ฝ่าหลุนต้าฝ่า

บรรยายธรรม ณ พื้นที่ต่างๆ (๔)

 

 

หลี่ หงจื้อ


สารบัญ

 

 

บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปี 2003. 1

บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยนครแอตแลนต้า ปี ค.ศ. 2003. 10

บรรยายธรรม ณ เมืองชิคาโก ปี ค.ศ. 2004. 52

                                                                                                                                                                           

 


บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปี 2003

 

หลี่ หงจื้อ

20 กรกฎาคม ค.ศ. 2003

 

            สวัสดีทุกๆ ท่าน (เสียงปรบมือกึกก้อง)

            ฝ่าฮุ่ยของเราครั้งนี้มีจำนวนคนค่อนข้างมาก หอประชุมแห่งเดียวไม่พอบรรจุ อันที่จริงข้าพเจ้าได้มาร่วมการประชุมติดต่อกัน 4 ครั้งแล้ว (เสียงปรบมือ)

            จาก 20 กรกฎาคม ในปี 1999 จนถึง 20 กรกฎาคม ปีนี้ ผ่านไปเป็นเวลา 4 ปีเต็ม การประทุษร้ายครั้งนี้ก็ได้ดำเนินมาเป็นเวลา 4 ปี ใน 4 ปีนี้ศิษย์ต้าฝ่าได้ประสบกับการทดสอบที่ไม่เคยมีมาก่อน พวกเราไม่ยอมรับการประทุษร้ายครั้งนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว พูดถึงการเป็นศิษย์ต้าฝ่า ท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ จะดำเนินการอย่างไรเพื่อขจัดการประทุษร้ายครั้งนี้ ซึ่งอิทธิพลเก่ายัดเยียดให้แก่พวกเรา เพื่อปฏิเสธการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า จะทำอย่างไรจึงจะเดินหนทางของศิษย์ต้าฝ่าได้ถูกต้อง จะช่วยเหลือสรรพชีวิตอย่างไรท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาระหน้าที่ซึ่งประวัติศาสตร์ได้มอบหมายให้แก่ศิษย์ต้าฝ่า เหล่านี้เป็นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าต้องทำ และต้องทำให้ดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องยืนยันว่าทุกคนทำได้ดีอย่างยิ่ง สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งจักรวาล ยังความตื่นตระหนกให้แก่สรรพชีวิตทั้งมวลในจักรวาล

            ความชั่วร้ายของการประทุษร้ายครั้งนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจจะคาดคิด เบื้องหลังของมันยังมีองค์ประกอบที่น่ากลัว การประทุษร้ายต่อมวลชนครั้งนี้แตกต่างจากการประทุษร้ายในอดีต เป้าหมายการประทุษร้ายของพวกมัน วิธีการที่ใช้ต่ำทรามและโหดร้าย อีกทั้งพยายามที่จะปกปิดสังคมอย่างสุดกำลัง ผีเปื่อยยุ่ยและอันธพาลในโลกมนุษย์ใช้อำนาจทางการเมืองก่อการประทุษร้ายครั้งนี้ ซึ่งต่ำทรามที่สุด สะท้อนถึงธาตุแท้ของความโหดร้ายที่สุด และเสแสร้งเยี่ยงอันธพาลอย่างไร้ยางอายที่สุด การประทุษร้ายแบบนี้ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน สร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาบนมูลฐานของการโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น การประทุษร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่าเป็นสิ่งที่เข้มงวดและร้ายกาจ การประทุษร้ายต่อสรรพชีวิตก็เป็นสิ่งที่ร้ายกาจเช่นกัน มนุษยชาติจะรู้สึกว่านี้เป็นการย่ำยี(คุกคาม)ต่อสิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการเชื่อถือศรัทธาและสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ แท้จริงแล้วนี่เป็นการบ่อนทำลายและก่อกวนที่ร้ายแรงครั้งหนึ่ง ซึ่งองค์ประกอบชั่วร้ายในจักรวาลกระทำต่อการเจิ้งฝ่าและการเดินสู่อนาคตของจักรวาลโดยรวมทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้ายครั้งนี้ต่างจะต้องรับผิดชอบกับประวัติศาสตร์ ฉะนั้นทั้งหลายทั้งปวงที่เกี่ยวข้องต่างหนีไม่พ้น ที่พวกมันจะต้องกำหนดตำแหน่งของตัวเองในอนาคตในช่วงเวลานี้

            ในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ มีพลโลกต้องพิษร้ายเป็นจำนวนมากเท่าใด มีสรรพชีวิตจำนวนมากเท่าใด เนื่องจากพลโลกต้องพิษร้าย ทำให้เทียนถี่มหึมาที่เชื่อมต่อกับพวกเขาถูกแยกสลายไป เหตุใดต้องทำการเจิ้งฝ่า คือต้องการช่วยเหลือสรรพชีวิตของจักรวาล ช่วยเหลือสรรพชีวิตทั้งมวลของจักรวาล ให้ชีวิตที่ไม่ดีปรับสู่มาตรฐานที่ดี ให้ชีวิตที่มีบาปได้ชำระบาปกรรม ให้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงเบี่ยงเบนได้รวมขึ้นเป็นชีวิตที่ดีใหม่อีกครั้ง ต้าฝ่าจะนำมาซึ่งความดีงามเช่นนี้ให้แก่มนุษยชาติ จะนำมาซึ่งความดีงามเช่นนี้ให้แก่สรรพชีวิตของจักรวาล แต่ท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ทำให้ชีวิตจำนวนมากมายสูญเสียโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือ และรับการช่วยเหลือได้จริงๆ พูดถึงศิษย์ต้าฝ่า การปราบปรามครั้งนี้ที่พวกท่านประสบเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน พูดจากอีกด้านหนึ่ง เพราะพวกท่านคือศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านสามารถเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ และพวกท่านก็สามารถเดินข้ามมาจากมหันตภัยครั้งนี้ การปฏิบัติ เป็นเครื่องยืนยัน พวกท่านเดินข้ามมาแล้ว สถานการณ์ของสิ่งชั่วร้ายกำลังตกต่ำลง สังคมมนุษย์ จะเป็นในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ก็ดี ในสภาพแวดล้อมอื่นๆก็ดี พวกท่านได้เห็นแล้ว ความชั่วร้ายครั้งนี้ไม่กำเริบเสิบสานเท่าในระยะแรกอีกแล้ว ทำให้สรรพชีวิตและศิษย์ต้าฝ่าสูญเสียน้อยลงในระหว่างถูกประทุษร้าย นี้เป็นสิ่งไม่อาจจะแยกออกจากความพยายามร่วมแรงร่วมใจของศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคน แน่นอนพลังอันใหญ่ล้นแห่งการเจิ้งฝ่ากำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่วิถีพลังอันใหญ่ล้นแห่งการเจิ้งฝ่าจะมาถึง เพื่อหลีกเลี่ยงและลดพิษร้ายที่จะมีต่อศิษย์ต้าฝ่าและต่อมนุษยชาติโดยรวมทั้งหมด อีกทั้งต่อกลุ่มชีวิตที่กว้างใหญ่ขึ้นไปอีกซึ่งเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อลดการสูญเสียอันนี้ ศิษย์ต้าฝ่าได้ทุ่มเทดำเนินการในสิ่งต่างๆ ศิษย์ต้าฝ่าทุกคนที่ทำการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ต่างแสดงความสามารถของตัวเองอย่างเต็มกำลัง ใช้ความรู้ความสามารถที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมาในสังคมมนุษย์ทำการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต อธิบายความเป็นจริง ทำได้ดีอย่างยิ่ง

            อันที่จริงท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ คนธรรมดาสามัญถูกประทุษร้ายรุนแรงกว่า ภายใต้การโฆษณาชวนเชื่อด้วยคำโกหกหลอกลวงอันชั่วร้าย ทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถจะได้รับการช่วยเหลืออีกต่อไป และสำหรับคนที่ไม่สามารถจะได้รับการช่วยเหลือ จุดต้นกำเนิดของเขา กลุ่มมวลชีวิตในระดับชั้นต่างๆ ที่ใหญ่ขึ้นไปอีกที่ค้ำยันชีวิตของเขาก็ต้องแยกสลายตามไปด้วย พูดขึ้นมาเป็นเพียงคำพูดหนึ่งประโยค แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงแบบนี้ที่เกิดขึ้นจริงๆในจักรวาลเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว ในเวลาที่เทียนถี่(ร่างนภา)ของจักรวาลอันไกลโพ้นเกิดการแยกสลาย คนเมื่อมองเห็นจะรู้สึกว่าเป็นทัศนียภาพที่อลังการ เห็นเป็นเรื่องของการค้นคว้า (แต่)เมื่อดาวเคราะห์ที่ใกล้ตัวเกิดการแยกสลาย มนุษย์จะไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเห็นว่ามันเป็นทัศนียภาพที่อลังการอีกต่อไป แต่เมื่อเที่ยนถี่อันใหญ่มหึมา ชีวิตที่ใหญ่หลวงเกิดการแยกสลาย มันเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากเพียงใด ข้างในนั้นมีชีวิตมากเท่าใด! สรรพชีวิตเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เป็นปริมาณที่วัดไม่ได้จะถูกทำลายทิ้งไป ทั้งหมดนี้กระทำออกมาโดยองค์ประกอบที่เก่าในจักรวาล ในระหว่างการเจิ้งฝ่าของข้าพเจ้าพวกมันดำเนินตามทัศนคติที่เบี่ยงเบนไปในจักรวาล โดยจัดพวกที่พวกมันต้องการจะกำจัดทิ้ง และพวกที่พวกมันต้องการให้เหลือไว้ จัดการทุกสิ่งทุกอย่างไปตามที่พวกมันต้องการ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ปณิธานดั้งเดิมของข้าพเจ้า และได้รบกวนการเจิ้งฝ่าอย่างรุนแรง รบกวนการช่วยเหลือสรรพชีวิตอย่างรุนแรง ฉะนั้นองค์ประกอบเหล่านี้ซึ่งเข้ามาพัวพันและรบกวนการเจิ้งฝ่า ตลอดจนถึงชีวิตชั่วร้าย ณ ที่มนุษย์ตรงนี้ ล้วนต้องรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ และไม่สามารถจะหลบหนีอย่างแน่นอน

            พูดจากด้านการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า พวกเราไม่ยอมรับการจัดเตรียมของอิทธิพลเก่า แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าอิทธิพลเก่าจะปรากฏออกมา อาจจะออกมาในรูปแบบนี้ หรือรูปแบบอื่น เพราะสิ่งที่จะได้รับผลกระทบจากการเจิ้งฝ่า ไม่ใช่เพียงชีวิตใดชีวิตหนึ่ง แต่เป็นชีวิตของจักรวาลทั้งหมด ไม่มีชีวิตใดจะสามารถหนีรอดจากการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงของจักรวาลครั้งนี้ ฉะนั้นชีวิตที่ได้รับผลกระทบก็จะมีความเข้าใจของพวกเขาต่อการเจิ้งฝ่า ดูและปฏิบัติต่อการเจิ้งฝ่าด้วยทัศนคติของพวกเขา ผู้ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวมีระดับชั้นสูงมากเท่าใด ผลกระทบจากการรบกวนก็จะใหญ่มากยิ่งขึ้น หนึ่งความคิด หนึ่งการกระทำของเขาก็จะทำให้ข้างล่างกลับตาลปัตร ฉะนั้นพูดถึงการประทุษร้ายครั้งนี้ ณ มูลฐานที่สุด (มัน)เกิดขึ้นจากความเข้าใจที่แตกต่างกัน ณ จักรวาลชั้นบนสุด สิ่งที่พวกมันคิดและต้องการก่อให้เกิดการรบกวนต่อการเจิ้งฝ่าของจักรวาล ฉะนั้นข้าพเจ้ารู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้ารู้ว่าชีวิตชั้นต่ำเมื่อได้รับผลกระทบก็จะออกมาทำสิ่งที่พวกเขาต้องการทำ อาจจะทำอย่างนี้ ทำอย่างนั้น ฉะนั้นมวลพลังของการที่ศิษย์ต้าฝ่าได้ฟังฝ่า ได้ฝ่า บำเพ็ญ วางรากฐานของต้าฝ่าในโลกนี้ ก็เพื่อจะสามารถช่วยเหลือสรรพชีวิตในช่วงเวลานี้ และก่อตั้งเวยเต๋อ(อานุภาพแห่งคุณธรรม)ของศิษย์ต้าฝ่า และแล้วกลายเป็นชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดหลอมเหลาขึ้นมาโดยต้าฝ่า มีศิษย์ต้าฝ่าเป็นจำนวนมากซึ่งได้ตั้งปณิธานอันใหญ่ล้นไว้ในประวัติศาสตร์ อาสาจะช่วยเหลือสรรพชีวิตและทำในสิ่งที่ตัวเองสมควรทำ ณ ขั้นตอนสุดท้ายของจักรวาลแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอยและดับสูญ

            ในระหว่างการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ ศิษย์ต้าฝ่ากำลังปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของตัวเอง อีกทั้งทำในสิ่งที่ตัวเองสมควรทำอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำได้ดีเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ตัวเองได้ให้ไว้ อย่างไรก็ตามระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าจะถูกประทุษร้ายรุนแรงถึงระดับใด สิ่งที่รอคอยศิษย์ต้าฝ่าเป็นสิ่งที่ดีงามที่สุด เพราะความเป็นความตายที่มองเห็นในโลกมนุษย์นั้น ไม่ใช่ความเป็นความตายอย่างแท้จริงของชีวิต ฉะนั้นในการประทุษร้ายครั้งนี้ ไม่ว่าศิษย์ต้าฝ่าจะถูกประทุษร้ายรุนแรงถึงระดับใด เขาจะได้รับเกียรติยศในระดับที่สูงเท่านั้น ดูจากจุดตรงนี้ ศิษย์ต้าฝ่าตกอยู่ท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ พูดกันอย่างเข้มงวด ไม่ว่าพวกท่านจะประสบกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างไรในเวลานี้ แต่สำหรับผู้บำเพ็ญนั้นไม่แสวงหาการได้การเสียในโลกมนุษย์ การบำเพ็ญโดยตัวเองก็เพื่อแสวงหาการหยวนหมั่น เกียรติยศอันเป็นนิรันดร์ของชีวิต ฉะนั้นพูดถึงศิษย์ต้าฝ่า โดยแท้จริง การอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ พวกท่านมีโอกาสได้หล่อหลอม ได้ยืนยันความถูกต้องของฝ่า ได้เผยเวยเต๋อของผู้รู้แจ้งถูกต้องในต้าฝ่าของพวกท่าน (เสียงปรบมือ) แต่พวกที่ต้องพิษร้ายอย่างแท้จริงกลับเป็นสรรพชีวิตอื่นๆ พวกเขาจะสูญเสียชีวิตอย่างแท้จริง ในขณะที่ชีวิตที่ถูกประทุษร้ายเหล่านั้นแม้ว่าจะสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ แต่ผู้ประทุษร้ายโดยตัวเองจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตนั้นตลอดไป หลักการของฝ่าแห่งจักรวาลมีความยุติธรรม มันเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน

            ฉะนั้นพูดถึงการเป็นศิษย์ต้าฝ่า ไม่ว่าพวกเราจะได้ประสบกับประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายมากเท่าใดในช่วงนี้ก็ตาม ไม่มีอะไรพึงต้องเศร้าเสียใจ สิ่งที่ข้าพเจ้าคิดอยู่ในใจคือการช่วยเหลือสรรพชีวิต พวกท่านต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของชีวิตตัวเองซึ่งมาเพื่อฝ่าและความหมายที่ท่านมาที่นี่ ฉะนั้นพวกเราไม่มีอะไรต้องเสียใจ สิ่งที่รอคอยศิษย์ต้าฝ่าอยู่ล้วนแต่สวยงาม สิ่งที่น่าเศร้าใจที่สุดคือพลโลกที่ถูกประทุษร้ายเหล่านั้นและตัวของอิทธิพลเก่าเอง จุดจบของพวกเขาจึงจะเป็นสิ่งที่น่าเศร้าอย่างแท้จริง

            พวกเราเดินจาก 20 กรกฎาคม ปี 1999 มาจนถึงวันนี้ แม้ว่าเวลาไม่นับว่ายาวนานเท่าใดนัก แต่ทุกท่านกลับรู้สึกว่าเวลาช่างยาวนานเหลือเกิน เพราะพวกท่านได้สัมผัสด้วยตัวเองถึงสภาพแวดล้อมอันน่ากลัวซึ่งสร้างขึ้นโดยสิ่งชั่วร้าย สัมผัสถึงแรงกดดันทางจิตใจ อันนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและมารผจญให้แก่ครอบครัวของผู้บำเพ็ญ และความยากลำบากให้แก่ผู้บำเพ็ญ ฉะนั้นจึงรู้สึกว่าเวลาช่างยาวนานเหลือเกิน แท้จริงแล้วการเจิ้งฝ่าของจักรวาลทั้งหมด มันเพียงชั่วกระพริบตาเดียว ความรู้สึกที่ว่าเวลาสั้นหรือยาวนั้นเกิดจากเวลาของมิติที่ต่างกัน หนึ่งนาทีหรือหนึ่งวินาทีสามารถทำให้ชีวิตหนึ่งเดินจบหนึ่งชั่วชีวิตอันยาวนานในความรู้สึกของตัวเขาเอง หนึ่งหมื่นปีก็สามารถทำให้ชีวิตหนึ่งเดินจบหนึ่งชั่วชีวิตอันแสนจะสั้นในความรู้สึกเช่นกัน อันที่จริงท่ามกลางการเจิ้งฝ่าโดยรวม พวกเราผู้ฝึกจำนวนมากในระยะแรกที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากต่างก็เคยคิด: การประทุษร้ายครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด เวลานี้คนที่พูดเช่นนี้มีค่อนข้างน้อยแล้ว ทุกคนต่างมีสติสัมปชัญญะมากขึ้น และมีสติแจ่มชัดมากขึ้นเมื่อเผชิญกับสิ่งชั่วร้าย รับรู้เข้าใจถึงจุดประสงค์ต่างๆ ของพวกมันสิ่งชั่วร้าย และเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงภาระหน้าที่ของพวกเราผู้ซึ่งเป็นศิษย์ต้าฝ่า

            อันที่จริง เมื่อมองย้อนกลับไป ประวัติศาสตร์ช่วงนี้หลังจากที่พวกเราได้เดินผ่านมา มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษจริงๆ พวกเราได้เดินผ่านสภาพแวดล้อมที่รุนแรงอะไรเช่นนั้น พวกเราได้ผ่านช่วงเวลาที่ชั่วร้ายที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เพราะไม่ใช่มนุษย์เป็นผู้ก่อเท่านั้น แต่เป็นเพราะชีวิตในจักรวาลทั้งหมดมาชุมนุมกันอยู่ตรงนี้ การประทุษร้ายในโลกมนุษย์ครั้งนี้ ปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ของชีวิตทั้งหมด ณ ระดับชั้นต่างๆ ที่อยู่ตรงนี้ และกระทำด้วยพฤติกรรมของมนุษย์ ฉะนั้นสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าแบกรับจึงไม่ใช่เป็นเพียงความเจ็บปวด แรงกดดันซึ่งมนุษย์นำมาสู่พวกเราเท่านั้น แต่จากการร่วมผสมโรงของเทียนถี่(ร่างนภา)ในระดับชั้นที่สูงมาก แม้กระทั่งการร่วมผสมโรงของเทียนถี่ระดับชั้นต่างๆที่สูงขึ้นไปอีก สรรพชีวิตในจักรวาลต่างกำลังเฝ้าดูมนุษย์กันอยู่ สามภพกลายเป็นจุดศูนย์รวมของจักรวาล

            แน่นอน การประทุษร้ายครั้งนี้เป็นสิ่งที่ชีวิตเก่าระดับชั้นสูงได้วางแผนการเอาไว้ในประวัติศาสตร์นานแสนนานมาแล้ว ข้าพเจ้าเคยพูดแล้วว่าสามภพนั้นจัดสร้างขึ้นมาเพื่อการเจิ้งฝ่า ในอดีตในจักรวาลโดยแท้จริงไม่มีทฤษฎีว่าด้วยสามภพ มีผู้ฝึกบางคนเคยถามข้าพเจ้าว่า “อาจารย์ ท้องนภาใหญ่อื่นๆ มีสามภพหรือไม่” ข้าพเจ้าบอกว่าไม่มี เพราะการเจิ้งฝ่าของจักรวาลอยู่ตรงนี้และทำอยู่ตรงนี้ จึงได้สร้างสามภพขึ้นมาที่นี่ ข้างในสามภพนี้ หญ้าทุกเส้น ต้นไม้ทุกต้น ดินทุกกำ หินทุกก้อน ตั้งแต่คนจนถึงสิ่งของ ชีวิตทั้งหมดล้วนแต่มาเพื่อฝ่านี้ ดูจากมุมมองของจักรวาลโดยรวม เวลาที่ผ่านไปไม่นับว่ายาวนานเท่าใด แต่ดูจากมุมมองของสรรพชีวิต ณ ระดับชั้นต่างๆ เวลากลับผ่านไปยาวนานเหลือเกิน ชีวิตมากมายไม่รู้แล้วถึงเหตุผลของการกำเนิดสามภพ พวกเขาลืมไปแล้วว่าจุดประสงค์มูลฐานของการกำเนิดสามภพนั้นคืออะไร ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าก็เคยพูด ข้าพเจ้าพูดว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาเพื่อฝ่านี้ ชีวิตทั้งมวลข้างในสามภพล้วนแต่มาเพื่อฝ่านี้ เกิดขึ้นเพื่อฝ่า จัดสร้างขึ้นเพื่อฝ่า แต่ในการกระทำไม่ใช่ทั้งหมดจะบังเกิดผลในด้านบวก พวกที่ไม่บังเกิดผลในด้านบวกในการกระทำ การเตรียมการในระยะแรกอิทธิพลเก่าเข้าใจว่าพวกมันก็ได้อุทิศเพื่อฝ่านี้ ดังนั้นอิทธิพลเก่าจึงรู้สึกว่าชีวิตเหล่านี้ก็จะต้องหยวนหมั่นด้วย ข้าพเจ้าบอกว่าไม่ได้! การประทุษร้ายครั้งนี้โดยตัวเองไม่ได้รับการยอมรับในระหว่างการเจิ้งฝ่า พวกที่บังเกิดผลทางด้านลบ ล้วนมีส่วนร่วมในการประทุษร้ายของอิทธิพลเก่า ล้วนจะต้องถูกคัดทิ้งไป เป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าอดีตของท่านจะเป็นใคร

            ผู้ฝึกจำนวนมากต่างก็พูดว่า อาจารย์เมตตากรุณาจริงๆ พูดอย่างจริงจัง แท้จริงแล้วข้าพเจ้าไม่อยู่ท่ามกลางความเมตตากรุณา ข้าพเจ้าก็ไม่อยู่ท่ามกลางความชั่วร้าย หากข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางความเมตตากรุณา เช่นนั้นชีวิตในด้านลบก็จะต้องถูกกำจัดทิ้งไปจนหมดสิ้นในจักรวาล จักรวาลก็จะขาดความสมดุล สรรพชีวิตจะมีชีวิตอยู่อย่างไร้ความหมายด้วยประการฉะนี้ ถ้าแม้นข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางความชั่วร้าย เช่นนั้นชีวิตที่ดีจะคงอยู่กันอย่างไร จักรวาลจะกลายเป็นร่างแห่งมาร ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าไม่มีเลย ข้าพเจ้าไม่อยู่ท่ามกลางทั้งหมดนี้ แต่ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้ารู้ ข้าพเจ้าสามารถควบคุมทั้งหมดนี้ และข้าพเจ้ายังกำลังทำให้ทั้งหมดนี้เกิดความสมดุล หลักการของฝ่าแห่งจักรวาลมีความเที่ยงธรรมอย่างแน่นอน ข้าพเจ้ามาพร้อมกับจิตเมตตา ข้าพเจ้ามาพร้อมกับความมุ่งมาดปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิตทั้งมวล (เสียงปรบมือกึกก้อง) สิ่งที่ทำไปเป็นเครื่องยืนยันว่าข้าพเจ้าทำเช่นนี้ เป็นเพราะอิทธิพลเก่าที่ทำการก่อกวนการเจิ้งฝ่าในครั้งนี้

            เวลานี้อิทธิพลเก่าถูกกำจัดจนหมดสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่พวกที่อยู่ในรูปแบบสูงสุดตลอดไปจนถึงพวกที่เรียกกันว่าเทพและชีวิตที่เบี่ยงเบนเหล่านั้น ซึ่งพวกมัน-อิทธิพลเก่าได้จัดเตรียมให้เข้ามายุ่งกับการเจิ้งฝ่า ณ ระดับชั้นต่างๆ และขัดขวางการเจิ้งฝ่า ทั้งหมดถูกกำจัดทิ้งไปจนหมดสิ้นแล้ว ไม่มีเหลือแล้ว มือมืดที่ได้ทำการก่อกวนอยู่เบื้องหลังก็อยู่ในระหว่างถูกกำจัดทิ้งไปจนหมดสิ้น ไม่ใช่พวกเราไม่มีความเมตตากรุณา เนื่องจากการบ่อนทำลายของพวกมัน สรรพชีวิตมหึมาซึ่งมีปริมาณนับไม่ถ้วนต้องถูกทำลายทิ้งไป เพราะถ้าหากสรรพชีวิตเหล่านั้นไม่ถูกทำลายทิ้งไป การเจิ้งฝ่าก็ไม่สามารถจะขับเคลื่อนไปข้างหน้า ก็ไม่สามารถจะตามไปทันกับโอกาสสุดท้าย(ก่อนที่)ร่างนภาทั้งหมดจะแยกสลายไปในที่สุด ฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง

            หันประเด็นกลับมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราประสบในโลกมนุษย์ล้วนไม่ใช่เหตุบังเอิญ และไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะ ณ ที่ของมนุษย์เท่านั้น ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต พวกเราไม่สามารถจะใช้หลักการของฝ่าที่สูงอธิบายให้คนฟัง เพราะคนไม่สามารถจะรับได้และเข้าใจ ฉะนั้นสิ่งนี้จึงทำให้การช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก ชีวิตล้วนมีด้านที่เขาเข้าใจ แต่ชีวิตก็มีด้านเขาไม่เข้าใจ ประจวบพอดีกับที่ชั้นพื้นผิวของคนในโลกมนุษย์ซึ่งอยู่คู่กับศิษย์ต้าฝ่าในภพนี้เป็นส่วนที่ไม่เข้าใจ และส่วนที่ไม่เข้าใจนี้ในสมองเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ไม่ดีหลังกำเนิด จากการต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์ในโลกมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคหลังๆ ศีลธรรมของมนุษย์ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว บวกกับการปรากฏของพรรคมารคอมมิวนิสต์จีนในประเทศจีน ทำให้จิตใจของคนในประเทศจีนเกิดการบิดเบี้ยว เบี่ยงเบน จนกระทั่งไม่สามารถแยกแยะดีหรือเลว ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือสรรพชีวิตอย่างร้ายแรง ฉะนั้นการบำเพ็ญและการช่วยเหลือสรรพชีวิตของศิษย์ต้าฝ่าจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก แต่พูดถึงการเป็นศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านก็ไม่สามารถจะเลิกราเพียงเพราะว่ามันยาก เพราะนั่นเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบซึ่งประวัติศาสตร์มอบหมายให้แก่ท่าน และก็เป็นปณิธานอันยิ่งใหญ่และมากล้นซึ่งท่านได้ปฏิญาณเอาไว้ สิ่งที่ท่านได้รอคอยมาเป็นเวลานานแสนนาน

            ในระหว่างอธิบายความเป็นจริง ผู้ฝึกบางคนมักจะพบกับคนที่ไม่ยอมรับฟัง คนที่ไม่ยอมรับสิ่งต่างๆ แม้กระทั่งคนที่คัดค้าน ท่านต้องไม่ปล่อยให้การคัดค้านของคนๆ หนึ่งมาทำให้จิตใจท่านท้อถอย ทำให้ท่านไม่กล้าที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิต ศิษย์ต้าฝ่า อะไรคือศิษย์ต้าฝ่า คือชีวิตที่จัดสร้างขึ้นโดยฝ่าที่ยิ่งใหญ่สง่างามที่สุด (เสียงปรบมือกึกก้อง) ซึ่งแข็งแกร่งประดุจหินผา จินกัง(ร่างวัชระ)ที่ไม่เสื่อมสลาย คำพูดประโยคหนึ่งของคนเลวในหมู่คนธรรมดาสามัญจะนับเป็นอะไรได้ ต่อให้เจ้าชั่วร้ายมากกว่านี้ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงฉัน ฉันจะปฏิบัติภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ของฉันให้สำเร็จลุล่วง ฉันจะทำสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ เพราะพวกเราต้องแจ่มแจ้ง สังคมมนุษย์และชีวิตในจักรวาลนี้ มีคนที่ไม่สามารถจะได้รับการช่วยเหลือแล้ว แม้กระทั่งมีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถรับฟังความเป็นจริง ในระหว่างอธิบายความเป็นจริงพวกท่านอาจจะพบกับคนเช่นนี้ ท่านต้องเข้าใจให้แจ่มแจ้ง มีสติสัมปชัญญะ พวกเรากำลังช่วยเหลือคนที่สามารถจะได้รับการช่วยเหลือได้ แต่พูดถึงการเป็นศิษย์ต้าฝ่า พวกท่านบำเพ็ญความดี พวกท่านต้องมีความเมตตากรุณา ไม่ว่าเขาจะยอมรับก็ดี ไม่ยอมรับก็ดี พวกท่านต้องปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเมตตากรุณา พวกท่านต้องไม่ประชันขันต่อกับคนธรรมดาสามัญ ดูและปฏิบัติต่อสรรพชีวิตด้วยจิตใจของคนธรรมดาสามัญ ให้ทำในสิ่งที่ท่านต้องทำด้วยความเมตตากรุณา ไม่ว่าเขาจะยอมรับก็ดี ไม่ยอมรับก็ดี ความเมตตากรุณาเป็นสิ่งที่ได้มาด้วยการบำเพ็ญ ไม่ใช่สิ่งที่แสดงออกมา เป็นสิ่งออกมาจากข้างในใจของตัวเอง และไม่ใช่ทำเพื่อให้คนอื่นดู นั่นเป็นสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไปและไม่ใช่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา หรือตามสภาพแวดล้อม

            เมื่อเราเดินผ่านช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้และหันกลับไปดู ถ้าศิษย์ต้าฝ่าทุกคนล้วนสามารถพูดว่าฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันต้องทำ (เสียงปรบมือ) นั่นจึงจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด (เสียงปรบมือยาวนาน) แต่ก็มีผู้ฝึกจำนวนไม่น้อยที่ทำผิดต่อตัวเอง ไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเขาต้องการจะทำ สิ่งที่ประวัติศาสตร์ได้มอบหมายให้แก่เขา ยังดีที่การประทุษร้ายครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังคงมีโอกาส สำหรับเรื่องที่จะชดเชยอย่างไร จะทำอย่างไรนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง เริ่มตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่า ข้าพเจ้าบอกแล้วว่าข้าพเจ้าไม่ทำให้คนผิดหวัง ไม่ทำให้สังคมผิดหวัง ข้าพเจ้าก็ไม่ทำให้สรรพชีวิตทั้งมวลผิดหวัง (เสียงปรบมือกึกก้อง) สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดทั้งหมดจะปรากฏเป็นจริงในประวัติศาสตร์ ปณิธานที่ข้าพเจ้าได้ปฏิญาณไว้ก็จะปรากฏเป็นจริงในประวัติศาสตร์ของอนาคต (เสียงปรบมือ)

            ในขั้นตอนของการคงอยู่บนโลกนับพันนับหมื่นปี ไม่ว่ามนุษยชาติจะได้ผ่านขั้นตอนของประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเพียงใด ในสายตาของเทพล้วนเป็นขั้นตอนที่เร็วมาก เป็นเพราะเวลา ณ ที่ตรงนี้ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำของเวลาแบบหนึ่งให้กับสรรพชีวิต การเป็นชีวิตที่มาอยู่ในสามภพ พูดถึงการเป็นศิษย์ต้าฝ่าในสามภพ พวกท่านต่างก็รู้    ในประวัติศาสตร์ของจักรวาลก่อนนี้ไม่มีสามภพ ข้าพเจ้าได้กล่าวในการบรรยายฝ่าหลายครั้งว่าจุดประสงค์ของการจัดสร้างมัน(สามภพ)เพื่อใช้สำหรับการเจิ้งฝ่า ณ ที่ตรงนี้ ในช่วงขั้นตอนสุดท้ายของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอย ดับสูญในจักรวาล ถ้าหากไม่สามารถทำให้มันมีบทบาทในการเจิ้งฝ่าอย่างแท้จริงในระหว่างการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ หมายความว่าถ้าหากการเจิ้งฝ่าครั้งนี้ไม่เป็นผลสำเร็จ หรือในระหว่างการเจิ้งฝ่า มนุษยชาติตรงนี้ มนุษย์ไม่แสดงทัศนคติในด้านบวกต่อต้าฝ่า และศิษย์ต้าฝ่ากระทำได้ไม่ดี หากด้านไหนไม่ไหวแล้ว สามภพจะไม่คงอยู่อีกต่อไปในจักรวาลแห่งอนาคต พูดอีกนัยหนึ่ง อีกไม่นานในอนาคตที่ตรงนี้ก็จะสูญสลายไป แต่ศิษย์ต้าฝ่าทำได้ดีมาก ได้ทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ มนุษย์ก็ได้แสดงด้านที่ถูกต้องออกมา ข้าพเจ้าก็ได้หยวนหยง(ประสานให้กลมกลืน)ในสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการให้มีตรงนี้ (เสียงปรบมือ)

            ถึงแม้ชีวิตบางส่วนจะเข้ามาร่วมทำการประทุษร้าย และมีชีวิตมากมายที่ไม่สนใจ และมีชีวิตอีกมากมาย แม้ว่าจะมีกำลังความสามารถแต่กลับไม่ให้การสนับสนุน แต่ประชาชนส่วนใหญ่ สรรพชีวิตส่วนใหญ่ให้ความเห็นใจ ให้การสนับสนุน จึงพูดว่าพวกเขาได้แสดงด้านที่ถูกต้อง พวกท่านสามารถบำเพ็ญอยู่ตรงนี้ พวกท่านสามารถยืนยันความถูกต้องของฝ่าอยู่ตรงนี้ อาจารย์ก็สามารถทำในสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการทำให้สำเร็จลุล่วงอยู่ตรงนี้ สรรพชีวิตตรงนี้ก็ได้สร้างโอกาสให้กับอนาคตของพวกเขา ฉะนั้นสามภพจะคงอยู่ตลอดไปในอนาคต

            ในระยะหลังนี้พวกเราได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นรูปธรรม ทุกท่านก็ได้เห็นแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ ฝ่าฮุ่ยครั้งที่แล้วข้าพเจ้าบอกว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีเหตุการณ์คึกคัก เริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา อันที่จริงก็มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมาย พูดถึงกลุ่มการเมืองอันธพาลในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ข้าราชการระดับสูงหลายๆคนที่ประทุษร้ายต้าฝ่าถูกศาลในสหรัฐอเมริกาตัดสินว่ามีความผิด หัวหน้าอันธพาลถูกฟ้องร้องต่อศาล โรคระบาดซาร์สที่ทุกท่านรู้ว่าเป็นสัญญาณเตือนมนุษย์ กฎหมายมาตรา 23 ของฮ่องกงซึ่งทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน อุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโปงการประทุษร้ายทางสถานีโทรทัศน์ซึ่งแพร่ภาพไปทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งชั่วร้ายอย่างมาก พวกมันเข้าใจว่าทั้งหมดนี้เป็นภัยพิบัติ รวมทั้งสถานการณ์ของต้าฝ่าในเวลานี้ ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นปรากฏการณ์ที่เป็นธรรมชาติมาก ถ้าหากชีวิตของสิ่งชั่วร้ายไม่ถูกกำจัดทิ้งไป หลายสิ่งหลายอย่างก็ไม่สามารถจะทำสำเร็จ เพราะข้างหลังของมนุษย์ล้วนมีเหตุปัจจัยของพวกมัน พวกมันกำลังจะเข้าแทนที่มนุษย์ ไม่เพียงแต่กำลังควบคุมคน กำลังจะเข้าแทนที่คน เวลาท่านอธิบายความเป็นจริงมันก็ควบคุมไม่ให้คนฟัง โดยมูลฐานคือมารกำลังควบคุม

มาถึงวันนี้ พูดได้ว่าอิทธิพลชั่วร้าย อิทธิพลเก่า คนชั่วในโลก องค์ประกอบทั้งหมดที่ประทุษร้ายฝ่า อานุภาพได้หมดไปแล้ว มองไปข้างหน้า จะมีสถานการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ฉะนั้นจึงหมายความว่าประวัติศาสตร์ช่วงนี้จะผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก และจะเข้าสู่สิ่งต่างๆ ในขั้นตอนต่อไปอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ ศิษย์ต้าฝ่าบางคนจะถามอยู่ตลอด “ระหว่างการหงฝ่าในช่วงนี้ เหตุใดจึงมีผู้ฝึกใหม่ไม่มาก” แน่นอนมีเหตุปัจจัยของการควบคุมจากสิ่งชั่วร้าย มีเหตุปัจจัยของอุปสรรคจากอิทธิพลเก่า การที่ข้าพเจ้าไม่กำจัดมันทิ้งไปโดยตรงเพราะกลุ่มคนต่อไปจัดเป็นเรื่องราวในคราวต่อไป ช่วงเวลานี้จัดไว้สำหรับให้ศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญให้สุกงอม ช่วยเหลือสรรพชีวิต และยืนยันความถูกต้องของฝ่า ฉะนั้นดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน กระแสใหญ่ล้นของการเจิ้งฝ่าจะไหลทะลักมาถึงในไม่ช้า เช่นนั้นสิ่งต่างๆ กำลังค่อยๆ ถูกทะลวง และกำลังค่อยๆ สัมผัสถึงมิติชั้นพื้นผิวที่สุด ดังนั้น ในบางพื้นที่ก็มีผู้ฝึกใหม่เริ่มทยอยเข้ามาบ้างแล้ว หากเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

            สิ่งต่างๆ ที่พูดไปเมื่อครู่ ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราได้เดินผ่านประวัติศาสตร์ช่วงนี้มา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิเศษเฉพาะสำหรับพวกเราก็ดี หรือเป็นสิ่งที่อิทธิพลเก่ายัดเยียดให้แก่พวกเราก็ดี ในระหว่างการประทุษร้ายครั้งนี้ ศิษย์ต้าฝ่าได้ทำในสิ่งที่พวกเราศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ พูดอีกนัยหนึ่งคือ ท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ พวกท่านได้ก่อตั้งเวยเต๋อ(อานุภาพแห่งคุณธรรม)ซึ่งศิษย์ต้าฝ่าควรมี พวกท่านไม่ได้ทำให้สรรพชีวิตผิดหวัง พวกท่านไม่ได้ทำให้ตัวเองผิดหวัง และพวกท่านคู่ควรแก่การเป็นผู้สำเร็จธรรมซึ่งพวกท่านกำลังจะเป็น (เสียงปรบมือกึกก้อง)

            ในส่วนของรายละเอียด ข้าพเจ้าไม่อยากจะพูด เนื่องจากในระยะหลังมีการจัดประชุมฝ่าฮุ่ยค่อนข้างบ่อย และสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดไปค่อนข้างจะมาก ทุกท่านอยู่ในระหว่างทำความเข้าใจกับหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะสิ่งต่างๆที่ข้าพเจ้าพูดไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งผิวเผิน และทุกท่านยังกำลังอ่านกันอยู่ ดังนั้น ครั้งนี้เป็นเพราะการประชุมฝ่าฮุ่ยครั้งนี้ของเราใหญ่มาก จึงอยากจะมาพบหน้าผู้ฝึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้ฝึกจำนวนมากจากพื้นที่ห่างไกล ไม่ได้พบกับข้าพเจ้าเป็นเวลานานแล้ว ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงถือโอกาสนี้มาพบหน้ากับผู้ฝึก มาดูพวกท่าน ก็เพียงเท่านี้ (เสียงปรบมือกึกก้องยาวนาน)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บรรยายฝ่า ณ ฝ่าฮุ่ยนครแอตแลนต้า ปี ค.ศ. 2003

หลี่ หง จื้อ

29 พฤศจิกายน 2003

 

            สวัสดีทุกท่าน ! (ผู้ฝึก :  สวัสดีท่านอาจารย์) การประชุมฝ่าบางแห่งข้าพเจ้าสามารถไปร่วมได้  บางแห่งไม่แน่ว่าจะสามารถไปร่วมได้      ท่านทั้งหลายล้วนทราบดี  เดี๋ยวนี้ ศิษย์ต้าฝ่ายิ่งมีสภาวะธรรมสุกงอมยิ่งขึ้น ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า บนเส้นทางแห่งเทพนี้   ท่านทั้งหลายต่างทราบดีว่า ควรทำอย่างไร  ในช่วงระยะนี้ข้าพเจ้ายิ่งพูดน้อย  ก็ยิ่งจะเป็นผลดีต่อท่านทั้งหลาย  เหตุใดจึงพูดเช่นนี้ ?  ช่วงเวลานี้คือ การให้โอกาสท่านทั้งหลายฝึกฝนตนเอง   ให้โอกาสท่านทั้งหลายสถาปนาธรรมานุภาพของพวกท่าน    ดังนั้นข้าพเจ้าไม่อาจให้พวกท่าน  พอมีเรื่องอะไรก็ไม่ได้ผ่านการพิจารณาใคร่ครวญของตนเอง เดินออกมาบนทางของตนเอง  โดยไม่อยู่ในท่ามกลางการยืนยัน(พิสูจน์)มรรคผลของท่าน   ให้อาจารย์คอยนำทางอยู่เรื่อยไป   เรื่องที่เป็นรูปธรรมของการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ก็ให้ข้าพเจ้าคอยบอกว่าควรทำอย่างไร   ให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้           การหยวนหมั่น มรรคผล ระดับชั้นของศิษย์ต้าฝ่า ล้วนแต่ไม่ใช่ระดับต่ำ    และ ความรับผิดชอบต่อสรรพชีวิตในอนาคตก็ใหญ่หลวงมาก ฉะนั้นหากพวกท่านไม่มีธรรมานุภาพเช่นนั้น   ไม่เดินออกมาบนเส้นทางของตนเอง  ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเมื่อต้องทำตามลำพังด้วยตนเอง     ให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้    ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ข้าพเจ้าจึงตั้งใจให้โอกาสเช่นนี้กับท่านทั้งหลาย   ให้ท่านฝึกฝนตนเองให้สุกงอม

            แท้จริงแล้วข้าพเจ้า กำลังเฝ้าตรวจสอบดู อยู่อย่างเงียบๆ   เพราะท่านทั้งหลายกำลังบำเพ็ญอยู่มิใช่หรือ  จึงย่อมจะมีจิตของคนธรรมดาสามัญอยู่    มีจิตของคนธรรมดาสามัญอยู่จึงสามารถบำเพ็ญได้ มีจิตของคนธรรมดาสามัญอยู่ มันจึงแสดงออกมา   ฉะนั้นเมื่อท่านกำลังทำเรื่อง ยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ทั้งที่ทำร่วมกัน และทำตามลำพัง    พวกท่านล้วนสามารถใคร่ครวญด้วยตัวเอง  คิดแก้ปัญหายากๆเอง ในการพิจารณาใคร่ครวญ จะใช้ทัศนคติของคนธรรมดาสามัญ  หรือจะใช้ความคิดถูกต้องของผู้บำเพ็ญ  เรื่องที่ทำออกมาย่อมให้ผลลัพธ์ต่างกัน    พวกท่านร่วมมือกันทำก็เป็นอย่างนี้ เมื่อท่านร่วมปรึกษาซึ่งกันและกัน ก็จะแสดง(จิตของคนธรรมดาสามัญ) ออกมาเช่นกัน  กระทั่งเกิดการโต้เถียงกันในบางปัญหา   แน่นอนว่านี่ย่อมเกิดจากการมีจิตของคนธรรมดาสามัญอยู่    แต่ว่าก็มีด้านที่ดีอยู่ในนี้ด้วย คือในการโต้เถียงกัน จะทำให้มองเห็นจิตยึดติด   มองเห็นข้อบกพร่อง   หากยึดถือฝ่าเป็นอันดับหนึ่ง  ปล่อยวางตนเอง  ก็จะสามารถใช้ ความคิดถูกต้องแก้ไขปัญหาได้  ก็จะตัดสิน สรุปได้เร็ว    ในการ ยืนยันความถูกต้องของฝ่า ก็จะทำได้ดี    ที่จริงเวลานี้ เมื่อเปรียบกับเมื่อหลายปีก่อน ก็ดีกว่ามากแล้ว  ท่านทั้งหลายได้บรรลุวุฒิภาวะแล้ว  วันนี้ข้าพเจ้าไม่อยากพูดมาก    ที่สำคัญคือ จะพูดเรื่องการ อธิบายความจริง สักหน่อย

            พูดถึงปัญหาการอธิบายความจริง  ผู้ฝึกจำนวนมากกำลังคิดว่า  จุดประสงค์ของการ อธิบายความจริง ของพวกเราก็คือการเปิดโปงสิ่งชั่วร้าย ควบคุมมันไว้  นำมันออกมาอยู่ในที่แจ้ง   สามารถทำให้คนทั่วโลกมองเห็นมันอย่างแจ่มชัด   ทำให้ สิ่งชั่วร้าย เหล่านี้ไร้ที่หลบซ่อน    นี่เป็นสิ่งที่พวกท่านต้องทำ   แต่ว่า  นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด   จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของการ อธิบายความจริง คือ การช่วยเหลือสรรพชีวิต

            ภาระรับผิดชอบที่ ศิษย์ต้าฝ่า คนหนึ่งๆ  ต้องแบกรับในอนาคตนั้นใหญ่หลวงมาก   มีสรรพชีวิตมากเพียงไรที่ต้องการให้ท่านไปช่วยเหลือ  มีชีวิตมากเพียงไรต้องการให้ท่านไปกอบกู้   ในระหว่างนี้ตัวพวกท่านเอง ยังต้องหล่อหลอม  และทำให้มรรคผลของพวกท่านสมบูรณ์ และในนั้นรวมถึงสิ่งที่จำเป็นทั้งหลาย สรรพชีวิตนับไม่ถ้วน ธรรมานุภาพของพวกท่าน  และสิ่งที่เป็นของเทพล้วนแต่อยู่ในนั้น  ดังนั้นข้าพเจ้ามักพูดเสมอว่า  ในท่ามกลางการยืนยันความถูกต้องของฝ่า  จงทำเรื่องทั้งสามของ ศิษย์ต้าฝ่าให้ดี  ทุกสิ่งล้วนอยู่ในนั้น   ดังนั้นจุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดของการอธิบายความจริงของพวกท่านคือ การสามารถช่วยเหลือสรรพชีวิตได้มากยิ่งๆขึ้นในขณะที่กำลังอธิบายความจริงอยู่  นี่คือเรื่องอันดับหนึ่ง  นี่คือจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการอธิบายความจริงของพวกท่าน

            การประทุษร้ายครั้งนี้ ไม่ว่า กลุ่มอิทธิพลเก่า จะจัดวางไว้อย่างไร   คนชั่วบนโลกจะทำเรื่องชั่วร้ายอย่างไร   สิ่งชั่วร้าย ในแต่ละมิติจะกำเริบเสิบสานในการทำร้าย ศิษย์ต้าฝ่า มากเพียงไร  แพร่(ข้อมูล)พิษใส่ชาวโลกไปมากเท่าไร   ท่านทั้งหลายเคยคิดไหมว่า   พวกมันสามารถทำลาย ต้าฝ่าได้ไหม   ทำไม่ได้แน่นอน   พวกท่านก็ได้มองเห็นแล้วว่า   ผ่านช่วงประวัติศาสตร์  4  ปีที่ชั่วร้ายที่สุดของการประทุษร้าย   นอกเหนือไปจากที่เหล่าศิษย์ต้าฝ่าฝึกฝนตนท่ามกลางการประทุษร้ายนี้จนสุกงอมแล้ว แจ่มชัดแล้ว สุขุมเยือกเย็นแล้ว ท่านทั้งหลายยิ่งเปี่ยมด้วยสติปัญญา มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ความคิดถูกต้องยิ่งเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆแล้ว วันเวลาที่จะคืนกลับสู่ตำแหน่งเดิมยิ่งใกล้เข้ามาแล้ว    นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ยังมีอะไรอีกเล่า ? ไม่ใช่เช่นนี้หรอกหรือ ?  ศิษย์ต้าฝ่าเหล่านั้น ที่ถูก ประทุษร้าย จนเสียชีวิต ไม่ใช่ หยวนหมั่น กันแล้วหรือ ?    ท่ามกลางการ ประทุษร้าย นี้มีคนส่วนหนึ่งไม่บำเพ็ญอีกแล้ว   พวกที่ไปไม่ไหวแล้ว ก็ร่อนออกไป ที่เหลืออยู่ก็คือทอง

            แน่นอนละ ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่ง  เมื่อได้ศึกษา ฝ่า ของข้าพเจ้าแล้ว   ข้าพเจ้าก็จะดูแลเขา  ก็จะถือว่าเขาเป็น ศิษย์ต้าฝ่า  เป็นผู้ฝึก  และปฏิบัติต่อเขาในฐานะนี้   ตัวเขาเองไม่ก้าวเข้ามาอย่างแท้จริง  นั่นก็เป็นเรื่องของตัวเขาเอง   ดังนั้นท่านทั้งหลายต้องเข้าใจประเด็นนี้อย่างแจ่มชัด   การประทุษร้าย ทั้งปวงในครั้งนี้ก็ดี  สิ่งที่กลุ่มอิทธิพลเก่า จัดวางไว้ทั้งหมดก็ดี   ที่แท้แล้วก็อยู่ในการคาดการณ์เรื่อง การ เจิ้งฝ่านี้ของข้าพเจ้าตั้งนานแล้ว พวกมันทำร้ายฝ่าไม่ได้ การประทุษร้ายครั้งนี้ข้าพเจ้าก็ไม่ยอมรับ นี่เป็นเรื่องแน่ชัด  ชีวิตหนึ่งที่ได้ฟังฝ่าของข้าพเจ้าแล้ว   ผู้ที่บำเพ็ญอยู่ในต้าฝ่าของข้าพเจ้า   จะถูกพวกมันควบคุมตามอำเภอใจ กระทั่งถูกทำร้ายจนตายได้หรือ ?  นี่เป็นสิ่งที่พวกมันต้องชดใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน  แน่นอนยังคงมีปัจจัยอื่นอยู่ในนั้น    ผู้ที่ทำได้ดีจริงๆพวกมันก็ไม่กล้าแตะต้องแน่    ปฏิเสธสิ่งที่ กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางไว้  มีความคิดถูกต้องเพียงพอ  พวกมันย่อมทำอะไรไม่ได้   หรือพูดได้ว่าในช่วงเวลานี้  ไม่ว่าจะมีการประทุษร้ายอย่างไร   ถ้า ศิษย์ต้าฝ่า ใจเที่ยงตรงมาก  มีความคิดถูกต้องเพียงพอ  สามารถเข้าใจแจ่มชัด  รับรู้เรื่องทั้งปวงด้วยใจสงบ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียได้มาก

            พวกท่านต้องเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่า  การบำเพ็ญของ ศิษย์ต้าฝ่า เริ่มต้นก้าวออกมาจากความเป็นคน   ก้าวออกมาจาก ท่ามกลางร่างนภา(โฉวงถี่)เก่า ซึ่งถูกควบคุมโดยองค์ประกอบนานาชนิด  ที่ประกอบขึ้นเป็นจักรวาลเก่าอันไร้ขอบเขต    สรรพชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน พัฒนาออกมาจากสภาพแวดล้อม สุดท้ายของร่างนภา(โฉวงถี่)แห่ง ช่วงสุดท้ายของ (วัฏฏะ ) “เกิดขึ้น   ตั้งอยู่  เสื่อมลง  ดับสูญ”      ใครจะสามารถก้าวออกมาได้?   หลุดพ้นจากทั้งหมดนั้น   สามารถก้าวสู่อนาคตได้อย่างแท้จริง   นั้นยากจริงๆ   อันที่จริงความยุ่งยากที่พวกท่านประสบ  ในการบำเพ็ญท่ามกลาง การ ประทุษร้าย ครั้งนี้   นี่เป็นปรากฏการณ์ในหมู่มนุษย์     แท้จริงแล้ว  สิ่งที่อยู่นอกสภาพแวดล้อม ของ คนธรรมดาสามัญนั้น  คนในโลกจะมองไม่เห็น   ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็น เรื่องที่รุนแรงยิ่งกว่า     เป็นขั้นตอน ของการดับสลาย แล้วสร้างใหม่ที่ มโหฬาร  น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง    สรรพชีวิต  ทั่วทั้งจักรวาล ล้วนกำลังจ้องมองเรื่องนี้กันอยู่   เทพนับไม่ถ้วนล้วนกำลังเฝ้าดูอยู่   ในการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารทั้งปวงนี้ ก็รวมถึง องค์ประกอบที่ศิษย์ต้าฝ่ายืนยันความถูกต้องของฝ่า ที่ปรากฏออกมาในหมู่ชาวโลก ในปัจจุบัน  คือ เรื่องทั้งสาม ที่พวกท่านทำกันอยู่    พูดถึงปรากฏการณ์ของ สิ่งชั่วร้าย นั่นคือ ความบ้าคลั่งอย่างไร้สติ ก่อนการดับสลาย   เพื่อสร้างเงื่อนไขของการ หยวนหมั่นของศิษย์ต้าฝ่า

            ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารนี้ การ อธิบายความจริง ได้กลายเป็นวิธีการสำคัญของการช่วยเหลือ สรรพชีวิต และชาวโลกไปแล้ว  ฉะนั้น ต้าฝ่ามอบสติปัญญาให้พวกท่าน  มอบความสามารถมากมายให้พวกท่าน  ก็ล้วนปรากฏอยู่ในช่วงนี้แล้ว   ผลการอธิบายความจริงของพวกท่าน  ย่อมก่อให้เกิดผลสะท้อนแบบห่วงโซ่ชนิดหนึ่ง แน่นอน    หลังจากคนๆหนึ่งเข้าใจ ความจริงแล้ว   เขารู้แล้วว่า “ อ้อ ! ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ที่แท้ต้าฝ่าดีอย่างนี้เอง ”    คนที่เข้าใจความจริงอาจจะเกิดความคิดที่จะบำเพ็ญ บางคนอาจเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ อย่างมาก   บางคนอาจจะสนับสนุนด้วยพฤติกรรม บรรดาผลสะท้อนที่เกิดจากกการ อธิบายความจริง ก็คือการที่ความจริง ขยายกว้างออกไปจากคน สู่ คน  จากใจ สู่ ใจ    องค์ประกอบ ของ สิ่งชั่วร้าย กำลังสูญเสียสภาพแวดล้อม   ต้าฝ่า กับ องค์ประกอบที่เที่ยงตรงก็กำลังครอบคลุมและเสริมทุกสิ่งให้แข็งแกร่ง   ในขณะเดียวกันก็พุ่งเป้าไปที่การ ประทุษร้าย ครั้งนี้ มันทำให้สังคม และส่วนต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลง  ทำให้คนชั่วไม่มีใครฟังมัน  ทำให้ชีวิตชั่วร้ายไม่มีโอกาสเหลือ     ย่อมเป็นผลเช่นนี้แน่นอน   ท่านทั้งหลายรู้สึกเหมือนปกติในขณะ อธิบายความจริง  แต่ผลที่เกิดขึ้นโอฬารมาก

            ที่จริงท่านทั้งหลายก็มองเห็นกันหมดแล้ว   ในขั้นตอนการ อธิบายความจริง ของ ศิษย์ต้าฝ่า  คนในโลกกำลังเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อ วันที่ 20  กรกฎาคม 1999 ที่การปราบปรามเริ่มต้นขึ้น   ไม่เพียงแต่ชาวโลกกำลังตื่นขึ้น   องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต และสสารอื่นๆ ก็ล้วนกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ หรือพูดได้ว่า สภาพการณ์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแล้ว    แน่นอนมิใช่ว่า  พวกชั่วร้าย หยุดการ ประทุษร้ายแล้ว แต่คือ  องค์ประกอบเหล่านั้นที่ กลุ่มอิทธิพลเก่า จัดวางไว้ถูกทำลายจนเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆแล้ว สิ่งชั่วร้ายไม่มีกำลังมากมายอย่างนั้นแล้ว    แต่แม้มันไม่มีกำลังมากมายอย่างนั้น   เพียงพวกมันยังคงมีอยู่   มันก็ยังชั่วร้ายมากๆ  เลวทรามมากๆ   ทว่ามันไม่มีกำลังมากอย่างนั้น    ไม่มีองค์ประกอบของสภาพแวดล้อมอันจำเป็นสำหรับพวกมันอีกแล้ว   พวกมันจึงควบคุมชาวโลกกับ สรรพชีวิตมากมายเช่นนั้นไม่ได้แล้ว    ฉะนั้นชาวโลกกับ บรรดาชีวิตอื่นๆ ที่อยู่ในสภาพที่ไม่ถูก สิ่งชั่วร้ายควบคุมเอาไว้ ดังนั้นท่านทั้งหลายก็ อธิบายความจริงได้ง่ายมากแล้ว  มันก็กำเริบเสิบสานอีกไม่ได้จริงๆ   ผู้คนล้วนจะต่อต้านมัน  โดดเดี่ยวมัน   พวกชั่วร้ายคิดจะทำอะไร ก็ทำไม่ได้แล้ว  ไม่มีคนฟัง  แนวโน้มในขณะนี้ก็เป็นเช่นนี้   นี่คือ บรรดาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในท่ามกลางการ ช่วยเหลือ สรรพชีวิต

            จริงๆแล้วที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดกับพวกท่านมาตลอดว่า  ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญ  หากอยู่ในยุคอดีตกาล ก็จะไม่สนใจว่า คนอื่นจะพูดว่าอย่างไร   ท่านว่าเขาดี  ว่าเขาไม่ดี   นั่นคือสิ่งที่คนพูด ไม่ใช่เทพพูด   ที่จริงใน ประวัติศาสตร์ มีคนมากมายถูกชาวโลกด่าว่าเสียหายอย่างมาก  กระทั่งเขียนลงไปในหนังสือเรียน ในบันทึกประวัติศาสตร์   เขาอาจเป็นเทพไปแล้ว   แต่มีบางคนได้รับการยกย่องจากชาวโลกว่า เป็นบุคคลหัวก้าวหน้า  แต่พอตายแล้วกลับลง นรกไป เนื่องจากสิ่งที่คนพูดว่าดี กับ ไม่ดี นั้น   ล้วนแต่มองจากมุมมองด้านผลประโยชน์ของคนทั้งสิ้น  หลักการของคนนั้นกลับตาลปัตร   ที่คนเข้าใจว่า ดี  ก็ไม่แน่ว่าจะดี  ที่คนเข้าใจว่าไม่ดี ไม่แน่ว่า จะไม่ดี   หรืออาจพูดได้ว่า   ผู้บำเพ็ญนั้นไม่ใส่ใจต่อคำพูดของคน  แต่การเจิ้งฝ่าในวันนี้ แตกต่างกัน   การพูดว่า ต้าฝ่า กับ ศิษย์ต้าฝ่า  ดีหรือไม่ดี   เป็นการกำหนดอนาคตของคนๆนั้น  ในช่วงก่อนการ ประทุษร้าย   โดยเฉพาะการมุ่งร้ายต่อ ศิษย์ต้าฝ่า การลงมือปราบปรามของพวกชั่วร้าย   ถือเป็นสิ่งรบกวนต่อการเจิ้งฝ่า ของข้าพเจ้า และตัวข้าพเจ้า  ดังนั้นเรื่องนี้กับ การบำเพ็ญในอดีตย่อมแตกต่างกัน   การ ประทุษร้าย ศิษย์ต้าฝ่านั้นเป็นบาปอย่างแน่นอน   ใครเกี่ยวข้องด้วย ก็ล้วนต้องชดใช้    บรรดาชีวิตที่เข้าร่วมในเรื่องนี้ ไม่มีเลยที่จะหนีพ้นไปได้

            จักรวาลกำลังอยู่ในระหว่างการเจิ้งฝ่า  ท่านทั้งหลายลองคิดดู ทั่วทั้งจักรวาลกำลังอยู่ในการ เจิ้งฝ่า    จากจุลภาคจนถึงผิวนอก   ทะลุทะลวงอย่างต่อเนื่อง   เทียนถี่อันมหึมา ไม่ว่าจะใหญ่โตเพียงไร   ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่ในนั้นมากมายเพียงไร   ไม่ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต หรือ ไม่    ไม่ว่ามันมีความนึกคิดหรือไม่   ไม่ว่ามันดำรงอยู่หรือไม่   ล้วนหนีไม่พ้น     เพราะอนาคตทั้งหมด   ล้วนแต่จะปรับเปลี่ยนใหม่หมด    โดยเฉพาะมนุษย์บนโลก กับ บรรดาชีวิตที่ชั้นผิว   ย่อมไม่สามารถหลบไปพ้นอย่างแน่นอน     การเจิ้งฝ่าครอบคลุมไปถึงชีวิตชั้นสูง   ขณะนี้บรรดาเทพทั้งปวงไม่กล้าพูดว่า  การเจิ้งฝ่า นี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนอีกต่อไป   แน่นอนขณะนี้ไม่มีใครกล้าพูดแล้ว  ใครก็หนีไม่พ้น    ฉะนั้นในการเจิ้งฝ่า ชีวิตไหนทำอะไรไว้อย่างไร นั่นก็ย่อมจะมีบทสรุปที่แน่นอนอย่างหนึ่ง          ไม่ใช่ว่าชีวิตใดทำเรื่องที่ไม่ดีไว้ พอดับสลายแล้ว ก็ แล้วกันไป      ย่อมไม่ใช่เช่นนั้น   ในท่ามกลางการดับสลายจะต้องชดใช้ เรื่องเลวร้ายที่ได้ทำไว้ทั้งหมด   ข้าพเจ้าปฏิบัติต่อ สรรพชีวิตทั้งปวงด้วยความเมตตา   ชีวิตทั้งปวงไม่ว่าจะก่อบาปกรรมไว้มากเพียงไรใน ประวัติศาสตร์    ทำความผิดใหญ่หลวงเพียงไร  ข้าพเจ้าสามารถไม่ถือสาอดีตของพวกเขา    ไม่ถือสาต่อบาปของพวกเขา   ข้าพเจ้าก็สามารถสลายบาปของพวกเขาได้ แน่นอนที่กล่าวไปแล้วนั้นคือ อย่าได้รบกวนต่อการเจิ้งฝ่า    ไหนเลยจะกลัวว่า  อะไรท่านก็ไม่ได้ทำ  ข้าพเจ้าก็จะช่วยท่านทั้งหมด    แต่วันใดที่รบกวนการเจิ้งฝ่าแล้ว  เช่นนั้นสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าก็คือ การกำจัดทิ้ง  คนที่บาปหนักและชั่วร้ายมาก  ก็ยังต้องชดใช้ทั้งหมดที่เคยทำไว้ ในระหว่างขั้นตอนของการกำจัดทิ้ง   ทำไว้มากเท่าไรชดใช้มากเท่านั้น  ทำไว้ใหญ่โตแค่ไหน ก็ชดใช้ตามนั้น   ฉะนั้นครั้งนี้กล่าวสำหรับ สิ่งชั่วร้ายที่รบกวนการเจิ้งฝ่า   ไม่ว่าพวกมันจะชั่วร้ายเพียงไร  สิ่งที่ต้องเผชิญคือ เรื่องที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง    ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในจักรวาลเลยทีเดียว    รวมทั้ง กลุ่มอิทธิพลเก่าเองด้วย  ถึงแม้ว่าพวกมันจะ รู้สึกว่าได้ทุ่มเทให้ต้าฝ่า  เพราะที่จริงนั้นคือ พวกมันมองโดยใช้ทัศนคติของพวกมันเอง   แต่ไหนแต่ไรมาพวกมันไม่เคยใช้การเจิ้งฝ่ามาประเมินตัวเองเลย สักครั้ง    เพราะว่าอนาคต ก็คือ ฝ่านี้  สรรพชีวิตในอนาคต คือสิ่งที่ฝ่านี้สร้างขึ้นมา  ไม่ใช้ฝ่านี้มาประเมินแล้วจะใช้อะไรมาประเมินล่ะ

            สำหรับปัญหาการ อธิบายความจริงนั้น  ในเมื่อเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างนี้   ท่านก็ต้องปฏิบัติด้วยความสุขุมเยือกเย็นยิ่งขึ้น ยิ่งต้องแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นต่อโอกาส ต่างๆ ที่ประสบในท่ามกลางรูปธรรมของการ อธิบายความจริง  ท่านต้องระมัดระวังในเรื่องรูปแบบวิธีการ  ท่านทั้งหลายทราบดีว่า เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่า ข้าพเจ้าไม่มองว่า  เป็นใครจากกลุ่มใดในสังคม ไม่มองเรื่องชนชั้นในสังคม  ไม่แยกรวยจน ไม่แยกอาชีพ  ไม่มองเรื่องตำแหน่งหน้าที่สูงหรือต่ำ  อะไรข้าพเจ้าก็ไม่สนใจ  มองแต่เพียงใจของคน  ท่านทั้งหลายก็ควรทำเช่นนี้ในเวลา อธิบายความจริง   พวกท่านอย่าได้รู้สึกว่าเขาเป็นใครในระดับสูง  จนเกิดอุปสรรคมากในความคิด   คล้ายกับท่านมาขอความช่วยเหลือจากเขา    สภาพที่เป็นจริงคือ ท่านกำลังช่วยเหลือเขา  ให้โอกาสเขาเลือกอนาคตของตนเอง   ควรต้องเป็นเช่นนี้     ดังนั้นท่านต้องถือว่า  การ อธิบายความจริงเพื่อช่วยเหลือชาวโลกเป็นสิ่งสำคัญ

            บรรดาสิ่งที่ ศิษย์ต้าฝ่าทำในวันนี้ และสิ่งที่ท่านสัมผัสอยู่ในสังคม  ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลาย   ท่านทั้งหลายกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ไม่ว่าท่านได้พบคนชนิดไหน อยู่ในชนชั้นใด มีตำแหน่งหน้าที่อะไร อย่าเข้าใจแต่เพียงว่า เพราะพวกชั่วร้าย ประทุษร้ายต่อ ศิษย์ต้าฝ่า  ฉันจึงมาหาคุณเพื่อ อธิบายความจริง  ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายการช่วยเหลือ สรรพชีวิตต้องเป็นเรื่องอันดับหนึ่ง การ อธิบายความจริงคือการช่วยเหลือคน เมื่อคนเข้าใจความจริงแล้ว  รู้แล้วว่าการ ประทุษร้ายครั้งนี้ ชั่วร้ายอย่างนี้   แน่นอนคนย่อมรู้ว่าจะทำอย่างไร  จากนี้ ท่านขอให้เขาสนับสนุน ปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างไร  ก็ เป็นการเลือกอนาคตของเขา   โดยเฉพาะคนที่ถูกปิดหูปิดตา จากการ ประทุษร้ายครั้งนี้  ท่านไม่ให้โอกาสเขา จะได้หรือ?  ท่านไม่บอกความจริงให้เขา  พวกเขาก็จะสูญเสียอนาคตไปตลอดกาล

            นอกจากนี้ คนที่ท่านทั้งหลายได้พบโดยบังเอิญ  คนที่ท่านได้พบในการดำรงชีพ ในการทำงาน ท่านทั้งหลายก็ต้องไป อธิบายความจริงให้เขาฟัง   แม้แต่กับคนที่เดินผ่านท่านไปมาอย่างรีบเร่ง ไม่ทันได้พูดกัน ท่านก็ต้องมอบความเมตตาเหลือไว้ให้เขา อย่าได้พลาดผู้ที่สมควรช่วยเหลือ  ยิ่งไม่ควรพลาดผู้ที่มีวาสนา   อันที่จริงเวลาที่ ศิษย์ต้าฝ่าหลายคน  อธิบายความจริงอยู่จะพูดว่า   ขณะนี้ฉันกำลัง อธิบายความจริง คล้ายกับว่าขณะนี้คือการไปอธิบายความจริง  เวลาปกติคือท่านไม่ได้อธิบายความจริง  การช่วยเหลือ สรรพชีวิตนั้น  เชื่อมโยงกับแต่ละเรื่องในชีวิตประจำวันในปัจจุบันของพวกท่านทั้งนั้น     หากท่านทั้งหลายเข้าใจได้ดีหมด  ตระหนักชัดในความสำคัญนี้   ข้าพเจ้าว่าคงจะสามารถช่วยเหลือ สรรพชีวิต ได้มากยิ่งขึ้น   ปัจจุบันชาวโลกก็กำลังค่อยๆกระจ่างชัด    ในเวลานี้การไป อธิบายความจริงจึงยิ่งบังเกิดผลมากขึ้น   กล่าวสำหรับ สิ่งชั่วร้ายแล้ว   คนที่ฟังมันจะยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ   ดังนั้นท่านทั้งหลายต้องแจ่มชัดในปัญหานี้

            ยังมีผู้ฝึกบางคน  ใช้ความคุ้นเคยสนิทสนมกัน ทำงานด้วยกัน  “พวกเราเป็นกลุ่มเดียวกัน” และมักจะพูดคุยเรื่องสัพเพเหระที่ไร้ประโยชน์บ่อยๆ เสียเวลาไปมากมาย  ขณะนี้แต่ละนาที วินาทีล้วนสำคัญ หากพลาดเวลาช่วงนี้ไปแล้วก็จะพลาดทั้งหมด ประวัติศาสตร์ไม่ย้อนกลับมาอีก   ประวัติศาสตร์ของจักรวาล   ประวัติศาสตร์ของตรีภูมิ   ได้ผ่านไปมากมายแล้ว   ผ่านยุคสมัยอันยาวนานไปแล้ว   สรรพชีวิตกำลังรอคอยอะไรอยู่?    ล้วนมีชีวิตอยู่ที่นี่เพื่ออะไรกัน ?  ก็คือกำลังรอคอยช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้    แต่ช่วงไม่กี่ปีนี้กลับมีผู้ฝึกบางคน   ไม่ได้ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์  ไม่ยึดกุมไว้ให้ดี   แต่ท่านนั้นแบกรับความรับผิดชอบต่อ สรรพชีวิตกับ ประวัติศาสตร์ที่ใหญ่หลวงไว้

            มีผู้ฝึกบางคน ตนเองยังไม่ค่อยแจ่มชัด   รู้สึกว่าได้ฝ่าด้วยความบังเอิญเหลือเกิน   คิดว่า “ใช่หรือไม่ว่า ฉันก็มีภาระรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ใหญ่หลวงเช่นนั้น? ฉันจะทำไหวหรือ?”  ที่จริงคำถามนี้ไม่ต้องพูดเลย  ในการบรรยายฝ่า ข้าพเจ้าก็ได้พูดอย่างชัดเจนมากแล้ว  ฝ่าที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดนี้ ไม่ใช่ว่าทุกๆคนจะสามารถบำเพ็ญได้    เพราะเหตุใดคนจำนวนมากมายไม่อาจก้าวเข้ามาได้ ? แน่นอนล่ะ   ขณะนี้เริ่มมีผู้ฝึกใหม่ทยอยก้าวเข้ามาบ้างแล้ว   นั่นเป็นเพราะผลจากการที่ท่านทั้งหลายได้ไป อธิบายความจริง  มันเหมือนกับกุญแจสารพัดนึก(วิเศษ)ดอกหนึ่ง ที่ไขเอา องค์ประกอบที่ กลุ่มอิทธิพลเก่ากั้นไว้ไม่ให้ชาวโลกศึกษาฝ่า ออกไป   เป็นเพราะการ อธิบายความจริงของท่านทั้งหลายจึงบังเกิดผลเช่นนี้ และก็กล่าวได้ว่า (ฝ่า)ไม่ใช่สิ่งที่ทุกๆคนจะสามารถได้รับ     ทุกสิ่งที่ปรากฏในโลกนี้ ก็จะเป็นลักษณะ จริงๆ เท็จๆ  ก็คือ ไม่ให้ความจริงของจักรวาลปรากฏออกมา  ไม่ให้สภาวะพิเศษของ ศิษย์ต้าฝ่าที่ต่างจากชาวโลก ปรากฏออกมาทั้งหมด  บำเพ็ญอยู่ในวังวนใช่ไหม  ก็คือการบำเพ็ญในสภาพเช่นนี้     ก้าวออกมาจากสภาพเช่นนี้   อย่าได้ประเมินตนเองต่ำเกินไป ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนขอเพียงท่านได้บำเพ็ญฝ่านี้แล้ว  ท่านก็ควรไปทำเรื่องที่ ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ

            ที่จริงข้าพเจ้าเคยพูดแล้วว่า  คนธรรมดาสามัญที่ทำเรื่องที่ดีให้กับต้าฝ่า ในช่วงเวลานี้  ณ เวลาที่สำคัญช่วงนี้ คนๆนี้ก็อาจจะหยวนหมั่นเป็นเทพได้ นับประสาอะไรกับท่าน ที่กำลังบำเพ็ญต้าฝ่า  กำลังทำในสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ  ทำสิ่งเหล่านี้ในสภาวการณ์ที่ยากลำบาก   ดูผิวเผินแล้วการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ชัดเจนนัก   แต่สิ่งที่ปรากฏในอีกมิติหนึ่งนั้น   กลับเป็นความแตกต่างระหว่าง คนกับเทพ   การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างมโหฬาร   คน ณ ที่นี้ตกอยู่ในวังวน   สภาพความเป็นจริงจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  ศิษย์ต้าฝ่าที่ตามไม่ทันการศึกษาฝ่า  ในช่วงเวลานี้ จึงแสดงออกถึงความหดหู่  กระทั่งไม่รู้คุณค่าของเวลา  และไม่ฉกฉวยเวลาทำสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำ

            อันที่จริง จนถึงขณะนี้ยังมี ผู้ฝึกจำนวนหนึ่ง ที่บกพร่องในเรื่องการศึกษาฝ่า เป็นอย่างมาก    การศึกษาฝ่าของพวกท่าน ทำได้ดีหรือไม่   นั่นจะเป็นหลักประกันในการเดินสู่การ หยวนหมั่นของพวกท่าน  นั่นคือหลักประกันในการหลุดพ้นของพวกท่าน   ชีวิตทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาโดยฝ่านี้   รวมทั้งอนาคตของพวกท่าน  สรรพชีวิตของจักรวาลในอนาคต   เนื่องจากในการเจิ้งฝ่า มีชีวิตมากมายได้ถูกกำจัดไปแล้ว   สถานที่หลายๆแห่งในจักรวาลก็ว่างเปล่าแล้ว    แต่ว่ามันจะไม่ว่างเปล่าตลอดไป ต้าฝ่าสามารถก่อเกิดบรรดาชีวิตที่จำเป็นต้องมีของเทียนถี่ชั้นนั้นๆ จากในฝ่า องค์ประกอบและสสารชนิดต่างๆ ต้าฝ่ายังกำลังสร้างชีวิตใหม่ทั้งหมดที่จำเป็น ส่วนชีวิตเก่านั้น เนื่องจากสามารถกลืนกลายเข้ากับฝ่านี้  จึงสามารถปรับเปลี่ยนตนเองใหม่   จากนั้นจึงก้าวสู่อนาคต   ชีวิตไหนๆล้วนอยู่ในนี้

            ที่จริงเรื่องการเจิ้งฝ่านี้ทั้งหมด ได้มาถึงชั้นผิวยิ่งๆขึ้นแล้ว  องค์ประกอบสุดท้ายที่เหลืออยู่นั้นไม่อาจพูดว่ามันเป็นชีวิตได้แล้ว ล้วนไม่อาจพูดว่ามันเป็นอะไรได้แล้ว   ไม่มีภาษาหรือแนวคิดอะไร ไปบรรยายพวกมันได้   แต่ทั้งหมดกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจิ้งฝ่าแล้ว  ที่จริงหากใช้แนวคิดของคำว่า “จักรวาล”กับ “นอกจักรวาล” มาอธิบาย      การเจิ้งฝ่านี้ก็จัดอยู่ในความหมาย “นอกจักรวาล” แล้ว  หรือพูดได้ว่า  การเจิ้งฝ่ากำลังสร้างองค์ประกอบเหล่านั้นที่สามารถ ทำให้เฉวียงถี่(จักรวาลในขอบเขตที่ใหญ่ที่สุด) นี้ดำรงอยู่ได้ แม้กระทั่งเป็นองค์ประกอบของ องค์ประกอบ   

            จะพูดก็พูดได้อย่างนี้    ขณะนี้ท่านทั้งหลายไม่อาจรู้สึกได้ถึงสภาวการณ์นี้     แต่จากสภาพการณ์ของการเจิ้งฝ่า ในปัจจุบันของ ศิษย์ต้าฝ่าที่จริงก็สามารถมองเห็นรูปการณ์ที่ต่างกันได้   พวกชั่วร้ายประคองต่อไปไม่ไหวแล้ว  เพราะชีวิตของ สิ่งชั่วร้าย กับ องค์ประกอบของมันถูกทำลายจนเหลือน้อยอย่างยิ่งแล้ว   เทียบไม่ได้กับเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 แล้ว   ตอนนั้นข้าพเจ้าเคยบรรยายให้ท่านทั้งหลายฟังว่า   ต้นหญ้า   ต้นไม้  แต่ละต้นล้วนถูกชีวิตชั่วร้ายในอีกมิติเข้าสิง  ขณะท่านกำลังเดินอยู่ กิ่งไม้นั้นก็จะตีหน้าท่าน   หญ้าก็จะเกี่ยวเท้าท่านให้สะดุดล้ม   ในอากาศล้วนเต็มไปด้วย สิ่งชั่วร้าย   ไม่ใช่ว่าสิ่งทั้งหมดนี้เปลี่ยนจนชั่วร้าย จริงๆ   แต่เป็นผลจากการกดชีวิตและ องค์ประกอบที่ชั่วร้ายเหล่านี้เข้ามาในตรีภูมิ  ในระหว่างการเจิ้งฝ่า   ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วย องค์ประกอบที่ชั่วร้าย  พวกมันได้เข้าสิงสิ่งต่างๆทั้งหมด ทำเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในตรีภูมิ และโลกมนุษย์   ถ้าหากการเจิ้งฝ่านี้ไม่แยกทำเป็นสองครั้ง ข้าพเจ้าทำเป็นครั้งเดียว  เช่นนั้น การ ประทุษร้ายครั้งนี้ก็จะเป็นไปทั่วทั้งโลก   เหมือนคำนายของนักพยากรณ์ชาวยุโรปว่า ปี ค.ศ.1999 ราชาแห่งมารจะลงมาจากท้องฟ้า   ผู้คนทั่วโลกจะรู้สึกได้ถึงความบ้าคลั่งของการประทุษร้าย    แต่ครั้งนี้เมื่อมารร้ายมาถึง  ประเทศอื่นๆในโลกไม่อาจรู้สึกได้    คนชาติอื่นไม่อาจรู้สึกได้ถึงการ ประทุษร้ายต่อฝ่าหลุนกง ที่เกิดขึ้นในปี 1999     เพราะว่าเรื่องนี้( การเจิ้งฝ่า) แบ่งทำเป็นสองครั้ง   เรื่องที่คนชาติอื่น บนโลกจำนวนมากจะบำเพ็ญต้าฝ่า  เป็นก้าวต่อไป   ท่านทั้งหลายก็มองเห็นแล้วว่า  วันนี้เป็น การบำเพ็ญต้าฝ่า ของ ศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า  ไม่ใช่มุ่งต่อคนทั่วโลกจำนวนมากไปกว่านี้    ฉะนั้นประเทศอื่นๆจึงไม่เกิดเรื่องการ ประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าเหมือนในประเทศจีน   คนชาติอื่นๆจึงไม่รู้สึกถึงความชั่วร้ายที่ใหญ่โตเช่นนั้น   แต่ว่าเพราะเวลานั้น องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายมีมากเหลือเกิน   กล่าวสำหรับผู้ฝึกต้าฝ่า  ขณะนั้นไม่ว่าตัวจะอยู่ประเทศไหน  ล้วนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันทางจิตใจ

            ปัจจุบันไม่ใช่สภาพการณ์เช่นนี้แล้ว ในท่ามกลางการเจิ้งฝ่า ทั้งหมด กำลังทำลาย องค์ประกอบของ สิ่งชั่วร้ายเป็นจำนวนมากมหาศาล  บวกกับศิษย์ต้าฝ่าได้อธิบายความจริงในการเจิ้งฝ่า   พร้อมกับการฟาเจิ้งเนี่ยน  ชำระล้างตนเอง  กำจัดสิ่งชั่วร้ายในมิติต่างๆอย่างต่อเนื่อง กับทั้งหมดที่พวกท่านกระทำในการเจิ้งฝ่า  ล้วนเป็นการขจัด องค์ประกอบและชีวิตของ สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น ที่กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางไว้  ก่อให้เกิดผลอย่างมหาศาล  เมื่อความคิดถูกต้องของศิษย์ต้าฝ่ามากพอ การดำรงอยู่ของท่านในโลกจึงส่งผลด้านดี    เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายเห็นไหมว่า องค์ประกอบของสิ่งชั่วร้าย ลดน้อยลงมากแล้วมิใช่หรือ ?    ไม่อาจยกขึ้นมาพูดเปรียบกับเมื่อปี 1999 ได้แล้ว

            แต่แม้ สิ่งชั่วร้ายเหล่านี้มีน้อยแล้ว   ส่วนที่เหลืออยู่ก็ยังคงชั่วร้ายมากๆ   ที่ผ่านมาข้าพเจ้าพูดกับท่านโดยตลอดมาว่า  ยิ่งใกล้ผิวนอก มันก็ยิ่งไม่มีพลัง   แต่ยิ่งใกล้ผิวนอก ก็ ยิ่งชั่ว    ชั้นผิวของมันยิ่งชั่วร้ายพลังที่เสริมมันก็ยิ่งไม่พอ  ดังนั้นดูไปแล้ว สิ่งชั่วร้ายก็ยังคงชั่วร้ายมาก  แต่ท่านทั้งหลายก็เห็นแล้วว่า  สภาพการณ์ไม่เหมือนกันแล้ว  ความชั่วร้ายของมันสามารถคงอยู่ได้แต่เฉพาะที่ๆถูกควบคุม โดยตรงจากหัวหน้ามารร้ายเท่านั้น  กับที่ๆพวกชั่วที่ไม่อาจเยียวยาได้ ยังทำชั่วอยู่เท่านั้น  ในขณะนี้โดยเปลือกนอกของสังคมจีนแผ่นดินใหญ่ พวกมันก็ไม่อาจคงอยู่ได้ต่อไป  การปราบปรามของพวกชั่วร้าย  กลายเป็นแอบทำเงียบๆ  ไม่กล้าที่จะให้ชาวโลกมองเห็น   ที่จริงพลังที่ถูกต้องเที่ยงธรรมทั้งปวงกำลังทำลายมันอยู่   เป็นสิ่งที่พวกชั่วร้ายหวาดกลัว   ไม่กล้าเปิดเผย   แอบปราบปราม   กลัวชาวโลกมากขึ้นจะรู้เรื่องเหล่านี้ที่ไม่อาจสู้หน้าคนได้    แม้แต่เหล่าแกนนำในคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคฯ แม้กระทั่งแกนนำระดับสูง ก็ไม่ยอมให้รู้   กำลังสร้างเรื่องเท็จหลอกพวกเขา ปกปิดการประทุษร้ายครั้งนี้  มีเพียงพวกชั่วร้าย  พวกที่ชั่วร้ายที่สุดไม่กี่คนนั้นที่ ควบคุมพวกคนชั่วใต้บังคับบัญชา ดำเนินการประทุษร้ายต่อไป    ทำการปกปิดวิธีการต่ำทรามอย่างเต็มที่  ที่พวกมันใช้ในการประทุษร้าย   พวกมันล้วนทำรายงานเท็จต่อ  แกนนำคณะกรรมการพรรคฯ   ใช้การสร้างเรื่องเท็จมาค้ำจุนการ ประทุษร้ายของพวกชั่วร้าย    ปัจจุบันนี้ สิ่งชั่วร้ายถูกทำลายไปเป็นปริมาณมหาศาลแล้ว   ดูไปแล้วคนชั่วก็กำเริบเสิบสานขึ้นมาไม่ได้แล้ว   ในปีนั้นที่พวกชั่วร้ายบ้าคลั่ง  มีพวกปีศาจทรามจำนวนนับไม่ถ้วนหนุน มันให้บ้าคลั่ง   ผู้อื่นรู้ความจริงก็ไม่กล้าเอ่ยปาก     เมื่อ 20 กรกฎาคม 1999 หัวหน้ามารร้ายบ้าคลั่งโผงผางเอ็ดตะโร คิดจะทำอะไรไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก    เวลานั้น องค์ประกอบของ สิ่งชั่วร้ายที่ค้ำจุนมันมีมากเหลือเกิน  มันจึงต้องการปราบฝ่าหลุนกง    ขณะนี้ก็ไม่ใช่เวลานั้นอีกแล้ว องค์ประกอบที่พวก กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางไว้ถูกขจัดน้อยลงไปเรื่อยๆ  สภาพที่ปรากฏออกมาบนโลกไม่เหมือนกันอีกแล้ว คนชั่วจะกำเริบเสิบสานอย่างไร   สถานการณ์ก็ไปไม่ไหวแล้ว

            แต่ในช่วงระยะนี้ ท่านทั้งหลายล้วนมองเห็นแล้ว      มีชีวิตมากเพียงไรได้ก่อบาปกรรมต่อต้าฝ่า  ( ไม่รวมลูกสมุนบาปหนักที่ชั่วร้ายที่สุดเหล่านั้น )  พวกเขาพอเข้าใจความจริง ก็จบเรื่องกันแล้วหรือ ? ไม่ใช่ง่ายดายเช่นนั้นหรอก ล แต่ในท่ามกลางการ อธิบายความจริง พวกท่านบอกให้เขาเหล่านั้นเข้าใจ  ก็เป็นการให้โอกาสครั้งหนึ่งแก่เขา ถ้าเขามีความคิดถูกต้องจริงๆ  เช่นนั้นก็ให้โอกาสในการไถ่บาปแก่เขา    คนทำอะไรไว้  ล้วนแต่จะต้องชดใช้    นี่คือกฎของจักรวาล    ชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นเช่นนี้ เมื่อตอนเริ่มการประทุษร้าย มีคนมากเพียงไร โหมกระพือข่าว  จึงก่อให้เกิดสภาพที่เลวร้ายเช่นนั้น ถ้าหากคนไม่ก่อให้เกิดผลเช่นนี้ ไม่มีใครทำ ใครพูด แล้วจะเกิดสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้นไหม?  ไม่ว่าจะในประเทศจีน หรือ นอกประเทศจีน   ผลที่เกิดขึ้นเช่นนี้ล้วนอยู่ในขั้นตอนนี้ทั้งหมด ผลักดันการประทุษร้ายครั้งนี้ ทั้งที่ก่อผลทางด้านการวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนและทางด้านการกระทำ       พวกมันล้วนแต่ต้องชดใช้    ชีวิตใดๆก็หนีไปไม่พ้น   นอกจากเขาชดใช้ ความสูญเสียที่พวกเขาสร้างให้กับ ต้าฝ่า และ ศิษย์ต้าฝ่า

            เทพทั่งทั้งจักรวาลล้วนกำลังเบิ่งตาจ้องมองอยู่ เทพนับไม่ถ้วนล้วนแต่กำลังเพ่งดูโลกเล็กๆ ใบนี้ เพ่งมองทุกความนึกคิดของแต่ละชีวิต   ตาของพวกเขาล้วนแต่ไม่ยอมกระพริบสักครั้ง ไม่อยากพลาดไปแม้แต่ชั่วขณะเดียว  ล้วนแต่ไม่ยอมปล่อยให้หนึ่งความคิดของคนลอดผ่านไป ในช่วงระยะเวลานี้ข้าพเจ้าพูดสิ่งเหล่านี้  ก็คือบอกกับท่านทั้งหลายว่า  ต้องสุขุมเยือกเย็นเพิ่มความแจ่มชัดยิ่งขึ้นในการรับรู้ว่า พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร ศิษย์ต้าฝ่าล้วนต้องถือการเจิ้งฝ่า มาเป็นอันดับหนึ่ง

            แต่ว่า การอธิบายความจริงนั้นต้องพูดอย่างมีสติ พูดให้สอดคล้องกับหลักคิดของคน ถ้าหากพูดจนเหลือเชื่อเกินไป   ไม่ยืนอยู่บนหลักคิดของคนโดยสิ้นเชิง ไม่ใคร่ครวญดูว่าคนสามารถรับได้หรือไม่ เช่นนั้นท่านก็กำลังก่อผลของการบ่อนทำลายแล้ว เกิดผลตรงกันข้าม จะต้องทำอย่างมีสติ  ทำอย่างแจ่มชัด เวลาอธิบายความจริงกับคนต้องพิจารณาถึงระดับความสามารถรับได้ของคนอื่น ท่านสามารถมองเห็นได้   ท่านก็สามารถตรวจสอบได้     ดังนั้นจะต้องทำเรื่องการอธิบายความจริงของพวกท่านให้ดี อย่าเพียงแต่ไปพูด อย่ายึดแต่รูปแบบวิธีการ พูดแต่ละครั้งต้องให้เขาเข้าใจ แน่นอนละ มีบางคนที่ไม่อาจช่วยเหลือได้เลย เพราะเขายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงแล้ว เขาไม่มีสิ่งที่ถูกต้องเที่ยงธรรมเลย ท่านจะพูดกับเขา เขาก็รับไม่ได้ เพราะถ้าเขายอมรับนิดหนึ่ง เขาเองก็ต้องดับสลายไปนิดหนึ่ง ยอมรับหน่อยหนึ่ง เขาเองก็ต้องดับสลายไปหน่อยหนึ่ง เขายอมรับทั้งหมด เขาก็จะดับสลายหมดไม่เหลือเลย เพราะเขาก็คือพวกชั่วร้าย ดังนั้นจึงมีคนที่ช่วยเหลือไม่ได้ แต่ว่านั่นมีจำนวนน้อยอย่างยิ่ง

            ยังมีคนจำนวนหนึ่ง แม้ท่านทั้งหลายคิดจะช่วยเหลือพวกเขา เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า แม้พวกท่านให้โอกาสเขาแล้ว   เขาเข้าใจแล้ว  เขาก็ต้องชดใช้  เป็นเช่นนี้ นี่คือการพูดจากหลักการของฝ่าแต่พวกท่านอย่าห่วงเรื่องเหล่านี้เลย พูดในฐานะศิษย์ต้าฝ่า   พวกท่านบำเพ็ญความดี พวกท่านก็ต้องเมตตาสรรพชีวิต สำหรับเรื่องที่ชีวิตจำพวกนั้นสมควรชดใช้อย่างไร นั่นย่อมมีฝ่าไปใช้ประเมิน   เขาควรจะเหลือรอดอยู่หรือไม่ ล้วนแต่มีมาตรฐานของฝ่าตัดสินได้ พูดในฐานะศิษย์ต้าฝ่า ก็พยายามไปช่วยเหลือ     ก็เป็นเช่นนี้

            ช่วยเหลือเพื่ออะไร? ข้าพเจ้าพูดไปแล้ว สรรพชีวิตบนโลกวันนี้ไม่เหมือนกับชีวิตในประวัติศาสตร์ ไม่เหมือนกับคนในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา    ชีวิตใดๆพอมาถึงโลกแล้ว เมื่อเข้าสู่วังวนของโลกนี้แล้ว     ก็น่ากลัวจริงๆ  เทพองค์หนึ่ง เมื่อครู่ท่านยังมองเห็นว่าเขาเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่ง  ครั้นเข้ามาสู่โลกนี้ ครั้นเข้ามาสู่ร่างคน สมองนี้พอถูกล้างแล้ว ช่างน่ากลัวจริงๆ   ก็จะแยกแยะอะไรไม่ออกแล้ว ดังนั้นโดยพฤติกรรมของเขา ท่านจะมองไม่เห็นความเป็นมาของชีวิตเขา ท่านจะมองไม่เห็นความแตกต่างของเขากับธาตุแท้ของชีวิตในอดีตของเขา

            ที่ข้าพเจ้าจะพูดก็มีเพียงเท่านั้น    ที่จริงก็เพียงพูดเรื่องการอธิบายความจริงกับท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายยังต้องการที่จะพูดบางอย่างกับข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าก็จะใช้เวลาในช่วงต่อไปตอบคำถามของท่านทั้งหลายสักหน่อย คนที่มีคำถามสามารถเขียนขึ้นมา (เสียงปรบมือ) เราจะไม่ใช้เวลานานเกินไป เพราะในการประชุมยังจะมีคนพูดอีก

ศิษย์                 ผู้ฝึกปักกิ่งฝากความระลึกถึงท่านอาจารย์

(อาจารย์:  แผ่นนี้ไม่อ่านละนะ)   เมื่อผมอยู่ในเวลาที่สิ้นสุดการเจิ้งฝ่า ก็คือก่อนที่พวกเราจะหยวนหมั่น  จะได้พบท่านอาจารย์หรือไม่ ?  หากไม่อาจ เป็นจริงได้ คงจะเป็นความเศร้าใจของผมไปชั่วชีวิต ไม่ทราบว่าคิดเช่นนี้ได้ไหม?  ความปรารถนานี้ของผมจะเป็นจริงได้หรือไม่?

อาจารย์            ตอนนี้ไม่ใช่ ได้พบแล้วหรือ? ( ที่ประชุมหัวเราะ) ถ้าท่านคิดจะเห็นภาพลักษณ์ที่แท้จริงของข้าพเจ้า ( อาจารย์หัวเราะ) บำเพ็ญให้ดีๆ ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคน ขอเพียงท่านสามารถหยวนหมั่น ก็จะเห็นได้  ( เสียงปรบมือ) ศิษย์ต้าฝ่าไม่เพียงแต่มีโอกาสแห่งวาสนาเช่นวันนี้ที่  สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนล้วนไม่อาจได้รับ   ที่จริงเกียรติยศของชีวิตอันเป็นนิรันดรในอนาคต  ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมทั้งหมดไว้ให้พวกท่านแล้ว ( เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 ศิษย์ต้าฝ่าจากหูเป่ย อู่ฮั้น ระลึกถึงท่าน  ฝากความคิดถึงมายังท่านอาจารย์

อาจารย์            ขอบใจทุกท่าน

ศิษย์                 บางคนพูดว่า ฝ่าหลุนกงดี  แต่ก็ไม่อยากช่วยเหลือผู้ฝึก  วางหนังสือพิมพ์เอยหรือ ทำกิจกรรม ก็ไม่ลงชื่อต้าฝ่า คนเหล่านี้หากไม่สามารถเปลี่ยนแปลง  ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ?

อาจารย์            ที่จริงคนบางกลุ่ม ในช่วงระยะเวลาหนึ่งยังไม่เข้าใจต้าฝ่าดี โดยเฉพาะคือคนเหล่านั้นที่ถูกปิดหูปิดตาจากการประทุษร้ายอย่างนี้ของพวกชั่วร้าย ในการอธิบายความจริงถ้าศิษย์ต้าฝ่าไม่แก้ปมในใจของเขา   เป็นไปได้ว่ายังอยู่ในขั้นตอนของความรับรู้ต้าฝ่า   ณ เวลานี้ก็ยังไม่อาจตัดสินเขาได้    ขณะนี้ยังไม่อาจพูดได้ว่าเขาดี หรือ ไม่ดี  บางทีอาจเพราะในระหว่างการอธิบายความจริง ท่านทั้งหลายยังทำได้ไม่ดีพอ

ศิษย์                 พวกเราจะเข้าใจ อย่างไรกับ “ความเป็นจริงปรากฏชัด ใต้ฟ้าเวิ้งว้างงวยงง ”  ?

อาจารย์            อันที่จริงข้าพเจ้าได้ใช้คำพูดประโยคหนึ่งของเทพ “เวิ้งว้างงวยงง”  การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของทั่วทั้งจักรวาล ท่านทั้งหลายลองคิดดู ที่ของมนุษย์นี้ จะมีคนชั่วจำนวนมากถูกกำจัดในก้าวต่อไป  มนุษย์ที่จะถูกกำจัดนั้นมีจำนวนมหาศาลอย่างน่าสะพรึงกลัว   ตอนเริ่มต้นนั้นคนยังรู้สึกตกตะลึง   สุดท้ายจะชาชินกันหมด    พบเห็นคนตายเกลื่อนถนนไปหมด  ตอนนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไร ?  สิ่งที่คนไม่เชื่อ  สิ่งที่ผู้คนคิดว่าเป็นเรื่องงมงายในประวัติศาสตร์ล้วนแต่จะปรากฏออกมา   โลกวัตถุนี้ที่คนเข้าใจด้วยทัศนคติทางวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบัน  เมื่อเวลาที่มันปรากฏออกมาแล้ว ล้วนแต่ไม่ใช่แบบนี้นั้น  คนจะนึกคิดกันอย่างไร ?  คนจะเห็นว่าที่แท้เทพนั้นมีอยู่แต่เดิมแล้ว   อ้อ  ที่แท้ศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่เป็นเทพ   ที่แท้สิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าพูดล้วนเป็นเรื่องจริง     ตอนเริ่มต้นยังคงมีความคิดเช่นนี้     ผู้ที่ต้องเจ็บปวดในท่ามกลางการชดใช้หนี้กรรม จะค่อยๆเป็นเหมือนกับไม่มีความนึกคิดอย่างนั้น  ใต้ฟ้าเวิ้งว้างงวยงงจริงๆ

ศิษย์                 ศิษย์คิดจะเขียนประวัติฝ่าหลุนต้าฝ่า บันทึกเรื่องราวต่างๆของการถ่ายทอดฝ่าของท่านอาจารย์เป็นต้นมา

อาจารย์            ข้าพเจ้าคิดว่า   ศิษย์ต้าฝ่าสามารถทำเรื่องอย่างนี้ ก็นับว่ายอดเยี่ยม  สามารถทำได้   แต่ว่าเรื่องนี้ต้องการเวลามาก  พลังมาก     เรื่องสามประการของศิษย์ต้าฝ่าก็สำคัญมาก   จัดเวลาให้ดีล่ะ

ศิษย์                 ความคิดถูกต้อง การกระทำถูกต้องของศิษย์ต้าฝ่าในการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่า ขอเรียนถามว่า ศิษย์สามารถเขียนให้สูงสักหน่อยได้ไหม? จะสามารถทะลุทะลวงต้าฝ่าได้ไหม ?

อาจารย์            ท่านเขียนสูงแค่ไหนก็ไม่อาจทะลุทะลวงต้าฝ่า ( ที่ประชุมหัวเราะ )  เพราะเขายิ่งใหญ่มาก   บรรดาสิ่ง ที่พวกท่านสามารถรู้ได้ ก็เป็นเพียง  ส่วนที่สามารถปรากฏออกมาในสังคมคนธรรมดาสามัญเท่านั้น กับเรื่องราวที่พวกเราศิษย์ต้าฝ่าใช้พฤติกรรมของคนไปยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าในสังคม   เรื่องเหล่านี้   ไม่มีปัญหา   เขียนออกมาแล้ว ท่านทั้งหลายแสดงความคิดเห็นกัน    บางเรื่องอาจจะทำได้ดียิ่งขึ้นอีกก็ได้

ศิษย์                 ศิษย์เคยเขียนนวนิยายวิทยายุทธ์ จะใช้รูปแบบนวนิยายวิทยายุทธ์ บรรยายธรรมะที่เหนือธรรมชาติ  จะได้หรือไม่ ?  จะเขียนวรรณกรรมให้ประณีตยิ่งขึ้นได้อย่างไร ?  กล่อมให้ชาวโลกค่อยๆเปลี่ยนแปลง  ยอมรับทัศนคติที่ถูกต้องของการบำเพ็ญ ?

อาจารย์            ข้าพเจ้าคิดว่า  ถ้าท่านจะเขียนบันทึก ประวัติศาสตร์ก็ให้เข้มงวดสักหน่อย    เขียนนวนิยายก็ได้ แต่ว่าการเขียนเรื่องราวทั้งหมดของต้าฝ่านี้ เป็นนวนิยาย   ดูเหมือนว่าน้ำหนักของนวนิยายจะไม่ค่อยเหมาะสม     ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเขียนเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ เขียนให้เป็นรูปธรรมสักหน่อย     เขียนให้เป็นเรื่องของบุคคลสักหน่อยก็ไม่เป็นไร    หากเขียนเป็นนวนิยายเจาะจงศิษย์คนใด สถานที่ใด เรื่องใดเลือกสักหัวข้อหนึ่ง  อย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา

ศิษย์                 ศิษย์แผ่นดินใหญ่ฝากความคิดถึงท่านด้วยความจริงใจ

อาจารย์            ขอบใจทุกท่าน

ศิษย์                 พวกสายลับอาศัยช่องโหว่ของการรักษาความปลอดภัยในอินเตอร์เนตเข้ามาให้ร้าย   แต่ศิษย์ชาวจีนโพ้นทะเลส่วนหนึ่งกับผู้ช่วยฝึกสอน กลับไม่เห็นความสำคัญเท่าที่ควร     ทำให้เกิดการ ประทุษร้ายและรบกวนต่องานเจิ้งฝ่า และศิษย์ต้าฝ่า ขอเชิญท่านอาจารย์ชี้แนะสักหน่อย

อาจารย์            จุดนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าพวกเราควรจะให้ความสำคัญ ถึงแม้พวกเราจะไม่มีเรื่องอะไรที่สู้หน้าคนไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจจะให้สายลับก่อกวน   

พูดถึงสายลับ อาชีพชนิดนี้ในสายตาของเทพเห็นว่า เป็นอาชีพที่สกปรกที่สุดของมนุษย์    ในระยะยาวทำให้คน สู้หน้าคนไม่ได้   ดำเนินชีวิตแบบลับๆล่อๆ ซึ่งก่อให้เกิด การผันแปรของสภาพจิตใจ อันที่จริงก็เป็นสิ่งที่ทุกข์ระทมมาก   ท่านทั้งหลายอย่าได้นึกว่าพวกเขามีความสามารถใหญ่โตอะไร   ช่วงก่อนหน้านี้ไม่นาน  ผู้ฝึกชาวไต้หวันคนหนึ่งไปถูกจับที่เซี่ยงไฮ้ สายลับสันติบาลคนนั้นมองเห็นจิตหวาดกลัวของเขา ต้องการจะให้เขาเป็นสายลับให้ได้       ท่านทั้งหลายทราบดีว่า วิธีการต่ำทรามหาที่เปรียบมิได้ชนิดนั้น มีเพียงที่ๆพวกชั่วร้ายอยู่เท่านั้นจึงจะทำกันออกมาได้    ที่จริงข้าพเจ้ารู้วิธีการแบบนั้น มาตั้งนานแล้ว   ก่อนที่พวกเขาจะทำเรื่องนี้  จะต้องรู้จักท่านให้ดีก่อน รู้กระทั่งการกินอยู่  สวมใส่ ชมชอบสิ่งใดของท่าน รวมทั้งเพื่อนสนิทของเขาก็รู้หมด  จากนั้นก็แสดงลวดลายกับท่าน จับท่านไป แสดงอำนาจให้ท่านเห็นก่อน ทำให้ท่านรู้สึกราวกับกำลังจะถูกประหาร จากนั้นจับจิตหวาดกลัวของท่านไว้แน่น คุยกับท่าน  ท่านไม่คิดจะพูด พวกเขาก็พูดสิ่งที่รู้อยู่ก่อนนานแล้วออกมา  ในการสนทนาก็ทำให้ท่านรู้สึกว่า อะไรๆพวกเขาก็รู้หมด คล้ายกับว่าพวกเขารู้แม้แต่เรื่องที่น้อยคนจะรู้กัน  ผลของจิตหวาดกลัวทำให้รู้สึกว่า  แม้คนข้างกายก็ล้วนไม่น่าไว้ใจ   ในความรู้สึกที่ผิดปกตินี้คล้ายกับว่าเห็นใครๆก็เป็นสายลับไปหมด  ใครๆก็เชื่อไม่ได้   ถ้าหากไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของพวกชั่วร้าย  ก็คล้ายกับว่าจะถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ     ที่แท้นี่คือ เพราะตนเองมีจิตหวาดกลัวจึงถูกเจาะช่องว่าง     นี่คือเล่ห์เหลี่ยม   นี่คือวิธีการของจารชนมืออาชีพที่มักใช้กัน    แน่นอนละเดี๋ยวนี้  วิธีการแบบนี้   ในประเทศประชาธิปไตย ไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้แล้ว มีเพียง กลุ่มอำนาจทางการเมืองของพวกชั่วร้ายที่เหยียบย่ำสิทธิมนุษยชน จึงเลือกใช้วิธีการชั่วร้ายอย่างนี้    ในประเทศประชาธิปไตย (หากทำเช่นนี้) มันก็ถูกส่งฟ้องศาลตั้งนานแล้ว

            ไม่ต้องกลัวพวกมันสร้างเรื่อง  อย่ากังวลเรื่องนั้น เรื่องนี้ มากเกินไป     แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ต้องตื่นตัว   ต้องนึกว่าเรื่องที่พวกท่านจะทำ อย่าได้ถูก สิ่งชั่วร้ายทำลายเสียก่อน   ท่านทั้งหลายต้องคำนึงถึงปัญหานี้    พวกเราไม่มีเรื่องที่สู้หน้าคนไม่ได้  ไม่กลัวชาวโลกจะรู้   พวกเราก็ไม่มีเรื่องที่ผิดกฎหมาย   แต่กล่าวสำหรับ สิ่งชั่วร้าย  พวกเราก็ไม่ให้โอกาสแกทำชั่ว   กล่าวสำหรับ สิ่งชั่วร้าย เรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าจะทำ ต้องไม่ให้ พวกชั่วร้าย ล่วงรู้    ดังนั้น หลายๆครั้งท่านทั้งหลายต้องระวังให้ดี   ไม่ใช่ว่ายังไม่ทันที่ท่านจะทำ คนชั่วก็ไปถึงแล้ว  ทำเรื่องชั่วแล้ว  นั่นก็ทำให้การ อธิบายความจริงของท่าน  การช่วยเหลือคน เกิดความยุ่งยาก  เพิ่มความยากลำบาก  ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ต้องเห็นความสำคัญ

ศิษย์                 ชาวฮ่องกง 5 แสนคน ออกมาเดินขบวนคัดค้าน( ร่างกฎหมาย ) มาตรา 23    แต่ในจำนวนนี้มีบางคนไม่รู้ความจริงของฝ่าหลุนกง   พวกเขาจะสามารถได้รับการช่วยเหลือ เพราะคัดค้านมาตรา 23  ใช่หรือไม่ ? จำเป็นหรือไม่ ที่พวกเราต้องก้าว เข้าไปอีก เพื่ออธิบายความจริง

อาจารย์            กฎมาตรา 23 อันชั่วร้ายที่ถูก มวลชนทั่วฮ่องกงปฏิเสธนี้    เดิมทีก็เจาะจงให้ร้ายต่อศิษย์ต้าฝ่าในฮ่องกง และ ก็ให้ร้ายประชาชนฮ่องกงด้วย ฮ่องกงมีคนออกมาต่อต้านมากมายเช่นนี้ ไม่ว่าพวกเขา ทำไปด้วยจุดยืนอะไร  ไม่ว่าขณะนั้นทำไปด้วยจิตใจอะไร  แต่พวกเขาได้ก่อให้เกิดผลด้านบวกต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอนแล้ว   ข้าพเจ้าว่า  กล่าวสำหรับชาวเมืองฮ่องกงแล้ว   สมควรพูดว่าพวกเขาได้เลือกอนาคตที่ดีมาก ด้วยตัวเอง ท่าทีต่อต้าฝ่า(ในครั้งนี้) กลายเป็นมีการเริ่มต้นที่ดีมาก  มีคนมากมายก็รู้จักฝ่าหลุนกงอย่างชัดเจน จึงต่อต้านมันเช่นนี้ เป็นการวางรากฐานของการช่วยเหลือในอนาคตที่ดีมาก    สำหรับผู้ที่ยังไม่แจ่มแจ้งกับเรื่องฝ่าหลุนกง และการ ประทุษร้ายนั้น  จะต้องอธิบายความจริงมากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง  ก็เป็นเช่นนี้

ศิษย์                 การเชิญบริษัทห้างร้านใหญ่ๆเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ( Gala Dinner) นั้น  ถ้าหากไม่ อธิบายความจริง  เพียงแต่เชิญให้พวกเขาอวยพรตรุษจีนให้กับชาวจีน จะเพียงพอหรือไม่ ?

อาจารย์            ไม่เพียงพอแน่   ทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำในวันนี้  ล้วนแต่เพื่อช่วยคน หาไม่แล้วท่านทำไปเพื่ออะไร? การอธิบายความจริงอย่างสง่าผ่าเผยคือ เรื่องของศิษย์ต้าฝ่า ข้าพเจ้าเคยบอกท่านทั้งหลายแล้วว่า  คนบนโลกทุกวันนี้ล้วนมาเพื่อฝ่า   ถ้าท่านคิดจะให้เขาเข้าใจจุดนี้อย่างแจ่มแจ้ง ท่านก็ไป อธิบายความจริง  นี่เป็นกุญแจสารพัดนึกดอกหนึ่ง ที่จะไขกุญแจที่ปิดขังสรรพชีวิตมาเนิ่นนาน  ต่อการรอคอยเรื่องนั้นมานานแสนนาน  (เสียงปรบมือ)

            ที่จริงข้าพเจ้ากำลังคิดว่า  บรรดาสิ่งทั้งปวงที่ศิษย์ต้าฝ่าทำกันในวันนี้  พวกท่านไม่ได้ทำให้ต้าฝ่า  และไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์ พวกท่านทำเพื่อตัวพวกท่านเองต่างหาก   พวกท่านกำลังสร้างความบริบูรณ์ให้กับโลกของพวกท่านเอง สถาปนาธรรมานุภาพของพวกท่านเอง พวกท่านกำลังรับและช่วยชีวิตทั้งหลายที่พวกท่านต้องการ  พวกท่านล้วนแต่ทำให้แก่ตัวพวกท่านเอง   จากมุมมองของข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์ พูดได้ว่า  ข้าพเจ้าย่อมต้องบอกท่านอย่างแน่นอน เพราะจะสร้างความบริบูรณ์ให้แก่ท่านทั้งหมด      ข้าพเจ้าจะนำท่านไปจนสำเร็จ  ที่ใดของท่านจำเป็นต้องมีอะไรบ้าง ข้าพเจ้าจึงต้องให้ท่านไปทำ

            อีกอย่าง  กล่าวจากมุมมองของการบำเพ็ญ ความดี และความเมตตา  ท่านทั้งหลายก็ควรไปทำ   ข้าพเจ้าเพียงแต่ยกตัวอย่าง ไม่เพียงแต่งานเลี้ยงฯ  ยังรวมถึงบรรดาสิ่งต่างๆที่ท่านไปสัมผัสด้วย  เรื่องราวทั้งหลายที่ต้องทำ ในนั้นล้วนครอบคลุมสิ่งเหล่านี้ การช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นเรื่องอันดับหนึ่ง    พวกท่านอย่าคิดเพียงว่าจะทำให้งานฯมีความสมบูรณ์หลากหลาย   ยิ่งไม่ใช่เพราะจะทำให้คนดีใจชั่วขณะหนึ่ง  แต่ที่ข้าพเจ้าบอกคือให้ท่านไปช่วยสรรพชีวิต ( เสียงปรบมือ )   หากพวกท่านจัดงานให้ได้มาตรฐานที่สูง เสริมบรรยากาศของท่วงทำนองที่ถูกต้องเที่ยงธรรมของต้าฝ่าให้แข็งแกร่ง   นี่ก็จะเกิดผลในการ ช่วยสรรพชีวิตได้โดยตัวมันเอง แล้วใครจะไม่อยากทำล่ะ ? นี่ไม่ใช่โอกาสหรอกหรือ ? ( เสียงปรบมือ )

ศิษย์                 ผู้ฝึกหลายคนมีใจศรัทธาต้าฝ่ามาก   ตั้งใจมากในการอธิบายความจริง  แต่กับการบำเพ็ญตัวเองกลับทำไม่ถึง    มักทำผิดบ่อยๆ   ตนเองก็รู้สึกกลัดกลุ้ม

อาจารย์            นี่เป็นไปได้มาก เนื่องจากท่านทั้งหลายล้วนเข้าใจในหลักการของต้าฝ่า   แต่สำหรับปัญหาของแต่ละคนนั้น  มีการรับเอาองค์ประกอบเหล่านั้นของคนธรรมดาสามัญไว้ของแต่ละคน ทำให้เกิดจิตยึดติด   นี่ก็สามารถแสดงออกมา   ดูไปแล้วคล้ายกับขัดแย้งกันมาก  ที่จริงไม่ขัดแย้งกัน    โดยเฉพาะหากจิตยึดติดมากแล้ว  ยังจะเกิดสภาพการณ์ที่ไม่ดีมากๆ    ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น จะต้องให้ความสำคัญ  นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด

            พูดถึงตรงนี้  ข้าพเจ้านึกขึ้นมาได้ อีกปัญหาหนึ่ง ท่านทั้งหลายอย่าได้มองปัญหาแบบตายตัว   โดยเฉพาะคือหลักการที่บิดเบือนเหล่านั้น   ที่พวกชั่วร้ายในประเทศจีนเผยแพร่กัน    เช่นพวกมันโฆษณาว่า “ท่านจะให้ผู้อื่นทำดี ตัวท่านเองจะต้องทำให้ดีเสียก่อน”  ท่านทั้งหลายลองคิดดู ความคิดนี้ถูกต้องหรือไม่ ?     คนจำนวนมากยึดคำพูดประโยคนี้เพื่อปกปิดความผิดที่ไม่ยอมแก้ไขของตัวเอง     โดยเฉพาะคือ ถูกพวกที่มีปัญหาเหล่านั้นนำมายึดถือเป็นสัจจธรรมไม่ยอมปล่อย   ข้าพเจ้าขอบอกท่านนี่เป็น สิ่งที่ผิดพลาดอย่างแน่ชัด    คนที่มีความผิดพลาดคนหนึ่ง ก็ไม่สามารถบอกให้ท่านทำดีได้แล้วหรือ ?   คนๆหนึ่งที่ทำเรื่องผิดพลาดแล้ว  ก็ไม่ควรบอกให้คนอื่นทำดีแล้วหรือ ?  นั่นเป็นตรรกอะไรกันล่ะ?  มีสักกี่คนเคยพิจารณาปัญหานี้อย่างละเอียดบ้าง ?

            ท่านทั้งหลายทราบว่า  พระเยซูเคยตรัสไว้ประโยคหนึ่งว่า   คนนั้นล้วนมีบาป    เพราะท่านมีบาป  ท่านก็ไม่อาจบอกให้บุตรธิดาทำดีได้แล้วหรือ?    เพราะท่านมีบาป  ท่านก็อย่าได้บอกให้ผู้อื่นอย่าทำบาปละหรือ ?  นี่เป็นข้อวิจารณ์ที่เหลวไหลจริงๆ  ใช่เป็นอย่างนี้หรือไม่?   จริงๆแล้วมนุษย์คนไหนไม่เคยทำผิดบ้างละ? คนเกิดมาก็ก่อกรรมไม่หยุด ทุกคนล้วนมีความผิด ไม่ใช่เพราะตนเองมีความผิดก็ไม่สามารถบอกให้ผู้อื่นทำดี  และไม่ใช่เพราะเขาผิดพลาด ก็ไม่อาจบอกให้ฉันทำดี     ควรต้องดูว่า เขาพูดถูกหรือไม่   นี่จึงจะเป็นการมองปัญหาของเทพ  ที่จริงคนก็ควรมองเช่นนี้ด้วย  นี่เป็นสัจจธรรมที่ถูกต้อง

            การโฆษณาของระบอบปกครองชั่วร้าย  ทำให้หลักการนี้เปลี่ยนเป็นเช่นนี้  คือ คุณจะบอกให้ผู้อื่นทำดี  คุณต้องทำให้ดีก่อน  ช่างเป็นคำพูดที่ชั่วร้ายจริงๆ   ดูไปแล้วรู้สึกว่า อ้อ ใช่นี่   คำพูดประโยคนี้ฟังดูสมเหตุสมผลมาก    ไม่มีเหตุผลสักนิด  มีแต่ทำให้รู้สึกท้อแท้   ใครสามารถทำได้ดีถึงปานนั้น  ?   ที่ไหนมีคนสมบูรณ์แบบอย่างนี้ล่ะ?   ผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง    เมื่อบำเพ็ญจนถึงก้าวสุดท้าย   ตราบเท่าที่ ยังไม่สลัดร่างคนทิ้งไปทั้งหมด เขาก็ยังคงมีบาปกรรมอยู่  ยังคงมีสิ่งยึดติดอยู่   แต่ว่าเมื่อบำเพ็ญไปถึงระดับนั้นเขาก็อยู่เหนือคนธรรมดาสามัญมากแล้ว   ถ้าหากทำตามวิธีพูดนี้   ใครก็ไม่อาจบอกให้คนไปทำดีแล้ว สังคมนี้ไม่จบเห่กันหมดแล้วหรือ ?

            ศิษย์ต้าฝ่ามีจิตยึดติด    ได้แก้ไขจิตของคนธรรมดาสามัญไปบ้างหรือไม่   มีบางอย่างทำได้ไม่ดี    แต่ไม่อาจถือว่าศิษย์คนนี้ไม่ดีไปเสียทั้งหมด    ไม่อาจถือว่า ชีวิตคนนี้ใช้ไม่ได้  และไม่อาจถือว่าศิษย์ต้าฝ่าคนนี้บำเพ็ญได้ไม่ดีไปเสียทั้งหมด เขาอาจมีหลายอย่างที่บำเพ็ญได้ดีมากแล้ว    เนื่องจากเขามีความผิด เพราะเขายังมีสิ่งยึดติดที่ต้องเผยออกมา  จากนี้จึงได้รู้ถึงจุดที่ยังไม่ดีพอ  ดังนั้นจึงแสดงออกมา   สามารถแสดงออกมาจึงบำเพ็ญได้   ถ้าซุกซ่อนเอาไว้ไม่แสดงออกมายังจะ  บำเพ็ญไม่ได้   กระทั่งตัวเองก็ไม่อาจรู้ได้  นั่นก็จะบำเพ็ญไม่ได้จริงๆ

ศิษย์                 เชิญท่านอาจารย์พูดถึง  สื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำจะอธิบายความจริงได้อย่างไร โดยเฉพาะคือ ภาพอนาคตของการร่วมมือกันอธิบายความจริงในประเทศจีน

อาจารย์            สถานการณ์ที่พวกเราดำรงอยู่ในปัจจุบัน โดยพื้นฐานก็เป็นเช่นนี้    การทำสื่อของศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ขณะนี้ กล่าวในด้านความปลอดภัยของพวกเขา ปัจจุบัน(สถานการณ์) ยังไม่สุกงอม   แต่ว่าพวกเขาแจกใบปลิวแจกซีดีและหลายๆเรื่องนั้น พวกเขาทำได้ดีมาก    สำหรับนอกประเทศจีน สื่อที่ศิษย์ต้าฝ่าทำนั้น ต้องพยายามทำให้คนจีนมองเห็นความจริงของการประทุษร้าย ทำให้ประชาชนจีนทั้งประเทศมองเห็นความจริง   ต้องให้ประชาชนจีนมองเห็นความจริงให้จงได้ ! ( เสียงปรบมือ) ต้องช่วยเหลือพวกเขา บอกให้คนจีนมองเห็นว่าการประทุษร้ายครั้งนี้  คนจีนได้ทำอะไรไปบ้าง     หากยังคงทำต่อไปผลลัพธ์ที่ชาวจีนต้องเผชิญนั้นน่ากลัวมาก

ศิษย์                 สิ่งยึดติดของแต่ละคนมักจะวางลงไม่หมด   รู้สึกร้อนใจมาก แต่มักทำได้ไม่ดี

อาจารย์            ศึกษาฝ่ามากๆ ศึกษาฝ่ามากๆ ( อาจารย์หัวเราะ)  ไม่มียาวิเศษอะไร     เรามากินกันสักเม็ด  กินสิ่งยึดติดให้หมดไปเลย ( ที่ประชุมหัวเราะ)    ที่จริงพลานุภาพของต้าฝ่ายังวิเศษกว่ายาวิเศษเสียอีก    แน่นอนละท่านทั้งหลายเดี๋ยวนี้งานยุ่งมาก  ต้องทำนี่ทำนั่น มากมายหลายเรื่องเหลือเกิน ยังมีเรื่องในบ้าน ที่ทำงาน งานสังคมเอย แต่ว่าต้องบำเพ็ญตนเองอยู่เสมอ    ดังนั้นศึกษาฝ่า ยังต้องศึกษาฝ่า

ศิษย์                 เนื่องในโอกาสเทศกาล เชิญท่านอาจารย์ รับความเคารพและความซาบซึ้งในบุญคุณจากศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมด  เหล่าศิษย์จะต้องทำให้ดีแน่นอน ให้ท่านปลาบปลื้มใจมากสักหน่อย เหน็ดเหนื่อยน้อยสักหน่อย

อาจารย์            ขอบใจทุกท่าน  ( เสียงปรบมือ)  ศิษย์ต้าฝ่าล้วนแต่ยังอยู่ในท่ามกลางการประทุษร้าย ท่านบอกให้ข้าพเจ้าดีใจ  ข้าพเจ้าก็ดีใจไม่ออก ในขณะนี้มีศิษย์ต้าฝ่ามากมายที่ได้รับการประทุษร้ายอยู่ในค่ายกักกันเหล่านั้นในประเทศจีน     น้ำใจนั้นอาจารย์รับแล้ว

ศิษย์                 ผมคิด    อย่างเช่นศิษย์ต้าฝ่าที่มีชื่อเสียงในสังคม  เช่น ศิษย์ต้าฝ่าที่เป็นผู้ติดต่อในเขตนั้นๆ หรือคนที่เคยเขียนบทความอธิบายความจริง หลายๆชิ้น   ในกิจกรรมท้องถิ่น กิจกรรมของชุมชนชาวจีน และการเคลื่อนไหว “เอาเจียงขึ้นสู่ขบวนการยุติธรรม” สามารถจะแสดงความคิดเห็นความเข้าใจของพวกเขา การวิเคราะห์ปัญหาบางประเด็นให้กับสังคมโลก ในฐานะสมาชิกหนึ่งของสังคมได้หรือไม่  เช่น เรื่องเขตอธิปไตย( ของประเทศจีน)  จะทำวิธีใดจึงจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้คนธรรมดาสามัญเข้าใจผิด ?

อาจารย์            กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า การบำเพ็ญกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่าในวันนี้นั้นเป็นอันดับหนึ่ง ศิษย์ต้าฝ่าต้องยืนยันความถูกต้องของฝ่า พวกท่านอธิบายความจริง ช่วยเหลือสรรพชีวิตเป็นอันดับหนึ่ง

นักประชาธิปไตยบางคนในสังคม  รวมทั้งผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ 4 มิถุนายน  ล้วนวิจารณ์โจมตี อย่างต่อเนื่อง  ต่อระบอบปกครองทรราชของ พวกชั่วร้าย  เรื่องสิทธิมนุษยชน และ เสรีภาพในความเชื่อเหล่านี้ก็  เป็นเรื่องที่พวกเขาส่งเสริม  การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเหล่านี้ของพวกเขา  ก็เป็นผลดีไม่น้อยต่อการเปิดโปงการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง ดูอย่างนี้แล้ว พวกเขากับพวกเรา ก็เหมือนกันในจุดนี้    ดังนั้นผู้ฝึกของเราหลายคน ก็คิดจะไปพูดบนจุดยืนนี้     อันที่จริงท่านทั้งหลายต้องสุขุมรอบคอบในการวิเคราะห์ สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ กับ ต้าฝ่า กับการยืนยันความถูกต้องของฝ่า มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องกันก็ไปทำ  ไม่เกี่ยวข้องกันท่านก็อย่าไปทำ   ไม่ว่าเมื่อใดก็อย่าได้หลงทาง

พวกท่านรู้เกี่ยวกับอาจารย์ไหม จักรวาลนี้ใหญ่โตอย่างเหลือหลาย สรรพชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนนั้น เทียนถี่นับจำนวนไม่ถ้วนนั้น มีชีวิตมากเท่าใด ถ้าเพียงเขาขยับความคิด ก็จะบังเกิดผลบนโลกใหญ่เท่านั้น มีชีวิตมากเท่าใด มีองค์ประกอบของอิทธิพลเก่าและชีวิตเก่าเท่าใด พวกมันล้วนคิดจะควบคุมการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ รบกวนการเจิ้งฝ่าเรื่องนี้ พวกมันล้วนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเดินทางสายนี้อย่างตรงมากๆ (เสียงปรบมือ) พวกมันล้วนรบกวนอะไรข้าพเจ้าไม่ได้เลย พยายามทุกวิธีก็ไม่มีประโยชน์ ณ ที่ของมนุษย์นี้ก็มีการรบกวนอย่างนี้ อย่างนั้น ก็ไม่บังเกิดผลแต่อย่างใด

มนุษย์พูดไม่ใช่หรือ ท่านมีกลอุบายยอดเยี่ยมนับพัน ข้าพเจ้ามีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนของข้าพเจ้าหนา หมายความว่าศิษย์ต้าฝ่าจะต้องรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร จะต้องมีสติแจ่มชัด ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่าหรือไม่ การเปิดโปงสิ่งชั่วร้าย นั่นคือพวกเราทำเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต เพียงแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ท่านศิษย์ต้าฝ่าทำในวันนี้ ท่านก็ไปทำ ถ้าไม่เกี่ยวข้องท่านก็ไม่ควรทำ ในระหว่างทำงานทิศทางเบี่ยงเบนจนเป็นผลให้เกิดจิตยึดติด ก็จะทำร้ายผู้ฝึก ถ้าหากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับต้าฝ่า เกี่ยวข้องกับเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่า การช่วยเหลือสรรพชีวิต เช่นนั้นท่านก็ไปทำ เช่นนั้นยิ่งทำทางสายนี้จะกว้างขึ้นเรื่อยๆ เป็นเช่นนี้แน่นอน จะต้องไม่หลุดเข้าไปอยู่ในท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองของคนธรรมดาสามัญเป็นอันขาด

ศิษย์                 ศิษย์สิงคโปร์และมาเลเซีย ฝากความระลึกถึงมายังท่านอาจารย์

อาจารย์            ขอบใจทุกท่าน

ศิษย์                 เมื่อเวลาที่มีกรรมทางความคิดมาก  สามารถจะฟาเจิ้งเนี่ยนในขณะนั้นได้หรือไม่ ?

อาจารย์            ทำไปตามสภาพการณ์ของตนเอง    ที่จริงมีความคิดหลายอย่างที่สะท้อนออกมานั้น คือการรบกวน เช่นนี้ท่านทั้งหลายฟาเจิ้งเนี่ยนก็สามารถกำจัดมัน   มีบางอย่างเกิดจากจิตยึดติดของตนเอง บ้างก็เป็นทัศนคติที่บ่มเพาะขึ้นในสังคมโลก สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถกำจัดไปได้จากการฟาเจิ้งเนี่ยนเพียงครั้งเดียว  ดังนั้นมันมักจะปรากฏออกมาบ่อยๆ จะมีปรากฏการณ์ชนิดนี้      แต่ว่าไม่ใช่ว่าท่านไม่ได้ทำและไม่ใช่ว่าที่ท่านทำแล้วไม่ได้ผล แต่ว่าในแต่ละครั้งเพียงสามารถกำจัดไปได้ส่วนหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ที่กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางไว้ถูกองค์ประกอบของชีวิตชั้นสูงที่ลงมา จัดแยกมันออกเป็นส่วนๆจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นแต่ละครั้งที่ท่านฟาเจิ้งเนี่ยนจึงสามารถกำจัดไปได้เพียงส่วน สองส่วนแต่ก็ยังคงมีอยู่อีก

            ไม่เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ พวกมันสร้างเรื่องไว้มากมายในตรีภูมิ จัดวางสิ่งที่พวกมันต้องการเอาไว้มากมายเหลือเกินแล้ว และสิ่งเหล่านี้มากมายล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ในช่วงกาลเวลาอันยาวนานนั้น บอกให้กลุ่มอิทธิพลเก่าที่ได้ทำเรื่องเหล่านั้นเอาไว้ในเวลานั้น  ซึ่งเรียกว่าเทพมาแก้ไขมัน ก็ทำไม่ไหวแล้ว ถ้าหากไม่เจิ้งฝ่า ก็จะไม่อาจจะแก้ไขได้        จักรวาลมีเรื่องราวมากหลายเป็นเช่นนี้ พลังอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรของการเจิ้งฝ่าทั้งหมด ยังไม่ข้ามมา ก็ล้วนยากจะแก้ไข แต่กล่าวสำหรับเรื่องกรรมทางความคิดการฟาเจิ้งเนี่ยนสามารถกำจัดมันได้หมด

ศิษย์                 ในหนังสือเล่มเล็กที่อธิบายความจริง มีรูปและเรื่องราว ของผู้ที่เคยหลงผิดอยู่ ควรจัดการอย่างไรดี ?

อาจารย์            ผู้หลงผิด(สู่ทางมาร)เกิดจากการบีบบังคับในระหว่างการประทุษร้าย เมื่อพวกเขาถูกปล่อยกลับมา  พอผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งก็จะเข้าใจได้    แต่สำหรับพวกนั้นที่สร้างความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกคืนได้ให้กับต้าฝ่าและศิษย์ต้าฝ่า นั่นก็เป็นอีกกรณี

ศิษย์                 เร็วๆนี้มีผู้ฝึกใหม่มาฝึกพลัง จะชี้แนะให้พวกเขาศึกษาฝ่า  และกระตุ้นให้ผู้ฝึกใหม่เข้าร่วมการศึกษาฝ่าของพวกเราได้อย่างไร?

อาจารย์            การกระตุ้นให้พวกเขาฝึกพลังร่วมกัน ศึกษาร่วมกัน  นี้ไม่มีปัญหา  บอกให้ผู้ฝึกใหม่ทำเรื่องของศิษย์ต้าฝ่าในทันที เรื่องนี้อย่ารีบร้อนเกินไป เนื่องจากมีผู้ฝึกใหม่หลายคน จัดอยู่ในจำพวกศิษย์รุ่นถัดไป แต่เดี๋ยวนี้ก็มีที่ทยอยเข้ามาและจัดอยู่ในศิษย์รุ่นนี้ ผลที่เกิดขึ้นในการอธิบายความจริงของพวกท่าน ได้ทำให้กุญแจลูกนี้ถูกไขออกแล้ว ผู้บำพ็ญในอนาคตเริ่มต้นมากันแล้ว ล้วนมีสภาพการณ์ทั้งสองชนิดนี้

ศิษย์                 ในการทำงานด้านสื่อของพวกเรา ได้เปิดโปงข่าวการอำพรางให้เห็นความสงบราบรื่นของพรรคฯกับธาตุแท้ของมารร้ายหลายๆเรื่อง แต่ข่าวเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือสรรพชีวิตโดยตรง และการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าอย่างไร ขอให้ท่านอาจารย์ที่เคารพกรุณาชี้แนะ

อาจารย์            ที่จริงก่อนหน้านี้ เป้าหมายการอำพรางให้เห็นว่าสงบราบรื่น ของพวกมัน   ก็คือการปกปิดเรื่องจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายฝ่าหลุนกง   ลวงให้คนเห็นคล้ายกับว่าไม่มีเรื่องการประทุษร้ายเกิดขึ้น   เบื้องหลังกลับทำเรื่องการประทุษร้าย ที่ใหญ่ที่สุด เลวทรามที่สุด สกปรกที่สุดชั่วร้ายที่สุด   กับเรื่องจำพวกนี้สามารถเปิดโปงซึ่งๆหน้า  ส่วน เรื่องอื่นๆต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับการยืนยันความถูกต้องของฝ่าหรือไม่    ถ้าเกี่ยวข้อง ก็ไปทำ   ศิษย์ต้าฝ่านอกประเทศจีนเปิดโปงธาตุแท้ของพวกชั่วร้ายในสื่อต่างๆ  นั่นก็เป็นการบอกให้ชาวโลกเห็นชัดในแก่นแท้ของความชั่วร้ายในประวัติศาสตร์    ผู้ฝึกบางคนก็กำลังเปิดโปงสิ่งชั่วร้าย ที่ใช้เล่ห์กลของการอำพรางให้เห็นว่าสงบราบรื่น ในการปกปิดความชั่วร้าย เปิดโปงเบื้องหลังการทำเรื่องที่สกปรกชั่วร้ายของพวกมัน  มาโดยตลอด

ศิษย์                 เมื่อเวลาอธิบายความจริงให้ชาวจีนในวงกว้าง  เพื่อให้สะดวกต่อการติดต่อกับคนธรรมดาสามัญจึงใช้สิ่งที่สอดคล้องกับความสนใจของคนธรรมดาสามัญ ซึ่งการทำเช่นนี้ยากที่จะหลีกเลี่ยงองค์ประกอบที่เบี่ยงเบนไปแล้ว(ในทางลบ)   เนื่องจากมนุษย์ทั้งหมดได้เบี่ยงเบนไปแล้ว  แต่ทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำไปก็เพื่อเหลือไว้ให้แก่อนาคต จะจัดการความสัมพันธ์นี้ให้เหมาะสมได้อย่างไร?

อาจารย์            การอธิบายความจริงด้วยสติปัญญาเพื่อช่วยสรรพชีวิต จะไม่มีปัญหานี้อยู่      ในอนาคต สิ่งที่เหลือให้กับคนคือ จิตใจของศิษย์ต้าฝ่าในการเจิ้งฝ่ากับหนทางการกลับคืนสู่ความเที่ยงแท้   ในการอธิบายความจริงไม่ว่าจะใช้วิธีการพูดอย่างไร  เป้าหมายคือการบอกให้คนเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายครั้งนี้    ปัญหาความเชื่อและสิทธิมนุษยชนที่ถูกย่ำยีนั้น คนเหล่านี้ล้วนแต่สามารถเข้าใจได้    พูดถึงการอ้างอิงตัวอย่างต่างๆนั้นก็คือการทำเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต    อาศัยวัฒนธรรมต่างๆที่เบี่ยงเบนไปแล้วของมนุษย์ปัจจุบัน  มาใช้อธิบายความจริงนั้น ต้องระมัดระวัง   เพราะท่านไม่รู้ว่าเขายึดติดกับอะไร    เขายึดติดกับสิ่งเหล่านั้นอยู่แล้ว    ท่านก็ไม่สามารถทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง   ในการอธิบายสิ่งที่เขายึดติดนั้น ให้กระจ่างได้   ซึ่งอาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดี   พยายามพัวพันถึงปัญหาอื่นๆให้น้อยที่สุด

            พูดจากอีกด้านหนึ่ง มนุษย์ทั้งปวงล้วนแต่เป็นเช่นนี้ไปแล้ว  อะไรๆก็เบี่ยงเบนไปสิ้น  ไม่เพียงแต่เบี่ยงเบนไปแล้ว  จิตมารก็โตมากแล้วด้วย สังคมมนุษย์ทั้งหมดล้วนเสื่อมไปหมดแล้ว  หากไม่ใช่การเจิ้งฝ่า ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ก็ก้าวมาไม่ถึงวันนี้แล้ว   จักรวาล ได้รอดพ้นภัยพิบัติไปมากมายกี่ครั้งแล้ว ก็ด้วยเหตุนี้(เจิ้งฝ่า) มนุษย์คิดค้นระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นมาเพื่ออะไรหรือ?  สิ่งต่างๆบนโลกล้วนเป็นสิ่งที่เทพควบคุมคนให้ทำขึ้นมา  เรื่องอะไรๆก็ล้วนมีจุดประสงค์  เรื่องเหล่านี้แม้ว่าได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ว่าเรื่องราวใดๆของมนุษย์ ล้วนแต่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ  อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเจิ้งฝ่า พยายามอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อกำลังอธิบายความจริง   และก็อย่าพูดสูงเกินไปในการอธิบายความจริง  ทำเช่นนี้จะเกิดผลที่ไม่ดี   อะไรๆของมนุษย์ล้วนเสื่อมแล้วนี่คือความจริง

ศิษย์                 การอธิบายความจริงของศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเริ่มบำเพ็ญจะมีผลสะเทือนต่อ สิ่งชั่วร้ายหรือไม่ ?

อาจารย์            มีผล เพราะในเวลาเดียวกัน กับ ที่ข้าพเจ้ากำจัดองค์ประกอบของสิ่งชั่วร้ายนั้น มนุษย์กับมิติทั้งหมดใน ต้าเฉวียง (ท้องนภาใหญ่) มิติทั้งหมดในตรีภูมิ  ล้วนแต่เต็มไปด้วยองค์ประกอบของต้าฝ่า   ข้าพเจ้าไม่พูดแต่เพียง จักรวาลใหม่  ชีวิตหนึ่งๆขอเพียงก่อผลที่ดี  องค์ประกอบของต้าฝ่าก็จะให้พลังกับเขา ชีวิตๆนี้ จากนี้ไปก็จะเริ่มได้รับผลกรรมที่ดี (สิ่งที่ดีตอบสนอง)   เดี๋ยวนี้พวกเราไม่ใช่รู้กันแล้วหรือว่ามีตัวอย่างแบบนี้เกิดขึ้นมากมาย ?  หรือพูดได้ว่าในการอธิบายความจริงของผู้ฝึกใหม่คนหนึ่ง องค์ประกอบของต้าฝ่า ฝ่าเซินของอาจารย์ ยังมีเทพเหล่านั้นที่ร่วมปฏิบัติการอย่างเต็มที่ ล้วนแต่สามารถช่วยเหลือ จุดนี้เป็นของแน่ แต่ก่อนอื่นตัวผู้ฝึกใหม่เองต้องลงมือทำ

ศิษย์                 ควรจัดวางอย่างไรดีระหว่างเรื่องการเจิ้งฝ่ากับการชี้นำลูกบำเพ็ญ ในช่วงเวลาที่กระชั้นเข้ามาของการเจิ้งฝ่า ?

อาจารย์            เรื่องรูปธรรมเหล่านี้เป็นเรื่องของตนเองในการจัดวางให้ดี

ศิษย์                 ควรเข้าใจอย่างไรดีกับเรื่อง ความสอดคล้องกับสภาพของคนธรรมดาสามัญ ?

อาจารย์            ในชีวิตประจำวันท่านพยายามบำเพ็ญให้สอดคล้องกับสภาพของคนธรรมดาสามัญ   การบำเพ็ญต้าฝ่าก็ไม่มีข้อห้ามอะไร การดำเนินชีวิต โดยพื้นฐานควรคงรักษาให้เหมือนกับคนธรรมดาสามัญมากที่สุด โดยรูปแบบโดยพื้นฐานให้สอดคล้องกับสภาพสังคมของคนธรรมดาสามัญ ก็เป็นเช่นนี้    และก็เป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่งด้วย    เรื่องเหล่านี้ข้าพเจ้าเคยพูดหลายต่อหลายครั้งแล้ว  ในการบรรยายฝ่าหลายครั้งก็บอกไว้แล้วว่าควรทำอย่างไร

ศิษย์                 คนจำนวนมากไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับต้าฝ่า กับ ความจริงของการประทุษร้าย   และไม่ได้ร่วมในการประทุษร้าย   ขอให้ท่านอาจารย์กรุณาชี้แนะ เกี่ยวกับความหมายของการอธิบายความจริงให้กับคนเหล่านี้

อาจารย์            บางคนไม่เคยได้ยิน “ต้าฝ่า” มาก่อน และไม่เคยได้ยินการประทุษร้ายนี้มาก่อน  การอธิบายความจริงกับพวกเขาก็มีความหมายสำคัญมากเช่นกัน   ชาวโลกอยู่ในช่วงเวลาอันยาว ถูกปิดกั้นมาโดยตลอด   จนกระทั่งทำให้ชีวิตเหล่านี้ ในช่วงของการเวียนว่ายตายเกิดอันยาวนานต่างกำลังเฝ้ารอคอยเรื่องนี้อยู่ จะไม่อาจเข้าใจได้ในชั่วประเดี๋ยวเดียว  ในการอธิบายความจริงของท่านทั้งหลาย สามารถบอกเขาได้ ไม่เพียงแต่เรื่องแบบนี้ที่เกิดขึ้นบนโลก ท่านยังบอกเรื่องต้าฝ่าให้เขา บอกเขาว่าต้าฝ่า คืออะไร  นี่ก็จะเปิดวาสนาที่เขารอคอยซึ่งถูกปิดกั้นมานาน  ทำให้เขาเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่เขารอคอยมาถึงแล้ว

ศิษย์                 ในระยะก่อนตนเองทำได้ไม่ดี  จากนี้เริ่มทำให้ดี  ยังจะตามทันไหม?

อาจารย์            เจิ้งฝ่ายังไม่เข้ามาสู่โลก นี่ก็คือโอกาส   จะตามทันหรือไม่ทันนั่นคือเรื่องของท่านเอง  บางคนเคร่งครัด  บางคนย่อหย่อน  บางคนความผิดที่ทำไว้มากเกินไป เขายังไม่คิดชดใช้  ยังคงเอ้อระเหยลอยชายเหมือนก่อน  นั่นก็ยากจะพูดแล้ว  ดังนั้น เพียงเรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด  นั่นล้วนคือโอกาส

ศิษย์                 ในระยะนี้ผู้ฝึกหลายคนที่แบกรับการงานไว้มาก รู้สึกอ่อนล้า กำลังวังชากับสภาพการณ์ไม่เหมือนเมื่อก่อน จะฝ่าข้ามไปได้อย่างไร?

อาจารย์            นั่นก็ต้องพูดเป็นสองด้าน  ด้านหนึ่งคือ ผู้ฝึกทำจนหักโหม(ลำบาก)เกินไป หักโหมเกินไปจริงๆ   ดำเนินการรับผิดชอบเองมากเกินไป   เช่นนั้นจะสามารถหาคนช่วยสักหน่อยได้หรือไม่   หรือคิดหาวิธีอย่างไรในการแก้ไขปัญหานี้   นี่เป็นจุดหนึ่ง    อีกหนึ่งก็คือ   ศิษย์ต้าฝ่าเราหลายคนเหนื่อยล้ามากจริงๆ แต่อีกด้านคือไม่ใส่ใจบำเพ็ญศึกษาฝ่า ทำเรื่องต่างๆ มากมายตนเองกลับไม่บำเพ็ญ ก็จะรู้สึกอ่อนล้า เหน็ดเหนื่อย รู้สึกมีอุปสรรค  ที่จริงข้าพเจ้าพูดมาโดยตลอดว่า    การบำเพ็ญไม่กระทบต่อการทำงานของต้าฝ่า  เป็นเรื่องแน่นอน   เพราะการฝึกพลังสามารถขจัดความเหนื่อยล้าได้ดีที่สุด  คือวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ร่างกายฟื้นคืนโดยเร็ว

ศิษย์                 สรรพชีวิตทั้งหมดที่ถูกกลุ่มอิทธิพลเก่ากวาดทิ้งไป   ต้าฝ่ามีวิธีที่จะทำให้เขาฟื้นคืนชีพ  เกิดในจักรวาลใหม่ได้ไหม?

อาจารย์            สรรพชีวิตที่ถูกกลุ่มอิทธิพลเก่ากวาดทิ้งไป  เรื่องนี้พูดขึ้นมา เป็นเรื่องใหญ่มาก   ถ้าหากกลุ่มอิทธิพลเก่าไม่รบกวน   ในประวัติศาสตร์สรรพชีวิตทั้งหมดถึงมีบาปยิ่งกว่านี้ ข้าพเจ้าก็สามารถขจัดบาปกรรมของพวกเขา    บุญคุณความแค้นที่สลับซับซ้อนในประวัติศาสตร์ระหว่างสรรพชีวิตมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นไหน  บนล่างสลับตัดกัน  แนวดิ่งแนวระนาบ  ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงสลับซับซ้อนอย่างลึกซึ้งเหล่านั้น    ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าล้วนสามารถจัดการได้   อะไรข้าพเจ้าก็ทำได้หมด   หรือพูดได้ว่าข้าพเจ้าสามารถช่วยเหลือชีวิตในจักรวาลทั้งหมดขึ้นมา  แต่พวกมัน เหล่า กลุ่มอิทธิพลเก่าก็เอาแต่จะกวาดทิ้งไปส่วนหนึ่ง

            แน่ละข้าพเจ้ายังมีวิธีการ ที่กลุ่มอิทธิพลเก่าคิดไม่ถึง   ข้าพเจ้าสามารถทำให้ชีวิตที่ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นไร้ร่องรอย กระทั่งว่าในช่วงเวลาอันยาวนาน ที่ถูกเปลี่ยนไป เป็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พืช ทั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดต่างๆ ข้าพเจ้าก็สามารถค้นหามันกลับมา   เพราะข้าพเจ้าสามารถอยู่เหนือระดับจุลภาคที่สุดของชีวิตทั้งปวง ดังนั้นจึงสามารถหามันพบ (เสียงปรบมือ) กระทั่งข้าพเจ้าสามารถหาองค์ประกอบและสสารดั้งเดิมของชีวิตที่ไม่อาจมีอยู่อีกต่อไปตลอดกาลกลับมาได้ หาองค์ประกอบดั้งเดิมที่ประกอบเป็นชีวิตนั้นกลับมา หาองค์ประกอบทั้งหมดที่ประกอบมันขึ้นมาตามลักษณะดั้งเดิมกลับมา ข้าพเจ้าก็สามารถสลายความผิดบาปส่วนนั้น กับในขั้นตอนนั้นที่มีต่อต้าฝ่า และประวัติศาสตร์ช่วงนั้น ของชีวิตหนึ่ง ข้าพเจ้าสามารถให้ชีวิตหนึ่ง เป็นดั่งประหนึ่งว่าไม่เคยผ่านประวัติศาสตร์ช่วงนั้น ได้เกิดออกมาใหม่   อะไรข้าพเจ้าก็ทำได้  แต่ว่าก็ไม่ใช่ทำตามชอบใจ  ต้องดูมูลเหตุ  อาจารย์จะต้องใคร่ครวญเพื่อจักรวาลในอนาคตเสมอ ใคร่ครวญเพื่อความงดงามของอนาคต ใคร่ครวญเพื่อสรรพชีวิตในอนาคต ( เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 ในช่วงก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มอิทธิพลเก่าเคยตกลงเป็นพิเศษกับอาจารย์ในการจำกัดการเจิ้งฝ่าหรือไม่? ถ้ามี สัญญาทั้งหมดสมควรยกเลิก แล้วปฏิบัติตามการจัดวางทั้งหมดของพระพุทธเจ้า

อาจารย์            ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลาย   ที่จริงในประวัติศาสตร์กลุ่มอิทธิพลเก่านี้ ได้สร้างเรื่องต่างๆมากมายขึ้นมา โดยอาศัย เฟินเซิน (ร่างที่แยกมาจากร่างหลัก) ของข้าพเจ้าที่กลับชาติมาเกิดในสังคมคนธรรมดาสามัญ  เมื่อข้าพเจ้ากลับชาติมาเกิดครั้งแล้วครั้งเล่าในโลก  พวกมันก็อาศัยโอกาสนี้ควบคุมสรรพสิ่งและเจาะช่องว่าง (ทำ)   เนื่องจากเวลานั้นไม่ใช่การถ่ายทอดฝ่า ทั้งหมดเป็นการอยู่ในสภาพของคนเพื่อทำให้คน(ส่วนประกอบของคนของข้าพเจ้า)สมบูรณ์  พวกมันจึงยัดเยียดสิ่งที่พวกมันต้องการหลายเรื่องเพิ่มเข้ามา  โดยแท้จริงนั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการทำ  แต่ว่ากลับเกิดเรื่องขึ้นในโลกแล้ว   เรื่องอย่างนี้ ล้วนเกิดขึ้นมากมายในแต่ละยุค    เมื่อเฟินเซินของข้าพเจ้ากลับชาติมาเกิด  พวกมันก็มาควบคุม  ดังนั้นเรื่องราวมากมายในประวัติศาสตร์  พวกมันจึงผลักเข้ามาในตัวข้าพเจ้า   แล้วพูดว่า “ท่าน(ข้าพเจ้า)ทำเอง”  แน่นอนข้าพเจ้าไม่ได้ยินยอม   ประวัติศาสตร์นั้นยาวนานมาก  ในช่วงกาลเวลาที่ยาวนานนี้พวกมันทำเช่นนี้ไม่หยุดหย่อน เรื่องราวนั้นสลับซับซ้อนเหลือเกินแล้ว  และแก้ไขไม่ได้แล้ว   ก็ต้องรอดูในระหว่างการเจิ้งฝ่า  ดังนั้นพอข้าพเจ้าเริ่มการเจิ้งฝ่า  พวกมันพบว่าทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่พวกมันต้องการ    ตอนนี้เองที่กลุ่มอิทธิพลเก่าเริ่มต้นต่อต้าน  ปรากฏออกมายิ่งชัดเจน

            ในการถ่ายทอดฝ่าสิบกว่าปี   ที่พวกท่านมองเห็นเป็นเพียงการรบกวนที่ชั้นผิวนอก   ที่จริงในอีกมิติหนึ่งนั้นน่าอกสั่นขวัญผวายิ่งนัก   ชั่วร้ายอย่างที่สุด    แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการบำเพ็ญของพวกท่านแต่ละคน   บำเพ็ญยกระดับซินซิ่ง  ขจัดจิตยึดติด  นั่นล้วนเป็นเรื่องของพวกท่านเอง การรบกวนของพวกมันล้วนทำไปเพื่อขั้นตอนของประวัติศาสตร์ กับ ประวัติศาสตร์แห่งอนาคต สำหรับชีวิตในหมู่กลุ่มอิทธิพลเก่า  เพื่อที่จะช่วยเหลือพวกมัน    ข้าพเจ้าก็ได้พูดหลักการของฝ่าให้ฟังโดยตลอดมา    บ้างก็ฟัง  บ้างก็รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนแต่ผิด  แต่ว่าพวกมันแก้ไขไม่ได้แล้ว  เพราะประวัติศาสตร์ได้ผ่านไปแล้ว   สิ่งที่พวกมันจัดวางอย่างเป็นรูปธรรม ล้วนเกิดการเบี่ยงเบนแล้ว  พวกมันยิ่งแก้ไขไม่ได้แล้ว

            ปัญหาที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่  ( อาจารย์หัวเราะ)  หลายคนกำลังคิดอยู่   สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดนั้นคือเรื่องใหญ่เหล่านั้นของเนื้อแท้ประวัติศาสตร์  ไม่เกี่ยวพันมาถึงตัวศิษย์ต้าฝ่า

ศิษย์                 การทำงานของต้าฝ่า  ต้องศึกษาฝ่า    แต่ก็ยังมีงานต้องทำ    ขณะศึกษาฝ่ามักมีโทรศัพท์เข้ามา   ตนเองรู้สึกขัดแย้งมาก    ที่ตนเองสนใจแต่ศึกษาฝ่า  เป็นการเห็นแก่ตัวหรือไม่ ?

อาจารย์            ข้าพเจ้าคิดว่า ศึกษาฝ่า ก็ คือศึกษาฝ่า   ใครก็รบกวนไม่ได้    เนื่องจากท่านบำเพ็ญไม่ดี  สิ่งที่ท่านทำทั้งหมดล้วนไม่มีธรรมานุภาพ   เรียกคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งมา ให้ผลประโยชน์เขาหน่อย  ให้เงินเขาหน่อย แล้วให้เขาทำเรื่องของต้าฝ่า  เขาจะทำหรือไม่?  เขาย่อมทำได้   อย่างนั้นไม่ใช่คนธรรมดาสามัญทำเรื่องของต้าฝ่าหรือ?   ความหมายอยู่ตรงไหน ?  เป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร ? ดังนั้นศิษย์ต้าฝ่าต้องบำเพ็ญตนเองให้ดี   สถาปนาธรรมานุภาพ  พร้อมๆไปกับการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่า    นี่คือสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำ  และรู้ว่าควรทำอย่างไร  จะทำให้ดีได้อย่างไร  ?

            แต่ที่ยกขึ้นมากล่าวเมื่อครู่นั้น  คือสภาพการณ์เมื่อไม่มีเรื่องสำคัญอะไร   เป็นสภาพการณ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นมาก   วางเรื่องอื่นๆลงสักพัก  แล้วศึกษาฝ่า  นี่เป็นสิ่งถูกต้อง     อย่างเช่น(เวลา)ศึกษาฝ่า พยายามไม่ให้ถูกรบกวน  ก็ปรับโทรศัพท์ ให้ ฝากข้อความไว้ ( เสียงที่ประชุมหัวเราะ)

ศิษย์                 ในการอธิบายความจริงมีเรื่องต้องทำมากมาย  ทำอย่างไรก็ไม่ครบ  เรื่องที่ควรทำก็ทำไม่หมด  จะทำอย่างไรดี ?

อาจารย์            ข้าพเจ้าคิดว่า  ท่านทั้งหลายต่างทราบดีว่า  เร่งด่วน   เรื่องที่จะทำมีมาก  พยายามจัดวางให้ดี  ท่านทั้งหลายก็กำลังทำกันอยู่  ในการทำก็ปรึกษากัน  ย่อมสามารถทำได้เร็วหน่อย

ศิษย์                 ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดของสถานีโทรทัศน์ ฝ่าหลุนต้าฝ่าโลก ฝากความระลึกถึงท่าน

อาจารย์            ขอบใจทุกท่าน

ศิษย์                 มักมีศิษย์ต้าฝ่าขอให้พวกเราอ่านจิงเหวินใหม่ของอาจารย์และอัดเสียง(ที่อ่านกัน)    มาใช้ศึกษาฝ่า เนื่องจากไม่มีเสียงอาจารย์  เรียนถามว่าจะได้ผลเหมือนการฟังอาจารย์บรรยายหรือไม่ ?

อาจารย์            ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดถึงปัญหาการแปล การบรรยายฝ่าของข้าพเจ้าจากเทปบันทึกเสียง   ถ้ามีเสียงของอาจารย์ก็ใช้ได้   แต่ข้อเขียนของข้าพเจ้ามากมาย ไม่มีเสียงของข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าคิดว่า สามารถทำเช่นนี้ได้  ในช่วงเวลาพิเศษของการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า    พูดเลยไปถึงมนุษย์ในอนาคต(ทำเช่นนี้) ทำอย่างนั้นไม่ได้

            ในการยืนยันความถูกต้องของฝ่าของศิษย์ต้าฝ่า   ข้าพเจ้าได้เปิดทางสะดวกให้กับพวกท่านแล้วในหลายๆเรื่อง  มีหลายๆเรื่อง ที่จริง ไม่อาจทำได้ในการบำเพ็ญ ในสภาพการณ์พิเศษ   ข้าพเจ้าก็ได้อนุญาตให้พวกท่านทำได้ รวมทั้งรูปแบบวิธีการหลายอย่างในการอธิบายความจริงของท่านทั้งหลาย   นั่นก็เพื่อการช่วยเหลือสรรพชีวิต  ดังนั้นจึงทำเช่นนี้   ไม่มีอะไรผิด   ถ้าหากเป็นปัญหาเรื่องการบำเพ็ญส่วนบุคคล     หลายเรื่องล้วนไม่อนุญาต   ล้วนแต่ทำไม่ได้

ศิษย์                 ศิษย์ได้ฝ่าหลัง 20  กรกฎาคม    ในระยะนี้พบกับทุกข์ภัยใหญ่มาก   แยกไม่ออกว่าเป็นด่านที่ท่านอาจารย์จัดวางให้หรือ เกิดจากจิตยึดติดของตนเอง  รู้สึกผิดต่อท่านอาจารย์ที่เคารพ ที่เมตตาช่วยเหลืออย่างยากลำบาก

อาจารย์            มีบางปัญหาที่ไม่อาจจะคิดได้ทะลุปรุโปร่งจริงๆในช่วงสั้นๆในระหว่างการบำเพ็ญ     มีจิตยึดติดหลายอย่างหรือ มูลเหตุหลายอย่างที่ล้วนไม่อาจตรวจสอบได้ ในระยะเวลาสั้นๆ   ดังนั้นบางครั้งรู้สึกว่ายากมาก    แต่พูดในทางกลับกัน   หากปัญหาอะไรๆของผู้บำเพ็ญ สามารถคิดได้ทะลุปรุโปร่งในทันที   ด่านอะไรๆก็ผ่านไปได้ในชั่วประเดี๋ยวประด๋าวแล้ว   นี่ไม่สบายเกินไปหรอกหรือ ?  ( อาจารย์หัวเราะ) สบายเกินไปหน่อย  ข้าพเจ้าหมายถึงการบำเพ็ญส่วนบุคคล

            แน่นอนว่า มีบ้างที่ในนั้นเป็นการรบกวนของกลุ่มอิทธิพลเก่า   ยัดเยียดเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าไม่ควรต้องข้ามเลยสักนิด  กระทั่งคือปัญหาที่ยากจะแก้ไข  โดยเฉพาะคือในขั้นตอนของประวัติศาสตร์ของการยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต ล้วนแต่ก่อผลการรบกวน และก็มีเรื่องเช่นนี้จริงๆ ดังนั้นกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า จะทำอย่างไรกันดีละ?  ข้าพเจ้าว่า  ต้องพยายามไปทำให้ดี ศึกษาฝ่าให้มาก ทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำให้มากๆ    เรื่องราวมากมายนั้น หากพวกท่านเดินไปได้อย่างเที่ยงตรง ทำได้ดีแล้ว ปัญหาต่างๆก็จะแก้ตกได้ไปตามๆกัน  อย่าได้แก้ปัญหา เพียงเพื่อจะแก้ปัญหา  จะง่ายต่อการเกิดจิตยึดติดใหม่ขึ้นมา

ศิษย์                 ควรยึดกุมอย่างไรกับ การไปอธิบายความจริงจากจุดยืนของวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ จีนโบราณ

อาจารย์            ท่านทั้งหลายสามารถยกตัวอย่างในประวัติศาสตร์หลายตัวอย่าง    อ้างอิงเรื่องจริงด้านต่างๆในวิทยาศาสตร์   อย่างนี้ล้วนไม่มีปัญหา  แต่ว่าต้องให้เหมาะสม     หากยกตัวอย่างได้ไม่เหมาะสม  ความเชื่อถือในการพูดก็ไม่มาก  ทำให้เหมาะกับกรณี

ศิษย์                 ญาติผู้น้องของผม กับผม เป็น นักประพันธ์อังกฤษ   พวกเราอยากรู้ว่า   พวกเราสามารถเลือกคนใดๆในประวัติศาสตร์ขึ้นเป็นตัวอย่างที่เป็นมรดกตกทอดมาแต่โบราณกาลได้ไหม?   เช้คสเปียร์เป็นที่เล่าลือกันมาก (ส่งผลกระทบมาก)   นักประพันธ์ของกรีกโบราณก็ส่งผลกระทบมาก   พวกเราสามารถนำแบบอย่างท่วงทำนองของพวกเขามาใช้เขียนได้ไหม ?  ทำเช่นนี้เป็นการกำหนดมาตรฐานของพวกเราสูงเกินไปหรือไม่ ?

อาจารย์            กำหนดไว้ต่ำเกินไปแล้ว ( ที่ประชุมหัวเราะ)   ท่านคือศิษย์ต้าฝ่า  ท่านคือตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์  ท่านคือผู้ที่ สรรพชีวิตอยากจะเป็น แต่เป็นไม่ได้   ท่านต้องบุกเบิกแบบอย่างท่วงทำนองใหม่ให้กับอนาคต   เช่นนั้นยังไม่สูงอีกหรือ?    สามารถเขียนสะท้อนด้านที่ดีของบุคคลบางคนในประวัติศาสตร์ได้   แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ศิษย์ต้าฝ่าควรเดินบนทางของตนเอง ใช่หรือไม่ ?   นั่นจึงจะเป็นเรื่องสร้างสรรค์ (เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 ขอเชิญท่านอาจารย์พูดอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่  เกี่ยวกับท่าทีที่ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองของศิษย์ต้าฝ่า อาทิเช่นพฤติกรรมการฟ้องหัวหน้ามารร้าย ?

อาจารย์            มารร้ายตัวนี้คือตัวการที่ทำร้ายศิษย์ต้าฝ่า เราขอบอกท่าน นี่ไม่ใช่การยุ่งเกี่ยวการเมือง   มันประทุษร้ายศิษย์ต้าฝ่าจนตาย ตั้งมากมาย   ไม่สมควรต้องชดใช้หรือ ?  ไม่ควรเปิดโปงมันออกมาหรือ ? ความชั่วร้ายครั้งนี้ไม่ควรยุติหรือ?

สรรพชีวิตทั้งปวงในตรีภูมิล้วนมาเพื่อฝ่านี้    ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝ่านี้    หรือกล่าวได้ว่า   รูปแบบวิธีการทั้งหลายในตรีภูมิ รวมทั้งรูปแบบวิธีการต่างๆในสังคมมนุษย์   ในนั้น แน่นอนว่า ก็รวมถึงกฎหมายในปัจจุบัน   รวมทั้งรูปแบบวิธีการอื่นๆที่ดำรงอยู่ในหมู่มนุษย์   ในเมื่อทั้งหมดนี้สร้างขึ้นมาโดยฝ่า ทำไมในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า จะใช้เพื่อต้าฝ่าไม่ได้ล่ะ  ?    ใช้ได้ซิ   แต่ว่าพวกเราเลือกเอาแต่ที่ถูกต้อง  ที่ดี  ที่ให้ประโยชน์ในด้านบวก    พวกเราใช้ประโยชน์อย่างรู้จักเลือก  นี่คือการพูดจากแง่มุมที่กว้างกว่า

เมื่อมองแคบลงมา พูดได้ว่า   พวกเราไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเมืองเลย   ความดี ความเลว ของมนุษย์   ประชาชนจีนจะเลือกระบอบการปกครองใด  นั่นเป็นเรื่องของคน  ข้าพเจ้าและศิษย์ต้าฝ่าไม่เคยพูดว่าสมควรเลือกระบอบการปกครองชนิดใด วิถีชีวิตแบบใดรวมทั้งการชูสังคมประชาธิปไตยขึ้นมาของนักประชาธิปไตยในวันนี้ก็ดี  ข้าพเจ้าก็ไม่เคยให้ศิษย์ต้าฝ่าเข้าร่วม    ศิษย์ต้าฝ่าเพียงเจาะจงเรื่องการเปิดโปงการการประทุษร้ายครั้งนี้เท่านั้น  พวกเราเพียงกำลังทำให้การประทุษร้ายครั้งนี้ยุติลง   ไม่สมควรทำหรือ ? คนในบ้านของคุณถูกประทุษร้ายจนตายแล้ว   ท่านไม่ไปหาเขาเพื่อหาความยุติธรรมหรือ?   ท่านไปหาเขาเพื่อหาความยุติธรรม เขาก็พูดว่าท่านยุ่งเกี่ยวกับการเมือง    เหตุผลอย่างนี้ถูกต้องไหม? !ไม่ถูกเลย

นับแต่วันนั้นที่ข้าพเจ้าเริ่มถ่ายทอดฝ่านี้   ข้าพเจ้ากับผู้ฝึกไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง   ไม่ฟังไม่ถามไถ่สักนิด   แต่ว่าต้าฝ่าเรากลับให้ประโยชน์แก่สังคม   แก่ประชาชาติที่ดำเนินชีวิตในระบบสังคมที่ต่างกัน  แก่ประเทศต่างๆ   ไม่ว่าท่านเป็นระบอบใด    มีเพียงพวกที่ไร้สติที่สุด ชั่วร้ายที่สุด   พวกโง่เง่าที่สุดในโลก นับแต่อดีตจนปัจจุบัน จึงได้ทำเรื่องที่โง่เง่าชนิดนี้ออกมา   การประทุษร้ายสิ่งที่ดีงามที่สุด   กลุ่มคนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมที่สุด   เพราะในสายตาพวกมันนั้นมองแต่เรื่องอำนาจการเมือง    เป็นผลดีต่อประชาชนหรือไม่ พวกมันไม่สนใจทั้งนั้น    พอมีการเคลื่อนไหวสักนิดในสังคม  พวกมันก็คิดทันทีว่า อำนาจทางการเมืองของพวกมันจะถูกคุกคามหรือไม่  ช่างใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยจริงๆ   ค้ำยันอำนาจทางการเมืองนี้จนเหน็ดเหนื่อยจริงๆ !  และทำชั่วเพราะเหตุนี้  ข้าพเจ้ามองว่าอำนาจการเมืองนี้สมควรจบสิ้นได้แล้ว (เสียงปรบมือ)

ในระหว่างการอธิบายความจริงมีคนส่วนหนึ่งที่ถูกหลอกและปิดบังจากการโฆษณาชวนเชื่อ พูดว่าพวกท่านยุ่งเกี่ยวกับการเมือง  นั่นเพราะถูกยาพิษของพวกชั่วร้ายจึงได้พูดเช่นนี้   พวกเราสามารถบอกพวกเขา  ให้พวกเขาแบ่งแยกถูกผิด  เข้าใจใหม่   หาไม่แล้วเขาก็ตัดทางเดินในภายหน้าของเขาแล้ว   แน่นอนคนเลือกอะไรล้วนเป็นเรื่องของตัวเขาเอง

ศิษย์                 ขอเรียนถามในระยะนี้มีศิษย์บางคนถูกพรากชีวิตไปโดยกลุ่มอิทธิพลเก่าด้วยรูปแบบของปีศาจแห่งโรค  จะหยวนหมั่นได้หรือไม่?

อาจารย์            ปัญหานี้ข้าพเจ้าเคยพูดหลายครั้งแล้ว   ผู้ฝึกเราจำนวนมากก็รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรแล้ว    พูดจากการบำเพ็ญ  คนคิดอยากจะก้าวออกมาจากคนธรรมดาสามัญ ก็ต้องละทิ้งจิตยึดติดทั้งหมด  ดังนั้นกลุ่มอิทธิพลเก่าจึงเจาะช่องว่างทำการจัดวางของๆพวกมันทั้งหมดนั้น    เช่นมันจัดวางให้ผู้ฝึกนั้นๆถึงเวลาไหนขณะใดเกิดไม่สบายขึ้นมา    ผู้ฝึกนั้นๆถึงเวลาไหนขณะใดต้องล่วงลับไปก่อน   กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางคนส่วนหนึ่งที่พวกมันเลือกไว้ให้เข้ามา    การแสดงออกของคนเหล่านี้ก็บำเพ็ญต้าฝ่า โดยเฉพาะบางคนแสดงออกมาว่าก้าวหน้ามาก   แต่ที่จริงพวกเขาคือผู้ที่กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางเข้ามา  ถึงเวลาก็แสดงกลเม็ดนั้นออกมา    กลุ่มอิทธิพลเก่าก็จงใจจะกวาดชีวิตเหล่านี้ทิ้งตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงเรียกให้พวกเขารบกวนต้าฝ่าจากนั้นก็มีบาป  ก็ใช้พวกเขาเป็นประโยชน์อย่างนี้    แน่นอนล่ะ พวกมันก็คัดเลือกชีวิตที่พวกมันจะกวาดทิ้งไป  จึงทำเช่นนี้  ในประวัติศาสตร์ ในหมู่ศิษย์ต้าฝ่าของข้าพเจ้าก็เคยถูกพวกมันใช้ประโยชน์  ถูกพวกมันหลอก   เช่นถึงเวลานั้นๆท่านต้องทำอย่างนี้จึงจะหยวนหมั่นได้ ก็มีสภาพการณ์ชนิดนี้ด้วย  ดังนั้นจึงก่อเกิดสิ่ง จริงๆเท็จๆขึ้นมา   คนไหนมาก่อให้เกิดความสับสน   คนไหนเป็นศิษย์ต้าฝ่า   แยกไม่ชัดในชั่วเวลาสั้นๆ

            แต่ว่าพวกเราไม่มองทั้งนั้น  ไม่ว่าท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่าที่กลุ่มอิทธิพลเก่าจัดวางมาหรือเคยถูกหลอกมา   ได้อ่านฝ่าของข้าพเจ้าแล้ว เป็นศิษย์ของข้าพเจ้า ก็คือศิษย์ต้าฝ่า   ไม่ยอมรับการจัดวางของ กลุ่มอิทธิพลเก่าโดยสถานเดียว  ข้าพเจ้าก็จะรับผิดชอบเขา   แต่เรื่องเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดการรบกวนต่อศิษย์ต้าฝ่าจริงๆ   ผู้ฝึกเหล่านี้ต่างรู้ว่าไม่ยอมรับการจัดวางของ กลุ่มอิทธิพลเก่า แต่ไม่มีวิธีที่จะสลัดพ้น  ชีวิตพวกนี้ข้าพเจ้าก็ช่วยเหลือ ( เสียงปรบมือ)  แน่นอนศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกหลอก   นั่นก็ไม่ต้องพูดแล้ว  ต้องหยวนหมั่นแน่นอน แต่ในระหว่างช่วงเวลานี้ ได้ก่อให้เกิดผลที่ไม่ดีอย่างมากจริงๆ และก็ไม่มีสติสัมปชัญญะ  เช่นนั้นก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง

            ที่จริงมีจำนวนมาก  อยู่ในยุคนี้  รวมทั้งที่กลุ่มอิทธิพลเก่าก็ดี  ยังมีศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกหลอกก็ดี   หลายๆคนที่ทำได้ไม่เลวเลย  ไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียมากต่อต้าฝ่า   และการแสดงออกด้านต่างๆในครอบครัว ก็ดีมากทีเดียว

            ที่จริงพวกที่ถูกการประทุษร้ายจนตายในจีนแผ่นดินใหญ่   มีจำนวนไม่น้อยเป็นศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกหลอก   และก็มีที่เป็นการจัดวางของพวกมัน   ล้วนแต่เป็นการตกลงของเขาเองในประวัติศาสตร์ยุคใดยุคหนึ่ง ดังนั้นจึงจัดการยาก โดยเฉพาะเมื่อถูกการประทุษร้ายเขาก็ไม่ตื่นตัว ไม่มีสติสัมปชัญญะ   ไม่คิดว่าตนเองเป็นศิษย์ต้าฝ่า   คล้ายกับว่าทั้งหมดนี้เป็นการประทุษร้ายระหว่างคนกับคนด้วยกัน บวกกับการจัดวางของกลุ่มอิทธิพลเก่าในประวัติศาสตร์ต่อตัวเขา เข้าไปอีก   เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธ   ท่านทั้งหลายว่าอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ?   ดังนั้นเรื่องราวมากมายไม่ง่ายอย่างที่คิด   การบำเพ็ญเป็นเรื่องเข้มงวดอย่างยิ่ง   เรื่องการเจิ้งฝ่านี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย

ศิษย์                 กงสุลจีนอาศัยการคุกคาม อาศัยผลประโยชน์ล่อลวงองค์กรชาวจีนโพ้นทะเล  อาศัยอารมณ์ความรักชาติของชาวจีนโพ้นทะเล  ปลุกระดมการเกลียดชังฝ่าหลุนกง    ควรทำอย่างไรดี?

อาจารย์            การอธิบายความจริงเป็นกุญแจสารพัดนึก    การดึงคนมาเป็นพวก ล้วนแต่เป็น เงินทอง  ผลประโยชน์   ล้วนเป็นสิ่งของๆคนธรรมดาสามัญ   นั่นล้วนเป็นเรื่องชั่วคราว    แต่สิ่งที่ท่านให้ เขา เป็นเรื่องชั่วนิรันดร์ของชีวิต   และชีวิตบนโลกก็ล้วนดำรงอยู่บนโลกเพื่อเรื่องนี้    อย่าประเมินเรื่องที่พวกท่านทำ ต่ำเกินไป   เมื่อท่านอธิบายความจริงอย่างทะลุปรุโปร่งให้ชาวโลก  นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว   หาก(เขา)ยังไม่เอา นั่นก็เป็นการเลือกอนาคตของคน

            นับแต่ข้าพเจ้าให้พวกท่านอธิบายความจริงตลอดมาจนถึงวันนี้   แม้ว่าประวัติศาสตร์ช่วงนี้ไม่ยาวนาน  แต่การเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงมากอย่างยิ่ง    เมื่อข้าพเจ้าเริ่มต้นให้พวกท่านอธิบายความจริง  เวลานั้นยังมีองค์ประกอบมากมายเป็นอุปสรรคอยู่   เดี๋ยวนี้ก็ยังคงมี   แต่ว่าน้อยลงมากแล้ว เช่นนั้นก็อาจพูดได้ว่า องค์ประกอบที่รบกวน การอธิบายความจริงยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ   องค์ประกอบที่ช่วยให้คนเข้าใจยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ    เมื่อก่อนมีหลายๆครั้งการอธิบายความจริงไม่สามารถเกิดผลลัพธ์ที่ดีมากได้   เป็นเพราะองค์ประกอบจากภายนอกของสิ่งชั่วร้ายก่อผลในการรบกวน   เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนกันแล้ว   มีเมตตาใช่ไหม  คิดวิธีช่วยเหลือชาวโลกเถอะ  ให้ชาวโลกมากยิ่งขึ้นเข้าใจความจริง

            ทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าทำนั้นยิ่งใหญ่  และสำคัญอย่างยิ่ง   คำพูดที่พวกท่านพูดออกมาในระหว่างการอธิบายความจริง พลังงานที่ส่งออกไป  ทำให้สิ่งชั่วร้ายหวาดผวา และถูกกำจัด   พวกท่านคือกุญแจสำคัญของชีวิตบนโลกที่จะเหลือรอดหรือทิ้งไป   หากคำพูดของท่านบริสุทธิ์เที่ยงตรงมาก   ก็จะไขเข้าไปถึงความนึกคิดที่อยู่ลึกที่สุดของชาวโลกได้ในทันที   สามารถทำให้ชาวโลกเข้าใจได้ในทันที

ศิษย์                 เมื่อพวกเรากำลังวาดการ์ตูน อธิบายความจริง ได้พบว่าองค์ประกอบที่ด้านหลังของซอฟแวร์การ์ตูน สามมิติหลายส่วนไม่ดี  มีผู้ฝึกที่ใช้ไประยะหนึ่งแล้วร่างกายรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไม่ควรใช้ซอฟแวร์เหล่านี้ใช่ไหม

อาจารย์            มีของบางอย่างที่ไม่ดี   ที่จริงเมื่อท่านกำลังใช้มันอยู่นั้น ก็เป็นการเลือกชีวิตเหล่านั้น  กำลังช่วยพวกมันอยู่    ภายในนั้นบ้างก็สามารถแก้ให้ดีได้   บ้างก็ต้องกวาดทิ้ง  ปรับเปลี่ยน    พูดจากอีกมุมหนึ่ง  การใช้ของท่านนั้นก็คือความเมตตาต่อสิ่งนั้น   หลายสิ่งที่เบี่ยงเบนไปแล้ว ต้องกลับคืนความถูกต้อง  กับ ที่จะถูกกวาดทิ้ง   จึงเท่ากับเป็นการช่วยเหลือชีวิตหนึ่ง  แต่มีหลายสิ่งที่ไม่ดีมากๆ  ดังนั้นต้องเลือกใช้

ศิษย์                 บำเพ็ญมานานถึงเพียงนี้     จึงค่อยรู้ว่าอะไรคือจิตยึดติดที่แท้ของตน   นั่นคือการยึดติดตนเอง

อาจารย์            ถูกต้อง   พูดให้ชัดแล้ว ก็คือองค์ประกอบพื้นฐานของชีวิตในอดีต    ด้านนี้ที่ผ่านมาท่านทั้งหลายล้วนมีกัน  คนจำนวนมากยังคิดไม่ถึงจริงๆ   ตามการยกระดับทั่วทั้งหมดของท่านทั้งหลาย  สิ่งนี้ก็ไม่เด่นชัดอย่างนั้นแล้ว

ศิษย์                 ในการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าที่ผ่านมา   แม้ว่าทำเรื่องการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าแล้ว   แต่ขณะนี้มาดูแล้วเป็นจุดยืนเพื่อตัวเอง  ยืนยันจุดฐานตัวเอง  คำถามของพวกเราคือ  ทำไมรู้ถึงจุดนี้ได้ช้าอย่างนี้ ?

อาจารย์            การยืนยันความถูกต้องของฝ่าก็เป็นการบำเพ็ญ    ขั้นตอนการบำเพ็ญคือการ เข้าใจจุดบกพร่องของตนเองอย่างต่อเนื่อง จากนั้น คือขั้นตอนการขจัดจุดบกพร่องนั้น   เพียงแต่จิตยึดติดพื้นฐานที่สุดหลายอย่างหากรู้ได้ยิ่งเร็วยิ่งดี    รับรู้ได้แล้วโดยตัวมันเองก็คือการยกระดับ  สามารถขจัดมันทิ้งไปได้  หรือควบคุมมันได้  ทำให้มันอ่อนกำลัง  สุดท้ายขจัดมันทิ้งไปทั้งหมด    ขั้นตอนเช่นนี้คือการยกระดับอย่างต่อเนื่อง   และคือการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของชีวิต

ศิษย์                 ผมเป็นผู้ช่วยฝึกสอนแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย   ข้าพเจ้าไม่ก้าวหน้าพอในการศึกษาฝ่า  ยึดติดกับชื่อเสียงและผลประโยชน์  จึงถูกรบกวน  ผมรู้สึกสำนึกผิดในใจ   กลัวว่าจะส่งผลด้านลบต่อต้าฝ่า   ในฐานะศิษย์แห่งยุคเจิ้งฝ่าผมต้องการจะยกระดับ  เรียนถามท่านอาจารย์ที่เคารพ    พื้นที่ของพวกเราควรเลือกศิษย์ที่ศึกษาฝ่าได้ดีกว่ามาเป็นผู้ช่วยฝึกสอนดีไหม?

อาจารย์            สามารถรับรู้ได้ก็เป็นความก้าวหน้าที่ ใหญ่มากก้าวหนึ่ง   การบำเพ็ญก็เป็นอย่างนี้  เมื่อท่านรับรู้ได้ถึงจุดบกพร่องของตนเอง ท่านก็กำลังยกระดับแล้ว  แต่ตนเองจะแน่วแน่ได้อย่างไร    จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเดินให้ดีบนทางข้างหน้า

            ข้าพเจ้าขอถือโอกาสพูดถึงปัญหาหนึ่ง ในจีนแผ่นดินใหญ่   ก่อนที่จะเกิดการประทุษร้าย  จริงๆแล้วมีผู้ฝึกจำนวนไม่น้อยที่เรียนฝึกพลัง ศึกษาฝ่าด้วยสภาพจิตนานาชนิด   เห็นคนอื่นเรียน ฉันก็เรียน   (ฝ่า)สามารถ รักษาโรคได้งั้นเราก็ฝึกด้วย   โดยรากฐานไม่ได้ใช้ใจศึกษาฝ่า   ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับรู้ถึงความเข้มงวดของการบำเพ็ญ  มองไม่เห็นความคิดถูกต้องของคน    นานไป  กระทั่งเลยมาหลายปี ก็ยังเป็นเช่นนี้     ผู้ฝึกจำนวนมาก จะดูคนอื่น   อ้อ เขาฝึกแล้วดี ฉันก็ฝึก  โรคของเขาไม่หายฉันก็ไม่ฝึกแล้ว    ที่ยิ่งน่ากลัวกว่าก็คือ   มีหลายคนดูผู้ช่วยฝึกสอน   ผู้ช่วยฝึกสอนทำอย่างไร  ฉันก็ทำอย่างนั้น    ผู้ช่วยฝึกสอนดี  เขาก็ ดี     ผู้ช่วยฝึกสอนทำไม่ดี เขาก็เลียนแบบตาม    ในการบำเพ็ญข้าพเจ้าจะบอกให้ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคน เดินบนทางของตนเองให้ดี ด้วยตัวเอง    สถาปนาธรรมานุภาพของตน  ทำให้ตนเองเดินไปสู่การหยวนหมั่นอย่างแท้จริง    สำเร็จเป็นราชาผู้ปกครองฟ้าดินของตนเององค์หนึ่ง  ทำไมไม่สามารถเดินทางด้วยตนเอง  ไม่ศึกษาฝ่าให้ดีด้วยตนเอง  ไม่ก่อตั้งความคิดถูกต้องของตนเองละ ?

            ที่จริงข้าพเจ้าเลือกผู้ช่วยฝึกสอน ไม่ใช่คัดเลือกคนที่สูงที่สุด ข้าพเจ้ามองสรรพชีวิตเหมือนกันหมด    ข้าพเจ้าปฏิบัติต่อสรรพชีวิตไม่ใช่แบบว่า ท่านดีกว่าเขา  เขาดีกว่าเธอ   ข้าพเจ้าดูว่าคนๆนี้มีความกระตือรือร้นและประสบการณ์ในการทำงานให้ส่วนรวมหรือไม่   ข้าพเจ้าก็คิดเพียงแค่นี้   ข้าพเจ้าไม่เคยถือว่าคนๆนี้บำเพ็ญได้ดี  เหนือกว่าคนอื่น  จึงเรียกเขาเป็นผู้ช่วยฝึกสอน  ไม่มีวิธีคิดเช่นนี้    คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งเริ่มต้นบำเพ็ญตราบจนหยวนหมั่น   ในขั้นตอนนี้บำเพ็ญอย่างไร  สามารถหยวนหมั่นหรือไม่  ล้วนแต่ดูตัวผู้บำเพ็ญเองว่า สามารถทำได้ไหม

            ที่จริงมีศิษย์ต้าฝ่าทั่วไปมากมาย   ที่เงียบๆไม่เป็นที่ได้ยิน   แต่บำเพ็ญได้ดีมาก    บ้างก็สร้างรากฐานได้ดีมาก   บ้างก็มีพื้นฐานจิตใจดีมาก   บ้างก็มีทุกๆด้านดีมาก    แต่ถ้าท่านจะเรียกเขาทำงานธุรการ  เขาก็ไม่แน่ว่าจะทำได้   ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเลือกผู้ฝึกที่สามารถจัดการงานเป็นสักหน่อย  สามารถทำงานเป็นสักหน่อย  ยินดีที่จะทุ่มเทให้กับท่านทั้งหลาย  มาเป็นผู้ช่วยฝึกสอน  แต่ก่อนข้าพเจ้าเคยพูดถึงเรื่องเหล่านี้หลายครั้ง   แต่มีผู้ช่วยฝึกสอนของศิษย์ต้าฝ่าหลายคนทำได้ดีมากจริงๆ  บางคนก็ทำได้ไม่ค่อยดี     พอการการประทุษร้ายครั้งนี้เริ่มขึ้น   ก็มีผู้ช่วยฝึกสอน บางคนเนื่องจากไม่ได้ศึกษาฝ่าเป็นเวลานาน  จึงได้ประนีประนอมกับ พวกชั่วร้าย  ก่อให้เกิดผลที่ไม่ดีมาก    ฉะนั้นผู้ฝึกหลายคนที่ดูผู้อื่นว่าทำอย่างไรก็ทำตาม   โดยเฉพาะคือเห็นว่าผู้ช่วยฝึกสอนเป็นเช่นนี้แล้ว  ก็รู้สึกว่า เฮ้อ ทำไมเขาใช้ไม่ได้แล้ว ?  เขาไม่บำเพ็ญแล้ว  ฉันก็ไม่บำเพ็ญละ    ข้าพเจ้าก็ต้องการจะขจัดจิตอย่างนี้ของผู้ฝึกไงล่ะ  ข้าพเจ้าให้ผู้ฝึกบำเพ็ญความคิดที่ถูกต้องออกมา    ข้าพเจ้าไม่ได้จะให้ท่านมีเป้าหมายการบำเพ็ญเพื่อช่วยเหลือ  ผู้รับผิดชอบ ผู้ช่วยฝึกสอน นายกสมาคมฯ  คนไหน   แต่ละคนล้วนแต่ต้องบำเพ็ญตนเอง

            ในการประทุษร้ายครั้งนี้    ผู้ฝึกแบบนี้หลายๆคน  สภาวะธรรมสุกงอมแล้ว  ตื่นแล้ว  ล้วนแต่มีวุฒิภาวะขึ้นมาแล้ว   ผ่านบทเรียนอันเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งนี้จึงเข้าใจ !  ที่จริงที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดบ่อยๆ เพราะพวกเขาไม่เห็นความสำคัญในการบำเพ็ญตัวเอง การบำเพ็ญนั้นไม่มีแบบอย่าง    ไม่อาจเฝ้าดูว่าผู้อื่นบำเพ็ญอย่างไร   และก็ไม่อาจจับจ้องสายตาที่คนอื่น    เธอดีฉันก็ดี   เธอไม่ดีฉันก็เลิกแล้ว   ความคิดแม้แต่น้อยก็ไม่มี   ท่านว่าผู้ฝึกแบบนี้ข้าพเจ้าจะนำพาท่านฝึกได้อย่างไร?   ท่านกำลังบำเพ็ญอยู่ไหม? ในความคิดมักจะลังเลอยู่เสมอ  พูดจาก็ไม่ได้ออกมาจากใจจริง    การบำเพ็ญนั้นไม่อาจมองผู้อื่น   มีแต่บำเพ็ญตนอย่างจริงๆจังๆ   บำเพ็ญอย่างไรหรือ ?  นั่นคือศึกษาฝ่ามากๆ  ไม่อาจมองคนอื่น   ดูทวยเทพ ได้     แต่เทพนั้น เขาไม่ได้บำเพ็ญที่นี่    ฉะนั้นที่บำเพ็ญอยู่ที่นี่ล้วนเป็นคน    มีเพียง มีร่างคนนี้จึงบำเพ็ญออกมาได้     ตราบที่ยังไม่ทิ้งสิ่งที่เป็นของคนทั้งหมด   ท่านก็คือผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง  มีเพียง เปลือกนอกทั้งหมดนี้ สุดท้ายเปลี่ยนแปลงหมดสิ้นแล้ว  ท่านจึงจะหลุดพ้นความเป็นคนโดยสิ้นเชิง แต่ว่าขั้นตอนของการบำเพ็ญ  ความคิดของตนเองต้องชัดเจน   บำเพ็ญจุดบกพร่องของตนเอง   ควบคุมสิ่งที่ไม่ดีของตนเอง   ชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีของตน  ต้องมีจิตสำนึกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ  นี่จึงเป็นการบำเพ็ญ

ศิษย์                 หลังจากท่านอาจารย์บรรยายฝ่า “การสร้างสรรค์งานวิจิตรศิลป์”   มีศิษย์ไปเรียนทักษะพื้นฐานการวาดภาพ   จะมีผลกระทบต่อการอธิบายความจริงหรือไม่?

อาจารย์            นั่นจะกระทบได้   ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลาย  ทักษะพื้นฐานการวาดภาพนั้นไม่ใช่จะฝึกกัน ได้ใน 1-2  ปี  มีคนจำนวนมากล้วนแต่ฝึกตั้งแต่เด็ก  ต้องผ่านช่วงเวลายาวนาน    พวกที่มีผลงานเหล่านั้น  ล้วนต้องใช้ เวลา 10 กว่าปี  หรือ หลายสิบปี ฝึกฝนจึงจะสำเร็จ   ท่านพูดว่าอยากจะวาดภาพเดี๋ยวนี้    วาด ออกมาภาพหนึ่ง   นั่นก็ไม่อาจให้ท่านนำออกไปแสดงนิทรรศการได้  (ที่ประชุมหัวเราะ)   เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดนั้น ที่สำคัญคือมุ่งจำเพาะต่อผู้ที่มีทักษะพื้นฐาน   ต่อศิษย์ต้าฝ่าเหล่านั้นที่มีความชำนาญด้านนี้    คือมีความชำนาญสร้างสรรค์ทางด้านนี้   ข้าพเจ้าเจาะจงต่อพวกเขา     สอนให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ถูกกระทบจากความนึกคิดในปัจจุบัน   สอนให้พวกเขานำสิ่งที่เที่ยงธรรมออกมาให้กับมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ (ทักษะพื้นฐานวาดภาพ)จะมาในทันทีย่อมไม่ได้  เพราะนี่ไม่ใช่จะทำกันได้ในชั่วประเดี๋ยวประด๋าว   และข้าพเจ้ายังต้องการให้พวกเขาทำอย่างมีมาตรฐาน  ไม่ว่าท่านจะเป็นนักแกะสลัก หรือนักวาดก็ตาม  ฝึกทักษะพื้นฐานดีแล้ว  นี่ยังเป็นปัญหาพื้นฐานที่สุดประการหนึ่ง ปัญหาใหญ่ที่สุดที่สำนักวาดภาพทั้งหมดประสบคือ การสร้างสรรค์   ระดับความยากลำบากนั้นสูงมาก    การบรรจงวาดภาพคนให้แลดูมีจิตใจ ลักษณะท่าทาง ความสะโอดสะองที่ราวกับมีชีวิตจริงๆนั้น เหล่านี้ใช่เพียงว่ามีทักษะพื้นฐานแล้วก็จะสามารถทำได้    งานวิจิตรศิลป์แบบดั้งเดิม  นั่นคือเทคนิกที่ยิ่งใหญ่ที่เทพสอนให้คน

ศิษย์                 จะช่วยผู้ฝึกมากยิ่งขึ้นก้าวออกมาได้อย่างไร  ร่วมกันทำงานของต้าฝ่า ?

อาจารย์            ใช้จิตใจเหมือนกับการอธิบายความจริงของพวกท่าน

ศิษย์                 วิญญาณสามดวงเจ็ดดวงคืออะไร?  เกี่ยวกับการบำเพ็ญอย่างไร?

อาจารย์            นี่เป็นสิ่งที่เป็นของคน   ปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าจะยังไม่พูด      แน่นอนข้าพเจ้าเคยพูดเรื่องของมนุษย์บ้างในการพบปะวงแคบๆเฉพาะส่วน  ที่ไม่กระทบต่อมนุษย์    ก้าวถัดไปเป็นเวลาของเรื่องมนุษย์   ข้าพเจ้าจะพูดเรื่องในตรีภูมิ  รวมทั้งประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของมนุษย์    จุดประสงค์ของการดำรงอยู่ของตรีภูมิ    รากเหง้าของชนชาติต่างๆกับที่มาของคนชนิดต่างๆ    องค์ประกอบที่แท้จริงของโครงสร้างร่างกายคน  สิ่งทั้งปวงบนโลกนั้นดำรงอยู่เพื่ออะไร

            จิตหลักจิตรอง ที่ข้าพเจ้าบรรยายให้พวกท่านฟัง   นี่คือสิ่งที่กล่าวถึงในการบรรยายฝ่า    การบรรยายฝ่าที่แท้จริงเกี่ยวกับมนุษย์ภายในตรีภูมิ   ข้าพเจ้ายังไม่เคยพูดให้พวกท่านฟัง    ดังนั้นนี่คือสิ่งที่จะพูดในอนาคต   การเจิ้งฝ่ากับฝ่าปรับโลกมนุษย์นั้น ทำเป็นสองช่วง    ก้าวต่อไปของอนาคตนั้นก็คือ ทำเรื่องของคนตรงนี้ จะพูดอย่างทั่วด้านเกี่ยวกับตรีภูมิ มนุษย์ ดวงดาวต่างๆ กับโลก ความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตกับร่างกายคน   เป้าหมายของการพัฒนาของสังคมมนุษย์ในแต่ละก้าว    นั่นคือประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของมนุษย์  เทพสร้างคนเป็นต้น    บรรดาเรื่องทั้งปวงของคนนั้น(ข้าพเจ้า)จะพูดทั้งหมด     เรื่องที่คนไม่เชื่อทั้งหลายจะปรากฏออกมาหมด

ศิษย์                 หลักการของฝ่า เก่า กับ หลักการของฝ่าใหม่ มีส่วนที่ซ้อนทับกันหรือไม่ ?

อาจารย์            มีความแตกต่างกันมาก  ปัญหาแก่นแท้ไม่ซ้อนทับกัน   ที่ผ่านมา จุดพื้นฐาน ก็คือเพื่อตัวเอง  แต่ทุกสิ่งที่ต้าฝ่าสร้างนั้นไม่ยึดกับตนเอง   มีปัญหาบางอย่างที่เข้าใจตรงกัน   รูปธรรมของความดีงามกับความชั่วที่ปรากฏโดยพื้นฐานนั้นเหมือนกันแต่มีสิ่งต่างๆมากมายได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว  ชีวิตในอนาคตนั้นงดงามยิ่งกว่า

ศิษย์                 หนังสือพิมพ์ที่ผู้ฝึกของเราจัดทำกัน จะขายได้ไหม ?

อาจารย์            ขายได้แน่นอน  ถ้าหากหนังสือพิมพ์ที่พวกท่านทำมีคนอ่านกันมาก   ให้ลองขายส่วนหนึ่งดูก่อน   ที่จริงหนังสือพิมพ์ที่พวกท่านทำนั้นได้กลายเป็น รากฐานของหนังสือพิมพ์ของคนจีนที่ใหญ่อันดับหนึ่งในโลกอย่างแท้จริง (เสียงปรบมือ)  ในเมืองที่เล็กมากของอเมริกาก็มีกัน    ข้าพเจ้าได้เห็นมันแม้ใน เมืองที่เล็กมาก  หนังสือพิมพ์จีนฉบับอื่นก็ไม่สามารถครอบคลุม   และไปไม่ถึง    พวกท่านย่อมทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆได้   เมื่อเงื่อนไขพร้อมแล้วก็สามารถเข้าสู่วัฏจักรที่ดีได้

ศิษย์                 วิทยุกระจายเสียงในฐานะเป็นวิธีการหนึ่งของสื่อ ในการอธิบายความจริง   จะทำอย่างไรให้สอดคล้องยิ่งขึ้นกับสถานการณ์ เจิ้งฝ่า  ส่งผลดียิ่งขึ้นในการอธิบายความจริง ?

อาจารย์            เหมือนกับสื่ออื่นๆที่ศิษย์ต้าฝ่าทำกัน   ปรึกษาแลกเปลี่ยนกัน ( เป็นกระจกสะท้อนซึ่งกันและกัน)  นำส่วนที่ดีไปเสริมส่วนที่บกพร่อง   ก็จะสามารถทำได้ดี   อย่างน้อยที่สุดท่านสามารถแบ่งปันข่าว  และทรัพยากรหลายๆอย่างระหว่างกัน    เงื่อนไขนี้สื่อ อื่นๆ(ที่เป็นของคนธรรมดาสามัญ)ล้วนไม่มี ลองทำดู  เพื่อให้การอธิบายความจริงจะได้เปิดโปงการประทุษร้ายของสิ่งชั่วร้าย  ช่วยเหลือสรรพชีวิตมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรจึงทำให้สถานีวิทยุนี้สามารถให้คนมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะคนจีนแผ่นดินใหญ่ได้รู้    นั่นจึงจะดี

ศิษย์                 สามีของดิฉันไม่ได้บำเพ็ญ    เขาเคยเข้าร่วมฝ่าฮุ่ยหลายครั้ง และเคยช่วยเรื่องของต้าฝ่าหลายเรื่อง     แต่ว่าเคยทำเรื่องไม่ดี  และคิดแก้ไข   แต่มีแรงชนิดหนึ่งทำให้เขาเจ็บปวดมาก  ไม่สามารถอยู่บ้านได้    เราหย่ากันแล้ว  คนแบบนี้ยังจะช่วยเหลือได้ไหม?

อาจารย์            ในการประทุษร้ายครั้งนี้ ข้าพเจ้า ขอบอก ท่านทั้งหลาย  พูดอย่างเข้มงวด   คนจีนจำนวนมากล้วนได้ทำผิดต่อต้าฝ่าแล้ว   ดังนั้นในการอธิบายความจริง หากพวกท่าน ไม่ช่วยเหลือพวกเขา   พวกเขาก็ไม่มีหวังแล้ว  การอธิบายความจริงของพวกท่านไม่ใช่เป็นการให้โอกาสพวกเขาหรือ  ยังช่วยเหลือพวกเขากันอยู่ใช่ไหม?    แน่นอนในจำนวนนั้น  หลายคนเริ่มแรกเป็นญาติสนิทของพวกท่านมิใช่หรือ  ลองทำดู  ถ้าไม่ไหวจริงๆแล้วค่อยว่ากัน  นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ไม่ต้องถามข้าพเจ้าแล้ว   ท่านก็รู้ได้เองว่า จะช่วยได้หรือไม่

ศิษย์                 ในเวลาเขียนบทภาพยนตร์  คือเขียนเรื่อง ความจริง ตรงๆ หรือทำตามรูปแบบของคนธรรมดาสามัญโดยเขียนสอดแทรกเนื้อหาของความจริง  วิธีไหน ดี?

อาจารย์            นั่นเป็นคนละมุมมอง  ล้วนทำได้  แต่ไม่ว่าเขียนด้วยรูปแบบใด  ท่านเป็นศิษย์ต้าฝ่า  รู้ว่าจะยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าอย่างไร  สามารถยึดกุมได้ดี   ข้าพเจ้าว่าจะเขียนอย่างไรก็ได้

ศิษย์                 การสอนวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ทางสถานีโทรทัศน์ของเรา เหมาะสมไหม?

อาจารย์            ขอบอกท่านทั้งหลาย  เมื่ออาจารย์พูดถึงปัญหาวิทยาศาสตร์นี้  จริงๆแล้วข้าพเจ้าไม่ได้ต่อต้านมัน  มันเป็นผลผลิตชนิดหนึ่งของจักรวาล   สิ่งที่ผ่านกาลเวลาอันยาวนานซึ่งชีวิตสร้างขึ้นมา  ข้าพเจ้าล้วนเห็นคุณค่าของมัน   ขอเพียงมันไม่มีลักษณะทำลายต่อจักรวาล  แต่ช่วยพัฒนาจักรวาล     วิถีทางของชีวิตไม่ใช่ง่ายๆ   ข้าพเจ้าพูดแต่เพียงว่าวิทยาศาสตร์ไม่เหมาะกับมนุษย์    ปัจจุบันนี้ ข้อเสียของมันก็ปรากฏออกมาแล้วมิใช่หรือ?

            ท่านทั้งหลายมองเห็นแล้ว  คนถูกวิทยาศาสตร์ชักนำจนไม่เชื่อเรื่องเทพมากขึ้นเรื่อยๆ   แต่คนนั้นกลับเป็นสิ่งที่เทพสร้างขึ้น   ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่เทพสร้าง   จุดประสงค์ในการสร้างคนก็เพื่อ ให้ชีวิตที่มาจากระดับชั้นสูงได้รับการช่วยเหลือ พร้อมกันไปในช่วงของการเจิ้งฝ่า   และมนุษยชาติ  ก็เป็นระดับชั้นหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้ อย่างแท้จริงของจักรวาลในอนาคต   จากนั้นก็เชื่อมต่อกับจักรวาลทั้งหมด    มีผลกระทบอย่างมหาศาลเช่นนี้   กับภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้    แต่วิทยาศาสตร์นี้กลับกำลังทำลายรากฐานความคิดที่ถูกต้องของคน

            เมื่อชีวิตใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง   มันก็เป็นผลที่ไม่ดีมากต่อจักรวาล   อย่างแท้จริง   จักรวาลเป็นระบบที่หมุนเวียน   องค์ประกอบสสารทั้งหมดจะมีการหมุนเวียน  ชีวิตที่มีบาปเมื่ออยู่ในระหว่างขั้นตอนที่ถูกสลาย   ก็ต้องขจัดบาปของมัน  สลาย  สลาย  และสลาย   เมื่อดับสลายจนกลายเป็นสสารที่ตายไร้ซึ่งชีวิตอย่างสิ้นเชิง    ก็จะค่อยๆเลื่อนขึ้นมาทีละชั้นๆ  ถูกใช้ประโยชน์    จักรวาลเป็นระบบที่หมุนเวียนระบบหนึ่ง   ถ้าสสารผิดเพี้ยนไปแล้ว ก็ยากจะแก้ไข     หลังจากสสารผิดเพี้ยนไปแล้วเนื่องจากถูกชีวิตระดับชั้นต่ำดูดรับไป   ชีวิตระดับชั้นสูงก็ไม่สามารถลงมายังระดับต่ำเพื่อแก้ไข   ชีวิตระดับต่ำที่สสารไม่แก้ไขไม่ได้แล้ว  เมื่อถูกใช้ประโยชน์อีกและเลื่อนขึ้นไปอีกในระหว่างการหมุนเวียน สสารเมื่อเริ่มผิดเพี้ยนไปหลังจากเลื่อนขึ้นไปอีก  ชีวิตที่อยู่สูงกว่าหนึ่งชั้นก็ไม่มีทางแก้ไขได้ทั้งหมด  และสสารจำนวนมากมายได้ตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว   จึงทำให้เกิดการผิดเพี้ยนของจักรวาลทั่วไปหมด

            ท่านทั้งหลายทราบว่า  เหล็กกล้า เหล็กของเราในปัจจุบัน มีมากมายที่ประกอบขึ้นจากโลหะหลายชนิด   สิ่งเหล่านี้เมื่อนำกลับไปหลอมใหม่  ก็ไม่อาจทำให้โลหะบริสุทธิ์ได้อีกแล้ว  และไม่ว่าเทคนิกใดๆ ก็ไม่สามารถทำให้มันแยกออกจากกันได้หมด  ท่านทั้งหลายทราบว่า ดินนั้น หลังจากมีการใช้ปุ๋ยเคมีแล้ว ถ้าท่านไม่ใช้อีก  ก็ปลูกอะไรไม่ขึ้นแล้ว  มันจะไม่เจริญงอกงามแม้แต่น้อย   เมล็ดพันธุ์ที่มีการใช้ปุ๋ยเคมี   แต่ละรุ่นก็ล้วนต้องใช้ปุ๋ยเคมี  เมล็ดพันธุ์ที่ผิดเพี้ยนไปแล้วนั้น  ถ้าไม่ใช้ปุ๋ยเคมี  ตัวมันเองก็แย่แล้ว     และท่านทั้งหลายทราบว่าปุ๋ยเคมี คือ สารประกอบประเภทหนึ่งที่มีสารเคมีเป็นองค์ประกอบ

            การหมุนเวียนของสสารมีรูปแบบมากมาย  จะพูดถึงวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งของ  การหมุนเวียนของสสาร  พืช สัตว์ และสสารของร่างกายคนล้วนประกอบขึ้นจากอนุภาค   ระหว่างอนุภาคกับอนุภาค นั้นมีช่องว่าง  หลังจากขยายดูจะพบว่ามันใหญ่มากๆ  และในช่องว่างเหล่านี้  จะปล่อยกระจายกลิ่นออกมาได้   และช่องว่างเหล่านี้โดยตัวมันเองนั้น ที่จริงเมื่อดูในระดับจุลภาคมากยิ่งขึ้น  มันก็เป็นสนามที่สร้างขึ้นมาจากเม็ด(อนุภาค  ที่เล็กลงไปอีก)  ดังนั้น สัตว์ พืช  ทั้งหมดล้วนแต่กำลังปล่อยกระจายสสารที่มีขนาดเล็กอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถูกระดับชั้นสูงกว่า ใช้ประโยชน์เสมอๆ  ทว่า น้ำ  อากาศ  สสาร  องค์ประกอบชนิดต่างๆที่จำเป็นต่อชาวโลก  เนื่องจากปนเปื้อนตั้งแต่เริ่มต้น  ทั้งหมดก็เกิดการผิดเพี้ยน  สิ่งต่างๆที่มิติที่สูงขึ้นไปอาศัยใช้ประโยชน์ จึงผิดเพี้ยนตั้งแต่รากฐาน

            ข้าพเจ้าเคยพูดกับท่านว่า  นับแต่มีการใช้ประโยชน์ จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว   คนมีร่างกายชั้นหนึ่ง   ในระหว่างชั้นอนุภาคของร่างกายคน  ได้ถูกมนุษย์ต่างดาวควบคุมไว้แล้ว   มันเป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจากองค์ประกอบของต่างดาวทั้งหมด   ในนั้นรวมถึงสิ่งที่ประกอบจาก  ตัวเลขการคำนวน โครงสร้างแบบกลไก องค์ประกอบอีเลคทรอนิก  เป็นต้น  สิ่งของเหล่านี้ ล้วนกำลังก่อผลการผิดเพี้ยนไปเรื่อยๆ    อุตสาหกรรมที่ปรากฏอย่างกว้างขวางซึ่งวิทยาศาสตร์นำพามากำลังส่งผลกระทบต่อมิติระดับต่ำของจักรวาล    ในระหว่างการเจิ้งฝ่า ข้าพเจ้าพบว่า ระดับชั้นที่ใหญ่มากชั้นหนึ่งของจักรวาล ได้ถูกสิ่งเหล่านี้ปนเปื้อนหมดแล้ว   และสิ่งที่ผิดเพี้ยนเหล่านี้   ก่อให้เกิดความขัดแย้ง(ความเป็นปฏิปักษ์)อย่างมาก

            ท่านทั้งหลายลองคิดดู    สิ่งที่ผิดเพี้ยนเหล่านี้ยังขึ้นไปถึงระดับจุลภาค  ถ้าหากเทพดูดซับเข้าไปแล้ว   เทพเองก็จะเกิดการผิดเพี้ยนไปหมดด้วยไหม   โลกของเทพก็จะเกิดการผิดเพี้ยนไหม  และในความเป็นจริงก็เกิดสภาพการณ์เช่นนี้แล้ว  ท่านทั้งหลายคิดดู  มันน่ากลัวหรือไม่?  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะสมกับมนุษย์     เพียงแต่เหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตในขอบเขตที่เล็กมากๆที่จะใช้ประโยชน์อย่างมีระเบียบ

            ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลาย   ระดับมลภาวะของอากาศในปัจจุบัน  ใครก็ไม่สามารถทำให้มันคืนกลับสู่ระดับที่บริสุทธิ์อย่างในประวัติศาสตร์ก่อนๆนั้นได้อีก    ไม่ต้องพูดไปไกล  เอาแค่เปรียบกับอากาศเมื่อหนึ่งพันปีก่อนก็เปรียบไม่ได้แล้ว     คนก็เป็นสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปแล้วเช่นกัน   และมีการปรับตัวไปแล้ว    มลภาวะของน้ำ ไม่ว่าวิธีการใดๆก็ไม่อาจทำให้น้ำบริสุทธิ์ถึงระดับที่บริสุทธิ์ที่สุดได้แล้ว     เพราะน้ำก็หมุนเวียนเช่นกัน

            ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดกับพวกท่านว่า    น้ำก็คือน้ำ   และน้ำทะเลนั้นเป็นสสารอีกชนิดหนึ่ง   ไม่ใช่สสารชนิดเดียวกับน้ำจืด   ที่เราสามารถกลั่นน้ำจืดจากน้ำทะเลได้นั้น   เหมือนกับการสกัดโลหะออกมาจากหิน   มันเป็นสิ่งที่สกัดออกมา      น้ำจืดไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ  ต่ำลงไปอีกก็คือทะเลใช่ไหม    มันต่ำกว่าผืนดินแน่นอน  ดังนั้นมันจึงต้องไหลลงสู่ทะเล   แต่หลังจากไหลลงสู่ทะเลแล้ว   น้ำจืดนั้นมันไม่ได้แยกกระจายตัวออก    อนุภาคของน้ำจืด เล็กกว่าอนุภาคสสารของน้ำทะเล    ดังนั้นมันจึงสามารถไหลทะลุผ่านอนุภาคเหล่านั้น   มันก็เหมือนกับ “จิงลั่ว”ช่องว่างเล็กๆในร่างกายของคน (ตามทฤษฎีแพทย์จีน)     จากนั้นมันก็หมุนเวียนกลับไป ดังนั้นทำไมแม่น้ำจึงไหลอยู่ชั่วนาตาปีนับหลายหมื่นปี    นับแสนปี   บางคนพูดว่าแม่น้ำไหลอยู่โดยอาศัยน้ำใต้ดิน   การหลอมละลายของน้ำแข็ง   ท่านทั้งหลายมองเห็นแล้วว่า แม่น้ำนั้นทำไมช่างกว้างใหญ่อะไรเช่นนั้นล่ะ?   ถาโถม “ครืนๆ” อยู่หลายหมื่นปี  เช่นแม่น้ำแยงซีเกียง  เช่นแม่น้ำสายใหญ่หลายๆสายในอเมริกา    แม่น้ำใหญ่เช่นนั้น   มีน้ำมากมายเพียงไร ไหลอยู่ไม่จบสิ้น ?  พูดว่าเป็นน้ำจากบนภูเขาน้ำแข็ง  แต่ มีแม่น้ำหลายสายไม่ได้มีแหล่งกำเนิดจากบนภูเขาน้ำแข็ง   ที่จริง น้ำ นั้นหมุนเวียน   หลังจากมันไหลไป แล้ว  อยู่ในระหว่างกระบวนการหมุนเวียน ก็คือกระบวนการชำระล้างให้บริสุทธิ์  ชำระล้างอีก แล้ววนกลับมา    แต่ว่ามันปนเปื้อนมากเหลือเกินแล้ว   แต่สิ่งที่ปนเปื้อนมันไม่ใช่องค์ประกอบของสสารตามปกติของมนุษย์   สิ่งที่ปนเปื้อนมันคือ อุตสาหกรรมที่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันของมนุษย์ต่างดาวทำขึ้นมา    จึงไม่อาจชำระให้บริสุทธิ์ถึงระดับนั้นได้แล้ว   ดังนั้นจึงพูดว่าหลังจากผิดเพี้ยนไปแล้ว  อะไรก็ทำให้มันบริสุทธิ์ไม่ได้แล้ว

            บางคนทำคันกั้นแม่น้ำ  ทำเขื่อนกั้นแม่น้ำ  ผลิตกระแสไฟฟ้า   เปลี่ยนการใช้กระแสไฟฟ้าของมนุษย์   แก้ปัญหาแหล่งพลังงาน     ที่จริงเขาสกัดกั้นตัดแม่น้ำให้ขาด  เหมือนคน เหมือนชีวิตหนึ่ง   เพราะแม่น้ำมันก็คือชีวิต   วัตถุไหนๆล้วนมีชีวิตไม่ใช่หรือ?   ถ้าคนตัดเอวของเขาขาดออก   เขาจะเป็นสภาพเช่นไรล่ะ?   เนื่องจากแม่น้ำนั้นมันใหญ่มาก  ช่วงอายุของมันกับของคนไม่เท่ากัน   ท่านมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในทันทีของมัน   แต่ว่ามันกำลังตาย  มันตายอย่างช้าๆ   ขั้นตอนการตายของมันยาวนานกว่าคน  ต้องเป็นหลายสิบปี  หรือหลายร้อยปีขึ้นไป   ไม่ใช่การเสนอที่จะดัดแปลงภูเขา แม่น้ำ  ดัดแปลงธรรมชาติหรือ? การดัดแปลงธรรมชาติ คือการทำลายธรรมชาติ    ดัดแปลงภูเขา แม่น้ำก็คือทำลายภูเขา แม่น้ำ    สิ่งที่เทพสร้าง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มีลำดับขั้นตอน   สายตาของเทพมองฟ้าดินไม่เหมือนกับคนมอง   เทพจัดวางความสมดุลของทุกสิ่งไว้ดีมาก    คนได้แต่เพียงใช้ประโยชน์ให้ดีๆ   ไม่สมควรทำลาย    ภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายของมนุษย์ เกิดจากลักษณะทำลายล้างอย่างแท้จริงของวิทยาศาสตร์    เพื่อการบุกเบิกของมนุษยชาติ จึงทำให้วิทยาศาสตร์บรรลุถึงการพัฒนาสิ่งทั้งปวงด้านพลังงานและทรัพยากรอันไร้ขีดจำกัด   ทุกๆสิ่งจึงกำลังถูกทำลาย

            ท่านทั้งหลายทราบว่า    อุตสาหกรรมของยุโรป และอเมริกาในศตวรรษก่อน ก้าวหน้ามาก  โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ กับ อุตสาหกรรมเคมี     ก่อให้เกิดมลภาวะอย่างหนักในเวลานั้น    แต่ชาวยุโรป และอเมริกันตื่นตัวได้ทันเวลา   เร่งการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมธรรมชาติ   หลังจากผ่านช่วงเวลาหลายสิบปีสภาพแวดล้อมจึงเปลี่ยนดีขึ้นได้จริงๆ    ดังนั้นท่านจึงเห็นได้ว่าน้ำในแม่น้ำของอเมริกานั้นใสสะอาดมาก   น้ำในทะเลสาบไม่มีมลภาวะแล้ว    การตื่นตัวของคนส่งผลเช่นนี้ได้จริง    แต่ว่าจะให้บรรลุถึงระดับความบริสุทธิ์อย่างแต่ก่อนนั้นยากมากแล้ว    จึงพูดว่าวิทยาศาสตร์นำมาซึ่งความวิบัติต่อมนุษยชาติ   ปัจจุบันนี้พวกนักวิทยาศาสตร์ ก็รู้กันแล้วมิใช่หรือ ?  แต่นี้เป็นเพียงสิ่งที่ตาคนเห็นได้  สังเกตได้เท่านั้น

            พวกท่านทราบไหม?   การพัฒนาของวิทยาศาสตร์ในบริบทของจุลภาค ยิ่งน่ากลัว   ในการวิจัยที่ยิ่งลึกลงไปในระดับจุลภาคของมัน   ที่ทำให้อนุภาคยิ่งเล็กลงไปเกิดการแตกตัว   ก่อให้เกิดการแตกตัวแบบห่วงโซ่ของจุลอนุภาคอย่างไม่หยุดหย่อน   ระเบิดแตกตัวออกไม่สิ้นสุด   วงการวิทยาศาสตร์เดี๋ยวนี้ก็รู้แล้วว่ามันน่ากลัว     หากระเบิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆอย่างนี้   ก็ไม่ต้องใช้เวลานาน    โลกทั้งใบก็จะถูกสลายไม่มีเหลือเลย     เดี๋ยวนี้พวกนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำเรื่องนี้อยู่  ก็ไม่มีใครหยุดการระเบิดแบบนี้ได้     ปัจจุบันนี้ก็กำลังมีการแตกตัวแบบนี้อยู่  กำลังสลายตัวอยู่    คล้ายการถักเสื้อด้วยมือของชาวจีนในชนบท ( ที่ค่อยๆถักไปทีละห่วงๆ)  ขณะนี้กำลังหลุดออกไม่หยุด  ทีละห่วง ๆ   สิ่งที่วิทยาศาสตร์นำพามาให้มนุษยชาติไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น    มันน่ากลัวหรือไม่?

            มนุษย์รู้สึกว่าคอมพิวเตอร์นั้นดีมาก   ใช้ได้สะดวกมาก   ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้านคอมพิวเตอร์  ข้าพเจ้าก็ไม่ได้คัดค้านวิทยาศาสตร์   ที่ข้าพเจ้าพูดคือ มันไม่เหมาะกับมนุษย์    สิ่งมีชีวิตอื่นๆ  สามารถใช้มันอย่างจำกัดในขอบเขตหนึ่ง  เพราะว่ามันเป็นผลิตผลหนึ่งของจักรวาล    ปัจจุบันนี้บางคนความคิดทึมทื่อ  ถึงกับว่าเมื่อขาดคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถคำนวณอะไรได้    ขาดคอมฯแล้วก็คิดปัญหาไม่ออกแล้ว   จะดูแต่ว่าคอมฯมีข้อมูลอะไรอยู่    ท่านพูดเหตุผลกับเขาๆก็ไม่ฟัง   ฉันจะดูว่าคอมฯพูดอะไร   ท่านพูดกับเขาอย่างไร  เขาไม่ฟัง         มนุษย์กำลังพึ่งพามันอย่างไม่ลืมหูลืมตา( เหนียวแน่น)แล้ว   ไม่อาจขาดมันได้แล้ว   และ คำชี้นำที่มันส่งออกมา  เป็นอย่างไร ก็ต้องเป็นอย่างนั้น  คนที่ใช้มันก็ต้องฟังมัน   บางคนนั้นฟังแต่คอมพิวเตอร์จริงๆ   คอมพิวเตอร์กำลังควบคุมคนอยู่ใช่หรือไม่ ?  หากคอมพิวเตอร์พัฒนาไปอีกก้าวหนึ่ง    การพึ่งพาของคนยิ่งมาก   การชี้นำของคอมพิวเตอร์ ก็จะยิ่งเข้มแข็ง   คนก็จะถูกคอมพิวเตอร์ควบคุมจริงๆ    ถ้าหากสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ  คล้ายร่างกายคน   เมื่อหุ่นยนต์สามารถสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาได้ด้วย   มนุษยชาติก็ดับสลายแล้ว    เพราะมันจะสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาไม่มีหยุดเพื่อกวาดล้างคนทิ้งไป    ฟังแล้วช่างน่ากลัว    หากไม่ใช่เพราะเจิ้งฝ่าควบคุมการพัฒนาที่ไม่มีขอบเขตของวิทยาศาสตร์แล้ว   วันนี้ก็จะเป็นอย่างที่ว่านั้นจริงๆ    ทุกวันนี้หากดูเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายๆคน จัดการเรื่องของคนๆหนึ่งนั้น  เขาไม่ฟังคนพูด  คอมพิวเตอร์ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นตามนั้น   ถึงขั้นนี้กันแล้ว  น่ากลัวหรือไม่ละ ?  เขาฟังคอมพิวเตอร์  คนก็ต้องฟังคอมพิวเตอร์   ข้อมูลที่คอมพิวเตอร์เก็บไว้ เหตุผลคือนั่นย่อมถูกต้องแม่นยำ     แต่คนนั้นมีความสลับซับซ้อน  มีการเคลื่อนไหว  เปลี่ยนแปลง    ความคิดของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ     คนอยู่ในความเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน ของ ความดี-เลว ถูก-ผิด    เรื่องราวในโลกก็ล้วนแต่ไม่แน่นอน   และมนุษย์ก็ไม่ใช่สสารที่ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อมีการสรุป      นี่คือข้อเสียที่วิทยาศาสตร์นำมาสู่มนุษยชาติ

            แน่นอนเดี๋ยวนี้ สิ่งที่ท่านทั้งหลายเรียนกัน ก็คือสิ่งนี้   เช่นนั้นท่านไม่สอนสิ่งนี้ ท่านจะสอนอะไร ?  ก็เป็นเช่นนี้กันแล้ว   ในประวัติศาสตร์ยุคนี้ ท่านก็ทำไปอย่างนี้ก็แล้วกัน   ก็ไม่นับว่าผิด  เพราะการจะปรับสู่ความถูกต้องอย่างไร  นั่นเป็นเรื่องของอนาคตทั้งหมด

ศิษย์                 ชาวฟิลิปปินส์ส่วนหนึ่งคิดจะแปล [จ้วนฝ่าหลุน] เป็นภาษาฟิลิปปินส์     ถ้ามีคนกำลังอ่าน(เพื่อแปล)อยู่  แต่ยังไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ  เขาสามารถช่วยแปลได้ไหม ?

อาจารย์            ช่วยแปลได้  แต่ศิษย์ต้าฝ่าต้องมีบทบาทหลักในการแปล  เพราะคนธรรมดาสามัญไม่สามารถเข้าใจฝ่าได้   จุดนี้แน่นอน  พวกท่านต้องระวังไว้เสมอ

ศิษย์                 พวกเราทุ่มเทอธิบายความจริงให้คนธรรมดาสามัญตลอดมา   พยายามพูดให้กระจ่างว่าเหตุใดการประทุษร้ายต่อต้าฝ่าเป็นความชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์  พวกเราอธิบายว่านี่เป็นการประทุษร้ายแบบทั่วทั้งโลก  ประทุษร้ายต่อ มนุษยชาติ ต่อความดีงาม  ต่อจิตสำนึกที่ดีงาม    และไม่จำกัดอยู่เพียงแค่การทำร้ายร่างกายและชีวิตคน   ท่านอาจารย์กรุณาให้การชี้นำเพิ่มเติมด้วย  ?

อาจารย์            เป็นเช่นนี้   สิ่งที่พวกมันทำลายคือ จิตสำนึกอันน้อยนิดสุดท้ายที่เหลืออยู่ของมนุษย์หลังจากศีลธรรมเสื่อมลงไปแล้ว   ยังไม่เพียงเท่านี้   ถ้าหากฝ่านี้ช่วยคนไม่ได้  คนก็ไม่มีความหวังแล้ว

ศิษย์                 การอธิบายความจริงคือสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาทั้งปวง    ต้องพูดให้ครบถ้วนและลึกซึ้ง   ดังนั้นจึงวางแผนที่จะตั้งศูนย์บันทึกจริงเกี่ยวกับผู้ฝึกฝ่าหลุนกงถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ลงทุนในประเทศจีน นักศึกษา สื่อมวลชน  ต่างสามารถเข้าใจความจริงได้อย่างลึกซึ้ง  จากนั้นช่วยเหลือสรรพชีวิตให้กว้างขวาง

อาจารย์            ความคิดนี้ดีมาก  ที่นั่นมีนิทรรศการ แสดงความจริงที่ศิษย์ต้าฝ่าถูกประทุษร้าย กับ การยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ก็เป็นที่ๆสามารถใช้อธิบายความจริงช่วยเหลือสรรพชีวิต

ศิษย์                 ความเมตตาเกิดหลังจากการขจัด “ฉิง”(อารมณ์ ความผูกพัน)    เช่นนั้นธรรมานุภาพจะบำเพ็ญออกมาได้อย่างไร ?

อาจารย์            ท่านเดินบนหนทางการเจิ้งฝ่านี้ให้ดี  ในการบำเพ็ญท่านจะสามารถทะลวงข้าม สิ่งที่พันธนาการตนเองได้   สามารถปล่อยวางการยึดติดของท่าน   สามารถช่วยเหลือสรรพชีวิตด้วยความคิดถูกต้อง   ท่านสามารถปฏิบัติต่อสิ่งที่เผชิญอยู่ด้วยความคิดที่ถูกต้องได้   นั่นก็คือธรรมานุภาพ (เสียงปรบมือ)

ศิษย์                 เมื่อตอนเริ่มต้นการเจิ้งฝ่า ข้าพเจ้าทำได้ดีมาก  แต่ต่อมากลับทำได้ไม่ดี   ไม่มีความคิดถูกต้องแล้ว

อาจารย์            งั้นก็ทำให้ดีเถิด   พวกท่านดำรงชีวิตอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ   ความยั่วยวนนานาชนิดที่พบเห็นอยู่ทุกวันในสังคมคนธรรมดาสามัญ   จิตยึดติดที่ยังละทิ้งไม่ได้ในระหว่างการบำเพ็ญล้วนเป็นพันธนาการ  เมื่อใดที่ยึดกุมได้ไม่ดีก็จะเกิดปัญหา   รับรู้ได้แล้วก็เริ่มทำใหม่ให้ดีเถิด

ศิษย์                 ในการอธิบายความจริงมีบางคนถาม   ทำไมศิษย์ต้าฝ่าไปยอมรับการทรมานอย่างหนักเช่นนั้นแต่ไม่ยอมจำนน    ถ้าจะตอบปัญหานี้ในระดับคนธรรมดาสามัญนั้นไม่ง่าย   พวกเราจะตอบอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น ?

อาจารย์            ท่านย้อนถามเขาซิว่า   ทำไมชาวคริสต์ในประวัติศาสตร์ถูกประทุษร้ายนาน 300  กว่าปี ก็ไม่เปลี่ยนความเชื่อของพวกเขาละ ?  ที่จริง การตอบปัญหานี้กับคนธรรมดาสามัญไม่ใช่สิ่งสำคัญ   ในประวัติศาสตร์จีนก็มีคนมากมายยอมตายก็ไม่ศิโรราบมิใช่หรือ ?  ที่จริงเพราะทัศนคติด้านศีลธรรมของคนยุคนี้ใช้ไม่ได้แล้ว   ไม่เข้าใจการเป็นคนที่แท้จริงเลย    คนโบราณในจีนหลายคนนั้น เพื่อคำมั่นสัญญาประโยคหนึ่ง เขายอมทิ้งชีวิตแต่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง       ทำไมคนในวันนี้จึงเข้าใจยากอย่างนี้นะ?  เพราะคนในวันนี้ผิดเพี้ยนไปแล้ว   พวกท่านสามารถยกตัวอย่างในการอธิบายจากแง่มุมต่างๆ  ก็เป็นสิ่งที่ทำได้

ศิษย์                 มีชาวจีนโพ้นทะเลบางคน    โดยพื้นฐานเข้าใจความจริงของการประทุษร้ายในประเทศจีนได้   และได้แสดงความเห็นอกเห็นใจ หรือประณามสิ่งชั่วร้าย    แต่พวกเขาไม่เชื่อในต้าฝ่า   ไม่เชื่อว่าอาจารย์มาช่วยเหลือคน    กลับพูดจาไม่เคารพอาจารย์

อาจารย์            เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องไปพูดกับเขาว่าอาจารย์มาช่วยเหลือคน    ท่านพูดเรื่องการประทุษร้ายก็พอแล้ว   อย่าพูดสูงอย่างนั้น   ถ้าหากมีคนถามถึง   และเขาก็สามารถจะเข้าใจ  เช่นนั้นท่านก็พูดกับเขา  แต่ก็อย่าพูดสูงเกินไป

            คนนั้นไม่เข้าใจผู้บำเพ็ญ   คำพูดเพียงสองสามคำ ก็พูดได้ไม่กระจ่าง   ดังนั้นก็จะกลายเป็นตรงกันข้าม( กลับตาลปัตร)    อย่าพูดสูงไป  ท่านคิดจะนำหลักการของฝ่าที่ท่านรับรู้ในการบำเพ็ญทั้งหมด พูดให้เขาฟัง   ท่านก็จะทำให้เขาตกใจ    ท่านผ่านการบำเพ็ญเป็นเวลานานหลายปีอย่างนั้นจึงรับรู้ได้ถึงตรงนี้     ท่านคิดจะให้เขาบรรลุถึงระดับสูงเช่นท่านนี้ ในฉับพลัน  ?  จะเป็นไปได้อย่างไร ?  ท่านนั้นบำเพ็ญขึ้นมาทีละก้าวๆ   ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญกำลังฟังความจริง   และยังเป็นคนที่ถูกพิษร้ายด้วย ใช่ไหม?  ดังนั้นอย่าใจร้อนเกินไป

ศิษย์                 ในโรงเรียนหมิงฮุ่ยของเราเปิดชั้นเรียนสอนภาษาจีนให้กับผู้ใหญ่ที่เป็นชาวตะวันตก  คิดจะใช้   “จ้วนฝ่าหลุน” มาสอนภาษาจีน ไม่ทราบว่าเหมาะสมหรือไม่ ? เพราะไม่สามารถอธิบายฝ่า(ให้เขาฟัง)   ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เคารพ

อาจารย์            สามารถสอน   “ฝ่าหลุนกง”ได้  ขั้นต้นสามารถสอน “ฝ่าหลุนกง”   แต่ก่อนข้าพเจ้าเคยพูดถึงปัญหาว่า ควรจะอธิบายอย่างไร   สามารถใช้ความเข้าใจของท่านไปอธิบาย   ท่านพูดว่า นี่คือความเข้าใจของผม   หรือพูดว่าในขณะนี้ผมเข้าใจได้แค่นี้   เขายังมีนัยที่มากและลึกซึ้งกว่านี้  ที่ผมพูดก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็ดขาด  ท่านสามารถนำคำพูดเหล่านี้มาอธิบาย ให้นักเรียนฟัง

            ที่จริงมีคนมากมายศึกษา “ฝ่าหลุนกง” ฉบับปรับปรุง    ท่านไม่ต้องไปอธิบาย   ท่านอ่านให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจแล้ว  เพราะเป็นสิ่งที่ฝ่าจะส่งผลให้    หากมีบางคนไม่เข้าใจคำศัพท์  ท่านก็อธิบายคำศัพท์นั้น  และเพิ่มเติมว่า “ นี่เป็นความเข้าใจตามหลักภาษาในปัจจุบัน    แต่ในต้าฝ่ายังมีนัยอื่นๆอยู่อีก”   พูดลักษณะนี้ก็จะไม่มีปัญหา   พูดถึงการเรียนคำศัพท์  ก็อธิบายจากตัวคำศัพท์เองก็พอแล้ว

ศิษย์                 ทำอย่างไรให้เด็กๆเข้าร่วมในการอธิบายความจริงได้ดียิ่งขึ้น  ?  คนที่จะได้ฝ่า ในก้าวต่อไปคือ อยู่ในช่วงฝ่าปรับโลกมนุษย์ หรือ หลังจากนั้น ?

อาจารย์            ผู้ที่จะได้ฝ่าในก้าวต่อไป ได้เริ่มเข้ามาแล้ว   ที่จริงเป็นเรื่องของก้าวต่อไปในช่วงฝ่าปรับโลกมนุษย์  แต่ว่าขณะนี้เริ่มต้นเข้ามาแล้ว  เพราะว่าเวลาใกล้เข้ามามากแล้ว   เมื่อการอธิบายความจริงของศิษย์ต้าฝ่าส่งผลดีมาก ก็จะมีผู้บำเพ็ญในอนาคตเข้ามา  การอธิบายความจริงของเด็กสามารถทำไปตามเงื่อนไขที่มี   อย่ากำหนดให้เหมือนกับผู้ใหญ่

ศิษย์                 ศิษย์บางคนอู้ได้ว่า    การอธิบายความจริงในแง่เศรษฐกิจก็สำคัญมาก   เพราะสิ่งชั่วร้ายในขณะนี้.......

อาจารย์            ใช่แล้ว  เรื่องนี้ข้าพเจ้าคิดอยู่นานแล้ว   คนบนโลก มีเจ้าของบริษัทใหญ่มากมาย  ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลาย   ชาติก่อนเขาปฏิญาณไว้ว่าจะหาเงินให้ต้าฝ่าใช้     เดี๋ยวนี้พวกเขาหลงลืมไปแล้ว  พวกเขาไม่เพียงไม่ให้ต้าฝ่าใช้  แล้วยังใช้ไปที่พวกชั่วร้ายนั่น

            ครั้งนี้อิทธิพลเก่าไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาได้ฝ่า  เพราะพวกมันรู้สึกว่า  ถ้าพวกท่านมีเงินมากไปแล้ว  การประทุษร้ายครั้งนี้ก็คงอยู่ไม่ได้แล้ว    มีผู้ร่ำรวยมากหลายคนสนับสนุนพวกท่านอยู่ข้างหลัง    พวกชั่วร้ายในประเทศจีนนั้นยังจะชั่วร้ายไหวหรือ ?   มันไม่ให้ชาวจีนรู้ความจริง   พวกท่านก็สร้างดาวเทียมส่งขึ้นไป   ส่งสัญญาณลงมาที่ประเทศจีนทั้งวัน    การปิดกั้นของอิทธิพลเก่าได้ทำลายคนไปมากมายแล้ว  และบางคนบาปกรรมหนักมาก

            เรื่องเหล่านี้สามารถทำได้   ทำไปตามกำลังที่มีอยู่   บางครั้งจะหาพวกเขาได้ก็ไม่ใช่ง่าย

ศิษย์                 ในการร่วมมือ ประสานกลมกลืนกันโดยรวมมีความเห็นแตกต่างกัน   ใช่หรือไม่ว่าก่อนอื่นให้ค้นหาสาเหตุจากตนเอง ไม่ว่าเป็นเรื่องไหน ?

อาจารย์            เมื่อมีการถกเถียงกัน ควรพิจารณาว่าตนเองมีจิตยึดติดหรือไม่   ท่านทั้งหลายล้วนมีความคิดถูกต้อง  เมื่อร่วมมือกันก็จะเข้ากันได้ดีมากแน่นอน   เรื่องอะไรก็จะแก้ไขได้   หากถกเถียงกันไม่ยอมให้กันเมื่อใด  ต้องพิจารณาตนเองดู   ผู้ฝึกบางคนเข้าใจว่าการถกเถียงกันนั้นก็เพื่อเรื่องของต้าฝ่าทั้งนั้น    ด้วยเหตุนี้จึงซ่อนเร้นจิตยึดติดของตนเอง     เมื่อทำเรื่องของต้าฝ่า   จิตที่ชอบเอาชนะของท่าน   จิตที่อยากโอ้อวดของท่าน  การเห็นความสำคัญของความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง   จิตมนุษย์ที่รู้สึกว่าบารมีและความเชื่อถือของท่านถูกท้าทาย   เป็นต้น  ก็จะปะปนเข้าไปในนั้น

ศิษย์                 สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินคำว่า “ฝ่าหลุนกง”มาก่อน จำเป็นต้องพูดถึงการประทุษร้ายในประเทศจีนไหม ?

อาจารย์            แน่นอนต้องพูดถึง  เพราะช้า-เร็วเขาก็ต้องได้ยิน

ศิษย์                 อาจารย์ท่านเคยพูดว่า  เมื่อพวกเราร่วมมือกันได้ดี   ทำงานด้วยกันจะมีพลังมาก   แต่หากศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดยังไม่แสดงออกมาซึ่งพลัง สามัคคีอย่างเหนียวแน่น  พูดอย่างนี้(ที่กล่าวมาข้างต้น )จะถูกหรือไม่ ?

อาจารย์           ต้าฝ่าโดยรวมยังไม่มีพลังสามัคคีอย่างเหนียวแน่น   ?  นี่ไม่ถูกต้อง  พูดเช่นนี้ไม่ถูก   ที่จริงนั้น  ใครก็ทำลายฝ่าไม่ได้   สรรพชีวิตเอย   นอกจากข้าพเจ้าเอง ที่รู้จักฝ่าของข้าพเจ้า   ชีวิตใดๆ  เทพไหนๆก็ไม่รู้     นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่เล็กที่สุดนั้นของฝ่าที่เทพหลายองค์เคยเห็นเมื่อเริ่มแรกแล้ว   ทั่วทั้งจักรวาล ไม่มีชีวิตอื่นใดรู้จักปรากฏการณ์ที่แท้จริงของต้าฝ่า     ฝ่าหลุนที่พวกท่านมองเห็นนั้นคือ ด้านหนึ่งของพลังที่ปรากฏให้เห็น    ส่วนฝ่าหลุนที่  ฝ่ากำหนดขึ้นมาอย่างแท้จริง  นอกจากข้าพเจ้าแล้ว  ชีวิตใดๆล้วนไม่สามารถเห็นได้  พลานุภาพไร้ที่เปรียบ

               ฝ่านี้มีอยู่ทั่วไปหมดในจักรวาลใหม่ สิ่งทั้งปวงล้วนมี เจิน ซั่น เหยิ่น แทรกซึมอยู่    สำหรับการร่วมมือกันของศิษย์ต้าฝ่าเป็นอย่างไร  เป็นเรื่องการเข้าใจต้าฝ่า กับ การบำเพ็ญของแต่ละคน   ฝ่านั้นครบถ้วนบริบูรณ์ ( ไม่ขาดตกบกพร่อง)   ใครก็สัมผัสไม่ได้  มองไม่เห็น  ชีวิตใดๆก็แตะต้องไม่ได้     ข้าพเจ้านำฝ่า กับ บรรดาสิ่งที่(ฝ่า)สร้างขึ้นมา ผลักดันไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วฉับพลัน   ไปทั่วจักรวาล  ไปถึงระดับจุลภาคที่สุด  ไปถึงเทพที่ใหญ่ที่สุด   ผลักดันไปถึงทุกสิ่ง    และผลักดันไปชั้นนอกสุด กับชั้นล่างสุดและโลก   ไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน    ใครก็ขวางไม่อยู่   คือพลังที่ไม่อาจขวางกั้น ( เสียงปรบมือ)  ทำสิ่งต่างๆทั้งปวงของจักรวาลอย่างรวดเร็วฉับพลันที่สุด

ศิษย์                 ศิษย์มีบาป  แต่ผมอยากจะทำงานชดเชย  ได้ไหม?

อาจารย์            ได้

ศิษย์                 ศิษย์ต้าฝ่าที่ กว่างโจว ฉางชุน  ปักกิ่ง  หูเป่ย  เทียนจิน   ออสเตรเลีย  เจียงซู   เจ๋อเจียง  หางโจว  ซานตง  เอียนไถ   ซิงไถ หานตาน  เมืองจี้หลิน   เมืองจานเจียง มณฑลกว่างโจว  หลานโจว  ผู้ฝึกในอังกฤษ   ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดในเมืองโตรอนโต    ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดในโรงเรียนเยาวชนหมิงฮุ่ย   แคนซัส   เมืองปิงเซียง ของเจียงซี  ซ่างไห่   ศิษย์ต้าฝ่าในญี่ปุ่น   ศิษย์ต้าฝ่าในนิวแฮมเชอร์   ศิษย์ต้าฝ่าในเมืองเฟิ่งเฉิง ของ เหลียวหนิง   กว่างซี   ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดในสก็อตแลนด์   เมืองซือเหอจื่อในซินเกียง   ศิษย์ต้าฝ่าอเมริกาเหนือ   ศิษย์ต้าฝ่าอี๋ชาง   ศิษย์ต้าฝ่าในแวนคูเวอร์  คานาดา   เวยฟาง  มู่ตานเจียง   ศิษย์ต้าฝ่าบนเขาเอ๋ยเหมย   ศิษย์ต้าฝ่าทั้งหมดของเหิงหยาง   ส่านซี  ศิษย์ต้าฝ่ารัสเซีย  ทั้งหมดส่งความระลึกถึงท่านอาจารย์

อาจารย์            ขอบใจทุกๆท่าน

ศิษย์                 เร็วๆนี้ในกิจกรรมของพวกเรา  มักจะสัมภาษณ์คนธรรมดาสามัญและพรรคการเมือง กับ กลุ่ม ต่างๆ   เนื่องจากพวกเขาแสดงการสนับสนุนต้าฝ่า   นี่จะทำให้คนจำนวนมากคิดว่า เรามีแนวโน้มทางการเมืองได้หรือไม่  ?

อาจารย์            ข้าพเจ้าคิดว่า   ไม่ว่าพรรคการเมืองใดสนับสนุนก็ไม่มีปัญหา   เพราะก่อนอื่นพวกเขาก็คือคน    คือสรรพชีวิตที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือ   อย่ากังวลกับคำพูดจากใจที่ไม่ดี ของคน  ต้าฝ่ามุ่งที่ใจคน   ไม่มุ่งที่องค์กรใด ใครจะสนับสนุนต้าฝ่า ได้ทั้งนั้น   ใครปฏิบัติต่อต้าฝ่าในทางบวก ล้วนแต่ดี    นั่นคือการเลือกอนาคตของพวกเขา   ( เสียงปรบมือ) แต่พวกเราไม่มีเป้าหมายทางการเมือง  พวกเราก็ไม่มอง ว่าเป็นองค์กรอะไร   ดูแต่ใจคน

ศิษย์                 ในการโทรศัพท์   ผู้ฝึกเก่าบางคนในจีนแผ่นดินใหญ่  คล้ายกับกลัว ต่อการประทุษร้าย  ไม่คิดจะพูดคุย  ไม่ก็เปลี่ยนหัวข้อพูดคุย   ยังมีผู้ฝึกเก่าคนหนึ่ง  มาอเมริกาแล้ว   เพราะยึดติดกับชื่อเสียงและผลประโยชน์    ในระยะนี้แสดงออกเหมือนไม่ได้บำเพ็ญ   มักจะชอบอยู่กับคนธรรมดาสามัญ   กระทั่งเข้าร่วมกิจกรรมของต้าฝ่าน้อยมาก   เรียนถามอาจารย์   พวกเขายังจะบำเพ็ญได้ไหม?

อาจารย์            บำเพ็ญหรือไม่ก็ดูตัวเขาเองละกัน   ล้วนเป็นสิ่งที่คนตัดสินเอง   คนคิดจะบำเพ็ญก็บำเพ็ญ  ไม่คิดบำเพ็ญก็ไม่บำเพ็ญ  พวกท่านได้แต่แนะนำให้ด้วยความเมตตา   ข้าพเจ้าบอกฝ่านี้ให้เขาแล้ว   ในท่ามกลางการบำเพ็ญข้าพเจ้าก็สามารถช่วยเหลือเขา    แต่เขาคิดจะรับการช่วยเหลือหรือไม่   นั่นเป็นเรื่องตัวเขาเอง   แต่ไหนแต่ไรมาข้าพเจ้าไม่เคยบังคับใคร   ศิษย์ต้าฝ่าก็อย่าไปบังคับใคร   ข้าพเจ้าทำเรื่องนี้ล้วนแต่ด้วยความเมตตา    เพื่อให้สรรพชีวิตได้ดีทั้งนั้น

               เดิมทีวันนี้ข้าพเจ้าไม่คิดจะพูดนานอย่างนี้    แต่ได้พูดเสียนานแล้ว   ( เสียงปรบมือยาวนาน)  ที่จริงมีคำพูดมากมาย   ข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้ละเอียด   ศิษย์ต้าฝ่าก็ค่อนข้างสุกงอมแล้ว  เข้าใจเรื่องราวมากมายแล้ว   บางครั้งข้าพเจ้าเห็นบทความที่พวกท่านเขียน   ข้าพเจ้ารู้สึกเห็นดีด้วยจริงๆ   ข้าพเจ้าก็ภาคภูมิใจในพวกท่าน   ข้าพเจ้ารู้สึกว่าศิษย์ต้าฝ่าเหล่านี้สุกงอมแล้วจริงๆ  ฝ่าที่ข้าพเจ้าพูดพวกท่านก็เข้าใจได้อย่างแท้จริง  และเข้าใจได้ลึกซึ้งมาก    นี่คือการเข้าใจหลักการของฝ่า ด้วยความคิดที่ถูกต้อง      ขณะนี้ในการอธิบายความจริงมีศิษย์ต้าฝ่าจำนวนมากทำได้ดีจริงๆ  และทำได้อย่างเข้มแข็งจริงจังมาก ทำอย่างเงียบๆ   ความคิดถูกต้องมั่นคงอย่างมีสติ    ไม่กลัวลำบาก    อนาคตทั้งหมดของศิษย์ต้าฝ่า   ล้วนเกิดจากการทำเรื่องทั้งสามประการของพวกท่าน  โดยเฉพาะคือการอธิบายความจริง    ข้าพเจ้าเห็นสิ่งที่พวกท่านทำทั้งหมด  ข้าพเจ้าจึงกำลังคิดว่า   สุกงอมแล้วจริงๆ  สุกงอมแล้วจริงๆ

               ปัจจุบันข้าพเจ้าไม่พูด  หรือพูดแต่น้อยนั้น  มีจุดประสงค์   ให้พวกท่านเดินบนทางของตนเองในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า    ประจักษ์แจ้งในสิ่งทั้งปวงของพวกท่าน กับ ธรรมานุภาพ  ที่จริงเรื่องสำคัญที่สุดที่ข้าพเจ้าพูดในวันนี้  คือปัญหาการช่วยเหลือสรรพชีวิต   พูดวนอยู่รอบปัญหานี้ อยากให้ท่านทั้งหลายแจ่มชัดยิ่งขึ้น   เรื่องราวมากมายพวกท่านก็รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร   ข้าพเจ้าพูดเป็นรูปธรรมเกินไปนัก  ก็จะเป็นการช่วงชิงโอกาสในการสร้างสรรค์อนาคตของพวกท่านเอง    โอกาสในการเดินบนทางของตนเอง   ดังนั้นในหลายๆครั้งข้าพเจ้าจึงไม่คิดจะพูดมาก    ข้าพเจ้าจึงเฝ้าดูพวกท่านอย่างเงียบๆ   ข้าพเจ้าก็รู้ว่าพวกท่านนั้นสุกงอมยิ่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว

               ศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ ก็เช่นกัน   ยิ่งเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆในท่ามกลางการประทุษร้าย  ยิ่งมีสติสัมปชัญญะ  ยิ่งแจ่มชัด    จุดนี้สำคัญที่สุด  คือ  แจ่มชัด  รู้ว่าควรทำอย่างไร    ไม่เพียงรู้ว่าควรทำอย่างไร   แต่มีเรื่องมากมายทำได้ดีมาก    ศิษย์ผู้บำเพ็ญจริงต้องยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ศิษย์มากมายทำได้ดีมากจริงๆ   ที่รายงานออกมา ก็ล้วนถูกประทุษร้ายค่อนข้างโดดเด่น   ที่จริงหลายๆอย่างทำได้ดีมากๆ   เขาเองก็ไม่พูด   ทำไปเงียบๆ   มีเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมาย   ศิษย์ต้าฝ่ามากมายทำได้ยอดเยี่ยมมาก   ต่อไปท่านทั้งหลายก็จะทราบได้

               เห็นสิ่งเหล่านี้แล้ว  ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มปิติจริงๆ ( เสียงปรบมือ) ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ศิษย์ต้าฝ่าของข้าพเจ้าไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าผิดหวัง   แต่ก่อนข้าพเจ้าพูดว่า  ข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าไม่เหนื่อยเปล่า    ข้าพเจ้าไม่สามารถพูดเช่นนี้ได้แล้ว  เพราะนี่ไม่เพียงเป็นปัญหา ไม่เหนื่อยเปล่า  ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ศิษย์ต้าฝ่ากำลังฝึกฝนตนจนสุกงอมแล้ว   กำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่าอย่างแท้จริง    กำลังเดินบนเส้นทางสุดท้ายสู่ความเป็นเทพจริงๆ

               ( เสียงปรบมือสนั่น)

 

           

 

 

 

 

 

 

 

 

บรรยายธรรม ณ เมืองชิคาโก ปี ค.ศ. 2004

 

หลี่ หงจื้อ 

23 พฤษภาคม ค.ศ. 2004

 

สวัสดี ทุกท่าน ! ( สวัสดีท่านอาจารย์  ที่ประชุมตอบ )

                        ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเคยพูดว่า   เมื่อการกวาดล้างพวกชั่วร้ายตามการผลักดันของสถานการณ์การเจิ้งฝ่าทั่วทั้งหมด กับ การอธิบายความจริงของทุกท่าน ทำให้ชาวโลกเข้าใจพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ  พวกชั่วร้ายก็ลดน้อยลงเรื่อยๆนั้น    แม้ว่าพวกอิทธิพลเก่าไม่คงอยู่อีกต่อไปแล้ว  แต่สิ่งที่พวกมันจัดวางไว้ในตรีภูมิ ก็ยังคงส่งผลกระทบอยู่   ฉะนั้นก็พูดได้ว่า   แม้พวกชั่วร้ายมีน้อยมากแล้ว   ปัจจุบันชาวโลกทั้งหมดก็ล้วนกำลังมีสติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว   แต่พวกชั่วร้ายยังไม่ตายใจ  เช่นนั้นในเวลานี้  ก่อนที่พวกชั่วร้ายยังไม่ถูกกวาดล้างไปจนถึงที่สุด มันก็ยังสามารถแสดงบทบาทได้  พวกมันก็จะยังชั่วร้ายอย่างนั้น  เพียงแต่กำลังของมันน้อยลงแล้ว   ที่ๆพวกมันสามารถทำชั่วก็น้อยลงแล้ว

                        ขณะนี้ นอกจากการบำเพ็ญตนเองของศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนแล้ว   ทุกท่านยังต้องทำเรื่องการอธิบายความจริงให้มาก   ฉะนั้นการอธิบายความจริงนั้น  ข้าพเจ้าคิดว่ากล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  นี่ได้กลายเป็นรูปแบบการบำเพ็ญที่พิเศษของพวกท่านผู้บำเพ็ญในวันนี้ไปแล้ว  ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์   และสามารถพูดได้ว่าเป็นวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของศิษย์ต้าฝ่าที่ยืนยันความถูกต้องของฝ่า ช่วยเหลือสรรพชีวิต ในท่ามกลางการเจิ้งฝ่า    ทุกท่านทราบว่าการบำเพ็ญในอดีตนั้นเพียงแต่แสวงหาการหยวนหมั่นของแต่ละคน       แต่เรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าเผชิญอยู่นี้ใหญ่หลวงมาก  ทุกท่านทราบว่า  ข้าพเจ้าจะพูดอีกครั้ง    ข้าพเจ้าว่าคนบนโลกทุกวันนี้ล้วนไม่ใช่ธรรมดา   ถ้าหากไม่ใช่ธรรมดาดังว่า   ฉะนั้นคนที่พวกท่านช่วยเหลือ   ชีวิตที่ช่วยเหลือ  สรรพชีวิตที่ช่วยเหลือจึงไม่ใช่ชีวิตทั่วๆไป    และไม่ใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญทั่วไปจะทำได้    มีเพียงศิษย์ต้าฝ่าแห่งยุคเจิ้งฝ่าในวันนี้ในระหว่างที่ยืนยันความถูกต้องของฝ่า จึงจะสามารถทำได้  จึงคู่ควรจะทำ  จึงอนุญาตให้ทำได้   ฉะนั้นจึงพูดได้ว่าภาระทางประวัติศาสตร์ที่แบกรับไว้นั้นสำคัญมาก  ในขณะเดียวกันก็กำลังวางรากฐานสำหรับอนาคต

                        ทุกท่านทราบว่า   ทุกสิ่งของจักรวาลในท่ามกลางการเจิ้งฝ่านั้น ได้ทำไปจนถึงท้ายที่สุดแล้ว   แต่ตรีภูมิส่วนนี้ ยังมีท้ายที่สุดๆของชีวิตชั้นที่สูงกว่าดำรงอยู่   การคงอยู่ของพวกมัน  จึงก่อเกิดเป็นช่องห่าง  พวกชั่วร้ายจึงยังสามารถอยู่ในโลกทำชั่ว   แม้เปรียบกับจักรวาลอันมหึมาแล้วตรีภูมิจะเล็กมาก  แต่กลับสอดคล้องกันโดยตรง  เป็นเหมือนกับจุดโฟกัสของจักรวาล    แม้ว่าโลกนี้จะเล็กมากๆ    แม้ว่าสิ่งที่พวกเราเผชิญอยู่จะเป็นสิ่งที่คล้ายกับเทพในระดับชั้นต่ำสุดของจักรวาล   ชีวิตที่มีรูปลักษณ์ภายนอกของเทพ --- คน   กระทั่งรูปแบบการบำเพ็ญของพวกท่านล้วนเป็นสิ่งที่เริ่มต้นจากรูปแบบการบำเพ็ญที่ต่ำที่สุดของจักรวาล  แต่กลับแบกรับภารกิจที่ใหญ่หลวงมาก

ในการอธิบายความจริง ศิษย์ต้าฝ่าได้ช่วยเหลือชีวิตจำนวนมากที่สมควรกอบกู้   แต่ว่ายังไม่เพียงพอ    ที่จริงจนถึงขณะนี้  สิ่งที่ทุกท่านทำยังคงจำกัด   พูดถึงปริมาณนั้นก็ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก    โดยเฉพาะคือ ศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่   ภาระที่แบกไว้นั้นใหญ่ที่สุด   ร่างหลักของศิษย์ต้าฝ่านั้นอยู่ในประเทศจีน    ฉะนั้นศิษย์ต้าฝ่าที่นั่นควรทำให้ดียิ่งขึ้น    ควรมีสติสัมปชัญญะเพิ่มขึ้นจากบทเรียนที่ได้รับ   เพิ่มความตื่นตัวยิ่งขึ้น  เดินให้เที่ยงตรงยิ่งขึ้น   ควรให้สรรพชีวิตได้รับการช่วยเหลือมากยิ่งขึ้น    ควรแสดงบทบาทของร่างหลักของศิษย์ต้าฝ่าให้เต็มที่    ทุกสิ่งที่ศิษย์ต้าฝ่าในพื้นที่อื่นทำนั้น ล้วนเป็นการทำอยู่โดยล้อมรอบร่างหลักนี้ของต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่    กำลังยับยั้งการประทุษร้ายของพวกชั่วร้าย   ลดทอนแรงกดดันต่อศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่  และกำลังช่วยเหลือศิษย์ต้าฝ่าในจีนแผ่นดินใหญ่ ในการอธิบายความจริง    โดยรวมแล้ว เมื่อมองจากสถานการณ์การยืนยันความถูกต้องของฝ่าทั้งหมดของศิษย์ต้าฝ่า     ศิษย์ต้าฝ่าโดยพื้นฐานล้วนสามารถแสดงบทบาทของศิษย์ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่า

            แน่นอนละยังมีที่เป็นส่วนน้อย   ที่ไม่ก้าวหน้านั้นก็มีมาโดยตลอด   เพราะศิษย์ต้าฝ่านั้นมี สภาพการณ์ 3 ประเภทใช่ไหม    ประเภทที่หนึ่งคือมีสัญญากับอาจารย์ตั้งนานมาแล้ว     ประเภทที่สองคือ เคยผูกวาสนากันในประวัติศาสตร์   เคยผูกวาสนากับข้าพเจ้าในประวัติศาสตร์ยุคต่างๆกัน   แล้วกลุ่มที่สามละ   ก็คือในการถ่ายทอดฝ่าครั้งนี้ ประตูได้เปิดออกแล้ว    ผู้ที่มีรากฐาน(เกินจี)ดี   ผู้ที่ไม่เลวนัก ซึ่งดูแล้วพอไปไหวก็เข้ามาแล้ว   แต่ว่าการแสดงออกในทางปฏิบัติไม่ค่อยเป็นไปดังคาด  ถึงขณะนี้ยังมีบางคน ในการดำเนินชีวิตส่วนตัวนั้นไม่ใช่พฤติกรรมของผู้บำเพ็ญอย่างแท้จริง    เช่นนี้แล้ว  ไม่ว่าท่านจะทำมากเท่าไรก็ไม่อาจหยวนหมั่น     ในการอธิบายความจริง ได้ถลุงเงินซึ่งศิษย์ต้าฝ่าสู้อดออมเพื่อมาทำเอกสาร    ข้าพเจ้าได้บอกพวกท่านมาโดยตลอดว่า จะทำเรื่องอะไรก่อนอื่นต้องคิดถึงผู้อื่น    ในเวลาที่พวกท่านใช้เงินทองสิ่งของของศิษย์ต้าฝ่า  เคยคิดถึงสิ่งเหล่านี้บ้างไหม?  สิ่งชั่วร้ายนั้นแทรกเข้าทุกช่อง   สิ่งชั่วร้ายกำลังจ้องเขมือบทุกความคิดและการกระทำของพวกท่านๆ  ท่านยึดติดอะไร สิ่งชั่วร้ายก็ส่งเสริมสิ่งนั้นให้   ความคิดของพวกท่านไม่ถูกต้องเมื่อใด พวกมันก็จะทำให้ท่านไร้สติสัมปชัญญะ    ทุกท่านล้วนทุ่มเทเพื่อต้าฝ่า   ทว่าบางคนกลับไม่ละอายที่จะเรียกสิ่งตอบแทนจากผู้ฝึก   ท่านบำเพ็ญอยู่หรือเปล่านะ?  ท่านกำลังต่อรองเงื่อนไขกับใครอยู่หรือ?  ภาพลักษณ์ของผู้บำเพ็ญไปอยู่ไหนแล้วละ?  จะสถาปนาธรรมานุภาพของผู้บำเพ็ญได้อย่างไรกัน?  ท่านคิดว่าอาจารย์นำพวกท่านทำเรื่องการเมืองของคนธรรมดาสามัญหรือ? ยังมีบางคนในหัวสมองไม่แจ่มชัดตลอดมา  ไม่สุขุมรอบคอบ  ตนเองไม่ระวัง(สนใจ)ความปลอดภัย   ยิ่งไม่ระวัง(สนใจ)ความปลอดภัยของคนอื่น   เนื่องจาก    เมื่อเริ่มแรกที่ผู้ฝึกกลุ่มนี้เดินเข้ามาในหมู่ศิษย์ต้าฝ่า ก็รู้ว่ากำลังอยู่ในทุกข์ภัย   กำลังถูกทดสอบ    อยู่ในขั้นตอนการชำระกรรมให้น้อยลง   ซึ่งกล่าวสำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นการทดสอบที่เข้มงวดมาก   จะไหวหรือไม่ไหว   ในเวลานั้นล้วนเป็นตัวเลขที่ยังไม่รู้    แน่นอนในส่วนนี้ที่ไม่มีสติสัมปชัญญะนั้นมีน้อยมาก

            มองจากสถานการณ์ในปัจจุบัน   ข้าพเจ้ารู้สึกว่าโดยพื้นฐาน ส่วนใหญ่ก็ใช้ได้แล้ว   แต่ว่านะก็ยังมีที่ใช้ไม่ได้  ใช้จิตของคนปฏิบัติต่อฝ่า  ใช้จิตของคนปฏิบัติต่อศิษย์ต้าฝ่าที่ถูกประทุษร้าย  ใช้จิตของคนปฏิบัติต่อเรื่องทั้งสามที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ  โดยเฉพาะคือการอธิบายความจริง  ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นความสำคัญ   ที่นี่ข้าพเจ้าพูดถึงผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่เป็นด้านหลัก   คนจำนวนหนึ่งยังมีความคิดถูกต้องไม่พอ   ไม่เห็นความสำคัญต่อการอธิบายความจริง    บางคนนั้นในท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ ยังก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดี  ประเดี๋ยวเข้าใจแล้ว   ประเดี๋ยวก็เลอะเลือนอีกแล้ว   คนเอย  ไม่ว่าท่านมาจากที่ใด  ไม่ว่าท่านมีรากฐาน(เกินจี)อย่างไร  มาถึงที่ของคนนี้ ก็เข้ามาในวังวนแล้ว  อยู่ในสภาพที่เป็นมายานี้ของสังคมมนุษย์ที่อิทธิพลเก่าสร้างขึ้นมา   ก้าวออกมาจากวัฒนธรรมมายานี้ได้ยากจริงๆ  แต่ว่าแต่ละชีวิตก็ไม่ใช่จะอยู่ในวังวนไปเสียทั้งหมด   ยังมีด้านนั้นที่เข้าใจ   ยังมีรากฐานของเกินจีของชีวิตที่ คุณสมบัติเดิมก่อนกำเนิดของตนเองวางรากฐานไว้ให้   นี่ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลด้านบวก   ล้วนสามารถส่งผลกระทบที่ดีมากได้  และก็พูดได้ว่าควรมีความคิดที่ถูกต้อง   การแสดงออกในทางปฏิบัติ  ข้าพเจ้ามองเห็น  มีส่วนหนึ่งแสดงออกมาไม่ดีมากๆ    แต่ทุกท่านทราบว่าอาจารย์นั้นมาทำอะไร    ในเรื่องการเจิ้งฝ่านี้ข้าพเจ้าก็ทำเพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิต  รวมทั้งคนบนโลก  (เสียงปรบมือ)  ที่สามารถช่วยได้ก็ต้องช่วย   ข้าพเจ้ามองปัญหา ไม่เหมือนกับทุกท่าน หรือชาวโลก   คนมองคนๆหนึ่งทำความผิดแล้ว  ก็ไม่อาจให้อภัยกันแล้ว   ข้าพเจ้าไม่มองปัญหาอย่างนี้    ข้าพเจ้ามองชีวิตหนึ่งอย่างทั่วด้านทั้งหมด  แม้จะเหลือความหวังอยู่เท่าฟางเส้นเดียว ข้าพเจ้าก็ยังจะให้ความหวังกับเขา (เสียงปรบมือ)

            ชาวโลกพูดว่าอาจารย์ของพวกท่านไม่ใช่มีความสามารถมากหรอกหรือ? ทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ละ?   ไม่เหมือนอย่างที่พวกเขาคิดหรอก   พวกที่ถูกกำหนดไว้ให้กวาดทิ้งไปจริงๆนั้น  ในชั่วพลิกฝ่ามือก็สามารถทำลายได้  เช่นนั้นข้าพเจ้ามาทำอะไรละ?  ทำไมข้าพเจ้าต้องแบกรับให้กับสรรพชีวิตมากมายอย่างนี้  ทั้งหมดนั้นล้วนไม่สูญเปล่าหรอกหรือ?   เนื่องจากชีวิตบนโลกนั้น สะท้อนกับเทียนถี่  สะท้อนกับเรื่องที่ใหญ่มาก   ที่นี่คือจุดโฟกัสจุดหนึ่ง   ความผิด(บาป)ของคนๆ หนึ่งจึงไม่เพียงเป็นความผิด(บาป)ของคนๆ เดียว   ทุกท่านคิดดู   เป็นไปได้มากว่าจะเกี่ยวโยงไปถึงระบบเทียนถี่ที่ใหญ่มากระบบหนึ่ง   หากเป็นดังว่านี้แล้ว    การดับสลายของชีวิตหนึ่งอาจเป็นการดับสลายของระบบเทียนถี่ที่ใหญ่มากระบบหนึ่ง   บ้างยังไม่เป็นเพียงแค่นี้   เพราะชีวิตหนึ่งบนโลก  ถ้าหากเขาทำความผิด(บาป)แล้ว   เช่นนั้นใครเคยใช้ประโยชน์จากเขา(ใช้เขา)   ใครที่จัดวาง  ใครที่เคยควบคุมอยู่  ใครที่เคยบงการชี้นำ   องค์ประกอบของใครที่กำลังก่อผลกระทบ   ที่เกี่ยวโยงกันนี้จึงไม่เพียงเป็นหนึ่งเทียนถี่   สองเทียนถี่  แต่เป็นเทียนถี่อันมหาศาล  ล้วนจะต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้   นี่เป็นกฎของจักรวาล   นี่เป็นบรรทัดฐานแท้จริง(ฐาน)ของการจัดวางชีวิตทั้งหมดในการเจิ้งฝ่าของจักรวาล   คนนี้ทำเรื่องไม่ดี  เพียงแต่หาคนคิดบัญชี   คนก็รับผิดชอบไม่ได้   ดับสลายไปถึงระดับไหนคนก็แบกรับไม่ไหว   นั่นไม่ใช่คนธรรมดาๆที่กำลังทำผิด(บาป)   นั่นเป็นสิ่งที่ก่อขึ้นจากการเข้าร่วมขององค์ประกอบของชีวิตชั้นสูงทั้งสิ้น

            แต่ว่าพูดในทางกลับกัน  ถ้าหากคนๆนี้เกิดความคิดถูกต้องขึ้นมาแล้ว  เข้าใจได้แล้ว  เช่นนั้นคนคิดจะทำอะไรนะ  สำหรับชีวิตชั้นสูงก็จะดูด้านนี้ของคน   ถ้าคนคิดจะทำดีจริงๆ   ใครก็ไม่มีอำนาจที่จะเรียกให้คนทำบาป  ใครทำผู้นั้นก็จะถูกตีตกลงไป   ร่างหลักของชีวิตหนึ่งสามารถแสดงบทบาทด้านบวกได้  ในประวัติศาสตร์ถึงแม้ชีวิตนี้ไม่ดีไปแล้ว  ก็สามารถลดทอนบาปของเขาลงไป   เนื่องจากบรรทัดฐานการเจิ้งฝ่าทั้งหมดของจักรวาลก็คือดูท่าทีต่อการเจิ้งฝ่าของชีวิต   สภาพการณ์ทั้งหมดของคนบนโลกคือการควบคุมของภพข้างบน   ฉะนั้นท่าทีของคนจึงส่งผลกระทบต่อภพข้างบน    จนถึงระดับชั้นสูงยิ่งขึ้น

            ผู้ฝึกมากมายมีความสามารถมองเห็นทัศนียภาพบางอย่าง  มองเห็นสภาพการณ์บางอย่าง  ที่จริงนั้นข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน   ที่แท้คือปรากฏการณ์รูปธรรมของชีวิตในระดับชั้นที่ต่างกันของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล  ล้วนเป็นปรากฏการณ์ของชีวิตที่แตกต่างกัน  ร่างชีวิตของเทพที่ต่างกันเหล่านั้น   แต่หากเป็นการปรากฏของร่างหลักของราชาที่ใหญ่มหึมาของพวกเขา จึงจะเป็นสิ่งสำคัญ   พวกเขาโดยมากต่างก็รู้ความจริงมากมาย   ปรากฏการณ์ของพวกเขานั้น ไม่เหมือนกับปรากฏการณ์รูปธรรมของชีวิต   ดังนั้นที่ผู้ฝึกหลายคนมองเห็นล้วนไม่ใช่ปรากฏการณ์ของร่างหลัก   ฉะนั้นเรื่องการอธิบายความจริงนี้ กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  ในความเป็นจริงได้ข้ามพ้นไปไกลกว่าการบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่านอย่างลิบลับ    การบำเพ็ญส่วนบุคคลของพวกท่านเพียงแต่สร้างความสำเร็จให้ชีวิตๆ หนึ่ง  แต่ในการช่วยเหลือสรรพชีวิตนั้น ผลที่เกิดขึ้นกลับสร้างความสำเร็จให้ร่างหลักของชีวิตมากมายมหาศาล  ให้สรรพชีวิตที่นับไม่ถ้วน   จนกระทั่งเทียนถี่มหึมายิ่งขึ้น   ก็คือแบกภาระที่ใหญ่ถึงเพียงนี้

            แน่นอนละ ทุกสิ่งที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้นี้พวกเราไม่ยอมรับทั้งหมด   ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์นี้ไม่ยอมรับ  ศิษย์ต้าฝ่าต่างก็ไม่ยอมรับแน่นอน (เสียงปรบมือ) แต่พวกมันก็จะทำสิ่งที่พวกมันต้องการทำให้ได้  ศิษย์ต้าฝ่ายิ่งควรทำให้ดียิ่งขึ้น   บำเพ็ญตนเองให้ดีในท่ามกลางการช่วยเหลือสรรพชีวิต   ในขณะประสบทุกข์ภัยในการบำเพ็ญ ต้องบำเพ็ญตัวเอง ต้องมองตัวเอง    นี่ไม่ใช่ยอมรับทุกข์ภัยที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้   หรือจะทำให้ดีได้อย่างไรในท่ามกลางทุกข์ภัยที่พวกมันจัดวางไว้  ไม่ใช่อย่างนี้    พวกเรานั้นปฏิเสธแม้แต่การเกิดขึ้นของอิทธิพลเก่าโดยตัวมันเอง  และทุกสิ่งที่พวกมันจัดวางไว้   การคงอยู่ของพวกมันทั้งหมดก็ไม่ยอมรับ   พวกเรานั้นปฏิเสธทุกสิ่งของมันนี้โดยสิ้นเชิง  ในการปฏิเสธและขจัดพวกมัน สิ่งที่พวกท่านทำทั้งหมดจึงจะเป็นธรรมานุภาพ   ไม่ใช่ไปบำเพ็ญอยู่ในทุกข์ภัยที่พวกมันสร้างขึ้น    แต่เป็นการเดินบนหนทางของตนเองให้ดีโดยไม่ยอมรับพวกมัน   แม้แต่การขจัดทุกข์ภัยที่ปรากฏออกมาของตัวพวกมันเองก็ไม่ยอมรับด้วย (เสียงปรบมือ)  ฉะนั้นเมื่อมองจากมุมมองนี้   เรื่องที่พวกเราเผชิญอยู่  ก็คือการปฏิเสธต่ออิทธิพลเก่าทั่วทุกด้าน(ทั้งหมด)  การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายที่ปรากฏออกมาของพวกมัน  ข้าพเจ้าและศิษย์ต้าฝ่าล้วนไม่ยอมรับ

            จักรวาลนี้มีกฎข้อหนึ่งที่ทุกท่านล้วนทราบดี   ก็คือ ชีวิตล้วนจะต้องรับผลกรรมดี ผลกรรมชั่วทั้งหมดที่ตัวเองสร้างขึ้นในประวัติศาสตร์    ในการขจัดการประทุษร้ายทั้งหมดที่อิทธิพลเก่าจัดวางไว้นั้น  ศิษย์ต้าฝ่าทุ่มเทมากเพียงใดก็จะได้รับมากเพียงนั้น    ชีวิตทั่วๆไปชีวิตหนึ่ง   เมื่อแบกรับสิ่งที่ดี แบกรับสิ่งที่ไม่ดีแล้ว  ในอนาคตเขาก็จะรับผลพวงที่เขาได้รับทั้งหมดนั้น    ศิษย์ต้าฝ่าอยู่ในท่ามกลางการประทุษร้ายครั้งนี้ บรรดาการประทุษร้ายกับความทุกข์ทรมานที่ต้องทนแบกรับนั้น  ในประวัติศาสตร์แห่งอนาคตก็ล้วนแต่จะมอบเกียรติภูมิที่ใหญ่ยิ่งขึ้นให้กับศิษย์ต้าฝ่า  เป็นเกียรติภูมิที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสรรพชีวิตในจักรวาล    เพราะศิษย์ต้าฝ่าคือศิษย์ที่ต้าฝ่าในยุคเจิ้งฝ่าสร้างขึ้นมา  อยู่ร่วมกับต้าฝ่า  เรื่องนี้โดยตัวมันเองก็ขับให้ศิษย์ต้าฝ่าโดดเด่นสูงมากแล้ว    โดยเฉพาะคือ อาจารย์ให้การช่วยเหลือศิษย์ต้าฝ่าโดยตรง

            โดยตัวมันเองเรื่องนี้ก็เป็นเกียรติภูมิที่ใหญ่มาก      ศิษย์ต้าฝ่าก็ต้องคู่ควรกับเกียรติภูมินี้    แต่ไม่ใช่ว่าพออาจารย์พูดเช่นนี้ทุกท่านเข้าใจแล้ว  ในทันทีบางคนก็จะไม่ทำอะไรแล้ว  ก็จะเอาแต่มุ่งทำเรื่องของต้าฝ่าอย่างเดียว   เช่นนั้นท่านก็อาจถูกอิทธิพลเก่าใช้ประโยชน์   เพราะพวกมันก็กำลังเจาะช่องว่างอยู่  สิ่งที่ข้าพเจ้าบอกศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้  ก็คือการบำเพ็ญในรูปแบบนี้ที่สอดคล้องกับคนธรรมดาสามัญมากที่สุด  ไม่อาจเดินสุดขั้ว  ก็คือการแสดงบทบาทของศิษย์ต้าฝ่าให้เต็มที่ในท่ามกลางการยืนยันความถูกต้องของฝ่า อย่างราบรื่นและมั่นคงเช่นนี้   ทุกท่านมีความยากลำบากต่างๆนานา  นอกจากเรื่องการยืนยันความถูกต้องของต้าฝ่าแล้ว  ยังต้องอยู่ในโลกจัดความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน ความสัมพันธ์กับครอบครัว   ความสัมพันธ์กับสังคมให้สมดุล     นี่เป็นเรื่องยากมาก  ยาก แต่ว่านี่เป็นเส้นทางที่ศิษย์ต้าฝ่าต้องเดินไป

            ที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้พูดไว้นานแล้วว่า   เรื่องนี้ข้าพเจ้าได้แบ่งทำเป็นสองช่วง    ถ้าหากข้าพเจ้าทำเรื่องนี้ให้เสร็จในช่วงเดียว    เช่นนั้นทุกข์ภัยครั้งนี้ก็จะเป็นแบบทั่วทั้งโลก   ศิษย์ต้าฝ่าที่ได้ฝ่าจะเป็นจำนวนหลายพันล้านคน   และพวกที่ก่อผลด้านลบก็จะมีมากเหลือเกิน  คือจะมีหลายร้อยล้านคน   เช่นนั้นทุกข์ภัยครั้งนี้ก็จะเกิดเป็นทุกข์ภัยของทั่วทั้งโลก   ถ้าทำเรื่องนี้ดังว่านั้น   ทั่วทั้งโลกก็จะถูกกวนอยู่ในนั้น   ใครก็ไม่สามารถรอดพ้นได้  แต่ละคน  แต่ละชีวิต ในครั้งนี้ล้วนจะต้องจัดวางตำแหน่งของตนเอง  ผู้ที่สามารถบำเพ็ญ ผู้ที่สามารถก้าวออกมา ผู้ที่คัดค้าน  ที่มีความคิดเห็นต่างกัน  ล้วนกำลังจัดวางตนเอง   เช่นนั้นหลายพันล้านคนล้วนจะมาบำเพ็ญต้าฝ่าในทันที     ถ้าหากไม่เลือกรูปแบบการบำเพ็ญอย่างนี้   หลายพันล้านคนออกบวช  กล่าวสำหรับสังคมมนุษย์นั่นก็คือภัยพิบัติ   คือการไม่รับผิดชอบต่อมนุษยชาติ และฝ่าในชั้นนี้     แม้ว่าข้าพเจ้าแบ่งทำเป็นสองช่วงแล้ว  ไม่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น   แต่ในอนาคตไม่ใช่จะมีคนบำเพ็ญต้าฝ่ามากมายหรอกหรือ?  เช่นนั้นรูปแบบการบำเพ็ญแบบนี้ ก็ย่อมจะเป็นหนทางที่เหลือไว้ให้กับผู้บำเพ็ญมากมายในอนาคต

            มองจากภาระรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่า   มีหลายเรื่องยังจำเป็นต้องไปทำแบบเจาะลึกยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะคือการอธิบายความจริง   เจาะลึกเข้าไปทำเรื่องการอธิบายความจริงนี้ให้ดียิ่งขึ้น   (มัน)สัมพันธ์กับการได้ฝ่าของคนในอนาคต  สัมพันธ์กับสรรพชีวิตที่จะได้รับการช่วยเหลือ  สัมพันธ์กับการปฏิเสธอิทธิพลเก่า   สัมพันธ์กับการขจัดพวกชั่วร้ายและการประทุษร้ายครั้งนี้  และสัมพันธ์กับการหยวนหมั่นของแต่ละคน    ที่จริงผู้ฝึกบางคนตลอดมาทำได้ไม่ค่อยดีในทางปฏิบัติ   และมีผู้ฝึกจีนแผ่นดินใหญ่ไม่น้อยยังคงอาศัยข้ออ้าง ไม่ยอมก้าวออกมา   ยังมีหลายคนถูกล้างสมอง  ตนเองรู้สึกขายหน้าคนอื่น  และรู้สึกละอาย  ไม่มีหน้าจะก้าวออกมา  ท้อแท้หมดอาลัยตายอยาก   ยังมีคนแบบนี้ส่วนหนึ่งไม่ยอมก้าวออกมาโดยตลอด   หลบอยู่ในบ้านอ่านหนังสือ  ยังหาข้ออ้าง  ที่แท้คือจิตหวาดกลัวกำลังก่อเหตุ   ข้าพเจ้าก็หวังว่าศิษย์ต้าฝ่าจีนแผ่นดินใหญ่คนอื่นๆจะช่วยเหลือคนเหล่านี้   บอกให้พวกเขาก้าวออกมาทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรทำ   เรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุดนะ  สำหรับชีวิตใดๆ ล้วนคือวาสนา   ล้วนคือโอกาส

            การช่วยเหลือสรรพชีวิต  มองในสายตาของเทพ  ไม่ใช่เหมือนสังคมมนุษย์อย่างแน่นอนที่คนๆ หนึ่งทำผิดแล้ว ไปใช้รูปแบบของคน ทำให้คนแก้ไขเปลี่ยนแปลง ใช้วิธีการอย่างนั้น เทพนั้นเมตตา  มีการอภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด   รับผิดชอบต่อชีวิตอย่างแท้จริง   และไม่ให้ความสำคัญกับการกระทำชั่วครั้งชั่วคราวของคน   เพราะเทพทำให้ชีวิตหนึ่งๆเกิดการรู้แจ้งจากแก่นแท้   เบิกความสว่างทางปัญญาของจิตพุทธของชีวิตหนึ่งๆจากแก่นแท้   เมื่อมองจากจุดนี้   การอธิบายความจริงของทุกท่านยังต้องเพิ่ม ระดับความพยายามขึ้นอีกหน่อย  ยังต้องทำแบบเจาะลึกยิ่งขึ้น  ดียิ่งขึ้น  จริงจังมากขึ้น  อย่าทำอย่างขอไปทีอย่างเด็ดขาด ทำอย่างจริงจังให้ดีจึงจะสามารถช่วยเหลือคนได้มาก   ดังนั้นในจีนแผ่นดินใหญ่ คนบางคนและคนที่มีจุดประสงค์อื่น ไม่ว่าจะใช้ข้ออ้างอะไรไปบอกให้ผู้ฝึกไม่ต้องอธิบายความจริงนั้นล้วนเป็นการรบกวน  ล้วนเป็นพวกชั่วร้ายที่กำลังใช้คนรบกวน   ผู้ที่ทำเช่นนี้ถ้าไม่ใช่รับรู้ในทางที่ผิด ก็ถูกสิ่งชั่วร้ายใช้ประโยชน์แล้ว หรือคนที่มีจุดประสงค์อื่นกำลังก่อให้เกิดผลด้านลบ   เรื่องการอธิบายความจริงนี้จะต้องทำ   และจะต้องทำให้ถึงที่สุด   เรื่องนี้ไม่ได้ทำตามการจัดวางของอิทธิพลเก่า  พวกเรานั้นปฏิเสธอิทธิพลเก่าทั่วทุกด้าน(ทั้งหมด)

        พูดอีกปัญหาหนึ่ง   ทุกท่านทราบว่าศิษย์ต้าฝ่าบำเพ็ญในท่ามกลางการยืนยันความถูกต้องของฝ่าเรื่อยมา  มีสิ่งต่างๆ มากมายที่ไม่ดีซึ่งก่อเกิดขึ้นมาในหมู่คนธรรมดาสามัญนั้น  พวกท่านก็ค่อยๆสลัดทิ้งไปในขั้นตอนการบำเพ็ญเรื่อยมา   แต่มีบางสิ่งบางอย่างมันเพียงแต่ลดน้อยลงไป   หลายๆสิ่งก็สลัดทิ้งไปได้หมดจริงๆ แล้ว  เช่นนั้นสิ่งที่ลดน้อยลงนั้นก็คือไม่ได้สลัดทิ้งไปทั้งหมด   สิ่งที่ยังไม่อาจสลัดทิ้งไปได้หมดนั้นก็มีจุดประสงค์อยู่   คือให้ทุกท่านสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญก่อนที่จะหยวนหมั่น   สามารถอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญช่วยเหลือสรรพชีวิต   สามารถทำเรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าในวันนี้สมควรทำ    แต่ว่านะ  เพราะมีจิตเหล่านี้  จึงมักจะสะท้อนออกมาในการบำเพ็ญ ในการดำรงชีพของท่าน   คำพูด การกระทำของท่านในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน  กระทั่งความนึกคิดในเวลาปกติของท่าน ก็จะสะท้อนออกมาได้   เมื่อท่านถูกจิตของคนธรรมดาสามัญชักนำแล้ว  ในพริบตานั้น หรือในชั่วขณะนั้น ในเรื่องราวนั้นๆ  พฤติกรรมของท่านก็เท่ากับเป็นคนธรรมดาสามัญ     หากท่านไม่อาจปฏิบัติตามข้อกำหนดของศิษย์ต้าฝ่า และผู้บำเพ็ญบ่อยๆ  นั่นมิใช่เป็นคนธรรมดาสามัญหรอกหรือ ?

            ไม่กลัวว่าจะมีสิ่งที่เป็นของคนธรรมดาสามัญเหล่านี้    หากสามารถควบคุมมันได้ ทางพฤติกรรม สามารถยืนหยัดในตนเอง  ยืนหยัดความคิดที่ถูกต้อง ทางพฤติกรรมทำได้ดี นี่จึงเป็นการบำเพ็ญ  ถ้าไม่มีสิ่งนี้ยังไม่นับว่าบำเพ็ญ  ก็เพราะมีสิ่งนี้   ท่านสามารถบำเพ็ญตนเอง   จากนั้นสามารถยืนหยัดตนเอง  ในสภาพแวดล้อมที่สลับซับซ้อนนี้   ในการประทุษร้ายครั้งนี้ สามารถบำเพ็ญตนเอง  นี่ก็ยิ่งแสดงออกซึ่งความยอดเยี่ยมของศิษย์ต้าฝ่า  เป็นความสัมพันธ์เช่นนี้   แต่หากทุกท่านไม่ระมัดระวัง  หลายๆครั้งมันสามารถแสดงออกมาแบบยึดติดมาก

            ที่จริงบ่อยครั้งที่ศิษย์ต้าฝ่าเพื่อที่จะทำเรื่องอธิบายความจริงให้ดีในการยืนยันความถูกต้องของฝ่า  ทำเรื่องอื่นๆของศิษย์ต้าฝ่าให้ดี  ทุกท่านจึงมีเรื่องโต้เถียงกันบ่อยๆ   การแสดงออกของหลายๆคน ทุกท่านก็มองเห็นกันแล้ว  ว่าจิตคนธรรมดาสามัญนั้นหนักมาก   ผู้ฝึกบางคนถูกจิตของคนธรรมดาสามัญชักนำอย่างง่ายดาย    นานมาแล้วที่ข้าพเจ้าเฝ้าสังเกตสภาพการณ์หนึ่ง    ตลอดมาข้าพเจ้าก็ไม่ได้พูดกับทุกท่าน   เพราะว่าพวกท่านอธิบายความจริง  ทำเรื่องอื่นๆของการยืนยันความความถูกต้องของฝ่า ซึ่งล้วนสำคัญมาก  ข้าพเจ้าไม่อยากให้มันถูกเจือจางด้วยเหตุนี้   ดังนั้นตลอดมาข้าพเจ้าจึงไม่พูด     พวกท่านสังเกตหรือไม่ว่า   พวกเรามีผู้ฝึกหลายๆ คนที่ไม่อาจให้ผู้อื่นว่ากล่าวได้  ว่าทีไรก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ   ว่าทีไรในใจก็ทนไม่ได้แล้ว   สิ่งนี้หนา ช่างโดดเด่นมากแล้ว    พวกท่านคิดดูให้ละเอียดซิ  แม้แต่ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์นี้ก็ว่าพวกท่านไม่ได้แล้ว    วันนี้พวกท่านล้วนทราบว่าอาจารย์นั้นหวังดีต่อท่านจริงๆ   บรรยายธรรมแก่ท่านด้วยความเมตตา    ถ้าหากข้าพเจ้าเปลี่ยนท่าทีในฉับพลัน  ข้าพเจ้าลองเปลี่ยนสีหน้าพูดกับท่าน   ท่านก็จะรับไม่ได้ในทันที   จริงๆนะ   บางคนพูดว่า อาจารย์ว่าฉันอย่างไรฉันก็รับได้  นั่นคือท่านกำลังคิดแบบทึกทักเอาเอง    เนื่องจากการบำเพ็ญนั้นเป็นเรื่องจริงจัง จำเป็นต้องบรรลุถึงมาตรฐานนั้นให้ได้จริงๆ

            ทุกท่านทราบว่า  มีหลายสิ่งหลายอย่าง   จิตยึดติดหลายชนิด เหตุใดจะสลัดทิ้งไปอย่างไรก็ทิ้งไปไม่ได้?  ทำไมช่างยากเย็นเช่นนั้น?  ข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านมาโดยตลอดว่า  อนุภาคนั้นประกอบกันขึ้นมาจากระดับจุลภาคทีละชั้นๆ เรื่อยมาจนถึงสสารชั้นผิวนอก  หากอยู่ในระดับจุลภาคอย่างยิ่ง ทุกท่านลองดู สสารที่สร้างขึ้นมาจากสิ่งยึดติดในความคิดคืออะไร? คือ ภูเขา ภูเขาที่ใหญ่มหึมา  เหมือนหินที่แกร่งแบบหินแกรนิต   พอมันเกิดขึ้นคนก็ขยับมันไม่ได้แล้ว  ในอดีตทุกท่านทราบว่ามีผู้บำเพ็ญมากมาย ล้วนแต่บำเพ็ญจิตรอง  อาจารย์ของพวกเขาเมื่อเผชิญกับเรื่องเหล่านี้  ก็ไม่มีกำลังที่จะจัดการได้จริงๆ  ดังนั้นในการบำเพ็ญ ร่างกายนี้พวกเขาจึงเอาไปไม่ได้จริงๆ    เพราะในการบำเพ็ญ พวกเขาขจัดภูเขาใหญ่เหล่านั้นทิ้งไปไม่ได้   พวกเขาเจาะภูเขาใหญ่นั้นไม่เข้า   พวกเขาเพียงคิดหาวิธีการควบคุมมันไว้    ควบคุมมันในระหว่างฝึกสมาธิ  ในขณะที่ไร้ความนึกคิดใดๆ  ไม่ให้มันแสดงบทบาทตลอดชั่วชีวิตนี้   ในระหว่างขั้นตอนการบำเพ็ญไม่ให้มันเกิดความนึกคิด   ก็ทำได้เพียงเท่านี้   พยายามทำให้ด้านที่สามารถได้ธรรม(เต๋า)นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากมัน  ไม่ถึงกับก่อให้เกิดสิ่งยึดติดเหล่านี้   ผลสะท้อนที่ไม่ดีเหล่านี้จะทำให้เขาบำเพ็ญไม่สำเร็จ  ทำให้เขาตกลงมา  ไม่ถึงกับให้เป็นเช่นนี้    ดังนั้นพอถึงเวลาหนึ่งที่กำหนด   เวลาที่สามารถจะหยวนหมั่น  ก็ทิ้งร่างกายนี้ไปทันที  วินาทีเดียวก็รอไม่ได้

ถ้าหากผู้บำเพ็ญคนหนึ่งไม่คิดที่จะทิ้งจิตยึดติดของตน    ข้ออ้างที่มักสรรหาออกมาเสมอคือ “คนอื่นพูดกับฉันๆไม่อยากฟัง อาจารย์พูดกับฉันๆ ค่อยอยากฟัง” เมื่ออาจารย์พูดกับท่าน ภูเขาใหญ่ของท่านนั้น ก็หายวับไปเองได้แล้วหรือ?  หินแกร่งนั้นไม่ต้องบำเพ็ญ  ในทันใดก็สลายไปได้แล้วหรือ?   ถ้าข้าพเจ้าทำอย่างนี้ให้กับท่าน นั่นก็ไม่นับว่าท่านบำเพ็ญแล้ว   ดังนั้นไม่อาจทำเช่นนี้ได้   ต้องอาศัยตัวท่านเองบำเพ็ญมันทิ้งไป   มีเรื่องมากมายที่พวกท่านทำไม่ได้  แต่อาจารย์นะทำได้  แต่อาจารย์ทำอย่างไรละ?  ไม่ใช่ว่าพอข้าพเจ้าติดต่อสัมผัสกับท่านก็เอาทิ้งไป    เวลาที่ท่านยืนหยัดในความคิดที่ถูกต้อง   เวลาที่ท่านสามารถผลักไสมันออกไป  ข้าพเจ้าก็จะค่อยๆเอามันทิ้งไปให้ท่าน   ท่านสามารถทำได้แค่ไหน  ข้าพเจ้าก็เอาทิ้งไปเท่านั้น   ก็สลายให้กับท่านเท่านั้น  (เสียงปรบมือ)  แต่ว่ากล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญนะ  ท่านต้องกำหนดตัวเองเหมือนผู้บำเพ็ญที่แท้จริง   แม้ว่าบางครั้งท่านทำไม่ถึง  อย่างน้อยที่สุดท่านต้องมีความคิดที่ถูกต้องอย่างนี้  ท่านต้องบำเพ็ญตัวเอง

            ขณะนี้ผู้ฝึกจำนวนมากไม่สำนึกเอาเสียเลย   เป็นเวลานานมาแล้วที่อาจารย์ไม่ได้พูดถึงปัญหาด้านนี้   คนจำนวนมากกำลังปล่อยสิ่งเหล่านี้กำเริบ   ใน[จ้วนฝ่าหลุน] ข้าพเจ้าได้พูดปัญหาเหล่านี้ตั้งนานมาแล้ว  นี่คือสิ่งที่ผู้บำเพ็ญต้องทำให้ได้ตั้งแต่เริ่มต้น  “ถูกตีไม่ตีตอบ ถูกด่าไม่ด่าตอบ” ไม่ใช่ทำได้แต่ปาก แต่จิตต้องไม่หวั่นไหวเลย นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากในฝ่า ข้าพเจ้าบอกพวกท่านศึกษาฝ่าให้มาก ศึกษาฝ่า  ศึกษาฝ่า ศึกษาฝ่าหนา เมื่อพวกท่านไม่ใส่ใจศึกษาฝ่า สิ่งเหล่านี้ก็จะกำเริบขึ้นมาแน่นอน   จึงไม่อยากฟังคำพูดที่ไม่น่าฟัง   จึงชอบฟังคำพูดที่น่าฟัง  คนอื่นอย่าได้เสียดสีฉัน  ทุกท่านคิดดู  คนธรรมดาสามัญมิใช่คิดจะมีความสุขกับเรื่องน่ายินดีเหล่านี้ในหมู่คนธรรมดาสามัญหรอกหรือ? มีความสุขกับคำพูดที่น่าฟัง? การเป็นผู้บำเพ็ญ  ท่านต้องการสิ่งเหล่านี้ของคนธรรมดาสามัญหรือ? ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน  การเป็นผู้บำเพ็ญ ท่านก็อยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ท่านก็ต้องฟังสิ่งที่ไม่น่าฟังเหล่านั้น  ท่านก็ต้องสามารถฟังสิ่งที่ไม่น่าฟังเหล่านั้น (เสียงปรบมือ)  มิฉะนั้นปัญหาการบำเพ็ญขั้นพื้นฐานที่สุดนี้ ท่านล้วนไม่ได้แก้ไข    ตัวเองยังเรียกตัวเองว่าศิษย์ต้าฝ่า

ผู้บำเพ็ญคนหนึ่งนะ  ทำไมบางทีพวกเราโต้เถียงกันไม่ยอมหยุด? ทำไมเอาแต่เน้นย้ำเรื่องท่าทีของคนอื่น? ทำไมพอคนอื่นพูดอะไรใจก็หวั่นไหว? ไม่ใช่ว่าถูกด่าใจก็ไม่หวั่นไหวหรอกหรือ?  ในความขัดแย้งมีองค์ประกอบมากมายคือสิ่งเหล่านั้นที่กำลังก่อปฏิกิริยา  ใครแตะถูกสิ่งนี้ก็จะหุนหันพลันแล่น  หัวใจถึงกับเต้นโครมคราม   ชั่วขณะนั้นก็คิดไม่ถึงการรับผิดชอบต่อฝ่าแล้ว   เพราะตนเองโกรธไม่ยอมหาย  บางคนมักเน้นย้ำว่า  เฮ้อ คนนั้นทำไมมีท่าทีไม่ดีอย่างนี้เสมอ?  ทำไมกับใครเขาก็ปฏิบัติอย่างนี้นะ?  และมีคนพูดว่า  ทุกคนต่างมีข้อคิดเห็นต่อเขา  ถ้าจะให้ข้าพเจ้าผู้เป็นอาจารย์นี้พูดนะ  ทุกท่านผิดกันหมดแล้ว  พวกท่านล้วนไม่มีใจที่จะฟังคำพูดที่ดีแล้ว   เวลาใดที่พวกท่านสามารถทำได้ถึงกับถูกด่าใจก็ไม่หวั่นไหวแล้ว  ท่านดูซิว่าเขายังทำอย่างนี้ได้ไหม?  ก็เพราะพวกท่านล้วนมีจิตแบบนี้   จึงมีองค์ประกอบที่สามารถโจมตีจิตใจของพวกท่านอยู่   และก็เพราะพวกท่านมีใจเช่นนี้ขึ้นมา  พวกท่านจึงรู้สึกขัดเคือง  พวกท่านล้วนมีใจอย่างนี้   พวกท่านจึงกลายเป็นว่า ทุกคนต่างรู้สึกขัดเคืองที่จิตใจของพวกท่านถูกโจมตี หากพวกท่านต่างสามารถมีสภาวะจิตที่มั่นคงขณะถูกโจมตีด้วยคำพูดที่รุนแรง  ใจไม่หวั่นไหวแต่อย่างใดเลย   พวกท่านดูซิว่า   ยังจะมีองค์ประกอบอย่างนี้ดำรงอยู่อีกไหม?

            ข้าพเจ้าไม่ใช่พูดกับทุกท่านหรือว่า ผู้บำเพ็ญนั้นไม่มีเรื่องที่บังเอิญใดๆ เลย?   ข้าพเจ้าไม่ใช่พูดกับพวกท่านหลายๆครั้งหรือว่า  ผู้บำเพ็ญใจต้องไม่หวั่นไหว?  วันนี้อาจารย์ก็เป็นรูปลักษณ์ของกายเนื้ออยู่ในโลกมนุษย์  แต่อาจารย์มีความสามารถมากมาย  ข้าพเจ้ามีฝ่าเซินนับไม่ถ้วน  ซึ่งล้วนแต่กำลังจัดการเรื่องที่ควรจัดการของศิษย์ต้าฝ่า  ในระหว่างการเจิ้งฝ่าจัดการเรื่องของการเจิ้งฝ่า  กำลังทำเรื่องต่างๆมากมาย  ทว่าไม่ปรากฏออกมาในฝั่งนี้   แต่ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดกับพวกท่านคือหลักธรรมที่ถูกต้องเที่ยงแท้   คือหลักธรรมของจักรวาล  คือหลักธรรมที่สร้างผู้รู้แจ้งที่ยิ่งใหญ่   กล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่า  สิ่งที่ใฝ่หาคืออะไร   สิ่งที่บำเพ็ญคืออะไร   สิ่งพื้นฐานที่สุดนี้  ธรรมดาที่สุดนี้  ก็ลืมกันหมดแล้วหรือ ?

            ใช่ละ  ทุกท่านกำลังอธิบายความจริง  หลายๆเรื่องทำกันจนรัดตัวมาก  และยังมีเรื่องที่จะทำอีกหลายเรื่อง   ได้แสดงถึงความยอดเยี่ยมด้านนั้นของศิษย์ต้าฝ่า แต่สิ่งพื้นฐานที่สุดก็อย่าลืมบำเพ็ญมันทิ้งไป   นั่นไม่ใช่พูดกันว่าพอถึงเวลาที่สำคัญฉันก็ทำได้แล้ว  ไม่แน่เสมอไป  ความขัดแย้งใดๆที่มาล้วนแต่เป็นแบบฉับพลัน    ถึงเวลาที่สำคัญท่านอาจจะทำไม่ได้  เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่คาดคิดได้  และไม่ใช่ทำแต่ปาก  ก็เหมือนการบำเพ็ญพุทธะ  ที่พูดว่าพอฉันขึ้นไปบนนั้นจริงๆรับรองว่าฉันทำได้  จิตอะไรฉันก็ไม่เอา  แต่ว่าองค์ประกอบเหล่านั้นที่ท่านไม่ได้ทิ้งไป มันจะใช้ได้อย่างไรกันละ?  มันใช้ไม่ได้  เพราะชีวิตนี้ก็สร้างขึ้นมาแบบนี้ หินก้อนหนึ่ง ท่านวางไว้ที่ไหนมันก็ยังเป็นหิน    ทองก้อนหนึ่งท่านวางไว้ที่ไหนมันก็เป็นทองใช่ไหม

            ทุกท่านล้วนทราบว่า   ความคิดที่อยู่ในระหว่างการบำเพ็ญ ท่านไม่มีเจตนาไปคิดอะไร มันเองก็จะสะท้อนความคิดที่ไม่ดีออกมาได้  เพราะอะไรละ ? ไม่ใช่เพราะมันมีสิ่งนี้หรอกหรือ? เมื่อเกิดความขัดแย้งใดๆขึ้นมา  เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา   ข้าพเจ้าเคยบอกพวกท่าน  นอกจากคู่กรณีที่เกิดขัดแย้งกัน ซึ่งต้องค้นหาสาเหตุของตนเอง  บุคคลที่สามก็ต้องคิดพิจารณาตัวเองด้วย ว่าทำไมจึงให้ท่านพบเห็น?  ยิ่งพวกเราเป็นคู่กรณีฝ่ายหนึ่งของความขัดแย้งโดยตรง   เหตุใดจึงไม่บำเพ็ญตัวเองละ?

            วันนี้ที่ยกปัญหานี้ขึ้นมา  ข้าพเจ้าก็หาโอกาสอย่างนี้  รู้สึกว่าสมควรพูดแล้ว   เมื่อพูดออกมาทุกท่านพึงต้องระวัง  ก็ต้องเห็นความสำคัญขึ้นมาแล้ว   ทำให้ศิษย์ต้าฝ่าทำเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่านี้ให้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น  อย่าเหมือนกับคนธรรมดาสามัญ  คนธรรมดาสามัญทำเรื่องของต้าฝ่านั้นเพียงบุญวาสนา  แต่ศิษย์ต้าฝ่าทำเรื่องการยืนยันความถูกต้องของฝ่านั้นเป็นคุณูปการ  ต้องหยวนหมั่นตนเองให้ดี

            จะพูดอีกเรื่องหนึ่ง  ทุกท่านทราบว่า  ศิษย์ต้าฝ่ามีหลายๆเรื่องที่จะเหลือไว้ให้กับอนาคต  ซึ่งไม่แน่ว่าจะเหลือไว้ให้คน   บางทีในท่ามกลางจักรวาล   พวกท่านกำลังยืนยันความถูกต้องของฝ่าใช่ไหม  กำลังสำรวจดูด้านใดบ้างที่(ตนเอง)ใช้ได้หรือไม่ได้ ก้าวไปสู่เส้นทางของอนาคต   แม้ว่ามันปรากฏออกมาบนโลก  ที่ของคนนี้   แต่หากขยายให้ใหญ่แล้ว  ในเขตแดนที่ต่างกัน  นั่นก็เป็นปรากฏการณ์อีกอย่างหนึ่งแล้ว   ศิษย์ต้าฝ่าแต่ละคนล้วนต้องเดินออกไปบนหนทางของตนเอง   ในเส้นทางของการบำเพ็ญ  ระหว่างทุกท่านด้วยกันล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนกันเลย  ก็คือพูดว่าเส้นทางการบำเพ็ญของแต่ละคนล้วนต่างกัน   สภาพการณ์นานาชนิดของชีวิตในอนาคตของจักรวาลในระดับชั้นที่ต่างกัน  ณ ที่พวกท่านนี้อาจจะปรากฏออกมาในระดับหนึ่ง   จึงดูว่าการเดินบนหนทางของตนเองในการยืนยันความถูกต้องของฝ่านั้นเที่ยงตรงหรือไม่  ดีหรือไม่ดี  ใช้ได้หรือไม่  และยังมีองค์ประกอบที่ใหญ่เช่นนี้อยู่ข้างในด้วย

ในหมู่พวกท่าน  มีส่วนหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษติดตัวในการบำเพ็ญ  บางคนสามารถมองเห็น  บางคนสามารถใช้ความสามารถพิเศษบางอย่าง เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดว่า แต่ละคนล้วนเดินบนหนทางที่ศิษย์ต้าฝ่าสมควรเดิน  เส้นทางที่พวกท่านเดิน ล้วนมีผลกระทบต่ออนาคตของจักรวาล  ถ้าหากให้ศิษย์ต้าฝ่าคนไหนบำเพ็ญโดยมีความสามารถพิเศษติดตัวนั้นย่อมต้องมีสาเหตุ(เหตุผล)  แน่นอนว่าย่อมเป็นการวางรากฐานอะไรให้กับชีวิตในอนาคต  เพราะศิษย์ต้าฝ่ามีภาระรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงเช่นนี้  ก็คือแบกภาระที่หนักเช่นนี้อยู่กับตัว  มีเรื่องมากมายข้าพเจ้าไม่ได้บอกกับพวกท่าน  ไม่อยากจะบอกให้กระจ่างเพราะเกรงพวกท่านจะเกิดจิตยึดติดต่างๆนาๆ

ถ้าหากคนส่วนนี้ที่มีความสามารถพิเศษติดตัวในการบำเพ็ญ ไม่ได้เดินบนเส้นทางของตนเองให้ดี วันนี้ถูกรบกวนแล้ว พรุ่งนี้ก็รับรู้ผิดๆแล้ว  มะรืนนี้ก็ถูกของอะไรทำเสียจนจิตใจเดือดพล่าน (ขาดสติ) หาทิศทางไม่เจอแล้ว  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่านนั่นก็คือท่านไม่ได้เดินให้ดี บนทางนี้ที่จัดวางไว้ให้ท่าน   เพราะในจักรวาลนี้มีองค์ประกอบอย่างนี้ให้กับท่าน  ให้ท่านมาเดิน ทุกท่านฟังเข้าใจความหมายที่ข้าพเจ้าพูดแล้วใช่ไหม? (เสียงปรบมือ) แต่มีผู้ฝึกที่มีความสามารถพิเศษบางคนกลับสร้างความผิดหวังต่อภารกิจที่ใหญ่หลวง ไม่เดินให้ดี คิดว่าตนเองมีความสามารถหน่อย ก็กระหยิ่มใจ กระทั่งไม่เพียงเป็นปัญหาการโอ้อวดอย่างเดียว  กระทั่งเดินทางอ้อมเป็นรอบใหญ่  กระทั่งมีความรับรู้(อู้)ผิดๆ ก็ยังไม่รับรู้  ท่านสร้างความผิดหวังต่อภารกิจที่ใหญ่หลวงซึ่งจักรวาลมอบหมายต่อท่าน  นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ  ดังนั้นกล่าวสำหรับศิษย์ต้าฝ่าต้องระวังทุกๆด้าน ศิษย์ต้าฝ่าหันกลับมามองดูเส้นทางที่ท่านเดิน  ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน  แต่ละคนล้วนกำลังเดินบนทางของตนเอง  ซึ่งรวมทั้งการทำงานของท่านบนโลก  วิธีการดำเนินชีวิตของท่าน ล้วนแต่มีสาเหตุ(เหตุผล)

ฝ่าที่ข้าพเจ้าบรรยายในวันนี้  ครอบคลุมถึงผู้ฝึกในและนอกจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในภาพรวม  การยืนยันความถูกต้องของฝ่า ในช่วงนี้ของศิษย์ต้าฝ่าที่จริงล้วนทำได้ดีมาก    มีเรื่องรูปธรรมมากมายข้าพเจ้าไม่อยากพูด  เพราะว่าความดีงามนั้น  ความมหัศจรรย์นั้น  ความศักดิ์สิทธิ์นั้น   ยังคงเป็นสิ่งที่เหลือไว้ให้พวกท่านไปดูกันเอง   ในเวลานี้เพียงแต่สามารถทำ 3 เรื่องที่ศิษย์ต้าฝ่าควรทำให้ดีได้อย่างมั่นคงราบรื่น   พวกท่านก็จะสามารถก้าวข้ามมาได้  ก้าวข้ามมาได้แน่นอน (เสียงปรบมือ)

ข้าพเจ้ายังคงต้องพูดคำนั้น ข้าพเจ้าไม่อยากปล่อยให้ใครตกหล่นแม้สักคน  ดังนั้นความคิดของอาจารย์มักจะไม่เหมือนอย่างที่ท่านคิด  บางครั้งพวกท่านรู้สึกว่าบางคนไม่อาจจะวางใจ  บางคนไม่ควรช่วยเหลือ  บางคนเป็นอย่างนั้น อย่างนี้   ข้าพเจ้ากลับไม่คิดเหมือนพวกท่าน ทุกท่านทราบว่า วันนี้ประตูช่วยเหลือคนที่ข้าพเจ้าเปิดไว้นั้นกว้างมาก  งานของสรรพชีวิตในสังคมมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้   ทำอะไรก็มีทั้งนั้น   แต่ละคนนั้นข้าพเจ้าก็คิดจะช่วยเหลือหมด ขอเพียงเขาศึกษาฝ่าแล้ว  ข้าพเจ้าก็คิดช่วยเหลือเขา   ข้าพเจ้าไม่คิดจะปล่อยพวกเขาทิ้งไว้ ( เสียงปรบมือ)  พวกท่านจะทำอย่างไรจึงจะสามารถที่จะสร้างความคิดที่ถูกต้องที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นในหมู่ศิษย์ต้าฝ่านั่นจึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  เริ่มจากแต่ละคน เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของพวกเรานี้ให้ถูกต้องมากๆอย่างแท้จริง   องค์ประกอบที่ไม่เที่ยงตรงทั้งหมดก็จะสลายไป  ผู้ฝึกทั้งหมดที่ทำได้ไม่ดีก็จะเห็นความบกพร่องของตนเอง  ก็จะกระตุ้นให้พวกเขาทำได้ดี

คนเอย  ชีวิตหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวันนี้สามารถได้ฝ่า  นั่นไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ  ช่างโชคดีเหลือเกินแล้ว!  แต่ครั้นเมื่อเขาสูญเสียไป  ทุกท่านทราบไหมว่าอะไรจะรออยู่ข้างหน้า? เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก  เนื่องจากความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่นั้นและภารกิจอันใหญ่หลวงที่ได้มอบให้  เมื่อเขาไม่ทำให้เสร็จสมบูรณ์  เช่นนั้นพูดในทางตรงข้าม กับการหยวนหมั่นของชีวิตหนึ่ง   นั่นคือการเปรียบเทียบในทางกลับกัน   ชีวิตนั้น ก็จะเข้าสู่ประตูแห่งการไร้ชีวิตแล้วจริงๆ   พวกท่านก็ไม่สามารถจะทิ้งคนๆหนึ่งไปโดยไม่ระมัดระวังให้กับข้าพเจ้า ไม่ว่าคนๆนี้มีความผิดอย่างไร  เขาเป็นคนแบบไหน  ข้าพเจ้าล้วนแต่คิดจะให้โอกาสเขา แน่นอน   สังคมมนุษย์นั้นจริงๆถึงอย่างไรก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ไม่ได้แล้ว  นั่นก็ปล่อยเขาไป  สิ่งสำคัญที่ข้าพเจ้าพูดในวันนี้คือ  ศิษย์ต้าฝ่าเราต้องทำให้ดียิ่งขึ้น   คนที่ได้ฝ่าแล้วก็ต้องเห็นคุณค่าในตัวเขา  

ผู้ที่ทำได้ไม่ดี ควรคิดให้ละเอียดสักครั้ง  อย่าได้ถือเอาความเมตตาของอาจารย์เป็นเรื่องล้อเล่น   ท่านไม่เชื่อก็ได้  ท่านก็สามารถเดินบนทางของตนเอง   แต่ข้าพเจ้าขอพูดอีกครั้ง   เรื่องใหญ่อย่างนี้ซึ่งเกิดขึ้นในสังคมมนุษย์  การกระทำของคนกลุ่มใหญ่อย่างนี้ในสังคม   ฝ่าที่ข้าพเจ้า หลี่หงจื้อพูดออกมา คือสิ่งที่คนตั้งแต่โบราณกาลมา ล้วนต้องการจะรู้   ล้วนต้องการจะได้แต่ไม่ได้ (เสียงปรบมือ) ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ   สงบจิตใจคิดๆดู   พวกที่ไม่ทำให้ดี   อย่าได้ทำลายสิ่งที่เป็นนิรันดรของตนเองเนื่องจากความไร้สติและจิตยึดติดของคน

ข้าพเจ้าขอพูดเพียงเท่านี้   ขอบใจทุกท่าน  ( เสียงปรบมือ ยาวนาน)