามีเรื่องจะต้องพูด และพูดกับพวกท่าน ก็คือบอกทุกท่านว่าสมควรจะทำอย่างไร ครั้งนี้ เพราะนานแล้วที่ไม่ได้พบกับทุกท่าน ประการแรกคือมาพบปะกับทุกท่าน อีกประการหนึ่งคือ ถือโอกาสเน้นย้ำกับทุกท่านถึงสิ่งที่พวกเราทำกันในเวลานี้ และสถานการณ์โดยรวม ด้านอื่นไม่อยากจะพูดถึงมากนัก จะรบกวนอย่างมากต่อความคืบหน้าของการเจิ้งฝ่าโดยรวมในเวลานี้ของพวกเรา

            ดูจากสถานการณ์ในขณะนี้ เนื่องจากผู้ฝึกต่างสามารถเข้าใจฝ่าจากในฝ่า นอกจากนี้เวลาผ่านไป 2 ปีกว่ามานี้ ทุกท่านได้ฝึกฝนจนนับวันก็ยิ่งมีสติปัญญามากขึ้น ยิ่งมีสติแจ่มชัดมากขึ้น นับวันก็ยิ่งสามารถเข้าใจฝ่า ฉะนั้นศิษย์ต้าฝ่านั้น จิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อต้าฝ่า ต่อสรรพชีวิตของทุกๆคน นับวันก็ยิ่งเข้าใจแจ่มแจ้ง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมด ทำงานในเรื่องอธิบายความเป็นจริงได้ดียิ่งขึ้น ในทางปฏิบัติพวกเราทุกคนก็ได้เห็นแล้ว หลังจาก 20 กรกฎาคม ค.ศ.1999 ในช่วงเวลานั้นผู้ฝึกแทบทุกคนอาจจะรู้สึก สิ่งชั่วร้ายนี้ดูเหมือนไม่มีช่องว่างใดที่มันไม่เจาะ ไม่มีที่ใดที่มันไม่อยู่ ทั้งหมดดูเหมือนเป็นไปตามที่นักพยากรณ์เหล่านั้นพูดเอาไว้จริงๆ สิ่งชั่วร้ายมากันอย่างมืดฟ้ามัวดิน เหมือนฟ้าถล่มลงมาแล้วอย่างนั้นจริงๆ ทุกที่ล้วนมีแต่สิ่งชั่วร้าย ต่อให้เป็นคนดีอย่างไรหรือชีวิตอื่น ก็อาจจะได้รับอิทธิพลของสิ่งชั่วร้ายนั้น ในเวลานั้นแม้แต่ผู้ฝึกต้าฝ่าทุกคนต่างเคยตรึกตรองกับตัวเอง: ฉันควรบำเพ็ญต้าฝ่านี้หรือไม่ แท้จริงแล้วต้าฝ่าถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง แท้จริงแล้ว หลี่ หงจื้อเป็นคนอย่างไร ผู้ฝึกจำนวนมาก ล้วนแต่หลังจากผ่านการไตร่ตรอง เดินข้ามมาอย่างแน่วแน่ ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เพราะพวกท่านสามารถเดินออกมา ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ยากลำบากเช่นนั้น เผชิญกับแรงกดดันที่ใหญ่ตรงหน้าขนาดนั้น อธิบายต่อพลโลกถึงเรื่องราวของพวกเรา บอกกล่าวผู้คนว่าพวกเราถูกประทุษร้าย วิธีการโจมตีทั้งหมดล้วนเป็นการสร้างข่าวลือ ใส่ร้ายป้ายสี มุ่งร้าย ทั้งหมดล้วนมีลักษณะของการประทุษร้ายโดยสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นเป็นการประทุษร้ายอย่างชั่วร้ายที่สุด เมื่อพลโลกได้รู้ถึงความเป็นจริงของการประทุษร้ายแล้ว พวกเขาต่างรู้สึกตกใจอย่างมาก

            เนื่องจากในตอนแรกสิ่งชั่วร้ายมากันอย่างมืดฟ้ามัวดิน จึงทำให้งานอธิบายความเป็นจริงของพวกเรายากลำบากอย่างมาก ดูเหมือนผู้คนต่างไม่รับฟัง ความจริงคือเหตุการณ์ชั่วร้ายนั้นได้ยับยั้งคนเอาไว้ หลังจากผู้คนได้ฟังและเชื่อในคำโกหกพกลมของสิ่งชั่วร้ายเพียงด้านเดียว ด้วยความคิด ข้อสงสัยในลักษณะที่ฟังและเชื่อในคำโกหก บวกกับที่สิ่งชั่วร้ายใช้ความคิดที่ไม่ถูกต้องของคน ทำให้คนยิ่งไม่สามารถเข้าใจพวกเราอย่างถูกต้อง และมองไม่เห็นความเป็นจริงของเหตุการณ์ประทุษร้ายครั้งนี้ แต่แล้วพร้อมกับความคืบหน้าโดยรวมของการเจิ้งฝ่าดำเนินไปเร็วยิ่งขึ้น ไม่หยุดยั้งที่จะทะลวงสู่มิติที่กว้างยิ่งขึ้น ก็คือทะลวงสู่ระดับจุลภาคมากยิ่งขึ้น ชีวิตใหญ่มหึมา ณ ระดับจุลภาคมากยิ่งขึ้นซึ่งคงอยู่ในจักรวาล การเปลี่ยนสภาพของพวกเขาคือ สาเหตุมูลฐานที่สุดของการเจิ้งฝ่าในจักรวาล แน่นอนพวกเขาจำนวนมากไม่แน่เสมอไปที่ตั้งใจขัดขวาง การคงอยู่ของพวกเขาก็คือ ปัญหาชั้นหนึ่งที่ต้องแก้ไข การคงอยู่ของพวกเขาก็คือองค์ประกอบที่เก่า ก็คือเทียนถี่(ร่างสวรรค์) อันใหญ่มหึมา ที่ต้องปรับให้คืนสู่ความถูกต้อง ก็คือชีวิตใหญ่มหึมาที่จะต้องช่วยเหลือ แก้ไขพวกเขาโดยอาศัยการเจิ้งฝ่า หรือชำระทิ้งท่ามกลางการเจิ้งฝ่า หรือจัดวางตำแหน่งเสียใหม่ หรือให้กลืนกลายกับที่เดิม ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องการกระบวนขั้นตอน กระบวนขั้นตอนนี้ก็คือเวลา พูดถึงเวลา ทุกท่านทราบ นับจาก 20 กรกฎาคม ค.ศ.1999 เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ในระยะแรกทุกท่านต่างรู้สึกหนึ่งวันผ่านไปเหมือนหนึ่งปี แม้กระทั่งชั่วประเดี๋ยวผ่านไปยาวนานราวกับหนึ่งปี แรงกดดันใหญ่มาก แต่แล้วพวกท่านต่างก็ได้ต้านทานแรงกดดันที่ใหญ่เช่นนี้ แน่วแน่ทำงานด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง เปิดโปงการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย ขณะเดียวกันท่ามกลางการเจิ้งฝ่า สิ่งชั่วร้ายถูกชำระทิ้งไปมากขึ้นมากขึ้น ก็ทำให้ความคิดของพลโลกถูกยับยั้งไม่รุนแรงมากนัก ดังนั้นภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ ทุกท่านต่างพบว่า ปัจจุบันนี้เวลาที่อธิบายความเป็นจริงของการประทุษร้ายกับพลโลกอีกครั้ง พลโลกจึงไม่เย็นชาเฉยเมยเช่นนั้นแล้ว ราวกับเขาไม่เคยได้ยิน เรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้าย พลโลกอยากรู้ความเป็นจริงมากขึ้นมากขึ้น เนื่องจากการเจิ้งฝ่าดำเนินไปข้างหน้าโดยไม่หยุด บวกกับเหล่าศิษย์ ฟาเจิ้งเนี่ยน(ส่งความคิดถูกต้อง) อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สิ่งชั่วร้ายนับวันยิ่งน้อยลง อันที่จริงสิ่งชั่วร้ายก็คือ กระทำความชั่วในช่วงระหว่างกาลของขั้นตอนนี้ ก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึง และก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใหม่จะถูกจัดสร้างขึ้นมา ความชั่วร้ายทั้งหมดล้วนเกิดขึ้น แสดงออกมาที่นี่ ในช่วงเวลาตรงนี้ซึ่งสิ่งชั่วร้ายสร้างความยุ่งเหยิงอยู่ข้างใน มันไม่สามารถจะทำให้ฝ่ายุ่งเหยิง เป็นไปไม่ได้ที่(มัน) จะทำให้จักรวาลยุ่งเหยิง มันได้แต่แสดงทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตที่เก่าหลังจากเสื่อมถอยแล้ว (แสดง)ออกมาตรงนี้ ในช่วงระหว่างกาลก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึง ดูแล้วชั่วร้ายอย่างยิ่ง ศิษย์ต้าฝ่าในโลกมนุษย์ซึ่งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมนี้ จะรู้สึกถึงแรงกดดันที่ใหญ่มาก รู้สึกว่าแรงกดดันใหญ่มากจริงๆ แต่ทุกท่านทราบ เวลาในมิติที่ต่างกันจะแตกต่างกัน ฉะนั้นมองดูจากสนามเวลาที่ใหญ่มากๆ จะพบว่าสองปีนี้เป็นเวลาเพียงชั่วพริบตา สั้นมาก พวกเราตกอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ประสบกับการประทุษร้าย ล้วนรู้สึกว่าหนึ่งวันนานราวหนึ่งปี แต่เวลานี้ทุกท่านทั้งหมดเดินข้ามมาแล้ว เหลียวหน้ากลับไปดู สองปีนี้ในจักรวาลก็เป็นเวลาเพียงชั่วพริบตา แต่ในเวลาสองปีนี้ กลับได้สร้างผู้สำเร็จธรรมที่ยิ่งใหญ่สง่างามอย่างแท้จริงขึ้นมาเป็นจำนวนมากเท่าใด ผ่านเวลาสองปีนี้ พวกเรามีผู้ฝึกซึ่งฝึกฝนจนสุกงอม แล้ว เป็นจำนวนมากเท่าใด ผ่านเวลาสองปีนี้ จิตใจของคนธรรมดาสามัญมากเท่าใดที่ปล่อยวางไม่ได้เอย ความยึดติดมากเท่าใดที่รับรู้ไม่ได้เอย พวกท่านต่างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว ปล่อยวางได้แล้ว ภายใต้สภาพแวดล้อมปกติ นี่ยังเป็นสิ่งที่ทำกันได้ยากจริงๆ แน่นอนทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันจัดเตรียมข้าพเจ้าปฏิเสธ ไม่ยอมรับ แต่โดยแท้จริงท่ามกลางเหตุการณ์ชั่วร้ายครั้งนี้ ศิษย์ต้าฝ่าได้ฝึกฝนจนยอดเยี่ยมมากขึ้นมากขึ้น พวกเราลองหันกลับดูด้วยตัวเอง สองปีนี้ไม่ใช่ชั่วพริบตาหรือ ผ่านไปแล้วสองปีกว่า แต่ช่วงเวลานั้นกลับทำให้ต้าฝ่าของเรา และศิษย์ต้าฝ่าได้ก่อตั้งทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งจะไม่ดับสลายและยิ่งใหญ่สง่างามที่สุด ธรรมานุภาพอันยิ่งใหญ่สง่างามที่สุด

            แน่นอน สามารถทำทั้งหมดนี้ได้ดีนั้น กับพวกเราแต่ละคน กับการบำเพ็ญตัวเองของศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคน กับการยกระดับสูงขึ้นของตัวเองเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ได้ ฉะนั้นไม่ว่าจะประสบกับการประทุษร้าย ตกอยู่ภายใต้ความยากลำบากอย่างไร ทุกท่านต่างสามารถแน่วแน่ในการบำเพ็ญ แน่วแน่ในการศึกษาฝ่า สามารถทำให้ตัวเองมีสติแจ่มชัด ความคิดของผู้บำเพ็ญหากแยกออกจากฝ่า สิ่งชั่วร้ายก็จะเจาะเข้ามา หากมองดูด้วยสายตาของคน คนและทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมนุษย์เป็นสามมิติ ในความเป็นจริง สสารทั้งมวลของมิติมนุษย์โดยรวม ดอกไม้ ใบหญ้า ต้นไม้ รวมทั้ง คน อากาศ ทั้งหมดล้วนประกอบขึ้นมาจากอณู(โมเลกุล) ในขนาดที่ใหญ่เท่านั้น และท่ามกลางของอณูชั้นนี้ ทั้งหมดเชื่อมต่อกัน รวมทั้งร่างกายของคน เมื่อคน ตัเองไม่มีความคิดถูกต้อง เช่นนั้นในจักรวาล ในสามภพ สิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดจะไหลเวียนอยู่ข้างในร่างกายของคนไม่หยุด แม้กระทั่งหยุดอยู่ตรงนี้ คนก็ไม่รับรู้ คนจึงถูกควบคุมครอบงำกันเช่นนี้ ก็คือมันควบคุมครอบงำคนในสภาพการณ์ที่อณูเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกัน ดังนั้นท่ามกลางการถูกประทุษร้ายที่ประสบในสองปีนี้ ทุกท่านต่างสามารถแน่วแน่ในการบำเพ็ญ ทำให้ตัวเองมีสติแจ่มชัดมากขึ้นมากขึ้น มองเห็นความชั่ร้ายของการประทุษร้ายในครั้งนี้ ได้ชัดเจนมากขึ้นมากขึ้น ฉะนั้นจึงพูดว่าการศึกษาฝ่า สำหรับศิษย์ต้าฝ่า สำหรับผู้บำเพ็ญ โดยแท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ต่อให้สภาพแวดล้อมยากลำบากอย่างไร ต่อให้มีงานยุ่งอย่างไร ก็ไม่สามารถลืมที่จะศึกษาฝ่า จะต้องศึกษาฝ่า เพราะนั่นคือหลักประกันมูลฐานที่สุด ของมูลฐานที่สุดของการยกระดับของพวกท่าน ข้าพเจ้าไม่สามารถพบปะกับผู้ฝึกทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ภายใต้สภาพการณ์ที่ผู้ฝึกไม่สามารถพบกับข้าพเจ้า ไม่สามารถบอกว่ามีเรื่องต้องไปหาอาจารย์ ดังนั้นสามารถทำแต่เพียงยึดฝ่าเป็นอาจารย์ และเพื่อที่จะให้ทุกท่านสามารถบำเพ็ญ สามารถยกระดับสูงขึ้นมา ดังนั้นในฝ่าชุดนี้ ข้าพเจ้าได้นำเอาองค์ประกอบวัตถุธาตุทั้งหมด ที่ทำให้คนสามารถบำเพ็ญยกระดับสูงขึ้นมาสอดแทรกอยู่ข้างใน เพียงแต่ท่านไปศึกษา ปัญหาอะไรล้วนสามารถแก้ไข เพียงแต่ท่านไปบำเพ็ญ เพียงแต่ท่านสามารถรับรู้ฝ่าจากในฝ่า ก็จะไม่มีอะไรทำม่ได้

            แน่นอน พูดถึงการศึกษาฝ่า พวกเราทุกคนในความเป็นจริงต่างก็ยืนหยัดกันอยู่ แต่เนื่องจากทุกท่านเวลานี้ยุ่งอยู่กับงานอธิบายความเป็นจริง บางคนเขียนบทความ บางคนทำงานในรูปแบบของสื่อมวลชน ยังมีบางคนแจกใบปลิวอยู่บนถนน ยังมีบางคนทำงานด้านอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานอธิบายความเป็นจริง กำลังช่วยเหลือพลโลกซึ่งต้องพิษร้ายของคำโกหก ดังนั้นจึงทำให้บางครั้งเวลาทุกท่านศึกษาฝ่า ความคิดไม่สามารถสงบลงมาได้ นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง ร้ายแรงอย่างยิ่ง

            ทุกท่านทราบ ด้วยสภาวะจิตอะไร เวลาดูฝ่าจึงจะสามารถเห็นหลักการของฝ่า ไม่ต้องให้ข้าพเจ้าพูดอะไรมาก ทุกท่านต่างก็ทราบ เวลาที่สายตาท่านอ่านฝ่าอยู่ ความคิดไม่อยู่ที่ฝ่า ทุกท่านลองคิดดู นั่นมิเท่ากับท่านอ่านโดยเปล่าประโยชน์หรือ เช่นนั้นอ่านให้ใคร ตัวเองกลับไม่ได้ศึกษาเลย ข้าพเจ้าไม่ใช่บอกทุกท่านว่า จะต้องให้ตัวท่านเองได้พลังกงอย่างแท้จริงหรอกหรือ เช่นนั้นถ้าเวลาศึกษาฝ่าความคิดไม่อยู่ที่ฝ่า ท่านศึกษาฝ่าให้ใครล่ะ ไม่ใช่วิจารณ์ คือกำลังบอกทุกท่านว่า นี้เป็นสภาพการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ฉะนั้นไม่ว่าจะมีงานยุ่งอย่างไร เวลาที่พวกท่านศึกษาฝ่า ความคิดอะไรล้วนต้องปล่อยวาง โดยหลักไม่ไปคิดเรื่องอื่น ศึกษาฝ่าเท่านั้น บางทีระหว่างที่ท่านศึกษาฝ่าอยู่ ปัญหาที่ท่านคิดก็จะได้รับการแก้ไขให้กับท่าน เพราะเบื้องหลังของทุกตัวอักษรล้วนคือ พระพุทธ เต๋า เทพ ท่านคิดจะแก้ไขอะไร ท่านกำลังกระวนกระวายใจจะทำอะไรในขณะนี้ พวกเขาจะไม่แจ่มแจ้งได้อย่างไร จะไม่บอกท่านได้อย่างไร แต่มีจุดหนึ่ง ท่านต้องบรรลุถึงการศึกษาฝ่าโดยไม่มีจิตแสวงหา ทุกท่านเข้าใจปัญหาข้อนี้มานานแล้ว ไม่สามารถดูฝ่าด้วยจิตยึดติดที่จะแก้ปัญหาให้จงได้ ท่านก็ดูไปอย่างสงบเงียบ ผลที่ได้รับจะต้องดีอย่างแน่นอน ฉะนั้นเวลาศึกษาฝ่า อย่าได้สักแต่ทำไปตามรูปแบบ แต่จะต้องสงบจิตใจลงไปอ่าน ไปศึกษาอย่างแท้จริง อย่าปล่อยให้ความคิดหลุดลอยไป พอความคิดเตลิดไป ก็เท่ากับศึกษาโดยเปล่าประโยชน์ พูดจากอีกด้านหนึ่ง ถ้าเวลาศึกษาฝ่าความคิดไม่ได้อยู่ที่ฝ่า ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาของรูปแบบ โดยแท้จริงเท่ากับผู้ศึกษาฝ่าก็ไม่เคารพต่อฝ่านัก เช่นนั้นฝ่าจะสามารถเผยออกมาหรือ พูดจากจุดนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า ทุกท่านจะต้องสงบจิตใจลงศึกษาฝ่า ขอให้จำไว้ว่าต่อให้อยู่ในภาวะยุ่งอย่างไร เวลาศึกษาฝ่าจะต้องควบคุมความคิดให้ตั้งมั่น

            พูดอีกปัญหาหนึ่ง ก็คือ ทุกท่านทราบพวกเราทั้งหมดทำการกำจัดสิ่งชั่วร้าย ณ เวลาที่กำหนด ก็คือพูดว่า ฟาเจิ้งเนี่ยน(ส่งความคิดถูกต้อง) ฟาเจิ้งเนี่ยน ศัพท์คำนี้ในอดีตไม่เรียกกันเช่นนี้ ในอดีตก็คือ อิทธิฤทธิ์ การใช้อิทธิฤทธิ์ ฝอฝ่าเสินทง(อิทธิฤทธิ์แห่งพุทธธรรม) คนธรรมดาสามัญเรียกว่า กงเหนิง(ความสามารถ) เช่นนั้นทำไมข้าพเจ้าเรียกมันว่าฟาเจิ้งเนี่ยนล่ะ เพราะพวกท่านเป็นการบำเพ็ญต้าฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างสมควรจะต้องยิ่งใหญ่ที่สุด บริสุทธิ์ที่สุด เรื่องทั้งหมดที่พวกเราทำ ไม่เพียงแต่เป็นการบำเพ็ญตัวท่านเอง ยังจะต้องคำนึงถึงฝ่า ยังจะต้องคำนึงถึงชีวิตใหม่ในอนาคต ในเวลาเดียวกันยังจะต้องคำนึงถึงรูปแบบของชีวิตในอนาคต เพราะพวกท่านกำลังสร้างรากฐานให้แก่พวกเขา ฉะนั้นหนทางของพวกเราจะต้องเดินให้ตรง(ให้ถูกต้อง) วันนี้พวกท่านทำอะไรไว้ ในอนาคตคนจะพูดว่า ศิษย์ต้าฝ่าก็ทำเช่นนี้ในเวลานั้น ดังนั้นหลายๆเรื่อง ดูจะเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นพวกเราฟาเจิ้งเนี่ยนจะต้องให้บริสุทธิ์ ณ ขณะนี้ จะเป็นสังคมมนุษย์ระดับจุลภาคก็ดี มิติชั้นต่างๆก็ดี การเจิ้งฝ่ากำลังดำเนินไปทั่วทั้งจักรวาลโดยไม่มีอะไรตกหล่น ใต้ชั้นผิวของสังคมมนุษย์ก็กำลังทำอยู่

            ปัจจุบันนี้ในสังคมมนุษย์ มีปรากฏการณ์ที่ไม่ดีอยู่มากมาย คนที่ไม่ดี พฤติกรรมที่ไม่ดี หันเหจากความเป็นคนโดยสิ้นเชิง ถึงระดับที่บางคนไม่เพียงแต่สภาวะจิตวิปริต จิตมารก็ใหญ่หลวง ฉะนั้นภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ จะทำอย่างไร ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ไม่ต้องยุ่งเกี่ยว ทำไมไม่ต้องยุ่งเกี่ยว ความยิ่งใหญ่สง่างามของศิษย์ต้าฝ่าคือ เชื่อมต่อกับการเจิ้งฝ่าของจักรวาล ภารกิจใหญ่ที่สุดของท่านคือปกป้องฝ่า คนที่ไม่บ่อนทำลายต้าฝ่า ท่านก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว ใครที่บ่อนทำลายต้าฝ่า ท่านก็ต้องไปอธิบายความจริงกับเขา ยับยั้งสิ่งชั่วร้าย กำจัดสิ่งชั่วร้าย ช่วยเหลือพลโลก ฉะนั้นจึงพูดว่า ปรากฏการณ์ที่ไม่ดีต่างๆ ซึ่งคงอยู่ในสังคมมนุษย์ในปัจจุบันนี้ เวลานี้พวกเราทั้งหมดไม่ไปยุ่งเกี่ยว เพราะนั่นเป็นสิ่งที่จะต้องทำ เมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ แต่สิ่งที่จะต้องทำเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ กับศิษย์ต้าฝ่าก็ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะพวกท่านจะต้องหยวนหมั่น ความยิ่งใหญ่สง่างามของศิษย์ต้าฝ่าคือ เชื่อมต่อกับการเจิ้งฝ่า เป็นคนละเรื่องกับรูปแบบการบำเพ็ญส่วนบุคคลของมนุษยชาติในอดีต เป็นคนละเรื่องกับของพวกเขาอย่างแน่นอน ฉะนั้นจึงพูดว่า พวกเราฟาเจิ้งเนี่ยนเป็นการกำจัดสิ่งชั่วร้าย ซึ่งมุ่งประทุษร้ายและรบกวนต่อต้าฝ่า ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าเหล่านั้น กำจัดองค์ประกอบซึ่งประทุษร้ายต่อต้าฝ่าทั้งหมด ฉะนั้นการฟาเจิ้งเนี่ยน อย่างต่อเนื่องของพวกเราศิษย์ต้าฝ่า บังเกิดผลใหญ่หลวงได้จริงๆ ในช่วงระหว่างที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์ กระแสคลื่นของการเจิ้งฝ่าอันใหญ่โต มีพลังทั่วฟ้ากลบแผ่นดินนี้ยังมาไม่ถึงโลกมนุษย์ ก็คือก่อนที่ฝ่าจะปรับมาถึงที่นี่ ศิษย์ต้าฝ่าได้กำจัดสิ่งไม่ดีต่างๆ มากมายจริงๆ เวลาฟาเจิ้งเนี่ยน และสิ่งไม่ดีต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่บ่อนทำลายฝ่า ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า ที่กำจัดไปเป็นจำนวนที่ใหญ่มาก พวกท่านคงจำได้ ใระยะแรกที่ผู้ฝึกเริ่มต้นฟาเจิ้งเนี่ยนไม่เหมือนกับเวลานี้ ในเวลานั้นพอพวกท่านตั้งฝ่ามือขึ้นมา สิ่งชั่วร้ายก็จะเรียงเป็นแถว ตั้งกองราวกับจะทำสงคราม ดาหน้ากันเข้ามาแบบมืดฟ้ามัวดิน ต่อมาหลังจากพวกเราผู้ฝึกฟาเจิ้งเนี่ยนอย่างต่อเนื่อง กำจัดชีวิตชั่วร้ายซึ่งบ่อนทำลายต้าฝ่าเหล่านี้ กำจัดชีวิตชั่วร้ายซึ่งควบคุมคนเหล่านี้ ผลของการกำจัดมีสัดส่วนใหญ่มาก ที่เหลืออยู่น้อยมากแล้ว นี่ไม่ใช่ไม่เมตตากรุณา ฝ่าแห่งจักรวาลกับศิษย์ต้าฝ่าสามารถ จะถูกสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ประทุษร้ายได้อย่างไร นี่ก็คือทำไมข้าพเจ้าต้องพูดถึงฝ่า “อดทนจนไม่สามารถจะอดทน” เวลานี้เวลาพวกท่านฟาเจิ้งเนี่ยน พอตั้งฝ่ามือขึ้นมา ชีวิตชั่วร้ายก็หนีกระเจิงทันที พลังกงที่ส่งออกไป ต้องไปตามหาสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น ไปตามหามันทั่วทุกที่ ทั้งบนฟ้าและในดิน มีที่ไหนก็กำจัดมันทิ้ง สิ่งชั่วร้ายไม่กล้าที่จะเผยโฉมออกมาง่ายๆแล้ว ไม่มีความสามารถ(กำลัง)ที่จะจัดตั้งชีวิตชั่วร้าย มาโจมตีศิษย์ต้าฝ่าในลักษณะวงกว้างแล้ว ศิษย์ต้าฝ่ากลับเป็นฝ่ายกระทำ กำจัดพวกมันไปทั่วทุกที่เวลาฟาเจิ้งเนี่ยน จนกว่าจะกำจัดทิ้งไปทั้งหมด

            ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน สิ่งที่เหลืออยู่ซึ่งสามารถประทุษร้ายต้าฝ่า และศิษย์ต้าฝ่าก็คือ สาเหตุของพวกเราตัวผู้ฝึกเอง ผู้ฝึกเหล่านี้ซึ่งไม่เห็นความสำคัญของการฟาเจิ้งเนี่ยน สิ่งชั่วร้ายข้างในมิติซึ่งตัวพวกท่านเอง สมควรต้องแบกรับและรับผิดชอบยังไม่ได้กำจัด นี้ก็คือสาเหตุ ฉะนั้นการฟาเจิ้งเนี่ยนเรื่องนี้ ทุกท่านจะต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าตัวท่านเองจะรู้สึกว่ามีความสามารถหรือไม่มีความสามารถ ท่านก็สมควรทำ (สิ่ง)ที่ท่านกำจัดในความคิดของท่าน นั่นจะบังเกิดผลภายในขอบเขตร่างกายของตัวท่านเอง ในเวลาเดียวกันท่านจะต้องกำจัดสิ่งภายนอก นั่นเกี่ยวข้องโดยตรงกับมิติที่ท่านอยู่ ถ้าท่านไม่กำจัดพวกมัน มันไม่เพียงแต่จะประทุษร้ายท่าน ยับยั้งท่านเท่านั้น มันยังจะประทุษร้ายผู้ฝึกคนอื่นๆ ศิษย์ต้าฝ่าคนอื่นๆ   ทุกท่านทราบ ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ศิษย์ต้าฝ่าประสบกับการถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงมากเหลือเกิน ฉะนั้นผู้ฝึกทุกคนล้วนต้องรับรู้ถึงหน้าที่ของตัวเอง ด้วยสติแจ่มแจ้งอย่างแท้จริง ขณะที่ฟาเจิ้งเนี่ยน ต้องสามารถทำจิตใจให้สงบอย่างแท้จริง บรรลุถึงผลของเจิ้งเนี่ยน(ความคิดถูกต้อง) อย่างแท้จริง ฉะนั้นนี่คือเรื่องของความเป็นความตายอย่างยิ่งยวด เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ดังนั้นถ้าผู้ฝึกทุกท่านต่างสามารถทำถึงจุดนี้ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน การฟาเจิ้งเนี่ยนพร้อมกันใน 5 นาทีนั้น สิ่งชั่วร้ายภายในสามภพจะไม่คงอยู่อีกตลอดไป มันจึงสำคัญเช่นนี้ แต่พวกท่านตั้งแต่เริ่มฟาเจิ้งเนี่ยนจนถึงเวลานี้ ก็เป็นเวลานานแล้ว สิ่งชั่วร้ายที่กำจัดไปนั้นมากมายจริงๆ พูดจากอีกด้านหนึ่ง เพราะทุกคนอยู่ในระหว่างบำเพ็ญ ระหว่างการยกระดับ ระหว่างการรับรู้เข้าใจ ในระหว่างการเจิ้งฝ่าทำได้ดีหรือไม่ดี สัมพันธ์โดยตรงกับการบำเพ็ญของตัวเอง สัมพันธ์โดยตรงกับการยกระดับชั้นของตัวเอง ดังนั้นอาจารย์จึงไม่สามารถตั้งข้อกำหนดสูงมากนักต่อพวกท่าน ข้าพเจ้าได้แต่บอกทุกท่านถึงความสำคัญของมัน คนคิดจะบำเพ็ญถึงระดับใด คนคิดจะบรรลุถึงอาณาจักรเขตแดนใด นั่นเป็นเรื่องของบุคคล อาจารย์ได้แต่บอกทุกท่าน ถึงความสำคัญของการฟาเจิ้งเนี่ยน

            ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง พวกเราประสบกับการถูกประทุษร้าย ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 จนถึงทุกวันนี้ พวกเราสามารถทำให้คนทั่วทั้งโลก เข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่าฝ่าหลุนกงคืออะไร ต่างรู้ว่าพวกเราดี ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ประชาชนในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลประเทศจีน พวกเขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า เรื่องของพวกเราเป็นมาอย่างไร สิ่งชั่วร้ายที่ประทุษร้ายต่อต้าฝ่านั้น เรื่องราวเป็นมาอย่างไร ก็คือพูดว่า สามารถทำมาถึงจุดนี้ได้ นั่นคือกับความพยายามร่วมกันของพวกท่านศิษย์ต้าฝ่าทุกท่าน เป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก หมายความว่า ในการอธิบายความเป็นจริง ทุกท่านต่างสามารถรับผิดชอบต่อต้าฝ่าได้จริงๆ สามารถยืนหยัดในเจิ้งเนี่ยนเมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดัน ศิษย์ต้าฝ่าทุกท่านต่างมีการงานและครอบครัว ภายใต้สภาวะเวลาที่รัดตัวในทุกๆด้าน ยังจัดวางต้าฝ่าไว้ ณ ตำแหน่งที่สำคัญมากๆมาโดยตลอด จึงเป็นเรื่องยอดเยี่ยม เนื่องจากความพยายามร่วมกันของศิษย์ต้าฝ่า สภาพการณ์ในปัจจุบันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งชั่วร้ายถูกโดดเดี่ยวแล้ว แม้แต่ในประเทศจีนเวลานี้ ก็กำลังค่อยๆ ก่อตัวในแนวโน้มเช่นนี้ ผู้คนเริ่มมีสติแจ่มแจ้ง ทุกท่านทราบ หลังจาก 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 การประทุษร้ายในประเทศจีนในระยะแรกเป็นไปอย่างรุนแรงมาก ไม่มีใครกล้าพูดถึงความยุติธรรม แต่ปัจจุบันผู้ฝึกฝ่าหลุนกง กล้าที่จะไปหาผู้รับผิดชอบก่อการประทุษร้ายโดยตรง กล้าที่จะไปหาบุคคลระดับชั้นต่างๆโดยตรง ท่านประทุษร้ายต่อฉัน ฉันมาพบท่านบอกความเป็นจริงแก่ท่าน ยิ่งกว่านั้นศิษย์ต้าฝ่ายังทำการปรับฝ่า ในภาคพื้นใหญ่ๆ ในหลายๆพื้นที่ ทำได้อย่างน่าชื่นชมจึงพูดว่าสถานการณ์โดยรวมกำลังเปลี่ยนแปลง ผู้คนต่างเริ่มที่จะรู้ถึงความเป็นจริงของการประทุษร้ายอันชั่วร้ายในครั้งนี้ ดังนั้นจึงพูดว่าการอธิบายความเป็นจริงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผู้ฝึกทุกคนต้องเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน นอกจากการบำเพ็ญตัวท่านเองแล้ว เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ก็คือการอธิบายความเป็นจริง เพราะมันเป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิตโดยตรง มันเป็นการช่วยเหลือคนในอนาคตโดยตรง พร้อมกันนี้มันแสดงถึง ความยิ่งใหญ่สง่างามของต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่า --- ภายใต้สภาพแวดล้อมอันยากลำบากเช่นนี้ พวกท่านยังช่วยเหลือสรรพชีวิตกันอยู่

            คนในปัจจุบันนี้ก็ช่วยเหลือลำบาก บางครั้งข้าพเจ้าพูดเล่นกับพวกท่านว่า ท่านบอกกับเขาว่าต้าฝ่าดี อธิบายกันนานสองนาน เขาพูดว่า “ใช่ ต้าฝ่าดี ฉันรู้ แต่พรรคคอมมิวนิสต์ให้เงินทองแก่ฉัน ฉันก็ไม่ต่อต้าน” ความหมายเป็นนัยของเขาคือ ท่านดี ฉันก็ไม่ต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการโฆษณาชวนเชื่อของสิ่งชั่วร้าย เวลาประทุษร้ายต่อต้าฝ่า เป็นวิธีการที่พวกเขาชอบใช้หลอกลวงพลโลกเป็นประจำ พวกเราก็ไม่เคยพูดว่าต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์  หากแต่เป็นหัวหน้าเศษมนุษย์ของสิ่งชั่วร้ายในโลกมนุษย์ที่กุข่าวลือว่า “พรรคคอมมิวนิสต์จะต้องเอาชนะฝ่าหลุนกง” เขากำลังทำให้คนหลงเข้าใจผิด พวกเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด ฉะนั้นจึงพูดว่า เวลาอธิบายความจริง พวกเรายังจะต้องปรับให้เข้ากับรสนิยมของคนในปัจจุบันเพื่อจะช่วยเหลือเขา เพราะคนในทุกวันนี้ระดับความเชื่อในเทพของเขา เส้นข้างล่างนั้นอยู่ต่ำมาก เส้นข้างล่างของระดับศีลธรรมของเขาก็ต่ำมาก ทั้งๆที่รู้อย่างแจ่มแจ้งว่ามันไม่ดี เขาก็ยังทำ แน่นอนไม่ว่าจะอย่างไร สามารถช่วยได้มากเท่าใดก็ช่วยเท่านั้น พวกเราพยายามไปอธิบายความเป็นจริงอย่างสุดความสามารถ เพราะในอนาคตมนุษย์ชั้นนี้ยังจะต้องมีฝ่า ยังจะต้องมีชีวิตของชั้นนี้ ไม่สามารถให้เรื่องจบลงตรงนี้ ยิ่งกว่านั้นต้าฝ่ายังเคยถ่ายทอดอย่างกว้างไกลในโลก พูดถึงมนุษยชาติในอนาคตแล้ว สมควรจะต้องมีบุญวาสนา บาปซึ่งคนที่ต้องพิษร้ายในประเทศจีน ได้ทำต่อต้าฝ่านั้น เป็นผลจากการประทุษร้ายของเหล่าอิทธิพลชั่วร้ายครั้งนี้ ทำให้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจีน ทำให้พวกเขามีบาปอันใหญ่หลวง จากการต่อต้านฝ่าแห่งจักรวาล ซึ่งสร้างชีวิตอย่างโดยตรง ดังนั้นสำหรับคนแบบนี้สิ่งที่พวกเขาจะเผชิญก็คือการถูกคัดทิ้ง อันตรายที่สุด ฉะนั้นเวลานี้ เพียงแต่กำจัดความคิดไม่ดีที่มีต่อต้าฝ่าในสมองของเขาทิ้งไปเป็นใช้ได้ ท่านไม่ต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้ ท่านไม่ต่อต้านใครก็ได้ แต่ข้าพเจ้าขอบอกท่าน ท่านอย่าต่อต้านต้าฝ่า เพราะเหตุใด ข้าพเจ้าจะบอกความจริงแก่ท่าน ฉะนั้นจึงพูดว่า คนบางคน เขาไม่ต่อต้านต้าฝ่า เขาก็ไม่ใช่คนดี เป็นไปได้มากว่า ในการกำจัดการประทุษร้ายต่อต้าฝ่าครั้งนี้ ณ ช่วงสุดท้าย อย่างน้อยที่สุดเขาจะไม่ถูกคัดทิ้งไปในทันที เมื่อเขาไม่ถูกคัดทิ้งไป เขาก็อาจจะมีความหวัง อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูตัวเขาเอง ถึงเวลาของฝ่าปรับโลกมนุษย์ ก็ดูว่าเขาจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นจากการที่ศิษย์ต้าฝ่าอธิบายความเป็นจริงอย่างเต็มกำลัง หลายๆคนเข้าใจทั้งหมดนี้แล้วจริงๆ เต็มไปด้วยเจิ้งเนี่ยน(ความคิดถูกต้อง) ฉะนั้นข้าพเจ้าคิดว่า คนเหล่านี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงการเข้าใจต้าฝ่าอย่างธรรมดาทั่วไป ตรงกันข้ามเขายังอาจไปพูดให้ความยุติธรรมแก่ต้าฝ่า เช่นนั้นในความเป็นจริงเขาก็ได้วางรากฐานอย่างดี ให้กับชีวิตในอนาคตของตัวเอง

            ในอดีตพูดกันว่าช่วยเหลือสรรพชีวิตโดยทั่วไป ทุกท่านทราบจะเป็นในสมัยของพระพุทธเจ้าศากยมุนีก็ดี ในสมัยของพระเยซูก็ดี แม้กระทั่งเหลาจื่อหรือเทพองค์อื่นๆ ที่มาช่วยเหลือคน การช่วยเหลือสรรพชีวิตโดยทั่วไปที่พวกเขาพูด กับสิ่งที่พวกท่านทำนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ในเวลานั้นชีวิตที่สูงที่สุดบนโลกก็คือคน เป็นพลโลกที่ธรรมดาๆ คนหนึ่ง คนที่แท้จริงก็คือเป็นผลิตภัณฑ์ภายในสามภพ สร้างขึ้นมาโดยใช้สสารของภายในสามภพ ชีวิตแบบนี้กับเทพแตกต่างกันมาก มันยาก (ที่พวกเขา) จะเข้าใจชีวิตชั้นสูงขึ้นไปอีก ดังนั้นพวกเขาถึงกับหวาดกลัวต่อเทพ มันยากจริงๆที่จะช่วยเขา ดังนั้นนี่คือเหตุผลทำไมองค์ศากยมุนีจึงสอนฝ่าอรหันต์ เพียงสามารถช่วยคนให้บรรลุมรรคผลอรหันต์เท่านั้น จริงๆแล้วคนไม่สามารถบำเพ็ญได้สูงนัก แต่ในวันนี้ สรรพชีวิตอะไรที่ศิษย์ต้าฝ่าเผชิญ ทำไมข้าพเจ้าจึงพูดว่าศิษย์ต้าฝ่ายิ่งใหญ่สง่างาม เพราะ(ท่าน)โชคดีมาทันกับยุคสมัยอันยิ่งใหญ่นี้ ภารกิจที่มอบหมายให้กับท่านก็ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน เพราะร้อยละ 90 ของชีวิตมนุษย์คือ ชีวิตที่มาจากระดับชั้นสูง จึงพูดว่า ข้างในหนังชั้นนี้ของคนไม่ใช่คนในอดีตแล้ว หนังชั้นนี้ของคนได้ถูกชีวิตที่มาจากระดับชั้นสูงได้ไปแล้ว ยึดครองไปแล้ว ไม่ใช่แค่เป็นมนุษย์เท่านั้น การเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ได้ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่โลกใบก่อน ได้มีการทดลองมาแล้วหนึ่งครั้ง จึงหมายความว่า ผ่านกาลเวลาอันยาวไกลเช่นนี้ เรื่องนี้ก็ได้มีการจัดเตรียมอย่างเป็นระบบ เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู สังคมมนุษย์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราสามารถมองเห็น สามารถจะคงอยู่อย่างบังเอิญหรือ แม้แต่อากัปกิริยา การเคลื่อนไหว คำพูดการกระทำ แม้กระทั่งปัญหาที่ท่านคิดก็ไม่ใช่อะไรที่เรียบง่าย ธรรมดาๆ ในอนาคตท่านจะเห็นว่า ล้วนแต่จัดเตรียมไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ใช่ข้าพเจ้าจัดเตรียม อิทธิเก่าเหล่านี้เป็นผู้จัดเตรียม อันที่จริงพวกเขาก็ไม่กล้า ก็ไม่คิดจะทำลายทั้งหมดนี้ เพราะถ้าพวกเขาทำลายทั้งหมดนี้ พวกเขาก็จบสิ้น ถ้าการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ถูกทำลายไปจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอันจบสิ้นโดยสิ้นเชิง พวกเขาเพียงแต่คิดอยากจะทำไปตามที่พวกเขาต้องการ นั่นย่อมทำไม่ได้ ไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ชีวิตที่จะถูกคัดทิ้ง จะสามารถควบคุมอนาคตได้อย่างไร ยังจะสามารถคิดอยากให้อนาคตเป็นอย่างไรได้หรือ พวกเขาได้แต่ก่อความวุ่นวายในช่วงเวลานี้ ก่อนที่การเจิ้งฝ่าจะมาถึงเท่านั้นเอง พวกเขารู้สึกว่าเขาคือเทพ พวกเขาไม่ประทุษร้ายคนโดยตรง แต่ควบคุมจิตวิญญาณชั้นต่ำเหล่านั้นประทุษร้ายคน ความสัมพันธ์ก็เป็นเช่นนี้

            เมื่อครู่ที่ข้าพเจ้าพูดว่าศิษย์ต้าฝ่ายิ่งใหญ่สง่างาม ความหมายคือ ถ้าคนมาจากระดับชั้นที่สูงมาก ทุกท่านลองคิดดู ท่านกำลังทำในเรื่องของการช่วยเหลือคนอย่างธรรมดาๆ หรือ กษัตริย์เอย จ้าวเอยของจักรวาลต่างๆ มากมาย แม้กระทั่งชีวิตที่ใหญ่มหึมา ชีวิตชั้นสูงขึ้นไปอีก ต่างพากันลงมาเกิดเป็นคน แต่เมื่อลงมาเป็นคนที่นี่ อะไรก็ไม่รู้แล้ว เหมือนกับคนทุกอย่าง แน่นอน ชีวิตในปัจจุบันจุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดก็คือ แข็งแรงทนทานกว่าคนในอดีต คนในอดีตพอได้รับบาดเจ็บก็จะถึงตาย คนในทุกวันนี้แข็งแรงทนทานมาก ก็คือชีวิตของเขาไม่เหมือนกันแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อเข้ามาสู่วังวนนี้ อะไรก็ไม่รู้แล้ว ท่ามกลางการโฆษณาชวนเชื่ออย่างชั่วร้ายแบบมืดฟ้ามัวดินนี้ ก็ทำให้พวกเขาได้รับการประทุษร้ายด้วยเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นบางคนยังเป็นตัวการสำคัญ ในการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร ทำบาปอะไรก็คือ บาปอย่างนั้น เมื่อประทุษร้ายต้าฝ่า ท่านจะมาจากที่ใดก็ไม่มีประโยชน์แล้ว แต่พูดจากอีกด้านหนึ่ง ความเมตตากรุณาของศิษย์ต้าฝ่า สามารถทำให้ชีวิตเหล่านี้ ได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ที่สุด เช่นนั้นท่านกำลังช่วยเหลือคนธรรมดาๆ คนหนึ่งหรือ ถ้าคนที่ท่านช่วยเหลือคือจ้าวองค์หนึ่ง กษัตริย์องค์หนึ่ง นั่นจะเป็นธรรมานุภาพเช่นไร ถ้าช่วยเหลือคนมากมายได้จริงๆ นั่นจะเป็นธรรมานุภาพเช่นไร ถ้าคนธรรมดาสามัญ คนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่า บอกกับคนธรรมดาสามัญอีกคนหนึ่งว่า ท่านอย่าประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ฝ่าหลุนกงดีอย่างไรอย่างไร หลังจากนั้นคน คนนี้ไม่ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงจริงๆ หลังจากพลิกสถานการณ์กลับคืนมา เป็นไปได้มากว่าเขาจะเข้าสู่อนาคต ฉะนั้นเมื่อฝ่าปรับโลกมนุษย์ เขายังอาจจะได้ฝ่า เนื่องจากเป็นชีวิตมาจากที่สูง เขาก็จะบำเพ็ญได้เร็ว การหยวนหมั่นของเขาสัมพันธ์โดยตรง กับคนที่บอกกล่าวความเป็นจริงให้แก่เขาในตอนแรก แม้แต่คนธรรมดาสามัญ คนธรรมดาๆ คนนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าก็จะหยวนหมั่น ใช่หลักการนี้หรือไม่ แล้วพวกเราศิษย์ต้าฝ่ากำลังช่วยเหลือผู้คนในวงกว้างอย่างนี้ ระหว่างการอธิบายความเป็นจริงล่ะ ดังนั้นเรื่องนี้จึงยิ่งใหญ่สง่างามอย่างมาก ใครก็ไม่รู้ว่า คนธรรมดาสามัญ เบื้องหลังหนังชั้นนั้นของคนคือใคร ดังนั้นจะต้องให้ความสำคัญต่อสิ่งเหล่านี้ จะต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้ดี การอธิบายความเป็นจริงคือ สิ่งที่พวกเราจะต้องทำในเวลานี้ ทำในวงกว้าง ทำด้วยสติปัญญาทั้งหมด เท่าที่ท่านสามารถใช้ ขอเพียงสามารถช่วยเหลือพลโลกได้ก็ไปทำ ไม่ว่าท่านจะไปเปิดโปงสิ่งชั่วร้ายก็ดี ใช้รูปแบบวิธีการต่างๆ จะโดยตรง โดยอ้อม หรือจากด้านข้าง ขอเพียงแต่สามารถทำให้คนสามารถรับรู้ถึงการประทุษร้ายครั้งนี้ได้ ก็คือกำลังช่วยเหลือเขา ก็คือยอดเยี่ยม

            ข้าพเจ้าคิดจะพูด ก็คือสามเรื่องนี้ หนึ่งคือเรื่องการศึกษาฝ่าของทุกท่าน หนึ่งคือเรื่องการฟาเจิ้งเนี่ยน อีกหนึ่งก็คือ การอธิบายความเป็นจริง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก อันที่จริงสิ่งที่ยิ่งใหญ่สง่างามทั้งหมดนี้ พวกท่านล้วนได้ทำกันมาแล้ว พวกท่านได้ก่อตั้งธรรมานุภาพเช่นนี้แล้ว แต่ต้องทำให้ดียิ่งขึ้น และทำต่อไปจนกว่าจะกำจัดสิ่งชั่วร้ายจนหมดสิ้น เมื่อทำให้คนทั้งโลก คนทั้งประเทศจีนต่างรับรู้ถึงความชั่วร้ายครั้งนี้ แล้วสิ่งชั่วร้ายยังจะสามารถส่งผลกระทบหรือ มันก็ต้องพังทลาย พวกเราไม่สนใจในอำนาจทางการเมืองใดๆ พวกเราก็ไม่คิดจะโค่นล้มพรรคคอมมิวนิสต์ของท่าน หัวหน้าเศษมนุษย์ของสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ในโลกต่างหาก ที่ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ล้มเอง โดยใช้พรรคคอมมิวนิสต์ก่อการประทุษร้ายครั้งนี้ ลองมองย้อนกลับดูว่าใช่หรือไม่ ไม่ใช่พวกเราที่โจมตี ตัวมันเองที่ทำตัวเองล้ม เป็นมันที่กำลังใช้พรรคคอมมิวนิสต์ ใช้ประเทศชาติ ใช้รัฐบาล ประทุษร้ายฝ่าหลุนกงอยู่ จุดนี้เทพยอมให้ไม่ได้ ท่านว่าพรรคคอมมิวนิสต์ต้องเอาชนะฝ่าหลุนกง เทพจะยอมได้อย่างไร พรรคคอมมิวนิสต์จะสามารถเอาชนะฝ่าของจักรวาลได้อย่างไร ถ้าท่านจะต่อสู้กับเขา เช่นนั้นท่านก็จะต้องพังทลาย นี่คือหลักการ(เหตุผล) ใช่หรือไม่ เพียงแต่เวลานี้อิทธิพลชั่วร้ายเก่าเข้าใจว่าศิษย์ต้าฝ่า ยังฝึกฝนไม่สุกงอมสมบูรณ์เต็มที่ ยังจะต้องฝึกฝนต่อไป ก็จะต้องคงความชั่วร้ายต่อไป แน่นอน อิทธิพลเก่าจะทำอย่างนี้ พวกเราไม่ยอมรับในสิ่งเหล่านี้โดยสิ้นเชิง เขาทำเช่นนี้เท่ากับให้เขาสามารถแสดงออกมา ก่อนที่การเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้าจะมาถึง ไม่เช่นนั้น เวลาที่ฝ่าปรับโลกมนุษย์จะเป็นไปอย่างสงบราบเรียบ ไม่มีสิ่งชั่วร้ายครั้งนี้ ผู้คนต่างศึกษาฝ่ากันอยู่ ศีลธรรมของมนุษยชาติเลื่อนระดับสูงขึ้น พลังของการเจิ้งฝ่ามาถึงก็จะเป็นไปอย่างสงบราบเรียบ

            ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้ พวกท่านคงจะมีคำถามต่างๆ มากมาย ข้าพเจ้าคิดว่าผ่านการศึกษาฝ่า พวกท่านก็จะสามารถแก้ไขได้ทั้งหมด ปัญหารูปธรรมต่างๆ ขอเพียงพวกท่านไปศึกษาฝ่า ทั้งหมดก็จะสามารถแก้ไข พร้อมกันนี้พวกท่านพึงระวังปัญหาข้อหนึ่ง พวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า พบกับเรื่องอะไรให้ค้นหาที่ตัวเอง รับรองว่าส่วนมากจะเป็นปัญหาของตัวท่านเอง ไม่ว่าท่านคิดจะไตร่ตรองตัวเองหรือไม่ ไม่ว่าท่านจะนึกขึ้นมาได้หรือไม่ก็ตาม ในอนาคตเมื่อพวกท่านมองเห็นความเป็นจริง พวกท่านจะพบว่า ทั้งหมดนั้นล้วนแต่มีสาเหตุ ระหว่างศิษย์ต้าฝ่าด้วยกัน เพื่องานหงฝ่า งานการเจิ้งฝ่า บ่อยครั้งมีเรื่องถกเถียงกันบ้าง ข้าพเจ้าคิดว่านี่ล้วนเป็นเรื่องปกติ แต่ถกเถียงกันไม่เลิก ยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน นั่นก็คือมีปัญหา เพราะเหตุใด การถกเถียงกันเป็นเรื่องปกติ ถกเถียงกันไม่เลิก ยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ส่งผลกระทบต่องานต้าฝ่า นั่นก็คือไม่ปกติ ท่านไม่เชื่อพวกท่านก็ลองไปคิดดู ลองไปดู พวกเราผู้รับผิดชอบทุกคน ต้องเน้นการศึกษาฝ่าให้มากเป็นพิเศษ ผู้รับผิดชอบไม่ว่าจะแบกรับงานไว้มากเท่าใด เก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถลืมที่จะบำเพ็ญตัวเอง ต่อให้ท่านทำงานมากเพียงใด ท่านควรเป็นศิษย์ต้าฝ่าซึ่งกำลังทำงานของต้าฝ่า และไม่ใช่คนธรรมดาสามัญซึ่งกำลังทำงานของต้าฝ่า ดังนั้นท่านต้องศึกษาฝ่า ผู้รับผิดชอบอันที่จริงก็คือ ศิษย์ธรรมดาทั่วไป ทุกๆคน ไม่ว่าจะทำอะไร ล้วนต้องจัดวางตัวเองอยู่ในหมู่ศิษย์ จะต้องจัดวางตัวเองอยู่ในหมู่ศิษย์ ต้าฝ่านี้มีข้าพเจ้าเป็นอาจารย์แต่เพียงผู้เดียว ต้าฝ่าโดยตัวเองไม่มีผู้รับผิดชอบ พวกท่านเพียงแต่เป็นผู้รับผิดชอบท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ท่ามกลางการต่อต้านการประทุษร้าย ในรูปแบบเช่นนี้ ต้าฝ่าไม่มีผู้รับผิดชอบ ทุกๆคนล้วนคือ ศิษย์ซึ่งบำเพ็ญอยู่ ให้จดจำเรื่องเหล่านี้ไว้ให้มั่น

            ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้ ใช้เวลาของพวกท่านไปมาก


บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยเมืองบอสตัน ปี 2002

หลี่ หงจื้อ

27 เมษายน ค.ศ. 2002

 

            ที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ หลายๆ ท่านมาจากพื้นที่อื่น ยังมีจำนวนไม่น้อยมาจากออสเตรเลีย ครั้งนี้โดยหลักคือมาพบกับทุกท่าน ไม่คิดจะพูดอะไรมากนัก ดูจากสภาพการณ์ในการเจิ้งฝ่าของศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดโดยรวม ข้าพเจ้ารู้สึกว่า(ทำได้)ดีมาก บางด้าน(ทำได้)ดีอย่างยิ่ง ก็มีบางด้านที่ด้อยสักหน่อย แต่แกนหลัก(แกนนำ)โดยรวมทำได้ดีอย่างยิ่ง สำหรับศิษย์ต้าฝ่าพูดขึ้นมาแล้ว ยังมีหลายๆ สิ่งที่ทุกท่านยังทำได้ไม่ค่อยดี ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน อันที่จริงก็คือละเลยการศึกษาฝ่า เพราะชั้นพื้นผิวซึ่งพวกท่านกำลังกลืนกลายเข้ากับฝ่านั้นต้องยกระดับให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเวลาที่ท่านยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องจัดเตรียมสิ่งต่างๆ เหล่านั้นให้ท่านบำเพ็ญทิ้งไป ทุกๆ อาณาจักรเขตแดน(ระดับ)จะมีสภาวการณ์ของแต่ละอาณาจักรเขตแดน(ระดับ) หากท่านหยุดอยู่ตรงนั้น แน่นอนก็จะตามไม่ทันพลังแห่งการเจิ้งฝ่า ในระหว่างการเจิ้งฝ่า เวลาที่ข้าพเจ้าเห็นทุกท่านทำได้ดี ล้วนเป็นเพราะทุกท่านสามารถเข้าใจฝ่าจากในฝ่า เวลาที่ทำได้ไม่ค่อยดี ข้าพเจ้าเห็นว่านั่นเป็นเพราะไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาฝ่า ไม่สามารถเข้าใจฝ่าจากในฝ่า ศิษย์ต้าฝ่า ไม่ว่าท่านจะอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นไร สภาพการณ์แบบใด ท่านก็ต้องศึกษาฝ่า ไม่สามารถปล่อยปละละเลยการกลืนกลายและการยกระดับของตัวเอง ไม่สามารถลืมที่จะศึกษาฝ่า หากท่านศึกษาฝ่าได้ไม่ดี ท่านก็จะทำงานของต้าฝ่าได้ไม่ดี เมื่อพบกับความขัดแย้งอะไร ปัญหาอะไรที่ต้องได้รับการแก้ไข ท่านก็จะจัดวางความสัมพันธ์ของสิ่งเหล่านี้ได้ไม่ถูกต้อง ก็จะมีการโต้แย้งเกิดขึ้น แน่นอนเมื่อเกิดความขัดแย้ง มีการถกเถียงกันบ้าง ข้าพเจ้าคิดว่าก็ไม่ใช่ว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดีเสมอไป เพราะท่านอยู่ในระหว่างบำเพ็ญ ก็จะต้องให้ขจัดจิตยึดติดของท่านทิ้งไป ให้ท่านยกระดับสูงขึ้นท่ามกลางการบำเพ็ญ เช่นนั้นก็ต้องให้ท่านแสดงจิตยึดติดที่ยังไม่ได้ขจัดทิ้งไปของคนธรรมดาสามัญเหล่านี้ออกมา แล้วขจัดมันทิ้งไป แต่บางเวลาทุกท่าน เนื่องจากตัวพวกเราเองตามไม่ทันกับการศึกษาฝ่า จึงปฏิบัติต่องานหงฝ่าและช่วยเหลือสรรพชีวิตเหมือนเช่นคนธรรมดาสามัญ(ทำ) จึงทำให้งานหลายๆ อย่างซึ่งแต่เดิมเป็นที่เรื่องศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์มากนัก ทำได้ไม่ค่อยดีนัก ในเวลาเดียวกัน ก็ทำให้คนในสังคมเกิดความไม่เข้าใจต่อพวกเราในบางประการ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเองไม่สามารถยกระดับให้สูงขึ้น ยังสร้างความสูญเสียบางประการให้กับต้าฝ่า

            ทุกท่านทราบ ในระยะแรกหลังจาก 25 เมษายน ค.ศ.1999 พวกเรานอกจากศิษย์ต้าฝ่าแล้ว หลายๆ พื้นที่ในโลกไม่มีคนรู้ว่าเรื่องราวของฝ่าหลุนกงเป็นมาอย่างไร ในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกล้วนเป็นเช่นนี้ เมื่อตอนที่การประทุษร้ายต่อพวกเราเริ่มขึ้นใหม่ๆ สื่อมวลชนทั่วโลกต่างอยากรู้ว่าเรื่องราวของฝ่าหลุนกงเป็นมาอย่างไร แต่ก็ไม่มีใครสามารถจะได้เอกสารข้อมูลในด้านตรง ล้วนแต่คัดลอกตีพิมพ์ข้อมูลที่สื่อมวลชนประเทศจีนปลุกปั่นข่าวลือตีพิมพ์ออกมา แน่นอนสื่อมวลชนต่างๆ ทั่วโลกพวกเขาไม่มีความตั้งใจจะทำเช่นนี้ พวกเขาต้องการจะรายงานข่าว ทุกท่านลองคิดดู ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ตกอยู่ท่ามกลางแรงกดดันแบบมืดฟ้ามัวดินเช่นนี้ พวกเราสามารถปรับฝ่าในโลกมนุษย์มาจนถึงระดับนี้ บอกให้คนในสังคมโลกเข้าใจพวกเราให้ถูกต้อง สามารถบอกผู้คนทั่วโลกให้เข้าใจอย่างแท้จริงว่า เรื่องราวแท้จริงของพวกเราเป็นอย่างไร นี้ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย นี้เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ในการยืนยันความถูกต้องให้กับฝ่าทุกท่านทำได้ดีอย่างยิ่ง จึงสามารถบรรลุถึงระดับนี้ หากพวกเราไม่ระวัง เป็นไปได้ว่าการกระทำอันไม่สอดคล้องกับฝ่าของตัวเองอาจนำมาซึ่งความสูญเสีย ดังนั้นพวกเราพึงจะต้องระวังในสิ่งเหล่านี้ให้จงหนัก

เนื่องจากทุกท่านมีงานยุ่งจริงๆ ในเวลานี้ หลายๆ คนได้อาสาแบ่งงานต่างๆ ไปทำ จึงทำให้ไม่มีสมาธิที่จะศึกษาฝ่าอย่างเต็มที่ ในความคิดมีแต่เรื่องของงานเจิ้งฝ่า ไม่สามารถสงบจิตใจลงมาศึกษาฝ่า แท้ที่จริงเท่ากับศึกษาโดยเปล่าประโยชน์ ท่านไม่สามารถศึกษาฝ่าอย่างมีสติสัมปชัญญะ อย่างมีสติแจ่มแจ้ง นั่นคือศึกษาโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งเป็นการเสียเวลา ฉะนั้นทุกท่านต้องเข้าใจในด้านนี้ ข้าพเจ้ารู้ว่าทุกท่านมีงานยุ่งมาก ทำงานหนักมาก ศิษย์บางคนมีเวลานอนน้อยมากในแต่ละคืน ทำงานต่างๆ มากมายและยังต้องศึกษาฝ่า แล้วยังงานอื่นๆ อีก ดังนั้นบางครั้งข้าพเจ้าไม่สามารถจะบอกท่านว่าท่านต้องทำอย่างนี้ ท่านต้องทำอย่างนั้น สิ่งที่เป็นรูปธรรมล้วนต้องอาศัยทุกท่านไปจัดทำกันเอง ไปไตร่ตรองกันเองว่าจะทำอย่างไร และจัดทำให้ดียิ่งขึ้น

            นอกจากนี้ ข้าพเจ้ายังเห็นบางปัญหาที่ค่อนข้างเด่นชัดเมื่อหลายปีก่อน ได้ปรากฏออกมาอีกในระยะหลังนี้ ปัญหาอะไร ผู้ฝึกนอกประเทศจีน หลายๆ ท่านล้วนมีความสามารถในระดับหนึ่ง มีความรู้สูงๆ หลายๆ ท่านมีวุฒิการศึกษาต่างๆ ในหมู่คนธรรมดาสามัญ พูดอีกนัยหนึ่งคือ ท่านมีความคิดแจ่มชัด และมีความสามารถสูงมากๆ หลายๆเรื่องจึงทำได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ทุกท่านริเริ่มที่จะทำงานอะไรให้ดี ซึ่งก็จะทำได้ดีจริงๆ แต่เป็นเพราะพวกท่านมีความสามารถสูงมาก ทุกคนต่างก็มีความคิดที่ดี ฉะนั้นจึงเกิดปัญหา ท่านก็มีความคิดที่ดี เขาก็มีความคิดที่ดี ทุกคนต่างเห็นว่าความคิดของตัวเองดี โดยมากมักจะเกิดการโต้แย้งเพราะปัญหาเหล่านี้ และในเวลาที่โต้แย้งกัน เนื่องจากปกติละเลยต่อการศึกษาฝ่า หรือไม่เคร่งครัดกับการบำเพ็ญของตน จึงทำให้การถกเถียงของพวกท่านเข้าสู่สภาวะของการโต้เถียงกันในแบบของคนธรรมดาสามัญ

            ศิษย์ต้าฝ่าจะทำอะไรก็ต้องยึดฝ่าเป็นสำคัญ เวลาจัดการเรื่องอะไรท่านต้องคำนึงถึงฝ่าก่อนเสมอ ทุกท่านคงจำได้ ประโยคหนึ่งที่ข้าพเจ้าพูดกับพวกท่านอยู่เสมอ ศิษย์ต้าฝ่าทำอะไรก็ตาม ก่อนอื่นต้องคำนึงถึงผู้อื่น ทุกครั้งเมื่อเกิดเรื่องอะไร เมื่อตกอยู่ในสภาพการณ์อะไร ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ความคิดอันดับแรกของข้าพเจ้าคือคิดถึงคนอื่นก่อน เพราะกลายเป็นธรรมชาติไปแล้ว ก่อนอื่นข้าพเจ้าจะคิดถึงคนอื่น หากพวกท่านต่างสามารถทำได้ เช่นนั้นในการยืนยันความถูกต้องให้กับฝ่า ก็จะไม่เกิดเรื่องที่โต้เถียงกันอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กัน ถ้าหากพวกท่านมีพื้นฐานอันแข็งแกร่งเช่นนี้จริงๆ เวลาเกิดเรื่องอะไรก็จะสามารถสงบจิตใจลงมาคำนึงถึงคนอื่น พิจารณาตัวเอง ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องต่างๆ ก็จะทำได้ดี บางครั้งช่างถกเถียงกันเหมือนกับคนธรรมดาสามัญ บางคนถึงกับเถียงจนหน้าดำหน้าแดงคอเป็นเอ็น โดยไม่สนใจกับผู้คนที่อยู่โดยรอบและผลกระทบต่อสังคม ปฏิบัติตนเหมือนกับคนธรรมดาสามัญโดยสิ้นเชิง พวกท่านคือผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง คือศิษย์ต้าฝ่าคนหนึ่ง ไม่ใช่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง ทุกท่านต่างก็ทราบ ไม่ว่าสิ่งชั่วร้ายนี้จะบ้าคลั่งอย่างไร มันจะไม่ยาวนาน ยิ่งใกล้วาระสุดท้ายมากเท่าใด ท่ามกลางการกระตุ้นของพลังแห่งการเจิ้งฝ่า สิ่งชั่วร้ายจึงแสดงออกมาชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น นี้แสดงให้เห็นว่านั่นต้องเป็นการแสดงออกของความบ้าคลั่งในวาระสุดท้าย สมมติว่าเรื่องนี้สิ้นสุดลงในวันใดจริงๆ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือให้ศิษย์ต้าฝ่าในช่วงเวลาแห่งการเจิ้งฝ่าบรรลุหยวนหมั่นกลับสู่ตำแหน่ง ถึงเวลานั้นเมื่อท่านหันกลับไปดูหนทางที่ตัวเองเดินผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะชัดเจน แน่นอนทำได้ดีหรือไม่ดี พระพุทธ เต๋า เทพองค์หนึ่งซึ่งหยวนหมั่นโดยสมบูรณ์อยู่ ณ ตำแหน่งของตนจะไม่ไปคิดในสิ่งเหล่านี้อีก ก็เหมือนความฝันที่ผ่านไปแล้ว แม้แต่คิดก็จะไม่คิดถึงมันอีก แต่การกระทำของทุกท่านในระหว่างขั้นตอนนี้ พวกท่านกำลังหลอมเหลาตัวเอง วางรากฐานทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองให้มั่นคง ใครที่พลาดโอกาสนี้ไป หรือมีสิ่งใดที่ทำได้ไม่ดี เมื่อถึงเวลานั้นพวกท่านจะเห็นถึงสาเหตุของความผิดพลาด

            การเจิ้งฝ่าในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสอันดีที่สุดแก่สรรพชีวิตทั้งหมดในท้องนภาใหญ่สำหรับสรรพชีวิตทั้งหมด พูดได้ว่า เป็นโอกาสอันดีที่สุดที่จะวางรากฐานให้กับอนาคตของตน ฉะนั้นสำหรับศิษย์ต้าฝ่าก็เช่นกัน มรรคผลการบำเพ็ญของท่าน ตำแหน่งของท่าน ธรรมานุภาพของท่าน อนาคตทั้งหมดของท่าน ล้วนก่อตั้งขึ้นมาในโอกาสแห่งการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ ฉะนั้นถ้าไม่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดี ก็เป็นการทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยให้แก่ตัวเองจริงๆ ดังนั้นเวลาที่ท่านถกเถียงกันด้วยจิตใจของคนธรรมดาสามัญ ข้าพเจ้าจึงคิด ถ้าหากพวกเขามองเห็นความเป็นจริง บอกให้ท่านโต้เถียงกัน ท่านก็จะไม่โต้เถียงกันแล้ว เป็นเพราะเขามองไม่เห็นความเป็นจริง มีจิตใจของคนธรรมดาสามัญอยู่จึงสามารถบำเพ็ญอยู่ ณ ที่นี้ มีจิตใจของคนธรรมดาสามัญอยู่จึงสามารถยืนยันความถูกต้องให้กับฝ่า ถ้าไม่มีจิตใจเหล่านี้ ท่านก็ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องให้กับฝ่า ท่านไม่สามารถคงอยู่ที่นี่แล้ว นั่นก็คือไม่สามารถบำเพ็ญแล้ว แต่จะใช้เงื่อนไข(สภาพ)ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีได้อย่างไร ทำให้ดียิ่งขึ้นอีก ข้าพเจ้าก็ต้องบอกพวกท่าน เน้นย้ำให้ตระหนักถึงความสำคัญ

            ต่อให้มีงานยุ่งอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตนเป็นศิษย์ต้าฝ่า ต่อให้มีงานยุ่งอย่างไร ก็ต้องไตร่ตรองถึงผลกระทบจากผู้คนที่อยู่โดยรอบ เริ่มจาก 25 เมษายน ค.ศ.1999 ถึงภายหลัง 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 สิ่งชั่วร้ายใช้วิธีปลุกปั่นข่าวลือเยี่ยงอันธพาล ทำจนพวกเราต้องออกมาปกป้องตัวเอง ทำให้ชีวิตมากมายต้องพิษร้าย ทุกท่านได้ทุ่มเททั้งจิตใจและพละกำลังไปมากมายเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต ทำให้ผู้คนเข้าใจพวกเราใหม่ ฉะนั้นในเวลาที่ไม่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดี เป็นไปได้ว่า โดยไม่ตั้งใจ ก็จะก่อเกิดความเสียหายให้กับความพยายามทั้งหลายที่ท่านได้ทุ่มเทไป ให้กับสิ่งที่ท่านต้องการจะทำ พวกท่าน การกระทำของผู้บำเพ็ญนั้นต้องบริสุทธิ์ถูกต้อง มีคนจำนวนมากที่เห็นการกระทำของพวกท่านแล้วรู้สึกพวกท่านเป็นคนดี ถ้าหากในเวลาปกติตัวพวกเราเองไม่ระวังความประพฤติของตัวเอง คนธรรมดาสามัญก็จะมองเห็นการกระทำของพวกท่าน เขาไม่สามารถจะเข้าใจท่านในระดับลึก เหมือนเช่นได้ศึกษาฝ่า เขาก็จะมองที่การกระทำของท่าน เป็นไปได้ว่าคำพูดของท่านประโยคหนึ่ง การกระทำหนึ่งอย่าง สามารถจะทำให้เขาไม่ได้รับการช่วยเหลือ สามารถจะสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีต่อต้าฝ่า พวกเราต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้

            อาจารย์จึงสามารถมองเห็นจุดบกพร่อง จึงสามารถมองเห็นปัญหา อย่างเช่นคำพูดสักคำ การกระทำสักอย่างของพวกท่าน ข้าพเจ้าก็รู้ว่ามีอะไรรวมอยู่ในนั้น โดยปกติ อาจารย์จะไม่อธิบายฝ่ากับพวกท่านเป็นรายบุคคล เพราะหากข้าพเจ้าอธิบายฝ่าให้กับปัญหาของเขาเป็นรายบุคคลแล้ว จะทำให้จิตใจของเขาถูกกระทบกระเทือนอย่างมาก กลับจะส่งผลกระทบต่อเขา ดังนั้นน้อยครั้งมากที่ข้าพเจ้าจะพูดกับใครในลักษณะอย่างนั้น แต่เวลาที่ข้าพเจ้าพูดถึงปัญหาเหล่านี้ในที่ประชุมใหญ่ พวกท่านอย่าคิดว่าไม่ใช่การพูดกับท่านหรือพวกท่าน

            บนสวรรค์มีองค์ราชาเป็นจำนวนมาก ทุกท่านทราบ องค์ศากยมุนีกล่าวว่าพระยูไลมีจำนวนมากเท่าเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา เช่นนั้นแม่น้ำคงคาในอินเดียมีทรายเป็นจำนวนเท่าใด! ยังไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่องค์ศากยมุนีกล่าวนั้นเป็นการอุปมา พระยูไลทุกองค์ก็คือราชาแห่งฝ่าองค์หนึ่ง นี่ยังไม่ใช่มีแต่เพียงสายพุทธ สายพุทธเป็นเพียงเทพประเภทหนึ่งซึ่งแพร่หลายและมีเป็นจำนวนมาก มีเทพเป็นจำนวนมากเท่าใด มีองค์ราชาอย่างนี้เป็นจำนวนมากเท่าใด ถ้าหากราชาทุกองค์ ต่างปฏิบัติเหมือนอย่างพวกท่านทำกันในเวลาที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เช่นนั้นก็คงแย่แล้ว พวกเขาไม่มีการถกเถียงกันในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะของระดับชั้นที่พวกเขาอยู่ แน่นอนพวกเขาสามารถมองเห็นสัจธรรม สามารถมองเห็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่บ่อยครั้งก็มีความเข้าใจแตกต่างกันบ้างในระดับหนึ่ง แต่พวกเขาจะไม่โต้เถียงกัน นั่นเป็นสภาวะของการให้อภัยอันยิ่งใหญ่ ความเมตตากรุณาต่อชีวิต ความสามารถเข้าใจต่อทุกสิ่งทุกอย่างด้วยเจตนาที่ดี พูดด้วยคำพูดของคนก็คือสามารถเข้าใจผู้อื่น ฉะนั้นบางครั้งพวกเราไม่สามารถจะเจาะเข้าไปในโพรงเขาควายด้วยจิตที่แรงกล้าของคนธรรมดาสามัญ ไม่สามารถหลุดออกจากตรงนั้นอยู่ร่ำไป ยิ่งคิดยิ่งยึดติด ยิ่งคิดใจของท่านก็ยิ่งเดือดพล่าน ยิ่งคิดก็ยิ่งถูกมารตนนั้นใช้เป็นประโยชน์ ในเวลาที่พวกท่านไม่สงบสติและจิตใจให้สุขุมเยือกเย็น ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน ในเวลานั้นคือมารกำลังใช้พวกท่านเป็นประโยชน์(เครื่องมือ) ข้าพเจ้าไม่สนใจว่าท่านจะบำเพ็ญมายาวนานเพียงใดแล้ว และอย่าเห็นว่าท่านจะมีชื่อเสียงอย่างไรในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า เวลาที่พวกท่านไม่ระวังรับรองว่าจะเป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ไม่ว่าพวกท่านจะบำเพ็ญได้ดีอย่างไร วันนี้หากพวกท่านยังมีจิตใจของคนธรรมดาสามัญอยู่ นั่นก็คือสิ่งที่มารจะสามารถใช้เป็นประโยชน์ ในเวลาที่ตัวเองไม่ระวังก็สามารถจะถูกใช้เป็นประโยชน์ได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นพูดสำหรับศิษย์ต้าฝ่าแล้ว คือต้องพยายามระงับจิตใจเหล่านั้นของคนธรรมดาสามัญให้ได้ พยายามไม่ให้มันปรากฏออกมา พยายามเดินหนทางของตัวเองให้ถูกต้องให้เต็มที่ ในสภาพแวดล้อมต่างๆ กับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น สามารถปฏิบัติตนอย่างสง่าผ่าเผย ให้อภัย ใจกว้าง สามารถเข้าใจผู้อื่น สามารถไตร่ตรองปัญหาจากรอบด้าน เช่นนั้นข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องต่างๆ ก็สามารถจะทำได้ดี การกระทำแบบนี้ไม่ใช่การประนีประนอม ทุกคนต่างสามารถออกความเห็นของตนและประเมินด้วยเจตนาที่ดี

            พูดไปพูดมา ในความเป็นจริงยังคงเป็นประเด็นของการบำเพ็ญ ท่ามกลางการเจิ้งฝ่ายังคงต้องอ่านหนังสือศึกษาฝ่าให้มาก อันที่จริงนี่ไม่ใช่เป็นการวิจารณ์พวกท่าน เพราะเป็นอาจารย์จึงสามารถมองเห็นจุดบกพร่อง ท่านเรียกข้าพเจ้าเป็นอาจารย์ ข้าพเจ้าจึงต้องบอกท่านว่าจุดบกพร่องอยู่ตรงไหนและให้รับรู้ แน่นอนคำชมเชยข้าพเจ้าก็พูดอยู่บ่อยๆ ศิษย์ต้าฝ่ายอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่สง่างาม พวกท่านทำได้ดีจริงๆ คำพูดเหล่านี้พูดมากไปไม่มีประโยชน์กับพวกท่าน บ่อยครั้งเวลาอาจารย์เห็นพวกท่านทำได้ดีอย่างยิ่ง ได้แต่ดีใจกับพวกท่านอย่างเงียบๆ

            ในการยืนยันความถูกต้องให้กับฝ่าและช่วยเหลือสรรพชีวิต ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนล้วนแต่ริเริ่มอาสาในการทำงานต่างๆ จุดนี้อาจารย์เห็น นี้คือสิ่งที่คนธรรมดาสามัญในปัจจุบันทำไม่ได้ พวกเราผู้ฝึกซึ่งอยู่นอกประเทศจีนต่างทุ่มเทกำลังเข้าไปทำอย่างเต็มที่ ทุกคนต่างทำในสิ่งที่ตัวเองสมควรทำในช่วงเวลาแห่งการเจิ้งฝ่า สำหรับผู้ฝึกในประเทศจีน พวกเขาก็มีวิธีของพวกเขา สำหรับผู้ฝึกนอกประเทศจีน พวกท่านก็มีวิธีของพวกท่าน ล้วนแต่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่ทุกคนจะต้องทำในสิ่งที่เหมือนกัน ทุกคนล้วนกำลังทำกันอยู่ในสภาพแวดล้อมของตัวเอง ทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำในช่วงเวลานี้ พวกท่านทำในสิ่งที่ออกมาจากใจของตัวเอง ศิษย์ทุกคนกำลังพิทักษ์ปกป้องฝ่า กำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต เหมือนเป็นอณูเม็ดหนึ่งของต้าฝ่าจริงๆ ดูจากจุดนี้ คนในสังคมโลกไม่สามารถจะเปรียบเทียบ

            ทุกท่านทราบ แก๊งชั่วร้ายในประเทศจีนซึ่งควบคุมสิ่งที่ทำให้คนทุกข์ทรมาน นั้นไม่เป็นสองรองใคร พูดได้ว่าเป็นศูนย์รวบรวมวีธีการอย่างครบถ้วน ที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน ทั้งจากในและนอกประเทศจีน บวกกับความคิดของคนจีนปัจจุบันซึ่งผ่านการต่อสู้ทางการเมือง ได้กลายสภาพจนฉลาดแหลมคมและปลิ้นปล้อนมากยิ่งขึ้น เรื่องเลวทรามต่างๆ ที่ทำออกมาจึงชั่วร้ายอย่างที่สุด แม้จะเป็นเช่นนี้ คนจำนวนมากมายถูกกระทำ ถูกใช้(เป็นเครื่องมือ)ให้ทำความชั่ว ดังนั้นพวกเขาไม่ได้คิดบ่อนทำลายฝ่าจากใจของพวกเขาจริงๆ จุดนี้พวกเราก็มองเห็น ไม่ว่าสิ่งชั่วร้ายจะใช้วิธีอะไร ใช้เงินทองมากเท่าใดที่จะบ่อนทำลายต้าฝ่า ก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่พวกเขาต้องการ พวกเราทำด้วยใจ พวกเขาทำโดยใช้เงินทอง จุดนี้พวกเขาไม่มีวันจะเปรียบเทียบได้ กลไกโฆษณาชวนเชื่ออันทรงพลังของประเทศ มีสถานกงสุลอยู่ทุกแห่งทั่วโลก มีกองทัพที่ใหญ่โตเช่นนั้น สิ่งที่พวกเราเผชิญคือแก๊งการเมืองอันธพาลเช่นนี้ ซึ่งต้องการปราบปรามพวกเรา พวกเราสามารถทำให้ผู้คนทั่วโลกเข้าใจอย่างแท้จริง ถึงการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายในครั้งนี้ในเวลาอันสั้น นี่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมหรอกหรือ นี่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำด้วยใจจึงสามารถทำได้หรอกหรือ นี่ไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่าริเริ่มอาสาทำกันเองจึงทำได้หรอกหรือ แน่นอนสิ่งชั่วร้ายคิดจะบ่อนทำลายฝ่าแห่งจักรวาล ย่อมไม่มีวันจะทำได้

            แน่นอน สิ่งต่างๆ ไม่ใช่เป็นอะไรที่ง่ายๆ ธรรมดาเหมือนอย่างคนธรรมดาสามัญคิด ถึงแม้สิ่งชั่วร้ายคิดอยากจะให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามความต้องการของมันจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ตลอดช่วงเวลาการเจิ้งฝ่าโดยรวม ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งปรากฏออกมาท่ามกลางการเจิ้งฝ่า อิทธิพลเก่าได้จัดเตรียมไว้แล้วด้วยระบบอย่างรัดกุมในประวัติศาสตร์ มันสับสนวุ่นวาย มันสับสนวุ่นวายถึงระดับนี้ มันชั่วร้าย มันชั่วร้ายถึงระดับนี้ แต่ทั่วโลก รวมทั้งประเทศจีน นับรวมกันทั้งหมด ยังมีคนธรรมดาสามัญในสังคมอีกมากมาย และชีวิตที่เลวมากๆ ในทุกๆ มิติซึ่งไม่ได้เข้าร่วม ล้วนแต่ถูกยับยั้งเอาไว้ พูดอีกนัยหนึ่งคือ ไม่มีส่วนสำหรับมัน ยังไม่ให้มันเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ดีหรือเลวก็ตาม มีทั้งสองฝ่าย สิ่งต่างๆดูเหมือนไร้ระเบียบ แต่ในความเป็นจริงเป็นระเบียบอย่างยิ่ง การกระทำของสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ที่เข้าร่วมดูแล้วชั่วร้ายอย่างยิ่ง อิทธิพลเก่าเพียงแต่กำลังใช้พวกมันเป็นประโยชน์ จุดประสงค์ที่ใช้คือให้พวกเรากำจัดขยะ(สิ่งปฏิกูล)เหล่านี้ในจักรวาลทิ้งไปในระหว่างการเจิ้งฝ่า ชีวิตชั่วร้ายมองไม่เห็นความเป็นจริง จึงแสดงออกมาอย่างกำเริบเสิบสาน เมื่อถึงเวลาที่ความเป็นจริงปรากฏ ชีวิตทั้งหมด รวมทั้งคนธรรมดาสามัญต่างจะอุทานอย่างตื่นตะลึง – โอ้ เรื่องราวเป็นเช่นนี้!

            แน่นอน สภาพการณ์ในสภาพแวดล้อมนี้แตกต่างกับสภาพแวดล้อมอย่างในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ การพูดถึงเรื่องการเจิ้งฝ่า พูดถึงเรื่องการช่วยเหลือสรรพชีวิต ภายใต้แรงกดดันของสิ่งชั่วร้ายแบบนั้น ภายใต้สภาพการณ์แบบนั้น ในมิติซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายนั้นแตกต่างจากการพูดกันที่นี่ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น อันที่จริงก็เป็นความประสงค์ซึ่งอิทธิพลเก่าต้องการจะทดสอบซินซิ่งของศิษย์ต้าฝ่า ย่อมต้องเป็นเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เช่นนั้นภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ ศิษย์ต้าฝ่าต้องเดินหนทางของตนให้ถูกต้อง พยายามอย่าปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายและอิทธิพลเก่าเจาะช่องว่างได้ ความคิดถูกต้องอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด อธิบายความเป็นจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิต อิทธิพลเก่าไม่กล้าต่อต้าน สิ่งสำคัญคือสภาวะจิตในขณะทำงาน ต้องไม่ปล่อยให้เขาเจาะช่องว่างได้

ถือโอกาสนี้ขอพูดอีกจุดหนึ่ง ทุกท่านทราบ ปัจจุบันนี้พวกเรามีกำลังคนค่อนข้างจำกัด ในการอธิบายความเป็นจริงทุกท่านต้องไม่สนใจแต่เรื่องนี้โดยไม่ดูแลเรื่องนั้น พูดอีกนัยหนึ่งคือพวกเราต้องไม่ทุ่มกำลังทั้งหมดไปรวมอยู่ที่เรื่องเดียว ต้องพยายามดูแลให้ครอบคลุมทั้งหมด ทำสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ในขณะนี้ให้ดีทั้งหมด

            ไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้แล้ว ข้าพเจ้ารู้ว่าทุกท่านทำงานหนักมาก วันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้เอ่ยชมเชยพวกท่านมากนัก แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าในความเป็นจริงทุกคนต่างทุ่มกำลังทั้งหมด ให้กับงานอธิบายความเป็นจริงให้กับฝ่า เห็นว่ามีงานมากมายต้องทำ ทุกคนต่างรู้สึกกระวนกระวายในจิตใจอยากจะทำงานต่างๆ ให้ดี ทั้งหมดนี้อาจารย์เห็น ไม่เพียงข้าพเจ้าเท่านั้นที่เห็น ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ชีวิตทั้งหมดในจักรวาลต่างก็จ้องมองกันอยู่ ชั้นพื้นผิวของสสารนั้นเรียงลำดับตัวขึ้นมาจากอณู การเจิ้งฝ่าโดยรวมได้ดำเนินมาถึงชั้นพื้นผิวจุดนี้แล้ว แต่แม้ว่าร่างสสารชั้นพื้นผิวนี้จะดูหยาบในสายตาคน ในความเป็นจริงระบบจุลภาคอันใหญ่โตได้ซึมเข้าไปในตัวของมันแล้ว ซึ่งก็สลับซับซ้อนอย่างยิ่ง ท่ามกลางการเจิ้งฝ่า การทะลวงกำลังดำเนินถึงชั้นพื้นผิวแล้ว พูดอีกนัยหนึ่งคือ ดำเนินใกล้จะถึงที่(จุด)ที่คนสามารถจะมองเห็นแล้ว แต่ ณ ระดับจุลภาคมันยังคงสอดประสานกับมิติที่ใหญ่โต ณ ที่นั่นยังมีกลุ่มชีวิตที่ใหญ่โต ฉะนั้นชีวิตที่การเจิ้งฝ่าจะต้องให้การช่วยเหลือ ยังคงมีจำนวนที่ใหญ่โตมากมายอย่างยิ่ง นอกจากนี้สภาพการณ์ยังสลับซับซ้อนอีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรากระทำ สรรพชีวิตต่างก็ให้ความสนใจกันอยู่ ในจักรวาลนี้มีดวงตาอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ทั้งพวกที่ดำเนินการเสร็จแล้ว และพวกที่ยังไม่ได้ดำเนินการต่างก็มองดูกันอยู่ สรรพชีวิตของจักรวาลใหม่ต่างกำลังรอคอยจุดจบสุดท้าย ด้วยความปรารถนาอย่างร้อนรน สรรพชีวิตของจักรวาลเก่าล่ะ ก็ปรารถนาที่จะได้รับการช่วยเหลือ พวกที่เข้าร่วมประทุษร้ายการเจิ้งฝ่าในเรื่องนี้มีเพียงอิทธิพลเก่าส่วนนั้น เป็นเพียงร้อยละ 20 ของชีวิตในระดับชั้นต่างๆ จำนวนชีวิตอื่นๆที่มากกว่าไม่ได้เข้าร่วม พวกที่ไม่ได้เข้าร่วมเหล่านี้ต่างกำลังสังเกตการณ์ มองดูทุกสิ่งทุกอย่างนี้ จุดหนึ่งที่พวกเขารู้ รวมทั้งอิทธิพลเก่าก็รู้ เรื่องนี้หากทำไม่สำเร็จ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอันหมดสิ้น

            นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันได้ค้นพบการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในจักรวาล พวกเขาค้นพบว่าขอบเขตของจักรวาลที่พวกเขาสามารถมองเห็นในเวลานี้ กำลังขยายตัวเร็วขึ้นเร็วขึ้น และความเร็วของการขยายตัวก็เพิ่มเร็วยิ่งขึ้น เร็วยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ เพียงแต่พูดถึงหลักการของฝ่า ทุกท่านทราบไหม การขยายตัวแฝงด้วยความหมายอะไร ของสิ่งหนึ่งก่อนจะระเบิดจึงจะขยายตัว เมื่อขยายตัว ขยายตัวจนถึงระดับหนึ่ง มันก็จะแตกออกในทันที ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเข้าสู่วาระสุดท้าย ชีวิตจำนวนมากต่างเฝ้าดูทุกสิ่งทุกอย่างนี้ด้วยความร้อนใจ ส่วนอิทธิพลเก่าอิงตามที่พวกมันกำหนดก็กระวนกระวายด้วยเช่นกัน แน่นอนชีวิตของจักรวาลใหม่ต่างมุ่งหวังให้ทุกสิ่งทุกอย่างนี้สิ้นสุดโดยเร็ว พลังอันยิ่งใหญ่แห่งการเจิ้งฝ่ากำลังทำในขั้นสุดท้าย ด้วยความเร็วที่ฉับพลันและรุนแรงมากยิ่งขึ้นเหนือเวลาทั้งปวง เวลานี้ยังเหลืออีกนิดเดียวก็จะตามทันกับความเร็วของการขยายตัว ณ ชั้นพื้นผิว แน่นอนการขยายตัว ณ ชั้นพื้นผิวดูเชื่องช้ามากด้วยเวลาของมนุษย์ ในความเป็นจริงมันเร็วมาก สิ่งที่ข้าพเจ้าทำก็เร็วมาก ข้าพเจ้าเคยบอกพวกท่านว่า ข้างบนทำได้มากเท่าใด ข้างล่างจึงจะทำได้มากเท่านั้น แม้ว่าจักรวาลกำลังขยายตัว ความเร็วที่ข้าพเจ้าทำก็เร็วอย่างยิ่ง สามารถตามมันทันอย่างแน่นอน ถ้าตามมันไม่ทัน ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน การสลายตัว(ขั้น)สุดท้ายจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ณ มิติชั้นพื้นผิวทั้งหมดไม่คงอยู่ ถ้าตามมันทัน ก็จัดการแก้ไข ไม่เพียงแต่จะตามมันทัน ยังจะแซงขึ้นหน้ามัน นั่นก็คือเวลาของฝ่าปรับโลกมนุษย์ เวลานี้ยังเหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะตามทันกับความเร็วของการขยายตัวนั้นแล้ว สรรพชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วน ชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วน ต่างมองดูกันอยู่ อันที่จริง ในทุกอณูเล็กๆ ของอากาศล้วนคือดวงตา สวรรค์คืออะไร ข้าพเจ้าเคยบอกพวกท่านว่า ไม่ใช่ท้องฟ้าในจินตนาการของคนแบบนี้ เมื่อ(ท่าน)มองดูโลกจากดวงจันทร์ จากดาวเสาร์ หรือจากดาวศุกร์ ก็อยู่บนสวรรค์ใช่หรือไม่ อยู่บนสวรรค์เช่นกัน สวรรค์อยู่ ณ ระดับมหภาค อยู่ ณ ระดับจุลภาค ไม่ใช่หมายถึงมิติคู่ขนานซึ่งประกอบขึ้นจากอณูในระดับเดียวกัน ในสายตาของเทพนั่นเป็นเพียงความคิดใกล้และไกล ณ ระดับมหภาคและในระดับจุลภาค ชีวิตทั้งหมดต่างกำลังจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้บนโลก การกระทำทุกอย่าง ความคิดทุกประการ พวกเขารู้หมด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ ล้วนปรากฏอย่างชัดเจนในสายตาของสรรพชีวิตชั้นสูง ฉะนั้นทุกท่านจะต้องทำให้ดี ให้พวกเขาเกิดความเลื่อมใส

            ยิ่งใหญ่สง่างาม ยิ่งใหญ่สง่างามจริงๆ ปราศจากเรื่องของการเจิ้งฝ่า ก็จะไม่สามารถดึงให้ความยิ่งใหญ่สง่างามของศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาการเจิ้งฝ่าเด่นออกมา ศิษย์ต้าฝ่า สิ่งที่พวกท่านเผชิญอยู่นั้นยิ่งใหญ่สง่างาม สิ่งที่พวกท่านเผชิญอยู่คือความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง แน่นอนยังมีความเป็นมาของตัวพวกท่านเอง ทั้งหมดรวมอยู่ข้างใน ข้าพเจ้าจึงบอกว่าพวกท่านยิ่งใหญ่สง่างาม ต้องปฏิบัติตนให้คู่ควรกับสมญานามของ “ศิษย์ต้าฝ่าแห่งช่วงเวลาเจิ้งฝ่า” สิ่งนั้นไม่มีอีกในจักรวาล ตั้งแต่มีประวัติศาสตร์มา มีครั้งนี้เพียงครั้งเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างดูแล้วเหมือนเกิดอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนักกับคนธรรมดาสามัญ ถ้ามีความแตกต่าง เมื่อพวกท่านบอกว่าอะไร คนก็จะเชื่อ ก็จะไม่มีเรื่องของการเจิ้งฝ่า คนทำบาปท่ามกลางวังวน เวลานี้ก็ให้ชดใช้บาปอยู่ท่ามกลางวังวน อย่าเห็นว่าพวกเรายังมีหนทางที่ลำบากต้องเดินอีกหนึ่งช่วง เวลาจะไม่ยาวนาน หวังว่าจากนี้ไปทุกท่านจะทำให้ดียิ่งขึ้น

            ข้าพเจ้าจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ให้พวกท่านดำเนินการประชุมต่อไป วันนี้เพียงแต่มาพบกับพวกท่านเพราะมีบางคนมาจากภาคพื้นยุโรป มาจากออสเตรเลีย มาจากเอเซีย ทุกท่านก็อยากเห็นข้าพเจ้าด้วย หากมีเรื่องอะไรจำเป็นต้องพูด ข้าพเจ้าก็จะมาพบกับพวกท่านอย่างแน่นอนและบอกพวกท่านให้ทำอย่างไร วันนี้โดยหลักคือมาพบกับทุกท่าน ขอบคุณทุกท่าน

 

 


บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยกรุงวอชิงตัน ดีซี ปี 2002

หลี่ หงจื้อ

22 กรกฎาคม ค.ศ. 2002

           

สวัสดีทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้พบกับทุกท่าน ด้วยเหตุผลหลายประการข้าพเจ้าไม่อยากออกมาบ่อยเกินไป เหตุผลสำคัญที่สุดคือศิษย์ต้าฝ่ากำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่า กำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนต่างกำลังเดินหนทางของตัวเอง ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนต่างต้องมีโอกาสเดินหนทางของตัวเอง ฉะนั้นในแง่ของอาจารย์จึงไม่สามารถไม่ให้โอกาสตัวพวกท่านเองได้ยืนยันความถูกต้องของฝ่า ต้องปล่อยให้พวกท่านไปทำด้วยตัวเอง แน่นอนในระหว่างการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิตและอธิบายความเป็นจริง ผู้ฝึกจำนวนมากยังคงมีปัญหาต่างๆ อยากจะถามอาจารย์ว่าแท้จริงแล้วควรจะทำอย่างไร

            ทุกท่านคงจำได้ สามปีก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่สิ่งชั่วร้ายเริ่มการประทุษร้าย ผู้ฝึกพวกเราจำนวนมากต่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ผู้ฝึกวัยหนุ่มสาวต่างไม่เคยประสบกับเหตุการณ์อันชั่วร้ายดังเช่นการปฏิวัติครั้งใหญ่ทางวัฒนธรรม แต่ทุกคนก็ค่อยๆ สงบจิตใจให้สุขุมเยือกเย็น จากไม่รู้จะทำอย่างไรจนในที่สุดรู้ว่าจะทำอย่างไร ในระหว่างขั้นตอนแม้จะมีความสูญเสียบ้าง แต่เป็นหนทางซึ่งพวกท่านเดินข้ามมาด้วยตัวเอง ท่ามกลางการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายในครั้งนี้ ทุกคนต่างตรึกตรองอย่างจริงจังว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร ควรจะดำเนินไปในหนทางอย่างไร ก่อตั้งธรรมานุภาพของตัวเองขึ้นมาจากสิ่งเหล่านั้น เดินข้ามมาจากทุกข์ภัยอันมหึมานั้น นี่ก็คือสิ่งที่ยอดเยี่ยม นี่ก็คือสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ   นี่ก็คือหนทางการเจิ้งฝ่าซึ่งพวกท่านได้ทำไว้ ธรรมานุภาพของผู้บรรลุธรรม ฉะนั้นหลายๆครั้ง อาจารย์ไม่สามารถบอกให้พวกท่านทำอย่างไร ฝ่า ได้พูดให้ฟังแล้ว ใช้ฝ่าวัด (ประเมิน วิเคราะห์)ก็สามารถจะทำได้ดี เวลามีปัญหาใหญ่ ข้าพเจ้าจะต้องบอกทุกท่านอย่างแน่นอน นอกเหนือจากนี้ ปัญหารูปธรรมต่างๆ ที่พวกท่านได้ประสบ ก็ต้องให้พวกท่านไปใคร่ครวญด้วยตัวเอง ก็ต้องให้พวกท่านคิดหาวิธีไปแก้ไขด้วยตัวเอง มีปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน ก็ต้องให้พวกท่านไปอธิบายความเป็นจริง ไปช่วยเหลือ(สรรพชีวิต)ที่นั่น เมื่อประสบกับความยากลำบาก อย่าเดินไปทางอ้อม เวลาพบกับสิ่งที่ทำความเสียหายให้พวกเรา เวลาเห็นว่าการยืนยันความถูกต้องของเรามีอุปสรรค อย่าเดินไปทางอ้อม ต้องเผชิญหน้ากับมัน ไปอธิบายความเป็นจริง ไปช่วยเหลือชีวิต นี่คือความเมตตากรุณาของศิษย์ต้าฝ่า พวกเรากำลังช่วยเหลือชีวิต ในเวลาเดียวกัน ในการอธิบายความเป็นจริง คนที่ถูกปิดบังอำพรางจากความเป็นจริงและมีความเข้าใจผิด มีความเข้าใจเอนเอียงไม่ถูกต้อง ก็สามารถแก้ไขให้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามการประทุษร้ายอันชั่วร้ายซึ่งเกิดขึ้นในประเทศจีนครั้งนี้ สรรพชีวิตถูกมอมเมาจากการโฆษณาชวนเชื่อของข่าวลืออันเป็นเท็จ ปกปิดความเป็นจริงด้วยภาพจอมปลอมซึ่งโกหกหลอกลวง ฉะนั้นเมื่อเผชิญกับความเป็นจริงตรงหน้า ผู้คนก็จะใคร่ครวญไตร่ตรอง ตัวคนเองจะปฏิบัติกับทุกสิ่งทุกอย่างอย่างไรก็เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือก

            ฉะนั้นดูในภาพรวม ในสามปีมานี้ โดยภาพรวมทุกท่านต่างทำได้ดีมาก ยิ่งกว่านั้นนับวันก็ยิ่งสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ นับวันก็ยิ่งมีสติสัมปชัญญะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ในระยะแรกเนื่องจากทุกคนต่างไม่รู้จะทำอย่างไร แสดงออกมาค่อนข้างจะสับสนสักหน่อย แต่อย่างรวดเร็วจากไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ค่อยๆรู้ว่าจะรับมือกับความจริงของความชั่วร้ายครั้งนี้อย่างไร ในที่สุดทุกท่านต่างสามารถสงบจิตใจให้เยือกเย็น มาถึงวันนี้พวกท่านนับวันก็ยิ่งสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ กำลังบำเพ็ญกันอยู่นับเป็นร้อยล้านคน ทั้งผู้ฝึกใหม่ ผู้ฝึกเก่า บ้างศึกษาฝ่าอย่างลึกซึ้ง บ้างศึกษาฝ่าอย่างผิวเผิน บางคนเพิ่งจะเข้าใจฝ่า บางคนเพิ่งจะรู้จัก ผู้ฝึกเหล่านี้ไม่ใช่สามารถเข้าใจฝ่าจากในฝ่าได้ทั้งหมด ต่อหน้ามารผจญในครั้งนี้ ผู้ฝึกซึ่งศึกษาฝ่าไม่ลึกซึ้งและผู้ฝึกใหม่ต่างมีการรับรู้และเข้าใจ ต่อการยืนยันความถูกต้องของฝ่าที่แตกต่างกันของตัวพวกเขาเอง ซึ่งมีจิตใจของคนธรรมดาสามัญติดอยู่ ดังนั้นในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าและอธิบายความเป็นจริง จึงมีคนจำนวนมากทำงานโดยมีจิตของคนธรรมดาสามัญในระดับต่างๆ กัน ในเวลาที่พวกเขาถูกประทุษร้าย จิตของคนธรรมดาสามัญก็จะถูกฉิง(อารมณ์และความผูกพัน)ของคนทำให้หวั่นไหว จะถูกการเสแสร้งเมตตาและการโกหกหลอกลวง ทำให้หวั่นไหว ไม่ว่าจะอย่างไร การยืนหยัดศึกษาฝ่าเท่านั้น จึงจะสามารถขจัดจิตของคนธรรมดาสามัญทิ้งไปได้ จึงจะสามารถกำจัดความยึดติดทิ้งไปได้ และบรรลุภาวะไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ ของคนธรรมดาสามัญ เวลาผ่านไปแล้วสามปีกว่า การประทุษร้ายซึ่งอิทธิพลเก่าบีบคั้นพวกเราในครั้งนี้ ในระหว่างขั้นตอนของการเปิดโปงข่าวลือมดเท็จอันชั่วร้าย ยืนยันความถูกต้องให้ต้าฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต ได้ทำให้พวกเรานับวันยิ่งสุกงอม(เป็นผู้ใหญ่)มากยิ่งขึ้น มีสติสัมปชัญญะมากยิ่งขึ้น เด็ดเดี่ยวแน่วแน่มากยิ่งขึ้น นับวันจะสามารถรับมือกับการประทุษร้ายอันชั่วร้ายครั้งนี้ได้จริงจังมากยิ่งขึ้น

            ต้าฝ่าถ่ายทอดในโลกมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อนยังไม่ถึง 10 ปี เพียง 7 ปีเท่านั้น แม้จะเป็นเวลาสั้น แต่รากของต้าฝ่าก็ได้หยั่งลึกอยู่ในจักรวาลแล้ว หยั่งลึกอยู่ในโลกมนุษย์แล้ว ใครก็ไม่สามารถทำให้สั่นคลอน ดูจากสภาพการณ์ทั้งหมดในเวลานี้ การประทุษร้ายในชั้นผิวยังคงดำเนินอยู่อย่างชั่วร้ายยิ่งนัก ในความเป็นจริงผีเปื่อยยุ่ยชั่วร้ายซึ่งสามารถยับยั้งคน ควบคุมคนเหล่านั้นมีจำนวนเหลืออยู่ไม่มากแล้ว สิ่งชั่วร้ายยิ่งเหลือน้อยก็ร้องตะโกนเสียงดัง เหลือจำนวนยิ่งน้อย มันก็ยิ่งบ้าร้อนรน พูดถึงผู้บำเพ็ญซึ่งเข้าใจต้าฝ่าในระดับที่ต่างกัน จึงแสดงความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ออกมาในระดับต่างกัน ความรู้สึกรับรู้ต่อสถานการณ์การเจิ้งฝ่าในขณะนี้ก็ไม่เหมือนกัน สภาวะของตัวเองทำให้ตัวเองรู้สึกรับรู้ต่างกัน บางคนอาจรู้สึกว่าสถานการณ์รุนแรง สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่าสถานการณ์ผ่อนคลายลงแล้ว สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่ากำลังช่วยเหลือพลโลก เป็นโอกาสทองสำหรับอธิบายความเป็นจริง การรับรู้ การเข้าใจฝ่าในระดับที่ต่างกันจะมีความรู้สึกต่างกันต่อสถานการณ์ในขณะนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนพุ่งตรงที่จิตใจคนซึ่งแตกต่างกัน ทำได้ดีก็จะทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเองเปลี่ยนแปลง ทำได้ไม่ค่อยดีก็จะทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเองเปลี่ยนแปลงไปตามใจนึก สภาวะจิตอันแตกต่างกันของศิษย์ต้าฝ่า การรู้สึกรับรู้ต่อสภาพแวดล้อมจะไม่เหมือนกัน เช่นนั้นทุกคนจะแสดงออกมาในลักษณะต่างกัน สภาพการณ์แท้จริงตามข้าพเจ้าดูก็คือ อิทธิพลเก่าชั่วร้ายยังคงจะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการทำ ทุกคนทำได้ดีไม่ใช่เดินไปในหนทางที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้ เป้าหมายคือไม่ปล่อยให้อิทธิพลเก่าเจาะช่องว่าง อย่างไรก็ตาม พวกเราศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมนับวันก็ยิ่งสุกงอมเป็นผู้ใหญ่ นับวันก็ยิ่งมีสติสัมปชัญญะ สุขุมเยือกเย็น เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ รับมือ(ปฏิบัติ)กับทุกสิ่งทุกอย่างอย่างจริงจัง ในระยะแรกผู้ฝึกจำนวนมากด้วยมีจิตใจของคนธรรมดาสามัญต่างๆ ต่างแสดงออกมาในลักษณะต่างๆ ในชั้นพื้นผิวกำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่า ในความเป็นจริงคือได้ปะปนจิตใจของคนเข้าไป และไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ครั้นเมื่อถูกประทุษร้ายก็บังเกิดผลในทางกลับกัน เวลานี้ไม่เหมือนกันแล้ว พวกท่านแตกต่างจากพวกท่านเมื่อ 3 ปีก่อนโดยสิ้นเชิง แน่นอน ระหว่างบำเพ็ญพวกท่านยังมีจิตใจของคนธรรมดาสามัญคงอยู่ ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ยังจะก่อเกิดผลที่ไม่ดีอยู่เป็นนิจ แต่พวกท่านในเวลานี้เปรียบเทียบกับ 3 ปีก่อน นับว่ายอดเยี่ยมมากขึ้นนับวัน หมายความว่าศิษย์ต้าฝ่าสุกงอมเป็นผู้ใหญ่แล้ว

            การประทุษร้ายอันชั่วร้ายจะไม่ยาวนาน เพราะมารร้ายผีเปื่อยยุ่ยซึ่งควบคุมคนนับวันมีแต่จะลดน้อยลง ตัวคนเองคิดจะทำการใหญ่อะไรสักอย่าง คนไม่มีความสามารถทำได้ เพราะตลอดมาคนนั้นถูกชีวิตอื่นควบคุมเอาไว้ ในระยะแรกการที่หัวหน้าสิ่งชั่วร้ายในประเทศจีนกล้าทำการประทุษร้ายต่อต้าฝ่าตึ้จื่อ เป็นเพราะยังมีองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายควบคุมบังคับเจ้าสมุนชั่วร้ายตนนี้อยู่ ดูจากสถานการณ์การเจิ้งฝ่าโดยรวม ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งศิษย์ต้าฝ่าทำในระหว่างการเจิ้งฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต อธิบายความเป็นจริง ล้วนเป็นสิ่งที่ทำในขั้นสุดท้าย ในบทความบทหนึ่งซึ่งลงในเจิ้งเจี้ยนเน็ต(www.pureinsight.org) พวกท่านได้เขียนไว้ว่า Book of Revelation ในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้แล้วว่า ปีศาจร้ายใช้ปากโจมตีเทพ 42 เดือน ก็คือเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง เป็นเรื่องเช่นนี้หรือไม่ ยังจะไม่พูดถึงมัน แต่ละครชั่วร้ายฉากนี้ได้ดำเนินมาถึงบทสุดท้าย ซึ่งใจสู้ แต่กำลังไม่ยอมเป็นใจ แล้วจริงๆ

            หัวหน้าชั่วร้ายในโลกมนุษย์ในประเทศจีนซึ่งควบคุมครอบงำโดยสิ่งชั่วร้าย ผีเปื่อยยุ่ยไม่ใช่คนแล้ว ความจริงเจ้าโง่เขลาตัวนั้นตายไปนานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งประกอบขึ้นเป็นชีวิตนั้นอยู่ในนรกเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงหนังชั้นพื้นผิวที่สุดชั้นนั้นซึ่งประกอบขึ้นเป็นร่างกายภายหลังกำเนิด รูปลักษณ์สสารซึ่งก่อเกิดภายหลังกำเนิด ยังถูกสิ่งชั่วร้ายค้ำยันเอาไว้ เนื่องจากเวลาซึ่งสิ่งชั่วร้ายจัดเตรียมไว้เพื่อทดสอบต่อต้าฝ่ายังไม่ถึงกำหนดสิ้นสุด ดังนั้นสิ่งชั่วร้ายจึงพยายามประคองมันเอาไว้ต่อไป ถ้าหาก ณ วันนี้ ชั้นพื้นผิวไม่ได้รับการค้ำยันอีกต่อไป มันก็จะกลายเป็นขี้เถ้าหนึ่งกองและชี่สีดำ อะไรก็ไม่เหลือ พูดตามคนธรรมดาสามัญ เขาตายไปแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยเที่ยว แต่ผีเปื่อยยุ่ยเหล่านั้นยังคงค้ำยันรูปลักษณ์ชั้นพื้นผิวของมันเอาไว้ ยังคงใช้สิ่งน้อยนิดของชั้นพื้นผิวที่สุดนั้นอยู่ แต่สติสัมปชัญญะผิดปกติโดยสิ้นเชิงเสียแล้ว มันเกิดความหวาดกลัวหลังจากได้ประทุษร้ายต่อต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่า ดังนั้นจึงไม่กล้าลงจากเวที ดังนั้นจึงบ้าคลั่ง ดังนั้นจึงมีชีวิตอยู่เพื่อฝ่าหลุนกง ดังนั้นจึงหวาดหวั่นกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา และสิ่งชั่วร้ายซึ่งควบคุมคนเหล่านั้นมีแต่จะถูกกำจัดทิ้งไปมากขึ้นมากขึ้น ในระหว่างที่ศิษย์ต้าฝ่าส่งความคิดถูกต้องและอธิบายความเป็นจริง ดูจากสถานการณ์โดยรวมของการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราทำ ได้ทำให้องค์ประกอบเก่าในจักรวาลลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงทำให้พลังของสิ่งชั่วร้ายน้อยลงไปเรื่อยๆ ไม่สามารถสนับสนุนสิ่งชั่วร้ายในวงกว้างได้อีกแล้ว ทำความชั่วได้เพียงเฉพาะส่วนเท่านั้น นอกจากนี้ขอบเขตก็เล็กลงๆ เพราะฉะนั้นเรื่องการอธิบายความเป็นจริงศิษย์ต้าฝ่าทุกคนต้องให้ความสำคัญ นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่สง่างามที่สุดซึ่งพวกท่านสมควรทำอย่างสุดกำลัง การช่วยเหลือสรรพชีวิต การทำให้เทียนถี่ซึ่งสอดประสานกับตัวพวกท่านเองให้หยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์)ล้วนรวมอยู่ในนี้ ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนต้องทำ ต้องไม่พลาดโอกาสใดๆ               

ทุกท่านต่างเห็นแล้วว่า เวลานี้นอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้คนต่างมีสติแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ด้านหนึ่งอันเนื่องมาจากผลของการอธิบายความเป็นจริงของศิษย์ต้าฝ่า ในเวลาดียวกันเป็นเพราะพลังแห่งเจิ้งฝ่าได้กำจัดสิ่งชั่วร้ายทิ้งไปมาก ทำให้สิ่งชั่วร้ายไม่สามารถควบคุมพลโลกได้อีกต่อไป ผู้คนต่างกำลังใคร่ครวญด้วยความสุขุมเยือกเย็น สิ่งที่ยับยั้งคนเอาไว้ไม่เหลือแล้ว องค์ประกอบซึ่งควบคุมคนให้ทำในสิ่งเลวร้ายถูกกำจัดหมดสิ้นไปแล้ว คนนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีสติแจ่มชัดมากขึ้นแล้ว และยิ่งนานวันก็จะยิ่งมีสติแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น มองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นถึงการประทุษร้ายอันชั่วร้ายครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศจีน ฉะนั้นพูดในแง่ของพวกเราศิษย์ต้าฝ่าซึ่งอยู่นอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว เป็นโอกาสให้พวกเราได้อธิบายความเป็นจริงให้มากขึ้น ให้คนทั่วโลกและรัฐบาลแต่ละประเทศได้รับรู้ความชั่วร้ายครั้งนี้ให้มากขึ้น ดังนั้นในเวลาที่พวกเราทำงานในด้านนี้ หวังว่าทุกคนจะทำกันอย่างแข็งขันสักหน่อย ให้ผู้คนสามารถรับรู้เรื่องทั้งหมดนี้อย่างแท้จริง

พวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า ดังนั้นไม่ว่าท่านจะอยู่ในสภาพแวดล้อมอะไร ในการทำสิ่งเหล่านี้ เช่นอธิบายความเป็นจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิต ทุกท่านต้องแสดงพฤติกรรมของศิษย์ต้าฝ่า โดยแก่นแท้ท่านคือผู้บำเพ็ญ ดังนั้นถ้าท่านอยากจะทำให้ดีอีกสักหน่อย เช่นนั้นการศึกษาฝ่าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต่อให้มีงานยุ่งอย่างไรก็ต้องศึกษาฝ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกที่ก้าวออกมาทีหลัง หรือตกลงไป หรือตามไม่ทัน ต้องศึกษาฝ่าให้มาก รับฟังคำวิจารณ์ให้มาก รีบตามขึ้นมาให้ทัน การฟาเจิ้งเนี่ยนทุกคนต้องถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะพวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญที่กำลังทำงานให้กับต้าฝ่า แต่เป็นศิษย์ต้าฝ่าซึ่งกำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่า หัวหน้าสิ่งชั่วร้ายในประเทศจีนคนนั้นปลุกปั่นข่าวลือ กล่าวหาว่าข้าพเจ้าอ้างตัวเองเป็นพระเยซู เป็นองค์ศากยมุนี ทุกคนต่างก็รู้นี่เป็นคำโกหกมดเท็จ ที่เจ้าหมอนั่นสักแต่อ้าปากพูดเรื่อยเปื่อยไปตามอารมณ์ ข้าพเจ้าไม่ใช่พระเยซู ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่องค์ศากยมุนี  แต่ฝ่าได้สร้างพระเยซูและองค์ศากย-มุนีหลายสิบล้านองค์ ผู้ซึ่งกล้าที่จะเดินไปในหนทางแห่งสัจธรรม กล้าที่จะไม่หวั่นเกรงความเป็นความตายเพื่อสัจธรรม กล้าที่จะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต (เสียงปรบมือยาวนาน) พวกท่าน ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนต้องตระหนักในตัวเองอย่างแท้จริง เดินหนทางของตัวเองให้ดี พวกท่านยิ่งใหญ่สง่างามเช่นนั้นจริงๆ ฉะนั้นพวกท่านจะต้องทำให้ดีในสิ่งที่พวกท่านสมควรทำในวันนี้ อย่างมีสติสัมปชัญญะและด้วยความเข้มงวดจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราระหว่างศิษย์ต้าฝ่าด้วยกัน เวลาพวกเราอธิบายความเป็นจริงกับบุคคลภายนอก ทุกคนต่างรู้สึกว่าควรปฏิบัติต่อสรรพชีวิตด้วยความเมตตากรุณา ระหว่างพวกเราศิษย์ต้าฝ่าด้วยกัน ก็ไม่สามารถจะไม่เมตตากรุณาต่อกันและกัน พวกท่านคือศิษย์ในวิชาเดียวกัน ทุกคนต่างกำลังทุ่มเททั้งจิตใจและแรงกายเพื่อการเจิ้งฝ่าของจักรวาลอย่างสุดกำลัง ฉะนั้นต้องร่วมมือประสานงานซึ่งกันและกันให้ดี อย่าปฏิบัติกับปัญหาโดยใช้จิตของคนธรรมดาสามัญมากเกินไป การปฏิบัติต่อกันด้วยจิตของคนธรรมดาสามัญ จนเกิดความขัดแย้งและการถกเถียงอันไม่ควรมี สิ่งเหล่านี้สมควรต้องแสดงด้วยการให้อภัยด้วยน้ำใจโอบอ้อมอารี ความเมตตา ดีงามอ่อนโยนของศิษย์ต้าฝ่า เรื่องของเขาก็คือเรื่องของท่าน เรื่องของท่านก็คือเรื่องของเขา พวกเราไม่พูดเรื่องความสามัคคีของคนธรรมดาสามัญ นั่นเป็นรูปแบบภายนอกแบบหนึ่งของการบังคับ พวกท่านคือผู้บำเพ็ญ พวกท่านมีอาณาจักรเขตแดนที่สูงขึ้นไปอีก เช่นนั้นการกระทำในสิ่งต่างๆ จึงควรจะสามารถเข้าใจผู้อื่น สามารถรับฟังความเห็นของผู้อื่น สามารถใช้ต้าฝ่าวัดดูว่าผิดหรือถูก ความจริงพวกท่านดีกว่าแต่ก่อนมากแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่า ในอนาคตพวกท่านควรจะทำได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

            วันนี้ ประการสำคัญคือข้าพเจ้าอยากมาพบกับทุกท่าน ครั้งที่แล้ว ฝ่าฮุ่ยที่แคนาดาฉลองการครบรอบ 10 ปีแห่งการถ่ายทอดต้าฝ่าในโลก(ต่อสาธารณะ) ข้าพเจ้าไม่ได้ไปร่วมประชุม ไม่ใช่ศิษย์ต้าฝ่าทำไม่ดี เป็นเพราะมีคนจำนวนมากเกินไปอยากพบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่อยากจะออกมาเปิดเผยตัวต่อสังคม เพราะถ้าแม้นข้าพเจ้าออกมาเปิดเผยตัว ความสนใจทั้งหมดในสังคมก็จะพุ่งเป้ามารวมที่ตัวข้าพเจ้า เวลานี้เป็นพวกท่านผู้ซึ่งกำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่าในหมู่พลโลก ระหว่างอธิบายความเป็นจริงในหมู่พลโลก พวกท่านกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ทำทุกสิ่งทุกอย่างของพวกท่านให้หยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์) เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าอยากจะเหลือโอกาสไว้ให้กับพวกท่าน ยังคงปล่อยให้พวกท่านไปทำ ไม่เช่นนั้นหากข้าพเจ้าออกมา พวกท่านไปพูดอะไรในสังคม ไปพูดอะไรกับทางรัฐบาลก็จะไม่มีใครฟัง พวกเขาต่างต้องการจะมาฟังข้าพเจ้าพูดโดยตรง ถ้าเป็นเช่นนั้นในขณะที่อาจารย์ทำเรื่องของการเจิ้งฝ่า ในเวลาเดียวกันยังต้องทำเรื่องของคนในโลก ลำพังคนเดียวข้าพเจ้าคงไม่อาจจะทำได้ ใช่หรือไม่ แน่นอนยังมีเหตุผลอื่นอีก

            ไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว วันนี้เพียงอยากจะมาพบกับทุกคน หวังว่าฝ่าฮุ่ยของเราในครั้งนี้จะจัดได้ดียิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกัน การที่พวกเราสามารถจัดฝ่าฮุ่ยครั้งนี้ได้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้าฝ่าสามารถมีจุดยืนมั่นคงได้ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากประชาชนของสหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนแก่พวกเราอย่างมาก ณ ที่นี้พวกเราขอขอบคุณประชาชนของสหรัฐอเมริกา (เสียงปรบมือ) ขอขอบคุณเหล่าสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกผู้แทนรัฐบาลในระดับต่างๆ ขอขอบคุณรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาในระดับต่างๆ (เสียงปรบมือ)

            เดินหนทางของตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร สิ่งดีงามที่สุดทั้งหมดกำลังรอคอยศิษย์ต้าฝ่าอยู่ สิ่งน่ากลัวที่สุดทั้งหมดกำลังรอคอยคนเหล่านั้นซึ่งส่งผลในด้านลบต่อการเจิ้งฝ่า (เสียงปรบมือยาวนาน)


บรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยเมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ปี 2002

หลี่ หงจื้อ

30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002

 

            สวัสดีทุกท่าน

            “สองฝากฝั่งเสียงวานรร้องไม่เลิก เรือเบาแล่นผ่านหินผานับหมื่น” (เสียงปรบมือกึกก้อง) สิ่งชั่วร้ายหมดกลเม็ดแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าฝึกฝนสุกงอมแล้ว ไม่กลัวว่ามันจะมีกลเม็ดอะไรอีก การประทุษร้ายต่อต้าฝ่า ต่อศิษย์ต้าฝ่าผ่านไปแล้วกว่าสามปี เพียงชั่วกระพริบตาก็จะ 4 ปี ในช่วงเวลานี้ พวกเราศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมาก โดยเฉพาะศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ประสบกับการประทุษร้ายอันชั่วร้ายอย่างไม่เคยมีในประวัติการณ์ ท่ามกลางการคุกคามด้วยคำโกหกหลอกลวง (พวกเขา) ยืนหยัดต้านทานการปราบปราบอย่างชั่วร้ายที่สุดมาตลอด 3 ปีมานี้ ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ นี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญจะสามารถทำได้

            ทุกท่านทราบ ในจีนแผ่นดินใหญ่ ถ้าคิดจะล้มล้างใครสักคน หรือประทุษร้ายใครสักคน รวมทั้งประมุขของประเทศ ในเวลาไม่เกิน 3 วันเขาก็จะไม่คงอยู่ แน่นอน ไม่ใช่จะบอกว่ากายเนื้อของศิษย์ต้าฝ่านั้นทำด้วยเพชรหรือเหล็กกล้า เป็นเพราะคนชั่วร้ายไม่มีทางที่จะเข้าใจผู้บำเพ็ญอย่างแน่นอน กลเม็ดที่ใช้ทรมานคนซึ่งพวกมันรวบรวมมาได้ทั้งหมดในประวัติศาสตร์นั้น ใช้ได้ผลกับคนธรรมดาสามัญเท่านั้น แต่กับผู้บำเพ็ญ กับผู้บำเพ็ญซึ่งปล่อยวางความยึดติดทางโลก พูดได้ว่ามันใช้ไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง

            แน่นอน ในระหว่างบำเพ็ญ ผู้ฝึกหลายๆ ท่านยังมีจิตของคนธรรมดาสามัญในระดับต่างๆ ยังมีบางคนซึ่งตลอดมาไม่ค่อยตั้งใจศึกษาฝ่า และยังมีผู้ฝึกใหม่จำนวนมากซึ่งเพิ่งจะเข้ามาเรียนวิชา ในทันใดก็ต้องพบกับการคุมคามที่ชั่วร้ายแบบนี้ การปราบปรามแบบมืดฟ้ามัวดิน สำหรับผู้ฝึกซึ่งมีจิตของคนธรรมดาสามัญแรงกล้า มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เนื่องจากจิตของคนธรรมดาสามัญเหล่านี้ ทำให้ผู้ฝึกเหล่านี้สับสนไปชั่วขณะ ในเวลานั้นแยกแยะไม่ออกว่าจริงๆ แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง หลังจากตัวเองไตร่ตรองอย่างสุขุมเยือกเย็น ทำไมฉันจึงศึกษาต้าฝ่า ฝ่าหลุนต้าฝ่าจริงๆ เป็นอย่างไร หลี่ หงจื้อจริงๆ แล้วเป็นคนเช่นไร หลายๆ คนต่างไตร่ตรองปัญหาเหล่านี้อย่างสุขุมเยือกเย็น ผ่านการไตร่ตรองด้วยความสุขุมเยือกเย็นข้อสรุปที่ได้ ทุกคนก็เข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น สิ่งที่พวกเราศึกษาคือเจิ้งฝ่า(ฝ่าถูกต้อง) เจิน ซั่น เหยิ่นที่พวกเราบำเพ็ญนั้นไม่ผิด ยิ่งกว่านั้นนับวันจะเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า วิธีการทั้งหมดที่คนชั่วร้ายใช้ในการประทุษร้ายครั้งนี้ล้วนแต่เป็นการกุข่าวลือ ใส่ร้ายป้ายสี รวบรวมสิ่งชั่วร้ายไว้ทั้งหมด ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เป็นกลลวงทั้งหมด

            การประทุษร้ายครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไรหรือ เพื่อปกป้องอำนาจทางการเมืองหรือ แท้จริงแล้วไม่ใช่อย่างแน่นอน บอกว่าฝ่าหลุนกงเป็นภัยต่ออำนาจทางการเมืองของประเทศจีน นั่นเป็นการกุข่าวเท็จอย่างมโหฬารของสิ่งชั่วร้าย มีคนจำนวนมากถามข้าพเจ้า มีคนจำนวนมากถามศิษย์ข้าพเจ้า ถึงเป้าหมายของการประทุษร้ายอย่างแท้จริงในครั้งนี้ว่า “จริงๆแล้ว เนื่องจากอะไร” ก็คือ เนื่องมาจากความอิจฉาของตัวตลกตนหนึ่ง เพราะมันมีอำนาจอยู่ในมือ มันจึงสามารถทำเรื่องเช่นนี้ออกมา ฟังแล้วน่าขัน ไม่อาจจะคาดคิด ทำไมเรื่องเช่นนี้จึงสามารถเกิดขึ้นกับมนุษยชาติ แต่มันก็เป็นความจริง การประทุษร้ายครั้งนี้จึงเกิดขึ้นอย่างไร้สาระ ภายใต้แรงอิจฉาที่เปลี่ยนสภาพของตลกตัวนี้ด้วยประการฉะนี้ ก็คือเหตุผลนี้ ในสังคมมนุษย์นี่คือแก่นแท้ที่พวกเรามองเห็น ก็คือเหตุผลนี้

            พูดจากอีกด้านหนึ่ง มนุษย์คิดจะทำเรื่องอะไรที่สำคัญมากๆ แท้ที่จริงมนุษย์ไม่มีความสามารถ โดยมากคือความนึกคิดที่ไม่ดีของคนสอดคล้องกับชีวิตชั่วร้ายของมิติอื่น ชีวิตชั่วร้ายก็จะใช้ความนึกคิดที่ไม่ดีของคนไปทำสิ่งที่ไม่ดี เพื่อบรรลุเป้าหมายของชีวิตชั่วร้าย พร้อมกับทำให้ความนึกคิดที่ไม่ดีของคนสมปรารถนาในเวลาเดียวกัน ความนึกคิดที่ไม่ดีแท้จริงแล้วมาจากที่ใด ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ค้นพบแล้วว่า สมองของคนไม่ใช่แหล่งผลิตความนึกคิดอย่างแท้จริง หนึ่งประกายความคิดของคนมาจากที่ใด ผู้คนต่างเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองเรียนรู้ในสังคมคนธรรมดาสามัญ สิ่งที่ตัวเองวิเคราะห์ มันไม่ใช่ เวลาที่คนธรรมดาสามัญเกิดประกายความคิดจะทำอะไร แท้จริงแล้วสมองของท่านไม่ได้ทำการพิจารณาตรึกตรองอย่างยาวนาน หลายๆสิ่งเป็นการสนองตอบออกมาในทันที หลายๆคำพูด พออ้าปากก็หลุดออกมาเอง จริงๆ แล้วความคิดมาจากที่ใด พวกเราผู้บำเพ็ญต่างรู้ว่า แท้จริงแล้วความนึกคิดของคน ล้วนสัมพันธ์กับองค์ประกอบในมิติต่างๆ เรื่องที่สำคัญมากๆ มนุษย์จะถูกชีวิตอื่นควบคุมให้ทำออกมา แสดงมันออกมา ณ โลกมนุษย์ตรงนี้เท่านั้น ชั้นพื้นผิวของกายเนื้อมนุษย์ --- ร่างกายซึ่งก่อเกิดหลังกำเนิด แท้จริงแล้วมันไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น

            พูดถึงเรื่องของร่างกายมนุษย์ ที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้พูดกับพวกเราไปบ้างแล้วในสภาพแวดล้อมเฉพาะ แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยพูดในหมู่ผู้ฟังจำนวนมาก เพราะฝ่าชุดนี้ซึ่งข้าพเจ้าถ่ายทอดวันนี้คือฝ่าแห่งจักรวาล การเจิ้งฝ่า(ปรับฝ่าให้ถูกต้อง)คือการปรับจักรวาลให้ถูกต้อง ศิษย์ต้าฝ่าอยู่พร้อมกับการเจิ้งฝ่า จึงไม่สามารถพูดในสิ่งที่เป็นรูปธรรมเกินไปนัก ต่ำเกินไปนัก สิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมเหล่านั้นในสามภพ และสถานการณ์ที่เป็นรูปธรรมในสังคมมนุษย์เหล่านี้ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถระบุไว้ข้างในฝ่าของจักรวาล ฉะนั้นจึงไม่ได้พูด ข้าพเจ้าพูดถึงปัญหาเหล่านี้ในสภาพแวดล้อมเฉพาะเท่านั้น

            แน่นอน มนุษย์มีวิญญาณ 3 ดวง 7 ดวงและอื่นๆ มนุษย์ยังมีหนังแท้ มนุษย์ยังมีองค์ประกอบสองชนิดซึ่งพ่อแม่ให้หลังกำเนิด องค์ประกอบซึ่งก่อเกิดเป็นมนุษย์เหล่านี้คงอยู่ในมิติซึ่งตาเนื้อมองไม่เห็น การดูดซึมสสารจากอาหารของคนธรรมดาสามัญ ทำให้ชั้นพื้นผิวของกายเนื้อค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น มนุษย์เรียกมันว่าเติบโต กายเนื้ออันนี้ก่อเกิดขึ้นหลังกำเนิดในมิติวัตถุของคนธรรมดาสามัญ ร้อยปีให้หลัง(ผ่านไปตามกาลเวลา)ก็จะแก่เฒ่าและตายไป แยกสลายเป็นสสารอีกครั้ง ฉะนั้นจึงพูดว่า ร่างกายซึ่งก่อเกิดหลังกำเนิดของคนธรรมดาสามัญเป็นเพียงพาหนะอันหนึ่ง สิ่งเดียวซึ่งสามารถคงอยู่ในสมองของกายเนื้อของคน สิ่งที่เรียกว่าความนึกคิด แท้จริงก็คือทรรศนะความคิดชั้นพื้นผิว ซึ่งก่อเกิดขึ้นในสมอง จากการสั่งสมประสบการณ์ระหว่างขั้นตอนการเติบโตของมนุษย์ ความนึกคิดที่แท้จริงของกายเนื้อก็คือสิ่งนี้ และทรรศนะความคิดโดยตัวเองไม่สามารถประกอบขึ้นเป็นสติสัมปชัญญะ มันไม่สมบูรณ์ และไม่เป็นระเบียบ และไม่สามารถเชื่อมต่อกัน ฉะนั้นเวลาที่คนๆหนึ่งละทิ้งจิตสำนึกหลัก ความนึกคิดก็จะแสดงออกมาอย่างไม่มีสติสัมปชัญญะ ประเดี๋ยวพูดถึงสิ่งนี้ ประเดี๋ยวพูดถึงสิ่งนั้น พูดไม่มีประเด็น ประเดี๋ยวอย่างนี้ ประเดี๋ยวอย่างนั้น ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร เพราะเขาไม่มีประเด็นหลักที่จะเชื่อมให้ติดต่อกัน เขากำลังสะท้อนสิ่งที่ก่อเกิดหลังกำเนิดออกมา ฉะนั้นในเวลาที่คนละทิ้งจิตสำนึกหลัก ไม่เพียงแต่ทรรศนะความคิดเหล่านี้ สัญญาณอื่นๆ จากภายนอกก็สามารถรบกวน ดังนั้นคนจึงบอกว่าเขาเสียสติ

            ฉะนั้นจึงพูดว่า การประทุษร้ายในครั้งนี้ ปรากฏการณ์ในโลกมนุษย์ตรงนี้คือ ความอิจฉาของคนชั่วร้ายต่อต้าฝ่านั้นถูกควบคุมโดยชีวิตชั่วร้ายในมิติอื่นๆ ใช้ความชั่วร้ายของตัวตลกตัวนี้ก่อเรื่องที่ฉาวโฉ่ที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ --- การประทุษร้ายอันชั่วร้ายและไร้สาระต่อผู้ฝึกต้าฝ่า ข้ออ้างทั้งหมดที่มันใช้เพื่อปราบปรามล้วนแต่เป็นเรื่องมดเท็จ เครื่องมือเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อของสังคมทั้งหมดตกอยู่ภายใต้อำนาจของมัน กระจายเรื่องเท็จต่างๆมากมายต่อคนจีนและประชาคมโลก แม้ว่าจะชั่วร้าย แต่ศิษย์ต้าฝ่าก็ฝึกฝนสุกงอมแล้วท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ สามารถแยกแยะทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน ดังนั้นเวลานี้จึงมีสติแจ่มชัด มีสติสัมปชัญญะมากขึ้นมากขึ้น ในระยะแรกเนื่องจากผู้ฝึกบางคนยังไม่ได้ขจัดจิตของคนธรรมดาบางประการทิ้งไป ทำให้ตัวเองเห็นธาตุแท้ของสิ่งชั่วร้ายไม่ชัดเจน เนื่องจากเจิ้งเนี่ยน(ความคิดถูกต้อง)ไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นภายใต้แรงกระตุ้นของจิตยึดติด ได้ก่อเกิดความนึกคิดของคนธรรมดาสามัญบางประการ และเผยด้านที่ตัวเองขาดสติแจ่มชัด แต่ผ่านการประทุษร้ายครั้งนี้ ทำให้ศิษย์ต้าฝ่าเข้าใจถึงความเข้มงวดจริงจังของการบำเพ็ญ จนทำให้ทุกคนเห็นความชั่วร้ายได้อย่างชัดเจน และในที่สุดสามารถทำได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ ฝึกฝนจนสุกงอมมากขึ้นมากขึ้น ท่ามกลางการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย ถ้าศิษย์ต้าฝ่าเหล่านี้ถูกจับเข้าไปอีก ก็จะไม่ง่ายเหมือนอย่างในระยะแรก อย่างที่เรียกกันการเปลี่ยนแปลงที่น่าขบขัน อะไรเรียกว่าการสำนึกผิด อะไรเรียกว่าเปลี่ยนแปลง จะให้เปลี่ยนแปลงไปด้านไหน ทุกคนกำลังปฏิบัติตนเป็นคนดี กำลังปฏิบัติตนเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก คนดีที่เหนือกว่าคนธรรมดาสามัญ ท่านคิดจะเปลี่ยนเขาไปด้านไหน อะไรเรียกว่าเปลี่ยนแปลง ช่างเป็นลีลาพิลึกพิลั่นของสิ่งชั่วร้ายจริงๆ ข้าพเจ้าเคยพูดก่อนหน้านี้แล้วว่า อะไรที่โจมตีความดีต้องเป็นสิ่งชั่วร้ายอย่างแน่นอน

            ไม่ว่าจะอย่างไร ในการประทุษร้ายครั้งนี้ ชีวิตชั่วร้ายทำด้วยจุดมุ่งหมายที่เลวร้ายที่สุด อิทธิพลเก่าซึ่งควบคุมสิ่งชั่วร้ายก็มีจุดประสงค์ของพวกมัน จุดประสงค์ของพวกมันคืออะไร ผิวเผินคือใช้สิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ทำร้ายศิษย์ต้าฝ่าและต้าฝ่า เพื่อให้ศิษย์ต้าฝ่าฝึกฝนให้สุกงอมตามที่เรียกกัน และกำจัดพวกที่ไม่คู่ควรจะเป็นศิษย์ต้าฝ่าออกไป แล้วใช้บาปซึ่งชีวิตชั่วร้ายเหล่านั้นทำผิดต่อศิษย์ต้าฝ่า ทำลายพวกมันทิ้งไปและชำระจักรวาลให้บริสุทธิ์ นี่คือสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดเตรียมเอาไว้ ช่างน่าสรรเสริญอะไรเช่นนี้ มันไม่ใช่อย่างนั้น สิ่งที่แท้จริงคือเพื่อจะได้ในสิ่งพวกมันอยากได้จากข้างในนั้น นี่ไม่ใช่การบำเพ็ญในขอบเขตที่เล็ก จักรวาลกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจิ้งฝ่า(ปรับฝ่าให้ถูกต้อง) เปรียบเทียบกับการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง ล้วนแต่ไม่สามารถจะเปรียบเทียบ สภาพการณ์ของการบำเพ็ญส่วนบุคคลเปรียบเทียบไม่ได้กับการเจิ้งฝ่า ไม่ว่าระดับชั้นของอิทธิพลเก่าจะสูงเพียงใด จัดวางความสัมพันธ์นี้ไม่ถูกต้องก็คืออันตราย ก็จะถูกกำจัดทิ้งไปท่ามกลางการเจิ้งฝ่าของจักรวาล ดังนั้นชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วนซึ่งถูกตีตกลงมาล้วนแต่มีระดับชั้นสูงมากๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ในการเข้ามายุ่งเกี่ยว อิทธิพลเก่าได้จัดเตรียมเป็นชั้นๆๆๆ ที่จะทำลายพวกมันกันเอง อิทธิพลเก่าซึ่งอยู่ต่ำกว่าตัวเองหนึ่งชั้นลงมา เพราะพวกมันรู้ว่า บาปที่สิ่งชั่วร้ายก่อไว้ต่อต้าฝ่าในครั้งนี้ ชีวิตที่ทำเรื่องเลวร้ายโดยตรงเหล่านั้น ไม่สามารถจะชดใช้ได้หมด

หลักการ(สัจธรรม)ชั้นหนึ่งสูงกว่าอีกชั้นหนึ่ง จากชั้นที่สูงกว่ามองต่ำลงมาหนึ่งชั้น การจัดเตรียมที่เรียกว่าช่วยต้าฝ่าล้วนมีความผิด ฉะนั้นพวกมันจึงตั้งใจกำจัดแม้แต่ผู้ที่ควบคุมดำเนินการในระหว่างการเจิ้งฝ่า เพราะถ้าวัดด้วยหลักการที่สูงขึ้นไปหนึ่งชั้น พวกมันก็ทำผิดต่อต้าฝ่า แต่พวกมันไม่รู้ว่าพวกที่อยู่สูงขึ้นไปหนึ่งชั้นจะดูพวกมันอย่างนี้เช่นกัน และจะตีพวกมันตกลงไปอย่างนี้ด้วย ฉะนั้นอิทธิพลเก่าซึ่งอยู่สูงกว่าหนึ่งชั้น จึงไม่หยุดยั้งที่จะกำจัดอิทธิพลเก่าซึ่งอยู่ต่ำลงไปหนึ่งชั้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการ ชีวิตทั้งหมดล้วนไม่คู่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ แต่พวกมันเข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างมีจุดประสงค์ แต่ข้าพเจ้าอธิบายฝ่าให้พวกเขาอย่างต่อเนื่อง และบอกพวกมันในสิ่งเหล่านี้ ต่อสรรพชีวิตที่ต่างกัน ข้าพเจ้าปฏิบัติเหมือนกันทั้งหมด แน่นอนอิทธิพลเก่าเหล่านี้ต่างยึดติดกับสิ่งที่พวกมันต้องการทำ และสิ่งที่พวกมันอยากจะได้ พวกมันทำไปอย่างไม่สำนึกผิด ทำไปอย่างเย็นชาไร้ความรู้สึก ทำไปโดยถูกควบคุมจากเบื้องบน ฉะนั้นอิทธิพลเก่าทั้งหมดในที่สุดก็จะถูกพวกมันเองกำจัดทิ้งจนหมดสิ้น

สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการคือ สรรพชีวิตทั้งหมดอย่าได้รบกวนเรื่องของการเจิ้งฝ่า แม้กระทั้งอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะเป็นการเจิ้งฝ่า เวลาปรับฝ่าขึ้นไปจากจุดพื้นฐานที่สุด จากจุดต่ำที่สุด ตลอดเส้นทางขึ้นไป ชีวิตทั้งหมด ต่อให้ท่านไม่ดีอย่างไร ต่อให้เคยก่อกรรมไว้หนักเพียงใดในประวัติศาสตร์ ข้าพเจ้าก็ไม่ถือโทษกับความผิดในอดีต ข้าพเจ้าก็จะจัดการกับท่าน เริ่มจากชีวิตจุลภาคที่สุดไปจนถึงชั้นพื้นผิว ตลอดจนความนึกคิดของชีวิตใดๆ และชำระให้บริสุทธิ์ทั้งหมด ปรับข้ามมาให้ถูกต้องตลอดเส้นทางจากล่างไปสู่บน นี่เป็นการดีที่สุด แก้ไขด้วยความเมตตา ชีวิตจะไม่ตกลงมาแม้แต่ชีวิตเดียว ชีวิตก็จะไม่ทำผิดต่อต้าฝ่า ต่อการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้แม้แต่ชีวิตเดียว จะดีมากเลย แต่ไม่ได้ พวกมันจะต้องยุ่งให้ได้ ดังนั้นจึงก่อให้เกิดมหันตภัยครั้งนี้ในสังคมมนุษย์

การเป็นศิษย์ต้าฝ่า พวกเราคัดค้านการประทุษร้ายครั้งนี้ สำหรับอาจารย์ ข้าพเจ้าไม่ยอมรับเรื่องนี้ สำหรับการจัดเตรียมทั้งหมดของอิทธิพลเก่า ข้าพเจ้าก็ไม่ยอมรับ เมื่อเป็นเช่นนี้อิทธิพลเก่าจึงบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นบางเวลาไม่เพียงแต่ชีวิตชั่วร้ายเท่านั้นที่ทำการประทุษร้าย แม้แต่ชีวิตชั้นสูงของอิทธิพลเก่าบางพวกก็เข้ามาร่วมด้วย ระหว่างการเจิ้งฝ่า สำหรับสรรพชีวิตทั้งหมดพูดได้ว่า ตัวพวกมันเองกำลังเลือกหนทางในอนาคต สิ่งที่ชีวิตทั้งหมดเผชิญนั้น แท้จริงก็คืออนาคตซึ่งตัวพวกมันเองกำลังเลือก

ทุกท่านเห็นแล้วว่า การประทุษร้ายครั้งนี้ไม่เหลือกลเม็ดจะใช้อีกแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าฝึกฝนจนสุกงอมแล้ว ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศจีน แม้ว่ายังมีชีวิตอีกมากมายถูกหลอกลวงด้วยโฆษณาชวนเชื่ออันชั่วร้าย แต่โดยภาพรวมในมิติอื่น พลังของสิ่งชั่วร้ายกับพลังแห่งความถูกต้องสูญเสียดุลยภาพไปแล้ว พลังแห่งความถูกต้อง ได้กดจานตาชั่งลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว สำหรับสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้พูดได้ว่า พวกมันมาถึงจุดที่รับมือไม่ไหวแล้ว อย่าเห็นว่าคนชั่วบนโลกจะชั่วร้ายอย่างไร แท้ที่จริงนั่นเป็นการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดว่า การประทุษร้ายดำเนินไปจนถึงสุดท้าย สิ่งชั่วร้ายก็จะไม่หยุดประทุษร้าย สิ้นสุดพรุ่งนี้ วันนี้สิ่งชั่วร้ายตนนั้นยังคงทำชั่วอยู่เช่นเดิม ก่อนที่ฝ่ายังปรับจักรวาลไม่แล้วเสร็จ มันก็จะเป็นอย่างนี้ มันจะไม่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นโดยอัตโนมัติโดยไม่ผ่านการเจิ้งฝ่า ไม่ผ่านการเจิ้งฝ่ามันจะเปลี่ยนแปลงดีขึ้นได้อย่างไร ยาพิษอันนั้นมันก็คือมีพิษ ท่านไม่อยากให้มันเป็นพิษอีกแล้ว มันทำไม่ได้ ฉะนั้นพิจารณาจากจุดนี้ ต่อพลังชั่วร้าย รวมถึงคนธรรมดาสามัญ พวกคนชั่วซึ่งประทุษร้ายต่อต้าฝ่าเหล่านั้น พวกเราต้องไม่ฝากไว้กับความเพ้อฝัน

เมื่อเร็วๆนี้ มีผู้ฝึกมากมายคิด พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเปิดประชุมใหญ่ครั้งที่ 16 ถ้าหัวหน้ามารตนนั้นในประเทศจีน ความอัปยศของมนุษย์ตนนี้ลงไปแล้ว ต้าฝ่าของเรามิพลิกสถานภาพกลับคืนแล้วหรือ ยังจะมีใครยอมรับภาระให้มัน ยังจะมีใครโง่เขลาเหมือนมันอีกเล่า ในสังคมคนธรรมดาสามัญความคิดแบบนี้ไม่ผิด แต่สำหรับผู้บำเพ็ญมันผิด ต้าฝ่าชุดนี้ เทพผู้ยิ่งใหญ่สง่างามมากมายเช่นนี้ ซึ่งบำเพ็ญออกมาจากต้าฝ่า ศิษย์ต้าฝ่าผู้ยิ่งใหญ่สง่างาม จะสามารถฝากความหวังไว้กับคนธรรมดาสามัญได้อย่างไร นี่ไม่ใช่เป็นการลบหลู่ตัวพวกเราเองหรอกหรือ มนุษย์สามารถจะควบคุมเทพได้หรือ แต่พวกเราศิษย์ต้าฝ่ามีคนจำนวนมากคิดกันเช่นนี้ หนึ่งคนคิดไม่เป็นไร สองคนคิดก็ไม่เป็นไร นั่นเป็นปัญหาการบำเพ็ญของบุคคล ถ้าทุกคนคิดกันเช่นนี้ ในกลุ่มศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมด นี้คือปรากฏการณ์อะไร การหวั่นไหวที่รุนแรง จิตยึดติดที่แรงกล้า ให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้ ข้าพเจ้ามองเห็นแล้ว อิทธิพลเก่าก็มองเห็นแล้ว อิทธิพลเก่าเห็นว่าจะยอมให้เป็นอย่างนั้นได้หรือ ฉะนั้นมันจึงทำให้การประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์มีผลออกมาเลวร้ายมากกว่าเดิม

            ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งเกิดขึ้นในสังคมคนธรรมดาสามัญ ในวันนี้ ล้วนแต่ก่อเกิดขึ้นจากจิต(ความคิด)ของศิษย์ต้าฝ่า แม้ว่าอิทธิพลเก่าจะคงอยู่ แต่ถ้าท่านไม่มีจิตใจ(ความคิด)นั้น มันก็ไม่มีกลเม็ด ถ้าความคิดถูกต้องของท่านแข็งแกร่งเพียงพอ อิทธิพลเก่าก็หมดปัญญา หากใครในสังคมคนธรรมดาสามัญพลิกสถานภาพให้กับต้าฝ่าได้จริงๆ ทุกท่านลองคิดดู บางทีมนุษย์จะทำเช่นนี้ แต่พวกท่านเคยคิดบ้างไหม ข้าพเจ้าจะต้องจัดวางคนๆนี้ ณ ตำแหน่งที่สูงเพียงใด ใช่อย่างนี้หรือไม่ พวกท่านคือผู้บำเพ็ญ การเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนเกิดขึ้นในระหว่างการบำเพ็ญของท่านและการเจิ้งฝ่า ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งตัวพวกท่านเองประจักษ์และรับรู้(เจิ้งอู้) ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งพวกท่านอยากจะได้ ล้วนก่อเกิดบนหนทางเส้นที่พวกท่านเดิน ต้องไม่คำนึงอย่างเด็ดขาดว่า อิทธิพลเก่าจะเอื้อประโยชน์อะไรให้แก่พวกเรา สังคมคนธรรมดาสามัญจะให้การช่วยเหลืออะไรแก่เรา เป็นพวกท่านที่กำลังช่วยสังคมคนธรรมดาให้หลุดพ้น เป็นพวกท่านที่กำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต

            ไม่ว่าจะถูกประทุษร้ายในสังคมคนธรรมดาสามัญก็ดี ได้รับความกดดันก็ดี มันเป็นการยากที่จะไม่เกิดจิตของคนธรรมดาสามัญ ดังนั้นความคิดบางประการของคนธรรมดาสามัญก็จะเผยออกมา แต่ต้องไม่เห็นมันสำคัญมากจนเกินไป ศิษย์แห่งการเจิ้งฝ่าเอย การประทุษร้ายครั้งนี้ได้ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้าฝ่าได้ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้วท่ามกลางการเจิ้งฝ่า พวกเรายังจะกลัวอะไรอีก พวกท่านได้เห็นอนาคตของพวกท่านชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ ฉะนั้นพูดถึงสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ พูดถึงการจัดเตรียมของพวกมัน ถ้าหากมีเจิ้งเนี่ยนแรงกล้า พวกท่านก็สามารถจะปฏิเสธมัน กำจัดมัน ไม่ให้มันบังเกิดผล ขณะที่พวกเราอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ เผชิญกับเรื่องต่างๆเหล่านี้ แม้จะมีความคิดต่างกันเช่นนี้ปรากฏ ถึงแม้จะมีคนจำนวนมากซึ่งเข้าใจแตกต่างกัน จนแสดงจิตใจของคนธรรมดาสามัญออกมาบ้าง นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการบำเพ็ญ ในขั้นตอนของการยกระดับ ในการยืนยันความถูกต้องให้ต้าฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต เดินสู่การหยวนหมั่นสุดท้ายของพวกท่าน หนทางเส้นนี้ก็คือมีอุปสรรค หลังจากเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว เดินทุกก้าวของอนาคตให้ดี จึงจะเป็นสิ่งสำคัญ

            ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ชีวิตที่ไม่ประทุษร้ายต้าฝ่า ทั้งหมดล้วนสามารถได้รับการแก้ไขด้วยความเมตตา แต่ข้าพเจ้ารู้ ในจักรวาลนี้ถ้าชีวิตล้วนแต่ดีเช่นนั้น ก็ไม่ต้องเจิ้งฝ่าแล้ว พวกมันต้องปรากฏออกมาอย่างแน่นอน ต่างกันที่รูปแบบเท่านั้น ฉะนั้นมันจึงก่อเกิดเป็นการทดสอบแบบหนึ่งต่อศิษย์ต้าฝ่า ก็เพียงเท่านี้ นี่เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ แต่การจัดเตรียมของอิทธิพลเก่าแบบนี้ การจัดเตรียมที่ละเอียดแบบนี้ การจัดเตรียมที่เป็นระบบอย่างมากตั้งแต่ข้างบนยันข้างล่าง นี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรก มหันตภัยครั้งนี้ใหญ่หลวงจริงๆ สิ่งที่พวกท่านตรวจสอบได้ก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ในสังคมมนุษย์เท่านั้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ามองเห็น ล้วนเป็นเรื่องอกสั่นขวัญหายอย่างยิ่งสำหรับชีวิตทั่วทั้งจักรวาล บางทีคำพูดของข้าพเจ้ามนุษย์อาจจะฟังไม่เข้าใจ เมื่อมนุษย์ค้นพบดาวเคราะห์ของจักรวาลซึ่งดำเนินอยู่ในขั้นตอนการเกิดใหม่ เมื่อปรากฏมาถึงชั้นพื้นผิวของทางช้างเผือกของเรา คนก็จะเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างกันแล้ว (เสียงปรบมือ)

            เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ตลอดช่วงเวลาของการเจิ้งฝ่า ศิษย์ต้าฝ่าโดยรวมทั้งหมดปฏิบัติได้ดีมากๆ ศิษย์ต้าฝ่าก็ได้ฝึกฝนจนสุกงอมมากขึ้นมากขึ้น ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าจะใช้รูปแบบใดเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต สิ่งที่ท่านทุ่มเทและวิธีที่ท่านใช้ ล้วนแต่กำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่า ล้วนแต่เป็นการก้าวเดินไปข้างหน้า บนหนทางเส้นนี้ของการอธิบายความเป็นจริง และนับวันก็ทำได้ดีมากขึ้น มีสติสัมปชัญญะมากขึ้น ในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ทุกคนร่วมมือประสานงานซึ่งกันและกันได้ดีมากขึ้น ที่ผ่านมาผู้ฝึกหลายๆ คนอาจจะเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ คือพวกเราศิษย์ต้าฝ่าจะมีการโต้เถียงกันเวลาทำอะไรร่วมกัน บางครั้งปรากฏออกมารุนแรงมาก จนกระทั่งหลังจากจิตของคนธรรมดาสามัญแสดงออกมา ส่งผลกระทบต่องานใหญ่ของการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่า พร้อมกับที่ท่านเข้าใจต่อต้าฝ่าดีขึ้น และจิตของคนธรรมดาสามัญของทุกคนค่อยๆจืดจาง(เบาบาง)ลง สิ่งเหล่านี้ สิ่งที่ปรากฏออกมาเหล่านี้จะค่อยๆเบาลง เช่นนั้นทำไมจึงเกิดการโต้เถียงกัน แท้จริงเป็นเพราะสิ่งเล็กๆน้อยๆ ซึ่งยังไม่ได้กำจัดทิ้งไป ณ ชั้นพื้นผิวของคนธรรมดาสามัญได้บังเกิดผล แต่ในเวลาที่เจิ้งเนี่ยนของท่านแข็งแกร่งเพียงพอ มันก็จะไม่บังเกิดผล ทุกคนต่างก็รู้ว่าฝ่าดี ต่างก็รู้ว่าจะต้องปกป้องฝ่า ต้องไปทำ ต้องไปช่วยเหลือสรรพชีวิต ต้องไปยืนยันความถูกต้องของฝ่า เวลาที่เจิ้งเนี่ยนไม่แข็งแกร่งพอ จิตของคนธรรมดาสามัญก็จะปะปนเข้าไป และก่อเกิดเป็นความรู้สึกหุนหันพันแล่นในแบบของคนธรรมดาสามัญ บางคนรู้สึกว่า ฉันก็จะยืนหยัดความคิดอะไรต่างๆของฉัน ส่งผลให้เกิดสภาพการณ์ซึ่งไม่สมควรมีในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า ระยะหลังๆนี้ดีขึ้นมาก เพราะทุกคนสุกงอมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้ว

            แท้จริงแล้ว ทุกท่านรู้ไหม ผู้สำเร็จธรรมชั้นสูงเหล่านั้น พวกเขาอยู่บนสวรรค์ก็มีเรื่องมากมายซึ่งต้องประสานงาน ปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนีตรัสไว้ว่า พระยูไลมีจำนวนมากเท่าเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา จึงพูดว่าราชาแห่งฝ่าบนสวรรค์ เทพในแบบของพุทธะเพียงประเภทเดียว ก็มีมากเท่าจำนวนมากเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา นี่ยังเป็นจำนวนที่น้อย สิ่งที่พระองค์ตรัสถึง ยังเป็นเพียงสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นในอาณาจักรเขตแดนของพระองค์ ถ้าเช่นนั้นเทพองค์อื่นๆล่ะ พุทธะเป็นเพียงเทพในจักรวาลประเภทซึ่งมีจำนวนไม่มาก มีเทพประเภทต่างๆนับจำนวนไม่ถ้วน  มากเสียจนนับไม่ถ้วน  สรรพชีวิตนับจำนวนไม่ถ้วน เวลาพวกเขาจะทำอะไร  ถ้าโต้เถียงกันขึ้นมา  คงจะเป็นเรื่องใหญ่   เพราะผู้สำเร็จธรรมคนหนึ่ง   ล้วนมีสัจธรรมของตนหนึ่งชุด ซึ่งเขาได้ประจักษ์แจ้งจากหลักการของฝ่าในจักรวาลของตัวเอง ด้วยความเข้าใจต่อจักรวาลของตนก่อเกิดเป็นของหนึ่งชุดเป็นของตัวเอง ดังเช่นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าศากยมุนี ชุดของพระองค์นั้นเรียกว่า “ศีล สมาธิ ปัญญา” ฉะนั้นผู้สำเร็จธรรมชั้นสูงทุกคน ทุกชีวิตในจักรวาล พวกเขาล้วนมีความเข้าใจต่อจักรวาลของตัวเองเช่นนี้หนึ่งชุด ถ้ามีการโต้เถียงกันขึ้นมา นี่มิเป็นเรื่องใหญ่หรอกหรือ ที่ๆพวกเขาอยู่จึงไม่มีเรื่องแบบนี้

            พวกเขามีสภาวะจิตอย่างไรล่ะ คือให้อภัยด้วยน้ำใจโอบอ้อมอารี ให้อภัยด้วยน้ำใจโอบอ้อมอารีอย่างเปี่ยมล้น สามารถให้อภัยอดกลั้นต่อชีวิตอื่น สามารถคำนึงถึงชีวิตอื่นได้อย่างแท้จริง เสมือนหนึ่งตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ นี่คือสิ่งที่พวกเราหลายๆคน ยังไม่สามารถบรรลุในขั้นตอนของการบำเพ็ญ แต่พวกท่านกำลังค่อยๆเรียนรู้และบรรลุ เมื่อเทพองค์หนึ่งเสนอความคิดอะไรบางอย่าง พวกเขาไม่รีบร้อนที่จะปฏิเสธ ไม่รีบร้อนที่จะเสนอความคิดของตน คิดว่าวิธีของตัวเองดี พวกเขาจะดูว่าวิธีที่เทพอีกองค์เสนอนั้นสุดท้ายจะบรรลุผลเป็นอย่างไร หนทางนั้นแตกต่างกัน หนทางของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน หลักการซึ่งชีวิตประจักษ์แจ้งในฝ่าล้วนแตกต่างกัน แต่เป็นไปได้มากว่าจะบรรลุผลที่เหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาจะดูผลลัพธ์ ดูผลที่เขาสามารถจะบรรลุ หากสามารถบรรลุผลที่ต้องการอย่างแท้จริง ทุกคนก็จะเห็นด้วย เทพต่างคิดกันอย่างนี้ และตรงไหนที่ยังขาดตกบกพร่อง ยังต้องช่วยเสริมเพิ่มเติมโดยไม่มีเงื่อนไขอย่างเงียบๆ ทำให้มันสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พวกเขาต่างจัดการกับปัญหากันเช่นนี้

            ศิษย์ต้าฝ่า การบำเพ็ญของพวกท่านในโลกมนุษย์ พวกท่านต่างมีความเข้าใจที่แจ่มแจ้งในหลักการของฝ่าข้อหนึ่ง คือไม่ยึดติดกับการได้และเสียของคนธรรมดาสามัญ รวมทั้งต่องานยืนยันความถูกต้องของฝ่าของพวกท่าน ซึ่งก็ไม่สมควรว่า ฉันจะต้องเสนอความเห็น ฉันจะต้องทำอย่างไร ท่านจึงจะสามารถก่อตั้งธรรมานุภาพในจักรวาล ไม่ใช่เช่นนี้ ท่านมีวิธีที่ดี ท่านคิดออกมา ท่านกำลังรับผิดชอบต่อฝ่า จะใช้ข้อเสนอของท่านหรือไม่ จะใช้วิธีของท่านหรือไม่ สิ่งนี้ไม่สำคัญ ถ้าหากวิธีของคนอื่นสามารถบรรลุผลที่เหมือนกัน ท่านไม่ยึดติดกับความคิดของตัวเอง ตรงกันข้าม ท่านเห็นด้วยกับวิธีของคนอื่น ไม่ว่าท่านจะเสนอวิธีของท่านออกมาหรือไม่ เทพก็มองเห็นแล้ว ท่านดู เขาไม่มีจิตยึดติด เขาสามารถอดกลั้น ใจกว้างอย่างนี้ เทพดูอะไร ไม่ใช่ดูสิ่งนี้หรอกหรือ เวลาท่านยึดติด ดึงดันใน(วิธี)ของตัวเอง ท่านก็กำลังเจาะโพรงเขาควาย เทพมองดูอยู่บนสวรรค์ก็จะทนไม่ได้ ถึงแม้ท่านจะยืนยันอย่างมั่นเหมาะว่ามันดีสำหรับต้าฝ่า วิธีของฉันดี สามารถบรรลุเป้าหมายอะไรบ้าง บางทีอาจจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่พวกเราก็อย่าทำเกินเลย จนกลายเป็นความยึดติดในแบบของคนธรรมดาสามัญ ถ้าสามารถปฏิบัติถึงจุดนี้ได้จริงๆ เหล่าเทพก็จะบอกว่าคนๆนี้ ยอดเยี่ยมจริงๆ เทพไม่ใช่เห็นว่าวิธีของท่านได้ผล จึงยกระดับชั้นให้แก่ท่าน แต่จะเห็นว่าท่านได้ยกระดับความเข้าใจต่อปัญหานี้แล้ว จึงยกระดับชั้นให้แก่ท่าน นี่คือหลักการของเจิ้งฝ่า(ฝ่าถูกต้อง) บอกว่าฉันได้ทำคุณงามความดีไว้มากเพียงใดๆ ฉันก็จะอย่างไรๆ ใช่สำหรับคนธรรมดาสามัญจะเป็นเช่นนั้น สำหรับหลักการของฝ่าแห่งจักรวาล ณ ด้านที่เฉพาะ ในสภาพแวดล้อมที่พิเศษก็อาจจะเห็นเป็นด้านนี้ แต่การยกระดับอย่างแท้จริงคือการละทิ้ง ไม่ใช่ได้มา (เสียงปรบมือกึกก้อง)

            ผู้ฝึกของเราในระหว่างการบำเพ็ญอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนมากยกระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยภาพรวมทุกคนยกระดับสูงขึ้นพร้อมกัน ความร่วมมือซึ่งกันและกันทางด้านนี้นับวันก็จะทำได้ดีมากขึ้น เวลานี้คือทุกคนจะทำอย่างไร เพื่อจะทำสิ่งที่ต้องทำในเวลานี้ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ประณีตมากยิ่งขึ้นอีก การเป็นศิษย์ต้าฝ่าก็ไม่สมควรฝากความหวังไว้กับสิ่งที่เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงจากภายนอก การเปลี่ยนแปลงของสังคมคนธรรมดาสามัญ หรือ ความช่วยเหลือจากใครที่จะให้พวกเรา พวกท่านคือเทพ พวกท่านก็คือเจ้าผู้ครองอนาคตในจักรวาลต่างๆ พวกท่านจะฝากความหวังไว้ที่ใครล่ะ (เสียงปรบมือ) เป็นเช่นนี้จริงๆ ความเป็นจริงของจักรวาลจะปรากฏออกมาในอนาคตอันใกล้ เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเรา ตัวเองทำได้ดีหรือไม่ดีก็เป็นอันแน่นอนแล้ว มันจะเป็นเช่นนั้น ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุดก็คือโอกาส พวกเราทุกคนต่างกำลังเดินไปบนหนทางของตัวเอง ต่างกำลังทำให้มรรคผลของตัวเองหยวนหมั่น บนหนทางเส้นนี้ของการยืนยันความถูกต้องของฝ่าและช่วยเหลือสรรพชีวิต สำหรับศิษย์ต้าฝ่าพูดได้ว่า เดินได้ดีหรือไม่ดี ในอนาคตตัวพวกท่านเองจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งตลอดขั้นตอนของการเจิ้งฝ่าของท่าน แม้แต่เรื่องเล็กๆ ท่านก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน แน่นอนสิ่งชั่วร้ายและชีวิตที่ไม่ดีจะมองไม่เห็นอนาคต พวกท่านช่วยเหลือสรรพชีวิต และสรรพชีวิตซึ่งสามารถเข้าใจได้ถ่องแท้ เมื่อท่านอธิบายความเป็นจริง ในไม่ช้าก็จะได้เห็นทัศนียภาพของการหยวนหมั่นอันงามสง่าของพวกท่าน (เสียงปรบมือ) แน่นอนนั่นจะต้องเป็นไปอย่างสง่าผ่าเผย

            แน่นอน ในหมู่ผู้ฝึกเรา มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในระยะหลังนี้ มีหลายๆ เรื่องอาจารย์ไม่สามารถพูดให้พวกท่านฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สามารถพูดในช่วงนั้น เพราะอิทธิพลเก่าเห็นว่าถ้าข้าพเจ้าพูดออกมา มันก็จะทำให้สิ่งต่างๆยาก และลำบากต่อพวกท่านมากขึ้น รวมถึงความร่วมมือของพวกท่าน เรื่องนี้ข้าพเจ้าจึงพูดออกมาในเวลานี้ เพราะพวกท่านทำได้ดีแล้ว จัดการได้ดีแล้ว เริ่มเข้าใจกันแล้วข้าพเจ้าจึงพูด

            ผู้ฝึกบางคน ปากก็พูดว่า ฉันปฏิเสธการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ในภาวะแวดล้อมใหญ่ๆ เขาสามารถควบคุมได้ดี แต่ภายใต้ภาวะปรกติก็จะคลายเจิ้งเนี่ยนของตัวเอง ในสภาวะที่เจิ้งเนี่ยนไม่แข็งแกร่งพอก็เกิดปัญหาได้ง่าย แน่นอนไม่ใช่ทุกคน ข้าพเจ้าพูดถึงจำนวนส่วนน้อย น้อยมากๆ เพราะเหตุใด อิทธิพลเก่าได้จัดเตรียมสิ่งต่างๆไว้มากมายในประวัติศาสตร์ จัดเตรียมไว้อย่างครอบคลุม ละเอียดถี่ถ้วนอย่างยิ่ง เพื่อให้สิ่งต่างๆที่พวกมันจัดเตรียมไม่เกิดปัญหา พวกมันเคยฝึกทดลองไปแล้วหนึ่งครั้งในโลกใบก่อน ทุกท่านลองคิดดู พวกมันจะสามารถไม่ยึดติดหรือ พวกมันจะยอมรามือจากสิ่งที่พวกมันต้องการทำ ได้หรือ แต่ถ้าหากพวกเรามีเจิ้งเนี่ยนเพียงพอ แล้วยังสอดคล้องกับหลักการข้อหนึ่งของจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นจักรวาลเก่า จักรวาลใหม่ล้วนมีหลักการอยู่ข้อหนึ่ง สิ่งที่ชีวิตหนึ่งเลือกตัวเขาเองเป็นผู้ตัดสิน แม้แต่คำปฏิญาณที่เขาเคยให้ไว้ในประวัติศาสตร์ ในยามวิกฤต ตัวเขาเองยังคงเป็นผู้ตัดสิน ตรงนี้ครอบคลุมทั้งสองด้าน ด้านบวกและด้านลบ ล้วนเป็นเช่นนี้

            ระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญในเวลานั้น ผู้ฝึกจำนวนมากคือพวกที่อิทธิพลเก่าส่งมารบกวน มาก่อผลทางด้านลบ แต่พวกเขาได้ปฏิเสธ ในระหว่างบำเพ็ญพวกเขามีเจิ้งเนี่ยน พวกเขาไม่ทำแล้ว กลายเป็นศิษย์ต้าฝ่าอย่างแท้จริง แต่พวกเขาบางคนซึ่งปฏิบัติไม่ดีนัก พวกเขาก็ถูกอิทธิพลเก่าชักนำ จนเกิดเรื่องต่างๆ ที่อยู่เหนือความคาดหมายของคน สิ่งที่ข้าพเจ้าจะพูดไม่ใช่คนกลุ่มนี้ สิ่งที่ข้าพเจ้าจะพูดคือ ปัญหาบางประการที่เกิดกับพวกเราศิษย์ต้าฝ่าในระยะหลังนี้ แน่นอนเป็นเรื่องเฉพาะราย แต่ทุกท่านต่างก็รู้ ต่างก็คิดกัน แท้ที่จริง พวกท่าน ชีวิตบางรายได้หมุนเวียนมาเกิดชาติแล้วชาติเล่าในประวัติศาสตร์ ขณะอยู่ท่ามกลางสังคมมนุษย์ หลงอยู่ท่ามกลางวังวน (พวกท่าน)อาจจะเคยทำสัญญาอะไรไว้กับอิทธิพลเก่า ในช่วงของการเจิ้งฝ่า ฉันจะทำอย่างไร เลือกเดินอย่างไรในวันไหนๆ ในเวลานั้นพิจารณาตามหลักการของฝ่าเก่า มันถูกต้องอย่างแน่นอน ฉะนั้นพวกท่านผู้ฝึกบางคนเคยทำสัญญาประเภทนี้เอาไว้ ดังนั้นในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าพวกเรา จึงมีเรื่องเกิดขึ้นเป็นระยะๆ จุดประสงค์ของการเกิดปัญหาเหล่านี้เป็นเพราะ อิทธิพลเก่าเห็นว่า ผู้ฝึกบางคนเชื่อมั่นว่าเมื่อบำเพ็ญต้าฝ่าแล้วอะไรก็ไม่ต้องกลัว ถ้าเป็นศิษย์ต้าฝ่าฉันก็จะไม่มีอันตราย ฉะนั้นพวกมันมองเห็น แบบนี้ไม่ได้ นี่มิเท่ากับเป็นการประกันภัยหรือ ศึกษาต้าฝ่าแล้ว อะไรก็ไม่ต้องกลัว นี่ไม่ใช่จิตที่ใหญ่โดยตัวของมันเองหรอกหรือ ฉะนั้นมันจึงต้องก่อความวุ่นวายในต้าฝ่า จึงออกมาในรูปนี้ เช่นนั้นเมื่อพวกมันก่อความวุ่นวาย อาจารย์มีฝ่าเซินนับไม่ถ้วน และเทพถูกต้องผู้พิทักษ์ฝ่านับไม่ถ้วน ทำไมไม่จัดการเล่า เพราะพวกเราศิษย์ต้าฝ่าบางคน ซึ่งได้ทำสัญญาอะไรไว้กับอิทธิพลเก่าในประวัติศาสตร์ อิทธิพลเก่าจึงจับจุดนี้ไว้แน่น ชนิดเป็นตายอย่างไรก็ไม่ปล่อย

            แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถกำจัดมันทิ้งไป ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ ถึงแม้จะทำสัญญาอะไรไว้ในประวัติศาสตร์ วันนี้เจิ้งเนี่ยนของท่านแข็งแกร่งเพียงพอ ไม่ยอมรับมัน ท่านยืนยันไม่ต้องการมัน ท่านก็สามารถปฏิเสธมัน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดการยากสักหน่อย มันยากตรงที่อิทธิพลเก่าจะไม่รามือจากท่านอย่างง่ายๆ มันจะเจาะช่องว่างของท่าน ถ้าท่านมีจุดใดบกพร่องมันก็จะสบโอกาส ฉะนั้นภายใต้สภาวะที่เจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งเพียงพอ มันก็เจาะไม่ได้ เพราะในการเจิ้งฝ่า ต้าฝ่าไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์ก็ไม่ยอมรับ แน่นอน พวกเราศิษย์ต้าฝ่าทุกคนล้วนบอกว่า พวกเราไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า นั่นไม่ใช่พูดกันแต่ปาก คือต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของต้าฝ่า และการเจิ้งฝ่า (ฉัน)ไม่ยอมรับการจัดเตรียมทั้งหมดของท่านในประวัติศาสตร์ รวมทั้งท่านอิทธิพลเก่า ฉันก็ไม่ยอมรับ    เจิ้งเนี่ยนแข็งแกร่งเพียงพอก็สามารถขจัดมัน ก็สามารถปฏิเสธการจัดเตรียมของมัน (เสียงปรบมือ) เพราะพวกเราไม่สามารถยอมรับมันอย่างเด็ดขาด

            ชีวิตข้างในจักรวาลจะสามารถจัดเตรียมอนาคตของตัวเองได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด หลักการนี้ในอนาคตพวกท่านจะรู้ จักรวาลสร้างขึ้นมาอย่างไร ก็คือ สร้างขึ้นมาจากหนึ่งประกายความคิดของผู้สำเร็จธรรมชั้นสูง (เสียงปรบมือ) หนึ่งประกายความคิดของผู้สำเร็จธรรมชั้นสูง ณ ระดับชั้นที่ต่างกันก่อเกิดขึ้นเป็นจักรวาล ณ ระดับชั้นที่ต่างกัน หนึ่งประกายความคิดนั้นหลังจากสร้างจักรวาลขึ้นมาแล้ว ชีวิตข้างในเหล่านั้นบอกว่า ท่านอย่าสร้างฉันอย่างนี้ ท่านควรสร้างฉันอย่างนั้น เขาเป็นผู้ตัดสินหรือ ไม่ใช่ สำหรับเทพซึ่งสร้างชีวิตพวกเขาขึ้นจากหนึ่งประกายความคิด พูดขึ้นมาแล้วชีวิตเหล่านี้เล็กเสียจนไม่มีค่าพอจะเอ่ยถึง แต่ผู้สำเร็จธรรมชั้นสูงเหล่านี้ซึ่งสร้างชีวิตพวกเขา เทพเหล่านี้ ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานของเทพอย่างเด็ดขาด สอดคล้องกับมาตรฐานของฝ่า มีความเมตตากรุณาใหญ่หลวง ฉะนั้นจักรวาลที่พวกเขาสร้างจะต้องดีงาม สิ่งที่ออกมาจากความนึกคิดของเขาก็บริสุทธิ์ และดีงาม ฉะนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ชีวิตๆหนึ่ง จะต้องสอดคล้องกับมาตรฐานของชีวิตในจักรวาล ณ ระดับชั้นที่ต่างกัน พูดอีกนัยหนึ่งคือ ในอดีตไม่ว่าอิทธิพลเก่าได้จัดเตรียมอะไรให้เราเอาไว้อย่างไร พวกเราไม่สามารถยอมรับมัน เพราะพวกมันก็เป็นเป้าหมายที่จะต้องรับการช่วยเหลือ เพียงแต่มันเลือกที่จะถูกกำจัดทิ้งไป ผู้ที่จะรับการช่วยเหลือจะสามารถเลือกว่า ตัวเองจะรับการช่วยเหลืออย่างไรได้หรือ ตกลงไปอยู่ในน้ำแล้ว คนจะช่วยเขา เขากลับบอกว่า ท่านไม่สามารถช่วยฉันด้วยมือโดยตรง ท่านต้องใช้เรือลำที่ฉันชอบมาช่วยฉัน เป็นเช่นนั้นได้หรือ

            เรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นในระยะหลังๆนี้ ล้วนมีมูลเหตุอันเนื่องมาจากประวัติศาสตร์ ข้าพเจ้าไม่บอกท่านก่อนหน้านี้ เพราะไม่ต้องการจะชักนำให้ท่านเกิดจิตยึดติด ฉันกับอิทธิพลเก่ามีอะไรเกี่ยวข้องกัน พวกท่านอย่าได้คิดอย่างนี้ มีน้อยมากน้อยมากๆ แต่ในเวลานั้นมันเป็นความตั้งใจที่ดีมาก ทำเพื่อฝ่า ฉะนั้นศิษย์ต้าฝ่าเหล่านี้ ไม่ว่าอย่างไรก็หยวนหมั่นแล้ว (เสียงปรบมือ) และมีระดับชั้นสูงมากๆ (เสียงปรบมือ)  นี่ก็คือสาเหตุที่เกิดสิ่งเหล่านี้   ฉะนั้นการศึกษาฝ่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เจิ้งเนี่ยนของพวกท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านทำ ล้วนมาจากในฝ่า ฉะนั้นต่อให้มีงานยุ่งอย่างไร ทุกท่านก็ต้องไม่ละเลยการศึกษาฝ่า

            ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้ เพราะเมื่อสองวันก่อน ผู้ฝึกซึ่งทำงานด้านสถานีโทรทัศน์มีการประชุม ข้าพเจ้าได้พูดกับพวกเขาไว้มาก พวกเขาได้ถามคำถามมากมายซึ่งมีลักษณะความเป็นตัวแทน ฉะนั้นวันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ตอบคำถามให้กับทุกท่าน สิ่งที่พวกเขาอัดเทปไว้วันนั้น ข้าพเจ้าตั้งใจจะบอกพวกเขาเรียบเรียงออกมา หลังจากข้าพเจ้าแก้ไขแล้วค่อยนำออกตีพิมพ์ คำถามที่ยกขึ้นมาถามในวันนั้นล้วนมีลักษณะทั่วไปโดยรวม ล้วนเป็นคำถามที่ทุกท่านอยากจะรู้และอยากจะแก้ไขทั้งสิ้น ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้ ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือ)

            อนาคตของศิษย์ต้าฝ่าจะต้องสว่างไสว สว่างไสวอย่างแน่นอน (เสียงปรบมือยาวนาน)


บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

หลี่ หงจื้อ

18 พฤษภาคม ค.ศ. 2003

 

            (เสียงปรบมือยาวนาน) บางคนที่นั่งอยู่ที่นี้ก็เพิ่งได้พบกัน ณ ฝ่าฮุ่ยครั้งที่แล้ว ดูเหมือนพอย่างเข้าฤดูร้อนพวกเราจะจัดประชุมฝ่าฮุ่ยกันบ่อยมากขึ้น ฝ่าฮุ่ยในแต่ละพื้นที่ต่างอยากให้ข้าพเจ้าไปร่วมประชุม  อันที่จริงทุกครั้งที่ข้าพเจ้าออกมาพบกับทุกท่านล้วนแต่มีเรื่องจะพูดกับทุกท่าน โดยปกติแต่ละพื้นที่เวลาจัดฝ่าฮุ่ยต่างอยากจะให้อาจารย์ไปพูดอะไรบ้าง แต่บางครั้งทุกท่านยังไม่ได้ทำความเข้าใจทั้งหมดกับสิ่งที่ข้าพเจ้ากำหนดไว้ในการบรรยายฝ่าครั้งที่แล้ว ฉะนั้นเมื่อพูดอะไรอีก จึงง่ายที่จะทำให้ความเข้าใจและสิ่งที่จะต้องทำจากการฟังฝ่าครั้งที่แล้วจืดจางลง ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่สามารถไปร่วมประชุมฝ่าฮุ่ยอยู่เสมอ ความจริงวันนี้ข้าพเจ้าก็ไม่มีเรื่องที่จะต้องพูดเป็นพิเศษมากนัก แต่ข้าพเจ้าได้รับปากกับผู้ฝึกแวนคูเวอร์ไว้ก่อนหน้านานแล้ว ข้าพเจ้าบอกว่าเมื่อพวกเขาจัดประชุมฝ่าฮุ่ยข้าพเจ้าจะมา จึงได้มาในครั้งนี้ (เสียงปรบมือ)

            ทุกท่านล้วนแต่ทำงานหนัก ข้าพเจ้าได้เห็นงานการยืนยันความถูกต้องให้ฝ่าที่พวกท่านทำในระหว่างอธิบายความเป็นจริงและการไปสถานกงสุล ในระหว่างฝ่าฮุ่ยครั้งนี้การกินอยู่ของผู้ฝึกก็ไม่สะดวกอย่างมาก เมื่อมาถึงข้าพเจ้าเห็นพวกท่านเดินไปเดินมาอยู่บนถนน ไม่ว่าจะลำบากอย่างไร ทุกท่านมีเป้าหมายที่ชัดเจน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ลำบากยากเข็ญ พวกเราสามารถช่วยเหลือสรรพชีวิต บำเพ็ญตัวเองออกมา ในขั้นตอนการบำเพ็ญ ไม่หยุดยั้งที่จะฝึกฝนตัวเองให้บริสุทธิ์สะอาดมากขึ้นมากขึ้น นับวันก็ยิ่งจะสามารถบรรลุมาตรฐานของข้อกำหนดที่สูงมากขึ้น ในเวลาเดียวกันท่ามกลางการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายในครั้งนี้ ก็ทำให้ทุกท่านมีสติสัมปชัญญะมากยิ่งขึ้น นับวันก็รู้ว่าจะปฏิบัติกับความชั่วร้ายในครั้งนี้ ปฏิบัติกับการประทุษร้ายในครั้งนี้อย่างไรมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น ไม่ว่าจะลำบากอย่างไร ไม่ว่ายากเย็นอย่างไร การเป็นศิษย์ต้าฝ่า พวกเราไม่ใช่กำลังแสวงหาสิ่งของในหมู่คนธรรมดาสามัญ เป้าหมายสุดท้ายทุกท่านล้วนแจ่มแจ้ง ก็คือพวกเราต้องการจะบรรลุการสำเร็จสมบูรณ์ของผู้บำเพ็ญ สิ่งที่พวกเราต้องการจะได้เป็นสิ่งที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถจะได้ตลอดไป ฉะนั้นในระหว่างขั้นตอนนี้ เริ่มจากคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งจนบรรลุสูงเกินกว่าคนธรรมดาสามัญโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบำเพ็ญอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญนั้นกำหนดให้บรรลุถึงมาตรฐานที่สูงยิ่งขึ้น สูงเกินกว่ามาตรฐานของสังคมมนุษย์ บรรลุในสิ่งที่ผู้บำเพ็ญในประวัติศาสตร์อยากจะบรรลุแต่ไม่สามารถจะบรรลุ สำหรับศิษย์ต้าฝ่าพูดขึ้นมาแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด อีกทั้งเข้มงวดจริงจัง ฉะนั้นในสิ่งเหล่านี้ที่พวกท่านทำเพื่อยืนยันความถูกต้องให้ฝ่าและช่วยเหลือสรรพชีวิต รวมทั้งการที่พวกท่านจะยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นอย่างไร จะขจัดจุดที่ตัวเองเกิดช่องโหว่อย่างไร จุดที่ยังยึดติดอยู่และความบกพร่องในทุกๆ ด้าน เช่นนี้ ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า รูปแบบใดๆ ของสังคมคนธรรมดาสามัญที่พวกท่านใช้ พวกท่านล้วนแต่กำลังบำเพ็ญ ไม่ว่าจะทำสิ่งใด พวกท่านล้วนอยู่ในระหว่างการยกระดับให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะทำสิ่งใด พวกท่านต่างสมควรทำด้วยสภาวะของผู้บำเพ็ญ ไม่ใช่ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยจุดฐานของคนธรรมดาสามัญ

            จุดเริ่มของพวกเรานั้นชัดเจน พูดถึงการเป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง โดยแก่นแท้ก็คือยกระดับตัวเองให้สูงขึ้น บำเพ็ญตัวเอง เปิดโปงสิ่งชั่วร้ายท่ามกลางการประทุษร้ายในครั้งนี้ ทำให้การประทุษร้ายครั้งนี้ยุติไม่ยอมรับการจัดเตรียมในครั้งนี้ของอิทธิพลเก่า ฉะนั้นดูๆ แล้วสิ่งต่างๆ ดูคล้ายกับสิ่งที่คนธรรมดาสามัญทำ แต่โดยธาตุแท้ไม่เหมือนกัน ความแตกต่างมูลฐานอยู่ที่เป้าหมายสุดท้ายของพวกเราและจุดเริ่มของพวกเราที่ไม่เหมือนกัน พวกเราเพียงแต่ประยุกต์ใช้วิธีบางอย่างของคนธรรมดาสามัญในสังคมธรรมดาสามัญ   สังคมคนธรรมดาสามัญก็เป็นระดับชั้นหนึ่งซึ่งฝ่าจัดสร้างให้กับสังคมมนุษย์ ฉะนั้นในระดับชั้นนี้ พวกเรานำวัฒนธรรมซึ่งฝ่าจัดสร้างให้กับมนุษย์ และรูปแบบต่างๆที่มันสามารถจะคงอยู่มาใช้เพื่อยืนยันความถูกต้องให้ฝ่า ข้าพเจ้าคิดว่า นี่ล้วนไม่ผิด

            ทุกท่านทราบ ความดีความชั่วอยู่คู่กันในสังคมมนุษย์ แต่ผู้บำเพ็ญกระทำจากพื้นฐานของความดีโดยสิ้นเชิง ด้วยประการฉะนี้ ต่อสังคมมนุษย์ ต่อความคิด ความประพฤติและศีลธรรมจริยธรรมของคน พูดได้ว่าล้วนแต่บังเกิดผลในด้านบวก โดยแท้จริงการเผยแพร่ออกมาของต้าฝ่าได้ส่งผลในด้านบวกอย่างใหญ่หลวง เป็นผลดีอย่างยิ่ง ทั้งต่อสังคม ต่อผู้คนและต่อตัวของผู้บำเพ็ญ สิ่งที่ปรากฏออกมาทั้งหมดเป็นด้านบวก จุดนี้พวกเราเข้าใจแจ่มแจ้ง เวลานี้คนธรรมดาสามัญในสังคมต่างก็เข้าใจแจ่มแจ้ง ภายใต้การประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย ในเวลานั้นมีบางคนได้ถูกชีวิตชั่วร้ายใช้  ควบคุมให้พูดในสิ่งที่ไม่ได้ออกมาจากใจของตัวเอง สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นแต่ไม่ใช่ สิ่งที่ไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองจากความคิดของตัวเอง นั่นล้วนแต่เกิดจากการถูกสิ่งชั่วร้ายควบคุม พูดถึงวันนี้ถ้ามนุษย์พูดสิ่งใดต่อต้าฝ่าอีก เขาจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาคนสามารถจะบอกว่านั่นไม่ใช่พูดจากความตั้งใจของท่าน เพราะคนถูกควบคุมและหลอกหลวงจากชีวิตชั่วร้ายภายนอก ภายใต้สภาวะที่ชีวิตชั่วร้ายจากภายนอกถูกชำระสะสางหมดไปแล้ว หากคนยังพูดอะไรอีก นั่นคือตัวของคนเองกำลังพูดจริงๆ ฉะนั้นคนต้องรับผิดชอบ

            ข้าพเจ้าพูดถึงฉือเปย(ความเมตตากรุณา) ข้าพเจ้าสามารถจะไม่คำนึงถึงสิ่งไม่ดีต่างๆ  ที่คนได้กระทำต่อข้าพเจ้าและศิษย์ต้าฝ่า คำพูดไม่ดีและสิ่งต่างๆ ที่คนทำไปตามกระแสท่ามกลางการประทุษร้ายในครั้งนี้ แน่นนอนนี่ยังได้ขจัดพวกที่ได้ทำการประทุษร้ายอย่างร้ายแรงต่อต้าฝ่า – พวกที่ไม่สามารถจะรับการช่วยเหลือ ฝ่านั้นสามารถช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง พวกท่านก็เคยได้ยินอาจารย์บอกว่า ข้าพเจ้าสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง – ต่อให้ไม่ดีอย่างไรเปลี่ยนกลับเป็นดีที่สุด ข้าพเจ้าสามารถทำได้ทั้งหมด ต้าฝ่าสามารถทำได้ แต่คนชั่วบางคนได้สร้างบาปกรรมให้แก่ตัวเองในระหว่างการทุษร้ายครั้งนี้ จนทำให้เขาไม่คู่ควรที่จะได้ฟังสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าอธิบายและไม่คู่ควรที่จะได้รับการช่วยเหลือจากต้าฝ่า จึงพูดว่าในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้เขาได้จัดวางอนาคตของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว ได้สูญเสียโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว เช่นนั้นคนแบบนี้ก็จะไม่รวมอยู่ข้างในนี้ ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า ต่อให้ชีวิตหนึ่งเปลี่ยนแปลงจนไม่ดีอย่างไรในประวัติศาสตร์ เขาก็ยังคงมีโอกาส ไม่ว่าจะอยู่ในระดับชั้นใดในสังคมมนุษย์หรือในมิติอื่น เพียงแต่ไม่ได้สร้างบาปไว้กับต้าฝ่าในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ไม่ว่าเขาจะได้ก่อบาปไว้ใหญ่หลวงเพียงใดในขั้นตอนประวัติศาสตร์ จะเป็นในสังคมมนุษย์ก็ดี หรือในระดับชั้นใดในมิติอื่นก็ดี ข้าพเจ้าก็สามารถช่วย ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับทุกท่านว่า ข้าพเจ้าไม่คำนึงถึงความผิดบาปในอดีตที่ชีวิตทั้งมวลได้ก่อไว้ในประวัติศาสตร์ เป็นเพราะจักรวาลไม่ไหวแล้ว ชีวิตล้วนไม่อาจจะเปรียบเทียบได้กับชีวิตของช่วงเวลาเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจะไปคัดในความไม่ไหวนี้ใครยังจะพอไหวกว่าใคร ข้าพเจ้าต้องการช่วยทั้งหมด หากเพียงเขาไม่ได้ทำผิดต่อการปรับฝ่าให้ถูกต้อง ข้าพเจ้าก็สามารถช่วยพวกเขา ข้าพเจ้าก็ได้ดำเนินการโดยยึดมั่นอยู่หลักการข้อนี้ (เสียงปรบมือ)

            มีผู้ฝึกถามข้าพเจ้าอยู่เสมอว่า คนพวกที่อยากจะศึกษาต้าฝ่าแต่ทำหน้าที่เป็นสายลับให้กับสิ่งชั่วร้ายที่ประทุษร้ายต้าฝ่า ทำการประทุษร้ายการปรับฝ่าให้ถูกต้อง คนพวกนี้ที่เคยก่อบาปไว้กับต้าฝ่า หมายความว่าเขายังอยู่ในหมู่ผู้ฝึก พูดจากด้านที่เข้าใจของเขา เขาไม่อยากจะไปจากต้าฝ่า แต่ดูจากด้านที่เป็นมนุษย์ของเขา จากการกระตุ้นของทัศนคติมนุษย์ ความยึดติดของมนุษย์ เขาได้ทำสิ่งที่ทำร้ายศิษย์ต้าฝ่าและการปรับฝ่าให้ถูกต้อง กับคนเหล่านี้ซึ่งข้าพเจ้ายังคงเรียกเขาเป็น “ผู้ฝึก” พูดขึ้นมาแล้วเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก เข้มงวดจริงจังมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะช่วยไม่ได้ และไม่ใช่ไม่สามารถจะช่วยให้หลุดพ้น พวกเขายังแตกต่างกับชีวิตอื่น เวลานี้การปรับฝ่าให้ถูกต้องยังไม่สิ้นสุด ยังมีโอกาสจะยืนยันความถูกต้องให้ฝ่า ฉะนั้นจึงพูดว่ายังมีโอกาสกอบกู้(ความเสียหาย)  ข้าพเจ้าจะพิจารณาชีวิตครบทุกด้านครบนับแต่ประวัติศาสตร์ คนที่เป็นศิษย์ต้าฝ่า อย่างแท้จริง หากที่ผ่านมาเคยเป็นชีวิตที่ดีมากจริงๆ ในชั่วขณะหนึ่งได้กระทำความผิด ในสภาพแวดล้อมนี้ เช่นนั้น(เขา)ยังคงแตกต่างจากคนธรรมดาสามัญซึ่งก่อบาปต่อต้าฝ่า หลังจากกอบกู้ความเสียหายก็ยังใช้ได้ ถ้าหากทำได้ดี เช่นเดียวกันจะมีธรรมานุภาพที่ใหญ่ขึ้นไปอีกรอเขาอยู่ (เสียงปรบมือ)

ผ่านมาข้าพเจ้าพูดว่า ในสังคมคนธรรมดาสามัญ ไม่ว่าคนจะมีตำแหน่งเป็นอะไร ไม่ว่าท่านจะทำงานอะไร ถึงแม้ท่านจะทำงานเป็นสายลับ ซึ่งเป็นงานที่พิเศษ เป็นภารกิจพิเศษ จึงเรียกว่าผู้ปฏิบัติภารกิจพิเศษ เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษ แต่การเป็นชีวิตๆหนึ่ง ท่านไม่สามารถสูญเสียโอกาสซึ่งมีมาแต่โบราณกาลนี้ไปจริง เพียงเพราะท่านทำงานภารกิจพิเศษ ไม่สามารถเพียงเพราะการงานของท่าน ท่านก็ทำลายโอกาสซึ่งชีวิตรอคอยมานับพันนับหมื่นปีทิ้งไป ข้าพเจ้าดูชีวิตเช่นนี้ แน่นอน เมื่อข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่าในระยะแรก ประตูแห่งการช่วยให้หลุดพ้นได้เปิดออกกว้าง ไม่มีการเลือกว่าท่านอยู่ในระดับชั้นใดในสังคม หน้าที่การงาน และสถานะ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดข้าพเจ้าไม่ดู ไม่แบ่งว่าสูงศักดิ์หรือต่ำต้อย ไม่แบ่งระดับชั้นใดในสังคม ไม่แบ่งว่าฉลาดหรือไม่ ความแตกต่างในด้านการศึกษา ความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ความแตกต่างทั้งหมดซึ่งมนุษย์แบ่งแยกออกมา ข้าพเจ้าไม่ดูทั้งหมดและไม่มี ปฏิบัติเหมือนกันหมด ก็ได้ปฏิบัติมาเช่นนี้ แน่นอนรวมไปถึงพวกที่เป็นสายลับเหล่านั้น แม้กระทั่งพวกที่มาเป็นสายลับเพื่อจะรู้เกี่ยวกับเรื่องของต้าฝ่า

แน่นอน ทุกท่านลองหวนคิดดู ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์ปฏิบัติต่อสรรพชีวิตด้วยจิตเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วหากข้าพเจ้ายังไม่สามารถช่วยท่าน เช่นนั้นย่อมมีผลกรรมสำหรับคนประเภทนี้รออยู่ ทุกท่านทราบ ผู้ฝึกจำนวนมากต่างอยากจะพบข้าพเจ้า คนธรรมดาสามัญจำนวนมากก็อยากจะพบข้าพเจ้า บางคนเมื่อพบข้าพเจ้าแล้ว เขาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นโดยไม่รู้สาเหตุ บางคนหลังจากพบข้าพเจ้าแล้ว เขามีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนม บางคนรู้สึกตื่นเต้นอยากจะร้องไห้ เป็นเพราะด้านที่เข้าใจของเขาต่างรู้ว่า ใครที่สามารถจะพบกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะช่วยเหลือเขา (เสียงปรบมือ) ข้าพเจ้าก็สามารถจะช่วยชำระบาปกรรมซึ่งเขาก่อไว้ในประวัติศาสตร์ให้ลดน้อยลง (เสียงปรบมือ) ฉะนั้นไม่ว่าท่านทำงานอะไร ท่านทำอะไร เพียงแต่ท่านได้พบกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะให้ท่านเกิดความคิดดีงาม เพียงแต่ท่านได้พบกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็สามารถจะสลายบาปของท่าน สลายกรรมของท่านในท่ามกลางความคิดดีงาม (เสียงปรบมือ) อันที่จริงมนุษย์โลกต่างมีด้านที่เข้าใจ พวกเขาล้วนแจ่มแจ้ง จึงพูดว่า ไม่ว่าท่านได้ทำอะไรไป และไม่ว่าท่านทำงานอะไร ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติเช่นนี้กับท่าน (เสียงปรบมือ) บางทีนี่ก็คือความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผู้คนพูดถึง แน่นอนนี่คือสิ่งที่ปรากฏออกมาในชีวิตของชั้นนี้ ข้าพเจ้าปฏิบัติต่อคนเช่นนี้ ข้าพเจ้าปฏิบัติต่อมนุษย์โลกเช่นนี้ เช่นนั้นภายใต้ความเมตตากรุณาแบบนี้ ภายใต้การผ่อนปรนใจกว้างซึ่งสูงกว่าที่คนธรรมดาสามัญปฏิบัติต่อชีวิตโดยสิ้นเชิง หากมนุษย์โลก คนยังคงทำร้ายต้าฝ่า และทำผิดต่อศิษย์ต้าฝ่าซึ่งช่วยเขาอยู่ เช่นนั้น พุทธธรรมมีความน่าเกรงขามของเขา ให้ความเมตตากรุณาเช่นนี้แล้ว ยังไม่ทำให้ดี เช่นนั้นก็ไม่มีความหวังสำหรับชีวิตของเขาแล้ว

ทุกท่านทราบการระบาดของโรคซารส์ในประเทศ จีน ในตอนแรกอิทธิพลเก่ากำหนดว่าสำหรับประเทศจีนจะต้องกำจัดทิ้งไป 8 ล้านคน พวกเขาไม่รู้สำนึกยังคงปิดบังความจริง เป็นเพราะเมตตากรุณาต่อมนุษย์ อยากให้โอกาสแก่มนุษย์อีกครั้ง ไม่อยากให้มีคนตายมากมายขนาดนั้น แต่พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่สำนึก ยังนำโรคซารส์มาทำการประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่า และปิดบังความเป็นจริง ผู้มีอำนาจก็เป็นคนธรรมดาสามัญ และอยู่ในการลงโทษของสวรรค์ เทพกำลังเตือนพลโลก คนยังอยากจะปิดบังความจริง    ไม่ปล่อยให้พลโลกรับบทเรียน เช่นนั้นก็รอบทลงโทษจากสวรรค์ที่หนักยิ่งขึ้น จึงพูดว่าเมื่อข้าพเจ้าปฏิบัติต่อสรรพชีวิตด้วยจิตเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว หากชีวิตนั้นๆยังไม่ทำให้ดีอีก ข้าพเจ้าก็จะไม่ดูแลท่านแล้ว แน่นอนย่อมมีวิธีจัดการแบบอื่น ฉะนั้นจึงพูดว่า พุทธธรรมมีความเมตตากรุณา และมีด้านของความน่าเกรงขามของเทพ ไม่สามารถจะปล่อยให้คนทำในสิ่งที่นึกอยากจะทำ และเห็นความเมตตากรุณาของเทพมาเป็นเรื่องล้อเล่น นั่นเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามต่อเทพ

ในการบรรยายฝ่าครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านว่า ผู้ฝึกบางคนได้ทำผิดอย่างที่ไม่สมควรทำ อันที่จริงเพียงแต่ท่านยืนหยัดศึกษาฝ่าให้ดี ท่านสามารถแก้ไขความผิด ท่านสามารถปฏิบัติให้ถูกต้องอีกครั้ง ท่านยังคงเป็นศิษย์ต้าฝ่า ท่านก็ปฏิบัติให้ถูกต้องอีกครั้งเท่านั้นเอง อย่าเห็นมันเป็นเรื่องหนักหน่วงรุนแรงจนเกินไปนัก ถ้าในความคิดจิตใจท่านเห็นมันเป็นเรื่องหนักหน่วงรุนแรงจนเกินไป ก็จะก่อเกิดเป็นความกดดันแบบหนึ่งจากความเสียใจคับแค้น เป็นห่วงกังวลเป็นต้น เช่นนั้นท่านก็จะจมอยู่ในความยึดติดแบบนี้อีก ท่านก็ไม่สามารถจะหลุดออกมา ตลอดขั้นตอนการบำเพ็ญของศิษย์ต้าฝ่าคือขั้นตอนของขจัดจิตยึดติดของมนุษย์ ไม่ว่าจะประสบกับเรื่องอะไร เมื่อเข้าใจแล้ว ท่านก็แก้ไขให้ถูกต้องทันที เมื่อหกล้มท่านก็ลุกขึ้น แล้วทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำต่อไป เช่นนั้นความผิดพลาดของท่าน ถือว่าเป็นด่านทดสอบที่ท่านข้ามได้ไม่ดีในระหว่างบำเพ็ญ เริ่มต้นใหม่ ยังมีโอกาสให้ท่านผ่านด่านอีก ก็เท่านั้นเอง เรื่องในระหว่างบำเพ็ญของท่านอาจารย์ไม่สามารถนำมานับเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร หากไม่สามารถถอนตัวจากความผิดพลาด นั่นเป็นอีกกรณีหนึ่ง ไม่สามารถจะปล่อยให้ความผิดพลาดนำไปสู่การยึดติดอีก

ที่ผ่านมาในการบรรยายฝ่าข้าพเจ้าไม่ใช้คำพูดที่รุนแรงเหล่านั้น เป็นเพราะไม่อยากให้ท่านเกิดอุปสรรคในความคิด(จิตใจ)  จนนำไปสู่การยึดติดในอีกด้านหนึ่ง เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงอธิบายฝ่ากับผู้ฝึกแบบตัวต่อตัวน้อยมาก ถ้าแม้นข้าพเจ้าอธิบายฝ่ากับใคร และชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของเขา ทุกท่านลองคิดดู เขาจะมีภาระทางจิตใจหนักมาก เพราะเป็นคำพูดที่ออกจากปากของข้าพเจ้า ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงอธิบายฝ่ากับใครเป็นรายคนน้อยมาก ในการบรรยายฝ่าข้าพเจ้าจะอธิบายในประเด็นที่มีลักษณะทั่วไป อธิบายอย่างครอบคลุม ส่วนปัญหาปลีกย่อย ปัญหาที่เป็นเรื่องรอง หรือกรณีเฉพาะ ซึ่งไม่ส่งผลในการรบกวนโดยทั่วไป ต่อผู้ฝึกต้าฝ่าโดยรวม ข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องพูด เพราะในระหว่างการบำเพ็ญ ระหว่างผู้ฝึกด้วยกันก็จะเห็นและชี้ให้เขาเห็นถึงข้อบกพร่อง ถึงแม้เขาจะไม่รับรู้ในทันที เพราะมีความยึดติด อย่างค่อยเป็นค่อยไปเขาก็จะรับรู้ มีแต่เมื่อเกิดปัญหากับภาพรวม และกับสภาวะโดยรวมของต้าฝ่าเท่านั้น หรือสภาพการยืนยันความถูกต้องให้ฝ่าเมื่อมีปัญหาจะต้องพูด  ข้าพเจ้าจึงจะพูด เป็นต้นว่าเวลานี้ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ พื้นที่บางแห่งบางคนยังนำจิงเหวินปลอมออกมาเผยแพร่ ยิ่งกว่านั้นบางคนยึดติดมากถึงกับนำไปท่องจำ ไม่เพียงแต่ท่องจำ ยังไปเผยแพร่ต่อๆ กันในหมู่ผู้ฝึก จิตใจอะไรที่กระตุ้นเขาให้ทำเช่นนี้หรือ ข้างในนั้นมีสิ่งที่เขายึดติด มีสิ่งที่สอดคล้องกับจิตใจของคนธรรมดาสามัญของเขา เขาจึงทำเช่นนี้ ท่านว่าเขาตั้งใจบ่อนทำลายฝ่า ข้าพเจ้ากลับไม่รู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น เป็นเพราะเขามีจิตยึดติด เขามีจิตใจดวงนั้นของคนอยู่ ดังนั้นเขาจึงทำเช่นนี้ ทำในสิ่งที่สิ่งชั่วร้ายอยากให้ทำ และรบกวนศิษย์ต้าฝ่าทำการยืนยันความถูกต้องของฝ่า

อันที่จริงข้าพเจ้าได้มาร่วมประชุมฝ่าฮุ่ยแคนาดาหลายครั้งแล้ว (เสียงปรบมือ) ที่สำคัญมากๆ มี 3 ครั้งด้วยกัน ทุกท่านก็คงจำได้เป็นอย่างดี ทุกท่านทราบครั้งแรกก็คือ “ช่วงก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 20 ก.ค. 99 ครั้งที่สองคือในช่วงที่มีการประทุษร้ายปราบปรามรุนแรงที่สุด  ที่เมืองอ๊อดตาว้า ข้าพเจ้าไปหนึ่งครั้ง ครั้งนี้สิ่งชั่วร้ายกำลังถูกกำจัดให้หมดไปในวงกว้าง การปรับฝ่าให้ถูกต้องกำลังดำเนินไปแบบทะลุทะลวง ทำการกำจัดสิ่งชั่วร้ายด้วยระดับความเร็วที่เร็วมาก และกำลังทะลวงมิติมนุษย์ ณ เวลานี้ข้าพเจ้าก็มาพบกับพวกท่านอีกครั้ง ฉะนั้นการประชุมฝ่าฮุ่ย ณ แคนาดาทั้ง 3 ครั้งนี้มีความหมายมากทีเดียว (เสียงปรบมือ)

(สำหรับ)ผู้ฝึกแคนาดา สมควรบอกว่าทำได้ดีมากซึ่งปรากฏออกมาในทุกๆด้าน ข้อสำคัญคือร่วมมือประสานงานกันได้ดี มีกรณีไม่มากนักที่งานยืนยันความถูกต้องของฝ่าได้รับผลกระทบจากจิตยึดติดส่วนบุคคล ระหว่างผู้ฝึกด้วยกันก็มีกรณีไม่มากนักที่จะมีการยึดถือความเห็นของตัวเองอย่างไม่ยอมลดละ การกระทบกระทั่งในหมู่ผู้ฝึกด้วยกันมีปรากฏน้อยมาก ร่วมมือประสานงานกันได้ค่อนข้างดี ฉะนั้นจึงสามารถทำให้สถานการณ์ของการปรับฝ่าให้ถูกต้องเป็นไปด้วยดีเช่นนี้ แน่นอนแคนาดา เป็นพื้นที่ที่พิเศษแห่งหนึ่ง  รัฐบาลและประชาชนแคนาดาก็ได้ให้การสนับสนุนและเห็นใจอย่างมากต่อต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่า สำหรับสิ่งเหล่านี้พวกเราควรต้องขอบคุณรัฐบาลและประชาชนแคนาดา (เสียงปรบมือยาวนาน)

ฉะนั้นพิจารณาจากการประชุมฝ่าฮุ่ยทั้ง 3 ครั้งดังกล่าว  เมื่อคิดหวนกลับไปจะเห็นว่าสถานการณ์แตกต่างกันอย่างชัดเจน ข้าพเจ้าได้พบกับผู้ฝึกแคนาดามา 3 ครั้ง แต่สถานการณ์ของทั้ง 3 ครั้งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จุดนี้ทุกท่านได้เห็นแล้ว การประทุษร้ายในระยะแรกมีความกดดันอย่างมาก ก่อนเหตุการณ์ 20 ก.ค. 99 สิ่งต่างๆ ที่ข้าพเจ้าพูดความจริงล้วนพูดเป็นนัยให้แก่พลโลก และก็กำลังบอกพลโลก คนมีด้านที่เข้าใจของเขา ข้าพเจ้าบรรยายฝ่าก็ไม่เพียงแต่บรรยายให้คนฟังเท่านั้น แต่ละชั้นของข้าพเจ้าต่างก็กำลังบรรยายให้ชีวิตในระดับชั้นต่างๆ ฟัง สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ที่ของมนุษย์ตรงนี้ไม่ใช่โดดเดี่ยวเป็นเอกเทศ มันเป็นการสะท้อน ณ ระดับชั้นต่ำสุดของปรากฏการณ์สวรรค์ เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าพูดก่อนหน้านี้ หลักการของระดับชั้นที่ต่างกันจะไม่เหมือนกัน จากชั้นสูงดูหลักการของระดับชั้นต่ำจะเห็นว่ามันผิด แต่หลักการของระดับชั้นต่างๆ เป็นหลักการโดยตัวของมัน แต่สภาพการณ์ของเรื่องหนึ่งๆ ณ ระดับชั้นที่ต่างกันนั้น มาตรฐานกับภาพที่ปรากฏออกมาจะต่างกัน ยิ่งสูงจะยิ่งใกล้สัจธรรม แต่หลักการในภาพรวมก็เชื่อมต่อลงมายังข้างล่าง เมื่อปรากฏออกมา ณ ระดับชั้นต่างๆ นั่นก็คือหลักการในระดับชั้นต่างๆ สำหรับชีวิตในแต่ละระดับชั้น เขาก็จะมีสภาวะแตกต่างกันและความเข้าใจหลักการแตกต่างกัน ยิ่งต่ำลงมามีข้อกำหนดยิ่งต่ำ พฤติกรรมของชีวิตก็ยิ่งไม่ดี เมื่อลงมาถึงระดับชั้นต่ำสุดของมนุษย์ตรงนี้ พฤติกรรมของมนุษย์จึงปรากฏออกมาเช่นนี้ และใกล้ความชั่วร้ายมากที่สุด การประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้ายในครั้งนี้ อิทธิพลเก่าได้เตรียมการไว้อย่างเป็นรูปธรรม ข้าพเจ้าและเทพถูกต้องผู้พิทักษ์ฝ่าเหล่านั้นก็ยับยั้งสิ่งชั่วร้ายอยู่ตรงนี้ อิทธิพลเก่าก็มีจัดเตรียมของพวกมัน แท้ที่จริงสิ่งชั่วร้ายก็ถูกควบคุมเอาไว้ เวลาสิ่งชั่วร้ายสำแดงความชั่วร้ายของมัน พฤติกรรมที่ปรากฏออกมาไม่ใช่เพียงชาติเดียว แต่เวลาที่ผลลัพธ์นั้นปรากฏออกมาจริงๆมันกลับอ่อนแอมาก แน่นอนเวลาที่คนชั่วกระทำการให้สิ่งชั่วร้าย เพียงแต่ศิษย์ต้าฝ่ามีเจิ้งเนี่ยน(ความคิดถูกต้อง)แข็งแกร่งและไม่มีจุดรั่ว คนชั่วก็จะใจฝ่อ ยิ่งกว่านั้นยังจะถูกเจิ้งเนี่ยนตีจนพ่ายแพ้ไป สภาพเป็นเช่นนี้ โดยภาพรวมสิ่งชั่วร้ายไม่สามารถบรรลุผลในสิ่งที่พวกมันต้องการ เพราะสุดท้ายก็อยู่ในการควบคุมของเทพ แม้ว่าอิทธิพลเก่าจะมีการจัดเตรียมของมัน ก็เพียงแต่ปล่อยให้มันบรรลุสภาพที่พวกมันต้องการ และอิทธิพลเก่าก็ไม่สามารถทำอะไรตามที่ตั้งใจ เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการทำและการยับยั้งพวกมันโดยเทพถูกต้อง ทำให้อิทธิพลเก่าไม่สามารถดำเนินการสิ่งต่างๆ ที่พวกมันอยากทำ

จักรวาลเก่ามีหลักการที่เก่าของเขา ชีวิตทั้งหมดก่อนที่ถูกปรับให้ถูกต้องโดยฝ่า เขาก็จะมองไม่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายหลังการปรับฝ่าให้ถูกต้อง เขาก็มองไม่เห็นปรากฏการณ์ที่แท้จริงของฝ่าใหม่ เพราะพวกเขายังไม่คู่ควร เมื่อสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ของฝ่าใหม่และจักรวาลใหม่ได้จริงๆ เท่ากับเขาก็คือชีวิตใหม่ อย่างอัตโนมัติเขาก็จะปฏิบัติไปตามนั้น พวกเขามองไม่เห็นเพราะพวกเขาจัดว่าเป็นชีวิตของจักรวาลในอดีต พวกเขาจึงมองไม่เห็นสิ่งที่ไม่จัดว่าเป็นอนาคตของจักรวาลในอดีต และจักรวาลแบบนี้สิ่งต่างๆ ซึ่งได้มีการจัดเตรียมเอาไว้ในช่วงประวัติศาสตร์ของจักรวาลเก่า ข้างในมีเวลาที่เร็วและช้า ความแตกต่างของมิติต่างๆ เทพของจักรวาลเก่าสามารถมองเห็นได้ จักรวาลใหม่อีกจักรวาลหนึ่ง เวลา มิติ ชีวิต กลไก ฝ่าที่อยู่ข้างใน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่จัดเตรียมขึ้นใหม่ ไม่มีความเกี่ยวพันแต่อย่างใดกับจักรวาลเก่า ชีวิตของจักรวาลเก่าจะมองไม่เห็น นี่เป็นความสามารถที่เหนือเกินกว่าความสามารถของเทพทั้งมวล ฉะนั้นพวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยปฏิบัติไปตามฝ่าเก่า และดำเนินสิ่งต่างๆ ไปตามระเบียบของจักรวาลเก่า มีสิ่งต่างๆมากมายที่ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขจึงเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง มีบางเวลาเมื่อข้าพเจ้าบอกให้พวกเขาไปทำอะไร เขาจะรู้สึกว่าไม่มีสิ่งอ้างอิงจึงไม่กล้าทำ พวกเขาก็คือชีวิตของช่วงเวลานั้น เขาจึงรู้สึกว่าแบบนั้นถูกต้อง ไม่ทำสิ่งใดจึงเป็นพฤติกรรมที่ดีมากแล้ว

อันที่จริง ยังคงเป็นอิทธิพลเก่ากลุ่มนั้นที่รบกวนเรื่องการปรับฝ่าให้ถูกต้อง ในจักรวาลอันมหึมามีชีวิตเป็นจำนวนที่มากกว่าที่ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว คงอยู่ในสภาวะเฝ้าดูแบบหนึ่ง แต่เมื่อพลังแห่งการปรับฝ่าให้ถูกต้องอันใหญ่หลวงในภาพรวมมาถึง ไม่ว่าเขาจะเฝ้าดูอยู่ก็ดี เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยก็ดี ทั้งหมดจะได้รับการแก้ไขระหว่างการปรับฝ่าให้ถูกต้อง พวกที่สมควรต้องหล่อหลวมให้กลมกลืนก็จะถูกหล่อหลอมให้กลมกลืน พวกที่สมควรต้องแก้ไขด้วยความเมตตาก็จะได้รับการแก้ไขด้วยความเมตตา พวกที่ไม่สามารถหล่อหลอมให้กลมกลืน ไม่สามารถแก้ไขด้วยด้วยเมตตา สมควรต้องตกระดับชั้นก็จะตกระดับชั้น พวกที่ก่อบาปสมควรต้องถูกตีตกลงไปก็จะถูกตีตกลงไป ข้าพเจ้าว่าไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายแม้แต่น้อยที่จะสามารถเข้าสู่อนาคต และไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เพราะอนาคตไม่ใช่จัดไว้สำหรับชีวิตในรอบนี้ พูดจากความเข้าใจที่เก่า ชีวิตในรอบนี้คิดจะเข้าสู่อนาคต คิดจะเข้าสู่ร่างนภารอบต่อไปซึ่งไม่ใช่จัดไว้สำหรับพวกเขานั้น โดยมูลฐานเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  เป็นเพราะระหว่างการปรับฝ่าให้ถูกต้องในครั้งนี้  ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติกับทุกสิ่งทุกอย่าง ปฏิบัติต่อสรรพชีวิตด้วยความเมตตากรุณาอันใหญ่หลวงที่สุด จึงอยากจะหล่อหลอมชีวิตเหล่านี้ให้กลมกลืนข้ามไปจากจักรวาลเก่านี้ จึงได้ทำการปรับฝ่าให้ถูกต้องในจักรวาล ไม่เช่นนั้น มันไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย  ชีวิตในรอบนี้คิดจะเข้าไปสู่อนาคต อนาคตไม่ใช่จัดไว้สำหรับพวกเขา ไม่ใช่จัดไว้สำหรับชีวิตในปัจจุบันเหล่านี้ ฉะนั้นอยากจะเข้าสู่อนาคตจึงต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดของอนาคต

            แน่นอน พูดถึงชีวิตในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะทำได้ เป็นการยากอย่างยิ่งที่เขาจะทำให้สอดคล้อง แต่มีอยู่จุดหนึ่ง ฝ่าของข้าพเจ้าถ่ายทอดอยู่ สรรพชีวิตทุกๆ ชั้นต่างก็รู้ ชีวิตจำนวนมากมายก็กำลังศึกษา และกำลังอ่าน แต่ละชั้นก็มี “จ้วนฝ่าหลุน” หลักการของแต่ละชั้นจะต่างกัน ตัวอักษรข้างในจะปรากฏต่างกัน  ทว่าล้วนแต่เป็นสัจธรรม ณ ระดับชั้นต่างๆ ของจักรวาลใหม่ ชีวิตจำนวนมากมายต่างก็อ่านกันอยู่และกำลังหล่อหลอมให้กลมกลืนด้วยตัวเอง เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่อดีตกาลอันไกลโพ้น นับแต่การเริ่มมีจักรวาลเป็นต้นมา พูดถึงสรรพชีวิตนั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครกล้าคิดมาก่อน เรื่องที่จะสามารถก้าวข้ามประวัติศาสตร์ช่วงที่ใหญ่ขนาดนี้ เพราะประวัติศาสตร์ดังกล่าวไม่ใช่จัดไว้สำหรับชีวิตทั้งมวลของจักรวาลปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างในประวัติศาสตร์ ชีวิตในจักรวาลล้วนดำรงคงอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ และประวัติศาสตร์นี้ที่สามารถทำให้ชีวิตดำรงคงอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ การจะเข้าสู่อนาคตซึ่งไม่ได้จัดไว้สำหรับประวัติศาสตร์ดังกล่าวนี้ แท้จริงแล้วไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับจักรวาลนี้ ยามเมื่อร่างนภาของจักรวาล ณ ระดับชั้นต่างๆ ดำเนินต่อไปไม่ไหวแล้วก็จะถูกทำลายทิ้งไปแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ แม้ว่าขั้นตอนนี้ฟังดูจะคล้ายกับการกำเนิด การทำลายทิ้งไปของจักรวาลเก่าและใหม่ ณ ระดับชั้นต่างๆ ของท้องนภาใหญ่ แท้ที่จริงมันต่างกันอย่างแท้จริง ไม่ว่าร่างนภาของจักรวาลต่างๆ ในจักรวาลจะถูกทำลายทิ้งไปและกำเนิดขึ้นมาใหม่อย่างไร มันยังคงเป็นความคิดหนึ่งของชีวิตที่สูงขึ้นไปอีก ณ ระดับชั้นสูงของจักรวาลนี้ ซึ่งให้กำเนิด กำเนิดและทำลายทิ้งไปจากความสามารถของเขา จึงพูดว่าเขายังคงเป็นไปตามมาตรฐานและการจัดเตรียมของจักรวาลเดิม เพราะพูดถึงชีวิตที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ร่างนภาข้างล่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา เมื่อเซลล์ทำการผลัดเปลี่ยนของใหม่ทดแทนของเก่า เซลล์ที่กำเนิดออกมาใหม่ยังคงเป็นกลไกของตัวเขาเอง เอกลักษณ์ของตัวเขาเอง สิ่งที่เป็นจักรวาลของตัวเขาเอง เป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นทั้งหมด แต่เมื่อจักรวาลทั้งหมดไม่เหลือแล้ว จึงเหมือนกับว่าชีวิตนี้ได้ตายไปแล้ว หลังจากนั้นเมื่อใดก็ตามที่มีชีวิตกำเนิดขึ้นมาอีก ก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตเดิมที่ตายไปแล้วแต่อย่างใด สิ่งที่กล่าวมา ณ ที่นี้ยังไม่เหมือนกับสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดไว้ก่อนหน้านี้ที่ว่า เมื่อหยวนเสิน(จิตหลัก)ออกจากกายเนื้อจะเหมือนการถอดเสื้อผ้าออกหนึ่งชุดและเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าอีกหนึ่งชุด ไม่เกี่ยวข้องกันในลักษณะนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตแต่อย่างใด

            สามองค์หนึ่งร่างของชีวิตล้วนสลายตัวสิ้น ล้วนไม่คงอยู่ ต่อให้เป็นชีวิตที่สูงขึ้นไปอีกก็ไม่เหลือ เมื่อพูดถึงการสิ้นสุดของท้องนภาใหญ่ สำหรับชีวิตทั้งมวลในจักรวาลนี้ ความคิดนี้เป็นอะไรที่ว่างเปล่า ล้วนเป็นอะไรที่งงงวยสับสน และไม่อาจจะเข้าใจ ต่อให้พวกเขาเปิดจินตนาการให้กว้างไกลออกไป ก็ยังคงอยู่ภายในขอบข่ายสติปัญญาที่สร้างขึ้นเท่าที่ชีวิตในรอบนี้จะสามารถจินตนการได้ถึงและรับรู้ในจักรวาลนี้ พูดถึงการปรับฝ่าให้ถูกต้องสิ่งที่ใหญ่ขนาดนี้ สำหรับพวกเขามันไร้ความหมาย (คือเป็นศูนย์) ยิ่งกว่านั้นสรรพชีวิตล้วนแต่ตั้งตัวไม่ทันเมื่อเผชิญกับสิ่งเหล่านั้นท่ามกลางการปรับฝ่าให้ถูกต้อง หลักการที่ข้าพเจ้าอธิบายให้แก่พวกเขา ต่างก็รู้ว่าดี แต่หลักการเก่าก็อยู่ตรงนั้น พวกเขาก็ถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลาของการเสื่อมและดับสลายของหลักการเก่า

            พวกที่โชคดีที่สุดคือชีวิตที่ไม่ได้ทำอะไรเลยในช่วงเวลาของการปรับฝ่าให้ถูกต้อง พวกเขาเพียงแต่เฝ้าดูอยู่อย่างเงียบๆ เป็นเพราะข้าพเจ้าจะต้องช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมด ข้าพเจ้าจะต้องทำให้สรรพชีวิตเหล่านี้สามารถหล่อหลอมให้กลมกลืนไปสู่จักรวาลใหม่ แต่อิทธิพลเก่ามองเห็นว่าในประวัติศาสตร์มีชีวิตจำนวนมากมายได้ทำผิดก่อบาปต่างๆไว้ พวกมันเข้าใจว่าชีวิตเหล่านี้ไม่อาจจะรับการช่วยเหลือ ไม่สามารถเก็บเอาไว้ พวกมันเข้าใจอย่างแน่ชัดว่าพวกมันกำลังควบคุมการปรับฝ่าให้ถูกต้องของข้าพเจ้า จากนั้นจึงจัดเตรียมชีวิตเหล่านั้นที่พวกมันต้องการคัดทิ้งไปในระหว่างการปรับฝ่าให้ถูกต้องของข้าพเจ้า พูดถึงชีวิตบนโลก เหตุใดปล่อยให้ตำรวจชั่วร้ายเหล่านั้นมีความโหดร้าย เกรี้ยวกราดขนาดนั้น? ดุร้ายเช่นนั้น ปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายระดับชั้นต่ำเหล่านั้นกระทำความชั่ว? เป้าหมายของพวกมันคือขจัดพลโลกจำนวนหนึ่งและผู้ฝึกที่มันดูแคลนทิ้งไป ปล่อยให้ทั้งผู้กระทำความชั่วและผู้ถูกกระทำ ก่อบาปที่หนักเช่นนั้น พวกมันที่มีระดับชั้นสูงหน่อยจะไม่ทำสิ่งเหล่านี้โดยตรง พวกมันคิดว่าพวกมันเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ ไม่อยากจะยื่นมือเข้าไปในกองขยะและคลุกเคล้าในกองขยะโดยตรง เพราะหากพวกมันเข้ามาก็เท่ากับตกลงไป ฉะนั้นพวกมันจึงใช้ชีวิตชั้นหนึ่งควบคุมชีวิตอีกชั้นหนึ่ง  อิทธิพลเก่า ณ ระดับชั้นต่างๆ ต่างทำการก่อกวนงานการปรับฝ่าให้ถูกต้องกันเป็นชั้นๆ ฉะนั้นเมื่อมาถึงโลกมนุษย์ชีวิตชั่วร้ายจึงกระทำออกมาชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น การปรับฝ่าให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าสถานการณ์จะอันตรายและเลวร้ายเพียงใด พูดถึงสรรพชีวิตแล้ว การปรับฝ่าให้ถูกต้องก็เป็นโอกาสแห่งวาสนาซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ฝ่ามีมานานแล้ว ข้าพเจ้าจึงมาพร้อมกับความสมใจนึกและความประสานกลมกลืน เป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยมี และดีที่สุด – ฝ่าชุดนี้

            สำหรับศิษย์ต้าฝ่าผู้ซึ่งมาเพื่อยืนยันความถูกต้องให้ฝ่าและสรรพชีวิตทั่วทั้งจักรวาล พูดได้ว่าเป็นเพียงการดำเนินการตามแผนของฝ่าชุดนี้ ในการช่วยเหลือสรรพชีวิตนี้อย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้นเอง จึงพูดว่าฝ่าชุดนี้มีอยู่ตรงนี้นานแล้ว สรรพชีวิตเพียงแต่จะปฏิบัติตามไปตามฝ่านี้อย่างไร พูดด้วยคำพูดของข้าพเจ้าคือจะหล่อหลอมให้กลมกลืนข้ามไปอย่างไร นี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้นเอง ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าพูดว่า ใครก็ไม่สามารถบ่อนทำลายฝ่านี้ ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าทำอะไรไปพลางและก่อนตั้งฝ่าอะไรออกมา ฝ่ามีอยู่นานแล้วและสรรพชีวิตจะหล่อหลอมให้กลมกลืนข้ามไปอย่างไรเท่านั้นเอง ชีวิตที่ยิ่งมีสติปัญญาจะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองสูงส่ง และชีวิตที่มีสติปัญญามากเท่าใดก็มีความจริงที่มันมองไม่เห็น ณ ระดับชั้นของมัน หนึ่งความคิดใดๆ ที่มีต่อการปรับฝ่าให้ถูกต้องจะมีผลต่อมันอย่างใหญ่หลวง หนึ่งความคิดของมันจะทำให้สรรพชีวิตแต่ละชั้นก่อบาปต่อการปรับฝ่าให้ถูกต้อง ฉะนั้นมันจึงได้ก่อบาประหว่างการปรับฝ่าให้ถูกต้อง ไม่ว่าชีวิตจะใหญ่โตเพียงใด พวกเขาต่างก็ประสบกับปัญหานี้ เพราะชีวิตใดๆ ในจักรวาลนี้ล้วนไม่จัดว่าเป็นของจักรวาลในอนาคต สำหรับพวกเขาไม่ว่าความเป็นจริงจะปรากฏออกมามากเท่าใด เขาก็มองไม่เห็นมูลฐาน ฉะนั้นพูดถึงชีวิตที่ท้ายที่สุด ภายหลังที่สุดของจักรวาล ก็คือภัยพิบัติครั้งใหญ่ เพียงเกิดความคิดก็จะหนีภัยพิบัติ ข้าพเจ้าใช้คำพูดมนุษย์บรรยายในลักษณะนี้ ว่ามันเป็นภัยพิบัติ เพราะถ้าไม่ทำการปรับฝ่าให้ถูกต้องก็จะไม่มีเรื่องของการช่วยสรรพชีวิต เช่นนั้นเมื่อสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นใหม่ก็จะไม่มีทุกสิ่งทุกอย่างของจักรวาลเก่า ฉะนั้นแท้จริงแล้วนี่เป็นความเมตตากรุณาที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งที่มีต่อสรรพชีวิตในจักรวาล (เสียงปรบมือ)

            ทุกท่านทราบ ชีวิต ณ ระดับชั้นต่างๆ ของจักรวาล ของร่างนภา ของท้องนภาและของท้องนภาใหญ่นั้น ก่อกำเนิดขึ้นมาโดยหนึ่งความคิดของเทพชั้นสูง ยิ่งกว่านั้นขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูดอยู่นี้ ชีวิตบางส่วนต่างรู้สึกกระหยิ่มนั่งภูมิใจกับตัวเองอยู่ข้างบนนั้น พวกมันคิดว่าทั้งหมดนี้ก่อเกิดขึ้นมาจากหนึ่งความคิดของพวกมัน พวกที่อยู่เหนือพวกมันขึ้นไปก็กำลังหัวเราะพวกมันอยู่ “ก่อเกิดขึ้นมาจากหนึ่งความคิดของข้า” แต่พวกที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกก็คิดเช่นนั้น เพราะพวกมันต่างไม่รู้ว่าเหนือพวกมันขึ้นไปยังมีจ้าวองค์ใหญ่มหึมาขึ้นไปอีก แต่ผู้ที่เห็นพวกมันน่าขันอย่างแท้จริงกลับเป็นข้าพเจ้า (เสียงปรบมือ) การปรับฝ่าให้ถูกต้องในครั้งนี้เป็นโอกาสแห่งวาสนาและความเมตตากรุณาอันใหญ่หลวงสำหรับพวกมัน แต่พวกมันต่างต้องการจะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างนี้ พวกมันคิดว่าสิ่งที่พวกมันครอบครองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และกำลังช่วยข้าพเจ้าทำการปรับฝ่าให้ถูกต้อง ถึงกับยัดเยียดสิ่งที่ดีที่สุดของพวกมันให้กับข้าพเจ้า ทุกท่านลองคิดดู สิ่งที่ผลักมาให้ข้าพเจ้านั้นก่อเกิดเป็นแรงต้านให้ข้าพเจ้าใหญ่เพียงใด ก่อเกิดเป็นอุปสรรคให้แก่ข้าพเจ้าใหญ่เพียงใด  เวลาที่ท่านไม่ต้องการของๆ มัน สิ่งที่มันคิดว่าดีที่สุดแต่ท่านไม่ต้องการ เท่ากับท่านทำลายจักรวาลนี้ เท่ากับท่านทำลายอนาคต มันคิดเช่นนี้ เพราะมันก็มีสติปัญญามากเท่านี้ มันก็มีความเข้าใจได้มากเท่านี้

            ชีวิตแทบทุกชั้นในระบบของอิทธิพลเก่าล้วนคิดกันเช่นนี้ ล้วนทำกันเช่นนี้ จึงก่อเกิดเป็นอุปสรรคในระหว่างการปรับฝ่าให้ถูกต้อง หนึ่งความคิดนั้นของพวกมันเมื่อปรากฏออกมา ณ ระดับชั้นที่ต่ำสุด ได้ก่อเกิดปฏิกิริยาที่แย่มากแบบหนึ่ง ยิ่งต่ำลงมาชีวิตก็ยิ่งไม่ดี สิ่งที่พวกมันทำก็ยิ่งเลวร้าย ยิ่งชั่วร้าย แท้จริงแล้วการประทุษร้ายทั้งหมดนี้ล้วนเป็นมาเช่นนี้ อันที่จริงชีวิตแต่ละชั้นแต่ละชั้นแบบนี้ที่ข้าพเจ้ากล่าวไปเมื่อครู่... เมื่อครู่ข้าพเจ้าไม่ใช่พูดถึงชีวิตเหล่านั้นข้างในร่างนภาอันใหญ่มหึมาแล้ว ข้าพเจ้าพูดถึงองค์หลัก ราชาองค์หลักที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ราชาแห่งราชาเหล่านั้นในร่างนภาอันใหญ่มหึมาต่างๆ ข้าพเจ้ากำลังพูดถึงชีวิตเหล่านั้น เป็นชั้นๆ เทพ พุทธ เต๋า และสรรพชีวิตอันนับไม่ถ้วน ไร้ขีดจำกัด และไม่อาจจะวัดได้นั้นมีเป็นจำนวนมากเท่าใดในท้องนภา นั่นย่อมไม่ต้องพูดถึงพวกมัน สิ่งที่พวกมันทำ สิ่งที่พวกมันทำอย่างเฉพาะเจาะจง นั่นล้วนเกิดจากการกระทำขององค์หลักของมัน

จักรวาลนั้นใหญ่โตยิ่งนัก เมื่ออาจารย์พูด ก็จะต้องอธิบายกว้างมาก สูงมาก เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าเผชิญอยู่ขณะนี้ล้วนแต่เป็นปัญหาเหล่านี้ ข้าพเจ้ากำลังจัดการกับปัญหาเหล่านี้ และสิ่งที่สะท้อนมายังโลกของคนธรรมดาสามัญก็ล้วนแต่เป็นผลจากสิ่งที่ชีวิต ณ ระดับชั้นสูงนั้นๆ ได้กระทำ การบรรยายฝ่าของข้าพเจ้าไม่ใช่บรรยายแบบตามอำเภอใจ ข้าพเจ้าก็อธิบายสัจธรรมให้กับพวกเขา ข้าพเจ้าต้องอธิบายเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ มันฟังดูสูงมากสำหรับพวกที่อยู่ข้างล่าง แต่พวกท่านที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ล้วนแต่เป็นศิษย์ต้าฝ่า ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่กำลังอธิบายสิ่งใดให้กับคนธรรมดาสามัญ อันที่จริงสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิบายในวันนี้ก็ยากที่คนธรรมดาสามัญจะเข้าใจ แต่คนจะรู้สึก(สัมผัส)ถึงความเมตตาของข้าพเจ้า รู้สึก(สัมผัส)ถึงพลังงาน สัมผัสถึงความรู้สึกที่ดีต่อเขา แต่คนที่จะเข้าใจอย่างแท้จริงในสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิบาย มีแต่ศิษย์ต้าฝ่าเท่านั้น (เสียงปรบมือ)

ทุกท่านยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ (เสียงปรบมือยาวนานขอให้อาจารย์อยู่ต่อ)

อันที่จริงไม่ว่าข้าพเจ้าจะพูดอะไรมากเพียงใด พวกท่านล้วนต้องบำเพ็ญด้วยการปฏิบัติจริง จึงจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก พวกท่านอย่าเห็นการประชุมฝ่าฮุ่ยของพวกท่านเป็นเรื่องไม่สำคัญ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนบำเพ็ญทั้งหมดของศิษย์ต้าฝ่า (เสียงปรบมือ) ฉะนั้นแม้ว่าพวกท่านอยากจะฟังข้าพเจ้าพูดสิ่งที่สูงขึ้นไปอีก พูดอะไรมากขึ้นไปอีก พูดให้เฉพาะเจาะจงขึ้นไปอีก อันที่จริงในการบำเพ็ญพวกท่านยังต้องเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว ฉะนั้นก่อนที่การปรับฝ่าให้ถูกต้องจะสิ้นสุดลง พวกท่านต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ ทำให้สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำอย่างจริงๆ จังๆ นั่นจึงจะถือเป็นการที่ท่านเดินสู่หนทางแห่งอนาคตอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ ไม่สามารถพลาดโอกาสแม้แต่ครั้งเดียว และไม่สามารถเดินผิดแม้แต่ก้าวเดียว

แม้จะพยายามเดินให้ดีก็ยังยากจะทำได้ ในระหว่างบำเพ็ญพวกท่านจึงหกล้มหัวขมำ ลุกขึ้นแล้วเดินต่อไปอยู่เสมอๆ แต่การตกอยู่ในสังคมนี้ซึ่งหลอมเหลาขึ้นจากวิทยาศาสตร์มนุษย์นี้ สภาพที่เป็นจริงนี้ซึ่งหลอกล่อเย้ายวนคนอย่างยิ่ง ฉะนั้นเมื่ออยู่ท่ามกลางสังคมคนธรรมดาสามัญ จึงยากที่จะจัดวางความสัมพันธ์ระหว่างคนบำเพ็ญและคนธรรมดาสามัญให้ถูกต้อง และเป็นการยากที่จะกระโดดออกจากการยึดติดในแต่ละอย่าง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การเป็นศิษย์ต้าฝ่า ท่านต้องมีเจิ้งเนี่ยน(ความคิดถูกต้อง)อยู่ในใจ พยายามทำในสิ่งที่ท่านสมควรทำให้ดี พวกท่านก็กำลังบำเพ็ญโดยสอดคล้องกับคนธรรมดาสามัญมากที่สุดแล้ว (ท่าน)ก็ไม่จำเป็นต้องไปบวชเป็นพระสงฆ์ และไม่ต้องปฏิบัติตัวเหมือนผู้ออกบวช อันที่จริงโดยรูปแบบนับว่าสะดวกที่สุดแล้ว  แต่การยกระดับซินซิ่งนั่นจะต้องชัดเจน คลุมเครือไม่ได้อย่างแน่นอน บางคนสามารถรู้สึกได้ บางคนอาจจะไม่รู้สึก ไม่รู้สึกว่าการเลื่อนระดับ การยกระดับของท่านจะแรงกล้าเท่าใดนัก แต่ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เข้มงวดและละเอียดอย่างแน่นอน เมื่อมีส่วนที่บำเพ็ญสำเร็จแล้วก็จะหล่อหลอมให้กลมกลืนข้ามไปให้แก่ท่านทันที ฉะนั้น ณ ฝั่งนี้ ท่านจะรู้สึกอยู่เสมอเหมือนตัวเองยกระดับสูงขึ้นไม่มากนักอยู่ร่ำไป เพราะการเปลี่ยนแปลง ณ ชั้นผิวบนนั้นเล็กน้อยมาก แต่การเปลี่ยนแปลงของธาตุแท้นั้นใหญ่หลวง ฉะนั้นในสภาพเช่นนี้จะเป็นการรับประกันให้ท่านสามารถบำเพ็ญ รับประกันให้ท่านสามารถยกระดับสูงขึ้น รับประกันว่าในระหว่างขั้นตอนบำเพ็ญ เวลาที่ท่านไม่ระวังหกล้มหัวขมำก็ไม่ถึงกับทำให้ท่านตกระดับชั้น เพราะด้านที่บำเพ็ญสำเร็จถูกแยกออกไปแล้ว เมื่อแยกออกไปแล้วก็จะไม่ทำให้ด้านที่บำเพ็ญสำเร็จและร่างมนุษย์ทำผิดด้วยกัน ฉะนั้นก็จะไม่ตกระดับชั้นอย่างง่ายๆ ที่พูดนี่หมายถึงการบำเพ็ญที่ปกติ แต่สำหรับคนเหล่านั้นที่เดินไปยังฝั่งตรงข้ามในยามวิกฤติ หรือได้ประทุษร้ายต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่านั่นเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่พูดถึงการเป็นผู้บำเพ็ญ ข้อกำหนดต่อท่านในการยกระดับซินซิ่ง การปล่อยวางจิตยึดติดต่างๆ ของท่าน จุดนี้ต้องชัดเจนคลุมเครือไม่ได้ ลดมาตรฐานต่ำลงไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะต้องรับผิดชอบต่ออนาคต ต่อจักรวาลและสรรพชีวิตในอนาคต ศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากมายจะสำเร็จเป็นชีวิตที่ใหญ่มากในอนาคต จะโอบอุ้มสรรพชีวิตไว้มากมาย กระทั่งสรรพชีวิตในปริมาณนับไม่ถ้วน ฉะนั้นหากมาตรฐานของท่านลดต่ำลง จักรวาลชั้นนั้นจะมีเวลาไม่ยืนยาว ท้องนภาชั้นนั้นจะมีเวลาไม่ยืนยาว ฉะนั้นจะต้องบรรลุถึงมาตรฐาน

แต่ท่านก็อย่าได้กระวนกระวายใจเพียงเพราะอาจารย์พูดอย่างนี้ ตลอดมาข้าพเจ้าไม่เคยบังคับพวกท่านให้ทำอะไร ท่านสามารถบำเพ็ญโดยปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับสภาพของสังคมคนธรรมดาสามัญให้มากที่สุด แต่ท่านเป็นผู้ที่บำเพ็ญ ท่านต้องรู้ว่าตัวท่านสมควรทำอย่างไร ท่านพยายามทำให้ดี พยายามปฏิบัติให้สอดคล้องกับมาตรฐานของผู้บำเพ็ญ ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยอย่างมากที่พอได้ยินว่าอาจารย์พูดอะไร ในใจก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที พอกระวนกระวายใจขึ้นมาแล้วก็เดินไปทางสุดขั้วทันที อะไรก็ไม่ทำแล้ว ฉันก็จะทำแต่งานการปรับฝ่าให้ถูกต้อง เป็นเช่นนั้นไม่ได้ เพราะหนทางที่ศิษย์ต้าฝ่าเดินในวันนี้คือหนทางบำเพ็ญของคนในอนาคต

ทุกท่านเห็นแล้วว่า ศาสนาก่อเกิดผลเช่นไรกับสังคมเมื่อศีลธรรมของมนุษย์ดำเนินไปสู่ความตกต่ำเสื่อมถอย ไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยคนยังบ่อนทำลายความเชื่อถูกต้องของคน พูดถึงบาทหลวง หมอสอนศาสนา ผู้ออกบวช ผู้บำเพ็ญ คนธรรมดาสามัญฝากความเชื่อถือ ความศรัทธาที่พวกเขามีต่อเทพฝากความหวังของพวกเขาไว้กับคนเหล่านี้ เมื่อคนเหล่านี้ปฏิบัติไม่ดี จึงไม่ใช่เฉพาะตัวเขาที่ปฏิบัติไม่ดี เวลากลุ่มผู้บำเพ็ญ หรือศาสนาเดินไม่ถูกต้อง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ตัวมันเดินไม่ถูกต้องแต่เพียงลำพัง มันจะทำให้สังคมทั้งหมดเสื่อมถอยและสร้างปัญหาให้กับคนกลุ่มใหญ่ ในเวลาเดียวกัน การไม่เชื่อถือในเทพของพวกเขา สำหรับสรรพชีวิต สำหรับสรรพชีวิตที่เชื่อถือเทพ นั่นเป็นเรื่องน่าสงสารที่สุดและน่าเศร้าใจที่สุด ฉะนั้นในอนาคตเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีรูปแบบของศาสนา บางทีในหนังสือแบบเรียนของมนุษย์ในอนาคตอาจจะมีองค์ประกอบของฝ่าสอดแทรกอยู่ข้างใน พวกที่สามารถทำได้ดี หรือทำได้ดีกว่าในกิจกรรมทางสังคม ก็อาจจะเป็นการบำเพ็ญแล้ว ศิษย์ต้าฝ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านกระทำในวันนี้ หวนกลับไปคิด พวกท่านไม่ใช่ได้ทำเช่นนั้นกันหรอกหรือ?  ต้าฝ่าไม่มีรูปแบบที่จะก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นการเมืองในสังคมของโลกนี้

ข้าพเจ้าต้องการให้ทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคตเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องที่สุด ฉะนั้นคนในอนาคตก็จะมีบุญวาสนา ในเมื่อสังคมมนุษย์จะตกทอดสู่อนาคต เช่นนั้นพูดถึงชีวิตในอนาคต พูดถึงสรรพชีวิต ณ แต่ละชั้นในอนาคตล้วนแต่มีบุญวาสนา เพราะนั่นคือโอกาส  นั่นคือส่วนหนึ่งของการที่ต้าฝ่าหล่อหลอมชีวิตให้กลมกลืน ฉะนั้นเปรียบเทียบกันแล้ว สังคมมนุษย์ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แตกต่างอย่างมากจากสังคมมนุษย์ในปัจจุบัน ไม่ใช่มีคนพูดกันมากมายหรอกหรือว่าคนในอนาคตมีบุญวาสนา พูดถึงผู้บำเพ็ญในอดีต บำเพ็ญได้ยากลำบากอย่างยิ่ง หลายๆ คนที่อยากจะบำเพ็ญจึงคิดหาวิธีออกมา ทนทุกข์ บำเพ็ญด้วยการทนทุกข์ทรมาน บำเพ็ญด้วยการทนทุกข์ทรมานสามารถชำระกรรมให้ลดน้อยลงได้ และเนื่องจากท่านบำเพ็ญ ท่านจึงสามารถยกระดับสูงขึ้น แต่ถึงแม้จะทุ่มเทสุดกำลัง ระดับชั้นก็จำกัดมาก จำนวนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นสามภพ เพราะไม่มีฝ่ามาชี้นำให้พวกเขาบำเพ็ญ พวกเขาไม่รู้มาตรฐานของฝ่า ณ แต่ละชั้น ข้อกำหนด ณ แต่ละชั้น และชีวิตแต่ละระดับชั้น พูดถึงพวกเขาก็เป็นการยากที่จะรับผิดชอบ ไม่ใช่เทพไม่มีความเมตตากรุณาแก่พวกเขา เพราะในจักรวาลมีกฎแห่งการเสริมและต้านซึ่งกันและกัน ที่ส่งผลอยู่ ใครก็ตามเมื่อมีความคิดเกิดขึ้นมา มันจะผลิตธาตุที่ต่างกัน บวกและลบสองด้าน ท่านมีความคิดที่ดี ความชั่วร้ายก็จะขึ้นมา ความคิดชั่วร้ายของท่านก็จะบังเกิดผล ฉะนั้นคนบำเพ็ญจำนวนมากบอกว่า “ความดีความชั่วออกมาจากหนึ่งความคิด” แล้วใครจะรู้ว่าหลักการแท้จริงของคำพูดนี้คืออะไร  เทพไม่สามารถทำอะไรแบบง่ายๆ ลวกๆ  การช่วยคนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ พระเยซูช่วยคน ทำในความดี  เรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้ เหตุใดชีวิตบนสวรรค์ยังต้องการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างล่ะ ยังจับพระองค์ตรึงไว้บนไม้กางเขนอีก  ดูอย่างผิวเผินเหมือนกำลังชำระกรรมให้มนุษย์ เหตูใดเทพต้องชำระกรรมให้มนุษย์ล่ะเหตุใดเทพที่สูงขึ้นไปอีกจึงไม่เข้ามายุ่งล่ะ เหตุใดเทพจึงไม่สามารถชำระกรรมมนุษย์ให้ลดน้อยลงโดยตรงล่ะ ในอดีตนี้คือกฎของจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอย่างนั้น ให้ข้าพเจ้าดูสิ่งที่จักรวาลเก่าขาดคือสติปัญญาทางด้านนี้  ฉะนั้นครั้งต่อไปจะไม่เป็นเช่นนี้ อนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก ฉะนั้นพูดถึงสรรพชีวิตในอนาคตจะดีงามทั้งหมด ความชั่วร้ายเช่นนั้นจะไม่คงอยู่

แต่เปรียบเทียบกันแล้ว แม้ว่ากฎแห่งการเสริมและต้านซึ่งกันและกัน จะไม่แน่นอนอีกต่อไปในอนาคต แต่มันจะยังคงอยู่ ชีวิตด้านบวกและลบจะยังมีคงอยู่ ฉะนั้นเมื่อมาถึงชั้นที่ไม่ดีที่สุด ชั้นที่ต่ำสุด แม้ว่ามันจะไม่ชั่วร้ายเท่าชั้นที่ต่ำสุดของแต่ก่อน ชั้นที่ต่ำสุดยังคงไม่ดี คนในอนาคตนั้นมีบุญวาสนา ก็เพียงแต่เปรียบเทียบกับคนในปัจจุบัน จะมีเรื่องของการก่อกรรม การเจ็บปวดทุกข์ทรมานในการขจัดกรรมของมนุษย์จะมีปรากฏ ฉะนั้นก็จะมีสงคราม มีโรคระบาด มีภัยพิบัติ ต้องเป็นเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นเมื่อมนุษย์มีกรรมใหญ่หลวง โดยไม่ชำระกรรม ชดใช้บาปด้วยการทนทุกข์ทรมาน มนุษย์ก็จะถูกทำลายทิ้งไป มนุษย์ไม่มีความเจ็บปวดก็จะไม่รู้จักว่าอะไรคือความสุข มนุษย์ที่ตรงนี้ไม่สามารถจะกลายเป็นเมืองสวรรค์ไปได้ เป็นเพราะมันมีความเจ็บปวด ที่ตรงนี้จึงสามารถบำเพ็ญ ทำได้ไม่ดียังสามารถก่อกรรม  ฉะนั้นสังคมมนุษย์จะเป็นสภาพแวดล้อมที่พิเศษตลอดไป

 ให้บุญวาสนาใหญ่ที่สุดแก่มนุษยชาติ หมายความว่ามาตรฐานของมนุษยชาติในอนาคตจะไม่ต่ำเหมือนมนุษยชาติในปัจจุบัน ซึ่งก็คือความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุด (เสียงปรบมือ) เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่ชั่วร้าย พูดอย่างเปรียบเทียบสภาพแวดล้อมก็ต้องยกระดับสูงขึ้น ความทุกข์จะไม่ต่ำขนาดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกคงไว้ ณ มาตรฐานที่สูงกว่ามนุษยชาติในปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกกำหนดไว้บนรากฐานของฝ่าในชั้นนี้ ฉะนั้นพูดถึงคนในอนาคต คนที่สามารถเดินเข้าสู่อนาคตล้วนแต่มีบุญวาสนา เพราะเหตุใดหรือ  เพราะต้าฝ่าเคยเผยแพร่อยู่ตรงนี้ เพื่อต้าฝ่าพื้นที่ตรงนี้ถูกจัดสร้างขึ้นมา ชีวิตของที่ตรงนี้ก็ได้อุทิศในส่วนของพวกเขา ประวัติศาสตร์สามารถก้าวมาถึงจุดนี้วันนี้ ก็นับว่าพวกเขามีคุณูปการ(ความดีความชอบ) ฉะนั้นต้องให้บุญวาสนาแก่ชีวิตในอนาคต แก่คนในอนาคต

แน่นอนสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลล้วนแต่เสริมสร้างซึ่งกันและกัน เชื่อมต่อซึ่งกันและกัน และประสานกลมกลืน ยังมีองค์ประกอบและมูลเหตุอื่นๆอยู่ตรงนี้ ฉะนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลก อันที่จริงมิติต่างๆ ระดับชั้นต่างๆ ทั่วทั้งจักรวาลก็ยกระดับอาณาจักรเขตแดนสูงขึ้นอย่างสอดคล้องกัน ทุกๆ ระดับชั้น ในเมื่อสามภพที่แห่งนี้มาตรฐานยกระดับสูงขึ้นแล้ว เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู ท่านไม่สามารถยกระดับขึ้นไปอยู่กับเทพ ฉะนั้นที่ๆ เทพอยู่ยังต้องยกระดับขึ้นไป เทพชั้นนี้ยกระดับขึ้นไปยังเทพชั้นนั้นก็ไม่ได้ เทพชั้นนั้นยังต้องยกระดับขึ้นไป หมายความว่ามาตรฐานของทุกๆ ชั้นก็ยกระดับสูงขึ้นแล้ว เช่นนั้นก็หมายความว่าสภาพแวดล้อมของทุกๆ ชั้นก็ดีขึ้น แน่นอนสามารถบรรลุสิ่งเหล่านี้ กลไกของท้องนภา สติปัญญาและความสามารถของฝ่าจะต้องบรรลุถึงจุดนี้ จึงจะสามารถทำให้รูปแบบการคงอยู่ของชีวิตและทุกๆ ด้านเปลี่ยนแปลงเป็นดีงามทั้งหมด

สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าประสบคือการสร้างชีวิตที่ดีที่สุดของอนาคต       ฉะนั้นสำหรับพวกท่านข้อกำหนดของซินซิ่ง ก็คือมาตรฐานที่พวกท่านในฐานะคนบำเพ็ญสามารถจะบรรลุ ณ จุดนี้จะต้องชัดเจน จะคลุมเครือไม่ได้ จะต้องบรรลุถึงมาตรฐาน

ฝ่ากำหนดให้ท่านปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำรงชีวิตของคนธรรมดาสามัญในสังคมนี้ให้มากที่สุด ฉะนั้นเพื่อให้ท่านสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จะปล่อยให้คนดูพวกท่านเป็นคนแปลกประหลาดไม่ได้ ถึงแม้พวกเรามีผู้ออกบวชบำเพ็ญอยู่เป็นจำนวนมาก อันที่จริงศาสนาก็เป็นรูปแบบหนึ่งของสภาพสังคมมนุษย์ในปัจจุบัน เมื่อเป็นเช่นนี้หนทางที่พวกท่านเดิน ความจริงก็เป็นการวางรากฐานให้กับชีวิตในอนาคต ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ใช้พวกท่านมาเป็นเครื่องทดลอง ฝ่ามีอยู่นานแล้ว พวกท่านกำลังทำภาคปฏิบัติ และมันเป็นเพียงขั้นตอนอย่างนี้ งานของการปรับฝ่าให้ถูกต้องจะต้องสำเร็จ พวกท่านอาจเคยได้ยินจากคำพยากรณ์ต่างๆ หรือบุคคลที่มีความสามารถบอกว่า มนุษย์มีภัยพิบัติแบบนี้ มีภัยพิบัติแบบนั้น แต่ไม่มีใครกล้าบอกว่างานการปรับฝ่าให้ถูกต้องเรื่องนี้จะไม่สำเร็จ เพราะมันจะต้องสำเร็จ เพราะไม่ว่าชีวิตจะสามารถปฏิบัติข้อกำหนดซึ่งต้าฝ่ามีต่อเขาให้เป็นจริงได้หรือไม่ การปรับฝ่าให้ถูกต้องก็ต้องสำเร็จ เพราะในการยืนยันความถูกต้องให้ฝ่าหากมนุษย์ดำเนินข้ามไปไม่ได้ ฝ่าจะสร้างชีวิตทั้งหมดขึ้นมาใหม่ อะไรที่ขาด ในฝ่าจะมีสิ่งนั้น เพราะเขามีสำเร็จอยู่แล้ว พูดถึงความเมตตากรุณา คือข้าพเจ้าต้องการให้ชีวิตในรอบเก่า เมื่อหล่อหลอมให้กลมกลืนแล้วเข้าไปสู่ชีวิตในรอบใหม่ นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจะทำ

ในประวัติศาสตร์ผู้คนได้ยินชีวิตในระดับชั้นต่างๆ พูดถึงความเมตตากรุณาอย่างนั้น ความเมตตากรุณาอย่างนี้ ยิ่งกว่านั้นเทพ ณ ระดับชั้นสูงมากๆ ก็พูดถึงความเมตตากรุณา แต่ความเมตตากรุณาของพวกเขาล้วนแต่มีมาตรฐาน ล้วนแต่ไม่หลุดพ้นจากความเข้าใจและอาณาจักรเขตแดนของพวกเขา แต่ความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่แบบนี้ระหว่างการปรับฝ่าให้ถูกต้อง สำหรับสรรพชีวิตทั่วทั้งจักรวาล เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน อะไรเรียกว่าบุญคุณพุทธโอฬารพันลึก (เสียงปรบดังกึกก้อง) แน่นอนสรรพชีวิตในอนาคตจะมองเห็นการช่วยเหลือสรรพชีวิตของศิษย์ต้าฝ่า เมื่อพวกท่านบำเพ็ญสำเร็จ สรรพชีวิตในอนาคตก็จะรู้ถึงบุญคุณพุทธโอฬารพันลึกของพวกท่าน คนในอนาคตกลับจะไม่รู้จักข้าพเจ้า มีเพียงพวกท่านที่สามารถจะรู้จักข้าพเจ้า  เพราะกล่าวสำหรับสรรพชีวิตแล้วไม่จำเป็นต้องรู้… อันที่จริงก็ไม่คู่ควรจะรู้จัก รู้จักพวกท่านก็พอแล้ว เดิมทีก็ไม่มีใครรู้จักข้าพเจ้าอยู่แล้ว ฉะนั้นในอนาคตพวกเขายังคงไม่รู้จัก (อาจารย์หัวเราะ) (เสียงปรบมือกึกก้อง)

ชีวิตนั้นสลับซับซ้อนอย่างมาก อันที่จริงในทางปฏิบัติข้าพเจ้าก็ได้ทำให้คนสำเร็จเป็นเทพเรียบร้อยแล้ว กายเนื้อของตัวข้าพเจ้าก็กำลังควบคุมจัดการโลกฝ่าหลุนอยู่แล้ว และในอนาคตพวกท่านจะเห็นตัวข้าพเจ้ามากมายในอดีต เมื่อถึงเวลานั้นบางทีพวกท่านอาจจะคิดว่าพวกเขาคือข้าพเจ้า แท้จริงแล้วธาตุแท้ขององค์หลักแท้จริงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าที่เป็นหลักแท้จริงนั้น เป็นการยากอย่างยิ่งที่ชีวิตจะรู้ แต่ข้าพเจ้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกท่าน (อาจารย์หัวเราะ) (เสียงปรบมือยาวนาน)

เวลามา ข้าพเจ้าได้เดินผ่านขั้นตอนเดินลงมาทีละชั้นทีละชั้น พูดถึงเทพที่สูงมากๆ จะมีสามองค์หนึ่งร่าง สามองค์หนึ่งร่าง ณ ระดับชั้นที่ต่างกันจะเป็นความคิดที่ต่างกัน ความเข้าใจที่ต่างกัน ณ ระดับชั้นที่สูงมากๆ ที่มีรูปลักษณ์ สามองค์หนึ่งร่างคือ กายจริง จิตวิญญาณจริงและความคิด เป็นสามองค์หนึ่งร่างเช่นนี้ นี้คือสภาพการณ์ ณ ระดับชั้นที่สูงมากๆ ตรงนั้น ระดับชั้นที่สูงขึ้นไปอีกก็จะไม่เป็นเช่นนั้น ที่นั่นความคิดและร่างกายคือหนึ่งร่าง แยกไม่ออก  ข้าพเจ้าก็จะพูดจากระดับชั้นของเทพที่มีรูปลักษณ์  นั่นคือร่างจริง จิตวิญญาณจริงและความคิด สามองค์หนึ่งร่าง

เมื่อข้าพเจ้าเดินลงมาถึงระดับชั้นที่มีรูปลักษณ์ ข้าพเจ้าก็เริ่มสร้างกายจริง หลังจากนั้นก้าวเข้าสู่ท้องนภาใหญ่ทีละก้าวทีละก้าว เดินลงมา ทุกๆ ครั้งข้าพเจ้าจะลงมาด้วยกายจริงตามลำพัง หมายความว่ากายจริงก็คือข้าพเจ้าที่แท้จริง ข้าพเจ้าบอกกับพวกท่านตลอดมา ข้าพเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าคือชั้นผิวบนที่สุด ผิวหนังจริงก็คือข้าพเจ้า เพราะไม่ว่าจะ ณ ระดับชั้นใดข้าพเจ้าก็สร้างชั้นผิวบนที่สุด สร้างกายจริง มาถึงที่ตรงนี้ของมนุษย์ ข้างในกายเนื้อก็มีกายจริง (เสียงปรบมือ) ฉะนั้น ณ ระดับชั้นต่างๆ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ทิ้งจิตวิญญาณจริงของข้าพเจ้าไว้ไม่น้อย พวกเขาล้วนคือจิตวิญญาณจริงของข้าพเจ้า ณ ระดับชั้นต่างๆ ในอดีต อยู่ท่ามกลางวันเวลาอันยาวนาน  พวกเขาบางคนคิดว่าข้าพเจ้าคงไม่สามารถกลับไปแล้ว พวกเขาจึงเสก(แปลง)ร่างกายขึ้นมาหนึ่งร่าง เหมือนกับข้าพเจ้าในเวลานั้นทุกประการ จึงพูดว่าในจักรวาลในอนาคต พวกท่านจะเห็น(ร่าง)อดีตมากมายของข้าพเจ้า พวกเขาสามารถหล่อหลอมให้กลมกลืนแล้วเข้าสู่จักรวาลใหม่ของอนาคตได้ทั้งหมด เพราะนั่นคือธรรมานุภาพและบุญวาสนา --- เคยเป็นข้าพเจ้า ทุกๆ ครั้งข้าพเจ้าจะเดินลงมาด้วยกายจริง ฉะนั้นพูดถึงกายจริง ทุกครั้งเมื่อร่างกายจะลงมา พวกเขาล้วนแต่ไม่อยากให้ข้าพเจ้าลงมา ต่างรู้ว่าการลงมานั้นจะประสบกับความลำบากอย่างมาก เท่ากับการถูกทำลาย เทพองค์หนึ่งไม่ว่าจะมาจากระดับสูงเพียงใด สุดท้ายเมื่อมาถึงที่ตรงนี้ของมนุษย์ ในสายตาของเทพ โดยมูลฐานหมายความว่าเทพองค์นั้นตายไปแล้ว ฉะนั้นทุกๆ ชั้นที่ลงมาจากต้นจนจบข้าพเจ้าสร้างกายจริงมาตลอด และแม้ว่ากายจริงนี้ได้เดินผ่านระดับชั้นต่างๆ จำนวนมากมายในประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ผิวหนังผืนนี้โดยแท้จริงมาจากที่ใด คือใคร ไม่มีชีวิตใดสามารถจะเข้าใจ ครั้งนี้ข้าพเจ้าลงมาเกิดในโลกมนุษย์ในร่างกายมนุษย์ เป็นชั้นผิวบนที่สุดของมนุษย์ สิ่งที่แตกต่างคือข้างในกายเนื้อมีกายจริง แต่ที่มาของธาตุแท้ที่สุดของข้าพเจ้าไม่มีชีวิตสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนและเข้าใจ เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดว่าเป็นการยากที่ชีวิตในอนาคตจะรู้จักข้าพเจ้า ความหมายเป็นอย่างนี้

ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งที่พูดในวันนี้นับว่าสูงมาก (เสียงปรบมือ) อย่างไรก็ตาม พูดถึงศิษย์ต้าฝ่า เมื่อฟังแล้ว พวกท่านได้ฟังแล้วก็อย่าให้เกิดจิตยึดติดใดๆ ระหว่างขั้นตอนบำเพ็ญ พวกท่านบางคนก็จะรับรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และบางคนอาจจะรับรู้ทั้งหมดเมื่อบรรลุความสำเร็จสมบูรณ์สุดท้ายแล้ว

พูดมาถึงหยวนหมั่น การหยวนหมั่นของพวกท่านจะไม่เกิดขึ้นในลักษณะฉับพลันทันทีเหมือนผู้ฝึกตานในอดีตซึ่งระเบิดเปิดออกในทันที ไม่ใช่ในสภาวะเช่นนั้น เช่นนั้นการหยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่าจะมีสภาวะเป็นอย่างไร  ด้านนั้นของพวกท่านซึ่งบำเพ็ญสำเร็จจะรู้หมดทุกอย่าง นั่นก็ท่าน รอจนเมื่อชั้นผิวบนสุดของท่านอันเล็กน้อยส่วนนี้ข้ามไป ก็จะเหมือนกับท่านนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาตามธรรมชาติ เป็นสภาวะเช่นนี้ไม่มีการสั่นสะเทือน (เสียงปรบมือ)

ในระหว่างบำเพ็ญพวกท่านได้รับรู้ถึงหลักการของฝ่าที่ต่างกันจากในหนังสือ นั่นเป็นเพียงความเข้าใจเล็กๆ น้อยๆ ณ มนุษย์ตรงนี้ พวกท่านทราบ หลักการของพุทธอันแท้จริงไม่สามารถจะเปิดออกมาทั้งหมดต่อหน้าให้กับคนบำเพ็ญซึ่งยังมีชั้นผิวบนของร่างคนอยู่  ฉะนั้น ณ ฝั่งนี้ท่านเพียงแต่มีความเข้าใจโดยสรุป(ในลักษณะรวมๆ) แบบหนึ่ง ในขณะที่ด้านนั้นที่บำเพ็ญสำเร็จแล้วเป็นความเข้าใจของอาณาจักรเขตแดนนั้นๆทั้งหมดแล้ว จึงพูดว่า ในระหว่างที่ท่านบำเพ็ญ ด้านที่บำเพ็ญสำเร็จ ท่านควรอยู่ ณ ระดับชั้นใด ในอาณาจักรเขตแดนของจักรวาลนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในแต่ละระดับชั้นที่อยู่ต่ำลงมาจากท่าน ทั้งหมดท่านจะรู้ และอยู่ภายในสายตาทั้งสิ้น ฉะนั้นด้านนั้นที่บำเพ็ญสำเร็จจะเป็นเช่นนี้ทั้งหมด ตลอดไปจนกระทั่งบำเพ็ญจบสมบูรณ์ ก็จะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างโดยอัตโนมัติทั้งหมด ภายนอกดูเหมือนตื่นขึ้นจากการนอนหลับสนิท “เอาล่ะ” ท่านควรต้องทำอะไรก็ไปทำ เป็นเช่นนี้ (เสียงปรบมือ)

ความคิดในเวลานั้นจะไม่เป็นรูปแบบและเค้าโครงของความคิดในแบบของมนุษย์ เพราะด้านที่บำเพ็ญสำเร็จแล้ว เค้าโครงความคิดจะทำไปตามมาตรฐานที่ดีที่สุดของเทพ รูปแบบความคิดอย่างนี้จะไม่เข้าไปในความคิดชั้นที่ต่ำ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ณ ชั้นที่ต่ำพวกท่านรู้ทั้งหมด พวกท่านทราบ อันที่จริงจะเป็นพระพุทธเจ้าศากยมุนีก็ดี เทพหรือพุทธองค์อื่นๆ ก็ดี พวกเขารู้กระทั่งความคิดของวัวควายและม้า รู้กระทั่งความคิดของชีวิตที่ต่ำลงไปอีก รู้ทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น แต่พวกเขาจะไม่เข้าไปในนั้น อะไรก็รู้ทั้งหมด ก็เพียงเท่านั้น ในอนาคตเมื่อศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญสำเร็จ ท่านจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ข้างล่างอย่างทะลุปรุโปร่ง รู้อะไรอะไรทั้งหมด แต่รูปแบบความคิดของท่านจะไม่เหมือนกับของพวกเรา จะไม่เข้าไปในนั้น จะเป็นความคิดในอาณาจักรเขตแดนนั้นของท่านโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นในอนาคต ณ เวลาที่หยวนหมั่น บางทีอาจเหมือนตื่นขึ้นมาจากนอนหลับ เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างโดยอัตโนมัติ เพราะด้านที่บำเพ็ญสำเร็จของท่านอยู่ฝั่งนั้นเป็นเวลานานมากแล้ว เวลา ณ ฝั่งนั้นไม่เหมือนกับเวลาบนโลก ท่านที่ฝั่งนั้นอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานมากแล้ว รู้ทุกสิ่งทุกอย่างดี ท่านที่ฝั่งนี้เมื่อส่วนเล็กน้อยสุดท้ายข้ามไปก็จะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง (เสียงปรบมือ)

            เนื่องจากที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านว่า คนบำเพ็ญในอดีตเวลาไคอู้(การรับรู้เปิด) เขาต้องระเบิดตาน เวลาระเบิดตาน ตานในทุกๆ มิติก็ต้องระเบิด ฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อผืนแผ่นดินอย่างมาก จะมีภูเขาถล่ม เสียงคลื่นคำรามครั่นครืน จะมีการสั่นสะเทือนอย่างใหญ่หลวง สิ่งเหล่านี้จะปรากฏ ศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากขนาดนี้     อีกทั้งมีระดับชั้นของการบำเพ็ญสูง โอ้… ถ้าเป็นแบบนี้จะทำอย่างไร จะเกิดมหันตภัยใหญ่หลวงสักเพียงใดกับสังคมมนุษย์  จะไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งหมดจะเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ฉะนั้นฝ่าชุดนี้ ในระยะแรกเมื่อเริ่มทำเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้คำนึงถึงสิ่งต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ในฝ่าชุดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่หยวนหยง(ประสานกลมกลืน)ที่สุด ดีที่สุด

            มีอีกประเด็นหนึ่ง พวกเราผู้ฝึกจำนวนมาก ในความคิดคำนึงถึงเรื่องต่างๆมากมาย สิ่งนั้นสิ่งนี้ อันที่จริงเพียงแต่คิด(ท่าน)ก็ตกจากอาณาจักรเขตแดนแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องสนใจทั้งหมด อาจารย์มีความเมตตากรุณา ต้องจัดวางให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน (เสียงปรบมือ) ท่านไม่ต้องคิดว่านั่นเป็นความเมตตากรุณาที่อาจารย์มีต่อพวกเรา เพราะนั่นคือสิ่งที่ท่านบำเพ็ญได้มา นั่นคือสิ่งที่สร้างขึ้นมาจากธรรมานุภาพด้วยตัวท่านเอง อาจารย์จึงทำให้พวกท่าน

            ข้าพเจ้าก็จะพูดเพียงเท่านี้ (เสียงปรบมือดังกึกก้อง)

            ใครที่ทำได้ไม่ดี ให้รีบเร่งก้าวรุดไปข้างหน้า พวกเรายังต้องจัดการประชุมฝ่าฮุ่ยต่อไป ทุกท่านต้องเดินทุกๆ ก้าวให้ดี ยิ่งดำเนินมาถึงช่วงเวลาที่ดีมากเท่าใด ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน โอกาสแห่งวาสนาจะยิ่งน้อยลง ฉะนั้นต้องพยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ แต่พวกท่านต้องไม่เดินสุดขั้ว ท่านต้องไม่เดินสุดขั้วใดๆ ทันทีที่เดินสุดขั้ว ท่านก็จะทำให้หนทางที่ข้าพเจ้าจัดวางให้ท่านและข้อกำหนดซึ่งฝ่ามีต่อท่านเสียหาย ท่านก็ทำในสิ่งที่ท่านควรทำไปตามปกติ พรุ่งนี้หยวนหมั่น วันนี้ท่านยังไม่รู้ ท่านยังคิด บอกว่าฉันยังอยากจะเปิดบริษัททำธุรกิจ เช่นนั้นท่านก็ทำไป ข้าพเจ้าจะประสานกลมกลืนทุกสิ่งทุกอย่างให้ท่านเอง ท่านไม่ต้องคิดสิ่งใด ให้ทำในสิ่งที่ท่านควรทำ(เสียงปรบมือกึกก้อง)

            สุดท้ายนี้ ขออวยพรให้การประชุมฝ่าฮุ่ยแวนคูเวอร์ของพวกเราประสบความสำเร็จ ขอบใจทุกท่าน (เสียงปรบมือยาวนาน)