[ฝ่าเจี่ย] เล่มนี้ เป็นการอธิบายฝ่าที่ค่อนข้างตื้นเขินไม่ลึกซึ้ง ในระยะแรกของการถ่ายทอดฝ่า

ซึ่งมุ่งเน้นตอบปัญหาให้กับผู้ฝึกใหม่ มีข้อจำกัดทางระดับชั้น จึงเหมาะสำหรับให้ผู้ฝึกใหม่ใช้อ้างอิงเท่านั้น

หลี่ หงจื้อ

16 กรกฎาคม ค.ศ. 1997


สารบัญ

การบรรยายธรรม ณ พิธีจัดจำหน่าย [จ้วนฝ่าหลุน] ครั้งแรก ณ เมืองเป่ยจิง.. 1

การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองฉางชุน... 36

การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองเจิ้งโจว.. 44

การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองจี่หนาน... 59

การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองเยี๋ยนจี๋.. 82

การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองกว่างโจว.. 109

 

 


การบรรยายธรรม ณ พิธีจัดจำหน่าย [จ้วนฝ่าหลุน] ครั้งแรก ณ เมืองเป่ยจิง

หลี่ หงจื้อ

4 มกราคม ค.ศ. 1995

           

            ก่อนอื่นขอกล่าวสวัสดีปีใหม่แด่ทุกท่าน

            พวกเราบางคนที่นั่งอยู่เป็นผู้ฝึกเก่า  บางคนยังไม่เคยเข้าร่วมชั้นเรียนฟังการบรรยาย  แต่มีความเข้าใจระดับหนึ่งในฝ่าหลุนต้าฝ่าของเรา เมื่อครู่เจ้าหน้าที่ของเราได้ทำข้อสรุปสำหรับการทำงานฝ่าหลุนต้าฝ่าในปี 1994แล้ว  ปัญหาบางอย่างที่มีอยู่โดยภาพรวมได้พูดไปแล้ว  ส่วนข้อบกพร่องนั้น  พวกเราไว้รอการทำงานนับจากวันนี้ไป  ในการปรับปรุงการสร้างสรรค์ต้าฝ่า  ขณะนี้ เมื่อดูจากรูปแบบการพัฒนาของหลักพลังของเราทั้งหมด  กำลังปรากฏแนวโน้มการขยายที่รวดเร็วฉับพลันอย่างหนึ่ง  ส่งผลกระทบมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  ขึ้นสูงเป็นเส้นตรง  อัตราการเผยแพร่เร็วมาก เพราะเริ่มจากที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดพลังจนถึงขณะนี้  ก็เป็นเวลาเพียงสองปีกว่า   และเมื่อเริ่มการบรรยายฝ่าเป็นการถ่ายทอดโดยอาศัยรูปแบบของชี่กงในระดับชั้นที่ต่ำที่สุดของการรักษาโรคเสริมสร้างสุขภาพ เพราะต้องให้ทุกท่านมีขั้นตอนของการรับรู้  พอออกมา ข้าพเจ้าพูดว่าจุดมุ่งหมายที่ข้าพเจ้าออกมานั้น ก็คือการถ่ายทอดพลังไปสู่ระดับชั้นสูง  นำพาคนไปสู่ระดับชั้นสูง  สิ่งเหล่านี้ของการบำเพ็ญระดับชั้นสูงยังไม่มีคนพูดกัน แน่ละ  เริ่มต้นนั้นเรายังคงถ่ายทอดโดยอาศัยชี่กง สิ่งที่เป็นของระดับชั้นต่ำชนิดนี้  จุดมุ่งหมายคือให้ทุกท่านมีขั้นตอนหนึ่งของการรับรู้เสียก่อน โดยเฉพาะคือหนึ่งปีมานี้  โดยพื้นฐานก็คือข้าพเจ้าบรรยายฝ่าแล้ว  ดังนั้นผู้ฝึกเราจึงทราบว่า ระดับชั้นที่ข้าพเจ้าบรรยายนั้นค่อนข้างสูง  เรื่องที่พูดล้วนเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถจะพูดได้   พูดถึงการบำเพ็ญอย่างแท้จริง  และปัญหาที่ว่าจะบำเพ็ญได้อย่างไร เพราะวิธีการบำเพ็ญก็มีมาก  แพร่หลายมาหลายปีอย่างนี้  มันจึงมีปัญหาอยู่ข้อหนึ่งว่าจะยกระดับขึ้นได้อย่างไร  ท่านมัวแต่ติดอยู่กับทฤษฎีที่มีอยู่เดิมก็ไม่ไหว   ที่ผ่านมามีคนมากมายไม่ให้ความสำคัญกับซินซิ่งในการบำเพ็ญ  ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องกุศล  ดังนั้นจึงทำกันอย่างค่อนข้างยุ่งเหยิง

            ของเราคือต้าฝ่าของสายพุทธ  เราจึงพูดหลักการนี้ของสายพุทธ   องค์ศากยมุนีเคยตรัสว่า  ในยุคธรรมะปลายจะมีมารปรากฏออกมา  สร้างความวุ่นวายยุ่งเหยิงให้กับสังคมฯของเรา  ที่จริงที่พระองค์ตรัสก็ไม่ใช่เพียงแค่ว่าในวัดมีมารมาทำลายฝ่าของพระองค์  ไม่ใช่ความหมายเพียงแค่ระดับนี้  หากตรัสถึงลักษณะทั่วไป  เป็นหลักการหนึ่งที่ใหญ่   ทุกท่านลองคิดดู  ยุคสมัยนี้ในปัจจุบัน  มาตรฐานศีลธรรมของคนเสื่อมทรามถึงขั้นนี้แล้ว  ความขัดแย้งระหว่างคนกับคนรุนแรงถึงขั้นนี้แล้ว เห็นเพียงผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว  เพื่อเงินแล้ว  เรื่องอะไรคนเราก็กล้าทำกัน  ประเพณีของสังคมตกต่ำ  ปัจจุบันระหว่างคนกับคนด้วยกันนั้นเป็นความสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่ตึงเครียดมาก  และมาตรฐานศีลธรรมนี้ก็เสื่อมทรามมาก   รักร่วมเพศอะไรเอย  การปลดปล่อยทางเพศเอย  ยาเสพติดอะไรเอย  อิทธิพลมืดอะไรเอย  ช่างเลอะเทอะสับสน   อะไรๆก็มี   ในประเทศกับต่างประเทศล้วนเหมือนกัน  พวกเราคนจีนที่อาวุโส  อายุมากนั้นยังมีทัศนคติด้านศีลธรรมอยู่บ้าง  จึงประคองสถานการณ์ของสังคมนี้ไว้ได้  ในโลกตะวันตกเขาพูดถึงวัฒนธรรมหนึ่ง  ดังนั้นวัฒนธรรมชั้นผิวนี้ของเขาจึงสามารถประคองไว้ได้ชั่วระยะหนึ่ง   แต่ในคนรุ่นหนุ่มสาว  โดยเฉพาะในหมู่คนจีนเราก็เป็นอย่างนี้  คนวัยหนุ่มสาวนั้นไม่มีศีลธรรมอะไรที่จะพูดได้  ทุกท่านลองคิดดู  หากพัฒนากันไปอย่างนี้ไม่อันตรายหรอกหรือ

            มีปรมาจารย์มากมาย  นักพยากรณ์มากมายก็พูดไว้ว่า    มนุษยชาติจะเกิดภัยพิบัติก็ดี  ทุกข์ภัยก็ดี  ไม่ว่าพวกเขาจะพูดไว้อย่างไร  แต่ทุกท่านลองพิจารณาดู   หากสังคมนี้พัฒนาอย่างนี้ต่อไปยังจะไม่อันตรายหรือ  สรรพสิ่งเมื่อถึงที่สุดก็ต้องพลิกกลับนะ  พัฒนากันต่อไปอย่างนี้  ท่านว่าก้าวต่อไปคนจะเป็นอย่างไร   ข้าพเจ้านำสิ่งนี้ถ่ายทอดออกมา  ในระดับชั้นสูงสามารถชี้นำให้คนบำเพ็ญได้    ส่วนในระดับชั้นต่ำสามารถชี้นำคนว่าจะเป็นคนได้อย่างไร  เขาสามารถเป็นประโยชน์อย่างนี้ได้จริงๆ    ดังนั้นผู้ฝึกเรามากมายจึงอยากจะศึกษา  ล้วนศึกษาตาม  เข้าใจได้ว่าดีมาก   เพราะฝ่าที่แท้จริง เมื่อถ่ายทอดออกมานั้น เขาสามารถจะช่วยคนได้  และผู้ฝึกมีความรู้สึกได้ลึกซึ้งมาก  ไม่เพียงแต่ด้านเหตุผล  แต่จากร่างกายท่าน  จากคุณสมบัติ  จากมาตรฐานศีลธรรม  ล้วนแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก   ดังนั้นจึงสามารถเกิดผลกระทบมากอย่างนี้      ต้าฝ่านี้ของเรา เขาไม่เหมือนกับหลักพลังทั่วไป    เราถ่ายทอดไปสู่ระดับชั้นสูงอย่างแท้จริง

            เดี๋ยวนี้ในสังคมมีคนงานของโรงงานมากมายหลังจากที่ศึกษาแล้ว  ก็ทำให้สภาพจิตใจในโรงงานเปลี่ยนแปลงหมดแล้ว   คนเข้าใจแล้วว่าจะเป็นคนกันอย่างไร   จะเน้นกุศลกันอย่างไร   ดังนั้นเขาก็สามารถกลายเป็นพลังการผลิต  ใจคนล้วนมุ่งสู่ความดีงาม  ตั้งใจทำงานให้ดี     หากท่านคิดจะเป็นผู้บำเพ็ญที่ดีคนหนึ่ง  ท่านต้องเริ่มทำจากรากฐาน  ก่อนอื่นท่านต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง  คนดีไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ต้องแสดงออกซึ่งการเป็นคนดีคนหนึ่ง   ฉะนั้นการงานที่หัวหน้ามอบหมายให้  ท่านต้องทำให้มันบรรลุผลอย่างดี  เพราะท่านนั้นคือ พยายามรับใช้สังคม  ย่อมต้องเกิดประโยชน์ในการกระตุ้นอย่างนี้   เพราะข้าพเจ้าถ่ายทอดพลังไปสู่ระดับชั้นสูง  สิ่งที่พูดคือฝ่าที่มุ่งสู่ระดับชั้นสูง  สามารถชี้นำคนบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง  กระทั่งบำเพ็ญไปถึงระดับที่สูงยิ่งๆขึ้น 

            เช่นนั้นหากท่านบอกว่า ฉันไม่คิดจะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง   หรือหลักการนี้เมื่อให้คนธรรมดาสามัญรู้  เขาจะพบว่าในการเป็นคนของเขาก็ต้องปฏิบัติตามหลักการอย่างนี้เช่นกัน   เพราะมาตรฐานศีลธรรมของมนุษย์นั้น ไม่ว่ามันจะลื่นไถลไปถึงขอบที่อันตรายเพียงไร  แต่หลักการของจักรวาลนี้  เขาจะไม่เปลี่ยนแปลง   เพราะหลักการของจักรวาลนี้เขาไม่เปลี่ยนแปลง  จึงสามารถมองออกว่าศีลธรรมของคนนั้นลื่นไถลลงไปแล้ว    ถ้าหากเขาก็เปลี่ยนด้วยแล้ว   ก็จะมองไม่เห็นว่าศีลธรรมของมนุษย์ลื่นไถลลงไปแล้ว  ข้าพเจ้าพูดแล้วว่าศีลธรรมของมนุษย์ลื่นไถลลงมาถึงขั้นนี้  คนมากมายยังไม่ค่อยเข้าใจ  โดยเฉพาะคือพวกเราที่เข้าร่วมชั้นเรียน  โดยมากในหนึ่งถึงสองวันแรก  เรื่องที่ข้าพเจ้าพูดนั้นเขามักจะไม่ค่อยเข้าใจ  พอชั้นเรียนนี้สิ้นสุดลงแล้ว  พอเขาหันกลับไปมองสังคมคนธรรมดาสามัญ  อะไรๆเขาก็เข้าใจได้แล้ว ท่านอยู่ในกระแสสังคมนี้ท่านไม่อาจจะรับรู้ได้  ท่านยังรู้สึกว่าท่านดีกว่าคนอื่น   แต่พอความคิดของท่านยกระดับสูงขึ้นมา   เมื่อท่านหันกลับไปมองอีกที  ท่านจึงจะพบอันตรายของมัน  เพราะต้าฝ่าสามารถมีพลังอย่างนี้ สามารถเกิดประโยชน์อย่างนี้  แม้ว่าจะเป็นถึงขั้นนี้แล้ว  คนยังคงมีจิตที่ดีงาม  ยังคงมีจิตพุทธอยู่  ดังนั้นพอท่านพูดเขาจึงเข้าใจได้   คนมากมายยังต้องการมุ่งสู่ความดีงาม  อยากจะศึกษา  แน่ละยังมีคนที่รากฐานไม่เลว ยังต้องการจะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง  ดังนั้นจึงสามารถทำให้หลักพลังนี้ของเรา เกิดแนวโน้มชนิดหนึ่งอย่างนี้ ในระหว่างขั้นตอนของการเผยแพร่

            หลายปีก่อน  เนื่องจากคนกลุ่มหนึ่งหลับหูหลับตาต่อต้านชี่กงนี้   ด้วยท่าทีที่ต่อต้านอย่างสิ้นเชิง ทำให้ชี่กงก้าวไปสู่จุดที่ตกต่ำ   สองปีก่อน กลับปรากฏสถานการณ์หลายอย่างที่ร้อนแรง  แม้ไม่ร้อนแรงเหมือนเมื่อก่อน  แต่ว่าก็ร้อนแรงมาก   แต่ในระยะนี้ก็ได้เย็นลง  เย็นลง  ไม่ใช่เพราะมีใครไปต่อต้านมัน  ใครไปวิพากษ์วิจารณ์มัน  หรือเลือกใช้วิธีการทางการเมืองทำให้มันเย็นลง  หากเป็นเพราะผู้คนล้วนสามารถสงบใจลงมาใคร่ครวญ  ว่าพวกไหนที่เป็นของจริง(ของแท้)บ้าง อะไรที่เป็นของปลอม  อะไรที่หลอกลวงคน ทำร้ายคน  ผู้คนล้วนกำลังใคร่ครวญเรื่องเหล่านี้  สามารถปฏิบัติต่อมันด้วยใจสงบได้แล้ว   จึงเกิดสถานการณ์นี้ขึ้น  ดังนั้นชี่กงปลอมมากมายจึงไม่มีตลาดแล้ว  มันเปิดชั้นเรียนหาเงินไม่ได้แล้ว  แน่ละข้าพเจ้าไปสถานที่ต่างๆถ่ายทอดพลัง  มีผู้นำของสมาคมค้นคว้าวิจัยชี่กง สมาคมค้นคว้าวิจัยร่างกายมนุษย์หลายคน เล่าเรื่องอย่างนี้ให้ข้าพเจ้าฟัง  ว่าเดี๋ยวนี้การจัดชั้นเรียนชี่กงในแต่ละแห่งล้วนจัดไม่ได้  และการรับสมัครคนเรียนก็ยากมาก  ชี่กงทั้งหมดกำลังตกต่ำลงไป   ทว่ามีแต่ฝ่าหลุนต้าฝ่า ที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเป็นเส้นตรง  และพัฒนาในอัตราที่เร็วมาก   แน่ละนี่เป็นสิ่งที่คนอื่นพูดกัน   ข้าพเจ้าก็พูดในความหมายนี้  ในอนาคตอาจจะพัฒนาไปเร็วยิ่งขึ้นอีก  เร็วยิ่งๆขึ้น  เรื่องนี้ก่อนที่ข้าพเจ้าจะออกมาก็ทราบอยู่  ในอนาคตจะเกิดสภาพการณ์อะไรข้าพเจ้าก็ทราบ  ข้าพเจ้าก็รู้แจ่มแจ้ง 

            กล่าวโดยสรุปแล้ว  ฝ่าหลุนต้าฝ่าของเรา ในระหว่างขั้นตอนของการถ่ายทอดฝ่า  ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้ฝึก รับผิดชอบต่อสังคม  พวกเราจึงได้รับผลลัพธ์ที่ดีเช่นนี้   เมื่อครู่ข้าพเจ้าจึงพูดอย่างย่อๆถึงสถานการณ์ของการพัฒนาของฝ่าหลุนต้าฝ่าเรา   ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ยังมีผู้ฝึกใหม่หลายคน  อาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าใจ ผู้ฝึกหลายคนยังอยากจะฟังข้าพเจ้าพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ของฝ่าหลุนต้าฝ่าและบรรยายฝ่าอีกสักหน่อย  ผู้ที่นั่งอยู่มีผู้ฝึกใหม่หลายคน  ข้าพเจ้าก็จะใช้เวลาช่วงนี้แนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่ากับทุกท่านสักหน่อย ในขณะเดียวกันข้าพเจ้าก็จะบรรยายอย่างคร่าวๆหลักการบางอย่างของฝ่าในการบำเพ็ญ

            ทุกท่านทราบว่า การฝึกพลังในระดับชั้นนี้ของการขจัดโรครักษาสุขภาพนั้น  คือการพูดถึงการเลือกเอาสิ่งต่างๆที่ดีของคนเขา  เพราะทุกท่านต่างก็อยากฝึกพลัง  ฝึกฝนร่างกายปัดเป่าโรคทิ้งไป จึงพูดว่าเลือกเอาสิ่งที่ดีของคนเขา  นำสิ่งของของใครมาปัดเป่าโรคทิ้งไปไม่ดีหรือ  หากกลับไปเป็นคนธรรมดาสามัญ นี้ไม่มีปัญหา  ข้าพเจ้าบอกแล้วว่า ณ ระดับชั้นที่ต่างกันมีหลักธรรมที่ต่างกันคงอยู่  หลักธรรมของระดับชั้นที่ต่างกัน  เขามีกฎเกณฑ์ที่ต่างกัน ข้อกำหนดที่ต่างกันต่อผู้บำเพ็ญ  คนธรรมดาสามัญก็อยู่ในระดับชั้นนี้ของคนธรรมดาสามัญ  ฉะนั้นในระดับชั้นนี้ของคนธรรมดาสามัญ  จึงสามารถพูดว่าเลือกเอาสิ่งที่ดีของคนเขา ทำให้ร่างกายดีได้  นี้ไม่มีปัญหา  เช่นนั้น ที่จริงชี่กงนี้มันไม่ใช่เป็นเพียงการขจัดโรคเสริมสร้างสุขภาพ  เดิมทีมันก็คือการบำเพ็ญ  เนื่องจากเพื่อให้เหมาะกับการรับรู้ของความคิดคนยุคปัจจุบัน  ยอมรับได้ง่าย ไม่ถูกใส่ร้ายป้ายสีได้โดยง่าย    ผู้คนจึงได้ตั้งชื่อให้มัน      เรียกว่า ชี่กง  ในช่วงกลางและปลายของ “การปฏิวัติใหญ่ทางวัฒนธรรม” ก็ได้พัฒนาขึ้นมาและเข้าสู่กระแสสูงแล้ว  ในเวลานั้นหากท่านนำชื่อดั้งเดิมของมันพูดออกมา  ท่านก็จะถูกวิพากษ์  แม้ว่าท่านคิดจะทำเรื่องที่ดี  เพื่อขจัดโรคเสริมสร้างสุขภาพให้กับมวลชนอย่างกว้างขวาง  ให้มีร่างกายที่ดี ก็ไม่ได้   เพราะว่าซ้ายสุดขั้วใช่ไหม  ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่เรียกชื่อเดิมของมัน จึงเรียกมันอย่างคร่าวๆว่า ชี่กง   แน่ละชี่กงนั้นแบ่งเป็นสำนักต่างๆกัน  แต่ละแนวทางแต่ละสำนักย่อมมีวิธีปฏิบัติต่างกัน    ดังนั้นจึงมีพลังกงนี้   พลังกงนั้น   ปรากฏออกมาซึ่งล้วนแต่ซ่อนชื่อเดิมของมันไว้   ชี่กงจึงเรียกกันออกมาอย่างนี้เอง

            ชี่กงนี้คือการบำเพ็ญปฏิบัติ รวมทั้งวิธีการบำเพ็ญในศาสนาก็เป็นหนึ่งในวิธีการบำเพ็ญปฏิบัติ ในเมื่อเป็นวิธีการบำเพ็ญปฏิบัติ  มันจึงไม่ใช่เป็นเพียงการขจัดโรคเสริมสร้างสุขภาพแล้ว  เพราะมันต้องบรรลุไปถึงเขตแดนที่สูงล้ำมาก ท่านคิดดูถ้านำสิ่งนั้นมาขจัดโรคเสริมสร้างสุขภาพให้กับคน  แน่ละจึงสามารถสำแดงความหัศจรรย์ของมันออกมา  แต่มีอยู่จุดหนึ่ง  เหตุใดจึงมีคนมากมายที่ฝึกพลังแล้วขจัดโรคไปไม่ได้ละ เพราะอะไรมีคนมากมายที่ฝึกพลังแต่พลังไม่เพิ่มขึ้น  เพราะชี่กงนั้นคือการบำเพ็ญปฏิบัติฉะนั้นเรื่องของการบำเพ็ญปฏิบัติจึงไม่ใช่การบริหารร่างกายของคนธรรมดาสามัญ  หรือเทคนิค ความสามารถของคนธรรมดาสามัญ หรือรูปแบบของกิจกรรมการออกกำลังกายแบบนั้นของคนธรรมดาสามัญ  มันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือสามัญวิสัย  ในเมื่อเป็นสิ่งที่เหนือสามัญวิสัย  หากคิดจะใช้วิธีการที่เหนือสามัญวิสัยนี้ทำให้ร่างกายท่านแข็งแรง  ท่านคิดจะใช้วิธีการเหนือสามัญวิสัยไปบรรลุถึงเขตแดนที่สูงล้ำ  เช่นนั้นสิ่งเหนือสามัญวิสัยนี้ก็ต้องมีหลักการเหนือสามัญวิสัยมาชี้นำด้วยใช่ไหม  หลักเหนือสามัญวิสัยอย่างนั้น  จึงบังเกิดผลในการชี้นำและควบคุมอย่างหนึ่ง  หรือพูดได้ว่า มันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือระดับชั้นของคนธรรมดาสามัญ  ท่านจึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างนั้นของหลักการเหนือสามัญวิสัย   สิ่งที่อยู่ในระดับชั้นนี้ของคนธรรมดาสามัญ  ท่านสามารถทุ่มเทกำลังกายสักหน่อย  จ่ายเงินสักหน่อย  ท่านก็สามารถซื้อมาได้  หรือท่านออกกำลังกายสักหน่อย เหมือนกับเทคนิกความสามารถในหมู่คนธรรมดาสามัญท่านก็จะได้มันมา   แต่สำหรับการบำเพ็ญฯนั้นไม่ได้  ต้องบำเพ็ญจิตใจของคน  บำเพ็ญจิตดวงนี้ของท่าน  ท่านจึงจะสามารถเลื่อนระดับสูงขึ้นได้  ต้องเน้นกุศลบำเพ็ญซินซิ่ง  ท่านจึงจะยกระดับขึ้นได้

            เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยพูดแล้วว่าเหตุใดเมื่อคนให้ความสำคัญเรื่องซินซิ่ง บำเพ็ญกุศล จึงสามารถยกระดับขึ้นมาได้  เพราะในจักรวาลนี้มีหลักการหนึ่งที่ควบคุมเอาไว้ หลักการอะไรหรือ  ก็คือที่ข้าพเจ้าพูดว่าในจักรวาลมีคุณสมบัติพิเศษประการหนึ่งคงอยู่  ก็เหมือนกับคนเรา  จะพูดถึงร่างกายนี้ของท่าน นอกจากกายเนื้อนี้ของท่าน ท่านยังมีชีวิตอื่นคงอยู่  จึงจะสามารถประกอบเป็นคนที่สมบูรณ์ได้  หากท่านเป็นแค่ร่างกายหนึ่งวางอยู่ตรงนั้น ก็คือก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง  ท่านต้องมีอารมณ์ อุปนิสัย คุณลักษณะ การคงอยู่ของจิตท่าน  ท่านจึงจะสามารถประกอบเป็นคนที่สมบูรณ์คนหนึ่ง  เป็นคนที่เป็นเอกเทศ  เป็นคนที่มีเอกลักษณ์ของตน จักรวาลนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน  นอกจากที่พวกเราสามารถจะรับรู้ได้ถึงด้านนี้ที่เป็นวัตถุสสารคงอยู่  ดวงดาวอะไรเอย  ทางช้างเผือกเอย ดวงดาว ดาวหาง   ดาวเคราะห์ นอกเหนือจากการรับรู้ในสสารด้านนี้แล้ว  มันยังมีการคงอยู่ของคุณสมบัติพิเศษ และสามารถเรียกเป็นการคงอยู่ของจิต  ฉะนั้นเมื่อพูดอย่างคร่าวๆ  เพราะฝ่านี้เมื่อต่ำลงมาก็จะใหญ่มาก  วิธีเรียกก็มีมาก  แต่ในระดับชั้นที่สูงมากก็จะเรียบง่าย  เพียงอักษรสามตัวก็ครอบคลุมคุณสมบัติพิเศษนี้ได้  เรียกว่า เจิน ซั่น เหยิ่น (ความจริง  ความเมตตา ความอดทน)  ไม่ใช่เจิน ซั่น เหม่ย (ความจริง ความเมตตา ความงดงาม) แต่คือเจิน ซั่น เหยิ่น

            คุณสมบัติพิเศษนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ของพื้นๆอย่างนี้ ข้างในของเขาแบ่งออกเป็นสิ่งต่างๆมากมาย ในแต่ละระดับชั้น  ระดับชั้นที่ยิ่งต่ำก็จะยิ่งซับซ้อน ยิ่งสลับซับซ้อน  ในระดับชั้นสูงใช้ อักษรสามตัวก็ครอบคลุมได้แล้ว เรียกว่า “เจิน ซั่น เหยิ่น (ความจริง ความเมตตา ความอดทน)”  ในแต่ละอณูของอากาศ  ในแต่ละอณูที่เล็กที่สุดของสสาร  ดิน  ก้อนหิน  เหล็ก  ไม้  แม้แต่พลาสติก  ในสสารทั้งปวง  ในอากาศล้วนมีคุณสมบัติพิเศษนี้คงอยู่  คนธรรมดาสามัญไม่อาจรู้สึกได้ถึงการคงอยู่ของเขา   เพราะคนธรรมดาสามัญอยู่ในระดับชั้นของคนธรรมดาสามัญนี้ของตน ดังนั้นจึงรู้สึกไม่ได้ดังนั้นพอท่านคิดจะพ้นไปจากระดับชั้นของคนธรรมดาสามัญนี้  ท่านจึงจะสามารถรู้สึกได้ถึงการคงอยู่ของเขา  หรือพูดได้ว่า หากท่านคิดจะขจัดโรคโดยใช้วิธีการที่เหนือสามัญวิสัย แต่ท่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของเขา ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานของสภาวะนี้  โรคนี้ของท่านก็ขจัดทิ้งไปไม่ได้   ท่านคิดจะให้พลังโตขึ้นมา  แต่ท่านไม่ปฏิบัติตามหลักการเหนือสามัญวิสัยนี้ หรือพูดว่าหากไม่กำหนด(ตัวเอง)ตามหลักการที่เหนือกว่าระดับชั้นของคนธรรมดาสามัญนี้  พลังของท่านก็ไม่อาจโตขึ้นมาได้ตลอดไป

            ถ้าเช่นนั้นเหตุใดบางคนที่มีมาตรฐานศีลธรรมแย่มาก แต่เขายังมีพลังอยู่บ้างละ  หนึ่งคือเกิดจากรากฐานของตัวเขาเอง  แต่เพราะมาตรฐานศีลธรรมของเขาแย่มาก  เขาจึงกำลังใช้รากฐานของตนเองให้หมดไป  เมื่อใช้หมดไปแล้วเขาก็จะไม่มีอะไรแล้ว ก่อนที่เขายังใช้มันไม่หมด เขาก็จะยังมีเหลืออยู่เล็กน้อย   ยังมีบางคนที่มีตัวสิงอยู่  มารนี้หนา  ก็อนุญาตให้มันนี้คงอยู่ได้ในช่วงเวลาพิเศษ  ในสภาวะที่ต่ำมากที่กำหนดไว้เป็นพิเศษ  มันมีประโยชน์  หากไม่มีมาร คนก็ไม่มีโรค  หากไม่มีมาร คนก็ไม่มีทุกข์ภัย  เพราะคน ควรจะมีทุกข์ภัย ควรจะมีโรค  เพราะคนก่อขึ้นเอง  พูดในทางกลับกัน มารนั้นก็คือสิ่งที่คนสร้างขึ้นเอง   หากเมื่อก่อนเคยรังแกใครไว้   ทำเรื่องเลว  เคยฆ่าชีวิต  ฉะนั้นท่านต้องชดใช้   ท่านไม่ชดใช้ย่อมไม่ได้  ในจักรวาลนี้ จากหลักการของ เจิน ซั่น เหยิ่น แตกแขนงออกมาเป็นหลักการ ที่เรียกว่า “ผู้ไม่สูญเสียจะไม่ได้”  จะได้ก็ต้องเสีย  ติดค้างไว้ก็ต้องชดใช้  ท่านไม่สูญเสียก็จะบังคับให้ท่านสูญเสีย  เขาก็มีหลักการนี้กำกับอยู่   ดังนั้นจึงมีทุกข์ภัย

            เจิน ซั่น เหยิ่น นี้ที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดไปนั้น ในการบำเพ็ญสายพุทธนั้น ให้รับรู้ ซั่นของ เจิน ซั่น    เหยิ่นเป็นสำคัญ  แต่เจิน เขาก็มี  เหยิ่นเขาก็มี   แต่จุดเน้นที่เขาบำเพ็ญ อยู่ที่ซั่น   บำเพ็ญซั่น สามารถเกิดจิตเมตตา พอเกิดจิตเมตตาแล้ว  เขาเห็นว่าใครๆก็เป็นทุกข์อยู่   ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีความปรารถนาจะช่วยเหลือสรรพชีวิต  หลักธรรม(ฝ่า)นี้เมื่อแผ่ขยายลงมาจึงใหญ่  การช่วยเหลือสรรพชีวิตใช่ไหม  เขาถ่ายทอดให้คนมากมาย  ดังนั้นจึงแตกแขนงออกเป็นแปดหมื่นสี่พันแนวทาง   สายเต๋านั้นรับรู้เจินเป็นสำคัญ  บำเพ็ญเจินเป็นสำคัญ   แต่ซั่นก็มี  เหยิ่นก็มี   จุดสำคัญนั้นเขาบำเพ็ญเจิน    ดังนั้นเขาจึงพูดว่า  พูดจริง  ทำจริง  เป็นคนจริง  บำเพ็ญความจริง บ่มเพาะคุณสมบัติ หวนคืนสู่ความจริง   สุดท้ายบำเพ็ญเป็นคนจริง  จุดสำคัญเขาบำเพ็ญที่เจิน นี้  เพราะเขาบำเพ็ญที่เจิน  เขาจึงไม่มีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิต ดังนั้นลูกศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดอย่างแท้จริงของสายเต๋าจึงมีคนเดียว   ส่วนศาสนาเต๋าเป็นศาสนาที่ปรับปรุงใหม่ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในยุคใกล้   ในอดีตในยุคที่ยาวไกล  ในแต่ละอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ล้วนไม่มีศาสนาเต๋า ดังนั้นในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสายเต๋าจะถ่ายทอดลูกศิษย์เพียงคนเดียว   ในเมื่อเขาจะถ่ายทอดให้เพียงคนเดียว  ขอบเขตของการถ่ายทอดของเขาจึงแคบมาก  หลักธรรมนี้ของเขาเมื่อแผ่ขยายออกมาแล้ว  ก็แตกแขนงเป็นสามพันหกร้อยแนวทางเมื่อเปรียบกันแล้ว สายพุทธมีแปดหมื่นสี่พันแนวทาง      จึงมากเหลือเกิน   

            เจิน  ซั่น  เหยิ่น เขาเป็นมาตรฐานหนึ่งเดียวในการประเมินความดี ความชั่ว  หากท่านกลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษนี้  ท่านจึงจะเกิดพลังขึ้นมาได้  ถ้าท่านไม่กลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษนี้  ท่านก็จะไม่เกิดพลังตลอดไป  เรื่องนี้เราได้พูดไปแล้ว  สำหรับผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง หรือคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง หลักการนี้เพียงไม่กี่คำพูดก็ครอบคลุมแล้ว  อย่างเช่น  คนดี  คนชั่ว กับผู้บำเพ็ญจะแยกแยะได้อย่างไร  คนที่สามารถคล้อยตามคุณสมบัติพิเศษนี้ของจักรวาล จึงจะเป็นคนดีคนหนึ่ง  รับรองว่าต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง  ส่วนคนที่ดำเนินชีวิตโดยหันหลังให้กับคุณสมบัติพิเศษของจักรวาลนี้  นั่นจึงจะเป็นคนเลวอย่างแท้จริง    ในที่ทำงานอาจจะมีบางคน  ที่คนเขาพูดกันว่าท่านไม่ดี  ชั่วชีวิตนี้ท่านได้แต่ทนทุกข์  ใครก็มองท่านไม่ขึ้นหรือรังแกท่านอยู่เสมอ   ข้าพเจ้าขอบอกว่า  ไม่แน่ว่าท่านจะไม่ดีจริงๆ  หากในที่ทำงานใครๆก็เยินยอว่าท่าน  บางทีเพราะท่านมีความสามารถ  ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า  ไม่แน่ว่าท่านจะดีจริง  หลักการนั้นของจักรวาลจึงจะเป็นมาตรฐานหนึ่งเดียวในการตัดสินดีชั่ว  ฉะนั้นในฐานะผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง ก็คือท่านสามารถกลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของจักรวาลนี้  ท่านก็คือผู้ที่ได้ธรรมะ  ก็เป็นหลักการง่ายๆอย่างนี้

            พลังของคนไม่ใช่ออกมาจากการฝึกแต่อย่างใด  ทุกท่านล้วนกำลังฝึกชี่กง  ทุ่มเทฝึกฝนอย่างมาก  ฝึกแบบตื่นแต่เช้านอนดึก  ก็เข้าใจว่าพลังของเขาสามารถจะโตขึ้นมาได้  แต่กลับโตขึ้นมาไม่ได้เลย  คำพูดนี้ที่ข้าพเจ้าพูดมีคนมากมายอาจรู้สึกตกใจ  บอกว่าท่านมิใช่สอนคนเขาฝึกพลังด้วยหรอกหรือ เช่นนั้นท่านสอนอะไรให้คนละ  ทุกท่านทราบว่า มีคำอยู่สองคำเรียกว่า “บำเพ็ญปฏิบัติ” ผู้คนต่างเน้นที่ปฏิบัติ ไม่เน้นที่บำเพ็ญ    ก็เข้าใจว่า   คำว่าบำเพ็ญนี้ดูเหมือนเป็นการขยายของคำว่าปฏิบัติ นั้น           เป็นคำขยายของคำศัพท์ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน   บำเพ็ญต้องมาก่อน ปฏิบัติอยู่ข้างหลัง  การบำเพ็ญจึงจะสำคัญเป็นอันดับแรก  หากท่านไม่เน้นการบำเพ็ญซินซิ่งของท่าน  ไม่เน้นกุศล  ท่านก็ไม่อาจจะพูดถึงพลังงานได้เลย  หากท่านไม่ให้ความสำคัญกับการบำเพ็ญซินซิ่ง  ท่านจะไม่มีพลังเลย  และพลังงานที่แท้จริงก็คือพลังกง  ก็คือความสูงต่ำของระดับชั้น   แรงพลังมากหรือน้อยของพลังกงนี้  คนจะมีพลังกงสูงเพียงไร  หรือที่เรียกกันในศาสนาพุทธว่ามรรคผลสูงเพียงไร   พลังกงนั้นออกมาจากการบำเพ็ญโดยเฉพาะ    ทุกท่านเห็นว่าพระสงฆ์นั้นไม่ได้ฝึกพลัง  แต่เขาก็ก่อเกิดพลังได้  เพราะอะไรละ  ก็คือเขากำลังบำเพ็ญอยู่ 

            ฉะนั้นการบำเพ็ญกับการปฏิบัตินี้ที่เราพูดถึง  มันมีความสัมพันธ์กันอย่างไรละ  อีกสักครู่ข้าพเจ้าจะบอกว่าที่เราปฏิบัติกันคืออะไร  การบำเพ็ญกับการปฏิบัติสัมพันธ์กันอย่างไรหรือ  เพราะอะไรเราบำเพ็ญแล้วก็สามารถเกิดพลังได้ละ  ท่านว่าการบำเพ็ญซินซิ่งสิ่งนี้  ที่ท่านพูดนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในความคิดของคน  อยู่ในแนวคิด  อยู่ในสภาพจิตสำนึกของคนหรอกหรือ  บรรดาพลังกงที่ฝึกปฏิบัติที่เราพูดนั้น เขาไม่ใช่สสารที่คงอยู่หรือ  ระหว่างพวกมันมีความสัมพันธ์กันอย่างไรละ   ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน หลักการนี้พอไปถึงระดับชั้นสูง ก็ไม่อาจจะปฏิบัติต่อมันเหมือนอย่างในระดับชั้นต่ำ  คนธรรมดาสามัญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญพูดเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  ก็พูดได้ไม่กระจ่าง   ฉะนั้นหากกระโดดออกไปจากหมู่คนธรรมดาสามัญ มองดูเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  แค่มองปราดเดียวก็เห็นอย่างทะลุปรุโปร่ง ตลอดมาในหมู่นักคิด นักทฤษฎี ถกเถียงกันว่าสสารเป็นคุณสมบัติอันดับแรก หรือว่าจิตใจเป็นคุณสมบัติอันดับแรก ทำการถกเถียงปัญหานี้มาโดยตลอด   ถกเถียงโดยแยกมันออกจากกัน  รับรู้โดยแยกมันออกจากกัน  ข้าพเจ้าว่ามันก็คือคุณสมบัติเดียวกัน  เป็นเอกภาพกัน เราขอยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด  ปัจจุบันพวกเราที่ศึกษาสรีระวิทยาก็ดี  หรือวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็ดี  เข้าใจกันว่าความคิดของคน  สิ่งที่คนคิดกันก็คือพลังงานความนึกคิดชนิดหนึ่ง  ความนึกคิดที่คนส่งออกมาก็คือสสารชนิดหนึ่ง  ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปเช่นนี้แล้ว  ฉะนั้นในเมื่อมันเป็นสสารชนิดหนึ่ง  มันเป็นความคิดกับจิตใจของคนใช่หรือไม่  เป็นความนึกคิดที่ท่านคิดใช่ไหม  มันไม่ใช่คุณสมบัติเดียวกันหรือ  เรื่องนี้ข้าพเจ้าก็ได้ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด

            เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า สสารชนิดนี้ที่คงอยู่ในจักรวาล  ในขณะเดียวกันก็มีคุณสมบัติพิเศษนี้คงอยู่ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่มีคุณสมบัติเดียวกัน  สิ่งที่เป็นร่างวัตถุเดียวกัน  ท่านไม่กลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษนี้  ท่านก็จะบำเพ็ญขึ้นมาไม่ได้ตลอดไป  หมายความอะไรหรือ  ขอยกตัวอย่างง่ายๆ  สสารมากมายมหาศาลในจักรวาลนี้  ในสสารแต่ละชนิด ต่างมีคุณสมบัติพิเศษนี้คงอยู่ทั้งนั้น  มันมีพลังในการสร้างดุลยภาพและควบคุมชนิดหนึ่ง   คนอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญแต่ละชาติแต่ละภพไม่รู้ว่าได้ทำเรื่องไม่ดีไว้มากมายเพียงไร หากให้ข้าพเจ้าพูด คนก็อยู่ในกงกรรมกงเกวียนจนมาถึงขั้นนี้  ล้วนมีกรรมหนักมาก  ก็เหมือนกับขวดใบหนึ่ง  ในขวดใบนี้บรรจุสิ่งสกปรกไว้เต็ม  หากท่านปิดฝาไว้ให้แน่น  หากท่านไม่เทสิ่งสกปรกนี้ทิ้งไป แล้วท่านทิ้งมันลงไปในน้ำ “ตูม” ในทันใดก็จมลงจนถึงก้นบึ้ง หากท่านเทมันทิ้งไปหน่อยหนึ่ง  ท่านโยนมันลงไปอีกมันก็จะลอยขึ้นมานิดหนึ่ง  ท่านเทออกไปอีกหน่อยมันก็จะลอยขึ้นมาอีกนิด ยิ่งเทออกไปมากก็ลอยขึ้นมายิ่งสูง พอท่านเทสิ่งสกปรกนี้ออกไปหมด ขวดใบนี้ท่านปิดฝาของมันไว้ให้แน่น  พอท่านกดมันลงไปในนั้น ก็จะกดไม่ลง  มันก็จะลอยอยู่อย่างนั้น  ตำแหน่งของมันก็ควรที่จะอยู่ตรงนั้น  ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่าง คือว่า  คนอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญล้วนแต่ทำเรื่องไม่ดีไว้ไม่น้อย  ใจของท่านถูกปนเปื้อนแล้ว  ความคิดของท่านถูกปนเปื้อนแล้ว  ท่านมีกรรมใหญ่มาก   สิ่งเหล่านี้ท่านไม่ทิ้งมันไป  ซินซิ่งของท่านไม่เปลี่ยนให้ดีขึ้น  ท่านยังจะก่อเกิดสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ได้อีก  และก่อเกิดอยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นท่านต้องเปลี่ยนแปลงจิตใจให้ดี  นำสสาร กับสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ทิ้งไป หรือพูดได้ว่าในเวลาที่ท่านบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ท่านต้องทนทุกข์บ้าง  เหนื่อยยากกายา  ทุกข์ทรมานจิตใจ  ท่านจึงจะสามารถยกระดับขึ้นมาได้  ที่ข้าพเจ้าพูดนี้คือการบำเพ็ญขึ้นมา  หากท่านไม่บำเพ็ญจิตใจดวงนี้  คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลที่ควบคุมท่านอยู่นั้น เขาจะไม่ให้ท่านขึ้นมา พวกเรายังสามารถอธิบายให้กับท่านโดยแบ่งแยกออกมา พลังนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

พูดถึงคนเรา  ที่จริงในแต่ละมิติล้วนมีคน มีคงอยู่ในแต่ละมิติ เนื่องด้วยความแตกต่างของกาลมิติกับความแตกต่างของการคงอยู่ของร่างกาย  ความแตกต่างของรูปลักษณ์จึงมากเหลือเกิน ในมิติที่พิเศษอันหนึ่ง รอบๆ ร่างกายเรามีสนามหนึ่ง และสนามนี้มีสสารสองชนิดคงอยู่ หนึ่งคือกุศล(เต๋อ) ก็คือสสารชนิดหนึ่งที่ขาวๆ เป็นก้อนกลมๆ คนที่มีกุศลมากๆ จะมีความหนาแน่นมาก ในอดีตตลอดมาผู้คนพูดถึงกุศลว่า เป็นสิ่งที่อยู่ในภาวะจิตสำนึก เป็นเขตแดนชนิดหนึ่ง ข้าพเจ้าขอบอกพวกท่าน กุศลนั้นก็เป็นสสารชนิดหนึ่ง เป็นสสารที่คงอยู่โดยแท้ ยังมีของอีกชนิดหนึ่งที่คงอยู่ในสนามเดียวกัน เรียกว่ากรรม แต่มันเป็นสีดำ กุศลสิ่งนั้นได้มาด้วยการทำเรื่องที่ดี หรือถูกเขารังแก  ทนทุกข์ หรือประสบความทุกข์แล้วได้กุศลอันนี้ แต่กรรม สสารสีดำอันนั้นเกิดขึ้นจากที่ตนเองทำเรื่องเลว  ในอดีตคนพูดถึงรากฐานดีกับเลวนั้น ก็คือดูอัตราส่วนของสสารสองชนิดนี้ว่ามีเท่าไร ทำให้เมื่อเขาอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ เป็นด้านหนึ่งที่สำคัญที่ผู้บำเพ็ญพูดถึงว่ารากฐานดีกับเลว แต่คนธรรมดาสามัญจะมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ  เพราะคนธรรมดาสามัญอยู่ในวังวน เพราะท่านอยู่ในวังวนจึงให้ท่านคืนกลับไปจากในวังวน เนื่องจากท่านเองทำให้ตัวเองตกลงมาที่ขั้นนี้แล้ว ดังนั้นท่านจึงต้องปิดตาบำเพ็ญกลับไป  ไม่ให้ท่านมองเห็นภาพจริง  หากเห็นภาพจริงแล้วก็บำเพ็ญไม่ได้   เพราะจะไม่มีการรู้แจ้งคงอยู่  และก็จะไม่มีการบำเพ็ญคงอยู่  หากบำเพ็ญโดยให้เห็น ใครจะไม่บำเพ็ญละ  พระพุทธนั้น ทำไมพระองค์จึงอยู่แต่ในระดับชั้นนั้น ไม่ยกระดับขึ้นไปละ  แน่ละอะไรๆพระองค์ก็รู้หมดแล้ว   พระองค์ไม่มีปัญหาการบำเพ็ญซินซิ่งเป็นต้น อยู่ในวังวนจึงจะบำเพ็ญได้ง่าย  บางคนยังเน้นว่า หากฉันเห็นได้ชัดเจนจึงจะบำเพ็ญได้ง่าย  หากท่านเห็นได้ชัดเจนท่านก็จะบำเพ็ญไม่ได้แล้ว  บางคนพูดว่าฉันได้เห็นฉันจึงจะเชื่อ ฉันมองไม่เห็นฉันจะไม่เชื่อ ตลอดมาพวกเราถือว่าคนชนิดนี้มีการรับรู้ไม่ดี

เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า  พลังกงนี้ที่แท้คือคนบำเพ็ญออกมา  ฉะนั้นเมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า กุศล สนามนี้คงอยู่รอบๆตัวคน  หากกุศลของท่านมากท่านจึงสามารถมีพลังกงสูง    หากท่านกุศลไม่มาก แน่ละ  สสารสีดำนั้นเมื่อผ่านการทนทุกข์แล้ว  ก็สามารถผันแปรเป็นสสารสีขาว  มันจะไม่สลายหายไป  สสารชนิดนี้ไม่ดับสลาย  ก็คือพูดว่าคนๆหนึ่ง  ในเวลาที่ท่านบำเพ็ญอยู่ ที่แท้คือกุศลที่อยู่ในขอบเขตสนามของมิติท่านผันแปรเป็นพลัง แรงพลังที่แท้จริงของท่านมากหรือน้อย  ระดับชั้นสูงหรือต่ำของพลังกง เป็นสิ่งที่ผันแปรจากกุศลของท่านเอง  ผันแปรอย่างไรหรือ  ที่ผ่านมาในหมู่ผู้บำเพ็ญมีคำพูดหนึ่ง (แต่ไม่ใช่สิ่งที่วงการชี่กงพูดกัน) เรียกว่า “บำเพ็ญอยู่ที่ตัวเอง  พลังอยู่ที่อาจารย์” หมายถึงอะไรหรือ  ก็คือท่านเพียงแต่มีความปรารถนาไปบำเพ็ญแนวทางนั้น  ท่านมีความปรารถนาหนึ่งคิดจะบำเพ็ญปฏิบัติอะไร  ท่านเพียงมีความปรารถนา  แต่ที่แท้คืออาจารย์ช่วยทำให้ท่าน  บางคนพูดถึงการเคลื่อนไหวทางความคิด  คาดการณ์อย่างนี้ คาดการณ์อย่างนั้น  ปัญหาอะไรก็แก้ไขไม่ได้  มันเป็นเพียงความปรารถนาอันหนึ่ง  แต่ผู้ที่ช่วยท่านอย่างแท้จริงในการตั้งกระทะก่อเตาเคี่ยวยา  เก็บสมุนไพร ก่อเกิดตาน หรือก่อเกิดการหมุนเวียนของวงจรสวรรค์(โจวเทียน)  เปิดทะลวงชีพจร ล้วนคืออาจารย์  ความคิดของคนธรรมดาสามัญไม่มีพลังงาน  มือของคนธรรมดาสามัญย่อมจะทำเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

พลังกงที่แท้จริงเกิดขึ้นมา  ก่อเกิดเป็นกลไกบังคับของสิ่งเหล่านี้  มีความละเอียดและแม่นยำกว่ากลไกนั้นที่ว่าละเอียดและแม่นยำเสียอีก สลับซับซ้อนอย่างยิ่ง ท่านจะทำได้อย่างไร นี้เป็นคำพูดประโยคหนึ่งที่ถ่ายทอดอย่างลับๆ เรียกว่า “บำเพ็ญอยู่ที่ตัวเอง  พลังอยู่ที่อาจารย์”  เรื่องนี้ที่ผ่านมาไม่อาจให้รู้ได้ในระดับชั้นต่ำ  ดังนั้นเมื่ออาจารย์เห็นท่านบำเพ็ญได้ไม่เลว  ซินซิ่งยกระดับขึ้นมาแล้ว  เมื่อพลังงานที่คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลควบคุมท่านน้อยลงแล้ว  ท่านจึงสามารถจะเกิดพลังกงขึ้นมาได้  ดังนั้นในเวลานี้อาจารย์ก็จะให้พลังชนิดหนึ่งแก่ท่าน  เราเรียกมันว่าความสามารถการเกิดพลังกงชนิดหนึ่ง นำกุศลรอบๆร่างกายของท่านผันแปรเป็นพลังกงแบบหมุนเป็นเกลียว หมุนเป็นเกลียวโตขึ้นสู่ข้างบน   หลังจากโตจนถึงกระหม่อม ที่กระหม่อมก็ค่อยๆก่อเกิดแกนพลังขึ้นมาหนึ่งแกน  พร้อมไปกับที่แรงพลัง   และระดับชั้นของท่านสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน  แกนพลังนี้ก็จะยกระดับสูงขึ้นอย่างไม่หยุด  นี้ก็คือระดับชั้นสูงหรือต่ำของท่าน  แรงพลังของพลังกงมากหรือน้อย  พลังงานที่ท่านส่งออกมาล้วนมีที่มาจากที่นี่   แต่ไม่ใช่ตานนั้น  อีกสักครู่ข้าพเจ้าจะพูดถึงตานนี้  ระดับชั้นที่แท้จริงก็จะอยู่ที่นี่   

  ทุกท่านทราบว่า มรรคผลที่พูดกันในศาสนาพุทธ  นั่นก็คือแกนพลังของท่านสูงถึงตำแหน่งไหนแล้ว  บำเพ็ญได้สูงเพียงไร บรรลุถึงระดับชั้นสูงแค่ไหนแล้ว  มันก็จะอยู่ที่นั่น   พูดกันว่าบางคนที่นั่งสมาธิจิตหลักออกจากร่างไปสูงเพียงไหนแล้ว  บอกว่าท่านขึ้นไปอีกซิ  ไม่ไหว  ขึ้นไปไม่ไหวแล้ว  จะขึ้นไปอีก แต่หากกลัวก็จะต้องตกลงไป  ทำไมขึ้นไปไม่ได้แล้วละ  ก็เพราะแกนพลังของเขาก็สูงเพียงนั้น  นั่นคือมรรคผลที่เขาบำเพ็ญปฏิบัติได้ คือเขานั่งแกนพลังของเขาขึ้นไป  ในศาสนาพุทธกล่าวว่า  บำเพ็ญปฏิบัติได้สูงเพียงนั้น นั่นก็คือที่ที่เขาจะไปในอนาคต   พลังกงนี้ทั้งหมดคือการบำเพ็ญซินซิ่งของตนเอง    กลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล   คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลก็จะไม่ควบคุมท่านแล้ว  ฉะนั้นพลังกงของท่านจึงสามารถโตขึ้นมา อาศัยกุศลผันแปรเป็นพลังกง  นี่ไม่ใช่การบำเพ็ญออกมาหรือ  พลังกงชนิดนี้ล้วนอาศัยการบำเพ็ญจิตใจบำเพ็ญออกมา

เช่นนั้น ส่วนของท่าการเคลื่อนไหวนั้นคือการฝึกอะไรละ   คือการเปลี่ยนแปลงร่างกายคน  ระยะแรกท่านสามารถเรียกว่า การทนุบำรุงร่างกาย  สุดท้ายเรียกยืดชีวิตให้ยืนยาว  ยังมีการเพิ่มเสริมความสามารถ  อะไรที่เรียกว่าเพิ่มเสริม  คือใช้พลังงานไปทำให้มันแข็งแกร่ง  ยังมีการผันแปรสิ่งที่เป็นศาสตร์ต่างๆ  การผันแปรของร่างชีวิตต่างๆ  สลับซับซ้อนมาก  ปรากฏการณ์ของพลังกงในรูปแบบนานาชนิด   ล้วนต้องมีพลังงานไปเสริมความแข็งแกร่งของมัน ท่านจึงจะสามารถมีได้  หากไม่มีพลังงานนี้ อะไรๆท่านก็ไม่ต้องพูดถึง เมื่อคนมีพลังกงออกมา ท่านก็จะส่งชี่ออกมาไม่ได้แล้ว  ไม่มีแล้ว  สิ่งที่ส่งออกมาได้อีกคือสสารพลังงานสูงชนิดหนึ่ง  แต่กลับที่จะสังเกตได้ถึงความรู้สึกอย่างนั้นได้น้อยมากว่าส่งออกมาจากภายในร่างกายท่าน  นี้คือสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดถึง  บรรดาสิ่งเหล่านี้ที่พูดกันในระดับชั้นสูง  แต่ในอดีตเห็นว่าเป็นความลับสวรรค์ตลอดมา ไม่อนุญาตให้คนพูด  ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้นำมันออกมาพูดในขั้นตอนของการบรรยายในชั้นเรียน  ยังมีสิ่งที่สูงล้ำมากมาย  จุดประสงค์คือเพื่อให้คนสามารถจะบำเพ็ญได้อย่างแท้จริง  รับผิดชอบต่อคน  ข้าพเจ้าก็นำพาคนอยู่อย่างนี้จริงๆ  ดังนั้นจึงไม่จัดว่าเป็นการเปิดเผยความลับสวรรค์ตามชอบใจ  สร้างความวุ่นวายโดยไม่รับผิดชอบตามอำเภอใจ  และบังเกิดผลลัพธ์ชนิดหนึ่งอย่างนี้จริงๆ  ซินซิ่งของผู้ฝึกเรายกระดับขึ้นเร็วมาก  ขณะนี้ก็พัฒนาไปเร็วมาก

ผู้ฝึกบางคนพูดว่า  หลังจากฉันออกจากชั้นเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่า  โลกทัศน์ของฉันก็เปลี่ยนหมดแล้ว  ชั่วชีวิตฉันไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่มานานเช่นนี้อย่างไร  วันนี้ฉันจึงรู้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร   นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกพูดกัน  จึงพูดกับทุกท่านว่า  เรื่องการบำเพ็ญที่แท้จริง ในอดีตไม่มีใครพูดกัน  ท่านไม่เชื่อก็ลองพลิกตำราโบราณดู  ค้นหาใน “เต้าเต๋อจิง”หรือ คัมภีร์พุทธศาสนา  เรื่องเหล่านั้นของคนเขาในอดีต ล้วนอาศัยการรับรู้ ไม่มีการบอกกัน วันนี้ข้าพเจ้าล้วนพูดออกมาหมดแล้ว  ที่พูดออกมาก็ได้พูดหมดแล้ว  เมื่อมนุษยชาติมาถึงขั้นนี้ หากท่านยังพูดแบบนั้นอีกเขาก็ไม่ฟังแล้ว ไม่เชื่อแล้ว เข้าใจว่าเป็นการสอนศาสนา(แสดงธรรมเทศนา)แต่ไม่ใช่ความเป็นจริง  แต่ต่อให้พูดมากขึ้นอีก เขาก็ยังมีเรื่องการรับรู้คงอยู่   เพราะทั้งหมดนั้นท่านก็มองไม่เห็นหรือเห็นไม่ชัด  ท่านยังต้องไปบำเพ็ญอยู่ในวังวน  ยังมีปัญหาอย่างนี้   ที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่ คือพลังนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร  ท่านเห็นว่าพระสงฆ์ในอดีตเขาไม่ฝึกพลัง  พลังของเขาก็โตขึ้นมา   ความสูงต่ำของระดับชั้นที่แท้จริง แรงพลังของพลังกงจะมากหรือน้อย ที่แท้ไม่ใช่ฝึกออกมา

เช่นนั้นท่าเคลื่อนไหวนั้นคือฝึกอะไรกันหรือ  ท่าเคลื่อนไหวนี้ที่จริงคือสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดไปเมื่อครู่  คือการเปลี่ยนแปลงร่างแท้ของคน  แต่ถ้าไม่มีพลังงานไปเสริมมันให้แข็งแกร่ง  มันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้   โมเลกุลของเซลล์ในร่างกายท่านเองต้องใช้สสารพลังงานสูงค่อยๆเสริมให้มันแข็งแกร่ง  ท่านจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายของการยืดอายุให้ยืนยาวได้  ท่านไม่มีพลังกงนี้   ไม่มีพลังงานนี้ท่านจะอาศัยอะไรเสริมสร้าง  วางแผนบนกระดาษย่อมไม่มีประโยชน์  ทุกท่านทราบ  มีความสามารถ(กงเหนิง)มากมาย นอกเหนือจากของที่อาจารย์ถ่ายทอดให้  มีความสามารถเป็นจำนวนมากที่มีอยู่ในร่างกายคน  ก็คือแต่ละคนล้วนมีกัน  แต่มันไม่บังเกิดผลอะไรเลย   บางคนพูดด้วยความรู้สึก  เมื่อฉันหลับแล้วฝัน วันที่สองก็เกิดเป็นจริงขึ้นแล้ว  บางพูดว่า ฉันเห็นเรื่องอะไรล่วงหน้าได้  ผลคือผ่านไปไม่กี่วันก็เกิดขึ้นจริงๆ  หรือบางคนรู้สึกว่าเมื่อฉันทำเรื่องอะไรสักเรื่อง  โอ้ ฉันพบว่าดูเหมือนได้ทำเรื่องอย่างนี้ไปเมื่อเวลาใดเวลาหนึ่ง  แต่ชั่วชีวิตของเขายังไม่เคยทำเลย  นี้เป็นเรื่องอะไรกันนะ  ที่จริงล้วนเป็นปรากฏการณ์ของความสามารถ(กงเหนิง)  ล้ำหน้าเข้าสู่อนาคตหรือเข้าสู่อดีต  แต่ว่าความสามารถของท่านอันนั้นเลือนรางมาก  ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น  หากไม่มีพลังงานมันก็ใช้ไม่ได้ สามารถบังเกิดผลได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น   พอมีพลังงานเสริมให้มันแข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว  นี้เรียกว่าเสริมสร้างความสามารถ(กงเหนิง)ให้แข็งแกร่ง  ใช้แรงพลัง(กงลี่)เสริมให้มันแข็งแกร่ง  มันจึงสามารถเปลี่ยนแปลงพลังให้แข็งแกร่งขึ้นมา  ใช้การได้    มันจึงสามารถบังเกิดผล    หากว่าท่านไม่บำเพ็ญจิตดวงนี้ของท่าน  ท่านคิดจะได้อะไรอะไรก็จะไม่ได้มา

ผู้ฝึกส่วนหนึ่งยังเรียกตัวเองว่าอาจารย์ของฝ่าหลุนต้าฝ่า ผู้ฝึกเก่าของเราหลายคนต่างทราบว่า  หากใครเรียกเขาเป็นอาจารย์สักคำ  เขาก็จะตกใจมาก  เขาไม่กล้าเรียกตนเองเป็นอาจารย์   เขาจะพูดว่าอาจารย์มีเพียงหนึ่งท่าน  มีแต่อาจารย์หลี่  ที่เป็นอาจารย์ พวกเราล้วนเป็นลูกศิษย์  ผู้ที่กล้าเรียกตัวเองเป็นอาจารย์นั้น ข้อหนึ่งคือ   จิตที่แสวงหาชื่อเสียงที่ก่อเหตุ    ข้อสองคือมุ่งก่อความวุ่นวายให้ฝ่า      จักรวาลอันยิ่งใหญ่ไพศาล พระพุทธ เต๋า เทพ  จ้าวในระดับชั้นต่างๆ  เทพสวรรค์ นับไม่ถ้วนล้วนกำลังศึกษาฝ่านี้อยู่  ใครกล้าเรียกตัวเองเป็นอาจารย์ละ เมื่อไม่บำเพ็ญจิต  ไม่เน้นกุศล  ท่านคิดจะบำเพ็ญอยู่ในแนวทางใด  พูดง่ายๆอย่างนั้นได้หรือ    การบำเพ็ญหลักธรรมที่ถูกต้องล้วนต้องเน้นกุศล      เช่นนั้นเหตุใดสัตว์ที่สิงร่าง ของเลอะเทอะต่างๆ มันจึงมีพลังกงละ    เพราะอนุญาตให้มันซึ่งอยู่ในระดับชั้นต่ำมีฤทธิ์เดช(หลิงชี่)ได้เล็กน้อย อาศัยมันที่อยู่ในระดับชั้นที่ต่ำมากช่วยให้คนชดใช้กรรม  ท่านอย่าเห็นว่าคนเป็นโรคนี้  ประสบภัยอันตรายอันนั้น เพราะคนเองติดค้างไว้ทั้งสิ้น ตนเองเรียกหามา

            ที่ข้าพเจ้าบรรยายอาจจะสูงไปสักหน่อย  บางคนคงไม่เข้าใจ  ที่จริงข้าพเจ้าขอบอกหลักการหนึ่งที่ง่ายมากกับทุกท่าน  วงการบำเพ็ญพูดกันว่าจิตหลักของคนไม่ดับสลาย  จิตหลักของคนจะไม่ดับสลาย  ที่ว่าคนตายนั้น ที่แท้ไม่ได้ตายจริง   ที่ข้าพเจ้าเห็นคือไม่ได้ตายไป   ทุกท่านลองคิดดู  เซลล์ของร่างกายคนมิใช่ประกอบด้วยโมเลกุลนับไม่ถ้วนหรือ และโมเลกุลมิใช่ประกอบขึ้นมาจากอะตอมจำนวนนับไม่ถ้วนหรือ  ส่วนอะตอมประกอบขึ้นมาจาก นิวเคลียสอะตอม  อิเลคตรอน โปรตอนใช่ไหม  ฉะนั้นสิ่งที่เล็กลงไปอีกที่ประกอบเป็นอะตอม ยังมีควาร์กอะไร  เล็กลงไปอีกยังมีนิวตริโน   วิทยาศาสตร์ปัจจุบันของเราเพียงรับรู้ได้ถึงขั้นนี้เท่านั้น ที่จริงนั้นยังห่างไกลจากสสารต้นกำเนิด  สสารนั้นไกลลิบลับ หรือพูดว่าสสารระดับจุลทรรศน์เหล่านั้นที่อยู่ในร่างกายคน ทุกท่านคิดดู ร่างกายคน ในเวลาที่สิ้นลมหายใจตายไป  จะเป็นไปได้อย่างไร เพียงเพราะว่าเขาตายแล้ว นิวเคลียสอะตอมทั้งหมดของเขาก็ไม่คงอยู่แล้วหรือ  อะตอม  โปรตอน  อิเลคตรอนของเขาล้วนไม่คงอยู่ละหรือจะเป็นไปได้อย่างไรกัน  นิวเคลียสอะตอมจะเกิดการแตกตัวได้นั้นต้องใช้ความร้อนและแรงกระแทกที่รุนแรงมาก จึงสามารถทำให้มันแตกตัว  พลังงานตามปกติของคนธรรมดาสามัญย่อมไม่อาจทำให้มันแตกตัวได้  ไฟในเตาเผาศพสามารถทำให้นิวเคลียสอะตอมของท่านเกิดการแตกตัวได้ไหม  ระเบิดไหม  หากไฟนั้นสามารถทำให้นิวเคลียสอะตอมนั้นของท่านเกิดการระเบิดได้ ร่างกายของคนๆหนึ่งที่ประกอบขึ้นจากอะตอมก็สามารถทำลายเมืองได้ส่วนหนึ่ง ใช่เช่นนี้หรือไม่ เราพบว่า ชีวิตมิได้สูญสลายไปอย่างแท้จริง  เมื่อคนตายแล้วเพียงแต่ รูปกายนี้ที่ท่านมี ณ ปัจจุบัน   มิติสสารนี้ที่เรามองเห็นได้ตายไปแล้ว แต่ในมิติอื่นที่ร่างกายนี้คงอยู่ ล้วนไม่ได้ตายไป

มิตินี้ที่ข้าพเจ้าพูดถึงก็ไม่ยากที่จะเข้าใจได้   วิทยาศาสตร์ปัจจุบันเข้าใจว่ามีสี่มิติอะไร  ยังมีที่พูดว่ามีสิบเอ็ดมิติ  นักวิทยาศาสตร์ของอดีตสหภาพโซเวียตได้ระบุออกมาอย่างชัดเจนว่า ถ้าจักรวาลเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่(บิ๊กแบง)  ในทันใดนั้นย่อมไม่อาจระเบิดออกมาเพียงหนึ่งมิติ  เขาเข้าใจว่าควรจะมีมิติเวลาคงอยู่ยี่สิบกว่ามิติในเวลาเดียวกัน  คนเขาระบุออกมาแล้วอย่างชัดเจน  นอกจากมิติสสารของเรา เวลาอันนี้ ในเวลาเดียวกับมิติเวลานี้คงอยู่  ยังมีอีกมิติเวลาคงอยู่  ได้ชี้ปัญหานี้ออกอย่างชัดเจน นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็กำลังวิจัยเรื่องนี้  อภิปรายเรื่องนี้กัน  แน่ละรูปแบบการคงอยู่ของมิติจักรวาลนี้เป็นสิ่งที่สลับซับซ้อนอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจะพูดถึงรูปแบบของมิติที่เรียบง่ายที่สุด   มนุษย์เราดำรงชีวิตอยู่ในมิติใดหรือ   ทุกท่านทราบว่า  สสารที่ใหญ่ที่สุดที่เรามองเห็นได้คือดวงดาว  ดวงดาวประกอบขึ้นเป็นทางช้างเผือก ระบบดวงดาวต่างๆ  สสารที่เล็กที่สุดที่มนุษย์เราสัมผัสได้ก็คือโมเลกุล    คนเราอาศัยอยู่ในมิติระหว่างโมเลกุลกับดวงดาวนี้  เรารู้สึกว่ามันเป็นมิติที่กว้างใหญ่มาก  ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ  เช่นนั้นทุกท่านลองคิดดู มิตินั้นที่คงอยู่ระหว่างโมเลกุลกับอะตอมนั้นเป็นอย่างไรละ  ข้าพเจ้าว่ามันก็กว้างใหญ่อย่างยิ่ง  ใหญ่มากๆเช่นกัน   แน่ละท่านไม่อาจยืนอยู่ในทฤษฎีของคนธรรมดาสามัญนี้   ใช้แนวคิดที่รับรู้โลกแห่งวัตถุ/สสารของคนธรรมดาสามัญไปรับรู้มัน  หากในเวลาที่ท่านเข้าไปในมิตินั้นของมันได้ ท่านจะพบว่ามันก็เป็นมิติที่กว้างใหญ่อย่างยิ่ง

เช่นนั้นระหว่างอะตอมกับควาร์กละ  ควาร์กกับนิวทริโนละ  เช่นนั้นในระดับจุลทรรศน์อย่างยิ่งละ   องค์ศากยมุนีตรัสไว้ว่าในหนึ่งเม็ดทรายมีโลกใหญ่อยู่สามพันใบ      ทฤษฎีโลกใหญ่สามพันใบ(ตรีสหัสโลกธาตุ)ที่พระองค์ตรัสถึงคือ ในทางช้างเผือกของเรามีดวงดาวสามพันดวงที่มีชีวิตที่มีสติปัญญาเหมือนกับมนุษย์เราคงอยู่ พระองค์ตรัสว่าในทรายเม็ดหนึ่งมีโลกใหญ่สามพันใบ  หากที่พระองค์ตรัสเป็นความจริง ทุกท่านคิดดู เช่นนั้น ณ ระดับจุลทรรศน์ในเม็ดทรายนั้นก็คงจะอุดมสมบูรณ์เหมือนทางช้างเผือกอย่างนี้   มีสังคมมนุษย์เหมือนของคนอย่างนี้คงอยู่  ฉะนั้นหากทุกท่านตรวจสอบลงไปอีก      ข้างในเม็ดทรายนั้นใช่หรือไม่ว่ายังมีแม่น้ำลำธาร   และทราย        เช่นนั้นข้างในเม็ดทรายของเม็ดทรายนั้น ใช่หรือไม่ว่ายังมีโลกใหญ่สามพันใบอีก   เช่นนั้นข้างในเม็ดทรายของเม็ดทรายนั้น ใช่หรือไม่ว่ายังมีโลกใหญ่สามพันใบอีก   ตรวจสอบลงไปอีก  องค์ศากยมุนีทรงพบว่าไม่มีที่สิ้นสุด เพราะคนหลีกเลี่ยงดวงตาที่ประกอบขึ้นด้วยโมเลกุลนี้ไปมองดู นั่นจึงสามารถมองเห็นภาพที่แท้จริงของจักรวาล  ผู้ที่บรรลุถึงระดับชั้นที่ยิ่งสูง  เขาอยู่ภายใต้จุลทรรศน์จึงมองเห็นได้จุลทรรศน์ยิ่งกว่า  ในมหทรรศน์จะเห็นใหญ่ยิ่งกว่า  องค์ศากยมุนีมิได้ทรงเห็นจนถึงที่สุด  และมิได้ทรงเห็นว่าสุดท้ายนั้นจักรวาลใหญ่เพียงใด  ดังนั้นในบั้นปลายของชีวิตพระองค์จึงตรัสไว้ประโยคหนึ่ง “ ใหญ่จนไม่มีข้างนอก  พระองค์ไม่ทรงรู้ว่าใหญ่เพียงใด  “เล็กจนไม่มีข้างใน” เล็กจนมองไม่เห็นที่สุด  ก็คือจากบรรดาสิ่งที่องค์ศากยมุนีทรงตรัสกับการรับรู้ของวิชาฟิสิกส์ปัจจุบัน  ข้าพเจ้าว่ามันก็ไม่ขัดแย้งกัน  มีเหตุผลมาก  เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า  จากแง่ทฤษฎีก็สามารถเข้าใจได้กระจ่าง นี้คือสิ่งที่ข้าพเจ้ารับรู้   สิ่งที่ข้าพเจ้าพูด  จะเป็นไปได้อย่างไรที่นิวเคลียสอะตอมจะหมดไปแล้วพร้อมกับการสิ้นลมหายใจของท่าน  ด้วยไฟในเตาเผาศพ ท่านก็จะทำให้นิวเคลียสแตกออก  ข้าพเจ้าว่าเป็นไปไม่ได้  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงบอกว่าแม้กายเนื้อของคนได้ตายไปแล้ว  แต่ชีวิตของเขาไม่ตาย ที่เราพูดว่าสสารไม่ดับสลายจึงถูกต้อง ในอีกมิติหนึ่งสสารก็ไม่ดับสลายเช่นกัน

นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันของเราเข้าใจว่า  ปัจจุบันมนุษย์สามารถรับรู้ได้ว่า  ในสุญญากาศไม่มีสสาร  ที่จริงนั่นเป็นเพียงการรับรู้ของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่พัฒนาไปถึงขั้นนั้น   ข้าพเจ้าว่าในสุญญากาศยังมีสสาร  สุญญากาศโดยตัวมันเองก็คือสสาร  เพราะ(เมื่อ)มันมุ่งสู่ระดับจุลทรรศน์ยิ่งขึ้นอีกก็จะมองไม่เห็นแล้ว สุญญากาศยังห่างไกลจากสสารระดับจุลทรรศน์ที่เป็นต้นกำเนิดของชีวิต  สสารของสสารที่จุลทรรศน์ที่สุดคืออะไร  สสารต้นกำเนิดคืออะไร  ข้าพเจ้าว่าจะผ่านไปอีกกี่ปีนักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ใช้วิธีวิจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ไม่อาจรับรู้ได้   เพราะเส้นทางนี้ของการพัฒนาของวิทยาศาสตร์ตะวันตกนั้นช้าที่สุด  มนุษย์เลือกวิธีพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์แบบที่สุด การพัฒนาของวิทยาศาสตร์จีนยุคโบราณนั้น ข้าพเจ้าว่ายังค่อนข้างถูกต้อง  มันไปทำการวิจัยโดยตรงต่อร่างกายคน  ชีวิตและจักรวาล    ทุกท่านทราบว่ามนุษย์ต่างดาวนี้   จานบินนั้นบินมาบินไป ชนิดมาไร้ร่องรอย ไปก็ไร้เงา  มีความเร็วสูงมาก อย่างคาดไม่ถึง  กระทั่งจานบินสามารถเปลี่ยนเป็นใหญ่ เป็นเล็กได้   ทำไมมันเป็นเช่นนี้ได้ละ  ก็คือเทคโนโลยีของวิธีการวิจัยพัฒนาของมันไม่เหมือนกัน  มันสามารถวิ่งในอีกมิติ  เนื่องจากความแตกต่างของกาลมิติ  มันจะมาก็มา จะถึงก็ถึง จะไปก็ไป

เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดถึงพลัง  พูดถึงปัญหานี้  ที่จริงเราขยับมือฝึกพลังนั้น  เพียงแต่เป็นเรื่องศาสตร์เทคนิก  เสริมความสามารถให้แข็งแกร่งและเปลี่ยนแปลงร่างกาย  ยืดชีวิต  แต่ถ้าไม่มีพลังงานนั้น  ไม่มีระดับชั้นสูงต่ำของพลัง ท่านก็ยืดชีวิตไม่ได้  หันกลับมาเราจะบอกทุกท่านจากในระดับชั้นต่ำที่สุด  หากท่านไม่เน้นซินซิ่งในการบำเพ็ญ  ท่านไม่เน้นกุศล โรคของท่านก็ขจัดไปไม่ได้ทั้งนั้น  ท่านฝึกกายบริหารจะขจัดโรคได้ไหม ไม่ได้  ชี่กงไม่ใช่กายบริหาร มันเป็นวิธีการที่เหนือสามัญวิสัย ที่มาเปลี่ยนแปลงคน   ฉะนั้นท่านจึงต้องใช้หลักการเหนือสามัญวิสัยไปกำหนดตัวท่าน  บางคนเวลาฝึกพลังรู้สึกเคารพเลื่อมใสมาก  แต่พอออกจากบ้านก็ไม่ใช่เขาแล้ว อยู่ในสังคมทำตามชอบใจ  เพื่อผลประโยชน์อันนั้นเล็กเท่าหัวแมลงวัน  ไปแก่งแย่งกัน  ต่อสู้กัน กระทั่งต่อสู้กันด้วยอารมณ์ชั่ววูบ  ท่านว่าโรคนั้นของท่านจะหายได้ไหม  นั่นก็จะไม่สามารถหายได้อย่างเด็ดขาด  เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดว่าเหตุใดเขาไม่มีพลัง  ที่จริงนี้ยังเป็นสาเหตุเพียงด้านหนึ่ง

ยังมีมูลเหตุอีกด้านหนึ่งที่ไม่เกิดพลัง  บอกว่าท่านไม่ขจัดโรคไป  มูลเหตุที่ไม่เกิดพลัง  ก็คือท่านไม่ทราบหลักธรรม(ฝ่า)ในระดับชั้นสูง ไม่ทราบหลักการของระดับชั้นสูง  ท่านก็ไม่มีทางบำเพ็ญ  หลายปีมานี้ทุกท่านล้วนคิดจะบำเพ็ญสู่ระดับชั้นสูง  ยังคงยึดถือการก่อเตาตั้งกระทะ  เก็บยาสมุนไพรฝึกตาน  ทะลวงชีพจรอย่างไรเอย  วงจรสวรรค์ใหญ่เล็ก  ท่านฝึกไปเถอะ  ชั่วชีวิตนี้ก็เป็นแค่ของเล่น  การฝึกชี่ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายมันไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น เป้าหมายสุดท้ายของการฝึกชี่คือการชำระล้างร่างกาย  วางรากฐานสำหรับการบำเพ็ญในระดับชั้นสูง   ขณะเดียวกัน ในระดับชั้นนี้ของการฝึกชี่  หากเป็นการเดินตามแนวทางการฝึกตาน  ก็ต้องก่อเกิดตาน  เปิดจุดลมปราณ  ทะลวงชีพจรสักกี่เส้น  มันก็เป็นการวางรากฐานอยู่ในระดับชั้นต่ำ    แต่ยังไม่นับว่าเป็นการฝึกพลังกง  มันเป็นเพียงการวางรากฐานเล็กน้อย  ชำระล้างร่างกาย  การฝึกชี่ก็คือเป้าหมายนี้ บางคนเนื่องจากในร่างกายสะสมชี่นั้นไว้เต็มที่  รู้สึกว่าไม่เลวเลย  ข้าพเจ้าว่าท่านก็คือถุงเก็บชี่ใบใหญ่ แต่ท่านถือว่ามันเป็นพลัง  นั่นไหนเลยจะเป็นพลังได้ละ  พูดว่าส่งชี่ช่วยรักษาโรคให้คน  นั่นเป็นการรับรู้ที่ผิดอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง  ชี่นั้นจะรักษาโรคได้อย่างไรกัน  เราลองคิดดูให้ดี   ร่างกายของท่านก็เป็นชี่  ร่างกายฉันก็เป็นชี่  ระหว่างคนธรรมดาสามัญด้วยกันล้วนเป็นชี่    เพียงแต่จุดเหลากง(จุดศูนย์กลางฝ่ามือ)เปิดออกแล้ว  หรือจุดลมปราณตรงไหนของท่านเปิดแล้ว  ท่านสามารถทำให้ชี่นี้ส่งออกมาได้หรือรับเข้าไปได้  นั่นยังคงเป็นชี่อยู่มิใช่หรือ  วัตถุที่อยู่ในระหว่างระดับชั้นเดียวกัน จะไม่มีผลในการบังคับ  ท่านก็ชี่  ฉันก็ชี่  ท่านก็ส่งชี่รักษาโรคให้คนเขาได้แล้วหรือ  ดีไม่ดีชี่ของเขากลับจะรักษาท่านเสียแล้ว  เป็นเช่นนี้หรือไม่ละ   มีแต่สิ่งที่อยู่เหนือระดับชั้นนี้  จึงจะสามารถบังคับสิ่งที่อยู่ในระดับชั้นต่ำ   พลังกงนั้นจึงจะสามารถบังเกิดผลอย่างนี้ได้

หลายปีก่อน ที่ทำให้คนเกิดการรับรู้ที่ผิดอย่างหนึ่ง มีอาจารย์ชี่กงหลายคนออกมาเผยแพร่ชี่กงโดยทั่วไป  เขาเองไม่มีพลังกง  เขาก็ส่งพลังกง  เหตุใดดูเหมือนเขาก็สามารถส่งพลังกงออกมาได้ละ  การเกิดขึ้นของชี่กงนั้นเกิดจากปรากฏการณ์สวรรค์       มีอาจารย์หลายคนก็ไม่ให้คนที่เกี่ยวข้องรู้  ให้ท่อส่งแก่ท่านเส้นหนึ่ง  พอท่านส่งพลังกงออกไปเขาก็จัดให้ท่าน อาจารย์ชี่กงปลอมนี้ก็เหมือนก๊อกประปาหัวหนึ่ง  เขาไม่เคยฝึกพลัง  เขาก็ไม่มีพลัง  พอเขาส่งออกก็เหมือนเปิดก๊อกน้ำประปา  ฝั่งนั้นก็ส่งต่อให้เขา  พอเขาไม่ปล่อยที่ฝั่งนั้นก็เหมือนปิดหัวน้ำก๊อก  ตัวเขาเองไม่มีพลัง จุดประสงค์ที่ให้พลังแก่เขา  คือให้เขาบำเพ็ญตัวเอง  ปฏิบัติตนเป็นคนดี ทำเรื่องที่ดี  ยกระดับตัวเขาเอง ชำระตัวเขาเอง  ในสังคมของหมู่คนที่ซับซ้อน  เขาบำเพ็ญจิตใจของตนเองให้ดี   เจริญงอกงามขึ้นมา  แต่มีอาจารย์ชี่กงมากมาย เขาไม่เข้าใจ  เขาคิดว่าให้พลังนี้แก่ฉันเพื่ออะไรนะ  เขาก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน   ถึงอย่างไรก็มาจากภายนอก  เขาคิดว่าเพื่อให้เขาร่ำรวย  เป็นอาจารย์ชี่กงที่มีชื่อเสียง  ปัจจุบันคนเหล่านี้มีเหลืออยู่น้อยมาก  ที่เหลืออยู่จำนวนหนึ่งยังมีตัวสิงร่าง(ฟู่ถี่)  ส่วนใหญ่เป็นตัวสิงร่าง กล่าวสำหรับคน นั่นก็น่ากลัวทีเดียว  ท่านอย่าเห็นว่าเขาตั้งตัวเป็นอาจารย์ชี่กง  ชื่อเสียงโด่งดัง  ท่านดูพอผ่านไปสองปี  เขาจะเป็นเหมือนมนุษย์พืชผัก  สิ่งสุดยอดของร่างกายเขาถูกเอาไปหมดแล้ว  เพราะมารมันก็ยึดกุมช่องว่างของจักรวาลไว้แล้ว  ผู้ไม่สูญเสียจะไม่ได้  ฉันไม่อาจให้พลังแก่ท่านเปล่าๆ  ท่านหาเงินมากอย่างนั้น  มีชื่อเสียงแล้ว  ฉันก็ต้องเอาของของท่าน  ใช่หรือไม่  ดังนั้นมันจึงเอาของของท่านไปได้ อย่างสมเหตุสมผล  ตัวสิงร่างนั้นที่จริงคือสิ่งที่คนๆนี้แสวงหามาเอง  บางคนพอรักษาโรคให้คนหายแล้ว ตัวเขาเองกลับไม่สบายตรงนี้ ไม่สบายตรงนั้น   เป็นโรคที่ท่านแสวงหามาเอง

เช่นนั้นตานนี้คืออะไรละ บางคนเข้าใจว่าตานนี้  เคลื่อนชี่ของตานเถียนนี้เล็กน้อยทำเรื่องอะไรสักหน่อย  กระทั่งมีความเข้าใจผิดอย่างหนึ่ง   ฉันเคลื่อนชี่ของตานเถียนทำอะไร ๆได้  นี่ก็คือชี่กงแล้ว  ข้าพเจ้าว่านั่นคือการย่ำยีชี่กง  ชี่กงเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว้างใหญ่  เดิมทีเป็นสิ่งที่บำเพ็ญตามหลักธรรมใหญ่(ต้าฝ่า)ของจักรวาล   อ้อ  ท่านอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มเคลื่อนชี่ของตานเถียนทำเรื่องอะไรได้หน่อยก็คือชี่กง ข้าพเจ้าว่าถ้าอย่างนั้นเคลื่อนชี่ของตานเถียนแล้วไปเข้าห้องน้ำโดยอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มจะเป็นอะไรกันละ  ท่านมิใช่ย่ำยีชี่กงหรอกหรือ  ไม่อาจไปรับรู้กันอย่างนี้ ความนัยของเขายิ่งใหญ่มาก  ไม่ใช่เรื่องพื้นๆอย่างนั้น  หากพูดถึงตานนี้ของคน  ถ้าท่านให้ข้าพเจ้าดู  ที่แท้ก็คือระเบิดลูกหนึ่ง  เมื่อคนบำเพ็ญถึงการเปิดพลังในขั้นสุดท้าย  มันจะระเบิด  ศาสนาพุทธเรียกรู้แจ้ง  ในชั่วพริบตานั้นจะระเบิด  การระเบิดนี้  ก็จะระเบิดร้อยชีพจรของท่านให้เปิดออก  จุดลมปราณทั้งหมดของร่างกายเปิดออก จุดมิ่งเหมิน(ประตูชีวิต)เปิดออก  แล้วปลดปล่อยความสามารถออกมา  ตาทิพย์ระเบิดจนถึงระดับชั้นที่สูงที่สุดที่ท่านอยู่   มองเห็นภาพจริงที่คงอยู่ในจักรวาล ในระดับชั้นที่ท่านอยู่  มันมีประโยชน์เช่นนี้  มันก็คือระเบิดลูกหนึ่ง  ไม่มีประโยชน์อย่างอื่นอีก  ทุกท่านเห็นพระสงฆ์ที่บำเพ็ญได้ดี  ร้อยปีให้หลัง เผาร่างออกมากลายเป็นพระธาตุ   ก็คือก่อนที่พระสงฆ์จะมรณภาพหลายวันล้วนต้องระเบิดตาน  ระเบิดออกเสียงดังกึกก้อง  อะไรๆเขาก็เข้าใจได้หมดแล้ว  แต่อยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญเขาไม่พูด  ใครก็ไม่รู้  คนอื่นก็ไม่อาจรู้สึก  เมื่อตานระเบิดจนแตกแล้ว  ส่วนที่อยู่ในมิตินี้จะเหมือนกับก้อนหิน   ของเราไม่บำเพ็ญตาน  ทำไมไม่บำเพ็ญตาน  เราถือว่าตานนั้นไม่ขยับเขยื้อน  นอกจากสามารถบรรจุพลังงานไว้สักหน่อย ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก  ท่านดูพระสงฆ์รูปนั้น  หลังมรณภาพแล้วเผาออกมาเป็นสารีริกธาตุ  มีแสงแวววาว  แข็งแกร่งมาก มีพลังงานสะสมอยู่  แต่ตรวจสอบไม่ออกว่าเป็นสสารอะไร มันรวบรวมสสารในมิติอื่นเข้ามา กับสิ่งที่ประกอบขึ้นจากสสารชนิดนี้ที่กุศลของเราผันแปรเป็นพลัง  ดังนั้นปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ไม่อาจรับรู้ได้ว่าเป็นสสารอะไร  มันไม่ใช่สสารในสังคมคนธรรมดาสามัญเรา บางคนฝืนใจอธิบาย  อธิบายอย่างเลอะเทอะ  ว่าตานนั้นคือฟัน คือกระดูก   ข้าพเจ้าว่านั่นมิใช่อธิบายอย่างเลอะเทอะหรือ  ทำไมคนธรรมดาสามัญเผาออกมาไม่ได้ละ  ทำไมพระสงฆ์ หรือ ผู้บำเพ็ญสามารถเผาออกมาได้ละ

            เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดไปหน่อยแล้วเกี่ยวกับหลักเหตุผลในการบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูงอย่างแท้จริง  ไม่ว่าท่านจะเป็นแนวทางใด สำนักใด  เช่นนั้นบางคนอาจคิดว่า  พูดถึงเต๋าแก่บำเพ็ญอยู่ในภูเขา หรือคนจำนวนหนึ่งที่ทำตามวิธีของสายพุทธที่ปิดประตูบำเพ็ญ  บางทีท่านอาจเคยกราบไหว้คนแบบนี้มาก่อน  เขาก็ไม่ได้บำเพ็ญตาม เจิน ซั่น เหยิ่น  แล้วเขาบำเพ็ญออกมาได้อย่างไรนะ  ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่าเขาบำเพ็ญอย่างไร  เขาลำบากมากนะ เขาบำเพ็ญอยู่หลายปีหลายๆปีจึงได้มีพลังกงขึ้นมาเล็กน้อย  แต่ว่า เขาบำเพ็ญอยู่ในป่าเขาลึก  หลีกหนีจากสังคมคนธรรมดาสามัญ  พลังกงของเขาไม่ได้ปิดเอาไว้ แต่ผู้ที่บำเพ็ญอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญจะปิดเอาไว้  ก็คือให้ท่านบำเพ็ญโดยค่อยๆเปิดการรับรู้  ก็ต้องปิดไว้ส่วนหนึ่ง หรือปิดไว้ครึ่งหนึ่ง  ดังนั้นท่านจึงไม่มีความสามารถมากอย่างนั้น  ระดับชั้นของท่านสูงมาก  แต่ท่านก็แสดงออกมาไม่ได้  แต่เมื่ออยู่ในป่าเขาลึก  ไม่เข้ามาในโลกียโลกของคนธรรมดาสามัญ  เขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  ดังนั้นเขาจึงบำเพ็ญโดยเปิดไว้  ไม่ปิดเอาไว้   ฉะนั้นเขาจึงมีพลังอยู่เล็กน้อย  แต่ความสามารถของเขาแสดงออกมาได้มาก  เพราะเปิดไว้ใช่ไหม  ที่จริงเขาบำเพ็ญอย่างยากลำบากมาก  เป็นเวลานานมากจึงสามารถมีพลังออกมาได้เล็กน้อย เขายังไม่รู้เลย

            ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า แปดหมื่นสี่พันแนวทางเมื่อแผ่ขยายลงมา  ตรงกลางคือการบำเพ็ญเต๋าใหญ่  เป็นการบำเพ็ญต้าฝ่า  ณ ที่ชายขอบ  ช่วยเหลือสรรพชีวิต  คนชนิดต่างๆล้วนมาศึกษากัน  เขาศึกษาได้สูงแค่นั้นก็เปิดการรู้แจ้งแล้ว  เขาก็บำเพ็ญได้สูงเพียงนั้น  เขาบำเพ็ญสูงขึ้นไปอีกไม่ไหว เกิดจากรากฐานของเขาเอง บำเพ็ญได้สูงเพียงนี้ก็เปิดการรู้แจ้งแล้ว บ้างก็บำเพ็ญสูงแค่นี้ ที่เปิดการรู้แจ้ง (ทำท่ามือประกอบ) บ้างบำเพ็ญสูงแค่นี้ เปิดการรู้แจ้ง  บ้างบำเพ็ญสูงแค่นี้ เปิดการรู้แจ้ง    บ้างบำเพ็ญสูงแค่นี้ เปิดการรู้แจ้ง  บ้างบำเพ็ญได้ต่ำมากก็เปิดการรู้แจ้งแล้ว  ดังนั้นเมื่อเขาเปิดการรู้แจ้งแล้ว  เขาจึงมองเห็นหลักการของระดับชั้นนี้  ที่สูงกว่าเขามองไม่เห็น ฉะนั้นเมื่อบำเพ็ญสูงแค่นี้ เขาจึงเห็นเพียงหลักการที่สูงแค่นี้  แต่เขาก็กำลังนำพาลูกศิษย์อยู่   ดังนั้นเขาจึงบรรยายหลักการที่เขามองเห็น  แปดหมื่นสี่พันแนวทางนั้น  ฝ่าเล็กเต๋าเล็กมีมากมาย  และยิ่งใกล้ชายขอบ  ทฤษฎีวิธีการยิ่งมากยิ่งซับซ้อน  ยิ่งเข้าสู่ศูนย์กลางหลักเต๋าใหญ่  ฝ่าใหญ่การบำเพ็ญก็ยิ่งเรียบง่าย  ยึดกุมหัวใจไปบำเพ็ญจึงค่อนข้างเร็ว  พวกเรานำพาคน  นำพาได้เร็ว  ทำไมหรือ  ผู้ฝึกบางคนเมื่อเปลี่ยนแปลงขึ้นมา พลังกงโตขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ  ถ้าไม่ได้ฝ่า  ชั่วชีวิตท่าน บางทีท่านอาจเดินออกไปจากระดับชั้นนี้ของชี่ไม่ได้

            ข้าพเจ้าอยู่ในชั้นเรียนเก้าคาบ  ขอเพียงท่านสามารถบำเพ็ญ  ในชั้นเรียนเก้าคาบข้าพเจ้าก็จะผลักท่านข้ามไป  คน อยู่ในขั้นตอนการบำเพ็ญ การทะลุทะลวงระดับชั้นนั้นเร็วมาก  ผู้บำเพ็ญเต๋าหลายคนพูดกับข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าก็พูดกับพวกเขาว่า  ท่านดูพลังกงนี้ของผู้ฝึกเหล่านี้ของข้าพเจ้า   เปรียบกับของพวกท่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง  พวกเขารู้สึกคาดคิดไม่ถึง  พลังกงนี้โตขึ้นอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ  เพราะพวกเรายึดกุมแก่นแท้ไปบำเพ็ญ  ยึดกุมใจดวงนี้ของคนไปบำเพ็ญ  นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ   ดังนั้นจึงรวดเร็วมาก ผู้ที่บำเพ็ญอยู่ในภูเขากับผู้ออกบวชบางคน  พวกเขาไปบำเพ็ญเป็นเวลายาวนาน  ทนทุกข์มากมาย เขาจึงเข้าใจว่าเพราะเขาทนทุกข์จึงบำเพ็ญขึ้นมาได้  ที่แท้คือ อยู่ในกาลเวลาที่เนิ่นนาน  จึงค่อยๆขัดเกลาจิตดวงนั้นที่ยึดติดของคนธรรมดาสามัญทิ้งไปแล้ว  เขาจึงโตขึ้นมา  พวกเราขณะนี้พอเริ่มต้นก็มุ่งต่อใจคนดวงนั้นไปบำเพ็ญ   จิตยึดติดของท่าน  จิตอิจฉา  จิตยินดี  จิตนานาชนิด เราก็ยึดกุมสิ่งเหล่านี้ไปบำเพ็ญ  ล้วนแต่ให้ท่านบำเพ็ญสิ่งเหล่านี้ทิ้งไป ดังนั้นมันจึงรวดเร็ว  เรื่องนี้ข้าพเจ้าก็ขอพูดเพียงเท่านี้

มีหลายคนยังคิดจะศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า และไม่เคยเข้าร่วมชั้นเรียน  ข้าพเจ้าก็สามารถจะแนะนำฝ่าหลุนต้าฝ่าให้กับพวกท่านอย่างคร่าวๆ   ฝ่าหลุนต้าฝ่าของข้าพเจ้านี้เป็นหลักพลังของการบำเพ็ญจิตและชีวิตชนิดหนึ่ง  การบำเพ็ญจิตและชีวิตที่แท้จริงนั้นเขามีจุดเด่นอย่างหนึ่ง  คือจะเปลี่ยนแปลงร่างกายคนอย่างรวดเร็วมาก ในขณะเดียวกัน ดูภายนอกจะมีความแตกต่างจากคนธรรมดาสามัญมาก  ดังนั้นเราจึงมีผู้ฝึกเก่าหลายคนที่ศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว   กระทั่งผู้สูงอายุ  ผิวหนังเปลี่ยนเป็นละเอียดอ่อนมาก  ผิวขาวอมแดง  ร่างกายแข็งแรงมาก  ที่ผ่านมาเดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยแล้ว  เดี๋ยวนี้ปีนขึ้นตึกสูงกี่ชั้นก็ไม่หอบ  ใจไม่เต้นรัว  รู้สึกสบายมากและไม่เหนื่อยด้วย ที่ผ่านมาเดินไม่กี่ก้าวก็ไม่ไหวแล้ว  เดี๋ยวนี้เวลาขี่จักรยานก็เหมือนกับมีคนช่วยผลักท่าน  ข้าพเจ้าว่าสภาพการณ์อย่างนี้  ผู้ฝึกเก่าที่กำลังนั่งอยู่  ข้าพเจ้าขอถามพวกท่าน เป็นสภาพการณ์นี้หรือไม่ (เสียงตอบพร้อมกัน  ใช่)  นี่เป็น ปรากฏการณ์ทั่วๆไปที่มีอยู่ของพวกเรา  ที่นี่ข้าพเจ้าไม่ได้บอกว่าเป็นอย่างนี้เฉพาะผู้ฝึกบางคน   แต่มันทั่วไปมาก  หลักพลังบำเพ็ญจิตและชีวิตที่แท้จริง จึงสามารถบรรลุถึงจุดนี้  การเปลี่ยนแปลงที่ชั้นผิวเห็นได้ชัดมาก  คนสูงอายุมากมายที่รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าลดน้อยลง  กระทั่งไม่มีเลย  ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพก็มาก  เพราะเกี่ยวกับเวลา จุดนี้ข้าพเจ้าจะไม่พูดอีกแล้ว

ยังมี การบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่านี้ของข้าพเจ้ายังเป็นหลักพลังที่มีลักษณะเฉพาะที่สุดข้อหนึ่ง   ในประวัติศาสตร์แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีคนถ่ายทอดมาก่อน แน่ละข้าพเจ้าพูดคำนี้เด็ดขาดไปแล้ว  ก็คือในอารยธรรมครั้งนี้ของมนุษย์แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีการถ่ายทอดมาก่อน ในยุคก่อนประวัติศาสตร์  เป็นเวลายาวนานมากในยุคก่อนประวัติศาสตร์ยุคหนึ่ง   เคยเป็นวิธีการช่วยเหลือคนที่สำคัญและเคยช่วยคนในสังคมมนุษย์มาก่อน แต่ในอารยธรรมมนุษย์ครั้งนี้ไม่เคยถ่ายทอดมาก่อน  ฉะนั้นต้าฝ่านี้กับบรรดาชี่กงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทฤษฎีของวิธีการบำเพ็ญของชี่กงนั้นไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง  สิ่งที่เป็นการบำเพ็ญทั้งหมดของมนุษย์ปัจจุบันโดยพื้นฐานคือการฝึกตาน อะไรที่เรียกว่าฝึกตานละ  ก็คือท่านต้องงอกตาน  รวมทั้งพระสงฆ์ในวัด  แม้ว่าไม่พูดเรื่องการฝึกพลัง  เขาก็ต้องงอกตาน สารีริกธาตุของเขาที่เผาออกมาที่ท่านเห็นนั้นก็คือตานนั้นของเขาระเบิดออกแล้ว  นักพรตเต๋าก็เป็นอย่างนี้  วิธีการบำเพ็ญหลายอย่างที่ถ่ายทอดอยู่ในหมู่ประชาชนก็เหมือนกัน  โดยพื้นฐานล้วนเป็นการฝึกตาน  ทุกท่านอาจรู้จักมี่จง  ดูเหมือนว่าไม่ฝึกตาน  ที่จริงยังคงฝึกตาน  เขาบำเพ็ญจุดสว่าง(ลูกแก้วใส)ก็เป็นตาน  ฉะนั้นหลุนนั้นคือการใช้ความนึกคิดควบคุมหลุน  หากความคิดไม่ไปควบคุมมันก็ไม่หมุน  และหลุนนั้นว่างเปล่า  แต่ฝ่าหลุนของเราเขาเป็นของจริง

ฝ่าหลุนนี้ของหลักพลังชุดนี้ของข้าพเจ้านั้น แน่ละหากท่านบำเพ็ญเอาเองย่อมยากลำบากมาก  ของเราผ่านคนหลายรุ่นจึงก่อเกิดขึ้นมา  ในประวัติศาสตร์เป็นการถ่ายทอดเดียว  แต่ไหนแต่ไรมาไม่ถ่ายทอดให้คนนอก ปัจจุบันข้าพเจ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พิเศษทางประวัติศาสตร์ จึงนำออกมาถ่ายทอดให้คน  ผู้ฝึกบางคนบอกว่า อาจารย์ท่านให้ฝ่าหลุนองค์หนึ่งกับผมเถอะ  ยังมีผู้ฝึกเขียนคำถาม ว่า อาจารย์ ผมไม่ได้เข้าร่วมฟังการบรรยาย ผมให้เงินท่านสักเล็กน้อย  ให้ค่าเรียนท่านสักเล็กน้อย  ท่านให้ฝ่าหลุนกับผมนะ  ความหมายนั้นคือผมขอซื้อหลุน  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ฝ่าหลุนนี้ล้ำค่ายิ่งนัก  ไม่อาจใช้มูลค่ามาตัดสิน คนที่ไม่มีวาสนาท่านจ่ายเงินเท่าไรก็ซื้อไม่ได้  คนที่มีวาสนา ไม่เอาแม้สตางค์แดงเดียว ก็ได้รับแล้ว พวกเราดู  วันนี้สามารถนำสิ่งนี้ออกมา  ก็เพราะเห็นว่าสุดท้ายคนยังมีจิตพุทธอยู่เล็กน้อยจึงนำออกมา ที่จริงผลลัพธ์ของการถ่ายทอดออกมาของเรา ค่อนข้างดี  เขาเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่งนัก  ท่านต้องเป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่งจึงสามารถจะได้รับ  พอใส่หลุนนี้ให้ท่านแล้ว  เขาไม่หยุดหมุนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง  จะหมุนอยู่อย่างนี้  เขาจะหมุนตามเข็มนาฬิกา และหมุนทวนเข็มนาฬิกา  เมื่อหมุนตามเข็มนาฬิกาเขาจะดูดซับพลังงานจากจักรวาลโดยอัตโนมัติ  แปรผันพลังงาน  ฉะนั้นพลังงานที่เขาผันแปร จะให้สิ่งที่ร่างกายทุกส่วนของท่านต้องการ ขณะเดียวกันเมื่อเขาหมุนทวน  เขาสามารถปล่อยพลังงาน  พลังงานที่ปล่อยออกไปจะนำสสารที่เสียจากการฝึกของร่างกายท่านทิ้งไป  จากนั้นก็ดูดสสารพลังงานใหม่เข้าไป  เขามีเป้าหมาย มีการคัดสรร  เขาเป็นชีวิตที่ชาญฉลาด  ท่านจงใจประคองชี่กรอกลงไป  เก็บชี่  ท่านก็ทำไม่ถึงจุดนี้อย่างแน่นอน ท่านไม่มีพลังมากเหมือนเขา   ท่านทำไม่ได้อย่างแท้จริง  ดังนั้นเขาจึงต้องคัดสรร  เขาเป็นชีวิตที่ชาญฉลาด  สิ่งที่คนไม่มีทางบรรลุถึงได้

ฉะนั้นหลังจากใส่ฝ่าหลุนนี้ให้แล้ว  เขาจะไม่หยุดหมุนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง  หมุนอยู่อย่างนี้เสมอ  ฝึกฝนท่านอยู่เสมอ  จึงเกิดเป็นรูปแบบที่เรียกว่า “ฝ่า(หลักธรรม)ฝึกคน”  หลักพลังอย่างอื่นเมื่อท่านฝึกพลังมันจึงจะเกิด  ท่านเพิ่มเวลาฝึกพลัง  ฝึกมากอีกหน่อย  แต่หากท่านไม่ฝึก  พลังก็ไม่โต  แต่ฝ่าหลุนต้าฝ่านี้ของข้าพเจ้า  ท่านไม่ฝึกเขาก็โตได้  ท่านฝึก ก็เป็นการเสริมให้กลไกนี้แข็งแกร่ง  เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลไกเหล่านี้และฝ่าหลุนที่ข้าพเจ้าใส่ให้กับท่าน ขณะที่ท่านเสริมความแข็งแกร่งให้เขา  เพิ่มเติมให้เขา     ท่านก็เพียงก่อให้เกิดผลอย่างนี้ แต่การบำเพ็ญที่แท้จริง คือฝ่าชุดนี้ทั้งหมด  ไม่เพียงแค่ฝ่าหลุนที่ฝึกอยู่  กลไกบังคับภายนอกที่ให้แก่ท่านหมุนเคลื่อนไหวอยู่  ฝ่าหลุนหมุนอยู่   กลไกบังคับภายนอกทั้งหมดในร่างกายล้วนกำลังฝึกโดยอัตโนมัติให้ท่าน

            การบำเพ็ญที่เราพูด  การบำเพ็ญปฏิบัติที่แท้จริงส่วนสำคัญคือ บำเพ็ญ   ส่วนการฝึกมันก็เป็นอีกด้านหนึ่ง ท่านเพียงแต่เน้นการบำเพ็ญซินซิ่ง ยึดถือตัวท่านเองเป็นผู้บำเพ็ญปฏิบัติที่แท้จริง ควบคุมพฤติกรรมของท่านเองในสังคมคนธรรมดาสามัญ  ฉะนั้นพลังของท่านก็จะโตขึ้น  เสริมเข้ากับการฝึกท่าเคลื่อนไหวของท่านทุกวัน  ท่านก็กำลังฝึกของชุดนี้ของข้าพเจ้าอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทั่วด้าน  ท่าเคลื่อนไหวเรียบง่ายมาก  มีเพียงหลักพลังห้าชุด  แต่การควบคุมอย่างทั่วด้านในมหทรรศน์นั้นจะฝึกฝนสิ่งต่างๆนับพันนับหมื่นอยู่ทุกขณะ  บางคนถามอาจารย์ชี่กงนั้นว่า ท่าเคลื่อนไหวนี้คือการฝึกอะไร ท่าเคลื่อนไหวนั้นคือการฝึกอะไร   อาจารย์ชี่กงบางคนก็พูดไม่ออก  เพราะอะไรจึงพูดไม่ออก  และไม่อาจจะพูดกับท่านได้ เพราะสิ่งที่ร่างกายคนจะบำเพ็ญไม่เพียงแค่จำนวนนับหมื่นนับพัน  การเคลื่อนไหวแต่ละท่าล้วนควบคุมสิ่งต่างๆ ฝึกฝนอยู่ในมหทรรศน์  ท่านว่ามันฝึกอะไรละ  จะบอกท่านอย่างไรได้ละ  เพราะอะไรๆก็ฝึกอยู่  ท่านเห็นว่าท่าการเคลื่อนไหวเรียบง่าย  ไม่แน่ว่าแบบซับซ้อนแล้วจะดี  หลักเต๋าใหญ่นั้นเรียบง่าย   หลักเต๋าเล็กฝ่าเล็ก ท่าการเคลื่อนไหวจะซับซ้อนมาก  การบำเพ็ญไม่ได้อยู่ที่ระดับความซับซ้อนของท่าเคลื่อนไหวแต่เป็นสิ่งของชุดนี้ที่แนวทางนี้ใส่ให้กับท่านในอีกมิติหนึ่ง มันซับซ้อนหรือไม่ละ  ท่าเคลื่อนไหวโดยตัวมันเองกลับไม่ซับซ้อน

ในใจบางคนอาจคิดว่า  ที่ท่านพูดนี้เรายังไม่ค่อยเข้าใจ  คนเขาพูดถึงเมื่อตานงอกออกมา นี้เป็นพลังงาน ร่างพระสงฆ์ก็สามารถจะเผาสารีริกธาตุออกมาได้  เรื่องนี้น่าเชื่อ  มันยังเป็นสิ่งที่เป็นสสาร  ฝ่าหลุนนี้ที่ท่านพูดว่าหมุนอยู่ในท้อง ไม่ค่อยน่าเชื่อ  เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกันละ  หมุนได้อย่างไรละ  ข้าพเจ้าขอถามกลับว่า  ท่านว่าทางช้างเผือกกับจักรวาลนี้กำลังหมุนอยู่   ทางช้างเผือกกำลังเคลื่อนไหวอยู่  ดาวเคราะห์เก้าดวงหมุนวนรอบดวงอาทิตย์อยู่  โลกของเรายังหมุนได้เอง  ใครผลักมันละ  ใครเพิ่มพลังให้กับมันละ  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน พวกมันก็คือคงอยู่ในรูปแบบของกลไกหมุนชนิดหนึ่ง   ฝ่าหลุนนี้ของเราก็คงอยู่เป็นกลไกหมุนชนิดนี้  ดังนั้นเขาจึงหมุนได้เองไม่มีหยุด พวกเราส่วนหนึ่งไม่เคยฟังการบรรยาย  ข้าพเจ้าสามารถบอกให้ท่านเข้าใจได้ถึงความรู้สึกของการหมุนของฝ่าหลุนนี้สักหน่อย  ทุกท่านยื่นมือข้างหนึ่งออกมา กางฝ่ามือแบนราบ  มือไม่ออกแรง  แต่พยายามยืดฝ่ามือให้ตรง  เอาละ  ตอนนี้ข้าพเจ้าจะส่งฝ่าหลุนองค์หนึ่งไปให้แต่ละคน  ให้หมุนอยู่บนฝ่ามือท่าน ให้ท่านดู  หมุนหรือไม่ละ   (เสียงตอบ -หมุน) ผู้ที่อยู่ข้างบน หมุนหรือไม่  (เสียงตอบ -หมุน)  เอาละ ก็คือให้ทุกท่านประสบด้วยตัวเองสักครั้ง   บางคนที่ไม่รู้สึกว่าหมุน  ก็จะรู้สึกว่ามือเย็น และบางคนจะรู้สึกร้อน  นั่นเป็นผลที่เกิดขึ้นเพราะสนามของกรรมนั้นที่มีอยู่ในตัวท่าน  คนที่รู้สึกเย็น มักจะมีร่างกายที่ไม่ค่อยดี  ยังมีที่เกิดขึ้นจากมือนี้ส่วนนี้มีกรรมอยู่  แต่ไม่ว่าท่านจะรู้สึกว่าหมุนหรือไม่หมุน  ท่านก็จะรู้สึกร้อนหรือเย็น  แน่ละคนส่วนใหญ่จำนวนมากจะรู้สึกว่าหมุน 

            ฝ่าหลุนต้าฝ่าของเรานี้ เนื่องจากเขาเป็นหลักพลังชนิดหนึ่งอย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเหมาะสมกับการเรียนที่จะฝึกของคนยุคนี้  แน่ละ ข้าพเจ้าว่า ฝ่าหลุนต้าฝ่าถ่ายทอดออกมา จะมีประโยชน์ต่อการยกระดับมาตรฐานศีลธรรมของสังคมและมนุษย์  ในทางปฏิบัติก็ได้พิสูจน์ถึงจุดนี้แล้ว   กล่าวในฐานะคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง ในฐานะคนๆหนึ่ง  หากท่านคิดจะบำเพ็ญ  ท่านต้องเน้นการบำเพ็ญซินซิ่งของท่าน    ในเมื่อท่านเน้นการบำเพ็ญซินซิ่ง  ท่านจึงต้องสะท้อนออกมาเป็นคนดีคนหนึ่งในสังคมคนธรรมดาสามัญ  รับรองว่าต้องเป็นเช่นนี้  บางคนพูดว่าหลักพลังของเขาก็สามารถบรรลุถึงการฝึกพลังระยะยาว  แต่มักจะอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้ม  ข้าพเจ้าว่านั่นหาใช่การฝึกพลังไม่  นั่นเป็นเพียงการขจัดโรคเสริมสร้างสุขภาพ  เป็นสภาวะหนึ่งของการฝึกชี่ นั่นไม่ใช่การฝึกพลัง จะขอพูดอีกนิด   สมมติว่าเป็นการฝึกพลังจริง  ท่านลองดูซิ   ท่านอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มท่านจะทำงานได้ดีหรือ  ท่านจะสามารถทำงานที่หัวหน้ามอบหมายให้สำเร็จได้หรือ  ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้บริหารองค์กรก็ดี  หรือเปิดบริษัทของตัวเองก็ดี  ท่านก็มิใช่ เพื่อจะรับใช้สังคมหรือ เช่นนั้นฉันก็ทำงานในสำนักงาน ท่านทำงานในสำนักงานท่านก็อยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม ท่านจะเขียนเอกสารได้อย่างไร  ล้วนแต่ทำงานให้เสร็จด้วยดีไม่ได้  ดีไม่ดีอาจเกิดอันตรายเสียอีกนะ  เช่นว่าคนงานคนนี้อยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม  ดีไม่ดีมือข้างนี้ก็จะยื่นเข้าไปในฟันเฟืองแล้ว ทำงานก่อสร้างบนตึกสูงอยู่ในอาการเคลิบเคลิ้มไม่แน่ว่าอาจตกลงมา  นั่นมิใช่ปัญหาความปลอดภัยในการผลิตหรือ  มันไม่อาจบรรลุถึงการฝึกพลังระยะยาว  แต่พลังกงของเรานี้ ได้แก้ไขปัญหานี้อย่างแท้จริงแล้ว  พวกเราต้องกลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล  การเป็นคนดีคนหนึ่ง นี่จึงจะเป็นมาตรฐานของผู้บำเพ็ญ  ผู้ฝึกเราบางคนก็ทราบ พลังกงโตขึ้นเร็วมาก  หลักพลังของเรานี้ไม่พิถีพิถันในเรื่องหยุมหยิม  ทฤษฎีก็ไม่มากเพราะการบำเพ็ญหลักเต๋าใหญ่  บำเพ็ญต้าฝ่า  ทฤษฎีก็น้อยมาก  พวกเราก็ไม่เน้นทิศทางไหนในการฝึก หรือฝึกเวลาไหน  หันไปฝึกทิศไหน   เพราะฝ่าหลุนต้าฝ่านี้ของเรา  สิ่งที่ฝึกนั้นใหญ่มาก   ในช่วงประวัติศาสตร์ของเรานี้    อารยธรรมของมนุษย์ที่ปรากฏออกมาครั้งนี้   ยังไม่เคยฝึกสิ่งที่ใหญ่อย่างนี้  ก่อนที่จะมีการถ่ายทอดสิ่งนี้ของเรา ท่านไม่เชื่อท่านลองดู  วิธีบำเพ็ญเหล่านั้นที่เลียนแบบท่าเคลื่อนไหวของสัตว์ กระทั่งจะเป็นผู้มีชื่อเสียงคนไหน นักปราชญ์  นักพรตเต๋าก็ดี  ท่านจะเป็นเต๋า เทพ พระพุทธก็ดี  อย่างไรเสียเขายังคงมีข้อจำกัด

ฝ่าหลุนต้าฝ่าเราฝึกตามหลักการผันแปรของจักรวาล เนื่องจากฝ่าหลุนนั้นเกิดขึ้นตามหลักการผันแปรของจักรวาล  ชี้นำให้เราบำเพ็ญตามคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล เจิน ซั่น เหยิ่น   เราสามารถพูดได้ว่าเป็นการฝึกตามสิ่งที่สูงที่สุด  ฝึกฝ่าที่ใหญ่อย่างนี้  เท่ากับฝึกจักรวาล  เราก็ไม่พูดถึงเรื่องทิศทาง  ทุกท่านลองคิดดู จักรวาลนี้ไหนเลยจะมีทิศทางอะไรอยู่   จักรวาลเองกำลังเคลื่อนไหวอยู่  ทางช้างเผือกของเราก็เคลื่อนไหวอยู่ดาวเคราะห์เก้าดวงโคจรรอบดวงอาทิตย์  โลกยังหมุนรอบตัวเอง  ไหนเลยจะมีทิศเหนือใต้ออกตกละ หมุนจนงงไปหมด  ไม่มีแนวคิดเรื่องทิศทางชนิดนี้คงอยู่อย่างแท้จริง  เพียงแต่มนุษย์ยืนอยู่ในแง่มุมของมนุษย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน  แบ่งแยกโดยอยู่บนโลกของเรา  ดังนั้นพวกเราจึงฝึกสิ่งที่ใหญ่อย่างนี้ เหมือนกับฝึกจักรวาล ดังนั้นจึงไม่อาจพูดถึงความรู้สึกต่อทิศทางได้  ดังนั้นท่านหันไปทิศใดฝึกจึงเท่ากับหันไปทุกทิศทางฝึก  ท่านฝึกโดยหันไปทิศใด  พูดให้ชัดแล้ว  ก็เท่ากับหันไปฝึกทั้งทิศเหนือใต้ออกตก  ดังนั้นเราจึงไม่พูดเรื่องทิศทางแต่อย่างใด  เพราะนี้คือสิ่งที่เคลื่อนไหว สิ่งที่หมุน

เราก็ไม่เน้นเรื่องเวลา  ทำไมไม่เน้นเรื่องเวลาละ  หลักพลังมากมายเน้นว่าฝึกพลังเวลาจื่อสือ (23.00 -01.00 น.)  ฝึกพลังเวลาเฉินสือ (07.00 – 09.00 น.) ดี  แน่ละเรารู้สึกว่าในเวลาจื่อสือ เวลาเฉินสือนั้นค่อนข้างดีหน่อย  แต่เราไม่ไปฝึก โดยจำกัดอยู่ในขอบเขตเวลาที่แคบๆอย่างนี้   พูดถึงจักรวาลที่ใหญ่อย่างนั้น  บนโลกของท่านเวลาจื่อสือนี้ดี  หากท่านอยู่ในมิติอื่นเวลาจื่อสืออันนี้ ไม่แน่ว่าจะดี  ดังนั้นเราไม่จำกัดอยู่ตรงนี้  แต่เวลาจื่อสือมีเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ประการหนึ่ง  ก็คือมันค่อนข้างเงียบ  ยามดึกคนเงียบเหมาะสำหรับฝึกพลัง  ยังมีบางคนบอกว่าเวลาเฉินสือฝึกพลังดี แน่ละ เรายังคงเป็นหลักการนั้น  เราก็ไม่เน้นเวลาเฉินสือ แต่เราก็เสนอให้ตื่นเช้า  ทุกท่านรวมตัวฝึกด้วยกัน  หรือตอนค่ำรวมตัวฝึกพร้อมกัน เพราะอะไรละ  เพราะเวลาที่ทุกท่านฝึกพลังร่วมกัน  หากพบกับปัญหาอะไร ก็สามารถปรึกษาซึ่งกันและกันได้ แก้ไขมันระหว่างกันและกัน ร่วมมือกัน  ศึกษาพิจารณาซึ่งกันและกัน จะมีประโยชน์ต่อการยกระดับพร้อมกันของทุกท่าน ดังนั้นเราจึงเลือกรูปแบบที่ทุกท่านฝึกพลังร่วมกันอย่างนี้  แน่ละบางคนจะไปทำงาน  มีเวลาก็เป็นช่วงเช้ากับค่ำ  ดังนั้นจึงฝึกเวลาเช้าหรือค่ำ ที่จริงนะ ตลอดเวลาที่ท่านไม่ได้ฝึก  ท่านก็ถูกพลังฝึกอยู่  แต่ที่ท่านฝึก คือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กลไกเหล่านั้นที่ข้าพเจ้าใส่ให้กับท่าน  เราพูดว่าเคลื่อนไหวไปตามกลไก  มือ ท่าเคลื่อนไหวเป็นเพียงการเสริมเพิ่มให้กับกลไกนั้น

เราก็ไม่เน้นเรื่องเก็บพลัง  ไม่เน้นเรื่องการเก็บพลังเพราะไม่มีแนวคิดเรื่องการเก็บพลัง  เพราะหลักพลังอื่นพอฝึกพลังเสร็จ จะเก็บพลังกลับมา กวาดโกยสนามพลังที่สาดกระจายรอบๆคืนมา  พลังก็หยุดลงแล้ว  เราไม่มีแนวคิดนี้  เพราะเราฝึกอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง  ดังนั้นจึงไม่มีแนวคิดของการหยุดพัก  จึงไม่เน้นการเก็บพลัง เช่นนั้นบางคนคิดว่า  ฉันอยู่ตรงนั้นฝึกพลัง  ทันใดโทรศัพท์เข้ามาแล้ว  หรือทันใดมีคนมาเคาะประตู  ฉันจะทำอย่างไรละ  เช่นนั้นท่านก็ลุกขึ้นมาต้อนรับแขก  ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ ไม่มีปัญหา เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ละ  เพราะเวลาคนฝึกพลัง รอบๆตัวจะมีสนามหนึ่งคงอยู่  แต่ฝ่าหลุนของท่านเขามีความชาญฉลาด เวลาที่ในความคิดของท่านคิดจะไปทำอะไร  เขารู้ว่าตอนนี้ท่านไม่ฝึกแล้ว  เขาจะรีบหมุนตามเข็มนาฬิกา ในทันทีก็ดูด สนามนี้ที่อยู่นอกร่างกายท่าน “ซวบ” กลับมา  ท่านจงใจทำก็ทำไม่ได้  ท่านประคองชี่กรอกใส่กระหม่อม ให้ท่านประคองอีกก็หลุดหายได้  แต่เขานั้นไม่หายไป  เพราะเขามีของอย่างนี้ควบคุมอยู่  เมื่อครู่ข้าพเจ้าได้แนะนำจุดเด่นของหลักพลังฝ่าหลุนต้าฝ่านี้อย่างคร่าวๆให้ทุกท่านแล้ว  แน่ละยังมีอีกมาก  ยังมีที่ดียิ่งขึ้นอีก  ในระหว่างการบรรยายของเราจึงสามารถพูดได้  เพราะต้องพูดอย่างเป็นระบบ

ต่อไปข้าพเจ้าจะพูดอีกเรื่องหนึ่ง  ก็คือคนในชนชั้นที่ต่างกันจะฝึกพลังอย่างไร  ทุกท่านคงทราบว่าในอดีตมีการพูดอย่างหนึ่ง ว่าคนที่ยากจน คนที่ไม่มีทรัพย์สมบัติจึงจะสามารถบำเพ็ญปฏิบัติได้ คนในศาสนาที่ต่างกันล้วนพูดหลักการของแนวทางนี้ของตน  ศาสนาพุทธพูดไว้มากมายอย่างไรก็เพียงวนอยู่รอบๆสิ่งที่องค์ศากยมุนีประจักษ์แจ้งเท่านั้น  แต่ที่คนรุ่นหลังไปพูดทฤษฎีของพุทธศาสนาซึ่งสืบทอดมีผิดพลาด และสายเต๋าก็ออกไปไม่พ้นจากหลักการของไท่จี๋  แต่ใครก็ไม่พูดถึงจักรวาลนี้อย่างชัดเจนครบถ้วน มีแต่ท่านต้องกระโดดออกไปจากกรอบนี้พูดจักรวาลทั้งหมด  จึงจะสามารถพูดฝ่าของจักรวาล คุณสมบัติพิเศษของจักรวาล เทพ เต๋า พุทธนั้น แท้จริงคืออะไร ได้อย่างชัดเจน  ดังนั้นล้วนเป็นการพูดแนวทางนั้นของตนเอง  ยิ่งกว่านั้นข้างในนี้ สายเต๋าก็มีหลายสำนัก  สายพุทธก็มีหลายสำนัก  และยังพูดแต่หลักการของสำนักตน ส่วนเรานั้นเปิดเผยทั้งหมดนี้พูดถึงความจริงของจักรวาลนี้  โดยพูดเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์และสรีระศาสตร์ในปัจจุบัน  เช่นนั้นเราพูดหลักเหตุผลอะไรหรือ  ทุกท่านคงได้ยินที่ศาสนาพูดกันแล้ว พระเยซูก็พูดไว้คำหนึ่ง ว่าคนรวยจะขึ้นสวรรค์ยังยากกว่าอูฐมุดรูเข็มเสียอีก ที่พระองค์ตรัสคือคนรวยนั้นบำเพ็ญได้ยากมาก  แต่ที่เราพูดว่าบำเพ็ญได้ยาก  ไม่ใช่คนรวยบำเพ็ญไม่ได้  ไม่อาจจะมองเปลือกนอกของเขา   เนื่องจากคนรวยนั้นยากจะปล่อยวางเงินทองทรัพย์สินของตน แต่เราดูที่แก่นแท้ไม่ดูเปลือกนอก  ที่ข้าพเจ้าพูดคือ ไม่ใช่ว่าให้ท่านโยนสิ่งที่เป็นวัตถุทั้งหมดทิ้งไปจริงๆ จึงจะเป็นการบำเพ็ญจริง แต่คือการปล่อยวางจิตยึดติดต่อทรัพย์สินเงินทอง สามารถมองมันให้จืดจาง เบาบาง

            ขณะนี้ข้าพเจ้าบอกว่าคนต่างชนชั้นจะบำเพ็ญอย่างไร ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เหตุที่มีคน        คนสามารถมีชีวิตอยู่บนโลก ก็คือเพื่อคำ คำเดียว –ฉิง (อารมณ์) ความยินดี ความโกรธ ความเศร้า ความสุข ท่านชอบทำอะไร  ไม่ชอบทำอะไร  ท่านชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร  ท่านชอบคนไหน ไม่ชอบคนไหน  ญาติสนิท  มิตรสหาย  ความรัก  พ่อแม่  ทุกสิ่งทุกอย่าง  ทุกสิ่งของคนล้วนมาจากฉิงนี้  เช่นนั้นฉิงนี้สามารถก่อเกิดจิตยึดติดทั้งหลาย เมื่อกระทบถูกฉิงนี้ของท่าน  ท่านยังจะเกิดจิตอิจฉา ดังนั้นคนจึงมีชีวิตอยู่เพื่อฉิงนี้  ดังนั้นในทางปฏิบัติของการบำเพ็ญ ก็ต้องละทิ้งจิตนี้ของท่าน  ค่อยๆขัดเกลาให้จืดจางลง  ท่านขัดเกลาจนหมดยิ่งดีเพราะมันคือการแสดงออกของระดับชั้น ก็ค่อยๆมองสิ่งเหล่านี้ให้จืดจาง  จืดจางลง  มองสิ่งเหล่านี้ที่คนธรรมดาสามัญยึดติดกันให้จืดจาง คนธรรมดาสามัญนั้น คนเขาเห็นว่าสิ่งที่คนธรรมดาสามัญยึดติดที่สุดก็คือชื่อเสียงกับผลประโยชน์ ดังนั้นจึงเห็นว่า คนที่แสวงหาสองสิ่งนี้คือผู้ที่บำเพ็ญยากที่สุด การแสวงหาชื่อเสียงนั้นรวมถึงการแสวงหาตำแหน่ง หน้าที่ อำนาจ  ส่วนการแสวงหาผลประโยชน์นั้น  ที่สำคัญก็คือเงินทองและวัตถุ จึงถือว่าผู้แสวงหาของสองชนิดนี้ บำเพ็ญยากที่สุด  ที่จริงนะ  เราพูดว่าบำเพ็ญยากนั้นคือบำเพ็ญยาก  แต่ล้วนสามารถบำเพ็ญ ไม่ใช่ว่าไม่สามารถบำเพ็ญได้ จะต้องทิ้งเงินทองเหล่านี้ของท่านแล้วท่านจึงจะสามารถบำเพ็ญได้หรือ ข้าพเจ้าว่าไม่ใช่เช่นนั้น  การบำเพ็ญที่แท้จริง  ไม่ใช่เพราะว่าท่านมั่งมีกับท่านไม่มั่งมี  หากพูดโดยใช้หลักการของสายพุทธ  ความมั่งมีนั้นเกิดจากโชคลาภของท่านเอง นั่นเป็นสิ่งที่เกิดจากกุศลนี้ของท่านเอง  ท่านจึงสมควรมี  ดังนั้นความมั่งมีของเขาโดยตัวมันเองหาใช่เคยมีบาปมาก่อน

            ที่เราพูดคือ  ท่านจะทำตัวเป็นคนดีในระดับชั้นนี้ของท่านได้อย่างไร   โดยมอง สิ่งต่างๆทางวัตถุ ตัณหา ชื่อเสียง ผลประโยชน์ ให้จืดจาง  ทรัพย์สมบัติล้ำค่าของครอบครัวท่าน  ท่านไม่ให้ความสำคัญกับมันจนเกินไป   ท่านสามารถมองได้จืดจางมาก  หรือกระทั่งในใจดวงนี้ของท่านไม่มีเงินนี้อยู่เลย ก็จะไม่มีปัญหา   เงินในบ้านท่านนั้นเต็มไปหมด  แม้แต่เตียงนอนก็ปูรองด้วยเงินทอง  ข้าพเจ้าว่าก็ไม่เป็นไร  การบำเพ็ญก็คือบำเพ็ญใจดวงนี้ของคน  ไม่ใช่ทิ้งอะไรทางวัตถุไปจริงๆ  บอกว่าท่านเป็นข้าราชการใหญ่แค่ไหน  มองมันให้จืดจาง  ไม่ว่าท่านจะเป็นข้าราชการใหญ่แค่ไหน ก็ล้วนแต่เพื่อรับใช้ประชาชน  เพื่อความผาสุกของราษฎร  คือเพื่อผู้อื่น  นี้ท่านมิใช่เป็นข้าราชการที่ดีหรอกหรือ  แน่ละสังคมมนุษย์นี้ซับซ้อน  ท่านอยู่ในชนชั้นต่างๆ  ท่านสามารถจัดความสัมพันธ์นี้ได้ถูกต้อง  ปฏิบัติตามข้อกำหนดของฝ่านี้ของเรา  ท่านย่อมจะเป็นคนดีคนหนึ่งได้  เป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่งได้

            เรามาพูดถึงคนชนชั้นที่ต่างกันก็แล้วกัน คนธรรมดาสามัญมีความขัดแย้งของคนธรรมดาสามัญ  สำหรับพนักงานทั่วไป เขาจะมีการขัดสีด้านผลประโยชน์ระหว่างกันในหมู่พวกเขา  ส่วนคนตำแหน่งสูง พวกเขาก็มีความขัดแย้งต่อสู้แย่งชิงซึ่งกันและกันในระดับชั้นนั้นของเขา  เช่นนั้นในระดับชั้นที่ยิ่งสูง  เขาก็จะมีสภาพความขัดแย้งอยู่ในระดับชั้นนั้นของเขา   ก็คือในระดับชั้นนี้ของท่าน  ในสภาพแวดล้อมนี้ของท่าน  ท่านจะมองการแสวงหาสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตนเหล่านี้  มองสิ่งเหล่านี้ให้จืดจางได้อย่างไร   จะทำตัวเป็นคนดีได้อย่างไร  ทำเรื่องที่ดีให้มาก  ทำเรื่องที่ดีเพื่อผู้อื่น   จะยกระดับได้อย่างไร   ชนชั้นต่างๆล้วนสามารถบำเพ็ญได้  พวกเรากระโดดออกมาจากหลักการของศาสนาและแนวปฏิบัติทั้งหลายที่มีอยู่นี้  ไม่ใช่ให้ท่านละทิ้งสิ่งของที่เป็นวัตถุอะไรจริงๆ  ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย จึงค่อยบำเพ็ญ  ไม่ใช่อย่างนี้  ก็คือท่านสามารถจะมองสิ่งนี้ให้จืดจางได้หรือไม่  ที่พวกเราบำเพ็ญไม่ใช่ใจดวงนี้หรอกหรือ  บอกว่าหากไม่มีใจดวงนี้ มิใช่ก็บรรลุเป้าหมายแล้วหรือ   บอกว่าหากสังคมมนุษย์ อะไรๆก็ไม่มีแล้วจริงๆ กลายเป็นสังคมบุพกาลแล้ว  ข้าพเจ้าว่านี่ไม่ถูก ใช่ไหม  มนุษยชาติพัฒนาไปตามทิศทางการพัฒนา  ที่แท้คือปัญหาเช่นนี้

            ที่ผ่านมามีหลายคนถามข้าพเจ้าว่า พวกเราจะบำเพ็ญอย่างไร แน่ละสังคมปัจจุบันซับซ้อนมาก มีเรื่องมากมาย แต่ถึงอย่างไรข้าพเจ้าก็ไม่อาจพูดให้เป็นรูปธรรมมากเกินไป  ให้ยึดถือฝ่านี้ไปปฏิบัติ  ถ้าบอกให้ท่านทั้งหมด ก็จะไม่มีสิ่งที่ท่านจะบำเพ็ญ ไม่มีสิ่งที่ท่านจะรับรู้ และสำหรับปัญหารูปธรรม ท่านต้องรับรู้เอาเอง  บำเพ็ญเอง  ท่านจึงจะบำเพ็ญได้  ท่านจึงจะยกระดับได้  ถ้าพูดออกมาทั้งหมดแล้ว  ท่านก็จะไม่มีการยกระดับ  ทั้งหมดล้วนวางอยู่ตรงนั้น  ท่านเพียงแต่ทำตามก็พอแล้ว  เดิมทีคนก็อยู่ในวังวน  ให้ท่านรับรู้โดยอยู่ในวังวน หากบอกว่าคนล้วนสามารถมองเห็นแล้ว ฉันจึงจะไปบำเพ็ญ  ฉันจึงจะไปรับรู้  ข้าพเจ้าว่านั่นก็จะรับรู้ไม่ได้   ผู้รู้แจ้งนั้น เหตุใดจึงยากที่จะบำเพ็ญ  ยากที่จะยกระดับ  เขาได้แต่อยู่ในระดับชั้นนั้น  ก็เพราะเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นไม่มีความทุกข์  ที่ไหนๆล้วนดีอย่างนั้น  เขาไม่มีวังวน เขาจะไปรับรู้ได้ที่ไหน แต่คนธรรมดาสามัญมีวังวน มองไม่เห็นภาพจริง มองไม่เห็นสัจธรรม

            คนล้วนแต่แย่งชิงต่อสู้ในเรื่องผลประโยชน์เฉพาะหน้า  ถ้าในนั้นมีคนดีปรากฏ  และบอกว่าฉันไม่เห็นด้วยกับท่าน  ฉันไม่แย่งชิงสิ่งเหล่านี้  ทั้งชื่อเสียงผลประโยชน์ ล้วนมองจืดจางมาก  คนๆนี้ก็โดดเด่นมากแล้ว  ท่านดูเมื่ออยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญมองดู  เหมือนธรรมดามาก  แต่เมื่ออยู่ในระดับชั้นสูงมองดู  คนๆนี้เหมือนกับทองคำเปล่งประกายแวววาว  ในอดีตพูดกันว่า ผู้มีพลังสูงเลือกลูกศิษย์   ไม่ใช่ลูกศิษย์ค้นหาอาจารย์  แต่เป็นอาจารย์ที่ค้นหาลูกศิษย์   ก็คือเหตุผลนี้  คนเขาจะเลือกคนแบบนี้ คนธรรมดาสามัญล้วนหลงอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ คิดว่าเรื่องที่คนธรรมดาสามัญทำเองเป็นเรื่องที่ดี  ที่แท้พอไปถึงระดับชั้นสูงมองดู ล้วนแต่กลับกัน คนล้วนแต่มีชีวิตอยู่เพื่อตนเอง เห็นแก่ตัวเอง  ดังนั้นสิ่งที่ท่านยึดติดเหล่านี้ ก็เป็นเพียงเพื่อความพอใจของจิตที่เห็นแก่ตัว  ดังนั้นเมื่อจะบำเพ็ญก็ต้องทิ้งไปให้ท่าน  พูดให้ชัด  การบำเพ็ญก็คือทิ้งจิตยึดติดของคน  ที่นี่ข้าพเจ้าพยายามพูดสิ่งที่เป็นแก่นแท้   การบำเพ็ญก็คือการทิ้งจิตยึดติดต่างๆของท่านไป  ที่แท้การบำเพ็ญก็คือบำเพ็ญใจดวงนี้ของท่าน ข้าพเจ้าว่าการบำเพ็ญตามแนวทางของเรานี้ก็คือเน้นตรงที่ใจคน  และเรามุ่งตรงประเด็นพูดถึงจุดที่สำคัญ

            ยังมีอีกปัญหาหนึ่งจะขอพูดกับทุกท่าน  เพราะอย่างไรเสียก็มีผู้ฝึกเก่าอยู่ที่นี่  ของเรายังเป็นการประชุมสรุป  มีบางคนคิดจะออกมาทำลายต้าฝ่า  แต่มีน้อยมาก  เป็นเฉพาะราย  เฉพาะรายอย่างยิ่ง  และไม่เหมือนกับหลักพลังอื่น  บางคนเพื่อเงิน  ก็ตีกัน   ทะเลาะกันระหว่างสำนัก  ในสำนักเดียวกันก็ตีกัน สู้กันเอย  ถึงอย่างไรก็ไม่ได้พูดเรื่องซินซิ่งอย่างแท้จริง  เป็นบรรยากาศอะไรที่ทะมึนทึง  ทุกท่านทราบว่า พวกเราที่นี่ ฝ่าหลุนต้าฝ่านี้คือดินแดนบริสุทธิ์ ข้าพเจ้ากล้าพูดเช่นนี้  พวกเราที่นี้ระหว่างกันและกันเป็นสภาพจิตใจอะไรหรือ ทุกท่านล้วนแต่ท่านช่วยฉัน ฉันช่วยท่าน  ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่อพบหน้ากันเป็นอย่างไรละ  ในชั้นเรียนของเราที่กว่างโจว   ผู้ฝึกบางคนไม่มีเงิน  ทุกท่านก็เอาออกมาเป็นร้อยเป็นร้อยช่วยเหลือคนเขา   หากท่านอยู่ในสำนักอื่น  จะไม่พบเรื่องอย่างนี้  พวกเราที่นี้มีคนดีเรื่องดีเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน  เป็นปรากฏการณ์ทั่วไปอย่างมาก  ข้าพเจ้าว่ามันยังไม่ใช่ดินแดนบริสุทธิ์อีกหรือ  เพราะเราบำเพ็ญใจคนโดยตรง  เน้นซินซิ่งของคนในการบำเพ็ญ  ย่อมจะมีผลลัพธ์อย่างนี้  ดังนั้นในขั้นตอนการบำเพ็ญของเรา  ต่อไปทุกท่านก็ต้องเน้นหนักการบำเพ็ญซินซิ่ง 

ในขณะเดียวกันก็ต้องยึดกุมฝ่านี้ให้ดี  ข้าพเจ้าว่านั่นก็ต้องเข้าใจ หนังสือเล่มนี้ ฝ่านี้ ให้ทะลุปรุโปร่ง  ต้องศึกษาฝ่า  ท่านอย่าได้เอาแต่ฝึกท่าเคลื่อนไหว  ท่านฝึกท่าเคลื่อนไหวทั้งวัน  อาจารย์พูดอะไรก็ลืมหมดแล้ว  ข้าพเจ้าว่าท่านก็ไม่มีทางจะบำเพ็ญได้   จะใช้อะไรชี้นำท่านละ  ดังนั้นทุกท่านต้องอ่านหนังสือให้มาก ศึกษาฝ่า อ่านหนังสือให้เหมือนกับการฝึกท่าเคลื่อนไหวที่ทำอยู่ทุกวัน   อ่านทุกวัน  จึงจะสามารถชี้นำท่านให้เป็นคนดี   ซินซิ่งของท่านจึงจะบำเพ็ญขึ้นมาได้  พลังจึงจะโตขึ้นมาได้  ท่านว่าฉันจะฝึกแต่ท่าเคลื่อนไหว วันๆท่านฝึกตั้งแต่เช้ายันค่ำ   จนท่านเหนื่อยล้า พลังนั้นก็ยังไม่โต   ท่านอย่าเห็นว่าฝ่าหลุนนั้นหมุนเองโดยอัตโนมัติ     ที่ท่านฝึกคือการเสริมสร้างกลไกนั้น   การหมุนของฝ่าหลุนเป็นการนำพลังที่ใช้ผันแปรสิ่งของให้กับท่านเตรียมพร้อมที่จะส่งขึ้นไปทั้งหมด  แต่คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลควบคุมท่านอยู่  เขาไม่ให้พลังท่านโตขึ้น แล้วจะมีประโยชน์อะไร  ดังนั้นท่านจึงต้องยกระดับซินซิ่งขึ้นมา  พลังของท่านจึงจะโตขึ้น  ต้องเน้นความสำคัญของเรื่องนี้

            ยังมีผู้ฝึกบางคน ถามปัญหาอย่างนี้ ก็คือในอนาคตผู้ฝึกเราจะเผยแพร่พลังอย่างไร  ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องนี้ข้าพเจ้าก็สามารถจะพูดกับพวกท่านได้  ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพูดเรื่องนี้ ขอพูดปัญหาหนึ่งให้ชัดเสียก่อน  ในหมู่ผู้ฝึกเราที่ศึกษาเอง ฝึกเอง ไม่เคยเข้าร่วมชั้นเรียน      ท่านเพียงปฏิบัติตามมาตรฐานของผู้ฝึกพลังในการฝึก ไม่ต้องให้ข้าพเจ้าใส่ฝ่าหลุน ฝ่าเซิน(ธรรมกาย)ให้ท่านด้วยตัวเอง  แต่อะไรๆท่านก็จะได้รับทั้งหมด เพราะมีมูลเหตุหนึ่ง  ถ้าหากเป็นผู้ฝึกของข้าพเจ้าสอนให้ท่าน  เช่นนั้นผู้ฝึกทั้งหมดของข้าพเจ้าล้วนมีฝ่าเซินของข้าพเจ้าคุ้มครอง  ทุกท่านทราบนี่ก็ไม่ใช่เรื่องงมงายอะไร  เขา(ฝ่าเซิน)คือร่างชีวิตที่เหมือนกับรูปลักษณ์ของข้าพเจ้าซึ่งประกอบขึ้นจากพลังที่เกิดจากการฝึกของข้าพเจ้า เขาก็มีฝ่าอย่างเดียวกัน  มีพลังที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน  นี่ก็คือฝ่าเซิน(ธรรมกาย)  ข้าพเจ้ามีฝ่าเซินนับไม่ถ้วนสามารถคุ้มครองผู้ฝึก ดังนั้นผู้ฝึกแต่ละคน หากบำเพ็ญอย่างแท้จริงก็จะได้รับการคุ้มครอง  ฉะนั้นผู้ฝึกคนนี้หากท่านคิดจะศึกษา    เมื่อมีผู้ฝึกสอนท่าน    เช่นนั้นฝ่าเซินนี้ก็จะปรับร่างกายให้กับท่านตามธรรมชาติ  ใส่ฝ่าหลุนใส่กลไกบังคับให้ท่านตามธรรมชาติ   สิ่งที่ควรให้ท่านก็จะให้ท่าน  แต่ต้องเป็นผู้บำเพ็ญอย่างแท้จริง ล้วนจะได้รับ เช่นนั้นหลังจากใส่สิ่งที่เหนือสามัญวิสัยเหล่านี้ให้ท่านแล้ว ถ้าไม่มีคนคุ้มครองท่าน  ก็จะเป็นอันตรายต่อท่าน  จะทำอย่างไรละ  เช่นนั้นข้าพเจ้ายังมีฝ่าเซินที่จะคุ้มครองท่าน จุดนี้รับรองได้  เช่นนั้นต่อไปพวกท่านจะเผยแพร่พลังอย่างไรละ  ข้าพเจ้าก็จะพูดให้กับพวกท่านอย่างแจ่มแจ้งมาก ผู้ช่วยฝึกสอนในแต่ละแห่งของเราทั่วประเทศกับผู้ฝึกแต่ละคนล้วนสามารถไปเผยแพร่พลัง แต่ไม่อนุญาตให้เก็บเงิน ทุกๆคนล้วนไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บค่าใช้จ่าย แม้แต่ศูนย์ช่วยฝึกสอนก็ไม่อนุญาตให้เก็บค่าใช้จ่าย  เผยแพร่พลังโดยไม่รับค่าตอบแทน การบำเพ็ญที่แท้จริงเป็นการสะสมคุณความดีและกุศล  และไม่แสวงหาชื่อเสียง ผลประโยชน์   ก็คือเผยแพร่กันอย่างนี้   หากท่านคิดจะทำอย่างนี้จริงๆคือ  ท่านบอกว่าฉันก็จะเอาฝ่าหลุนต้าฝ่ามาหาเงิน  อย่างนั้นดีละ  อะไรๆท่านก็จะไม่มี  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะเอาทุกสิ่งคืนจากท่าน ไม่อนุญาตให้ท่านใช้สิ่งนี้ทำลายฝ่านี้  ปัญหานี้เราพูดกันอย่างชัดเจนมาก  ดังนั้นท่านไม่ต้องกังวล  ว่าฉันเผยแพร่พลังแล้ว  คนเขาจะมีฝ่าหลุนกับกลไกบังคับได้หรือไม่   มีได้เหมือนกัน พอท่านเผยแพร่ ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะทราบ 

            เช่นนั้นหากไม่มีคนสอนเขา เขาอ่านเองจะศึกษาได้หรือไม่ จะได้รับหรือไม่ ย่อมได้รับเช่นกัน  เราขอยกตัวอย่าง  องค์ศากยมุนีก็ดี  เหลาจื่อก็ดี  หรือผู้รู้แจ้งองค์อื่นก็ดี  ไม่อยู่ในโลกกี่ปีแล้ว  แต่คนของสำนักนั้นยังคงบำเพ็ญอยู่  ในยุคโบราณก็บำเพ็ญออกมากันหลายคน  ทำไมละ  เพราะมีฝ่าเซินอยู่  ผู้ฝึกของเราหลายคนคงเห็นแล้ว  บนรูปถ่ายนั้นของข้าพเจ้า  ก็คือรูปถ่ายเหล่านั้นของข้าพเจ้าบนหนังสือ  ดูคล้ายกับว่า ตาสามารถขยับได้  หรือบางคนมองเห็นร่างกายขยับหรือมีความรู้สึกอื่นๆ  บางคนพูดว่า ที่ข้างบนนี้(รูปอาจารย์)มีฝ่าเซิน ไม่เพียงแค่บนรูปถ่ายที่มี  เนื่องจากที่นี่เรามีผู้ฝึกใหม่ ไม่สะดวกที่จะพูดสูงเกินไป ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน เพียงท่านไปศึกษา ท่านถือหนังสืออยู่ นำวีดิทัศน์ นำเทปบันทึกเสียงไปดู ไปฟัง ล้วนสามารถจะได้รับ ก็กลัวแต่ว่าท่านไม่บำเพ็ญ  บอกว่าฉันฝึกแต่ท่าเคลื่อนไหว  ฉันก็คิดจะได้สิ่งเหนือสามัญวิสัยเหล่านี้ นั่นเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด  พวกท่านไปบำเพ็ญอย่างจริงจังจึงจะได้รับสิ่งเหล่านี้  เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดเรื่องอย่างนี้ไปแล้ว    เป็นการพูดให้กับผู้ฝึกเก่าหลายคน  ผู้ฝึกใหม่ฟังๆหน่อยก็ได้ประโยชน์

            ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง  ข้าพเจ้าจะพูดเรื่องการรักษาโรค  บางคนพูดว่า มีหลายคนที่ความคิดมีทิฐิมาก แข็งทื่อมาก กระทั่งมีแพทย์ตะวันตกหลายคน ก็มีความคิดอย่างนี้คือ    เขาพูดว่าท่านใช้ความสามารถ(กงเหนิง)รักษาโรคได้แล้วยังจะต้องการโรงพยาบาลของเราทำไม หรือก็คือความหมายนอกเหนือจากคำพูดไม่ยอมรับว่าความสามารถ(กงเหนิง)สามารถรักษาโรคได้   แต่เขาก็ไม่มีเหตุผล  คำพูดนี้พูดอย่างไม่มีเหตุผลมาก  เช่นนั้นพลังกง สามารถรักษาโรคได้หรือไม่ละ

เราพบว่าคนที่บำเพ็ญในระดับชั้นตื้นๆ  เขารักษารากเหง้าของโรคไม่ได้  แต่เขาสามารถรักษาที่ชั้นผิวได้ หากสูงขึ้นไปอีกเล็กน้อย เขาสามารถเคลื่อนย้ายโรคนี้ของท่านได้ เคลื่อนย้ายไปอยู่วันข้างหน้า  ตอนนี้รู้สึกว่าหายแล้ว พอผ่านไปหลายปีให้หลังจะกำเริบอีก  หรือผันแปรเป็นทุกข์ภัยอย่างอื่น  หรือเคลื่อนย้ายไปให้ญาติสนิทมิตรสหาย  เขาสามารถทำเรื่องอย่างนี้ได้   หากจะรักษาโรคนี้ให้หายขาด  นั่นต้องเป็นคนที่มีความสามารถชนิดนี้ หรือพูดว่าเขาสามารถสลายกรรมให้คนได้  แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทำได้ ต้องเป็นคนที่มีความสามารถชนิดนี้ และยังต้องเจาะจงต่อผู้ที่บำเพ็ญจริงเหล่านั้นจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้ แต่จะทำให้คนธรรมดาสามัญตามอำเภอใจไม่ได้อย่างเด็ดขาด  เพราะนี่เท่ากับคนๆนี้ทำเรื่องไม่ดีแล้วไม่ต้องชดใช้

ฉะนั้นในนี้จึงมีหลักการนี้  และก็คือพลังกงสามารถรักษาโรคได้  ในหลายปีนี้  มีคนมากมายที่ผ่านการฝึกฝนร่างกายตนเอง หรือผู้บำเพ็ญที่รักษาโรคให้หายได้แล้ว เป็นที่ประจักษ์ชัดกันแล้ว  ใครก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องจริงนี้ได้ หรือพูดได้ว่ามันสามารถรักษาโรคได้ สิ่งที่บำเพ็ญอยู่ในระดับชั้นสูง  นำมันออกมาขจัดโรคให้คนในระดับชั้นต่ำ  แน่ละย่อมจะแสดงออกมาซึ่งปาฏิหาริย์  คนป่วยบางคนเริ่มเน้นเรื่องกุศลแล้ว  บางคนที่อยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ เป็นคนที่ดีมาก  หลังจากฝึกพลังเขาจึงสามารถหายจากโรค  แต่การบำเพ็ญนั้นเป็นสิ่งเหนือสามัญวิสัย   ฉะนั้นจึงมีหลักการเหนือสามัญวิสัยกำกับอยู่ ดังนั้นท่านจะนำมันมารบกวนสังคมคนธรรมดาสามัญในวงกว้างนั้น  ไม่อนุญาตให้โดยเด็ดขาด    หากชี่กงจะตั้งขึ้นมาเป็นโรงพยาบาล  ตั้งเป็นแผนกรักษาคนไข้นอก  ตั้งเป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ  ผลลัพธ์ของการรักษาก็จะตกลงไปทันที รับรองว่าจะเป็นเช่นนี้

ทุกท่านทราบว่า คนที่มีความเชี่ยวชาญ เมื่อรักษาโรคก็เพียงครั้งเดียว  หากกรรมที่สลายมากเกินไปก็ไม่ไหว  โรคโดยพื้นฐานนั้นเพียงครั้งเดียวก็หายแล้ว  พอส่งพลังกงออกมา และไม่ต้องพูดถึงวิธีการอะไร ไหนเลยจะมีวิธีการอะไร เมื่อความสามารถส่งออกมา  โดยผ่านส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายก็สามารถส่งออกมาได้ทั้งนั้น  เมื่อส่งพลังไปถึงแล้ว โรคก็หาย  เดิมทีก็ไม่พูดถึงวิธีการอะไร   แต่อาจารย์ชี่กงปลอม   เพื่อที่จะหลอกคนจึงสร้างวิธีรักษาอะไรออกมา  วิธีผลักเอย ระบายเอย บำรุงอะไรเอย  รวบจับอะไรเอย  เข็มชี่เอย  เข็มไฟฟ้าเอย  ปล่อยแสงอะไรเอย  วิธีที่วุ่นวายอะไร อย่างนี้อย่างนั้นมากมายเหลือเกิน เดิมทีพลังกงของผู้บำเพ็ญจะส่งออกไปอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น  ยังจะพูดถึงวิธีการอะไรอีก ไม่ใช่เรื่องแบบนั้นแต่อย่างใด  นั่นล้วนเป็นการหลอกคนเอาเงิน  การบำเพ็ญที่แท้จริง  ที่แท้ก็เป็นเรื่องอย่างนี้

แต่โรคในหมู่คนธรรมดาสามัญนั้น ไม่อาจไปแตะต้องได้ตามอำเภอใจ พอชี่กงนี้ตั้งเป็นโรงพยาบาลขึ้นมา  ผลลัพธ์ของการรักษาก็จะตกลงไปทันที  ก็ไม่ไหวแล้ว   เพราะไม่อาจใช้สิ่งเหนือสามัญวิสัย รบกวนสังคมคนธรรมดาสามัญเป็นวงกว้างตามอำเภอใจ คนธรรมดาสามัญก็อยู่ในระดับชั้นนี้ของคนธรรมดาสามัญ มีกฎในระดับต่ำที่สุดควบคุม หากนำกฎของระดับชั้นสูงมาแทรกแซงหลักการในหมู่คนธรรมดาสามัญ  กฎในระดับชั้นนี้ของคนธรรมดาสามัญ  ท่านคิดว่านั่นจะใช้ได้หรือ  เท่ากับทำลายหลักการของจักรวาล  ทำลายหลักการของมิติคนธรรมดาสามัญ  ดังนั้นหากท่านตั้งโรงพยาบาลขึ้นมาจริงๆ ประสิทธิผลของการรักษาของท่าน ก็จะต้องเหมือนกับ ประสิทธิผลของการรักษาในโรงพยาบาลของคนธรรมดาสามัญ  ดังนั้นท่านดูซิ  ทั้งหมดที่ตั้งเป็นโรงพยาบาล ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ  ตั้งเป็นแผนกชี่กงรักษาโรคอย่างนี้  เวลาที่มันรักษาก็จัดเป็นขั้นตอนการรักษาสักกี่ขั้นตอน รักษากันเป็นหลายขั้นตอน ฟังแล้วช่างน่าขัน ชี่กงยังต้องรักษากันเป็นหลายขั้นตอน ฉะนั้นประสิทธิผลของการรักษาของมันจึงไม่ดี จากด้านใดด้านหนึ่งของการรักษายังเทียบไม่ได้กับโรงพยาบาลของคนเขา  จึงเกิดปัญหานี้  เพราะมันเป็นสิ่งเหนือสามัญวิสัย

ในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญ คนเกิดจิตเมตตาออกมา  เห็นสรรพชีวิตว่าทุกข์ยากมาก  ตนเองก็ออกจากสามภพแล้ว  มีพลังสูงแล้ว ช่วยคนเขาทำสักหน่อย  โดยมีจุดมุ่งหมายเฉพาะ นี้ทำได้ หากท่านไปทำตามอำเภอใจ  นี้ไม่อาจทำได้  เมื่อคนๆนี้บำเพ็ญถึงระดับชั้นสูง  เขาสามารถจะทำให้คนมากมายหายจากโรค  แต่คนที่บำเพ็ญถึงระดับชั้นนี้  เขาพบว่าโรคของคนนั้น ไม่อาจจะทำให้หายได้ตามอำเภอใจ   เขามองเห็นหลักการนี้แล้ว  คือกรรมแห่งโรคนั้นมีเหตุสัมพันธ์กัน  คนล้วนกำลังชดใช้กรรม    ถ้าท่านไปขจัดให้ตามอำเภอใจ เท่ากับว่าทำเรื่องไม่ดีแล้วไม่ต้องชดใช้กรรม   มันมีหลักการนี้กำกับอยู่  เช่นนั้นบางคนพูดว่า ชี่กงรักษาโรค   เมื่อพูดจากความหมายใดความหมายหนึ่ง  มันยังคงเป็นการขจัดความเจ็บปวดในขณะนี้  ที่จริงการรักษาโรคของโรงพยาบาลไม่ใช่อย่างนี้หรอกหรือ  มันเพียงช่วยเคลื่อนย้ายให้กับท่าน  กรรมนั้นมันเอาออกไปไม่ได้

แท้ที่จริงโรคที่เราพูดถึงนั้นเป็นปัญหาในอีกมิติหนึ่งที่สะท้อนมาถึงมิตินี้  เช่นว่าส่วนไหนของร่างกายมีอะไรงอกขึ้นมา  หรือเกิดอักเสบ เป็นต้น ซึ่งเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย  ส่วนกรรมที่มีขนาดเล็กสักหน่อย ซึ่งมีระดับความหนาแน่นมาก เมื่อสะท้อนมายังมิตินี้ก็คือไวรัส  กรรมที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย นั่นก็คือแบคทีเรีย  ที่เราเห็นก็คือสิ่งนี้  ซึ่งอยู่ในอีกมิติหนึ่ง  คนจะรักษาให้ถึงรากเหง้าได้อย่างไรละ  เพราะท่านยังไม่สามารถทะลวงผ่านมิตินี้ไปได้  กรรมก็คือกรรมสีดำๆเป็นกลุ่มๆนั้น  ดังนั้นวงการบำเพ็ญเราจึงไม่เรียกว่าโรค  ไม่พูดถึงโรค  เพราะล้วนเป็นกรรม  ก็คือเรื่องนี้   เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้ว  แท้ที่จริงโรคนั้นไม่อาจไปแตะต้องตามอำเภอใจ  ท่านว่าด้วยจิตเมตตา  และอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมพิเศษ ช่วยคนทำสักหน่อย นี้เป็นไปได้ หากเพื่อชื่อเสียงผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อเงิน  เพื่อผลประโยชน์แล้วไปทำ  นี้ไม่ได้  มันมีหลักการนี้กำกับอยู่  

            เช่นนั้นมีคนพูดว่า  การรักษาโรคมิใช่เพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตหรือ  นั่นไม่ใช่การทำเรื่องดีหรือ  ในช่วงธรรมะปลาย คัมภีร์นั้นก็ถูกตีความบิดเบือนหมดแล้ว  ท่านลองเปิด “คัมภีร์พระไตรปิฏก”ในนั้นมีหรือไม่ที่พูดว่าการรักษาโรคให้คนธรรมดาสามัญคือการช่วยเหลือสรรพชีวิต  ไม่มีเลย   การช่วยเหลือสรรพชีวิตหมายถึง การช่วยท่านจากสภาพแวดล้อมที่ทุกข์ยากนี้ของคนธรรมดาสามัญ ขึ้นไปสู่ระดับชั้นสูง ให้ท่านไม่ต้องอยู่ที่นี่รับความทุกข์ทรมานตลอดไป  คือความหมายนี้   นี่จึงเรียกว่าการช่วยเหลือสรรพชีวิตที่แท้จริง  แก้ไขปัญหาของคนจากแก่นแท้  ส่วนที่พูดว่าการรักษาโรคให้คนธรรมดาสามัญเป็นการช่วยเหลือสรรพชีวิตนั้นเป็นการพูดของอาจารย์ชี่กงปลอมพวกนั้น  ปั้นแต่งออกมาหาเงิน  ที่พระพุทธตรัสว่าช่วยเหลือคนไม่ใช่จุดประสงค์นี้แต่อย่างใด ทุกท่านคิดดูหากการรักษาโรคให้คนคือการช่วยเหลือสรรพชีวิต  ท่านว่าอิทธิฤทธิ์ของพระพุทธยิ่งใหญ่หรือไม่ละ  พระพุทธใหญ่ของระดับชั้นสูงนั้น  พระบาทของพระองค์ยังใหญ่กว่าโลกของท่านเสียอีก  แค่โบกมือทีเดียวโรคทั้งหมดบนโลกก็ไม่มีแล้ว   เหตุใดพระองค์จึงไม่ทำละ  นี่จะดีเพียงไร  ช่วยเหลือสรรพชีวิตใช่หรือไม่  คนก็เป็นอย่างนี้   ท่านติดค้างหนี้กรรมท่านต้องชดใช้   ไม่อาจทำลายหลักการนี้  กรรมที่คนก่อไว้เอง ก็ต้องชดใช้    ท่านคิดจะบำเพ็ญ ท่านต้องบำเพ็ญซินซิ่งไปพลางชดใช้กรรมไปพลาง หวนคืนกลับไป   เราจะยกตัวอย่างหนึ่ง  เช่นว่า คนๆนี้คิดจะออกนอกประเทศ  ไปยังประเทศที่ร่ำรวยเสวยสุข  เช่นนั้นหนี้ที่ท่านติดค้างอยู่ในประเทศนี้ ท่านก็ต้องชดใช้ให้หมด  ท่านปัดๆแล้วก็ไป  นั่นจะใช้ได้หรือ   ต้องชดใช้ให้หมดท่านจึงจะไปได้  หรือพูดในความหมายนี้  คือท่านจะบำเพ็ญท่านก็ต้องทนทุกข์  มันมีหลักการหนึ่งอย่างนี้  แน่ละเมื่อบำเพ็ญต้าฝ่าจะสามารถสลายไปส่วนหนึ่ง  หากไม่สลายส่วนหนึ่งให้กับท่าน  ท่านก็ไม่มีทางจะบำเพ็ญได้  คนนั้นอยู่ในกงกรรมกงเกวียนมาจนถึงขั้นนี้   อุปสรรคนั้นใหญ่เหลือเกินแล้ว  ดังนั้นจึงต้องช่วยท่านสลายไปส่วนหนึ่ง จึงจะสามารถบำเพ็ญได้  เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดถึงการรักษาโรค จึงถือโอกาสพูดถึงเหตุผลในนั้นให้กับทุกท่าน

เช่นนั้นเหตุใดจึงมีอาจารย์ชี่กงบางคนพูดว่า  เรียนวิชาของฉันสามวันก็รักษาโรคได้ ห้าวันรักษาโรคได้ สิบวันท่านก็จะรักษาโรคได้  เป็นอาจารย์ชี่กง  พอออกจากชั้นเรียนก็เป็นหมอชี่กง  เช่นนั้นเหตุใดคนจำนวนมากจึงบรรลุไม่ถึงละ เหตุใดจึงมีคนจำนวนน้อยกลับสามารถรักษาโรคบางอย่างให้คนเขาได้ละ มูลเหตุคืออะไร  ที่บรรลุไม่ถึงเพราะเป็นการทำลายหลักการของคนธรรมดาสามัญ ซึ่งไม่อาจอนุญาตให้ได้   เช่นนั้นเหตุใดบางคนยื่นมือรักษาโรคให้คนเขาก็รักษาให้หายได้หลายคนละ  ตนเองดีใจอย่างล้นเหลือ  ยิ่งเพิ่มความศรัทธาต่ออาจารย์ชี่กงดังกล่าว  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  นั่นคือคนบางคนถูกหลอก  อาจารย์ชี่กงดังกล่าวที่ทำอย่างนี้มักจะมีตัวสิงร่าง  เพราะตัวสิงร่างมันก็มีพลังกงอยู่บ้าง  ถ้ามันไม่มีพลังกงก็รักษาโรคไม่ได้  มันมีกระทั่งความสามารถพิเศษ มันให้สื่อสัญญาณกับท่านเล็กน้อย  ให้พลังงานเล็กน้อย  แต่พลังงานมันก็หมดไปได้  ท่านรักษาไปหนึ่งโรค  มันก็หมดไปส่วนหนึ่ง  เมื่อรักษาอีกเล็กน้อยก็หมดไปอีก  ท่านรักษาอีกไม่กี่คนก็หมดแล้ว  จากนั้นมาจิตยึดติดในการรักษาโรคให้คนกลับรุนแรงอย่างมาก  เมื่อหมดไปแล้ว  ท่านยังรักษาอีกก็ไม่หายแล้ว

เมื่อไม่หาย ก็จะเกิดปัญหาหนึ่ง  ปัญหาอะไรละ  เมื่อท่านรักษาโรคอีกก็จะเป็นการใช้รากฐานของท่าน แลกเปลี่ยนกับโรคของคนอื่น  หมายความว่าอะไรหรือ  ก็คือในจักรวาลนี้มีหลักการหนึ่งเรียกว่า “ไม่เสียก็ไม่ได้”  จะได้ท่านก็ต้องเสีย  อย่าเห็นว่าท่านได้ของที่ไม่ดี  เนื่องจากท่านรักษาโรคของคนเขาไม่หาย  ท่านคิดแต่จะให้โรคของคนอื่นหาย  แล้วจะทำอย่างไรละ  โรคนี้ท่านก็รับไปก็แล้วกัน  ให้คนป่วยหายจากโรค  เพราะท่านอยากให้โรคของเขาหายใช่ไหม  บางคนยอมให้ตัวเองได้โรคมาก็จะรักษาเขาให้หาย  ไม่ใช่เพราะเกิดจิตเมตตา   จะให้เขาหายป่วยให้ได้  เขากลัวว่าเขาจะเสียชื่อเสียง  ท่านดูอาจารย์ชี่กงคนนี้ให้ร้ายคนถึงระดับไหน  เกิดจิตยึดติดต่อชื่อเสียงและผลประโยชน์หนักเพียงไร  จิตยึดติดต่อชื่อเสียงและผลประโยชน์นี้ทำร้ายคนรุนแรงแค่ไหน เขากลัวเขาจะเสียชื่อเสียงเขาจึงคิดอย่างนี้  จะต้องให้เขาหายป่วยให้จงได้  กระทั่งให้ตัวเองได้โรคก็เอา  เอาละ ท่านจะรับก็ให้ท่านได้รับ  ต้องแลกกัน  ไม่อาจได้ไปเปล่าๆ  สิ่งนั้นของคนเขานั้น ท่านอย่าเห็นว่าคือโรค  เมื่อสลายทิ้งไปแล้วก็จะกลายเป็นกุศล  สสารนั้นไม่ดับสลาย   มันสามารถผันแปรได้  อ้อ ท่านเอาไปแล้ว ดีละ  ฉะนั้นท่านก็ให้กุศลกับคนเขาเพื่อแลกเปลี่ยน   สิ่งเดียวที่แลกเปลี่ยนกันในฝั่งนั้นก็คือกุศล  ให้กุศลแก่คนเขาไป  ตัวเองเอาโรคของคนเขามา  เขาทำเรื่องที่โง่เขลาที่สุด  กุศลนี้ล้ำค่าแค่ไหนหนา

ที่ผ่านมาในศาสนาพูดว่า คนสูงอายุก็พูดกันว่า ชาตินี้ลำบากหน่อยไม่เป็นไร  ทำเรื่องดีมากหน่อย สะสมกุศล  ชาติหน้าก็จะมีโชคลาภ  ความหมายอีกอย่างคือ กุศลนี้สามารถนำโชคลาภ นำตำแหน่งมาให้ท่านได้  ที่จริงนั้น  เราก็พบว่ามันเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนชนิดหนึ่ง  เมื่อท่านคิดจะได้โชคลาภนั้น  แต่ท่านไม่มีกุศลไปแลกท่านก็จะไม่ได้มา  บางคนทำการค้า  พอทำก็ใหญ่โตมาก  บางคนทำแต่ก็ไม่มี  เพราะเขาไม่มีกุศล  กุศลน้อยมาก  แลกมาไม่ได้  บางคน ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  ถ้ากุศลนั้นมีน้อยแล้ว  ท่านขอทานก็ขอไม่ได้  ท่านต้องให้กุศลแก่คนเขา  คนเขาจึงจะให้อาหารท่าน  ที่ฝั่งนั้นมีรูปแบบการแลกเปลี่ยน  ดังนั้นหากท่านไม่มีกุศล อะไรก็ไม่มี  เป็นกรรมสีดำทั้งหมด   ดังนั้นคนๆนี้ก็จะเป็นคนสารพัดชั่ว  ต้องเผชิญกับการดับสลายอย่างถึงที่สุด  แม้แต่จิตก็จะดับสลาย  นั่นเรียกว่าดับสลายทั้งกายและจิต  เป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งนัก  เวลาที่ดับสลายก็จะดับสลายชีวิตลงไปทีละชั้น ทีละชั้น    ขณะแบกรับบาปกรรมทั้งหมดที่มีอยู่ ชีวิตก็กำลังดับสูญ

ในเมื่อกุศลนี้เป็นของล้ำค่าอย่างนี้  เช่นนั้นจะมอบให้คนเขาตามชอบใจได้ไหม  ท่านว่าอาจารย์ชี่กงคนนั้นมิใช่กำลังทำร้ายคนอยู่หรือ  ทำร้ายคนและยังทำร้ายตัวเขาเองด้วย  เขาทำความชั่วมากเกินไป  เขาสอนให้ท่านรักษาโรคให้ผู้คน  หลังจากเกิดจิตยึดติดแล้ว  หากรากฐานของท่านดี  ก็ใช้กุศลของตัวเองรักษาโรคให้คนเขา  นำโรคมาสู่ตัวท่าน  เอากุศลให้คนอื่น  หลายปีนี้มีคนแบบนี้สักเท่าไรที่  รักษาโรคให้คนเขาแล้ว ตัวเองก็คล้ายกับป่วยหนักหนึ่งรอบ  กลับบ้านไปทนทรมาน  มีคนแบบนี้เท่าไรกันละ มิใช่มากมายเหลือเกินแล้วหรือ คนไหนๆที่รักษาโรคมิใช่เช่นนี้หรือ  ที่จริงล้วนเป็นเช่นนี้  รักษาโรคให้คนเสร็จ เขาก็กลับไปทนทรมาน  ก็คือท่านใช้กุศลของท่านแลกกับโรคของคน  นี่ยังไม่นับ  หากเดิมทีท่านคือคนที่จะสำเร็จสมบูรณ์ได้  สามารถบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูงได้มรรคผล  แต่ในทันใดมันก็ทำลายท่านแล้ว  ทำลายถึงระดับไหนหรือ  จิตใฝ่ในชื่อเสียงและผลประโยชน์นั้นยากที่สุดที่จะทิ้ง  หากใครบอกว่าตัวเองดี ก็ลิงโลดใจเสียเหลือเกิน  ใครใครล้วนแต่มีจิตสำนึกที่ดื้อรั้นอย่างมากชนิดนี้แฝงอยู่   ใครยกยอตนเอง ก็ตัวลอยขึ้นมาแล้ว  ใครเรียกท่านสักคำว่าอาจารย์ชี่กง โอ้ ท่านรักษาโรคให้ฉันหายแล้ว  ท่านช่างเก่งกาจมากจริงๆ ท่านก็ลืมตัวไม่รู้ว่ามากเพียงใดแล้ว

เช่นนั้นจิตใฝ่ในชื่อเสียงและผลประโยชน์นี้ พอขึ้นมา ทุกท่านคิดดู  จะทิ้งจิตนี้ให้ท่านนั้นยากเสียเหลือเกินแล้ว  มีหลายคนที่ข้าพเจ้าบอกเขา  ไม่ให้เขารักษาโรค  มือเขาก็คันยิกยิก  จะรักษาคนให้ได้  จิตใฝ่ในชื่อเสียงและผลประโยชน์นี้ขึ้นมาแล้ว  จะทิ้งไปได้อย่างไรละ   โดยเฉพาะเวลาที่รักษาโรคให้คน  จะก่อเกิดเป็นสนามหนึ่งร่วมกับคนป่วย เพราะท่านบำเพ็ญอยู่ในภพ ไม่ว่าท่านจะบำเพ็ญสูงเพียงใด  ท่านไม่มีความสามารถที่จะปกป้องตนเอง  ท่านย่อมจะเชื่อมต่อกับคนป่วยเป็นหนึ่งสนาม  ชี่แห่งโรคบนร่างกายคนป่วยล้วนพลิกข้ามมาให้บนตัวท่าน กระทั่งบนร่างกายท่านยังมีชี่แห่งโรคมากกว่าคนป่วยเสียอีก  แต่รากเหง้าของโรคอยู่ที่เขาท่านแตะต้องไม่ได้  ท่านก็รักษาไม่หาย  ชี่สีดำของเขาลดน้อยลงหน่อยแล้ว เขารู้สึกสบายขึ้นแล้ว  ส่วนท่านตรงนี้ต้องไปทนทรมาน  นานๆเข้า หนึ่งโรค สองโรคที่ได้มา ท่านไม่ใส่ใจ  นานๆเข้า โรคของใครท่านก็รักษาให้หมด  ชี่แห่งโรคอะไรล้วนเต็มไปทั้งตัวท่าน  อาจารย์ชี่กงบางคนบอกให้ท่านผลักออกไป  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน การบำเพ็ญยังคงต้อง บำเพ็ญอยู่ที่ตัว พลังอยู่ที่อาจารย์    มือของคนธรรมดาสามัญเช่นท่าน   ความนึกคิดของคนธรรมดาสามัญสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ไหม  หากท่านสามารถผลักโรคนั้นออกไปได้  โรคเรื้อรังที่ตัวท่านได้รับ ท่านผลักออกไปแล้วหรือ ท่านผลักออกไปไม่ได้เลย  ดังนั้นรู้สึกว่าชี่เคลื่อนลงไปข้างล่าง  ชี่ดีชี่ไม่ดีก็เคลื่อนเหมือนๆกัน  ที่เคลื่อนออกไปยังจะหดกลับมา ดังนั้นเขา(อาจารย์ชี่กงปลอม)มิใช่ทำร้ายท่านจนเหลือทนหรอกหรือ    ตัวท่านเองทำจนร่างกายสกปรกทั้งตัว  ชี่สีดำนั้นคืออะไร  ก็คือกรรม เมื่อสะท้อนมาถึงร่างกายในมิตินี้ก็คือโรค  ท่านเองทั้งตัวเต็มไปด้วยโรค   จิตใฝ่ในชื่อเสียงและผลประโยชน์ยังขึ้นมาแล้ว  จิตนี้ยังยากจะทิ้งไป  ท่านรักษาโรคให้คนท่านต้องทนทรมาน

การบำเพ็ญในภพ คนจำนวนมากล้วนไม่ทราบว่า  เมื่อเริ่มต้นบำเพ็ญนั้นก็คือต้องชำระร่างกายให้บริสุทธิ์  ใช้ชี่กรอกทะลวงร่างกาย  กรอกให้ร่างกายสะอาด ก็คือจุดประสงค์นี้   เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบำเพ็ญในระดับชั้นสูง และวางรากฐานของสิ่งต่างๆ  เมื่อถึงการบำเพ็ญในระดับชั้นสูง  ก็ยังคงชำระต่อไปเรื่อยๆ  ชำระไม่หยุดหย่อน  ให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น  บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น  สุดท้ายถูกสสารพลังงานสูงแทนที่  การบำเพ็ญในภพทั้งหมดนั้น ล้วนคือการชำระร่างกายตนเอง  เช่นนั้นท่านคิดดู  ท่านรักษาโรคให้คนไม่หยุดหย่อน  ไม่หยุดที่จะนำของสกปรกมาใส่ตัวเอง  ท่านมิใช่กำลังทำสิ่งตรงกันข้ามกับการบำเพ็ญหรอกหรือ ท่านรักษาโรคให้คน  ท่านเกิดจิตเมตตาที่ยิ่งใหญ่นั้นจริงๆหรือ ไม่ใช่ แต่เป็นจิตใฝ่ในชื่อเสียงและผลประโยชน์บงการท่าน หากท่านไม่ทำเพื่อเงินก็ทำเพื่อชื่อเสียง  สามารถรักษาโรคได้แล้ว  มือก็คันยิกๆ  ถ้าไม่รักษาโรคให้คน  ดูเหมือนจะไม่ได้แสดงความสามารถออกมา  ไม่ใช่เรื่องอย่างนี้หรอกหรือ  เช่นนั้นการบำเพ็ญมิใช่การละทิ้งจิตยึดติดหรือ  ท่านว่าจิตดวงนี้จะทิ้งไปอย่างไรละ  เขาทำร้ายท่านไม่เบาเลยจริงๆ  ดังนั้นเราที่นี่ได้บอกสาเหตุที่แท้จริงที่ไม่รักษาโรคออกมาแล้ว

            ผู้ที่สามารถรักษาโรคได้จริงๆ ผู้ที่บำเพ็ญได้สูงมาก แต่บางทียังไม่เปิดการรู้แจ้ง  คนแบบนี้ เมื่อได้พบกับคนดีโดยบังเอิญจึงให้การรักษาสักหน่อย นี้ทำได้ แต่มักจะไม่บอกชื่อไม่เรียกค่าตอบแทน  ส่วนมากเป็นเช่นนี้  ที่จริงเขาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยแก่นแท้   เขาเพียงแต่ช่วยท่านเคลื่อนย้ายทุกข์ภัยนี้  กดมันลงไปจากมิติสสารชั้นผิวนี้ของเรา   กดเข้าไปในมิติสสารระดับชั้นที่ลึก  แต่สุดท้ายมันยังจะกลับออกมาได้  ยังมีอีก ก็คือเขาผันแปรสิ่งนี้ให้กับท่าน  ผันแปรให้กลายเป็นไม่ต้องเจ็บป่วย แต่ให้ท่านประสบกับภัยอย่างอื่น มีวิธีการบำเพ็ญหลายอย่าง เป็นการบำเพ็ญของจิตสำนึกรอง   ท่านอย่าเห็นว่าเขามีพลัง  ตัวเขามีพลังอะไร  สภาวะอะไร  พลังกงนั้นมีสภาพเป็นอย่างไร  ออกมาได้อย่างไร  บำเพ็ญผ่านมาอย่างไร  พลังกงนั้นอยู่ที่ไหน  เขาเองไม่เข้าใจแม้แต่น้อย  เขารู้แต่ไปทำ  ที่จริงผู้ที่ทำเรื่องนั้นคือจิตสำนึกรอง  เพราะจิตสำนึกรองกำลังบำเพ็ญใช่ไหม  ดังนั้นเขาช่วยเคลื่อนย้ายให้กับท่านหรือผันแปรไปให้ร่างกายคนอื่น แต่จะผันแปรตามชอบใจไม่ได้  เป็นได้แต่ญาติสนิทมิตรสหายเท่านั้น  แต่ก็ยังมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน  ไม่อาจรักษาโรคให้เปล่าๆได้  ท่านต้องยอมทุ่มเท  มันมีหลักการในชั้นนี้

            พูดมาถึงตรงนี้ข้าพเจ้าจะบอกทุกท่านว่า  ท่านอย่าเห็นอาจารย์ชี่กงบางคนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก  ทั้งหมดนั้นเขากำลังสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมมนุษย์ ปัจจุบันดินแดนบริสุทธิ์มีน้อยมาก  หน่วยงานของสังคมคนธรรมดาสามัญเราล้วนเหมือนกัน  หน่วยงานใดไม่มีคนเหล่านั้นที่ทำลายสังคมมนุษย์เรา ทำลายเรื่องในสังคมมนุษย์ละ  ทุกแห่งหนล้วนเป็นมาร  ชี่กงโดยตัวมันเองคือการบำเพ็ญ  พวกนี้จะเป็นดินแดนบริสุทธิ์ได้ไหม  บางคนทำลายฝ่าหลุนต้าฝ่าของเรา  เพราะอะไรละ  มิใช่เพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ที่เขาไม่ได้รับหรือ แน่ละเจ้ามารนี้ หากไม่คงอยู่ก็ยังไม่ได้  หากมารนี้ไม่คงอยู่นั่นก็บำเพ็ญสะดวกเกินไปแล้ว   ฝ่าหลุนต้าฝ่าของท่านไม่มีอุปสรรคอะไรเลยก็บำเพ็ญขึ้นไปได้ นี่ก็ง่ายเกินไปแล้ว เพราะการละทิ้งจิตใจของคน ทุกๆด้านล้วนต้องปรากฏออกมา  โดยเฉพาะคือ ศูนย์ฝึกบางแห่งของฝ่าหลุนต้าฝ่า  มีปรากฏคนอย่างนี้  คือพูดว่าตัวฉันก็คือพระพุทธแล้ว   พวกคุณอย่าเรียนกับหลี่ หงจื้อเลย  ทำไมจึงมีปรากฏการณ์อย่างนี้ละ  ก็คือจะดูว่าโดยแก่นแท้ ท่านใจหวั่นไหวหรือไม่  เรื่อยไปจนท่านบำเพ็ญถึงก้าวสุดท้าย  ยังจะทดสอบใจดวงนี้ของท่าน  ดูว่าจากแก่นแท้จะรับรู้ฝ่าได้หรือไม่  มั่นคงหรือไม่  ต้องยกระดับในด้านต่างๆ  ล้วนต้องแน่นหนา

ข้าพเจ้าพูดถึงตรงนี้ จะพูดปัญหาหนึ่งให้กับทุกท่าน  ในอนาคตการรักษาโรคของเต๋าเล็ก ฝ่าเล็กในภพอาจจะยังคงอยู่  มันเป็นแต่เพียง รูปแบบนั้นที่คงอยู่  มันจะรักษาอย่างไร  ข้าพเจ้าก็พูดแล้ว  ความสามารถน้อยมาก  โรคเบาๆสามารถรักษาได้  โรคหนักจะรักษาไม่ได้  แต่ผู้บำเพ็ญเฉพาะราย  มุ่งทำให้กับคนจำนวนน้อยเฉพาะรายนั้นทำได้  แต่หากรบกวนสังคมในวงกว้าง  เรื่องอย่างนี้รับรองว่าเขาทำไม่ได้แน่ อาจารย์ชี่กงบางคนตามที่เรียกกัน  จัดชั้นเรียนที่มีคนมากๆ สอนคนไปรักษาโรค  ล้วนกลายเป็นปรมาจารย์ชี่กง  โรคอะไรก็รักษาได้  หากพูดกันตามนี้  สังคมมนุษย์ก็ไม่มีโรคอะไรแล้ว  แต่เขาไม่อาจบรรลุได้  ก็คือหลักการนี้  แต่จะสามารถรักษาโรคได้หรือไม่ละ  รักษาก็จะเป็นสภาพการณ์นั้น  ก็เป็นรูปแบบนั้น  ดังนั้นฝ่าหลุนต้าฝ่าเราคือการถ่ายทอดพลังไปสู่ระดับชั้นสูง  เป็นการบำเพ็ญที่แท้จริง

            การบำเพ็ญที่แท้จริง จึงเท่ากับช่วยคน ดังนั้นข้าพเจ้าก็พูดกับทุกท่านอย่างชัดเจนแล้ว  ผู้ที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างแท้จริง ท่านก็ไม่อาจลงมือรักษาโรคให้คน  หากท่านทำการรักษาโรคจริงๆ  ก็ถือว่าทำลายฝ่านี้สร้างภัยพิบัติต่อฝ่านี้  ดังนั้นหากเพียงท่านไปรักษาโรคให้คนเขา  ข้าพเจ้าก็จะไม่ให้ท่านทำลาย สร้างความแปดเปื้อนต่อสิ่งล้ำค่าเช่นนั้น  ฉะนั้นฝ่าเซินของข้าพเจ้าจะเก็บฝ่าหลุนและกลไกบังคับทั้งหมดนั้นกลับคืนมา  ท่านดูซิ ผู้บำเพ็ญที่แท้คนไหน  เปิดประตูรักษาโรคให้คน  ทำเรื่องแบบนี้   ในอดีตผู้บำเพ็ญเต๋านั้นก็ดี  พระสงฆ์ที่บำเพ็ญพุทธะก็ดี  ไหนเลยที่พูดว่ารักษาโรคให้ท่าน   ใช้ยารักษาโรคละก็มี หรือใช้ความสามารถพิเศษรักษาโรคเป็นการเฉพาะราย ก็อนุญาตให้ทำได้ แต่ยังต้องไปทำอย่างมีเงื่อนไข  ถ้าไม่มีเงื่อนไขก็ไม่ได้  เรื่องนี้เราพูดชัดเจนแล้ว  คุณกับโทษของมันข้าพเจ้าก็พูดกับทุกท่านแล้ว  เป็นการทำร้ายท่านอย่างมากจริงๆ  ท่านไม่คิดดู  อาจารย์ชี่กงคนหนึ่ง หากรักษาโรคให้คนเขา ต้องผ่านการบำเพ็ญกี่สิบปีจึงสามารถบำเพ็ญกงเหนิงนั้นออกมาได้  จึงจะสามารถบำเพ็ญความสามารถนั้นออกมา  อ้อ ท่านเรียน สามวันสามารถรักษาโรคได้  ห้าวันรักษาโรคได้ สิบวันรักษาโรคได้  นี้ไม่เหมือนกับการละเล่นหรอกหรือ  ล้วนมีความคิดกัน ทำไมไม่คิดดู  สามวันท่านก็เป็นอาจารย์ชี่กงแล้ว  ข้าพเจ้าว่า “เต๋า” นี้บำเพ็ญขึ้นมาง่ายเกินไปแล้ว  เหมือนก้อนหินบนพื้น  พอหยิบขึ้นมาก็กลายเป็นพระพุทธแล้ว ปัญหานี้ก็พูดเพียงเท่านี้  เพราะสิ่งที่จะพูดนั้นมากมายเหลือเกิน  จัดชั้นเรียนสิบห้าสิบหกชั่วโมง      สิ่งที่จะพูดก็ไม่อาจพูดออกมาให้ทุกท่านได้ในทันที

            ถ้าคิดจะบำเพ็ญ  ข้าพเจ้าว่าต้องศึกษาฝ่าให้ดี  “จ้วนฝ่าหลุน” ของฝ่าหลุนต้าฝ่าเรา  หนังสือเล่มนี้ก็ออกมาแล้ว  ทั้งหมดล้วนเป็นเนื้อหาการบรรยายของข้าพเจ้า  ได้นำเขาออกมาอย่างครบถ้วนแล้ว  ดังนั้น นี้สามารถจะเป็นรากฐานในการบำเพ็ญในแนวทางนี้ของเราในอนาคต  ไม่ขอพูดมากแล้ว  พูดอย่างคร่าวๆก็เพียงเท่านี้  สุดท้ายหวังว่าทุกท่านที่บำเพ็ญอยู่ในต้าฝ่านี้จะสำเร็จสมบูรณ์โดยเร็ววัน

 

 

 

 

 


การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองฉางชุน

หลี่ หงจื้อ

 

ศิษย์           ท่านอาจารย์พูดว่า ปัจจุบันคือยุคธรรมะปลาย พระพุทธ เต๋า เทพ ล้วนแต่ไม่ดูแลเรื่องของคนธรรมดาสามัญแล้ว  เช่นนั้นเหตุใดท่านยังดูแลละ

อาจารย์    เพราะข้าพเจ้าเป็นคนในหมู่คนธรรมดาสามัญ คนอื่นล้วนไม่ดูแลแล้ว  ข้าพเจ้าจะดูแล  นี่เป็นเรื่องที่ตัวข้าพเจ้าจะทำ  แต่ว่า  ไม่ใช่ร้อนวิชาขึ้นมาก็จะสามารถทำได้

ศิษย์           สามีดิฉันฝึกชี่กงอย่างอื่นจะไม่ขัดกับการบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าของดิฉันหรือ

อาจารย์    ท่านฝึกของท่าน เขาฝึกของเขา  ถ้าเขาคิดจะเรียนต้าฝ่าท่านก็สอนเขา  ถ้าไม่คิดจะเรียน ท่านก็ฝึกของท่าน  ความกลัวก็เป็นจิตยึดติด  ใจไม่หวั่นไหวก็ไม่มีปัญหา

ศิษย์     ไม่มีความคิดที่จะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง ก็คือหยุดอยู่ที่ระดับชั้นของการขจัดโรครักษาสุขภาพ  เรียนถามท่านอาจารย์ผมจะสำเร็จสมบูรณ์ได้ไหม  ผมอาศัยจิตใจที่ดีงามของตัวเองทำตัวเป็นคนดีคนหนึ่งในหมู่คนธรรมดาสามัญในสังคม  ตายแล้วจิตจะไปที่ไหน

อาจารย์   ท่านไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง ท่านยังจะสำเร็จสมบูรณ์อะไรได้ละ  ท่านดูซิ คำถามคือ “ ผมไม่มีความคิดที่จะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง ” ก่อนอื่นก็พูดอย่างนี้แล้ว  เช่นนั้นท่านยังจะต้องสำเร็จสมบูรณ์อะไร  ชาติหน้าไปเกิดเป็นอะไรก็ยังไม่แน่  แต่อาจสะสมกุศลไว้แล้ว  ทำเรื่องที่ดีไว้แล้ว เช่นนั้นเมื่อทำเรื่องที่ดีไว้แล้ว  สะสมกุศลไว้แล้ว  ทนทุกข์แล้ว  กุศลของท่านก็ย่อมจะมาก  เพราะท่านไม่คิดจะฝึกพลัง และไม่ผันแปรเป็นพลังกง   ชาติต่อไปย่อมจะได้โชคลาภ

ศิษย์           ผู้ฝึกที่วิจัยโจวอี้(ตำราว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง)จะกระทบต่อการฝึกพลังหรือไม่

อาจารย์      สิ่งนั้นเป็นเพียงหลักการหนึ่งของทางช้างเผือกเรา  ไม่ใช่หลักการที่ใหญ่กว่า ส่วนฝ่าที่เราฝึกนั้นใหญ่กว่า  ต้าฝ่านี้พอที่จะให้ท่านวิจัยชั่วชีวิต

ศิษย์           ซิลิโคนที่ใส่เข้าไปเสริมจมูก สิ่งนี้เป็นอย่างไร

อาจารย์      ไม่เป็นไร  พวกเราบางคนถามว่า  ผมทำหมันแล้วหรือผ่าตัดอะไรทิ้งไปแล้ว  ล้วนไม่เป็นไร  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  ร่างแท้นั้นของท่านไม่ได้ตัดอะไรทิ้งไป  ให้ฝึกต่อไป  อะไรๆก็สามารถจะบำเพ็ญออกมาได้

ศิษย์           ทุกครั้งที่ในใจผมคิดถึงฝ่าหลุนก็สั่นเทิ้ม  นี้มีสาเหตุอะไร

อาจารย์    หากมีตัวสิงร่าง อาจเกิดสภาพการณ์นี้ได้  แต่ในชั้นเรียน เราได้จัดการให้เป็นจำนวนมากแล้ว  มีเพียงส่วนน้อยที่ความคิดยังไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยืนหยัดคิดที่จะบำเพ็ญ ก็ไม่จัดการให้  เวลาจัดการให้ไม่ ได้ตรวจสอบมาก

ศิษย์           พูดกันว่าการเลื่อนตำแหน่งเป็นสิ่งที่ลิขิตไว้ในชีวิต  คนๆนั้นก็ไม่ต้องแสดงความขยันขัน แข็งแล้ว  ทั้งหมดก็รอการจัดวางชะตาชีวิต

อาจารย์      ฝ่านั้นพูดให้กับผู้บำเพ็ญ  ในฐานะคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง  หากวันนี้ข้าพเจ้าบอกท่านว่าเป็นเรื่องอย่างนี้ ท่านก็ต้องไปต่อสู้แย่งชิงทั้งหมด  เพราะท่านเป็นคนธรรมดาสามัญ  ท่านจะไม่เชื่อ  นี่ก็คือคนธรรมดาสามัญ  คนธรรมดาสามัญเขาไม่เชื่อเรื่องอย่างนี้ กระทั่งการแย่งชิง การต่อสู้ของท่านล้วนเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ

ศิษย์           ในขณะฝึกพลังร่างกายของผมโอนเอนโดยควบคุมตัวเองไม่ได้

อาจารย์      อย่าโอนเอน อย่าโอนเอนโดยควบคุมตัวเองไม่ได้  หากท่านจะโอนเอนจริงๆ(บังคับไม่อยู่) ท่านก็ลืมตา  มันก็จะไม่โอนเอน  จนกว่าท่านจะไม่โอนเอนในอนาคต

ศิษย์           ขณะที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า โดยเฉพาะคือฝึกชุดที่สอง ยืนสมาธิ  สองมือรู้สึกว่าอุ้มชี่กลุ่มหนึ่งไว้ ถ้าไม่ตั้งใจควบคุมไว้จะถูกกลุ่มชี่นี้ดึงมือเข้าข้างใน บางครั้งก็ผลักออกไปข้างนอก

อาจารย์      นี่คือฝ่าหลุนกำลังหมุนอยู่  ความรู้สึกของท่านก็คือความรู้สึกว่าฝ่าหลุนนั้นกำลังหมุนวนอยู่

ศิษย์           ท่องคาถาเลิงเอี้ยนเวลาฝึกพลังจะมีผลกระทบไหม

อาจารย์    ข้าพเจ้าพูดแล้ว การท่องคาถาก็คือการแสวงหาการเสริมพลังจากแนวทางนั้น  พวกท่านมีฝ่าหลุนของข้าพเจ้า  มีธรรมกายของข้าพเจ้าดูแล  ท่านยังจะท่องสิ่งนั้นทำไมกัน  ท่านคิดจะเหยียบเรือสองแคมหรือ  ท่านคิดจะแทรกสิ่งอื่นเข้าไปในการบำเพ็ญหรือ  ไม่ใช่ความหมายนี้หรือ  เช่นนี้ท่านก็จะไม่ ได้อะไรเลย

ศิษย์     ผมย้ายบ้านบ่อยๆ  ธรรมกายของท่านจะช่วยชำระห้องพักให้หรือไม่

อาจารย์      ผู้บำเพ็ญจริงไปที่ไหน ก็จะช่วยเหลือทั้งนั้น   หากย้ายบ้านเพื่อการชำระล้างบ้าน ท่านจะไม่ ได้อะไร  ข้าพเจ้าไม่ได้มาชำระล้างบ้านให้ท่าน

ศิษย์           ขณะที่กำลังปรากฏทัศนียภาพ  พอเก็บท่าจะกระทบอะไรต่อหลักพลังในการบำเพ็ญกับการเกิดพลังไหม

อาจารย์      หากบอกว่ามองเห็นทัศนียภาพอยู่ตรงหน้าแล้ว   พอดีการฝึกพลังก็หยุดจะกระทบอะไรกับการฝึกพลังของท่านไหม  ไม่มีผลกระทบอะไร  แต่โดยทั่วไปเวลาเกิดทัศนียภาพอยู่ตรงหน้า  ดีที่สุดท่านก็เฝ้าดูมันอย่างเงียบๆ  เรื่อยไปจนทัศนียภาพนี้ผ่านไปจะดีกว่า  พอปรากฏออกมาท่านก็จะไม่ดูมัน  คล้ายกับว่าท่านไม่คิดอยาก  เช่นนั้นบางทีสภาพการณ์นี้ก็เท่ากับละทิ้งมัน  ดังนั้นเรายังคงบอกให้ท่านดู  แต่อย่าเกิดจิตยึดติดใดๆ

ศิษย์           การหาคู่นับเป็นการยึดติดหรือไม่

อาจารย์      คนหนุ่มสาวเรามากมาย ล้วนต้องหาคู่สร้างครอบครัว  การบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญไม่ใช่บอกให้ท่านเป็นแม่ชี  นี้ไม่มีปัญหา  แนวทางนี้ของเราที่สำคัญคือให้ท่านไปบำเพ็ญอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนนี้

ศิษย์           เด็กๆหลังจากฟังการบรรยาย  ไม่สามารถยืนหยัดฝึกพลัง  ฝ่าหลุนจะคุ้มครองเขาตลอดไปหรือไม่

อาจารย์      ไม่สามารถยืนหยัดฝึกพลัง นั่นก็ไม่ได้นะ  ใช่ไหม  ต้องยืนหยัดฝึกพลัง  ข้าพเจ้ามาช่วยผู้บำเพ็ญ  ไม่ใช่มาช่วยคนธรรมดาสามัญโดยเฉพาะ

ศิษย์           ผมรู้สึกได้ว่าเวลาฝ่าหลุนบนตัวผมหมุนวน  บางทีไม่ครบหนึ่งรอบก็เปลี่ยนทิศแล้ว  บางคนยังรู้สึกว่าฝ่าหลุนนี้หมุนร้อยกว่ารอบจึงกลับทิศหมุน  เพราะอะไรหรือ

อาจารย์      เพราะในระยะแรกเวลาที่ปรับร่างกายให้ท่าน เขาไม่ราบเรียบ  เขาเป็นร่างชีวิต เขารู้ว่าจะปรับให้ท่านอย่างไร  เรื่อยไปจนปรับให้ท่านเสร็จ  รอจนเมื่อร่างกายปรับเรียบร้อยแล้ว  จากนั้นก็จะเข้าที่  เขาก็จะหมุนตามเก้ารอบ หมุนทวนเก้ารอบเองตามธรรมชาติ   แต่เมื่อถึงเวลานั้นท่านก็จะไม่รู้สึกแล้ว  ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกได้ตลอดไป  ทุกท่านทราบว่ากระเพาะของท่านเคลื่อนไหวได้  แต่ทุกท่านทราบไหมว่ากระเพาะของท่านกำลังเคลื่อนไหว    เมื่อมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายท่านแล้ว  เวลาที่มันคล้อยตามกันไป  ท่านก็ไม่รู้สึกถึงรูปแบบการคงอยู่ของมันแล้ว

 ศิษย์          ท่านอาจารย์บรรยายฝ่าและบอกความลับสวรรค์ให้เรา  พวกเราสามารถบอกกับคนที่ไม่ได้ฝึกพลังฟังได้ไหม

อาจารย์      ต่อคนทั่วไป อย่าพูดกับเขาสูงมากอย่างง่ายๆ  พูดแล้วเขาจะไม่เชื่อ   หากเขาเชื่อก็สามารถพูดได้  หาไม่คนที่ไม่ชอบก็จะทำลายต้าฝ่า

ศิษย์           ในสภาพการณ์ที่กำลังละทิ้งจิตยึดติดอยู่  ผู้บำเพ็ญจะสามารถคงไว้ซึ่งสภาวะที่ขยันขันแข็งในการดำเนินการช่วงชิงสิ่งต่างๆได้หรือไม่

อาจารย์      ในขั้นตอนนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน  จะให้คนจงใจปล่อยวางทั้งหมด  ย่อมไม่เป็นจริง  ท่านอยู่ในขั้นตอนนี้  ต่อให้ข้าพเจ้าเรียกร้องท่านอย่างเข้มงวดมาก  ท่านก็จะพยายามออกแรงมุมานะสักหน่อยเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนในหมู่คนธรรมดาสามัญ   เรื่องนี้โดยหลักการ ไม่มีปัญหา  แต่เมื่อท่านค่อยๆยก ระดับขึ้นเรื่อยๆ  จิตใจเหล่านี้ก็จะค่อยๆจืดจางลง   จะทำได้ในทันที ข้าพเจ้าว่านั่นไม่เป็นจริง  นอกจาก นี้ที่ว่าละทิ้งจิตยึดติด  แต่ยังคงไว้ซึ่งการมุมานะช่วงชิง  การคงไว้ของท่าน โดยตัวมันเองมิใช่ยึดติดหรือ ปัญหาที่ท่านถามขัดแย้งกันมาก

ศิษย์           ผมใช้ภาพถ่ายของท่านเบิกเนตรให้กับ พระพุทธรูป  คัมภีร์และแท่นบูชาพระพุทธรูปแล้ว แต่ธรรมกายของพระพุทธรูปนั้นจะเป็นธรรมกายของท่านหรือไม่  ตอนนี้จุดธูปไหว้ได้ไหม

อาจารย์     โดยหลักการ ข้าพเจ้าไม่ทำเรื่องเหล่านี้  คนธรรมดาสามัญเราไม่สนใจ  ผู้บำเพ็ญ หากท่านไม่ค่อยเชื่อต่อไปก็จะยิ่งยาก

ศิษย์           พอฝึกพลังก็เหงื่อออกทั่วตัว  ปรากฏการณ์ชนิดนี้ดีหรือไม่

อาจารย์      ย่อมดีแน่ละ  เหงื่อออกโดยตัวมันเองก็คือกำลังระบายสิ่งที่ไม่ดีออก   พูดได้ชัดว่าร่างกายท่านร้อนแล้ว  คนที่มีโรค ร่างกายจะเย็น  พูดได้ชัดว่าท่านฝึกได้ไม่เลว

ศิษย์            ผู้มีกุศลมากล้นจำเป็นต้องมี  การเสื่อมทราม กับสูญเสียกุศลของคนจำนวนมาก จึงจะสามารถสะสมกุศลได้หรือไม่

อาจารย์      ผู้มีกุศลมากล้น เขาเองสามารถจะมีจิตใจที่อดทนอย่างมาก   เขาเองสามารถทนทุกข์แห่งทุกข์ได้  เรื่องนี้จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับคนอื่นหรือ  พูดถึงว่าเขาจะสามารถบำเพ็ญได้ถึงระดับชั้นสูงแค่ไหน  ต้องมีการสูญเสียกุศลของผู้อื่น  ไม่ใช่เรื่องอย่างนี้   ในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญ คนก็เป็นเช่นนี้คือจะมาให้ท่านชดใช้กรรม  นอกเสียจากท่านออกจากสภาพแวดล้อมนี้ไปบำเพ็ญ  เช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนวิธีการชดใช้กรรมอีกแบบหนึ่ง  แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้  แต่ที่บำเพ็ญก็ไม่ใช่ท่าน  ท่านอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ไปบำเพ็ญมันเป็นสิ่งจำเป็น  คนหนา  เขาย่อมจะต้องรบกวนท่าน  ก็เหมือนท่านอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญย่อมจะต้องก่อกรรม

 ศิษย์           วันหนึ่งฝึกพลังกี่รอบดี

อาจารย์      มีเวลาก็ฝึกมาก  ไม่มีเวลาก็ฝึกแต่น้อย  กี่รอบก็ได้  เริ่มแรกพยายามฝึกให้มากจะดี  ที่ท่านฝึกคือการเสริมความแข็งแกร่งให้กลไกนี้  แต่การที่พลังของท่านโตขึ้นและการเปลี่ยนแปลงร่างกาย  การเพิ่มทวีของกงเหนิง(ความสามารถพิเศษ)ของท่านล้วนเป็นผลจากกลไกบังคับชนิดนั้นที่เราใส่ให้ท่าน ที่ท่านฝึกคือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสมรรถนะของกลไก

ศิษย์           อยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญมักจะเกิดความนึกคิดนานาชนิด  ครุ่นคิดปัญหานานาชนิด จะทำให้ฝ่าหลุนเปลี่ยนรูปได้ไหม

อาจารย์      นี้ไม่อาจเปลี่ยนได้  การทำงานตามปกติกับการใช้ความคิดทั่วไปในขั้นตอนของการบำเพ็ญนั้นเป็นเรื่องปกติ  หากท่านครุ่นคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตน  คนอื่นไม่อาจรบกวนท่าน เรื่องเหล่านี้  จิตใจเหมือนคนธรรมดาสามัญแล้วจะยกระดับขึ้นได้อย่างไร  ย่อมจะกระทบต่อการยกระดับของท่าน
ศิษย์           ขณะนั่งสมาธิเกิดเสียงดังในหู  แล้วในสมองก็เปลี่ยนเป็นว่างเปล่า

อาจารย์      นี่เป็นเรื่องดี  ก็คือความคิดวุ่นวายของท่านไม่มีแล้ว  นี่ดีมาก  แต่ต้องรู้ว่าตนเองกำลังฝึกพลังอยู่

ศิษย์           เวลาที่พลังเกิดขึ้นแล้วใช่หรือไม่ว่าได้บำเพ็ญโดยมีจิตสำนึกหลักเป็นหลัก

อาจารย์      ไม่อาจรับรู้อย่างนี้  จิตสำนึกรองก็ฝึกไปด้วย  ได้พลังด้วย  แต่ในอนาคตเขาจะคงอยู่ในฐานะจิตสำนึกรองตลอดไป  ท่านคือร่างหลักตลอดไป

ศิษย์           ขณะฝึกพลังผมรู้สึกไม่ได้สติ

อาจารย์      รู้สึกไม่ได้สติก็ให้ลืมตาฝึก  อย่าฝึกโดยสติเลอะเลือน

ศิษย์           เวลานอนหงายอยู่ทำท่าโอบหลุนสี่ท่าจะได้ไหม

อาจารย์     อย่าทำอย่างนี้   ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สอนอย่างนี้ให้ท่าน  บางคนรู้สึกว่าฝึกพลังอย่างนี้สบายดี ไม่เมื่อย  นั่นจะใช้ได้หรือ  ความทุกข์เล็กน้อยอันนั้นของการฝึกพลังก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ

ศิษย์           เมื่อก่อนขณะที่นั่งสมาธิมักจะเห็นทัศนียภาพ   แต่เพราะจิตใต้สำนึกถูกปิดไว้ออกมาไม่ได้อีกแล้ว

อาจารย์     ไม่ต้องสนใจมัน  อย่ายึดติดกับมัน  นั่นเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว   ต่อไปหากในขณะฝึกพลังเกิดสภาพการณ์อะไร ก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติ  เพียงแต่ไม่ยึดติด  การมองเห็นนั้น เดิมทีเป็นเรื่องดี

ศิษย์           ครั้งนี้ไม่ได้เข้าร่วมชั้นเรียน  อ่านหนังสือศึกษาด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอจะได้อะไรบ้างไหม

อาจารย์     ไม่ได้เข้าร่วม  ศึกษาด้วยตนเอง   หากสามารถไปบำเพ็ญตามข้อกำหนดด้านซินซิ่งที่อยู่ในหนังสือได้จริงๆ ก็จะสามารถบังเกิดผลอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน

ศิษย์           มรรคผลที่ต่ำที่สุดของสายพุทธคืออะไร

อาจารย์      มรรคผลที่ต่ำที่สุดของสายพุทธคืออรหันต์   เพราะต่ำกว่านี้อีกก็ไม่มีมรรคผลแล้ว  ไม่ได้มรรคผลถูกต้อง  ออกจากสามภพไม่ได้

ศิษย์           ทั้งหมดที่เป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหากมีความชำนาญพอก็จะบรรลุถึงการบำเพ็ญร่างพุทธใช่ไหม

อาจารย์   ต้าฝ่าไร้ขอบเขต  พุทธธรรมไร้ขอบเขต  ทั้งหมดขึ้นอยู่กับใจดวงนั้นของท่านไปบำเพ็ญ  เมื่อบำเพ็ญถึงหลักธรรมนอกภพ  ก็จะเริ่มบำเพ็ญในร่างพุทธะแล้ว

ศิษย์           จิตสำนึกรองกับจิตสำนึกหลัก ใช่หรือไม่ว่า เป็นคนละคน

อาจารย์      ล้วนเป็นท่านคนเดียว  เรียกชื่อเดียวกัน คลอดออกมาจากครรภ์มารดาพร้อมกัน  แต่กลับเป็นสองสำนึก

ศิษย์           เราจะเผยแพร่หลักธรรม และพลังอย่างไร

อาจารย์      เกี่ยวกับปัญหาว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าของเราจะไปสอนการฝึกพลังอย่างไร  เราได้พูดไปแล้ว  ท่านสามารถไปสอน ไปเผยแพร่  การเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้องเป็นการสะสมกุศลของท่าน  ทำเรื่องที่ดี  ช่วยเหลือคน  ท่านสามารถไปเผยแพร่ ไปพูด  แต่อย่าเอาคำพูดของท่านไปพูด  ต้องไปทำโดยใช้คำพูดว่าอาจารย์พูดว่าอย่างไร  หนังสือของข้าพเจ้าเขียนว่าอย่างไร  ทำตามวิธีการชุดนี้   หากแทรกความคิดใดๆของท่านเข้าไป  พูดตามทัศนียภาพที่ท่านเห็นเอง   ที่เผยแพร่ทั้งหมดนั้นย่อมไม่ใช่ฝ่าหลุนต้าฝ่าเรา  ท่านอยู่ในระดับชั้นนั้น  หลักการนั้นที่ท่านรับรู้ไม่ใช่หลักธรรมที่สมบูรณ์ครบถ้วน  เราพูดโดยเชื่อมโยงกับหลักการระดับชั้นสูง  ดังนั้นสิ่งนั้นของท่านจะไม่มีประโยชน์ในการชี้นำ ท่านอย่าเห็นว่าท่านมองเห็นอะไรได้แล้ว  รู้อะไรแล้ว  มันมีปัญหาอย่างนี้อยู่   นอกจากนี้ คือในขั้นตอนของการเผยแพร่หลักพลังของเราล้วนจัดเป็นงานอาสา ทำเรื่องดี สะสมคุณูปการและคุณธรรม  ในฐานะผู้ฝึกพลังท่านจะแสวงหาอะไร   ไม่แสวงหาชื่อเสียงและผลประโยชน์ใช่หรือไม่  สิ่งที่เราแสวงหาคือคุณูปการและคุณธรรม  ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ใครเก็บค่าใช้จ่าย  ไม่อนุญาตให้ใครใช้รูปแบบนี้ของข้าพเจ้าเผยแพร่หลักพลัง  เปิดการสัมมนาทุกท่านแลกเปลี่ยนความเห็นกันที่สนามฝึก  นี้ทำได้   เพราะหลักธรรมนี้ท่านไม่อาจจะบรรยายได้  บางคนพูดว่าฉันเป็นครูสอน  สิ่งนั้นของท่านเป็นคนละเรื่องกัน   หลักธรรมนี้มีความนัยที่ลึกซึ้งมากๆ   ในระดับชั้นที่ต่างกันจะมีจุดประสงค์ของการชี้นำที่ต่างกัน   ซึ่งท่านไม่มีทางจะบรรยายได้

 


การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองเจิ้งโจว

หลี่ หงจื้

 

ศิษย์           กับเด็กประเภทที่ซุกซนและไม่เชื่อฟังมากเป็นพิเศษ  ผมมักจะบ่น ตี ด่าทั้งวัน  เรื่องนี้ควรทำไหม

อาจารย์      วิธีสั่งสอนเด็กของพวกเรานั้นควรแก้ไขสักหน่อย  ท่านก็เห็นว่า ด่าเขาก็ไม่ได้ผล  ตีเขาก็ไม่ได้ผล  ท่านควรจะแก้ไขวิธีการสักหน่อย   ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่านว่า เด็กก็เป็นคนๆหนึ่ง  ท่านอย่าเห็นว่าเขาเป็นบุตรธิดาของท่าน   ร้อยปีให้หลังใครก็ไม่รู้จักใครแล้ว   ที่ท่านติดค้างเขาไว้ก็ต้องชดใช้คืน  ที่ข้าพเจ้าพูดนี้ท่านอาจไม่เชื่อ   บางคนก็หลงอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ   เขาก็ยึดติดในเรื่องเหล่านี้   บังคับลูกเข้ามหาวิทยาลัย  สอบเข้ามหาวิทยาลัย   ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  ที่ท่านติดค้างเขาไว้มากมายนัก  ในอนาคตจะกลับกัน  เขาก็จะเป็นพ่อของท่าน  และจะทำกับท่านอย่างนี้     นี้เป็นปัญหาวิธีการ  ถ้าเลี้ยงลูกโดยไม่สั่งสอนก็เป็นการทำความชั่ว   และติดค้างเขา

ศิษย์           ร่างแปลง   ร่างตอบแทนคืออะไร

อาจารย์      ข้าพเจ้าไม่ขอพูดเรื่องนี้กับท่าน   เป็นคำศัพท์ที่กำหนดไว้ในพุทธศาสนา   ที่นี่ข้าพเจ้าบรรยายโดยผสานเข้ากับวิชาสรีรวิทยา  และพูดอย่างชัดเจนยิ่งแล้ว  เดี๋ยวนี้คำอะไรอย่าง สามวิญญาณ  เจ็ดวิญญาณ  คำนี้ คำนั้น   ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  เขาพูดคลุมเครือมากเกินไป  คลุมเครือถึงระดับไหนหรือ   อาทิ หัวใจ ตับ ปอด อวัยวะภายใน  สมองใหญ่  สมอง แต่ละเส้นเลือดและเซลล์ของท่าน ล้วนแต่เป็นรูปลักษณ์ของท่าน  ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเขาหมายถึงอะไร  สามวิญญาณ  เจ็ดวิญญาณ หมายถึงสิ่งใด    ร่างกายครึ่งหน้า มีรูปลักษณ์ของท่าน  ร่างกายครึ่งหลัง มีรูปลักษณ์ของท่าน มือเท้าของท่านล้วนเป็นรูปลักษณ์ของท่าน  ท่านว่าเขาหมายถึงอะไร  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงรู้สึกว่า ของพวกเขานั้นคลุมเครือ  ของเราที่นี่พูดอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว

ศิษย์     ขณะที่ผมฝึกเสินทงเจียฉือฝ่า(นั่งสมาธิ) บางครั้งท้องน้อยจะกระเพื่อมขึ้นลง  คล้ายการปรับลมหายใจของชี่กงที่เคยฝึกเมื่อก่อน

อาจารย์    ถูกต้อง  จะเป็นเช่นนี้   ก็ฝึกไปอย่างนี้ไม่ต้องไปสนใจมัน  เป็นสภาพการณ์หนึ่ง  การปรับลมหายใจในระยะแรกของต้าฝ่าก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ

ศิษย์           เวลาฝึกพลังมือข้างหนึ่งจะร้อน  อีกข้างจะเย็น เป็นเพราะอะไร

อาจารย์      นี้เป็นปฏิกิริยาตามปกติ   ที่พูดกันในสายเต๋าเรียกว่าแยกอินหยางให้ชัดเจน  ฝั่งนี้อาจจะร้อน  ฝั่งนั้นเย็น  หรือฝั่งนั้นร้อน  ฝั่งนี้เย็น  นี่ล้วนเป็นสภาพปกติ   จะเกิดสภาพการณ์ชนิดต่างๆได้

ศิษย์           เวลาฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า กำหนดให้ปลายลิ้นแตะเพดานปาก   เช่นนั้นถ้ามีฟันปลอมทั้งปาก  เพดานปากถูกฟันปลอมกั้นไว้

อาจารย์      ไม่มีปัญหา  อย่าว่าแต่ฟันปลอมของท่านเลย   ต่อให้ใส่ฟันเหล็กก็ไม่เป็นไร  แผ่นตะกั่วก็ยังกั้นไม่อยู่  ที่เราฝึกคือพลังงาน  เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าอยู่เป่ยจิง  เวลาที่พวกเขาทำการทดสอบข้าพเจ้า  ใช้มือถือแผ่นตะกั่วหลายชั้นที่ใช้กั้นแสงเอ็กซเรย์ และยังห่อด้วยกระดาษสีดำหลายชั้น   หลังจากนั้นเอาฟิล์มไปล้าง  ข้างบนนั้นก็มีรอยมือของข้าพเจ้า  รอยมือที่ถือแผ่นตะกั่วนั้น   หรือพูดได้ว่าแผ่นตะกั่วก็กั้นพลังงานไว้ไม่ได้   เราไม่ได้ฝึกชี่  คนฝึกชี่จะกลัวนั่นกลัวนี่  บางคนพูดว่ากลัวลมไหม  ลมพายุระดับสิบท่านจะสามารถยืนต้านได้  ท่านฝึกไปเถอะ  อะไรก็จะไม่ปลิวหายไป  พลังงานจะไม่ปลิวหายไป  ชี่จึงจะปลิวหายไปได้

ศิษย์           เวลานั่งสมาธิถ้าขาไม่เจ็บ ก็ไม่เกิดประโยชน์ใช่ไหม

อาจารย์      ก็ไม่แน่  แนวทางนี้ของเราไม่ได้เจาะจงสลายกรรมจากจุดนี้      ทางที่เราเดินคือการขัดเกลาซินซิ่งของท่านในหมู่คนธรรมดาสามัญ  แน่ละ  ทางด้านร่างกายก็ต้องแบกรับส่วนหนึ่ง   ปัญหานี้ข้าพเจ้าเคยพูดแล้ว  ไม่ใช่บำเพ็ญโดยอาศัยการนั่งฌานทั้งหมด

ศิษย์           เด็กอายุต่ำกว่าหกขวบมองเห็นภาพสัญลักษณ์ฝ่าหลุนแล้วโดยไม่ตั้งใจ  ใช่ไหมว่าตาทิพย์เปิด

อาจารย์      มองเห็นโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาเปิดแล้วก็ไม่รู้ตัว  เด็กๆ หลังจากตาทิพย์เปิดแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ได้สังเกต เวลามองเห็นสิ่งของ  เขาเข้าใจว่าคนอื่นก็เป็นเหมือนกัน  เขาไร้เดียงสามาก  เขาก็ไม่ใส่ใจ

ศิษย์           ลูกของดิฉันเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าของท่านอาจารย์  น้อมรับความคิดของอาจารย์  แต่ไม่ตั้งใจฝึกพลัง  จะยังคงมีฝ่าหลุนอยู่อีกไหม

อาจารย์      ไม่ได้ฝึกพลังให้ดี  ไม่ทำตามข้อกำหนดของต้าฝ่า  นั่นยังนับว่าน้อมรับความคิดอะไรของข้าพเจ้า  เราไม่ใช่ให้ฝ่าหลุนแก่คนธรรมดาสามัญตามชอบใจ  ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก ล้วนต้องทำตามมาตรฐานของฝ่าหลุนต้าฝ่า   เพียงแต่ว่าเด็กนั้นไร้เดียงสา  หลังจากเขาเรียนแล้ว   ท่านอย่าเห็นว่าโดยผิวเผินเขาไม่ได้ตั้งใจฝึก  แต่ซินซิ่งของเขากำลังเปลี่ยนแปลง  ฝ่าในใจเขาได้หยั่งรากลงแล้ว

ศิษย์           ต่อไปอาจารย์ไม่จัดชั้นเรียนแล้ว  เราจะสามารถพบอาจารย์ได้ไหม

อาจารย์      เมื่อไม่จัดชั้นเรียนแล้ว   ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ออกมาจากป่าเขา   ข้าพเจ้าก็ไม่เข้าไปอยู่ในภูเขา   ผู้ที่ฝึกได้ดีจะสามารถพบได้ทุกวัน   ถึงท่านไม่พบ  ข้าพเจ้าก็อยู่

ศิษย์           เมื่อเราฝึกจนออกไปพ้นสภาพร่างขาวน้ำนม  จะมีความสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของผู้อื่นไหม

อาจารย์      ข้าพเจ้าพูดไปแล้วว่า  นั่นไม่ใช่กงเหนิง(ความสามารถพิเศษ)  พวกเราจำนวนมากที่อยู่ในชั้นเรียนนี้  ยังไม่ทันที่จะรู้สึกสัมผัสได้ สภาพร่างขาวน้ำนมนั้นก็ผ่านไปแล้ว   ที่จริงข้าพเจ้านั้นดึงท่านขึ้นมา  และยังผลักท่านไปอีกขั้น  ขบวนการนี้ถ้าท่านจะฝึกเอง ท่านต้องฝึกชั่วชีวิต  แต่เราทำให้ท่านเสร็จได้ในเวลาเพียงแปดวัน  ระดับชั้นนั้นทะลวงผ่านไปแล้วโดยท่านยังไม่รู้ตัว

ศิษย์           ขณะที่ผมฝึกสมาธิ  พอข้าพเจ้าหลับตาลง มองเห็นภาพช่องทางพลังงานที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในร่างกาย  อันนี้ไม่เหมาะสมกับฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือไม่

อาจารย์      ท่านมองเห็นแล้วก็คือตาทิพย์ท่านเปิดแล้ว  นี้เป็นเรื่องปกติ

ศิษย์           ผมอยู่ห้องเดียวกับทารกแรกเกิด  พลังงานของฝ่าหลุนกับกลไกชี่ของต้าฝ่าของเราบนร่างกายผมที่ส่งออกไป จะมีผลกระทบต่อตาทิพย์ของทารกแรกเกิดไหม

อาจารย์      ท่านอย่ายึดติดสิ่งเหล่านี้   เด็ก  ทารกแรกเกิด ท่านปล่อยไปตามธรรมชาติเถิด  หากควรได้ก็จะได้ หากไม่ควรได้ก็ไม่ควรได้  ตาทิพย์ของเด็กโดยทั่วไปนั้นจะเปิด

ศิษย์           ผมจะไปฮ่องกงทันที  ฝ่าเซินของท่านจะคุ้มครองศิษย์ไหม

อาจารย์      ท่านไปฮ่องกง ท่านไปอเมริกา  ท่านไปถึงดวงจันทร์ หรือดวงอาทิตย์ ก็ไม่เป็นไร   ฝ่าเซินของข้าพเจ้าล้วนสามารถคุ้มครองได้  แต่อย่ายึดติด  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าดูแลท่านเพื่อให้ท่านบำเพ็ญเท่านั้น

ศิษย์           แต่โบราณกาลมาการบำเพ็ญเซียน บำเพ็ญพระพุทธมีแต่เส้นทางเดียวของจินตานต้าเต้า กับจิตหลักที่ท่านพูด..

อาจารย์      นี่คือส่วนที่ท่านทราบ  เส้นทางเดียวของจินตานต้าเต้าอะไรกัน  ที่พูดว่าแต่โบราณกาลมา  นั่นเป็นเรื่องที่คนธรรมดาสามัญพูดกัน  บนสวรรค์ล้วนทราบว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าของข้าพเจ้าคือฝ่าที่ดีที่สุด  แน่ละยังมีวิธีการบำเพ็ญอย่างอื่นอีก  ช่างลึกล้ำมหัศจรรย์เหลือเกินแล้ว  คนจะเข้าใจได้อย่างไรกันละ

ศิษย์           ไม่ว่าจะฝึกพลังชุดไหน  ในสมองมักจะคล้ายกับว่ามีชี่ของเลือดกำลังไหลวนอยู่มากมาย  นี่คือฝ่าหลุนที่หมุนหรือเปล่า  หรือว่าฝ่าหลุนกำลังปรับสมองใหญ่อยู่

อาจารย์      ผู้ฝึกพลังร่างกายของเขาจะเกิดสภาพการณ์นานาชนิด   นับไม่ถ้วน เป็นพันเป็นหมื่น  ไม่อาจจะพูดเรื่องเหล่านี้ทีละเรื่อง ละเรื่องได้  พูดไม่ไหว   หากท่านคิดจะฝึกพลังท่านก็ถือว่ามันเป็นปรากฏการณ์ที่ดี  ไม่ต้องใส่ใจมัน   วันนี้เป็นสภาพการณ์อย่างนี้  พรุ่งนี้เป็นสภาพการณ์อย่างนั้น  ใส่ใจแต่ว่าเป็นเรื่องดีก็พอ   ที่จริงล้วนเป็นการปรับร่างกาย  แต่จิตใจที่ไม่มั่นคงของท่านคืออะไร  คือจิตยึดติดใช่หรือไม่  จิตหวาดกลัวรุนแรงอย่างนั้น  ท่านจะฝึกพลังได้หรือ   ท่านจะข้ามไปได้หรือ   เช่นนี้ไม่ใช่เป็นการหาทุกข์ภัยใส่ตัวหรือ  จิตยึดติดที่เกิดขึ้นจะสลายทิ้งไปได้อย่างไร  อาจจะเป็นไปได้ว่าจะให้ท่านทิ้งจิตนี้ไปอย่างแท้จริงภายใต้สภาพการณ์นี้

ศิษย์           ในระหว่างนั่งสมาธิ ท่ารำมือห้าท่ามีชื่อเรียกหรือไม่

อาจารย์      ท่ารำมือในระหว่างเคลื่อนไหวไม่ได้ตั้งชื่อไว้คงที่แน่นอน

ศิษย์           ท่ารำมือดอกบัวใหญ่เป็นชื่อรวมของท่ารำมือท่าหนึ่งหรือเป็นของทั้งห้าท่า

อาจารย์      ท่ารำมือดอกบัวใหญ่เป็นเพียงท่ารำมือหนึ่งที่กำหนดไว้คงที่แน่นอน

ศิษย์           ปัจจุบันแรงพลังของท่านสูงเพียงไร    เนื้อหาที่ท่านบรรยายนั้น เป็นประสบการณ์ด้วยตัวเองหรือไม่

อาจารย์      ข้าพเจ้ามีประสบการณ์มากมายเหลือเกินแล้ว  ต่อให้ข้าพเจ้ามีหนึ่งฟุต สิบฟุต  ร้อยฟุต  แต่แม้เพียงหนึ่งนิ้วก็จะไม่พูดออกมาให้ท่านฟัง  ไม่อนุญาตให้พวกท่านรู้มากเกินไปได้   อาจารย์ที่แท้จริงล้วนไม่เยินยอตัวเอง  ที่เราถ่ายทอดอยู่ที่นี่ก็คือฝ่านี้  ท่านก็ทำตามฝ่านี้ไป   แต่ ข้าพเจ้ายังขอบอกท่าน  คนทั้งหมดที่บำเพ็ญฝ่านี้ จะไม่เกิดปัญหา ให้ท่านสนใจแต่เพียงการบำเพ็ญ   ที่ผ่านมาในการบรรยายที่กุ้ยโจว ข้าพเจ้าพูดไว้คำหนึ่ง เมื่อคนเขาถามข้าพเจ้า ว่า อาจารย์ท่านสูงส่งเพียงไร ข้าพเจ้าตอบว่าให้ท่านสนใจแต่เพียงการฝึก  หลังจากข้าพเจ้าออกมาแล้ว  กับก่อนที่ข้าพเจ้าจะออกมาก็เหมือนกัน  ไม่มีอะไรที่แตะต้องข้าพเจ้าได้   ก็เพราะคำนี้คำเดียว  ที่นั้นก็มีคนที่อายุสามร้อยกว่าปีคนหนึ่งประลองฝ่ากับข้าพเจ้า  เพราะจิตอิจฉาของเขา  ต่อมาเขาก็จบเห่   ท่านอย่าเห็นว่าเขาบำเพ็ญมาสามร้อยกว่าปีแล้ว   ฝ่านี้ถ่ายทอดออกมา  ไม่ใช่จะมาล้อเล่นกันได้   ใครที่กล้าแตะต้องตามอำเภอใจก็ใช้ไม่ได้  สุดท้ายเขารู้ว่าข้าพเจ้ามาโปรดมนุษย์  แต่ว่าสายเกินไปแล้ว  ฝ่าไม่ให้อภัยเขา

ศิษย์           ขณะนั่งสมาธิอยู่ บางทีรู้สึกตัวเองใหญ่ขึ้น  บางทีก็เล็กลง

อาจารย์      นี้ล้วนเป็นเรื่องที่ดี  พอคนฝึกพลัง  จิตของเขาก็จะมีพลังงานเพิ่มเติมให้เขา  เขาจึงสามารถเปลี่ยนแปลง   เมื่อเกิดการขยายออกเขาก็รู้สึกว่าตนเองใหญ่ขึ้น  แต่กายเนื้อของท่านหาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่  ส่วนที่เปลี่ยนแปลงคือร่างกายในอีกมิติ  รู้สึกว่าตนเองใหญ่มาก  แต่เขาก็หดเล็กได้  เล็กมากๆ  ที่จริงเขาก็เป็นปกติดี  ข้าพเจ้าไม่อยากจะอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้  สภาพการณ์ชนิดต่างๆล้วนมีทั้งนั้น  ไม่เพียงแค่เป็นพัน  เป็นหมื่นชนิด

ศิษย์           ขณะฝึกนั่งสมาธิเพิ่มพูนอิทธิฤทธิ์ จะสั่นทั้งตัวหรือสั่นส่วนหนึ่งส่วนใด จะสามารถฝึกต่อได้ไหม

อาจารย์      ถ้าสั่นจนสะท้านเหมือนหวาดกลัว  นั่นอาจจะมีตัวสิงอะไรอยู่  มันหวาดกลัว หากเป็นร่างกายปกติ สั่นไหวแบบช้าๆ  คงจะเป็นพลังงานที่ไหลทะลวงชีพจร(ช่องทางพลังงาน)  แต่อย่าสั่นตามมันไป

ศิษย์           ที่ผ่านมามีคนสองคนเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่ากับผู้ฝึกเก่าได้สองเดือน  ตอนนี้ขณะฝึกนั่งสมาธิรู้สึกได้ถึงชี่ แล้วเกิดท่าเคลื่อนไหวต่างๆตามมา

อาจารย์      นั่นคือการรบกวนของมาร  ให้รีบปล่อยวางท่าเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเองนั้นเสีย   หากในขณะอยู่ในความสงบแล้วเกิดท่าเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่ของฝ่าหลุนต้าฝ่า ซึ่งแน่ละ ที่ข้าพเจ้าพูดนี้คือผู้บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าจริงๆ  ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ท่าเคลื่อนไหวของฝ่าหลุนต้าฝ่า  ท่านต้องรีบปล่อยวางมันลงทันที   ทุกท่านเห็น เวลาที่ข้าพเจ้ารำมือชุดใหญ่  ก็คิดจะฝึกตาม  บางคนรู้สึกว่าพอทำดูก็เกิดท่ารำมือได้   ข้าพเจ้าขอบอกท่าน ไม่แน่ว่าอาจเป็นมารรบกวนท่าน   ฝ่าเซินของข้าพเจ้าจะไม่สอนสิ่งเหล่านี้ให้ท่านอย่างเด็ดขาด   โดยเฉพาะคือการแทรกหลักพลังอื่นเข้ามา  หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ต้องเป็นการรบกวนอย่างแน่นอน

ศิษย์           หลังจากติดตามเข้าชั้นเรียนมา  หูข้างหนึ่งมีเสียงดังตูม  ส่วนอีกข้างมีชี่ทะลวงออกข้างนอก  ต่อมาเวลานอนหลับได้ยินเสียงดนตรี

อาจารย์      นั่นก็คือหูทิพย์เปิดแล้ว   ก็คือหูทิพย์ระเบิดออกแล้ว

ศิษย์           จิตหลักและจิตรองล้วนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย  จิตหลักมักจะตาย  ให้จิตรองบำเพ็ญสำเร็จก็ไม่ได้หรือ

อาจารย์      ไม่ได้   ในประวัติศาสตร์คนเขาก็บำเพ็ญกันอย่างนี้   แต่ท่านอย่าฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าของข้าพเจ้า  ให้ฝึกอย่างอื่น   ท่านฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าท่านก็จะไม่ได้รับอะไร   เพราะของของเรานี้ก็จะให้กับจิตหลัก   ใครบอกว่าจิตหลักตายได้ จิตหลักไม่ตาย   แต่ข้าพเจ้าว่าท่านช่างใจกว้างเสียเหลือเกินแล้ว   ตัวเองตายแล้ว ให้จิตรองบำเพ็ญ  ข้าพเจ้าว่านี่คือปัญหาที่คนที่มีตัวสิงเขียนขึ้นมา

ศิษย์           ได้ยินผู้ฝึกเก่าพูดว่า  ทั่วทั้งตัวมีฝ่าหลุนหมุนอยู่   แต่ผมรู้สึกมีแค่หนึ่งองค์ที่ท้องน้อย  ผมจะมีมากอย่างนั้นได้หรือไม่

อาจารย์     ช่างยึดติดนัก   ที่มีฝ่าหลุนมากนั้น คือข้าพเจ้ากำลังปรับร่างกายพวกเขาอยู่  ที่ให้กับพวกท่านมีเพียงหนึ่งองค์   แต่พวกท่านอยู่เหนือสามัญวิสัยอย่างมากมายแล้ว   ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ท่านเห็นว่าพวกท่านกำลังฟังฝ่าอยู่    แต่ยังมีคนที่พวกท่านมองไม่เห็นอีกมากมายก็กำลังฟังฝ่าอยู่   ขอบอกท่าน  เมื่อเริ่มต้นพวกเขาก็ไม่เชื่อพลานุภาพของต้าฝ่า   พลังกงของเราฝึกได้เร็วอย่างนี้ได้อย่างไรกัน   ผู้ฝึกของเราที่เคยนั่งรถไฟไปกับข้าพเจ้านั้น เมื่อมีผู้บำเพ็ญเต๋าจำนวนหนึ่งที่ฝึกบำเพ็ญอยู่ในป่าเขาพอเห็นพวกเขาแล้ว รู้สึกประหลาดใจมาก เขาจึงถามข้าพเจ้าว่า ผู้ฝึกเหล่านี้ฝึกมานานแค่ไหนแล้ว   ข้าพเจ้าว่า บ้างก็ครึ่งปี  บ้างก็หนึ่งปี  ข้าพเจ้าถามว่า เทียบกับพวกท่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง   พวกเขาตอบว่า  พวกเรามีไม่กี่คนที่จะสามารถตามพวกเขาทัน  แต่พวกเขา(พวกเต๋า)กลับบำเพ็ญมาแล้วหลายร้อยปี  หรือนับพันปี    ท่านคิดดูว่าข้าพเจ้าให้อะไรกับพวกท่าน  บางคนพูดว่านั่งอยู่ตรงนั้นก็อยากร้องไห้   ท่านจะไม่ร้องไห้ได้หรือ

ศิษย์           ขณะที่ฝึกนั่งสมาธิฝึกการเสริมสร้างอิทธิฤทธิ์  พอเริ่ม ขาจะเจ็บมาก  ต้องบำเพ็ญถึงเมื่อไรขาจึงไม่เจ็บ

อาจารย์      บำเพ็ญจนกรรมของท่านหมดแล้ว

ศิษย์           ฝ่าหลุนที่อาจารย์ใส่ให้เราที่ท้องน้อย ไม่มีความรู้สึก   ใช่ไหมว่าต้องเข้าร่วมชั้นเรียนหลายครั้งจึงจะใส่ให้เสร็จ

อาจารย์     บางคนจะไม่รู้สึก   บางคนความรู้สึกไวมาก  ก็คือไม่เหมือนกัน  มีความรู้สึกก็ดี  ไม่มีความรู้สึกก็ดี  ขอเพียงเป็นคนที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าจริงๆ  จะไม่ตกหล่นสักคนเดียว   การรับรู้ของท่านไม่ถูกต้อง  คนที่ศึกษาเองไปบำเพ็ญอย่างแท้จริงก็ล้วนสามารถจะได้รับ   และไม่มีอย่างที่รับรู้ว่าใส่ให้เสร็จหรือไม่เสร็จ

ศิษย์      ผู้ฝึกที่เข้าร่วมชั้นเรียนของท่านเพียงครั้งเดียวกับผู้ฝึกที่เข้าร่วมชั้นเรียนหลายครั้ง สิ่งที่ได้รับเหมือนกันหรือไม่

อาจารย์      เหมือนกัน  จะไม่ให้อะไรมากกว่าแม้แต่น้อย  ผู้ฝึกหลายๆคนของเราที่เข้าชั้นเรียนหลายครั้งไม่ใช่มาได้รับสิ่งของ  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เข้าชั้นเรียน เพราะแต่ละครั้งที่ข้าพเจ้าบรรยาย พวกเขาก็จะมีการรับรู้ใหม่  คนเขามาเพื่อศึกษาฝ่า ฟังฝ่า   พวกเขาทราบว่าฝ่านี้ล้ำค่า  ไม่ใช่มารับของ  ครั้งหนึ่งได้ไปหน่อยหนึ่ง  อีกครั้งหนึ่งได้อีกหน่อยหนึ่ง  ก็พูดกันเล่นๆอย่างนี้   ใจนี้ช่างละโมบเหลือเกิน

ศิษย์           เด็กที่ตาทิพย์เปิดแล้วจะปกป้องเขาอย่างไร

อาจารย์      ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าของเรา  หรือผู้ฝึกเด็กในหมู่ผู้ฝึกของเรา  หรือเด็กที่พามาก็ได้ฝ่าหลุนแล้ว  หรือตาทิพย์เปิดแล้ว  เมื่อออกไปข้างนอกอย่าพูดกับคนที่ไม่ได้บำเพ็ญตามชอบใจ  และไม่ต้องพูดกับเพื่อนในโรงเรียนหรือครู ตามชอบใจ   หาไม่ลูกของท่านนั้นจะไม่ได้อยู่อย่างสงบ

ศิษย์           คนที่เคยอยู่ในโลกอย่างนี้  จิตวิญญาณของเขาจะสามารถกลับไปสู่ความบริสุทธิ์ดังเดิมของตนโดยไม่เหลือร่องรอยแปดเปื้อนได้หรือไม่

อาจารย์      ได้  และยังสามารถเลยล้ำกว่าของเดิมของท่าน  แน่ละหากท่านคิดจะบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญให้บริสุทธิ์ได้ถึงอย่างนั้น  จะอาศัยแต่กำลังของท่านย่อมเป็นไปไม่ได้  ในชั่วพริบตานั้นของวาระสุดท้ายนั้น  จะช่วยท่านทิ้งสิ่งที่หลงเหลืออยู่  กับสสารที่ไม่ดีไปทั้งหมด   ฉิง(อารมณ์ ความรัก ความผูกพัน)นั้นเป็นสสารที่คงอยู่   เพราะท่านเองต้องไปบำเพ็ญมัน   เปลี่ยนแปลงตัวท่านเองจากความคิดของท่าน   อย่าให้มันเกิดขึ้นอีก   แต่สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่อีกเล็กน้อยนั้นจะช่วยทิ้งไปให้ท่าน   ในเวลานั้นก็จะบริสุทธิ์จนบริสุทธิ์อย่างถึงที่สุดแล้ว  การบำเพ็ญก็คือบำเพ็ญความคิดของคน   เปลี่ยนแปลงจากด้านความคิด    ความคิดท่านบริสุทธิ์ถึงระดับใด  นั่นก็คือมรรคผล  หลังจากหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์)  ความคิดของท่านทั้งหมดคือวิธีคิดในระดับชั้นนั้นของการหยวนหมั่น  ไม่มีวิธีคิดของคนอีกแล้ว

ศิษย์           สุดท้ายจิตหลักจะเข้าไปอยู่ในร่างไหน  อีกร่างกายหนึ่งอยู่ในสภาวะอะไร

อาจารย์      จิตหลักจะเข้าไปอยู่ในร่างไหน  ร่างกายที่ท่านบำเพ็ญล้วนเป็นร่างกายท่านทั้งหมด  ร่างกายอีกมิติก็เป็นร่างเดียวกันตั้งแต่ต้น ล้วนคือร่างหนึ่งเดียวของท่าน   หลังจากกายเนื้อของท่านถูกสสารพลังงานสูงผันแปรแล้ว  ก็จะไม่มีร่างกายในอีกมิติตามที่พูดนั้นแล้ว

ศิษย์           พอเดินเข้าไปในวิหารประธานวัดเส้าหลิน  ฝ่าหลุนในท้องน้อยก็หมุนกลับอย่างรวดเร็วมาก

อาจารย์      หมุนทวนหรือหมุนตามล้วนเป็นปกติทั้งนั้น   ที่นั่นเป็นที่ที่ไม่เลว  เป็นวัดที่ดีมากแห่งหนึ่ง  แน่ละพระสงฆ์ที่บำเพ็ญนั้นจะเป็นอย่างไรเราไม่ขอพูด   ที่เราพูดคือวัด เป็นวัดที่ดีมาก

ศิษย์           เมื่อทำท่าโอบหลุนที่ด้านข้างสองด้าน มักจะเกิดเสียงดังในหู

อาจารย์     ถูกต้อง   โอบหลุนที่สองข้างสามารถจะเปิดหูคนได้  บางคนคิด  นั่นดีละ   ฉันก็จะฝึกอย่างนี้ทุกๆวันละ  นี้เป็นจิตยึดติด   ข้าพเจ้าจึงไม่อยากพูดเรื่องเหล่านี้ให้กับผู้ฝึกใหม่  เพราะง่ายที่สุดที่จะเกิดการยึดติดสิ่งนั้น  พอยึดติดก็จะถูกสกัดกั้น

ศิษย์           เมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เคยฝันเห็นตัวเองขึ้นสวรรค์  ลอยอยู่บนสวรรค์  ลงมาสู่โลก  ที่ผมเห็นคือจิตรองใช่หรือไม่

อาจารย์      ไม่ใช่  ถ้าความรู้สึกสำนึกของท่านบินอยู่บนฟ้า นั่นคือจิตหลักของท่านออกจากร่าง  ความรู้สึกสำนึกของท่านอยู่ที่ไหน  ตัวท่านเองก็จะอยู่ที่นั่น  ที่ว่าฉันเห็นแล้วฉันกำลังบินอยู่บนฟ้า   แต่ฉันกำลังนั่งอยู่ตรงนี้  นั่นก็คือจิตสำนึกรองกำลังบินอยู่

ศิษย์           หลังจากผมฝึกสมาธิได้ครึ่งชั่วโมง  ในเวลานั้นทั้งตัวรู้สึกแน่นไปหมด  คิดจะออกแรง  ต่อ มาตัวม้วนเป็นก้อนกลม พยายามฝึกพลังอย่างสุดชีวิต  นี้เป็นเรื่องอะไรกัน

อาจารย์      ท่านไม่ต้องใส่ใจมัน  มันเกี่ยวข้องกับชีวิตนั้นของท่านเมื่อก่อนนี้  ท่านไม่ต้องใส่ใจ  ให้สนใจแต่การฝึก

ศิษย์           ในขณะทำงานเชื่อมด้วยไฟฟ้า ได้สัมผัสกับควัน ฝุ่น ประกายไฟ  พวกมันจะกระทบต่อร่างกายไหม

อาจารย์      ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ฝึกพลัง

ศิษย์           วันแรกที่ฝึกพลัง  รู้สึกว่ามีของรูปทรงกลมจากภายนอกเข้าไปในท้องจากนั้น ก็ค่อยๆไปอยู่ที่สะดือ คือฝ่าหลุนที่อาจารย์ใส่ให้ใช่หรือไม่

อาจารย์      ผู้ฝึกพลังอย่าใส่ใจเรื่องเหล่านี้เลย   ข้าพเจ้าไม่อาจอธิบายสภาพการณ์แต่ละชนิดให้ได้หมด  อย่าเพิ่มเติมจิตยึดติดเลย

ศิษย์     ผมซื้อปฏิทินกับหนังสือเล่มหนึ่งของอาจารย์ชี่กงคนหนึ่ง   จะสามารถแขวนไว้ในห้องเดียวกับที่แขวนรูปถ่ายอาจารย์และอ่านหนังสือนั้นได้หรือไม่

อาจารย์   ไม่ได้  จะบำเพ็ญก็ต้องเดินแนวทางเดียว   แม้จะเป็นอาจารย์ชี่กงที่แท้จริง  หรือเป็นอาจารย์ชี่กงที่ไม่เลว  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  เขาก็ไม่มีกำลังที่จะผลักไสสิ่งที่เป็นของลัทธินอกรีตหนทางคดงอเหล่า นั้นออกไปได้  เขาก็ต้องคล้อยตามพวกมัน   ดังนั้นในหลักพลังบางอย่าง จึงมีสิ่งนี้อยู่ด้วย  แม้ตัวเขาเองจะบำเพ็ญหนทางที่ถูกต้อง  แต่เขาก็หมดปัญญา  ไม่สามารถจะจัดการกับสิ่งที่เขาถ่ายทอดออกไปได้

ศิษย์           คนที่ทำงานอยู่บนเรือนานๆ เมื่อบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าจะได้ผลเหมือนกันหรือไม่

อาจารย์      เหมือนกัน  ฝึกพลังอยู่บนทะเลก็เหมือนกัน  ฝึกพลังอยู่บนแม่น้ำก็เหมือนกัน

ศิษย์           ผู้ฝึกพลังเมื่อเวลากินข้าว ใช่หรือไม่ว่ากินพอประทังให้อิ่มเป็นใช้ได้  มีกำลังก็พอแล้ว

อาจารย์      รับประทานพอประทัง  พอประทังหรือว่ากินอิ่ม  กินข้าวก็คือกินให้อิ่ม   จะเหลือไว้อีกนิดไปทำไม  ถ้าอยู่ในช่วงที่ยากจน จะกินน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร   ร่างกายของท่านยังฝึกอยู่ในหลักธรรมในภพ  ยังต้องการใช้สิ่งที่อยู่ในหลักธรรมในภพ เป็นสารอาหารหล่อเลี้ยง  หาไม่แล้ว  ร่างกายนี้มิจบสิ้นกันแล้วหรือ  ก่อนหน้าที่ท่านยังไม่ถูกสสารพลังงานสูงแทนที่  ท่านไม่กินข้าวจะได้ไหม  ถ้ากินของที่ดีแต่ใจไม่ยึดติดก็ไม่มีปัญหา

ศิษย์           คนที่เรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถเลี้ยงสัตว์เล็กได้ไหม

อาจารย์      สายพุทธกล่าวว่า ไม่ฆ่า ไม่เลี้ยง  สายเต๋าก็พูดเช่นนี้   แต่สายเต๋ามีส่วนหนึ่งที่มีสัตว์ที่มีฤทธิ์ เช่นเลี้ยงเต่าอะไรเอย  แต่ ระดับชั้นที่สูงมากๆจะรับเอาไว้เพียงตัว สองตัว เป็นผู้พิทักษ์ฝ่า  ฉะนั้นจึงต้องเลือกตัวที่ดีมากๆ  เพราะสิ่งเหล่านี้  พร้อมไปกับที่ท่านฝึกพลังและเมื่อยกระดับชั้นขึ้นไป  มันจะได้อิทธิฤทธิ์โดยง่าย พอได้อิทธิฤทธิ์แล้ว   มันไม่เน้นเรื่อง ซินซิ่ง และทำเรื่องเลว  ก็จะกลายเป็นมาร

ศิษย์           พอตกกลางคืน เวลาผมหลับตาฝึกพลังอยู่คนเดียว    พอรู้ว่ารอบตัวเงียบสงบมากก็จะรู้สึกกลัวมาก

อาจารย์      ขอบอกทุกท่านว่า   เดี๋ยวนี้ฝ่าหลุนต้าฝ่าเราไม่ว่ามิติไหนๆก็เป็นที่รู้จักกันหมด   ฝ่าหลุนต้าฝ่าถ่ายทอดอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญ  มีสิ่งที่เลอะเทอะนานาชนิด  และสิ่งต่างๆในมิติชนิดต่างๆก็คิดจะมาดู   ดังนั้นพวกมันจึงมีรูปร่างแปลกประหลาด อะไรก็มีทั้งนั้น  ท่านฝึกพลังอยู่ตรงนั้น มันก็มาดูท่าน  ท่านจึงรู้สึกกลัว   น่าสยองขวัญ  แต่ท่านจำไว้ว่ามีฝ่าเซินของข้าพเจ้าอยู่  ใครก็ทำร้ายท่านไม่ได้  มันเพียงแต่ต้องการมาดูๆหน่อย  ทำไมจึงน่าสยองขวัญละ  เพราะจิตรองของท่านเห็นแล้วจึงรู้สึกหวาดกลัว   ที่จริงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย

ศิษย์           โลกฝ่าหลุนเป็นอย่างไร

อาจารย์      ท่านเคยได้ยินว่ามีแดนสุขาวดีไหม  โลกฝ่าหลุนนั้นงดงามยิ่งกว่านัก

ศิษย์           ถ้าหากรู้ว่าในบรรดาญาติสนิทของตัวเองมีความสัมพันธ์ของกรรมสนอง  จะอยู่ร่วมกันอย่างไร  จะชดใช้คืนอย่างไร  จะตอบแทนบุญคุณอย่างไร

อาจารย์      ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรท่านก็จะไม่รู้   เรื่องเหล่านี้ของคนธรรมดาสามัญก็ไม่อนุญาตให้คนอื่นรู้   ผู้บำเพ็ญหยวนหมั่นแล้วจึงจะรู้   แต่ท่านก็ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้แล้ว  แต่ละคนล้วนมีชีวิตของตน  ปล่อยไปตามวาสนาเถิด

ศิษย์           ควรห่วงใยดูแลคนพิการอย่างไร

อาจารย์      เรื่องของคนธรรมดาสามัญท่านยังมาถามข้าพเจ้าทำไมละ   ท่านจะดูแลพ่อแม่ของท่านอย่างไรก็ต้องมาถามข้าพเจ้าหรือ    จะดูแลลูกอย่างไรก็ต้องถามข้าพเจ้าหรือ  ล้วนเป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  ที่นี่ข้าพเจ้ากำลังบรรยายฝ่า  เรื่องการบำเพ็ญสู่ระดับชั้นสูง   แต่ถ้าคนพิการนั้นสบายเกินไป  ก็จะชดใช้กรรมไม่ได้  ภพต่อไปอาจจะยังพิการอีก

ศิษย์           ระดับบน(หัวหน้า)สั่งการไม่ถูกต้อง จะปฏิบัติอย่างไรดี

อาจารย์      นี่เรื่องเป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  ในฐานะผู้บำเพ็ญจะทำอย่างไร  ก็ให้ทำไปตามข้อกำหนดของฝ่า  เรื่องราวใดๆล้วนมีความเกี่ยวข้องกับดวงสัมพันธ์คงอยู่   ท่านรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง  บางทีไม่แน่ก็อาจจะถูกต้อง   เขาเป็นผู้นำ  คนเขาบอกท่านว่าทำอย่างไร ท่านก็ทำให้ดี   แน่ละถ้าบอกให้ท่านไปฆ่าคนวางเพลิง   ทำเรื่องเลว  ท่านก็ไม่ทำแน่นอน   โดยหลักการเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่มาตรฐานของปัญหาหลักการที่เราพูดนั้นไม่เหมือนกัน

ศิษย์           ผู้ฝึกพลังทำเรื่องที่ผิดไปโดยไม่ตั้งใจ   ฝ่าเซินของอาจารย์จะทราบหรือไม่  และจะลงโทษเขาหรือไม่

อาจารย์      แน่ละต้องทราบ  หากท่านบำเพ็ญได้ดีมาก  ในตอนนั้นก็จะสะกิดเตือนท่าน  และอาจจะได้รับผลกรรม บัดนั้น   ชดใช้กรรมที่เกิดจากการทำเรื่องที่ผิดนั้นไป   ถ้าท่านบำเพ็ญไม่ดี อาจจะไม่ลงโทษท่าน  พอเห็นว่าท่านก็ไม่ไหวแล้ว  ท่านมักเป็นอย่างนี้เสมอ  ก็ไม่อาจให้มันเกิดกรรมสนอง บัดนั้นอยู่ร่ำไป  เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง ให้ท่านชดใช้ครั้งหนึ่ง  เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง ให้ท่านชดใช้ครั้งหนึ่ง  การยกระดับอู้ซิ่ง(การรับรู้)ของท่านอย่างนี้จะไหวหรือ  และไม่อนุญาตให้ทำเช่นนี้

ศิษย์           จะแสดงฝ่าหลุนกับฝ่าเซินของท่านให้พวกเราเห็นได้อย่างไร

อาจารย์      ท่านยังจะดูอะไร  นั่นคือการให้คนธรรมดาสามัญดูใช่ไหม  ใจของท่านสะท้อนจิตยึดติดที่ไม่ดีอย่างนี้ออกมา  คนที่สามารถมองเห็นพระพุทธนั้น เป็นคนที่มีมรรคผลแล้ว   นี่เหมือนคำถามของผู้ฝึกพลังควรถามหรือ   ถ้ามองเห็นได้หมดแล้วก็ไม่มีการรับรู้คงอยู่แล้ว   ซึ่งจะไม่อนุญาตให้บำเพ็ญแล้ว  ท่านบำเพ็ญไม่ได้และยังจะทำลายคนมากมายเช่นนี้ด้วยหรือ

ศิษย์           ขณะฝึกนั่งสมาธิบางครั้งศีรษะเคลื่อนไหว

อาจารย์      ไม่ให้เคลื่อนไหว  ก็คือเคลื่อนไหวไม่ได้  ต้องผ่อนคลายตามธรรมชาติ

ศิษย์           สนามฝึกของเรามักจะมีควันพิษจากการเผาใบไม้ลอยฟุ้ง ควรจะหยุดฝึกพลังหรือไม่

อาจารย์      ในสวนสาธารณะเผาใบไม้ที่กวาดไปรวมกัน   นี้ไม่กระทบการฝึกพลังของท่าน  ถ้าแสบจมูกเกินไปท่านก็หยุดหรือเปลี่ยนสถานที่  หาไม่แล้วข้าพเจ้าว่าไม่มีปัญหา

ศิษย์           ของใช้ประจำวันถูกทำลายเป็นการก่อกรรมและสูญเสียกุศลพร้อมกันด้วย หรือว่าเพียงก่อกรรมไม่เสียกุศล

อาจารย์      องค์ศากยมุนีเคยตรัสไว้ทุกสรรพสิ่งล้วนมีชีวิต  ที่จริงข้าพเจ้าว่าในอีกมิติสิ่งใดๆล้วนมีชีวิต  ถ้าหากตาทิพย์ของท่านบรรลุถึงธรรมจักษุ   พอท่านออกจากบ้าน  พอเปิดประตูท่านจะเห็นว่าแม้แต่ก้อนหิน  กำแพงล้วนพูดกับท่าน  ทักทายท่าน   แต่ข้าพเจ้าขอบอกท่าน เราต้องมองไปยังภาพรวม บำเพ็ญอย่างสง่างามอย่ายึดติดกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้  คนมีรูปแบบการดำรงชีวิตของคน  คนที่บำเพ็ญต้าฝ่าอย่างแท้จริง วันหนึ่งๆสามารถสลายกรรมได้มากมาย   ดังนั้นกรรมนั้นกล่าวสำหรับคนที่บำเพ็ญต้าฝ่าก็ไม่น่ากลัวอย่างนั้นเลย

ศิษย์           เวลาทำท่าชงกว้านมือเดียว(เลื่อนมือขึ้นลง) บางคนหัวไหล่กับมือจะเลื่อนขึ้นลงพร้อมกัน  ทั้งตัวก็เคลื่อนตามไปด้วย

อาจารย์      นี่ไม่ถูกต้อง  หัวไหล่กับร่างกายต้องผ่อนคลายไม่ขยับ

ศิษย์           ในครอบครัวมีคนฝึกพลังฟู่ถี่(ตัวสิงร่าง)  เตือนเขา  เขาไม่ฟังจะทำอย่างไร

อาจารย์      ก็แล้วกันไป  ท่านคิดจะควบคุมความคิดของใครก็ควบคุมไม่ได้   ได้แต่เตือนด้วยความหวังดี  ได้แต่เตือนด้วยความหวังดี    เมื่อไม่ฟังก็แล้วกันไป   อาจารย์จะช่วยชำระล้างสภาพแวดล้อมให้ศิษย์ที่บำเพ็ญจริง  ไม่ให้สิ่งของเลอะเทอะของเขาเข้าประตูได้

ศิษย์           การมอบของเพื่อมิตรภาพ

อาจารย์      การมอบของเพื่อมิตรภาพไม่เป็นไร   สองคนดีต่อกัน เขาจึงให้ของท่านเล็กน้อย เป็นความสมัครใจ  นั่นจะเป็นไรไปละ

ศิษย์           ในใจทนไม่ได้ จึงด่าคน  ด่าตัวเองก็สูญเสียกุศลด้วยไหม

อาจารย์      ท่านด่าตัวเองจะเสียกุศลให้ใครกัน   เสียกุศลให้ท่านเองหรือ   แต่ในฐานะผู้ฝึกพลัง ท่านจะด่าคนไม่ได้  ด่าตัวท่านเอง ก็คือท่านโกรธแล้ว   ฉะนั้นก็คือท่านไม่ได้อดกลั้นไว้   ใช่หรือไม่  เราพูดถึงความอดทน  ต่อเด็ก  ต่อลูกตนเองก็ไม่สมควรตีด่าตามชอบใจ   ท่านดูแลอบรมลูกเป็นเรื่องสมควร  ไม่สั่งสอนลูกก็ไม่ถูกต้องนะ  ต้องสั่งสอนอบรม  การสั่งสอนอบรมเป็นปัญหาวิธีการ   แต่หากท่านเองโกรธจนหัวเสียเพราะสั่งสอนลูก  นั่นจะถูกหรือ   สั่งสอนลูกก็จะโกรธไม่ได้  ท่านต้องไม่โกรธจริงๆ

ศิษย์           เด็กอายุห้าหกขวบฝึกพลังกับผม  แต่เขาไม่รู้ฝ่า ก็สามารถจะบำเพ็ญขึ้นไปได้หรือไม่

อาจารย์      เช่นนั้นก็บอกเด็กว่าจะเป็นคนดีได้อย่างไร เหมือนเล่านิทาน บอกว่าอาจารย์พูดว่าอย่าง ไร ๆ ก็พอแล้ว  ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า   เด็กเล็กของเราที่อยู่ที่นี่ฟังเข้าใจดีแล้วนะ   ท่านอย่าคิดว่าเขาฟังได้ไม่ดีเหมือนท่าน

ศิษย์           ผู้บำเพ็ญของเรายังจะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งของจากหนังสือของพุทธศาสนาและศาสนาเต๋าได้ไหม

อาจารย์      ไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด  ไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด  นั่นมิยุ่งเหยิงหมดแล้วหรือ   วิ่งพล่านไปอยู่แนวทางอื่นแล้วหรือ   จะต้องไม่เดินสองแนวทาง  แน่ละหากท่านว่าท่านไม่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  จะใช้ฝ่านี้ของฝ่าหลุนต้าฝ่าชี้นำฉันฝึกหลักพลังอย่างอื่น  แน่นอน ฝ่านี้ที่ข้าพเจ้าบรรยายออกมาก็ย่อมมีประโยชน์ในการชี้นำต่อหลักพลังทั้งหมด  ล้วนต้องเน้นซินซิ่งอย่างนี้ในการบำเพ็ญ

ศิษย์           หลังจากศึกษาหลักการของฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว ควรจะดำรงชีวิตด้วยภาวะจิตใจอะไร

อาจารย์      กิจกรรมรูปแบบชนิดต่างๆ  หรือเรื่องของคนธรรมดาสามัญที่ท่านอยากเข้าร่วม ท่านก็ไปเข้าร่วม  ไม่กระทบต่อพลังกง  ตามการฝึกพลังที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆของท่าน  เรื่องเหล่านี้ท่านเองจะมองให้จืดจางได้ทั้งหมด   เพราะเมื่อบำเพ็ญถึงระดับสูงยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็เป็นการยึดติด  แต่ว่าตอนนี้เราไม่อาจให้ท่านปล่อยวางทั้งหมดในทันที   ถ้าปล่อยวางได้หมดวันนี้ท่านก็คือพระพุทธแล้ว   ขณะนี้ท่านก็วางไม่ลง  คนเอย ก็เพราะมีฉิง  จึงมีความชอบพอของคนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           ขณะที่ผมฝึกพลัง   ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงระฆังทองที่มีจังหวะชนิดหนึ่งจากในดนตรีของฝ่าหลุนต้าฝ่า  นี้คืออะไร  หรือว่าเป็นบทบาทของจิตรอง

อาจารย์     ไม่ใช่  ก็คือเสียงในอีกมิติ  ซึ่งมีมากมายนัก  ไม่ต้องสนใจมัน

ศิษย์           ในขณะฝึกพลังจะนึกภาพได้ไหม หรืออาศัยการคิด หนึ่งชีพจรนำพาร้อยชีพจร ช่วยนำสู่ความสงบได้หรือไม่

อาจารย์      ไม่มีความนึกคิด  เราบำเพ็ญในระดับชั้นสูงโดยตรง  พยายามปล่อยวางความคิดแบบหมายมั่น  ท่านยังคิดจะแทรกอะไรเพิ่มเข้าไปหรือ  ทำตามชอบใจหรือ  จะไม่อนุญาตให้ท่านสร้างความวุ่นวายให้ของชุดนี้ของเรา  ถ้าท่านจะแทรก  ฝ่าหลุนจะเปลี่ยนรูปได้   เราพูดถึงร้อยชีพจรโล่งตลอดพร้อมกัน  ไม่ทำเรื่องหนึ่งชีพจรนำพาร้อยชีพจรอะไร

ศิษย์           จุดประสงค์ของการบำเพ็ญของชาวโลก เพียงเพื่อให้ตัวเองเป็นผู้รู้แจ้งแต่ไม่สนใจคนอื่น นี่เป็นคนชนิดไหนกัน

อาจารย์      พระพุทธสามารถช่วยคน  แต่พระพุทธมิได้เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยคน  ท่านคิดว่าพระพุทธควรจะช่วยท่านหรือ  บรรลุถึงการหลุดพ้นของตนเอง  อรหันต์ก็บำเพ็ญสำเร็จอย่างนี้   สมมติท่านจะมีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพชีวิต  เช่นนั้นท่านต้องบำเพ็ญขึ้นไป  ท่านต้องไปถึงระดับชั้นนั้น  ท่านจึงจะสามารถประจักษ์แจ้งเรื่องการโปรดชาวโลก  พูดถึงการโปรดชีวิต  จะโปรดชีวิตอย่างไรละ   ท่านก็ต้องไปบรรยายเหมือนข้าพเจ้าอย่างนี้เท่านั้น  ไปทำอย่างนี้  ที่ว่าจะสลายทุกข์ภัยของใครทิ้งไปหมด แล้วนำท่านขึ้นไป  พอถึงเวลานั้น ท่านก็จะทราบ  ยังไม่ทันที่ท่านจะนำเขาขึ้นไป  ท่านก็ตกลงไปแล้ว   ซึ่งไม่อนุญาตให้ทำได้อย่างเด็ดขาด ยังมีอีกอย่าง คือพูดไม่ได้ว่าการบำเพ็ญนั้นต้องสนใจคนอื่น นั่นล้วนเป็นจิตยึดติด

ศิษย์           อาจารย์ออกนอกประเทศบรรยายให้ชาวต่างชาติ จะใส่ฝ่าหลุนให้หรือไม่

อาจารย์      คนที่บำเพ็ญจริง  เป็นใครก็จะใส่ให้หมด  ต้าฝ่าเป็นของจักรวาล  แต่ละประเทศทั่วโลกมีคนที่มีวาสนาล้วนสามารถศึกษา สามารถจะได้รับทั้งนั้น

ศิษย์           แพทย์จีนสามารถใช้การฝังเข็มรักษาโรคได้ไหม

อาจารย์      ได้แน่นอน  นั่นเป็นงานในหมู่คนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           ผู้เข้าร่วมชั้นเรียนทั้งหมด ท่านจะใส่ฝ่าหลุนให้ทั้งนั้นหรือ

อาจารย์      ไม่ใช่  ข้าพเจ้าทราบคนที่เรียนอยู่ที่นี่  บางคนเขาไม่เชื่อ  ยังมีบางคนมีท่าทีที่สงสัย  ยังมีเวลาฟังรู้สึกว่าดีมาก  แต่สุดท้ายเขายังคงไม่อาจฝึกได้

ศิษย์           หลังจากฝ่าหลุนถูกฝ่าเซินของอาจารย์เอากลับคืนแล้ว  จะเริ่มต้นใหม่ทำตามข้อกำหนดของอาจารย์ ยังจะให้ฝ่าหลุนไหม

อาจารย์      นั่นต้องตั้งใจแน่วแน่จริงๆ  ก็เหมือนกับผู้ที่ไม่เคยศึกษามาก่อนที่เริ่มต้นศึกษาใหม่

ศิษย์           ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าพูดว่าสามารถยืมฝ่าหลุนของท่านรักษาโรคให้ผู้ฝึกได้  และสามารถตรวจโรคให้ท่านได้

อาจารย์      นั่นคือจิตมารกำเริบ  ใครก็อย่าได้เชื่อเขา  บรรดาคนที่พูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่ศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่าของข้าพเจ้า  เป็นการทำลายฝ่าอย่างร้ายแรง   ข้าพเจ้าโตจนป่านนี้ไม่รู้ว่าอะไรคือโรค  คนที่จะตรวจโรคให้ข้าพเจ้าท่านก็ต้องเข้ามาในห้องนี้ให้ได้ก่อน

ศิษย์           ควรเข้าใจ “ไร้ความหมายมั่น(อู๋เหวย อย่างไรดี

อาจารย์      ก็คือรักษาซินซิ่งไว้ไม่ทำเรื่องที่มีความหมายมั่น(โหย่วเหวย)ตามชอบใจ  แต่ถ้าเห็นการฆ่าคน วางเพลิง ก็ต้องช่วย  นั่นเป็นปัญหาซินซิ่ง

ศิษย์           ผมอยู่ในสนามฝึกพลังคล้ายกับมีคนพูดกับผม  ผมก็คุยในใจกับเขา

อาจารย์      ข้าพเจ้าถึงได้พูดว่า คนที่บำเพ็ญโดยเปิดพลังบางส่วนนั้นก็ไม่ง่ายที่จะบำเพ็ญ  ก็คือสาเหตุนี้  พอเขาได้ยินว่ามีเสียงพูดคุยกับเขาแล้ว  หรือเห็นของอะไรแล้ว  เขาก็จะยึดกุมตัวเองไม่ได้แล้ว   เขาก็ดีใจขึ้นมาแล้ว  เขาก็ติดต่อกับมันแล้ว   แต่เขาไม่รู้ว่า นั่นเป็นมารหรือไม่    หากเขาไม่ใช่มารก็ไม่ใช่ผู้รู้แจ้งที่บำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง  ถึงแม้เขาจะมาจากสวรรค์ ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย  เขาก็ไม่ได้มรรคผลถูกต้อง   ไม่เช่นนั้นก็จะไม่รบกวนคนที่บำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง   ท่านคิดดู  เมื่อท่านรับของของเขาแล้ว   ท่านยังจะบำเพ็ญได้อีกไหม  ของของท่านจะยุ่งเหยิงหรือไม่  จิตยึดติดของท่านจะออกมาหรือไม่  คนที่มีกงเหนิงออกมาแล้วก็ไม่ง่ายที่จะควบคุมตัวเอง  เปิดพลังกงแล้วก็ไม่ง่ายที่จะบำเพ็ญ  ก็คือสาเหตุนี้  ยากมากหนา   พูดว่ามีคนเท่าไรที่จะสามารถบำเพ็ญออกมาได้  ข้าพเจ้ากำลังดูอยู่  สวรรค์เบื้องบนก็กำลังดูอยู่  


การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองจี่หนาน

หลี่ หงจื้อ

 

ศิษย์           ระหว่างที่ฝึกพลังมีคำพูดด่าคนแว่บขึ้นมา  มันเป็นเรื่องอะไรกัน

อาจารย์      ก็คือท่านมีจิตที่ไม่ดี หรือกรรมทางความคิดที่ก่อผล   บางคนอาจมีฟู่ถี่(ตัวสิง)   หรือมีการแทรกปะปนหลักพลังอื่นเข้าไปฝึกด้วยก็เป็นอย่างนี้  เราจะไม่แทรกอะไรเข้าไปในการฝึก  ถ้าฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างบริสุทธิ์จะไม่มีฟู่ถี่  ส่วนใหญ่เป็นผลจากกรรมทางความคิด

ศิษย์           การมุมานะบำเพ็ญ  โดยตัวเองเป็นจิตยึดติดชนิดหนึ่งหรือไม่

อาจารย์      การบำเพ็ญไม่ใช่การยึดติด  การบำเพ็ญคือการหวนคืนกลับสู่ความจริงแท้   ฟื้นคืนธาตุแท้ของคนออกมา  นั่นคือธาตุแท้ของท่าน   ดังนั้นมันไม่ใช่การยึดติด  แต่หากท่านเอาแต่พูดติดปากว่า ฉันจะบำเพ็ญเป็นพระพุทธ  วันนี้ฉันยกระดับได้เท่าไร   เมื่อไรฉันจึงจะสำเร็จเป็นพระพุทธ  นั่นคือท่านยึดติด  จงมีใจฝึกพลัง  แต่ไม่มีใจคิดจะได้พลัง  ท่านสนใจแต่ไปบำเพ็ญ   มีเพียงความปรารถนานี้ก็พอแล้ว

ศิษย์           คนที่ไม่ได้ร่วมชั้นเรียนศึกษาและฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  ฝ่าเซินของอาจารย์ก็จะช่วยชำระร่างกายให้เขาจนถึงขั้นร่างขาวน้ำนม กับได้รับกลไกชี่ด้วยหรือไม่

อาจารย์      คนที่ไม่เข้าร่วมชั้นเรียน  เขาไม่ใช่ผู้ฝึกของเรา ข้าพเจ้าจะดูแลเขาเพื่ออะไรละ  ข้าพเจ้าใส่สิ่งนี้ให้กับคนทั้งหมดของประเทศ ดูแลคนธรรมดาสามัญตามชอบใจ  จะถูกหรือ   ถ้าตนเองศึกษาหลักพลัง ศึกษาตามหนังสือ  หรือศึกษาตามวีดีโอเทป  จะได้รับหรือไม่ละ   ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  รูปแบบการศึกษาหลักพลังในอนาคตก็จะเป็นรูปแบบชนิดนี้    เพราะท่านมีฝ่าเซินของข้าพเจ้าดูแลอยู่  ในหนังสือข้าพเจ้ามีฝ่าเซิน  ในเทปวิดีโอ  เทปบันทึกเสียง  ก็ล้วนมีอยู่ หากสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานของผู้บำเพ็ญได้จริง  เขาก็สามารถจะได้รับ  แต่ต้องเป็นคนที่ไปบำเพ็ญตามมาตรฐานของผู้ฝึกพลังอย่างแท้จริง จึงจะได้รับ   หากพูดว่าฉันแค่ต้องการฝึกฝนร่างกาย  ไม่คิดจะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง  นั่นจะไม่ได้รับ

ศิษย์           ผมเป็นผู้ฝึกใหม่ ฝึกมาได้หนึ่งเดือนแล้ว   พบว่าไม่มีน้ำลาย จะให้ปลายลิ้นแตะเพดานปากทำได้ลำบาก  ขอเชิญท่านอาจารย์แนะนำสักนิด

อาจารย์      ไม่ใช่ว่าเมื่อฝึกพลังแล้ว  ท่านก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หมดในทันที  ซินซิ่งของท่านเป็นอย่างไรละ    ท่านคิดจะบรรลุถึงภาวะของผู้ฝึกพลังท่านก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง  เริ่มเปลี่ยน แปลงจากซินซิ่ง    มีคนพูดว่าฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว  ทำไมฉันยังไม่หายจากโรคละ   เมื่ออยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญท่านยังคงเป็นคนธรรมดาสามัญ  ท่านฝึกท่าเคลื่อนไหวนี้ก็คิดจะให้โรคหายแล้ว   นั่นจะเป็นไปได้หรือ   จุดประสงค์ไม่ถูกต้อง  ผลลัพธ์จึงไม่เหมือนกัน

ศิษย์           ในการฝึกพลังจะเพิ่มอี้เนี่ยน(ความนึกคิด)เข้าไป  ฝ่าหลุนจะเปลี่ยนรูปได้ไหม

อาจารย์      เมื่อเพิ่มอี้เนี่ยนของหลักพลังอื่นเข้าไป ฝ่าหลุนก็จะเปลี่ยนรูปได้   พูดถึงความคิดเลอะเทอะของท่าน มันจัดเป็นจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญ   นั่นจะไม่ทำให้ฝ่าหลุนเปลี่ยนรูป   มีแต่การเพิ่มสื่อสัญญาณของหลักพลังอื่นเข้าไป  ไม่เพียงแค่ท่าเคลื่อนไหวมือของท่าน   แต่ในความคิดท่านเพิ่มอี้เนี่ยนชนิดนี้เข้าไปชี้นำ  วิธีหายใจอะไรเอย   หรือความคิดของหลักพลังนั้น    ล้วนทำให้ฝ่าหลุนเปลี่ยนรูป   เพราะการบำเพ็ญเป็นเรื่องเข้มงวดจริงจัง  ต้องบำเพ็ญแนวทางเดียวเท่านั้น  

ศิษย์           กายเนื้อของพระสงฆ์ที่มรณภาพไปพันปีไม่เน่าเปื่อย  ใช่หรือไม่ว่า เป็นเพราะถูกสสารพลังงานสูง แปรผันแล้ว 

อาจารย์      ที่จริงก็ได้ถูกสสารพลังงานสูง แปรผันแล้ว    เนื่องจากในพุทธศาสนาพูดเรื่องนิพพานไม่นำร่างกายไป   ดังนั้นร่างกายนั้นเขาจึงไม่เอา   ถ้าเขาคิดจะเอา  ร่างกายของเขานั้นถูกสสารพลังงานสูง แปรผันแล้ว    เหมือนพระสงฆ์สามรูปบนเขาจิ่วฮว๋าซัน   ร่างกายนั้นล้วนเป็นกายเนื้ออายุหลายร้อยปี หลายพันปี ที่ไม่เสื่อมสลาย  ก็เพราะร่างกายของเขาถูกสสารพลังงานสูงทดแทนแล้ว  เขาไม่ใช่ร่างกายของคนธรรมดาสามัญ  ดังนั้นเขาจึงไม่เสื่อมสลาย 

ศิษย์           หลักพลังที่สามารถฝึกหยวนอิงออกมาได้ล้วนเป็นหลักธรรมที่ถูกต้องทั้งหมดใช่หรือไม่

อาจารย์      นั่นไม่แน่   บางอย่างเมื่อเริ่มต้นไม่ใช่ลัทธินอกรีต  เริ่มต้นนั้นยังคงไม่เลวทีเดียว   พอไม่บำเพ็ญซินซิ่ง ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นชั่วร้าย   ไม่แน่ว่าหลังจากนั้นหยวนอิงก็จะสลายไป   ถ้าไม่สลายไปก็จะชั่วร้ายมาก  ไม่อาจพิจารณาโดยอาศัยการเกิดพลังกง  ไม่ว่าจะเกิดของอะไรออกมาก็ไม่อาจอาศัยสิ่งนั้นในการพิจารณา  ไม่ว่าหลักพลังไหนก็ต้องบำเพ็ญซินซิ่ง  

ศิษย์           ฝ่าหลุนที่ท้องน้อยจะสามารถนำไปภพหน้าได้ไหม

อาจารย์      เราก็ไม่พูดเรื่องภพหน้าอะไร ไม่ภพหน้าอะไร    ข้อกำหนดของเราคือมีเป้าหมายให้บรรลุการเปิดพลังเปิดการรู้แจ้งในสังคมคนธรรมดาสามัญ    ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  พอถึงระดับชั้นสูงมากยังสามารถบำเพ็ญได้  แต่การบำเพ็ญของคนธรรมดาสามัญโดยทั่วไป พอถึงระดับชั้นหนึ่งที่แน่นอน  พอเปิดพลังแล้วก็จะหยุดอยู่แค่นั้น  ท่านจะฝึกอีกพลังก็ไม่โต   ก็สูงเพียงเท่านั้น   แต่ในสถานการณ์ที่พิเศษอย่างยิ่ง  ก็มีที่อยู่ในมิตินั้นพลังกงสามารถโตได้จากการฝึก  ในอนาคตเมื่อท่านบำเพ็ญฝ่าหลุนของตัวเองออกมาได้ ก็จะใช้การได้ตลอดไป ติดตัวไปตลอดกาล

ศิษย์           อาจารย์มักพูดถึง บำเพ็ญจริง สองคำนี้  และในการบรรยายก็พูดถึงศิษย์ที่บำเพ็ญจริง  ขอเชิญท่านอาจารย์อธิบาย

อาจารย์      บำเพ็ญจริงก็คือท่านไปบำเพ็ญอย่างแท้จริงแล้ว  ก็คือความหมายนี้

ศิษย์           ซานฮวาจวี้ติ่ง(ดอกไม้สามดอกรวมอยู่บนกระหม่อม)บนกระหม่อมมีเพียงสองดอก นี้เป็นอย่างไรกัน

อาจารย์      อย่างนั้นก็ไม่ใช่ซานฮวาจวี้ติ่ง    พลังกง   สภาพการณ์นานาชนิดที่ออกมาช่างมากมายเหลือเกินแล้ว  มากมายเหลือเกิน   เส้นทางนี้ที่ข้าพเจ้าเดินผ่านมา  ในระยะแรกหรือในระดับชั้นที่ตื้นมาก  รูปแบบการเปลี่ยนแปลงของพลังกงนั้นมีนับพันนับหมื่น  จนจำไม่ไหว  ข้าพเจ้าก็ไม่ไปจำมัน  รูปแบบการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในแต่ละระดับชั้นก็ไม่เหมือนกัน

ศิษย์           รูปลักษณ์ที่เกิดขึ้นตรงส่วนล่างของท้องน้อยคือหยวนอิง  แล้วรูปลักษณ์ตรงหน้าอกนี้คือใคร

อาจารย์      ท่านฝึกสิ่งอื่นอะไรแล้ว   เมื่อผู้ฝึกพลัง บำเพ็ญอย่างแท้จริง ปล่อยวางทุกสิ่งลง  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าจะช่วยท่านจัดการ  แน่ละบางครั้งคนของเราเกิดพลังกง   ผิวชั้นนอกจะเกิดรูปลักษณ์ของพระพุทธจำนวนหนึ่ง  หรือเกิดขึ้นมากมาย  เขายังเคลื่อนไหวได้ด้วย  เพราะเขาเป็นสสารที่คงอยู่   สามารถพูดได้  ขยับได้  แน่ละนั่นล้วนจัดเป็นเรื่องปกติ

ศิษย์           สมมติว่ามีคนคิดขโมยของบนตัวของผู้ฝึกหรือทำร้ายเขา   ฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถจะป้องกันได้ไหม

อาจารย์     ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า ทุกเรื่องล้วนมีเหตุสัมพันธ์กัน   ท่านทำเงินหายแล้ว  เรื่องนี้ฝ่าหลุนไม่สนใจ  นั่นอาจเป็นว่ามีสาเหตุอะไร  ใจนี้ของท่านคือจะใช้ฝ่าหลุนจัดการคนที่ขโมยทรัพย์สินของท่านใช่หรือไม่  นั่นจะใช้ได้หรือ ไม่แน่ว่า เคยติดค้างคนเขาบางอย่าง  ตัวเองไม่สบายใจแล้วคิดจะใช้ฝ่าหลุนไปตีคนอื่น  นั่นจะใช้ได้หรือ  เช่นนั้นมิเท่ากับข้าพเจ้าสอนหลักธรรมนอกรีตแล้วหรือ  อย่าเสียเวลาคิดเรื่องเหล่านี้  ผู้บำเพ็ญมีฝ่าเซินของข้าพเจ้าดูแลท่าน  อะไรที่สมควรปกป้องก็จะปกป้องให้ท่าน

ศิษย์           ท่านมองพระสูตรว่าอย่างไรบ้าง

อาจารย์      พระสูตรที่แท้จริง   พระสูตรที่องค์ศากยมุนีตรัสไว้  ข้าพเจ้ายอมรับ  แต่องค์ศากยมุนีพุทธะเคยตรัสว่า    ในพระสูตรทั้งหมดที่มีอยู่  สิ่งที่เป็นของพระองค์จริงๆ มีไม่ถึงร้อยละสิบ

ศิษย์           ผมไปเที่ยวชมหลุมฝังศพยุคโบราณ  ขอถามว่า  ไปดูหลุมฝังศพจะกระทบต่อฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือไม่

อาจารย์      ไม่กระทบ  แต่สถานที่เหล่านี้พยายามไปให้น้อย สิ่งเหล่านี้อินชี่ แรงมาก ยังมี  จะพูดอย่างไรดีละ สถานที่ที่ไม่สะอาดพวกเราก็ไม่อยากไป สิ่งเลอะเทอะพวกนั้นไม่ดีมากๆ  เพราะนั่นเป็นหลุมฝังศพใช่ไหม

ศิษย์           ในความฝันของผมมีงูตัวหนึ่งมุดเข้ามาในเสื้อ จึงบีบมันตายไปแล้ว  เป็นการจัดวางของอาจารย์เพื่อทดสอบซินซิ่งของผมใช่ไหม

อาจารย์      สิ่งเหล่านี้มุดเข้ามา  ท่านฆ่ามันตายก็ถูกต้องแล้ว   สิ่งที่ชั่วร้ายเหล่านี้ก็จะมาสิงร่าง  นั่นก็คือมาร  สังคมมนุษย์พัฒนามาถึงวันนี้  ถูกมันรบกวนอย่างร้ายแรงเหลือเกินแล้ว   วงการชี่กงถูกมันก่อภัยพิบัติจนแทบจะไม่ไหวแล้ว   ในวัดนั้นก็เหมือนกัน ล้วนเป็นสิ่งเหล่านี้ที่กำลังก่อภัยพิบัติ

ศิษย์           โลกฝ่าหลุนมีอยู่แต่เดิมหรือว่าเป็นของใหม่

อาจารย์      มีอยู่แต่เดิม  ท่านคิดฟุ้งซ่านเกินไปแล้ว

ศิษย์           ไม่ใช้ชี่กงรักษาโรค  แต่ใช้การนวด  ฝังเข็ม เป็นต้น  และนอกจากหนังสือชี่กง เช่น “คัมภีร์ซานไห่(ภูเขา ทะเล  “คัมภีร์ฮวางตี้เน่ยจิง (จักรพรรดิเหลือง  เป็นต้น จะอ่านได้ไหม

อาจารย์      ท่านยังปล่อยวางจิตเหล่านี้ไม่ได้   จุดประสงค์ที่ท่านอ่านนั้น เพื่ออะไร  หนังสือเหล่านี้ล้วนไม่ใช่หนังสือบำเพ็ญของต้าฝ่า  ท่านอ่านมันไปทำไม   ท่านคิดจะได้ของอะไรจากในนั้นหรือ หาไม่แล้วท่านอ่านมันทำไม     หากท่านคิดว่าคำพูดในหนังสือพวกนั้นดี  ท่านก็ยอมรับเข้าแล้ว   พลังกงของท่านก็จะยุ่งเหยิง  เหตุใดในอดีต  พุทธศาสนา  ศาสนาเต๋า ไม่ยอมให้สัมผัสกับหนังสืออื่นใด นอกเหนือจากพระสูตร  ก็เพราะกลัวว่าสิ่งของของพวกเขาจะยุ่งเหยิง เพื่อรับประกันการบำเพ็ญที่เป็นของแท้ของท่าน จึงต้องปฏิบัติต่อปัญหานี้อย่างเข้มงวด  แก้ไขปัญหาที่แท้จริงของท่าน  ท่านไม่เข้มงวดจะได้หรือ   ท่านจะปล่อยวางจิตใจดวงนี้ลงได้อย่างไร  ข้าพเจ้าจึงพูดถึงเหตุผลนี้  ไม่คิดจะบำเพ็ญ จึงได้คิดศึกษาค้นคว้าสิ่งเหล่านี้   ท่านอ่านได้ตามสบาย  ข้าพเจ้าไม่ใช่ห้ามคนธรรมดาสามัญอ่าน  พูดถึงว่าจะนวด หรือฝังเข็มได้หรือไม่  หากท่านเป็นแพทย์จีน  ท่านไปรักษาได้เลย   ไม่มีปัญหา    หากท่านไม่ใช่แพทย์และท่านฝึกต้าฝ่า  ก็คือคิดจะรักษาโรคให้คน  ข้าพเจ้าว่าท่านก็ปล่อยวางจิตยึดติดนี้เสีย

ศิษย์           ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่านอกเหนือจากอาจารย์ยังมีคนอื่นที่สูงกว่าอาจารย์หรือไม่

อาจารย์      ในหมู่ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่มีคนไหนที่สามารถเรียกตัวเองว่าอาจารย์ ล้วนเป็นผู้ฝึก  ล้วนเป็นศิษย์   ทุกคนต่างกำลังศึกษา  ต่างกำลังบำเพ็ญ  ในอนาคตหลังจากเปิดพลังเปิดการรู้แจ้ง  จะใช้ได้เพียงฉายานามตามวิธีเรียกอย่างนั้นในระดับชั้นนั้นๆของสายพุทธ   ฝ่าหลุนต้าฝ่าก็ไม่มีอาจารย์ในระดับสูงคนอื่นอีก

ศิษย์           มารดาที่แท้จริงของเราคือใคร    ท่านเป็นมารดาของพวกเราร่วมกันหรือไม่

อาจารย์      คิดฟุ้งซ่าน  จะนำพวกท่านมาพิจารณาร่วมกับข้าพเจ้าได้อย่างไรกันละ   ชีวิตมีรูปแบบความเป็นมาสองชนิด  ชนิดหนึ่งคือ เกิดขึ้นท่ามกลางการเคลื่อนไหวของสสารนานาชนิดในระดับชั้นต่างๆของจักรวาล ดังนั้นจึงค่อนข้างดั้งเดิม แต่สืบทอดเรื่อยมาจนถึงวันนี้   ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของจักรวาลยังสามารถก่อเกิดชีวิต และยังกำลังก่อเกิดอยู่  ดังนั้นบางคนชีวิตจึงไม่ยาวนาน  บางคนมีประวัติสั้นมาก ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งก็คือในแต่ละระดับชั้น  ชีวิตระดับชั้นสูงเหล่านั้นที่ปรากฏออกมาตั้งนานมาแล้ว  คนอย่างนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าค่อนข้างโชคดี เพราะเขายังมีมารดา  แม้แต่พวกนั้นที่เกิดมาแต่กำเนิด  พวกเขารู้สึกอิจฉาพวกที่มีมารดา  เพราะพวกเขาไม่มีมารดา

ศิษย์           เพื่อแสวงหาหนทางที่ถูกต้องและหลักธรรมใหญ่  จึงคิดทุกวิธีติดตามอาจารย์ไปที่ต่างๆเพื่อฟังการบรรยาย จะได้ไหม

อาจารย์      บางคนติดตามชั้นเรียนเพื่อฟังการบรรยาย  เพื่อให้ได้ฝ่า  จิตใจนั้นข้าพเจ้าก็ไม่อาจคัดค้านแต่มีจุดหนึ่ง  ทุกท่านอย่าลืมว่า ต้องไปบำเพ็ญอย่างจริงจัง  ท่านเอาแต่ตามไปตลอดก็ไม่ถูก  ท่านเอาแต่ฟัง  ซินซิ่งของท่านเองก็ต้องขัดเกลาท่ามกลางการบำเพ็ญอย่างแท้จริง  ท่านต้องไปบำเพ็ญอย่างจริงจัง    บางคนคิดว่าติดตามข้าพเจ้าแล้วจะไม่มีภัย  แล้วท่านจะบำเพ็ญอะไร  บางคนเข้าใจว่าข้าพเจ้าจะเข้าไปในภูเขา  จะตามข้าพเจ้าขึ้นเขาไปบำเพ็ญ   เช่นนั้นท่านมิใช่บำเพ็ญจิตสำนึกรองแล้วหรือ  เป็นรูปแบบการบำเพ็ญสองชนิด หากท่านคิดจะยกระดับตัวท่านเอง  บรรลุขั้นตอนทั้งหมดของการบำเพ็ญนี้ของท่าน  ท่านก็ต้องไปบำเพ็ญอย่างหนักแน่นจริงจังในหมู่คนธรรมดาสามัญ  และศึกษาฝ่าให้ดี 

ศิษย์           ท่านจะพูดเกี่ยวกับจุดกำเนิดของมนุษยชาติสักนิดได้หรือไม่

อาจารย์      ทุกตัวอักษรในบรรทัดล้วนแต่กระหายใคร่รู้   ท่านวางจิตใจนี้ลงเถอะ  ข้าพเจ้าได้พูดถึงจุดกำเนิดของมนุษยชาติแล้ว   ชีวิตมิใช่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของสสารแรกเริ่มที่สุดในจักรวาลหรือ  

ศิษย์           กล่าวสำหรับคนที่ดับสลายทั้งกายและจิตนั้น จิตหลักของเขาจะยังอยู่ไหม

อาจารย์      ดับสลายทั้งกายและจิตแล้วยังจะมีอะไรอยู่อีกละ   ก็เหมือนในจักรวาลนี้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีเขาอยู่    แต่ขั้นตอนที่ถูกดับสลายจนหมดสิ้นนั้นเจ็บปวดทรมานและรู้สึกสำนึกผิดอย่างเหลือ แสน  ที่มิติของเรานี้รู้สึกว่าตายไปแล้วในทันที  แต่ในสนามเวลาที่ถูกดับสลายนั้นจะรู้สึกยาวนานอย่างไร้ที่เปรียบ

ศิษย์           หญิงชรากลับมีประจำเดือนอีก จะมีปัญหาว่าจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่

อาจารย์      ขณะที่เราฝึกพลังร่างกายผันแปรกลับสู่วัยหนุ่มสาวเพื่อให้ท่านมาบำเพ็ญชีวิต   แต่ไม่ใช่ให้ท่านใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาสามัญชนิดนั้น   มันอาจเกี่ยวข้องกับปัญหานี้  เพราะทั้งร่างกายล้วนผันแปรสู่วัยหนุ่มสาว  ดังนั้นท่านต้องระวังเรื่องเหล่านี้

ศิษย์           ในขณะที่เผยแพร่ฝ่าหลุนต้าฝ่าให้คนอื่นอยู่นั้น  ควรจะใช้ภาษาที่อาจารย์บรรยายฝ่ามาชี้นำความคิดหรือไม่   หรือว่าอาศัยแนวคิดโดยรวมของเจิน ซั่น เหยิ่น ที่อาจารย์พูดมาชี้นำความคิด

อาจารย์      ฝ่าของข้าพเจ้า ก็คือสิ่งที่ข้าพเจ้าพูด  เป็นสิ่งที่เป็นระบบ   สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดออกมาก็คือสิ่งที่อยู่ในต้าฝ่านี้   สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดอยู่ที่นี่ไม่ได้พูดทัศนะส่วนตัวของข้าพเจ้า   ดังนั้นในขณะที่ทุกท่านพูดสิ่งนี้อยู่พูดได้แต่เพียงว่า ในหนังสือเขียนไว้อย่างไร อย่างไร หรืออาจารย์พูดว่าอย่างไร อย่างไร ก็ได้  ดีที่สุดคืออ่านหนังสือ  ท่านอย่าไปพูดโดยนำคำพูดของข้าพเจ้าไปเป็นคำพูดของตนเอง   เช่นนั้นเขา(ฝ่า)ก็จะไม่บังเกิดผลอย่างนี้  และยังเป็นการขโมยฝ่า  แต่สามารถพูดถึงความรู้สึกของแต่ละคนได้  นั่นเป็นคนละเรื่องกับฝ่า

ศิษย์           ภาพลวงตาที่ผู้คนเห็นกันคืออะไร

อาจารย์      ข้าพเจ้าว่า ก็คือทัศนียภาพของอีกมิติ ซึ่งปรากฏออกมาแบบจับพลัดจับผลู   สิ่งก่อสร้างที่ฝั่งนั้นก็หาได้มีแต่แบบสมัยโบราณนั้น  แต่มีตึกรามบ้านช่องอย่างปัจจุบันชนิดนี้ด้วย   และสิ่งที่มีอยู่ในมิติฝั่งนั้นบางส่วนยังสามารถเคลื่อนที่ได้

ศิษย์           จะมองการโกหกด้วยเจตนาที่ดีได้อย่างไร  อย่างเช่นคนๆนั้นป่วยหนักแล้ว

อาจารย์      อย่างเช่นเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งแล้ว  ท่านไม่อยากจะบอกสถานการณ์ที่แท้จริงให้เขาฟัง การฝืนทำอย่างนี้ ใช้ได้   จุดมุ่งหมายของท่านคือเพื่อคนอื่น  หรือเพื่อประโยชน์ของคนอื่น   แน่ละข้าพเจ้านึกถึงเรื่องเหล่านี้ของระดับชั้นสูง  ท่านเองก็สามารถจะจัดวางให้ถูกต้องได้  ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ควรพูดโกหกกับคนป่วย   กลัวคนป่วยระทมใจนั่นไม่ใช่หลักการนี้ของคนธรรมดาสามัญหรือ  เมื่อบำเพ็ญถึงระดับชั้นสูงจะพบว่าไม่ใช่เรื่องอย่างนั้น  ความทุกข์ระทมสามารถสลายกรรมได้ ชาติต่อไปจะได้ดี

ศิษย์           ด้วยความรู้สึกเคารพและซาบซึ้งใจ   เราจึงจุดธูปบูชาพระพุทธรูป  พระโพธิสัตว์และฝ่าเซินของอาจารย์   การถวายของบูชานับเป็นจิตยึดติดหรือไม่

อาจารย์      อย่างแรกนั้นคือความเคารพ อย่างที่สองที่จริงนั้นผู้คนล้วนเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นรูปแบบ ชนิดหนึ่ง    ธูปที่จุด หมดดอกแล้ว  ควันที่ฟุ้งขึ้นมานั้น  ที่ท่านมองเห็นเป็นควันในมิตินี้ของเรา  แต่ในอีกมิติหนึ่งมันก็มีควันด้วย   สสารที่ฝั่งของเราสลายไปแล้ว   ก็จะเกิดขึ้นที่ฝั่งนั้น  พวกเขา(ฝั่งนั้น)ต้อง การสิ่งนี้ไปผันแปรฝ่าของพวกเขา  ดังนั้นการถวายของบูชาเขา  ไม่เพียงเป็นการแสดงความเคารพ ยังมีความสัมพันธ์อย่างนี้อยู่ชั้นหนึ่ง  ถวายของบูชาใช่ไหม  หาไม่จะเรียกได้อย่างไรว่า ถวายของบูชาละ

ศิษย์           บนร่างกายของผู้ฝึกพลังปรากฏรูปลักษณ์ของพระพุทธขึ้นมานั้น เรื่องราวเป็นอย่างไร

อาจารย์      เป็นเรื่องปกติ   พลังกงก็คืออย่างนี้   ช่วงเริ่มต้นจะเล็กกว่าเมล็ดข้าว  ต่อมาจะออกมาใหญ่ยิ่งขึ้น  เพราะอณูในแต่ละชั้นของร่างกายล้วนต้องเปลี่ยนแปลง  สุดท้ายกลายเป็นร่างพระพุทธ

ศิษย์           ท่านอาจารย์จะกรุณาเล่าเรื่องโลกฝ่าหลุนให้เราฟังได้หรือไม่

อาจารย์      ผู้ฝึกเราบางคนมองเห็นแล้ว  มีภูเขาเอย น้ำเอย  หอสูง ศาลาเอย  ถ้าอยากจะรู้อย่างละเอียดท่านก็ต้องบำเพ็ญ

ศิษย์           มีผู้รู้แจ้งหลายองค์ที่ถ่ายทอดต้าฝ่าช่วยเหลือสรรพชีวิต  แต่ทำไมแต่โบราณกาลมาไม่เคยได้ยินว่ามีคนพูดถึง 

อาจารย์      องค์ศากยมุนีตรัสว่าพระยูไลมีมากดั่งจำนวนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา    แล้วจะสามารถพูดให้หมดทีละองค์ ละองค์ได้ไหม  สิ่งที่ไม่ควรให้ท่านทราบก็จะไม่ให้ท่านทราบนะ   ถ้าคนธรรมดาสามัญรู้อะไรทุกอย่างหมดแล้ว นั่นมิใช่กลับตาลปัตรแล้วหรือ ท่านเป็นพระพุทธแล้ว  พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาสามัญแล้วหรือ  คนธรรมดาสามัญจะสามารถรู้สิ่งที่สูงส่งเช่นนั้นได้หรือ   ในอดีตสิ่งที่อยู่เหนือกว่าพระยูไลจะไม่ให้คนได้รู้   และโลกฝ่าหลุนไม่ได้อยู่ในจักรวาลนี้   ที่จริงองค์ศากยมุนีเคยตรัสเรื่องของพวกเราไว้  และเคยตรัสเรื่องในอดีตของข้าพเจ้า  บ้างก็บันทึกเอาไว้  บ้างก็ไม่ได้บันทึกเอาไว้

ศิษย์           ถ้าหากคนที่มีฟู่ถี่(ตัวสิง)ทำให้พลังกงของเรากระจายออกไปแล้วจะทำอย่างไร

อาจารย์      ทำให้พลังกงกระจาย  หมายความว่าอะไร   มันไม่มีความสามารถนั้น   เพราะท่านยึดกุมตัว เองไว้ไม่ได้ จึงชักชวนให้สิ่งเหล่านี้เข้ามา   ท่านอยากได้   นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว   หากใจท่านไม่กระเพื่อม มันจะทำร้ายท่านไม่ได้   ในใจหวาดกลัวก็คือการยึดติด   และไม่แน่วแน่ในต้าฝ่า  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าได้แต่รับผิดชอบต่อผู้ที่แน่วแน่บำเพ็ญต้าฝ่าเท่านั้น

ศิษย์           ปกติเมื่อลืมตาจะเห็นมีฝ่าหลุนใหญ่เล็กกำลังหมุนอยู่รอบๆตัว   พอหลับตากลับมองไม่เห็นนี่เพราะอะไร  ควรทำอย่างไร

อาจารย์      จะลืมตาหรือหลับตาก็เหมือนกัน  นี่คือความเคยชินชนิดหนึ่งของวิธีการมอง    เมื่อเคยชินแล้วก็จะเห็นได้ทั้งนั้น

ศิษย์           จะวิจัยวิชาฉีเหมินตุนเจี่ย(วิชาการสงครามฉีเหมิน เช่นการร่ายคาถาเรียกลมฝน) และจูโหยว เคอ(วิชารักษาโรค) ได้ไหม

อาจารย์      จูโหยวเคอ จัดเป็นสิ่งของจำพวกวิญญาณผีชั้นต่ำ   เมื่อบำเพ็ญต้าฝ่าแล้วท่านจะวิจัยมันทำไม   โจวอี้(ตำราว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง)   ฉีเหมินตุนเจี่ย  นั้นหากท่านคิดจะวิจัยสิ่งเหล่านี้ท่านก็ไปวิจัย   ฉะนั้นในฐานะศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่า  ข้าพเจ้าว่าก็ไม่สอดคล้องกัน   สิ่งเหล่านี้ บางอย่างเป็นศาสตร์เทคนิค  บางอย่างเป็นของชั้นต่ำที่สุดของสายเต๋า  ท่านไตร่ตรองเอาเองเถิด ว่าจะทำอย่างไร

ศิษย์           ในศาสนาพุทธเห็นว่าการปล่อยชีวิตสัตว์เป็นเรื่องสำคัญ   ถือว่าการปล่อยชีวิตสัตว์สามารถสลายทุกข์ภัย  มีอายุวัฒนะ......

อาจารย์      เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของความหมายมั่น(โหยว่เหวย)  ไม่ใช่การบำเพ็ญ   พูดได้อีกว่าท่านก็ปล่อยไม่ได้จริง  ไม่แน่ว่าในจำนวนนั้นบางตัวก็หมดอายุขัยแล้ว  หากมีเจตนาทำเรื่องเหล่านี้ก็คือจิตยึดติด    เราพูดเรื่องไร้ความหมายมั่น(อู๋เหวย)  ทำไมท่านเอาแต่จะทำเรื่องเหล่านี้ด้วยความหมายมั่น  การยิงนกก็ดี  จับปลาก็ดี  ที่จริงคนเหล่านั้นทำเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ   มีคนซื้อไปปล่อยแล้ว  ครั้งต่อไปเขาก็ไปจับมันมาอีก   ท่านซื้อกับเขามาจนหมด  ท่านเอาไปปล่อยชีวิต   ดีละ พรุ่งนี้ไปทำอีก  ท่านยังจะซื้อไปปล่อยชีวิตไหม   ก็เท่ากับช่วยเขาทำเรื่องชั่ว  ข้าพเจ้าว่าพยายามอย่าทำเรื่องเหล่านี้   ปัจจุบันในศาสนาพุทธก็กำลังทำเรื่องที่มีความหมายมั่นเหล่านี้     เนื่องจากในเวลาที่องค์ศากยมุนีถ่ายทอดฝ่านั้น ไม่มีเรื่องเหล่านั้น

ศิษย์           ผมไม่ฝึกพลังกงอันนั้นแล้ว คิดจะเผาภาพที่แขวนไว้ทิ้งไป  แต่มีคนอยากฝึก ขอเอาไปแล้ว  ผมรู้ว่ามันไม่ดี ถ้ามอบให้คนไป จะผิดศีลธรรมหรือไม่

อาจารย์      เขาจะเอาให้ได้  ท่านได้ให้เขาไปแล้ว ก็อย่าไปสนใจเขาเลย   มอบให้คนไม่ดีแน่  สิ่งนั้นจะทำร้ายคนอื่นได้

ศิษย์           บางครั้งรูปของท่านปรมาจารย์ ปรากฏเป็นพระพุทธใหญ่สีทองเปล่งปลั่ง  บางครั้งมีสีหน้าเคร่งขรึม

อาจารย์      เป็นเช่นนี้แหละ  เมื่อท่านทำเรื่องที่ดี  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะแสดงออกมาอย่างยินดี  หรือเปล่งแสงออกมา   แต่เมื่อท่านทำเรื่องไม่ดี เขาก็จะเข้มงวดมาก

ศิษย์           เพื่อนสนิทเชื่อในหลักธรรมนอกรีต ควรจะเตือนให้เขาหยุดไหม

อาจารย์      สามารถจะเตือนให้เขาหยุด  เขาเชื่อลัทธินอกรีต หนทางคดงอ  ที่ไม่ให้เขาเรียน ท่านก็กำลังช่วยคนใช่ไหม   แต่ถ้าเขาจะเชื่อให้ได้  ท่านก็อย่าฝืนยุ่งเกี่ยวด้วย  ปล่อยเขาไปเถิด

ศิษย์           หลังจากจิตสำนึกรองไปแล้ว จิตสำนึกหลักจะอยู่ในสภาพอะไร

อาจารย์      หลังจากจิตสำนึกรองไปแล้วท่านจะไม่รู้   สภาวะอะไรก็ไม่มี

ศิษย์           การข้ามด่านกามารมณ์จะเกิดซ้ำได้อีกไหม

อาจารย์      ถูกต้อง  จะเกิดได้   ท่านข้ามได้ไม่ดีครั้งหนึ่ง   เขาก็จะเกิดซ้ำได้อีก   หากเดี๋ยวนี้ท่านรักษาใจไว้ได้ดี   ต่อไปจะเป็นอย่างไร  ยังจะทดสอบท่านได้อีก

ศิษย์           ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าหลังจบการศึกษานานแค่ไหน   ชายหญิงจึงจะสามารถอยู่ด้วยกันได้

อาจารย์      ในชั้นเรียนเราก็ไม่ได้บอกว่าท่านทั้งสอง ให้แยกจากกันนะ   เราพูดว่าท่านต้องปล่อยวางจิตใจนี้ให้จืดจาง   ในการดำรงชีพ  ปัจจุบันท่านยังสามารถรักษาการดำรงชีพตามปกติก็พอแล้ว  ขณะนี้ได้แต่กำหนดท่านอย่างนี้    ถ้าท่านบอกว่าหลังจากศึกษาจบแล้ว กลายเป็นพระสงฆ์  หรือพระสงฆ์ที่ไม่ใช่พระสงฆ์   เป็นแม่ชีที่ไม่ใช่แม่ชี  แต่คนรักของท่านไม่ได้ฝึกพลัง แล้วเอะอะจะขอหย่าร้างกับท่าน   ศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่าล้วนจะกลายเป็นแบบนี้ไปหมดหรือ ก็คือท่านอย่าคิดถึงมันมากเกินไป  ต่อไปหลังจากค่อยๆยกระดับขึ้นแล้ว ท่านจะทราบว่าควรจะทำอย่างไร

ศิษย์           ดิฉันเคยผ่าตัดมดลูกทิ้ง จะกระทบต่อการฝึกพลังไหม

อาจารย์      ไม่กระทบ  ร่างกายท่านที่เป็นสสารในมิตินี้ ได้ตัดมันทิ้งไปแล้ว  แต่ที่ฝั่งนั้นไม่ได้ตัดทิ้ง

ศิษย์           เมื่อบำเพ็ญซินซิ่งถึงระดับที่แน่นอนหนึ่ง ใช่หรือไม่ว่าจะไม่สามารถมีความนึกคิดที่ไม่ดีใดๆเกิดขึ้นอีก

อาจารย์      เนื่องจากตลอดขั้นตอนของการบำเพ็ญซินซิ่ง  ล้วนเป็นการทิ้งความนึกคิดที่ไม่ดีและตัณหานานาชนิด   ที่ว่าในท่ามกลางขั้นตอนของการบำเพ็ญท่านทิ้งมันไปได้หมดแล้ว ความนึกคิดอะไรที่ไม่ดี ไม่เกิดขึ้นทั้งนั้นแล้ว  เช่นนั้นท่านมิใช่บำเพ็ญถึงที่สุดแล้วหรือ ท่านก็สำเร็จสมบูรณ์แล้วใช่ไหม  ดังนั้นในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญยังจะเกิดขึ้นได้  บางครั้งความคิดที่ไม่ดีที่แวบออกมา นั่นเป็นเรื่องปกติ   แต่ก็ต้องระวังสิ่งเหล่านี้  ต้องระวังผลักไสมันไป

ศิษย์           ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะไปปัดกวาดสุสานเพื่อเซ่นไหว้วิญญาณบรรพชน หรือเยี่ยมคนป่วยหนักได้ไหม

อาจารย์      เรื่องนี้ถ้าจะต้องทำให้ได้ท่านก็ไปทำ   ในครอบครัวไม่มีใครทำท่านก็ไปทำ  แต่มีจุดหนึ่ง  เมื่อระดับชั้นของท่านสูงมากแล้ว  พลังงานแรงมากแล้วเมื่อท่านไปมันจะกลัว  จะกระแทกมันไปไกลมาก

ศิษย์           หลาน(ตาหรือยาย)คนเล็กของผมอายุแปดขวบ ตาทิพย์เปิด  แต่พอเก้าขวบกว่าก็ปิดแล้ว

อาจารย์      เมื่อเด็กควบคุมตัวเองได้ไม่ดี  หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวไม่ระวัง  มักจะบอกให้เด็กดูไปดูมา  เมื่อจิตยึดติดของท่านโตมากขึ้น  ย่อมง่ายที่จะทำลายเด็กแล้ว ข้าพเจ้าขอบอกท่าน ข้าพเจ้ามองเห็น เด็กๆของเราที่ฝึกพลัง   ส่วนมากล้วนแต่มีที่มา  ท่านอย่าทำลายเขาไปเสีย   ท่านบำเพ็ญขึ้นไปไม่ได้ แล้วยังทำลายเขาแล้ว ช่างเป็นบาปหนักยิ่งนัก

ศิษย์           ถ้าผู้ฝึกเราถูกคนชั่วกระทำความรุนแรง ควรโต้ตอบหรือไม่

อาจารย์      ผู้บำเพ็ญที่แท้จริงของเราจะไม่พบกับเรื่องอย่างนี้  เรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญ จะไม่จัดวางให้ท่าน

ศิษย์           คนในครอบครัวอยากจะศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า แต่ยังไม่ได้เริ่มศึกษาจะให้ฟังวิดีโอเทปได้ไหม

อาจารย์      คนที่อยากจะเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถฟังได้  แต่ถ้าให้คนที่ไม่เชื่อหรือคนที่ทำลายฝ่าตามชอบใจ    ไม่รับผิดชอบเที่ยวให้คนฟังตามชอบใจ  ข้าพเจ้าว่านั่นก็ใช้ไม่ได้  ดีไม่ดีเครื่องเล่นเทปของท่านก็จะเสียได้  เทปของท่านก็จะถูกลบทิ้ง

ศิษย์           ชุดฝึกพลังนี้ที่ท่านสอนทำไมต้องทำเก้ารอบ

อาจารย์      สายพุทธพูดว่า เก้า เก้า คืนสู่ความจริงแท้นะ จักรวาลนี้ของเรา  ปัจจุบันได้เกิดการดับสลายเก้าครั้งแล้ว   และประกอบขึ้นมาใหม่  เรื่องราวต่างๆในจักรวาลนี้  ล้วนแต่อิงเลขเก้านี้เป็นเลขที่ใหญ่ที่สุด

ศิษย์           บนตัวและส่วนศีรษะ สามารถจะมีฝ่าหลุนคงที่(ประจำที่)ได้ไหม

อาจารย์      นอกเหนือจากที่ท้องน้อย จะไม่มีฝ่าหลุนที่คงที่(ประจำที่)อยู่อีก   บนไหล่ บนศีรษะของท่าน นี้ล้วนเป็นการปรับร่างกายให้ท่าน  นั่นไม่ใช่ให้แก่ท่าน  หลังจากปรับร่างกายเสร็จแล้วก็ไม่จำเป็นแล้ว  เขาก็จะกลับไปแล้ว    องค์ที่ให้ท่านอย่างแท้จริงก็คือองค์นั้นที่อยู่ตรงท้องน้อย  ต่อไปเมื่อท่านฝึกพลังจะสามารถฝึกที่เป็นของตัวเองออกมาได้

ศิษย์           มีบางคน สามารถมองเห็นฝ่าเซินมากมายของท่านหลังจากที่ตาทิพย์ของเขาเปิด  บางคนบอกว่าในบ้านมีฝ่าเซินได้เพียงหนึ่งองค์

อาจารย์      นั่นไม่แน่  ฝ่าเซินของข้าพเจ้ามากจนนับไม่ถ้วน  มากเหลือเกินแล้ว

ศิษย์           ในขณะนั่งสมาธิจะทบทวนความผิดที่ผ่านมาของตน   ทำให้รู้และเข้าใจในคติโบราณ

อาจารย์      คติโบราณนั้นไม่ใช่หลักธรรมสำหรับบำเพ็ญ ท่านอย่ามัวคิดถึงคติโบราณ คติโบราณ  สิ่งที่คนสมัยโบราณพูดไม่แน่ว่าจะเป็นสัจธรรม มีแต่คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลนี้ จึงจะเป็นมาตรฐานเดียวในการประเมินคนดี หรือคนเลว   ความดีกับความเลวที่คนสมัยโบราณพูดนั้นเป็นมาตรฐานในหมู่คนธรรมดาสามัญ แน่ละที่บางคนพูดกันหรือนักปราชญ์พูดกันนั้นเป็นไปได้ว่าจะเป็นปรัชญาในระดับสูงมาก   ข้าพเจ้าว่าท่านอย่ายึดติดกับสิ่งเหล่านี้  การบำเพ็ญต้าฝ่านั้นท่านต้องทำตามที่ฝ่าของข้าพเจ้าชี้นำ

ศิษย์           ผู้ฝึกบางคนตาทิพย์เปิดแล้วสามารถพูดคุยกับฝ่าเซินของท่าน  บางครั้งฝ่าเซินของท่านจะพูดล้อเล่นด้วยโดยบังเอิญ

อาจารย์      นี่เป็นไปได้   พูดล้อเล่นหรือพูดในทางตรงกันข้ามให้ท่านรับรู้ได้   แต่เขาจะไม่พูดฝ่าอะไรให้กับท่านตรงๆ  หรือทำเรื่องอะไรให้กับท่าน

ศิษย์           ถ้าซินซิ่งผ่านด่านไม่ได้  ฝ่าหลุนจะเปลี่ยนรูปไหม

อาจารย์      ซินซิ่งข้ามไปไม่ได้ฝ่าหลุนจะไม่เปลี่ยนรูป   ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่าหลุน  ฝ่าหลุนจะเปลี่ยนรูปล้วนเกิดจากการฝึกแทรกหลักพลังอื่นเข้าไป

ศิษย์           เขตฐานของฝ่าหลุนต้าฝ่าสร้างขึ้นเมื่อไร

อาจารย์      ยังไม่ได้คิด   เขตฐานของฝ่าหลุนต้าฝ่าเมื่อสร้างสำเร็จแล้ว  ก็จะให้ศิษย์ที่บำเพ็ญเป็นหลักกับศิษย์ที่ออกบวช ดูแล   แต่ไม่แตะต้องเงินทองเช่นกัน

ศิษย์           ธาตุแท้ของฝ่าเซินกับกงเซิน(ร่างพลัง)ของอาจารย์ มีอะไรไม่เหมือนกัน

อาจารย์      พวกท่านไม่มีกงเซิน  รูปลักษณ์ของกงเซินของข้าพเจ้าเหมือนกับรูปลักษณ์ของข้าพเจ้าในขณะนี้  คือประกอบขึ้นมาจากพลังกง  ส่วนฝ่าเซินนั้นออกมาจากภายในกาย และก่อเกิดขึ้นจากพลังกงกับฝ่า  รูปลักษณ์ของฝ่าเซินมีผมสีน้ำเงินเป็นขดๆ  สวมชุดจีวรสีเหลือง  ส่วนกงเซินจะเหมือนกับข้าพเจ้า

ศิษย์           ในชีวิตผมลิขิตไว้ว่าไม่มีบุพเพสันนิวาส    ใช่หรือไม่ว่าถ้าไม่ผ่านการดำรงชีวิตอย่างคนธรรมดาสามัญก็จะไม่ได้มรรคผลถูกต้องตลอดไป

อาจารย์      ไม่มีเรื่องนี้   เราพูดแล้ว  แต่เดิมท่านก็สามารถปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ได้   จะปล่อยวางสิ่งเหล่า นี้ทางด้านรูปแบบก็ได้  ที่ข้าพเจ้าบอกท่านก็คือความหมายอย่างนี้   ก็เหมือนกับวันนั้นที่ข้าพเจ้าพูดถึงปัญหาการรับประทานเนื้อสัตว์   บางคนนั้นไม่กินเนื้อสัตว์  จะเกิดสภาพการณ์นี้หรือไม่ก็ไม่กินแล้ว  ข้าพเจ้าว่านั่นก็ดีมาก  ไม่กินก็ไม่ต้องกิน  ไม่เกิดจิตยึดติดนี้

ศิษย์           หลานคนเล็กวัยหกขวบของดิฉันไม่ได้ฝึกพลัง  ก็มองเห็นข้างบนระหว่างสองคิ้วมีฝ่าหลุนหมุนอยู่

อาจารย์      เมื่อครู่ข้าพเจ้าพูดแล้ว  มีผู้ฝึกพลังหลายคน  ที่จริงเมื่อก้าวเข้ามาที่นี่ก็คือวาสนา  บางคนนำเด็กมาด้วย  มีเด็กเล็กๆหลายคนนั้นที่มี   ล้วนมาได้ฝ่านี้ทั้งนั้น   เด็กบางคนมีเกินจีดีมาก  ที่สมควรจะได้ก็ได้แล้ว   คนหนึ่งได้ฝ่า ทั้งครอบครัวจะได้ประโยชน์

ศิษย์           ตอนบ่ายขณะที่อาจารย์กำลังบรรยาย    ผมมองเห็นตรงกลางห้องโถงใหญ่มี คนตัวใหญ่มากสองคน แต่มองไม่เห็นหน้ายืนอยู่ตรงนั้น

อาจารย์      นั่นเป็นกงเซินของข้าพเจ้า

ศิษย์           ในความฝันพบท่านอาจารย์สอนให้ผมฝึกชงกว้าน(ท่าฝึกชุดที่สาม)สองมือ

อาจารย์      นั่นคือฝ่าเซินของข้าพเจ้าสอนท่านฝึกพลัง

ศิษย์           ตอนกลางคืนฝันเห็นตัวเองฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  นั่นเป็นจิตสำนึกรองใช่ไหม

อาจารย์      ตัวท่านเองแจ่มแจ้งว่าตนเองกำลังอยู่ที่นั่นฝึก  นั่นก็คือจิตสำนึกหลักของท่านที่ฝึก

ศิษย์           บางครั้งผมสามารถอดทนได้ ควบคุมเรื่องราวไว้ได้  แต่ในใจกลับไม่สงบอยู่เสมอ

อาจารย์      ก็คือแม้โดยเปลือกนอกตัวท่านสามารถอดทนได้   แต่ในใจท่านยังไม่ปล่อยวาง  ก็ใช้ไม่ได้   ทุกท่านทราบคนที่บรรลุถึงระดับอรหันต์นั้น  เมื่อพบกับเรื่องอะไรจะไม่เก็บไว้ในใจ  ทุกสิ่งในหมู่คนธรรมดาสามัญต้องไม่ใส่ไว้ในใจเลย    ยิ้มแย้มอยู่เสมอ   ไม่ว่าจะเสียเปรียบเท่าไรคนเขาก็ยิ้มแย้มได้  ถ้าสามารถทำได้ตามนี้จริงๆ ท่านก็บรรลุถึงมรรคผลอรหันต์ชั้นต้นแล้ว

ศิษย์           ผู้ที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะสามารถฝึกกายบริหารไปด้วยได้ไหม

อาจารย์      ทำได้  ท่านอยากฝึกก็ฝึกไปเถอะ  ตอนนี้อะไรๆท่านก็วางได้แล้ว  ท่านก็มิเท่ากับบำเพ็ญสำเร็จแล้วหรือ   เมื่อท่านฝึกพลังไปเรื่อยๆ   ท่านก็จะสามารถมองบางอย่างให้จืดจางได้เอง   ถึงบอกให้ท่านไปทำท่านก็จะไม่ไปทำแล้ว

ศิษย์           ขณะฝึกสมาธิอยู่ ยุงกัดเอา จะใช้มือจับได้ไหม

อาจารย์      จับก็จับได้  แต่ดีที่สุดอย่าจับ   ขณะที่กำลังฝึกอยู่พอท่านจับ กลไกชี่บนตัวก็จะยุ่งเหยิงแล้ว   ที่จริงนี่ล้วนเป็นรูปแบบการรบกวนของมาร  อย่าสนใจมัน   ได้ชดใช้กรรมคืน ไม่ดีหรือ

ศิษย์           เมื่อฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว จะฝึกมวยไท่เก๊กด้วยได้ไหม

อาจารย์     ไม่ได้   มวยไท่เก๊ก ก็เป็นชี่กง  ไม่เพียงแต่มวยไท่เก๊กเป็นชี่กง  กระบี่ไท่เก๊ก  ยังมีมวยปากั้ว  มวยสิงอี้ ประเภทนี้ล้วนจัดเป็นชี่กง เช่นนั้นหากท่านว่าท่านอยากจะฝึก เช่นนั้นท่านก็ไปฝึกมันก็แล้วกัน   ข้าพเจ้าพูดที่นี่คือการรับผิดชอบต่อผู้ฝึกอย่างแท้จริง  จึงพูดถึงข้อกำหนดให้ฟัง   การบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูงต้องเดินแนวทางเดียว   ท่านว่าท่านคิดจะฝึกสิ่งนั้น   ข้าพเจ้าว่าท่านก็ไปได้   ถ้าท่านสามารถจะบำเพ็ญออกมาได้ก็ดี  ไม่ใช่จะต้องให้ท่านบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าให้ได้  ข้าพเจ้าเพียงแต่บอกท่านเรื่องการเดินแนวทางเดียว เรื่องการปฏิบัติต่อการบำเพ็ญอย่างเข้มงวด มวยไท่เก๊กก็ไม่เลว  แต่หลักธรรมด้านจิตใจส่วนนี้ของเขาไม่ได้ถ่ายทอดออกมา  ดังนั้นจึงได้แต่เสริมสร้างสุขภาพ   ไม่อาจบำเพ็ญได้   

ศิษย์           การเปิดการรับรู้ในระดับต่ำที่สุด สามารถไปโลกฝ่าหลุนได้หรือไม่

อาจารย์      การเปิดพลังในระดับชั้นต่ำ  ก็คือการเปิดพลังในระดับชั้นที่ต่ำมาก  เขาจะไปโลกฝ่าหลุนไม่ได้  และไปไม่ถึงระดับชั้นที่สูงกว่า  เพราะเขาสามารถจะบำเพ็ญได้สูงแค่นี้เอง

ศิษย์           ทำงานอยู่ในสหภาพแรงงานไม่อาจหลีกเลี่ยงการยืม การปรับย้ายบุคลากร จะทำอย่างไร

อาจารย์      ในทุกๆระดับชั้นล้วนสามารถเป็นคนดี   ล้วนสามารถฝึกพลังกง  ท่านทำงานอะไร นั่นเป็นงานในหมู่คนธรรมดาสามัญ    การทำตามกฎเกณฑ์ของหน่วยงานของท่าน  ท่านไม่น่าจะทำอะไรผิด  แต่ในการจัดการกับปัญหาท่านต้องทำดีต่อคน พยายามคำนึงถึงผู้อื่น   ท่านก็ทำไปตามต้าฝ่านี้   เรื่องที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้หากมาถามข้าพเจ้าทั้งหมด  จะให้ข้าพเจ้าบอกท่านทั้งหมด  ท่านยังจะบำเพ็ญอะไรได้  ท่านจะรับรู้อะไรได้ละ

ศิษย์           เพื่อนร่วมงานกับคนในครอบครัวผมล้วนไม่ได้เข้าร่วมชั้นเรียน   เวลาปกติพวกเขาจะฝึกพลังร่วมกับผู้ฝึกเก่าได้ไหม

อาจารย์      ปฏิบัติตนให้เหมือนผู้ฝึกพลัง  เมื่อถึงเวลาที่ควรจะได้ ก็จะได้ทั้งหมด   แต่ถ้าวันนี้ท่านออกจากชั้นเรียนไป ท่านไม่ปฏิบัติตนเป็นผู้ฝึกพลัง   ท่านก็จะไม่ได้อะไร

ศิษย์           การฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมใดบ้าง  กิจกรรมใดที่สามารถให้ความร่วมมือ

อาจารย์      เรื่องที่ไม่ดีก่อนอื่นท่านต้องละเว้น   ให้บำเพ็ญอย่างเป็นธรรมชาติในหมู่คนธรรมดาสามัญ  และอย่าเจตนาสร้างความขัดแย้ง   เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ฝ่า สามารถร่วมมือได้

ศิษย์           ศาสนกิจในวัด เป็นเรื่องอะไร

อาจารย์      มันเป็นรูปแบบของศาสนา  ไม่เกี่ยวข้องกับเรา

ศิษย์           ต้องฝึกถึงระดับใดจึงจะสามารถเข้าสู่โลกฝ่าหลุนได้

อาจารย์       บำเพ็ญสำเร็จ

ศิษย์           ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้วจะเต้นรำดิสโก้ได้ไหม

อาจารย์      เมื่อท่านยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ   ท่านจะรู้สึกยิ่งขึ้นเรื่อยๆว่ามันน่าเบื่อ   สุดท้ายจะพบว่าระบำชนิดนี้มีลักษณะมาร

ศิษย์           มีบางคนรู้สึกว่าตัวเองเล็กมากขณะที่ฝึกพลังอยู่

อาจารย์      ใช่   บางคนนั้นเดิมทีจิตหลักของเขาจะเล็กมาก   เมื่อเขานั่งยองๆ อยู่ที่หนีหวานกง (ต่อมไพเนียล) ท่านจะรู้สึกเล็กมาก  แต่ร่างกายนี้ก็สามารถเปลี่ยนเป็นใหญ่ได้  บางครั้งท่านรู้สึกว่าตนเองสูงใหญ่เทียมฟ้า    นี่ล้วนแต่ปกติ    ร่างกายในอีกมิติหนึ่งสามารถผันแปรได้

ศิษย์           บางคนโมโหง่ายมากเพียงแค่เรื่องเล็กๆ  อย่างนี้พลังกงจะโตขึ้นได้ไหม

อาจารย์      เรื่องเล็กก็ผ่านไปไม่ได้ และโกรธ ยังจะคิดให้พลังโตขึ้นได้หรือ   พวกเราควรปฏิบัติตนเป็นคนฝึกพลัง   ถ้านานๆครั้งอารมณ์เสียเล็กน้อยกับเรื่องเล็กๆนั่นก็ไม่กระทบ   แต่ท่านจะเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยก็ไม่ถูก  ท่านต้องยกระดับ

ศิษย์           นิตยสาร “หน้าต่างวรรณกรรม” ฉบับที่สี่  มีทัศนะเหมือนกับต้าฝ่าของท่านหรือไม่

อาจารย์      มันไม่อาจนำมาเทียบกับฝ่าของข้าพเจ้าได้   ฝ่าของข้าพเจ้าก็มีเนื้อหาตามที่ข้าพเจ้าพูด  ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้ว   หน้าต่างวรรณกรรม เขียนบทความจากมุมของวรรณศิลป์ และศิลปะ ศิลปะจะบรรยายให้เหนือชีวิตจริง หรือจับเอาจุดใดจุดหนึ่งไปขยายความให้มันใหญ่ขึ้น หรือใช้วิธีการของมันแสดงออกมา ทุกท่านอย่าไปฝึกตามสิ่งนี้   หรือทำตามการชี้นำของสิ่งนี้ นั่นก็ไม่ถูก   เพราะมันเป็นผลงานด้านศิลปะ  ดังนั้นในนั้นจึงมีสิ่งที่ปั้นแต่งขึ้น  หากจะบำเพ็ญก็ให้ทำตามการชี้นำของฝ่านี้

ศิษย์           ท่านเคยอ่านคัมภีร์ของทิเบตไหม

อาจารย์      ของทิเบตข้าพเจ้าไม่ดูเลย    พระสูตรของแดนฮั่นข้าพเจ้าก็ไม่อ่าน

ศิษย์           ขณะนั่งสมาธิในท่าเจียอิ้นรู้สึกว่าใบหน้ากับแขนผ่อนคลายไม่ได้  ไม่เจียอิ้นได้ไหม

อาจารย์      สองแขนผ่อนคลายไม่ได้นั่นเป็นปกติ   ในระหว่างขั้นตอนของการไหลเวียนของกระแสพลังงาน เกิดพลังแม่เหล็กชนิดหนึ่ง จึงดูดแน่นไว้ ท่านไม่เจียอิ้นจะได้หรือ   ควรทำอย่างไรก็ทำอย่างไร  หากท่านไม่เจียอิ้นก็ไม่เกิดกระแสพลังงานนี้  หากกระแสพลังงานนี้ไม่ไหลผ่านแล้วจะผันแปรตัวท่านกับพลังกงได้หรือ

ศิษย์           หนังสือชี่กงที่มีอยู่เมื่อก่อนนี้จะจัดการอย่างไรดี

อาจารย์      ท่านคิดว่าจะจัดการอย่างไรดีก็จัดการอย่างไร  ข้าพเจ้ารู้สึกว่าขจัดมารนั้นไปให้ถึงที่สุดจะดีกว่า

ศิษย์           ท่านทำเรื่องแทนพระพุทธองค์ใดหรือเปล่า

อาจารย์      ข้าพเจ้ามีเรื่องของข้าพเจ้า   พวกเขามีเรื่องของพวกเขา  ไม่ใช่ใครทำแทนใคร   การถ่ายทอดฝ่าช่วยเหลือคนเรื่องนี้ไม่มีคนทำแทนได้

ศิษย์           ขณะที่ผมฝึกพลังหาวนอนติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า

อาจารย์      เกิดจากการที่สมองของท่านอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการปรับแก้   หรือในขณะฝึกพลังเมื่อชี่กรอกเข้าไปมากๆ ก็จะเกิดสภาพการณ์นี้  เป็นเรื่องปกติเหลือเกิน

ศิษย์           ขณะที่ฝึกสมาธิชุดที่ห้า เวลารำมือออกแรงที่แขนท่อนล่างหรือทั้งแขน

อาจารย์      การรำมือมีลักษณะเฉพาะอันหนึ่งก็คือให้แขนท่อนล่างนำพาแขนท่อนบน   ส่วนหลักพลังสายเต๋านั้นมักจะมาจากวิชาวิทยายุทธ์  ท่าเคลื่อนไหวของเขานั้น  มักจะเป็นแขนท่อนบนนำพาแขนท่อนล่าง  แต่การรำมือของเรา แขนท่อนล่างจะนำพาแขนท่อนบน  แขนท่อนล่างเคลื่อนไหว  โดยมันจะพาแขนท่อนบนให้เคลื่อนไหว  ดังนั้นเวลารำมือ ให้แขนท่อนล่างออกแรงเล็กน้อย

ศิษย์           ขณะหลับอยู่ รู้ตัวชัดๆว่าทำท่าเคลื่อนไหวไปตามกลไก  รำมือขึ้นมา ผมเห็นว่าดีมาก นี่เป็นเรื่องอย่างไรกัน

อาจารย์      ก็คือเกิดจากจิตยินดี   หากท่าเคลื่อนไหวของท่านไม่ใช่ท่าเคลื่อนไหวของฝ่าหลุนต้าฝ่าเรา  ให้ท่านรีบหยุดทันที   เพราะนี่คือมารกำลังรบกวนท่านอยู่   มันคิดจะแทรกสิ่งเลอะเทอะยุ่งเหยิงเข้าไปในพลังกงของท่าน ทำลายท่าน  ดังนั้นท่าเคลื่อนไหวที่ข้าพเจ้าไม่ได้สอนท่านก็อย่าทำ ส่วนการรำมือชุดใหญ่นั้น  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  ท่านจะทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด  หากท่านทำแล้วก็คือมารที่รบกวนท่าน  ดูแลท่าน  ให้ร้ายท่าน  ใส่สิ่งของเข้ามาให้  ท่านอย่าได้เกิดจิตยินดีขึ้นมา  จุดนี้ท่านก็ยึดกุมไว้ไม่ได้   ต่อไปหากท่านได้เห็นพวกที่บินไปบินมา มีความสามารถมาก  ท่านก็ไปกับเขาแล้ว ท่านก็จะจบสิ้น

ศิษย์           ความนัยของมรรคผลถูกต้องคืออะไร

อาจารย์      ความนัยของมรรคผลถูกต้องก็คือการบรรลุความสำเร็จสมบูรณ์ในการบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง  ก็คือได้มรรคผลถูกต้อง   มรรคผลถูกต้องนี้มีการแบ่งมรรคผลออกเป็น  มรรคผลอรหันต์  มรรคผลพระโพธิสัตว์ ยังมีที่ได้มรรคผลพุทธะ   ล้วนเรียกว่ามรรคผล

ศิษย์           ในความฝันหรือในสมาธิจะแยกแยะอย่างไร ระหว่างพระโพธิสัตว์จริงกับปลอม  หรือฝ่าเซินจริงกับปลอม

อาจารย์      ฝ่าเซินของข้าพเจ้านั้น ไม่ว่าใครจะแปลงอย่างไรก็ไม่เหมือน  ท่านมองให้ละเอียดจะรู้ว่าไม่เหมือน  ไม่อาจแปลงให้เหมือนได้    หากแยกแยะไม่ออกจริงๆให้เรียกชื่อข้าพเจ้า  ส่วนพระโพธิสัตว์นั้นยากจะบอกได้

ศิษย์           ระหว่างผู้รับผิดชอบกับผู้ช่วยฝึกสอนบางคนทะเลาะกันไม่สามัคคีกัน

อาจารย์      ปรากฏการณ์ชนิดนี้ในฝ่าหลุนต้าฝ่าของเราดูเหมือนจะมีไม่มาก   พูดถึงว่าระหว่างผู้ช่วยฝึกสอนด้วยกันมีความเห็นที่ไม่เหมือนกันบ้างในการมองปัญหา   ซึ่งเป็นโอกาสในการยกระดับซินซิ่ง  เราก็ไม่ได้พูดศัพท์คำว่า สามัคคีหรือไม่สามัคคี   เราล้วนพูดเรื่องการบำเพ็ญซินซิ่ง  บำเพ็ญตนเอง  ใครที่ทำไม่ดีนั่นเป็นปัญหาของตัวเขาเอง   ใครแสดงความโกรธกับคนเขา  ใครที่นินทาคนเขา  จะดีหรือไม่ดีก็คือตนเอง เขาไม่บำเพ็ญตนเอง  บรรดาคนที่ทำเช่นนี้ซินซิ่งของเขาก็ไม่ดี  อย่างน้อยที่สุดต่อปัญหานี้ เขาก็ใช้ไม่ได้

ศิษย์           ผมเป็นผู้ฝึกเก่า ในชั้นเรียนครั้งนี้ ในทันใดก็มีพลังงานอย่างหนึ่งอยากจะให้ผมละทิ้งฝ่าหลุนต้าฝ่า  และทำให้ผมเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมาจริงๆ

อาจารย์      นั่นก็พูดได้ชัดว่าท่านเอาชนะมันได้   บรรดาสภาพการณ์ชนิดนี้ที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลัง  จะต้องยืนหยัดบำเพ็ญต้าฝ่า  แยกแยะตัวเองให้ชัด  มันเป็นกรรมทางความคิดและฟู่ถี่ที่ทำ   ขอเพียงสามารถแยกแยะว่านั่นไม่ใช่ตนเอง  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะช่วยชำระให้

ศิษย์           การรวมกลุ่มฝึกพลัง  กับการฝึกพลังตามลำพังจะได้ผลเหมือนกันหรือไม่

อาจารย์      เหมือนกัน  การรวมกลุ่มฝึกพลัง ที่สำคัญคือ ทุกท่านอยู่ด้วยกันปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน  ยกระดับได้เร็วหน่อย   และเป็นประโยชน์ ต่อการเสริมความชื่นชอบการฝึกพลังนั้นของท่าน   จะฝึกตามลำพังหรือปิดประตูฝึก  ดูเหมือนตัวเองจะเก็บตัวมากไปหน่อย  ก็เป็นอย่างนี้  ที่จริงล้วนเหมือนกัน 

ศิษย์           คนไม่เข้าใจการฝึกพลังของเรา  เราสามารถจะทำตามที่เราต้องการโดยไม่สนใจเขาได้ไหม

อาจารย์      อย่างน้อยที่สุดท่านต้องทำให้คนเข้าใจให้ได้   จะเอาแต่แสดงออกอย่างเหนือสามัญวิสัยนั้นใช้ไม่ได้  ต้องระวังปัญหานี้  ในหมู่คนธรรมดาสามัญ ท่านต้องระวังปฏิบัติให้เข้ากับคนธรรมดาสามัญ   โดยเปลือกนอกไม่ให้มีความแตกต่างระหว่างคนกับคนด้วยกัน  แต่ในใจตนต้องบำเพ็ญ  ยกระดับตัวท่านเอง

ศิษย์           เวลาที่ทำท่าประสานมือหน้าท้องน้อย ถ้ามือแตะกันจะทำให้พลังลดลงหรือไม่

อาจารย์      มืออย่าแตะกัน พลังจะไม่ลดลง แต่จะทำให้กลไกยุ่งเหยิงได้ง่าย  ท่านฝึกพลังเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลไกชี่

ศิษย์           หลังจากนั่งสมาธิจิตใจไม่สงบ   มีนิสัยสันโดษเอาแต่ใจตัว

อาจารย์      ไม่ว่าอย่างไรเวลาที่เกิดสภาพการณ์ชนิดนี้  ให้แน่วแน่ในการบำเพ็ญต้าฝ่า  ท่านต้องยึดกุมตัวเองให้ดี  ขณะเดียวกันต้องแยกแยะตนเองกับกรรมทางความคิดให้ชัดเจน

ศิษย์           หลังจากฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ผ่านไประยะเวลาหนึ่งรู้สึกว่าขาแข็งขึ้นเรื่อยๆ  เพราะอะไร

อาจารย์      มีสภาพการณ์สองชนิด  ชนิดหนึ่งคือผู้ฝึกเรา ขณะที่ฝึกพลังได้ทำเรื่องที่ผิดไปแล้ว  อีกชนิดหนึ่งคือ เป็นระยะเวลานานที่ฝึกพลังแต่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานของผู้ฝึกพลัง  ซินซิ่งขึ้นไปไม่ได้  ล้วนจะเกิดสภาพการณ์นี้   ทั้งหมดที่เป็นการฝึกพลังแล้วพบว่าตนเองถอยหลัง  มีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง   ท่านต้องค้นหาจากซินซิ่ง  รับรองว่าท่านจะสามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ศิษย์           การต่อสู้ทางความคิดของคน เป็นจิตสำนึกหลักหรือจิตสำนึกรอง

อาจารย์      จิตสำนึกรอง  ทัศนคติต่างๆของคนกับกรรมทางความคิด หรือฟู่ถี่(ตัวสิง)ล้วนจะเกิดการต่อสู้กัน   แต่ผู้บำเพ็ญโดยทั่วไป ส่วนมากคือทัศนคติของท่าน   ในเวลาที่ทัศนคติของตัวท่านกับกรรมทางความคิดถูกสลายไปจะเกิดการต่อสู้   อย่างนี้ไม่ดี  อย่างนั้นไม่ดี  เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นในความคิดของท่านเอง

ศิษย์           อุปนิสัยกำหนดโดยจิตหลักหรือเป็นการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่

อาจารย์      อุปนิสัยของคน มีความสัมพันธ์โดยตรงกับพ่อแม่   จิตหลักของท่านมีบทบาทสำคัญในการนำ แต่สิ่งนี้ที่พ่อแม่ของท่านมีติดตัวอยู่ก็บังเกิดผลได้ในระดับหนึ่ง

ศิษย์           ในวารสาร “หน้าต่างวรรณกรรม”  บทความชื่อ “อิทธิฤทธิ์ต้าฝ่า”นั้นอาจารย์เห็นชอบให้พิมพ์ออกมาหรือไม่

อาจารย์      ไม่ได้ผ่านการตรวจต้นฉบับ  และไม่ได้บอกกล่าวข้าพเจ้าก่อน   สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงผลงานวรรณกรรม   ท่านไม่ต้องใส่ใจมัน  มันเป็นเพียงรูปแบบของนิทานอย่างหนึ่ง   ในอนาคตเมื่อมีความจำเป็น  ข้าพเจ้าสามารถจะเขียนชีวประวัติของขั้นตอนการบำเพ็ญของข้าพเจ้าและเรื่องเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าทำออกมาให้ทุกท่าน  ขณะนี้ยังไม่เหมาะ  โอกาสยังไม่พร้อม  เพราะมีหลายอย่างที่สูงมาก  หากเขียนออกมาคนทั่วไปจะรับไม่ได้

ศิษย์           ท่านมองอย่างไรเกี่ยวกับ การเล่นหุ้นกับความจำเป็นในการยังชีพ          

อาจารย์      ท่านทำการค้าจะดีมาก  การเล่นหุ้นคือการพนัน  เป็นการเอาเงินคนอื่น  คนที่เล่นหุ้นบางคนสูญเสียทรัพย์สินจนหมด ท่านรู้หรือไม่ว่าความรู้สึกนี้รสชาติเป็นอย่างไร ผู้บำเพ็ญจะทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้    แล้วจะบำเพ็ญจิตใจนั้นได้อย่างไรกัน   ยังมีการเล่นไพ่   จะเล่นไพ่ได้หรือไม่  ท่านยังจะต้องถามข้าพเจ้าอีกหรือ  อาจารย์ฉันเล่นพนันได้หรือไม่   ผู้ฝึกพลังจะไปประเมินซินซิ่งนี้ของท่านอย่างไรดีนะ  ท่านเองได้ทำตามต้าฝ่านี้แล้วหรือ

ศิษย์           มีผู้ฝึกพลังคนหนึ่งพูดว่าชีวิตเดิมของผมคือสุนัขจิ้งจอก   จากนั้นพอฝึกพลังก็จะคิดถึงสุนัขจิ้งจอกเสมอ

อาจารย์    ท่านอย่าฟังสิ่งนี้ที่เขาพูด    เขาคงจะเป็นฟู่ถี่สุนัขจิ้งจอกเสียมากกว่า   เขาพูดว่าท่านเป็นอะไรท่านก็จะเป็นอะไรกระนั้นหรือ ขอบอกทุกท่าน จิตหลักของท่านในชาติก่อนเป็นอะไรก็ไม่มีความหมาย   ชาตินี้ภพนี้ ท่านสามารถบำเพ็ญ ก็เป็นเรื่องของชาตินี้ภพนี้    รอจนท่านบำเพ็ญถึงระดับที่แน่นอนหนึ่ง  สิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ของท่านก็จะถูกถอนทิ้งไปหมด สื่อสัญญาณแหล่านี้จะถูกถอนทิ้งไปหมด ไม่ต้องห่วง  ฝ่าที่เราบรรยายวันนี้เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็ขอบอกทุกท่านว่า คนกลับชาติมาเกิดเป็นคนมีไม่มาก การเวียนว่ายตายเกิดหกทางก็เป็นอย่างนี้

ศิษย์           ไปวัดซื้อยันต์สีเหลืองขับไล่สิ่งชั่วร้ายกลับบ้านได้ไหม

อาจารย์      ส่วนใหญ่ของมันก็เป็นสิ่งชั่วร้ายโดยตัวมันเอง   ในบ้านจะบูชาสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรนะ  ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอะไรละ  ยุคธรรมะปลายในวัดก็ยุ่งเหยิงมาก   องค์ศากยมุนีไม่ได้สอนศิษย์ให้ทำเรื่องที่มีความหมายมั่นเหล่านี้ ซึ่งสร้างความยุ่งเหยิงให้กับฝ่า  บนตัวพระสงฆ์บางรูปก็มีฟู่ถี่  จึงขายให้ท่านเพื่อหาเงิน   ถ้าของนั้นของเขามีฟู่ถี่จะเป็นอย่างไรละ

ศิษย์           ฝ่าหลุนที่อาจารย์ให้ต่างจากที่ตัวเองฝึกออกมาอย่างไร

อาจารย์      ท่านยังฝึกออกมาไม่ได้เป็นการชั่วคราว   ท่านยังต้องไปบำเพ็ญให้ดีๆ  เมื่อสำเร็จสมบูรณ์แล้วท่านจึงจะมีของตัวเอง

ศิษย์           วิธีเฝ้าดูใจของลัทธิเซนมีประโยชน์ต่อการเข้าสู่ความสงบหรือไม่

อาจารย์      เช่นนั้นท่านก็ไปบำเพ็ญลัทธิเซนแล้ว   เราบอกท่านว่าไม่คิดอะไร   ให้ปฏิบัติตามวิธีการบำเพ็ญของเรา   วิธีการบำเพ็ญมากมายเป็นการบำเพ็ญจิตสำนึกรอง  ลัทธิเซนหลังจากฮุ่ยเหนิงแล้ว  วิธีการบำเพ็ญก็ยุ่งเหยิงแล้ว  สุดขั้วมากขึ้นเรื่อยๆ  เลอะเทอะยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  ข้างบนล้วนไม่ยอมรับแล้ว  เหตุใดท่านยังจะบำเพ็ญตามลัทธิเซนอีกละ   ในศาสนาไม่ว่านิกายใดก็ไม่อาจรบกวนซึ่งกันและกัน   ไม่บำเพ็ญปะปนซึ่งกันและกัน   พูดเรื่องไม่เดินสองแนวทาง  เหตุใดจนถึงขณะนี้ข้าพเจ้าบรรยายมาจนถึงวันนี้ท่านยังมีปัญหานี้ละ  ทำอย่างนี้จะใช้ได้หรือ

ศิษย์           ถ้าหากมีคนที่ฝ่าหลุนเปลี่ยนรูปไปแล้วจะทำอย่างไรดี

อาจารย์      ผู้ที่ฝ่าหลุนเปลี่ยนรูปไปแล้วส่วนมาก  เขาก็ไม่อาจบำเพ็ญได้อีกแล้ว  เพราะไม่ว่าจะพูดจากความหมายใดๆ เขาได้ทำเรื่องเลวแล้ว  ทำเรื่องที่เลวมาก  แต่มีอยู่ส่วนหนึ่ง  ที่ผ่านมา มีฝ่าหลุนที่เปลี่ยนรูปไปแล้ว สามารถปรับกลับมาได้   แต่ทั้งหมดที่กลับมาได้อย่างนี้ จะไม่เหมือนกับฝ่าหลุนที่ข้าพเจ้าใส่ให้แล้ว   สิ่งที่ใส่ให้ท่านเกือบจะเหมือนกลไกชนิดนี้ที่ก่อเกิดฝ่าหลุน  ท่านค่อยๆไปบำเพ็ญเถอะ   ไม่อาจจะให้ท่านอยู่ร่ำไป  นั่นจะไหวหรือ   เมื่อท่านฝึกพลังเรื่อยไปเขาก็สามารถก่อเกิดขึ้นมาได้  แต่ท่านต้องทุ่มเทให้มากด้วยตัวเอง

ศิษย์           บางครั้งในขณะฝึกพลังรู้สึกว่าพื้นดินกำลังหมุน

อาจารย์      เป็นเรื่องปกติ  ต่อให้ภูเขาโอนเอน พื้นดินสั่นสะเทือน ก็เป็นเรื่องปกติทั้งนั้น  แต่กายเนื้อของท่านไม่ขยับ

ศิษย์           ตาทิพย์เปิดถึงระดับทิพยจักษุจะสามารถเห็นฝ่าหลุนได้ไหม

อาจารย์      มองไม่เห็น   ต้องอยู่ในระดับปัญญาจักษุ   ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเปิดให้ท่านที่ระดับปัญญาจักษุ เพราะฝ่าหลุนคงอยู่ในอีกมิติ

ศิษย์           เดิมทีเราฝึกพลังชนิดนั้นๆ จะกระทบต่อฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือไม่

อาจารย์      เดิมเคยฝึกพลังอะไรก็ไม่เป็นไร   ท่านอยู่ในสนามของข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าก็ปรับให้ท่านข้ามมาแล้ว   ผู้ที่บำเพ็ญต้าฝ่าอย่างแท้จริง   แม้แต่ท่านที่ไม่ได้ผ่านชั้นเรียนซึ่งข้าพเจ้าปรับให้ด้วยตนเอง  แต่ในสนามฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เมื่อบำเพ็ญจริง ก็จะได้รับการปรับเหมือนกัน

ศิษย์           ปกติผมจะนวดศีรษะให้กับคนอื่น   รักษาโรคปวดศีรษะ

อาจารย์      ข้าพเจ้าได้บอกมาตรฐานของผู้ฝึกพลังแล้ว   ท่านรู้สึกว่าในฐานะผู้ฝึกพลังจะทำอย่างไรดีท่านก็ทำอย่างไร   เมื่อรักษาโรคก็ไม่ใช่ศิษย์ของข้าพเจ้า

ศิษย์           นั่งสมาธิในระหว่างอยู่ในชั้นเรียนได้เห็นฝ่าเซินของอาจารย์กับทัศนียภาพอย่างอื่น  หลังจากชั้นเรียนก็มองไม่เห็นแล้ว   เป็นเพราะฝ่าเซินของอาจารย์จากไปแล้วหรือ

อาจารย์      ท่านอยู่ในห้องนี้ สภาวะจิตใจของท่านดีมาก   บรรลุถึงมาตรฐานระดับหนึ่ง  หลังจากท่านออกไปแล้ว ท่านก็ย่อหย่อนแล้ว   ดังนั้นยังต้องบำเพ็ญขึ้นไปอย่างองอาจก้าวหน้า   แต่ตาทิพย์ที่อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมจะมองไม่เห็น   และอาจทำเพื่อให้ท่านละจิตยึดติดของท่าน

ศิษย์           ผมคิดจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับท่านและฝ่าหลุนต้าฝ่า  ขอให้ท่านปรมาจารย์อนุญาตด้วย.....

อาจารย์      ข้าพเจ้าไม่ชอบให้คนอื่นเขียนเกี่ยวกับข้าพเจ้า   ข้าพเจ้าถ่ายทอดฝ่านี้ให้ทุกท่านศึกษาฝ่าเท่านั้น

ศิษย์           ผมเป็นแพทย์ที่เคยเรียนวิชาฝังเข็ม  สามารถใช้การฝังเข็มรักษาโรคได้ไหม

อาจารย์      แพทย์แผนจีน  แพทย์แผนตะวันตกรักษาโรค นั้นเป็นเรื่องปกติ  ที่ข้าพเจ้าพูดคือไม่ให้ใช้พลังกงรักษาโรค

ศิษย์           ลูกสาวดิฉันอายุ ๑๑ ปีไม่ได้มาร่วมชั้นเรียน   เมื่อก่อนมีโรค  เล่าเรียนไม่ดี   ผ่านการเข้าชั้นเรียนของดิฉัน โรคของลูกสาวก็หายแล้ว  แต่อารมณ์ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย

อาจารย์      นี่ต้องค่อยๆสอนลูก   บอกเหตุผลนี้ที่ข้าพเจ้าบรรยายให้เธอฟัง  อายุ ๑๑ ปีสามารถศึกษาฝ่าได้แล้ว

 

บทส่งท้าย

ไม่มีอะไรที่จะพูดอีกแล้ว   เนื่องจากข้าพเจ้ารู้สึกว่า ที่ควรพูดก็ พูดไปหมดแล้ว  ชั้นเรียนครั้งนี้ของเรา  มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ไม่ได้พูดในชั้นเรียนครั้งก่อนๆ  เราก็พูดหมดแล้วในครั้งนี้   ที่สำคัญคือข้าพเจ้าคิดว่า  เวลาที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดพลังกงนี้ก็จบลงแล้วโดยพื้นฐาน    ดังนั้นจึงคิดจะเหลือสิ่งที่แท้จริงทั้งหมดไว้ให้ทุกท่าน   เพื่อให้ความสะดวกแก่ทุกท่าน ให้มีพลังกงและฝ่านี้ ชี้นำทุกท่าน ในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญจากนี้ไป ในระหว่างขั้นตอนทั้งหมดของการถ่ายทอดพลังกง   เราก็พยายามที่จะรับผิดชอบต่อทุกท่าน  ขณะเดียวกันก็รับผิดชอบต่อสังคม   เช่นนี้เราจึงสามารถได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก    ที่จริงเราก็พยายามทำตามหลักการอย่างนี้พูดถึงว่าทำได้ดีหรือไม่ดี ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจะพูดแล้ว   เพราะจะทำได้ดีหรือไม่  ที่ข้าพเจ้าทำนั้นเป็นอย่างไร ได้รับผิดชอบต่อทุกท่านหรือไม่  ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ย่อมมีข้อสรุปได้เอง   ดังนั้นข้าพเจ้าจะไม่พูดเรื่องเหล่านี้อีก แน่ละความปรารถนาของข้าพเจ้าก็คือ อยากจะถ่ายทอดสิ่งนี้ออกมา  ให้พวกเรามากยิ่งขึ้นได้รับประโยชน์ ผู้ที่คิดจะบำเพ็ญอย่างแท้จริง  จะมีฝ่าที่สามารถบำเพ็ญขึ้นไปได้   ขณะเดียวกันในระหว่างขั้นตอนของการถ่ายทอดฝ่า  ข้าพเจ้าก็ได้พูดว่า ในฐานะคนๆหนึ่ง ควรเป็นคนอย่างไร   และหวังว่าหลังจบจากชั้นเรียนของเรานี้  คนที่สามารถปฏิบัติตามฝ่านี้ได้  อย่างน้อยที่สุดก็จะเป็นคนดีคนหนึ่งได้  ที่จริงท่านสามารถเป็นคนดีคนหนึ่งได้แล้ว  ข้าพเจ้าทราบ  ก็คืออยู่ที่นี่ ท่านไม่คิดจะบำเพ็ญ  จากนี้ไปท่านก็จะเป็นคนดีได้อย่างแน่นอน เช่นนี้แล้วย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมของเรา 

            ในระหว่างขั้นตอนของการถ่ายทอดพลัง ถ่ายทอดฝ่า  แน่ละก็มีเรื่องที่ไม่ราบรื่น   มีการรบกวนในด้านต่างๆอย่างมาก  แต่ในชั้นเรียนที่จี่หนาน   เนื่องจากหน่วยงานผู้จัดของเราและบรรดาผู้นำของสนามกีฬาแห่งนี้    และผู้นำของสมาคมชี่กงทั้งระดับมณฑลและเมืองที่ได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกๆด้าน  ทำให้การจัดชั้นเรียนนี้ของเราค่อนข้างสมบูรณ์   ในระหว่างการจัดชั้นเรียน   สิ่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าได้พูดไป  ทั้งหมดคือการชี้นำให้ทุกท่านฝึกพลัง   ชี้นำการบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง   ในการบรรยายฝ่าที่ผ่านมาไม่มีใครพูดสิ่งเหล่านี้ กระทั่งบางคนของเรานั้น  ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่  สิ่งที่เราบรรยายในวันนี้ มีความชัดเจนมากแล้ว  เป็นการบรรยายโดยเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันและวิชาสรีรศาสตร์ ไม่เหมือนสิ่งที่พูดกันในอดีต ซึ่งคลุมเครือ   ของเราที่นี่พูดกันอย่างแจ่มแจ้งแล้ว   และระดับชั้นที่พูดก็สูงมาก  เช่นนี้หนา ที่สำคัญคือเพื่อทุกท่าน  ให้ท่านบำเพ็ญได้   ในอนาคตสามารถบำเพ็ญยกระดับขึ้นไปได้อย่างแท้จริง  นี้คือจุดมุ่งหมายของข้าพเจ้า

        ในระหว่างขั้นตอนของการถ่ายทอดพลัง   คนจำนวนมากรู้สึกว่าดีมาก   แต่ปฏิบัติได้ยาก  ที่จริงข้าพเจ้าว่า ยากหรือไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนพูด   คนธรรมดาสามัญทั่วๆไปคนหนึ่งที่ไม่คิดจะบำเพ็ญ  เขาจะพูด เขาจะรู้สึกว่าการบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าช่างยากเหลือเกิน  ไม่น่าเชื่อ  บำเพ็ญไม่ไหว  เขาเป็นคนธรรมดาสามัญ  เขาไม่คิดจะบำเพ็ญจึงเห็นว่ายากมาก   ส่วนคนที่บำเพ็ญอย่างแท้จริง   ข้าพเจ้าว่า ก็ง่ายมาก  ไม่ใช่สิ่งที่ไม่อาจจะเอื้อมถึงได้   ที่จริงผู้ที่กำลังนั่งอยู่ มีผู้ฝึกเก่าหลายคน  และยังมีผู้ฝึกเก่าที่ไม่ได้มา   ได้บำเพ็ญไปถึงระดับที่สูงอย่างยิ่งแล้ว  แต่ข้าพเจ้าไม่ได้พูดสิ่งเหล่านี้กับพวกท่าน  ที่สำคัญคือเกรงว่าพวกท่านจะเกิดจิตยึดติด  ลำพองใจ  ซึ่งจะกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของแรงพลังของพวกท่าน เพราะในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะบำเพ็ญอย่างแท้จริง  เขาสามารถจะอดทนได้  สามารถปล่อยวางจิตใจดวงนั้นต่อหน้าชื่อเสียงและผลประโยชน์นานาชนิด  สามารถมองมันให้จืดจางมากๆได้  ที่จริงข้าพเจ้าว่า แม้เพียงทำให้ได้ถึงจุดนี้  คนจะก็รู้สึกว่ายากมากแล้ว   บรรดาคนที่พูดว่ายาก  ก็คือเขาปล่อยวางสิ่งเหล่านี้ไม่ได้  หลักพลังของการบำเพ็ญโดยตัวเองนั้นไม่ยาก   การยกระดับโดยตัวเองนั้นก็ไม่ยาก   ก็คือใจคนปล่อยวางไม่ได้จึงพูดว่ายาก เพราะอยู่ท่ามกลางผลประโยชน์ตรงหน้า ยากที่จะปล่อยวางมันลงได้ ผลประโยชน์นี้ก็อยู่ตรงนี้แล้ว ท่านว่าจิตใจดวงนี้  เขาจะปล่อยวางได้อย่างไรละ   ที่เขาเข้าใจว่ายาก ที่จริงก็คือยากอยู่ตรงนี้  เวลาที่พวกเราเกิดความขัดแย้งระหว่างคนด้วยกัน  อดทนไม่ได้   อดทนไม่ไหวต่อความโกรธนี้  กระทั่งไม่อาจปฏิบัติตนเป็นผู้ฝึกพลัง   ข้าพเจ้าว่านี่ใช้ไม่ได้   ที่จริงพวกเราในฐานะผู้ฝึกพลัง  ไม่เชื่อท่านก็ลองทำดู   ในอดีตเมื่อข้าพเจ้าบำเพ็ญอยู่ก็มีคนระดับสูงเคยพูดอย่างนี้กับข้าพเจ้า   ก็คือ อย่าเห็นว่าเรื่องนี้ท่านรู้สึกว่ายากมาก  อดทนได้ยากก็สามารถอดทนได้  เมื่อท่านเห็นว่าทำไม่ได้  ทำได้ยากก็อาจจะทำได้   ที่จริงก็เป็นเช่นนี้   ไม่เชื่อทุกท่านกลับบ้านไปลองทำดู   ในระหว่างความยากลำบากอย่างแท้จริงหรือระหว่างที่ข้ามด่าน  ท่านลองทำดู  ที่ทนได้ยากก็ลองทนดู   ถ้าเห็นว่าทำไม่ได้  ทำได้ยาก  เช่นนั้นท่านก็ลองทำดู  ว่าสุดท้ายทำได้หรือไม่   หากท่านสามารถทำได้ดังว่า  ท่านจะพบว่าเป็นเช่น เมื่อผ่านหมู่ต้นหลิวอันมืดครึ้ม จะมีมวลดอกไม้บานสะพรั่งและหมู่บ้านอยู่ข้างหน้า

  ไม่อยากจะพูดมากเกินไปแล้ว   เพราะที่ข้าพเจ้าพูดไปก็มากแล้ว  ถ้าพูดมากเกินไป ทุกท่านก็ยากจะจำได้   หวังว่าจากนี้ไปในระหว่างการบำเพ็ญ ทุกท่านจะลองปฏิบัติตนเป็นผู้ฝึกพลังคนหนึ่งดู  บำเพ็ญตนเองอย่างแท้จริง  ดังนั้นข้าพเจ้าหวังว่าผู้ฝึกใหม่และเก่าที่นั่งอยู่  ล้วนจะสามารถบำเพ็ญอยู่ในต้าฝ่า   สามารถจะสำเร็จสมบูรณ์ได้    ชั้นเรียนครั้งนี้ของเราจบลงแล้ว   หวังว่าทุกท่านจะกลับไปบำเพ็ญจริงจังแข่งกับเวลา  ก็ขอพูดเพียงเท่านี้

 

 


การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองเยี๋ยนจี๋

หลี่       หงจื้อ

ศิษย์           สามารถขัดสมาธิได้ตามธรรมชาติ กับเกินจี(รากฐาน)ดีหรือไม่ดี เกี่ยวข้องกันหรือไม่

อาจารย์      เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกันมากนัก   แต่ก็ไม่อาจพูดว่าไม่มีเลย สาเหตุนั้นซับซ้อนมาก  ทำงานหนักเป็นเวลานาน  หรือแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยนั่งขัดสมาธิ พอขัดขึ้นมาก็จะทนไม่ได้

ศิษย์           องค์ปฐมแห่งเทพคือผู้รู้แจ้งสูงที่สุดของจักรวาลใช่ไหม

อาจารย์      ที่จริงนี้เป็นวิธีคิดของคนธรรมดาสามัญ  การคิดอย่างนี้โดยตัวมันเองก็มีความไม่เคารพอยู่   เขามีพลังกงสูงกว่าพระยูไลหน่อยหนึ่ง  แต่ไม่ใช่เทพที่ใหญ่ที่สุด  

ศิษย์           จักรวาลมี เจิน ซั่น เหยิ่นเป็นสัจธรรมที่สูงสุดใช่หรือไม่

อาจารย์      จักรวาลก็คือ เจิน ซั่น เหยิ่น คุณสมบัติพิเศษชนิดนี้ ระดับชั้นยิ่งสูง จะปรากฏออกมายิ่งชัดเจน

ศิษย์           หลังจากบำเพ็ญจนถึงระดับชั้นที่องค์ประกอบลิขิตไว้แล้ว เช่นเกินจีของตนเป็นต้น  ถ้ายังคิดจะบำเพ็ญสูงขึ้นไปอีก ต้องอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญบำเพ็ญต่อไปใช่หรือไม่

อาจารย์      ถูกต้อง  อยู่ที่อื่นท่านจะบำเพ็ญไม่ได้แล้ว   มีแต่อยู่ในสภาพการณ์นี้ของคนธรรมดาสามัญจึงจะบำเพ็ญง่ายที่สุด   แต่ในระดับชั้นอื่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถจะบำเพ็ญ  แต่ ขอยกตัวอย่างหนึ่ง  ก็คือเขาไม่มีความทุกข์ที่จะต้องทน  ดังนั้นเขาจึงบำเพ็ญได้ช้ามาก  กระทั่งไม่อาจจะบำเพ็ญ   ไม่มีโอกาสและสภาพแวดล้อมอย่างนี้ให้เขายกระดับซินซิ่ง  จึงทำให้เขาไม่อาจจะบำเพ็ญได้  ในระดับชั้นสูงนั้น ไม่มีความขัดแย้งเลยระหว่างคนกับคน ชีวิตกับชีวิต  และล้วนแต่สุขสบายอย่างยิ่ง  ท่านว่าเขาจะบำเพ็ญได้อย่างไรละ   ก็จะยากมากๆ

ศิษย์           อยู่ในแนวทางปัจจุบันบำเพ็ญหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์)แล้ว จะต้องผ่านสภาวะเกิดแก่เจ็บตายของพระพุทธนั้นใช่หรือไม่

อาจารย์      สภาวะอะไรของการเกิด แก่ เจ็บ ตายนั้นของพระพุทธหรือ  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ในระดับชั้นที่สูงมากๆ มันก็มีองค์ประกอบชนิดหนึ่งคงอยู่ เรียกว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอยอย่างนี้  ข้าพเจ้าก็พูดแล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย  นั่นเป็นการแสดงออกของตัวพวกเขาเองที่อยู่ในระดับชั้นเดียวกัน  แต่นั่นเป็นตัวเลขของยุคสมัยหนึ่งที่ไกลโพ้น  อย่างไม่น่าเชื่อ  และยังมากกว่าตัวเลขทางดาราศาสตร์  ท่านก็ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจมันแต่อย่างใดเลย

ศิษย์           คำพูดที่ว่า  “ไหว้อู๋เซิง(无生)ก่อน ค่อยไหว้พระพุทธรูป”  อู๋เซิงเหลาหมู่ (无生老母) คืออะไร

อาจารย์      ที่ไหนจะมีอู๋เซิงเหลาหมู่(无生老母)อะไรกัน  ไม่มีเทพอย่างนี้แต่อย่างใดเลย   ในหมู่คนธรรมดาสามัญปัจจุบันมีคำศัพท์ที่เลอะเทอะมากมายเต็มไปหมด   ไม่มีเรื่องอย่างนี้โดยแน่แท้      ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  มีลัทธินอกรีตบางอย่าง  เป็นพวกจิ้งจอก พังพอน ต้นหลิวขาว  เนื่องจากระดับชั้นหนึ่ง   ไม่รู้เรื่องของอีกระดับชั้นหนึ่ง     ผู้รู้แจ้งฝ่าที่ถูกต้องล้วนไม่สนใจมัน   มันรู้สึกว่า ที่มันบำเพ็ญนั้น   คล้ายกับว่าสูงมากแล้ว   แต่มันไม่เคยพบสิ่งที่สูงกว่ามัน   และมันก็ไม่เชื่อว่าจะมีผู้ที่สูงกว่ามัน   เรื่องอะไรมันก็กล้าพูด  สวรรค์เป็นที่สอง มันเป็นที่หนึ่ง   ดังนั้นมันก็ไม่พูดเรื่องซินซิ่ง  แต่งคำมากมายขึ้นมา  ก่อความวุ่นวายให้โลกและหลักธรรม   ทุกท่าน   จงบำเพ็ญตามสิ่งที่ถ่ายทอดในแนวทางของเรา  ปล่อยวางเรื่องเลอะเทอะยุ่งเหยิงนานาชนิดเสีย   

ศิษย์           เหล่าอาจารย์ของท่านทำไมคุกเข่าอยู่ในห้องเรียนนี้  และทั่วทั้งห้องล้วนเป็นดอกบัวสวรรค์(เหลียนฮวา)  ยังมีนักรบสวรรค์ ขุนพลสวรรค์อีก

อาจารย์      ผู้ใดก็ไม่ใช่อาจารย์ของข้าพเจ้า  ข้างบนนั้นใครๆก็ล้วนปฏิบัติต่อข้าพเจ้าเช่นนี้  มีแต่พวกท่านที่เป็นคน ไม่รู้  ท่านคิดว่าพวกเขาเป็นพระพุทธ  ท่านคิดว่าพวกเขาเป็นเต๋าแล้ว  เขาก็เป็นอาจารย์ของข้าพเจ้าแล้วหรือ  มีระดับชั้นที่สูงยิ่งกว่าอีกมากนัก  ไม่ใช่เห็นใครก็เป็นอาจารย์ของข้าพเจ้าไปหมด  เวลาที่ข้าพเจ้าบรรยายฝ่าอยู่   จากบนถึงล่างมีเทพผู้พิทักษ์ฝ่าอยู่มากมาย  ท่านมองเห็นแล้วก็แล้วกันไปรวมทั้งผู้ฝึกอื่นก็มีที่มองเห็นเช่นกัน

ศิษย์           ขอเรียนเชิญท่านอาจารย์อธิบายสักหน่อยเรื่องที่พูดกันใน ไท่จี๋(ไท่เก๊ก)  ปากว้า ได้แก่ บ้าน ที่พัก หลุมศพบรรพชน ฮวงจุ้ย  สิ่งเหล่านี้

อาจารย์      ท่านรีบโยนสิ่งเหล่านี้ทิ้งไปเถอะ  นี่ล้วนเป็นของในเต๋าเล็กในโลก  ข้าพเจ้าถ่ายทอดต้าฝ่าให้ท่าน  ทุกท่านทราบผู้บำเพ็ญคนหนึ่งนั้น  ทุกสิ่งของท่านล้วนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว  ทุกสิ่งที่ว่านี้ไม่มีผลต่อผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง  ดังนั้นท่านต้องปล่อยวางมัน   แต่ท่านมีจิตยึดติดที่ไม่ยอมทิ้ง ย่อมไม่ได้   ท่านมัวแต่คิดว่าฮวงจุ้ยนั้นมีผลต่อท่าน  นั่นก็คือจิตยึดติด  เช่นนั้นอาจเป็นไปได้ว่าจะมีสภาพการณ์ชนิดนี้อยู่จริงๆ  นั่นก็เพื่อให้ท่านละจิตยึดติด

ศิษย์           เนื่องจากชีวิตนั้น พ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิด  การกตัญญูต่อพวกท่านเป็นการชดใช้กรรมคืนให้ใช่หรือไม่

อาจารย์      ในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องกรรม   คนมีชีวิตอยู่ก็เพื่อฉิง(อารมณ์ความรัก ความผูกพัน) คนก็คือมีชีวิตอยู่เพื่อฉิงนี้  ท่านกตัญญูต่อพ่อแม่ก็คือเพื่อฉิงนี้  พ่อแม่รักใคร่ท่านก็เป็นฉิงนี้  ล้วนแต่เป็นฉิงในหมู่คน   แต่แน่ละเราจะพูดจากอีกแง่มุมหนึ่ง พ่อแม่ให้กำเนิดท่าน  เลี้ยงดูท่าน  ท่านก็ควรดีต่อพ่อแม่   ก็ควรจะเป็นเช่นนี้นะ ดังนั้นหากท่านไม่ทำดีต่อพ่อแม่  พูดจากหลักการของคนธรรมดาสามัญก็ไม่ถูกต้อง   มองในระดับชั้นสูงก็ไม่ถูกต้อง แต่การบำเพ็ญก็ต้องค่อยๆปล่อยวางฉิงนี้ลงไป

ศิษย์           แนวทางนี้ของพวกเราอยู่เหนือกว่าแนวทางของกวนอินและมีเล่อ(พระเมตไตรย์)ใช่หรือไม่  

อาจารย์    กวนอินไม่มีแนวทาง  มีเล่อก็ไม่มีแนวทางบำเพ็ญ  คือเรื่องที่กุขึ้นโดยมารที่ก่อความวุ่นวายต่อฝ่า  ท่านก็ศึกษาฝ่านี้ให้ละเอียดท่านก็จะทราบได้   ที่จริงมีเรื่องมากมายที่ข้าพเจ้าพูดออกมาไม่ได้   ที่พวกเราฝึกคือสิ่งหนึ่งที่ใหญ่อย่างนี้ของทั้งจักรวาล ท่านคิดดูว่าเขา(ฝ่า)คืออะไรจะนำลัทธินอกรีตเหล่านั้นมาเปรียบได้อย่างไรกัน

ศิษย์                 สามปีก่อนผมได้บวชเข้าไปในพุทธศาสนาแต่ไม่ได้รับศีล  จะกระทบต่อการบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าในภายหลังหรือไม่
อาจารย์            แม้แต่พิธีกรรมก็ไม่ได้ทำจะนับว่าได้บวชแล้วอย่างไร   คือไม่ได้บวช  ท่านเพียงแต่เชื่อในพุทธศาสนา  พูดได้เพียงแค่นี้ ถึงจะบวชแล้วก็ไม่เป็นไร  เรื่องนี้ไม่กระทบอะไร  พระพุทธไม่เน้นในศาสนา  เพียงเน้นที่ใจคน   บวชแล้ว ไม่ได้บวชไปหาพระพุทธ แต่บวชไปหาศาสนา  จะบำเพ็ญแนวทางไหนเป็นเรื่องของส่วนตัวของท่าน หากท่านบอกว่าฉันก็จะบำเพ็ญอยู่ในพุทธศาสนา เช่นนั้นท่านก็บำเพ็ญอยู่ในพุทธศาสนา  หากท่านบอกว่าฉันจะบำเพ็ญอยู่ในฝ่าหลุนต้าฝ่า เช่นนั้นท่านก็บำเพ็ญอยู่ในฝ่าหลุนต้าฝ่า  ทุกท่านได้มาแล้วก็เป็นวาสนา  ข้าพเจ้าก็ต้องรับผิดชอบต่อทุกท่าน  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดกับทุกท่านว่า  ปัจจุบันในพุทธศาสนาไม่เหมาะที่จะบำเพ็ญ   ยุคธรรมะปลายนี้ยุ่งเหยิงมาก  พระสงฆ์เองยังยากจะช่วยตัวเอง ถ้าไม่บอกท่านอย่างนี้ก็เท่ากับไม่ได้รับผิดชอบ

ศิษย์           หยวนอิงคือจิตสำนึกหลักที่บำเพ็ญสำเร็จหรือ  แล้วจิตสำนึกรองจะบำเพ็ญได้มรรคผลอะไร  หลังจากหยวนอิงบำเพ็ญสำเร็จไปอยู่ในอีกมิติแล้ว  เช่นนั้นเขากับร่างแท้ ใครที่ควบคุมเขา

อาจารย์      ก็คือจิตสำนึกหลักควบคุมร่างกายนี้จนบำเพ็ญสำเร็จ   จิตสำนึกรองอยู่ในแนวทางนี้ของเรา ต่อไปจะเป็นผู้พิทักษ์ฝ่าของท่าน  ได้ธรรมพร้อมกัน   หยวนอิงของท่านคือสิ่งที่ท่านบำเพ็ญออกมาเอง   แน่นอนตัวท่านควบคุมเอง   อะไรที่ว่า ไปยังมิติอื่น  หากท่านไม่ควบคุมเขา  เขาก็จะไม่ขยับ เขาคือร่างที่บำเพ็ญสำเร็จแล้ว เป็นร่างพระพุทธ

ศิษย์           ในสถานการณ์อะไร ที่จะสามารถใช้กงเหนิง(ความสามารถพิเศษ)ของตนเองได้

อาจารย์      คนที่ถามปัญหานี้ หากท่านไม่ได้ฟังการบรรยาย  ข้าพเจ้าสามารถอภัยให้ท่านได้  วันนี้เป็นการบรรยายคาบที่สิบแล้ว ท่านยังคิดอยู่ตลอดเวลาที่จะใช้กงเหนิง  จะใช้กงเหนิงทำอะไรละ ทำเรื่องอะไรหรือ  จิตยึดติดนั้น เหตุใดยังไม่ทิ้งไป  แน่ละในฐานะผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง   เมื่อควรจะเกิดมันก็จะเกิด(กงเหนิง)    สมควรจะใช้ พอถึงเวลาก็จะรู้ได้                  ท่านอย่ายึดติดกับสิ่งเหล่านี้ หากมีจิตแสวงหาใดๆล้วนจะไม่ได้ฝ่าเลย 

ศิษย์           ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะบรรลุถึงระดับชั้นที่ต่างกันโดยผ่านการบำเพ็ญ   หลายปีหลังจากนี้พวกเขาจะไปที่ไหนบ้าง

อาจารย์      ทุ่มเทมากเท่าไรก็จะได้มากเท่านั้น  ที่ดีที่สุดคือหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์)  หากบำเพ็ญด้อยไปสักหน่อย ระดับชั้นที่บรรลุนั้นก็ไม่เลว  แต่ว่า  อาจกระโดดออกไปจากสามภพไม่ได้  เพราะท่านต้องได้มรรคผลถูกต้องอย่างแท้จริงแล้วเท่านั้น  จึงจะกระโดดออกไปนอกสามภพได้   บางคนนั้นไม่เลวเลยทีเดียว  สามารถบำเพ็ญได้สูงมาก  บางคนบำเพ็ญบ้างไม่บำเพ็ญบ้าง  นั่นก็อาจได้บ้าง  สามารถจะเป็นชาวสวรรค์ของระดับชั้นที่ต่างกันในสามภพ 

ศิษย์           ในสถานการณ์อะไรที่ฝ่าเซินจะจากไปเอง

อาจารย์    เพียงท่านเป็นผู้บำเพ็ญเขาก็จะดูแลท่าน  ตราบจนท่านหยวนหมั่น   นอกเสียจากไม่บำเพ็ญแล้ว  ไม่บำเพ็ญอีกต่อไปแล้ว  เขาก็จะผิดหวัง  เห็นว่าท่านไม่ไหวแล้วจริงๆ  เช่นนั้นเขาก็จะไม่ดูแลท่านแล้ว   ฝ่าหลุนก็เหมือนกัน  หากว่าท่านไม่บำเพ็ญแล้ว  คนธรรมดาสามัญจะมีสิ่งของอย่างนี้ได้หรือ   ท่านต้องการเอาเขาไว้ก็ไม่มีประโยชน์   เพราะท่านไม่บำเพ็ญ   เขาจะไม่เป็นประโยชน์ต่อท่าน

ศิษย์                 จิต จิตหลัก และจิตสำนึก เป็นความหมายเดียวกันหรือไม่

อาจารย์            จิตหลักก็คือตัวท่านเอง  ท่านคิดอะไร  ท่านทำอะไร  ในยามปกติท่านทำอะไรก็คือตัวท่านเอง   จิตรองนั้นเขาคลอดออกมาจากครรภ์มารดาพร้อมกับท่าน  เรียกชื่อเดียวกับท่าน  แต่เขามีความแตกต่างจากท่าน  ท่านทำเรื่องอะไรเขาจะรู้ได้   แต่เขาทำเรื่องอะไรท่านก็ไม่รู้เลย   ดังนั้นโดยแก่นแท้แล้วก็ไม่ใช่จิตเดียวกัน  เช่นนั้นว่าโดยแก่นแท้ก็ไม่ใช่ตัวท่านเอง มีแต่ตัวท่านเอง  ก็คือเมื่อฉันคิดจะทำอะไร  ทำอะไร  ในเวลาที่มีสติสัมปชัญญะแจ่มแจ้ง  นี้คือตัวท่านเองที่แท้จริง  คนก็เป็นเช่นนี้  ในประวัติศาสตร์ก็คือรูปแบบชนิดหนึ่งอย่างนี้  ดังนั้นล้วนมีจิตรอง  ส่วนจิตเป็นการพูดอย่างคร่าวๆ   ซึ่งนับรวมจิตรอง กับจิตเอาไว้ด้วยกัน   ดังนั้นที่เราว่าจิต  จิต   เราที่นี่พูดกันก็คือ จิตหลัก  จิตรอง  พูดถึงจิตสำนึกนั้น เป็นคำที่พูดกันในศาสนาเต๋า ที่พวกเขาหมายถึงคือจิตหลัก

ศิษย์           ตั้งครรภ์แล้วสามารถจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าได้หรือไม่

อาจารย์      ได้  ไม่มีปัญหาอะไร   ที่ผ่านมามีคนถามว่า สตรีที่มีครรภ์เมื่อฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า มีฝ่าหลุนหมุนอยู่ในท้อง  ท่านว่าเด็กในท้องนั้นจะทนไหวหรือ    ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  เขาไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน  ถ้าอยู่ในมิติเดียวกัน  ฝ่าหลุนนั้นหมุนไปหมุนมาอยู่ข้างในนั้น  ลำไส้ท่านก็ทนไม่ไหว  แต่เขาไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน  แต่ละมิติล้วนมีรูปแบบของร่างกายท่านคงอยู่   

ศิษย์           ผมรู้สึกกลัดกลุ้มเพราะตัวเตี้ย ขอเรียนถามว่าจะสูงขึ้นได้ไหม

อาจารย์      ทำไม อะไรๆก็มาถามข้าพเจ้ากันละ   ที่นี่ข้าพเจ้าสอนให้ผู้ฝึกพลัง  หากมีจิตยึดติดเหล่านี้มาบำเพ็ญจะไหวหรือ   ตัวเตี้ยจะกระทบต่อการบำเพ็ญของท่านได้ไหม   ที่ข้าพเจ้าสอนอยู่ที่นี่คือต้าฝ่าของการบำเพ็ญในระดับชั้นสูง หากท่านคิดจะเป็นคนธรรมดาสามัญ ยังคิดจะเป็นคนธรรมดาสามัญที่รูปร่างสวยงามสมบูรณ์  ท่านมีจิตยึดติดนี้มาฟังการบรรยายก็ไม่ได้ อะไรก็จะไม่ได้รับ แต่ข้าพเจ้าทราบ  หลังจากผ่านการศึกษาฝ่า ท่านจะเข้าใจได้

ศิษย์           ก่อนฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเคยนวด

อาจารย์      นวดอะไรละ ในขณะที่ชีพจรใหญ่  กลไกชี่นี้ของฝ่าหลุนต้าฝ่าเราโคจรอยู่ อะไรๆก็ทำให้ท่านหมดแล้ว  ท่านยังจะนวดอะไรอีก   เราสอนอะไรท่าน ท่านก็ฝึกอะไร   สิ่งที่ไม่ได้สอนท่านก็อย่าได้เพิ่มสิ่งเหล่านี้เข้าไปในหัวให้วุ่นวาย ล้วนมีชี่นานาชนิด สื่อสัญญาณเลอะเทอะ  สื่อสัญญาณของอาจารย์ชี่กงปลอม  อะไรก็มีทั้งนั้น อย่าใส่อะไรเพิ่มเข้าไป  แม้แต่อี้เนี่ยน(ความนึกคิด)ก็เพิ่มเข้าไปไม่ได้ ให้บำเพ็ญอย่างบริสุทธิ์สะอาดจึงจะเร็ว

ศิษย์           ผมเป็นครูสอนพละ  ผมถูกกำหนดให้สอนหลักพลังของสำนักอื่นให้นักเรียน เช่น ฌานหนึ่งดัชนี  มวยไท่จี๋  ผมควรทำอย่างไรดี

อาจารย์      เช่นนั้นท่านก็สอนฝ่าหลุนต้าฝ่าของเรา  ทำอย่างนี้จะดีมากเพียงไรละ  แน่ละท่านคิดจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  ข้าพเจ้าจึงบอกให้ท่านทำอย่างนี้  ถ้าท่านจะสอนสิ่งอื่น  คงจะไม่ได้จริงๆ  ถ้าท่านบอกว่าฉันไม่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  เช่นนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย  เพราะข้าพเจ้าได้บอกกับท่านแล้วว่า การบำเพ็ญต้องยึดมั่นแนวทางเดียว   ที่จริงปัญหารูปธรรมประเภทนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่อยากตอบ  ท่านสามารถทำโดยจะวิเคราะห์ได้เอง จะใช้วิธีการของชี่กงอื่นรักษาโรคให้คนก็ไม่ได้  พอท่านใช้ก็จะเพิ่มสิ่งอื่นเข้าไป  มันก็จะมา พลังของท่านก็จะยุ่งเหยิงทันที

ศิษย์           ใช้เทปบันทึกเสียงของหลักพลังอื่นฝึกพลังได้หรือไม่
อาจารย์      สิ่งเหล่านี้ล้วนมีสื่อสัญญาณของสำนักนั้นอยู่   ข้าพเจ้าพูดอย่างนี้แล้ว แต่ทำไมยังเลอะเลือนอย่างนี้ได้  ท่านฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  ท่านก็ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  สิ่งเหล่านั้นท่านจะแตะต้องไมได้  ทันทีที่ท่านทำก็จะปนเปื้อนร่างกายท่าน   อัญเชิญเทพง่าย  แต่จะส่งเทพออกไปยาก   ท่านส่งมันออกไปไม่ได้   ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว   อู้ซิ่ง(การรับรู้)ของท่านแย่ถึงอย่างนี้  ฝ่านี้ได้บรรยายจนถึงขั้นนี้แล้ว   ท่านยังจะเป็นอย่างนี้อีกหรือ  เช่นนั้นก็รอให้ท่านรับรู้เอง  ล้มลุกคลุกคลานเอง  ทำจนท่านย่ำแย่จริงๆ  ไม่ไหวอีกแล้ว  จึงจะทิ้งใจของท่านไปได้

ศิษย์           ชี่ที่เรอออกมาจะกลืนกลับเข้าไปในปากหรือว่าปล่อยมันออกมา

อาจารย์       ชี่ที่ท่านเรอออกมาท่านจะกลืนมันเพื่ออะไร ปล่อยออกมา   ขณะที่เราปรับร่างกายอยู่ ส่วนมากที่เรอออกมาล้วนเป็นชี่ที่ไม่ดี  เป็นชี่สกปรก  เพราะมันจัดเป็นชี่ที่สกปรกของอวัยวะภายในที่สกปรก

ศิษย์           ด้วยจุดประสงค์ที่จะทำความดี สามารถจะห้ามคนฝึกหลักพลังอื่นได้หรือไม่

อาจารย์      ไม่ได้  คนก็เป็นเช่นนั้น เขาจะเข้าสำนักไหน เป็นการเลือกของตัวคนเอง ท่านดูซิพอฝ่าหลุนต้าฝ่าเราจัดชั้นเรียนก็มักจะมีชี่กงปลอมบางอย่างมาเปิดชั้นเรียนพร้อมกัน   ก็คือจะดูว่าท่านจะเข้าประตูไหน คนจะได้ฝ่าไม่ใช่ง่าย จะได้ฝ่าที่ถูกต้องก็ยิ่งยาก   เราสามารถบอกทุกคน  เตือนด้วยความหวังดี แต่ถ้าเขาไม่ฟัง  ก็แล้วกันไป   ท่านแข็งขืนห้ามเขา  เขาไม่คิดจะเป็นพระพุทธ  ท่านฝืนคิดจะให้เขาเป็นพระพุทธให้ได้   ไหนเลยจะมีหลักการนี้ละ  ตัวเขาเองต้องใช้ใจของตนเองไปบำเพ็ญ  แต่เขาไม่คิดจะบำเพ็ญท่านจะสามารถยุ่งด้วยได้ไหม หากเขาคิดจะเป็นมารก็จนปัญญา    ก็คือหลักการนี้

ศิษย์           หลังจากฝึกพลังแต่ละชุดจบลง จะทำท่าเจียอิ้นต่อเนื่องไปกับชุดถัดไปได้หรือไม่

อาจารย์     ได้   ท่านฝึกชุดถัดไปไม่ต้องแยกมือออกจากกัน  ทำเจียอิ้นต่อเนื่องไปได้  จากนั้นก็ฝึกชุดถัดไปติดต่อกันไป   แต่ในแต่ละชุดที่กำหนดให้ทำเก้ารอบก็ต้องทำเก้ารอบ  แล้วหยุดทำเจียอิ้น  จากนั้นท่านค่อยทำต่อ  ทำไมต้องทำเช่นนี้ละ   เนื่องจากทุกท่านทราบ  เมื่อฝึกพลังกงในระดับชั้นสูงจะพูดถึงการไร้ความหมายมั่น   ไม่มีอี้เนี่ยนใดๆ  ท่านเอาแต่นับเลข  ที่จริงพอถึงการบำเพ็ญในระดับชั้นสูง  ท่านสามารถจะเอาแต่ฟังดนตรีได้หรือ   จุดประสงค์ของการฟังเทปบันทึกเสียงคือฟังดนตรีของสำนักเรานี้ที่มีพลังงานที่ดีอยู่ด้วย   ขณะเดียวกันยังเป็นการให้หนึ่งความคิดแทนหมื่นความคิด  เมื่อได้ยินดนตรีท่านก็ไม่คิดเรื่องอื่นที่ไม่ดี ความคิดท่านก็จะไม่วุ่นวาย  ที่สำคัญคือจุดประสงค์นี้  พอไปถึงการบำเพ็ญระดับสูง  ทุกท่านคิดดู  ท่านจะเอาแต่ฟังดนตรีหรือนับเลขเสมอได้ไหม   ไม่ได้  แต่ละครั้งที่เราฝึกพลังล้วนทำเก้ารอบ เช่นนี้แล้วจึงทำให้กลไกนี้  คือกลไกชี่ที่ข้าพเจ้าให้ท่าน  กลไกบังคับนี้ก็จะกำหนดตายตัวไว้ที่เก้ารอบ ดังนั้นหากท่านจะไปบำเพ็ญในระดับสูงท่านไม่ต้องนับเลขเลย   ตัวท่านเองฝึกพลังอยู่ตรงนี้   เมื่อท่านทำถึงเก้ารอบ  รับรองว่ากลไกนั้นจะปิดตัวเอง  พลังงานของเขาสูงมาก  สามารถรู้สึกได้ถึงการคงอยู่ของพลังงานของเขา   ตัวเขาก็จะเตี๋ยโค่วเสียวฝู่เอง (ประสานมือเป็นรูปกากบาทหน้าท้องน้อย)  พอถึงเก้ารอบเขาก็จะหมุนฝ่าหลุนเอง  มือของท่านนี้เพียงเคลื่อนไหวไปตามกลไก  พอถึงระดับชั้นสูงก็จะเป็นเช่นนี้

ศิษย์              ก่อนฝึกกว้านทงเหลี่ยงจี๋ฝ่า(ทะลวงสองขั้วจักรวาล)ให้คิดถึงกระบอกที่ว่างเปล่าสองใบหรือ

อาจารย์         แน่ละ เวลาฝึกทะลวงสองขั้วจักรวาลที่สำคัญคือจะบอกทุกท่านว่า  ให้ทุกท่านเพิ่มแนวคิดนี้เข้าไปในความคิด  ว่าร่างกายของฉันเหมือนกระบอกที่ว่างเปล่า   เหมือนกระบอกที่ว่างเปล่าสองใบหรือกระบอกที่ว่างเปล่าใบหนึ่ง  ที่สำคัญคือเวลาที่กว้านทง(ประคองมือขึ้นลง) ทำให้กระแสพลังงานนี้ของท่านโล่งหมดไม่ติดขัด  ในร่างกายไม่ติดขัด  ที่สำคัญคือความคิดนี้  แต่เวลาที่ท่านฝึกพลังก็อย่าได้เอาแต่คิดว่าท่านคือกระบอกโล่งเปล่าอยู่เรื่อยไป ก่อนฝึกพลังเพิ่มความคิดอย่างนี้ก็พอแล้ว

ศิษย์           ไม่อาจยืนหยัดในท่ายืนฝึกได้ นั่งฝึกจะได้หรือไม่

อาจารย์   ต้าฝ่าของเรานี้กำหนดไว้สำหรับคนที่สามารถจะบำเพ็ญได้อย่างแท้จริง  ท่านบอกว่าท่านยืนขึ้นมาไม่ได้ แต่คิดจะฝึก  เพราะท่านฝึกอย่างนี้ ไม่สามารถบรรลุถึงข้อกำหนดของการฝึกพลัง  กลไกนี้ก็จะผิดเพี้ยนได้ง่าย  ไม่เหมือนกับสาระสำคัญของการฝึกของเรา

ศิษย์           ท่องชื่อพระพุทธ ไหว้พระพุทธ จะกระทบต่อการบำเพ็ญหรือไม่

อาจารย์      มีผลกระทบ  คนที่เชื่อศาสนาพุทธ  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  หลักธรรมของพุทธศาสนาไม่ใช่ทั้งหมดของพุทธธรรม  มันเป็นเพียงส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของฝอฝ่า(พุทธธรรม)   สาวกในพุทธศาสนาไม่กล้ายอมรับความจริงนี้ตลอดมา  ที่จริงในคัมภีร์ก็มีการบรรยายไว้  ท่านจะบำเพ็ญแนวทางไหน เป็นเรื่องเข้มงวด  ท่านคิดจะบำเพ็ญแนวทางไหน เราไม่คัดค้าน  ท่านก็บำเพ็ญไป   ท่านจะบำเพ็ญแนวทางนี้ ท่านก็บำเพ็ญในแนวทางนี้  ไม่เดินสองแนวทาง  ในอดีตในพุทธศาสนาล้วนไม่อนุญาตบำเพ็ญปะปนกัน ท่านท่องชื่อเขา  ท่านมิใช่คิดจะให้เขาดูแลท่านหรือ หาไม่ท่านท่องชื่อเขาไปทำไมละ

ศิษย์           ในบรรดาชี่กงที่แพร่หลายอยู่ในประเทศจีน พวกไหนที่จัดเป็นฝ่าที่ถูกต้อง

อาจารย์    ของปลอมมากกว่าของแท้หลายร้อยเท่า  เราไม่อาจเอ่ยชื่อได้  ไม่สามารถทำอย่างนี้ได้  ไม่อาจจะพูดเรื่องอะไรๆให้ชัดเจนได้ทั้งหมด  หาไม่คนก็บำเพ็ญกันง่ายเกินไปแล้ว แต่มีบางอย่าง เราก็ควรจะสามารถวินิจฉัยแยกแยะออกมาได้

ศิษย์           สุรางคมสมาธิสูตรเป็นสิ่งที่องค์ศากยมุนีตรัสออกมาเองใช่หรือไม่ 

อาจารย์       สุรางคมสมาธิสูตรนี้ ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน องค์ศากยมุนีไม่เคยตรัสว่าพระองค์เคยถ่ายทอดสุรางคมสมาธิสูตร  วัชระสูตร  หรือพระหทัยสูตร   ในเวลาที่องค์ศากยมุนีทรงอยู่ในโลกนั้น  ไม่ได้ตรัสเลยว่าข้าพเจ้าเคยถ่ายทอดพระสูตรอะไร และไม่เคยตั้งชื่อด้วย   องค์ศากยุมนีเคยบรรยายฝ่า  นั้นเป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังจัดทำขึ้นมาเป็นพระสูตร แล้วตั้งชื่อขึ้นมาให้  เรียกว่าพระสูตรอะไรๆ

                   ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังจัดทำขึ้น  ตั้งชื่อกันขึ้น  และสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสเมื่อทรงอยู่ในโลก ล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง เวลา  สถานที่ ความหมายที่เจาะจง   บวกกับความเข้าใจของคนรุ่นหลังในเวลาที่จัดทำกัน และการเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่ตั้งใจ  และบวกกับความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วน  จึงเหลือสิ่งที่เป็นของพระพุทธอยู่ในนั้นไม่มากแล้ว

ศิษย์           พระพุทธรูปที่ในบ้านบูชา จะจุดธูปให้ได้หรือไม่

อาจารย์      ท่านอยากจะจุดธูปให้ก็ทำเถอะ พระพุทธนั้นต่างก็เคารพซึ่งกันและกัน  ล้วนแต่เป็นสายพุทธด้วยกัน  ไม่มีที่ฉันเคารพคุณ ไม่เคารพเขา   ไม่มีความหมายนี้  ล้วนเป็นสายพุทธ จึงต้องเคารพทั้งหมด  แต่การบำเพ็ญแนวทางไหนก็เป็นปัญหาที่เข้มงวด  การเคารพก็เป็นเรื่องของการเคารพ ส่วนการบำเพ็ญก็เป็นเรื่องของการบำเพ็ญ

ศิษย์           คนที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถรับประทาน หอม ขิง กระเทียมได้ไหม  

อาจารย์      ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  คนธรรมดาสามัญเราที่ทำอาหาร  ท่านว่าใส่ หอม ขิง กระเทียม ข้าพเจ้าว่าก็ไม่มีปัญหาอะไร  ถ้าท่านไม่ได้บำเพ็ญรวมกันท่านไม่รบกวนคนอื่น  ท่านทานให้น้อยหน่อย  ท่านอย่าทานมาก เพราะสิ่งเหล่านี้กลิ่นฉุนมาก หากบอกว่าฉันเสพติดมัน  ชอบกินหอมใหญ่ จิ้มเต้าเจี้ยว  นั่นก็เป็นการเสพติด  ก็เป็นจิตยึดติด  ก็คือเราไม่แสวงหาสิ่งเหล่านี้  โดยเฉพาะเรื่องรสชาติ สิ่งที่มีกลิ่นฉุนทั้งหมด  จะกระตุ้นประสาทนี้ของท่านอย่างมาก  ง่ายต่อการเสพติด  ในขณะเดียวกันร่างชีวิต(หลิงถี่)เหล่านั้นที่บำเพ็ญออกมาจากร่างกายท่าน  ก็ทนกลิ่นนี้ไม่ได้  ดื่มเหล่าก็เป็นอย่างนี้  ดังนั้นทุกท่านคิดดู  มันก็คือปัญหานี้   แน่ละท่านก็ทานให้น้อยหน่อย  เพราะท่านบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ท่านไม่ยึดติด   ทานเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร   ตัวเองจัดวางความสัมพันธ์ให้ดีเถิด   บอกว่าเราบำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ ให้สอดคล้องมากที่สุด   อย่างไรก็ให้ท่านเหมือนกับคนธรรมดาสามัญ แต่ตัวเองสมควรใช้มาตรฐานของผู้ฝึกพลัง กำหนดตนเอง

ศิษย์           เหตุใดบางคนที่ได้ฟังการบรรยายเป็นครั้งแรก พอในวันที่สามหรือสี่ ค่อยรู้สึกว่าฝ่าหลุนหมุน  มีอยู่ในทั่วทุกแห่ง และหมุนอยู่ทั้งหมด  แต่บางคนได้เรียนถึงสามรอบแล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกเลย

อาจารย์      บางคนที่เรียนฝ่าหลุนต้าฝ่า  คอยติดตามการเปิดชั้นเรียนไปด้วย  รู้สึกว่าฝ่านี้ดี  นี้เป็นเรื่องแน่นอน  แต่ว่า  จิตที่คิดรักษาโรคไม่ได้ทิ้งไปอย่างแท้จริง   พูดว่าฉันติดตามชั้นเรียนกี่ครั้งโรคนี้ก็หายแล้ว  มีคนอย่างนี้ แน่ละ คนที่มาด้วยภาวะจิตใจอะไรก็มีทั้งนั้น คนที่ติดตามชั้นเรียนนั้นไม่ใช่มาบำเพ็ญ มาแสวงหาฝ่า กันทั้งหมด  ยังมีบางคนเดิมทีไม่ไวต่อความรู้สึก  พอฝ่าหลุนหมุนก็ไม่รู้   รอจนเขา(ฝ่าหลุนหมุน)มั่นคงแล้ว  ท่านยิ่งไม่รู้เลย  พวกเรามีคนมากมายที่ความรู้สึกไวมาก  พอเริ่มต้นก็รู้สึกว่าฝ่าหลุนหมุนไปมา  สุดท้ายไม่รู้สึกแล้ว  เพราะอะไรไม่รู้สึกแล้วละ   เพราะฝ่าหลุนนั้น  เมื่อเขาคล้อยตามเข้ากับท่าน  ท่านก็จะไม่รู้สึกแล้ว   นั่นยังจะรู้สึกอะไรได้ละท่านรู้ว่า ปกติกระเพาะนี้ของท่านขยับได้ไหม  ก็คือเมื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายแล้ว ท่านก็จะไม่รู้สึกแล้ว  เลือดที่อยู่ในเส้นเลือดนั้นท่านรู้สึกได้ไหม     ก็คือความหมายนี้

ศิษย์       ปัจจุบันผมกำลังจะไปประเทศเกาหลี    ถ้าคนเกาหลีต้องการเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าจะสามารถสอนให้พวกเขาได้ไหม

อาจารย์      ทำได้แน่นอน   ใช้ภาษาเกาหลีแปลให้พวกเขา   ท่านสามารถแปลและพูดให้พวกเขาฟัง            นั่นไม่เป็นไร  ต้าฝ่าจะถ่ายทอดให้กับมนุษยชาติทั้งหมด  

ศิษย์     คนๆหนึ่งศึกษาฝ่า คนทั้งบ้านได้ประโยชน์    เช่นนั้นหากคนทั้งบ้านไม่ศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า  และไม่เชื่อเรื่องการฝึก บางครั้งยังพูดจาเสียดสี  พวกเขาสามารถจะได้ประโยชน์ด้วยหรือไม่

อาจารย์     ปัญหานี้ต้องมองเป็นสองด้าน   บางคนที่ยั่วยุท่าน  บางทีเป็นการทดสอบใจท่านว่ามั่นคงในฝ่านี้หรือไม่  แน่วแน่หรือไม่   บางทีคนในครอบครัวพูดจาไม่น่าฟังกับท่าน  ยังจะช่วยท่านสลายกรรม  มันอาจจะมีองค์ประกอบหลายด้านคงอยู่  แน่ละพวกเราพูดแล้ว   ในสถานการณ์ทั่วๆไป ที่ไม่ใช่มีลักษณะเฉพาะมากๆ  การฝึกพลังจะทำให้ทั้งครอบครัวได้ประโยชน์แน่นอน สนามของบ้านท่านล้วนต้องชำระล้าง แน่ละสภาพแวดล้อมภายในสนามแบบนี้ ตัวเขาเองก็ได้รับประโยชน์แล้ว  อีกแบบหนึ่งคนในบ้านอาจจะถูกควบคุมโดยมาร  เมื่อมองในทางกลับกันก็เป็นเรื่องที่ดี  ทำให้ท่านแน่วแน่ใช่ไหมเมื่อแน่วแน่แล้วอาจารย์ก็จะช่วยชำระล้างให้


ศิษย์           พวกเราตั้งใจหนึ่งเดียวจะบำเพ็ญต้าฝ่า  คนที่มีใจจริงไปบำเพ็ญก็คือศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว แต่ยังไม่ทันบำเพ็ญถึงมรรคผลอรหันต์ก็เสียชีวิตแล้ว

อาจารย์      ก็เหมือนกับที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดไป   ท่านทุ่มเทมากเท่าไรจะได้มากเท่านั้นดังนั้นเราได้พูดแล้วว่า หากคิดจะหยวนหมั่นในการบำเพ็ญก็ต้องรีบเร่งบำเพ็ญ   ทุกท่านทราบในวัดนั้น เหตุใดจึงเรียกศาลาที่องค์ศากยมุนีทรงนั่งว่าศาลาพญาราชสีห์ละ เพราะองค์ศากยมุนีตรัสว่าการบำเพ็ญพุทธธรรมจะต้ององอาจสง่างามเหมือนราชสีห์  ดังนั้นในเวลานั้นบางคนจึงถือว่าพระองค์เป็นดุจพญาราชสีห์   นอกจากนี้ของเรายังเป็นการบำเพ็ญจิตและชีวิตควบคู่กัน   ผู้ที่ก้าวหน้าอย่างแท้จริงย่อมจะมีชีวิตยืนยาวจนหยวนหมั่นได้อย่างแน่นอน

ศิษย์           คิดจะกราบท่านเป็นอาจารย์

อาจารย์      ขอบอกทุกท่าน  คนที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างแท้จริง  ข้าพเจ้าล้วนนำพาท่านในฐานะศิษย์   ให้สิ่งของต่างๆแก่ท่านมากมายอย่างนี้  ใส่สิ่งต่างๆมากมายอย่างนี้ให้ท่าน  และบรรยายฝ่าให้ท่านจนมาถึงขั้นนี้   พลังกงก็สอนให้ท่านแล้ว  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าจะคุ้มครองท่านฝึกพลัง  นี่ไม่ใช่นำพาท่านในฐานะศิษย์อีกหรือ  คนเขาที่บำเพ็ญเดี่ยว  ถ่ายทอดเดี่ยว  ยังไม่นำพากันอย่างนี้เลย ขอบอกท่านว่า ข้าพเจ้าได้ทำในสิ่งที่คนในอดีตไม่เคยทำกันมาก่อนเลย   ได้เปิดประตูบานใหญ่ที่สุดให้แล้ว   แต่เราไม่พูดถึงพิธีกรรมในอดีต   เช่นว่าทุกท่านคุกเข่าอยู่ตรงนี้กันหมดโขกศีรษะก้มกราบข้าพเจ้า  ทำเป็นพิธี  ก็เป็นการกราบไหว้อาจารย์แล้ว  ข้าพเจ้าไม่พูดเรื่องนี้   ทำไมไม่พูดเรื่องนี้ละ  ทุกท่านคิดดู  ท่านไม่บำเพ็ญ ท่านกราบไหว้แล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน ท่านพูดว่าฉันเป็นศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่า  ฉันก็โขกศีรษะกราบไหว้อาจารย์แล้ว  หลี่ หงจื้อ ยอมรับฉันเป็นศิษย์   แต่พอท่านออกจากประตูก็ทำตามใจชอบ  ท่านได้ทำเรื่องเสื่อมเสียต่อฝ่าหลุนต้าฝ่า  และท่านไม่ทำตามข้อกำหนดของฝ่านี้   จะนับว่าท่านเป็นศิษย์ได้หรือ  ดังนั้นเราจึงไม่พูดถึงพิธีกรรมนี้   ในทางกลับกันท่านยังจะทำลายชื่อเสียงของเรา  ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่พูดถึงพิธีกรรมนี้เลย   เมื่อท่านบำเพ็ญก็จะเป็นศิษย์ของสำนักนี้  เราก็จะรับผิดชอบต่อท่าน  ถ้าท่านไม่บำเพ็ญ เราก็จะไม่รับผิดชอบต่อท่าน  ท่านก็ไม่ใช่ศิษย์ของสำนักนี้ ก็คือจะปฏิบัติกันเช่นนี้

ศิษย์           ในเวลาที่ฝึกชุด “ทะลวงสุดสองขั้ว”(กว้านทงเหลี่ยงจี๋ฝ่า) “คิดนึก”  “รู้สึก” เป็นการไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดใช่หรือไม่

อาจารย์      ใช่  ไม่ต้องรู้สึกและไม่ต้องคิดนึกอะไร   ท่านสนใจแต่การฝึก  ฝึกไปอย่างเงียบๆอะไรก็ไม่คิด

ศิษย์           เวลาที่คนอื่นพูดคุยกัน  ก่อนที่พวกเขาจะพูดคุยกัน  ทำไมผมจึงมักจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไร
อาจารย์      นี้ก็คือท่านมีความสามารถหยั่งรู้ใจเขา   หากท่านฝึกให้ดีๆจะสามารถเสริมมันให้แข็งแกร่ง  แต่อย่าใช้มันทำเรื่องที่ไม่ดี  อย่าทำเรื่องที่ไม่ดี ก็จะสามารถรักษามันไว้ได้    คนอื่นคิดไม่ดีต่อท่าน ท่านก็อย่าโกรธ  ให้ใช้มาตรฐานของผู้ฝึกพลังกำหนดตัวเอง

ศิษย์           ผมอยู่ไกลถึงเซี่ยงไฮ้   ในระหว่างที่ฝึกพลัง ถ้ามีข้อสงสัย ควรติดต่อใคร

อาจารย์      เซี่ยงไฮ้ไม่นับว่าไกล   ผู้ฝึกเราเรื่องบางเรื่องให้ปรึกษาหารือกันจะดีกว่า  เนื่องจากบางคนที่ฟังการบรรยายแล้ว  แต่หากข้าพเจ้าบรรยายมากเกินไป ก็ไม่อาจจะจดจำได้   สามารถจะบันทึกเสียงได้  พยายามฟังเทปบันทึกเสียง  สถานที่ที่ใกล้เซี่ยงไฮ้มากที่สุดคือศูนย์ช่วยฝึกสอนเหอเฝย  เซี่ยงไฮ้มีเทียบเชิญมา  แต่สุดท้ายไม่ได้กำหนดแน่นอนเสียที เซี่ยงไฮ้ก็มีคนไม่น้อยที่เรียนแล้ว   และมีคนมากมายมาเรียน  สามารถจะศึกษาซึ่งกันและกัน ยกระดับขึ้นได้  เซี่ยงไฮ้  อู่ฮั่น  กว่างโจว  เจิ้นโจว  ฉงชิ่ง  เฉิงตู  อย่างไรเสียเมืองใหญ่ๆมากมายแทบจะทั่วประเทศ ล้วนมีศูนย์ช่วยฝึกสอนฝ่าหลุนต้าฝ่าของเราอยู่  สามารถจะติดต่อได้ทั้งนั้น ที่จริงมีหลายเรื่อง   ตัวเองไปปฏิบัติตามฝ่านี้  ข้าพเจ้าคิดว่าก็สามารถจะรับรู้ได้หมด  เพราะข้าพเจ้าได้พูดออกมาอย่างเป็นระบบทั้งหมดแล้ว  ต่อไปเรายังจะออกหนังสือ  อำนวยความสะดวกต่อการบำเพ็ญอย่างมาก

ศิษย์           ขณะนั่งสมาธิมักจะได้กลิ่นหอมอยู่เสมอ

อาจารย์      นี้เป็นเรื่องปกติมาก ปกติมากๆ  เพราะกลิ่นหอมนี้มันมาจากอีกมิติหนึ่ง

ศิษย์          ไม่ได้เข้าร่วมชั้นเรียน สามารถจะได้ฝ่าหลุนหรือไม่

อาจารย์      คนที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างแท้จริง  ท่านศึกษาตามหนังสือ  และสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในหนังสือได้จริงๆ  ก็จะได้รับโดยปริยาย   ก็คือหากท่านบำเพ็ญอย่างแท้จริงก็จะได้ฝ่าหลุน

ศิษย์           ในขณะหลับผมใช้มือคลำฝ่าหลุนได้แล้ว  อยู่ด้านซ้ายของหน้าอก  จำได้อย่างชัดเจน  สามารถใช้มือคลึงสามารถเคลื่อนไปทางซ้ายทางขวาได้  แต่เมื่อผมตื่นขึ้นมาคลำอีกก็ไม่มีอะไรเลย

อาจารย์      นั้นคือท่านควบคุม อีกร่างกายหนึ่งคลำได้   ถูกต้อง  พอท่านตื่นขึ้นมาไปคลำด้วยร่างกายนี้ก็ไม่มีแล้ว   เพราะหลังจากที่กายเนื้อกลืนกลายแล้วทั้งหมดแล้วจึงจะคลำได้

ศิษย์           คำว่า “เหยิ่น”ของคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล เจิน ซั่น เหยิ่น นี้   ในสังคมคนธรรมดาสามัญจะเข้าใจได้ง่าย  ว่าในระดับชั้นสูงไม่มีการต่อสู้ แย่งชิง  ไม่มีความขัดแย้ง   แล้วต้องการ  เหยิ่นเพื่ออะไร จักรวาลต้องการเพราะเหตุใด

อาจารย์      จักรวาลนี้ไม่เหมือนกับที่ท่านเข้าใจเช่นนั้น  มันเป็นระบบที่ใหญ่มหึมาซึ่งสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง    นอกเหนือจากมนุษย์ ที่มีรูปร่างชนิดนี้คงอยู่  ยังมีมนุษย์ที่ไม่มีรูปร่าง  ชนิดนี้คงอยู่   มิตินี้ที่เราพูดถึง   ณ มิติระดับชั้นสูงก็มีปัญหาของระดับชั้นนั้นของพวกเขาคงอยู่  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  ในที่ที่ห่างไกลมากๆล้วนมีร่างที่เหมือนมนุษย์เราคงอยู่  ร่างกายอย่างนี้มีอยู่มากมายเหลือเกิน  ทั่วไปหมดทั้งจักรวาล  และในระดับชั้นที่ต่างกันยังมีผู้รู้แจ้งที่ต่างกัน   พวกเขาก็มีความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างกันและกันคงอยู่  ยังมีรูปร่างชนิดนี้ของระดับชั้นที่สูงยิ่งกว่าคงอยู่     เหยิ่น(ความอดทน)ที่ท่านเข้าใจนั้น  เป็นความเข้าใจต่อเหยิ่นบนพื้นฐานความคิดของคน   เหยิ่นยังมีความนัยที่สูงยิ่งกว่าอีก   ดังนั้นท่านไม่มีสิ่งนี้จะได้ไหม  ท่านยืนอยู่บนมุมมองนี้ของคนธรรมดาสามัญ  ท่านจะไม่อาจเข้าใจต้าฝ่านี้ได้อย่างแท้จริง

ศิษย์           ระหว่างสามีภรรยามีเรื่องการสูญเสียกุศลหรือไม่

อาจารย์      ถูกต้อง  ถ้าท่านตบตีภรรยาอยู่เสมอ  ข้าพเจ้าว่าท่านก็ติดค้างเธอแล้ว  ท่านด่าว่าสามีท่านอยู่เสมอ ท่านก็ติดค้างเขาเช่นเดียวกัน   ล้วนเป็นคน  ล้วนเป็นชีวิต  ใครกับใครก็ล้วนแต่เป็นความสัมพันธ์ด้านกรรมชนิดนี้   ลูกกับพ่อแม่ก็มีความสัมพันธ์ชนิดนี้คงอยู่   เนื่องจากกายเนื้อของเขานั้น ท่านเป็นผู้ให้  แต่ชีวิตของเขา ไม่ใช่ท่านเป็นผู้ให้  ดังนั้นจึงไม่อาจปฏิบัติต่อเขาจนเกินเลยไป     ในฐานะบุตรธิดา นั้น พ่อแม่ที่ให้กำเนิดท่าน เลี้ยงดูท่าน อย่างน้อยที่สุดเขาก็อุปการะเลี้ยงดูท่านแล้ว  จึงมีบุญคุณ มีกุศลต่อท่าน  ท่านจึงต้องกตัญญูเขา หาไม่ท่านก็ติดค้างคนเขา

ศิษย์          เข้าร่วมชั้นเรียนจนถึงวันนี้  โรคของขาผมไม่เห็นดีขึ้น

อาจารย์      ท่านปล่อยวางใจดวงนี้ไม่ลง   ที่นี่ข้าพเจ้าไม่ได้มารักษาโรคให้ท่าน  หากท่านปล่อยวางไม่ได้ อะไรๆข้าพเจ้าก็ดูแลให้ไม่ได้   ไม่กลัวว่าท่านจะมีโรค  ก็กลัวแต่ท่านปล่อยวางใจลงไม่ได้    บวกกับที่ท่านไม่เชื่อเรื่องการบำเพ็ญก็ยิ่งไม่มีทาง   ที่นี่ดูแลแต่ผู้บำเพ็ญ  คนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง  ฝ่าเซินของข้าพเจ้าจะไม่สนใจ  ข้าพเจ้าก็ไม่อาจลงมือรักษาโรคให้ท่านได้  ความคิดชนิดนี้ที่มาเพื่อรักษาโรคของท่าน   ความคิดอย่างนี้ ไม่ยอมทิ้งไป   ท่านไม่อาจทำตัวเหมือนคนฝึกพลัง จะดูแลให้ได้อย่างไร  ข้าพเจ้าไม่ได้มารักษาโรค  แต่มาถ่ายทอดฝอฝ่า

 ศิษย์    ในความฝันมองเห็น ที่ตำแหน่งตาทิพย์มีฝ่าหลุนหมุนอยู่  และยังเห็นสสารสีขาว  และยังเห็นผู้มีวิทยายุทธ์ชั้นสูง เป็นต้น

อาจารย์      นั่นไม่ใช่ความฝัน  ก็คือท่านมองเห็นแล้ว  นี้ล้วนเป็นเรื่องปกติ  ไม่ว่าเห็นอะไรล้วนเป็นเรื่องปกติ  อย่ายึดติดกับมัน  อย่าแสวงหามัน   ปล่อยไปตามธรรมชาติให้เฝ้าดูไปอย่างเงียบๆก็พอแล้ว
ศิษย์           มักจะปรากฏว่ารู้สึกทั้งตัวสูงใหญ่            ว่างเปล่า

อาจารย์      ถูกต้อง  ร่างกายคน   คือร่างกายในอีกมิติ ในเวลาที่ฝึกพลังมันจะเปลี่ยนใหญ่ขึ้นได้   ร่างกายในอีกมิติ รวมทั้งจิตด้วย  ล้วนแต่สามารถเปลี่ยนใหญ่ขึ้นหรือหดเล็กลงบางคนรู้สึกว่าตนเองเล็กมาก   บางคนรู้สึกว่าใหญ่มาก  นี่ล้วนเป็นปรากฏการณ์ที่ปกติ  ในขณะที่ฝึกพลัง ล้วนสามารถจะเกิดขึ้นได้  พลังกงกำลังโตขึ้น  ความจุ(ปริมาตร)ของร่างกายก็มากขึ้น

ศิษย์           พลังกงห้าชุด  ชุดที่หนึ่ง สาม ห้ามีการเคลื่อนไหวของชายซ้าย หญิงขวา ด้านไหนที่ถือเป็นอิน  ด้านไหนเป็นหยาง

อาจารย์      ฝั่งซ้ายจัดเป็นหยาง  ฝั่งขวาจัดเป็นอิน  ด้านหลังจัดเป็นหยาง  ด้านหน้าจัดเป็นอินร่างกายด้านบนจัดเป็นหยาง      ร่างกายด้านล่างจัดเป็นอิน

ศิษย์           สรรพชีวิตบนโลกจะไม่เข้าสู่วัฏสงสารอีกใช่หรือไม่

อาจารย์      จุดสำคัญของวัฏสงสารก็คือพูดถึงชีวิตบนโลก  จะไม่เข้าสู่วัฏสงสารได้อย่างไรละ    คนมาเกิดเป็นคน นั้นไม่ใช่เป้าหมาย  รีบคว้าโอกาสนี้ของการเป็นคนซึ่งง่ายที่จะบำเพ็ญ   ภพต่อไปไม่รู้ว่าจะกลับชาติไปเกิดเป็นสิ่งของอะไร   เมื่อไม่มีร่างคนก็ไม่อนุญาตให้ท่านได้บำเพ็ญแล้ว   แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกๆคนจะบำเพ็ญ   ทุกๆคนที่บำเพ็ญก็ไม่แน่ว่าจะก้าวหน้า         สังคมมนุษย์จะคงอยู่ตลอดไป

ศิษย์           ในความฝัน เชิญให้อาจารย์เซ็นชื่อ  เซ็นชื่อของตัวเอง  แล้วได้ยินอาจารย์พูดเรื่องซินซิ่งหลังจากตื่นขึ้นมากลับรู้สึกว่าคนในฝันนั้นยิ่งคิดยิ่งไม่เหมือนอาจารย์

อาจารย์      ใช่  ทุกท่านระวังเรื่องเหล่านี้ไว้   เขาจะอยู่ในความฝันเซ็นชื่อให้ท่านได้อย่างไร      พูดเรื่องซินซิ่งอะไร  ชูธงของพวกเรา  สิ่งที่พูดก็ไม่แน่ว่าจะเป็นอะไร  ทุกท่านพึงระวังไว้   นี้ก็คือ เกิดจากจิตยึดติดที่ต้องการลายเซ็น   ที่จริงฝ่านี้ของเราได้บรรยายอย่างชัดเจนมากแล้ว  ก็คือท่านคิดจะนำไปประเมินตนเองหรือไม่  ทุกท่านคิดดู   เราขอเน้นอีกครั้ง  ผู้รู้แจ้งนั้นไม่อาจบรรยายฝ่าอยู่ที่ฝั่งนั้นได้    หากบรรยายฝ่าก็เป็นการเปิดเผยความลับสวรรค์  ก็จะตกลงมาหมด   เขาจะกล้าบรรยายฝ่าให้ท่านในความฝันได้อย่างไรกัน  ก็เป็นปัญหานี้ ดังนั้นเราจึงพูดเรื่องเหล่านี้อีกครั้งล้วนเป็นการรบกวนของมาร

ศิษย์           อาจารย์บอกว่าไม่บำเพ็ญซินซิ่ง ฝึกแต่ท่าเคลื่อนไหวจะไม่ได้พลังกง  สิ่งของประเภทเดียวกับพวกจิ้งจอกนั้นไม่เน้นเรื่องซินซิ่ง    พวกมันเพียงแต่ทำท่าเคลื่อนไหวฝึกพลัง พวกมันจะได้พลังกงได้อย่างไร

อาจารย์      คนธรรมดาสามัญก็มีพลังงานที่แน่นอนระดับหนึ่ง  แต่อ่อนมาก  และคนที่มีเกินจีดี  จะสามารถนำพลังงานที่ใหญ่มากติดตัวมา   ส่วนพวกสัตว์และของประเภทเดียวกัน  มันอยู่ในอีกมิติไม่อยู่ในวังวนของสังคมคนธรรมดาสามัญ   จึงสามารถมองเห็นพลังงาน  ดังนั้นมันจึงสามารถได้พลังมาเล็กน้อยโดยการฝึกหรือขโมยเอา  แต่ไม่อนุญาตให้มีพลังงานสูง คนที่มีเกินจีดีหน่อย  ท่านฝึกๆพลังกง  แต่เขาไม่ได้บำเพ็ญซินซิ่งเขาก็สามารถมีพลังกงได้เล็กน้อย เพราะอะไรละ  เพราะซินซิ่งของเกินจีท่านอาจจะสูงอยู่เล็กน้อย  มาตรฐานซินซิ่งของท่านอยู่ตรงนั้น  แต่ถ้าท่านคิดจะบำเพ็ญอย่างแท้จริง  ท่านก็ต้องไปบำเพ็ญให้ได้มาตรฐาน  หาไม่พลังของท่านก็สูงขึ้นไม่ได้   ถ้าท่านไม่ได้ฝ่าที่ถูกต้อง  ในฐานะคนทั่วๆไปที่คิดจะบำเพ็ญ  ล้วนต้องไปบำเพ็ญซินซิ่งอย่างแท้จริง  ท่านจึงจะสามารถกะเทาะเปลือกออกมาได้  จึงจะสามารถกระโดดออกไปได้ ในอีกมิติสิ่งเหล่านั้นมันสามารถได้รับพลังงานจำนวนเล็กน้อย  คนก็สามารถจะได้รับพลังงานเล็กน้อย  แต่นั่นก็นับเป็นอะไรไม่ได้  ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า  มันบำเพ็ญเต๋าพันปี หมื่นปีก็ยังไม่พอจะให้พระพุทธใช้นิ้วก้อยเกี่ยวได้  มันก็จะหายไปหมดแล้ว  แต่ในหมู่คนธรรมดาสามัญกลับเห็นว่ามันล้ำลึกมาก

 ศิษย์          บางคนบอกว่าหลายเมืองทางภาคใต้มีกรรมหนัก  ผมอยู่ในเซี่ยงไฮ้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยจะได้รับผลกระทบหรือไม่

อาจารย์      ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน   เมื่อถึงยุคธรรมะปลาย ไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นสถานที่ไหน  แต่ละที่ล้วนมีคนดีอยู่  แต่ละที่ล้วนมีคนไม่ดีอยู่   แต่หากพูดจากแง่มุมของกรรมเบาหรือหนัก  แต่ละแห่งจะมีสภาพแวดล้อมต่างกัน  แต่ความคิดของคน เมื่อมองจากจุดหนึ่งจุดใด   จะพบว่าบางแห่งจะโดดเด่น  อย่างนี้ก็มีอยู่

ศิษย์           เมื่อใช้ตาทิพย์ดูรูปถ่ายของอาจารย์  สีน้ำเงินจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง

อาจารย์      นี่เป็นเรื่องปกติ  เมื่อตาทิพย์เปิด   พอตานี้ทะลวงผ่านมิติหนึ่งก็อาจจะเป็นอีกสีหนึ่ง

ศิษย์          โลกฝ่าหลุนอยู่ทางทิศใด   ตำแหน่งใดในจักรวาล

อาจารย์      จักรวาลไม่มีการรู้สึกรับรู้ทางด้านทิศทางของคนเรา  ข้าพเจ้าว่า นั่นเป็นสถานที่ใด  ไกลมาก  ระยะห่างนี้จะวัดออกมาได้อย่างไรละ  ไม่อาจใช้หน่วยกิโลเมตรนั้นมาคำนวณได้  แต่ สามารถสะท้อนออกมาในร่างกายของข้าพเจ้า  เพราะข้าพเจ้าเชื่อมต่อกับมันอยู่   ดังนั้นผู้ฝึกเราจึงมองเห็นว่า ข้างหลังข้าพเจ้ามีภูเขา มีน้ำ  หอและศาลาที่งดงามมาก  มีผู้ฝึกมากมายก็พูดกับข้าพเจ้าว่า  เขามองเห็นทัศนียภาพเหล่านี้แล้ว  ที่จริงก็คือท่านมองเห็นส่วนหนึ่งของมันได้แล้ว

ศิษย์                 ความแตกต่างระหว่างโลกฝ่าหลุนกับแดนสุขาวดีคืออะไร

อาจารย์      โลกฝ่าหลุนของเราใหญ่ยิ่งกว่า  ระดับชั้นสูงยิ่งกว่า และไกลกว่า

ศิษย์           ผมเป็นศิษย์ของศาสนาคริสต์ที่ผ่านพิธีล้างบาปโดยบาทหลวงแล้ว

อาจารย์      สามารถจะบำเพ็ญต้าฝ่าได้เช่นกัน    การฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ถ้าท่านคิดจะฝึกก็ฝึกได้  ไม่มีปัญหา  ใครก็ไม่อาจลงโทษท่านได้   ล้วนเป็นการบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง  ท่านคิดจะอยู่ในสำนักไหน นั่นคือตัวเองตัดสินได้ด้วยตนเอง  ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า ศาสนาคริสต์ก็เป็นศาสนาที่ถูกต้อง  แต่ล้วนอยู่ในช่วงปลายของยุคธรรมะปลายแล้ว   แต่คนปัจจุบันเข้าใจคำสอนทางศาสนาบิดเบือนไปแล้ว   แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นชาวตะวันออกในสวรรค์ของพระเยซู ในสมัยนั้นพระเยซูกับพระยะโฮวาห์ก็ไม่ได้บอกให้เผยแพร่ศาสนาของเขามาทางตะวันออก

ศิษย์           การทำงานวิจัยและขยันศึกษาความรู้ทางวัฒนธรรมถือว่ายึดติดหรือไม่

อาจารย์      พวกเราในฐานะนักเทคนิก   ในที่ทำงานหน้าที่การงานของท่านก็คือทำเรื่องวิจัยนี้  หากท่านไม่มีผลงานวิจัยออกมา  ไม่สามารถทำอะไรสำเร็จออกมาได้  ข้าพเจ้าคิดว่า ท่านก็จะรู้สึกผิดต่อคนเขาในที่ทำงาน ที่ให้งานส่วนนี้และเงินเดือนกับท่าน   คนฝึกพลังไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆก็สามารถจะแสดงออกมาว่าเป็นคนดีได้  พวกเราทำงาน ก็ควรทำมันให้ดี  เพราะนี้ไม่ใช่การยึดติด   เพราะอะไรจึงพูดเช่นนี้ละ   เพราะท่านกำลังสร้างความผาสุกให้แก่ผู้อื่น   สร้างสรรค์คุณค่าให้คนในสังคมมากยิ่งขึ้น  อย่างน้อยที่สุดคือทำเพื่อหน่วยงาน  ไม่ใช่เพื่อตัวท่านลำพังคนเดียว   นี้เป็นเรื่องที่ท่านควรทำในสังคมคนธรรมดาสามัญ   ถามว่าการศึกษาความรู้ทางวัฒนธรรมนับเป็นการยึดติดไหม  ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า   เราก็ต้องเลื่อมใสและส่งเสริมการศึกษาทางวัฒนธรรม  เพราะหากคนไม่มีความรู้  ก็ยากมากที่จะเข้าใจฝ่าของเรา   เช่นว่านักเรียนคนนี้คิดจะเข้ามหาวิทยาลัย  จิตใจนี้คือจิตยึดติดหรือไม่   หากท่านมัวแต่คิดจะเข้ามหาวิทยาลัย  คนในครอบครัวท่านพูดย้ำว่าท่านต้องเข้ามหาวิทยาลัย  มีแรงกดดันด้านจิตใจสูงมาก  ข้าพเจ้าว่านี่คือยึดติด  นั่นไม่ใช่ยึดติดหรอกหรือ  ก็เหมือนกับที่ข้าพเจ้าพูดในวันนั้น  ท่านทำหน้าที่การงานของท่านให้ดี  ท่านตอบแทนพ่อแม่  ตอบแทนโรงเรียน  ท่านเล่าเรียนให้ดี  ดังนั้นสิ่งที่ท่านควรมีก็จะมีได้แล้วมิใช่หรือ   หากท่านไม่เล่าเรียนให้ดี ท่านจะเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือ  เมื่อท่านเล่าเรียนให้ดีแล้ว  สิ่งที่ท่านควรจะได้ ก็จะได้แล้วมิใช่หรือ   ท่านเล่าเรียนให้ดีตามควรก็พอแล้ว  ท่านก็จะเข้ามหาวิทยาลัยได้   แต่ถ้าเอาแต่ไปคิด  ไปแสวงหา  นั่นคือยึดติด

ศิษย์           หลังจากฟังอาจารย์บรรยายจบ ก็ไม่สนใจเรื่องของคนธรรมดาสามัญอีกแล้ว  ไม่สนใจเรื่องการปรับตำแหน่ง  หรือหนังสืออื่นๆ  ไม่ทราบว่าถูกหรือไม่

อาจารย์     เป็นเช่นนี้  ที่จริงเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ  ก็คือ ตามการฝึกพลังของเราเอง และการเลื่อนชั้นของความนึกคิด  จะพบว่าเรื่องราวหลายเรื่องในหมู่คนธรรมดาสามัญนั้นเป็นสิ่งที่ต่ำมาก  สิ่งของในระดับชั้นนี้ของคนธรรมดาสามัญ  เขาก็รู้สึกว่าไม่มีความหมายแล้ว  ที่จริงคือเขตแดนความคิดของท่านเลื่อนขึ้นมาแล้ว  ข้าพเจ้ามิใช่พูดคำนั้นเสมอๆหรือ   ข้าพเจ้าว่า ผู้ฝึกพลังนี้เมื่อขึ้นไปถึงระดับชั้นสูงแล้ว ก็จะรู้สึกว่าระหว่างตนกับคนธรรมดาสามัญมีช่องว่างห่างกันอยู่    สิ่งที่ท่านอยากจะพูดคนอื่นฟังไม่เข้าใจ  ท่านก็ไม่อยากคุยกับคนธรรมดาสามัญ  เรื่องเหล่านั้นที่คุยกันในหมู่คนธรรมดาสามัญท่านไม่อยากฟังเลยจริงๆ   พูดกลับไปกลับมา ก็คือเรื่องแค่นั้นของคนธรรมดาสามัญ   กี่พันปีมาก็ล้วนแต่พล่ามบ่นในเรื่องเล็กๆนั้นในหมู่คนธรรมดาสามัญ ท่านไม่อยากจะฟังแล้ว   ผู้บำเพ็ญมักจะพูดน้อย ไม่อยากพูด  นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง  จะเกิดปัญหานี้ได้   เมื่อท่านเลื่อนชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ   ท่านจะพบว่าเรื่องเหล่านี้จะยิ่งมองยิ่งจืดจางลงเรื่อยๆ

ศิษย์     ในพลังกงชุดที่ห้า  ท่าหยุดนิ่งสี่ท่า แต่ละท่าค้างไว้นานแค่ไหน

อาจารย์     การเสริมสร้างกงเหนิง ท่าเคลื่อนไหวนี้กำหนดให้ฝึกยิ่งนานยิ่งดี  คนที่มีงานทำ ตอนเช้าให้ฝึกตามเทปบันทึกเสียงก็พอแล้ว  ที่จริงไม่มีเวลาที่เฉพาะเจาะจง   พลังกงชุดนี้ แม้จะเรียบง่าย  แต่ลำบากมาก  เพราะกำหนดให้คนนั่งเป็นเวลานานมาก   ขณะนี้บางคนไม่อาจนั่งได้นานอย่างนั้น   ไม่อาจนั่งได้เป็นเวลานานอย่างนั้น   เช่นนั้นท่านสามารถนั่งได้นานแค่ไหนก็นั่งนานแค่นั้น  ท่านแบ่งมันออกให้เท่าๆกัน  สามารถจะนั่งได้นานแค่ไหนจากนั้นท่านก็ลดทอนลงครึ่งหนึ่ง ที่จริงในเวลาที่นั่งสมาธินั้น  สุดท้ายเมื่อเข้าสู่สมาธินิ่ง กำหนดเวลาไว้ยิ่งนาน  ขณะนี้ท่านทำไม่ได้ถึงจุดนั้น   ท่านก็ค่อยๆฝึกไป   หากตอนนี้กำหนดไว้ตายตัว ก็ไม่เป็นจริง

ศิษย์            เพื่อนร่วมงานของเรากำลังฝึกวิชามาร   ต่อไปหากทำงานด้วยกันในระยะยาวจะทำอย่างไรดี

อาจารย์      กำลังฝึกวิชามาร ท่านก็บอกเขาว่า สิ่งที่เขาฝึกนั้นไม่ดี  ถ้าเขาจะฝึกให้ได้ ก็ตามใจเขา   เรื่องของการทำงานท่านก็ทำไปตามปกติ  การบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้องไม่กลัวอะไรไม่ต้องสนใจมัน  นั่นไม่มีปัญหา

ศิษย์           ผู้ฝึกที่เข้าร่วมชั้นเรียนครั้งนี้ก็เป็นศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้วหรือไม่

อาจารย์      เรื่องนี้เคยพูดแล้ว  ถ้าบำเพ็ญอย่างแท้จริงข้าพเจ้าก็จะนำพาท่านในฐานะศิษย์  แต่ถ้าไม่บำเพ็ญ ข้าพเจ้าก็ไม่อาจถือท่านเป็นศิษย์

ศิษย์           ศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้วจะศึกษาความรู้อื่นนอกจากหลักพลังด้วยได้ไหม

อาจารย์     ไม่เป็นไร  คณิตศาสตร์  เคมี    เรขาคณิต  ท่านศึกษาความรู้ในหมู่คนธรรมดาสามัญของท่าน  ท่านยังอาศัยอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ท่านเพียงแต่บำเพ็ญอยู่ในฝ่าหลุนต้าฝ่า  เรื่องในหมู่คนธรรมดาสามัญของท่าน จะไม่ทำก็ไม่ได้

ศิษย์           ในขณะที่ฝึกพลังในปากเกิดมีน้ำลายหรือเสมหะจะจัดการอย่างไร

อาจารย์      ท่านอย่าบ้วนออกมา  ถ้าเป็นน้ำลายให้กลืนเข้าไป  เพราะข้าพเจ้าได้ใส่กลไกสำเร็จรูปให้แล้ว  ท่านไม่ต้องสนใจมัน  มันจะกลืนลงไปเอง   ส่วนใครที่ไม่มีอะไรแต่มักจะบ้วนบ่อยๆ นั้น มีคำพูดหนึ่งว่า “น้ำลายทอง กับน้ำหยก  ดังนั้นผู้ฝึกพลังจะมองมันว่าล้ำค่า

ศิษย์           ในหมู่คน มีบางคนที่เลวมาก  ความคิดเลว  คนชนิดนี้เดิมทีควรได้รับกรรมสนอง  แต่คนที่ทำดีชอบช่วยเหลือคน  กลับไม่ได้รับกรรมดีสนองเพราะอะไร  

อาจารย์     ความหมายของท่านนี้คือจะพูดว่า ทำไมคนดีจึงมีชีวิตอยู่ไม่สุขสบาย  แต่คนเลวมีชีวิตที่สบายอย่างนี้   เป็นความหมายนี้ใช่ไหม  ขอบอกทุกท่าน  คนดีมีชีวิตไม่สบายเพราะในสายตาของชีวิตชั้นสูงนั้น   คนมีชีวิตอยู่ มิใช่ให้ท่านเป็นคน  ดังนั้นที่ท่านเป็นคนเพราะท่านตกลงมาถึงชั้นนี้แล้ว  จึงให้โอกาสท่านสักครั้งให้หวนคืนกลับไป  แต่กลับยังรับรู้ไม่ได้  และอยู่ที่นี่ยังก่อกรรมอีก  ทำเรื่องชั่วอีก  ดังนั้นจึงมีการหมุนเวียนชดใช้กรรม  ผู้รู้แจ้งเห็นว่า  จงรีบชดใช้กรรมเหล่านี้ให้หมดโดยเร็ว  ท่านจึงจะจากที่นี่ไปได้ง่าย  ยิ่งเป็นคนดีก็ยิ่งให้ท่านเร่งรีบชดใช้กรรม   ท่านจะชดใช้สิ่งนี้ ท่านไม่ต้องทนทุกข์ทรมานได้หรือ  ดังนั้นมักจะมีบางคนในชั่วชีวิตนี้ เป็นคนที่ไม่เลวทีเดียว  แต่มักจะต้องทนทุกข์ทรมาน  กระทั่งไม่ว่าจะทำเรื่องดีอะไร คนเขาก็ไม่เข้าใจ  มักจะถูกใส่ร้ายป้ายสี  ยังมีบางคน  ตัวเองทำอะไรสำเร็จแล้ว แต่กลับถูกคนอื่นช่วงชิงผลงานไป มักปรากฏออกมาเป็นเรื่องอย่างนี้   เป็นอย่างนี้ ที่เราเห็นก็คืออย่างนี้  เป็นเหตุผลนี้   นี่ก็คือสาเหตุที่ว่าคนดีมักจะมีชีวิตที่ไม่สุขสบาย  แต่ไม่ใช่อย่างนี้ทั้งหมด   มันเกี่ยวกับกรรมมากหรือน้อย จุดประสงค์คือหลังจากให้ท่านชดใช้กรรมแล้วก็หลุดพ้นทะเลแห่งทุกข์  แล้วคนชั่วเป็นอย่างไรกันละ  คนเลวนั้น เทพก็มองจากมุมมองของจิตเมตตา  คนเลวนั้นท่านดูเขาทำเรื่องไม่ดี  เขาให้กุศลแก่คนอื่น  เขาทำเรื่องเลวเท่าไร ก็ให้กุศลคนเขามากเท่านั้น   จึงเห็นว่าคนๆนี้กำลังทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว  เขาทำร้ายตัวเขาเองอยู่  ท่านยังจะดูแลเขาอย่างไร  เทพจึงไม่อยากลงโทษเขา  ตัวเขาเองกำลังทำร้ายตัวเองอยู่แล้ว  ท่านยังจะลงโทษเขาไปทำไม เขาทำชั่วแล้ว ดูเหมือนไม่ได้ลงโทษเขา  ไม่มีใครดูแลเขา  ก็เหมือนเขาหลุดจากการควบคุม  ใครก็ไม่อยากดูแลเขา  เพราะอะไรละ   เพราะกำลังรอให้ตัวเองดับสลายตัวเอง  รอวันที่เขาตายแล้วก็จะดับสลายจนถึงที่สุด  อะไรก็ไม่มีแล้ว  เขาก็เป็นอย่างนี้ สิ่งที่คนเข้าใจว่าดีชั่วนั้นจะกลับกัน มาตรฐานที่คนธรรมดาสามัญใช้ประเมินคนดี คนชั่ว  มักจะเป็นการยืนอยู่บนมุมมองของตนในการประเมิน   ถ้าดีกับฉัน  ฉันก็ว่าเขาดี  หรือในทัศนคติของฉัน ฉันคิดว่าดี  ก็จะบอกว่าเขาดี  นั่นใช้ไม่ได้  ถ้าดีกับท่านก็ว่าดี ทัศนคติของท่านยังคงเป็นทัศนคติของคนธรรมดาสามัญที่จำกัด มาตรฐานของเขาก็ต่ำด้วย คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลนี้จึงจะเป็นมาตรฐานที่แท้จริง ในการประเมินความดี ความชั่ว

ศิษย์           ผมอยู่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่มองเห็นพระพุทธรูป  แล้วรู้สึกว่าศีรษะหนักมาก

อาจารย์      ใช่  มีสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างที่แทรกซึมไปทั่ว  แต่กับผู้ที่บำเพ็ญต้าฝ่าไม่มีผลอะไร

ศิษย์           เมื่อก่อนเคยสัมผัสกับภาษาของศาสนาพุทธ  ขณะฝึกพลังจะได้ยินเสียง เวิงปาฮงมีแว่บในหูโดยบังเอิญ

อาจารย์       นี่คือของ ของมี่จง  นี่เป็นคำสวดคาถาของมี่จง  ปัจจุบันสิ่งที่เป็นพวกชั่วร้ายนอกรีตก็ท่องกัน  กำลังใช้กันอยู่   แม้แต่ศาสนาเต๋าก็สวดกัน   ปัจจุบันยุ่งเหยิงไปหมด อย่าให้สิ่งเหล่านี้รบกวน  บางคนขณะหลับยังรำมือชุดใหญ่  รำมือชนิดต่างๆ  ท่านต้องปล่อยวาง  อย่ารำมือ   สิ่งที่ข้าพเจ้าสอนพวกท่านก็คือสิ่งเหล่านี้ของเรา   ท่านก็ยึดกุมสิ่งเหล่านี้ไปฝึก

ศิษย์           พบว่าอาหารเป็นพิษ          ควรทำอย่างไร

อาจารย์      ผู้ฝึกเราที่บำเพ็ญอย่างแท้จริงมีเรื่องเหล่านี้น้อยมาก  เราพบกับทุกข์ภัยอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญ  ในฐานะผู้บำเพ็ญที่แท้จริง ย่อมสามารถจะหลบหลีกได้  รับรองว่าเป็นเช่นนี้   ต่อให้เป็นทุกข์ภัยที่ใหญ่ขึ้นไปอีกก็สามารถหลบหลีกได้หมด  แต่กรณีที่ยกขึ้นมาก่อนหน้านั้นเป็นผู้บำเพ็ญที่แท้จริง   ถ้าบรรลุไม่ถึงมาตรฐานของการบำเพ็ญ  คืออยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญไม่ได้ยกระดับซินซิ่งของตนอย่างแท้จริง ก็ยากจะพูดได้แล้ว  บางคนถามข้าพเจ้า ว่า ผมฝึกมานานอย่างนี้แล้ว ทำไมโรคนี้ไม่หายเสียทีละ  แล้วซินซิ่งของท่านเป็นอย่างไรละ ท่านฝึกท่าเคลื่อนไหวไม่กี่ท่าก็คิดจะให้โรคหายแล้ว  เราก็ไม่ใช่มาเพื่อรักษาโรคให้ท่าน  เราที่นี่คือการบำเพ็ญ  มิใช่ปัญหานี้หรือ  บอกว่าหากพบว่ามีพิษ  ข้าพเจ้าว่าในหมู่ผู้ฝึกเราจะไม่มีปรากฏการณ์ชนิดนี้แน่   บางคนที่พบกับเรื่องชนิดนี้  ชามนั้นก็จะถูกตีแตกหมดแล้ว ก็จะเข้าปากไม่ได้ หากท่านโดนพิษจริงๆ  เช่นนั้นท่านต้องไปโรงพยาบาล  เพราะหากท่านไม่อาจควบคุมตัวเองได้จริงๆ  รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ฝึกพลังที่แท้จริง เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น  ท่านยังต้องไปโรงพยาบาลจริงๆ  สำหรับผู้ฝึกพลัง  เรื่องเหล่านี้ โดยทั่วไปจะไม่เกิดขึ้น

ศิษย์           คนที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าบริจาคเลือด  ไม่มีปัญหากระมัง

อาจารย์       แน่ละเราก็ไม่เสนอไม่ให้ท่านบริจาค  ถึงอย่างไรเลือดนี้ของท่านฉีดให้กับคนอื่น ก็ล้ำค่าเหลือเกินแล้ว  แต่ว่า  เรื่องเหล่านี้ดูเหมือนว่าในหมู่ศิษย์และผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าเรา จะมีน้อยมาก  เรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดให้ตายตัว  ถ้าจำเป็นให้ท่านบริจาค  เช่นนั้นท่านก็ต้องบริจาค

ศิษย์           หวังว่าทุกๆปีในเทศกาลหรือวันหยุด ท่านจะพบกับพวกเราทางทีวี ปีละครั้งก็ยังดี

อาจารย์      นั่นเป็นเรื่องของสถานีทีวี  ที่จริงมีบางเรื่องพวกเราควรปล่อยให้เป็นไปตามวาสนา

ศิษย์           ในขณะที่ผมฝึกพลังอยู่  อักษรมงคลตัวหนึ่งที่มีผ้าคลุมเอาไว้ ก็ค่อยๆเปิดออกมา ให้ผมดู

อาจารย์     นี่คือการบอกว่าท่านได้ฝ่าแล้ว  สะกิดเตือนท่าน ว่าเรียนต้าฝ่าแล้ว

ศิษย์           คนที่กรรมหนักมากมักจะฝึกอยู่ด้วยกันกับคนที่มีพลังกงค่อนข้างสูง  จะกระทบอะไรกับคนที่มีพลังกงสูงไหม

อาจารย์     ผลกระทบแม้แต่น้อยก็ไม่มี   ในสายตาของคนที่มีพลังกงสูง  กรรมนั้นไม่ใช่อะไรเลย

ศิษย์                 ฝ่าหลุนจะเปลี่ยนรูปในสถานการณ์อะไร

อาจารย์      เมื่อฝึกแทรกพลังกงอย่างอื่นเข้าไป  ในความคิด มีการแทรกความคิดของพลังกงอย่างอื่นเข้าไป  ฝึกแล้วก็จะเปลี่ยนรูปได้   พลังจากภายนอกไม่อาจทำลายฝ่าหลุนได้ตลอดกาล

ศิษย์           การเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  เสื่อมถอยในจักรวาล เป็นผลของการผันแปรของมันเองหรือว่าเป็นการควบคุมของผู้รู้แจ้ง

อาจารย์      จักรวาลนี้ก็คือรูปแบบอย่างนี้ที่คงอยู่   ในขณะเดียวกันจักรวาลนี้ยังมีผู้รู้แจ้งที่ใหญ่มากที่สามารถควบคุมมัน  แต่ก็  ดำเนินการไปตามหลักการนี้ของจักรวาล   เรียกว่าเกิดขึ้นตามธรรมชาติ  ดับไปตามธรรมชาติ   มันจะดับหรือไม่ดับ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา   ยุ่งเกี่ยวกับเขาไม่ได้   เมื่อมัน(จักรวาล)ระเบิดแล้วก็ระเบิดไม่ถูกเขา   แล้วเขาก็สร้างขึ้นอีก   ประวัติศาสตร์ของจักรวาลช่างยาวนานเหลือเกินแล้ว  พระพุทธ เต๋า เทพไม่จำเป็นต้องไปพิจารณามัน  แต่สำหรับคนนั้นก็น่ากลัวมาก

ศิษย์           ในท้องของผม มีฝ่าหลุนกำลังหมุนอยู่ ทั้งร้อนทั้งบวม  เป็นปกติไหม

อาจารย์      โอ้ ในท้องท่านก็มีฝ่าหลุน   สิ่งมีชีวิตชั้นสูงอย่างนั้น   ทำไมใจท่านยังไม่มั่นคงนะ  ฝ่าหลุนยังสามารถทำร้ายท่านได้หรือ  พูดอีกอย่างหนึ่งนั่นคือพระพุทธนะ

ศิษย์           ก่อนการปฏิวัติวัฒนธรรม เมืองเยี๋ยนจี๋มีวัดอยู่ห้าแห่ง   ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมถูกทุบทิ้งไปแล้ว   ได้ยินว่าปัจจุบันกำลังก่อสร้างขึ้นใหม่  ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะช่วยบริจาคเงินได้ไหม

อาจารย์     ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปสนใจ  คนเขาบริจาคของคนเขา  คนเขาบูรณะของของสำนักเขา

ศิษย์           ผมตัดสินใจจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าให้ดี  มักคิดเสมอว่าการกำหนดตนเองอย่างนี้ถือเป็นการยึดติดหรือไม่

อาจารย์      การกำหนดตัวเองให้เป็นคนดี นี่ไม่นับว่ายึดติด  คิดจะหวนคืนกลับสู่ความจริงแท้  นี่คือคุณสมบัติดั้งเดิมของคนออกมาแล้ว  แต่กลับสามารถทำลายจิตยึดติดได้

ศิษย์           ผมเป็นอุบาสกคนหนึ่ง ขอเรียนถามว่า จะอ่านพระสูตรสุรางกามาได้ไหม

อาจารย์      เรามีหนังสือบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าเล่มนี้   ท่านสามารถอ่านได้  จะพิมพ์ออกมาในอนาคต   ท่านมัวแต่อ่านพระสูตรสุรางกามา  วัชรสูตร   พระสูตรนี้ พระสูตรนั้น  ไม่เท่ากับท่านบำเพ็ญของ ของสำนักนั้นแล้วหรือ  ก็คือปัญหานี้  ข้าพเจ้าก็ไม่คัดค้านท่านอ่าน  ท่านก็ไปบำเพ็ญของสำนักนั้นเถอะ  ท่านไม่อาจจะเหยียบเรือสองแคม  เป็นความหมายนี้

ศิษย์           จะสอนคนที่เป็นโรคจิตระดับอ่อนได้ไหม  

อาจารย์     ข้าพเจ้าว่าดีที่สุดท่านอย่าหาเรื่องเดือดร้อน    เพราะเขาควบคุมตัวเองไม่ได้  เขาฟังไม่เข้าใจ  พอสมองเขาถูกสื่อสัญญาณภายนอกควบคุม  มารอะไรก็สามารถรบกวนเขา  ในเวลานั้น ท่านก็ยากจะรับมือไหว  พอเขาตกอยู่ในภาวะนั้น มารอะไรก็สามารถควบคุมเขาได้   ดังนั้นเขาไม่เพียงไม่ส่งผลดี  เขายังจะทำลายภาพลักษณ์ของฝ่าหลุนต้าฝ่า   แต่ไหนแต่ไรมา  เราจึงไม่อยากสอนคนป่วยโรคจิต ก็คือความหมายนี้  เขาควบคุมตัวไม่ได้  พอถึงเวลานั้น มารอะไรก็จะรบกวนเขา  อะไรๆก็เสียหายแล้ว  ฝึกไปเสียเปล่า 

ศิษย์           เมื่อหลายวันก่อนเพื่อนคนหนึ่งมาที่บ้านและนำตัวสิงมาด้วย   เช้าวันถัดมาฝึกพลัง ตัวสิงร่างนั้นก็ฝึกด้วย            ฝึกเสร็จก็ไป    นี่จะทำอย่างไรดี

อาจารย์      เห็นเรื่องนี้แล้วให้เรียกชื่อข้าพเจ้า  ที่จริงก็เป็นการทดสอบท่าน  เรื่องเหล่านี้ซับซ้อนมาก

ศิษย์           จะปกป้องต้าฝ่าได้อย่างไร

อาจารย์      เราไม่อาจไปต่อตีกับคนเขา  ไม่ให้ตลาดกับเขาก็พอแล้ว  ผู้บำเพ็ญ เมื่อประสบกับการรบกวน  โดยตัวมันเองก็คือการทดสอบด่านหนึ่ง

ศิษย์           มีคนพูดไม่ดีต่อฝ่าหลุนต้าฝ่า จะปฏิบัติกับเขาอย่างไรดี

อาจารย์     ไม่ต้องใส่ใจเขา   ถ้าเขาดึงดันจะพูด  ไม่ฟังเหตุผล  ท่านจะทำตัวอย่างเดียวกับเขาได้ไหม  อย่าไปสนใจเขา  ไม่มีตลาดก็จบแล้ว  ที่จริงนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อทดสอบซินซิ่งคน

ศิษย์           ฝ่าหลุนที่ท่านให้กับเราจะเปลี่ยนแรงขึ้นได้หรือไม่

อาจารย์     จะแรงมากขึ้นเรื่อยๆ  เขาเองก็สามารถเปลี่ยนให้ใหญ่มากหรือเล็กมากได้   ในอีกมิติเขาสามารถจะเปลี่ยนได้

ศิษย์           เวลาฝึกพลัง ยังไม่สามารถเข้าสู่ความสงบได้ จะฝึกวิชามารออกมาได้ไหม

อาจารย์    ไม่เป็นอย่างนั้น   ท่านไม่คิดสิ่งที่ไม่ดี  ปฏิบัติตนเป็นผู้ฝึกพลัง  สกัดกั้นกรรมทางความคิดที่สะท้อนความคิดที่ไม่ดีในสมอง

ศิษย์           ท่านพูดว่าต้นไม้มีจิตวิญญาณ มันจะบำเพ็ญได้ไหม  สามารถจะสำเร็จเป็นพระพุทธไหม

อาจารย์      นอกจากคนแล้ว  จะไม่ยินยอมให้สิ่งอื่นบำเพ็ญได้ฝ่าถูกต้อง   สรรพสิ่งล้วนมีจิตวิญญาณ ไม่เพียงแต่ต้นไม้    มีแต่คนจึงจะสามารถบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้องได้ธรรมะ

ศิษย์                 คนที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะบูชาป้ายบรรพชนได้หรือไม่

อาจารย์      บรรดาที่เรียกว่าบรรพชนของท่านไม่ใช่ต้นกำเนิดบรรพชนของท่านก่อนกำเนิด  นั่นไม่ใช่คนที่ได้ธรรมะ  และไม่ใช่พระพุทธของระดับชั้นสูง  นั่นเป็นวิญญาณระดับชั้นต่ำ  ซินซิ่งของเขานั้นจำกัดมาก  ล้วนสามารถรบกวนการบำเพ็ญของท่านได้  ถ้าท่านมีจิตใจที่ว่านั้น ก็บำเพ็ญให้ดีๆ  เมื่อได้มรรคผลถูกต้องแล้วก็ไปช่วยพวกเขา

ศิษย์           การฝึกพลังเมื่อเกิดจิตเมตตา จะหลั่งน้ำตาใช่หรือไม่

อาจารย์      มีสองสภาพการณ์  ปัจจุบันมีคนที่ฝึกพลังมักจะน้ำตาไหล  พอเห็นข้าพเจ้าเขาก็จะน้ำตาไหล  เวลาฝึกพลังก็อยากน้ำตาไหล   นี่เป็นเรื่องอะไรกัน   ก็คือจิตรองที่มองเห็นข้าพเจ้าช่วยท่านชำระร่างกาย ล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปไม่น้อย  ขณะเดียวกันข้าพเจ้าก็ให้สิ่งที่ล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้แก่ท่าน  ดังนั้นเขาจึงตื้นตันใจมาก  แต่จิตหลักของท่านไม่รู้  ทำไมจึงมักจะน้ำตาไหล  เพราะเขามองเห็นแล้ว  หากจิตหลักของท่านได้เห็นเองจริงๆแล้ว  ท่านจะขอบคุณข้าพเจ้าอย่างไร  จิตใจนี้ท่านล้วนไม่สามารถที่จะแสดงออกมาได้  ยังมีอีกสภาพการณ์หนึ่ง  เมื่อพวกเราฝึกจนถึงระดับหนึ่ง  ก็จะเกิดจิตเมตตา  ซึ่งจะน้ำตาไหลเช่นกัน  แต่นั่นมีลักษณะเฉพาะ  มองเห็นการฆ่าชีวิต  เห็นคนๆนี้ถูกรังแก  ไม่ว่าอย่างไรมันจะมีความจำเพาะ ซึ่งก็จะน้ำตาไหล  นี่ก็คือจิตเมตตาออกมาแล้ว

ศิษย์           ขณะที่ฝึกพลังอยู่  ทันใดก็มีงานจะทำอย่างไร

อาจารย์      ข้าพเจ้าเคยพูดแล้วว่า เมื่อมีงาน เราไม่พูดถึงการเก็บพลัง  ท่านลุกขึ้นมาก็ไปได้เลย  ควรจะทำอะไรก็ทำอะไร  ฝ่าหลุนนี้เขาเองจะเก็บพลังงานของท่านที่สาดกระจายออกไปกลับมาในทันที

ศิษย์           ขณะฝึกฝ่าหลุนจวงฝ่า(ชุดที่สอง) ต้องรู้สึกว่าฝ่าหลุนหมุนที่หว่างคิ้วจึงจะนับว่าโอบแขนได้กลม

อาจารย์      นั่นไม่แน่  บางคนไม่รู้สึกว่าหมุน  ที่นี่ร้อยละแปดสิบ ถึงเก้าสิบล้วนรู้สึกว่าหมุน

ศิษย์           ขณะบำเพ็ญจะสามารถใส่เครื่องประดับทองหรือเงินได้ไหม

อาจารย์    ขณะฝึกพลัง ดีที่สุดอย่าใส่สิ่งเหล่านี้  ที่จริงคนใส่มิใช่เป็นเพราะจิตโอ้อวดหรือ เมื่อแต่งงานแล้ว ใส่เป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน  ข้าพเจ้าว่าก็ไม่เป็นไรนัก  แต่เวลาฝึกชี่มันจะบังเกิดผลเป็นอุปสรรคได้  ทองและเงินล้วนสามารถปล่อยสสารสีขาวเหลืองชนิดหนึ่งออกมา  คล้ายชี่ชนิดหนึ่ง  มันสามารถจะบังเกิดผลเป็นอุปสรรคได้  เพราะมันมีกำลังแรงกว่าชี่ของร่างกายคนธรรมดาสามัญเช่นท่าน ดังนั้นมันสามารถขัดขวางได้  แต่การฝึกพลังกงมันขวางกั้นไม่อยู่  บางคนรู้สึกว่าสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้   แน่ละจิตนานาชนิดล้วนมีกันทั้งนั้น   เมื่อฝึกพลังท่านกลัวสิ่งชั่วร้ายอะไรกัน   การบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง อะไรก็ไม่กลัว

ศิษย์          เวลาฝึกพลังมือมักจะร้อนเสมอ

อาจารย์      นั่นก็ถูกแล้ว   โรคล้วนจัดเป็นสิ่งที่เป็นอิน    บางครั้งพวกเราจะเกิดสภาพที่อิน หยาง แยกกันอย่างชัดเจน   ร่างกายครึ่งหนึ่งร้อน อีกครึ่งหนึ่งเย็น  มันยังสลับที่ได้ บอกว่าฝั่งนี้เย็น  ฝั่งนั้นร้อน  นี้ล้วนเป็นปรากฏการณ์ปกติ  นี้จัดเป็นสภาวะของอินหยางแยกกันอย่างชัดเจน

ศิษย์           คนที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า สามารถจะคุกเข่าก้มศีรษะคำนับให้กับคนตายได้ไหม  

อาจารย์      หากท่านเป็นผู้ฝึกพลังที่มีพลังออกมาแล้ว   มันจะทนการก้มศีรษะคำนับนี้ของท่านไม่ได้  การก้มศีรษะคำนับนี้ของท่านพอก้มลง  มันจะตกใจจนหายไปไม่เหลือเงาเลย  ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยดีจริงๆการก้มศีรษะคำนับนี้ของท่านสามารถทำให้มันตายได้   แน่ละคนธรรมดาสามัญวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้ไม่ออก  ผู้บำเพ็ญท่านสามารถโค้งคำนับได้  ทำท่ามือตามพิธีของพระพุทธได้  ข้าพเจ้าว่าจะค่อนข้างดี  ไม่อาจก้มกราบคนตาย  พวกมันยังรอให้ท่านช่วยด้วยนะ ท่านจะก้มกราบอะไร  

ศิษย์           ซินซิ่งยกระดับขึ้นไปไม่ได้ เวลานั่งสมาธิจะปวดไหม

อาจารย์      ซินซิ่งท่านยกระดับขึ้นไปแล้ว ขาก็จะปวดได้เหมือนกัน

ศิษย์           เวลาเตี๋ยโคว่เสียวฝู่กับสองมือหมุนฝ่าหลุนสี่รอบตามเข็มนาฬิกา ฝ่ามือจะทำเป็นมือดอกบัวหรือเปล่า

อาจารย์     ใช่  ล้วนเป็นมือดอกบัว   ชุดฝึกพลังทั้งห้า  ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนเป็นรูปแบบนี้

ศิษย์           บางนิตยสารเคยลงว่าสุนัขจิ้งจอกกลายเป็นคนได้จริงหรือไม่

อาจารย์     จักรวาลนี้เดิมทีก็ซับซ้อนมาก  เพียงแต่คนไม่เชื่อ  เรื่องเหล่านี้ ผู้ฝึกพลังเราอย่าไปสนใจมัน   เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเราผู้ฝึก  ก็อย่าถามเลย

ศิษย์           ผู้ทำงานวิจัยโจวอี้(ตำราว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง)จะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าได้หรือไม่

อาจารย์      ดีที่สุดท่านปล่อยวางเสีย   ในนั้นก็มีสิ่งอื่นอยู่   เมื่อเทียบกับต้าฝ่า  มันก็เล็กเสียเหลือเกิน   ไม่มีค่าพอให้ผู้บำเพ็ญต้าฝ่าไปวิจัย  ยกเว้นเป็นงานตามปกติของท่าน

ศิษย์                 ระดับชั้นของคนนี้มีกรรมหนักมาก  จะเกิดผู้มีรากฐานยอดเยี่ยมได้อย่างไร

อาจารย์      โดยทั่วไปล้วนแต่มีที่มานะ   ล้วนมีที่มานะ

ศิษย์                 ในการฝึกเสินทงเจียฉือฝ่า(ฝึกพลังชุดที่ห้า) จะใช้แรงและกลไกชี่ จะขัดแย้งกันหรือไม่

อาจารย์      เวลารำมือให้แขนท่อนล่างนำพาแขนท่อนบน  ดังนั้นระหว่างแขนท่อนล่างกับข้อมือ  แม้แต่นิ้วมือก็มีกำลังอยู่ระดับหนึ่ง   พอถึงท่าเจียฉือเสินทง(เสริมสร้างอิทธิฤทธิ์)ค่อยผ่อนคลาย   ผ่อนคลายทั้งหมด  เป็นการร่วมมือกันอย่างยอดเยี่ยมกับกลไก

ศิษย์           ฝึกพลังถึงระดับชั้นไหนจึงจะมีฝ่าเซิน

อาจารย์      ฝ่าเซินนั้นล้วนเป็นรูปลักษณ์ของพระพุทธ   ผมสีน้ำเงิน  สวมจีวรสีเหลือง  การบำเพ็ญต้องบรรลุถึงระดับชั้นนั้นจึงจะสามารถมีฝ่าเซินออกมา

ศิษย์           จะกินยาได้หรือไม่

อาจารย์     บางคนถามข้าพเจ้าว่า ถ้าหากบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า หากกินยาก็ใช้ไม่ได้แล้วหรือ   ท่านจะกินยาหรือไม่ ข้าพเจ้าไม่สนใจ   ที่นี่ข้าพเจ้าเพียงแต่กำหนดให้คนบำเพ็ญปฏิบัติตามมาตรฐานของผู้บำเพ็ญ   ท่านทำไม่ถึงจุดนี้ ท่านไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน ซินซิ่ง  ถึงเวลาแล้วท่านไม่กินยา แล้วเกิดปัญหาขึ้น  ท่านพูดว่า หลี่ หงจื้อ ไม่เรียกให้ท่านกิน  ทุกท่านคิดดู  ท่านไม่อาจทำตัวเป็นผู้ฝึกพลัง  เมื่อท่านมีปัญหาแล้ว  ท่านไม่กินยา ย่อมจะเกิดอันตรายอย่างแน่นอน  คนธรรมดาสามัญเขาก็เป็นเช่นนั้น  ผู้ฝึกเราก็อย่าถือมันเป็นเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ของผู้ฝึกใหม่ที่จะเข้ามา    ต้องให้เขารับรู้ด้วยตัวเอง  แต่สามารถแนะเตือนได้

ศิษย์           ในระหว่างที่อบรมลูกๆ อดรนทนไม่ไหว ตีหรือด่าลูก จะทำให้ตนเองมีกรรมหรือไม่

อาจารย์     ลูกๆนี้สมควรจะอบรมสั่งสอน   ไม่อบรมสั่งสอนก็เป็นการให้ท้ายย่อมเสียกุศลได้   ถ้าท่านไม่อบรมสั่งสอนก็จะขาดความรับผิดชอบในฐานะพ่อแม่   ดังนั้นจึงสมควรดูแล   ถ้าลูกไม่เชื่อฟัง   เราจัดการหนักไปหน่อยก็ไม่เป็นไร  แต่ท่านอย่าเห็นเขาเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง   นั่นไม่ถูกต้อง   นี่ต้องแยกแยะให้ชัดเจน  เราดูแลลูกก็อย่าโมโห  ถ้าท่านโมโหจริงๆก็ไม่ถูกต้อง   อย่างนั้นตัวท่านเองก็ยังมีปัญหาเรื่องเหยิ่น(ความอดทน)  เหยิ่นไม่ใช่ว่าโมโหแล้วค่อยเหยิ่น   แต่ต้องไม่โกรธ  ชีวิตที่แท้จริงของลูกไม่ใช่ท่านเป็นผู้ให้ ลูกก็มีที่มาของเขาเองก่อนกำเนิด  ดังนั้นเขาก็เป็นชีวิตที่เป็นเอกเทศ  ต้องดูแลอย่างมีสติสัมปชัญญะ

ศิษย์           ถ้าหากฝึกพลังของตัวสิงแล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไร

อาจารย์      นั่นก็จะมีตัวสิงแล้ว แต่ละวันจะดูดสิ่งสุดยอด ในร่างกายท่านไป

ศิษย์           ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  พลังกงของเราจะสามารถระเบิดออกไหม

อาจารย์      ไม่ได้   ทุ่มเทเท่าไรจะได้เท่านั้น  จะไม่ระเบิด

ศิษย์           ในสนามฝึก ใครที่สามารถขัดสองขาได้เร็ว  ทำได้นานก็ถือว่าเขาฝึกพลังได้ดีหรือ

อาจารย์     เขานั่งสมาธิได้นาน   พูดได้แต่เพียงว่าเขาฝึกได้ดีในด้านนี้  แต่พูดถึงว่าการบำเพ็ญโดยรวมของคนดีแค่ไหน    นั่นไม่อาจประเมินได้จากเรื่องการนั่งสมาธิสั้นหรือยาวและไม่อาจใช้ความสามารถพิเศษ(กงเหนิง)มาประเมิน   เช่นว่าคนๆนี้มีกงเหนิง  ระดับชั้นของตาทิพย์สูง  เขาก็บำเพ็ญได้สูง   ไปเคารพบูชาเขา  ไม่ถูกต้อง  มาตรฐานหนึ่งเดียวของเราในการประเมินความดี ความเลวก็คือ  ดูที่ซินซิ่งของคนว่าสูงหรือต่ำ   ถือต้าฝ่าเป็นมาตรฐาน  ถือความสูงต่ำของซินซิ่งประเมินความดี ความเลวของผู้บำเพ็ญ     ต่อไปเมื่อถึงระดับชั้นที่แน่นอนหนึ่ง    จะดูสีบนร่างกายคนก็จะสามารถเห็นระดับชั้นของคนได้  เพราะอะไรหรือ  เพราะว่าสีนี้เป็นเช่นนี้ คือ แดง ส้ม เหลือง  เขียว น้ำเงิน ม่วง มีสี ไร้สี   การเปลี่ยนแปลงของสีเก้าชนิด   เมื่อถึงสีขาวนี้  ทั้งตัวขาวผุดผ่อง  คนๆนี้ก็ฝึกถึงระดับชั้นสูงสุดของหลักธรรมในภพแล้ว  เมื่อถึงขั้นไร้สี   นั่นก็จะเข้าสู่สภาวะเปลี่ยนผ่านที่มีร่างโปร่งแสง  ก้าวสู่หลักธรรมนอกภพ ดังนั้นในระดับชั้นนี้ของ แดง ส้ม เหลือง  เขียว น้ำเงิน ม่วง  ก็สามารถแยกแยะระดับชั้นของการบำเพ็ญของคนได้     เมื่อเริ่มต้นฝึก ร่างกายเขาจะเป็นสีแดงอ่อน  ก็คือสีแดง  เมื่อถึงการบำเพ็ญอรหันต์ฝ่า(อรหัตธรรม)  ก็ยังคงเป็นการเริ่มต้นใหม่ของสีแดง ส้ม เหลือง  เขียว น้ำเงิน ม่วง แต่สีชนิดนั้นจะสวยงามกว่าสีในการบำเพ็ญหลักธรรมในภพของท่านอย่างมาก   เป็นสีที่โปร่งแสง  เมื่อก้าวออกจากมรรคผลอรหันต์ขั้นต้น  เข้าสู่มรรคผลถูกต้องของอรหันต์  ยังคงเป็นแดง ส้ม เหลือง  เขียว น้ำเงิน ม่วง    แต่สีนี้จะยิ่งงดงามยิ่งกว่า   เมื่อเลื่อนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แสงที่ร่างกายท่านเปล่งออกมา  สีของพลังกงล้วนจะเป็นเช่นนี้

ศิษย์           กลไกบังคับกับกลไกชี่     มีอะไรต่างกัน

อาจารย์      กลไกบังคับ คือองค์ประกอบที่ใส่เข้าไปในร่างกายท่าน ทำให้พลังกงของท่านเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น  และสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขร่างกายท่านและทุกสิ่งของท่านที่บำเพ็ญออกมา   รวมทั้งเกิดหยวนอิง  เป็นสิ่งเหล่านี้  เราเรียกมันโดยรวมว่ากลไกบังคับ   ส่วนกลไกชี่นั้น  ที่แท้ก็คือสิ่งของชนิดนั้นที่ใส่ไว้นอกร่างกายท่านนำพามือของท่านฝึกพลัง      โดยที่มือของท่านไม่ได้เคลื่อนไหว

ศิษย์     ชนชาติเกาหลีบางคนฟังไม่เข้าใจ  จะกระทบต่อการได้ฝ่าหลุนไหม

อาจารย์     ข้าพเจ้าคิดว่าผู้ที่มาถึงที่นี่ จำนวนมากล้วนแต่มีวาสนา   พวกเราหลายคนฟังภาษาจีนกลางไม่ออก  แต่โรคของเขาก็หายหมดแล้ว  เพราะว่าผู้ที่มีเกินจีดี อย่างไรก็จะได้รับ         ในนี้ยังมีปัญหาเรื่องเกินจีดี

 
บทส่งท้าย

            หลายวันนี้ล้วนเป็นการบรรยายของข้าพเจ้า  ไม่มีจะให้พูดมากไปกว่านี้แล้ว  ผู้ฝึกเราหลายคนล้วนอยากจะให้ข้าพเจ้ามอบคำพูดอะไรให้เขาสักหน่อย ข้าพเจ้าไม่อาจมอบคำพูดให้แต่ละคนได้ทั้งหมด  เพราะทุกท่านจะบำเพ็ญหรือไม่ยังคงต้องดูที่ตัวท่านเอง   ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอมอบคำพูดให้ทุกท่านพร้อมกัน   เมื่อข้าพเจ้าเริ่มการถ่ายทอดพลัง  ได้ประสบกับความยากลำบากมากมาย  อย่างไม่อาจคาดคิด    ในเวลานั้นข้าพเจ้ามีความคิดหนึ่งอย่างนี้   เมื่อเหล่าผู้รู้แจ้งใหญ่ระดับสูงมากมองเห็นข้าพเจ้าในเวลาที่ยากจะอดทนได้ เขาจึงพูดว่า  ที่ทนได้ยากก็สามารถทนได้   ที่ทำได้ยาก ก็สามารถทำได้   ข้าพเจ้าจึงคิดจะนำสองประโยคนี้มอบให้ทุกท่าน  พลังกงนี้ของข้าพเจ้าถ่ายทอดมาถึงวันนี้ก็จะหยุดอยู่เพียงแค่นี้         ข้าพเจ้าจะขอพักสักระยะ

            ระหว่างขั้นตอนการถ่ายทอดพลังของข้าพเจ้า  ตลอดมาก็รักษาจิตใจอย่างนี้ที่รับผิดชอบต่อผู้ฝึก  รับผิดชอบต่อสังคม   ระหว่างขั้นตอนทั้งหมดของการถ่ายทอดพลังได้รับผลลัพธ์ค่อนข้างดี  ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ   แม้ว่าเราจะมีผู้ฝึกที่เป็นชนชาติส่วนน้อยที่ฟังภาษาจีนกลางไม่เข้าใจ   แต่ก็ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจตามลำดับ  เนื่องจากสายพุทธมีคำพูดหนึ่ง  เราพูดกันเรื่องวาสนา  ทุกท่านนั่งอยู่ที่นี่ล้วนคือวาสนา ในเมื่อมีวาสนานี้กันทั้งนั้นแล้ว   พวกเราก็จงคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่น  อย่าได้พลาดพลั้งไป  สามารถจะมีวาสนาอย่างนี้ได้   พวกเราจึงควรรู้ค่าของมัน   ในเมื่อได้เรียนแล้วข้าพเจ้าก็คิดว่าทุกท่านจงยืนหยัดฝึกต่อไป   เช่นนี้แล้ว  อย่างน้อยที่สุด หากท่านไม่คิดจะบรรลุถึงระดับชั้นที่สูงเท่าไร  เพราะเราพูดว่า ทุ่มเทเท่าไร จะได้มากเท่านั้น  อย่างน้อยที่สุดท่านก็จะมีร่างกายที่ดีหรือหากท่านสามารถยกระดับชั้นของท่าน  เรื่องนี้รับรองว่าจะบรรลุถึงได้  แน่ละ จุดประสงค์ของเราคือคิดจะนำพาคนชนิดที่สามารถจะหยวนหมั่นได้ ไปสู่ระดับชั้นสูงอย่างแท้จริง   วันนั้นข้าพเจ้าพูดแล้วว่า  อย่าเห็นว่ามีคนหลายพันอยู่ที่นี่ฟังฝ่า  ข้าพเจ้าว่าข้าพเจ้าไม่ค่อยมีความมั่นใจ  ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่สามารถบำเพ็ญต่อไปได้อย่างแท้จริง สามารถจะบรรลุถึงเป้าหมายที่น่าพอใจที่สุดนี้ได้อย่างแท้จริง   ข้าพเจ้าก็คิดอย่างนี้  ข้าพเจ้าหวังว่าทุกท่านจะปักใจแน่วแน่บำเพ็ญต่อไป   ก็เหมือนคำพูดสองประโยคที่ข้าพเจ้ามอบให้กับทุกท่านเมื่อครู่นี้   หากสามารถยืนหยัดได้จนถึงที่สุดนั่นจึงจะเป็นทองแท้   ใครที่ยืนหยัดได้จนถึงที่สุดนั่นจึงจะหยวนหมั่น

            วิธีการบำเพ็ญพุทธะโดยตัวมันเองนั้นไม่ยาก   ที่ว่ายากก็ยากตรงที่การปล่อยวางจิตยึดติดของคนธรรมดาสามัญนี้ในท่ามกลางสังคมคนธรรมดาสามัญ   นี้คือสิ่งที่ยากที่สุด   แต่ดีที่วันนี้ข้าพเจ้าได้บรรยายหลักการนี้ และฝ่าของระดับชั้นสูงออกมาให้กับทุกท่านแล้ว   สามารถจะน้อมนำฝ่านี้ไปบำเพ็ญ  ไปฝึกปฏิบัติ  ในอดีตมีคนมากมายอยากจะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง  เขาก็ไม่ได้ฝ่า  ลำบากอยู่กับการไม่มีฝ่า  จึงไม่มีทางบำเพ็ญขึ้นไปได้ วันนี้ที่สะดวก ก็สะดวกอยู่ตรงนี้  ฝ่านี้ได้ส่งถึงประตูบ้านของทุกท่านแล้ว  ที่ผ่านมามีคนมากมาย  แต่ละพื้นที่ล้วนมีกัน   คือคิดจะไปที่ไหน  ค้นหาอาจารย์ที่มีชื่อเสียง บำเพ็ญสักหน่อย  ศึกษาสักหน่อย   แนวทางนี้ของเราสามารถพูดได้ว่าเป็นแนวทางที่สะดวกที่สุดและเมื่อบำเพ็ญขึ้นมาก็เร็วที่สุด   เพราะเขามุ่งตรงไปที่ใจคนในการบำเพ็ญ  อันนี้ท่านก็ไม่ต้องไปที่ไหนเพื่อกราบไหว้อาจารย์แล้ว สิ่งนี้เราได้ส่งมาถึงประตูบ้านท่านแล้ว  ดูว่าท่านจะสามารถบำเพ็ญได้หรือไม่  ถ้าสามารถจะบำเพ็ญได้ท่านก็บำเพ็ญ   ถ้าบำเพ็ญไม่ไหว ท่านก็อย่าได้คิดเรื่องการบำเพ็ญอีกแล้ว  ก็คือเหตุผลอย่างนี้   ระหว่างขั้นตอนทั้งหมดของการบรรยาย  ปัญหาที่เกี่ยวโยงไปถึงนั้นค่อนข้างสูง  เนื้อหาที่พูดออกมาก็เป็นสิ่งที่พวกท่านไม่เคยได้ยินมาก่อน   ไม่ใช่แค่อาจารย์ชี่กง  ยังรวมถึงสิ่งที่อยู่ในศาสนา มีสิ่งต่างๆมากมายซึ่งล้วนไม่อนุญาตให้รู้ได้สูงอย่างนี้ ชัดเจนอย่างนี้   ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่า ข้าพเจ้าได้ทำเรื่องที่คนในอดีตไม่เคยทำกันมาก่อน  เปิดประตูใหญ่ไว้บานหนึ่งแล้ว   และมีหลายเรื่องที่พูดไว้อย่างชัดเจนมากแล้ว  ถ้าบอกว่ายังบำเพ็ญไม่ได้อีก ก็เป็นปัญหาของตัวเองแล้ว   แน่ละเรานอกจากจะรับผิดชอบต่อทุกท่าน  บรรยายฝ่าให้ท่านอย่างทะลุปรุโปร่ง  อธิบายหลักการให้ท่านอย่างทะลุปรุโปร่งในอนาคตเรายังจะคุ้มครองท่าน

            สนามฝึกพลังของเราไม่เหมือนสนามทั่วๆไป  ทั่วทั้งสนามฝึกนั้นมีครอบอันหนึ่งครอบเอาไว้    หากหลักพลังอื่นคิดจะเข้ามาฝึก  พอมาถึงกลุ่มคนของเรานี้  ผู้ฝึกของเรานี้  เขาก็เข้ามาไม่ได้  ครอบอันนี้ของเรา  เนื่องจากมันเหมือนกับลูกโป่ง   เมื่อท่านเข้ามาถึงตรงกลางสนาม  ท่านก็จะเข้าไปไม่ได้  ทั่วทั้งสนามมีพลังงานสูง  ไม่ต้องให้ข้าพเจ้าชำระล้าง เพราะฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะทำเรื่องนี้โดยตรงแล้ว   ท่านมีฝ่าเซินของข้าพเจ้าดูแล   เขาย่อมจะต้องทำเรื่องอย่างนี้แน่นอน   เราห้สิ่งของกับทุกท่านมากเท่าไรหรือ   ข้าพเจ้าก็ไม่อยากพูดให้ละเอียดอีกแล้ว   จุดประสงค์โดยรวมก็คือ ให้ทุกท่านสามารถบำเพ็ญได้อย่างแท้จริง   ก็คือจุดประสงค์นี้  และหวังว่าทุกท่าน  จากนี้ไป ในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญ  สามารถจะก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ  ยกระดับแรงพลังของตนเองเรื่อยไป   สามารถหยวนหมั่นได้ทั้งหมด


การบรรยายธรรมตอบข้อสงสัย ที่เมืองกว่างโจว

หลี่       หงจื้อ

ข้าพเจ้าขอพูดสักหน่อยเกี่ยวกับว่า เทปบันทึกเสียงฝ่าหลุนต้าฝ่าจะสามารถบันทึกต่อๆกันไปได้หรือไม่  ที่ผ่านมาในการจัดชั้นเรียนของเรา ไม่อนุญาตให้ทำการบันทึกเสียง  แต่นับจากเมื่อข้าพเจ้าเริ่มถ่ายทอดหลักธรรม(ฝ่า)จึงอนุญาตให้บันทึกได้   เนื้อหาของการบรรยายกี่ครั้งของข้าพเจ้าที่ จี่หนาน  ต้าเหลียน  ฉางชุน  เหอเฟยนั้น ได้สรุปรวมเข้าไว้ด้วยกัน    ขณะนี้ได้เริ่มพิมพ์หนังสือเล่มที่สามคือ “จ้วนฝ่าหลุน”แล้ว   ในที่สุดนี้ก็จะเป็นหนังสือที่จะชี้นำการบำเพ็ญของเรา หนังสือเล่มนี้   นอกเหนือจากเทปบันทึกเสียงที่ข้าพเจ้าเห็นชอบให้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว  คุณภาพของเทปบันทึกเสียงอื่นๆนั้น ข้าพเจ้าว่าไม่แน่ว่าจะมีผลลัพธ์ดีเหมือนของพวกเขา  ยังมีอีกนะ  สิ่งที่ข้าพเจ้าบรรยายนั้นเป็นภาษาพูดมากมาย  แต่หนังสือที่จะออกมาได้ผ่านการปรับแก้ของข้าพเจ้า  ตัดภาษาพูดออกไปมากแล้ว  แต่มีบ้างที่ยังคงมีภาษาท้องถิ่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของข้าพเจ้า  ทำให้เกิดปัญหาในการทำความเข้าใจ  ดังนั้นอย่าคัดลอกข้อมูลการบรรยายของข้าพเจ้าจากเทปบันทึกเสียงอีก  หลังจากหนังสือเล่มนี้ของข้าพเจ้าออกมาแล้ว ก็กำหนดแน่นอนลงไปแล้ว ให้เป็นที่อ้างอิงในการบำเพ็ญของพวกเรา   ซึ่งจะออกมาในไม่ช้า  ทุกท่านสามารถไปติดต่อ ไปสั่งจองกับทางศูนย์ใหญ่ของสมาคมได้

ศิษย์           คนที่ออกบวชในแนวพุทธ ทุกวันสามารถจะอ่านคัมภีร์กวนอินกับคาถามหาเมตตาได้ไหม

อาจารย์      ท่านออกบวชในแนวพุทธ คำพูดนี้คลุมเครือมาก ของเราก็เป็นแนวพุทธ  ควรพูดว่าที่ท่านออกบวชคือพุทธศาสนา  ท่านถามว่าสามารถจะอ่านคัมภีร์กวนอิน  คาถามหาเมตตาได้หรือไม่  ท่านอ่านคัมภีร์กวนอินก็ดี  คาถามหาเมตตาก็ดี  ที่แท้ท่านก็กำลังบำเพ็ญตามวิธีการบำเพ็ญของศาสนา  นี้ยังคงเป็นปัญหาการไม่บำเพ็ญสองแนวทาง  นี้ยังเป็นปัญหาการบำเพ็ญโดยยึดมั่นแนวทางเดียว   แน่ละข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้านท่านไปออกบวชบำเพ็ญในแนวทางนั้น   หากท่านต้องการจะบำเพ็ญ ท่านก็ไปบำเพ็ญดีแล้ว    แต่ของเราที่นี่ก็คือให้ทุกท่านบำเพ็ญเฉพาะแนวทางเดียว  บางคนนั้นวางใจดวงนั้นไม่ลง  เมื่อวางใจดวงนั้นไม่ลง ท่านก็อย่าได้ทนทรมานด้วยเรื่องนี้เลย  ในใจมัวแต่กังขาอยู่  ท่านรู้สึกว่าบำเพ็ญอันไหนดีตัวท่านก็บำเพ็ญอันนั้น  แต่ข้าพเจ้านั้นรับผิดชอบต่อท่าน  ดังนั้นจึงต้องพูดให้กระจ่าง  เดี๋ยวนี้วงการศาสนาก็ไม่ใช่ดินแดนบริสุทธิ์   พระสงฆ์ก็ยากจะช่วยตัวเองได้   ผู้ที่บำเพ็ญจริงมีน้อยมาก  แน่ละผู้ที่บำเพ็ญจริงยังคงมีอยู่  ถ้าไม่มีอยู่ก็หมดสิ้นกันแล้ว  จะบำเพ็ญอะไร ตัดสินด้วยตัวเองก็แล้วกัน  แต่ไม่อาจจะบำเพ็ญร่วมกันได้อย่างเด็ดขาด

ศิษย์           หนังสือชี่กงอย่างอื่นกับหนังสือของอาจารย์ชี่กงอื่น จะเก็บไว้ได้หรือไม่

อาจารย์      เราเคยพูดเรื่องนี้แล้ว  จะบำเพ็ญแนวทางไหน  จะทำอย่างไรดี เรื่องนี้ให้ตัดสินใจเอง  อาจารย์ชี่กงบางคน แม้แต่อาจารย์ที่ดีจริงๆ    เขาออกมาเผยแพร่ชี่กงในวงกว้างก็ดี  ตัวเขาเองแม้จะไม่มีสิ่งที่ไม่ดี  แต่เขาก็จัดการสิ่งเหล่านี้ไม่ได้  ดังนั้นสนามของเขาจึงยุ่งเหยิงมาก  หนังสือเรียนทั่วไปของสังคมคนธรรมดาสามัญ  หนังสือทางเทคนิก เป็นต้นไม่มีปัญหา   แต่หนังสือที่ต่ำทราม หรือไม่ดีเหล่านั้นอย่าว่าแต่จะเก็บไว้เลย  ซื้อก็อย่าไปซื้อ  ยิ่งไม่ต้องไปดู  มันกระทบต่อศีลธรรมของสังคมอย่างรุนแรง  หนังสือชี่กงเหล่านั้นหากเพียงไม่ใช่เป็นของแนวทางนี้ของเราจะเก็บไว้ไม่ได้อย่างแน่นอน

ศิษย์           สายเต๋าบำเพ็ญจิตสำนึกหลักหรือจิตสำนึกรอง

อาจารย์     ล้วนเหมือนกัน  แต่ว่า คนที่บำเพ็ญจิตสำนึกหลักนั้น มาจากระดับชั้นสูงมาก  หรือจิตสำนึกหลักของเขา มีลักษณะพิเศษอย่างยิ่ง จึงสามารถจะทำเช่นนี้ได้  วิธีการบำเพ็ญที่ถ่ายทอดในวงกว้างล้วนเป็นการบำเพ็ญจิตสำนึกรอง

ศิษย์           จิตสำนึกหลักในชาตินี้ จะเป็นจิตสำนึกรองในชาติหน้าได้ไหม

อาจารย์      นั่นเป็นเรื่องที่เอาแน่ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่มีข้อกำหนดตายตัว

ศิษย์           สองมือเจียอิ้นที่ท้องน้อยต้องเว้นช่องว่างใช่ไหม  จะวางชิดท้องน้อยได้ไหม

อาจารย์      เรื่องเหล่านี้ในระหว่างการบรรยาย ได้พูดไปแล้ว   ที่พูดเมื่อวานท่านไม่ได้ตั้งใจฟัง  เวลาเจียอิ้น มือต้องชิดร่างกาย  แนบชิดเบาๆกับร่างกาย   หลักพลังชุดที่ห้า เสริมสร้างอิทธิฤทธิ์ เวลาสองมือเจียอิ้น สามารถวางมือบนเท้าได้  หาไม่  เวลาที่ท่านกำลังนั่งสมาธิสองแขนจะหนักมาก หนักหลายสิบชั่ง  จะถ่วงจนกระดูกสันหลังท่านงอลงมาได้  จะนั่งไม่ตรง  เวลาเจียอิ้นวางมือบนขาจะช่วยลดทอนน้ำหนักได้

ศิษย์           ช่วงตรงท่ามีเล่อเซินเยา(พระอาริยเมตไตรย์ยืดเอว)ของชุดฝอจั่นเชียนโสว่(พระพุทธเหยียดพันมือ) มีแต่การยืดจากนั้นก็ทำหยูไหลกว้านติ่ง(พระยูไลกรอกพลังลงบนกระหม่อม)เลยหรือ

อาจารย์      ถูกต้อง  ท่าเคลื่อนไหวทั้งสองนั้นเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน  หลังจากท่ามีเล่อเซินเยาพอหมุนมือก็ผ่อนคลาย  ผ่อนคลายลงมาแล้วก็เรียกว่าหลูไหลกว้านติ่ง  แต่ไม่มีความนึกคิดการกรอก(พลัง)ลงศีรษะ  ที่พูดกันว่าฉันใช้ชี่กรอกเข้าไปนั้น  ไม่มีแนวคิดอันนี้เลย  หากเป็นผลที่เกิดจากกลไกบังคับโดยอัตโนมัติ

ศิษย์           ที่องค์ปฐมแห่งเทพ  องค์ศากยมุนีพุทธ  บำเพ็ญนั้น เป็นจิตสำนึกหลักหรือจิตสำนึกรอง

อาจารย์        ข้าพเจ้าไม่อาจเจาะจงที่ใคร  ไม่อาจเจาะจงชื่อใดๆในการพูดเรื่องนี้  ขอบอกทุกท่านว่าในอดีตสิ่งที่สืบทอด ทั้งหมดนั้น  จำนวนส่วนใหญ่  หลักพลังร้อยละเก้าสิบห้าขึ้นไปล้วนเป็นการบำเพ็ญจิตสำนึกรอง  หลักพลังโดยตัวมันเองก็กำหนดไว้อย่างนั้น  นี้เป็นความลับสวรรค์  ในอดีตไม่อาจพูดได้อย่างเด็ดขาด

ศิษย์           อะไรคือเสวียนจี (กลไกหมุน)

อาจารย์      เสวียนจี(旋机กลไกหมุน)ที่ข้าพเจ้าพูด กับเสวียนจี(玄机กลไกลับ)ที่เขียนไว้ในหนังสือการบำเพ็ญเต๋าในยุคโบราณของประเทศจีน  ก็คือเสวียน()ของคำว่าเสวียนเมี่ยว(玄妙ลึกลับมหัศจรรย์) ซึ่งต่างกัน  เสวียนจี(旋机 ) นี้ของเราคือเสวียน( )  ของคำว่าเสวียนจ้วน(旋转หมุน)     จี()ของคำว่าจีเหนิง(机能การทำหน้าที่)  และจี()คำว่าจีจื้อ(机制กลไกบังคับ)  ก็เป็นจี()ของคำว่าจีชี่(机器เครื่องยนต์) คือความหมายนี้  จากร่างจักรวาลจนถึงดวงดาว และจากดวงดาวจนถึงสสารจุลทรรศน์  ทั้งหมดล้วนกำลังหมุนอยู่  กลไกบังคับชนิดนี้เราเรียกว่าเสวียนจี(กลไกหมุน)

ศิษย์           บนหน้าปกวารสารชี่กงมีภาพถ่ายอาจารย์อยู่  จะมีฝ่าเซิน(ธรรมกาย)อยู่ด้วยหรือไม่

อาจารย์      บนภาพถ่ายของข้าพเจ้าล้วนมีอยู่    อะไรทั้งหมดที่มีภาพของข้าพเจ้าหรือบทความที่ข้าพเจ้าเขียน หรือภาพที่พิมพ์อยู่ในหนังสือ  ที่พิมพ์ออกมาล้วนเหมือนกัน นี้ไม่ใช่เรื่องประหลาด

ศิษย์           บนกระหม่อมของดิฉันมักจะมีสิ่งหนึ่งหมุนอยู่

อาจารย์      ข้าพเจ้าคิดว่าคำถามประเภทนี้ ทุกท่านอย่าได้ถามข้าพเจ้าอีกเลย   ปฏิกิริยาอย่างนี้ อย่างนั้นบนร่างกายท่านนั้น หากท่านเป็นผู้ฝึกพลังย่อมเป็นเรื่องดีทั้งสิ้น  ท่านก็ทราบว่าหมุนอยู่  ฝ่าหลุนกำลังหมุน  คิดแต่จะให้ข้าพเจ้าพูดออกมาให้ได้   ความรู้สึกนานาชนิดท่านอย่าได้ถามอีกเลย  ความรู้สึกนับพันนับหมื่นมีมากเหลือเกิน  ถ้าท่านมาถามข้าพเจ้าทั้งหมด  ตัวท่านเองก็ไม่รับรู้แล้ว  ที่จริงล้วนเป็นเรื่องที่ดี หาไม่แล้วต่อไปท่านจะถามใคร

ศิษย์           ขณะศึกษา “ฝ่าหลุนกง (ฉบับปรับปรุง)”ได้คัดลอกไว้ส่วนหนึ่งวางอยู่ในบ้าน ใช้กระดาษมากมาย   การวางอยู่ในบ้านเกรงว่าคนจะหยิบไปตามชอบใจจะทำอย่างไรดี

อาจารย์      เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล   ข้าพเจ้าว่าปิดผนึกเก็บไว้ด้วยกัน  หรือรวบรวมส่งไปให้กับผู้รับผิดชอบ ดูแลต่อไปส่งมอบให้กับชาวนาในพื้นที่ยากจน

ศิษย์           ขอเรียนเชิญท่านอธิบายความแตกต่างระหว่างศาสนาพุทธ  พุทธธรรม (ฝอฝ่า) พุทธศาสตร์

อาจารย์      หลักธรรมในพุทธศาสนาเป็นเพียงส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งในพุทธธรรม(ฝอฝ่า)  มันไม่อาจจะเป็นตัวแทนฝอฝ่าทั้งหมด   องค์ศากยมุนีพุทธตรัสว่า วิธีการบำเพ็ญมีอยู่ ๘๔๐๐๐ แนวทาง  แต่ในพุทธศาสนามีเพียงสิบกว่าแนวทาง  เทียนไถ่จงเอย  ฮว๋าเหยียนจงเอย  ดินแดนบริสุทธิ์  เซน  มี่จง มีเพียงสิบกว่าแนวทาง    ข้าพเจ้าว่าไม่เพียง แค่๘๔๐๐๐ แนวทาง  ฝอฝ่าที่ใหญ่อย่างนี้  ศาสนาในปัจจุบันจะครอบคลุมฝอฝ่าทั้งหมดได้หรือ  มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของฝอฝ่า  มันเป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งในฝอฝ่า ก่อตั้งขึ้นเป็นศาสนา ดังนั้นจึงเรียกว่าพุทธศาสนา  ส่วนพุทธศาสตร์นั้นเป็นคำศัพท์และการรับรู้ของคนธรรมดาสามัญ 

ศิษย์           ทำไมฝึกสมาธิแต่ไม่สามารถเข้าสู่สมาธิ

อาจารย์      ฝึกสมาธิแต่ไม่สามารถเข้าสู่สมาธิ  เนื่องจากเรากำลังถูกรบกวนจากสิ่งต่างๆที่ยึดติด ไม่อาจปล่อยวางได้ในสังคมคนธรรมดาสามัญ   ตามการยกระดับการรับรู้ในต้าฝ่า(หลักธรรมใหญ่) สิ่งที่ยึดติดจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ  เวลาที่ฝึกสมาธิก็จะค่อยๆสงบลงมาได้   หากเดี๋ยวนี้ท่านสามารถปล่อยวางได้ทั้งหมด  ระดับชั้นก็จะเลื่อนขึ้นไปตั้งนานแล้ว  และบำเพ็ญได้สูงมากแล้ว   ขณะนี้มีความคิดที่วุ่นวายอยู่ ไม่ต้องกังวล  ตามการยกระดับซินซิ่งของท่านในสังคมคนธรรมดาสามัญที่ซับซ้อนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปล่อยวางสิ่งของของคนธรรมดาสามัญที่ยึดติดอยู่   ก็จะค่อยๆสงบเงียบได้   ในขณะที่ค่อยๆปล่อยวางจิตยึดติด ซินซิ่งก็จะยกระดับขึ้นได้    ระดับชั้นก็จะได้รับการยกระดับ   มันเสริมซึ่งกันและกัน  ในเวลานั้นท่านก็จะเข้าสู่ความสงบได้โดยสิ้นเชิง 

ศิษย์           อะไรคืออิทธิฤทธิ์

อาจารย์      อิทธิฤทธิ์ นี้คือสิ่งที่สายพุทธเรียกความสามารถที่เหนือสามัญวิสัยของร่างกายคนว่าอิทธิฤทธิ์ในระดับชั้นต่ำที่สุด      คนธรรมดาสามัญเรียกกันว่าความสามารถพิเศษ  

ศิษย์           อะไรคือการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง

อาจารย์      การเสริมสร้างฯไม่ใช่การเพิ่มพลังกง สมมติว่าตั้งพลังกงส่วนหนึ่งขึ้นไปให้ท่าน ให้ท่านสูงขึ้นสักหน่อย  ตั้งพลังกงส่วนหนึ่งขึ้นไปให้ท่านอีก ให้ท่านสูงขึ้นอีกหน่อย  ไม่มีเรื่องอย่างนี้  พลังกงนั้น ล้วนแต่อาศัยใจดวงนี้ของท่านเองไปบำเพ็ญ  ใครตั้งให้กับท่านไม่ได้ทั้งนั้น  หากท่านไม่เชื่อ  ข้าพเจ้าลองเอาแกนพลัง(กงจู้)ลำหนึ่ง เชื่อมให้กับท่านเดี๋ยวนี้  ในทันใด ให้ท่านบรรลุถึงระดับการฝึกหลักธรรมนอกภพ  แต่พอท่านก้าวออกไปจากประตูนี้ ก็จะล่วงลงมา  เพราะพลังกงนั้นไม่ใช่ของท่านมาตรฐานซินซิ่งของท่านไม่ได้อยู่ตรงนั้น  ดังนั้นมันจึงตั้งไม่อยู่ เพราะในมิติหนึ่งที่พิเศษมากๆ  ยังมีมาตรวัดมาตรฐานซินซิ่งคงอยู่ในเวลาเดียวกัน  มันมีขีดวัดระดับด้วย    หากซินซิ่งบรรลุไม่ถึงระดับสูงเพียงนี้   แกนพลังนั้นก็บรรลุไม่สูงถึงเพียงนั้น   ในอดีตมิใช่มีคนพูดหรือว่าปล่อยพลังกงออกไปแล้ว  พลังงานนี้สิ้นเปลืองแล้ว ช่างน่าเสียดาย   เราไม่อาจเข้าใจกันเช่นนี้  เนื่องจากเวลาที่ท่านปล่อยออกไป  มาตรฐานซินซิ่งของท่านอยู่ตรงนี้  เมื่อปล่อยพลังงานออกไประดับหนึ่งแกนพลังก็สั้นลง  แต่  ในขณะที่ท่านฝึกพลัง ไม่ต้องทนทุกข์ก็จะชดเชยกลับคืนไปได้   เพราะซินซิ่งของท่าน   มาตรฐานของท่าน  มรรคผลของท่านอยู่ตรงนี้  แน่ละหากท่านจะให้พลังกงเพิ่มขึ้นอีก  ท่านก็ต้องยกระดับซินซิ่งของท่านต่อไป  หาไม่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร   การเสริมสร้างเป็นเพียงการชำระร่างกายขั้นสูง  กับการช่วยผันแปรสิ่งอื่นที่อยู่ในพลังกง  

ศิษย์           ถ้าในชีวิตผมมีเงิน เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเพิ่มพลังกงหรือไม่

อาจารย์      มีสภาพการณ์หลายอย่าง  บางคนใช้กุศลของตนแลกเปลี่ยนมา เป็นโชคลาภที่ขอมา  บางคนเป็นสิ่งที่สะสมมาจากอดีต  ยังมีที่นำมาจากระดับชั้นสูง  มีสภาพการณ์ที่ต่างกันอยู่ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างซับซ้อน ไม่อาจมองเรื่องเหล่านี้เหมือนกันไปหมด  เพราะมีบางคน เขานั้นมีกุศล  กุศลมาก เขาจึงได้สิ่งที่ต้องการ  เนื่องจากสิ่งนี้สำคัญมาก  เป็นสภาพการณ์อย่างนี้จริงๆ  กุศลนี้สามารถผันแปรเป็นพลังกง  กำหนดระดับชั้นสูงหรือต่ำของผู้บำเพ็ญและมรรคผลเล็กหรือใหญ่ นี้นับเป็นด้านหนึ่ง  หากอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญต้องการจะได้ความร่ำรวยเป็นสิ่งตอบแทน  เช่นนั้นสิ่งนี้ก็สามารถจะแลกเปลี่ยนกับคนอื่นได้  แลกเป็นเงินทอง ทรัพย์สิ่งของ  บางคนเรื่องอะไรเล็กน้อยก็ได้เงินมามากมาย เพราะกุศลของเขาใหญ่มาก  บางคนทำอะไรก็ไม่มีเงิน  อาจเพราะกุศลเล็ก  นี้ไม่ตายตัว  แน่ละบางคนนั้นซับซ้อนมาก  ข้าพเจ้าจึงขอพูดกฎเกณฑ์ทั่วๆไป  คนที่กุศลน้อย แม้แต่ขอทานยังขอไม่ได้  เนื่องจากเวลาที่คนอื่นให้อาหารท่าน  ท่านก็ต้องให้กุศลแก่เขาเป็นการแลกเปลี่ยน  หากท่านไม่มีกุศลให้เขา  ท่านก็จะขออาหารนั้นมาไม่ได้   ที่ต้องแลกเปลี่ยนก็เป็นผลจากการสร้างสมดุลของคุณสมบัติพิเศษชนิดนี้ของจักรวาล คือ ถ้าไม่เสีย ก็จะไม่ได้

ศิษย์           พระพุทธรูปเก่าแล้วจะจัดการอย่างไรดี

อาจารย์      ในศาสนาพุทธมีกฎข้อหนึ่ง  หากไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้แล้วก็ส่งให้วัดไป

ศิษย์           ทำไมเวลาฟังการบรรยาย จึงคิดฟุ้งซ่าน

อาจารย์      ท่านรวบรวมแรงสมาธิฟังก็พอแล้ว  จิตสำนึกหลักต้องเข้มแข็ง   ที่จริงเป็นการรบกวนของกรรมทางความคิด  

ศิษย์           ยังจะรักษาโรคได้ไหม

อาจารย์      หากท่านเป็นหมอในโรงพยาบาล หรือเป็นหมอนวด ข้าพเจ้าว่า มีปัญหาไม่มาก หากท่านเองคิดจะทำเรื่องนี้หรือทำเป็นอาชีพหรือเปิดคลินิกเอง  นี้ล้วนเป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  หากท่านใช้พลังกงไปรักษาโรค นั่นทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด สิ่งที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดอยู่ที่นี่ ไม่ใช่การรักษาโรคเสริม สร้างสุขภาพ เป็นการบำเพ็ญอย่างแท้จริง  และการบำเพ็ญที่แท้จริงก็เป็นเรื่องที่เข้มงวดจริงจังอย่างยิ่ง   ถ้าท่านคิดจะบำเพ็ญสำเร็จเป็นผู้รู้แจ้งอย่างนั้น  แต่ท่านไม่กำหนดตนเองอย่างเข้มงวด  เช้าชามเย็นชามจะได้อย่างไรกัน   ต้องเข้มงวดมาก   ผู้บำเพ็ญจริงต้องทนทุกข์มากมาย  ท่านต้องตัดสินใจแน่วแน่ไปบำเพ็ญตามต้าฝ่า  หากจะบำเพ็ญจริง ข้าพเจ้าว่า เรื่องเหล่านี้ท่านอย่าไปคิดเลย

ศิษย์           จิตสำนึกหลักคือวิญญาณของคนใช่หรือไม่

อาจารย์      คำว่าวิญญาณนี้พูดกันอย่างคลุมเครือมาก  แต่ร่างกายคนนั้นซับซ้อนมาก  มันหมายถึงอะไรไม่ชัดเจนเลย   ดังนั้นของเราที่นี้จึงขจัดวิธีพูดชนิดนั้นไปทั้งหมด  ทั้งหมดที่เราบรรยายเชื่อมโยงกับหลักสรีรวิทยาในปัจจุบัน  เราที่นี่พูดกันอย่างชัดเจนมาก

ศิษย์           บางครั้งใจลอย

อาจารย์      ในขณะนี้ท่านไม่อาจบรรลุความสงบได้อย่างสมบูรณ์นั้น เป็นเรื่องปกติ นั้นคือ ปรากฏการณ์ของการยกระดับชั้น  หากท่านสามารถสงบลงมาได้จริงๆ  ระดับชั้นของท่านก็ไม่ต่ำแล้ว

ศิษย์           เมื่อก่อนเคยศึกษาหลักพลังอย่างอื่น  หนึ่งในนั้นมีบางสิ่ง เช่น การท่องคาถาเป็นต้น บางครั้งจะแวบขึ้นมาในสมอง

อาจารย์      ต้องขจัดมันทิ้งไปให้หมด  นี้ไม่เหมือนกับกรรมทางความคิด ต้องขจัดมันทิ้งไป

ศิษย์           เหตุใดเวลาที่จะทิ้งความคิดที่ไม่ดีนั้นยากมาก   กระทั่งบางครั้งรู้สึกว่ามันกลับยิ่งแรงขึ้นอีก

อาจารย์      ท่านจะสลายมัน มันจึงไม่ยอมให้ท่านบำเพ็ญ  ดังนั้นจะมีปฏิกิริยาได้   บางคนมีปฏิกิริยารุนแรงมาก   แต่ความคิดหลักของท่านต้องแจ่มชัด  ขจัดมันไป  รอจนท่านสามารถแยกแยะได้แล้วความคิดก็แน่วแน่ ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะสลายมันไปให้ท่าน

ศิษย์                 ผมฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  ส่วนน้องสาวผมบูชาเซียน

อาจารย์      ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าไม่มีอะไรต้องกลัว  แม้แต่เป็นคนธรรมดาสามัญ  ย่อมจะพบกับเรื่องไม่ดีเสมอๆ แต่มันทำร้ายท่านไม่ได้ แตะต้องท่านไม่ได้ แต่ความคิดของท่านเองต้องมั่นคง ผลักไสสิ่งเหล่านี้ไป หากท่านแน่วแน่บำเพ็ญต้าฝ่า ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็จะจัดการมัน

ศิษย์           เมื่อก่อนตาทิพย์เคยเปิดอยู่   ต่อมามองไม่เห็นแล้ว

อาจารย์      เมื่อก่อนเคยเปิด  ต่อมาปิดเสียแล้ว  มีหลายสาเหตุ  บางคนอาจจะถูกปิดไว้ บางคนอาจจะบาดเจ็บเสียหายไปแล้ว  แต่เมื่อบำเพ็ญก็กำลังซ่อมแซมอยู่   เมื่อจำเป็นต้องเปิดก็จะเปิดได้เลย   เรื่องนี้ไม่ต้องสนใจ      ให้เป็นไปตามธรรมชาติเถิด

ศิษย์           ชุดเสินทงเจียฉือฝ่า(วิธีเสริมสร้างอิทธิฤทธิ์)ไม่อาจยืนหยัดได้นาน จะทำอย่างไรดี

อาจารย์      ข้อกำหนดคือ ฝึกยิ่งนานได้ ยิ่งดี   เพราะหลักพลังชุดที่ห้าคือสิ่งที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญตามลำพัง  ไม่ได้แก้ไขแม้แต่น้อยก็นำออกมาให้ทุกท่านแล้ว   จุดประสงค์สำคัญคือ ในเวลาที่ให้ท่านบำเพ็ญอยู่ในระดับชั้นสูงนั้น  จะมีฝ่าที่จะใช้ในการบำเพ็ญ  มีพลังกงให้ฝึก ณ เวลานี้ท่านฝึกมีความยากมาก  ท่านไม่อาจนั่งได้นานอย่างนั้น  ท่านปรับเวลานี้ให้สมดุลสักหน่อย  การเสริมสร้างอิทธิฤทธิ์จะใช้เวลานานแค่ไหน  สงบนิ่งลงมาใช้เวลานานแค่ไหน  พิจารณาตามเหตุการณ์เอาเองเถอะ  แต่ท่านจะค่อยๆยกระดับขึ้นได้ เมื่อนานเข้าก็จะนั่งได้นาน

ศิษย์           รู้สึกเสียดายมาก ผมจะไปต่างประเทศแล้ว ไม่สามารถอยู่ร่วมชั้นเรียนวันสุดท้ายได้

อาจารย์      ต่อไปก็อ่านหนังสือให้มาก ไม่มีปัญหา   ผู้ที่ศึกษาเองก็สามารถหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์)ได้    ดูแต่ว่าจะบำเพ็ญจริงหรือไม่

ศิษย์           ใครที่สามารถให้กำเนิดจิตหลักของคนได้

อาจารย์      ท่านสนใจสิ่งเหล่านี้ไปทำไมกัน  ใจของท่านใช้ในการแสวงหาความรู้หรือใช้ในการบำเพ็ญหรือ ที่จริงข้าพเจ้าได้พูดไปหมดแล้ว  สสารนานาชนิดในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้  ผลของการเคลื่อนไหวของมันก็สามารถให้กำเนิดชีวิต  ในร่างกายคนแบ่งเป็นจิตหลัก จิตรอง ทั้งหมดนั้นมิใช่ชีวิตหรือ

ศิษย์           ขณะที่ท่านบรรยาย   ในทันใดก็เห็นท่านปรากฏเป็นนักพรตเต๋าที่มีมวยผมสูงอยู่บนกระหม่อม ร่างกายยาวมาก  ผมสีขาว

อาจารย์      ข้าพเจ้าลงมาทำเรื่องนี้เป็นเวลานานแล้ว   เคยเป็นพระพุทธ เต๋า เทพมาก่อนทั้งสิ้น  มองเห็นแล้วก็แล้วกันไป

ศิษย์           อยู่ในบ้านฝึกพลังบรรพบุรุษจะกลัวไหม

อาจารย์      ที่ท่านยึดติดอยู่นั้นมีมากจริงๆ  ชีวิตของพ่อแม่ บุตรภรรยาของท่านที่อยู่ในโลก ท่านก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น  ยังจะสนใจผู้ที่ไม่อยู่ในโลก การบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง ล้วนมีประโยชน์ต่อใครๆ   แนวทางนี้ของข้าพเจ้าเป็นแนวทางที่สะดวกที่สุด บำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ข้าพเจ้าขอพูดอีกครั้งว่าการบำเพ็ญเป็นเรื่องเข้มงวดอย่างยิ่ง  ท่านกังวลกับสิ่งนี้  กังวลกับสิ่งนั้น  ฉิงอันนี้ท่านไม่ตัดขาด  ฉิงอันนั้นท่านก็ไม่ตัดขาด  ในอดีต อะไรที่เรียกว่าออกบวชหรือ  พระสงฆ์ในปัจจุบันนั้นยากจะไปพูดถึงแล้ว  ในอดีตพระสงฆ์นั้น หลังจากออกบวชแล้ว  แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่รู้จัก   ตัดขาดจากสายสัมพันธ์ทางโลกทั้งหมด แม้แต่ชื่อก็ตั้งขึ้นใหม่  ทำไมเขาต้องตั้งชื่อทางธรรม  ก็คือตัดขาดจากตัณหาทางโลกทั้งหมด  ไม่มีสิ่งใดผูกมัด หรือ เกี่ยวข้องกับเขาอีก   เขาจึงสามารถสงบใจลงมาบำเพ็ญได้  การบำเพ็ญเป็นเรื่องเข้มงวดอย่างยิ่ง  ท่านไม่ต้องสนใจสิ่งเหล่านี้   ท่านสนใจแต่การบำเพ็ญก็พอแล้ว  แต่ในบ้านอย่ากราบไหว้บูชาบรรพบุรุษ ซึ่งจะดีต่อท่านและบรรพบุรุษ  คนกับผีไม่อาจอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน  วาสนาในโลกจบสิ้นไปแล้ว

ศิษย์           ฝ่าหลุนต้าฝ่ามีผลกระทบต่อการเล่นหุ้นหรือไม่

อาจารย์      (ผู้ฝึกล้วนขำท่านแล้ว)  ท่านกำลังยึดติดการพนัน ข้าพเจ้าขอบอกท่านมีคนกระโดดตึกเมื่อเสียพนันแล้วหนา   จิตใจในเวลาที่เล่นหุ้น เป็นจิตใจอะไรละ  เรื่องดีเลว ข้าพเจ้าว่าปัจจุบันมีคนไม่น้อยยากที่จะแบ่งแยกได้ชัดเจน  บางคนยังถามข้าพเจ้าว่าเล่นไพ่ได้ไหม ท่านมิใช่ต้องการเล่นพนันเพื่อเอาเงินคนอื่นหรือ นั่นไม่ใช่การพนันหรือ อย่างไรเสียที่ข้าพเจ้าขอบอกกับทุกท่านก็คือคำนี้  คือการบรรยายที่นี่ของเราไม่ใช่ให้คนธรรมดาสามัญฟังตามอำเภอใจ    ของเราคือการรับผิดชอบต่อผู้ฝึกอย่างแท้จริง  พูดให้กับผู้ฝึกพลัง  หากท่านบอกว่าอยู่ในสังคมอะไรท่านก็จะทำหมด   ท่านอยากจะทำอะไรก็ไปทำอะไร และไม่จำเป็นต้องบำเพ็ญ

ศิษย์           ลูกดิฉันอายุ ๗ ขวบ ในระยะนี้มักฝันว่าได้ฝึกพลังกับท่าน  กลางวันมองเห็นท่านทำงานเอง  แต่เขาก็ไม่อยากศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า

อาจารย์      เช่นนั้นก็ต้องดูว่าที่เขาศึกษานั้นคืออะไรละ   ดูว่าที่เขาเห็นนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม   เมื่อฝ่าที่ถูกต้องเผยแพร่  มารก็พยายามที่จะทำลายอย่างเต็มที่  ตัวเองไม่ฝึก ก็มีปัญหา

ศิษย์           ในมิติเวลาที่เร็วชีวิตของคนได้จบสิ้นไปแล้ว  แล้วเหตุใดเดี๋ยวนี้เรายังสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตผ่านการบำเพ็ญ

อาจารย์        เพราะร่างหลักของท่านยังไม่จบสิ้น  เราก็สามารถจะหมุนทวนเวลาของมิติเหล่านั้น  นี้คือสิ่งที่ข้าพเจ้าจะพูดในระหว่างการบรรยาย  และขอถือโอกาสพูดเรื่องหนึ่งกับทุกท่าน  ชีวิตคนนั้น ตนเองไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย  ไม่ว่าคนธรรมดาสามัญคนไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้ท่านได้ทั้งนั้น  ผู้รู้แจ้งก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงให้ท่านโดยไม่มีเงื่อนไข     ดังนั้นคนจึงควบคุมชีวิตตนเองไม่ได้  ท่านยิ่งควบคุมชีวิตของผู้อื่นไม่ได้   บางคนอยากจะร่ำรวย  หาเงินได้มากมาย  จัดเตรียมไว้ให้ครอบครัวเรียบร้อยแล้ว   ให้พวกเขาสุขสบาย  ตัวเองค่อยไปบำเพ็ญ  ช่างน่าขันนัก  คนต่างมีชีวิตของเขา  อย่าว่าแต่ญาติสนิท  แล้วจะให้ท่านเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่นได้อย่างไร   พูดต่อว่า ความยากลำบากอะไรก็ไม่มีแล้ว  ท่านจะบำเพ็ญอะไรได้   ท่านทราบไหมว่าพวกเขามีกรรมหนักเพียงไร  ชีวิตหนึ่งของเขาควรจะเดินอย่างไร   ท่านจะสามารถควบคุมคนอื่นได้หรือ  ควบคุมไม่ได้เลย   อาจมีบางคนคิดว่าฉันไม่เชื่อ  ฉันหาเงินไว้มากๆ  ฉันร่ำรวยมากแล้ว  คนรุ่นหลังฉันก็สืบทอดต่อไปได้   ข้าพเจ้าว่าไม่แน่นัก  ไม่แน่ว่าอาจเกิดภัยพิบัติ ไฟไหม้หมดไปแล้วในคราวเดียว   หรือถูกปล้น  ทำหายไป  ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร   ต้องดูว่าเขามีโชคลาภนี้หรือไม่  หากไม่มีโชคลาภนี้อะไรก็สืบทอดไม่ได้ ก็พูดในความหมายนี้  คนต่างมีชะตาชีวิต  ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของใครได้  นี้ทำไม่ได้

            เช่นนั้นชีวิตของผู้บำเพ็ญสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือ ใช่  มีสองทางที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้  คือคนเดินบนเส้นทางของการบำเพ็ญ  สามารถจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาได้   คนๆหนึ่งต้องการที่จะบำเพ็ญนี้ก็คือจิตพุทธ ปรากฏออกมาแล้ว  สามารถจะช่วยเขาได้อย่างไม่มีเงื่อนไข  แต่สำหรับคนอื่น(คนธรรมดาสามัญ)นั้น ไม่อาจทำให้ตามชอบใจได้   เพราะเดิมในชีวิตท่านไม่มีการบำเพ็ญ  จึงต้องเปลี่ยนแปลงให้ท่าน  สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดต้องปรับใหม่   ก็คือจัดวางให้ใหม่  นี้เป็นสิ่งที่สามารถทำได้  ยังมีอีกสภาพการณ์หนึ่ง  ก็คือพวกเราบางคนยึดติดกับสิ่งที่เป็นของคนธรรมดาสามัญเกินไป  ผ่านวิธีการที่ไม่ชอบธรรม  หรือค้นหาวิธีการอะไรให้ร้ายคนอื่น  หรือที่ท่านรู้สึกว่าไม่ได้ทำร้ายคนอื่น  ผ่านความมานะพยายามทำเรื่องอะไรบางอย่าง  จนคล้ายกับว่าท่านได้มันมาแล้ว  ที่จริงนะ  ที่ท่านสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้นั้น น้อยมาก  บางทีท่านทำเรื่องนั้นผ่านความมานะพยายาม  ก็คือควรต้องมานะพยายาม  ท่านทำเช่นนั้นท่านจึงจะได้มา  นั้นก็เป็นการจัดวางไว้แล้ว  แต่ว่านะ  ที่แท้ในด้านเล็กๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้บ้าง  แต่ในทิศทางใหญ่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้   หากเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็อาจจะก่อกรรมแล้ว   หาไม่ก็จะไม่มีคนดี คนชั่วคงอยู่  ในชะตาชีวิตของท่านไม่ได้จัดวางสิ่งนี้ไว้ให้   แต่ท่านจะเอามาให้ได้   โดยใช้วิธีการที่ไม่สมควร  เช่นนั้นสิ่งที่ท่านได้มาก็คือของของคนอื่น   เช่นนั้นท่านก็ทำร้ายผู้อื่น  ติดค้างผู้อื่น  ท่านก็ก่อกรรมแล้ว  ก็คือความหมายนี้  ชาตินี้ไม่ชดใช้ ชาติหน้าต้องชดใช้

ศิษย์     เนื่องจากซินซิ่งของผมไม่ดี ฝึกโดยปะปนเอาพลังกงอย่างอื่นเข้ามา  หลังจากนั้นไม่กี่วันทำให้ฝ่าหลุนเสียหายแล้วจะทำอย่างไรดี

อาจารย์      การบำเพ็ญคือเรื่องที่เข้มงวด บางคนเขาก็ไม่ฟังคำเตือน เขาเอาแต่ฝึกปะปนเข้าไป ก็จบกัน  ฝ่าหลุนนี้กับกลไกบังคับชุดนี้ทั้งหมดของเรา สิ่งเหล่านี้ผ่านกาลเวลาอันยาวนานมาก ผ่านช่วงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก หลายชั่วคนจึงก่อเกิดขึ้นมา  นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญทำขึ้น  ล้ำค่าอย่างยิ่ง  บำเพ็ญผู้รู้แจ้งใหญ่ออกมานับไม่ถ้วน  ท่านพูดว่าจะทำลายก็ทำลายเขาแล้ว  แทรกการฝึกปะปนเอาพลังกงอื่นทำลายเขาแล้ว  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  เราขอพูดสูงสักหน่อย  ฝ่าหลุนนั้น เมื่อมองจากคุณค่าความหมายอย่างหนึ่ง  เขาก็คือจักรวาลหนึ่ง  เขาล้ำค่ายิ่งกว่าชีวิตของตัวท่านเอง  สำคัญกว่าจิตหลักของท่านไม่รู้กี่เท่า  ท่านทำลายเขาตามชอบใจ  ทุกท่านคิดดู  แน่ละ ในเมื่อข้าพเจ้าจะช่วยท่าน  จึงนำสิ่งนี้ออกมา  สามารถจะศึกษาก็ศึกษา  หากไม่ศึกษาก็ไม่มีหนทาง  ทั้งหมดที่ฝ่าหลุนเปลี่ยนรูปไปนั้น  ข้าพเจ้าไม่อาจจะให้ฝ่าหลุนกับเขาได้อีกตามชอบใจ   หากเขาคิดจะศึกษาจริงๆ  จะศึกษาให้ได้  ยังต้องดูว่าเขาคิดจะศึกษาจริงหรือไม่  สามารถจะยืนหยัดต่อไปได้ไหม  หากศึกษาได้จริง  หากสามารถศึกษาได้ ก็สามารถจะให้กลไกบังคับชุดหนึ่ง  เมื่อค่อยๆผ่านการบำเพ็ญก็สามารถก่อเกิดฝ่าหลุนได้

ศิษย์           ท่านอาจารย์หลี่ หากท่านคือพระพุทธ  ท่านก็ไม่อาจพูดว่า  หลักธรรมทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งนอกรีต  

อาจารย์      ผู้ฝึกเราทุกคน ได้ยินข้าพเจ้าพูดหรือไม่ว่าหลักธรรมทั้งหมดเป็นสิ่งนอกรีต  (เสียงตอบ ไม่มี)  คนๆนี้ถูกตัวสิงร่างควบคุมสมองของเขาไว้ จึงไม่รู้ว่าพูดอะไรไป   คนที่จิตสำนึกหลักไม่แจ่มแจ้งนั้นไม่อาจจะช่วยเหลือได้   ปัจจุบันในยุคธรรมะปลาย ก็ยุ่งเหยิงเหลือเกิน   พูดอีกก็คือ สิ่งที่เลอะเทอะ  กับหลักธรรมนอกรีตเหล่านั้นสามารถจะเรียกเป็นหลักธรรมได้หรือ  มันมีหลักธรรมอะไรหรือ  หลักธรรมมีเพียงหนึ่งเดียว  คือ เจิน ซั่น เหยิ่น  หลักธรรมกับศาสนาที่ถูกต้องอย่างอื่น ล้วนเป็นหลักการที่ประจักษ์แจ้งได้ในระดับชั้นที่ต่างกันของจักรวาล

ศิษย์           ในความฝันรักษาซินซิ่งไว้ไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรดี

อาจารย์      นั่นก็คือซินซิ่งของตัวท่านไม่แน่วแน่   กำหนดตัวเองยังไม่สูงพอ  สาเหตุคือในเวลาปกติไม่ได้วางพื้นฐานของการศึกษาฝ่าให้มั่นคง   ดังนั้นจะต้องบำเพ็ญจริง และเอาจริงเอาจัง  ในความคิดจึงจะเห็นความสำคัญเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาได้

ศิษย์           ไม่เคยเข้าร่วมชั้นเรียน  หากฝึกตามข้อกำหนดในหนังสือของท่าน จะสามารถก่อเกิดฝ่าหลุนได้หรือไม่ 

อาจารย์        ทุกท่านทราบ สิ่งที่เราถ่ายทอดคือการบำเพ็ญ  เป็นการบำเพ็ญในระดับชั้นสูง  หาใช่การขจัดโรคเสริมสร้างสุขภาพอะไร  ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดต่อคนสูง  ไม่ใช่ท่านฝึกแล้วก็จะได้รับฝ่าหลุน  ต่อให้ท่านฝึกดีแค่ไหน  เวลานานแค่ไหน   หากท่านไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านซินซิ่งนี้ที่เรากำหนด ไม่กำหนดตนเองอย่างเข้มงวด  ไม่เน้นกุศล  ไม่ศึกษาฝ่า  อะไรก็ไม่มีทั้งนั้น  อะไรก็จะก่อเกิดไม่ได้ทั้งนั้น หากท่านไปทำตามข้อกำหนดของฝ่านี้  เช่นนั้นอะไรๆก็จะได้รับหมด   ที่สมควรจะได้  เมื่อท่านศึกษาเองก็เหมือนกัน  อะไรก็จะไม่ตกหล่น  ตัวอักษรในหนังสือนั้นล้วนเป็นฝ่าเซิน(ธรรมกาย)ของข้าพเจ้า  ดังนั้นท่านก็จะได้รับโดยอัตโนมัติ  และไม่ต้องก่อเกิดฝ่าหลุนด้วยตัวเอง  และจะมีฝ่าเซินของข้าพเจ้าคอยปกป้องท่านโดยอัตโนมัติ 

ศิษย์           ในสังคมมีคนโจมตีฝ่าหลุนต้าฝ่าต่อหน้าผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  เราควรจะปกป้องฝ่าหลุนต้าฝ่าอย่างไร

อาจารย์         ไม่ต้องสนใจเขาก็จบแล้ว   และไม่ต้องไปต่อสู้กับเขา  เขาอยากพูดอะไรก็ช่างเขา  ไม่ต้องสนใจเขาก็พอแล้ว   ไม่ให้ตลาดแก่เขา  ไม่ไปฟังเขาก็จบแล้ว

ศิษย์           ศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่าจะไปที่ห้องเด็กทารกแรกเกิดได้หรือไม่

อาจารย์      นั่นเกี่ยวข้องอะไรด้วยละ มีบางปัญหาถามอย่างไร้เดียงสา การบำเพ็ญต้าฝ่าไม่ต้องกลัวอะไร   หนึ่งความถูกต้องสยบร้อยสิ่งชั่วร้าย  ห้องทารกแรกเกิดนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย  ยังจะมีประโยชน์ต่อเด็กทารกด้วยนะ

ศิษย์           นักประพันธ์ที่ไม่ใช่อาจารย์ชี่กง เขียนหนังสือชี่กง  จะมีปีศาจร้ายสิงอยู่ข้างในหรือไม่

อาจารย์      ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน ไม่ว่าเขาจะเป็นนักประพันธ์ก็ดี หรือว่าเป็นใครก็ดีไม่ใช่อาจารย์ชี่กงแต่เขียนหนังสือชี่กงออกมา   ก็จะมีสิ่งเลอะเทอะ และตัวสิงร่างเหล่านั้นควบคุมเขาให้ทำ ความคิดของคนมาจากไหนกัน  เขาเข้าใจว่าเขาคิดขึ้นมาเอง  และมีนักประพันธ์คิดจะเขียนสิ่งที่เป็นของชี่กง เขาไปสัมภาษณ์อาจารย์ชี่กงปลอมเหล่านั้น  เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าพลังกงของอาจารย์ชี่กงคนนั้นได้มาจากที่ไหน   ก็จะนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาได้ สิ่งที่เขียนลงไปก็เป็นสิ่งเหล่านั้นเช่นกัน ปัจจุบันสังคมยุ่งเหยิงมาก ชี่กงปลอมชนิดต่างๆ นานามีทั้งนั้น   ถึงแม้ไม่มีสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่ข้างใน  แต่ไม่ใช่เขียนโดยอาจารย์ชี่กง    จะสามารถบำเพ็ญได้ไหม

ศิษย์           ในเวลาที่ว่างจากการฝึกพลังกงจะหาหนังสือมาอ่าน  ที่สำคัญคือเพื่อทำความเข้าใจกับคำศัพท์และศัพท์เทคนิคบางคำ แต่ไม่ได้คิดจะศึกษาหลายๆแนวทาง

อาจารย์      อย่าพยายามแก้ตัว เราที่นี่จะรับผิดชอบต่อท่าน  สิ่งที่พูดในสำนักเหล่านั้น เป็นของสำนักนั้น   ซึ่งมีองค์ประกอบของสำนักนั้นติดอยู่  ท่านสามารถจะใช้มันที่นี่ได้หรือไม่  เราที่นี่พูดกันอย่างไร สอนกันอย่างไร  ศัพท์เทคนิคอื่นๆก็ไม่ใช่ความนัยของสำนักนี้ของเรา  ท่าเคลื่อนไหวหรือแต่ละตัวอักษรที่ปีศาจสิงอยู่ ล้วนเป็นสิ่งนั้น   เมื่ออ่านก็จะเข้าไปในร่างกายท่าน  เกี่ยวกับการบำเพ็ญและความรู้ของพุทธศาสตร์ ข้าพเจ้าจะคัดเลือกบุคคลที่เป็นผู้บำเพ็ญในประวัติศาสตร์จัดพิมพ์ออกมา ซึ่งล้วนเป็นคนดีถูกต้องสำหรับเป็นหนังสือความรู้ทั่วไปให้ทุกท่านรับรู้ได้

ศิษย์           กระดาษที่ใช้จดการตอบปัญหาในชั้นเรียนของท่านอาจารย์จะจัดการอย่างไร

อาจารย์      เก็บรักษาไว้เถอะ  จะพูดกับทุกท่านอีกเรื่อง พวกเราที่นั่งอยู่ บางคนเคยชินกับการจดบันทึก  แต่มักจะฟังการบรรยายได้ไม่ดีพอ ก็คือคนเหล่านี้ที่จดบันทึก เพราะความคิดของเขาใช้ในการบันทึก  แต่เขามักจะจดได้ไม่ครบถ้วนและฟังได้ไม่ครบถ้วน  ท่านทำได้แต่สงบใจฟัง   ท่านจดไม่ครบถ้วน  แล้วท่านทำไปตามที่จดบันทึกไว้  แต่ในนั้นจะไม่ครบถ้วน และเป็นไปได้ว่าจะเป็นการฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด  เพราะท่านจดไม่ครบถ้วน  และเมื่อท่านไปทำตาม  ดีไม่ดีก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดี   ที่ข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านคือ ตั้งแต่ข้าพเจ้าจัดชั้นเรียนเป็นต้นมา ได้บอกทุกท่านถึงประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้หลายครั้ง  เมื่อก่อนมีคนไม่น้อยที่ทำเช่นนี้   นี้ไม่ใช่ทฤษฏีในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ผลลัพธ์มักจะไม่ดีทั้งนั้น   ท่านฟังไม่ครบถ้วนก็จดบันทึกได้ไม่ครบถ้วน  ในอนาคตเรายังจะมีหนังสือ ให้อ่าน

ศิษย์           ผลลัพธ์ของการฝึกพลังกง            เกี่ยวข้องกับอารมณ์ใช่หรือไม่

อาจารย์      เวลาอารมณ์ไม่ดี ไม่ควรฝึกพลังกง  โดยเฉพาะเวลาโกรธยิ่งไม่ควรฝึก  การบำเพ็ญฝ่าที่ถูกต้อง  สมควรที่จะอดทน  ความอดทนไม่ใช่ว่า เกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นแล้วค่อยอดทน  ไม่ใช่โกรธแล้วค่อยคิดอดทน   ท่านมีอารมณ์ที่ไม่ดี เช่นนั้นท่านจะฝึกอะไรได้ละ ในใจท่านโกรธ เกลียด  จิตนานาชนิดที่เกิดจากความโกรธนั้น  ท่านจะสามารถสงบใจลงมาได้หรือ แล้วท่านไปฝึกพลังกงจะมีผลลัพธ์ที่ดีได้ไหม  ไม่ได้ไปปฏิบัติตามข้อกำหนดของฝ่า  นั่นไม่ใช่ฝึกฝ่าที่ถูกต้อง  นั่นคือฝึกวิชามาร   ไม่ใช่ว่า ฝึกท่าเคลื่อนไหวนี้แล้ว  ก็คือฝ่านี้แล้ว   มีอาจารย์หลายคนที่สอนคน  แต่เขาไม่ได้ทำตามมาตรฐานซินซิ่ง และศีลธรรมที่อาจารย์กำหนด   ผลคือสิ่งที่เขาฝึกออกมาล้วนเป็นสิ่งนอกรีต  เลอะเทอะยุ่งเหยิง  ท่านอย่าเห็นว่าสิ่งที่เขาสอนเป็นพลังกงที่ดี  หลักพลังกงเดียวกัน แต่สิ่งที่ฝึกออกมากลับไม่เหมือนกัน  ท่านต้องปฏิบัติตามมาตรฐานซินซิ่งของเขา การบำเพ็ญเป็นเรื่องที่เข้มงวดอย่างยิ่ง 

ศิษย์           การอ่านตำราแพทย์โบราณและปัจจุบัน จะกระทบกับฝ่าหลุนต้าฝ่าหรือไม่

อาจารย์      นี้ไม่มีอะไรกระทบ  อ่านตำราแพทย์ไม่กระทบอะไร  แต่ตำราแพทย์ชี่กงในปัจจุบันอย่าไปอ่าน

ศิษย์           ตำราโยคะชนิดหนึ่งพูดถึงคัมภีร์เทพ  บอกว่าเทพองค์นี้สร้างจักรวาลทั้งหมด

อาจารย์      อย่าฟังสิ่งเหล่านี้  โยคะอะไรละ   ในยุคธรรมะปลายที่ไหนๆก็ไม่ใช่ดินแดนบริสุทธิ์

ศิษย์           การได้มาทั้งหมดผ่านการใช้แรงงานก็เป็นการแลกมาด้วยกุศลใช่ไหม

อาจารย์      ก็เกี่ยวข้องกับการทุ่มเทมากหรือน้อย   การใช้แรงงานโดยตัวมันเองก็เป็นการทุ่มเท  การได้มามากกว่าที่ทุ่มเทไป ก็ต้องให้กุศลไป

ศิษย์           บำเพ็ญแต่ซินซิ่งไม่ฝึกพลังกง จะเป็นอย่างไร

อาจารย์      เช่นนั้นท่านก็เป็นแค่คนดีคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ   ในอนาคตท่านเป็นได้เพียงคนดี ชาติหน้าจะได้โชคลาภ

ศิษย์           การหมุนฝ่าหลุน ทำไมจึงหมุนเพียงสี่รอบ ไม่หมุนเก้ารอบ

อาจารย์      หมุนสี่รอบก็พอใช้แล้ว หากหมุนมากไปท่านจะปวดท้อง ท้องจะพองโต เวลาที่ท่านเรียนฝึกนั้นไม่ต้องกังวล  หลังจากฝึกเป็นแล้ว  พอท่านฝึกพลังกงก็ไม่อาจจะหมุนมาก  หมุนมากแล้วท้องจะโต

ศิษย์           คลอดลูกแล้ว ภายในหนึ่งเดือนสามารถจะฝึกพลังกงได้ไหม

อาจารย์      ทำได้แน่นอน ไม่มีปัญหา  เพราะไม่มีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง

ศิษย์           ไม่เคยร่วมชั้นเรียนที่อาจารย์จัดขึ้น  พอฝึกพลังกงชุดที่ห้าแล้วก็เกิดการเคลื่อนไหวอย่างอื่นอีก

อาจารย์      นั่นก็คือมีสิ่งอื่นควบคุมเธอไว้แล้ว   ปัญหานี้ข้าพเจ้าเคยพูดแล้ว ที่เราถ่ายทอดมีเพียงพลังกงห้าชุดเท่านั้น   เธอรู้สึกว่าดี   พอจิตยินดีเกิดขึ้นมา ก็เคลื่อนไหวตามขึ้นมาแล้ว   หากท่านไม่ต้องการ  ท่านก็หยุดเสีย  มันก็จะไม่มีแล้ว   หากท่านทำตาม ท่านยิ่งทำก็ยิ่งยินดี  โอ้ช่างดีจริง   เช่นนั้นมันก็จะบังคับบัญชาท่าน   แต่ว่าสิ่งเหล่านั้น  ท่านอย่าเห็นว่าท่าเคลื่อนไหวของมันเรียบง่าย  แต่ทั้งหมดจะทำร้ายร่างกายท่านได้  ท่านอย่าเห็นว่าท่านรำท่าเหล่านั้นได้  ทั้งหมดเป็นการทำลายสิ่งนั้นของร่างกายท่านและในชั่วประเดี๋ยวเดียวก็สามารถทำลายท่านได้แล้ว

ศิษย์           เชื่อในศาสนาโรมันคาทอลิก และฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย

อาจารย์      พูดมาถึงปัญหานี้ อาจจะต้องพูดสูงมาก  สำหรับชาวตะวันออกข้าพเจ้าได้แต่บอกทุกท่านที่นี่ว่า ท่านสนใจแต่ไปบำเพ็ญ   ต้าฝ่า ฝ่าที่ถูกต้องยากจะพานพบ  ได้แต่บอกสิ่งเหล่านี้กับท่าน  หากศาสนาในวันนี้สามารถช่วยคนได้ ข้าพเจ้าก็ไม่มาถ่ายทอดต้าฝ่าแล้ว  อย่างไรก็ตามทุกท่านก็ไปรับรู้เอาเองเถอะขณะนี้พวกท่านคือคน            พูดสูงเกินไปท่านก็จะรับไม่ได้

ศิษย์           คนหนุ่มสาวที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า จะได้รับอนุญาตให้มีความรักต่างเพศได้ไหม

อาจารย์      ข้าพเจ้าได้บอกกับทุกท่านแล้ว  หากอยู่ในระดับชั้นนี้  จะให้ท่านปล่อยวางทุกสิ่งทั้งหมดย่อมเป็นไปไม่ได้  ท่านก็ทำไม่ได้ด้วย   แน่ละบางคนอาจจะมองเรื่องนี้ได้จืดจางมาก  ถึงกระนั้นข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  การบำเพ็ญอยู่ในสังคม  เราไม่ส่งเสริมให้ทำเช่นนี้  แต่ฝ่าหลุนต้าฝ่าเราที่จริงก็มีผู้ที่บำเพ็ญเป็นหลักอยู่กลุ่มหนึ่ง  ในอนาคตเมื่อเรามีวัด  คงจะเสนอสถานที่บำเพ็ญอย่างนี้ให้พวกเขาใช้  มีพระสงฆ์มากมายหลายรูป  หลังจากบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า  ในวัดนั้นอาจจะสร้างความยากลำบากให้พวกเขาอย่างมาก  ในอนาคตต้องเสนอสถานที่บำเพ็ญอย่างนี้ให้พวกเขาใช้   แต่ในส่วนของคนที่บำเพ็ญอยู่ในสังคมคนธรรมดาสามัญนี้   เราไม่เสนอแนะให้ท่านทำเช่นนี้  เช่นนั้นทุกๆคนต่างบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้วไม่แต่งงานกันหมด  ก็จะสืบทอดคนรุ่นหลังต่อไม่ได้แล้ว   สูญสิ้นเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว  นั่นใช้ไม่ได้  ก็คือในขณะนี้ที่ท่านเป็นอยู่ ท่านสามารถมีครอบครัว  บำเพ็ญอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ   พยายามทำให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของคนธรรมดาสามัญให้มากที่สุด  เราขอยกตัวอย่าง  ถ้าท่านไม่แต่งงาน พ่อแม่ของท่านก็จะเป็นห่วงท่านมาก  เขาไม่เข้าใจท่าน  คนอื่นก็ไม่เข้าใจท่าน  ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมคนธรรมดาสามัญนี้  จะเป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญของเรา   เพราะสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนที่สุด จึงจะเกิดคนระดับสูงได้

 ศิษย์          ท่านอาจารย์สามารถจะเล่าความรักที่ผ่านมาของท่านได้ไหม

อาจารย์      ท่านไม่ได้มาศึกษาฝ่า  ท่านมาทำอะไรหรือ  ท่านยังอยากจะรู้อะไร  การบำเพ็ญเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก   ขณะนี้ท่านยังถูกฉิงชักนำ ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้อยู่  ช่างห่างไกลมากเหลือเกินนะ

ศิษย์           เมื่อบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าสำเร็จ สามารถจะไปโลกอื่นได้ไหม

อาจารย์       อยากจะไปที่ไหนก็ไปที่ไหนหรือ   บำเพ็ญสำเร็จแล้วหรือ  ตอนนี้ ถามคำถามนี้ ในอนาคตหากมีวันนั้นที่บำเพ็ญสำเร็จแล้ว  ท่านก็จะรู้สึกละอายจนแทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดิน  ท่านไม่รู้ว่าท่านพูดอะไรออกมา  ขณะนี้ท่านใช้ความคิดของคน  ไม่มีความนึกคิดในเขตแดนนั้นของเทพ

ศิษย์            ในขณะฝึกพลังสมาธิ กำหนดให้ใจบริสุทธิ์สงบ ไร้ความหมายมั่น   ไม่มีความนึกคิด(อี้เนี่ยน)ใดๆ  เช่นนั้นในด้านซินซิ่งก็ต้องบำเพ็ญให้เกิดสภาพจิตชนิดนี้

อาจารย์      ใช่  แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปจึงจะบรรลุถึงได้   ตามปกติต้องระวัง  ไม่ว่าจะเข้าสู่ความสงบได้ถึงขั้นไหน  ท่านต้องรู้ว่าตนเองกำลังนั่งสมาธิอยู่ตรงนี้  ฝึกพลังอยู่ตรงนี้  ต้องคงความคิดหนึ่งเดียวอันเล็กน้อยนี้ไว้  ถ้าไม่คงไว้ท่านก็จะเลอะเลือนจนไม่รู้อะไรทั้งหมด  ที่บำเพ็ญอยู่ก็จะไม่ใช่ท่าน

ศิษย์           นักเรียนอยู่ในโรงเรียนขยันเรียนเพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย  พฤติกรรมที่ตอบแทนคุณพ่อแม่นี้ขัดกับ เจิน  ซั่น เหยิ่น ไหม

อาจารย์      นี้ไม่ขัดกับ เจิน ซั่น เหยิ่น   สิ่งไหนที่จัดเป็นการยึดติด  สิ่งไหนที่ไม่จัดเป็นการยึดติด  ง่ายที่จะปะปนกันได้  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  เรื่องที่ทำเพื่อเป้าหมายส่วนตัว  สนองความพอใจ หรือตัณหาส่วนตัว  นี้ก็คือการยึดติด  แต่การทำเรื่องอะไรเพื่อส่วนรวม  เพื่อปวงชน  เพื่อผู้อื่น  หรือขยันทำงานให้ดี เล่าเรียนให้ดี นี้เป็นเรื่องสมควร  ทุกท่านคิดดู  เช่นนั้นในฐานะผู้ฝึกคนหนึ่ง  ในฐานะนักเรียนคนหนึ่ง หน้าที่อันพึงกระทำของท่าน ก็คือเรียนให้ดี  เพราะท่านเป็นนักเรียน   เช่นนั้นบางคนจึงคิดว่า  เป้าหมายของฉันคือสอบเข้ามหาวิทยาลัย  แน่ละเป้าหมายของการเรียนก็คือพัฒนาขึ้นไปสู่ระดับที่สูงยิ่งขึ้น  จากประถม  มัธยม  มหาวิทยาลัย  ท่านก็ไม่อาจจะอยู่แค่ระดับประถมนะ เป็นเช่นนี้แน่นอน   เช่นนั้นพวกเราคิดว่าการเข้ามหาวิทยาลัยนี้ก็ไม่เลว  แต่ว่า  หากท่านไม่ตั้งใจเรียนให้ดี  ในสมองท่านคิดอยู่แต่จะเข้ามหาวิทยาลัย  เข้ามหาวิทยาลัย  ข้าพเจ้าว่านั่นคือจิตยึดติด  ฉะนั้นทุกท่านคิดดู  เราหันกลับมาพูดใหม่   ท่านเป็นนักเรียนคนหนึ่ง หน้าที่อันพึงกระทำของท่านก็คือสมควรเรียนให้ดี ตอบแทนคุณผู้ปกครอง  ตอบแทนคุณโรงเรียน  ตอบแทนคุณครูอาจารย์   ครูอาจารย์ทุ่มเทให้กับท่าน  สอนหนังสือให้ท่าน   ผู้ปกครองส่งเสียท่านเรียนหนังสือ    เลี้ยงดูท่านให้ได้เล่าเรียน   เช่นนั้นท่านตอบแทนคุณผู้ปกครอง  ตอบแทนคุณครูของโรงเรียนนี้  ตัวท่านขยันเรียนให้ดี  ท่านมิเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยธรรมชาติแล้วหรือ   ท่านเฝ้าคิดแต่จะเข้ามหาวิทยาลัย  เข้ามหาวิทยาลัย  แต่ท่านเรียนได้ไม่ดี  แล้วท่านจะเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือ  ท่านไม่ต้องเฝ้าคิดแต่จะเข้ามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย  แต่ท่านเข้าไม่ได้ มิเสียเวลาเปล่าหรอกหรือ  ท่านไม่ไปคิดเรื่องของมหาวิทยาลัย  ท่านขยันเรียนก็พอแล้ว   เมื่อท่านเรียนได้ดีแล้ว มิใช่ได้เป็นนักศึกษาปริญญาตรีแล้วหรือ  ได้เป็นนักศึกษาปริญญาโทแล้วหรือ  ก็เป็นเหตุผลอย่างนี้  มีบางเรื่องนั้นง่ายมาก แต่ง่ายที่จะสับสนปนเป    ยังมีพวกเราบางคนทำงานค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์  ทำงานวิจัย ถือว่ายึดติดหรือไม่ละ  ผลสำเร็จของงานวิจัยของท่าน  เรื่องเหล่านี้ที่ท่านทำ  เป็นกิจการสาธารณประโยชน์  เป็นการบริการเพื่อสังคมในวงกว้าง บริการผู้อื่น  ทำเรื่องเหล่านี้ให้ดี  นี้เป็นหน้าที่ของท่าน  นี่เป็นหน้าที่โดยมูลฐานของท่าน ในฐานะคนทำงานคนหนึ่งก็สมควรทำให้ดีๆ  ตอบแทนค่าแรงที่ท่านได้รับ  ตอบแทนเงินเดือนที่ท่านได้รับ   เป็นเช่นนี้กระมัง   เพราะผู้ฝึกพลังกง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สมควรแสดงออกมาว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง

ศิษย์           เวลาที่ฝึกพลังเข้าสู่ภาวะลืมตนทั้งหมด  แม้แต่เสียงรอบตัวก็ไม่ได้ยิน  รู้สึกว่าร่างกายตนเองหายไป      เป็นสภาพการณ์ชนิดนี้

อาจารย์         สภาพการณ์ชนิดนี้ดีมาก  การฝึกพลังของเรากำหนดให้เข้าสู่ความสงบ   จะเกิดสภาพการณ์สองชนิด  แต่ไม่เหมือนหลักพลังอย่างอื่น   พอนั่งลงตรงนั้น ก็ไม่รู้อะไรแล้ว  ฝึกอยู่นานหลายชั่วโมง พอออกจากสมาธินิ่ง  โอ้  รู้สึกว่าคล้ายกับนั่งได้เพียงครู่เดียว  แค่สิบกว่านาที  แต่พอดูนาฬิกา ก็ผ่านไปเป็นเวลานานมากแล้ว  เขายังดีใจเป็นล้นพ้น  พลังสมาธิสูงจริงๆ  ฝึกได้ดีจริงๆ  ถ้าท่านฝึกอยู่ในแนวทางอื่น ย่อมจะพูดว่าเขาฝึกได้ดีด้วยกันทั้งนั้น  แต่อยู่ที่นี่ของข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าว่าเขาน่าเวทนา น่าเวทนาเหลือเกิน  

ทุกท่านทราบ  การบำเพ็ญของเรา ต้องการให้ตัวท่านบำเพ็ญตัวเองอย่างแท้จริง  ให้ตัวท่านได้พลังอย่างแท้จริง  ดังนั้น ท่านอยู่ในสภาวะนิ่งลึกมาก  ท่านก็ต้องรู้ว่าตนเองฝึกพลังอยู่ที่นี่   ท่านจะเกิดสภาวะเหมือนคำถามที่ถาม    ไม่รู้ว่าขาเอย  ร่างกายเอย  แขนเอย  มือเอยหายไปไหนแล้ว  กระทั่งสมองของตนเองก็ไม่มีแล้ว   คล้ายกับมีเพียงความนึกคิดหนึ่งอยู่   ความนึกคิดนี้ในการรับรู้  รู้ว่าตนเองฝึกพลังอยู่ตรงนี้  นี้เป็นสภาวะที่ดีมาก   ยังมี   ของเรายังสามารถมีอีกสภาวะหนึ่ง   คล้ายกับนั่งอยู่ในเปลือกไข่ขยับไม่ได้เลย  ช่างมหัศจรรย์มาก   แต่รู้ว่าตนเองฝึกพลังอยู่ตรงนี้ ก็อาจเกิดสภาวะนี้ได้

ศิษย์           กลางดึกผมตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองกำลังทำท่าเคลื่อนไหวของฝ่าหลุนต้าฝ่า  ตนเองรู้สึกได้ว่าฝ่าหลุนกำลังหมุน  กระแสพลังงานแรงมาก

อาจารย์      ถ้าเป็นท่าเคลื่อนไหวของฝ่าหลุนต้าฝ่า อย่างนั้นก็ดีมาก  นั้นอาจเป็นจิตหลักของท่านกำลังฝึกอยู่   แต่ถ้าเป็นท่าเคลื่อนไหวอย่างอื่น ก็มีปัญหาแล้ว

ศิษย์           ในขณะที่ผมฝึกพลัง ๔ ชุดแรก ในร่างกายมีแรงที่ทำให้แขนขาโอนเอน

อาจารย์      เรามีคนมากมายที่ความรู้สึกไว ในร่างกายท่านนั้น เมื่อฝ่าหลุนกำลังหมุนอยู่ จะโอนเอนตาม  แต่อย่าเคลื่อนไหวตามเขา บางคนความรู้สึกไม่ไว พลังงานที่หมุนแรงมากเขาก็ไม่รู้สึก  สภาพการณ์ของแต่ละคนล้วนไม่เหมือนกัน

ศิษย์           เราเคยบำเพ็ญมี่จงหลายปี   เดี๋ยวนี้มีกงเหนิงแล้วและยังสามารถเชื่อมต่อกับฝ่าเซินของท่านปรมาจารย์  หากสิ่งเหล่านี้เป็นความจริง จะเป็นประโยชน์ต่อการชี้นำการบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าของเราหรือไม่

อาจารย์    ไม่เกิดผลในการชี้นำ  และไม่เกิดผลในการชี้นำใดๆ   มี่จงคือหลักธรรมของพระยูไลระดับชั้นต่ำที่สุดของจักรวาล  จะสามารถชี้นำหลักธรรมของจักรวาลได้อย่างไรละ  ข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านแล้ว  ที่เห็นนั้น จริงหรือเท็จก็ยากจะบอกได้   แม้ว่าที่เห็นจะเป็นจริง  ก็ยากมากที่จะบรรลุถึงการเชื่อมต่อกับฝ่าเซินของข้าพเจ้า    เขาจะไม่ติดต่อกับท่านแบบนี้   หากแต่เป็นสิ่งเหล่านี้ที่ท่านเคยเรียนมาแต่ก่อนผันแปรออกมาหลอกท่าน  ดังนั้นต้องระวังสิ่งเหล่านี้  จากกงเหนิงจะดูไม่ออกว่าใครสูงหรือต่ำต้องแยกแยะมรรคผลสูงต่ำของผู้บำเพ็ญคนหนึ่งด้วยซินซิ่ง

ศิษย์           การเขียนบันทึกประจำวันตรวจสอบความบกพร่องของตนโดยเปรียบเทียบกับต้าฝ่าของอาจารย์จะได้ไหม

อาจารย์     ข้าพเจ้าว่า ก็ไม่แน่ว่าจะบันทึกมันลงมาได้  ในเมื่อท่านอยากจะบันทึกก็บันทึกเถอะ  ในใจรู้ว่าผิดที่ตรงไหนแล้ว ต่อไปฉันใส่ใจศึกษาฝ่า ยกระดับตนเองก็ใช้ได้แล้ว

ศิษย์           ขณะอ่านบทความเฉพาะของอาจารย์มักจะเห็นสองสามบรรทัดเปล่งแสง พอตรวจสอบก็เป็นปัญหาที่ตนเองประสบพอดี   นี้เป็นการสะกิดเตือนของอาจารย์ใช่ไหม

อาจารย์      นี้คือพลังของฝ่าที่มีอยู่ในต้าฝ่า  แต่ละตัวอักษรล้วนเป็นฝ่าเซิน ของพระพุทธ เต๋า เทพ            

ศิษย์           ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ละครั้งที่ทำผิดเรื่องหนึ่งหรือพูดผิดไปคำหนึ่งล้วนจะถูกฝ่าเซินของท่านลงโทษ  แต่เมื่อทำผิด  พูดผิดในอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง  ฝ่าเซินของท่านกลับไม่สนใจ

อาจารย์     ดูแลท่านอยู่เรื่อย  ท่านยังทำผิด แล้วไม่สำนึกแก้ไข  ก็ไม่อาจจะสะกิดเตือนเช่นนี้ร่ำไปนะ   จะพูดอีกเรื่องหนึ่ง   ผู้ฝึกมากมายอยากจะติดต่อกับฝ่าเซินของข้าพเจ้า  จุดประสงค์นั้นคือ  ต้องการจะถามเรื่องอะไรบางอย่าง  เช่นบำเพ็ญเป็นอย่างไรๆบ้าง   ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ท่านเพียงสนใจแต่ไปบำเพ็ญ  ที่สมควรให้ท่านรู้  ท่านย่อมจะรู้ได้แน่นอน   ที่ท่านไม่สมควรรู้ ก็พูดได้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ท่านจะรู้  ในเวลาปกติให้อ่านหนังสือให้มากอ่านให้ทะลุปรุโปร่ง   ปัญหาอะไรของท่านก็จะแก้ไขได้  ทั้งหมดอยู่ในหนังสือ  ปัญหาบางอย่างที่ตัวท่านรับรู้ไม่ได้ก็ดี  พูดว่ามีปัญหาที่ยุ่งยากก็ดี   หลังจากท่านศึกษาฝ่านี้จริงๆ ท่านจะพบว่าปัญหาอะไรล้วนไม่มีแล้ว  แต่ละปัญหาล้วนจะแก้ตกไปตามๆกัน

ศิษย์           มีแต่เปิดพลังกงเปิดการรู้แจ้งก็คือมรรคผลถูกต้อง  ก็จะสามารถไปโลกฝ่าหลุนหรือ

อาจารย์      การรู้แจ้งมีแบบค่อยๆ รู้แจ้งกับรู้แจ้งในฉับพลัน   จนสุดท้ายเปิดการรู้แจ้งนั้นทั้งหมดเรียกว่าหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์) แต่มีบางคนเพียงสามารถบำเพ็ญบรรลุอยู่ในสามภพและเปิดพลังกงเปิดการรู้แจ้ง ซึ่งไม่เรียกว่าหยวนหมั่น ไม่อาจได้มรรคผล   ที่ข้าพเจ้าพูดคือมีบางคนไม่อาจมุมานะมากอย่างนั้น  ไม่มีใจเด็ดเดี่ยวมากอย่างนั้นไปบำเพ็ญ   ดังนั้นเขาบรรลุไม่ถึงการได้รับมรรคผลที่ถูกต้อง(เจิ้งกั่ว)  นั้นก็จะไปโลกฝ่าหลุนไม่ได้  จะเปิดการรู้แจ้งในสามภพ เพราะเขาสามารถจะบำเพ็ญสูงเพียงแค่นี้เอง ผู้ที่บำเพ็ญต้าฝ่า ไม่แน่ว่าจะไปโลกฝ่าหลุนทั้งหมด   ผู้ที่หยวนหมั่นในมรรคผลที่สูงกว่าจะไปโลกที่สูงกว่า

ศิษย์           คนตกลงมาที่มิติสสารนี้ ใช่ไหมว่าเพราะมีฉิง(อารมณ์)

อาจารย์      ไม่ใช่ทั้งหมด  ข้างบนไม่มีฉิง  ภายในตรีภูมิจึงจะมีฉิง   ท่านตกลงมาเพราะท่านเปลี่ยนแปลงไป  ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานข้างบน  จึงตกลงมา  ส่วนมิตินี้ของคนธรรมดาสามัญนี้ ฉิงเป็นสิ่งที่หนักที่สุด ฉิงคือรากเหง้าที่ทำให้เกิดจิตยึดติด

ศิษย์           จะแยกแยะตัวสิงร่างกับ จิตหลักได้อย่างไร

อาจารย์       ขณะนี้ท่านแยกแยะไม่ออก  อย่าได้มัวแต่สนใจสิ่งเหล่านี้   เพราะตัวสิงร่างนั้นจะปรากฏออกมาใหญ่เท่ากับร่างกายท่าน  ร่างกายเมื่อก่อนของท่านก็สามารถปรากฏออกมาในชาตินี้ได้  ดังนั้นท่านจึงแยกแยะให้ชัดเจนได้ยากมาก ว่าเป็นร่างในชาติก่อนหรือตัวสิง ตัวสิงบางตัวอยู่ในร่างกาย  บ้างก็อยู่นอกร่างกาย   นั่งอยู่บนศีรษะ บนไหล่หรือนอนอยู่หลังคอ  นี่ง่ายต่อการแยกแยะ   ส่วนที่นอนอยู่ในร่างกายนั้น ท่านแยกแยะไม่ออก   คนที่บำเพ็ญต้าฝ่าล้วนไม่มีเรื่องตัวสิงคงอยู่  นั่นไม่อนุญาตให้อย่างเด็ดขาด

ศิษย์            ขอเรียนถามว่าเทพที่อยู่เหนือกว่าพระพุทธเรียกว่าอะไร

อาจารย์      อะไรคือเทพที่อยู่เหนือกว่าพระพุทธ  คนธรรมดาสามัญทั่วไปไม่อาจจะให้รู้เรื่องที่สูงอย่างนั้นได้ตลอดไป   ในหนังสือเล่มใหญ่ข้าพเจ้าได้เคยพูดถึงสองสายใหญ่คือพุทธกับเต๋า  เหนือกว่าพวกเขาขึ้นไปก็เป็นพระพุทธ  และเป็นเต๋า ท่านถือมันเป็นความรู้  พอท่านก้าวออกไปจากประตูนี้  ก้าวออกไปจากชั้นเรียนนี้  ผ่านไปไม่กี่วันท่านก็จะค่อยๆคิดไม่ออกว่าคืออะไร  สิ่งเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าบรรยาย ท่านรู้ได้เพียงคร่าวๆ  และท่านสับสนเลอะเลือนก็จะพูดออกมาไม่ได้  คนที่ไม่สามารถบำเพ็ญ ความทรงจำในสมองก็จะถูกลบทิ้งไป   คนธรรมดาสามัญไม่ได้รับอนุญาตให้รู้สิ่งเหล่านี้

ศิษย์           ความนัยที่แท้จริงของ ฉิง ในพุทธธรรมคืออะไร

อาจารย์      คือองค์ประกอบชนิดหนึ่งในระดับชั้นที่ต่ำที่สุดของต้าฝ่าของจักรวาล และคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล   ที่ผ่านมาเราไม่ได้พูดถึงแก่นแท้ของสิ่งนี้โดยตรง  ในศาสนาพุทธล้วนพูดถึงจิตยึดติด  จิตยึดติดนี้ จิตยึดติดนั้น  เราที่นี่ก็พูดถึงจิตยึดติดนานาชนิด  แต่ว่า  ในพุทธศาสนาก็ไม่ได้พูดถึงว่าที่แท้จิตยึดติดคืออะไร เราที่นี่ได้พูดออกมาให้กับทุกท่านแล้ว  ก็เพราะมีฉิงอยู่   แน่ละเมื่อจะบำเพ็ญถึงอยากจะได้มรรคผลถูกต้อง โดยพื้นฐานก็ต้องละทิ้งฉิงนี้ไป

ศิษย์           เวลาฝึกพลังต้องให้ปลายลิ้นแตะเพดานปาก   ถ้าใส่ฟันปลอมก็ทำไม่ได้ จะทำอย่างไร

อาจารย์      ใส่ฟันปลอมไม่กระทบ  ต่อให้ในปากท่านมีแผ่นตะกั่วฝังไว้ก็ไม่เป็นไร  พลังกงจะสามารถทะลวงผ่านได้                  นี่ไม่เป็นไร            เราไม่ได้ฝึกชี่แต่ฝึกพลังกง  

ศิษย์           ชาติก่อนท่านเป็นใคร

อาจารย์      ข้าพเจ้าก็คือหลี่      หงจื้อ   ข้าพเจ้าไม่ใช่องค์ศากยมุนี  

ศิษย์           ในการบรรยายที่ผ่านมา ท่านได้พูดถึงฝ่าหลุนเซิ่งหวัง(ราชาศักดิ์สิทธิ์ผู้หมุนฝ่าหลุน)นั้นเป็นองค์เดียวกับฝ่าหลุนเซิ่งหวังที่องค์ศากยมุนีตรัสไว้ในพระสูตรอัศจรรย์พระธรรมดอกบัว

อาจารย์      ในประวัติศาสตร์องค์ศากยมุนีพุทธะได้พูดถึงฝ่าหลุนเซิ่งหวัง  ในอดีตองค์ศากยมุนีพุทธะเคยตรัสเรื่องฝ่าหลุนกับฝ่าหลุนเซิ่งหวังไว้หลายครั้ง  ในเวลาที่คนรุ่นหลังหวนคิดถึงเรื่องเหล่านี้ที่องค์ศากยมุนีพุทธะตรัสไว้  ก็ไม่สามารถจะพูดออกมาได้ครบถ้วน  ดังนั้นคนรุ่นหลังจึงไม่สามารถเข้าใจความหมายเดิมที่องค์ศากยมุนีพุทธะตรัสไว้  และเกิดการบิดเบือนไป    ภายหลังยังเกิดธรรมจักรเงิน  ธรรมจักรโลหะ  ธรรมจักรทองแดงอะไรออกมาเป็นต้น  วิธีพูดล้วนแต่เป็นการปั้นแต่งขึ้นของคนรุ่นหลัง พูดกันว่าองค์ศากยมุนีพุทธะหมุนฝ่าหลุน อย่างนี้อย่างนั้น  เรื่องนั้นองค์ศากยมุนีพุทธะไม่ได้ตรัสว่าตนเองหมุนฝ่าหลุนแต่อย่างใด    องค์ศากยมุนีพุทธะทรงทำนายถึงสิ่งที่จะเห็นได้ในอนาคต  ทรงรู้ว่าเรื่องหนึ่งอย่างนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต

ศิษย์           ตอนค่ำพอนั่งสมาธิฝึกเสินทงเจียฉือฝ่า(เสริมสร้างอิทธิฤทธิ์)ก็สะลึมสะลือหลับไป

อาจารย์      อันนี้ใช้ไม่ได้โดยเด็ดขาด   ต้องควบคุมอาการผิดปกตินี้  หาไม่ที่บำเพ็ญนั้นอาจจะไม่ใช่ตัวท่านเอง   เราต้องบำเพ็ญอย่างมีสติแจ่มแจ้ง   พอนั่งก็หลับ  ที่จริงไม่ได้ฝึกพลังก็คือนั่งหลับนั่นเอง           นี่ก็เป็นการรบกวน

ศิษย์           สรรพชีวิตในแดนสุขาวดีไม่มีเรื่องยุ่งยากใจ   ไม่มีความยากลำบากจะบำเพ็ญได้อย่างไร

อาจารย์       ข้าพเจ้าขอบอกท่านไม่มีเรื่องยุ่งยากใจก็ไม่อาจบำเพ็ญได้ ดังนั้นในโลกแดนสุขาวดีจึงบำเพ็ญได้ยากมาก  

ศิษย์           ชื่อทางธรรมของฝ่าเซินของอาจารย์คืออะไร

อาจารย์     ฝ่าเซินของข้าพเจ้าก็คือข้าพเจ้า   เป็นร่างเดียวกัน  เรื่องนี้ยากจะเข้าใจได้  ไม่มีชื่อทางธรรมอะไร            ก็คือ หลี่ หงจื้อ

ศิษย์            ข้อสงสัยในระหว่างที่บำเพ็ญจะสามารถปรึกษากับผู้ฝึกเก่าที่เราเห็นว่าฝึกได้ค่อนข้างดีหรือไม่

อาจารย์      การปรึกษากันระหว่างผู้ฝึกไม่มีปัญหา ดีมาก

ศิษย์           ขณะทำงานอยู่ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็รู้สึกว่าตรงระหว่างคิ้วบนหน้าผากมีแสงสีชมพู สีน้ำเงิน สีเงินสาดส่องออกมาหลายครั้ง

อาจารย์      นี่คือปรากฏการณ์ของการเปิดตาทิพย์   มีปรากฏการณ์นานาชนิดมากมาย   บางคนพูดว่าพลังงานของเรานี้เป็นแสง แล้วมันคงอยู่ในร่างกายของเราได้อย่างไร   เมื่อวานข้าพเจ้าเห็นคำถามหนึ่งแต่ตอบให้ไม่ทัน  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน   ที่เห็นเป็นแสงนั้น เพราะเป็นการมองเห็นปรากฏการณ์ของตาทิพย์ที่อยู่ในระดับชั้นที่ไม่สูง   แต่ร่างวัตถุนั้นที่คงอยู่  เป็นสสารอย่างแท้จริง   ระดับชั้นของตาทิพย์ของท่านไม่สูง จึงเห็นร่างชีวิตในอีกมิติเป็นเหมือนแสง  เพราะมีพลังงานมากใช่ไหม  หากระดับชั้นของตาทิพย์ท่านสูงมาก  ท่านจะพบว่าวัตถุที่ฝั่งนั้นยังสมจริงยิ่งกว่าที่ท่านใช้ตามองวัตถุที่ฝั่งนี้เสียอีก  ดังนั้นผู้บำเพ็ญในอดีตจึงพูดว่าสังคมคนธรรมดาสามัญคือมายาภาพที่ไม่ใช่ของจริง

ศิษย์           ท่านบอกว่าต้องละทิ้งจิตยึดติดทั้งหมด  แต่ท่านทำเพื่อโปรดสรรพชีวิต เรื่องนี้โดยตัวมันเองมิใช่จิตยึดติดหรือ

อาจารย์     คนนี้เลอะเลือนแล้ว   ถ้าเห็นคนตกน้ำกำลังจะจมน้ำตายแล้วช่วยเขาขึ้นมา นี่คือยึดติดหรือ  ข้าพเจ้ามาเพื่อช่วยท่าน  ข้าพเจ้าไม่ได้มาบำเพ็ญ   ท่านต้องแยกให้ชัดในเรื่องนี้  และข้าพเจ้ายังทำเรื่องที่ใหญ่กว่า  เพียงแต่บรรยายฝ่าอยู่ในโลกเท่านั้นเอง

ศิษย์           เพื่อช่วยเหลือสรรพชีวิตให้พ้นจากความทุกข์ยาก เกิดจิตเมตตา นี่นับเป็นฉิงหรือไม่

อาจารย์      บนพื้นฐานในขณะนี้ของท่านพูดถึงความเมตตา ที่จริงก็เป็นผลมาจากฉิง   ความเมตตาไม่ใช่ฉิง  คนธรรมดาสามัญนั้นมีฉิง  เมื่อเลื่อนระดับขึ้นไปแล้วจะไม่มีฉิง  ท่านจึงจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าอะไรคือความเมตตา(ฉือเปย)

ศิษย์           คนที่มีตาทิพย์ค่อนข้างสูงมักบอกกับผู้ฝึกว่า ฝึกไปถึงขั้นไหนแล้ว

อาจารย์      เขากำลังทำลายฝ่าหลุนต้าฝ่า  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ของเราไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็อย่าเชื่อฟังสิ่งเหล่านี้  คนๆหนึ่งฝึกได้สูงแค่ไหน   ย่อมไม่ให้ใครไปพูดตามชอบใจได้อย่างเด็ดขาด  บางคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของจิตโอ้อวด จึงชอบพูดเรื่องนี้  เมื่อตาทิพย์เปิดแล้ว  ท่านก็ไม่แน่ว่าจะเห็นได้ว่าเขาบำเพ็ญได้สูงแค่ไหน  คนที่พิเศษ(บำเพ็ญได้ดี)จริงๆ แม้จะเห็นได้จริงๆ เขาก็จะไม่พูด  พวกเราหารือซึ่งกันและกัน พูดว่าที่ตรงไหนของท่านพลังกงเป็นอย่างไร  ฝึกสิ่งที่ดีออกมาได้  นี่เป็นสิ่งที่ทำได้ คนๆนี้ฝึกได้สูงแค่ไหนแล้ว  ฉันสูงแค่ไหนแล้ว  ท่านสูงแค่ไหนแล้ว  เขาสูงแค่ไหนแล้ว  นี่ก็คือการทำลายฝ่า  ไม่อาจให้เขาได้เห็นปรากฏการณ์ชนิดนี้อย่างเด็ดขาด  นั่นมิใช่เป็นการส่งเสริมจิตยึดติดของคนหรือแข่งกันปีนป่าย  และปรากฏการณ์อะไรล้วนจะเกิดขึ้นได้ระหว่างพวกท่านด้วยกัน   ข้าพเจ้ายังคงต้องพูดคำนั้น   ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ทุกท่านล้วนแต่ต้องอาศัยความสูงต่ำของการบำเพ็ญซินซิ่งเป็นมาตรฐาน คนที่ซินซิ่งต่ำจึงจะทำเรื่องเหล่านี้   ในเมื่อซินซิ่งต่ำ พลังกงจะสูงได้หรือ  เมื่อพลังกงไม่สูงจะเห็นได้แม่นยำไหม   

ศิษย์           ผู้ฝึกใหม่ที่อยู่ในชั้นเรียนได้รับฝ่าหลุน  กลไกชี่ ฝ่าเซิน ที่อาจารย์มอบให้  ล้วนเป็นของล้ำค่า   ด้วยเหตุนี้ ตามหลักการไม่เสียก็จะไม่ได้ของจักรวาล พวกเราควรให้อะไรตอบแทน

อาจารย์      ฝ่าเซินนั้นจะคุ้มครองท่าน แต่ไม่ใช่ให้กับท่าน  ที่จริงข้าพเจ้าก็ให้ท่านได้ฝ่า ให้ท่านบำเพ็ญ ให้ท่านหวนคืนกลับไปสู่ความจริงแท้  ก็ต้องการจิตใจที่มุ่งสู่ที่สูงขึ้นไปของท่าน

ศิษย์           ฝ่าหลุนที่พูดกันในมี่จงกับฝ่าหลุนของอาจารย์มีความแตกต่างกันหรือไม่

อาจารย์      ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน  ฝ่าหลุนของมันนั้นคืออี้เนี่ยน(ความนึกคิด)  และตั้งใจควบคุมด้วยอี้เนี่ยน  ของข้าพเจ้าที่นี่เป็นของจริง  มีรูปร่าง  เป็นรูปเป็นร่างอย่างแท้จริง

ศิษย์           ผมอยู่ที่ฮ่องกงได้เข้าชมพระพุทธรูปใหญ่เทียนถาน   ขอเรียนถามท่านอาจารย์เหตุใดสังคมปัจจุบันจึงทำพระพุทธรูปใหญ่อย่างนี้

อาจารย์      นั่นเป็นเรื่องที่คนธรรมดาสามัญคิดทำกัน   ปัจจุบันหลายคนในศาสนาพุทธยังคิดจะสร้างวัดที่ใหญ่ยิ่งกว่า                  ล้วนเป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           หากมีคนบำเพ็ญหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์)ได้ เมื่ออยู่ข้างบนจะสามารถเห็นท่านปรมาจารย์หรือไม่

อาจารย์     หากท่านบำเพ็ญจริงๆ   ไม่ต้องรอท่านหยวนหมั่นท่านก็จะเห็นได้  แน่ละเมื่อหยวนหมั่นแล้วก็จะยิ่งเห็นได้

ศิษย์           อะไรคือศิษย์ที่บำเพ็ญเป็นหลัก  อะไรคือศิษย์ที่บำเพ็ญจริง

อาจารย์      ศิษย์ที่บำเพ็ญเป็นหลักก็คือรูปแบบที่คล้ายกับในวัดชนิดนั้น  ก็เท่ากับศิษย์ที่บำเพ็ญเป็นหลักศิษย์ที่บำเพ็ญจริงก็คือศิษย์ที่บำเพ็ญอย่างแท้จริง

ศิษย์           ผมเป็นนักเรียน เวลาปกติที่อ่านหนังสือหรือทำการบ้านจะนั่งขัดสมาธิได้ไหม

อาจารย์      เวลาปกตินั่งขัดสมาธิอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน  เช่นนั้นท่านก็เพียงแต่ฝึกขัดขาอย่างเดียว  นั่นไม่นับเป็นการฝึกพลังกง  แต่อย่างไรเสียก็มีประโยชน์  สามารถทำให้ขัดขาได้นาน เป็นเพียงการฝึกขัดขาอย่างเดียว

ศิษย์           เวลาที่เกิดซานฮวาจวี้ติ่ง หยวนอิงจะโตเท่ากับเจ้าตัวหรือไม่

อาจารย์     นั่นเป็นไปไม่ได้  หยวนอิงของซานฮวาจวี้ติ่งก็โตเหมือนเด็กหนึ่งถึงสองขวบ  ยังต้องฝึกให้ดีๆ  บ้างก็จะโตเหมือนเด็กอายุไม่กี่เดือน

ศิษย์           การเกิดขึ้นของร่างชีวิตและการกลืนกลายเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล ควรมีแต่ เจิน ซั่น  เหยิ่น แล้วยังมีอุปนิสัยก่อนกำเนิดได้อย่างไรละ

อาจารย์      อุปนิสัยเป็นเรื่องอุปนิสัยของคน  เช่นว่าคนๆนี้ทำอะไรว่องไว  อุปนิสัยค่อนข้างรีบร้อน ทำอะไรเร็ว   ส่วนคนนั้นเชื่องช้า  ทำอะไรก็ช้า  อุปนิสัยก็คืออุปนิสัย  นี่เป็นคนละเรื่องกัน เหตุใดสสารต้นกำเนิดประกอบขึ้นเป็นวัตถุที่ต่างกัน  เช่นหิน  เหล็ก  นี้เป็นเรื่องเดียวกัน  แต่คุณสมบัติพิเศษล้วนเป็น เจิน ซั่น เหยิ่น

ศิษย์           การรำมือชุดใหญ่ที่ท่านรำนั้นมีความนัยเหมือนกับการถ่ายทอดฝ่า

อาจารย์      เนื่องจากอันนั้นพูดค่อนข้างสูงสักหน่อย  ถึงอย่างไรคนจะได้ฝ่าก็ไม่ง่าย   วาสนาที่ได้มานี้ก็ไม่ง่าย  ก็คือบอกให้ทุกท่านอย่าได้พลาดโอกาสครั้งนี้

ศิษย์           คนจะสามารถบำเพ็ญได้เหนือกว่าระดับชั้นของพ่อแม่ที่ให้กำเนิดจิตหลักของเขาหรือไม่

อาจารย์     ขณะนี้ท่านอย่าคิดฟุ้งซ่าน  ข้าพเจ้าขอบอกท่าน  ท่านยังไม่ทราบว่าขณะนี้ท่านอยู่ในระดับชั้นต่ำแค่ไหน  ท่านยังกล้าคิดเรื่องที่สูงอย่างนั้น  คนๆหนึ่งจะสามารถบำเพ็ญสูงได้แค่ไหน ต้องดูความสามารถในการแบกรับของเขาเอง  ดูอัตราส่วนของสสารที่เป็นกุศลกับกรรมนี้ที่เขามีอยู่   หรือก็คือรากฐานของท่านกับความสามารถที่จะอดทนของท่าน  องค์ประกอบเหล่านี้ตัดสินว่าท่านจะสามารถบำเพ็ญสูงเพียงใด   ดังนั้นท่านว่า ฉันคิดจะบำเพ็ญสูงเท่านั้น  แต่ท่านไม่มีกำลังที่จะแบกรับ  ถึงเวลานั้นท่านจะเสียสติได้  แต่ก็ไม่ตายตัว  เพียงแต่ขณะนี้ความคิดของท่านเป็นของคนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           สีแดง ส้ม เหลือง เขียว คราม น้ำเงิน ม่วง ขาว ไม่มีสีเป็นตัวแทนของระดับชั้นต่างๆ  จะมองจากด้านไหนจึงจะเห็นได้   ถ้าตาทิพย์ไม่เปิดจะมองจากสีผิวบนใบหน้าได้หรือไม่

อาจารย์      ตรงนั้นมองไม่ออก นี้ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาสามัญจะเห็นได้ ดังนั้นตาของคนจึงมองไม่ออก

ศิษย์           พลังกงนั้นๆที่ผมเคยเรียนเมื่อก่อนเพี้ยนไป   มักจะมีวัตถุมุดไปมุดมาในร่างกายผม  ออกนอกลู่นอกทาง  เดี๋ยวนี้ตัดสินใจบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า แต่ในความฝันเห็นสิ่งนั้นมารบกวน

อาจารย์      ท่านคิดจะบำเพ็ญอะไร หรือฝึกอะไร ก็ดูที่ใจดวงนี้ของท่าน  ทั้งหมดตนเองเป็นผู้ตัดสิน  หากใจที่บำเพ็ญต้าฝ่าแน่วแน่มาก ใครก็จะรบกวนไม่ได้  และไม่อนุญาตให้รบกวนอีกต่อไป  ข้าพเจ้าก็ไม่ยอม

ศิษย์           จิตหลักที่มีอายุน้อยมากจะสามารถบำเพ็ญได้สูงมากไหม

อาจารย์      นี้ไม่ใช่ว่าจิตหลักมีอายุน้อยหรือมาก แก่มากน้อยแค่ไหน  ไม่อยู่ที่ตรงนี้

ศิษย์           หลังจากได้ฟังต้าฝ่าแล้วทราบว่าการบำเพ็ญเป็นเรื่องเร่งด่วน  ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มพูนจิตใจที่อดทนอย่างใหญ่หลวงซึ่งจะก้าวหน้าได้อย่างอาจหาญ

อาจารย์      สามารถที่จะอดทนได้หรือไม่ อดทนได้ถึงระดับไหน นั่นล้วนขึ้นอยู่กับท่านเอง การเพิ่มพูนความสามารถในการอดทนนั้น ไม่มีการฝึกฝนอะไร นั่นล้วนดูที่ความสามารถของท่านเองในการแบกรับระหว่างที่ทนทุกข์  ในใจมีฝ่า  จงเมตตาต่อทุกสิ่งรอบตัว  พอประสบกับเรื่องอะไรก็จะทำได้ดีหน่อย

ศิษย์           กงเซิน (ร่างพลังกง)กับฝ่าเซิน มีอะไรต่างกัน

อาจารย์      พวกท่านไม่อาจจะมีกงเซิน  ต่อไปก็ไม่อาจจะมีได้  หลังจากบำเพ็ญหยวนหมั่นมีได้แต่ฝ่าเซิน  ชีวิตทั้งปวงในจักรวาลล้วนไม่มีกงเซิน

ศิษย์           การทดสอบต่อการละทิ้งจิตนานาชนิดในระหว่างการบำเพ็ญหลักธรรมในภพผ่านไปรอบหนึ่ง  พอถึงมรรคผลหนึ่งของการบำเพ็ญนอกภพก็ผ่านรอบหนึ่ง  หรือว่าแต่ละระดับบน  กลาง ล่างของมรรคผลหนึ่งๆ ผ่านรอบหนึ่ง

อาจารย์      ในขั้นตอนโดยรวมของการบำเพ็ญของคน ได้จัดวางเส้นทางนี้ทั้งหมดไว้ให้ท่าน  ก็คือตราบจนกระทั่งท่านเปิดการรู้แจ้ง  จะเป็นขั้นตอนหนึ่งของการบำเพ็ญ   ที่จะนำจิตใจทั้งหมดที่มีอยู่ของท่านทิ้งไปทั้งหมดในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญ  ไม่ใช่อย่างที่พูดว่าบำเพ็ญในภพอะไรชั้นหนึ่ง  บำเพ็ญนอกภพชั้นหนึ่งอย่างนั้น   ตราบจนท่านหยวนหมั่น(สำเร็จสมบูรณ์) ล้วนจัดวางไว้ให้ท่านอย่างนี้

ศิษย์           ใช่ไหมว่า การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมถอย ในจักรวาลก็คือจะนำสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดระเบิดทิ้งไปแล้วประกอบขึ้นใหม่

อาจารย์     ที่ผ่านมาเป็นเช่นนี้   สิ่งที่ไม่ดีก็ทำลายทิ้งแล้วสร้างขึ้นใหม่  มนุษยชาติดับสลายไปแล้วหลายครั้ง  หลายคนก็ไม่อาจเข้าใจ  ท่านไม่อาจยืนอยู่บนจุดยืนของคนธรรมดาสามัญพิจารณาปัญหาเหล่านี้  วันนั้นข้าพเจ้าเคยพูดหลักการนี้ว่า  พระพุทธ เต๋า เทพของระดับชั้นสูงมากๆนั้น มองมนุษย์ว่าช่างเล็กกระจิดริดเหลือเกิน  และผู้รู้แจ้งของระดับชั้นสูงมากๆนั้น ก็ มองพระยูไลทั้งหมดว่าเป็นคนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           ขอเรียนเชิญท่านอาจารย์ช่วยชำระจิตหลักของศิษย์ที่บำเพ็ญจริงของพวกเรา

อาจารย์      ที่ควรทำข้าพเจ้าก็ได้ทำไปหมดแล้ว  ท่านอย่าได้คิดวุ่นวายไป  มีหลายเรื่องที่ท่านไม่เข้าใจ  อนาคตของพวกท่านย่อมจะดีที่สุด

ศิษย์           ในอดีตมีคนใช้ธูปกวนอิมพยากรณ์เรื่องราว   ตอนนี้จะใช้รูปถ่ายอาจารย์ทำเบิกเนตรให้รูปปั้นกวนอิม หลังจากนั้นคู่มือทำนายเสี่ยงทายเถ้าธูปยังจะใช้ต่อไปได้หรือไม่

อาจารย์      ท่านจะใช้คู่มือทำนายเสี่ยงทายเถ้าธูปนั้นทำอะไรหรือ  นั่นมิใช่วิธีการของคนธรรมดาสามัญหรือ  ผู้บำเพ็ญ ท่านจะพยากรณ์อะไร ท่านอยากจะรู้อะไร ท่านจะมีทุกข์ภัยหรือไม่  ท่านจะได้หลบหลีก  เมื่อหลบหลีกแล้วท่านก็จะยกระดับไม่ได้แล้ว   นั่นยังจะบำเพ็ญได้อย่างไร    ดูว่าท่านจะร่ำรวยหรือไม่  ท่านทำเรื่องที่ดี ท่านทำงานดีหรือทำการค้าใหญ่โต ก็จะได้เอง เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญ   ผู้ที่ไม่ได้บำเพ็ญต้าฝ่า ก็แล้วแต่เขา   พวกเต๋าเล็ก เขาย่อมสามารถจะใช้ได้

ศิษย์           ท่านบอกว่าการบำเพ็ญของศิษย์ที่บำเพ็ญเป็นหลัก คล้ายกับการบำเพ็ญของพระในวัด เช่นนั้นการหลีกหนีออกจากสังคมคนธรรมดาสามัญจะขัดเกลาซินซิ่งได้อย่างไร

อาจารย์       ปัญหาว่าศิษย์บำเพ็ญเป็นหลักจะบำเพ็ญอย่างไร  เราจะไม่พูดในชั้นเรียนนี้  นั่นเป็นเรื่องในอนาคต  ศิษย์ที่บำเพ็ญเป็นหลักก็ต้องมาสู่สังคมคนธรรมดาสามัญ  ในอดีตพระสงฆ์ไปธุดงค์  ต้องขอบิณฑบาตอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญ   ไม่ให้สะสมเงิน สะสมวัตถุ  การธุดงค์อยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญนี้ล้วนเป็นโอกาสที่ดีในการขัดเกลา

ศิษย์           เวลาฝึกท่าขัดสองขา สามารถจะมัดขาด้วยเข็มขัดหลังจากขัดขาแล้วเพื่อให้มั่นคงได้ไหม

อาจารย์      เรื่องนี้เราไม่ได้กำหนดไว้เป็นพิเศษ  ทำไปตามสภาพของตนเองก็แล้วกัน

ศิษย์           ประเทศ..........

อาจารย์      อีกอย่างการถามเรื่องของประเทศ  หรือเรื่องรูปธรรมในหมู่คนธรรมดาสามัญ  ข้าพเจ้าไม่อาจตอบให้ท่านได้  มีบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองท่านก็อย่ามาถามข้าพเจ้า  แต่ไหนแต่ไรมาเราไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง  ไม่ยุ่งเกี่ยวกับระเบียบกฎหมายบ้านเมือง   ผู้ฝึกพลังของเราจะทำอย่างไร จะเรียกว่าไร้ความหมายมั่นได้อย่างไร  ควรทำอย่างไร  เรื่องเหล่านี้เราได้พูดไปแล้ว

ศิษย์           ทุกๆคนมีจิตธรรมะควบคุม   มนุษยชาติก็กลายเป็นดินแดนบริสุทธ์ของสายพุทธจะเป็นไปได้หรือไม่

อาจารย์      มาตรฐานศีลธรรมของมนุษย์ล้วนหวนคืนกลับ  นี้เป็นไปได้ ไม่เพียงแต่เป็นไปได้ แต่จะต้องเป็นเช่นนี้แน่  มองจากปัจจุบันก็เป็นอย่างนี้   ถ้าพูดว่าล้วนกลายเป็นพระพุทธกันหมด นั่นเป็นไปไม่ได้   คนมีซินซิ่งสูงต่ำไม่เท่ากัน  ความสามารถในการแบกรับมากน้อยก็ไม่เท่ากัน  สังคมมนุษย์ต้องคงอยู่แน่    เพราะมันเป็นปรากฏการณ์ระดับชั้นหนึ่งที่ต่ำที่สุดของฝ่าจากบนสู่ล่าง

ศิษย์           ผู้ฝึกพลังกงกระดูกหักได้อย่างไร

อาจารย์      บางคนก็ฝึกพลังกง  สามวันจับปลาสองวันตากแห (เอ้อระเหยลอยชาย) และไม่ฝึกตามมาตรฐาน  และไม่ได้กำหนดตัวเองตามซินซิ่งนั้น  ท่านก็ไม่ใช่ศิษย์ที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า  เรื่องอะไรก็อาจจะเกิดกับท่านได้  อ้อ  ถึงเวลานั้นท่านพูดว่าศิษย์ฝ่าหลุนต้าฝ่ากระดูกหักแล้ว  ก็พูดยาก  ดังนั้นต้องระวัง   ผู้ช่วยฝึกสอนอย่าได้ฝืนให้ผู้ฝึกใหม่ฝึกพลังกง  พอฝืนทำก็จะเกิดปัญหา  นี้ไม่ใช่วิธีการทำงานของข้าพเจ้า   ต้าฝ่าก็พูดถึงการเปลี่ยนแปลงใจตนเอง  การฝืนทำมิใช่การบังคับหรือ  ต้องระวังปัญหานี้เป็นพิเศษ

ศิษย์           หลังจากตนเองแนะนำฝาหลุนต้าฝ่าให้เพื่อนบางคน  ผมรู้สึกว่าสภาพซินซิ่งและร่างกายของตนเองแย่ลง  ใช่ไหมว่าได้พูดกับคนอื่นแล้ว

อาจารย์      เรื่องนี้เป็นเพราะท่านรู้สึกไปเองกระมัง  บางคนเขาคิดจะเรียน  พอท่านพูดเขาก็คิดจะเรียน  ท่านจะไม่รู้สึกว่ามีสภาพอะไรที่แย่ลงหรือไม่แย่ลง  นั่นเป็นสภาวะของการชำระล้างร่างกาย หรือปรากฏการณ์ของการชำระกรรม

ศิษย์           ผมเป็นครูระดับมัธยม อยากจะสอนนักเรียนฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่ามาก  ไม่ทราบว่าถูกไหม

อาจารย์      ถูกต้องแน่นอน   หากไม่อาจเข้าใจได้สูงมากอย่างนั้น   แต่ก็ยังสามารถฝึกฝนร่างกาย  แต่ถ้าสามารถเข้าใจฝ่านี้ได้จริงๆ  เป็นคนดีกันหมด ใจคนมุ่งสู่ความดีงาม  ข้าพเจ้าว่า นั่นมิใช่เรื่องดีมากหรอกหรือ  หากเขาคิดจะบำเพ็ญไปสู่ระดับชั้นสูง  เช่นนั้นข้าพเจ้าว่าท่านยังได้สะสมผลบุญมากแล้ว

ศิษย์           ขณะที่ย้ายบ้าน ไม่ระวังทำให้รูปถ่ายอาจารย์เสียหายแล้ว

อาจารย์      ไม่เจตนา   ใครก็ตำหนิท่านไม่ได้

ศิษย์           หากคนที่ดำรงชีวิตอยู่รอบๆตัวเราถามผมเรื่องการฝึกพลังกง สามารถจะบอกพวกเขาและสอนให้พวกเขาฝึกด้วยได้ไหม

อาจารย์       ทุกคนมีความปรารถนานี้ที่คิดจะเรียน  ท่านก็สอนให้เถิด   คนเขาตั้งใจมาถามท่านยังไม่สอนอีกหรือ   เป็นการเผยแพร่ฝ่าใช่ไหม

ศิษย์           เหตุใดหลังจากผมพูดเรื่องฝ่าหลุนต้าฝ่าจบ จากคนที่จิตใจซื่อตรงกลับเปลี่ยนเป็นว่าสงสัยในหลักพลังกงของฝาหลุนต้าฝ่า

อาจารย์       นี้มีสาเหตุหลายด้าน   อู้ซิ่ง(การรับรู้)ของท่านเอย กรรมทางความคิดของท่าน ความเข้าใจของตัวเองไม่ลึกซึ้ง  เวลาที่ท่านพูดกับคนอื่นคนจึงไม่เชื่อ เพราะท่านก็เพิ่งเริ่มศึกษา  การรบกวนต่อท่านย่อมจะเกี่ยวข้องกับด้านนี้   โดยทั่วไปการรบกวนจากภายนอกจะเบามาก   ล้วนเป็นกรรมทางความคิดของท่านกับความเข้าใจที่ไม่ลึกซึ้งต่อหลักการของต้าฝ่าของตัวท่านเอง  บวกกับความไม่เชื่อของคนอื่น   ย่อมจะทำให้ท่านเกิดความคิดอย่างนี้ขึ้น

ศิษย์           ในฤดูหนาวเมื่อฝึกเสินทงเจียฉือฝ่า(นั่งสมาธิ)เสร็จ   เอาขาลงมาแล้วร่างกายรู้สึกหนาวมากสภาพการณ์อย่างนี้ปกติหรือไม่

อาจารย์      เมื่อเริ่มฝึกพลังกงใหม่ๆไม่อาจบรรลุถึงเขตแดนที่สูงในทันที  คือนั่งอยู่ตรงนั้นร่างกายเบาสบายมาก อบอุ่นดี   เริ่มต้นไม่อาจเป็นเช่นนี้  ช่วงเริ่มต้นฝึกพลังกง  ร่างกายท่านมีกรรมอยู่สิ่งนี้มีสีดำ  เป็นของเย็น   การฝึกพลังกงก็เป็นการสลายกรรม  จึงรู้สึกเย็น  หนาว จะมีสภาพการณ์อย่างนี้คงอยู่   บวกกับเป็นฤดูหนาว  ร่างกายของท่านไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในทันที  นั่นเป็นไปไม่ได้ต่อไปก็จะดีเอง

ศิษย์           เมื่อก่อนตนเองไม่ได้รักษาซินซิ่งไว้ให้ดี ตอนนี้เริ่มต้นบำเพ็ญใหม่จะทันเวลาหรือไม่

อาจารย์      ตอนนี้มิใช่มีผู้ฝึกใหม่มากมายล้วนเริ่มบำเพ็ญกันหรือ  แต่ว่านะ ควรรีบเร่งจริงจัง โดยเฉพาะคนสูงอายุ  

ศิษย์           เมื่อเห็นคนทุกข์ยาก ก็ช่วยเขา  กรณีนี้กรรมของตนเองผันแปรเป็นกุศลหรือเป็นการเอากุศลของคนอื่นมา  

อาจารย์      ท่านเห็นคนเขาทุกข์ยาก ให้การช่วยเหลือเขา  ทำความดี  ทำเรื่องที่ดีใช่ไหม  เวลาที่ท่านช่วยคนเขา ทำความดี หากเรื่องนี้มีความยากมาก ท่านจะต้องทนทุกข์  กรรมของตัวท่านจะได้รับการผันแปร   โดยทั่วไปถ้าตัวเองริเริ่มช่วยเหลือคน เป็นความสมัครใจ จะไม่เกิดการผันแปรกุศล  ถ้าเรื่องนี้มีมูลค่าที่แน่นอน  คือเป็นคนละเรื่องแล้ว  อีกอย่างถ้ามีทุกข์ภัยบ่อยๆก็จะสามารถชดใช้กรรม หรือมีดวงสัมพันธ์อะไร  ผู้บำเพ็ญ หากใจจดจ่อกับเรื่องนี้ก็อาจจะทำเรื่องไม่ดีได้ เพราะท่านมองไม่เห็นดวงสัมพันธ์ในนั้น   ดังนั้นเราจึงบอกให้ผู้ฝึกพลังกงรักษากุศล ไร้ความหมายมั่น ที่เราพูดยังมีความหมายชั้นนี้อยู่ คนธรรมดาสามัญพูดเรื่องสะสมกุศล  สะสมกุศล  นั่นเป็นเรื่องที่คนธรรมดาสามัญทำเรื่องของคนธรรมดาสามัญ  เขามีกฎระดับชั้นนั้นของคนธรรมดาสามัญควบคุมอยู่ ส่วนท่านมีฝ่าชั้นนี้ของการบำเพ็ญควบคุมอยู่  ยึดติดสิ่งเหล่านี้จึงไม่ถูก

ศิษย์           หากบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าจริงๆ อาจารย์จะจัดวางทุกข์ภัยจนบำเพ็ญสำเร็จได้มรรคผลไหม

อาจารย์    ใช่  ในขั้นตอนของการบำเพ็ญ  คนล้วนต้องมีทุกข์ภัย   และทุกข์ภัยคือกรรมที่ตนเองก่อขึ้น   จากในทุกข์ภัย ช่วยยกระดับซินซิ่งของตัวท่าน   ท่านจะพบกับเรื่องยุ่งยากนานาชนิด  ท่านจะปฏิบัติกับมันอย่างไร  ท่านจะแสดงออกมาได้อย่างไรว่าท่านเป็นผู้ฝึกพลัง   ไม่ทำอย่างคนอื่นๆ  ดังนั้นในขั้นตอนทั้งหมดของการบำเพ็ญ ล้วนจะประสบกับปัญหานี้  ตราบจนท่านหยวนหมั่น  และตราบจนกว่าจะหยวนหมั่น   ล้วนแต่จะปรากฏปัญหาว่าท่านสามารถจะแน่วแน่ต่อฝ่าได้หรือไม่  จะเกิดการทดสอบทางด้านนี้  หากโดยแก่นแท้ต่อฝ่า ท่านไม่เชื่อเลย   ฉะนั้นเรื่องอะไรอื่นก็ไม่อาจจะพูดได้แล้ว

ศิษย์           กล่าวสำหรับคนที่มีรากฐาน(เกินจี)ระดับกลาง กับล่าง  เมื่อเปรียบเทียบระหว่างโลกแดนสุขาวดีกับโลกฝ่าหลุน อันไหนบำเพ็ญได้ง่ายกว่า  ที่ตรงกลางของจักรวาลการบำเพ็ญเต๋าใหญ่จะเร็วหรือว่าบำเพ็ญที่ริมขอบจึงจะเร็ว

อาจารย์      การบำเพ็ญต้าฝ่าไม่อาจจะนำไปเปรียบเทียบกับอย่างอื่น ในขั้นตอนของการบำเพ็ญ ไม่ว่าท่านจะบำเพ็ญอย่างไรล้วนมีข้อกำหนดเหมือนกัน มีมาตรฐานข้อกำหนด เหมือนกัน บำเพ็ญได้สูงเพียงไรท่านจะได้ระดับชั้นที่สูงเพียงนั้น เช่นนั้นในศาสนาจึงเรียกว่ามรรคผล ได้มรรคผลที่สูงเพียงนั้น

ศิษย์           ในกว่างโจวมีคนบูชากวนกง(เทพเจ้ากวนอู) จะใช้รูปถ่ายของท่านเบิกเนตรให้กวนกง (เทพเจ้ากวนอู)ได้หรือไม่

อาจารย์      กวนกง(เทพเจ้ากวนอู)  ในประวัติศาสตร์ พุทธศาสนาเรียกเขาว่าพระโพธิสัตว์เจียหลาน แต่เป็นสิ่งที่คนกราบไหว้ออกมา  เช่นนั้นทำไมสายเต๋าก็กราบไหว้กวนกง(เทพเจ้ากวนอู)ด้วยละ  นั่นเป็นจิตรองของเขาที่บำเพ็ญสำเร็จ  ยังมีคนที่ทำการค้าหลายคนที่บูชากวนกง(เทพเจ้ากวนอู)  นับถือเขาเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ  ข้างบนนั้นล้วนเป็นสิ่งที่คนกราบไหว้ออกมา หรือเป็นสัตว์ที่สิงร่าง  ท่านจะใช้ฝ่าเซินของข้าพเจ้าเบิกเนตรเพื่ออะไร พระพุทธนั้นไม่สนใจว่าท่านจะร่ำรวย   บางทีเมื่อท่านมีทุกข์ภัยพระพุทธ  หรือพระโพธิสัตว์สามารถช่วยท่านได้  แต่ต้องช่วยคนที่มีรากฐาน(เกินจี)ดี  หรือผู้บำเพ็ญ  ช่วยท่านให้พ้นจากทะเลแห่งทุกข์ของคนธรรมดาสามัญนี้อย่างแท้จริง  ไม่ใช่ให้ท่านร่ำรวย  คนๆหนึ่งถ้าไม่มีโรคอะไรเลย  ไม่มีทุกข์ภัยอะไรเลย สุขสบายดี   มีชีวิตดียิ่งกว่าเทพเซียน  จะให้ท่านบำเพ็ญท่านก็ไม่ยอมไปแล้ว   เพราะนั่นต้องทนทุกข์  จะขึ้นไปยังโลกแดนสุขาวดีได้หรือในทันใดก็สุขสำราญยิ่งนักแล้ว  จะมีเรื่องอย่างนี้ที่ไหนกันละ  แต่ละชาติแต่ละภพที่ก่อกรรมไว้ จะไม่ชดใช้ได้หรือ  จะชดใช้กรรมแล้วจะมีชีวิตที่สุขสบายได้หรือ   ที่จริงสิ่งเหล่านี้ที่ท่านกราบไหว้ออกมาก็ดีหรือตัวสิงร่างเหล่านั้นก็ดี  สิ่งที่เลอะเทอะเหล่านี้  มันไม่ใช่จะช่วยท่านอย่างปราศจากเงื่อนไข  มันจะเลือกสรร  เลือกเอาจากร่างกายท่าน  ดังนั้นท่านอย่าเห็นแก่ความร่ำรวย นั่นไม่ใช่เรื่องดี  แน่ละคนจะร่ำรวยหรือไม่ นี้มีมูลเหตุที่ซับซ้อน  ไม่ใช่เรื่องที่จะขอมาได้ หากแต่เป็นสิ่งที่ตัวเองนำมาจากภพก่อน

ศิษย์           ความรักในญาติสนิท  ความรักของคู่รัก  ความรักระหว่างเพื่อนกับความรักที่เกิดขึ้นจากจิตเมตตา(ฉือเปย)จะวัดประเมินอย่างไรดี

อาจารย์      ขณะนี้ท่านไม่อาจจะรู้สึกสัมผัสได้ว่าเมื่อคนไม่มีฉิงจะเป็นความรู้สึกอะไร  และไม่รู้ว่าอะไรคือฉือเปย    ขณะนี้ฉือเปยที่ท่านจินตนาการนั้น ออกมาจากฉิง  ดังนั้นท่านจึงรู้สึกสัมผัสไม่ได้  จิตอะไรต่างๆของคน จิตอิจฉา  จิตยินดี  จิตต่อสู้แย่งชิง  จิตที่ไม่พึงพอใจ  จิตหวาดกลัว  ถึงอย่างไรมันก็คือตัณหา และสิ่งต่างๆที่ยึดติด  ซึ่งต้องทิ้งให้หมด   ชอบหรือไม่ชอบ  ทำเรื่องอะไร  สนใจหรือไม่สนใจ  อยากกินอะไรหรือไม่อยากกินอะไร  ดีใจอย่างไรอย่างไร  ไม่ดีใจอย่างไรอย่างไร ทั้งหมดล้วนมาจากฉิง

คนก็คือมีชีวิตอยู่เพื่อฉิงนี้   เช่นนั้นชีวิตชั้นสูงที่ไม่มีฉิงจะมีชีวิตเป็นอย่างไรละ แต่ละคนล้วนหน้านิ่วคิ้วขมวดหรือ  ไม่ใช่เช่นนี้  ถ้าคนละทิ้งฉิงนี้  จิตเมตตาก็จะปรากฏออกมา  และผู้รู้แจ้งใหญ่ทำไมจึงสามารถช่วยคนได้ละ  เพราะเขามีจิตเมตตา  เขาเวทนาสรรพชีวิต

ศิษย์           เพื่อฝึกขัดขา เวลานอนหงายแล้วขัดขาขึ้น

อาจารย์      เรื่องนี้เราไม่คัดค้านอะไร ฉันกดๆ ขา  หรือเลือกวิธีอะไรเพื่อฝึกขัดขา  แต่เราไม่ได้เสนอให้ทุกท่านทำอย่างนี้กันหมด อีกอย่างคนที่มีกรรมด้านนี้ติดค้างอยู่ ยังมีคนที่บำเพ็ญได้ช้ามาก และยกระดับขึ้นไม่ได้เรื่อยมา การรับรู้(อู้ซิ่ง)ก็ไม่สูงขึ้น  เขาฝึกแต่ท่าเคลื่อนไหว  ก็คือคนเหล่านี้ซึ่งเขาใช้ของอะไรไปกดทับขาไว้จริงๆ หรือเลือกใช้วิธีรุนแรงอะไร “เปาะ”กระดูกก็หักทันที  นั่นยังทำให้เราเกิดการสูญเสียอย่างมาก   คนอื่นก็จะพูดว่าเพราะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า  ดังนั้นเราจึงไม่อาจกำหนดเป็นสูตรตายตัวให้ทุกท่านทำอย่างนี้เหมือนกันหมด เนื่องจากสภาพการณ์ของแต่ละคนซับซ้อนมาก

ศิษย์           บางครั้งความฝันกลายเป็นจริง      นี่ใช่ไหมว่า.......

อาจารย์      กลางคืนฝันไป  พอรุ่งขึ้นคล้ายกับเป็นดังฝัน หรือผ่านไปสักกี่วันหลังจากนั้น  เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆหรือในขณะที่เรากำลังทำเรื่องหนึ่งอยู่  รู้สึกว่าเมื่อก่อนฉันเคยทำเรื่องนี้แล้ว  แต่ในความทรงจำไม่เคยทำ  แต่รู้สึกว่าตนเองเคยทำเรื่องนี้ในเวลาใดเวลาหนึ่ง    คนจำนวนมากจะมีความรู้สึกเช่นนี้  ก่อนท่านเกิด หรือเมื่อนานมาแล้วท่านเคยทำเรื่องนี้  นั่นก็อาจเป็นว่าท่านได้เข้าไปในเรื่องนั้นล่วงหน้าก่อนที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต  ที่ท่านเห็นในฝันก็คือสาเหตุอย่างนี้

ศิษย์           บางครั้ง เจินกับเหยิ่น เกิดขัดกัน   เช่นรู้ชัดว่าบางคนพูดโกหก จะชี้ออกมาตามความเป็นจริง หรือว่าอดทนไว้

อาจารย์      ยังคงเป็นคำพูดนั้นที่ข้าพเจ้าพูดไว้ ในฐานะผู้ฝึกพลัง ควรรักษากุศล ไม่เสียกุศล  คนธรรมดาสามัญในทุกวันนี้ล้วนเป็นเช่นนี้  กลายเป็นคนที่พออ้าปากก็พูดโกหก  นี้เป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญท่านก็ไม่สามารถจะดูแลได้ หากท่านชี้ออกมาให้เขา จี้ถึงใจดำของเขา  เขาก็จะเกลียดท่านจริงๆ  เกลียดจนถึงกับกัดฟัน  ดังนั้นเราจะบำเพ็ญตัวเองให้ดีได้อย่างไร นี้คือข้อหนึ่ง  หากพบกับคนที่เลวมากหรือ เรื่องอะไรที่เลวมากจริงๆ เป็นปัญหาหลักการที่ใหญ่  เช่นฆ่าคนวางเพลิง แล้วท่านไม่สนใจ  ข้าพเจ้าว่านั่นคือซินซิ่งท่านไม่ดี  ก็คือดูว่าท่านจะปฏิบัติต่อปัญหาเหล่านี้อย่างไร

ศิษย์           ผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าจะเรียนกวาซา(ขูดผิวรักษาอาการ)ได้หรือไม่

อาจารย์      บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว  ท่านจะทำสิ่งนี้ไปทำไม   ท่านขูดตัวเองหรือขูดให้คนอื่น  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  นั่นเป็นไสยศาสตร์  ในอดีตในทางตะวันออกเฉียงเหนือของเราจะทำเรื่องนี้เมื่อมีการเต้นรำหมอผีหรือคนทรงเจ้า   เต้นรำหมอผี แบบบ้าๆบอๆ  คนที่เต้นรำหมอผีเป็นตัวสิงร่าง  เขาจึงทำเรื่องนี้

ศิษย์           คนที่ฝึกวิทยายุทธ์ในขณะเดียวกันก็บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า จะเกิดผลกระทบในด้านร้ายหรือไม่

อาจารย์      ไม่เลย   วิชาวิทยายุทธ์แท้ๆ จะไม่เป็น  แต่วิชาวิทยายุทธ์บางอย่างของสายเต๋านั้นมีการบำเพ็ญภายในอยู่ด้วย   ดังนั้นจะรบกวนได้  เช่นไท่จี๋ฉวน(มวยไท่เก๊ก)  สิงอี้  ปากั้ว ประเภทนี้ไม่อาจฝึก  ถ้าท่านฝึกก็จะปะปนเข้าไป  มันจัดเป็นชี่กง  ฉะนั้นของชุดนี้ที่ข้าพเจ้าใส่ให้ท่านก็จะยุ่งเหยิง  แน่ละข้าพเจ้าก็ใช่ว่าจะให้ท่านฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าให้ได้  ถ้าท่านรู้สึกว่าไท่จี๋ดี  สิงอี้  ปากั้วดีท่านก็ไปฝึก  แต่ข้าพเจ้าเพียงแต่บอกหลักการนี้กับท่าน  การฝึกพลังกง  การบำเพ็ญ เป็นเรื่องที่เข้มงวด  ต้องยึดมั่นแนวทางเดียว

ศิษย์           ขณะที่ผมฝึกพลังอยู่ ได้เห็นโดยไม่ตั้งใจว่า ข้างๆตัวเองมีเงาหนึ่งที่เหมือนกับตัวเองกำลังฝึกพลังอยู่

อาจารย์      โดยทั่วไปจะไม่ให้จิตรองออกจากร่างไปบำเพ็ญ  ล้วนอยู่ด้วยกันกับท่าน  บำเพ็ญพร้อมกับท่าน  ฝึกพร้อมกัน  แน่ละก็ไม่ตายตัว  อาจมีสภาพการณ์เฉพาะ  คือในช่วงที่ปรับร่างกายให้ท่านเขาอาจออกมาก็ได้

ศิษย์           ในการเปิดชั้นเรียนวันที่สองและวันที่สาม ผมอาเจียนออกมาเป็นก้อนๆคล้ายกับเส้นใยไม้หรือผ้าที่ขาดวิ่น  ต่อจากนั้นอีกหลายวันก็อาเจียนและไอเป็นเลือด

อาจารย์      นี่ยังไม่ดีหรือ  ก็เหมือนกับที่ข้าพเจ้าพูด  บางคนถ่ายท้องและอาเจียน  ถึงอย่างไรก็จะต้องชำระอวัยวะภายในของท่านให้บริสุทธิ์  ท่านจึงจะสามารถบำเพ็ญได้อย่างแท้จริง  ถ้าไม่ชำระให้บริสุทธิ์    มีร่างกายที่สกปรกนี้  ย่อมจะไม่เกิดพลังกง   ดังนั้นปรากฏการณ์นี้จึงดีมาก    บางคนถ่ายออกมาคล้ายก้อนเลือดปนหนอง   ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ก็เพราะอะไรๆคนก็กินทั้งนั้น  เรื่องเลวอะไรก็ทำ  ทำจนร่างกายยุ่งเหยิงไปหมด   ถึงอย่างไรก็ต้องเอาออกมา ชำระล้างให้หมด  ต่อไปทุกท่านก็ บำเพ็ญให้ดีๆ  มีคนมากมายที่ไม่บำเพ็ญ อนาคตจะป่วยด้วยโรคร้ายแรง  หลังจากบำเพ็ญเวลาปรับร่างกายก็จะผลักออกไปได้แล้ว

ศิษย์           เมื่อบรรลุถึงซานฮวาจวี้ติ่ง(ดอกไม้สามดอกรวมอยู่บนกระหม่อม)ก็จะหลุดพ้นความเป็นความตายได้หรือ

อาจารย์      ฝ่าหลุนต้าฝ่าเรา ในเวลาที่บำเพ็ญถึงระดับชั้นของซานฮวาจวี้ติ่งนี้  เป็นการก้าวเข้าไปในระดับชั้นที่สูงที่สุดของการบำเพ็ญหลักธรรมในภพ  แต่ยังไม่ออกไปจากสามภพ  เช่นนั้นเมื่อมุ่งหน้าบำเพ็ญต่อไป  เขาจะก้าวเข้าสู่สภาพร่างขาวบริสุทธิ์   ร่างกายถูกแทนที่ด้วยสสารพลังงานสูงทั้งหมด  เมื่อถึงเวลานี้  จึงก้าวเข้าไปในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างหลักธรรมในภพกับหลักธรรมนอกภพ  ฉะนั้นมีเรื่องมากมายซึ่งจะทำให้ท่านจนเสร็จในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้   แน่ละเมื่อท่านก้าวมาถึงการบำเพ็ญหลักธรรมนอกภพ    ท่านจึงจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดออกไปจากสามภพได้

ศิษย์           ขณะนั่งสมาธิ อดทนถึงระดับที่ยากจะอดทนต่อได้  หากอดทนนั่งสมาธิต่อไปนั่นเป็นจิตยึดติดหรือไม่

อาจารย์     ไม่ใช่จิตยึดติด  เวลาที่ท่านอดทนคือความอดทนต่อความเจ็บปวด  ท่านกำลังทนทุกข์   กำลังทุ่มเท  นั่นไม่ใช่จิตยึดติด  นั่นคือการสลายกรรม   ที่ผ่านมามีบางคนไม่เข้าใจ  เขาอยู่ตรงนั้นฝึกนั่งขัดสมาธิ  เมื่อขาของเขาปวดทรมาน ก็รีบเอาขาลงมา  ขยับไปมาแล้วค่อยฝึกต่อ  จากนั้นพอปวดทรมานอีกก็รีบเอาลงมาอีก  เขาเข้าใจว่าฝึกอย่างนี้ดีมาก  ที่จริงไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย  การฝึกนั่งสมาธิที่แท้จริง เวลาที่ขาปวดมาก  ปวดอย่างรุนแรง  พบว่ากรรมขนาดใหญ่มากกำลังสลายไป เมื่อสลายไปแล้ว สสารชนิดนี้ไม่ได้ดับสลาย  มันจะผันแปรเป็นสสารสีขาว  เพราะท่านทุ่มเทแล้ว  ทนทุกข์แล้ว  มันจะผันแปรเป็นกุศล   เนื่องจากเมื่อนั่งสมาธิมักจะปวดเป็นพักๆ  ปวดระยะหนึ่งจนสุดทน  สักพักมันก็จะทุเลาลง   อีกครู่หนึ่งก็เริ่มปวดอีก   มันเชื่อมต่อกับการบำเพ็ญซินซิ่ง  ดังนั้นมันจึงกระวนกระวายใจได้  เหนื่อยยากร่างกาย  เจ็บปวดจิตใจ  ขณะนั่งสมาธิจะทำให้ใจท่านว้าวุ่น  ว้าวุ้นจนไม่ไหว ก็คิดจะเอาลงมา นี่ไม่ใช่ความอดทน

ศิษย์           ทำตามข้อกำหนดของท่าน บำเพ็ญซินซิ่งอย่างจริงจัง  ชาตินี้ก็จะสามารถฝึกออกไปสู่หลักธรรมนอกภพไหม

อาจารย์       ใครจะสามารถบอกท่านอย่างนี้ได้ละ ท่านมีจิตใจแน่วแน่นี้ไหม  ความสามารถในการแบกรับของท่าน กับระดับความสามารถอดทนนั้น  ตัวท่านเองเป็นผู้ตัดสิน อาจารย์นำเข้าสู่ประตู การบำเพ็ญอยู่ที่แต่ละคน

ศิษย์           ตอนกลางวันรักษาซินซิ่งในด้านนั้นๆไว้ได้   แต่ในความฝันทำไม่ได้

อาจารย์       กลางวัน  รักษาซินซิ่งไว้ได้โดยรู้แจ่มแจ้ง นั่นก็ง่ายมากแน่ละ  การทดสอบซินซิ่งนี้ของท่านว่าบำเพ็ญได้แน่นหนาหรือไม่  รักษาไว้ได้แน่นหนาหรือไม่  โดยจะทดสอบท่านในระหว่างที่ท่านหลับ หรือในสมาธินิ่งที่นิ่งได้ลึกมาก  นั่นจะแม่นยำที่สุด ดูว่าท่านนั้นแน่นหนาหรือไม่  ใครๆก็ล้วนจะเกิดปัญหานี้ขึ้นได้     หากรักษาไว้ไม่ได้ แสดงชัดว่ายังไม่ค่อยแน่นหนา

ศิษย์            คนที่มีตัวสิงร่างมาศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า ตัวสิงร่างนั้นก็จะถูกฆ่าตายใช่หรือไม่

อาจารย์      ฝ่าของเรานี้ไม่อนุญาตให้สัตว์มาฟัง  มันไม่กล้าเข้ามา  ถ้าเข้ามาเราก็จะจัดการ  วันที่สามเราได้ชำระล้างร่างกายให้กับผู้ฝึกอย่างถึงที่สุดทั้งหมดแล้ว

ศิษย์           หลังจากฝึกพลังเข้าสู่สมาธิมองเห็นสัตว์หลายตัวเข้ามาใกล้ตนเองหรือเฝ้าดูอยู่ข้างๆ

อาจารย์    ท่านอย่าไปสนใจมัน  ถ้ามันจะมาอยู่ข้างกายท่าน  ท่านก็ร้องเรียกชื่ออาจารย์  ถ้ามันสนใจอยากจะดูๆก็ไม่ต้องไปสนใจมัน  จะไม่อนุญาตให้มันเข้าใกล้ได้

ศิษย์            เวลาฝึกพลังชุดที่ห้า ขณะอยู่ในท่าเสริมสร้างแกนพลังระหว่างสองมือมีกระแสชี่แรงมาก

อาจารย์       การเสริมสร้างคือเสริมสร้างกลุ่มพลังงานชนิดนั้น   ก็คือกงเหนิง(ความสามารถพิเศษ)นานาชนิด  ส่วนใหญ่จะเป็นกงเหนิงรูปทรงกลม  คล้ายลูกบอล  กงเหนิงประเภทนี้มีมากที่สุด กงเหนิงนั้นมีไม่ต่ำกว่าหมื่นชนิด  ศูนย์กลางฝ่ามืออยู่ตรงข้ามกันอย่างนี้เป็นการเสริมสร้างแกนพลัง  ปล่อยออกมาเหมือนแสงเลเซอร์  ฝ่ามือสายฟ้าอะไร  ตรงกลางฝ่ามือก็มีกระแสชี่ที่รุนแรงมาก  บางคนไวต่อความรู้สึก แต่บางคนไม่ไวต่อความรู้สึก

ศิษย์           จิตสำนึกรองที่ท่านพูดถึง  คือวิญญาณที่มักพูดถึงกันใช่ไหม

อาจารย์    อย่าเอาคำศัพท์ในอดีตชนิดนั้นสวมเข้ามาไว้ที่นี่    ข้าพเจ้าพูดถึงสิ่งนี้โดยเชื่อมโยงกับสรีรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน  และพูดไว้อย่างชัดเจนยิ่งแล้ว  สามวิญญาณเจ็ดวิญญาณอะไรเอย หรือเป็นอย่างไรอย่างไรนั้นคลุมเครือมาก  อวัยวะภายในของท่านล้วนเป็นรูปลักษณ์ของท่านเอง  แต่ละเซลล์ของร่างกายท่านล้วนเป็นรูปลักษณ์ของท่านเอง   แต่ละอณูของพลังกงของท่าน ล้วนเป็นรูปลักษณ์ของท่านเอง    วิญญาณสามดวง เจ็ดดวงที่เขาพูดหมายถึงอะไรนั้น  คลุมเครือมากและท่านมีจิตสำนึกหลัก  จิตสำนึกรอง  เมื่อครู่ที่ข้าพเจ้าพูดไม่ใช่เรื่องงมงายอะไร   วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันของเรารับรู้ถึงปัญหานี้ได้แล้ว   การทดลองฝานเนื้อเยื่อหนูขาวนั้น เมื่อตัดเซลล์ของมันออกมา ชิ้นหนึ่ง  ใช้สื่อนำอะไรอย่างหนึ่ง  ส่งออกไปไกลกว่าพันลี้ พอรับภาพได้แล้ว  ภาพที่ปรากฏออกมาของเซลล์ก็คือรูปลักษณ์ของหนูขาวตัวนั้น  แค่เซลล์หนึ่งเท่านั้นนะ  นี้ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าพูดเรื่องเหลือเชื่ออะไร  วิทยาศาสตร์ปัจจุบันได้พัฒนามาถึงวันนี้ มีหลายสิ่งที่ท่านเข้าใจว่าเป็นเรื่องงมงาย  เดี๋ยวนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิทยาศาสตร์   วิทยาศาสตร์ไม่ได้พัฒนาไปถึงขั้นนั้น  หรือสิ่งที่เรารับรู้ได้แต่ไม่ได้เผยแพร่ในวงกว้าง  ก็ไม่เท่ากับว่ามันไม่คงอยู่

ศิษย์           ในระหว่างที่ท่านบรรยาย  ผมเห็นดอกเบญจมาศสีเหลืองดอกหนึ่งอยู่ตรงหน้า ไม่ทราบว่าแทนความหมายอะไร 

อาจารย์       ที่ท่านเห็นคือแสงสีเหลืองเป็นกลุ่มๆ   แต่ไม่ใช่ดอกเบญจมาศ  ในแสงสีเหลืองนั้นมีความมหัศจรรย์อยู่  ผู้ฝึกเราคนนี้มีรากฐานไม่เลวทีเดียว

ศิษย์           ผมทำงานด้านเทคนิก เดินทางพันลี้มีวาสนาได้ฟังท่านถ่ายทอดฝ่าหลุนต้าฝ่า ในการฟังการบรรยายหลายครั้ง  ผมได้เห็นฝ่าเซินของท่านแล้ว  รู้สึกดีใจมาก  แต่ชั่วประเดี๋ยวเดียวก็หายไป หรือเป็นผลจากจิตยินดี

อาจารย์      ไม่ใช่  หลายๆคนในขณะที่ใจลอยไม่ได้ตั้งใจก็เห็นทัศนียภาพบางอย่าง แล้วทำไมจึงมองไม่เห็นอีกแล้วละ  เพราะในเวลาที่ท่านเห็น  พอความคิดของท่านรู้ว่า ฉันเห็นแล้ว ฉันอยากจะดูให้ละเอียดสักหน่อย  ก็หายไปแล้ว  พอท่านคิดจะดูให้ละเอียด ก็ขยับนัยน์ตาแล้ว  เนื่องจากท่านเคยชินที่จะใช้นัยน์ตามองดูสิ่งของ  ในขณะที่ไม่ตั้งใจท่านใช้ตาทิพย์มองสิ่งของ จะลืมตาหรือหลับตาก็เหมือนกัน  บางคนเคยชินกับการหลับตามอง  บางคนเคยชินกับการลืมตามอง ดังนั้นพอท่านคิดจะดูให้ละเอียด พอดูนัยน์ตาก็ขยับแล้ว    พอท่านขยับนัยน์ตาก็ใช้เส้นประสาทตาแต่ไม่ได้ใช้ช่องทางของตาทิพย์นี้   ดังนั้นท่านจึงมองไม่เห็น  ก็คือขณะนี้ท่านยังใช้ไม่เป็น

ศิษย์           ใช่หรือไม่ว่า ต่างคน ก็จะสามารถบำเพ็ญไปถึงระดับชั้นที่ต่างกัน

อาจารย์      แน่ละ เรื่องนี้ก็ไม่ตายตัว  ข้าพเจ้าเคยพูดกับทุกท่านแล้ว  จะมีปัญหาเรื่องความอดทนอยู่  เรื่องนี้ไม่ใช่ตายตัว

ศิษย์            สามารถจะลงโฆษณาในนิตยสารต่างประเทศ เผยแพร่ฝ่าหลุนต้าฝ่าของอาจารย์ได้หรือไม่

อาจารย์       การเผยแพร่ฝ่าหลุนต้าฝ่า  หลายปีมานี้ข้าพเจ้าไม่ได้ริเริ่มไปทำเรื่องอย่างนี้  แต่เป็นเรื่องที่ผู้ฝึกริเริ่มไปทำกันเอง  ของเราแม้แต่คนที่เขียนบทความก็ดูเหมือนจะมีน้อยมากการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ก็ทำน้อยมาก    เราจัดชั้นเรียนได้ใหญ่อย่างนี้   ล้วนแต่เป็นเพราะทุกท่านได้รับประโยชน์ด้วยตนเอง  รู้สึกว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าดี  จึงมากัน  วันนี้มาเข้าร่วมคนหนึ่ง  ครั้งต่อไปก็เป็นทั้งครอบครัว  ครั้งต่อไปอีกแม้แต่ญาติสนิทมิตรสหายก็พากันมาหมด  ล้วนมากขึ้นมาอย่างนี้  ทุกท่านรู้สึกได้เองว่าดี  ข้าพเจ้าว่า การพูดชักชวนนี้มีพลังมากที่สุด  ยังดีกว่าการโฆษณานั้น   แน่ละการเผยแพร่เป็นเรื่องที่จำเป็น  ที่ผ่านมามีน้อยคนที่ช่วยเราทำเรื่องนี้  แน่ละผู้ริเริ่มไปทำก็เป็นพวกเราผู้ฝึกเอง  สามารถทำกันได้

ศิษย์           ถ้าบ้านผมเลี้ยงสุนัข สามารถจะฝึกพลังอยู่ในบ้านได้หรือไม่

อาจารย์      สิ่งเหล่านี้   ง่ายที่จะได้หลิงชี่(พลังจิต)  เมื่อได้หลิงชี่(พลังจิต)มันก็จะทำร้ายคน  ที่ผ่านมาในพุทธศาสนามีคำพูดหนึ่ง  เรียกว่าไม่ฆ่า ไม่เลี้ยงดู   เรื่องนี้ก็อย่าได้เห็นเป็นเรื่องตายตัว  ก็คือเราสามารถจะจัดการให้ดีได้ก็พอแล้ว

ศิษย์           หลายวันมานี้ไม่ว่าผมเดินไปที่ไหน ก็รู้สึกได้ถึงเสียงดนตรีของฝ่าหลุนต้าฝ่า

อาจารย์      นั่นดีมาก  นี้เรียกว่าหูทิพย์  บนสวรรค์ก็กำลังฟังดนตรีฝึกพลังนี้

ศิษย์           ไม่อาจขีดเส้นใต้เน้นข้อความบนเอกสารได้หรือ

อาจารย์      มีบางอย่างที่ข้าพเจ้าเขียนหรือพูด  ทุกท่านอย่าได้ขีดเขียนบนนั้น  โดยเฉพาะคือ “จ้วนฝ่าหลุน” หนังสือเล่มนั้น  พวกเราหลายคนที่ตาทิพย์เปิดจะเห็น  และพูดว่ามีแสงสีทองอาบอยู่  แต่ละตัวอักษรคือฝ่าเซินของข้าพเจ้า   คนนั้นมีกรรมอยู่  ศิษย์ที่ไม่ได้บำเพ็ญถึงหลักธรรมนอกภพ ร่างกายก็ไม่บริสุทธิ์  เส้นที่ท่านขีดเขียนอยู่บนนั้นจะเป็นสีดำๆ  เพราะร่างกายท่านยังไม่บรรลุถึงการชำระล้างให้บริสุทธิ์ในระดับสูง  แต่ละเส้นที่ขีดคือรูปลักษณ์ของท่าน  และมีกรรมติดอยู่ด้วย

ศิษย์           ผมเป็นทหารคนหนึ่ง  บางครั้งออกไปทำงานนอกพื้นที่หนึ่งถึงสองสัปดาห์ไม่สามารถฝึกพลังได้                  ท่านจะนำฝ่าหลุนกลับคืนไปหรือไม่

อาจารย์     ไม่เลย   นั่นเป็นเพราะการงานของท่าน  การบำเพ็ญนี้  บำเพ็ญจึงจะเป็นอันดับแรกที่สำคัญที่สุด   บอกว่าท่านคนนี้คือผู้ที่บำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่า  มีข้อกำหนดที่เข้มงวดทางด้านซินซิ่งต่อท่าน  ในเวลาปกติพวกเราทำได้ดีมาก  เนื่องจากต้องออกไปทำงานข้างนอกชั่วระยะหนึ่ง  ฝ่าหลุนของท่าน พลังกงของท่าน ไม่เพียงไม่อ่อนลงแต่จะกลับยกระดับขึ้นอีก  เพราะอะไรหรือ  เพราะข้าพเจ้าพูดแล้วว่า สิ่งที่ตัดสินระดับสูงต่ำของพลังกงของท่านนั้นคือบำเพ็ญออกมา  หาใช่ฝึกออกมา  พวกเราฝึกโดยผ่านท่าเคลื่อนไหวมือนั้น  เป็นเพียงการเสริมสร้างสิ่งที่มีอยู่ให้แข็งแกร่ง  เสริมสร้างเขา   เมื่อก่อนพวกเราก็มีคนไม่น้อยที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่   ออกไปครั้งหนึ่งประมาณครึ่งเดือน  พอกลับมาดูพลังกงนี้ยังคงโตขึ้น  ดังที่ว่าไม่ว่าฉันเดินไปที่ไหน ล้วนแต่จะเป็นคนดี  ล้วนใช้ฝ่านี้กำหนดตัวเองเสมอ   หลังจากกลับมาก็ฝึกพลังชดเชยก็พอแล้ว 

ศิษย์           คนที่เคยเข้าร่วมสงครามจะสามารถบำเพ็ญได้หรือไม่

อาจารย์      ขออธิบายคำถามที่ถามนี้ว่า  ในอดีตพูดกันในศาสนาว่า  หลังจากฆ่าชีวิต โดยเฉพาะคือหลังจากที่ทำร้ายชีวิตคนจะบำเพ็ญได้ยากมาก   มีหลายคนที่เคยผ่านสมัยสงครามมา ยังมีบางคนที่เคยอยู่แนวหน้าของสนามรบ  จะปฏิบัติต่อปัญหานี้อย่างไรดี  ข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ที่เราพูดคือการละทิ้งจิตยึดติดของคนนั้น  ล้วนคือ ทุกสิ่งที่เกิดจากความปรารถนาของตนเองและเป็นความเห็นแก่ตัว และการฆ่าชีวิตที่เกิดจากจิตยึดติดในสังคมคนธรรมดาสามัญ   สถานการณ์อย่างเช่นสงครามนี้ล้วนจัดเป็นสิ่งที่นำมาจากการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์สวรรค์ และ การเปลี่ยนแปลงของสังคม   ท่านเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์สวรรค์ และสังคม  หากไม่มีบทบาทขององค์ประกอบนี้  ย่อมไม่อาจประกอบขึ้นเป็นการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์สวรรค์  ดังนั้นปัญหานี้ทุกท่านต้องแยกมันออกมา  นี่เป็นคนละเรื่องกัน

ศิษย์           ได้ยินว่าเทพนิยาย “ท่องแดนปัจฉิม”เป็นหนังสือของการบำเพ็ญเล่มหนึ่ง

อาจารย์      หาใช่หนังสือของการบำเพ็ญอะไร   มันเขียนถึงขั้นตอนหนึ่งที่น่าตื่นเต้นของการบำเพ็ญ  เรื่องนี้กล่าวถึงความทุกข์ยากแปดสิบเอ็ดด่าน ประสบกับทุกข์ภัยมากมาย มีรูปแบบของทุกข์ภัยต่างๆกัน เขาก็เป็นรูปแบบทุกข์ภัยชนิดนั้นของการบำเพ็ญ  ตลอดทางไปจนถึงจุดหมายจะขาดไปแม้แต่ด่านเดียวไม่ได้ ต้องชดเชยให้ครบ ก็คือความหมายนี้

ศิษย์           ผู้ชายเรียนขัดขา ต้องขัดขาซ้ายก่อน ขัดขาขวาทีหลังใช่หรือไม่

อาจารย์      การนั่งขัดขาข้างเดียวของผู้ชายนั้น  ขาซ้ายอยู่บนขาขวาอยู่ล่าง  ส่วนผู้หญิงขาขวาอยู่บนขาซ้ายอยู่ล่าง   การนั่งขัดสองขาก็คือจากด้านนอกนำขาที่อยู่ข้างล่างขัดขึ้นมาก็เป็นขัดเพชร  เพราะเหตุใดผู้ชายจึงเป็นขาซ้ายอยู่ข้างบน  ผู้หญิงขาขวาอยู่ข้างบนละ  เจียอิ้นก็เหมือนกัน  เพราะผู้ชายร่างกายจัดเป็นธาตุหยางบริสุทธิ์  ผู้หญิง ร่างกายจัดเป็นธาตุอินบริสุทธิ์ การฝึกพลังต้องเน้นการปรับสมดุล อิน-หยาง  ควบคุมหยางบริสุทธิ์หรืออินบริสุทธิ์ของท่านไว้  เสริมความเข้มแข็งของหยางหรืออินของท่านทำให้อินหยางสมดุล   หากว่าท่านเป็นหญิงจะเป็นการเสริมกำลังให้หยางของท่าน ควบคุมอินของท่านไว้ มันมีประโยชน์อย่างนี้

ศิษย์           ขณะฟังเทปการบรรยายฝ่าของท่าน  มีอยู่วันหนึ่งผมนอนอยู่บนเตียงไม่ได้ลืมตาได้ยินว่ามีคนคุยกันอยู่ข้างเตียงของผม  ทันใดรู้สึกว่าร่างกายหนักมากไม่สามารถขยับได้  ต่อมาขากรรไกรทั้งสองของผมถูกคนใช้กำลังบีบเข้าหากัน  เมื่อตื่นขึ้นพบว่า ปากผมซึ่งแต่เดิมปิดไม่ลงก็ปิดสนิทได้เองแล้ว  ต่อมาคนอื่นได้เห็นก็พูดว่า ขากรรไกรของผมต่ำลงแล้ว

อาจารย์      นี้คือฝ่าเซินหลายองค์กำลังปรับร่างกายให้ท่าน

ศิษย์           ทุกครั้งที่ผมฝึกอยู่หน้ากระจกเงา  เมื่อหลับตาอยู่มักจะเห็นโดยไม่ตั้งใจว่าเงาของตนเองเหมือนกับฟิล์มของรูปถ่ายขาวดำ

อาจารย์      เมื่อตาทิพย์เพิ่งเปิด จะเห็นของเป็นสีขาวดำ เห็นขาวเป็นดำ  เห็นดำเป็นขาว

ศิษย์           นั่งขัดสมาธิฝึกสมาธินั้นยากจะทนได้  แต่ก็ไม่อยากจะเอาขาลงมา  เพราะคิดถึงคำพูดของอาจารย์  นี่เป็นการเพิ่มอี้เนี่ยน (ความนึกคิด)เข้าไปไหม

อาจารย์      นั่นไม่ใช่การเพิ่มอี้เนี่ยน คิดถึงคำพูดของอาจารย์เพิ่มความอดทนให้เรา  ว่าต้องยืนหยัด  นั่นไม่นับว่าเป็นอี้เนี่ยนของท่าน  คือด้านของความก้าวหน้า

ศิษย์           ที่สนามฝึก ผู้ฝึกเก่าบอกว่าบนตัวผมมีของ

อาจารย์      อย่าฟังคนพูดเลอะเทอะ  ผู้ฝึกหลายคนหลังจากตาทิพย์เปิดแล้ว  ในใจตนก็เกิดมายาภาพ  โดยเฉพาะคือเขาแยกแยะได้ไม่ชัดเจนระหว่างตัวสิงร่างกับรูปลักษณ์ที่ติดตัวมาจากชาติก่อน แต่รูปลักษณ์นั้นก็ไม่แน่ว่าจะเป็นจิตหลักของท่าน  อาจเป็นรูปลักษณ์ของจิตรองก็ได้  ดังนั้นเขาจึงแยกแยะเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ชัดเจนแม้แต่น้อย   อย่าฟังผู้ฝึกบางคนที่พูดเลอะเทอะ  แยกแยะไม่ออกแล้วพูดเลอะเทอะก็คือการสร้างความวุ่นวายให้ฝ่า

ศิษย์           บางครั้งผมพบกับปัญหาที่ยากจะแก้ไข จึงมองภาพถ่ายของอาจารย์  ณ เวลานั้นภาพถ่ายของอาจารย์จะขยับได้  ฝ่าหลุนโดยรอบก็จะขยับได้   ทุกครั้ง ณ เวลานั้นผมจะน้ำตาร่วงเอง จิตใจก็จะดีขึ้น

อาจารย์      นี้เป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง  ศิษย์ที่บำเพ็ญจริงล้วนจะพบกับปรากฏการณ์ชนิดต่างๆ  ให้กำลังใจท่านก้าวหน้า

ศิษย์           เราสามารถใช้มาตรฐาน เจิน ซั่น เหยิ่น มาตรวจสอบหลักพลังชนิดใดชนิดหนึ่งว่าเป็นหลักธรรมที่ถูกต้องหรือชั่วร้ายได้หรือไม่

อาจารย์      นั่นแน่นอนละ   คุณสมบัติพิเศษของจักรวาลก็คือ เจิน ซั่น  เหยิ่น ไม่ใช่มีเฉพาะในพลังกงของเรา   นี่ก็คือคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล   เราบำเพ็ญตามเจิน ซั่น เหยิ่น  ถ้าไม่สอดคล้องกับคุณสมบัติพิเศษ เจิน ซั่น เหยิ่น  ไม่สอดคล้องกับ คุณสมบัติพิเศษของจักรวาล  นั่นล้วนเป็นสิ่งชั่วร้าย  

ศิษย์           มีแต่กลไกชี่   แต่ผมต้องทนทุกข์ยากบำเพ็ญนานแค่ไหนจึงจะสามารถก่อเกิดฝ่าหลุน

อาจารย์      นั่นต้องดูว่าตัวท่านจะสามารถทนทุกข์ได้หรือไม่  ตั้งใจแน่วแน่ไปบำเพ็ญไหม  หากท่านตั้งใจ  เด็ดเดี่ยวในการบำเพ็ญจริงๆ  และท่านทำได้จริงแล้ว  ทราบได้ถึงความผิดเมื่อก่อนของตนจริงๆ  และทำได้ดียิ่งขึ้น  ข้าพเจ้าว่า ไม่แน่ก็อาจจะให้ฝ่าหลุนกับท่าน  นั่นล้วนเป็นไปได้  ก็คือเรื่องเหล่านี้ไม่ตายตัว

ศิษย์           บนเส้นทางการบำเพ็ญเคยพบกับความยากลำบากมากมาย  คนอย่างนี้เมื่อผ่านความมุมานะจะสามารถบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าได้ไหม

อาจารย์      ฝ่าหลุนต้าฝ่า ขอเพียงท่านคิดจะบำเพ็ญ และมีวาสนา  ใครก็สามารถมาบำเพ็ญได้   เราที่นี่ขอเน้นว่า สำหรับผู้ที่ไม่คิดจะบำเพ็ญ  ท่านก็อย่าฝืนลากเขามา  พูดว่าคนเขาไม่มีความสนใจ  ไม่เชื่อท่านก็เอาแต่จะบอกว่าไปกันเถอะ เอาแต่จะลากคนมาเรียน ข้าพเจ้าว่า นี่ไม่ถูก

ศิษย์           ตัวสิงร่างอยู่กับคนมายี่สิบแปดปี  หลังจากศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่าจนวันนี้ยังไม่จากไปจะทำอย่างไร           จะบำเพ็ญได้มรรคผลถูกต้องหรือไม่

อาจารย์      ติดตามมานานถึงอย่างนี้   ท่านก็ไม่ไล่มันไป  จุดประสงค์ที่ท่านเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าคือต้องการจะไล่มัน   ก็คือเพื่อที่จะไล่มันไปจึงมาเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่า   นี้คือการเรียนโดยมีจิตแสวงหา  ฝ่านี้ถ่ายทอดออกมาให้คนได้บำเพ็ญอย่างแท้จริง   แม้แต่การปรับร่างกายให้ท่าน  ขจัดโรคให้ท่านล้วนมีจุดประสงค์เพื่อให้ท่านบำเพ็ญ   ท่านบอกว่าฉันมาเพื่อแสวงหาการรักษาโรค   เราย่อมไม่อาจทำเรื่องเหล่านี้ให้ได้   ข้าพเจ้านี้ไม่ได้พูดเรื่องชี่กงทั่วๆไป   แต่เป็นสิ่งของในระดับชั้นสูง  ลองคิดดูเองว่าจะปฏิบัติ  ต่อเรื่องนี้อย่างไร   มีบางเรื่องล้วนเป็นปัญหาของตัวเอง  อย่าว่าแต่ยี่สิบแปดปี สองพันแปดร้อยปี ก็เป็นเรื่องเพียงชั่วพริบตา

ศิษย์           เหตุใดในยามปกติสามารถอดทนในเรื่องของซินซิ่ง  แต่ในความฝันอดทนไม่ได้

อาจารย์      ก็คือท่านยังไม่หนักแน่น  การบำเพ็ญที่แท้จริงเป็นเรื่องที่เข้มงวดอย่างยิ่ง  ท่านว่าอยู่ในหมู่คนธรรมดาสามัญไม่ใส่ใจอย่างจริงจัง ก็คือทำตามชอบใจ  ดังนั้นในความฝันท่านจึงข้ามด่านไม่ได้

  ศิษย์         ริเริ่มสนใจช่วยเพื่อนร่วมงานและเพื่อนที่อยู่รอบตัว จะขัดกับที่อาจารย์พูดเรื่องการไร้ความหมายมั่นหรือไม่

อาจารย์      ยังคงเป็นคำพูดนั้น  ขณะนี้ให้ท่านปล่อยวางเรื่องที่มีความหมายมั่นทั้งหมด  ย่อมเป็นไปไม่ได้  ในขณะนี้ท่านพยายามไปรับรู้ด้วยตนเอง ทำด้วยตัวเอง ก็จะสามารถค่อยๆปล่อยวางเรื่องมากมายได้เอง ทีละเล็กทีละน้อย  การช่วยให้คนรอบตัวได้ฝ่าเป็นอีกกรณีหนึ่ง   

ศิษย์           จ้วนฝ่าหลุนหมายความว่าอะไร

อาจารย์    นั่นก็คือหมุนฝ่าหลุนใหญ่  ใหญ่ถึงระดับไหนละ  เขาก็ใหญ่เหลือประมาณ  ข้าพเจ้าจะเจิ้งฝ่า(ปรับหลักธรรมให้ถูกต้อง)ในร่างจักรวาลที่ใหญ่เพียงไรก็จะหมุนฝ่าหลุนที่ใหญ่เพียงนั้น

ศิษย์           ที่คนเขาพูดว่านัยน์ตาอินหยางมองเห็นผีและวิญญาณ นี่คือคนๆนี้ตาทิพย์เปิดแล้วใช่ไหม

อาจารย์      อย่างไรเสียข้าพเจ้าขอบอกทุกท่าน  ท่านเห็นสิ่งที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็น  ก็คือตาทิพย์ของท่านเปิดแล้ว  แน่ละ ช่องทางหลักของตาทิพย์นี้อยู่ที่นี่  ยังมีคนทั่วไปที่เห็นได้จากตำแหน่งโคนจมูกซึ่งมีค่อนข้างมาก แน่ละก็มีเฉพาะรายที่สามารถมองผ่านนัยน์ตาได้

ศิษย์           เวลาที่ผมนั่งสมาธิ บางครั้งร่างกายท่อนบนเอนไปข้างหลัง  สองขาลอยขึ้นมาแทบจะนั่งไม่อยู่

อาจารย์      นี้คือท่าน นั้นเหมือนกับที่ข้าพเจ้าพูดถึงเรื่องนั้นที่ชีพจรโล่ง  การเอนไปด้านหลังก็คือด้านหน้าของร่างกายท่านโล่งดีแล้ว  ด้านหลังไม่โล่ง จึงรู้สึกจมลง  ถ้าโล่งตลอดร่างกายก็จะยกขึ้น  จึงรู้สึกว่าจะลอยขึ้นมา

ศิษย์           การฝึกพลังต้องเดินแนวทางเดียว ปัญหานี้ผมไม่แจ่มแจ้ง  คนที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าสามารถคงไว้ซึ่งงานอดิเรกที่เคยมีอยู่ได้หรือไม่

อาจารย์      ขณะนี้ท่านสามารถทำเช่นนี้ได้  หากวันนี้บอกให้ท่านปล่อยวางตัณหาทั้งเจ็ด กามคุณทั้งหกลงทั้งหมด  ท่านจะทำได้หรือ ทำไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากบางอย่างก่อเกิดเป็นภาวะที่เป็นธรรมชาติในทัศนคติของท่านไปแล้ว   ดังนั้นท่านจึงรับรู้หรือสัมผัสสภาพจิตใจที่ไม่ดีนั้นของตนเองไม่ได้แล้ว  ก็คือว่าในขั้นตอนการบำเพ็ญของทุกท่าน  ท่านต้องกำหนดตนเองอย่างเข้มงวด  ค่อยๆทิ้งจิตยึดติดนานาชนิดไป  ก็จะค่อยๆยกระดับขึ้นมาได้    ในเวลานั้นแม้แต่ปัญหาที่ท่านถาม เมื่อคิดขึ้นมา ท่านก็จะละอายจนหน้าแดง

ศิษย์           ฝ่าหลุนต้าฝ่าเคยอยู่ในยุคสมัยต่างๆ ที่มนุษยชาติ เผชิญกับภัยพิบัติช่วยเหลือมนุษย์มาก่อนหรือไม่

อาจารย์      ข้าพเจ้าจะพูดหลักการอย่างนี้   จะว่ามนุษยชาติมาถึงยุคที่อันตรายก็ดีหรือมีภัยพิบัติก็ดี แม้ว่าเราไม่พูดถึงมัน  แต่เราก็มองเห็นแล้ว  ศีลธรรมของมนุษย์ไม่อาจจะเสื่อมทรามอย่างนี้ต่อไป  หากเสื่อมทรามต่อไปก็อันตรายอย่างแน่นอน  ดังนั้นเรื่องที่เราทำในวันนี้  ทุกท่านคิดดู  การถ่ายทอดพลังไปสู่ระดับชั้นสูง เดิมทีก็คือการช่วยคน   อะไรที่เรียกว่าการช่วยเหลือคนและทำเรื่องที่ดี  ข้าพเจ้าได้ทำเรื่องของข้าพเจ้าตามกำลังความสามารถ  เรื่องที่ท่านถามนั้นสูงเกินไป  ไม่อาจเปิดเผยอย่างชัดเจนให้ได้

ศิษย์           ความอดทนต่างจากคนดีที่ไม่ยุ่งอะไรกับใครอย่างไร 

อาจารย์    คนที่ไม่ยุ่งอะไรกับใคร จะเข้าใจอย่างไรดี   มาตรฐานที่ท่านขีดไว้ให้เขาคืออะไรละ  หากบอกว่าคนนี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน  ถ้าไปยุ่งเกี่ยวกับใคร ก็จะถูกโจมตี ที่มองเห็นก็ล้วนเป็นเช่นนี้  และทำอะไรไม่ได้    ไม่สู้กล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่าย  ในฐานะคนธรรมดาสามัญ  ย่อมไม่คิดแกว่งเท้าไปหาเสี้ยน  ข้าพเจ้าคิดว่าคนๆนี้ยังไม่แน่ว่าจะเหมือนที่ท่านพูดถึง คนที่ไม่ยุ่งอะไรกับใคร  พูดว่ามีความสามารถนี้แต่ไม่ไปดูแล  ข้าพเจ้าว่านั่นแหละคือคนที่ไม่ยุ่งอะไรกับใคร   ฉะนั้นความอดทนที่เราพูดนี้  คือการยับยั้งตัณหาและจิตยึดติดนานาชนิดของท่านเอง  ซึ่งจะนำความเดือดร้อนที่ไม่จำเป็นมาให้ท่านน้อยหน่อย  นี้ก็ไม่ใช่คนที่ไม่ยุ่งอะไรกับใครอะไรเลย   

ศิษย์           หากพบกับอันตรายถึงชีวิต

อาจารย์      ถ้าท่านเป็นผู้บำเพ็ญที่แท้จริง  แต่นี้ไปเส้นทางการบำเพ็ญที่จัดวางไว้ให้ท่านจะไม่จัดวางสิ่งเหล่านี้ให้ท่าน  ทุกเรื่องล้วนมีเหตุสัมพันธ์กัน  และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  เรื่องที่ไม่ได้จัดวางไว้ให้ท่าน ท่านก็จะไม่มีทางได้พบ   แล้วมันมีความเกี่ยวข้องอะไรกับการบำเพ็ญของท่านหรือ  ถ้ามันไม่เกี่ยวข้องกับท่าน   เราพยายามจะไม่จัดวางให้ทั้งสิ้น  ถ้าฆ่าท่านแล้วจริงๆ ท่านยังจะบำเพ็ญได้ไหม  แต่มีอยู่จุดหนึ่ง  คนธรรมดาสามัญที่ไม่อาจจะบำเพ็ญหรือคนที่ไม่มุมานะ คนที่เอ้อละเหยลอยชาย คนที่ไม่กำหนดตัวเองตามฝ่าอย่างเข้มงวด คนอย่างนี้ยังไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ  เช่นนั้นคนธรรมดาสามัญจะพบกับเรื่องอะไร เขายังคงต้องพบกับเรื่องอย่างนั้น  เพราะเขาคือคนธรรมดาสามัญ

ศิษย์           เวลาจิตใจไม่สงบจะฝึกพลังได้ไหม

อาจารย์      เวลาที่อารมณ์ไม่ดีไม่อาจฝึกพลัง  ท่านก็เข้าสู่สมาธิไม่ได้  ท่านโกรธกริ้วอยู่ตรงนั้น ท่านจะบรรลุถึงความอดทนในตัวเหยิ่น(ความอดทน)ของเจิน ซั่น เหยิ่นได้ไหม   ท่านก็ทำไม่ได้  เช่นนั้นท่านฝึกเพื่ออะไรละ  ใช่หรือไม่   ความอดทนนั้น ไม่ใช่ว่าเกิดความโกรธแล้วค่อยไปอดทน  ทว่าไม่โกรธเลยอย่างแท้จริง

ศิษย์           ความคิดของคนอื่นเข้ามาในสมองของผมทำให้ผมเข้าสู่ความสงบไม่ได้ กระทั่งนอนก็นอนไม่หลับ  ผมไม่รู้ว่านี้เป็นเรื่องดีหรือไม่

อาจารย์       มีกงเหนิงชนิดหนึ่ง  สามารถรู้ถึงความคิดของคนอื่น  และเรียกว่าทาซินทง(หยั่งรู้จิตใจคน) ที่ว่าท่านสามารถรู้ถึงความคิดของคนอื่น  เดิมเป็นเรื่องที่ดี  แต่พอควบคุมตัวเองได้ไม่ดี   ในสมองของคนปัจจุบัน เรื่องไม่ดีอะไรก็คิดกัน   กระทั่งคนที่ไม่รู้จักท่าน พอพบหน้าท่านก็คิดไม่ดีต่อท่าน   ดังนั้นท่านพยายามอย่าไปสนใจเรื่องเหล่านั้น  ก็เหมือนกับข้าพเจ้าที่นั่งอยู่ที่นี่ในวันนี้  ข้าพเจ้าพูดกับทุกท่านอย่างปากเปียกปากแฉะอย่างนี้   ในห้องคนที่คิดอะไรอยู่ก็มีทั้งนั้น  โดยมูลฐานข้าพเจ้าก็ไม่ไปรู้สึกสัมผัสความคิดของท่าน

ศิษย์           ตัวผมเวลาฝึกเสินทงเจียฉือฝ่า(ชุดนั่งสมาธิ)  บางครั้งมีของรสหวานร่วงเข้ามาในปากไม่รู้ว่าเป็นของอะไร

อาจารย์      นั่นคือสิ่งที่อยู่ในชีพจรไหลข้ามมาในเวลาที่วงจรสวรรค์โคจรอยู่  สิ่งที่ท่านรู้สึก ไม่ใช่เช่นนี้ทั้งหมด  สภาพการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ศิษย์           เมื่อปิดตาพอจะเข้าสู่ความสงบก็คล้ายกับฝันไป   ในสมองจะเกิดภาพหรือคนที่ค่อนข้างคงที่  มีทั้งยุคโบราณ ยุคปัจจุบัน  เป็นมายาภาพใช่หรือไม่

อาจารย์      นี้ก็ไม่ใช่มายาภาพ สาเหตุเกิดจากตาทิพย์ของท่าน

ศิษย์           จิตยึดติดของคนเป็นความเคยชินทางความคิดอย่างหนึ่งใช่หรือไม่

อาจารย์     กล่าวสำหรับคนธรรมดาสามัญทั่วไป มันก่อเกิดเป็นธรรมชาติไปแล้ว   ไม่ว่าอย่างไรพออ้าปากก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว  พอสมองขยับก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว  และทั้งหมดได้กลายเป็นธรรมชาติไปแล้ว  แต่มันไม่ใช่มีมาตั้งแต่ก่อนกำเนิด  นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังกำเนิด  เรื่องที่ไม่ดีชนิดนี้มีมากเหลือเกิน   ทำให้ตนเองกลายเป็นคนที่มีความคิดที่ซับซ้อน

ศิษย์           ตัวผมเมื่อก่อนฝึกหลักพลังอย่างอื่น  วันหนึ่งขณะที่อ่านนิตยสาร“วิทยาศาสตร์กับชี่กง” เห็นรูปถ่ายอาจารย์แล้วรู้สึกสบายใจ   แล้วทันใดก็มีของบางอย่างเข้าไปในสมองจากจุดไป่ฮุ่ย(จุดตรงกลางกระหม่อม) และแล้วผมก็เริ่มศึกษาฝ่าหลุนต้าฝ่า

อาจารย์      ก็คือเกินจี(รากฐาน)ของท่านดีมาก  มีวาสนาได้ต้าฝ่า  พอท่านเกิดความรู้สึกที่ดี  คิดจะศึกษาดังนั้นจึงช่วยท่าน ฝ่าหลุนของข้าพเจ้ามีอยู่ทุกที่

ศิษย์           ทำไมสีน้ำเงินจึงเป็นสีพื้นของหนังสือกับเทปคาสเซทของฝ่าหลุนต้าฝ่า

อาจารย์      เรื่องนี้หาได้มีมูลเหตุพิเศษแต่อย่างใด   เนื่องจากเมื่อใช้นัยน์ตาของคนธรรมดาสามัญมองดูจักรวาล   พบว่าท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม   ดังนั้นเราจึงใช้ในความหมายนี้  เดิมทีฝ่าหลุนต้าฝ่าคือการฝึกตามคุณสมบัติพิเศษของจักรวาล  ฝึกตามการผันแปรของจักรวาล  เป็นสิ่งที่ใหญ่มากอย่างนี้ เราจึงแสดงสีของจักรวาลนี้ออกมา เป็นความหมายอย่างนี้  แต่ก็ไม่ตายตัว  เพราะสีนี้เมื่อใช้ตาคนมองก็เป็นอย่างนี้  มิตินี้เป็นอย่างนี้  อีกมิติหนึ่งหาใช่เช่นนี้   และมันยังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสีอื่น

ศิษย์           ในการฝึกเสินทงเจียฉือฝ่า หลังจากเจียอิ้ง    บางครั้งจะทำท่ารำมือตอนเริ่มฝึกพลังซ้ำอีกหรือทำท่าเคลื่อนไหวอย่างอื่น

อาจารย์      นี้ไม่ถูกต้องเลย ให้ท่านรำมือซ้ำอีกครั้ง  ความหมายคือให้ท่านลองดู  นี่ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม  แต่แล้วในทันทีก็กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม   ทุกท่านพึงจำเอาไว้  ท่านต้องบำเพ็ญอย่างมีสติแจ่มแจ้ง  คำพูดนี้ข้าพเจ้าเน้นมากแล้ว   ข้าพเจ้าส่งพลังกงที่แรงกล้าเข้าไปในสมองของท่าน  แต่บางคนเขานั้นใช้ไม่ได้  เขาปล่อยวางจิตยินดีเล็กน้อยนั้นไม่ได้   พอมีกลไกอะไรนำพาเขาฝึก  โอ้ จิตยินดีก็ขึ้นมาทันที  ดีใจขึ้นมาแล้ว  เขาก็ฝึกตามไป   นั่นท่านฝึกอย่างมีสติแจ่มแจ้งหรือ  คือความคิดหลักของท่านที่ต้องการฝึกหรือ  ท่านฝึกให้กับใครกัน  ใครฝึกพลัง ใครได้พลัง  เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากเลย

ศิษย์           อาจารย์เน้นให้ฝึกพลังเป็นกลุ่ม ใช่หรือไม่ว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนของปีศาจร้าย

อาจารย์      ไม่ใช่  ท่านมีฝ่าเซินของข้าพเจ้า  มีฝ่าหลุนดูแลท่านอยู่   เป็นความหมายนี้  คือ เราฝึกพลังเป็นกลุ่มเพื่อทุกท่านสามารถปรึกษากัน  หารือกัน เมื่อพบปัญหาอะไร  สามารถจะยกระดับได้ดียิ่งขึ้นก็คือเพื่อจุดประสงค์นี้

ศิษย์           ปกติเวลาที่ผมฝึกพลังอยู่ที่บ้าน ซินซิ่งค่อนข้างสงบ   และมีสื่อสัญญาณไม่มากรบกวนใจผม  หนึ่งปีมานี้ เฝ้ารอคอยจะได้พบท่าน   อาจารย์ผมคิดว่าผมมีตัวสิงร่างชั้นต่ำอยู่ใช่หรือไม่

อาจารย์      คนที่ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า ตัวสิงร่างชั้นต่ำนั้นจะมาได้หรือ    เป็นเพราะเกิดจากวาสนาชาติก่อน  ถ้าท่านไม่ศึกษาต้าฝ่า  คิดแต่จะพบข้าพเจ้า  นี้ก็เป็นจิตยึดติด  ดังนั้นจึงลากยาวมาปีกว่ายังรับรู้ไม่ได้อีก

ศิษย์           บางครั้งขณะนอนอยู่บนเตียง ทันใดนั้นทั้งตัวรู้สึกชาไปหมดคล้ายมีคนกดมือกดขาไว้ขยับไม่ได้

อาจารย์      พวกเราหลายคน  ที่ฝึกพลังอาจเกิดภาวะที่คล้ายกับมือขยับไม่ได้  ร่างกายขยับไม่ได้ ปรากฏการณ์ชนิดนี้  ก็เป็นปรากฏการณ์ที่ดี และซับซ้อน คนที่ฝึกพลังจะเกิดสภาวะเช่นนี้ มีความสามารถพิเศษชนิดหนึ่งเรียกว่าความสามารถสะกด  ซึ่งสามารถทำให้ตนเองรู้สึกสัมผัสได้  ดังนั้นพวกเราบางคนจึงรู้สึกว่ามือนี้ขยับไม่ได้  นี่เป็นปรากฏการณ์ชนิดหนึ่ง  ยังมีอีกปรากฏการณ์หนึ่ง คือ จิตหลักออกจากร่างของท่านไปแล้ว   ยังมี ขณะที่อาจารย์ปรับร่างกายให้ท่าน ก็จะสะกดท่านไว้

ศิษย์           เพื่อเข้าสู่ความสงบ จึงท่องชื่ออาจารย์

อาจารย์       ข้าพเจ้าได้พูดถึงสาเหตุที่สงบใจไม่ได้   ท่องชื่อ  จะดีขึ้นได้บ้าง  และเพียงแต่เกิดผลของหนึ่งความคิดแทนหมื่นความคิด   จะบริสุทธิ์สงบได้อย่างแท้จริงนั้น ต้องทิ้งจิตยึดติดของคนจึงสามารถจะบรรลุถึงได้

ศิษย์           หลักการของ เจิน ซั่น เหยิ่น ที่ท่านอาจารย์พูด กับ หลักการใน“คัมภีร์ไบเบิ้ล”ของศาสนาโรมันคาทอลิกเรา ต่างกันที่วิธีการแต่ได้ผลเหมือนกัน  นี้คือความรู้สึกของผม  ดังนั้นด้านหนึ่งผมศรัทธาในพระเยซูคริสต์ อีกด้านหนึ่งฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า

อาจารย์   อนุญาตให้ท่านมีขั้นตอนหนึ่งในการรับรู้ต้าฝ่า  ต่อไปเมื่อท่านเข้าใจแล้วค่อยว่ากันใหม่

ศิษย์           ในระหว่างที่ฝึกพลัง ถ้าเห็นอะไรจะทำร้ายตนเอง จะร้องเรียกชื่ออาจารย์ได้ไหม
อาจารย์      ใช่  ให้ทำอย่างนี้  ระหว่างที่ฝึกพลังหากพบอะไรที่น่ากลัวท่านสามารถร้องเรียกชื่อของข้าพเจ้า  แต่ถึงแม้ท่านไม่ร้องเรียกมันก็ทำร้ายท่านไม่ได้   การร้องเรียกชื่อ โดยตัวมันเองก็เป็นปัญหาว่าท่านเชื่อต้าฝ่ากับอาจารย์หรือไม่  ที่จริงตลอดเวลาฝ่าเซินก็เฝ้าดูอยู่นะ

ศิษย์           ครั้งนี้หลังจากผมได้เรียนฝ่าหลุนต้าฝ่าในกว่างโจวแล้ว จะกลับไปรวบรวมคนที่บ้านเกิดศึกษาร่วมกันได้ไหม

อาจารย์      ได้แน่นอน  ท่านสามารถรวบรวมคนที่บ้านเกิดศึกษา  ถ้าคนที่เรียนมีมาก  ยึดกุมได้ดีแล้วท่านยังสามารถจัดตั้งเป็นศูนย์ฝึกได้    การเผยแพร่ฝ่าก็คือการช่วยคน

บทส่งท้าย

ฝ่านี้ จนถึงวันนี้เราก็บรรยายจบทั้งหมดแล้ว   มากกว่านี้จะบรรยายต่อได้หรือไม่  หากแบ่งออกบรรยายก็ยังทำได้   ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่นี่บรรยายปีหนึ่งก็ทำได้  แต่จะไม่มีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญต่อไปของพวกเรา  มีปัญหาหลายอย่างนั้นต้องอาศัยทุกท่านรับรู้เอาเอง   ปัญหารูปธรรมข้าพเจ้าก็ไม่อาจบอกพวกท่านได้   ถ้าข้าพเจ้าบอกปัญหารูปธรรมให้ท่านแล้ว  ท่านจะไปรับรู้อะไรได้  ท่านจะไปทำอะไรได้  โอกาสและสภาพแวดล้อมที่ท่านจะบำเพ็ญ ก็ไม่มีแล้ว  ไม่มีเงื่อนไขแล้ว  ดังนั้นเมื่อทุกท่านประสบกับปัญหารูปธรรม ต้องปฏิบัติตามฝ่านี้  จะทำให้ดีได้อย่างไร  สิ่งที่ควรบอกกับทุกท่าน  ก็ได้พูดหมดแล้วโดยพื้นฐาน   และยังสามารถเปรียบเทียบกับเทปบันทึกเสียงการบรรยายของข้าพเจ้าในชั้นเรียนอื่น   สิบคาบของการบรรยายนี้  ข้าพเจ้าได้บอกสิ่งต่างๆมากมายให้กับทุกท่านแล้ว  ในชั้นเรียนนี้ข้าพเจ้าได้รับผิดชอบต่อทุกท่านหรือไม่  ทุกท่านย่อมตัดสินได้เอง  ปัญหาเหล่านี้ข้าพเจ้าจะไม่พูดแล้ว   ชั้นเรียนของเรานั้นเมื่อดูโดยรวมแล้ว ข้าพเจ้า คิดว่าดีมาก  มีต้นมีปลาย และสุดท้ายเราก็จบลงอย่างสำเร็จสมบูรณ์แล้ว

  ทุกท่านที่มาไกลนับพันลี้จากที่ต่างๆก็มีสามพันกว่าคน  ที่ไกลที่สุดคือเฮยหลงเจียง  ซินเจียง สี่ห้าพันกิโลเมตร  แปดพันกว่ากิโลเมตร เดินทางมากัน   เป็นเส้นทางไกลมาก  ทุกท่านลำบากกันมากมายกระทั่งมีบางคนไม่มีค่าใช้จ่ายพอ  แต่ละวันต้องกินบะหมี่สำเร็จรูป   และขนมปังกรอบ ล้วนมีทั้งนั้น  เพื่ออะไรหรือ  ทุกท่านมาที่นี่  ก็เพื่อศึกษาฝ่านี้  ได้ฝ่านี้  ใช่ไหม   ดังนั้นทุกท่านก็รู้ถึงความล้ำค่าของฝ่านี้  แน่ละในสิบคาบของการบรรยาย   ข้าพเจ้าได้พยายามทำตามข้อเรียกร้องของทุกท่าน พยายามให้ความสะดวกแก่ทุกท่าน  ข้าพเจ้าก็พยายามบรรยายให้มากสักหน่อย  พูดให้กระจ่าง  ให้ทุกท่านสามารถเข้าใจ การบำเพ็ญจากนี้ไปมีฝ่าเป็นที่พึ่ง  และพูดได้ว่า  ในการบรรยายสิบคาบนี้ ทุกท่านเฝ้าดูข้าพเจ้า  ข้าพเจ้านำพาทุกท่านไปสู่ระดับชั้นสูงก็ดี  หรือชำระร่างกายให้ทุกท่านก็ดี   จุดประสงค์คืออะไรละ  คือให้ทุกท่านสามารถจะบำเพ็ญได้จากนี้ไป   หรือพูดได้ว่า  การบรรยายสิบคาบได้ผ่านไปแล้ว ต่อไปก็จะดูทุกท่านจะสามารถบำเพ็ญหรือไม่  ท่านจะไหวหรือไม่  ทั้งหมดนั้นก็ต้องดูตัวท่าน  แต่ข้าพเจ้าพูดแล้วว่า  ในเมื่อได้นั่งอยู่ที่นี่แล้ว  ทุกท่านล้วนมีวาสนา  ข้าพเจ้าคิดว่า  เมื่อกลับไปให้ท่านลองพยายามดูสักครั้ง  ดูว่าจะเป็นอย่างไร  คนที่สามารถยืนหยัดต่อไปได้  ท่านก็ยืนหยัดต่อไป  บำเพ็ญต่อไป  ทุ่มเทมากเท่าไรจะได้มากเท่านั้น เรื่องนี้รับประกันได้

เรามีประสบการณ์มากมาย  ผู้ฝึกมากมายมีความเข้าใจและซาบซึ้งด้วยตัวเองจากการบำเพ็ญของตัวเองมากมาย  ข้าพเจ้าคิดว่าก็เพียงพอที่จะให้ประสบการณ์และบทเรียนต่างๆนานาแก่พวกเรา  ขอพูดสรุปด้วยคำพูดคำหนึ่ง ก็คือ วันนี้พวกเรานั่งอยู่ที่นี่ ไม่อาจจะให้เวลาแปดวัน สิบวันนี้หรือเวลาที่มากกว่าต้องสูญเปล่า   คนจะได้สิ่งของที่แท้อย่างแท้จริงสักนิดนั้นยากมาก  พอได้รับแล้วหากไม่ทะนุถนอมเขา  ในอนาคตสำนึกเสียใจภายหลังก็ไม่ทันการแล้ว   คนจีนมีคำพูดหนึ่งเรียกว่า “ผ่านหมู่บ้านนี้ไป อาจไม่มีที่พักแรมนี้” ใช่หรือไม่  ก็คือพวกเราได้ผ่านการฟังการบรรยาย ทุกท่านคงจะรู้สึกได้แล้วว่า   ไม่มีพระสงฆ์รูปใดหรือผู้บำเพ็ญเต๋าคนไหนที่บรรยายอย่างนี้เหมือนกับข้าพเจ้า   ในประเทศของเรา  ข้าพเจ้าว่าผู้ที่นำพาคนไปสู่ระดับชั้นสูงอย่างแท้จริง   บรรยายฝ่าระดับชั้นสูงเหล่านี้  ก็มีแต่ข้าพเจ้าคนเดียวที่กำลังทำอยู่   ทั่วทั้งโลกก็คือข้าพเจ้าที่กำลังทำอยู่     แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม   จุดประสงค์ก็คือสามารถทำให้ทุกท่านที่อยู่ในประวัติศาสตร์ยุคนี้  ที่มีใจคนอย่างนี้ ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน  สามารถได้ฝ่า   สามารถได้รับการยกระดับอย่างแท้จริง   สามารถได้รับการบำเพ็ญที่แท้จริง  แม้ท่านจะไม่บำเพ็ญ  เมื่อท่านออกจากชั้นเรียนไป  ท่านก็สามารถจะเป็นคนดีคนหนึ่งได้  ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้

ผู้ฝึกหลายคนพูดกับข้าพเจ้าว่า  ท่านอาจารย์หลังจากผมได้ฟังการบรรยายหลายคาบของท่าน  โลกทัศน์ของผมเองล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว   เป็นเช่นนี้  ผู้คนในปัจจุบันอยู่ในท่ามกลางกระแสใหญ่ เห็นสิ่งผิดเป็นสิ่งถูก  เห็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นดี  เห็นความเลวเป็นความดีงาม  จนกลายเป็นทัศนคติไปหมดแล้ว เมื่อผู้คนล้วนยึดติด และแสวงหาอยู่ในท่ามกลางกระแสใหญ่อย่างนี้  ในทันทีที่ข้าพเจ้าได้บรรยายสิ่งที่แตกต่างจากการรับรู้ทางทัศนคติของท่านโดยสิ้นเชิง  มีผู้ฝึกใหม่หลายคน  เมื่อได้ฟังเขาก็รู้ว่าดี  แต่ไม่แน่ว่าจะเข้าใจได้ในทันที  ขอพูดอย่างชัดเจนว่า  ต่อไปท่านยังต้องไปศึกษา  ไปฝึก  ไปฟัง เพิ่มเติมให้แข็งขันอย่างต่อเนื่อง  ท่านจึงจะสามารถค่อยๆเข้าใจ  รับรู้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น   ดังนั้นข้าพเจ้าก็หวังว่า หลังจากฟังการบรรยายนี้จบแล้วทุกท่านอย่าได้ลืมหมดทุกอย่าง   ต้องกลับไปอ่านหนังสือให้มาก  ฟังเทปบันทึกเสียงให้มาก จึงจะทำให้ท่านได้รับการยกระดับเรื่อยไป

ไม่คิดจะพูดให้มากความแล้ว  สุดท้ายขอมอบคำพูดหนึ่งให้กับทุกท่าน  ต่อไปในระหว่างขั้นตอนของการบำเพ็ญของท่าน  หากท่านรู้สึกว่ายากจะทนได้  หากท่านรู้สึกว่าไม่ไหว  ท่านต้องคิดถึงคำพูดนี้ของข้าพเจ้า  คำพูดอะไรหรือ  ก็คือ  สำเร็จได้ยากก็สำเร็จได้   ทนได้ยากก็ทนได้  หวังว่าทุกท่านจะสามารถหยวนหมั่นสำเร็จในการบำเพ็ญต้าฝ่า